ความคิดเห็นที่ 1 นักคณิตศาสตร์ไม่สามารถหาคำตอบ  x^2+1=0 เป็นจำนวนจริงได้ จึงคิดว่าน่าจะมีระบบจำนวนอีกระบบนึง ระบบจำนวนเชิงซ้อนจึงเกิดขึ้น จากคุณ : เซียนแห่งmath - [ วันอาสาฬหบูชา 19:51:28 ]

ความคิดเห็นที่ 2 คือเลขที่ยกกำลังสองแล้วเป็นลบ จริงๆไม่น่าจะมี แต่เมื่อนำมาพลอตแล้ว ขึ้นแรกจะคล้ายพระพุทธรูป เมื่อขยายมาจะเห็นเป็นลวดลายคล้ายต้นไม้ ไม่มีสิ้นสุด เรียกว่า แฟรกตัล Fractal ให้ไปค้น Mandelbrot set , Julia set บางคนเชื่อว่า จิตจักรวาลสร้างสรรพสิ่งด้วยสูตรคณิตศาสตร์ และค้นๆไป เราอาจหลุดพ้นจากวังวนของโลกวัตถุกาลเวลาได้ ตอนนี้มีการคำนวณหา จักรวาลอื่นที่มีวัตถุและเวลาต่างจากเรา แรงโน้มถ่วงก็อาจมาจากจักรวาลพวกนี้ ตอนนนี้เขาคำนวณได้ถึงมิตติที่ 26 เวลาแยกมาต่างหาก พวบว่า อนุภาคบางตัวมี ค่า t 2 ค่า แสดงว่าอยู่ในสองจักรวาลพร้อมกัน จักรวาล กาแลกซี่ต่างๆขยายตัว เพราะอนุภาคเปลี่ยนจาก 10 มิติ มา 4 มิติรวมฟังก์ชั่นเวลา ทำให้เกิดแรงผลัก ตามทฤษฏี ซูเปอร์สตริง ตอนผมเรียน ทฤษฎีนี้เพิ่งคลอด ทฤษฎีเอ็มที่คิดว่าเป็นสิ่งรวมก็ยังพอใช้ได้ ส่านควอนตัม นั้นเป็นยุคแรกๆ คือแสงเป็นได้ทั้งอนุภาคและคลื่น สองอย่าง แต่ไม่เป็นพร้อมกัน จากคุณ : Jet - [ วันอาสาฬหบูชา 20:00:09 A:124.157.158.211 X: ]

ความคิดเห็นที่ 3 นึกง่าย ๆ สมมติว่าโลกสร้างใหม่ ๆ คนแรกที่เริ่มคิดเป็นเริ่มนับก้อนหิน 1 2 3 4 ... 20 ... ก้อน พบว่าเพิ่มก้อนหินได้ หักก้อนหินออกได้ มีกฎเกณฑ์ในการทำแบบนั้น เกิดเป็นระบบจำนวนนับ ก็ใช้ระบบจำนวนนับนั่นแหละร่วมกับการดำรงชีวิต รวมกลุ่มคนสิบคน จับปลาได้ 20 ตัว แบ่งกันคนละ 2 ตัว อยู่มาวันหนึ่ง คน 10 คน จับปลาได้ 5 ตัว คุณคิดว่าเขาสะดุดใจอะไรกับระบบจำนวนที่เขามีมั้ยครับ เขาต้องแบ่งปลากันคนละ 1/2 ตัว 1/2 กลายเป็นตัวเลขปิศาจของระบบจำนวนนับทันที (สำหรับคนที่รู้จักแค่จำนวนนับจะรีบต่อต้านออกมาดัง ๆ ว่า 1/2 ไม่ใช่จำนวน) แสดงว่าคนต้องการระบบจำนวนระบบใหม่คือระบบเศษส่วน ประเด็นของนิทานเรื่องนี้คือ เมื่อไรก็ตามที่เราต้องการจำนวน เพื่อวัดเพื่อนับเพื่ออธิบายคุณภาพอะไรสักอย่าง แล้วมันไม่อยู่ในระบบที่เรารู้จัก เราก็ต้องสร้างระบบใหม่ให้มัน อย่างกรณีจำนวนจินตภาพที่ถามนี่แหละครับ พูดง่าย ๆ คืออยากได้สิ่งที่คูณตัวมันเองแล้วเป็นค่าลบ (อาจจะเพื่อหาคำตอบของอะไรบางอย่าง หรือจู่ ๆ นักคณิตศาสตร์ก็เอะใจขึ้นมาเฉย ๆ) เราไม่พบมันในระบบจำนวนจริง ฉะนั้นมันต้องเป็นระบบจำนวนอีกระบบ ทำให้เกิดระบบจำนวนเชิงซ้อน และแทนสัญลักษณ์ i = sqrt(-1) จำนวนจินตภาพคือจำนวนที่เขียนอยู่ในรูปที่เป็นจำนวนจริงเท่าของ i ชื่อมันอาจหลอกหูไปสักนิด อย่าคิดว่ามันไม่มีจริงนะครับ มันมีตัวตนอยู่อยู่จริงในระบบที่ต้องการมัน (ตัวอย่างเช่นความเข้มของสนามแม่เหล็กไฟฟ้า) จากคุณ : ศล - [ วันอาสาฬหบูชา 20:39:22 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ข้างบนน่าจะชัดเจนนะครับ ถ้าลองเปิดตำราฟิสิกส์ดูจะพบว่ามันไม่ได้มีแค่ 3 มิติ . . . จากคุณ : ไม่มีสมาชิกชื่อนี้ - [ วันอาสาฬหบูชา 21:11:36 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เรื่องนี้ก็น่าสนใจเช่นกันกำลังจะถามเชียว อิอิ คือพอมาคูณกันแล้วมันทำงานได้ใช่ไหมคะ แบบนี้ เราให้ 1/0 เป็น M(int) ได้ไหม เผื่อมีระบบที่ต้องการมันอยู่ 1/0 = M 2/0 = 2M จากคุณ : มิ้นๆ (mint_la) - [ วันอาสาฬหบูชา 21:54:54 ]

ความคิดเห็นที่ 6 อ่านของคุณ ศล แล้วแจ่มดีครับ ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ จากคุณ : -=| thopical |=- - [ วันอาสาฬหบูชา 23:38:06 ]

ความคิดเห็นที่ 7 จำนวนติดลบถ้าเราเครื่องหมาย root มาคร่อมจะหาค่าของมันไม่ได้จาก quaters หรืออะไรสักอย่าง (ไอ้ที่มันเป็นแกน x แกน y ตัดกัน) คณิตศาสตร์ให้จำนวนทั่วไปเป็นจำนวนเชิงซ้อน z = x+iy คือจำนนวนจริง+จำนวนจินตภาพ ตีความจำนวนจินตภาพแง่เรขาคณิต ให้จำนวนจริงเป็นเส้นแนวราบ จำนวนจินตภาพแนวตั้ง รวมเป็นระนาบจำนวนเชิงซ้อน เส้นตัดกันที่0เส้นจำนวนจริงวิ่งไปขวาเป็นบวก ซ้าย-ลบ จำนวนจินตภาพวิ่งขึ้นเป็นบวก ลง-ลบ พิจารณาจุด0เป็นหลักคูณ-1คือหมุนเป็นมุม180องศา คูณiเทียบกับหมุน90องศาทวนเข็มทิศบวก i^2=-1 ตีความว่าหมุน90องศา2ทีคือหมุน180องศา หมุนตามเข็มทิศลบได้ผลตีความเช่นกัน http://en.wikipedia.org/wiki/Imaginary_number จากคุณ : เมษ (ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ) - [ วันเข้าพรรษา 21:23:56 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณทุกๆ ท่านที่เข้ามาตอบนะครับ ^^ จากคุณ : จขกท. - [ 19 ก.ค. 51 02:17:42 A:125.25.11.254 X: TicketID:164354 ]

ความคิดเห็นที่ 9 มีจำนวนจินตภาพของจำนวนจินตภาพไหมครับ จากคุณ : chaowman - [ 20 ก.ค. 51 16:40:01 ]

ความคิดเห็นที่ 10 test จากคุณ : xxx - [ 9 ก.ย. 51 23:54:03 A:125.25.51.24 X: TicketID:184198 ]