ความคิดเห็นที่ 13
นอกจากนั้นในงาน Open Day ของกองทัพอากาศมาเลเซียยังเป็นงานที่กองทัพอากาศมาเลเซียใช้เปิดตัวระบบอาวุธที่ใช้กับ Su-30MKM ซึ่งรวมถึงจรวด Kh-31, Kh-29, Kh-59, กระเปาะสื่อสาร APK-9 จากบริษัท Thales, และกระเปาะชี้เป้าด้วยเลเซอร์แบบ Damocles ของฝรั่งเศส
อ้างอิงจาก Stockholm International Peace Research Institute (SIPRI) ซึ่งกล่าวว่ากองทัพอากาศมาเลเซียสั่งซื้อจรวดนำวิถีต่อต้านการแพร่คลื่นเรด้าห์แบบ Kh-31P จำนวนหนึ่ง, จรวดนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยกลางแบบ R-27 จำนวน 150 นัด, จรวดนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยใกล้แบบ R-73 จำนวน 150 นัด, และ จรวดนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยกลางแบบ R-77 จำนวน 150 นัด ในปี 2007 รัสเซียได้ส่งมอบ Kh-31P จำนวน 12 นัด, R-27 จำนวน 50 นัด, R-73 จำนวน 50 นัด, และ R-77 จำนวน 50 นัด
กองทัพอากาศมาเลเซียวางแผนที่จะจัดตั้งฝูงบินขับไล่จำนวน 6 ฝูงภายในปี 2025 ซึ่งปัจจุบันมี F/A-18D 1 ฝูง และ Su-30MKM 2 ฝูง (ยังไม่รวม MiG-29N จำนวน 2 ฝูงที่อนาคตไม่แน่นอน ทั้งนี้กองทัพอากาศมาเลเซียจัดเครื่องบิน 8 - 9 ลำใน 1 ฝูงบิน - Skyman ผู้แปล) โดยเจ้าหน้าที่ของกองทัพอากาศมาเลเซียกล่าวอยู่เสมอว่า F/A-18F Super Hornet จะเป็นตัวเลือกอันดับแรก
อย่างไรก็ตามการเข้าประจำการของ Su-30MKM เป็นการวางรากฐานของระบบการดูแลรักษาเครื่องบินอีกระบบหนึ่ง (ซึ่งแตกต่างจากระบบของ F/A-18D - Skyman ผู้แปล)
ข้อจำกัดของเครื่องบินขับไล่ฝูงใหม่คืองบประมาณ, ความสัมพันธ์ระหว่างมาเลเซียและสหรัฐ, แผนงานและความต้องการในการปฏิบัติการของกองทัพอากาศมาเลเซียในอนาคต, และการซ่อมบำรุงเครื่องบินจากรัสเซียและสหรัฐ โดย Su-30MKM มีระยะรับประกันเพียง 1 ปี และหลังจากนั้นมาเลเซียต้องดูแลเครื่องบินด้วยตัวเอง ทำให้เรายังไม่รู้ถึงผลของการตัดสินใจเลือกแบบจนถึงนาทีสุดท้าย
8. จรวดนำวิถีด้วยกล้องโทรทัศน์แบบ Kh-29
จากคุณ :
Skyman (Analayo)
- [
23 มิ.ย. 51 13:33:01
]
|
|
|