ความคิดเห็นที่ 1 ไฟล์ที่แนบมา http://upload.bluegy.com/show.php?75e19325ba1f6277420f84e622cfae29.jpg แก้ลิงค์ละครับ พอดีรูปใหญ่ ขึ้นพันทิพไม่ได้น่ะครับ แก้ไขเมื่อ 06 ก.ค. 51 12:10:14 จากคุณ : Sir.ขงเบ้ง - [ 6 ก.ค. 51 00:35:22 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ชัดเจนครับ คราวนี้จะมีอะไรแรงๆ ที่ใช้ได้ง่ายๆ แบบที่ว่ากันอีกไหม คงจะช่วยเอา"ยา"ออกจากหัวกันได้บ้าง ขอบคุณครับ จากคุณ : เข็มแม่เหล็ก - [ 6 ก.ค. 51 01:09:20 A:203.107.202.226 X: TicketID:175673 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 6 ก.ค. 51 01:22:10 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณสำหรับรายละเอียดค่ะ จากคุณ : CutieAngel - [ 6 ก.ค. 51 01:52:35 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณมากครับ เยี่ยมจริงๆ จากคุณ : 76 (KuMp) - [ 6 ก.ค. 51 02:08:56 ]

ความคิดเห็นที่ 6 อืม..กระทู้นี้ขอยาวๆนะครับ..เพื่อมวลชน.. น่าคิด ๆ จากคุณ : หาตัวเองไม่เจอ.. (หาตัวเองไม่เจอ) - [ 6 ก.ค. 51 02:22:58 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ครับ . . . จากคุณ : ไม่มีสมาชิกชื่อนี้ - [ 6 ก.ค. 51 02:25:10 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ลิงค์ #1 ตายแล้วครับ ถ้าเซฟรูปไว้ รบกวนอัพขึ้นพันทิปนะครับ จากคุณ : noraneko - [ 6 ก.ค. 51 02:40:50 ]

ความคิดเห็นที่ 9 . รับทราบครับ... . จากคุณ : AbsolutelyTop - [ 6 ก.ค. 51 04:12:26 ]

ความคิดเห็นที่ 10 โหวตแล้วนะครับ จากคุณ : บ่าวจ่อย - [ 6 ก.ค. 51 06:21:35 ]

ความคิดเห็นที่ 11 N เนี้ย เนบูล... อะไรสักอย่างหรือเปล่าครับ ยาสลบสัตว์ มันต้องใช้ฉีดนิครับ ปริมาณที่ใช้มันต้องคำนาณต่อน้ำหนักตัวด้วยนิครับ- - จากคุณ : taecu - [ 6 ก.ค. 51 08:51:04 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ... จากคุณ : iamnid - [ 6 ก.ค. 51 09:06:16 ]

ความคิดเห็นที่ 13 อ่านแล้วอย่างรู้ราคาครับ ว่าราคาต่อ cc มันเท่าไหร่กันเหรอครับ แรงมาก ๆ ใช้เป็นอาวุธได้ลย จากคุณ : MAX - [ 6 ก.ค. 51 09:44:40 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เอาไป หนึ่งโหวต จากคุณ : ginosty - [ 6 ก.ค. 51 11:00:43 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณครับ จากคุณ : seto16 - [ 6 ก.ค. 51 11:05:48 ]

ความคิดเห็นที่ 16 หวังว่าผู้ที่หลงเชื่อ fw mail จะเปิดใจรับฟังข้อมูลทางวิชาการกันบ้าง ไม่ใช่เอะอะก็แช่งฝ่ายที่ไม่เชื่อว่า ระวังเจอกับลูกเมีย อย่างเดียว จากคุณ : ....4จุด - [ 6 ก.ค. 51 12:04:28 ]

ความคิดเห็นที่ 17 vote เนอะ จะได้เข้าใจให้ตรงกัน จากคุณ : Cryptomnesia - [ 6 ก.ค. 51 15:44:48 ]

ความคิดเห็นที่ 18 แจ่มแจ้งค่า +1 จากคุณ : Ezel - [ 6 ก.ค. 51 19:24:29 ]

ความคิดเห็นที่ 19 Vote !! จากคุณ : อ้ายคนเมือง - [ 6 ก.ค. 51 19:33:45 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ถ้าแบบสูดดมแล้วมึนยังพอเชื่อว่ามีได้มากกว่าสลบทันทีนะครับ   เอ่...แต่ในหนังไทยผมเห็นยังมีสร้างเป็นตัวอย่างอยู่นะครับ เขาไปเอาข้อมูลมาจากไหน จากคุณ : รอยกาล - [ 6 ก.ค. 51 19:48:46 ]

ความคิดเห็นที่ 21 งั้น หมอแมวเหมียวก็ยังมีกะตังค์ต่อไป และหมอเจ ก็ไม่ได้รถใหม่ 555555 (แอบหัวเราะ หมอเจไม่ได้รถใหม่55555) โหวตให้คร้าบบบ จากคุณ : PUMPKINbig - [ 6 ก.ค. 51 19:50:44 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ทดสอบรูปปป ขออภัยถ้ามีคนแก่สายตาสั้นมาดูนะครับ อิ อิ แก้ไขเมื่อ 06 ก.ค. 51 19:59:49 จากคุณ : PUMPKINbig - [ 6 ก.ค. 51 19:58:48 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เป็นไปได้ไหมครับที่อาจไม่ใช่การป้ายยาสลบ แต่อาจเป็นการป้ายยาชาตรงผิวหนังบริเวณนั้น แล้วจึงแอบแทงเข็มยาสลบเล่มเล็กๆเข้าไป จากคุณ : Azure_Mile - [ 6 ก.ค. 51 20:16:32 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบคุณมากค่ะ ว่าแล้วก็ 1 โหวต จากคุณ : ศรีธนา - [ 6 ก.ค. 51 20:47:07 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ดีครับ สงสัยมาบ้าง หายสงสัยแล้ว +1 โหวต จากคุณ : นายพุงโต - [ 6 ก.ค. 51 20:54:13 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ที่ต้องคิดไปด้วยกันคือ การใช้สารเคมีเฉพาะทางแบบนี้ ต้องใช้โดยผู้เชี่ยวชาญ คงไม่มีผู้เชี่ยวชาญ มาลงมือทำงาน เพื่อหวังสร้อยแหวนนาฬิกา หรือกดเงินคราวละหมื่นครึ่งหมื่นกระมัง จากคุณ : เข็มแม่เหล็ก - [ 6 ก.ค. 51 20:54:25 A:203.107.202.129 X: TicketID:175673 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ภาพปริ้นมาจาก http://en.wikipedia.org/wiki/Etorphine อ่านที่นี่ก็ได้ครับ อ่านง่ายกว่า จากคุณ : noraneko - [ 6 ก.ค. 51 21:30:16 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ง่ายๆ ว่า ตัวยาสลบช้าง มีฤทธฺ์ ตาย ก่อนสลบ จากคุณ : IRQ5 - [ 6 ก.ค. 51 22:04:14 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ตอนที่เขาพูดถึงยาสลบช้างนี่อย่างแรกที่ผมนึกก็คือ "เขาเอายาสลบไปทาตัวช้างเหรอฟะ" จากคุณ : Munch - [ 6 ก.ค. 51 22:11:39 ]

ความคิดเห็นที่ 30 อืม มารับทราบข้อมูล ขอบคุณค่ะ จากคุณ : atihasita - [ 6 ก.ค. 51 22:40:25 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ^^ จากคุณ : pattapon - [ 6 ก.ค. 51 22:58:00 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ส่วนใหญ่ที่ได้ยินมา เหยื่อที่โดนป้ายยา จะมีอาการ มึนงง นิ ไม่ได้สลบเลยซะหน่อย เมื่อไหร่จะจับคนทำจริงๆ ได้ซะทีหว่า เผื่อว่า มันมีเทคนิคอื่นๆ แอบแฝงอยู่อีก อยากรู้เหมือนกัน จากคุณ : ปฏิจจสมุปบาท (ปฏิจจสมุปบาท) - [ 6 ก.ค. 51 23:22:11 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ^ ^ ^ ^ ^ "เมื่อไหร่จะจับคนทำจริงๆ ได้ซะทีหว่า" ผมว่านี่แหละมั้งครับคือ Keyword ที่ทำให้เรื่องนี้มันยังไม่น่าเชื่อถือ เพราะไม่ยักกะมีข่าวเลยว่าจับแก๊งที่ทำแบบนี้ได้ จากคุณ : Skyman (Analayo) - [ 6 ก.ค. 51 23:25:48 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ขนาดฉีดเข้าร่างกาย ยังต้องใช้เวลาครู่หนึ่ง ถึงจะออกฤทธิ์ แล้วถ้าป้ายตามร่างกายที่มีความสามารถในการดูดซึมต่ำแทบจำที่สุดของร่างกาย ต่อให้ป้ายทั่วตัว ก็คงอาจจะต้องใช้เวลาสักพักใหญ่ๆเหมือนกันถึงจะเห็นผล หรือมันอาจจะไม่เห็นผลเลยก็ได้ จริงๆแค่อ่านแล้วคิดตามว่า คนป้ายทำยังไงให้ไม่สลบนี่ก็น่าจะสงสัยได้แล้วนะว่ามันจะมียายังงั้นจริงเหรอ จากคุณ : หมูกระเทียม+ไข่ดาว - [ 7 ก.ค. 51 02:04:48 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ^ ^ ^ --- เห็นด้วยกับเสี่ยโย ครับ ^o^ จากคุณ : myth - [ 7 ก.ค. 51 02:05:10 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ที่จับไม่ได้ก็เพราะมันไม่มีคนที่ทำแบบนั้นได้จริงๆไงครับ ส่วนใหญ่ก็พวกแก็งตกทอง เวลาโดนจับ ก็จะโดนข้อหาหลวกหลวง ฉ่อโกง ไม่ได้โดยข้อหา "ป้ายยา" เฮอๆ จากคุณ : kanoomtan - [ 7 ก.ค. 51 06:13:46 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ยาสลบแรด ใช้กับคนได้ เช่นฮันมะ ยูจิโร่ หรือมันไม่ใช่คน จากคุณ : AW Milan - [ 7 ก.ค. 51 07:49:45 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ....ตกลง ตัวยาที่ใช้กับช้างนี้  เขาป้าย  หรือ ฉีด  กันแน่คะ ..ขอโทษนะคะ   งง  จริ งๆ  ......*-*......... จากคุณ : ช่อเอี้อง - [ 7 ก.ค. 51 09:01:23 ]

ความคิดเห็นที่ 40 โหวตและขอเก็บไว้ในคลังกระทู้ด้วยนะคะ.. ขอบคุณคะ... จากคุณ : จิ้งจอกสาวฝึกหัด - [ 7 ก.ค. 51 09:27:28 ]

ความคิดเห็นที่ 41 มีเรื่องจะเล่าให้ฟัง เช้าๆ แบบนี้นะค่ะ เมื่อวานตอนเย็นๆ เพื่อนหญิงมาร้องไห้ฟูมฟายให้ฟัง ว่าแฟนตัวเองมาบอกเลิก เหตุผลเพราะ เขาจะไปอยู่กับหญิงอื่น เพื่อนบอกว่า ผู้หญิงคนนั้นไม่สวยเลยเทียบกับเธอแล้วไม่มีอะไรสู้ได้ อ้วนก็อ้วน มีคนบอกว่าผู้หญิงคนนั้น ตัดเศษเสื้อผ้าที่เธอใส่ต้มน้ำให้แฟนของเพื่อนกิน.. (แอบ) เพื่อนเรา จบป.ตรี วิทยาศาสตร์ กำลังต่อโทอยู่อีกต่างหาก โอ้ว พระเจ้า เธอเชื่อเรื่องนี้ เธอให้เหตุผลว่า ไม่งั้นแฟนเธอจะทิ้งเธอไปได้อย่างไร ในเมื่อเทียบกันแล้ว เธอเหนือกว่าเห็นๆ พูดจบเธอก็ร้องไห้ต่อ คนกำลังเศร้า คนกำลังเสียใจ คนกำลังสูญเสีย เชื่อทุกอย่างเลยจริงๆ ว่าแต่ว่า มันเกี่ยวอะไรกับกระทู้นี้ไหมเนี่ย.. จากคุณ : primjang - [ 7 ก.ค. 51 09:49:02 ]

ความคิดเห็นที่ 42 #38 ยูจิโร่ เป็นสัตว์ประหลาดครับ  - -* ทู้นี้โหวต... อย่างที่หลายๆ คนเคยบอก พวกที่เชื่อ จะโดน แต่ถ้าไม่เชื่อ จะไม่โดน... จากคุณ : vn, man - [ 7 ก.ค. 51 11:04:09 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ได้อ่านกันมั๊ยเนี่ย  >>>  Veterinary-strength etorphine is fatal to humans; one drop on the skin can cause death within a few minutes แปลว่า ความรุนแรงการออกฤทธิ์ของ อีตอร์ฟีน นั้นถึงตาย ในมนุษย์ เพียงหนึ่งหยดบนผิวหนัง สามารถทำให้ถึงตายในไม่กี่นาที ถ้าเจือจางในตัวทำละลายมากๆ เช่น 1:100 น่าจะทำให้มีผล แต่ไม่ถึงกับสลบ  และหากผู้ใช้ มียาแก้พิษ หรือใช้ถุงนิ้วในการป้ายยา หรือ ใช้วัสดุคล้ายกาวทานิ้วเคลือบไว้ก่อน  น่าจะใช้กันการโดนพิษเข้าหาตัวเองได้ จากคุณ : NaCl - [ 7 ก.ค. 51 11:19:00 ]

ความคิดเห็นที่ 44 #43 มันมียาแก้่พิษแบบกินกันไว้ก่อนได้ด้วยหรือครับ? ฉีด antidote กันได้ด้วยหรือ แล้วการใช้กาวหรือขี้ผึ้งเคลือบผิวเพื่อป้องกันโดนเอง ผมว่ามันไม่ 100% มีความเสี่ยงสูงที่จะโดนตัวเอง ส่วนใส่ถุงมือคงไม่ใช่ เพราะไอ้ที่เขาเล่าต่อๆกันมาทั้งหมด ไม่มีใครพูดถึงถุงมือเลย ทั้งๆที่น่าจะเป็นที่สังเกตได้ง่าย เพราะบ้านเราปกติคงไม่มีใครใส่ถุึงมือไปเดินถนน ถึงจะเป็นแค่ถุงนิ้วมันก็ยังสังเกตได้ชัดครับ ถ้าบอกว่าเอายาหม่องป้ายให้มึนๆ แล้วใช้เทคนิคทางจิตวิทยาธรรมดาๆ หลอกเอาของอีกทีแบบพวกตกทอง อันนี้ยังฟังดูสมจริง แต่ไอ้เรื่องเล่าที่เขาว่า โดนป้ายแล้วยอมเขาทุกอย่าง เพียงแค่บอกให้ถอดสร้อยถอดแหวน ไม่ได้พูดชี้นำชักชวนอะไรอย่างอื่นเลย อันนี้ผมว่ายาสลบมันก็ไม่ได้มีผลขนาดนั้นนะครับ แก้ไขเมื่อ 07 ก.ค. 51 12:07:43 จากคุณ : ....4จุด - [ 7 ก.ค. 51 12:04:52 ]

ความคิดเห็นที่ 45 กาลามสูตร ยังใช้ได้จริง ๆ ครับ ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ จากคุณ : [Zero] - [ 7 ก.ค. 51 12:14:15 ]

ความคิดเห็นที่ 46 รอดูความกระจ่าง... จากคุณ : หมึกสด - [ 7 ก.ค. 51 12:44:31 ]

ความคิดเห็นที่ 47 แปลว่า ตัวยาอันตรายมาก ถ้าผิดพลาด คนร้ายอาจจะจายได้ ต้องเชี่ยวชาญ  ไม่ก็ โดนหลอกให้ใช้   สรุปว่าผมยังไม่เชื่อ ครับ จากคุณ : ทุ่มเท - [ 7 ก.ค. 51 12:45:31 ]

ความคิดเห็นที่ 48 เรื่องถุงมือ เคยเห็นนักมายากล ใช้ถุงนิ้วไหมครับ ใช้ยางพาราหล่อนิ้วปลอมมาครอบนิ้วจริง  แล้วเอาไปป้าย คนอื่น  แล้วนิ้วปลอมมันเนียนมากๆครับ คนไม่จ้องดู มองไม่ออกหรอกครับ เรื่องโดสยา  ถ้าผมเป็น คนป้าย อย่างแรกเลย ผมไม่สนหรอกครับว่าคนโดนป้าย จะ ตายหรือไม่ จะสลบ หรือจะมึน จะเป็นอะไรก็แล้วแต่ครับ ขั้นแรกผมก็แค่ผสมน้ำยาที่ผมมีให้มันจางๆที่สุดครับ (กรณีกลัวว่าจะถึงตาย) แล้วลองป้ายไปเรื่อยๆแบบไม่หวังผล  ปรับความเข้มข้นไปเรื่อยๆครับ จากการทดลอง1-2วัน เดี่ยวก็ได้ความเข้มข้นที่ต้องการครับ ยาสลบที่แพทย์ใช้ ส่วนมากมีข้อจำกัดว่า ใช้แล้วคนไข้ ควรจะฟื้นขึ้นมา ได้แบบ ไม่มีอาการข้างเคียง ไม่มีสารตกค้างฯลฯ ไม่มีผลเสียใดๆ แต่คนร้าย ไม่สนตรงนี้ครับเลยอาจทำให้ ยาสลบหรือ ตัวยา บางอย่าง แพทย์ ยังไม่รู้จักก็เป็นได้ครับ ส่วนตัวคิดว่าน่าจะมีสารเคมีอะไรซักอย่างที่สามารถทำให้เกิดอาการ ได้ แต่สารชนิดนั้นอาจจะไม่ปลอดภัย เลยไม่มีการศึกษา หรือ ศึกษาแล้วแต่ไม่เปิดเผย เพราะกลัวว่าจะมีคนนำมาใช้ในทางที่ไม่ดีครับ ขอบคุณครับ &^&  ^^ จากคุณ : Rhythm Investor - [ 7 ก.ค. 51 12:47:59 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ยาแรง แต่มันก็ต้องฉีดไม่ใช่เหรอครับ มันเอาไปทาช้างเหรอ ประเด็นคือมันเป็นยาป้าย ป้ายแล้วมึน มึนสลบ โดยแค่เอายาไปทา จากคุณ : jippi - [ 7 ก.ค. 51 13:06:26 ]

ความคิดเห็นที่ 50 เอ้อ   ไม่ได้อ่านกันเล้ย สักคนเดียวนะครับ เนี่ย ยาแก้พิษก็มี ผู้ใช้ต้องมีผู้ช่วย ซึ่งถือยาแก้พิษไว้ กรณีที่ทำงานแล้วโดนตัวเอง จากคุณ : NaCl - [ 7 ก.ค. 51 13:16:08 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ได้อ่านกันมั๊ยเนี่ย  >>>  Veterinary-strength etorphine is fatal to humans; one drop on the skin can cause death within a few minutes แปลว่า ความรุนแรงการออกฤทธิ์ของ อีตอร์ฟีน นั้นถึงตาย ในมนุษย์ เพียงหนึ่งหยดบนผิวหนัง สามารถทำให้ถึงตายในไม่กี่นาที ถ้า เจือจางในตัวทำละลายมากๆ เช่น 1:100 น่าจะทำให้มีผล แต่ไม่ถึงกับสลบ  และหากผู้ใช้ มียาแก้พิษ หรือใช้ถุงนิ้วในการป้ายยา หรือ ใช้วัสดุคล้ายกาวทานิ้วเคลือบไว้ก่อน  น่าจะใช้กันการโดนพิษเข้าหาตัวเองได้ จากคุณ : NaCl - [ 7 ก.ค. 51 11:19:00 ] ^ ^ อ่านกันบ้างครับ - -" จากคุณ : Presque Normal - [ 7 ก.ค. 51 13:28:54 ]

ความคิดเห็นที่ 52 #48 สิ่งที่ผมสงสัยคือการสั่งให้ทำตามไงครับ ถ้าทำให้เหยื่อสลบ อุ้มไปรูดทรัพย์ที่อื่นอันนี้พอเชื่อ แต่ทำให้เหยื่อมึนๆงง แลัวสั่งให้ถอดสร้อยก็ถอดให้ด้วยตัวเอง อันนี้ไม่เคยได้ยินว่าฤทธิ์ของยาสลบใดๆจะมีแบบนั้นด้วย ฟังๆดูเหมือนยาคายความจริงของ CIA ในหนังแล้ว(หนังมันโม้) ส่วนถุงนิ้ว เคยทำครับตอนเด็กๆ ทำมือปลอมนิ้วปลอมจากยางพาราหล่อเอา ดูเผินๆเนียนดี แต่เวลาไปจิ้มใครมันก็พอสังเกตออกนะ ยิ่งจู่ๆใครมาป้ายมาจิ้มเรา เราก็ต้องมองมือเขาล่ะ แล้วทำไมไม่มีใครผิดสังเกตจนมาเล่าต่อเลยสักคน?!?! ส่วนเรื่องขนาด dose ยา ถ้าไม่สนใจเลยก็แปลว่าอาจมีคนต้องตายเพราะโดนป้ายยาเป็นข่าวกันบ้างสิครับ พวกมอมยาแล้วรูดทรัพย์โดยการใส่ยานอนหลับ ยังมีข่าวกันบ่อยๆ(ใส่ยาแรงเกิน เหยื่อตายคาโรงแรม)แต่ป้ายยาที่โอกาสเสี่ยงกว่ามาก ถ้าผสมผิด กลับไม่มีข่าวคนตายกันเลย? ส่วนantidote ไว้เผื่อพลาด เอาเป็นว่าลองถามหมอว่า ให้หมอลองเอายาสลบร้ายแรงนั่นป้ายตัวเองแล้วคนข้างๆถือยา antidote ไว้แก้ไขทันที ผมว่าคงไม่มีใครกล้าทำหรอกนะครับ ยาantidote ใช่ว่าจะเหมือนยาหม่อง พอมึนก็ดมซะ หายทันทีแบบนั้นสักหน่อย keyword สำคัญอยู่ที่ว่า ตัวยาบางอย่างที่แพทย์ เภสัช นักเคมี ทั่วโลกไม่รู้จัก แต่คนร้ายกระจอกๆในเมืองไทยที่หลอกป้่ายเอาเงินที่ไม่กี่พันไม่กี่หมื่นบาท ดันรู้จักและใช้กันเป็นล่ำเป็นสัน นี่มันแปลกๆนะัครับที่จะเชื่อเอาง่ายๆ ถ้าบอกว่า่เป็นไสยศาสตร์นักวิทยาศาสตร์เลยไม่รู้จักยังพอสมเหตุสมผลมากกว่าซะอีก อยากรู้ความจริง ลองหาเพื่อนที่เป็นตำรวจ แล้วถามคดีล่อลวงทรัพย์ดูครับ แล้วจะรู้ว่ากลโกงมีมากมาย แต่ตำรวจเขาก็ตามทันเสมอๆ ผู้ร้ายในคดีเหล่านี้ก็ไม่ใช่คนเก่งกาจจากองค์กรลึกลับที่ไหน ก็คนธรรมดาๆที่หลงทางผิดเท่านั้นเอง จากคุณ : ....4จุด - [ 7 ก.ค. 51 14:22:51 ]

ความคิดเห็นที่ 53 หลักกาลามสูตรเป็นหนึ่งในคำสอนของพระพุทธเจ้าค่ะ การที่ยาจะออกฤทธิ์ทำให้คนมีอาการมึนงง หรือสลบได้ แสดงว่ายาชนิดนั้นจะต้องผ่าน blood brain barrier เข้าไปออกฤทธิ์ต่อสมอง ทำให้มีอาการอย่างที่บอก ซึ่งยาที่จะผ่าน bbbได้นั้น ก็ต้องมีคุณสมบัติเฉพาะด้วย ส่วนใหญ่มักจะให้ทางการฉีด หรือไม่ก็สูดดม ส่วนยาป้ายที่พูดถึง route ที่ให้ ให้ทางผิวหนัง เริ่มจากป้ายยา ยาสามารถซึมผ่านชั้นผิวหนังเข้าสู่กระแสเลือด (กระจายไปทั่วร่างกาย แถมยังผ่านเข้าสมองได้อีก และก็ต้องไม่ก่อให้เกิด side effect แปลกๆด้วยนะ เช่น อาเจียน (ขืนอาเจียนตอนโดนป้ายยาละจบเห่เลย))ซึ่งขั้นตอนนี้ต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน (เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมยาสลบจึงอยู่ในรูปแบบยาฉีด หรือสูดดม เพราะการออกฤทธิ์ค่อนข้างเร็ว)ฉะนั้นมันเป็นไปแทบไม่ได้เลย.. ที่ป้ายยาแป๊บนึง แล้วจะออกฤทธิ์ได้ไวขนาดนั้น แถมผิวหนังที่ดูดซึมยาได้ง่ายๆ ก็ต้องเป็นบริเวณที่มีเส้นเลือดมาหล่อเลี้ยงจำนวนมาก เช่น ทวารหนัก (บางประเทศนิยมยาเหน็บค่ะ เช่น ยาแก้เมารถแบบเหน็บทวาร ออกฤทธิ์ได้เร็วมาก) ส่วนบางบริเวณ เช่น ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ผิวหนังหนามากๆ การที่ยาจะซึมผ่านไปออกฤทธิ์ีนี่ .. แทบไม่ต้องพูดถึง ยิ่งคนฝ่ามือหนาๆนะ โอ๊ยยย แต่ว่านะ.. ถ้ายาป้ายแบบนี้มีจริง ต่อไปจะได้ไม่ต้องพึ่งวิสัญญีแพทย์ นับเป็นคุณประโยชน์ต่อวงการแพทย์เป็นอย่างยิ่งค่ะ ส่วนเรื่องยาที่อันตราย ผิดกฎหมายต่างๆ ไม่ใช่ว่าบุคลากรทางการแพทย์ไม่ศึกษา ไม่รู้จักค่ะ ศึกษาทุกอย่างแหละค่ะ แต่ไม่ได้นำมาใช้เท่านั้นเองค่ะ เหมือนขั้นตอนการสกัดสารตั้งต้นเพื่อมาทำยาบ้า ถ้ารับงานตอกเม็ดยาบ้า ปรับปรุงสูตรยาบ้า ทำได้ค่ะ แล้วก็ไม่ได้ยากอะไรเลยค่ะ.. แต่ใครจะมาทำล่ะ.. จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ - [ 7 ก.ค. 51 15:07:37 ]

ความคิดเห็นที่ 54 อยากรู้จังว่า ถ้ามีคนโดนป้ายยาสลบชนิดรุนแรง แล้วตาย เนี่ย สงสัยจริงว่าตำรวจเขาจะรู้ไหมว่าโดนป้ายยา ???????   จะมีใครเอาไปตรวจสารเคมีประหลาดๆ มั๊ย ??? ซึ่งคืออะไรก็ไม่รู้ ถ้าตรวจไม่ถูกก็ไม่เจออีก เอาเป็นว่า ผมคิดว่าให้ระวังไว้ครับ ถ้ารู้ตัวว่าโดนจะได้หนีทัน หรือแม้แต่รีบเช็ดออกทันทีที่รู้ตัว หากว่ามันเป็นเรื่องโกหก คุณก็ระวัง อย่าโลภมาก ก็แล้วกัน พวกนี้มันอาศัยความโลภมาหลอกเหยื่อเอา คุณจะใช้มุขป้ายยาแก้ตัวไปก็ได้ เหอๆๆ จากคุณ : NaCl - [ 7 ก.ค. 51 16:34:18 ]

ความคิดเห็นที่ 55 1 โหวตค่ะ (อยากให้หลายๆโหวต เพราะกระทู้จะได้อยู่นานๆ) ขออนุญาตลิ้งเป็น fwd mail ให้คนที่ชอบส่งมาให้ทุกวัน ส่งมาจังอะ บอกแล้วก็ไม่เชื่อ แต่ตอนนี้มีหลักฐานแล้ว อิอิ อยากเจอคนร้ายป้ายยาจัง จะได้พามาแนะนำให้หมอเจ กับ คุณโย รู้จัก ได้ตั้ง 1 ล้านแน่ะ 555 จากคุณ : Angel in Big City - [ 7 ก.ค. 51 16:37:55 ]

ความคิดเห็นที่ 56  ถ้าจะใช้ etorphine ให้ได้ผลอย่างที่ว่ากัน 1. หายาที่ว่า ให้มันได้ซะก่อนเหอะ 2. เอายาที่ว่ามา 1 หยด เจือจาง 10 เท่า, 100 เท่า, 1000 เท่า  ถ้าพลาด ระหว่างกระบวนการเจือจาง .... กระเด็นขึ้นมาโดน .. ก็จบ ไม่มีข้อ 3 ต่อ 3. เอายาที่เจือจาง 1,000 เท่า มาลองป้ายเหยื่อ ซัก 10-20 คน  ถ้าเหยื่อไม่หมดสติ หรือ ไม่รู้สึกอะไร ... ยา 1:10,000 จางไป ไม่ได้ผล :: ไปข้อ 5  ถ้าเหยื่อตาย .. ก็ถือว่า ไม่ได้ผลเช่นกัน ยายังเข้มไป :: ไปข้อ 4 4. เหยื่ึุอชุดแรก ตายทั้งหมด  ทำใหม่ ให้จาง 10,000 เท่า แล้วมาลองใหม่  ถ้าเหยื่อไม่หมดสติ หรือ ไม่รู้สึกอะไร ... ยา 1:10,000 จางไป ไม่ได้ผล  :: ไปข้อ 5  ถ้าเหยื่อตาย .. ก็ถือว่า ไม่ได้ผลเช่นกัน ยายังเข้มไป  ทำซ้ำข้อนี้อีก ให้จางกว่าเดิม จนกว่้าจะได้ผล  ทำซ้ำแล้วซ้ำอีก จนกว่าเหยื่อจะไม่ตาย 5. เหยื่อไม่ตาย และไม่หมดสติด้วย  เอาความเข้มแรงขึ้นมาอีก  จนกว่าเหยื่อไม่ตาย แต่แค่หมดสติ  จะต้องใช้เหยื่อทั้งหมดกี่คน ในการทดลองนี้? --------------------------------- ขออภัย ใช้คำพูดไม่เหมาะสมอย่างมาก ขอลบ และขอโทษ แก้ไขเมื่อ 08 ก.ค. 51 19:22:51 จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 7 ก.ค. 51 18:03:42 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ก่อนจะอ่านต่อไป ...  น้าแมว ผมสันนิษฐานก่อนว่า มันมีจริง  นะ อันนี้เป็นความเห็นที่แตกต่างนะครับ ว่า เราจะลองคิดดู ทั้งสองวิธี ทั้งความเป็นได้ และเป็นไปไม่ได้ ของยาป้ายนี้  มาลองโต้กันดูว่าอันไหนมีความเป็นไปได้สูงที่สุด การหาค่าความเข้มข้นอีตอร์ฟีน  ไม่น่าจะใช้เหยื่อเยอะนัก หากใช้วิธี Successive Approximation ซึ่งสามารถหาค่าที่เป็นไปได้ 65536 วิธี โดยใช้จำนวนครั้งเพียง 16 ครั้ง เท่านั้น !!!!   ใช้หมาตัวใหญ่ๆ 16 ตัว เอง อาจหาหมาจรจัดก็ได้ ไม่ต้องใช้คน และจริงๆ หากมีสารนี้ให้พวกมิจฉาชีพใช้จริงๆ มันก็อาจจะมีวิธีง่ายกว่านี้ เช่น มีพวกมืออาชีพในต่างประเทศ ผสมมาพร้อมใช้ ให้แล้วก็ได้  เพียงไปหาซื้อมาเท่านั้นเอง ?!?!    น่าจะหาง่ายกว่าหาซื้อเฮโรอีนซะอีก นะ เพราะว่ามันจะไม่โดนเพ่งเล็งมากนัก จากคุณ : NaCl - [ 7 ก.ค. 51 19:18:46 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ใครที่อ้างกาลามสูตร   กาลามสูตรมี paradox ของตัวมันเอง นั่นคือ มันมีสองด้าน เชื่อ (เชื่อว่าไม่จริง) ก็ผิด ไม่เชื่อ(เชื่อว่าจริง) ก็ผิด จากคุณ : NaCl - [ 7 ก.ค. 51 19:21:50 ]

ความคิดเห็นที่ 59 M99 ยาสลบในตำนาน แรดโดนยังล้ม แต่ใครจะมีสิทธิ์ซื้อและครอบครอง แล้วยามันร้ายแรงขนาดนั้น คนใช้ก็คงกลัวแทบตาย ความน่าจะเป็นจึงเท่ากับเป็นไปไม่ได้ ผมว่าคำตอบมันคงเหมือนที่อาจารย์วรรณดา ว่าล่ะ ยาที่ป้ายแล้วซึม มันไม่น่าจะมีอยู่จริง จากคุณ : VET53 - [ 7 ก.ค. 51 21:03:45 ]

ความคิดเห็นที่ 60 อืม เป็นความรู้ แต่ผมก็ไม่เชื่อตั้งแต่แรกล่ะนะ ก็คิดว่าเป็นเทคนิคการพูดหรือสะกดจิตอย่างหนึ่งมากกว่า ไม่ว่ามีจริงหรือไม่ ก็ระมัดระวังตัวกันหน่อยแล้วกันนะครับ ทุกคน จากคุณ : มาม่าไข่มะตูม - [ 7 ก.ค. 51 23:04:39 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ถ้าไม่มีจริงแล้วคนรอบตัวเราที่เค้าเคยเจอแล้วเล่าอาการมาเหมือนๆกันนี่เค้าโดนสะกดจิตเหรอ มันน่าคิดน่ะถ้าสะกดจิตได้ขนาดนั้น จากคุณ : blind32 - [ 8 ก.ค. 51 09:41:56 ]

ความคิดเห็นที่ 62 รับทราบค่ะ จากคุณ : เสียงจากบ้านนา - [ 8 ก.ค. 51 10:35:13 ]

ความคิดเห็นที่ 63 เรื่องยา..เราก็เชื่อนะว่ามีจริง แต่ที่เชื่อมากกว่า..คือการใช้จิตวิทยาของมิจฉาชีพ เหยื่อที่อ้างว่าถูกยาป้าย ส่วนมากไม่มีใครถูกจู่โจมมาป้ายกันจะจะหรอก เหยื่อมักจะได้พูดคุย กับมิจฉาชีพ ซักพักก่อน พอเสียทรัพย์สินไปแล้ว  แล้วมาตกใจภายหลัง การอ้างตามเหตุการณ์ต่างๆที่เคยได้ยินมา..ก็ง่ายดี ไม่เสียหน้าว่าถูกหลอกง่ายๆด้วย .... เราก็เคยเสียเงินให้หมอดู ไปหลายพันเหมือนกัน ทั้งๆที่ปกติไม่เชื่อเรื่องพวกนี้เลย แล้วก็ไม่กล้าเล่าให้ใครฟังอ่ะ กลัวคนฟังด่าว่าโง่ 55555555 จริงๆตอนควักเงินให้ ก็เหมือนจะเคลิ้มๆนะ แต่เราว่าเราโง่เองมากกว่า .... ตอนนี้ไม่โง่แย้วววว เรื่องยาป้าย ถึงจะเชื่อไม่เชื่อยังไง ก็รักนวลสงวนตัวกันไว้  อย่าให้คนแปลกหน้ามาลูบไล้เราได้จะดีกว่านะ จากคุณ : poohmai - [ 8 ก.ค. 51 11:47:27 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ แต่ อดเสียดายไม่ได้ อดกินฟรี จากเฮียแมวเหมียวเลย ที่บอกจะเลี้ยงฟรี โต๊ะจีนสำหรับสาว ๆ ห้องเครื่องแป้ง (คือผมสมัครเป็นพยาน ดูว่าหมอเลี้ยงจริงหรือเปล่าอ่ะ อิอิ) อย่างที่หลาย ๆ ท่านบอกแหล่ะครับ "ยา" ที่จะออกฤทธิ์ต่อประสาท มันต้องซึมลงกระแสเลือด ไปสั่งการสมอง / ระบบประสาท ซึ่งมันต้อง "เดินทาง" ระยะหนึ่ง เป็นไปไม่ได้ ที่จะ "ป้ายปุ๊บ" ออกฤทธิ์ "ปั๊บ" บอกตรง ๆ ถ้ามีจริง ๆ ไม่ต้องขายหมอ ขายเภสัชหรอกครับ ผมเอาไปป้าย ร้านทอง ธนาคาร ไม่ง่ายกว่าเหรอครับ ลองจำลองเหตุการณ์ดูนะครับ เข้ามา ก็ "ป้าย" รปภ ก่อน สั่งให้ไปปิดเทป / กล้องวงจรปิดซะ หรือสั่งให้ร่วมมือ "ปล้น" ด้วยกัน เสร็จแล้ว "ป้าย" พนักงานเคาน์เตอร์ หรือ เดินไปหา สมุห ไปเลย ป้ายเสร็จแล้วสั่งให้เอาเงินมา ใส่ถุง ใส่ซองให้เรียบร้อย ไม่ต้องกระโตก กระตาก เสร็จแล้วใช้ให้ออกมาส่งหน้าป้ายรถเมล์เลยดีไหม ง่ายกว่ากันเยอะเลย ได้หลายตังค์ด้วยครับ พี่น้องครับ จากคุณ : สุกรสยาม - [ 8 ก.ค. 51 13:53:52 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ผมเคยอธิบายไว้ย๊าววว ยาว ว่าทำไม etorpine ใช้กับคนไม่ได้ ไม่รู้กระทู้หายไปไหน 1. การตอบสนอง etorpine ของคนกับสัตว์ไม่เหมือนกันครับ การตอบสนองของคน จะสูงกว่าสัตว์มาก ในขนาดที่หลักสิบไมโครกรัมเท่านั้นก็ตายได้ เกิดการกดสมอง พร้อมกดการหายใจแทบจะในทันที มีเวลาฉีดยาแก้พิษแค่สองนาทีเท่านั้น (จึงต้องมีผู้ช่วยถือยาต้านพิษอยู่ข้างๆ ตลอดเวลา) แต่ในสัตว์ (คิดอัตราส่วนน้ำหนักตัวเท่าคน) ระดับหลายสิบไมโครกรัม ยังเพิ่งหยุดการเคลื่อนไหว บางชนิดสลบแต่หายใจเองได้โดยไม่ต้องช่วยหายใจด้วยซ้ำ ดังนั้นการหาขนาดยาในสัตว์ แล้วเอามาใช้กับคน มันทำไม่ได้ครับ และยาตัวนี้ไม่มีแหล่งอ้างอิงใดที่จะบอกว่าใช้กับคนแค่ไหนถึงออกฤทธิ์ได้พอเหมาะ เพราะมันอันตรายเกินกว่าจะผ่านการวิจัยในคน ยิ่งเป็นการหาขนาดยาที่เหมาะสมด้วยการป้ายที่ผิวหนัง ยิ่งไม่มีทางรู้เลย 2. การตั้งสูตรยาระดับไมโครกรัม ที่มีช่วงการออกฤทธิ์แคบขนาดนี้ ให้ได้แม่นยำ ชนิดทำนายผลได้ เป็นเรื่องยากเย็นมากในทางเภสัชกรรม แม้จะเป็นการฉีดก็เถอะ ยาฉีดต้านการแข็งตัวของเลือดที่ช่วงออกฤทธิ์กว้างกว่านี้ตั้งเยอะ ยังต้องเจาะเลือดทุกชั่วโมง เพื่อติดตามปริมาณยาเลย 3. ผิวหนังในแต่ละตำแหน่ง ของแต่ละคน ในแต่ละสภาพ แต่ละเวลา จะดูดซึมยาได้ไม่เท่ากัน หากเป็นยาที่ ช่วงการออกฤทธิ์แคบขนาดนี้ ยิ่งเป็นไปไม่ได้ เวลาผิวแห้ง อาจจะป้ายแล้วไม่เกิดอะไรเลย แต่แค่เหงื่อออกนิดหน่อย ก็ดูดซึมยามากจนทำให้ตายได้ 4. ถ้าเป็นยาที่ช่วงการออกฤทธิ์แคบขนาดนี้ ปริมาณยาน้อยขนาดนี้ แล้วยังเอามาให้ด้วยการป้ายอีก ต่อให้ทำในแล็ปเภสัชกรรม ก็ทำไม่ได้ครับ ถ้าในชีวิตจริง คงมีคนตายเกลื่อนครับ กว่าจะได้ผลคนนึง คงได้คนตายพ่วงมาด้วยอีกหลายสิบคน และยาตัวนี้ตรวจเลือดเจอแน่นอนครับ ไม่ใช่ยาลึกลับอะไร มีหมู่ฟังก์ชั่นแบบเดียวกับตระกูลฝิ่น ซึ่งตอบสนองต่อการตรวจสารเสพติดตามปกติอยู่แล้ว จากคุณ : อะธีลาส - [ 8 ก.ค. 51 15:53:19 ]

ความคิดเห็นที่ 66 --> ความคิดเห็นที่ 58 "กาลามสูตรมี paradox ของตัวมันเอง " เฮ้ย...อะไรของคุณ คิดผิดคิดใหม่ได้นะ ว่าเข้าใจกาลามสูตรจริงๆรึเปล่า จากคุณ : kiox - [ 8 ก.ค. 51 16:40:24 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ยานี่มีผลกะคนโลภครับ จากคุณ : Jump - [ 8 ก.ค. 51 17:43:40 A:125.24.120.194 X: TicketID:179938 ]

ความคิดเห็นที่ 68 #65 งั้นก็ตามนั้นครับ อธิบายแบบนี้โอเค #66 กรุณากลับไปอ่านกาลามสูตรอีกวันละสิบรอบ สิบวัน ติดต่อกัน ถ้าไม่เข้าใจ เอาบาลีมาอ่านด้วย นะ จากคุณ : NaCl - [ 8 ก.ค. 51 17:45:09 ]

ความคิดเห็นที่ 69 คุณอะธีลาส อธิบายดีมั่ก จากคุณ : numsainoi - [ 8 ก.ค. 51 19:17:49 ]

ความคิดเห็นที่ 70 อืมมม์...ไงดีล่ะ รายล่าสุดจากสมาชิกที่เล่นประจำห้องสวนลุมครับ... http://www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L6777994/L6777994.html จากคุณ : dragunov - [ 8 ก.ค. 51 21:47:48 ]

ความคิดเห็นที่ 71 สำหรับเราหากเขาคำณวณยาที่ใช้ ตามน้ำหนักสงสัยต้องใช้ประมาณล้มช้าง จากคุณ : จูหน่านพ - [ 8 ก.ค. 51 22:16:03 ]

ความคิดเห็นที่ 72 เซ็งเลย อดไปงานเจิมรถใหม่กับกินข้าวฟรีเลย อุตส่าห์แอบไปรออยู่โต๊ะเครื่องแป้งตั้งนาน... เฮ่อ... ปล. อ่าน FW ครั้งแรกนี่ตกใจมาก... นึกถึงสวัสดิภาพครอบครัวบ้านช่องขึ้นมาทันทีเลยถ้ามันเอามาพ่นเป็นสเปรย์แล้วยกเค้าบ้านเราทั้งหลังนี่ หืม... ฮุ้ว... ไม่อยากจะคิดเลย (ไอ้เราก็คิดไปนู่นซะ) แล้วก็มาอ่านซ้ำอีกที... แล้วก็ลืม... ผ่านไปสองสามปี อ้าว ไหงมาเจอที่หว้ากอหว่า... ปล. พึ่งเล่นพันทิปได้ครึ่งปีเองงับ จากคุณ : กระต๊อบน้อย - [ 9 ก.ค. 51 00:15:31 ]

ความคิดเห็นที่ 73 คุณ คห 22 อ่า antagonist that car มันคืออะไรอ่ะ  แล้ว car มันเกี่ยวอะไรด้วย ????? จากคุณ : nuch_tiew - [ 9 ก.ค. 51 08:49:42 ]

ความคิดเห็นที่ 74 อ่า แวะมาเก็บความรู้ แล้วก็ตามไปที่ link ของ คห70 ต่อ จากคุณ : LAPD21 - [ 9 ก.ค. 51 09:08:39 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ... #58 ช่วยขยายความให้หน่อยสิที่คุณสรุปว่า กาลามสูตรมี paradox ของตัวมันเอง นั่นคือ มันมีสองด้าน เชื่อ (เชื่อว่าไม่จริง) ก็ผิด ไม่เชื่อ(เชื่อว่าจริง) ก็ผิด มันสรุปมาได้ยังไงครับ จากคุณ : 73078 - [ 9 ก.ค. 51 10:59:00 A:124.120.188.83 X: TicketID:073078 ]

ความคิดเห็นที่ 76 #75 มันมาจากการเล่นกับคำว่า "เชื่อ"  ผมขออธิบายแบบวิธีการในปัจจุบัน จะได้เข้าใจง่ายขึ้น ถ้าเรามีข่าวสารหรือข้อมูล A อยู่ แต่เราไม่ทราบว่าข่าวสารนี้ เป็นความจริงหรือไม่ ผมให้ค่าความจริงของข่าวสาร A คือ R โดยที่ถ้า R เป็นจริง คือ ข่าวสารนั้นเชื่อได้ ถ้า R เป็นเท็จ ข่าวนั้นเชื่อถือไม่ได้ จากกรณีนี้เราไม่สามารถบอกได้ว่า ถ้า R เป็นเท็จ ข้อมูล A ที่ถูกต้องคือ not A เพระว่าความ"เชื่อถือไม่ได้"ของข่าวสาร  มันทำให้ข่าวสารอาจเป็นจริง หรือเท็จ ก็ได้ เราไม่อาจทราบได้เลย การที่เราตีความกาลามสูตรว่า "อย่าเชื่อ" ไม่ได้หมายความว่าข่าวสาร A เป็นเท็จ(ไม่เชื่อ) และความจริงคือ not A เพราะนั่นคือความเชื่อที่ซ้อนอยู่อีกอันหนึ่ง (เชื่อว่ามันไม่จริง) ดังนั้น เมื่อเราได้รับข่าวสารหรือข้อมูลอะไรมา ให้เราเก็บไว้พิจารณาก่อน เพราะว่า ข่าวสารที่เราได้มานั้น อาจจะเป็นข่าวสารี่เป็นเท็จในบางเงื่อนไข และเป็นจริงในบางเงื่อนไข หรือ อาจเป็นจริงบางส่วน เป็นเท็จบางส่วน หรืออาจเป็นจริงทั้งหมด หรืออาจเป็นเท็จทั้งหมด การทิ้งข้อมูลทั้งหมดไป ก็คือความเชื่อ ว่ามันเป็นเท็จและไม่มีประโยชน์ แต่จริงๆ แล้ว มันมีประโยชน์ซ่อนอยู่ในข่าวสารนั้น หากเรามีโอกาสได้รับข่าวสารใหม่ ที่มีการเชื่อมโยงกับข่าวสารเก่า เราจะสามารถนำข้อมูลมาวิเคราะห์ต่อได้ ว่า ข้อมูลนั้นถูกต้อง หรือไม่ และถ้าผิด ผิดตรงไหน ซึ่งเป็นวิธีการคล้ายกับระบบแก้ไขความผิดพลาดของข้อมูลในการสื่อสารระยะไกล แก้ไขเมื่อ 09 ก.ค. 51 11:23:42 จากคุณ : NaCl - [ 9 ก.ค. 51 11:21:58 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ... #76 ขอบคุณที่ช่วยขยายความนะครับ แต่ผมเห็นเพิ่มว่าว่าในพระสูตรก็ได้บอกวิธีการเลือกพิจรณาข่าวสารนั้นด้วยว่าควรเชื่อหรือไม่ ที่คุณว่า "การทิ้งข้อมูลทั้งหมดไป ก็คือความเชื่อ ว่ามันเป็นเท็จและไม่มีประโยชน์ แต่จริงๆ แล้ว มันมีประโยชน์ซ่อนอยู่ในข่าวสารนั้น " เท่าที่ผมพยายามอ่านในพระสูตรนะครับ ในนั้นไม่ได้บอกว่าให้ทิ้งข้อมูลไปหรือไม่ แต่กลับมีหลักในการพิจรณาว่าควรรับข้อมูลแบบไหน เท่าที่ผมจับใจความได้จาก พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๐ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๒ อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต ชาวกาลามะสงสัยว่า ข้าพระองค์ยังมีความเคลือบแคลงสงสัยในสมณพราหมณ์เหล่านั้นอยู่ทีเดียวว่า ท่าน สมณพราหมณ์เหล่านั้น ใครพูดจริง ใครพูดเท็จ พระผู้มีพระภาคทรงตอบว่า(แบบย่อ ๆ ) บุคคลผู้ถูกความโลภ ความโกรธ หลง ครอบงำ มีจิต อันความโลภกลุ้มรุมนี้ ความโลภ โกรธ หลง เมื่อเกิดขึ้น ในภายในบุรุษ ย่อมเกิดขึ้นเพื่อสิ่งไม่ใช่ประโยชน์ ฯ สิ่งใดเป็นไปเพื่อสิ่งไม่เป็นประโยชน์เพื่อทุกข์ สิ้นกาลนาน บุคคลผู้โลภ โกรธ หลง ย่อม ชักชวนผู้อื่นเพื่อความเป็นอย่างนั้นก็ได้ ฯ เมื่อใด ท่านทั้งหลายพึงรู้ ด้วยตนเองว่า ธรรมเหล่านี้เป็นอกุศล ธรรมเหล่านี้มีโทษ ธรรมเหล่านี้ท่านผู้รู้ติเตียน ธรรมเหล่านี้ใครสมาทานให้บริบูรณ์แล้ว เป็นไปเพื่อสิ่งไม่เป็นประโยชน์ เพื่อทุกข์ เมื่อนั้น ท่านทั้งหลายควรละธรรมเหล่านั้นเสีย ในทางกลับกัน บุคคลผู้ไม่โลภ ไม่โกรธ ไม่หลง ไม่ถูกความโลภครอบงำ เมื่อเกิดขึ้นในภายในของบุรุษ ย่อมเกิดขึ้นเพื่อเพื่อ สิ่งไม่เป็นประโยชน์ ฯ สิ่งใดย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุข สิ้นกาลนาน บุคคลผู้ไม่โลภ ไม่โกรธ ไม่หลง ย่อมชักชวนผู้อื่นเพื่อความเป็นอย่างนั้น ฯ ท่านทั้งหลายพึงรู้ด้วยตนเองว่า ธรรมเหล่านี้เป็นกุศล ธรรม เหล่านี้ไม่มีโทษ ธรรมเหล่านี้ท่านผู้รู้สรรเสริญ ธรรมเหล่านี้ใครสมาทานให้ บริบูรณ์แล้ว เป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุข เมื่อนั้นท่าน ทั้งหลายควรเข้าถึงธรรมเหล่านั้น และยังปิดท้ายให้คิดด้วยว่า อริยสาวกนั้นมีจิตไม่มีเวรอย่างนี้ มีจิตไม่มีความเบียดเบียนอย่างนี้ มีจิตไม่ เศร้าหมองอย่างนี้มีจิตผ่องแผ้วอย่างนี้ ย่อมได้รับความอุ่นใจ ๔ ประการใน ปัจจุบันว่า ก็ถ้าปรโลกมีจริง ผลวิบากของกรรมทำดีทำชั่วมีจริง เหตุนี้เป็นเครื่อง ให้เราเมื่อแตกกายตายไป จักเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ดังนี้ ความอุ่นใจ ข้อที่ ๑ นี้ พระอริยสาวกนั้นได้แล้ว ก็ถ้าปรโลกไม่มี ผลวิบากของกรรมทำดี ทำชั่วไม่มี เราไม่มีเวร ไม่มีความเบียดเบียน ไม่มีทุกข์เป็นสุข บริหารตนอยู่ ในปัจจุบันนี้ ดังนี้ ความอุ่นใจข้อที่ ๒ นี้ พระอริยสาวกนั้นได้แล้ว ก็ถ้าเมื่อบุคคลทำอยู่ ชื่อว่าทำบาป เราไม่ได้คิดความชั่วให้แก่ใครๆ ไหนเลยทุกข์ จักมาถูกต้องเราผู้ไม่ได้ทำบาปกรรมเล่า ดังนี้ ความอุ่นใจข้อที่ ๓ นี้ พระอริย สาวกนั้นได้แล้ว ก็ถ้าเมื่อบุคคลทำอยู่ ไม่ชื่อว่าทำบาป เราก็ได้พิจารณาเห็น ตนว่าเป็นคนบริสุทธิ์แล้วทั้งสองส่วน ดังนี้ ความอุ่นใจข้อที่ ๔ นี้ พระอริย สาวกนั้นได้แล้ว ดูกรกาลามชนทั้งหลาย อริยสาวกนั้นมีจิตไม่มีเวรอย่างนี้ มีจิตไม่มีความเบียดเบียนอย่างนี้ มีจิตไม่มีเศร้าหมองอย่างนี้ มีจิตผ่องแผ้ว อย่างนี้ ย่อมได้รับความอุ่นใจ ๔ ประการนี้แลในปัจจุบัน ฯ ---------- ดังนั้นถ้าเราสามารถได้รับสารจากอริยสาวกผู้ซึ่งละแล้วโลภโกรธหลง สารที่เรารับย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์ แต่ปัญหาคือ เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าใครคืออริยสาวก ดังนั้นการพิจรณารับสารใด ๆ ถ้าเราพิจรณาได้ว่าสารนั้นไม่ได้ส่งมาโดยมีจิตอกุศลแฝงอยู่ ผมคิดว่าสารนั้นก็น่าจะเชื่อได้ครับ จากคุณ : 73078 - [ 9 ก.ค. 51 12:29:04 A:124.120.192.103 X: TicketID:073078 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ใครบอกว่าเขาใช้ยา เขาใช้สนามแม่เหล็กโลกต่างหาก http://www.thaiyawat.com/theory.php?ref=thaiyatat ตัวนี้ครับ มีผลทำให้มึนงง ชั่วขณะ แบบไม่เคยรู้สึกมาก่อน จากคุณ : โรแมนติคโครตพิศดาร - [ 9 ก.ค. 51 12:36:18 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ... ขอลงข้อความในพระโตรปิฏกที่ผมอ้างถึงนะครับ ----------------------------------- มาจาก http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/sutta_name.php?name=¡ÒÅÒÁ&book=1&bookZ=45 พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๐ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๒ อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๐ บรรทัดที่ ๔๙๓๐ - ๕๐๙๒. หน้าที่ ๒๑๒ - ๒๑๘ จากคุณ : 73078 - [ 9 ก.ค. 51 12:37:48 A:124.120.192.103 X: TicketID:073078 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ... ขอแก้ลิงค์ อันที่แล้วมันต้อง search ด้วยคำว่า กาลามสูตรก่อนครับจึงจะเจอ http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=20&A=4930&Z=5092&pagebreak=0 อันนี้เจอเลยครับ จากคุณ : 73078 - [ 9 ก.ค. 51 13:18:33 A:124.120.192.103 X: TicketID:073078 ]

ความคิดเห็นที่ 81 #NaCl ผมเข้าใจว่าคุณกำลังเขียนเป็นสมการ เพื่อให้เข้าใจ ความคิดของคุณ ง่ายขึ้น แต่ประเด็นคือว่า อะไรคือ ลักษณะของ Pandora box, เพราะเท่าที่ทราบเป็นความเชื่อ ที่ว่ามีการเก็บความชั่วร้ายไว้ในกล่อง หากเปิดออกก็จะทำลายสิ่งต่างๆ แล้วมันนำมา เปรียบเทียบกับ หลักกาลามสูตร ได้หรือ ผมคิดว่าจริงๆแล้ว คุณต้องการสื่อประมาณว่า "ไม่เห็น ไม่ได้หมายความว่าไม่มีอยู่" ข้อมูลที่รับมา ไม่ควรละเลย ที่จะนำมาพิจรณา [ในปลั๊กมีไฟอยู่ ดูแล้วก็ไม่เห็นมีอะไร เอานิ้วแหย่ดู จะรู้ว่า "ไม่เห็น ไม่ได้หมายความว่าไม่มีอยู่"] ประเด็นต่อมา ถ้าไม่ควรละเลยที่จะนำ ข้อมูลต่างๆมาพิจรณา เราจะใช้หลัก อะไรในการพิจรณา [เฮ้ย...มันมีคนไปแจ้งความตั้งเยอะแยะมันต้องจริงบ้างแหล่ะ] [เพื่อนเราบอกว่า เพื่อนของเพื่อนของเพื่อน...ของเพื่อน ก็โดนมา] ผมพอแค่นี้ดีกว่า ใจจริงไม่อยากโพส กลัวจะยืดยาว เพราะกระทู้เป็นเรื่อง ยาป้าย แต่เห็น 73078 มาโพส (ทำไมไม่ล็อกอินละ) หลักกาลามสูตร ไม่ได้บอกว่า ไม่ให้ฟังหรือไม่รับข้อมูล จากคุณ : kiox - [ 9 ก.ค. 51 16:40:45 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ... kiox การจะออกความเห็นต้องล๊อกอินด้วยเหรอ? มันเป็นปัญหาหรือ? ที่ผมไม่ล็อกอินเพราะไม่คิดจะอยากมีครับ แล้วที่ผมถามคุณเกลือเพิ่มเพราะผมก็อยากเห็นมุมมองที่คุนอื่นตีความบ้าง ว่าให้ความสำคัญกับตรงไหน จริง ๆ แล้วใจความสำคัญไม่ได้อยู่ที่กับการเล่นคำว่า"เชื่อ" แต่มันอยู่ที่วิธีการพิจรณาสารนั้นมากกว่าครับ จากคุณ : 73078 - [ 9 ก.ค. 51 17:09:51 A:124.120.192.103 X: TicketID:073078 ]

ความคิดเห็นที่ 83 หนุกดีกระทู้นี้ จากคุณ : ธีรภัทร์2 - [ 9 ก.ค. 51 18:49:29 ]

ความคิดเห็นที่ 84 เอ่อ...อย่าสับสนกันค่ะ คุณ NaCl หมายถึง "paradox" ค่ะ... ม่ายช่าย "pandora box" - -! หนับหนุนคุณ NaCl ในทุกความเห็นค่ะ .. ได้อย่างใจเลย รักนะ จุ๊บๆ ^ ^ แต่ไม่เห็นมีใครพูดถึงเจ้าว่านจากเขมรที่บางคห ในบางกระทู้อ้างว่ามีคุณสมบัติอย่างนี้บ้างเลย มีคุณหมอแผนโบราณ หรืออาจารย์สมุนไพรแถวนี้บ้างไหมคะ ออกเสียงหน่อย ไม่งั้นจะบุกเขมร ... ตามล่าเงินรางวัล สมมุตินะคะว่าเจ้ายาป้ายนี้ เป็นพืชท้องถิ่น แถมหายาก แล้วหมอพื้นบ้านดีๆ ก็จะไม่สอนลูกศิษย์ เพราะกลัวเอาไปใช้ในทางที่ผิด หรือไม่เห็นประโยชน์ที่ควรจะบอกต่อ เพราะฉะนั้นก็จะเหลือแต่พวกหมอหรือลูกศิษย์ที่มีวิสัยไปทางมิจฉาชีพเห็นประโยชน์ ทราบและเก็บหรือปลูกว่านนี้ไว้ใช้ในทางมิชอบ ดังนั้นเป็นไปได้มากว่าว่านนี้ (หากมีจริง) จะเป็นที่รู้จักกันในหมู่คนท้องถิ่นกลุ่มเล็กๆ ที่มีวิสัยส่อไปทางมิจฉาชีพ และนำมาเผยแพร่ในหมู่มิจฉาชีพด้วยกัน ถ้าเป็นกรณีนี้ เป็นไปได้มากว่าสารและกลไกการทำงานเป็น unknown ดังนั้นต่อให้นำเลือดมาตรวจก็คงไม่เจอ เพราะไม่รู้ว่าตรวจหาอะไร แน่ใจหรือคะ ว่าเรารู้จักยาสลบทั้งหมดที่มีในโลกแล้ว new knowledge ยังคงมีให้ค้นพบอยู่เสมอ ไม่งั้นวิทยาศาสตร์คงจบเห่ไปแล้ว ... หรือใครอยากจะลุกมาประกาศว่า "we know all there is to know" alredy? วิธีป้าย...เสนออีกหนึ่งทางเลือกคือ .. หลังเล็บ ถ้ายังกลัวไม่ชัวร์ก็แปะเล็บปลอมก่อนอีกชั้นก็ได้ แล้วฝึกฝนนิดหน่อยก็ใช้หลังเล็บป้ายได้แล้ว ยาแก้พิษ ...เห็นมีสมุนไพรหลายอย่างเขาจะมีสรรพคุณแก้กันได้ ...ธรรมชาตินี่มหัศจรรย์ ... มีผูกก็มีแก้ให้เสมอ .. Nature will find the way อย่างเช่นว่านรางจืดมีสรรพคุณแก้พิษ ...อันนี้เดาล้วนๆ ไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวอะไรทั้งนั้น แค่ยกตัวอย่างว่า "อาจจะ" ยังไม่ฟันธงค่ะ...ว่าคุณหมอๆ จะไม่เสียเงิน และ/หรือ มอเตอร์ไซเคิ้ลสุดงาม เอ้า...ขอเสียงผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหน่อยค้า....(หนูขอแบ่งแค่ 10% ก็พอค่ะ...หาตังค์ไปสู้ค่าเงินเฟ้อ) ปล. คุณหมอๆ อย่าหลงประเด็น"ยาป้าย" ในที่นี้นะคะ ..เหยื่อส่วนใหญ่"อ้างว่า" มีอาการมึนงง และบางทีก็อาการค้างไปหลายวันนะคะ ไม่ใช่ "สลบทันที" ไอ้สลบทันทีนี่รู้สึกว่าผู้ร่วมถกเถียงจะมาเพี้ยนกันเองนา เยอะและพอดีกว่า...ขอบคุณทุกท่านที่อ่านค่ะ จากคุณ : toasab - [ 9 ก.ค. 51 23:37:40 ]

ความคิดเห็นที่ 85 ใจเย็นๆ ครับ กาลามสูตร เป็นแค่หนึ่งในวิธีการการพิจารณาเท่านั้น แล้วตอนนั้นสูตรนี้ก็ใช้กับการตัดสิตใจด้านศาสนามากกว่าด้วย สิ่งที่พระพุทธเจ้าต้องการบอกในกาลามสูตรก็แค่ว่า  อย่าเพิ่งเชื่อนะ ลองให้มาำทำดู  ท้าให้พิสูจน์ว่างั้นเหอะ ไม่ได้บอกให้คิด ซะขนาดนั้น- -" จากคุณ : Panda-baker - [ 10 ก.ค. 51 10:08:55 ]

ความคิดเห็นที่ 86 ข้อมูลอีกตัว.. ++ แล้วทำไมส่วนใหญ่ที่โดน ถึงมีอาการอาเจียนหลังจากนั้น ++ จากคุณ : don't panic (RoAdSidE) - [ 10 ก.ค. 51 10:53:48 ]

ความคิดเห็นที่ 87 ขออนุญาตนำข้อมูลมาร่วมแจมนะคะ..เป็นข้อความจาก.. น.สพ.รัฐพันธ์ พัฒนรังสรรค์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ฝ่ายวิชาการ ชมรมสัตวแพทยสัตว์ป่าและสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ร่วมแจมในหัวข้อ ;  ยา Etorphine หรือ ยา M99 ในการใช้ประกอบอาชญากรรม โดยอ้างถึง Link เว็บบอร์ดเว็บบอร์ดหมอสัตว์ป่า ชมรมสัตวแพทย์สัตว์ป่าและสวนสัตว์แห่งประเทศไทย http://zoowildlifevet.com/board/index.php?topic=217.0 " ในความคิดเห็นของผม เห็นว่า ไม่น่าจะใช่ที่มีคนเคยใช้ ตามอาการที่ว่า (ป้าย แล้วบอกให้ถอดสร้อย) และ ไม่น่าใช้ (ถ้าผมเป็นอาชญากร) ด้วยเหตุผลต่อไปนี้ 1.) ยานี้เป็นยาควบคุมตั้งแต่แหล่งผลิต ผู้จะซื้อ ต้องมีใบอนุญาต จากรัฐบาลประเทศที่จะใช้  เขาถึงขายให้ และ ส่วนหนึ่งของการรับประกันจากรัฐบาล คือ 1.ต้องมีการล็อคในเซฟ 2. ให้ใช้โดยสัตวแพทย์(ยุโรป และอเมริกา)  หรือ ผู้ชำนาญการวางยาสลบสัตว์ป่า(อัฟริกาใต้)  เท่านั้น และ มีการรายงานการใช้ทุกๆมิลลิกรัม ต่อหน่วยงานควบคุม เพราะ ทางผู้ผลิตเอง เขาก็ sensitive มากๆ เพราะถ้ามีคนใช้ประกอบอาชญากรรม บริษัทที่ผลิตก็จะแย่ไปด้วย ตอนนี้บริษัทที่ผลิตจำหน่าย อยู่ในอเมริกา เท่านั้น 2.) ยาตัวนี้ ยังไม่มีการนำเข้ามาใช้ทั่วไป แม้จากหน่วยงานทางราชการเอง ที่นำมาใช้วางยาสลบสัตว์ป่าอย่างถูกต้องและเป็นวิชาการ  เช่น คณะสัตวแพทยศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยต่างๆ องค์การสวนสัตว์ฯ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ก็ยังไม่มีการนำเข้ามาใช้ทั่วไป ไม่มีโอกาสหลุดออกสู่โลกภายนอก เพราะ ปัจจุบัน ยังไม่มีเก็บในตู้เซฟกันเลย 3.) เป็นยาที่มีความเสี่ยงต่อผู้ใช้มาก ถึงแก่ชีวิตได้ ในหลายประเทศที่มีการใช้บ่อยๆในการจับสัตว์ป่าขนาดใหญ่ ก็เกิดอุบัติเหตุ จนผู้ใช้ยานี้ (สัตวแพทย์ และ บุคลการ)  เสียชีวิตก็มี 4.) เป็นยาที่มีฤทธิ์ ทำให้สลบ หมดสติ ไม่ได้มีฤทธิ์ในการหลอนประสาท จนเหยื่อเชื่อฟัง ทำตามคำสั่ง 5.) มีราคาสูงมาก เพราะเป็น derivative หรือ ยาสกัดจากสารออกฤทธิ์กลุ่มฝิ่น  ถ้ามียานี้ เอามาdilute ขาย เป็นยาเสพติดดีกว่าเอาไปประกอบอาชญากรรม เสี่ยงน้อยกว่า 6.) ถ้าสงสัย สามารถตรวจสอบผู้ป่วย หรือเหยื่อได้ เหมือนการตรวจเฮโรอีน เพราะเป็น morphine derivative 7). การดูดซึมผ่านผิวหนัง มีน้อยมาก ยา potent มากแต่เฉพาะในกรณี parenteral การซึมผ่านผิวหนัง ฤทธิ์ยาไม่แน่นอน มีคำถามในเชิงลึก เชิงวิชาการ กรุณาถามด้วย ชื่อนามสกุลจริง และ email ของหน่วยงานที่เชื่อถือได้ ยากลุ่มยาสลบ ไม่ควรเปิดเผยทุกๆด้านสู่สาธารณะครับ วันนี้ยังไม่มีการใช้ วันหน้าถ้ามีคนรู้มากๆ  อาจมีการใช้ได้ครับ " น.สพ.รัฐพันธ์ พัฒนรังสรรค์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ฝ่ายวิชาการ ชมรมสัตวแพทยสัตว์ป่าและสวนสัตว์แห่งประเทศไทย vsrpt@mahidol.ac.th จากคุณ : YingeXtreme (jariyyim) - [ 10 ก.ค. 51 11:46:41 ]

ความคิดเห็นที่ 88 เอาเปนว่า   เชื่อไปหมด ก็ไม่เป็นไปตามหลักกาลามสูตร ไม่เชื่อไปหมด ก็ไม่เป็นไปตามหลักกาลามสูตร บางครั้ง ข้อมูลข่าวสารที่ได้รับ เราอาจจะไม่สามารถเลือกได้ว่าเราจะเชื่ออะไรดี เช่น เรื่องราวของการเมืองในขณะนี้ เราไม่อาจทราบเลยว่าใครพูดจริง ใครโกหก หรือตรงไหนคือความจริง ตรงไหนคือความเท็จ ฯลฯ สิ่งที่เราทำได้คือ อุเบกขา หรือ นิ่งไว้ก่อน และใช้ปัญญา หาวิธีที่ดีที่สุด ที่คุณสามารถทำได้ จากข่าวสารที่ไม่รู้ค่า"ความเชื่อถือได้" นี้ จากคุณ : NaCl - [ 10 ก.ค. 51 12:03:03 ]

ความคิดเห็นที่ 89 คุณ NaCL คุณลองอ่านที่ผมเขียนในกระทู้นี้ดีๆแล้วกัน http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K6626104/K6626104.html ที่คุณบอกว่ากาลามสูตรนั้นเป็น Paradox เพราะคุณไม่ได้ศึกษาข้อความนั้นดีๆ และคุณก็อ่านมาไม่ครบ ซึ่งก็ไม่แปลกเพราะส่วนใหญ่คนมักจะอ้างแค่ครึ่งบน แต่กลับไม่อ้่างครึ่งล่าง ทั้งๆที่สำคัญพอๆกับข้างบน จากคุณ : Nexus - [ 10 ก.ค. 51 12:40:26 ]

ความคิดเห็นที่ 90 #84 ผมบอกข้อสงสัยของการแนวคิดนี้ไปแล้วไงครับว่า ในเมื่อมิจฉาชีพระดับธรรมดาๆ ที่หลอกเอาเงินแค่ไม่กี่พันไม่กี่หมื่นยังหามาใช้ได้ ทำไมผู้เกี่ยวข้อง (ตำรวจ นิติเวช ฯลฯ) ต่างๆ ถึงไม่ทราบ ในเมื่อเขาก็ตามจับมิจฉาชีพกลุ่มนี้ได้อย่างเป็นประจำ ไม่ใช่กลุ่มมิจฉาชีพลึกลับจากองค์กรข้ามชาติที่ไหนสักหน่อย ทริกเล็กๆน้อยๆ ผู้เกี่ยวข้องในการจับกุมเขาสืบทราบได้หมดน่ะแหละครับ ไม่ใช่เรื่องลึกลับอะไรเลย คุณคิดหรือว่าเรื่องที่มิจฉาชีพกระจอกๆรู้ แล้วคนอื่นจะไม่มีทางรู้? (ที่เีรียกว่ากระจอกเพราะหาเงินทีละน้อยๆ ถ้ายามันได้ผลจริง คงเกิดคดีพันล้านไปแล้ว) อ้อยาทำให้มึนๆน่ะมี แต่ไม่มียาตัวไหนใช้แล้วสั่งได้ โดยที่เจ้าตัวยินยอมง่ายๆหรอกนะครับ  ขนาดยาหลอนประสาทที่ออกฤทธิ์โดยตรงก็ใช่่ว่าจะทำได้ง่ายนัก กรณีนี้ผมว่าใช้ยาหม่องกลิ่นฉุนๆแล้วใช้เทคนิคตกทองธรรมดามากกว่า เมื่อคนเราร่างกายไม่สมบูรณ์เพราะมึนๆ ก็เลยด่วนใจง่าย ตัดสินใจง่ายๆ โดนหลอกง่ายๆนั่นเอง แต่น่าแปลกที่คนเล่าต่อมักไม่พูดถึงส่วนนี้ พูดแต่ว่า เขาสั่งให้ถอดก็ถอดให้หมดเลย ซึ่งมันขัดแย้งกับความเป็นไปได้น่ะแหละ จากคุณ : ....4จุด - [ 10 ก.ค. 51 16:22:30 ]

ความคิดเห็นที่ 91 คุณ toasab  เสนอ ป้ายยาที่หลังเล็บ เพื่อป้องกันตัวเองจากยา .. ผมว่ายากนะ ..  สาวๆ ทาเล็บ ขนาดข้นคลั่กแล้วยังใช้พู่กันเล็กๆ  ยังเลอะได้ แถมก่อนจะแห้งต้องรีบป้ายเหยื่อ  จะเอาเวลาที่ไหนไปบรรจงทาที่หลังเล็บ ( ยาทาเล็บธรรมดา ทาเสร็จไม่ระวังให้ดียังเลอะเทอะเลย) ไม่นับว่าน้ำยาใส จะไหลลงไปที่ข้างเล็บ ..   สรุป ผมว่าใช้วิธีนี้ไม่ได้หรอก จากคุณ : ทุ่มเท - [ 10 ก.ค. 51 16:29:42 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ว่าแต่ว่าแปลก  หลายกรณี มีกองอ๊วกของเจ้าทุกข์เป็นหลักฐานด้วย ??? ฤๅ ไม่ใช่อีตอร์ฟีน แต่ เป็นตัวอื่นที่ง่ายกว่านี้ ???? จากคุณ : NaCl - [ 10 ก.ค. 51 18:53:05 ]

ความคิดเห็นที่ 93 ก็ว่ากันไป มันจะต้องมีๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อะไรซักอย่างๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ถ้าอย่างนั้นมันก็มีเสมอ ในความคิดของคนที่เชื่อนั่นหล่ะ ใครพูดอะไรก็ไม่ค่อยฟังหรอก บ้างก็ลามไปสมุนไพรลับที่ส่งต่อกันในครอบครัว สารเคมีX ที่คิดค้นในห้องทดลองลับเฉพาะ ถ่าเป็นผมเอาไปขายใ้ห้องค์กรโคนันดีกว่า ได้เงินกว่ามาหลอกป้ายคนตามท้องถนนอีก (ไหนๆก็ขโมยสูตรพระอาจารย์มาแล้ว ชะเอิงเอย...เริ่มลิเกแล้ว) จากคุณ : xxx (TaizoXXX) - [ 11 ก.ค. 51 00:10:36 ]

ความคิดเห็นที่ 94 อ้วกเพราะเครียดที่เสียตังค์มั๊งครับ อยากเชื่อก็เชื่อเถอะครับ ไม่ว่าจะมีหรือไม่มี ความจริงมันก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลง ผมไม่ได้บอกว่ามีหรือไม่มีด้วยซ้ำนะครับ จากคุณ : [Zero] - [ 11 ก.ค. 51 10:20:18 ]

ความคิดเห็นที่ 95 เพิ่งอ่านแค่โพสของจขกท. กับลิ๊งแรกของจขกท. เอ่อ.. เมื่อวันก่อน (รุสึกจะวันพุธที่ผ่านมา) ตอนเดินออกจากมหาลัยเจอผู้ชาย2คนแต่งตัวดูโทรมเล็กน้อยหอบข้าวของมากมาย ถามว่าจากแถวนี้เดินไปสวนลุมไกลมั๊ย (แถวนี้ก้อประมาณหน้าเตรียมฯ) เราก็ตอบว่ามันก็ไม่ใกล้เท่าไหร่ เค้าก็เลยถามว่ารถเมล์สายไหนไปได้บ้าง เราก็ไม่รู้อีก เลยบอกให้ถามคนอื่น เค้าก็บอกว่าขอเงินค่ารถคนละ8บาทได้มั๊ย เราก็คิดว่าให้ๆไปเถอะไม่ได้มากมายอะไร เลยหยิบแบงค์20ยื่นให้ เรายื่นมือไปแบบคว่ำมือลงจับแบ๊งไว้ข้างล่างเตรียมเอาใส่มือเค้า แล้วก็ประหลาดใจที่แทนที่เค้าจะแบมือรับกลับจับเงินแล้วเหมือนจงใจเอานิ้วแตะหลังมือ ทั้งที่จากโพสิชั่นของการรับส่งไม่น่าจะจับมือเราได้ ไงก็ตาม เราเป็นคนนิสัยเสียเกี่ยวกับเรื่องมือ เช่นถ้าจับราวบันได้ เสาจับในรถไฟฟ้า หรือแตะมือคนอื่น เราจะเอามือเช็ดกับกระโปรง ครั้งนี้ก็เหมือนกัน พอให้เงินเสร็จก็เดินต่อ มือก็เช็ดๆ  ..พอมาอ่านเรื่องนี้ก็แอบคิดว่า นี่เราเพิ่งรอดพ้นจากอะไรรึเปล่า หรือแค่คิดไปเอง เพราะถ้าป้ายยาจริงๆต่อให้เช็ดอะไรยังไงก็คงไม่รอด อืม.. คงคิดไปเองแหละ แต่พิมนาน ก็เลยคิดว่าส่งข้อความนี้คงไม่เสียหาย แหะๆ จะอ่านคห.อื่นต่อล่ะค่า~ ปล. ถ้าเรื่องที่เล่าไม่ค่อยจะเกี่ยวกับประเด็นซึ่งกำลังพูดกันในคห.ข้างบน ก็ขอโทดด้วยค่ะที่ทำให้สะดุด >w< จากคุณ : an-expert-lover - [ 12 ก.ค. 51 02:44:07 ]

ความคิดเห็นที่ 96 ^ ถ้าคนที่เชื่อ - นี่ไง อีกตัวอย่างนึง เพิ่งรอดมาสด ๆ ร้อน ๆ ถ้าไม่เชื่อ   - ก้อ ไอ้หมอนั่นมันจะแต๊ะอั๋งคุณไง ม่ายเห็นจายาก จากคุณ : [Zero] - [ 12 ก.ค. 51 02:48:26 ]

ความคิดเห็นที่ 97 อะโห.. หลังจากที่อ่าน แล้วก็อ่าน แล้วก็กดลิ๊ง(ส์)เข้าไปอ่านอ่านอ่าน กระทู้นี้เข้มข้นดุเดือดจัง ... ไม่มีความรู้เพียงพอที่จะร่วมช่วยคิดหรือตัดสิน หรือขยายความให้ความรู้ใด ได้แต่รับฟังเก็บความรู้ แต่ก็พอจะได้เงารางๆของข้อสรุปที่น่าเชื่อถือกว่าอีกฝ่าย ... คำว่า'ข้อมูลที่น่าเชื่อถือ'นี่ฟังดูหลอนหน่อยๆ ปล. สวัสดีค่ะคุณ[Zero]^^ จากคุณ : an-expert-lover - [ 12 ก.ค. 51 03:36:16 ]

ความคิดเห็นที่ 98 ขอโทษคุณ NaCl ด้วยนะครับ ปล่อยไก่ไปเล้านึงเลย จากคุณ : kiox - [ 12 ก.ค. 51 13:09:52 ]

ความคิดเห็นที่ 99 ที่เราคิดมี2ประเด็นอะค่ะ  เราอยู่พวกกลางๆ  คือเชื่อว่าเหยื่อโดนหลอกจริงไม่โกหกจะโดนยากินหรือโดนสะกดจิตหรือโดนไรไม่รู้(ต้องหาสาเหตุกันทีหลัง)  แต่ไม่เชื่อว่ายานั้นเป็นยาป้าย  แต่ประเด็นที่เราคิด 1. คนที่โดนบอกว่า  มึน งง ไม่ค่อยมีสติ 2. คนที่เอาข้อมูลเรื่องยามา  เป็นข้อมูลยาสลบ มันขัดแย้งกันในตัวอะค่ะ  เพราะถ้าในกรณีโดนยาไม่ว่าจะเป็นยาอะไรก็แล้วแต่  อาการตามข้อ1ไม่ใช่ยาสลบเพราะเหยื่อไม่ได้สลบ เราว่ามันผิดทางตั้งแต่หาข้อมูลเรื่องยาสลบแล้วอะ จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย - [ 12 ก.ค. 51 15:44:09 ]

ความคิดเห็นที่ 100 #43 - "ได้อ่านกันมั๊ยเนี่ย  >>>  Veterinary-strength etorphine is fatal to humans; one drop on the skin can cause death within a few minutes" แล้วได้ดู reference ของประโยคนี้บ้างไม้ครับ 4. ^ Zoo Vet At Large - Sky Travel (8 July 2007, Part 10 of 26) เชื่อถือได้ไม้ครับ ? ? Sky Travel เป็นรายการทีวีรายการหนึ่งครับ แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 51 09:33:50 จากคุณ : เหวเห้ว - [ 12 ก.ค. 51 17:46:07 ]

ความคิดเห็นที่ 101 ปกติ  MORPHINE HYDROCHLORIDE สามารถซึมผ่านผิวหนังและก่อให้เกิดอันตรายได้น่ะครับ กรณี Etorphine ก็เป็น MORPHINE ชนิดหนึ่ง และปกติจะใช้ในรูปของ Etorphine HYDROCHLORIDE ซึ่งเรียกย่อๆว่า M99  นั่นหล่ะครับ เพิ่มเติม : เนื่องจาก Etorphine HYDROCHLORIDE เป็นอันตรายมาก ปกติจะใช้ความเข้มข้นน้อยมากๆก็สลบช้างได้แล้ว กรณีที่ซึมผ่านผิวหนังคน หรือมีการสูดดม แม้เพียงน้อยนิดก็ก่อให้เกิดอันตรายและอาจถึงแก่ชีวิตได้ แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 51 09:14:05 จากคุณ : Sir.ขงเบ้ง - [ 13 ก.ค. 51 01:04:41 ]

ความคิดเห็นที่ 102 ไม่ได้มาเล่นนาน ตั้งใจว่าจะไม่มาอ่าน แต่บังเอิญหลงมา อธิบายความเห็นที่ 99 1. คนที่โดนบอกว่า  มึน งง ไม่ค่อยมีสติ 2. คนที่เอาข้อมูลเรื่องยามา  เป็นข้อมูลยาสลบ มันขัดแย้งกันในตัวอะค่ะ  เพราะถ้าในกรณีโดนยาไม่ว่าจะเป็นยาอะไรก็แล้วแต่  อาการตามข้อ1ไม่ใช่ยาสลบเพราะเหยื่อไม่ได้สลบ เราว่ามันผิดทางตั้งแต่หาข้อมูลเรื่องยาสลบแล้วอะ คำว่ายาสลบในความหมายของคนทั่วไปนั้น มันครอบคลุมกลุ่มยาตั้งแต่ยานอนหลับทั่วไปยันยาที่ทำให้สลบจริงๆ หรือยาแก้ปวดบางตัวในขนาดสูง และยาเสพติดด้วย เพราะมันก็ยุ่งกับสารเคมีตัวเดียวกันนั่นแหละ เพราะโดยรวมแล้วกลไกของยาเหล่านี้มีผลเช่นเดียวกันครับ ในขนาดต่ำๆ มีผลแค่มึนงง เซื่องซึม สูงๆ ก็หลับ สลบ หรือจะเรียกไรก็ว่าไป จนถึงกดความรู้สึกเจ็บปวด ซึ่งคือสลบจริงๆ นั่นแหละ และกดสมองสุดๆ จนตาย... ดันนั้น ไม่ผิดทางหรอกครับ ยาที่ออกฤทธิ์ผ่านผิวหนังได้เร็วๆ มีน้อยยิ่งกว่าน้อยด้วยขั้นตอนที่ข้างบนบอกไว้ จึงต้องมุ่งประเด็นมาที่ยาที่ดูดซึมทางผิวหนังได้ครับ จากคุณ : Epinephrine - [ 13 ก.ค. 51 01:47:27 ]

ความคิดเห็นที่ 103 มันคืออย่างเดียวกันครับ ไม่ว่าจะทำให้มึนงง ไปจนง่วง แก้ปวด หลับ สลบ ตาย มันไปยุ่งกับสมองด้วยกลไกคล้ายๆ กัน ต่างกันที่ระดับในการออกฤทธิ์เท่านั้น จากคุณ : อะธีลาส - [ 13 ก.ค. 51 08:51:58 ]

ความคิดเห็นที่ 104 แต่ reference wiki เนี่ยนะ จากคุณ : xxx (TaizoXXX) - [ 13 ก.ค. 51 13:24:59 ]

ความคิดเห็นที่ 105 wikiใช้อ้าง M-99 ครับ แต่ยาที่ทำให้สลบทันทีเป็นความเห็นผู้เชี่ยวชาญครับ จากคุณ : Sir.ขงเบ้ง - [ 13 ก.ค. 51 19:26:45 ]

ความคิดเห็นที่ 106 อ่าว แล้วสรุปว่า เชื่อ wiki ไม่ได้ใ่่ช่ไหมครับ คือว่าจขกท.เริ่มด้วยwikiเนี่ย หมายถึงเกริ่นคร่าวๆว่า M-99 เท่านั้น ส่วนข้อสรุปจริงๆ คือของ รศ.สพ.ญ.ดร.วรรณดา สุจริต ใช่ไหมครับ ส่วนหลังๆที่มาอ้างว่า อ่านwiki ว่าสัมผัสก็มึนได้ ก็ไม่มีมูล??? แล้วที่เภสัชเถียงกันข้างบนหมายความว่าไง แล้วสรุปมันมีจริงรึเปล่าครับ แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 51 20:22:24 จากคุณ : xxx (TaizoXXX) - [ 13 ก.ค. 51 20:20:56 ]

ความคิดเห็นที่ 107 ^ จิ้มไปที่ คคห. 92 เป็นไปได้มั้ยว่าคนที่บอกว่าโดนป้ายนี่จะ panic เลยอ้วก... ? ไม่ใช่เพราะยา แต่เป็นเพราะสภาพจิตใจ ที่ผมไม่ค่อยเชื่อเพราะว่า....... ถ้าเป็นยาที่สังเคราะห์ก็น่าจะรู้กันแล้วว่าคืออะไร  -- --'' แต่ถ้าเป็นยาจากสมุนไพร....  เออ...  แปลกนะที่ยาแบบนี้ไม่เคยมีคนได้ยิน ส่วน คคห. 104  วิกิไม่ได้แย่ขนาดนั้นนะครับ...  ใช้อ้างอิงไม่ได้ แต่ถ้าหาความรู้นี่ดีพอควรเลย แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 51 22:00:01 แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 51 21:57:12 จากคุณ : Munch - [ 13 ก.ค. 51 21:54:34 ]

ความคิดเห็นที่ 108 อยากรู้ความน่าจะเป็นของอาการตาม #70 น่ะค่ะ จากคุณ : noo_ninja - [ 14 ก.ค. 51 00:50:37 ]

ความคิดเห็นที่ 109 น่าคิด จากคุณ : env42_tay - [ 14 ก.ค. 51 21:51:52 ]

ความคิดเห็นที่ 110 เสริมเรื่องกาลามสูตรหน่อยนะครับ ในกาลามสูตรนั้นไม่ได้ใช้คำว่า "อย่าเชื่อ" แต่ใช้คำว่า "อย่าปลงใจเชื่อ" หรือ "อย่าเพิ่งเชื่อ" ซึ่งสื่อความหมายต่างจากคำว่า "อย่าเชื่อ" อยู่มาก เรียกได้ว่าคนละทิศกันเลย รายละเอียดตามลิงก์นี้ครับ อธิบายไว้ชัดเจนดีทีเดียว http://www.dopa.go.th/religion/tammar.html แต่ก่อนผมก็เคยข้องใจเช่นเดียวกับคุณ NaCl จนได้รับรู้ว่าบทกาลามสูตรที่ตัวเองเคยรู้มานั้นไม่ใช่ฉบับที่ถูกต้อง (ที่จริงผมก็ไม่รู้หรอกนะว่าอันที่ถูกต้องมันอันใหนกันแน่ แต่อันนี้มันดูเข้าเค้ามากกว่า อาจจะเป็นเพราะว่าผมมีความลำเอียงเข้าไปในทางศาสนาพุทธอยู่มากก็ได้) โดยความเห็นส่วนตัวแล้วอันว่า กาลามสูตรนี้มีไว้เพื่อใช้ในการดำรงชีวิตในสังคมมากกว่า โดยจุดมุ่งหมายของตัวสูตรเองแล้วสอนให้เราเป็นคนระมัดระวังในการรับสารจากสื่อต่างๆ เพราะสารที่รับเข้ามานั้น อาจจะ จริง หรือ ไม่จริง ก็ได้ ถ้ารับมาเฉยๆคงไม่เป็นไร แต่ ถ้าเรากระทำ อะไรลงไปโดยคิดว่า สาร ที่เรารับมาจากสื่อนั้นๆ ถูกทั้งๆที่มันผิด อาจจะส่งผลที่เลวร้ายกับตัวเราก็ได้ เห็นกันชัดๆก็ ข่าวลือ ข่าวในโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ FWD Mail กระทู้ในเว็บบอร์ด พ่อเล่าให้ฟัง(โม้) คุณรับสื่อเหล่านี้แล้วเชื่อเลยหรือเปล่า คุณเคยคิดบ้างไหมว่า ... มันจริงๆเหรอ อย่างที่เขาบอกมานั่นน่ะ เคยมั้ยครับ เรื่องไกล้ตัวที่มีคนเอาไปสเนอในสื่อต่างๆแล้วเราเห็นว่า เฮ้ย จริงๆมันไม่ใช่นี่หว่า ถ้าไม่โดนกับตัวเองก็จะงมงายอยู่อย่างนั้นแหละครับ ผมไม่แน่ใจว่าใช้คำว่า "สาร" ถูกต้องหรือเปล่า แต่ก็เอามาจาก สื่อสาร นั่นแล แก้ไขเมื่อ 15 ก.ค. 51 12:18:45 จากคุณ : Blue_Wind - [ 15 ก.ค. 51 12:16:55 ]

ความคิดเห็นที่ 111 ขอโทษนะ พอดีหัวมันคิดไปเองว่า ถ้าพวกมิจฉาชีพเข้ามาอ่านแล้วจะเป็นยังไงนะ อย่างเราๆ อ่านก็ได้ความรู้ดีค่ะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : เฟือง - [ 15 ก.ค. 51 21:35:01 ]

ความคิดเห็นที่ 112 คนรู้จักเป็นตำรวจ เค้าว่า พวกที่โดนบอกว่า โดนสะกิดแล้วพอหันไปก็วูปไม่รู้เรื่อง ปลดสร้อยปลดทองไปหมดอ่ะ ส่วนมาก " โกหก " เพราะกลัวว่าจะเสียหน้า ที่จริงๆโดนหลอกเพราะอุบาย โลภมากเอาทองหรือของที่ใส่อยู่แลกของที่ใหญ่กว่า สุดท้ายก็โดนหลอก เวลามาเล่าให้ตำรวจฟังก็เลยอาย ก็ต้องพูดว่า "ไม่รู้ตัวเลยจริงๆ" ตำรวจ + หมอ + ผู้คุมหลายคนคอนเพิมว่า ไม่มีจริงๆหรอก ยาที่สลบเลยมี แต่ที่ป้ายแล้วเคลิ้มไม่รู้ตัว พูดอะไรก็ทำตามอ่ะ ไม่มี แค่คำพูดแก้หน้าอ่ะ คิดง่ายๆ ถ้ามันมีจริงๆ ยาแบบนี้เอาไปใช้ประโยชน์ดีๆกับสังคมได้เยอะนะ ถ้าฤทธิ์มันเวอร์แบบนั้นอ่ะ จากคุณ : กระเทยเด็กเก๊กแมน - [ 17 ส.ค. 51 03:53:50 ]