ความคิดเห็นที่ 1 ที่จริงต้องบอกว่าลิงกับมนุษย์มีบรรพบุรุษร่วมกันครับ จากคุณ : Ice-man - [ 21 มิ.ย. 51 02:34:18 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ตามความเห็นหนึ่งครับ ผมยังไม่เคยได้ยินใครบอกว่าคนมาจากลิงเลย จากคุณ : =. ลางเนื้อเจือลางยา .= - [ 21 มิ.ย. 51 03:45:11 ]

ความคิดเห็นที่ 3 http://evidence-evolution-theory.pantown.com จากคุณ : Practical x 2 - [ 21 มิ.ย. 51 04:44:24 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ตามท่านที่ 1 ว่าไว้ครับ ผู้คนยังเข้าใจตามเจ้าของกระทู้อีกมากมาย ซึ่ง ความหมายมันต่างกันอย่างมากระหว่าง มีบรรพบุรุษร่วมกัน กับ วิวัฒนาการมาจาก เนี่ย - -' จากคุณ : nutxnut - [ 21 มิ.ย. 51 06:45:08 ]

ความคิดเห็นที่ 5 คนมี Common Ancestor ร่วมกับพวก Primate จากคุณ : Nexus - [ 21 มิ.ย. 51 07:00:58 ]

ความคิดเห็นที่ 6 DeJaVU จากคุณ : มอสคุงอะครับ - [ 21 มิ.ย. 51 07:12:28 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ไม่ได้มีแค่โครงสร้างร่างกายคล้ายกันเท่านั้น ระดับเบสใน DNA ยังใกล้เคียงกันด้วย จากคุณ : Medengin@ - [ 21 มิ.ย. 51 08:02:15 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ผมว่าลิงมาจากคน จากคุณ : ปิยวุฒิ (cyberjuf) - [ 21 มิ.ย. 51 09:26:36 ]

ความคิดเห็นที่ 9 มาจากผู้ออกแบบรายเดียวกันก็ได้นิ จากคุณ : ksk - [ 21 มิ.ย. 51 09:26:52 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ผมคิดว่าความงดงามของวิทยาศาสตร์คือการยอมรับที่จะถูกหักล้างได้ทุกเมื่อ ถ้าหาข้อพิสูจน์อย่างมีเหตุผลมาหักล้างกันได้ วิทยาศาสตร์เป็นศาสตร์ที่พร้อมจะฉีกตำราตัวเองได้ทุกเมื่อ ไม่ยึดติดว่าสิ่งที่สรุปออกมาเป็นสัจจะนิรันด์ ตลอดไป ตลอดกาล ไม่เคยบอกว่าองค์ความรู้ของวิทยาศาสตร์มีเพียงหนึ่งเดียว ค้นหากันไปเรื่อยๆ ให้มนุษย์ช่วยกันต่อจิ๊กซอว์ชิ้นใหญ่ไปด้วยกัน ผิดกับอีกหลายๆทาง ที่สรุปทุกอย่างจบสิ้น ห้ามเถียง ห้ามค้าน ห้ามวิจารณ ์  เป็นที่สิ้นสุด จากผู้ที่ประเสริฐกว่า ฉลาดกว่า ดีกว่า หรือสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า ผมคิดว่าวิทยาศาสตร์ มีความเป็นมนุษย์สูง เรื่อง จขกท. ลิงและคน มีบรรพบุรุษร่วมกัน เปรียบเหมือนเป็นพี่น้อง ที่มีพ่อแม่ปู่ย่าตายายร่วมกันมาก่อน แต่พี่ก็ไม่ใช่บรรพบุรุษของน้อง จากคุณ : Sial - [ 21 มิ.ย. 51 09:28:05 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ความคิดเห็นที่ 9 มาจากผู้ออกแบบรายเดียวกันก็ได้นิ Occam's Razor http://en.wikipedia.org/wiki/Occam%27s_Razor "entia non sunt multiplicanda praeter necessitatem" "entities must not be multiplied beyond necessity" จากคุณ : Nexus - [ 21 มิ.ย. 51 09:52:20 ]

ความคิดเห็นที่ 12 จากคุณ : ksk - [ 21 มิ.ย. 51 10:21:22 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เคยอ่านเจอเหมือน  คห 10 น่ะค่ะ จากคุณ : *คุณวรมัน* - [ 21 มิ.ย. 51 10:22:42 ]

ความคิดเห็นที่ 14 วิทยาศาสตร์ คืออะไร เขามีการศึกษาโครงสร้าง รายละเอียดด้านต่างๆ จนหาเหตุผลได้มากพอที่จะมารองรับทฤษฏีดังกล่าว เรามีสิทธ์จะคิดค้าน แต่นั้นก็ต้องมีเหตุผลข้อเท็จจริงรองรับ (ซึ่งผมและอีกหลายคนในนี้ ก็ไม่ใช่นักทดลองชีวะวิทยา) การเลือกที่จะ คิด เลือกที่เชื่อ ตามความพอใจของตัวเอง คงไม่ใช่การตัดสินใจที่ดีซักเท่าไหร่ จากคุณ : นายไวรัส - [ 21 มิ.ย. 51 10:27:14 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ลิงไม่ใช่บรรพบุรุษของมนุษย์ แต่เป็นเหมือน "ญาติห่างๆ" เนื่องจากลิงและมนุษย์มีบรรพบุรุษเดียวกัน บรรพบุรุษของลิงกับมนุษย์ ได้วิวัฒนาการแบ่งเป็นสองสาย สายหนึ่งวิวัฒนาการเป็นมนุษย์ อีกสายวิวัฒนาการเป็นลิง จากการตรวจสอบDNA พบว่าลิงซิมเปนซีมีรูปแบบDNAใกล้เคียงกับมนุษย์มากกว่าที่ ม้าลายมีDNAใกล้เคียงกับม้าเสียอีก จากคุณ : ซามาโนสุเกะ - [ 21 มิ.ย. 51 11:14:14 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ข้อความที่ยกมามัน Misleading ได้ครับ ผมไม่ทราบว่าที่ยกมานั้นตั้งใจจะใช้กับกรณีนี้ หรือเข้าใจผิดกันแน่ ในที่นี้เราอธิบายเรื่องเดียวกันคือเรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างคนกับลิง การมี "ผู้ออกแบบ" มันเป็นสิ่งที่ "เกินจำเป็น" ที่สามารถตัดออกได้โดย Occam's Razor จากคุณ : Nexus - [ 21 มิ.ย. 51 11:23:45 ]

ความคิดเห็นที่ 17 จริงมนุษย์ต่างดาว  จับเรามาจากดาวอื่นมาปล่อยไว้ โดยรวมเอาสิ่งมีชีวิตมาจากดาวอื่นดาวละชนิด  เอามารวมไว้ดาวโลก  เพื่อการศึกษาวิวัฒนาการ ขำๆ นะ แก้ไขเมื่อ 21 มิ.ย. 51 11:40:04 จากคุณ : แวะดู - [ 21 มิ.ย. 51 11:25:30 ]

ความคิดเห็นที่ 18 มีบรรพบุรุษร่วมกัน แต่ไม่รู้ว่าในอดีตกาลนี่เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นทำให้สิ่งมีชีวิตคล้ายลิงสายมนุษย์พัฒนาอย่างก้าวกระโดษมาเป็นมนุษย์ได้ แต่ทั้งนี้สำหรับผมมันก็แค่คำปลอบใจตัวเองว่าคนเราไม่ได้วิวัฒนาการมาจากลิงตรงๆเท่านั้นเอง เพราะจะว่ากันตรงๆก็คือทั้งลิงปัจจุบันและมนุษย์ปัจจุบันมีบรรพบุรุษเป็นลิงโบราญเหมือนกันอยู่ดี จากคุณ : VeryBadman...โดนแล้วโดนอีก - [ 21 มิ.ย. 51 11:49:51 A:67.160.226.25 X: TicketID:178545 ]

ความคิดเห็นที่ 19 การมี "ผู้ออกแบบ" มันเป็นสิ่งที่ "เกินจำเป็น" ที่สามารถตัดออกได้โดย Occam's Razor เหตุผลเป็นอย่างไรครับ หรือเป็นเพียงความเห็นส่วนบุคคล จากคุณ : ksk - [ 21 มิ.ย. 51 11:50:20 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ^ ^ พิมพ์ผิด บัตรผ่านแก้ไม่ได้ซะด้วย กระโดด ไม่ใช่กระโดษ พอดีตอนพิมพ์ใจลอยคิดอะไรอยู่ด้วย จากคุณ : VeryBadman...โดนแล้วโดนอีก - [ 21 มิ.ย. 51 11:50:54 A:67.160.226.25 X: TicketID:178545 ]

ความคิดเห็นที่ 21 แล้วบรรพบุรุษเป็นตัวอะไร ก็ลิงไม่ใช่เหรอ ก็แสดงว่ามนุษย์มีวิวัฒนาการมาจากลิง จากคุณ : muffinmonet - [ 21 มิ.ย. 51 12:30:35 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ถ้าอธิบายด้วยการสร้างเราต้องมาอธิบายต่อว่า ใครสร้างคนสร้าง? ใครสร้างคนสร้างของคนสร้าง? ใครสร้างคนสร้างของคนสร้างคนสร้าง? และต้องอธิบายต่อออกไปด้วยว่าสร้างมายังไง สร้างมาเมื่อไหร่ พร้อมด้วยหลักฐานสนับสนุน จากคุณ : Nexus - [ 21 มิ.ย. 51 14:13:21 ]

ความคิดเห็นที่ 23 บรรพบุรุษของคนก็ไม่ใช่ลิง แต่มีบรรพบุรุษเมื่อนานมากๆ มาแล้ว แต่วิวัฒนาการแยกกันทำให้ลูกหลานรุ่นหลังเริ่มมีความแตกต่างกัน จากคุณ : มอนตะทาโร่ - [ 21 มิ.ย. 51 15:09:19 ]

ความคิดเห็นที่ 24 อ่านมาจนจบก็ยัง งง อยู่ดี สรุป ลิงกับคนมีบรรพบุรุษเดียวกันหรือคับ แล้วบรรพบุรุษที่ว่านั่นคืออะไรคับ ใช่ลิงยุคเก่าแก่รึป่าว ถ้าใช่ก็แสดงว่าคนมีวิวัฒนาการมาจากลิงสิ จากคุณ : มวยมีค่าย - [ 21 มิ.ย. 51 15:55:33 ]

ความคิดเห็นที่ 25 อีกรูป จากคุณ : มวยมีค่าย - [ 21 มิ.ย. 51 15:55:49 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ใครสร้างคนสร้าง? ใครสร้างคนสร้างของคนสร้าง? ใครสร้างคนสร้างของคนสร้างคนสร้าง? และต้องอธิบายต่อออกไปด้วยว่าสร้างมายังไง ทำไม ต้องไปกลัวคำถามแบบนั้นล่ะครับ Compiler ตัวแรกก็ไม่เห็นต้องเกิดจากการ compile เลยนี่ครับ ทำไมผู้สร้างจึงต้องถูกสร้างล่ะครับ จากคุณ : ksk - [ 21 มิ.ย. 51 16:02:53 ]

ความคิดเห็นที่ 27 แล้วใึีครสร้างล่ะครับ ? อย่าบอกว่าพระเจ้านะครับ แล้วตอนนี้ เราสร้างได้ไหมล่ะครับ ? หรือว่าเราตอนนี้สร้างไม่ได้ งานโคลนนิ่ง ตัดต่้อพันธุกรรมเห็นกันให้พรึ่บ อย่างนี้ เราจะเรียกตัวเองว่า " พระเจ้า " ได้ไหม? จากคุณ : กระบี่เก้าเดียวดาย - [ 21 มิ.ย. 51 17:00:18 ]

ความคิดเห็นที่ 28 สมมติฐาน หากเราไป " ดาวดวงหนึ่ง " และดัดแปลงพันธุกรรมของ " สิ่งมีชีวิตหนึ่งในบริเวณนั้น " ให้กลายเป็นสัตว์ที่มีโอกาสวิวัฒนาการตัวเองถึงขั้นฉลาด แล้วเราก็ปกครองพวกนั้นในเวลาหนึ่ง ก่อนจะกลับมายัง " โลก " เราจะถูกเรียกว่า " พระเจ้า " ไหม? จากคุณ : กระบี่เก้าเดียวดาย - [ 21 มิ.ย. 51 17:04:42 ]

ความคิดเห็นที่ 29 งานเข้าแร้ว :D จากคุณ : เหวเห้ว - [ 21 มิ.ย. 51 17:15:05 ]

ความคิดเห็นที่ 30 คุณกระบี่ครับ Modify กับ Build กับ Create นี่ต่างกันอยู่นะครับ สิ่งมีชีวิตต่างๆในโลกนี้ ภาษาอังกฤษเรียกว่า Creature แปลว่าสิ่งทรงสร้าง(ของพระเจ้า)นะครับ ส่วนการตัดต่อพันธุกรรม เป็นการ Modify สิ่งที่มีอยู่แล้วครับ ท่าทางอยากเป็นพระเจ้านะครับ จากคุณ : ksk - [ 21 มิ.ย. 51 17:21:12 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เริ่มอีกละ โอ๊ย เบื่อ จากคุณ : Cryptomnesia - [ 21 มิ.ย. 51 17:23:48 ]

ความคิดเห็นที่ 32 อย่างที่ข้างบนบอกไว้ คนกับลิงมีบรรพบุรุษร่วมกัน ส่วนหนึ่งที่ทำให้เข้าใจผิดกันบ่อยเพราะ ภาษา ครับ ทฤษฎีวิวัฒนาการ ในภาษาอังกฤษ มักใช้คำว่า "great ape" "old world  monkey" และ "new world monkey" พอแปลออกมาเป็นภาษาไทยก็ไม่พ้น ลิงโลกเก่า ลิงโลกใหม่ ซึ่งมันต่างจากลิงค่างบ่างชะนีในปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง ทำให้คนที่ไม่ยอมรับหรือไม่เข้าใจ คิดว่าคนมาจากอุรังอุตัง กอริลล่า หรือชิมแปนซี ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด จากคุณ : Medengin@ - [ 21 มิ.ย. 51 17:24:50 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ไม่ได้กลัวคำถาม เพียงแต่เมื่อมันใช้โมเดลได้สองแบบที่ตอบคำถามเดียวกันได้เหมือนกัน ตามหลัก Occam's Razor ก็ย่อมเลือกโมเดลที่ง่ายกว่า ..... คำถามที่ผมถามนั้นคนเสนอโมเดลพระเจ้าก็ตอบสิครับ โยนมาทางนี้ทำไม ผมไม่เชื่อว่ามันจริงนี่นา คนที่เชื่อก็ต้องหาหลักฐานมาสนับสนุนความเชื่อตัวเองสิครับ Compiler ตัวแรกก็ไม่เห็นต้องเกิดจากการ compile เลยนี่ครับ ทำไมผู้สร้างจึงต้องถูกสร้างล่ะครับ คุณกำลังบอกว่าผู้สร้างเกิดขึ้นเองได้ใช่ไหมครับ? แล้วทำไมสิ่งอื่นต้องถูกสร้างด้วย ในเมื่อผู้สร้าง(ที่คุณว่า) ก็เกิดขึ้นเองได้ แล้วทำไมอย่างอื่นเกิดขึ้นเองไม่ได้? จากคุณ : Nexus - [ 21 มิ.ย. 51 17:31:14 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ผมแค่เปรยๆ เท่านั้นครับ คืออยากให้ เข้าใจว่า ใครเชื่อพระเจ้าเนี่ย Logic ก็จะเป็นอีกแบบหนึ่ง แต่นี่ คำถามคือถามทางวิทยาศาสตร์นะครับ มันต้องใช้ Logic ทางวิทยาศาสตร์สิครับ  -*- จะเอา Logic ของความเชื่อศาสนามาทำไม? Creature คำนั้น (ผมไม่รู้นะมันแปลว่าอะไร เพราะผมไม่สนใจภาษาอังกฤษอะไรมากมาย เอาแค่อ่านได้พอแล้ว) เกิดขึ้นจากรากศัพท์ละตินไม่ใช่เหรอครับ มันพัฒนามาจากการวัฒนธรรมของศาสนานี่น่า อย่างของไทย ก็มีการพัฒนาคำศัพท์มาจากปาลี(มคธ) อยู่เยอะเหมือนกัน เพราะศาสนา่พุทธ สาย เถรวาท มีการบันทึกคัมภีร์เป็นภาษาบาลี (สายมหายานบันทึกคัมภีร์เป็นภาษาสันสกฤต) การที่เราจะเอาวัฒนธรรมภาษาจากศาสนา มาอธิบายสิ่งที่ไม่รู้ (ในตอนนั้น) ผมว่ามันไม่แปลกนะครับ ส่วนอีกเรื่องหนึ่ง คำว่าๆๆๆๆ อะไรมากมายของภาษาอังกฤษน่ะครับ ผมว่ามันไม่มีผลกับคนโบราณหรอก หากนำคนโบราณมาดูการทำโคลนนิ่ง เค้าก็บอกว่า เราสร้างมันขึ้นมา ก็แค่นั้นเอง จากคุณ : กระบี่เก้าเดียวดาย - [ 21 มิ.ย. 51 17:33:12 ]

ความคิดเห็นที่ 35 มั่วนิ่มสุดๆ ถ้าคุณเชื่อเรื่อง อาดัม กับอีฟ คุณก็ไม่ต้องเชื่อเรื่องนี้เลย จากคุณ : เจ้าชายแห่ง_โคโลญจ์ - [ 21 มิ.ย. 51 20:04:23 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ผมเชื่อเรื่องพระเจ้านะ ไม่ตัดสินหรอกครับ เชื่อเอาสบายใจครับ ไม่จำกัดเรื่องศาสนาหรอกครับ สิ่งไหนทำให้ชีวิตจิตใจดี ก็ดีใจแล้ว จากคุณ : AVSystem - [ 21 มิ.ย. 51 21:12:38 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ตกลง คนกับลิงใครเกิดก่อนกันละ ถ้าใครเกิดก่อนย่อมจะเป็นบรรพบุรุษ แต่ถ้าไปขุดเจอลิงเก่ากว่าก็ว่าวิวัฒนาการมาจากลิง แต่ถ้าอนาคตไปขุดเจอฟอสซิวมนุษย์ที่เก่ากว่าก็คงต้องหาคำอธิบายกันใหม่ จากคุณ : veenews2004 - [ 22 มิ.ย. 51 01:54:10 ]

ความคิดเห็นที่ 38 จนได้ จนได้ .... สรุปคือลิงที่คนวิวัฒนาการมา มันไม่ใช่ monkey ในความหมายปัจจุบันครับ แต่มันเป็นสัตว์ในวงศาคณาญาติกัน ถ้าเรียนแบบไทยๆ จะเรียกว่าเง่าลิง เง่าคน ก็แล้วแต่ ผมไม่รังเกียจหรอกที่จะมาญาติทางวิวัฒนาการเป็นลิง แก้ไขเมื่อ 22 มิ.ย. 51 04:06:46 จากคุณ : atheist - [ 22 มิ.ย. 51 04:06:24 ]

ความคิดเห็นที่ 39 "What does intelligent design tell you about nature? Does it tell you what the designer did? Does it tell you what the designer used to design something with? Does it tell you what purpose the designer had for designing something? Does it tell you when the designer did it? Why the designer did it?" It doesn't tell you anything like that. Basically, it's a negative argument. And you can't build a science on a negative argument. อ่านกันออกไหม ID ไม่ใช่วิทยาศาสตร์ อย่าเอามาปนกับวิทยาศาสตร์ จากคุณ : .eAT - [ 22 มิ.ย. 51 07:42:53 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ใครบอกว่าเราแค่ modify เรา "สร้าง" มันขึ้นมาได้แล้วต่างหาก ในห้องทดลอง สามารถ"สร้าง"สิ่งมีชีวิตขึ้นมาได้แล้วนะครับ ผมจำรายละเอียดไม่ได้ล่ะ แต่ทำได้ตั้งหลายสิบปีแล้ว ไม่รู้ตอนนี้ทำไปได้ถึงไหนแล้ว แสดงว่าเราเริ่มใกล้เคียงพระเจ้าล่ะมั้ง ขี้เกียจหารายละเอียด ใครขยันหรือใจดีก็หามาลงให้หน่อยล่ะกันนะครับ ไปล่ะ bye bye ~~ ^_^ (rep.นี้เต็มไปด้วยความเห็นส่วนบุคคล อย่าแหย่หรือให้อาหาร เพราะยังไม่ได้ฉีดวัคซีน 555) ^ ^แก้ไขกลัวคนเข้าใจผิด เพิ่มคำว่า "rep.นี้" แก้ไขเมื่อ 22 มิ.ย. 51 11:52:43 จากคุณ : meddy hao - [ 22 มิ.ย. 51 11:01:01 ]

ความคิดเห็นที่ 41 คุณ meddy hao  ท่าจะจำมาผิดจริงๆแหละครับ ลองดูคำตอบของคนที่อยู่ในวงการนี้อย่างใกล้ชิดนะครับว่าท่านตอบว่าอะไร เกี่ยวกับเรื่องการทดลองสร้างสิ่งมีชีวิต http://topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2007/08/X5765633/X5765633.html#35 เรียนคุณกระบี่ครับ ผมก็ไม่ได้ต้องการอ้างอิงรากศัพท์อะไรหรอกครับ ขออภัยด้วยถ้าทำให้เข้าใจผิด ที่ผมกำลังสื่อก็คือ การสร้างของพระเจ้า กับสิ่งที่มนุษย์คิดว่าทำได้แล้วในปัจจุบัน นั้นต่างกันอยู่มากครับ การโคลนนิ่ง การตัดต่อพันธุกรรม การผสมเทียมฯลฯ ไม่อาจเรียกว่าการสร้างในแบบเดียวกับที่พระเจ้าทำครับ ส่วนที่บอกว่าใช้ Logic คนละอย่างกัน ไม่ทราบว่าเป็นยังไงครับ ผมเห็นอย่างนี้นะครับ ผู้เชื่อในพระเจ้า "ตั้งธงไว้แล้ว" ว่าพระเจ้ามีจริง การทรงสร้างที่ระบุไว้ในพระคัมภีร์เป็นเรื่องจริง ดังนั้นเรื่องราวทางวิทยาศาสตร์ต่างๆที่ศึกษากัน ล้วนแล้วแต่ทำให้มองเห็นได้ว่าสนับสนุนเหตุผลว่าการทรงสร้างเป็นจริง ส่วนคนที่ไม่เชื่อพระเจ้าก็ "ตั้งธงไว้แล้ว" เช่นกันว่า ไม่มีพระเจ้า จึงพยายามค้นหาคำอธิบายว่า สิ่งต่างๆเกิดขึ้นมาอย่างไร หากว่าตัดคำว่าพระเจ้าออกไปจากระบบความคิด ดังนั้นเรื่องราวทางวิทยาศาสตร์ต่างๆที่ศึกษากัน ล้วนแล้วแต่ทำให้มองเห็นได้ว่าไม่สนับสนุนเรื่องการทรงสร้าง แต่ผมก็ไม่ว่าอะไรนะครับ ต่างคนต่างมอง ไม่รู้ว่าอย่างนี้ตรงกับความหมายที่คุณกระบี่ว่าไว้หรือเปล่าครับ เรียนคุณ Nexus ครับ ผมกำลังบอกว่า พระเจ้าเปิดเผยให้เรารู้ว่าพระองค์ดำรงอยู่โดยไม่มีจุดเริ่มและสิ้นสุดครับ หรือหากจะพูดในภาษาวิทยาศาสตร์สักหน่อยก็ประมาณว่า "พระเจ้าอยู่คนละโดเมนกับพวกเรา พระเจ้าจึงไม่ได้อยู่ภายใต้กฏทางฟิสิกส์ต่างๆเหมือนอย่างพวกเรา" (เห็นเวลาพูดถึง singularity ก็ยังยอมรับกันได้ว่ากฏฟิสิกส์ไม่สามารถใช้ได้ในช่วงก่อน Big bang แสดงว่าข้อยกเว้นจากกฏฟิสิกส์น่าจะเป็นที่ยอมรับในหมู่นักวิทยาศาสตร์) ผมไม่ได้พูดว่าพระเจ้าเกิดเองนะครับ อันนี้ต้องใช้คำให้ถูกด้วย จากคุณ : ksk - [ 22 มิ.ย. 51 15:13:40 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ^ ^ อ่อ ครับๆ จำมาผิดก็ขออภัยครับ จากคุณ : meddy hao - [ 22 มิ.ย. 51 17:42:54 ]

ความคิดเห็นที่ 43 หลักฐาน ภาพกะโหลกเครือญาติมนุษย์ (A) Pan troglodytes, chimpanzee, modern (B) Australopithecus africanus, STS 5, 2.6 My (C) Australopithecus africanus, STS 71, 2.5 My (D) Homo habilis, KNM-ER 1813, 1.9 My (E) Homo habilis, OH24, 1.8 My (F) Homo rudolfensis, KNM-ER 1470, 1.8 My (G) Homo erectus, Dmanisi cranium D2700, 1.75 My (H) Homo ergaster (early H. erectus), KNM-ER 3733, 1.75 My (I) Homo heidelbergensis, “Rhodesia man,” 300,000 - 125,000 y (J) Homo sapiens neanderthalensis, La Ferrassie 1, 70,000 y (K) Homo sapiens neanderthalensis, La Chappelle-aux-Saints, 60,000 y (L) Homo sapiens neanderthalensis, Le Moustier, 45,000 y (M) Homo sapiens sapiens, Cro-Magnon I, 30,000 y (N) Homo sapiens sapiens, modern (Images © 2000 Smithsonian Institution.) พอไหม? ปล. ย้ำว่าเครือญาติบางอันไม่ใช่บรรพบุรุษโดยตรง จากคุณ : Pod... - [ 22 มิ.ย. 51 19:35:44 ]

ความคิดเห็นที่ 44 #42 ขึ้นอยู่กับนิยามว่า "สิ่งมีชีวิตคืออะไร" เพราะตอนนี้สามารถ microsphere ที่สามารถขยายพันธุ์ได้ด้วย แต่ยังไม่มีสาร พันธุกรรม ทำให้หลายๆ สำนัก (น่าจะทุกสำนักนะ) ว่าไม่ใช่ สิ่งมีชีวิต ------------ การทรงสร้างที่ระบุไว้ในพระคัมภีร์เป็นเรื่องจริง ดังนั้นเรื่องราวทางวิทยาศาสตร์ต่างๆที่ศึกษากัน ล้วนแล้วแต่ทำให้มองเห็นได้ว่าสนับสนุนเหตุผลว่าการทรงสร้างเป็นจริง หลักฐานอยู่ไหนครับ อย่าฝันเอาเอง ผลงานวิจัยอยู่ไหน? ที่รู้อย่างแน่ชัด เมื่อวิทยาศาสตร์ก้าวหน้าขึ้นเท่าไหร่ ปาฎิหาริย์ก็ยิ่งพบน้อยลงเท่านั้น แก้ไขเมื่อ 22 มิ.ย. 51 23:02:54 จากคุณ : .eAT - [ 22 มิ.ย. 51 23:02:03 ]

ความคิดเห็นที่ 45 แค่หน้าผมดูมุมโน่นมุมนี่ก็เหมือนลิงเข้าไปทุกวันแล้ว ติดแค่ไม่มีขน กะหาง จากคุณ : IRQ5 - [ 22 มิ.ย. 51 23:05:24 ]

ความคิดเห็นที่ 46 #43 ยังไม่พอ Neurophilosophy What will the neanderthal genome teach us about human brain evolution? http://neurophilosophy.wordpress.com/2006/08/07/499/ จากคุณ : .eAT - [ 22 มิ.ย. 51 23:24:16 ]

ความคิดเห็นที่ 47 เอาไปอีก จากคุณ : .eAT - [ 22 มิ.ย. 51 23:33:12 ]

ความคิดเห็นที่ 48 เอาอีก จากคุณ : .eAT - [ 22 มิ.ย. 51 23:34:36 ]

ความคิดเห็นที่ 49 #45 มั่นใจแน่นะว่าไม่มีหาง ลองคลำดูใหม่จิ http://www.creation-vs-evolution.us/visual-evolution/human-tails/ จากคุณ : .eAT - [ 22 มิ.ย. 51 23:38:38 ]

ความคิดเห็นที่ 50 #41 ส่วนที่บอกว่าใช้ Logic คนละอย่างกัน ไม่ทราบว่าเป็นยังไงครับ ----------------------- แค่ที่คุณพูดมา ก็ต่างกันอย่างเห็นได้ชัดแล้วนี่ครับ ว่า สมมติฐานทางความเชื่อมันต่างกัน ก็ทำให้การวิเคราะห์สังเคราะห์อะไรออกมา มันก็ย่อมต่างกันไปด้วย ในเมื่อคุณเชื่อว่า มีพระเจ้า จริง!! Logic ของคุณ ยังไง๊ ก็ต้องจบลงที่พระเิจ้า จริงไหมครับ? ------------------------- อ่อ .... อีกเรื่อง การที่คุณเข้าใจว่า เรื่องโคลนนิ่ง หรือการดัดแปลงพันธุกรรม มันคือการ Modify นั่นน่ะ ่ผมว่า คุณกำลังเข้าใจความหมายของผมผิดไปแล้วนะครับ ผมหมายถึงให้้คุณใช้ความรู้ความเข้าใจแบบคนโบราณ ไม่ใช่ใช้ความรู้แบบคนสมัยใหม่เข้ามาวิเคราะห์ ซึ่งถ้าให้ผมเป็นคนอธิบาย ก็คงได้แบบนี้ครับ ถ้าผมเป็นคนโบราณ แล้วผมมาเห็นการดัดแปลงพันธุกรรมเนี่ย และตัวผมเองไม่มีความรู้ในยุคปัจจุบัน อยู่เลยยยยย!!!!! ผมก็คงจะคิดว่าพวกเขาเป็น " พระเจ้า " แล้วล่ะ แค่นั้นเองครับ ผมก็คิดว่า ผมอธิบายไปแจ่มชัดแล้วนะ ในกระทู้ข้างต้น ไม่ยากใช่ไหม? หรือคุณไม่อยากเข้าใจ ผมก็จนปัญญาอธิบายแล้วครับ !! จากคุณ : กระบี่เก้าเดียวดาย - [ 23 มิ.ย. 51 05:25:28 ]

ความคิดเห็นที่ 51 แค่ที่คุณพูดมา ก็ต่างกันอย่างเห็นได้ชัดแล้วนี่ครับ ว่า สมมติฐานทางความเชื่อมันต่างกัน ก็ทำให้การวิเคราะห์สังเคราะห์อะไรออกมา มันก็ย่อมต่างกันไปด้วย ในเมื่อคุณเชื่อว่า มีพระเจ้า จริง!! Logic ของคุณ ยังไง๊ ก็ต้องจบลงที่พระเิจ้า จริงไหมครับ? น่าจะจริงครับ แล้วไม่ทราบว่า Logic ของคุณกระบี่นั้น ยังไง๊ ยังไง ก็ต้องจบลงที่ไม่มีพระเจ้าหรือเปล่าครับ ? ถ้าผมเป็นคนโบราณ แล้วผมมาเห็นการดัดแปลงพันธุกรรมเนี่ย และตัวผมเองไม่มีความรู้ในยุคปัจจุบัน อยู่เลยยยยย!!!!! ผมก็คงจะคิดว่าพวกเขาเป็น " พระเจ้า " แล้วล่ะ แค่นั้นเองครับ ผมคิดว่าเป็นได้แค่ผู้วิเศษเท่านั้นครับ เพราะยังมีคุณสมบัติของพระเจ้าในเรื่องอื่นๆอีกเยอะที่คุณยังทำไม่ได้ไงครับ จากคุณ : ksk - [ 23 มิ.ย. 51 09:17:36 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ส่วนเรื่องคนมีหางนั้น ก็ไม่เห็นเป็นเรื่องแปลกอะไรเลยครับ จำนวนคนที่เกิดมาตาบอดแต่กำเนิดยังมีเยอะกว่ากลุ่มตัวอย่างพวกนั้นอีก ไม่ทราบว่าจะใช้เป็นข้ออ้างหรือเปล่าว่า บรรพบุรุษของมนุษย์ไม่มีดวงตา แล้วค่อยวิวัฒนาการมาให้มีดวงตาภายหลัง จากคุณ : ksk - [ 23 มิ.ย. 51 09:21:57 ]

ความคิดเห็นที่ 53 #52 - ข้าวผัด ใช้แต่ผักชีไม่ได้ มันต้องประกอบไปด้วย ข้าว หมู น้ำมัน กระเทียม ต้นหอม น้ำตาล น้ำปลา ฯลฯ ดุจ เดียวกับทฤษฎีสัมพัทธภาพ เอ้ย วิวัฒนาการ ที่ประกอบ กันด้วยหลักฐานมากมายืนยัน มิใช่เพียงแค่คนมีหาง - คนมีหางมิเพียงแต่เป็นหลักฐานหนึ่งในการยืนยัน Evolution เท่านั้น แต่เป็นหลักฐานในการปฏิเสธว่า ข้อความที่ปรากฏใน GENESIS ไม่เป็นจริง ไม่เช่นนั้น บางครั้งฉายาของ "พระจ้า" อาจจะมีหางด้วย (รวมทั้ง บางครั้งก็ตาบอด หูหนวก และเป็นใบ้) - บรรพบุรุษของมนุษย์ไม่มีตาถูกต้องแล้ว แสดงว่า ท่านเริ่มเข้าใจทฤษฎี "วิวัฒนาการ" มากขึ้นแล้ว Protocell มิเพียงแต่ไม่มีดวงตา ยังไม่มี ทั้งหู ตา และ จมูก จากคุณ : .eAT - [ 23 มิ.ย. 51 10:16:09 ]

ความคิดเห็นที่ 54 - ข้าวผัด ใช้แต่ผักชีไม่ได้ มันต้องประกอบไปด้วย ข้าว หมู น้ำมัน กระเทียม ต้นหอม น้ำตาล น้ำปลา ฯลฯ ดุจ เดียวกับทฤษฎีสัมพัทธภาพ เอ้ย วิวัฒนาการ ที่ประกอบ กันด้วยหลักฐานมากมายืนยัน มิใช่เพียงแค่คนมีหาง อันนี้ต้องไปห้องก้นครัวครับ (ล้อเล่น) หลักฐานอีกมากมายก็ไม่ได้ยืนยันบางแนวคิดของคนที่นิยมทฤษฎีวิวัฒนาการนะครับ - คนมีหางมิเพียงแต่เป็นหลักฐานหนึ่งในการยืนยัน Evolution เท่านั้น แต่เป็นหลักฐานในการปฏิเสธว่า ข้อความที่ปรากฏใน GENESIS ไม่เป็นจริง ไม่เช่นนั้น บางครั้งฉายาของ "พระจ้า" อาจจะมีหางด้วย (รวมทั้ง บางครั้งก็ตาบอด หูหนวก และเป็นใบ้) ความพิกลพิการไม่ใช่หลักฐานเสริมความน่าเชื่อถือของ Evolution หรอกครับ ที่เรียกว่าพิกลพิการ เพราะพ่อแม่ญาติพี่น้องของคนมีหางเหล่านั้น ก็ไม่ได้มีหางด้วยครับ - บรรพบุรุษของมนุษย์ไม่มีตาถูกต้องแล้ว แสดงว่า ท่านเริ่มเข้าใจทฤษฎี "วิวัฒนาการ" มากขึ้นแล้ว Protocell มิเพียงแต่ไม่มีดวงตา ยังไม่มี ทั้งหู ตา และ จมูก อันนี้เป็นความเห็นของฝ่ายที่เชื่อว่าบรรพบุรุษของมนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตเซลส์เดียวครับ ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยอย่างนั้น ก็ไม่ได้เห็นด้วย แต่ก็เข้าใจทฤษฎีวิวัฒนาการได้ครับ แก้ไขเมื่อ 23 มิ.ย. 51 11:28:16 จากคุณ : ksk - [ 23 มิ.ย. 51 11:22:42 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ความพิกลพิการไม่ใช่หลักฐานเสริมความน่าเชื่อถือของ Evolution หรอกครับ ที่เรียกว่าพิกลพิการ เพราะพ่อแม่ญาติพี่น้องของคนมีหางเหล่านั้น ก็ไม่ได้มีหางด้วยครับ เข้าใจ evolution เพิ่มขึ้น แต่ที่ขาดไปคือ genetic ยิ่งเรื่องความบกพร่อง ยิ่งฟ้องชัดถึง "พระเจ้า" ว่าไม่มีจริง ถ้ามีจริง Creature จะไม่มีข้อบกพร่อง ตั้งแต่กำเนิด จากคุณ : .eAT - [ 23 มิ.ย. 51 21:03:41 ]

ความคิดเห็นที่ 56 แล้วไม่ทราบว่า Logic ของคุณกระบี่นั้น ยังไง๊ ยังไง ก็ต้องจบลงที่ไม่มีพระเจ้าหรือเปล่าครับ ? --------------- ใช่ครับ ผมเชื่อว่าไม่มีพระเจ้า --------------- --------------- 32:24 ยาโคบอยู่ที่นั่นแต่ผู้เดียว มีบุรุษผู้หนึ่งมาปล้ำกับเขาจนเวลารุ่งสาง 32:25 เมื่อบุรุษผู้นั้นเห็นว่าจะเอาชนะยาโคบไม่ได้ ก็ถูกต้องที่ข้อต่อตะโพกของยาโคบ ข้อต่อตะโพกของยาโคบก็เคล็ด เมื่อปล้ำสู้กันอยู่นั้น 32:26 บุรุษนั้นจึงว่า "ปล่อยให้เราไปเถิดเพราะใกล้สว่างแล้ว" แต่ยาโคบตอบว่า "ข้าพเจ้าไม่ยอมให้ท่านไป นอกจากท่านจะอวยพรแก่ข้าพเจ้า" 32:27 บุรุษผู้นั้นจึงถามยาโคบว่า "เจ้าชื่ออะไร" ยาโคบตอบว่า "ข้าพเจ้าชื่อยาโคบ" 32:28 บุรุษนั้นจึงว่า "เขาจะไม่เรียกเจ้าว่ายาโคบต่อไป แต่จะเรียกว่า อิสราเอล เพราะเจ้าเหมือนเจ้าชายได้สู้กับพระเจ้าและมนุษย์ และได้ชัยชนะ" 32:29 ยาโคบจึงถามบุรุษผู้นั้นว่า "ขอท่านบอกข้าพเจ้าว่าท่านชื่ออะไร" แต่บุรุษนั้นกล่าวว่า "เหตุไฉนเจ้าจึงถามชื่อเรา" แล้วก็อวยพรยาโคบที่นั่น 32:30 ยาโคบจึงเรียกสถานที่นั้นว่า เปนีเอล กล่าวว่า "เพราะข้าพเจ้าได้เห็นพระพักตร์พระเจ้า แล้วยังมีชีวิตอยู่" ผมขอถามนะ ทำไม ยาโคบ ถึงได้ปล้ำชนะพระเจ้าได้??? ผมขอคำตอบด้วยครับ ถ้าคุณบอกว่าพระเจ้าแกล้งแพ้ ผมก็ว่า ไม่น่าจะใช่ เพราะหลังจากนั้น พระเจ้าก็ตั้งชื่อใหม่ให้ ยาโคบ ว่า " อิสราเอล " นั่นคือหลักฐานที่พระองค์ยอมรับว่าแพ้จริงๆ เพราะภาษาฮิบรูโบราณแปลว่า " ผู้ชนะพระเจ้า " แม้ว่าในพันธสัญญาเก่าจะเขียนไว้น้อย แต่คัมภีร์โตาราห์เขียนไว้เยอะพอสมควรนะครับ หรือคุณจะปฎิเสธว่า ไบเบิ้ล ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ โตราห์ ล่ะ! อย่างนั้นผมว่าให้คุณไปศึกษาประวัติศาสนามาใหม่จะดีกว่านะครับ อ่อ.... ผมขอตอบข่างล่างอีกนะครับ ว่า "ตอนนี้อาจจะยังไม่ได้นะครับ แต่อนาคตไม่แน่ครับ" แก้ไขเมื่อ 23 มิ.ย. 51 23:48:04 แก้ไขเมื่อ 23 มิ.ย. 51 23:47:23 จากคุณ : กระบี่เก้าเดียวดาย - [ 23 มิ.ย. 51 23:43:34 ]

ความคิดเห็นที่ 57 หลักฐานทางฟอสซิลมันฟ้อง ว่าไม่มีโฮโมซาเปี้ยนเมื่อหลายแสนปีก่อน และมีแต่ฟอสซิล สิ่งที่คล้ายกัน แต่ฟอสซิลแต่ลุยุคก็แตกต่างกันไปตามเวลาตาย จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน - [ 24 มิ.ย. 51 00:58:08 ]

ความคิดเห็นที่ 58 เข้าใจ evolution เพิ่มขึ้น แต่ที่ขาดไปคือ genetic ยิ่งเรื่องความบกพร่อง ยิ่งฟ้องชัดถึง "พระเจ้า" ว่าไม่มีจริง ถ้ามีจริง Creature จะไม่มีข้อบกพร่อง ตั้งแต่กำเนิด อันนี้คุณ .eAT เข้าใจผิดเต็มประตูเลยครับ ความบกพร่องหรือความพิกลพิการ ไม่ได้เป็นข้อฟ้งว่าพระเจ้าไม่มีจริงอีกเช่นกัน ถ้าจะเป็นตาม Logic ที่คุณเสนอมา ก็เข้าทางฝ่ายที่เชื่อพระเจ้ามากกว่า เพราะ -ถ้านับความพิการเป็นหลักฐานสนับสนุนวิวัฒนาการ แสดงว่าในทางตรงข้าม การไม่พิการสนับสนุนฝ่ายพระเจ้าสร้าง และเราก็พบว่า ส่วนใหญ่ไม่พิการ ดังนั้นจากหลักฐานที่มีมากกว่า ก็สนับสนุนว่าพระเจ้าสร้าง -ถ้าจะนับความพิการว่า พระเจ้าไม่มีจริง แสดงว่าในทางตรงข้าม การไม่พิการสนับสนุนว่าพระเจ้ามีจริง และเราก็พบว่า ส่วนใหญ่ไม่พิการ ดังนั้นจากหลักฐานที่มีมากกว่า ก็สนับสนุนว่าพระเจ้ามีอยู่จริง น้อง ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน ครับ เรื่องหลักฐานฟอสซิล ยังไม่เป็นข้อมูลที่นิ่งพอนะครับ ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านในห้องนี้ ก็เคยกล่าวไว้ว่า โลกนี้กว้างขวางนัก ฟอสซิลที่ขุดได้ถึงปัจจุบัน ยังนับว่าน้อยมาก ดังนั้นหากจะด่วนสรุปอะไรลงไปล่วงหน้า ก็อาจผิดพลาดได้นะครับ สรุปได้เท่าที่มี ก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ คุณกระบี่ครับ เรื่องที่คุณถามมานั้น ขอตอบโดยเริ่มจากความสัมพันธ์ระหว่างไบเบิ้ลกับโตราห์ก่อน (ขออภัยเพื่อนๆท่านอื่นๆนะครับ ที่ออกนอกหัวข้อวิทยาศาสตร์ไป บังเอิญเป็นคำถามที่ขอให้ผมตอบน่ะครับ) คุณกระบี่อาจทราบมาบ้างแล้วว่า ไบเบิ้ล ประกอบไปด้วย Old testament กับ New testatment ผมยืนยันให้คุณแน่ใจอีกครั้งว่า Old testament กับ Torah เป็นหนังสือเดียวกัน ชาวคริสต์ยอมรับ Old testament ก็เท่ากับยอมรับ Torah เพราะพระเยซูใช้ Torah ในการสั่งสอนด้วย ในเรื่องการปล้ำสู้ของพระเจ้ากับยาโคบนั้น เป็นเรื่องที่มีรายละเอียดเท่ากัน ทั้งใน Torah และใน Old testament ครับ ไม่มีอะไรขาดไป เราจึงรู้ทุกอย่างในเรื่องนี้เท่ากับที่มีใน Torah ความสงสัยของคุณนั้น ไม่ใช่เรื่องใหม่ครับ เป็นเพราะคนที่ไม่รู้เรื่องราวทั้งหมด หรืออ่านแค่บางส่วน ก็จะเกิดความสงสัยในลักษณะนี้ได้ ถ้าได้อ่านทั้งหมดก็จะรู้ว่า พระลักษณะของพระเจ้าเป็นอย่างไร ผมบอกให้ก็ได้ครับ พระลักษณะของพระเจ้าเป็นพระวิญญาณ (จากเรื่องราวที่ปรากฏในหลายๆตอน) และในบางโอกาสเหมือนกับว่าพระเจ้าได้มาปรากฏในลักษณะของเนื้อหนัง (บางครั้งพระคัมภีร์บันทึกไว้ว่า เป็นฑูตของพระเจ้า) ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ว่า จะเป็นพระเจ้าเองที่มาปรากฏในลักษณะของเนื้อหนัง หรือเป็นฑูตของพระเจ้าที่ทรงใช้มา แน่นอนว่าพระเจ้าทรงมีฤทธานุภาพเกินพอที่จะเอาชนะยาโคบได้ แต่พระองค์อาจไม่ใช้ฤทธานุภาพนั้นทุกครั้งไปเป็นสิทธิ์ของพระองค์ (ดังจะเห็นว่าพระเยซูก็ไม่ได้ใช้ฤทธิ์อำนาจเมื่อถูกตรึงบนกางเขน) ในกรณีนี้อาจกล่าวได้ว่า(กรณีเป็นพระเจ้ามาเอง)พระองค์อาจจะใช้เพียงกำลังของกล้ามเนื้อในสภาพที่มาปรากฏ ก็ไม่แปลกถ้าหากว่ากล้ามเนื้อของยาโคบจะมีกำลังมากพอที่จะปล้ำสู้ และไม่มีทีท่าว่าพระเจ้าจะคว่ำเขาลงได้ จนขอให้หยุดการต่อสู้(ตามที่ปรากฏในข้อ 24-26 ที่คุณยกมา) หรือถ้าเป็นฑูตของพระเจ้า ก็อธิบายได้อย่างเดียวกัน ผมไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจอะไรกับคำความหมายของชื่อยาโคบที่คุณกระบี่ว่ามา พระคัมภีร์ก็ได้บอกไว้อย่างนั้นจริงๆ และก็มิได้หมายความว่าพระเจ้าสูญเสียอำนาจอธิปไตยไปแล้ว เพราะเรื่องราวที่ดำเนินต่อจากนั้นไป ก็เห็นได้ชัดว่ายาโคบยังยอมรับพระเจ้าและติดตามพระเจ้าต่อไปเช่นเดิม ตามนั้นนะครับ จากคุณ : ksk - [ 24 มิ.ย. 51 09:18:32 ]

ความคิดเห็นที่ 59 อ่าครับ ขอบคุณครับ แต่ผมก็ได้อ่านเกือบหมดแล้วนะ แต่จำไม่ค่อยได้เท่านั้นเอง (โตราห์ผมยังไม่ได้อ่านหมด ถ้ามันเท่ากัน ก็ขออภัยครับ ^^) เผอิญอยากได้คำตอบจากชาวคริสต์น่ะครับ สำหรับเรื่องนี้นะ แต่ผมก็ยังไม่ปักใจเชื่อนะ (เพราะเราใช้ตรรกะต่างกัน หุหุ) จากคุณ : กระบี่เก้าเดียวดาย - [ 24 มิ.ย. 51 10:50:58 ]

ความคิดเห็นที่ 60 คุณ ksk ยังไม่เข้าใจวิทยาศาสตร์เลยสักนิด การทดลองยืนยันทฤษฎี 1000 ครั้ง ว่าถูกต้อง ก็ไม่สามารถบอกได้ว่า ทฤษฎีนั้น จะถูกต้องไปตลอด ขอเพียงแค่มีการทดลองเพียงแค่ครั้งเดียว ที่ยืนยันว่า ทฤษฎีนั้นผิดพลาด สามารถล้มทฤษฎีนั้นได้ เหมือน ทฤษฎีแรงโน้มถ่วง ถ้าทิ้งลูกเหล็กแล้วตก ลงมาที่โลกเป็นล้านครั้งก็ตาม แต่ถ้ามีครั้งไหน ทิ้งแล้วมันกลับลอยขึ้นไป ก็ล้มทฤษฎีแรงโน้มถ่วงไปได้ เช่นเดียวกับ evolution เสนอหลักฐาน การทดลอง ขัดแย้งเพียงครั้งเดียว จบ เหมือนกับที่ยกตัวอย่าง ถ้า "พระเจ้า" มีจริง แล้วสร้างสรรพสิ่ง ถ้าสิ่งนั้นดัน เกิดขึ้นมาในรูปแบบที่ไม่เหมือนเดิม ตามที่กำหนด ไว้ตั้งแต่สร้างโลก ก็ล้ม "พระเจ้า" ได้ จากคุณ : .eAT - [ 24 มิ.ย. 51 12:13:59 ]

ความคิดเห็นที่ 61 คุณ .eAT คงยังอยู่แต่ในโลกของทฤษฎีนะครับ ขนาดเหรียญสองด้าน ความน่าจะเป็น 50:50 ที่จะออกหัวหรือก้อย ก็ยังมีโอกาสออกกลางได้เลยครับ ถ้ายึดตามที่คุณ .eAT ว่ามา Evolution ล้มไปนับไม่ถ้วนแล้วครับ ส่วนข้อกำหนดของคุณนั้นก็กำหนดไปแบบตามใจตัวเอง ใช้การไม่ได้ครับ ถ้าสิ่งนั้นดันเกิดขึ้นมาในรูปแบบที่ไม่เหมือนเดิม ตามที่กำหนด ไว้ตั้งแต่สร้างโลก ก็ล้ม "พระเจ้า" ได้ เช่นผมจะลองกำหนดว่า ถ้าคุณ .eAT มีอยู่จริง ต้องหน้าต่อหล่อเหลาประมาณหม่ำ จ๊กม๊ก แต่ปรากฎว่า คุณหล่อกว่านั้นมาก อันนี้จะล้มทฤษฎีที่ว่าคุณมีอยู่จริงหรือครับ มันเป็นเพียงแค่ การตั้งสมมุติฐานผิดเท่านั้นเอง แสดงว่าคุณยังไม่รู้ว่า การตั้งสมมุติฐานที่เหมาะสม จึงจะมีทิศทางของคำตอบที่ถูกต้อง จากคุณ : ksk - [ 24 มิ.ย. 51 13:16:23 ]

ความคิดเห็นที่ 62 แสดงว่าคุณยังไม่รู้ว่า การตั้งสมมุติฐานที่เหมาะสม จึงจะมีทิศทางของคำตอบที่ถูกต้อง ******************* ทิศทางที่คุณ ksk ว่ามา ผมว่า เค้าตั้งสมมติฐานตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ ว่าพระเจ้าสร้าง ตั้งแต่ยุคกรีกมาแล้วด้วยซ้ำ เพราะคนโบราณ ไม่รู้ว่าโลกเกิดขึ้นยังไง ก็เลยบอกว่า พระเจ้าสร้างโลก แล้วคำตอบของคริสต์ หรือศาสนา อื่นๆ ที่มีมานานตั้งแต่สมัยโบราณก็ออกแนวๆ เดียวกันนี้ เพราะตอนนั้น เรายังไมู่รู้ว่าโลกเกิดขึ้นยังไง เราเลยตั้ง สมมติฐานเช่นนั้นขึ้นมา ต่อมาในยุคกรีกมีนักปรัชญา่ ก็เริ่มไม่เชื่อในเรื่องพระเจ้า (วิทยาศาสตร์เริ่มมาจากปรัชญานะครับ เริ่มจากการถามตอบด้วยเหตุและผล ต่อมาก็เริ่มมีการทดลอง และแตกแขนงออกไำปเป็นวิทยาศาสตร์อย่างเช่นปัจจุบัน อันนี้ถือว่าเป็นความรู้ทั่วไปแล้วกันนะครับ) เพราะความคิดเรื่องพระเจ้าไม่มีเหตุผลสนับสนุนครับ และตอนนั้น แม้จะมีการต่อต้านเกิดขึ้น แต่ก็ไร้หลักฐานมาหักล้าง ต่อมาในสมัยศาสนาจักร เริ่มมีนักวิทยาศาสตร์หักล้างทฤษฎีเก่าๆ ขึ้นเรื่อยๆ จนเกือบจะเรียกว่า สิ่งที่ศา่สนาสอน เกือบจะผิดหมด แต่ยังคงเหลือ missed link ของมนุษย์ที่ยังหาไม่พบ ขนาด ชาร์ล ดาร์วิน เองก็ยังทึ่งว่า ทำไมหาพบยากนัก แต่มันก็พิสูจน์อย่างหนึ่งได้ครับ ตามที่ Genesis บอกว่า พระเ้จ้าสร้างทุกสรรพสิ่งนั้น ถูกหักล้างไปแล้ว 1. Genesis บอกว่า พระเจ้าสร้างโลก แต่ปัจจุบันเรารู้์แล้วว่า โลกเกิดจากการอัดแน่นของโมเลกุล ไม่ใช่พระเจ้าสร้างแน่ๆ 2. Genesis บอกว่า พระเจ้าสร้างสัตว์ แต่ปัจจุบันเรารู้แล้วว่า สัตว์มีวิวัฒนาการ แม้จะยังคลุมเคลือเรื่อง " มนุษย์ " ก็ตามที แต่มันก็พิสูจน์ว่า พระเจ้าไม่ได้สร้าง และ ... จากการทดลองในการสร้างสิ่งมีชีวิต ที่ดาร์วินบอกก่อนตาย ก็ทำให้เรารู้แล้วว่า จริงๆ แล้วสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว เริ่มต้นมาจาก การสุ่มเสี่ยงเพื่อให้กำเนิดสิ่งมีชีวิต และบังเอิญที่ สิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่มีแต่ธาตุ Carbon ที่ได้รับจากการพุ่งชนของอุกกาบาต ในสมัยที่โลกกำลังรวมตัวเองอยู่ (หากเป็น Silicon เราอาจจะเป็นสิ่งมีชีวิตอีกแบบ) 3. Genesis บอกว่า พระเจ้าสร้างดวงอาทิตย์ แต่ปัจจุบันเรารู้แล้วว่า ระบบสุริยะเกิดจากการระเบิดของดาวเก่า และมวลสารส่วนใหญ่ถูกดวงอาทิตย์ดึงดูดไป 4. Genesis บอกว่า พระเจ้าสร้างดวงจันทร์ แต่ปัจจุบันเรารู้แล้วว่า ดวงจันทร์เกิดจากการเหนี่ยวนำเพราะแรงโน้มถ่วงของโลก 5. หากบอกว่า พระเจ้าคือธรรมชาติ อันนี้ผมเถียงเลย เพราะพระเจ้า ไม่ใช่ธรรมชาติแน่นอน พระเจ้ามีอารมณ์แบบมนุษย์ แต่ธรรมชาติไม่มีอารมณ์แบบมนุษย์ ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ ก็เกิดขึ้นเป็นปกติของมัน แม้จะไม่มีมนุษย์อยู่ด้วยก็ตามที จากคุณ : กระบี่เก้าเดียวดาย - [ 24 มิ.ย. 51 14:24:34 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ผมเห็นว่าข้อสรุปของคุณกระบี่ไม่ถูกอยู่มากเลยครับ 1. Genesis บอกว่า พระเจ้าสร้างโลก แต่ปัจจุบันเรารู้์แล้วว่า โลกเกิดจากการอัดแน่นของโมเลกุล ไม่ใช่พระเจ้าสร้างแน่ๆ โครงสร้างของโลกที่เป็นอย่างนั้น มันบอกว่าพระเจ้าไม่ได้สร้างอย่างไรครับ? 2. Genesis บอกว่า พระเจ้าสร้างสัตว์ แต่ปัจจุบันเรารู้แล้วว่า สัตว์มีวิวัฒนาการ แม้จะยังคลุมเคลือเรื่อง " มนุษย์ " ก็ตามที แต่มันก็พิสูจน์ว่า พระเจ้าไม่ได้สร้าง การปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ในระดับหนึ่ง เป็นสิ่งที่ผู้เชื่อพระเจ้าก็ยอมรับครับ ไม่เห็นว่ากรณีที่ว่ามา ปฏิเสธการสร้างของพระเจ้าอย่างไรเลยครับ และ ... จากการทดลองในการสร้างสิ่งมีชีวิต ที่ดาร์วินบอกก่อนตาย ก็ทำให้เรารู้แล้วว่า จริงๆ แล้วสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว เริ่มต้นมาจาก การสุ่มเสี่ยงเพื่อให้กำเนิดสิ่งมีชีวิต และบังเอิญที่ สิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่มีแต่ธาตุ Carbon ที่ได้รับจากการพุ่งชนของอุกกาบาต ในสมัยที่โลกกำลังรวมตัวเองอยู่ (หากเป็น Silicon เราอาจจะเป็นสิ่งมีชีวิตอีกแบบ) ไม่มีหลักฐานเด่นชัด(อย่างที่คุยไว้) เป็นเพียงสมมุติฐานอยู่เลยครับ ยังไม่มีการทดลองพิสูจน์ซ้ำได้(อย่างที่ชอบคุยไว้)ว่าอุกาบาตมีส่วนทำให้เกิดชีวิต 3. Genesis บอกว่า พระเจ้าสร้างดวงอาทิตย์ แต่ปัจจุบันเรารู้แล้วว่า ระบบสุริยะเกิดจากการระเบิดของดาวเก่า และมวลสารส่วนใหญ่ถูกดวงอาทิตย์ดึงดูดไป กระบวนการในการสร้างของพระเจ้าอาจทำไปตามนั้น หรือไม่ตามนั้น ก็เป็นได้ครับ เรื่องนี้ก็ไม่สามารถหักล้างการสร้างของพระเจ้าเช่นกัน 4. Genesis บอกว่า พระเจ้าสร้างดวงจันทร์ แต่ปัจจุบันเรารู้แล้วว่า ดวงจันทร์เกิดจากการเหนี่ยวนำเพราะแรงโน้มถ่วงของโลก เหมือนข้อ 3 เลยครับ ทำไมเมื่อนักวิทยาศาสตร์คาดเดาการเกิดขึ้นของสิ่งๆหนึ่ง โดยที่ยังไม่สามารถทำการทดลองซ้ำเพื่อยืนยันสมมุติฐาน จึงได้ถือเสมือนเป็นเรื่องจริงที่ได้รับการยืนยันตามหลักวิทยาศาสตร์ 5. หากบอกว่า พระเจ้าคือธรรมชาติ อันนี้ผมเถียงเลย เพราะพระเจ้า ไม่ใช่ธรรมชาติแน่นอน พระเจ้ามีอารมณ์แบบมนุษย์ แต่ธรรมชาติไม่มีอารมณ์แบบมนุษย์ ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ ก็เกิดขึ้นเป็นปกติของมัน แม้จะไม่มีมนุษย์อยู่ด้วยก็ตามที อันนี้ผมเห็นด้วย และก็ร่วมเถียงด้วยเหตุผลเหมือนกันกับของคุณครับ จากคุณ : ksk - [ 24 มิ.ย. 51 14:58:48 ]

ความคิดเห็นที่ 64 #61 คุยมาตั้งนาน พึ่งรู้ว่าคุณไม่รู้ว่าอะไรคือ "วิทยาศาสตร์" เลยสักนิด มิน่า คนที่เคยเถียงกัน ถึงเลิกเถียงกันไปแล้ว เวรกรรมของเราจริงจริ้ง จากคุณ : .eAT - [ 24 มิ.ย. 51 20:08:46 ]

ความคิดเห็นที่ 65 1. โครงสร้างของโลกที่เป็นอย่างนั้น มันบอกว่าพระเจ้าไม่ได้สร้างอย่างไรครับ? ก็มันบอกว่า พระเจ้าไม่ได้สร้างขึ้นมา แต่ธรรมชาติต่างหากล่ะครับ ที่สร้างมันขึ้นมา เพราะตามธรรมชาติของควากส์ที่มีสติงในการสั่นสะเทือน และดึงดูดอะตอมเข้าหากัน และผลักกันในตัวเอง ผมไม่เห็นว่าพระเจ้าจะเข้ามาช่วยในการสร้างตรงไหนเลย ว่าแต่คุณ ksk เถอะ หามาซักทีว่า พระเจ้าสร้างโมเลกุลมาได้ยังไง???? 2. การปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ในระดับหนึ่ง เป็นสิ่งที่ผู้เชื่อพระเจ้าก็ยอมรับครับ ไม่เห็นว่ากรณีที่ว่ามา ปฏิเสธการสร้างของพระเจ้าอย่างไรเลยครับ การปรับตัว? คุณเข้าใจทฤษฎีวิวัฒนาการไหมครับเนี่ย ตอนแรกผมก็เห็นว่าคุณตอบมีหลักการพอดูนะ แต่เอาเข้าจริงๆ คุณก็หาหลักฐานอะไรไม่ได้ ผมอาจอธิบายไม่น่าเชื่อถือ เพราะผมเติบโตมาทางด้านกฎหมาย ไม่ใช่วิทยาศาสตร์ แต่... การจะอ้างอะไรซักอย่าง กฎหมายสอนให้ผมรู้ว่า เราต้องมีหลักฐาน มีพยานมายืนยันหลักฐานนั้น แต่... เท่าที่เห็น ผมไม่เห็นคุณ ksk มีหลักฐานเช่นว่านั้นเลย ถ้าผมเป็นศาล ผมก็คงต้องถอนฟ้องคุณแน่ๆ 3. ไม่มีหลักฐานเด่นชัด(อย่างที่คุยไว้) เป็นเพียงสมมุติฐานอยู่เลยครับ ยังไม่มีการทดลองพิสูจน์ซ้ำได้(อย่างที่ชอบคุยไว้)ว่าอุกาบาตมีส่วนทำให้เกิดชีวิต ถ้ามีอุกกาบาตลงมาจริงๆ มนุษย์คงหายไปทั้งโลกแล้วล่ะครับ แล้วการทดลองครั้งนั้น ก็ .. มีผลการทดลองว่า เกิดสารตั้งต้นของเนื้อเยื่อเกิดขึ้นแล้ว ซึ่งมีการทดลองซ้ำอีกครั้ง (ไม่ใช่ไม่มี) สรุป เหมือนเดิม แสดงว่า ธรรมชาติสร้างด้วยความ สุ่มเสี่ยง นี่ครับ ไม่เห็นจะมีตรงไหน ที่บอกว่าพระเจ้าเข้ามาสร้างเลย 4. กระบวนการในการสร้างของพระเจ้าอาจทำไปตามนั้น หรือไม่ตามนั้น ก็เป็นได้ครับ เรื่องนี้ก็ไม่สามารถหักล้างการสร้างของพระเจ้าเช่นกัน ทำไมจะหักล้างไม่ได้ล่ะครับ ในเมื่อหลักฐานมันมีอยู่เยอะแยะ 5. ทำไมเมื่อนักวิทยาศาสตร์คาดเดาการเกิดขึ้นของสิ่งๆหนึ่ง โดยที่ยังไม่สามารถทำการทดลองซ้ำเพื่อยืนยันสมมุติฐาน จึงได้ถือเสมือนเป็นเรื่องจริงที่ได้รับการยืนยันตามหลักวิทยาศาสตร์ คาดเดาตรงไหนครับ เค้าทดลองกันในแบบทดลองมาตราฐาน จากคุณ : กระบี่เก้าเดียวดาย - [ 24 มิ.ย. 51 23:24:39 ]

ความคิดเห็นที่ 66 สวัสดีครับคุณกระบี่ ก็มันบอกว่า พระเจ้าไม่ได้สร้างขึ้นมา แต่ธรรมชาติต่างหากล่ะครับ ที่สร้างมันขึ้นมา เพราะตามธรรมชาติของควากส์ที่มีสติงในการสั่นสะเทือน และดึงดูดอะตอมเข้าหากัน และผลักกันในตัวเอง ผมไม่เห็นว่าพระเจ้าจะเข้ามาช่วยในการสร้างตรงไหนเลย ว่าแต่คุณ ksk เถอะ หามาซักทีว่า พระเจ้าสร้างโมเลกุลมาได้ยังไง???? คุณอาจเรียกว่า "มันบอกว่า" แต่ผมเห็นว่าเป็น "การตีความ" ของคุณกระบี่นะครับ ผมก็มีข้อมูลเดียวกันกับคุณกระบี่แหละครับ แต่ "การตีความ" ของผมนั้นกลับพบว่า เป็นการบ่งบอกถึงการออกแบบ เพราะแต่ละสิ่งเป็นอยู่อย่างมีวัตถุประสงค์ ส่วนคำถามว่า พระเจ้าสร้างโมเลกุลอย่างไร ผมไม่ทราบกระบวนการครับ แต่ก็ไม่ได้เป็นเหตุให้ความจริงเปลี่ยนไปได้ หากว่าพระเจ้าสร้างโมเลกุลจริงๆ การปรับตัว? คุณเข้าใจทฤษฎีวิวัฒนาการไหมครับเนี่ย ตอนแรกผมก็เห็นว่าคุณตอบมีหลักการพอดูนะ แต่เอาเข้าจริงๆ คุณก็หาหลักฐานอะไรไม่ได้ ผมอาจอธิบายไม่น่าเชื่อถือ เพราะผมเติบโตมาทางด้านกฎหมาย ไม่ใช่วิทยาศาสตร์ แต่... การจะอ้างอะไรซักอย่าง กฎหมายสอนให้ผมรู้ว่า เราต้องมีหลักฐาน มีพยานมายืนยันหลักฐานนั้น แต่... เท่าที่เห็น ผมไม่เห็นคุณ ksk มีหลักฐานเช่นว่านั้นเลย ถ้าผมเป็นศาล ผมก็คงต้องถอนฟ้องคุณแน่ๆ ผมพอจะเข้าใจทฤษฎีวิวัฒนาการอยู่ครับ ไม่ทราบคุณกระบี่เข้าใจว่าอย่างไรครับ นั่นสิครับ ผู้ก่อการร้ายแถวบ้านผม ทั้งๆที่รู้ว่าคนนี้แหละที่ซุ่มโจมตีเจ้าหน้าที่ แต่ไม่มีพยานหลักฐาน ศาลก็เลยจำต้องปล่อยตัวไป Fact กับ Truth อาจไม่ใช่สิ่งเดียวกันนะครับ ถ้ามีอุกกาบาตลงมาจริงๆ มนุษย์คงหายไปทั้งโลกแล้วล่ะครับ แล้วการทดลองครั้งนั้น ก็ .. มีผลการทดลองว่า เกิดสารตั้งต้นของเนื้อเยื่อเกิดขึ้นแล้ว ซึ่งมีการทดลองซ้ำอีกครั้ง (ไม่ใช่ไม่มี) สรุป เหมือนเดิม แสดงว่า ธรรมชาติสร้างด้วยความ สุ่มเสี่ยง นี่ครับ ไม่เห็นจะมีตรงไหน ที่บอกว่าพระเจ้าเข้ามาสร้างเลย ถ้าคุณกระบี่จะประกาศตัวว่ายึดมั่นกับผลการทดลอง ที่คุณว่ามานั้น ไม่ได้แสดงออกอย่างนั้นเลยครับ เป็นเพียงการคาดเดาจริงๆครับ ทำไมจะหักล้างไม่ได้ล่ะครับ ในเมื่อหลักฐานมันมีอยู่เยอะแยะ หลักฐานว่าอย่างไรครับ หลักฐานวัตถุที่มีอยู่ก็ไม่มีเรื่องไหนที่จะยืนยันเป็น มั่นเหมาะว่า "พระเจ้าไม่ได้สร้าง" นี่ครับ คาดเดาตรงไหนครับ เค้าทดลองกันในแบบทดลองมาตราฐาน คาดเดาสิครับ ดวงอาทิตย์เกิดได้อย่างไร ดวงจันทร์เกิดได้อย่างไร มีการทดลองแบบมาตรฐานด้วยเหรอครับ จากคุณ : ksk - [ 25 มิ.ย. 51 10:34:55 ]

ความคิดเห็นที่ 67 เฮ้อ พอเถอะครับ พูดไปพูดมา ความเชื่อคนละแบบ ตรรกะ ก็ต่างกัน ลงท้ายก็ ไม่ยอมจบๆ กันไปซักที -*- จากคุณ : กระบี่เก้าเดียวดาย - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 12:27:50 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ผมยอมแพ้ก็ได้ ถึงจะขนเอาอะไร ต่อมิอะไรมาให้อ่านกัน ก็คงแค่นั้น เพราะยังไง มันก็คงลงท้ายที่ " พระเจ้า " เหมือนเดิม ใช่้ไหมครับ จากคุณ : กระบี่เก้าเดียวดาย - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 12:29:11 ]

ความคิดเห็นที่ 69 คุณอาจเรียกว่า "มันบอกว่า" แต่ผมเห็นว่าเป็น "การตีความ" ของคุณกระบี่นะครับ *********** ผมก็เห็นว่ามันเป็นการตีความของคุณ ksk เหมือนกันล่ะครับ ว่ามันต้องมีพระเจ้า หรือจะบอกว่าไม่จริง -*- จากคุณ : กระบี่เก้าเดียวดาย - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 12:32:18 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ก่อนจะจากกันไป ผมไม่คิดจะโจมตีหลักคำสอนของศาสนาใดเลยนะครับ เพราะทุกศาสนาสอนให้ทุกคนเป็นคนดี แต่เรื่องกำเนิดโลก หรือสรรพสิ่งเนี่ย ผมว่าปล่อยให้มันเป็นไปตามวิทยาศาสตร์ดีกว่านะครับ อย่าศาสนาพุทธ ผมพูดได้เต็มปากในฐานะพุทธศาสนิกชนเลยว่า " ผมไม่เชื่อเรื่องกำเนิดโลก " (ของพุทธ) เพราะผมเห็นแค่ว่ามันเป็นกุศโลบาย หรือวิธีการอธิบายแบบคนโบราณ ซึ่งมันพิสูจน์ไม่ได้ตามทฤษฎีวิทยาศาสตร์ จุดหักล้างของศาสนาพุทธเองก็มี อยู่หนึ่งจุดเหมือนกัน คือ ศาสนาพุทธบอกไว้ว่า จิตเกิดและดับ ดังนั้นทำไม? นาย A กระทำ ทำไม นาย B ต้องรับกรรมด้วย ซึ่งถ้าศึกษาจริงจังมันก็มีคำตอบ แต่เป็นคำตอบที่กำกวม ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยวิทยาศาสตร์ เพราะมันคือ ศาสนา ไม่ใช่วิทยาศาสตร์ คุณ ksk จะนำมาโจมตีก็ได้ ผมไม่ว่าอะไร แต่สุดท้าย ผมก็เชื่อของผม จริงไหมครับ? แก้ไขเมื่อ 26 มิ.ย. 51 12:46:50 จากคุณ : กระบี่เก้าเดียวดาย - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 12:41:09 ]

ความคิดเห็นที่ 71 เรียนคุณ กระบี่ครับ ผมก็เห็นว่ามันเป็นการตีความของคุณ ksk เหมือนกันล่ะครับ ว่ามันต้องมีพระเจ้า หรือจะบอกว่าไม่จริง -*-   ผมเองเป็นฝ่ายเอ่ยปากไว้ตั้งแต่ คคห 41 แล้วครับ ผู้เชื่อในพระเจ้า "ตั้งธงไว้แล้ว" ว่าพระเจ้ามีจริง การทรงสร้างที่ระบุไว้ในพระคัมภีร์เป็นเรื่องจริง ดังนั้นเรื่องราวทางวิทยาศาสตร์ต่างๆที่ศึกษากัน ล้วนแล้วแต่ทำให้มองเห็นได้ว่าสนับสนุนเหตุผลว่าการทรงสร้างเป็นจริง ส่วนคนที่ไม่เชื่อพระเจ้าก็ "ตั้งธงไว้แล้ว" เช่นกันว่า ไม่มีพระเจ้า จึงพยายามค้นหาคำอธิบายว่า สิ่งต่างๆเกิดขึ้นมาอย่างไร หากว่าตัดคำว่าพระเจ้าออกไปจากระบบความคิด ดังนั้นเรื่องราวทางวิทยาศาสตร์ต่างๆที่ศึกษากัน ล้วนแล้วแต่ทำให้มองเห็นได้ว่าไม่สนับสนุนเรื่องการทรงสร้าง แต่ผมก็ไม่ว่าอะไรนะครับ ต่างคนต่างมอง ไม่รู้ว่าอย่างนี้ตรงกับความหมายที่คุณกระบี่ว่าไว้หรือเปล่าครับ   จากคุณ : ksk - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 14:26:01 ]

ความคิดเห็นที่ 72 (โพสผิดกระทู้  ขออภัย  ^^!) แก้ไขเมื่อ 26 มิ.ย. 51 23:44:51 จากคุณ : PureTruth - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 23:42:13 ]

ความคิดเห็นที่ 73 นั่นล่ะครับ คุณ ksk จบลงดีกว่าเนอะ เพราะผมก็ไม่รู้จะเถียงเอาอะไร อีกแล้ว น่ะ มันไม่ได้อะไรเลย -*- จากคุณ : กระบี่เก้าเดียวดาย - [ 28 มิ.ย. 51 18:03:13 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ยินดีที่มีโอกาสได้แลกเปลี่ยนทัศนะกันครับ จากคุณ : ksk - [ 29 มิ.ย. 51 14:47:46 ]

ความคิดเห็นที่ 75 เข้ามาทดลอง... จากคุณ : ชายยอดนักทดลอง - [ 29 มิ.ย. 51 19:18:03 ]