PANTIP.COM : X6821968 หน่วย swat ทำไม้อติดเพื่อนจังเลยครับ []

ความคิดเห็นที่ 13

การใช้กำลังคนที่มากกว่านั้นเป็นหลักยุทธวิธีตามมาตราฐานอยู่แล้วครับ โดยตำรวจเขาจะถือว่าจำนวนของเจ้าหน้าที่ชุดจู่โจมหรือปฏิบัติงานในแต่ละครั้งนั้นต้องมีมากกว่าคนร้ายครับ เจไดหนุ่มขอยกตัวอย่างเช่น..ถ้าเขารู้ว่าคนร้ายมี4คนก็จำเป็นต้องใช้กำลังเจ้าหน้าที่ซึ่งมีมากกว่า โดยอาจจะใช้ประมาณ7-8นายก็ได้ครับ ถ้าไม่เชื่อผมก็ลองไปถามตำรวจตามโรงพักได้เพราะสิ่งนี้เป็นยุทธวิธีพื้นฐานที่ตำรวจทุกคนจะต้องเรียนมา

ยกตัวอย่างง่ายๆเลยคือเวลาตำรวจเกิดการปะทะกับคนร้ายแล้วสิ่งที่เขาต้องทำอย่างแรกเลยคือตรวจสอบกำลังคนแลอาวุธของตนเองครับ ถ้ามีน้อยกว่าหรือดูแล้วเสียเปรียบก็ต้องรีบว.เรียกกำลังสนัลบสนุนอย่างเดียวเลยจะบุ่มบ่ามไปไล่ตามแบบในหนังไม่ได้เพราะว่า...

- จำนวนคนน้อยกว่ามีสิทธิ์ตกเป็นฝ่ายสียเปรียบได้ในทุกสถาณการณ์

- กำลังคนน้อยกว่าทำให้ปฏิบัติหน้าที่ได้ไม่ครอบคลุม อาทิ มีคนร้าย3คนต่อตำรวจ1คน เกิดทำเป็นฮีโร่ชักปืนไล่ตามไปแล้วเผอิญคนร้ายหันไปจับตัวประกันมาขู่ ขอถามว่าตำรวจคนนั้นจะทำไงในเมื่อมีอัตรส่วนต่อรองแค่1ต่อ3เท่านั้น?

- ชีวิตคนไม่เหมือนในหนังครับ เพราะเพียงแค่กระสุนสนิมเขรอะจากปืนลูกโม่ทำมือเพียงนัดเดียวก็สามารถคร่าชีวิตคนได้แล้ว ดังนั้นความปลอดภัยจึงถือเป็นหลักปฏิบัติที่ตำรวจทุกนายต้องจำให้ขึ้นใจ

แต่ทว่าในเมื่อเขามีการสอนมาอย่างนี้แล้วแต่ทำไมเราถึงยังเห็นข่าวตำรวจถูกทำร้ายจนเสียชีวิตได้เป็นประจำ?? (ไม่นับภาคใต้ครับเพราะเหตุการณ์เหล่านั้นมันสงครามกองโจรดีๆนั่นเอง)

- นั่นก็เพราะตำรวจบางนายละเลยเรื่องความปลอดภัย อาทิเช่นไม่ยอมใส่เสื้อเกราะเวลาจับพวกขี้ยาเพราะคิดว่างานนี้คงไม่มียิงกัน(บางท่านอาจอยากใส่แต่ทางโรงพักิจไม่มีงบซื้อให้ในจำนวนที่พอเพียงก็ได้) ที่ไหนได้ผู้ต้องหาบางคนมีอาวุธซุกซ่อนไว้กับตัว ยกตัวอย่างล่าสุดที่มีการไล่ล่ากันแถวพญาไท ที่นายตำรวจจราจรกระโดดเข้าขวางรถแมงกะไซค์จนโดนยิงจนล้มฟุบกลางถนนระหว่างสกัดจับคนร้าย นั่นถือเป็นการกระทำที่กล้าหาญเสียแต่ว่าประมาทไปหน่อยนั่นเอง

- ข้อมูลข่าวสารที่ได้ไม่ชัดเจนครบถ้วน!! กรณีนี้มักพบได้ในเหตุการณ์ล่อซื้อยาเสพย์ติด เช่นสายรายงานว่ามีผู้ต้องหา5คนแต่พอเอาเข้าจริงๆมีสิบคน ทำให้ตำรวจตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบได้ง่ายๆ อย่างเช่นเหตุการณ์บุกจับคนร้ายกลางคอนโดเมื่อหลายเดือนก่อนที่ตำรวจถูกยิงฟุบสองนายระหว่างเข้าชาร์จทั้งๆที่ไม่ใส่เกราะ(กระสุนยิงคนแรกแล้วทะลุไปโดนคนที่สอง) ซึ่งในงานรดน้ำของตำรวจกล้า ทางผบ.ตร.ยังมาเน้นย้ำเลยว่าต้องการให้ตำรวจระมัดระวังให้มากกว่านี้

แลที่น่าแปลกคือทั้งๆที่เขารู้อยู่แล้วว่าคนร้ายมีอาวุธแต่ตำรวจก็ยังใช้ยุทธวิธีเข้าชาร์จด้วยอาวุธแลรูปแบบการตรวจค้นธรรมดา โดยในภาพข่าวนั้นเราจะเห็นได้ว่ากำลังหน่วยอรินทราช(สวาท) พึ่งจะถูกเรียกมาถึงพร้อมอาวุธปืนอัตโนมัติก็หลังจากที่ตำรวจสองคนถูกยิงฟุบไปแล้ว ซึ่งนับเป็นการตัดสินใจของหัวหน้าทีมปฏิบัติการที่ค่อนข้างช้าแลไม่รัดกุมนั่นเอง(ถ้าเรียกสวาทหรือใช้คอมแมนโดแต่แรกคงไม่มีการสูญเสียเช่นนี้)

(May the Spoil be with you)
ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน
แก้ไขเมื่อ 23 ก.ค. 51 00:49:20

จากคุณ : เจไดหนุ่ม - [ 23 ก.ค. 51 00:47:13 ]