ความคิดเห็นที่ 1 กระทู้วิทยาศาสตร์จะลบทำแป๊ะไรไม่ทราบครับ(ถามคนกดลบ) ทีกระทู้นอกเรื่องเป็นกะตั้กข้างล่าง ดันไม่ลบ **************************************** ตอบ จขกท. เดี๋ยวผมขอไปหาก่อนนะครับว่ามีรายละเอียดไหม จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!! - [ 2 ก.ค. 51 13:44:50 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เข้ามาดูเพราะไฟแดงครับ ใจความเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์แท้ๆเลย Melting Point ของตะกั่ว(Lead, Pb)อยู่ที่ 327oC Melting Point ของดีบุก(Tin, Sn)อยู่ที่ 232oC Melting Point ของพลวง(Antimony, Sb)อยู่ที่ 630oC ต้องแยกบ่อหลอมครับ จากคุณ : palermos - [ 2 ก.ค. 51 13:54:27 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ^ ^ ^ จริงๆครับ งงเหมือนกันครับคุณDigiTaL-KRASH!!! ไฟแดงทำไม? แก้ไขเมื่อ 02 ก.ค. 51 13:57:58 จากคุณ : boylovemusic - [ 2 ก.ค. 51 13:55:08 ]

ความคิดเห็นที่ 4 คนกดไฟแดงก็อ่านเนื้อความหน่อยนะครับ ไม่ใช่ว่าอ่านไม่จบแล้วก็กด... จากคุณ : palermos - [ 2 ก.ค. 51 14:07:10 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ผมพบสิทธิบัตรเกี่ยวกับ alloy ของ lean-tin-antimony ครับ Patent number: 4975244 Filing date: Oct 5, 1989 Issue date: Dec 4, 1990 Inventors: Shraga Dirnfeld, Jean Ramon Assignee: Technion Research & Development Foundation Ltd. http://www.google.com/patents/pdf/Non_ferrous_soft_soldering_lead_tin_anti.pdf?id=K8wnAAAAEBAJ&output=pdf&sig=ACfU3U0YmxkbmrRtLErfEfCAhKrqQ7bG1g แต่ความคิดเห็นส่วนตัว ผมคิดว่าน่าจะพยายามเอาตะกั่วออกไปจากเครื่องประดับนะครับ เพื่อความปลอดภัยของทุกๆ คน จากคุณ : ped cad - [ 2 ก.ค. 51 14:18:48 ]

ความคิดเห็นที่ 6 จากประสบการหลอม เพื่อแยกตะกั่ว และเศษตะกอน ให้เอาเผ่งซึงใส่ จากนั้นก็ใช้เหล็กเหนียวเส้น เขี่ยหน้า ขยะจะมารวมกันเป็นก้อนแล้วช้อนออก ก่อนที่จะเอาน้ำเหล็กเข้าเครื่องเหวี่ยงอีกรอบ จากคุณ : ~ก้านกฤษณา~ - [ 2 ก.ค. 51 15:10:12 ]

ความคิดเห็นที่ 7 นั่นดิ .. ไม่เป็นวิทยาศาสตร์ตรงไหนอะ ถ้าไม่ถามห้องนี้ แล้วจะให้ จขกท. ไปถามห้องไหนเหรอครับ ราชดำเนิน, ห้องสมุด, สยาม หรือ ไร้สังกัดดีครับ ? จากคุณ : เตยทะเล - [ 2 ก.ค. 51 15:12:20 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณทุกคนมากค่ะ พอกลับมากระทู้ก็งงๆ ว่าเกิดไรขึ้น คุณpalermosคะ คือว่ามันต้องไปต้มในบ่อเดียวกันน่ะค่ะ ทั้งตะกั่วแท่ง ดีบุกและพลวง ก็เลยไม่แน่ใจว่าอุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุดนั้นคือจุดไหน เช่นว่า สัดส่วนเป็นดังนี้คือ ตะกั่ว 80/ และดีบุกกะพลวงรวมกันประมาณ 20%เนี่ย จุดไหนจะพอดีคะ ถ้าไม่ทราบก็ไม่เป็นไรค่ะ แค่นี้ก็ขอบคุณทุกความเห็นมากแล้วค่ะ จากคุณ : จขกท (BowlKris) - [ 2 ก.ค. 51 15:29:20 ]

ความคิดเห็นที่ 9 อะไรคือเผ่งซึงคะ คุณก้านกฤษณา รบกวนอธิบายละเอียดกว่านี้ได้ไหมคะ สนใจค่ะ แก้ไขเมื่อ 02 ก.ค. 51 15:35:42 จากคุณ : จขกท (BowlKris) - [ 2 ก.ค. 51 15:31:00 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ผมไม่มีความรู้เรื่องนี้เท่าไร แต่กำลังคิดว่า ตะกั่วที่ จขกท ใช้นั้นมีความบริสุทธิ์สูงแค่ไหน และเตาที่ใช้นั้น เขาต้องมีการทำความสะอาดบ้างหรือเปล่าครับ เพราะปัญหาขี้ตะกั่ว บางทีอาจเกิดเพราะสิ่งสกปรกที่ปนมาจากการหลอมในรอบก่อน และคุณภาพของวัตถุดิบที่เราเอาเข้ามาหลอมก็น่าจะเป็นไปได้นะครับ คิดๆอยู่ครับ รอผู้รู้วงการโลหะวิทยา (อ.โลหการ 4 น่าจะรู้) มาตอบจะดีกว่าครับ จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!! - [ 2 ก.ค. 51 15:50:41 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณค่ะ คุณ DigiTal-KRASH ตะกั่วที่ใช้นั้นเป็นตะกั่ว 99.99% ค่ะ การทำความสะอาดเตานั้น ไม่ทราบว่าต้องใช้น้ำยาอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าคะ ขอบพระคุณค่ะ จากคุณ : จขกท (BowlKris) - [ 2 ก.ค. 51 16:04:27 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เผ่งแซ หรือ เผ่งซึงที่ท่านอื่นว่า คือบอแรกซ์ครับ หาซื้อได้ตามร้านเครื่องมือช่างทอง แถบบ้านหม้อ ไม่สะดวกก็เป็นแถว ๆ ตึกวอร์นเนอร์แถว ๆ มเหสักข์ สีลมได้ จากคุณ : Capo - [ 2 ก.ค. 51 16:30:37 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เราเคยทำงานในโรงงานอิเลคทรอนิค  ใช้ตะกั่วบัดกรี หลอมที่อุณหภูมิ 250 องศา กากตะกั่ว คือ ตะกั่วออกไซด์ ตะกั่วมันทำปฏิกริยากับออกซิเจนในอากาศ   ในยุคนั้น แก้ไขโดยใช้ น้ำมัน(ที่ทนอุณหภูมิสูงได้) หล่อบนผิว น้ำมันปาล์ม น้ำมันถั่วเหลืองก็เคยทดลอง  ราคาถูก พอใช้ได้ น้ำมันที่เขาทำมาขายสำหรับงานนี้โดยเฉพาะ มันแพงมาก จากคุณ : sb*star - [ 2 ก.ค. 51 18:23:09 ]

ความคิดเห็นที่ 14 .... จากคุณ : DR บ๊อง - [ 2 ก.ค. 51 18:42:12 ]

ความคิดเห็นที่ 15 น่าจะต้องมีสารที่ทำหน้าที่เป็น flux ซึ่งจะคอยป้องกันออกซิเจนทำปฏิกิริยากับโลหะ และช่วยกำจัดออกไซด์นั้นๆ ออกไป เช่น จับตัวกับออกไซด์แล้วเกิดสารใหม่ลอยขึ้นมาให้เขี่ยออกง่ายๆ เท่าที่รู้มันน่าจะมีขายสำเร็จ นะครับ แต่ผมไม่เคยใช้ ที่เคยใช้กันก็คืองานบัดกรี แต่ไม่ทราบว่าจะเอาฟลักซ์งานบัดกรีมาใช้งานนี้ได้หรือเปล่า จากคุณ : NaCl - [ 2 ก.ค. 51 19:02:48 ]

ความคิดเห็นที่ 16 สวัสดีครับ ผมว่าเครื่องประดับเทียมที่คุณทำ ต้องการหลอมโลหะ แล้วเอาไปทำสีอีกครั้งหนึ่งใช่มั๊ย ผมสงสัยอยู่ว่า คุณจำเป็นต้องใช้พลวงด้วยหรือครับ ในเมื่อถ้าคุณใช้ตะกั่ว60ดีบุก40 ซึ่งสัดส่วนนี้ เป็นสัดส่วนตะกั่วบัดกรี เฉียดๆ Eutectic ซึ่งมีจุดหลอมเหลวที่ราว 190 องศาเซลเซียสเท่านั้นเอง ซึ่งความสามารถในการไหล(Fluidity) ของมันเอง และอัตราการเย็นตัวcoolong rateก็ใช้ได้นะครับ และแข็งอีกต่างหากเมื่อเย็นแล้ว ลองเปลี่ยนตะกั่วใหม่ เป็นตะกั่วผสมสูตรนี้น่าจะดีกว่านะครับ ยกเว้นว่ายังไงก็จะผสมพลวงให้ได้ เดี๋ยวผมขอวิเคราะห์ก่อนนะ จากคุณ : โลหการ4 - [ 2 ก.ค. 51 19:40:25 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เข้ามาตอบอีกรอบ เผ่งแซ คือ บอแรกซ์  ใช้ผสมอาหารนั่นแหละครับ เผ่งซึง คือ บอริกซ์ ใช้ในอุตสาหกรรมเคมี หาซื้อได้ตามร้านเคมี ย่านวัดตึกทั่วไป  สารชนิดนี้ รู้จักกันดีในวงการทำเครื่องประดับ โดยเฉพาะทองคำ และเงิน กล่าวคือ ใช้สำหรับแยกเอาตะกอน และสิ่งสกปรกจากวัตถุแร่ที่ทำการหลอม ออกมา  เพื่อให้ได้น้ำแร่ ที่มีความใส เวลาเทจะเป็นเนื้อเดียวกัน หลักการในการใช้ เพื่อแยกกากโดยเฉพาะ ขี้ตะกั่วที่คุณบอกมา โดยทำการซัดเผ่งซึงปริมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักแร่ จากนั้นใช้เหล็กยาวแหลมคนบริเวณผิวหน้า  เผ่งซึงจะเกิดการเดือดและจับตัวรวมกันเป็นก้อน จากนั้นทำการเคาะออก ทำแบบนี้จนกว่าจะใสครับ ตอนนี้มืดแล้ว  พอจะมีเศษเผ่งซึงที่ทำการเขี่ยออก แต่ต้องขอติดไว้ตอนเช้าครับ จากคุณ : ~ก้านกฤษณา~ - [ 2 ก.ค. 51 20:25:01 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณมากค่ะทุกคน คุณโลหการ4 คะ ขั้นตอนการทำเครื่องประดับ คือว่า นำส่วนผสมตะกั่วแท่ง+ดีบุก+พลวง ลงต้มในเตาเพื่อให้ละลายแล้วเทเข้าเครื่องเหวี่ยงค่ะ จากนั้นพอเหวี่ยงเสร็จได้เป็นชิ้นงาน ก็จะนำไปชุบทองค่ะ แล้วก็มีการลงสีบ้าง (แล้วแต่ชิ้นงาน)ค่ะ ส่วนผสมหลักจะเป็นตะกั่วซักประมาณ70%ได้ค่ะดีบุกและพลวงเป็นสัดส่วนที่ใกล้เคียงกันค่ะ แต่พลวงน้อยกว่า สำหรับบางชิ้นงานก็อาจจะไม่ผสมพลวง (จะผสมพลวงเฉพาะชิ้นงานที่ดูแล้วต้องการความแข็งแรงค่ะ) ดิฉันลองสอบถามคนงานดูค่ะ เค้าบอกว่าในบ่อต้มนั้นจะผสมเพียงแค่ 3 ตัวนี้เท่านั้น ที่อุณหูมิตั้งไว้ 500 ไม่เกิน 700 องศา เพราะต้องการให้เหลวและเหวี่ยงได้ง่ายขึ้น ส่วนตัวดิฉันคิดเองว่าจากความคิดเห็นด้านบน บอกว่าจุดหลอมเหลวนั้นต่ำกว่ามาก...ดิฉันคิดว่าน่าจะเซ็ทไว้ที่ 350 น่าจะพอแล้วค่ะ แต่ก็ไม่กล้าเพราะดิฉันเพิ่งเข้ามาช่วยที่โรงงานคุณพ่อได้ไม่นานค่ะ.... 1. การที่เกิดขี้ตะกั่วลอยขึ้นมาเยอะ เป็นไปได้ไหมคะว่าจะเกิดจากการที่ตั้งอุณหภูมิ สูงเกินไป ทำให้เกิดการเผาไหม้ที่เกินความจำเป็น ยิ่งตะกั่วในบ่อลดลง แต่อุณหภูมิยังคงเดิมยิ่งทำให้ไหม้ง่าย... 2. การล้างบ่อ ต้องทำบ่อยแค่ไหน และใช้เคมี หรือว่าน้ำเปล่าล้างได้เลยคะ 3. มีการที่นำเศษตะกั่วที่เหลือจากการตัดชิ้นงานมาใส่ในบ่อต้มเพื่อให้เหลวอีกรอบ จะมีความเกี่ยวเนี่องมากแค่ไหนกับการที่ทำให้มีขี้ตะกั่วมากขึ้น รบกวนด้วยค่ะ ป.ล. ขอบพระคุณทุกความคิดเห็นมากๆเลยนะคะ ไม่คิดเลยว่าจะมีคนมาให้ความรู้มากขนาดนี้ค่ะ ส่วนเผ่งแซ ไม่ทราบว่าจะต้องใช้ตอนไหน ผสมลงไปในบ่อได้เลยหรอคะ..แอบงงเล็กน้อยค่ะ เพราะว่าจากเท่าที่สอบถามคนงาน เค้าบอกว่าพอในบ่อเดือดมากๆ ก็จะตักขี้ตะกั่วที่ลอยเป็นชั้นๆออกทิ้ง และพอแห้งก็นำไปขายเป็นขี้ตะกั่วค่ะ จากคุณ : จขกท (BowlKris) - [ 3 ก.ค. 51 08:52:57 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ถึงภาษาที่คุยกันจะดูบ้านๆๆๆแต่เนื้อความนี่..วิทย์ล้วนๆๆ...ถ้าเด็กๆๆได้มาอ่าจะนึกภาพออก...ทำไมกระทู้นี้ไม่เป็นวิทยาศาตร์ตรงใหน.....คนที่กดไฟแดงช่วยมาแจงเหตุผลด้วย... ปล.ผมคาใจมากกับไฟแดงของกระทู้แบบนี้... แก้ไขเมื่อ 03 ก.ค. 51 14:16:40 จากคุณ : ราเชนต์นักรัก - [ 3 ก.ค. 51 14:15:44 ]

ความคิดเห็นที่ 20 คุณ BowlKris ครับ ใจจริงแล้วผมอยากช่วยมากๆเลยนะครับ แต่ว่ามันขัดความรู้สึกผมไปนิดนึงที่ว่า คุณหลอมตะกั่วเพื่อใช้เป็นเครื่องประดับ ซึ่งจริงๆแล้วเป็นอะไรที่อันตรายมาก ถ้าทองที่เคลือบมันบางลงเมื่อไหร่ ตะกั่วก็จะหลุดออกมาสัมผัสผู้ใส่ มีความเสี่ยงกับการเป็นโรคต่างๆมากมาย (เวลาบัดกรี ก็อย่าสูดใกล้ๆ แต่ออกมาน้อย เวลาเป็นไอเนี่ย) ผมรู้สึกได้ว่าคุณเป็นคนสมัยใหม่ มีวิสัยทรรศน์กว้างไกล อย่าดำเนินรอยตามคุณพ่อเลยครับ มาเลือกใช้อะไรที่ปลอดภัยกว่านี้ดีกว่า ผมคิดว่าคุณพ่อคงไม่ทราบว่าตะกั่วมันอันตรายมาก จริงๆแล้วตอนนี้ ผู้คนก็ทยอยกันเลิกใช้ไปเรื่อยๆแล้ว RoHS ก็บังคับให้ตัวเชื่อมบัดกรีทั้งหมดไม่มีตะกั่วเป็นส่วนผสม บริษัทสีใหญ่ๆก็ไม่ใช้ตะกั่วแล้ว ยังมีโลหะอีกหลายตัวครับ ที่ราคาถูกและหนักพอสมควร ที่นำมาใช้แทนตะกั่วได้ จากคุณ : อ โลหการ มาเอง - [ 3 ก.ค. 51 14:43:26 A:64.62.138.101 X: TicketID:180579 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เห็นด้วยกะ #20 อ่ะ เอาตะกั่วออกเถอะ ป่านนี้คนทั้งบ้านของเจ้าของกระทู้สูดดมไอตะกั่ว ไปเท่าไรแล้วก็ไม่รู้ จากคุณ : Canossa - [ 3 ก.ค. 51 17:45:26 ]

ความคิดเห็นที่ 22 Melting Point ของตะกั่ว(Lead, Pb)อยู่ที่ 327oC Melting Point ของดีบุก(Tin, Sn)อยู่ที่ 232oC Melting Point ของพลวง(Antimony, Sb)อยู่ที่ 630oC ถ้ารู้ว่า พลวง ร่วมกับอะไร แล้วทำให้ mp ลดลง น่าจะ ตอบโจทย์ นี้ได้   อาจทำเป็นสารประกอบ ของ Sb กับอะไรสักอย่าง แล้วทำให้ mp ลดลง หลังจากนั้นจึงนำมาผสมกับ สองตัวแรก อย่างนี้น่าจะได้ผลดีกว่า การเผาโลหะในห้องเปิด จะทำให้เกิดการ Oxidize ง่ายมาก อาจต้อง ทำให้ห้องที่เผานั้นปิดสนิท หรือไม่ก็ ลองใช้ N2 เติมลงไป ในห้องเผา อาจทำให้บรรยากาศในห้องเผามี O2 ลดลง แต่ไม่รู้ว่าคุ้มค่าหรือปล่าว ห้องเผา หมายถึง melting chamber นะครับ ไม่ได้หมายถึงว่า เป็นห้องจริงๆ อีกอย่างหนึ่ง ถ้ายังทำอะไรไม่ได้มาก น่าจะอุ่น Sb ให้ละลายก่อน แล้วจึงอุ่น Pb กะ Sn เข้าด้วยกัน แล้วนำไปเทลงใน Sb คนหรือวนให้เข้ากัน หลังจากนั้น จึงค่อยเทลงในเครื่องเหวียง การตั้งเกณฑ์ หรือข้อกำหนดไว้เบื้องต้นว่า ต้องหลอมทุกอย่าง ให้พร้อมกันนั้น ไม่เป็นวิธีการที่ดี ในทางอุตสาหกรรม เพราะไม่มีเหตุผลสนับสนุนเพียงพอ รังแต่จะทำให้วัสดุสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ จากคุณ : น้าพร - [ 3 ก.ค. 51 21:41:14 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ลองทำ process เป็นดีบุก + ทองแดง(สองสามเปอร์เซนต์) + พลวง ดูนะครับ น่าจะปลอดภัยกว่าเยอะ ปล. สูตรมาจาก Lead Free Solder Wire หลอมเหลวที่อุณหภูมิ 250 C เอาตะกั่วออกจาก process ไปเลยครับ อันตรายทั้งคนทำทั้งคนใส่ ครับ จากคุณ : NaCl - [ 4 ก.ค. 51 11:24:19 ]