ความคิดเห็นที่ 15
คงมีคนสงสัยว่าทะเลทรายซาฮาร่าเกิดขึ้นมาได้อย่างไร ก่อนอื่นเรามาศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับทะเลทรายนี้กันก่อนนะ
ทะเลทราย Sahara ซึ่งเป็นทะเลทรายที่มีอาณาเขตกว้างใหญ่ที่สุดในโลกคือ มีเนื้อที่ประมาณ 9.3 ล้านตารางกิโลเมตร (ใหญ่เท่าอเมริกาทั้งประเทศ) และตั้งอยู่ ทางตอนเหนือของทวีปแอฟริกา มีอาณาเขตทิศตะวันตกจดมหาสมุทรแอตแลนติก ทิศตะวันออกจดทะเลแดง ทิศเหนือจดภูเขา Atlas และทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและ ทิศใต้จดเส้นละติจูด 15 องศาเหนือ โดยมีประเทศ Tunisia, Chad Libya, Algeria, Sudan, Niger และ Egypt ตั้งอยู่รายรอบ อุณหภูมิของอากาศทะเลทรายในเดือนกรกฎาคม โดยเฉลี่ยแล้วสูงประมาณ 32 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิในเดือนมกราคมโดยเฉลี่ย สูงประมาณ 20 องศาเซลเซียส สถิติอุณหภูมิสูงสุดในเวลากลางวันเท่ากับ 57 องศาเซลเซียส เนินทรายที่สูงที่สุดในโลกก็คือสูงถึง 465 เมตร ตั้งอยู่ในทะเลทราย Sahara นี้ที่ Isaouane-N-Tifernine ใน Algeria ลมพายุใน Sahara ที่พัดแรงและมีชื่อเสียง เช่น ลม Sirocco และ Khamsin เป็นต้น อนึ่ง ทะเลทรายนี้มีฝนตกไม่เกินปีละ 25 เซนติเมตร และฝนจะตกไม่สม่ำเสมอ แต่จะตกแรงและสิ้นสุดเร็ว จนทำให้ลำธารเล็กๆ ที่มีอยู่ตามหุบเขาในทะเลทรายกลายสภาพเป็นแม่น้ำได้ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
สภาพทั่วไปทางภูมิศาสตร์ของ Sahara เป็นพื้นที่ราบ แต่ก็มีภูเขาสูงบ้าง เช่น ภูเขา Ahaggar ที่สูง 3,300 เมตร ใน Algeria และในบริเวณทางเหนือของทะเลทรายจะมีแหล่ง oasis มากกว่าทางตอนใต้ และแหล่งน้ำนี้เป็นที่ที่มีการปลูกปาล์ม มะกอก องุ่น ข้าวสาลี และข้าวบาเลย์มาก โดยได้น้ำในการทำเกษตรกรรมจากภูเขา Atlas ที่อยู่ไกลออกไป 400 กิโลเมตร ในทะเลทรายนี้ ยังมีเมืองโบราณที่ถูกทรายทับถมหลายเมือง ส่วนทางด้านตะวันออกของทะเลทรายมีแม่น้ำไนล์ไหลผ่าน จึงทำให้พื้นดินส่วนนี้ มีการทำเกษตรกรรม ส้ม ผลไม้ และฝ้าย นอกจากนี้ Sahara ยังมีแหล่งน้ำมันด้วย จึงทำให้มีการนำรถยนต์มาใช้ในการติดต่อ เดินทางถึงกันแทนที่จะใช้อูฐดังเช่นในสมัยก่อน
คำถามหนึ่งที่นักภูมิศาสตร์ได้งุนงงและสงสัยมานานคือ Sahara ถือกำเนิดได้อย่างไร เพราะนักโบราณคดีได้ขุดพบเมล็ดพืช โบราณในสถานที่หลายแห่งในทะเลทราย ซึ่งเป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าในอดีตเมื่อ 9,000-6,000 ปีก่อนนี้ Sahara ได้เคยเป็น สวนสวรรค์แห่ง Eden ที่มีหญ้าเขียวขจีมีต้นไม้และพืชขึ้นอย่างอุดมสมบูรณ์ แต่เหตุใด ณ วันนี้และทุกวันนี้ Sahara จึงมีแต่ทรายกับทราย
ในวารสาร Geophysical Research Letters ฉบับที่ 26 หน้า 2037 M.Claussen และคณะแห่ง Potsdam Institute for Climate Impact Research ในประเทศเยอรมนี ได้ให้คำอธิบายสาเหตุการกลายสภาพของ Sahara ว่า
การวิเคราะห์เมล็ดพืชโบราณได้ทำให้เขารู้ว่าเมื่อ 6,000-7,000 ปีก่อนนี้ อากาศใน Sahara อบอุ่น และ Sahara มีป่า มีต้นไม้มากมาย แต่เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 2,000 ปีได้เกิดเหตุการณ์ภัยแล้งอย่างรุนแรงที่กินเวลานาน 400 ปี ทำให้ผู้คน ที่ตั้งถิ่นฐานอยู่ใน Sahara ต้องอพยพย้ายแหล่งทำมาหากินไปอยู่ ณ ที่ใหม่ตามลุ่มน้ำไนล์ และสาเหตุที่ทำให้เกิดภัยแล้งระดับ มหากาฬนั้น Claussen ได้ให้เหตุผลว่า เกิดจากการที่แกนของโลกได้เปลี่ยนระดับการเอียง คือได้ลดลงจาก 24.14 องศา มาเป็น 23.45 องศา ทำให้ฤดูร้อนในซีกโลกทางเหนือมีอุณหภูมิลดลง เพราะแสงอาทิตย์ตกกระทบพื้นผิวโลกส่วนนี้น้อยลง และเมื่อ Claussen นำข้อมูลการเย็นลงของฤดูร้อนนี้ป้อนเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อศึกษาผลกระทบที่จะมีต่อกระแสน้ำในมหาสมุทรและ อากาศเหนือทวีปแอฟริกา รวมทั้งลมมรสุมที่จะพัดมาจากมหาสมุทรอินเดียเพื่อนำฝนมาตกใน Sahara เขาก็ได้พบว่า พายุนำฝนนี้ได้อ่อนแรงลงมากคือไม่สามารถนำฝนมาตกใน Sahara ได้มากดังเคย การมีฝนตกน้อย ทำให้ต้นไม้และพืชต่างๆ ล้มตาย และเมื่อป่าไม้สลายมาก ความสามารถในการเก็บความชื้นของดินก็ยิ่งน้อย ทำให้ฝนตกยิ่งน้อยและต้นไม้ก็ยิ่งตาย วงจรที่ใช้เวลา 400 ปีนี้ได้ทำให้ต้นไม้ใน Sahara สาบสูญหมด จน Sahara กลายเป็นทะเลทรายในที่สุด
จากคุณ :
kekodes
- [
13 ก.ค. 51 23:34:18
]
|
|
|