ความคิดเห็นที่ 1 เมื่อออกจากร่าง วิญญาณจะไปที่ไหน? ดวงวิญญาณที่ออกจากร่างในตอนแรก จะวนเวียนอยู่บริเวณนั้น พอได้สติก็จะมีท่านมัจจุราชทำหน้าที่มานำเอาวิญญาณของมนุษย์หรือสัตว์ที่ชะตาถึงฆาต พาไปยังยมโลก เพื่อตรวจสอบบาปบุญความดีความชั่ว ในขณะที่มีชีวิตอยู่ วิญญาณบาปจะถูกนำตัวส่งไปนรก 8 ขุมใหญ่ แต่ละขุมแบ่งย่อยขุมละ 36 แห่ง แต่ละแห่งมีการลงทัณฑ์และทรมานอีก 800 ด่าน แต่ละด่านมีเครื่องทรมานนับไม่ถ้วน วิญญาณบางดวงอาจตกนรกทั้ง 8 ขุมเลยก็มี โดยเฉพาะคนที่ทำกรรมชั่วมหันต์ หรือเรียกว่า "อนันตริยกรรม" มีอยู่ 5 อย่าง คือ 1.ฆ่าพ่อ 2. ฆ่าแม่ 3. ฆ่าพระอรหันต์ 4. ยุยงสงฆ์ให้แตกแยก 5. ทำร้ายพระพทุธเจ้าห้อเลือด หลังจากที่คนเราตายประมาณ 1-2 วัน ปกติแล้ว เขาจะไม่รู้ว่าตัวเองตาย 7วันให้หลังเขาจึงรู้ว่าตนเองตายแล้ว วิญญาณจะถูกกักบริเวณไว้ 49 วันเพื่อรอพิจารณาคดี ในระหว่างนั้นผู้ตายก็กำลังรอบุญกุศลจากลูกหลานทางโลกที่กำลังง่วนอยู่กับงานศพ เรามาดูปรากฏการณ์ 49 วัน ชีวิตหลังความตาย ขณะที่วิญญาณของผู้ตายออกจากร่าง ชีวิตหลังความตายก็เริ่มต้นเปิดฉากขึ้นในโลกที่ผู้ตายต้องเข้าไปเพียงลำพังเท่านั้นไม่มีสิ่งใดเลยที่สามารถเอาติดตัวจากโลกมนุษย์ได้ เว้นเสียแต่บาปกับบุญเท่านั้น จากคุณ : iamnid - [ 28 ก.ค. 51 13:53:32 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เจ็ดวันรอบแรก >> วิญญาณผู้ตายต้องเดินผ่านดงหมาป่า ซึ่งมีฝูงหมาป่าดุร้ายเหมือนเสือขวางทาง >> เมื่อวิญญาณบาปไปถึง ก็เกิดหวาดกลัวไม่กล้าเดินต่อไป ฝูงหมาป่าเห็นดังนั้น >> ก็กระโจนเข้าขย้ำขบกัดวิญญาณบาปจนเลือดท่วมตัว >> กรีดร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดทุกขเวทนา >> >> ส่วนวิญญาณผู้ประกอบกรรมดี เมื่อมาถึงดงหมาป่า >> ก็จะมีหมู่เทวทูตคอยพิทักษ์คุ้มครอง พวกหมาป่าได้แต่นิ่งเฉย ไม่กล้าทำอะไร >> จึงผ่านไปได้โดยปลอดภัย >> จากคุณ : iamnid - [ 28 ก.ค. 51 13:55:08 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เจ็ดวันรอบที่ สอง >> >> >> >> เมื่อวิญญาณผู้ตายมาถึงด่านประตูผี เจ้าหน้าที่ผู้รักษาด่าน >> เมื่อเห็นเป็นวิญญาณบาป ก็จะทุบตีอย่างไม่ปรานี >> และยังมีพวกเจ้ากรรมนายเวรพากันมาทวงหนี้เวลานั้น >> ส่วนวิญญาณผู้ประกอบกรรมดี เมื่อมาถึงด่านประตูผี >> จะได้รับการต้อนรับและสามารถผ่านด่านนี้ไปโดยปลอดภัย จากคุณ : iamnid - [ 28 ก.ค. 51 13:55:51 ]

ความคิดเห็นที่ 4 >> เจ็ดวันรอบที่ สาม >> เมื่อวิญญาณผู้ตายมาถึงยมโลก ถ้าเป็นวิญญาณบาปก็จะถูกโซ่ตรวนไว้ >> และถูกบังคับนำไปอยู่ตรงหน้าหอกระจกส่องกรรม ยามมีชีวิตทำชั่วอะไร >> ภาพก็จะปรากฏขึ้นเองอย่างอัตโนมัติ เสร็จแล้วก็จะถูกคุมตัวไปรับการพิจารณาโทษ >> ถึงวิญญาณบาปจะเริ่มสำนึกผิด ตอนนี้แต่ก็สายเสียแล้ว >> >> ส่วนวิญญาณผู้ประกอบกรรมดี เมื่อมาถึง จะได้รับการต้อนรับ >> มีเจ้าหน้าที่พาไปท่องเที่ยวนรกขุมต่างๆ และพาไปดูสภาพของบรรดาญาติพี่น้องที่ >> ทำบาป กำลังรอคอยการพิจารณาตัดสินความผิด จากคุณ : iamnid - [ 28 ก.ค. 51 13:56:20 ]

ความคิดเห็นที่ 5 >> เจ็ดวันรอบที่ สี่ >> เมื่อมาถึงด่านภูเขากระดาษเงินกระดาษทอง การจะขึ้นไปบนภูเขาลูกนี้ยากลำบากมาก >> กระดาษเหล่านี้ได้มาจากลูกหลานญาติพี่น้องในเมืองมนุษย์หลงงมงายเผาส่งไปให้ >> ทับถมกันจนเป็นภูเขาเลากา >> ซึ่งตามความเป็นจริงแล้วแม้ผู้ตายจะได้รับก็ไร้ประโยชน์ >> >> เจ็ดวันรอบที่ ห้า >> >> วิญญาณผู้ตายมาถึงหอดูบ้านเดิม ได้เห็นลูกหลาน >> คนในครอบครัวต่างไว้ทุกข์ด้วยความเศร้าโศกเสียใจกับการตายของตน >> ถึงตอนนี้จึงได้รู้ว่าตนเองตายแล้ว ไม่อาจกลับบ้านได้อีก >> ได้แต่เสียใจอาลัยอาวรณ์ จากคุณ : iamnid - [ 28 ก.ค. 51 13:56:52 ]

ความคิดเห็นที่ 6 >> เจ็ดวันรอบที่ หก >> เมื่อวิญญาณผู้ตายมาถึงด่านคุมบัญชี >> ยมบาลจะสั่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจดูบาปบุญที่ผู้ตายได้สร้างสมตอนมีชีวิต >> หลังจากหักลบกันแล้ว ถ้าบุญมีมากกว่าบาปก็จะให้ไปเกิดยังสุคติภูมิ >> ถ้าบาปมีมากกว่าบุญ จะส่งไปยังนรกภูมิ รับทุกข์อย่างน่าเวทนา >> >> เจ็ดวันรอบที่ เจ็ด >> >> เมื่อวิญญาณผู้ตายไปถึงด่านตรวจสอบ ยมบาลก็จะสั่งเลขาให้ตรวจสอบดูว่า >> ผู้ตายตอนมีชีวิตอยู่ได้ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตหรือไม่ ถ้าได้ถือศีลกิเจ >> ละเว้นจากการฆ่าสัตว์ก็จักลหุโทษ >> ถ้ามัวหลงผิดฆ่าสัตว์เพื่อความสุขของปากท้องก็จะเพิ่มโทษเป็นเท่าตัว. >> >> ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ก็ขอให้ทุกคนในขณะมีชีวิตอยู่นั้น >> เร่งสะสมความดีกันให้มากๆ นรก-สวรรค์นั้น ไม่ใช่สิ่งลวงโลก >> ตอนนี้ท่านอาจยังไม่เห็น แต่สักวันท่านก็ต้องเห็น กฏแห่งกรรมนั้นเป็นเรื่องจริง >> ขอให้ทุกคนใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท ******************************* จากคุณ : iamnid - [ 28 ก.ค. 51 13:57:39 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ผมเชื่อว่ามีวิญญาณจริง เพราะเคยเจอเองกับตัว แต่บุญกรรม นรกสวรรค์ ยังครึ่งๆอยู่ครับ จากคุณ : มนุษย์ถ้ำ - [ 28 ก.ค. 51 14:17:19 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ไม่ทราบครับ ไม่มีข้อมูลพอที่จะสรุปอย่างมีนัยสำคัญ ว่ามีหรือไม่ จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!! - [ 28 ก.ค. 51 14:18:28 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ตอนนี้เรา ๆ ท่าน ๆ ก็อยู่ในโลกหลังความตาย คือเป็นโลกหลังความตายของคนที่ตายไปแล้ว เราก็ยังคงคิดถึงคนที่ายไปแล้วอยู่ นี่แหละ โลกหลังความตาย จากคุณ : โอจารุมารุโดนยึดอมยิ้ม - [ 28 ก.ค. 51 14:35:16 A:124.121.34.81 X: TicketID:181915 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เชื่อครับ จากคุณ : ช้างทมิฬ - [ 28 ก.ค. 51 15:06:16 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ข้อมูลไม่เพียงพอครับ ตอบไม่ได้ และข้อมูลที่ได้มาเป็นเพียงเรื่องที่เล่าสืบต่อกันมาจากอดีต ... (ผมพอดีกว่าครับ ไม่ต่อดีกว่า) จากคุณ : ผู้เฒ่าไม่ยอมแก่ - [ 28 ก.ค. 51 15:11:51 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เฮ้ย คนลบไฟแดงอ่ะครับ แหกตาดูหน่อยเรื่องลึกลับเค้าโยกมาไว้ในหน้ารวมแล้วครับ ด้วยความเคารพ จากคุณ : Jump.Jr - [ 28 ก.ค. 51 15:26:33 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เข้ามาดู จากคุณ : Mr. ฟิว(ขาด) (ก็อตซิล่าคิว) - [ 28 ก.ค. 51 15:37:25 ]

ความคิดเห็นที่ 15 สิ่งที่เราคิดหาคำตอบกันน่าจะเอาเหตุและผลมาคุยกันนะครับ หรือมาตั้งคำถามกันเช่น คนเราตายมาเป็นพันปีแล้วถ้าว่าตายแล้วเกิดใหม่ทำมัยจำนวนประชากรมันมากขึ้น เราตายตอนไหนเช่นตอนเด็กเราจะเป็นผีเด็กอยู่อย่างงั้นไม่ยอมโตเหรอ เราตายตอนแก่เราจะเป็นผีคนแก่ ถ้าไอสไตร์ตายเขาทำไมไม่ทำให้เมืองผีเจริญกว่าเราล่ะ อันนี้สงสัยมากแม่ผมเสียชีวิตแล้วแม่ผมจะฟังภาษาบาลีรู้เรื่องไหม ทำมัยต้องมากลางคืนแล้วทำมัยต้องกลัวคนเยอะๆ เช่นป่าช้าวัดดอนเมื่อก่อนคนน้อยๆว่าผีดุผ่านไม่ได้ทำมัยปัจจุบันไม่ดุ คนมีความรู้ความสามารถตายไปแยอะทำไมไม่พัฒนามาหาเตรื่องมือติดต่อโลกมนุษย์ ผีต่างชาติไปอยู่ที่ไหน ผีจาไมก้าเอธิโอเปียจะไปไหน สมัยก่อนมีสงครามแม่ทัพจีนฆ่าทหารและชาวบ้านทีละเป็นแสนคน ทำมัยได้เป็นเซียนหรือเทพเจ้า หรือการฆ่าคนไม่สำคัญไม่เป็นบาป เอาแค่นี้ก่อนนะครับที่เหลือให้ชาวหว้ากอที่มีคำถามแบบผมมาตั้งมั่ง จากคุณ : pong (pongsathorn) - [ 28 ก.ค. 51 16:43:39 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ที่ผู้ตั้งกระทู้ว่ามา เป็นเรื่องราวอันเป็นความเชื่อทางศาสนาที่ย่อมมีรายละเอียดอันมากมายที่สามารถสนองต่อความอยากรู้หรือความยึดเหนี่ยวจิตใจของหลายๆคน จึงสามารถสืบต่อมาจนถึงทุกวันนี้ แต่ถ้าจะพูดกันตามหลักเหตุผล เช่น หลักวิทยาศาสตร์รูปธรรม  ความหมายและหลักความจริงของ"วิญญาณ"  หลักเหตุผลข้อเท็จจริงหลังความตาย ฯลฯ  เพื่อวิเคราะห์ความจริงกันในที่นี้ คงยังไม่มีหลักเหตุผลเท่าที่ควรน่ะครับ คงเป็นเนื้อเรื่องที่โพสต์ให้ผู้อื่นอ่านแล้วยึดถือกันตามประสาห้องศาสนามากกว่า ตอบกระทู้ตามหลักพระไตรลักษณ์และพระปฏิจจสมุปบาทของพุทธศาสนาว่า อาการทุกข์น้อยใหญ่ย่อมมีเกิดดับเวียนอยู่ในอายุขัยของชีวิตใดๆ อาการทุกข์ที่เกิดข้ามสู่ชีวิตอื่นเช่นการรู้สึกและตระหนักในความทุกข์ของชีวิตอื่น เกิดขึ้นในธรรมชาติได้ยาก    ชีวิตน้อยใหญ่ใดๆย่อมมีเกิดดับเวียนอยู่ในภพนั้นๆ การเกิดที่สามารถข้ามไปสู่ภพอื่นหรือแม้แต่หลักรูปธรรมอื่น เกิดขึ้นได้ยาก   กายภพหรือกายภาพปัจจุบันใดๆย่อมเกิดดับเวียนอยู่กับลักษณะรูปธรรมวัตถุที่ยึดมั่นรู้ได้  ฯลฯ ดังนั้นควรกล่าวว่าโลกหลังความตายมีอยู่ตามเหตุผลของพุทธศาสนา (ตราบที่ยังมีเหตุอวิชชาที่ต้องยังผลสู่ 11 อาการสังขตธรรมตั้งแต่สังขารลงมาจนถึงชาติและต้องสิ้นสุดผลของอวิชชาด้วยอาการทุกข์ที่เป็นมรณาการสิ้นสุดไป โดยมิอาจก่อผลปัจจัยใดได้อีก) จากคุณ : ผู้ศึกษา - [ 28 ก.ค. 51 16:59:45 ]

ความคิดเห็นที่ 17 กระทู้นี้   น่าจะจัดเป็นเรื่องความเชื่อ และควรอยู่ในห้องศาสนามากกว่า ไม่จัดเป็นเรื่องลึกลับ   เพราะเราไม่สามารถไขข้อสงสัยได้เลย จากคุณ : sb*star - [ 28 ก.ค. 51 17:18:31 ]

ความคิดเห็นที่ 18 -*-....ถ้าชาติอยากเกิดเป็น อะมีบ้า ชาตินี้ต้องทำไรบ้างเนี่ย จากคุณ : ginosty - [ 28 ก.ค. 51 17:22:41 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ผมก็เห็นว่าคำถามนี้เหมือนกับไก่ กับ ไข่อันไหนเกิดก่อนกัน ซึ่งหากไปถามเด็กที่เรียนทางสายวิทยาศาสตร์ก็จะต้องได้รับคำตอบว่าไม่เชื่อ หรือเชื่อบ้างไม่เชื่อบ้างตราบใดที่ไม่มีสิ่งที่ประสาทสัมผัสทั้งห้าของเรามาพิสูจน์ให้เห็นเป็นรูปธรรมได้ แต่หากไปถามเด็กที่เรียนอักษรศาสตร์ หรือเด็กที่เรียนทางมนุษยศาสตร์ก็คงจะได้รับคำตอบว่า เชื่อ บางคนอาจบอกว่าเชื่ออย่างสนิทใจ เพราะอย่างน้อยเด็กที่เรียนทางด้านนี้ต้องอ่านวรรณคดี ซึ่งหลายๆเรื่องก็จะกล่าวถึงตำนานภพภูมิต่างๆหลังความตายที่เรามองไม่เห็น อย่างผมเองเรียนปีหนึ่งก็ต้องเรียนวิชาวรรณคดีไทย ซึ่งต้องอ่านไตรภูมิพระร่วงทั้งเล่มเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษา ซึ่งอย่างน้อยก็อาจมีส่วนกล่อมเกลาทางความคิดให้โน้มเอียงที่จะเชื่อว่ามีจริง แม้ว่าอาจจะไม่ใช่ทั้งหมดก็ตาม และเท่าที่ดูมา ทุกคนที่ตอบกระทู้มานี้ล้วนแล้วแต่ตกอยู่ในกระแสของวาทกรรมที่เรียกว่า "วิทยาศาสตร์" ทั้งสิ้น คือต้องใช้ประสาทสัมผัสเท่านั้นเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าเป็นจริงหรือไม่ แต่อยากจะบอกว่าในวงวิชาการทางด้านมนุษยศาสตร์ตอนนี้กำลังอยู่ในยุคที่เรียกว่า โพสต์โมเดิร์น คือพยายามหาแนวความคิดอื่นๆที่ไม่ใช่วิทยาศาสตร์เข้ามาศึกษาสังคม กล่าวง่ายๆคือปฏิเสธความเป็นวิทยาศาสตร์ที่เป็น "เผด็จการ" ทางความคิดของคนในปัจจุบันนี้ โดยพยายามหาแนวความคิดใหม่ๆ ที่ไม่ใช่กระแสหลักเข้ามาวิเคราะห์สังคมหรือวรรณคดี ตลอดจนงานศิลปะอื่นๆ โดยแนวความคิดที่โดดเด่นของโพสต์โมเดิร์น คือ แนวความคิดของคาร์ล มาร์กซ์ หรือการปฏิเสธโครงสร้างนิยมทางเพศของมนุษย์ว่าจะต้องแบ่งออกเป็นสองเพศเท่านั้น เป็นต้น ที่ผมอธิบายนี้ก็เพื่อจะสื่อว่า ทำไมเรื่องแบบนี้จะต้องใช้ "วิทยาศาสตร์" เท่านั้นหรือในการอธิบายสิ่งเหล่านี้ ถึงจะเป็นมาตรฐาน หรือเป็นที่ยอมรับได้ ผมว่าหากมีแนวความคิดอื่นๆมาอธิบาย หรือมีแนวความคิดที่สามารถชนะวาทกรรมวิทยาศาสตร์ได้ ก็คงจะสนุกไม่น้อยทีเดียว เพราะผมมองว่าวิทยาศาสตร์ก็คือวาทกรรมหนึ่งหรือแนวทางในการศึกษาเรื่องต่างๆในโลกนี้วิธีหนึ่งเท่านั้น เพียงแต่ว่ามันได้รับการยกระดับให้เป็นที่ยอมรับก็เท่านั้นเองครับ ความเห็นของผมอาจจะไปขัดใจท่านผู้เชี่ยวชาญหรืออาจารย์ที่สอนทางด้านวิทยาศาสตร์ก็ได้ แต่มันก็เป็นความเห็นของคนที่เรียนอักษรศาสตร์คนหนึ่งครับ จากคุณ : ภารตยุทธ (ภารตยุทธ) - [ 28 ก.ค. 51 17:25:22 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ผมก็เห็นว่าคำถามนี้เหมือนกับไก่ กับ ไข่อันไหนเกิดก่อนกัน ซึ่งหากไปถามเด็กที่เรียนทางสายวิทยาศาสตร์ก็จะต้องได้รับคำตอบว่าไม่เชื่อ หรือเชื่อบ้างไม่เชื่อบ้างตราบใดที่ไม่มีสิ่งที่ประสาทสัมผัสทั้งห้าของเรามาพิสูจน์ให้เห็นเป็นรูปธรรมได้ แต่หากไปถามเด็กที่เรียนอักษรศาสตร์ หรือเด็กที่เรียนทางมนุษยศาสตร์ก็คงจะได้รับคำตอบว่า เชื่อ บางคนอาจบอกว่าเชื่ออย่างสนิทใจ เพราะอย่างน้อยเด็กที่เรียนทางด้านนี้ต้องอ่านวรรณคดี ซึ่งหลายๆเรื่องก็จะกล่าวถึงตำนานภพภูมิต่างๆหลังความตายที่เรามองไม่เห็น อย่างผมเองเรียนปีหนึ่งก็ต้องเรียนวิชาวรรณคดีไทย ซึ่งต้องอ่านไตรภูมิพระร่วงทั้งเล่มเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษา ซึ่งอย่างน้อยก็อาจมีส่วนกล่อมเกลาทางความคิดให้โน้มเอียงที่จะเชื่อว่ามีจริง แม้ว่าอาจจะไม่ใช่ทั้งหมดก็ตาม และเท่าที่ดูมา ทุกคนที่ตอบกระทู้มานี้ล้วนแล้วแต่ตกอยู่ในกระแสของวาทกรรมที่เรียกว่า "วิทยาศาสตร์" ทั้งสิ้น คือต้องใช้ประสาทสัมผัสเท่านั้นเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าเป็นจริงหรือไม่ แต่อยากจะบอกว่าในวงวิชาการทางด้านมนุษยศาสตร์ตอนนี้กำลังอยู่ในยุคที่เรียกว่า โพสต์โมเดิร์น คือพยายามหาแนวความคิดอื่นๆที่ไม่ใช่วิทยาศาสตร์เข้ามาศึกษาสังคม กล่าวง่ายๆคือปฏิเสธความเป็นวิทยาศาสตร์ที่เป็น "เผด็จการ" ทางความคิดของคนในปัจจุบันนี้ โดยพยายามหาแนวความคิดใหม่ๆ ที่ไม่ใช่กระแสหลักเข้ามาวิเคราะห์สังคมหรือวรรณคดี ตลอดจนงานศิลปะอื่นๆ โดยแนวความคิดที่โดดเด่นของโพสต์โมเดิร์น คือ แนวความคิดของคาร์ล มาร์กซ์ หรือการปฏิเสธโครงสร้างนิยมทางเพศของมนุษย์ว่าจะต้องแบ่งออกเป็นสองเพศเท่านั้น เป็นต้น ที่ผมอธิบายนี้ก็เพื่อจะสื่อว่า ทำไมเรื่องแบบนี้จะต้องใช้ "วิทยาศาสตร์" เท่านั้นหรือในการอธิบายสิ่งเหล่านี้ ถึงจะเป็นมาตรฐาน หรือเป็นที่ยอมรับได้ ผมว่าหากมีแนวความคิดอื่นๆมาอธิบาย หรือมีแนวความคิดที่สามารถชนะวาทกรรมวิทยาศาสตร์ได้ ก็คงจะสนุกไม่น้อยทีเดียว เพราะผมมองว่าวิทยาศาสตร์ก็คือวาทกรรมหนึ่งหรือแนวทางในการศึกษาเรื่องต่างๆในโลกนี้วิธีหนึ่งเท่านั้น เพียงแต่ว่ามันได้รับการยกระดับให้เป็นที่ยอมรับก็เท่านั้นเองครับ ความเห็นของผมอาจจะไปขัดใจท่านผู้เชี่ยวชาญหรืออาจารย์ที่สอนทางด้านวิทยาศาสตร์ก็ได้ แต่มันก็เป็นความเห็นของคนที่เรียนอักษรศาสตร์คนหนึ่งครับ จากคุณ : ภารตยุทธ (ภารตยุทธ) - [ 28 ก.ค. 51 17:25:33 ]

ความคิดเห็นที่ 21 มีดิครับ หลังจากคนตายไปแล้วก็ยังมีโลกอยู่ แสดงว่าโลกหลังความตายมีจริง แต่คนน่ะตายแล้วเอาไปเผาเหลือแต่ขี้เถ้า จากคุณ : มังกรใจเย็น - [ 28 ก.ค. 51 17:27:36 ]

ความคิดเห็นที่ 23 คุณ ภารตยุทธ ครับ วิทยาศาสตร์ มันไม่ได้เป็น เผด็จการแบบนั้นหรอก การล้มล้างกฏเดิมๆ เกิดขึ้นบ่อยไป .... วนกลับมาเรื่อง โลกหลังความตาย...... ถ้าจะศึกษากันจริงๆเนี่ย เราตัดปัจจัยที่เป็นศาสนา ออกไปได้ไหมครับ เท่าที่ได้ยินได้อ่านมา...เรื่องโลกหลังความตายเนี่ย ส่วนใหญ่จะโน้มเอียงไปในทางของศาสนาที่คนเล่านับถืออยู่ หรือไม่ก็ เป็นเพราะความเชื่อพื้นเมือง สมมุตินะครับ.... ถ้าคนที่เกิดมา ไม่นับถือศาสนา ไม่เคยอ่าน ไม่เคยฟัง เรื่องนี้ แต่รู้ว่าเกิดมาแล้วต้องตาย เนี่ย ภาพในหัวเกี่ยวกับ โลกหลังความตายของเขาจะเป็นยังไงหว่า??? จากคุณ : ginosty - [ 28 ก.ค. 51 18:18:17 ]

ความคิดเห็นที่ 24 .......    ส่วนตัว     เชื่อว่ามี    แต่ไม่ใช้แบบละเอียดที่  จขกท  อ้างถึง   ....      -  เคยบวช  วัดป่า   ฝึกจิตอย่างหนัก    ได้สำผัส ฌาณ    อำนาจวิเศษเล็ก ๆ          -  เพราะเคย  ลงมือพิสูตรเอง    จึงเชื่อครับ   . จากคุณ : DR บ๊อง - [ 28 ก.ค. 51 18:22:49 ]

ความคิดเห็นที่ 25 คนตาบอดจะกลัวผีไหมครับ จากคุณ : pong (pongsathorn) - [ 28 ก.ค. 51 18:23:17 ]

ความคิดเห็นที่ 26 มีหรือไม่มีผมไม่ทราบครับ แต่ผมทราบเรื่องเดียวคือ ก่อนหน้านี้ ประมาณสักอาทิตย์ก่อนได้ ผมยืมกระดูกท่านอาจารย์ใหญ่ทั้งส่วนบนและก็ส่วนล่าง มาท่องที่หอพัก(กระดูกแต่ละส่วนมาจากอาจารย์ใหญ่คนละคนกัน ประมาณได้ว่าสักสี่ท่านเห็นจะได้) มีเหตุการณ์แปลกๆ เกิดขึ้นกับตัวเองครับ ผมไม่ได้กลัวผีนะ แต่ผมไม่เข้าใจ ทำไมถึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้ วันแรกที่นำกระดูกท่านมาไว้ที่หอ ไฟเกิดดับ(ไม่ได้ดับทันทีที่เข้ามาอยู่ในหอ) ปกติแล้วหลอดไฟที่หอ มันจะไม่ดับหรือจะไม่ติดๆดับเลยสักครั้ง มาคราวนี้ ไฟดับครับ! ดับไปสักสิบวิได้ ผมเลยพูดไปว่า "อย่าเล่นเลยครับ ผมอ่านหนังสืออยู่" สักพักไฟก็ติดขึ้นมา เป็นแบบนี้สักสองสามรอบ ก็ไม่เท่าไหร่ ส่วนตัวคิดว่า "เอาหน่าา มันก็มีความน่าจะเป็นที่มันติดๆดับๆ ได้เองนี่หว่า" แต่หลังจากนั้นก็มีอีกเหตุการณ์ครับ นั่นก็คือ พัดลม พัดลมหอผมเป็นแบบ Digital ครับ ถ้าไม่กดมัน มันก็จะไม่ติดเอง หรือถ้าเราเปิดแบบAuto อุณหภูมิในห้องไว้ ถ้าอุณหภูมิในห้องเย็น มันก็จะไม่ทำงาน ไอเจ้าพัดลมตัวนี้มันเกิดติดขึ้นมาเองครับ!!! ทั้งๆที่ ผมก็ไม่ได้ไปเปิดหรือ เปิดออโต้ไว้ก็เถอะ ที่ห้องก็เปิดแอร์ เย็นก็เย็นแล้วทำไมพัดลมมันเปิดได้เองฟ่ะ? ไฟฟ้าลัดวงจรก็ไม่ใช่ ปล่อยให้ผมงงอยู่ต่อไป.. จากเหตุการณ์นี้ผมก็เชื่อนะ เชื่อว่ามีมิติอีกมิติหนึ่งที่เรามองไม่เห็นอยู่ เขาอยู่ข้างๆ เรา แต่เราจะเห็นหรือเปล่าคืออีกเรื่อง ตัวผมไม่เห็นตัวเป็นๆ หรอกฮะ มีแต่เหตุการณ์ จากคุณ : เราหล่อมาก - [ 28 ก.ค. 51 18:25:32 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ผมว่ามันยากที่จะอธิบายนะ แต่ผมเชื่อว่ามีน่ะ เหมือนกับชีวิตมันเกิดได้ยังไง บังเอิญธาตุหลักไม่กี่ตัวมาจับตัวกัน แล้วเกิดการเต้นตุ้บ ๆ ของชีวิตยังงั้นเหรอ ผมว่ามันมีเรื่องที่วิทยาศาสตร์มันไปไม่ถึงอีกเยอะนะ จากคุณ : Pixzz - [ 28 ก.ค. 51 18:42:48 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ผมว่าจขกทเปิดเรื่องโลกหลังความตายครับ ไม่ใช่ชืวิตเกิดได้อย่างไรถ้างั้น แร่ธาตุที่มารวมกันเป็นชิพคอมพิวเตอร์ มันเรียนรู้ได้แสดงว่ามันมีชีวิตเหรอครับ ผมว่ามันเป็นเทคโนโลยี่ชีวภาพมากกว่า อาจจะด้วยความบังเอิญหรือจงใจ แล้วอนาคตโลกของโลหะจะหายไป จากคุณ : pong (pongsathorn) - [ 28 ก.ค. 51 19:04:16 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ของบางอย่างเช่นใยแมงมุมกับรากของหอยแมงภู่ถูกสร้างด้วยโปรตีน จากการวิเคราะห์เรายังสร้างสิ่งที่เหนียวและแข็งแรงแบบนั้นไม่ได้เลย ถ้าวันหนึ่งเราทำได้และมีราคาถูกเหล็กอาจกลายเป็นของไม่มีค่าก็ได้นะครับ จากคุณ : pong (pongsathorn) - [ 28 ก.ค. 51 19:35:48 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ส่วนตัวแล้วไม่ค่อยเชื่อนะ แต่ก็อยากรู้ว่าคนที่เขามาสอนหรือมาเขียนตำราบอกว่าตายไปแล้วถ้าคนทำยังงี้จะไปเกิดเป็นยังงี้ๆนี่เขารู้ได้ยังไงอ่ะคะ์์?? จากคุณ : xenonz - [ 28 ก.ค. 51 20:08:55 ]

ความคิดเห็นที่ 32 คห.30 เรื่องชีวิตหลังความตาย ที่ตายไปแล้วเป็นนั่นแบบนี้ เท่าที่เคยอ่านเจอ มาจาก คนที่ตายแล้วฟื้น หรือคนที่ระลึกชาติได้ มาเล่าประสบการณ์ แล้วก็อาจมีผู้รวบรวมเหตุการณ์เหล่านั้นไว้ด้วยกัน แต่ จขกท.สงสัยว่า คนที่ตายแล้วฟื้น ทำไมจึงฟื้นกลับคืนมา เพราะอะไร สาเหตุใดมากกว่า แล้วมาเล่าเหตุการณ์เป็นเรื่องเป็นราวได้มากมาย ตัวอย่างคนตายแล้วฟื้น แล้วมาเล่า... http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/Y2421820/Y2421820.html อันนี้ ที่ ประเทศเวเนซุเอลาตายแล้วฟื้น ตื่นขณะหมอชันสูตรศพ http://hilight.kapook.com/view/15477 แก้ไขเมื่อ 28 ก.ค. 51 20:48:11 จากคุณ : iamnid - [ 28 ก.ค. 51 20:44:13 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ด้วยความเคารพต่อทุก คคห. โดยส่วนตัวเชื่อตามหลักศาสนาพุทธ . . . ถามว่าทำไมถึงเชื่อ โดยประสบการณ์ที่ได้พบเจอครับ . . . อย่างว่าไม่เจอกับตัวจะจินตนาการ ไม่ออกจริงๆ เคยได้รับประสบการณ์ทั้งที่คิดว่าจริง และหลอก เอาเป็นว่า ชีวิตหลังความตาย และเรื่อง บาป บุญ . . . ผมเชื่ออ่ะครับ และคิดว่าตัวเองคงไปใช้กรรมในนรกนานเหมือนกัน กว่าจะไปขึ้นสวรรค์ หรือลง มาใช้กรรมในภพชาติใหม่ ก็แหม . . . ตอนวัยรุ่นไปทำอะไรไว้เยอะ . . . ต้องชดใช้กรรมกันไป T_T จากคุณ : A49 GTR34 - [ 28 ก.ค. 51 21:08:06 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เข้ามาบอกว่า ข้อความเรื่องที่ จขกท. ยกมาให้อ่านนั้น จนถึง #6 ไม่ได้ตรงกับหลักอภิธรรมสายเถรวาท จากคุณ : Detonator_Pao_ - [ 28 ก.ค. 51 21:10:40 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ไอ้ที่เล่าๆมาทั้งหมดนั้น.... ใครกลับมาเล่าให้ฟังหรือ? แล้วงี้เราจะสามารถใช้ประโยชน์อะไรจากการมีอยู่ของกฏต่างๆได้มั้ย? เช่น อยากลองเป็นแมว จะต้องปฏิบัติตนอย่างไรจึงเกิดมาเป็นแมว แล้วเกิดใหม่ตายใหม่ได้ไหม จะได้ได้ประสบการณ์สัตว์หลายๆชนิด จากคุณ : CARAGIO - [ 28 ก.ค. 51 21:51:15 ]

ความคิดเห็นที่ 36 นรกของจีนชัวร์  สังเกตได้จากมีภูเขากระดาษเงินกระดาษทองที่ญาติส่งให้ผู้ตาย ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตายแล้วไปไหน จากคุณ : apollo14 - [ 28 ก.ค. 51 22:00:13 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ถามว่า โลกหลังความตายมีไหม ผมว่าน่าจะมีครับ เพียงแต่จะเป้นอย่างที่บรรยายไว้ในข้างต้นหรือป่าวเท่านั้น ที่ คุณ จขกท เล่ามาอาจเป็นเรื่องจริงหรือ อาจเป็นความเชื่อที่เล่าต่อๆกันมา เพื่อให้ มนุษย์เกิดความเกรงในบาปที่กระทำ แล้วต้องตกนรกรับทุกข์ทรมาณ มาถึงจุดนี้ผมยังไม่ค่อยเชื่อนักถึงเรื่อง สววรค์ นรก แต่ ผมเชื่อในกฎแห่งกรรม ใครทำดีก็ได้ดี ทำชั่วก้ได้ชั่ว ดังนั้นในโลกหลังความตายน่าจะเป็นชีวิตในอีกภพนึง(อาจจะไม่ใช่นรก สวรรค์เหมือนที่เราได้ยินกันมา) ซึ่งรับผลมาจากชาตินี้ว่าเราทำอะไรลงไปบ้าง แต่เรื่องอย่างงี้ พูดไปก็พิสูจน์กันไม่ได้ ที่เราพิสูจน์ได้ คงเป็นแค่ว่าในตอนนี้ ในภพนี้ หลังจากเรากระทำสิ่งใดลงไป เรารุ้สึกอย่างไร ของงี้เราหลอกตัวเองไม่ได้ เรื่องหลังความตายก็ช่างมันเถอะ เป็นว่าตอนที่เรายังมีชีวิตอยู่นี้ เราควรทำในสิ่งที่เราเป็นสุขโดยไม่เบี่ยงเบียนผู้อื่น จิตใจเราก็จะเป็นสุข ทั้งหมดเราทำเพื่อตัวเราเองครับ จากคุณ : thetwo (thetwo) - [ 28 ก.ค. 51 22:01:05 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ผมว่ามีนะ  แต่จะเป็นรูปแบบเหมือนความฝันมากกว่า  คือฝันแบบไม่ยอมตื่นอะครับ แล้วรอจนกว่าจะจุติเป็นสิ่งมีชีวิตใหม่ ผมเคยอ่านเจอในหนังสือเล่มหนึ่งเขาบอกว่า  วิญญานคือพลังงานชนิตหนึ่งจะมาผสมกับเซลล์ตอนจุติเพื่อให้เกิดสิ่งมีชีวิตอะครับ  เรื่องนี้เคยพิสูจน์มานับพันปีแล้วครับตอนเลือก ดไล ลามะ  เขาก็จะมีวิธีการพิสูจน์เรื่องกลับชาติมาเกิด  มันเป็นสิ่งที่อธิบายเรื่องจักรวาลได้ดีจริงๆ  แม้ร่างกายจะสูญสลายแต่พลังงานเปลี่ยนรูปแบบจากสิ่งหนึ่งไปสู่อีกสิ่งหนึ่งเท่านั้นเอง   จากคุณ : กบินทร์บุรี - [ 28 ก.ค. 51 22:59:28 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ผมขออนุญาตแสดงความคิดให้ทุกๆคนลองฟังดูนะครับ ชีวิตหลังความตายนั้น มนุษย์อย่างเราพยายามศึกษากันมาหลายร้อยปีแล้ว ก็ยังเชื่อกันฝ่ายละ 50% - 50% โดยส่วนตัวแล้วผมอยากให้มี ทีนี้ก็เป็น 51% - 49% แล้วนะครับอยากบอกแค่นี้แหละ *** แล้วชูวิทย์หลังความตายล่ะ มีจริงรึเปล่า*** จากคุณ : กระบี่แสวงรัก - [ 28 ก.ค. 51 23:02:53 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เชื่อค่ะ เพราะพ่อตายแล้วฟื้น เลยเชื่อเรื่องโลกหลังความตายโดยปริยาย จากคุณ : ขี้เหงา...เอาแต่ใจ - [ 28 ก.ค. 51 23:02:58 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ยังไม่ขอร่วมถกเถียงเรื่องชีวิตหลังความตายนะครับ แต่ขอแย้งและแก้ความเข้าใจของคุณ ภารตยุทธ เรื่องโพสต์โมเดิร์นหน่อย โดยแนวความคิดที่โดดเด่นของโพสต์โมเดิร์น คือ แนวความคิดของคาร์ล มาร์กซ์ หรือการปฏิเสธโครงสร้างนิยมทางเพศของมนุษย์ว่าจะต้องแบ่งออกเป็นสองเพศเท่านั้น เป็นต้น อันนี้หากคุณอ้างอิงมาจากหนังสือผมก็ขอทราบแหล่งด้วยนะครับ เพราะตามความเข้าใจของผม นี่ความเข้าใจที่กลับหัวกลับหางเลยทีเดียว สิ่งที่เรียกว่าโพสต์โมเดิร์น เป็น "กระแส" ทางปรัชญาตะวันตกที่ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นในฝรั่งเศสช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา โดยเฉพาะเมื่อเกิดการ "นำเข้า" งานทางปรัชญาสายปรากฎการณ์วิทยา และกระแสทางปรัชญาของ Jean-Paul Sartre เริ่มอ่อนตัวลง (บางคนเรียก post-sartrian) ไอเดียหลัก ๆ คือ ปฏิเสธ absolute Truth ใน sense ของ traditional metaphysics (ไอเดียนี้ลากกลับไปได้อย่างน้อย ๆ ก็ Nietzsche) ซึ่งแน่นอน รวมไปถึงไอเดียที่ว่า วิทยาศาสตร์จะสามารถนำมาซึ่ง absolute Truth ได้ [ผมจะยังไม่ลงไปถกเถียงเรื่องว่า วิทยาศาสตร์นำมาซึ่ง absolute Truth ได้จริงหรือไม่ ซึ่งก็มีนักปรัชญาวิทยาศาสตร์มากมายพูดถึงเรื่องนี้ เช่น Thomas Kuhn หรือ Karl Popper เป็นต้น] สิ่งนี้นี่เองที่ทำให้ so-called postmodern "ไปด้วยกันไม่ได้" กับกรอบคิดของ Karl Marx เพราะ Marxism นั้น เห็นได้ชัดว่าเป็นผลิตภัณฑ์ของ 18th century Enlightenment ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการกำเนิดสภาวะสมัยใหม่ (modernity): ความเชื่อมั่นในมนุษย์ เหตุผล ความก้าวหน้า การมองโลกในแง่ดี และแน่นอน วิทยาศาสตร์ ที่มาแทนที่ศาสนา Karl Marx ก็ยังอยู่ในกระแสนี้ (แม้ว่าเขาจะวิพากษ์คนอย่าง Rousseau ไปจนถึง Kant ก็ตาม) Marx clamed objective Truth ว่าเป็นเรื่องราวของการผลิตของมนุษย์ วิทยาศาสตร์คือสิ่งที่ทำให้การผลิตของมนุษย์พัฒนาและขยายตัว วิทยาศาสตร์คือสิ่งที่ทำให้สุดท้ายแล้ว มนุษย์สามารถก้าวข้ามการผลิตแบบทุนนิยมที่มีการขูดรีดไปสู่ การผลิตแบบคอมมิวนิสต์ที่มนุษย์ทุกคนทำงานเหมือน ๆ กัน และมีความเท่าเทียมกัน นี่คือสิ่งที่ postmodern กับ Marxism ไปด้วยกันไม่ได้ครับ (อ้อ และ Marx ไม่เคยพูถึงพื้นที่ของเพศที่ 3 เลยนะครับ) Postmodern ไม่อ้างเรื่อง objective Truth ไม่มี "เป้าหมาย" ให้กับมนุษยชาติ ในขณะที่ Marx เห็นว่า ประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติพัฒนาอย่างมีเป้าหมายไปสู่การผลิตขั้นสมบูรณ์ จากคุณ : ฮกหลงผู้หยั่งรู้ฟ้ามหาสมุทร - [ 29 ก.ค. 51 00:16:46 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ไม่เชื่อ จากคุณ : ชาลีฟ - [ 29 ก.ค. 51 02:29:44 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ภารตยุทธ ซึ่งหากไปถามเด็กที่เรียนทางสายวิทยาศาสตร์ก็จะต้อง ได้รับคำตอบว่าไม่เชื่อ หรือเชื่อบ้างไม่เชื่อบ้างตราบใดที่ไม่มีสิ่งที่ประสาทสัมผัสทั้งห้าของเรา มาพิสูจน์ให้เห็นเป็นรูปธรรมได้ แต่หากไปถามเด็กที่เรียนอักษร ศาสตร์ หรือเด็กที่เรียนทางมนุษยศาสตร์ก็คงจะได้รับคำตอบว่า เชื่อ บางคนอาจบอกว่าเชื่ออย่างสนิทใจ เพราะอย่างน้อยเด็กที่เรียนทางด้านนี้ต้องอ่านวรรณคดี ซึ่งหลายๆเรื่องก็จะกล่าวถึงตำนานภพภูมิต่างๆหลังความตายที่เรามองไม่เห็น อย่างผมเองเรียนปีหนึ่งก็ต้องเรียนวิชาวรรณคดีไทย ซึ่งต้องอ่านไตรภูมิพระร่วงทั้งเล่มเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษา ซึ่งอย่างน้อยก็อาจมีส่วนกล่อมเกลาทางความคิดให้โน้มเอียงที่จะเชื่อว่ามี จริง แม้ว่าอาจจะไม่ใช่ทั้งหมดก็ตาม อย่ามั่วดิครับ คิดไปเองอย่าเหมา จากคุณ : โอจารุมารุโดนยึดอมยิ้ม - [ 29 ก.ค. 51 03:11:32 A:124.121.32.181 X: TicketID:181915 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ตอนแรกไม่เชื่อแบบหัวชนฝา  จนมีประสบการณ์เจอด้วยตนเองถึงเชื่อแบบสนิทใจ จากคุณ : harvardวิทยาคม - [ 29 ก.ค. 51 10:23:52 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ไม่เชื่อจ้ะ.. ถ้ามีอย่างที่คห.บนๆบอก ก็ขอให้เจอกับตัวเองก่อน ถึงจะเชื่อค่ะ... จากคุณ : Pretty_Cute_Girl - [ 29 ก.ค. 51 18:54:06 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ถ้าตายไปแล้วลงนรกโดนลงโทษแสนสาหัส พอเกิดใหม่ จำอะไรไม่ได้เลย ฮ่วย แล้วจะลงโทษไปทามมมมมายย หรือว่านรกซาดิสอยากลงโทษมนุษย์ ไปตลอดกาล คิดๆแล้วมันตลกแฮะ ที่บอกว่าถ้าจำเรื่องชาติที่แล้วได้จะวุ่นวายล้างแค้น ใครมันจะกล้าทำผิดอีกครับ เพราะโดนทั้งแทงทั้งปีนต้นงิ้ว โดนตัดหัว อีกาจิก สารพัด จากคุณ : ฮา1 - [ 29 ก.ค. 51 22:11:39 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ผมไม่เชื่อแล้วยังลบหลู่่ด้วยเพราะอยากเห็นมากๆ  ตอนเด็กๆทำผีหลอกเพื่อนเป็น10ๆคนจดอาการความกลัวของแต่ละคนไว้  ทำผีหลอกผู้หญิงไม่ได้อันตรายมาก  เพื่อนผมไปซื้อเสื้อมือ2มาตอนตี3วิ่งมาหาผมเหงื่อแตกมาเลยบอกเจ้าของเสื้อมาทว่งช่วยเอาเสื้อไปทิ้งที่วัดหน่อยผมจะเดินผ่า่นวัดตรีทศเทพช่วงตี2-4เพื่อไปนอนอีกบ้านทุกวัน(เมื่อ30ปีก่อน)  ผมบอกไม่ต้องไปทิ้งผมยืมใส่นอนสองสามวันดูว่าจะเป็นยังไง มันบอกอย่าเลยผีมันโดนยิงตายแล้วผีมันชี้ให้ดู่รอยกระสุน3รู  แล้วเพื่อนผมก็จิ้มให้ผมดูว่ามี3รูจริงๆ  ผมก็เอามาใส่นอนก็ไม่เคยฝันอะไร  ผมเจอเรื่องแปลกๆเยอะแต่ผมตามไปพิสูจน์ได้หมดเ๋๋๋ฉพาะเ่รื่องใกล้ๆตัวนะ จากคุณ : บ่อทอง (บ่อทอง) - [ 30 ก.ค. 51 09:52:55 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ไอ้พวกชอบลบ น่ารังเกียจจิง คนเมื่อสองพันปีก่อนก็คิดว่าโลกแบน หาคำตอบไงก็ไม่ได้ก็ไม่ต้องสนมันใช่ไหม ที่บอกว่าหาคำตอบไม่ได้เลย สักวันมันก็ต้องมีทางหาคำตอบได้แหละ เพียงแต่เรายังไปไม่ถึงแค่นั้น จากคุณ : Lord Vincent (Lord Vincent) - [ 30 ก.ค. 51 22:35:14 ]

ความคิดเห็นที่ 49 เคยมีคนมาบอก ออกจากร่างก็จะไปอยู่ในเมืองอีกเมือง ซึ่งการใช้ชีวิตไม่ได้ต่างจากโลกมนุย์เท่าไหร่ มีการบังคบ  การการบัญชาเหมือนโลกเรา  แต่การดำรงชีวิตสงบขึ้น มีกฏเกณฑ์นิดหน่อย( อาจเพื่อเวลามาเอาของทาน) รวมๆแล้ว ไม่ต่างบ้านเราเท่าไหร่ ต่างตรงไม่มีผับบาร์ ปล. จากความฝันที่ผมได้รับ ในคืนนั้น จากคุณ : ฮักเมาน้องหล้า - [ 31 ก.ค. 51 01:13:42 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ^ ^ ^ เคยฝันคล้ายๆกับคห.ข้างบนเลย วันนั้นฝันว่าลุงที่เสียไปแล้วพาไปเที่ยวที่ๆลุงได้ไปอยู่ สภาพคล้ายๆอย่างนั้นเลย ค่อนข้างเงียบสงบ มีทุกอย่างๆคล้ายๆที่เราอยู่แต่สงบกว่ามาก จากคุณ : น้องเต้าหู้กับปาท่องโก๋ - [ 20 ต.ค. 51 13:49:29 ]