ความคิดเห็นที่ 1 จำได้ว่าตอนนั้น sony คิดว่า mp3 ไม่มีอนาคตครับเพราะจะโดน ลิขสิทธิ์ จากนั้น sony ก็ปล่อยไม้ตายสุดท้าย คือ Sony MD ท้ายที่สุดก็ต้องพ่ายให้ครับ ipod จากคุณ : John-an7 - [ 16 ก.ค. 51 13:17:25 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ความจุและรูปลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ก็เป็นส่วนหนึ่งครับ จากคุณ : AW Milan - [ 16 ก.ค. 51 13:31:10 ]

ความคิดเห็นที่ 3 MD นั้นแหละครับตัว พา sony ตายเลย เพราะ การจะเอาเพลงลง MD เนี่ยยากลำบากค่อดๆ แถมช้าสุดๆ ต้องลงผ่านโปรแกรมของ sony เท่านั้น แถมยัง MD ที่มีเพลงขายก้อไม่มี สุดท้ายตายสนิท จำได้ว่า MD มีสองแบบ แบบอัดเพลงเองได้(ลงผ่านคอม) แพงมาก เกือบๆ20000 กับรุ่น เล่นอย่างเดียว (แล้วจะเอาแผ่นMD ที่ไหนมาฟังวะ) 1หมื่นก่าๆ จากคุณ : ไม่เจ๊งให้รู้ไป (vn, man) - [ 16 ก.ค. 51 13:39:25 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เป็นธรรมดาครับ จากคุณ : เป็ด - [ 16 ก.ค. 51 13:40:43 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ...กำลังจะบอกว่า SONY มันตายกับ MD ก่อน ไอ้ป๊อด จะมาซะอีก ...นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า วิศัยทรรศน์ มันต่างกันเยอะครับ ===================================== ...แต่ถ้าจะถามว่า iPod เข้ามาอยู่ในใจคนส่วนใหญ่ได้ยังไง ส่วนหนึ่งก็คงเป็นที่รูปลักษณ์ล่ะครับ จากนั้นก็คุณภาพ ...ที่เหลือก็ตามๆ กันมาครับ ...อีกอย่างที่ SONY แพ้ คือที่ APPLE มีคนที่ชื่อว่า สตี๊ฟ จ็อบ หน่ะครับ จากคุณ : iii - [ 16 ก.ค. 51 13:49:17 ]

ความคิดเห็นที่ 6 INOVATION ไงครับ จากคุณ : TheShawShank - [ 16 ก.ค. 51 13:49:34 ]

ความคิดเห็นที่ 7 อย่างข้างบนว่านั่นแหละ โซนี่วิเคราะห์ตลาดผิดที่ออก MD ซึ่งแพงใช้งานยาก mp3 ออกมาตั้งหลายปีใครๆใช้กันทั่วโลก บ้านเราแวมไพร์-ประเทืองยังใช้ mp3เลย โซนี่คิดว่าแน่ใช้formatเพลงดิจิตอลของตัวเองชื่อ ATRAC แล้วไง-ก็ต้องปิดร้าน Sony abandons ATRAC media format, closing digital music store ความจริงก่อน ipod มีเครื่องเล่น mp3 ออกมาก่อนแล้วบ้างโดนฟ้องเรื่องลิขสิทธิ์ ipod โชคดีที่ติดตลาดเมกา แต่เครื่องเล่น mp3 ถูกๆฟังชั่นมากกว่า ipod มีมากมาย ความเห็นส่วนตัวขณะนี้ผมว่าเครื่องเล่น mp3 มันตกยุคแล้วมั้งเพราะมือถือคุณสมบัติเลิศ เห็นในหนังสือพิมพ์มือถือไม่ถึง2พันเล่นmp3 ถ่ายรูปได้ ดูmp4ได้ ... ใช้มือถือ+หูฟังฟังmp3ได้เพราะพอๆกัน ผมไม่ใช่นักฟังแบบหูทองคำ ราคามือถือ (เปิดตัว) 1,890 บาท (พฤษภาคม 51) ??M9 กล้องดิจิตอล VGA - 640 x 480 พิกเซล (Digital Camera) เครื่องเล่นเพลงและวีดีโอ MP3, MP4 player วิทยุ FM radio นาฬิกาปลุก, ปฎิทิน, แฮนด์ฟรี, เครื่องคิดเลข นาฬิกาโลก, ตัวแปลงหน่วย, บันทึก, เกมส์ การ์ดหน่วยความจำ microSD (T-Flash) จะพก ipod กับมือถือ 2 อย่างเหรอ มือถือก็ฟังเำพลงได้ microSDก็มีเป็นกิ๊กแล้ว จากคุณ : เมษ (ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ) - [ 16 ก.ค. 51 14:08:19 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ใช่ครับ MD นี่แหละที่พา Sony ล่มจม ........ ความจริงมีอีกเยอะที่ Sony พยายามสร้างมาตราฐานของตนแต่ก็ต้องแพ้ให้กับพวกอุปกรณ์พื้น ๆ ส่วนที่แพ้ iPod นั้น แพ้ตั้งแต่วิสัยทัศน์แล้วครับ จากคุณ : Skyman (Analayo) - [ 16 ก.ค. 51 14:09:51 ]

ความคิดเห็นที่ 9 จริงๆที่ ipod ขายดีก็เพราะดีไซน์ด้วยเป็นส่วนหลัก สตีพ จ๊อฟ วิเคราะห์ตลาดมาดี เน้นดีไซน์ก่อนอย่างอื่น แม้จะมีหลายๆเจ้าทำเครื่องเล่นmp3 ที่มีฟังก์ชั่นดีกว่าในราคาพอๆกัน กลับขายสู้ไม่ได้ เพราะรูปลักษณ์ธรรมดาเกินไป ตอนหลังยิ่งเป็นฮิตเป็นกระแสแฟชั่น ยิ่งขายดีมากขึ้นไปอีก ชนิดว่าใครไม่มีนี่เชยสุดๆ ipod ขายได้ด้วยการตลาด ไม่ใช่ขายได้ด้วยfeature ครับ จากคุณ : ....4จุด - [ 16 ก.ค. 51 14:21:32 ]

ความคิดเห็นที่ 10 แต่ผมยังฟัง walkman จากตัวมือถือ sony-ericsson ที่ใช้อยู่คับ ก็อย่างที่ข้างบนพูดมา เสียงจากเจ้านี่แจ่มเลยคับ แล้วทำไมผมต้อง ไปพกเครื่องเล่น mp3 เพิ่มให้หนักตัวอีก มีมาตรฐานของ sony อีกอย่างที่คิดว่าไม่ดีอีกอย่างคือตัว เมโมรี่สติก (M2) เนี่ยคับ แพงกว่าพวก sd card เยอะเลย -*- แต่ถ้าผมจะซื้อ ipod ก็เพราะอย่างเดียวคือรูปลักษณ์ทันนี่แหละคับ ผมยังไม่เคยได้ยินคนใช้พูดถึงจุดเด่นของมันว่าระบบดี เสียงเทพอะไรเลย รูปลักษณ์ภายนอกนี่สำคัญคับ ยิ่งกระแสแรงๆแบบนี้ด้วย แค่ถือของปลอมที่ทำออกมาหน้าตาคล้ายๆกัน คนถือก็ดูดีขึ้นแล้วคับ แก้ไขเมื่อ 16 ก.ค. 51 14:25:38 จากคุณ : Limelight - [ 16 ก.ค. 51 14:22:29 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ผมว่า ไม่น่าจะวิเคราะห์ ผิดนะครับ เพราะก่อน MP3 จะบูมตอนนั้น ipod ยังเงียบๆเลยแต่พอรู้ว่ามีอนาคต ถึงได้ทำ และก่อนหน้าที่ เครื่องเล่น mp3 Sony ก็ไม่ได้ลงมาเล่นกับตลาดพวกนี้ คีเวิร์ดก็คือ  Sony อยุ่ในตลาดก่อน MP3 บูม แต่ Ipod มาหลังจาก MP3 บูมไปแล้ว จากคุณ : นายโอ้นโต้น - [ 16 ก.ค. 51 14:22:54 ]

ความคิดเห็นที่ 12 format ของ sony เละไปไม่เป็นท่า เยอะเหมือนกันนะ Betamax MD UMD มาดีตรง Blu-ray เนี่ย จากคุณ : installation - [ 16 ก.ค. 51 14:32:10 ]

ความคิดเห็นที่ 13 แต่ Ipod เองก็กินเงินผมไม่ได้ เพราะผมฟัง mp3 จากมือถือ ความจริงไม่มีเงินจะซื้อ จากคุณ : AW Milan - [ 16 ก.ค. 51 14:34:02 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ไม่ได้วิเคราะตลาดผิดเรื่อง MD อย่างเดียวครับ หลักคือการมีหุ้นอยู่ที่ Sony Music และ Sony Picture ทำให้ตัว Sony เองมีข้อผูกพันกับการหนี mp3,mp4 ครับ ในช่วงเมื่อ 5-6 ปีที่แล้ว เป็นจุดสำคัญ คือ การรู้ว่า MD ตาย แต่ทำ MP3 ออกมา แล้วโฆษณาไม่ได้ จากคุณ : IRQ5 - [ 16 ก.ค. 51 14:49:31 ]

ความคิดเห็นที่ 15 การตลาดสู้ไม่ได้ ยึดติดกับชื่อเสียงและดีไซน์เก่าๆมากเกินไป ตอนนี้มือถือก็ฟังเพลงได้ แถมถ่ายรูปก็ได้ ทำให้แอปเปิ้ลต้องเข็นไอโฟนออกมา ท่าทางจะไปได้ดีด้วย แต่คงต้องสู้กับโซนี่อีริคสัน แถมด้วยโนเกียอีกยก จากคุณ : มังกรใจเย็น - [ 16 ก.ค. 51 15:24:20 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ผมซื้อ Ipod เพราะ Itune ครับ จากคุณ : Nexus - [ 16 ก.ค. 51 15:26:01 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ผมว่า เสียงของ ไอปอด นี่ไม่ได้ดีไปกว่าเสียงของมือถือเล่น MP3 เครื่องละ 3 พันเลยน่ะครับ(ถ้าหูฟังคุณภาพเท่ากัน) แต่ยอมรับกว่า การดีไซน์ ที่เรียบง่าย และ การใช้การหมุนๆ ถูๆ เพื่อเลื่อนเมนูนี่.....ล้ำหน้าจริงๆ แต่ ราคาดีไซน์ แพงชิบ..... โซนี่ คิดผิด ที่จะบ้าเอา MD ราคาหลักหมื่นมาสู้ MP3 ราคาหลักร้อย เพราะคนฟังเพลง 99% เอาไว้เพื่อฟังเพลงแก้เซ็ง ไม่ได้เอาระบบเสียงเทพๆ มาฟังซะหน่อย สรุปว่า ไอปอด หรือ MD ก็สู้ MP3 เมืองจีน ไม่ได้เน้อ...... จากคุณ : น้ำปลาเดือนห้า - [ 16 ก.ค. 51 15:26:33 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ^ ^ ^ ผมว่า เสียงของ ไอปอด นี่ไม่ได้ดีไปกว่าเสียงของมือถือเล่น MP3 เครื่องละ 3 พันเลยน่ะครับ(ถ้าหูฟังคุณภาพเท่ากัน) ก็ลองเปลี่ยนการ Convert File ให้เป็นอย่างอื่นสิครับ แล้วจะรู้ว่าทำไมมีคนบ้าๆ กล้าซื้อหูฟังราคาแพงๆ มาฟังเพลงที่ Rip เป็น AIFF หรือ WAV ลง iPod จากคุณ : T-geTZ - [ 16 ก.ค. 51 15:34:26 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เรื่องเสียงนี่ IPOD นี่ถือว่าอยู่แถวหน้าๆนะครับเรื่องเสียง IRIVER IPOD COWON ผมเถียงเลยเรื่องใครบอกเสียงไม่ดี ลองไล่มาตั้งแต่ 3G Video พวกนี้ถือว่าเป็นรุ่นที่ให้เสียงดีเลย ถ้าคุณไม่ได้เอาไฟล์ Bit rate 96 ลงไปใส่ หรือลองฟังด้วยหูฟังของมันที่แถมมา   แค่เปลี่ยนเป็นหูถูกๆ อย่าง KOSS KSC35 เสียงก็ต่างขึ้นมาอย่างมากเลย ปล. ผมใช้ IRIVER จากคุณ : <--APART - [ 16 ก.ค. 51 15:40:45 ]

ความคิดเห็นที่ 20 คนนี้เลยครับ ที่ jobs จ้างให้ออกแบบ ipod จากคุณ : John-an7 - [ 16 ก.ค. 51 15:45:32 ]

ความคิดเห็นที่ 21 >> แล้วจะรู้ว่าทำไมมีคนบ้าๆ กล้าซื้อหูฟังราคาแพงๆ  ชัีดเจน  คนบ้า .. ไม่ต้องการเหตุผล จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 16 ก.ค. 51 15:53:30 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เพราะ "อารยธรรมโซนี่" ครับ คนจะใช้ได้ต้องอยู่ในอารยธรรมเขาเท่านั้น จากคุณ : beer2nd - [ 16 ก.ค. 51 15:55:25 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ส่วนตัวแล้วชอบหูฟังของ Sony มากกว่า หูฟัง IPOD นะ แต่เครื่องเล่นของเป็น iriver แหะๆๆ จากคุณ : อิฐมอญ - [ 16 ก.ค. 51 16:05:28 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ipod ให้เสียงใส  pop jazz กำลังดีครับ แต่ถ้าจะฟังเอารายละเอียด ก็ต้องเปลี่ยนหูฟัง อันละ พันแปดถึงสามพัน แล้วจะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนครับ สำหรับโซนี่แล้ว  MD เป็นสิ่งที่ไร้สาระมากก ราวกับว่าโซนี่กำลังยัดมาตรฐานของตัวเองให้กับผู้ใช้อย่างเราๆ อย่างเช่นไฟล์ ATRAC มั่ง memory stick มั่ง ซึ่งผู้ใช้อย่างเราก็คงจะเอือมๆกันบ้าง แต่ที่โซนี่ไม่รู้ก็คือ mp3 ตอนนี้เป็นไฟล์มาตรฐาน ในระดับ iso ที่ทุกโปรแกรม ทุกเครื่องเล่น ต้องเล่นได้ครับ จัดได้ว่า โซนี่มองตลาดพลาด อย่างแรง มาแถมเรื่องไฟล์มาตรฐานกัน สำหรับคนที่จะแปลงไฟล์ ส่งไฟล์ให้คนอื่น ขอร้องให้แปลงในรูปของฟอร์แมตนี้นะครับ จะได้ไม่เกิดปัญหามีปากเสียงกันอีก มาตรฐานนี้เป็นมาตรฐานระบบ iso ใช้ในอุตสาหกรรมทั่วโลกครับ Video compression MJPEG, Motion JPEG 2000, MPEG-1, MPEG-2, MPEG-4 ASP, MPEG-4/AVC Audio compression MPEG-1 Layer III (MP3), MPEG-1 Layer II, MPEG-1 Layer I, AAC, HE-AAC Image compression JPEG, JPEG 2000, lossless JPEG,  JBIG, JBIG2, PNG, WBMP สำหรับไฟล Media containners โดยทั่วไป อนุโลมให้อยู่ในฟอร์แมตเหล่านี้ได้ครับ ทั้งนี้เนื่องจากยังไม่ได้บรรจุให้อยู่ในระบบ iso ครับ 3GP, ASF, AVI , Bink, DMF, DPX, FLV, Matroska, MP4, MXF, NUT, Ogg, Ogg Media, QuickTime, RealMedia, Smacker, RIFF, VOB แก้ไขเมื่อ 16 ก.ค. 51 16:24:47 จากคุณ : CaminoReal - [ 16 ก.ค. 51 16:21:25 ]

ความคิดเห็นที่ 25 สำหรับผม ที่ว่า Sony พลาด ก็เรื่องยึดติดนั่นหล่ะครับ ยึดติดมันตั้งแต่ Format ที่ว่าของเค้าต้องเป็น ATRAC มันเอาเพลงเข้าเครื่องไม่สะดวกเอาเลย และจะหาโปรแกรมเล่นก็ไม่มีทางเลือกให้มากนัก ถ้าเทียบกับ MP3 ที่แทบจะเรียกว่าเป็นมาตรฐานของไฟล์เพลงแบบบีบอัดตอนนั้นแล้ว สู้ไม่ได้เลย ไหนจะเรื่องความง่ายในการจะหาเพลงมาใส่เครื่อง MP3 ในบ้านเรา หาง่ายๆ แถวประตูน้ำ ส่วนบ้านเค้าก็โหลดเอาสบายๆ ค่า License อันนี้ผมไม่แน่ใจ แต่เหมือนจำได้ว่าใครจะทำ MD ต้องจ่าย License ให้ Sony ด้วยนะ แต่กับ MP3 มันเปิดกว้าง ใครจะทำก็ทำสิ อีกเรื่องคือยึดว่าต้องเป็นแผ่น MD มันก็ตายครับ ทำงานช้า ความจุน้อย พังง่าย ใครก็หนี พอเครื่องมันต้องใช้ Media แบบนี้ ขนาดมันก็ใหญ่ ชิ้นส่วนซับซ้อนมากมาย ลดต้นทุนสู้เจ้าอื่นก็ไม่ได้ ไหนจะเรื่องความสะดวก จะเอาเพลงเข้าทีเรื่องวุ่นวาย จะเอาออกก็วุ่นวาย แต่สิ่งที่ iPod เค้าชนะผมมองว่ามันประสบความสำเร็จมาจากต่างประเทศครับ มันสำเร็จได้จาก Apple Music Store ครับ มันเข้ามาเปลี่ยนวิธีการฟังเพลงของคนเลยครับ จากที่ต้องเดินไปร้าน CD เพื่อซื้อแผ่นมา RIP ลงเครื่องแล้วเอาเข้า Player มันหลายขั้นตอน เทียบกับถ้าไปซื้อจาก AMS เค้าไม่ต้องมานั่งทำละ แล้วยังเลือกเป็นเพลงๆ ได้ แบบว่าไม่ต้องบังคับซื้อ บังคับฟังไอ้ที่ไม่ชอบ ทีนี้ค่าใช้จ่ายในการเสพดนตรีก็ถูกลง และสะดวกมากขึ้น ส่วนนึงที่ AMS เกิด ต้องยกให้กับจังหว่ะที่มันแจ้งเกิด Internet ความเร็วสูง เป็นของทั่วไปของคนในประเทศพัฒนาแล้วครับ เพราะงั้นการจะโหลดเพลงมาฟัง มันก็เป็นเรื่องธรรมดา ชิวๆ และเร็วกว่าออกไปซื้อครับ คือถ้าจะว่า iPod มันสำเร็จ อย่าไปมองที่เครื่องอย่างเดียว เพราะว่า Apple มักจะขาย Experience ในการใช้งานไปด้วย อย่างผมเอง ที่ตัดสินใจใช้ iPod เพราะว่า ผมเริ่มจาก iTune ซึ่งมันฟรี ใช้งานแล้วติดใจ เพราะว่ามันหาเพลงได้ง่าย และเร็ว เสียงดีกว่า WMP แม้ว่าจะฟังจากลำโพง Notebook ก็ยังฟังออก สุดท้ายผมก็ต้องเลือก iPod เพราะว่ามันจัดการเอาเพลงจาก iTune ลงมาได้เลย แล้วอย่างทุกวันนี้ที่ Coverflow ไม่ได้ใช้แต่ในเรื่องบันเทิง แต่มันดันเข้ามาอาละวาดในตัว Explorer(เข้าใจว่า Apple ใช้ชื่ออื่น แต่ผมจำไม่ได้ ขออภัยด้วยครับ) มันทำให้คนที่คุ้นเคยกับ Coverflow คุ้นเคยกับ OS X ได้ง่ายขึ้น ยังไม่พอ ไหนจะพันธมิตรที่พร้อมจะผลิตอุปกรณ์เสริมให้กับ Apple แบบไม่ต้องคิด เรียกว่าอะไรออกมา มีของเล่นเสริมแน่นอน เจ้าอื่นถ้าจะเข้ามาชน iPod มันไม่ได้ชน Apple เจ้าเดียว แต่ต้องสู้กับพันธมิตรด้วย เอาง่ายๆ แบบ iPod คุณก็ต้องเจอ JBL, Harmann Kardon, Belkin, Kingston และอื่นๆ อีกมากมาย ผมว่า โดยรวมถ้ามองทั้ง Solution แล้วนั้น iPod ยังเป็น Solution ที่ใช้เสพดนตรีที่ทั้งสะดวก ง่าย และเร็ว แต่ถ้ามองที่ตรงเครื่องเล่นหล่ะก็ ผมว่าตัวเลือกมีเยอะมากครับ ที่ให้เสียงที่ดี และราคาก็ถูกกว่า ถ้าจะแพ้ ก็เพราะว่า Apple มี Solution และพันธมิตรที่เหนือกว่าไงครับ จากคุณ : Ki@K:) - [ 16 ก.ค. 51 17:21:40 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ผมว่า ไอ้ click wheel นี่แหละที่เจ๋ง (ตอนนี้มีมือถือที่มีไอ้คล้ายๆ click wheel ออกมา คือ motorola rokr e8 แต่ก็ยังไม่เนียน) แล้วก็น่าจะเป็นเพราะตอนนั้นสินค้า apple แพงมหาศาล พอมาเจอ ipod ที่นับเป็นสินค้า apple ที่ราคาถูกมาก แถมในขณะนั้นยถงถือว่ามีความจุมากมายด้วย พอใช้แล้วดูเป็นคนมีดีไซน์ แถมในตอนนี้ยังได้ฐานลูกค้าไอพอด ที่หันมาใช้เครื่องแมคอีกตั้งไม่รู้เท่าไหร่ แต่ผมว่าถ้า steve jobs ไม่ได้กลับเข้ามาทำงานตอนนั้น ป่านนี้อาจจะเจ๊งไปแล้วก็ได้ จากคุณ : totochan - [ 16 ก.ค. 51 17:30:25 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ผมไม่ซื้อ Ipod เพราะ Itune ครับ   . . . จากคุณ : ไม่มีสมาชิกชื่อนี้ - [ 16 ก.ค. 51 17:43:04 ]

ความคิดเห็นที่ 28 Sony ชอบออกแบบอะไรของตัวเอง ให้ใช้แต่ accessories ตัวเอง hardware ตัวเอง Software ตัวเอง ตายตรงนี้แหล่ะครับ มาลุยตลาดกล้องดิจิตอล ก็ต้องใช้ การ์ดของโซนี่ มาลุยตลาดกล้อง SLR ทุ่มทุนซื้อ Minolta ดันทะลึ่งใช้เมมโมรี่ตัวเอง แถมตั้งราคา Brand ตัวเองซะสูงเวอร์ ถ้าไม่ปรับตรงนี้ยังไงก็ตายแน่ ต่อให้ marketing เจ๋งแค่ไหนก็เหอะ จากคุณ : jippi - [ 16 ก.ค. 51 18:00:55 ]

ความคิดเห็นที่ 29 การตลาด Sony ในระดับโลกนี่สู้ค่ายอเมริกาไม่ได้จริงๆแฮะ แบ็คแน่นแค่ในบ้านตัวเอง จากคุณ : marvolo - [ 16 ก.ค. 51 18:45:10 ]

ความคิดเห็นที่ 30 interface & design การการมองตลาดที่ผิดพลาดอย่างมหาศาล มองตลาดเฉพาะกลุ่มมากเกินไป โดยลืมการทำให้"ง่าย" ต่อการใช้งาน จากคุณ : Night Claw - [ 16 ก.ค. 51 18:53:16 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ผมคิดว่าแผ่น MD ยังไม่ตายหลอย ญาติสนิต ของแผ่น MD ก็คือแผ่น UMD ของ PSP ไง จากคุณ : John-an7 - [ 16 ก.ค. 51 19:40:44 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ผมชอบคำว่า "อารยธรรมโซนี่วอล์คแมน" นะ ผมว่ามันฟังดูดี แต่โซนี่ก็ยึดติดมาก พยายามที่จะเอาสินค้าของเค้าเองให้เป็นมาตรฐานโลกให้ได้ จากคุณ : Junkyjoke - [ 16 ก.ค. 51 20:02:29 ]

ความคิดเห็นที่ 33 MD ก็ใช้กันปกติที่ญี่ปุ่นค่ะ (ตลาดสุดท้าย?) stereo ที่นั่นนอกจากเทป+ซีดีแล้วต้องมี MD ด้วยค่ะ จากคุณ : บังบังเดี๊ยโจะ - [ 16 ก.ค. 51 20:05:35 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เพราะipodใช้ง่าย  เกี่ยวกันไหมเนี่ย ผมว่าเพราะโซนี่แพงเวอร์ จากคุณ : troll - [ 16 ก.ค. 51 20:08:14 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ... ถ้าเป็นระดับ มหภาค ก็ตามหลายๆความเห็นด้านบนที่กล่าวมาครับ ยังจำได้เลย MD นี่ทำเอาผมอึ้งไปพักนึงกับการฟังเพลงที่ดูจะลำบากไปสักเล็กน้อยถึงปานกลาง เรื่องการมีวิศัยทัศน์ และเอกลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ ก็มีส่วนเช่นกันคร้บ แต่สำหรับผม ผมเลือกดีไซน์ กับ การใช้งานเป็นหลักครับ มิใช่โฆษณา (ผมใช้ iPod กับ กล้อง Nikon ทั้งที่ผมเห็น โฆษณา Sony, Canon, Panasonic ฯลฯ บ่อยกว่าเสียอีก) ของแบบนี้ขึ้นกับเราเลือกใช้แหละครับ โลกเสรีนี่นา จากคุณ : ReBirD - [ 16 ก.ค. 51 20:15:13 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เพราะความสำเร็จของ Walkman มั๊ง จากคุณ : kiox - [ 16 ก.ค. 51 20:28:05 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ผมกลับคิดว่าโซนี่แพ้เพราะเรื่องตัว media มากกว่านะ อีกอย่าง MD ก็มี net MD ที่ใส่ไฟล์ MP3 ได้เช่นกัน เพราะสมัยนั้นสื่อที่ทันสมัยที่สุดมันก็คือ CD และ CD ไรท์เตอร์ก็ยังแพงอยู่มาก และ MD ก็เป็นสื่อที่ทันสมัยสุดในขณะนั้น (ผมเองยังชอบเลย) เพราะเขียนอ่านได้รวดเร็ว เหมือนเป็น HDD ตัวหนึ่ง แต่ไม่นานต่อมา ก็มีสื่อชนิดใหม่ที่ออกมาฆ่า MD โดยตรง คือ Flash Memory ที่ใช้งานได้เหมือนเป็น HDD จริง ๆ อีกทั้งยังมีขนาดเล็ก พกพาสะดวก ทำให้ตลาด MD กระเจิงไปนับแต่บัดนั้น จะมากลับลำทีหลังทำ MP3 player ขนาดเล็กก็ไม่ทันเจ้าอื่นซะแล้ว อีกทั้งพอมี iPod ภาพลักษณ์ของ iPod มันดูสวยหรูกว่า Sony ที่นี้ Sony จะแก้เกมยังไงก็ลำบากแล้ว เพราะต้องตามคนอื่นทั้งภาพลักษณ์ และเทคโนโลยี แก้ไขเมื่อ 16 ก.ค. 51 20:35:56 จากคุณ : noraneko - [ 16 ก.ค. 51 20:32:12 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ผมเกลียดทั้ง iPod / iPhone ก็เพราะเจ้า iTunes นี่ละ ไม่สะดวกสำหรับคนที่ชอบโยนเพลงไปมาแบบผมเลย - -''' จากคุณ : iCookie (cookiecompany) - [ 16 ก.ค. 51 20:57:33 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ชอบจังครับกระทู้นี้ พอดีเป็นอริกับโซนี่ด้วย จากคุณ : ซายูบิ - [ 16 ก.ค. 51 21:20:58 ]

ความคิดเห็นที่ 40 พูดกันไปหมดแล้ว แต่ผมขอแสดงความเห็นหน่อยว่า ไม่ใช่ทุกคนหรอกครับที่จะคิดว่าฟังเพลงจากมือถือก็ได้ แต่ Apple ต้องมี iPhone เพราะคนที่คิดแบบนั้นก็ไม่น้อยต่างหาก ผมคนนึงล่ะที่ไม่ยอมฟังเพลงจากมือถือ ผมผ่านอุปกรณ์เหล่านี้มาหมดแล้วล่ะครับ สิ่งที่ผมพบคือมันสะดวกแต่ไม่มีประสิทธิภาพอย่างแรง เพราะพวก MP3 Phone ทั้งหลายน่ะ ถ้าฟังเพลงหนักๆแบตแทบจะอยู่ได้ไม่ถึงวัน พอดีผมทำงานแล้วต้องใช้โทรศัพท์ให้คนติดต่อได้เกือบทั้งวัน ดังนั้นผมใช้พวก MP3 Phone จึงต้องลาขาดจากกันไปอย่างช่วยไม่ได้ จริงๆโทรศัพท์ที่ใช้ก็ฟัง MP3 ได้ครับ แต่ว่าผมไม่ใช้ฟังก์ชั่นนั้น อีกอย่างคำว่าการออกแบบ ความง่ายในการใช้งานแต่มีความเท่ห์ในตัว ทรงอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อของคนทั่วไปมากกว่าคนที่คิดอะไรแบบวิทย์ๆตลอดเวลาอย่างบางคนเยอะครับ ไหนจะเรื่องความรู้สึกสัมผัสที่ดีด้วย อันนี้เครื่องจากจีนถูกๆหน้าตาเหมือนกันแต่ความรู้สึกสัมผัสต่างกันคนล่ะโลก ถ้าว่ากันทางศิลป์ Apple ดีไซน์อุปกรณ์ของตัวเองได้เรียบง่ายแต่ดูดีเกือบทุกอย่าง ตัวผมเองนี่จะว่าไปก็ใช้ของๆ Apple เกือบครบทั้งวงจรแล้วล่ะครับ จากคุณ : VeryBadman...โดนแล้วโดนอีก - [ 16 ก.ค. 51 21:57:26 A:67.160.226.25 X: TicketID:178545 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ฟังวิทยุ เอา...-"- จากคุณ : Choco-Mix - [ 16 ก.ค. 51 22:02:52 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ส่วนตัว ใช้มือถือของ โซนี่ อิริคสัน อยู่อ่ะ รุ่น W700i เอาไว้โทรเข้าโทรออก กะฟังวิทยุ แต่ยังไงก็ถอย iPod 80 GB มาอยู่ดี เพราะ 80 GB ใส่เพลงได้หลายพันเพลง แถมเก็บข้อมูลเสมือน harddisk อีกตะหาก ซึ่งมือถือมิสามารถ จากคุณ : BK_unz - [ 16 ก.ค. 51 22:15:03 ]

ความคิดเห็นที่ 43 จะว่าไป ตอนนี้ผมก็ยังพก CD Walkman ของSony ติดตัวไว้ฟังเพลงไปนู่นไปนี่ ทั้งที่ใหญ่ก็ใหญ่ เกะกะ ลำบากเวลาเปลี่ยนแผ่น แต่ผมกลับชอบเสียงที่ฟังจาก CD มากกว่าจากเครื่องเล่น MP3 แฮะ โบราณไปล่ะมั้งผม จากคุณ : papos - [ 16 ก.ค. 51 22:55:14 ]

ความคิดเห็นที่ 44 อืมม ไม่น่าเชื่อ ผมเกิดทันหมดเลยอ่ะ ทั้งๆที่ยังไม่โตเลย เปลี่ยนแปลงเร็วจริงๆ ตัวผม ชอบทั้ง โซนี่ และก็ไอพอดเลย สมัยก่อนก็ติดวอล์คแมนแบบเทป และก็มาแบบซีดี ต่อด้วยรุ่นที่เป็นหลอดๆ ตอนนี้ก็ไปหลงไอพอด จากคุณ : ผมมันบ้า (pattapon) - [ 16 ก.ค. 51 22:58:35 ]

ความคิดเห็นที่ 45 อ่านความเห็นแรกๆ มั่วเยอะจริง MD มีขายเป็นอัลบัมเพลง ส่วนอื่นๆ มีคนแก้ไปแล้ว ผลสำเร็จของ ipod ไม่ใช่เสียงดี แต่เป็น iTune กับ Design โอเค ว่าเสียงดีอยู่ระดับแนวหน้า แต่ว่าตลาดนี้เสียง ดีไม่ค่อยสำคัญเท่าไหร่ เพราะมันเอามาฟัง นอกสถานที่ มีเสียงรบกวนอยู่พอสมควร จากคุณ : .eAT - [ 16 ก.ค. 51 23:06:15 ]

ความคิดเห็นที่ 46 Sony ก็เคยพลาดท่ามาแล้วหลายเรื่อง ตัวอย่างเช่น เครื่องเล่นวิดิโอเทป เคยดัน Betamax ออกมาชนกับ VHS ปรากฏว่าแพ้ไป จากคุณ : นายเดชา - [ 16 ก.ค. 51 23:07:56 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ผมใช้มือถือครับ.... มือถือใส่ Micro SDHC 8 GB ได้ความจุเท่า Ipod แล้ว และยังลง Software ปรับแต่งเสียง เองได้ไม่จำกัด (แต่ผมก็แต่งแค่ EQ ให้ Flat ที่สุด) ซื้อ SDHC สี่ใบ ได้ 32 GB เทียบกับซื้อ Ipod  8 GB ยังถูกกว่าเลย ไม่ต้องพกสองเครื่อง ดูหนัง ฟังเพลง เล่้น Net เล่นเกม ดูทีวี ฯลฯ ตัวเดียวจบ.... จากคุณ : Tire Tracks Studio - [ 16 ก.ค. 51 23:10:34 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ผมยังใช้ ธานินทร์อยู่เลย จากคุณ : นายปลาตีน - [ 16 ก.ค. 51 23:51:43 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ถ้าพูดถึงเรื่องเสียงเนี่ย มีใครเคยลองฟัง "แผ่นเสียง" บ้างมั้ยครับ วันก่อนผมไปลองฟังบ้านเพื่อน ฟังแบบเพรียวๆ ไม่ได้ต่อแอมป์หลอดเพิ่ม จากเครื่องเล่นตรงเข้าลำโพง ได้ยินแว๊ปแรกถึงกับตกใจว่าใครมีตีกลองตรงหน้า รายละเอียดของเสียงจากแผ่นเสียงมันมีทุกเม็ดเลยครับ แทบเสมือนเล่นสดตรงหน้าเลยซิพีบผ่า ปล.ส่วนตัวเลือกใช้ไอพอดเพราะ เท่ ครับ จากคุณ : จับได้โดยละม่อม Return - [ 16 ก.ค. 51 23:57:09 ]

ความคิดเห็นที่ 50 จิ้มไป 49 แผ่นไวนิลเสียงดีกว่า CD ครับ ถ้าจะว่าเรื่องคุณภาพ CD มันก็โดนบีบอัดมาแล้วเหมือนกัน รายละเอียด แผ่นไวนิลทำได้ดีกว่าครับ แต่เรื่องความสะดวกมันสู้ CD ไม่ได้ครับ มันก็คงเหมือน MP3 VS CD ที่เราเจอในยุคนี้ จิ้มไป 47 มันก็คงเหมาะในแต่ละความต้องการครับ อย่างผม มีเพลงในเครื่อง 60 GB จะให้มานั่งเปลี่ยน Card เวลาจะฟังเพลงนั้นเพลงนี้คงไม่ไหวครับ ผมเลือก iPod เพราะว่ามันเอาเพลงจากในเครื่องมาฟังที่ไหนก็ได้ไงครับ เพราะงั้นในเครื่องเวลาที่ผมทำงานแล้วฟังอะไร วันหยุดผมแค่หยิบ iPod ออกมา ผมก็มีเพลงเหมือนๆ ใน PC ผมเลยครับ จิ้มไป 38 ผมเจอคนแบบคุณเหมือนกันครับ ในบรรดาเพื่อนๆ ผม บางคนเค้าไม่นิยมการขนเพลงออกไปฟังนอกบ้านทีละเยอะๆ เค้ามองว่าเครื่องพวกนี้ควรจะมีเฉพาะเพลงที่เค้าอยากฟัง งั้น iTune+iPod จะเป็นเรื่องไม่เหมาะละครับ ต้องเป็น iTune+Shuffle จะใกล้เคียงหน่อย แต่ก็จะยังไม่สะดวก สิ่งที่ iTune ด้อยเรื่องนึงสำหรับคนที่มีลักษณะการฟังแบบนี้ คือเค้าจะไม่เอาเพลงมาไว้ในเครื่อง PC ทั้งหมด พอไม่อยู่ในเครื่อง การจัดการผ่าน iTune จะไม่สะดวกเลยครับ เพราะงั้นกลุ่มนี้ผมจะบอกเลยว่าเค้าไม่เหมาะกับ iTune แต่ถ้าลักษณะการฟังเหมือนผมคือ ในเครื่องมีเพลงทั้งหมดที่มี แล้วถ้าเราไปไหน เพลงเหล่านี้ต้องไปกับเราด้วย iTune+iPod จะสะดวกมากกว่าครับ คือผมชอบ iTune มากกว่า iPod ครับ มันหาเพลงได้เร็ว สร้าง Playlist แบบฉลาดๆ ได้ และเสียงดี ส่วน iPod ผมมองว่ามันแค่มาเติมในส่วนการเอาเพลงมากมายในเครื่อง ออกไปฟังนอกบ้าน ซึ่งใน iTune ผมจัดเรียงข้อมูล และพยายามหาหน้าปกมาใส่ไว้แล้ว(ตั้งแต่ยังไม่มี iPod) ผมมองว่า iPod มันง่ายที่สุดจากจุดที่ผมมี iTune เท่านั้นเองครับ จากคุณ : Ki@K:) - [ 17 ก.ค. 51 00:31:11 ]

ความคิดเห็นที่ 51 เครื่องมือเฉพาะทางจะเก่งในเรื่องเฉพาะนั้นๆ ถ้าเงินเหลือก็ลองซักตัวสิครับ :) player + head amp. + หูฟังดีๆ = สวรรค์รำไร จากคุณ : ps_addict - [ 17 ก.ค. 51 00:41:03 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ว่าแต่ iTune จำเป็นมากแค่ไหนหรือ ขอแค่ความจุเยอะๆ + หูฟังดีๆ ก็พอและ -*- จากคุณ : fak (fak) - [ 17 ก.ค. 51 01:05:42 ]

ความคิดเห็นที่ 53 iPod ถ้าเทียบคุณภาพเสียงแล้วดีกว่ามือถือหรือของจีนแดงแน่นอน ถ้าฟังเพลงไทย 128Kbps บันทึกมาแย่ๆ+หูฟัง 200-300 คงจะแยกความต่างกันไม่ออก ต้องใส่ไฟล์สัก 320Kbps บันทึกเสียงมาดีหน่อย+หูฟัง(คุณภาพตามราคา) แล้วฟังเทียบ Player แบบไม่แต่งเสียงก็จะรู้ครับว่าอันไหนดีจริง(เรื่องแต่งเสียงนั่นมันอีกเรื่องนึง) iPod มันชนะดังนี้ 1.ClickWheel หมุนหาเพลงเป็นพันเพลง กับกดค้างอันไหนไวกว่า 2.iTuneStore ซื้อเพลงแบบง่าย 3.Design เรียบง่ายหรู ดูดี 4.ใช้งานง่าย ให้เวลา 1 ชั่วโมงก็เล่นจะได้หมดแล้ว 5.ความจุ แบรนนี้ความจุเยอะกว่าแบรนอื่นเห็นได้ชัด 6.iTune ข้อดีของมันคือเพลงเป็นพันเพลงมันจัดการให้อย่างง่ายดาย ถ้าเทียบกับพวกลากวาง ใส่ไปพันเพลงนี่เครียดตายเลย 7.ประกันสินค้า 1 ปีมีปัญหา เข้า 0 = เครื่องใหม่ Sony ผูกขาดสินค้าตัวเองเกินไป จากคุณ : เมก้าซาวะหมายเลข154 - [ 17 ก.ค. 51 01:11:27 ]

ความคิดเห็นที่ 54 อ่านกระทู้นี้แล้ว เจ็บใจตัวเอง ตอนนั้นที่ sony ออก MD มาแรกๆ เพื่อนๆ เราก็เห่อกันไป   เราอยากได้มั่งก็เลยไปถอยมาเครื่องนึง จากญี่ปุ่นด้วยนะ แต่มันอัดเพลงไม่ได้ (งงมาก เพราะไม่รู้มาก่อน)   ก็เลยต้องไปซื้อมาอีกเครื่องที่มันสามารถอัดเพลงได้น่ะ สรุปเรามีเครื่อง MD สองเครื่อง (ตอนนั้นเสียดายเงินมากๆ อ่ะ )   ใช้ฟังไปได้ไม่นานเลยจริงๆ เครื่องยังใหม่สุดๆ อ่ะ เค้าก็เลิกฮิตกันไป แล้ว iPod ก็มา   คิดแล้วก็เสียดายเงินอ่ะ รู้งี้ไม่ซื้อหรอก MD อ่ะ อัดเพลงก็ยุ่งยาก อีกอย่างตอนนั้นเราก็ยังเด็กๆ อ่ะ ไม่ค่อยรู้เรื่อง   หลังจากที่เราซื้อ iPod เราก็ติดใจ Apple เลย ตอนนี้เลยมีทั้ง Mac, iPod, iPhone   ส่วนตัวเราชอบดีไซน์นะ เราชอบสีขาวด้วย (เกี่ยวมั้ยหว่า อิอิ) แก้ไขเมื่อ 17 ก.ค. 51 01:39:21 จากคุณ : CutieAngel - [ 17 ก.ค. 51 01:38:31 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ไม่เป็นไรครับ ผมไม่เคยสนใจผลิตภัณฑ์ Apple เลย แต่ส่วนใหญ่คนรอบๆตัวที่ชอบเพราะว่าเป็นสาวกศาสดากันมากกว่า จากคุณ : atheist - [ 17 ก.ค. 51 07:32:45 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ถ้า SONY ต้อง PlayStation เท่านั้น ปล.ผมใช้ Nokia 5300 แล้วอัด Micro-SD 2 GB แค่นี้ก็ฟังจนเบื่อแล้ว จากคุณ : AW Milan - [ 17 ก.ค. 51 07:57:34 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ถ้าผมเป็นแบบคห. 17 ผมจะโชคดีมาก ๆ เลย TT_________TT สายไปแล้วจริง ๆ เรา จากคุณ : {M}-มดนะจ๊ะ - [ 17 ก.ค. 51 09:34:39 ]

ความคิดเห็นที่ 58 SE  8 GB ก็เหลือแหล่แล้วครับ ( ก๊อปจนฟังไม่หมด เน้นฟังเพลงอย่างเดียวครับ วิทยุก็ไม่ค่อยได้ใช้ อยู่บ้านนอกมีแต่คลื่นที่ดีเจบ้าน้ำลาย VIDEO Player ก็ไม่ค่อยได้ใช้ จอเล็กไม่มัน อย่างมากก็เอาไว้ถ่ายอะไรเล่น ๆ แล้วเปิดดูเอง) แต่ไม่รู้ เค้าใช้ระบบใหนทำไม มันโอนย้ายข้อมูล ได้ไวกว่า Falsh drive ซะอีก ใครรู้เทคโนนี้ของ SE มั่งครับ เทพมากเลย ปล...  ไม่ชอบ iTune เหมือนกันครับ จากคุณ : iPixzz (Pixzz) - [ 17 ก.ค. 51 09:35:50 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ในฐานะคนชอบดูของเล่น ทั้งลุงจ๊อบส์ ลุงโมริตะ ถ้าให้ฟรีเอา แต่ถ้าควักเอง ซื้อของเกาหลี จีนแบบดีๆ ประสิทธิภาพดี ราคาหัวไม่แบะครับ จากคุณ : bbiggy - [ 17 ก.ค. 51 09:41:35 ]

ความคิดเห็นที่ 60 playstation สิครับ  xbox  สเปกสุงกว่า เกือยทุกอย่าง   ยัง เปนแค่คุ่เเข่งเลย จากคุณ : i-sho - [ 17 ก.ค. 51 10:34:08 ]

ความคิดเห็นที่ 61 #50 CD ไม่ได้ถูกบีบอัดครับ.... Vinyl อาจได้เปรียบตรงที่เป็น Analog จึงมี Resolution และ Bit Depth เป็นอนันต์ แต่ก็มีปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อเสียงเยอะมาก ทั้งการดูแลรักษาก็ยากและแพงกว่ามาก.... ขอใช้คำว่า Vinyl ที่เล่นโดยอุปกรณ์คุณภาพสูง ให้เสียงที่น่าฟังกว่า CD สำหรับ คนฟังบางกลุ่มครับ ไม่ใช่ทุกคนหรอกที่ชอบ Vinyl มากกว่า CD ในขณะที่ถ้าอุปกรณ์ ไม่ดี Vinyl ก็ชิดซ้าย CD ไปเลย.... #60 PS3 Spec สูงกว่า XBOX 360 เยอะครับ.... จากคุณ : Tire Tracks Studio - [ 17 ก.ค. 51 11:51:52 ]

ความคิดเห็นที่ 62 แผ่นเสียงไม่ได้คุณภาพดีทุกแผ่นหรอก หลายๆแผ่น ที่มาจากแถบฮ่องกงหรือญี่ปุ่น แม้จะเป็นแผ่นของนักร้องดัง แต่คุณภาพสู้แผ่นที่มาจากอเมริกาไม่ได้เลย แม้แต่แผ่นที่มาจากอเมริกาเอง ยังมีหลายระดับ อย่างดีๆที่ผมเคยฟัง ก็มีแต่ของ RCA ส่วนยี่ห้ออื่นๆ ไม่เป็นที่ประทับใจ จากคุณ : พอ - [ 17 ก.ค. 51 13:21:16 A:124.120.104.26 X: TicketID:172628 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ipod มันเป็นแค่ concept ทางเทคโนโลยี เหมือนพวก Intel รุ่น top อะไรแบบนั้น แต่สุดท้าย การสะพัดของเงิน จะไปลงที่ตลาดระดับล่าง - -  mp3 ใส่ถ่าน AA  มือถือ pda อะไรแนวนั้น จนมูลค่ารวม เป็นเงินมหาศาลกว่ายอดขาย ipod หลายเท่า คนที่จับ pda มือถือ หรือ mp3 ไต้หวัน  พอจะเจอ ipod คงจะบ่นว่ายุ่งยาก พลิกแพลงลำบาก เพราะความหรู แต่ไม่ยืดหยุ่น จากคุณ : อั๋น ทรงวุฒิ - [ 17 ก.ค. 51 13:57:02 ]

ความคิดเห็นที่ 64 โซนี่แพ้ความชอบของฟรีของคนครับ  เรื่องดีไซน์นี่ก็มีส่วน แต่ผมคิดว่าสาเ้หตุหลักมาจากmp3มันฟรีคนเลยนิยม จากคุณ : drypoint - [ 17 ก.ค. 51 14:04:39 ]

ความคิดเห็นที่ 65 #63 ...แต่สุดท้าย การสะพัดของเงิน จะไปลงที่ตลาดระดับล่าง - -  mp3 ใส่ถ่าน AA  มือถือ pda อะไรแนวนั้น จนมูลค่ารวม เป็นเงินมหาศาลกว่ายอดขาย ipod หลายเท่า... อันนี้ผมเห็นด้วยนะคับ คนทั่วไปท้องถนนเอาจริงๆแล้ว ไม่กี่คนหรอกคับ ที่หูเสียบติดอยู่กับ ipod ถ้าไม่ใช่มือถือ เครื่องเล่น mp3 ยี่ห้อที่คุณเห็นแล้วไม่รู้จัก walkman cdman หรือ ipodปลอม ของพวกนี้คุณเห็นแล้วจะไม่ใส่ใจคับ แต่เพราะเวลาคุณเห็นหูฟังสีขาวๆ เห็นคนหยิบ ipod ที่ดีไซน์สะดุดตามากกว่า คุณก็เลยคิดว่า เกือบทุกคนใช้ ipod ผมว่าถ้าให้หยิบออกมาดูกันจริงๆ คนที่เล่นเครื่องใช้ถ่าน AA นี่ก็ไม่น้อยเลยนะคับ จากคุณ : Limelight - [ 17 ก.ค. 51 15:02:31 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ในงาน E3 2008 ps3 ตอนนี้โดน xbox ตีกระเจิงอยู่นิ หุหุ จากคุณ : TnT4 - [ 17 ก.ค. 51 16:52:11 ]

ความคิดเห็นที่ 67 เทียบที่คุณภาพเสียงจากเฉพาะตัวเครื่องเล่นipod สู้ creative ไม่ได้เลยทีระดับราคาเดียวกัน แต่ว่า ipod มีดีกว่าที่จุดอื่น ความจุ ดีไซน์ แบรนด์ การตลาด ความคิดเห็นข้างบนอะครับ ลอง creative ดีๆซักเครื่อง แล้วคุณจะรู้ว่า hi-end (ของmp3)เป็นยังไง ส่วนโซนี่(หว่า)วอร์คแมนก็งั้นๆอะ แพ้ไปนานแล้ว แต่PS นี่ไม่มีใครเทียบได้ อันนี้ต้องยอมรับว่ามันครองตลาดเกมจริงๆ จากคุณ : PST The Ares - [ วันอาสาฬหบูชา 18:59:31 A:124.121.10.245 X: ]

ความคิดเห็นที่ 68 ผมว่า iPod มาเกินกว่าคนคิดมันจะจินตนาการถึงด้วยซ้ำ. ไอพอด ตัวแรกออกมา ไม่มี TouchWheel มีเพียงปุ่มกดรูปร่างวงกลมเหมือน ไอพอดตัวเลียนแบบปัจจุบัน ไม่มีพอร์ท USB ต้องต่อกับ Firewire เท่านั้น และ iTune ก็เล่นได้แต่บนเครื่องแอปเปิล เรียกได้ว่าเป็นแค่ของเล่นอย่างหนึ่งของคนใช้แมค. เรื่องขำ ๆ กับไอพอดตัวแรกคือ แอปเปิลไม่มีเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์ของตัวเองเลยนอกจาก port Firewire ดังนั้นไอซีบนไอพอดล้วนแต่ไปหาตัวที่มีในท้องตลาด หยิบยืมมาจากไต้หวันที่ผลิตเครื่องเล่น MP3 ออกมาก่อน สิ่งที่ ไอพอด ทำให้เห็นว่าแตกต่างคือการใส่ฮาร์ดดิสก์ลงไปในเครื่องเล่นเสียงแบบพกพา ซึ่งทำให้บรรจุเพลงได้เป็นพัน ๆ เพลง จุดประสงค์แรก ๆ แอปเปิลแค่อยากสร้างความแตกต่างให้กับเครื่องแมคให้สามารถมี portable Harddisc ที่รวดเร็ว และสามารถฟังเพลงได้ก็เท่านั้น. แต่เจ้าไอพอด กลับกลายเป็นของเล่นที่ใคร ๆ ก็อยากได้ขึ้นมาก ก็เพราะความสามารถในการเขียนซอฟท์แวร์ควบคุมเครื่องเล่นตัวนี้ให้ใช้งานได้ง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ โดยเฉพาะเมื่อเอาไปเทียบกับ MP3 ของไต้หวันที่ออกมาก่อนหน้านี้ จนในที่สุดแอปเปิลก็เริ่มมองเห็นตลาดจึงออกซอฟท์แวร์ไอจูนบนเครื่อง PC และเมื่อ port USB2 มีความเร็วพอ ๆ กับ Firewire และแพร่หลายในคอมพิวเตอร์ทั่วไป ยิ่งทำให้ iPod สามารถไปได้ทุกที่ ไม่ยึดติดกับเครื่องแมคเท่านั้น นอกจากนั้นการคิดค้น Touchwheel ที่ทำให้ไอพอดใช้งานง่ายขึ้น รวมกับการดีไซน์เครื่องไอพอดที่สุดแสนจะเท่และทันสมัย จึงทำให้ iPod นั้นดังแบบฉุดไม่อยู่ แอปเปิลแทบไม่ต้องเสียเงินค่าโฆษณาไอพอดเท่าไรเลย เพราะบรรดามิวสิค วิดีโอ ภาพยนตร์จอเงิน จอแก้ว ต่างพร้อมใจกันเอาไอพอดไปเป็นอุปกรณ์ประกอบฉาก จนทำให้แม้แต่คนในประเทศไทยรู้จักไอพอดดีทั้ง ๆ ที่ไม่เคยมีการทำหนังโฆษณาของตัวเองในทีวีเมืองไทยเลย (แต่แอบโผล่ในโฆษณาสินค้าตัวอื่นเป็นประจำ). ความสำเร็จของไอพอดเป็นสิ่งที่น่าทึ่ง และน่าศึกษาว่าสินค้าที่จะประสบความสำเร็จ บางครั้งก็ไม่แค่การมองการไกลอย่างเดียว แต่การปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์และรู้จักฉกฉวยโอกาสที่เข้ามานั่นคือกุญแจแห่งความสำเร็จ. แอปเปิล มีนวัตกรรมใหม่ ๆ หลายอย่าง ที่หลายครั้งที่แอปเปิลเองทิ้งโอกาสของตัวเองไป ผมจำได้ว่ากล้อง Apple Quicktake นั้นคือต้นแบบของกล้องดิจิตอลยุคปัจจุบันนั้นออกมาในตลาดก่อนชาวบ้าน  ด้วยกล้องตัวเล็ก ๆ ราคาไม่ถึงกับแพงมาก สามารถพกไปถ่ายรูปได้ทุกที่ และนำมาดาวน์โหลดไฟล์ภาพเข้าคอมพิวเตอร์ได้แบบง่าย ๆ แต่ด้วยการที่จำกัดตัวเองอยู่กับเครื่องแมคของตัวเองอย่างเดียว ใช้พอร์ทต่อเชื่อมรูปแบบเฉพาะของตัวเองหมดสิทธิเอาไปใช้กับพีซี ทำให้กล้องควิกเทคไม่สามารถต่อยอดความสำเร็จ และเทคโนโลยีสมัยนั้นภาพก็ยังที่ได้ไม่ละเอียดมากนัก ความจุของหน่วยความจำก็ต่ำทำให้ต้องล้มเลิกโครงการไป แต่แนวความคิดของมันก็ยังได้สืบทอดออกมาในกล้องดิจิตอลยุคปัจจุบัน. นอกจากนั้นก็มี แอปเปิลนิวตัน เครื่อง PDA แบบพกพาใช้ระบบสัมผัสที่แอปเปิล คิดมาก่อนชาวบ้าน แต่กลับถูกค่าย Palm และ Pocket PC ลอกเลียนแบบและแย่งตลาดไปหน้าตาเฉย ก่อนที่ Apple จะออก Iphone ออกมาล้างแค้นในสิบกว่าปีต่อมา. และที่น่าเจ็บใจที่สุดคือ บิล เกตส์ กลายเป็นบุคคลที่รวยที่สุดในโลก เมื่อประสบความสำเร็จในการลอกเลียนให้ Microsoft Windows 3.0 มีความสามารถได้ครึ่งหนึ่งของ Mac OS แต่สามารถใช้ได้กับ PC แทบทุกเครื่องในโลก. อาจจะเป็นไปได้ว่า แอปเปิลเรียนรู้ความผิดพลาดของตัวเองในอดีต จึงทำให้ ไอพอด นั้นประสบความสำเร็จ. จากคุณ : LittleTiger - [ วันอาสาฬหบูชา 21:24:43 ]

ความคิดเห็นที่ 69 อ่านข้างบนนี่ค่อนข้างเว่อไปหน่อย ถึงจะจริงบ้าง ทุกบริษัทในวงการแบบนี้ มันก็มีตัวสินค้าที่ประสบความสำเร็จเกินคาด และล้มเหลวไม่เป็นท่า กันทั้งนั้นอะคับ จะเหตุผลอะไรไม่สำคัญหรอก มันขึ้นอยู่กับหลายๆอย่างในตอนนั้น ถ้าสาวกบิล เกตส์ มาอ่าน เค้าก็จะเถียงเอาว่า อ้าวทีแอปเปิ้ลทำ คุณพูดว่า การฉวยโอกาส ปรับตัวให้เข้าสถานการณ์คือเรื่องดี คือกุญแจ แต่พอ เกตส์ทำ คุณเลือกใช้คำว่า ลอกเลียนแบบและมาแย่งตลาด (ซึ่งคำนี้ไม่ควรใช้ในเชิงที่ใครเป็นเจ้าของ) สำหรับผม ipod เป็นสินค้าที่ดีและมีความต้องการของผู้คนสูงมากคับ แต่มันก็ไม่ได้เลิศเลอเหนือจินตนาการอะไรขนาดนั้น ไม่ได้ถึงกับต้องตั้งหน้าทำงาน อดข้าวอดขนมเพื่อไปซื้อให้ได้ และผมก็ยังเชื่อว่า คนไทยเนี่ย กระแส/เทรนด์มันสำคัญกว่าคุณภาพสินค้าหรือการมองการไกลอะไรนั่นเยอะคับ คือดีไม่ดีไม่รู้เท่าไหร่หรอก สวยเหรอก็เออออตามกัน รู้แค่ว่าคนอื่นเค้าใช้ ถือแล้วมันเท่ มีแล้วมันไฮโซ เพื่อนๆกรี๊ดกร๊าด แค่นี้เค้าก็เห็นเหตุผลที่จะเสียตังซื้อแล้วคับ ส่วนเรื่อง itune? pda? microsoft? หรือนายจ๊อบนายเจิ๊บอะไรที่ไหน คนพวกนี้ไม่ได้ไปสนใจอะไรหรอกคับ จากคุณ : Limelight - [ วันเข้าพรรษา 00:51:57 ]

ความคิดเห็นที่ 70 พูดถึง netMD ผมก็คนนึงที่ซื้อมาใช้ เพราะ ณ เวลานั้น MD คือตัวเลือกที่น่าสนใจที่สุด สำำหรับเครื่องเล่นแบบพกพา เพราะโทรศัพก็ยังเล่น MP3 ไม่ได้ CD Player  ก็ใหญ่ไป MP3 player ก็ยังไม่มี ทุกวันนี้ก็เ็ลยยังต้องใช้อยู่ เพราะซื้อมาแพง ทิ้งไว้เฉยๆก็เสียดาย ถ้ามองข้อดีมันก็ยังมีอยู่น่ะครับ  คือ ฟังได้ อัดได้ เสียงดี แถมเวลาเอามาฟังแล้วต้องเปลี่ยนแผ่นเนี้ย คนรอบข้างจะชอบขอดูด้วยความแปลกตา ว่ามันคืออะไร(คล้ายๆว่าเป็นวัตถุโบราณ) แล้วมันก็ไม่เปลืองแบตเลยน่ะ ใช้ข้ามคืนสบายๆ  ถ้าเทียบกับฟังด้วย iPaq แป๊บๆต้องช๊าตล่ะ เลยต้องใช้โทรอย่างเดียว กะว่าจะใช้จนมันใช้ไม่ได้  แต่ก็เจ็บใจทุกทีที่เห็นราคาของเครื่องเล่นสมัยนี้ จากคุณ : Ganja - [ วันเข้าพรรษา 04:02:48 ]

ความคิดเห็นที่ 71 คุณ คคห. 69 ผมไม่ได้บอกสักคำว่า Bill Gates มาแย่งตลาด ออกจะชื่นชมด้วยซ้ำที่เขาหาช่องทางสำเร็จที่แอปเปิลไม่เคยมองไปตรงนั้น โดยการมุ่งตรงไปที่ผู้ค้าส่วนใหญ่. ส่วนเรื่อง ลอกเลียนแบบ ใคร ๆ ก็รู้ว่า MS Windows นั้นใช้ Mac OS เป็นต้นแบบในการออกแบบอย่างปฏิเสธไม่ได้ ผมยังยืนยันคำนี้ แต่การลอกเลียนแบบไม่ใช่สิ่งเลวร้ายเสมอไป เพราะถ้า ไมโครซอฟท์ไม่ทำอย่างนั้น คอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ในปัจจุบันอาจจะมี GUI แย่ ๆ อยู่ และระบบที่ใช้งานแบบเป็นมิตรกับผู้ใช้ก็อาจจะมีราคาแพงและจำกัดอยู่แต่ในแวดวงของผู้ใช้แมคอินทอชเท่านั้น . ผมพูดแค่ว่า แอปเปิล เจ็บใจกรณีนี้ และเรียนรู้ที่จะไม่ทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นอีก ก็เท่านั้น แบบว่าเจ็บแล้วต้องจำ. กลับมาที่โซนี่มั่ง โซนี่เองก็ผ่านเหตุการณ์การแข่งขันในตลาดแบบถึงพริกถึงขิงมาไม่น้อย. การประสบความสำเร็จของ Walkman ช่วยทำให้โซนี่เป็นเจ้าตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า ทั้ง ๆ ที่แทบจะไม่ได้คิดค้นวิทยาการใหม่ ๆ ลงมาใน walkman เท่าไร แต่ที่เหนือชั้นคือแนวคิดที่จะทำให้เครื่องเสียงสามารถติดตัวไปได้ในทุก ๆ ที่. แต่โซนี่เอง ก็พลาด เมื่อผลักดันเทคโนโลยีใหม่อย่างระบบเทปโทรทัศน์เบตาแมกซ์ ออกมาพ่ายแพ้ต่อระบบ VHS ของค่ายเล็ก ๆ อย่าง JVC ไม่เป็นท่า เพียงเพราะโซนี่คิดจะครอบครองตลาดไว้คนเดียวไม่แบ่งให้ใคร ก็เลยเจอผู้ผลิตรายใหญ่พร้อมใจกันใช้ระบบ VHS เข้าครอบงำตลาดจนโซนี่พ่ายแพ้ไปอย่างหมดรูป. ระบบ CD ที่เป็นเทคโนโลยีร่วมกันระหว่าง Sony กับ Phillips ก็ไม่ได้การสนับสนุนที่ดีในช่วงแรก ๆ เน้นจะทำให้เครื่องเล่น CD เป็นของดีราคาแพงอยู่นาน ทำให้ครอบคลุมตลาดใหญ่ได้ช้ามาก. เช่นกันกับระบบ MD ที่มัวแต่เสียเวลาไปต่อรองทางการค้ากับผู้ผลิตต่าง ๆ มากกว่าที่จะเร่งผลิตออกมาจำนวนมากเพื่อให้มีราคาถูกลง กว่าจะตั้งหลักได้ทันโลกก็เข้าสู่ยุค CD-R และ MP3 ทำให้เครื่องเล่น MD ไม่ใช่สิ่งทันสมัยซึ่งสร้างความแตกต่างได้ แต่ก็นั่นแหละ MD ในช่วงแรก ๆ ก็ถูกต่อต้านจากค่ายเพลงต่าง ๆ เพราะความสามารถในการทำซ้ำโดยไม่สูญเสียคุณภาพของมัน. โซนี่ยังเชื่อมั่นใน MD ของตนว่าดีกว่า ซึ่งก็จริง MD นั้นดีมาก แต่ใครจะยอมเสียเงินแพง ๆ ซื้อมันในเมื่อระบบ MP3 นั้นหลากหลาย สามารถเสาะหาเพลงมาฟังได้ง่ายดายกว่า เรียกได้ว่าอาจจะเหนือกว่าที่ Hardware แต่เรื่อง Software พ่ายแพ้อย่างไม่เป็นท่า กว่าโซนี่จะรู้สึกตัวและเข้าสู่ตลาด MP3 คู่แข่งก็วิ่งไปไกลแล้ว กรณีนี้ประวัติศาสตร์เกือบซ้ำรอยกรณี Beta Max. แต่ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ทั้ง Apple และ Sony ต่างก็มีประสบการณ์ผิดพลาด และมีจุดแข็งในการสร้างความสำเร็จของตัวเองเสมอมา ซึ่งเราในฐานะผู้ใช้ ก็ได้แต่คอยติดตามดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น. แก้ไขเมื่อ 18 ก.ค. 51 17:33:32 จากคุณ : LittleTiger - [ วันเข้าพรรษา 17:30:17 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ผมฟัง ipod ผมว่าเสียงไม่ดีนะ หรืออาจไม่ชอบก็ได้ ก็ฟังจากมือถือเอ็นเกจ แต่เสียงก็เหมือนถูกบีบกลาง ไม่ละเอียด ตกลงน้องซื้อโซนี่เอ็มพี่สามพกพามา เสียงดีกว่าเอ็นเกจก็ฟัง ๆ กันไป ต่อมา ผมอ่านในห้องมาบุญครองเขาว่า i450 เสียงดีว่างั้นผมก็ไปซื้อมา ก็คิดว่าเสียงคงสู้ mp3 sony ที่ซื้อมาไม่ได้ แต่ที่ไหนได้ ซัมซุง i450 เสียงดีกว่ามาก ๆๆๆ บอกได้เลย เสียงละเอียดฟังชัดทุกอณู ทั้ง ๆ ที่เป็นแค่มือถือเอง หูฟังที่แถมมาก็ให้เสียงแนวอะคูสติคกว่าหูฟังโซนี่ ที่ซื้อมาพันกว่าบาท จากนั้นมา ผมลืมโซนี่ครับ ทำผมเจ็บใจมาสองอย่าง 1. กล้องดิจิตอลคุณภาพภาพไม่ดีเด่นเหมือนโฆษณาที่โกหก ดีไซน์สวยกว่าแคนอนแต่ภาพ..-*- 2. mp3 walkman อะไรเขียนว่าเสียงดี โกหกอีกแล้ว โซนี่กำลังจะถูกทิ้ง สังเกตดูเทคโนโลยีเริ่มหยุดนิ่ง ขณะที่ซัมซุงกำลังก้าวกระโดด ทั้งดีไซน์และเทคโนโลยี จากคุณ : AVSystem - [ วันเข้าพรรษา 21:19:39 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ผมว่า IPod นี่เสียงดีน่ะ แถมประกันดีด้วยประทับใจมาก เครื่องแรกของผมอีกเดือนกว่าๆ จะหมดประกันดันเสียเปิดไม่ได้ เอาไปเข้าศูนย์ช่างเอามาทดสอบโดยแนบกับหูแล้วฟังเสียง (มันมีเสียงก๊อกแก็ก) แป็ปนึงก้อบอกผมว่ารอเดี๋ยวน่ะ เดี๋ยวเอาเครื่องใหม่มาให้ เป็นศูนย์ที่เมกาน่ะครับ ไม่ค่อยชอบ Itune เท่าไหร่รู้สึกยุ่งยากไปหน่อย จากคุณ : Joe - [ 19 ก.ค. 51 04:41:24 A:64.132.234.186 X: TicketID:067385 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ^ | สงสัยตั้งราคาไว้เผื่อรับประกันราวๆ 3 เท่าตัว จากคุณ : อั๋น ทรงวุฒิ - [ 19 ก.ค. 51 15:44:46 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ขอเข้ามาถล่ม sony ด้วยคน :) อันดับแรกก็คือคิดจะผูกขาด เห็นๆก็ memory stick อะไรนั่น ปัจจัยนึงในการเลือกซื้อกล้อง digital ของผมก็คือ ไม่เอา sony เพราะมันใช้ MS แต่กล้อง DSLR ของเขาก็ต้องยอมใช้คู่กับ CF card ไม่งั้นคงไม่มีคนซื้อ Olympus ก็กำลังจะเจอชะตากรรมเดียวกันกับ xD card ตอนนี้ Fuji เพื่อนร่วมชะตากรรม xD ก็หันมาหา SD แทนแล้ว อันดับสอง โฆษณาได้น่าหมั่นไส้ อันนี้ดู #72 ประกอบ อันดับสาม แพงเกินคุณค่า อันนี้ดูจาก notebook sony แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น ผมก็เข้าใจนะ คนขายของใครๆก็อยากผูกขาด ขายได้แพงๆกันทั้งนั้น แต่ลืมไปว่าคนอื่นก็มีมือมีตีนเหมือนกัน Sony ก็เลยโดนรุมตีนซะ จากคุณ : Ronachai (amscmu) - [ 19 ก.ค. 51 16:36:06 ]

ความคิดเห็นที่ 76 Zuneสิครับผมว่าถ้าMSทำตลอดดีดีหน่อย รุ่งแน่ จากคุณ : A7X Rulzzz - [ 19 ก.ค. 51 21:39:57 ]

ความคิดเห็นที่ 77 อ่านๆดู แนวทาง sony จะมาแบบมั่นใจว่าตัวเองยิ่งใหญ่ที่สุด มาตลอดเลยนะคับ ผมว่ามันดีในด้านสร้างความมั่นใจกับแหล่งลูกค้าใหม่ๆ และสาวกที่ค่อนข้างยึดติด แต่ถ้าเจอพวกที่มีกำลังทรัพย์ ได้ลองของหลายๆยี่ห้อนี่สงสัยจะลำบาก อย่าง ซัมซุง นี่ผมก็ว่าก้ากระโดดมาแรงจริงๆ ทั้งกล้อง ทีวี มือถือ... apple ออกไอโฟนมาไม่กี่รุ่น ยอดขายก็ถล่มทลายทั่วโลกแบบนี้ใครก็หนาว แต่ที่ว่าโซนี่กำลังจะถูกทิ้งก็ยังไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่นะคับ ถ้าดูจาก playstation และ บลูเรย์ ที่จะมาครอบงำพวกเราอีกไม่นานนี้ จากคุณ : Limelight - [ 20 ก.ค. 51 13:47:24 ]

ความคิดเห็นที่ 78 จริงอยู่นะ ความจริง ipod แรกๆมันคือฮาร์ดดีสเคลื่อนที่ ที่พังเพลงได้เท่านั้นเอง หลังๆก็เริ่มพัฒนาจนเป็น ipod ที่มีหน้าตาเหมือนปัจจุบัน สำหรับแอปเปิลแล้ว สมัยแรกๆ แอปเปิลต้องการตี ibm ให้แตก และก็ทำสำเร็จเสียด้วย แต่กว่าจะรู้ตัวก็โดน microsoft แทงข้างหลังทะลุถึงหัวใจไปแล้ว สตีฟ จีอปส์ เรียกบิลเกตมาด่าถึงในห้อง แล้วบอกว่านายขโมยของเราไป (หมายถึงขโมย lisa ของ apple ไปต่อยอดเป็น windows นั่นเอง) บิลเกต ก็เลยด่าจ๊อปส์กลับไปมั่ง ว่า แล้วมันต่างจากนายตรงไหน (เนื่องจาก apple ก็ขโมยเมาส์มาจาก xerox เหมือนกัน) ผลสรุปของสองคนนี้ก็ยังคลุมเคลือ ยิ่งช่วงหลัง การตลาดของ apple เริ่มล้มไม่เป็นท่า สุดท้ายไมโครซอฟก็เข้ามาช่วย (เพราะเห็นเป็นเพื่อนเก่าแก่???) ด้วยการซื้อหุ้นของ apple เป็นจำนวนมากนั่นเอง ดังนั้น ถึงจะหนีวินโดวส์ มาใช้แมค ไมโครซอฟก็ยังได้ตังนะจ๊ะ... จากคุณ : CaminoReal - [ 20 ก.ค. 51 14:51:38 ]

ความคิดเห็นที่ 79 เมื่อก่อนติด Walkman มาก จนถึงตอนนี้ก้อยังใช้อยู่ (มือถือ SE) ส่วนตัวก้อมี ipod shuffle เครึ่องนึง (ได้ฟรีจากบริษัท) ก้อไม่ค่อยประทับใจเท่าไร เพราะมันไม่มีจอมั้ง พอซื้อ ipod nano gen3 มา ก้อคิดว่าจะตอบโจทย์ได้ แต่ก้อเปล่าอีก ส่วนนึง ไม่ชอบ itune ไม่รู้ดิ ไม่สะดวกมั้ง (ก้อเลยขายต่อเพื่อนไป ในราคาขาดทุน -*-) เห้นด้วยที่ว่า sony ค่อนข้างผูกขาดกะเครือข่ายของตัวเอง (software/accessories) ราคาสูง และก้อใช้ลำบาก ถ้าเทียบกะ ipod จากคุณ : petrified - [ 23 ก.ค. 51 17:02:16 ]

ความคิดเห็นที่ 80 fire wire มันของsony คิดค้น จากคุณ : O-DED - [ 8 ก.ย. 51 18:06:38 ]