ความคิดเห็นที่ 1 จะแยกส่วนที่เป็น Passive และ Active ไว้นะครับ Passive ส่วนแรก   Readning,,, 10%   วิธีนั่งอ่าน นั่งท่อง นั่งจำ ทำความเข้าใจ กับหนังสือด้วยตัวเอง... จากภาพที่บอกว่า นั่งอ่านหนังสือสอบ ไปเรื่อยๆเนี่ย สมมุติว่า สัก 100 หน้า.. สองสัปดาห์ผ่านไป คุณจะเหลือที่จำได้ อยุ่แค่ 10 % หรือ 10 หน้า โอ้โห อ่านแทบตาย...  สองสัปดาห์ ผ่านไป ลืมหมดเลย เคยใช่ใหมหละครับหลายคน อุตสาห์อ่านหนังสือ ก่อนสอบ ล่วงหน้าหลายสัปดาห์ พอจะสอบ ปุ๊บ แล้ว ลืมหมด แบบนี้กรู ค่อยอ่านตอนก่อนสอบดีกว่า อ่านไปก็ลืม แล้วก็อ่านไม่ทัน เพราะมันหลายวิชาเกิน จากคุณ : อ้ายหนุ่มพลังม้า - [ 19 ก.ค. 51 08:29:31 ]

ความคิดเห็นที่ 2 Hearing ... 20 % ส่วนนี้ ส่วนใหญ่ นักเรียนและ นิสิต จะไป ฟังเอาจาก อาจารย์ ที่สอน ในห้องเรียน ใช่ใหมหละครับ นั่งฟัง อย่างตั้งใจ บางที ก็ นั่งหลับอย่างตั้งใจ... แต่ ดูจากงานวิจัยแล้ว พบว่านั่ง ฟัง อาจารย์ เล่า อธิบาย 100 หน้า สองสัปดาห์ผ่านไป เหลือที่จำได้ แค่ 20 หน้า   โอ้...จอร์ช นี่กรูไปนั่งฟัง ตั้ง 3 ชั่วโมง ต่อสัปดาห์ รวมกัน เกือบสองเดือน แต่จำที่ อาจารย์เล่าได้แค่ 20%  แบบนี้ กรู โดดไป Dot A ดีกว่า... จากคุณ : อ้ายหนุ่มพลังม้า - [ 19 ก.ค. 51 08:32:37 ]

ความคิดเห็นที่ 3 มาถึง Look at the Picture : 30% หลังจาก ฟังอาจารย์ เล่า นั่งอ่านหนังสือ มาดูรูปประกอบ แล้ว... จาก 100 หน้า เนี่ย ผ่านไปสองสัปดาห์ ปรากฏว่า จำได้ลางๆเลือนๆ เหมือนเธอจะทิ้งฉันไป... เก็บไว้ในความทรงจำ....แค่ 30 หน้า เออ แบบนี้หารูปประกอบ มาดู ก็ดีเนาะ เพิ่มมาจากฟังตั้ง 10 เหตุผลว่าทำไม คนอ่านการ์ตูน แล้วจำเนื้อเรื่อง ได้และสบายใจกว่านั่งอ่านตำรา เพราะไม่ต้องใช้ สมองในการนั่งประมวลภาพจากการอ่านและฟังไป.. ดังนั้น หนังสือ ที่มีภาพเยอะๆๆๆ มันช่วยทุ่นเวลา ในการอ่าน ได้ มากกว่าเดิมมาก แต่หนังสือในบ้านเรา ....เฮ้อ มากด้วยตัวอักขระ  แต่...ภาพกระจึ๋งเดียว(คือทำภาพมันทำยากกว่านั่งเขียน) แล้วมันจะเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนรู้ให้ เยาวชนได้ใหมเนี่ย จากคุณ : อ้ายหนุ่มพลังม้า - [ 19 ก.ค. 51 08:37:32 ]

ความคิดเห็นที่ 4 มาถึงส่วนที่ มีประสิทธิภาพ ช่วงสุดท้าย ของ Passive  ที่มี ค่าถึง 50% ช่วง  Hear and see (ดูและทำ) Watching a Movie : ทำไม ญี่ปุ่น ถึงพยายามทำการเรียนรู้ทุกอย่าง ให้เป็น animation แล้วนอกจากช่วงเพิ่มอาชีพให้กับคนในประเทศแล้ว(ทำภาพทำเสียง ทำstory ) การเรียนรู้จาก ภาพยนต์ หรือ อนิเมชั่น ช่วยทำให้มีการเรียนรู้ในสิ่งนั้น เพิ่มจากเดิม 50% หรือ 5 เท่าจากการอ่านหนังสือ.... เรียกว่ามี 100 หน้า ดูหนัง เรื่องเดียวไม่กี่ชั่วโมง จำได้ ดีกว่า นั่งอ่านหนังสืออย่างเดียว ถึง 5 เท่า.... เหตุผลที่ว่า ทำไม สอนภาษาอังกฤษในห้องเรียนมันไม่ work มานั่งดู หนัง sub eng แล้ว ได้ผลดีกว่า ... เพราะ สมองได้รับรู้เรื่องราวในรูปแบบของ story (สังเกตุว่าสมองคนเราชอบจำอะไรเป็นเรื่องราวไม่ชอบจำอะไรเป็น เฉพาะเจาะจง ถ้าจะจำ จำว่ารถวิ่งๆๆไปใหนเจออะไร ได้ดีกว่า รถนีสีอะไร ล้อ Max ใช้อะไรใช่มั้ยหละครับ) ส่วนการเรียนรู้หนัง จาก ญี่ปุ่น.. rate 18+ อันนี้ดูเสร็จอาจจะเหนื่อยต่อการเรียนรู้เรื่องอื่นๆต่อไปนะครับ ไม่ควรครับแบบนี้ จากคุณ : อ้ายหนุ่มพลังม้า - [ 19 ก.ค. 51 08:45:11 ]

ความคิดเห็นที่ 5 Passive  ที่มี ค่าถึง 50% ช่วง อื่นๆอย่าง Looking , Watching Demonstration  หรือ  See it Done on Location ดูตัวอย่างหรือ  case study ที่เราจะต้องเรียน (อาจจะดูแบบฝึกหัด หรือดู อะไรที่เกี่ยวข้องเรื่องที่เราจะต้องเรียน ต้องสอบ) ดูและทำจดบันทึก ลงไป รวมทั้งการหา ตัวอย่างโจทย์ปัญหา แบบฝึกหัดมานั่งแก้นั่งทำ ช่วยจำได้ ดีกว่าปกติ 5 เท่า หรือ 50%  อันนี้ทำได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องลงทุนสร้าง animation หรือ ทำหนังด้วยตัวเอง ช่วงจะสอบ พวกนั่งลอกการบ้านแบบฝึกหัดส่งอย่างเดียว คงเข้าใจใช่ใหมหละครับ ว่า นรกมีจริง.... ดังนั้น เลิกนั่งอ่านแบบฝึกหัดไปสอบ และ copy งานเพื่อนส่ง เผื่อจะได้หลุดขุมนรก ช่วงสอบกันบ้าง จากคุณ : อ้ายหนุ่มพลังม้า - [ 19 ก.ค. 51 08:51:41 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ที่ผ่านไป คือการเรียนรู้ ด้วย ตัวเองด้านเดียว (คือรับอย่างเดียว) อย่าง Passive ทีนี้มาพูดถึง ส่วนที่เป็น Active  บ้าง (รับรู้อย่างเดียวไม่พอ มันต้องมีการ รุกรู้ บ้าง...) แค่ส่วนแรกของ Active  ก็ ปาเข้าไป 70% !!! แล้ว หรือ 7 เท่าจากการนั่งอ่านหนังสือหัวปักหัวปำ ส่วนนี้ สามารถทำได้ง่าย ไม่ต้องใช้ทรัพยากรอะไรมาก แล้วเราก็ทำอยู่ปัจจุบัน คือ มานั่งจับเจ่าพูดคุย สนทนา เรื่องที่เราเรียน เราจะสอบนี่หละ !!! ก็แค่ แลกเปลี่ยนความรู้ เมิงนั่งถาม กรูนั่งตอบ เมิงนั่งตอบ กรูนั่งถาม ถ้าเมิงไม่ตอบ กรูก็หาอีกคนให้อธิบาย ช่วยกันถามช่วยกันตอบ (แต่โปรดอย่าไปนั่งสนทนากับพวกรอนั่ง ถามอย่างเดียว อ่านกันมาบ้าง สงสัยไอที่อ่านกันมาบ้าง มาช่วยกันตอบช่วยกันถาม ไม่ใช่มาช่วยกันถาม แล้วให้คนเดียวตอบแบบนี้ กินแรงเพื่อนเกิน) ที่เราเรียกกันว่า นั่งจับกลุ่มติวกัน!! นั่นหละครับ เคยสงสัยใหมครับว่า นั่งอ่านแทบตาย สองสามวันรวด นั่งฟังอาจารย์สัปดาห์ละ 2 ชัวโมง สองเดือนติด มานั่ง จับกลุ่มติวกัน วันเดียวรวด.... ครบ ทุกเนื้อหา ..... เพราะอะไร ....เพราะการเรียนรู้แบบ มีการพูดคุย สอบถามตอบ มันมีประสิทธิภาพดีกว่านั่งอ่านอยู่ห้อง คนเดียว ตั้ง 7 เท่า!!!! ทำไม เราถึงนั่งจำเรื่องไร้สาระ ได้ดีกว่า เรื่องเรียนในห้อง เพราะ ไอตอนเรานั่งถกคุย เรื่องไร้สาระ(เรื่อง ผลบอล เรื่องดารา เรื่องในมุ้งของคนในคณะ) มันถึงจำแม่น เจอหน้าก็รู้ชื่อพ่อ รู้ประวัติหมด ...เพราะไอที่เราทำกันมันคือ สิ่งที่มีประสิทธิภาพสูง แบบนี้หละ (แต่เราไม่ค่อยจะนั่งถกเรื่องเรียนกันใช่ใหมหละครับ ถ้าไม่ใช่ช่วงสอบ) จากคุณ : อ้ายหนุ่มพลังม้า - [ 19 ก.ค. 51 09:01:25 ]

ความคิดเห็นที่ 7 มาถึง Active  ส่วนที่มีค่าประสิทธิภาพสูงสุดกันบ้าง 90%!! ก็คือส่วนที่เป็น  Doing a Dramatice Presentation การนำเสนอ ส่วนนี้คนที่ทำ จะจดจำและเข้าใจ ได้ถึง 90% คือจะนำเสนอ ให้ผีฟัง(พรีเซนต์คนเดียวในห้อง) หรือ นำเสนอให้เพื่อนๆฟัง อาจารย์ฟัง ไอที่เราเรียนรู้มา จดๆจำๆกัน ได้นำมา เสนอกันบ้าง (เหมือนกรณีที่ ท่อง จำ จำ แล้ว มายืนบ่นๆไอที่เราเรียนรู้จำมา หนะหละ)  การนำเสนอสิ่งที่เราเรียนรู้มา... ทำให้ มีประสิทธิภาพดีกว่า นั่งอ่านอย่างเดียวถึง 9 เท่า!!!   ปกติทั่วไปเราเห็นพวกคนที่ ทำ สิ่งนี้ คือ พวก ชอบติววิชาให้คนอื่น!!   นี่หละ  ได้ติว ได้สอน เพื่อนๆ นอกจาก เผื่อจะได้เพื่อนเลี้ยง ข้าว เลี้ยง สุรา...ตอบแทน แล้ว วิชาที่เราเรียนรู้มาแล้วจะไปสอบ เรายิ่ง เก่ง ยิ่งแม่น ยิ่งเข้าใจ(กว่าคนปกติเข้าใจ) เข้าไปอีก  ดีไม่ดีหลายคน ติวไปติวมา...ได้ ข้าวฟรี ได้สุราฟรี...บางที ได้ เพื่อนหรือรุ่นน้องเป็นแฟนฟรีๆ อีก : p หลายๆคนในห้องนี้เคยติววิชาให้เพื่อนกันใช่ใหมหละครับ ตอนก่อนติวเพื่อนๆและหลัง ติวเพื่อนๆ....เสร็จ  ความรู้วิชานั้น เปลี่ยนจากหน้ามือไปหลังมือ เลยใช่ใหมหละครับ  ..... มันเพิ่มพรวดๆๆๆ เลย เพราะ ประสิทธิภาพจากเดิมที่เราเคยนั่งอ่านนั่งท่องนั่งจำ...สามารถจำได้ดีกว่าเดิมเดิมถึง 9 เท่า!!! หลายๆคน พอทำตรงนี้ได้เก่ง ก็เริ่มเจอหนทางประกอบอาชีพ กอบโกยเงินกันเป็นล่ำเป็นสัน อย่าง อาจารย์ รรกวดวิชาชื่อดัง.... อย่าง อจ อุ๊. อจ ปิง ..... อจ ประกิตเผ่า    ตอนแรกๆ การเรียนรู้วิชานั้นๆ ของอาจารย์อาจจะไม่ได้ห่างจากคนอื่นนัก แต่พอเริ่มติวเริ่มสอน ก็เริ่ม...รู้และเข้าใจมากกว่าคนอื่นหลายเท่า... เพราะจากส่วน Active นี้นี่เอง รู้แบบนี้.... ช่วงจะสอบ จับกลุ่มติวกันดีกว่า  อยากเป็นคนติวให้คนอื่น ก็เริ่มอ่านเตรียมไว้ได้เลย (แต่บอกพวกมันอ่านมาบ้างหละ) จากคุณ : อ้ายหนุ่มพลังม้า - [ 19 ก.ค. 51 09:14:22 ]

ความคิดเห็นที่ 8 มาถึงตรงส่วนอื่น ของ Active  90%  สามารถอธิบาย คร่าวๆว่า Simulating the Real Experience จำลองรูปแบบการสอบ ด้วยตัวเอง .....เอาง่ายๆ เดาใจว่าอาจารย์จะออกข้อสอบแบบใหน ทำยังไง แล้วมาแนวใหน  ... ประหนึ่ง ยุทธิพิชัยสงคราม รู้เขารู้เรา เสร็จกรู 100 ครั้ง ที่เราเรียกว่า เก็ง!!! ข้อสอบนั่นหละครับ พวกที่จะเก็ง ข้อสอบได้ ส่วนใหญ่จะเป็นพวกอ่านมาแล้ว ติวให้คนอื่นมาแล้ว ก็เลยบอกได้ว่า  อาจารย์จะมาไม้ใหน.... ไม่ว่าจะเก็งแบบใหน ความน่าจะเป็นแบบใหน โอกาส มันก็ถูกมากกว่าคนปกติ ตั้งแต่ 1% -100%  อยู่แล้ว แถมลดเวลาการอ่านหนังสือ ออกทะเล ออกอ่าวไปใหน ได้ตั้งมากมาย เพราะรู้แล้วว่าจะต้องออกอะไร วิธีเก็งแบบง่ายๆ ก็ไปหา ข้อสอบเก่ามานั่นหละ ลองทำเล่นๆดู นั่นหละ ช่วงนี้ ทำแบบไม่ต้องปิดหนังสือ สงสัยอะไรก็เปิดๆๆๆ อ่าน นั่งทำ มันจะจำได้ดีเอง เก็งกันก่อน......ดีกว่าไปเกร็งหน้าห้องสอบ ผสมกับ การ Real Thing ทำสมจริงสมจัง ก็คือ ลองทำข้อสอบด้วยเหตุการณ ว่า ตอนนี้กรูต้องสอบนะ....นั่งทำยิกๆกันไปเลย  แล้วดูว่า สอบเสร็จ จะเสร็จกรู หรือ เสร็จ อาจารย์.... รู้เข้ารู้เรา กันเลยใช่ใหมครับ ประสิทธิภาพดังกล่าวดีกว่า นั่งอ่านหัวปักหัวปำ 9 เท่า! คือ เรียกว่า ถ้านั่งอ่านหนังสือ 1 ชั่วโมง สู้ ลองทำ แบบ active แบบนี้ 1ชั่วโมงเท่ากับ อ่านหนังสือปกติ 9 ชั่วโมง!!!  ประหยัดเวลาเยอะ จากคุณ : อ้ายหนุ่มพลังม้า - [ 19 ก.ค. 51 09:24:06 ]

ความคิดเห็นที่ 10 อืม น่าสนใจครับ เมื่อก่อนรู้จักแต่ cone of ignorance ที่ Bart Simpson ทำให้เพื่อนๆ ของเขาที่นั่งอยู่รอบโต๊ะคะแนนตกลง จากคุณ : Practical x 2 - [ 19 ก.ค. 51 09:27:09 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เห็น น้องๆช่วงจะสอบช่วงนี้หน้าดำหน้าเครียด ....กันเป็นแถวๆๆ ส่วนตัวแล้วเห็น รุ่นน้องหลายคน เริ่มจิตอ่อนๆ ช่วงสอบกันแล้ว อยากลองแนะน้องๆ ไปนั่งติวนั่งจับกลุ่มกันเพื่อนๆบ้าง ไม่จำเป็นต้องสนิท หรือไม่สนิท..... อย่างน้อยมันก็ดีกว่า นั่งประสาทกินวิชาที่ต้องอ่านหรือสอบ ตั้ง 7-8 วิชา เดี๋ยวจะบ้ากันตายก่อน ไม่จำเป็นต้องเป็นคนติวเอง เป็นคนถูกติว สลับกันไปมาก็ได้ ได้ทั้งวิชาความรู้ ได้ทั้งกำลังใจ ได้แชร์ค่าอาหารอร่อยๆ เพื่อนที่ไม่สนิทก็อาจจะสนิทกันวันนั้นก็ได้ ช่วยกันเรียนช่วยกันสอบ...  แต่ไม่ใช่ช่วยกันลอก (เดี๋ยวจะช่วยกันไทร์ แทน) เราไม่ได้แบกโลกไว้คนเดียว...แต่เราช่วยกันแบก  : ) นะครับ โชคดี ช่วงสอบ midterm กันทุกคนครับ จากคุณ : อ้ายหนุ่มพลังม้า - [ 19 ก.ค. 51 09:30:11 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อยากมีน้องแบบ #11 มาช่วยติวจัง สงสัยสมัยผมเรียน มันมีแต่บึ้กๆ ดำๆ โหดๆ มันถึงได้เรียนออกมาเป้นแบบนี้ เฮ้อ จากคุณ : avalanche_fx - [ 19 ก.ค. 51 09:44:23 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เอาไว้มีเวลา....จะมาอธิบายเรื่อง Cone of Learning ของ นัก Motivate ทั้งหลาย ในการนำมาใช้ ในการสัมนา ระดับชั้นนำของโลก รูปภาพที่นำมา แปะ ตรงหัวข้อกระทู้ นี่มาจาก ของ คุโรซากิ... จาก พ่อรวยสอนลูก  ที่เรารู้จักกันดี ไงครับ เขาใช้ Cone of Learning นี่หละ มาจัดสอนสัมนา ประสบความสำเร็จมหาศาล จนปัจจุบัน เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงติดอันดับโลกไปแล้ว มันมี Eff ยิ่งใหญ่กว่า ที่คิด จากคุณ : อ้ายหนุ่มพลังม้า - [ 19 ก.ค. 51 09:57:08 ]

ความคิดเห็นที่ 14 อีก4วัน ผมก็จะสอบแระ เด๋วค่อยเอาไว้ใช้คราวหน้าละกันครับ ขอบคุณมากครับ ปล. เดี๋ยวก็ต้องไปใช้วีธีที่ อ่าน 100หน้า จำได้แค่ 10หน้า ต่อแล้วล่ะครับ T^T จากคุณ : Junkyjoke - [ 19 ก.ค. 51 10:08:31 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง ... การที่เราทบทวนเนื้อหา แล้วไปอธิบายให้คนอื่น...มันจำติดหัวน่าดู และดีเป็นลำดับไปเรื่อยๆ ยิ่งอธิบายยิ่งรู้มาก เวลาใช้รูปภาพประกอบการอธิบายเนื้อหาให้นศ.ฟัง พวกเขาดูเข้าใจมากขึ้น เวลากระตุ้นให้นศ.แสดงความเห็น พวกเขาก็ดูเข้าใจบทเรียนมากขึ้นเช่นกัน (แต่โดยมาก ไม่ค่อยร่วมมือ ถามได้ถามไปแต่ไม่มีใครตอบ) จากคุณ : Cryptomnesia - [ 19 ก.ค. 51 10:13:25 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขึ้นโหวดชัวร์ จากคุณ : discover_darkside - [ 19 ก.ค. 51 10:41:58 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณครับที่เอามาฝาก ขอแสดงความคิดเห็นเพิ่มดังนี้ แต่จะactive ได้ ก็ต้องหาแบบpassive มาก่อน จะติวให้เพื่อนหรือให้สัมมนา ก็ต้องมีความรู้อ่านมาเยอะ ผมมีความรู้สึกว่าเดี๋ยวนี้ อ่านกันน้อยลง แล้วจะเอาอะไรไปactive ดูที่วัดจากconeนี้แค่ระดับความจำ (remember) ดังนั้นต้องขยันๆกันเข้าไว้ รวมทั้งต้องรู้จักฝึก critical reading and thinking ที่จะปีนขึ้นระดับถัดๆไปจากการจำ จากคุณ : KL - [ 19 ก.ค. 51 10:49:08 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ในความเห็นส่วนตัวของผม ในหลายๆ วิชา ถึงแม้ว่านักเรียนสามารถจดจำ (remember) เนื้อหาวิชานั้นๆ ได้ 100% ไม่ได้หมายความว่านักเรียนคนนั้นได้เรียนรู้ หรือเป็นผู้ที่มีความสามารถในวิชานั้นๆ ได้ เช่น วิชาศิลปะ วาดรูป ดนตรี ร้องเพลง หรือแม้กระทั้ง การเขียนโปรแกรม เป็นต้น จากคุณ : ped cad - [ 19 ก.ค. 51 11:15:14 ]

ความคิดเห็นที่ 19 มาลงชื่อด้วยครับ..... จากคุณ : @Server ! maN@ - [ 19 ก.ค. 51 12:58:09 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณ จขกท ปกติใช้หลัก สุ จิ ปุ ริ = ฟัง คิด ถาม เขียน พอมาเทียบกับ จขกท เสนอ เราอ่านหนังสือในเวลาน้อยเพราะขี้เกียจ แต่อ่านแล้ว จะลองปิดหนังสือ คิดถึงอื่นที่อ่าน พูดให้ตัวเองฟังว่า เนื้อหามีไรบ้าง และจะเขียนในกระดาษรีไซเคิล ให้มือทำงาน จะได้ไม่ง่วงและทำให้จำได้ดีขึ้น เข้าห้องน้ำ ก็จะคิดถึงเรื่องที่อ่านไปด้วย อิอิ เดินจงกลมในห้อง พูดให้ตัวเองฟัง  ใช้ได้ดีที่เดียว  เขียนหัวข้อหลักๆถ้านั่งอ่าน เพราะแก้ง่วงได้ดีนัก เวลาไปเขียนจริงก็จะง่ายขึ้น ถามตัวเอง น่าจะรู้อะไรที่สัมพันกับเรื่องที่อ่าน  ถ้าสอบ presentation คนฟังจะถามเรื่องไรบ้าง จากคุณ : law of nature - [ 19 ก.ค. 51 13:00:58 ]

ความคิดเห็นที่ 21 Simulating the Real Experience ผมว่าเกี่ยวกับการจำลองเหตุการณ์จากเนื้อหาที่กำลังเรียนมากกว่านะ ไม่น่าเกี่ยวกับการทดลองสอบบนกระดาษ เหมือนเวลาเราไปฝึกงานไรเงี้ย เหอๆๆ ผมมีหลักการคล้ายๆกัน จำง่ายๆแบบนี้ Read to forget. See to remember. Do to understand. จากคุณ : CoOLBanana - [ 19 ก.ค. 51 13:02:47 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ความเข้าใจอยู่ส่วนใหนครับ Simulating the real exp. รึเปล่าครับ เพราะถ้าไม่เข้าใจ ก็จะเรียนรู้ได้แบบนกแก้วนกขุนทอง เวลาเจอปัญหาที่ต่างออกไป ก็จะทำไม่ได้ พูดง่าย ๆ คือไม่เกท คิดว่าไอ้เจ้าโคนนี่ อาจจะไม่ครอบคลุมทุกสาขาวิชานะ จากคุณ : Pixzz - [ 19 ก.ค. 51 13:16:57 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ^ ^ ^ ^ คห.21 Read to forget. See to remember. Do to understand. คล้ายๆกับหลักไทเก๊กของหนังจีนหมักกรหยกเลยนะครับ จงลืมให้หมด ่จงดูจนจำได จงปฏิบัติให้เข้าใจ ประมาณนี้เลยครับ อิิอิ ้ จากคุณ : Junkyjoke - [ 19 ก.ค. 51 13:49:45 ]

ความคิดเห็นที่ 24 จะสอบแล้ว...ยังไม่เข้าใจเลย ลองทำข้อสอบดูแล้ว...ไ้ด้แค่มอง..ทำไม่ได้ ToT แต่จะพยายามใหม่อีกครั้งครับ จากคุณ : มิ่งกลิ้ง - [ 19 ก.ค. 51 14:03:53 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ให้กำลังจัยคนใกล้สอบด้วยกัน~ สู้ ๆ จากคุณ : an-expert-lover - [ 19 ก.ค. 51 14:24:03 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณค่ะ >w< จากคุณ : pongpei - [ 19 ก.ค. 51 14:39:59 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณครับ จะลองเอาไปทำบ้าง ใกล้สอบแล้ว จากคุณ : handghost - [ 19 ก.ค. 51 15:07:33 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ขอบคุณมากๆๆๆๆๆครับ อาทิยต์หน้าสอบแล้วววว เกร็งอยู่วิชาเดียว คณิตศาสตร์ เหอๆ ตรีโกน คอส ซิน แวง อะไรมะรุ้ 2เดือน เมมโมรี่ว่างเปล่ามากๆ เหอๆ T___T จากคุณ : Nanoดะ - [ 19 ก.ค. 51 15:19:13 ]

ความคิดเห็นที่ 29 อ่า เรื่องนี้มีมาตั้งแต่ 1969 อย่างที่ จขกท อ้างอิงไว้นั่นแลคับ แต่จริงๆ แล้ว อาจจะไม่ได้เน้นไปที่การเตรียมตัวสอบ แต่พูดถึง "การเรียนรู้" แบบกว้างๆ การเรียนรู้ กับ การไปสอบ โดยเฉพาะสอบแบบปรนัย แบบไทยๆ นั้น คงไม่เหมือนกัน แต่การเรียนรู้ทำให้เราเข้าใจอย่างลึกซึ้ง และนำไปปฏิบัติได้ ซึ่งการเรียนรู้ที่ดีที่สุดคือ การลงมือปฏิบัติจริง เช่นการทำแลป นั่นเอง การสอน หรือบรรยาย ก็เป็นการเรียนรู้ได้ ด้วยการที่เราต้องทบทวนก่อนสอน และขณะสอนก็จะเกิดความคิดตามไปด้วย ได้แก้ไข และได้อะไรใหม่ๆ โดยเฉพาะการเรียนการสอน แบบมีการโต้ตอบ ของผู้เรียน และผู้สอน ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยน และสร้างอะไรใหม่ๆ ตลอดเวลา นั่นเองจึงจะทำให้การเรียนรู้มีประสิทธิภาพสูง และที่ จขกท อธิบายมานั้น เห้นภาพชัดเจน ยอดเยี่ยมมากครับ จากคุณ : g9h - [ 19 ก.ค. 51 15:47:17 ]

ความคิดเห็นที่ 30 คห 11 นี่เค้าเป็นลูกสาวป๋าชูวิทย์เชียวนะ หุหุ จากคุณ : kigkeejung - [ 19 ก.ค. 51 16:05:39 ]

ความคิดเห็นที่ 31 นึกถึงเรื่องเพื่อนคนหนึ่ง เก่งฟิสิกส์ กะเคมีมาก ทั้งๆที่ก็โดดพอๆกัน อู้พอๆกัน แต่อ่านหลักการฟิสิกส์แป๊บเดียวก็ทำได้แล้ว ถามว่ามีหลวงพ่ออะไรหนุนหลัง จะไปบนมั่ง มันสอนกลับมาว่า ให้แตกสูตร ดูไปถึงราก ถึงแก่น แล้วจะเข้าใจในทุกๆที่มาเอง ต่อให้เจอโจทย์พลิกแพลงแค่ไหน ก็เอาอยู่ ไม่ต้องเสียเวลาอ่านหรือจำสูตรลัดๆหรอก เวลากระจึ๋งเดียว เดี๋ยวตีกันในห้องสอบเปล่าๆ เรื่องนี้นำไปใช้ได้เกือบทุกวิชา คือ ถ้าเข้าใจถึงที่มาและสาเหตุแล้ว ก็จะประมวลผลได้เองอัตโนมัติ แม้ว่าอ่านแค่รอบเดียวก็ตาม จากคุณ : gxh - [ 19 ก.ค. 51 16:14:12 A:118.172.53.177 X: TicketID:176473 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เจอคห11เข้าไป ต่อให้เป็นคนเขียนตำราเอง ก็ลืมหมดครับ จากคุณ : goodnightcry - [ 19 ก.ค. 51 16:17:47 ]

ความคิดเห็นที่ 33 จะจำไปใช้ค่ะ ^^ จากคุณ : -ทำเป็นเล่นไป- - [ 19 ก.ค. 51 16:21:26 ]

ความคิดเห็นที่ 34 นึกถึงบทกวีจีนที่อ่านจาก Text วิชา Circuit สมัยยังเรียนอยู่ I hear I forget I see I remember I do I understand จากคุณ : ksk - [ 19 ก.ค. 51 16:28:12 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เจ๋ง ไปเลย ครับ ช่วยกันโหวตดีกว่า สิ่งดีๆจะได้ กระจายออกไปไกลๆ จากคุณ : eping - [ 19 ก.ค. 51 16:51:13 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ^^ จากคุณ : pattapon - [ 19 ก.ค. 51 17:13:28 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ขอบคุณมากครับ สอบวันจันทร์นี้แล้ววว ที่หวั่น- เคมี (กรดเบส)- อ.ผม(เพื่อนสนิทกับเจ้าของรร.กวดเคมีชื่อดัง)สอน เขาออกข้อสอบได้แบบ....ช่วยด้วย Entยังง่ายกว่า T_T ฟิสิกส์ (ไฟฟ้า)- ยากมั้ย...ไม่ แต่สูตรเยอะเกินจะจำไหว -*- สังคม (พัฒนาการด้านต่างๆของไทย) - เยอะเกิ๊นน 2วันยังอ่านไม่จบ คงต้องจับเข่าเพื่อนคุยแล้วล่ะ อืมม...มันต้องรอดสิน่าาา จากคุณ : ScaperS - [ 19 ก.ค. 51 17:16:15 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 19 ก.ค. 51 17:51:00 ]

ความคิดเห็นที่ 39 สาระดีมากเลยครับ จขกท.  จะเก็บไว้เป็นแนวทาง  เพราะผมเป็นอย่างที่ จขกท. เขียนเกือบทุกอย่างเลย   "ในห้องอ่ะเข้าใจ  แต่เวลาผ่านไปผมลืมหมด" จากคุณ : Force for Rush - [ 19 ก.ค. 51 18:46:49 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ความคิดเห็นที่ 10 อืม น่าสนใจครับ เมื่อก่อนรู้จักแต่ cone of ignorance ที่ Bart Simpson ทำให้เพื่อนๆ ของเขาที่นั่งอยู่รอบโต๊ะคะแนนตกลง จากคุณ : Practical x 2 - [ 19 ก.ค. 51 09:27:09 ] อันนี้มันเป็นยังไงหว่า เหมือนตัวโกงเลยครับ วานแถลงไขทีครับ อาจารย์ จากคุณ : เด็กมีปัญหา (ละอ่อนชายแดน) - [ 19 ก.ค. 51 18:47:44 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ผมใช้ 80/20 ผมไม่เคยสนใจเรียนเลย สนใจแค่เนื้อหา 20% ที่สำคัญที่สุด สรุปคือผมโดนอาจารย์ปรักปรำตอน ม.ปลายว่าผมทุจริตสอบ ต้องไปนั่งทำอีกที เวนจริงๆ -_-" จากคุณ : Azureus - [ 19 ก.ค. 51 18:49:47 ]

ความคิดเห็นที่ 42 Bart Simpson ก็คือตานี่ไง เด็กแสบประจำซีรี่ย์ ไอคิวต่างจากน้องสาวเป็นร้อยกระมัง 555+ แต่วีรกรรมเขาผมไม่รู้ ไม่นึกว่าอาจารย์จะดู Simpsons ซะด้วย คงต้องให้อาจารย์แถลงไขเอง แก้ไขเมื่อ 19 ก.ค. 51 19:15:30 จากคุณ : Cryptomnesia - [ 19 ก.ค. 51 19:15:12 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ขอบคุณมากๆ ค่ะ แล้วจะพยายามนำไปใช้นะคะ จากคุณ : CutieAngel - [ 19 ก.ค. 51 19:33:33 ]

ความคิดเห็นที่ 44 โหวตครับ ขอบคุนมาก จากคุณ : Sir.ขงเบ้ง - [ 19 ก.ค. 51 20:15:09 ]

ความคิดเห็นที่ 45 หึๆๆ บางทีนี่อาจจะถูกใช้เป็นข้ออ้างของเด็กขี้เกียจ อ่านไปทำไม ไปติวกะเพื่อนที่สยามดีกว่า . . . จากคุณ : ไม่มีสมาชิกชื่อนี้ - [ 19 ก.ค. 51 21:38:01 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ขอบคุณครับผม โอ้วรอดแล้ว ผมพอรู้แล้วหล่ะว่าผมต้องทำไงตอนจะสอบเนี่ย แต่ถ้าผมอ่านอยู่บ้านคนเดียวอ่ะครับ ไอ้เรื่องติวกะคนอื่นนี่คงไม่ได้ ผมจะติวตัวเองได้ยังไงน้อนี่ แต่ชัวร์ครับ อ่านอย่างเดียว ชาตินี้ตูก็จำไม่ได้หรอก จากคุณ : manese - [ 19 ก.ค. 51 22:08:06 ]

ความคิดเห็นที่ 47 love จขกท มากค่ะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : -:GhosT_Princezz:- - [ 19 ก.ค. 51 22:25:19 ]

ความคิดเห็นที่ 48 อีก 2 วันจะสอบยังไม่ได้อ่านสักตัวเลย ไว้จะเก็บไปลองบ้าง จากคุณ : taechawat - [ 19 ก.ค. 51 22:47:55 ]

ความคิดเห็นที่ 49 เข้ามาอ่านคับ เห็นด้วยๆ จากคุณ : Halimeda Lover - [ 19 ก.ค. 51 23:16:08 ]

ความคิดเห็นที่ 50 สอบไปแล้ว T T ไม่ทันแล้ว - - ฤาจะถอน แล้วลองทำตามดู - - ปล. อยากได้กำลังใจตอนติวแบบ คห. 11 ก้ออ่านะ จากคุณ : วุ้นใสจ้า - [ 20 ก.ค. 51 00:29:26 ]

ความคิดเห็นที่ 51 อุตส่าห์อ่านตั้งนาน เจอ #11 เข้าไปลืมหมดเลย - - จากคุณ : cookiecompany - [ 20 ก.ค. 51 00:36:52 ]

ความคิดเห็นที่ 52 # 11  ทำให้เสียเวลาต้องไปอ่านใหม่ จากคุณ : chapicha - [ 20 ก.ค. 51 07:34:12 ]

ความคิดเห็นที่ 53 #40 ใน episode นั้น Bart มีผลการเรียนตกต่ำ ครูใหญ่ Principal Skinners จึงแนะนำให้พ่อแม่ของเขา (Homer & Marge) หาทางแก้ไข ซึ่งวิธีแก้คือ ให้กินยา Focusin (เทียบเท่า Ritalin ที่พ่อแม่ในสังคมอเมริกันมักให้ลูกที่ มีปัญหาการเรียนกินกัน) จากคุณ : Practical x 2 - [ 20 ก.ค. 51 09:50:37 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ขอบคุณมากค่ะสำหรับคำแนะนำ สัปดาห์หน้าจะเริ่มสอบเหมือนกันค่ะ จากคุณ : ปุงปิง - [ 20 ก.ค. 51 12:36:34 ]

ความคิดเห็นที่ 55 มีประโยชน์โคดๆ ครับ ขอบคุง กั๊บ จากคุณ : มิ๊วๆ แมวพันปี - [ 20 ก.ค. 51 14:01:37 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ^^~ จากคุณ : แพ้รอยยิ้ม - [ 20 ก.ค. 51 15:45:41 ]

ความคิดเห็นที่ 57 อาจารย์เราก็เคยเอามาให้ดูแบบนี้เหมือนกัน จากคุณ : ลัลลา - [ 20 ก.ค. 51 17:00:20 ]

ความคิดเห็นที่ 58 มีประโยชน์มากมาย  โหวตค่ะ จากคุณ : ครีมเค้ก - [ 20 ก.ค. 51 19:18:58 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ขอบคุณมากครับ ที่แนะนำ ขออนุญาตส่งลิ้งค์ไปให้เพื่อนได้ อ่านกันนะครับ จากคุณ : พลังแห่งความฝัน - [ 20 ก.ค. 51 19:40:31 ]

ความคิดเห็นที่ 60 เข้ามาโกยความรู้ มีประโยชน์มากๆ ผลบุญนี้ ต้องทำให้จขกท.เป็นคนฉลาด แน่ๆ เรย จากคุณ : ปฏิจจสมุปบาท (ปฏิจจสมุปบาท) - [ 20 ก.ค. 51 21:13:24 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ขอบคุณครับ.. จากคุณ : fak - [ 20 ก.ค. 51 22:09:04 ]

ความคิดเห็นที่ 62 สุดยอดเลยครับ จากคุณ : มังคลา - [ 20 ก.ค. 51 23:00:49 ]

ความคิดเห็นที่ 63 เพิ่งเปิดมาเจอค่ะ TTATT สอบพรุ่งนี้แล้วค่ะ ง่า ไม่ทัน สิ้นหวังแล้ว สิ้นหวัง แต่ยังไงก็ขอบคุณนะคะ เอาไว้ไปใช้วิชาอื่นละกัน จากคุณ : ตั๊กจัง - [ 21 ก.ค. 51 01:42:50 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ถูกค่ะ   ประสิทธิผลที่ดีที่สุด คือการถ่ายทอดออกไป ค่ะ   การอ่าน หรือ เลคเชอร์เพียงอย่างเดียว  ได้แค่ 10 เปอร์เซ็น เท่านั้นค่ะ จากคุณ : -`๏’- Sunsnow -`๏’- - [ 21 ก.ค. 51 10:58:44 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ขอบคุณครับ สำหรับบทความที่มีประโยชน์อย่างมากกับผมและท่านอื่นๆ จากคุณ : Hanma - [ 21 ก.ค. 51 12:32:01 ]

ความคิดเห็นที่ 66 มิน่า ล่ะ ผมชอบมานั่งรอ ถาม - ตอบ กับ เพื่อนที่เก่งๆ ก่อนเข้าห้องสอบประมาณ 1 ชม. ประจำ  ถึง เรียนจบมาได้ จากคุณ : RuudVanNis10 - [ 21 ก.ค. 51 14:35:17 ]

ความคิดเห็นที่ 67 หูยยย  มีประโยชน์มากค่ะ แต่ถ้าปัญหาอ่านไม่ทันเนี่ย ตัวใครตัวมันนะคะ เจอมาตลอด ไม่อ่าน ก็ไปติวกะเพื่อนไม่ได้ ไม่เข้าใจที่มันพูด มานั่งจดๆเขียนๆ ก็ไม่ทันเวลา ฮื๊อๆๆๆ จากคุณ : zepsil_27 - [ 21 ก.ค. 51 18:55:05 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ขอบคุณ จขกท. มากๆ ครับ มีประโยชน์มากๆ จากคุณ : รักจังเมืองไทย - [ 21 ก.ค. 51 19:07:01 ]

ความคิดเห็นที่ 69 เพิ่งเข้ามาอ่านครับ ใช้ได้เลยทีเดียว นานๆทีจะมีกระทู้สาระดีๆแน่นๆมา 5 5 5+ จากคุณ : หยดฟ้า - [ 22 ก.ค. 51 00:19:41 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ทฤษฎีอะไรไม่รู้ยาวขี้เกียจอ่าน - -' แต่มานั่งติวกันหลายๆคนมันดีนะ ถ้าเรายังอ่านไม่จบติวกันแบบนี้แป๊บเดียวรู้เรื่อง แต่ถ้าอ่านจบแล้ว เราก็มาเก็บในส่วนที่เราสงสัย หรือเราไม่เข้าใจ มานั่งหาคำตอบในการติว จากคุณ : panumas05 - [ 22 ก.ค. 51 00:44:02 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ขอบคุณครับ ดีมากเลย จากคุณ : oro - [ 22 ก.ค. 51 06:37:12 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ขอบคุุณคร้าบบบบบบบบบบ ชอบๆๆๆๆ ได้ความรู้มากมายก่ายกองเลยครับผม จากคุณ : HanaToKaze - [ 22 ก.ค. 51 07:05:36 ]

ความคิดเห็นที่ 73 เข้ามาอ่าน ขอรับ จากคุณ : chapicha - [ 22 ก.ค. 51 10:46:17 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ขอบคุณมากครับ ขออนุญาตนำรูปบนสุดไปลงบล็อกนะครับ ไปแปะแบ่งเพื่อน...  ^ ^ จากคุณ : monboy01 - [ 22 ก.ค. 51 10:46:26 ]

ความคิดเห็นที่ 75 เรื่องติวให้คนอื่นนี่ผมเห็นด้วย 100%เลยครับ จำได้สมัยก่อน อ่านๆ หนังสือแล้วก็งงๆ ตอบคำถามตัวเองบางอันไม่ได้ แต่ตอนติวให้เพื่อนๆ ตอบได้หมดเลย (เข้าใจเองเฉยเลย) จากคุณ : beer2nd - [ 22 ก.ค. 51 11:51:00 ]

ความคิดเห็นที่ 76 เห็นด้วยเรื่องติวให้กัน และติวให้เพื่อน มันติวๆโจทย์อยู่ แล้วมันก็แม่นขึ้นๆ แทนที่จะทำตรงๆ เราก็ลัดวิธีได้มากขึ้น แม่นขึ้น โปร๊ะ โป๊ะ แป๊บได้ความคิดใหม่ๆมากหลาย ขอบคุณมากๆๆๆๆๆๆๆๆ (คำนับ) สำหรับความรู้ในการรับความรู้นำไปใช้ชีวิตรอดในการศึกษาค่ะ 55555+ ขออนุญาตนำข้อมูลไปลงให้เพื่อนๆในบอร์ดโรงเรียนนะคะ คุณอ้ายม้าพลังหนุ่ม เอ้ย อ้ายหนุ่มพลังม้า ปล. ตอนนี้เวลาติวช่างน้อย ได้หยุด 5 วันเหมือนพักจากตาย เปิดมาอีกที งานกองสุมหัว (กำลังจะทับหัวตาย) คะแนนออกมาก็ โอเคค่ะ 5555+ จากคุณ : ฮ่าๆๆComeback (โฮ่งฮับตังเม) - [ 22 ก.ค. 51 19:04:46 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ผมนิยม โน้ตย่อ แล้วอ่านใหม่ ไม่เข้าใจตรงใหน ก็ปรับปรุงใหม่ แล้วอ่านใหม่อีก ทำแบบนี้ไปเรือย ๆ จนได้โน้ตย่อที่สมบูรณ์ อ่านแล้ว เข้าใจได้ดีที่สุด ใช้เวลาน้อยในการทบทวน ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : อีคิวศูนย์ - [ 22 ก.ค. 51 19:18:31 ]

ความคิดเห็นที่ 78 โห...ใช่เลย ปี 1 - ปี 2 ผมเรียนแบบ Passive มาตลอด ได้มา 2 กว่า ไม่ก็ 3 หน่อยๆ ปี 3 เทอม 1 ผมเรียนแบบ Active ทั้งติว ทั้งจับกลุ่มติว ขึ้นมาเป็น 3.71 เลย~ อยากจะเข้ามาบอกว่ามันได้ผลมากๆๆๆๆๆๆ มิดเทอมนี้กำลังจะผ่านไป ไม่เป็นไร ไฟนอล และเทอมต่อๆ ไปยังมีเวลาให้ทำอีกเยอะ สู้ๆ ครับ จากคุณ : Punky - [ 22 ก.ค. 51 23:42:06 ]

ความคิดเห็นที่ 79 สมัยก่อนอ่านก่อนสอบทุกวิชาแค่คืนเดียวมาตลอด จนจบปี4 แต่ไม่เคยตกเลย ได้แต่ D Dog จากคุณ : อาจารย์แมว - [ 23 ก.ค. 51 00:05:26 A:125.27.39.242 X: TicketID:137077 ]

ความคิดเห็นที่ 80 เนื้อหากระทู้นี้---------->เก็บรายละเอียดได้ 10% น้องต้าร์ คห 11 -------->เก็บรายละเอียดได้ 100% (ท็อปโคนเลย 5555) จากคุณ : Demilo - [ 23 ก.ค. 51 02:35:20 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ขอบคุณมากๆเลยค่ะ =) ถึงว่า วันไหนอ่านแล้วบ่นๆกับตัวเองล่ะจำแม่นเลย จากคุณ : ange - [ 23 ก.ค. 51 16:21:06 A:124.121.116.11 X: ]

ความคิดเห็นที่ 82 น่าสนใจมากๆเลยค่ะ จากคุณ : . (majeure) - [ 23 ก.ค. 51 23:42:55 ]

ความคิดเห็นที่ 83 เดี่ยวขอเอาไปเผยแพร่นะครับ เพื่อ จะมีประโยชน์กับคนทำงานด้วย จากคุณ : ก้นกบ - [ 24 ก.ค. 51 13:49:47 ]

ความคิดเห็นที่ 84 เยี่ยมมาก ขอบคุณนะครับ :) จากคุณ : silence.screamer - [ 24 ก.ค. 51 15:42:42 ]

ความคิดเห็นที่ 85 อื่ม เป็นของใหม่ จากคุณ : โลหการ4 - [ 24 ก.ค. 51 22:50:09 ]

ความคิดเห็นที่ 86 mnemosyne http://www.mnemosyne-proj.org/ จากคุณ : สมสนุก - [ 25 ก.ค. 51 01:07:01 ]

ความคิดเห็นที่ 87 เพิ่งมาเห็นตอนสอบเสร็จแล้ว T_____________T จากคุณ : lic0ricez* - [ 26 ก.ค. 51 00:46:32 ]

ความคิดเห็นที่ 88 กำ เพิ่งได้เล่นเนตหลังสอบเสร็จนี่แหละ เพิ่งได้เห็น -*- ไม่เป็นไร เก็บไว้ใช้ตอนไฟนอล ^^ จากคุณ : Bluedonut - [ 26 ก.ค. 51 13:15:08 ]

ความคิดเห็นที่ 89 สอบเสร็จแล้วเหมือนกันค่ะ ยืนยันว่าวิธีสอนเพื่อนได้ผลมากๆ เพราะเราจะเข้าใจไปเอง คือ มีเรื่องหนึ่ง เราสอนเพื่อนแล้วแบบว่า ตอนก่อนสอบไม่อ่านเลย ยังทำได้ แต่ถ้าเป็นเรื่องที่ไม่เข้าใจตั้งแต่แรก มันก็คงต้องให้คนอื่นสอนแหละ ขนาดตัวเองยังไม่เข้าใจ จะไปสอนเพื่อนคงพากันเสีย - -" ส่วนการคุยนี่ก็ดีนะ บางทีที่อ่านมา เราตกหล่นอะไรไป(บ่อยมาก) แล้วเพื่อนมาคุยๆ ทั้งๆที่มั่นใจว่าอ่านละเอียดแล้วนะ มันก้มีพลาดกันได้เนอะ ปล.บางทีแอบได้ยินเพื่อนคุยกัน พอเข้าห้องสอบไปออกด้วย นึกขอบคุณเพื่อนเขาเลย 555 จากคุณ : WE RR ONE (rrltai^^) - [ 26 ก.ค. 51 19:53:41 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ขอบคุณ จขกท.มากมายครับ ถึงว่าสิ ทำไมพวกที่มาติวๆ ให้เรานี่ มัน A เอา A เอา เทอมที่แล้วมันก็เรียนฟรี เพราะได้ A ห้าตัุว เย็นนี้ก็กำลังจะไปติวให้เพื่อนเหมือนกันครับ เสียแต่ว่า...เป็นตัวที่ผมผ่านไปแล้วนี่สิ -_-" จากคุณ : Zepia (bozzie) - [ 30 ก.ค. 51 10:30:17 ]

ความคิดเห็นที่ 91 เห้อ มาเจอกระทู้นี้ตอนที่สอบเสร็จแล้ว รู้สึกจะตกเยอะด้วย 5 5 5 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : หมอนหมีนุ่มนิ่ม - [ 30 ก.ค. 51 22:45:48 ]

ความคิดเห็นที่ 92 กระทู้ดีมีสาระ ใช้ได้เลยอะ เห็นด้วยมากๆเลยฮะ จากคุณ : bemylove - [ 5 ส.ค. 51 20:03:01 ]

ความคิดเห็นที่ 93 ขออนุญาตนำไปเผยแพร่ต่อด้วยคนครับ จากคุณ : มือมาร - [ 6 ส.ค. 51 04:47:02 ]

ความคิดเห็นที่ 94 รออ่าน Cone of Learning ของ นัก Motivate ต่อนะคะ จากคุณ : อัญชนา (อัญชนา) - [ 25 ส.ค. 51 14:50:41 ]

ความคิดเห็นที่ 95 เจ๋งมากเลยพี่~!! (เข้ามาตามคำแนะนำ) จะขอทำตามหลักนี้ละกัน แต่คงต้องไล่ขึ้นไปเรื่อยๆ 10%~ ----นอกเรื่อง---- ว่าแต่.......พี่มีวิธีช่วยให้ขยันขึ้นบ้างไหมอ่ะ เพื่อนๆแต่ละคนบอกว่าแฟนพี่น่ารักมากอ่ะ ^^" ดวงที่พี่ดูให้จะแม่นป่าวหว่า :P ไปละ~ ถ้าผิดคนก็ขออภัยด้วย = =" จากคุณ : เด็กที่พี่ดูดวงให้(งานจุฬา51) - [ 29 พ.ย. 51 21:05:43 A:58.9.189.151 X: ]