ความคิดเห็นที่ 1 สรุปไม่ได้ค่ะ อะไรที่เรายังหาหลักฐานไม่ได้ ควรบอกว่า ไม่รู้ มากกว่าจะบอกว่า ไม่มีจริง เช่น บิ๊กแบง บางคนเชื่อคนง่ายก็ปล่อยเค้าไปเถอะค่ะ เค้าไม่ได้ทำความเดือดร้อนอะไรให้คุณ จากคุณ : มิ้นๆ (mint_la) - [ 5 ส.ค. 51 03:12:03 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ผมไม่เดือดร้อนอะไรหรอกครับ แต่ปัญหาคือ บางคนที่อ้างข้อความนี้เค้าเป็นครูบาอาจารย์ในสถาบันที่มีชื่อเสียงซะด้วย บางคนก็เอามาลงหนังสือขายดิบขายดี หลอกเงินออกจากกระเปําใครได้มากมาย ถ้าเป็นแค่เรื่องแค่เนี้ยไม่เป็นไรหรอก แต่ถ้าคนพวกนี้ไปเชื่ออะไรที่มันอันตรายๆ คนที่ไม่เชื่ออะไรง่ายๆ คงไม่เป็นไร แต่กับคนที่คุณรักละ สมมติถ้าคุณต้องส่งลูกคุณไปเรียนหนังสือกับคนที่เชื่ออะไรง่ายๆ และเค้ามีตำแหน่งน่าเชื่อถือ คุณจะรู้ได้ไงว่าลูกคุณไม่ตกเป็นเหยื่อไปด้วย ที่ผมสรุปว่าไอน์สไตน์ไม่ได้พูด ก็ใช้วิธีวิทยาศาสตร์ โดยตั้งสมมติฐานว่าถ้าเค้าพูดจริงๆ ก็จะต้องมีหลักฐานที่เชื่อถือได้อยู่ที่ไหนสักแห่ง แค่ชิ้นเดียวก็พอ แต่ผมหาเองก็ไม่เจอ ลองตั้งกระทู้ให้คนในพันทิปหา ก็ไม่มีหลักฐานที่หน้าเชื่อถือมากไปกว่า มาจากหนังสือรวม quote ที่ไม่บอกที่มา หรือจากเว็ปซึ่งก็ไม่บอกที่มาอีก ตอนนี้จึงต้องสรุป(แบบวิทยาศาสตร์)ว่าไอน์สไตน์ไม่เคยพูด จนกว่าจะเจอหลักฐานใหม่ ซึ่งผมจะยอมเปลี่ยนข้อสรุปโดยไม่มีข้อแม้อะไร ่ส่วนบิ๊กแบงตอนนี้ถูกสรุปว่าเป็นทฤษฎีจริงที่สุด แต่ก็เปลี่ยนแปลงได้ถ้ามีหลักฐานใหม่ที่ขัดแย้ง จากคุณ : Geneticist - [ 5 ส.ค. 51 04:17:00 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่เคยพูดครับ แต่เขียนลงในหนังสือบันทึกก่อนตาย และเขียนเชิงยอมรับความผิดพลาดของตัวเองที่ไปหลงต่อต้านทฤษฎีควอนตั้มมาตลอด  พูดกลายๆว่ามีเพียงทฤษฎีควอนตั้มนี่ล่ะที่จะเข้าบรรจบกับศาสนาพุทธได้ ซึ่งควอนตั้มเป็นสิ่งสุดท้ายที่จะผนึกเป็นฝั่งรูป และนามในพระพุทธศาสนารวมกันจะสามารถทำนายและอธิบายทุกอย่างในจักรวาลได้ แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 51 04:47:46 จากคุณ : แหล่งที่มาไม่มีครับ..มั่ว (harvardวิทยาคม) - [ 5 ส.ค. 51 04:46:53 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ผมว่า ศาสนาพุทธมันก็วิทยาศาสตร์แล้วนะครับ อริยะสัจ 4 นี่อ่ะ สุดยอดวิทยาศาสตร์ จากคุณ : โบวี่ (bovy_zzz) - [ 5 ส.ค. 51 05:13:39 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ที่มาของคำพูดนี้ #13 ในกระทู้ที่แล้วเค้าตอบไว้แล้วนี่ครับ จขกท ได้อ่านหรือเปล่า   * Those words of Einstein about Buddhism are quoted in "Albert Einstein: The Human Side", Helen Dukas & Banesh Hoffman, Princeton University Press (1954). Helen Dukas was Albert Einstein's secretary as well as one of the holders of the Einstein's literary rights to all of his manuscripts, copyrights, publication rights, royalties, and royalty agreements. จากคุณ : Pod... - [ 5 ส.ค. 51 05:22:40 ]

ความคิดเห็นที่ 6 อะไรที่ยังหาหลักฐานไม่ได้ ไม่ได้หมายความว่าสิ่งนั้นจะไม่เป็นจริง ถ้าจะบอกว่า "สิ่งๆหนึ่งไม่เป็นจริง" ต้องมีหลักฐานมายืนยันได้ว่า มันไม่จริง จากคุณ : อย่ามาห้ามผม - [ 5 ส.ค. 51 05:51:28 ]

ความคิดเห็นที่ 7 -ถามเจ้าตัวดีที่สุด ถ้าถามไม่ได้ก็อย่าเพิ่งเชื่อจนกว่าจะได้พิสูจน์ด้วยตัวเอง ยังไงซะในเชิงของการศึกษาก็ต้องป้อนทั้งพุทธและวิทย์ให้กับผู้เรียน จะไปแน้นน้ำหนักที่ด้านใดด้านเดียวไม่ได้ วิทย์สร้างคนให้เก่ง แต่พุทธ+การศึกษาด้านศาสนา ทำให้คนใช้ความเก่งในทางที่ถูกต้อง - ตามความเห็นผมทุศาสนาคือศาสนาแห่งอนาคตหมดนั่นแหละครับ ขึ้นอยู่กับศาสนิกชนว่าจะเข้าใจและปฏิบัติตามคำสอนศาสนาของตนได้แค่ไหน จากคุณ : narongdech_p - [ 5 ส.ค. 51 06:28:25 ]

ความคิดเห็นที่ 8 จขกท. เอาการพูดคุยกันในกระทู้มาสรุปเหรอครับ อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ฟังๆ กันมา อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ทำต่อๆ กันมา อย่าเพิ่งเชื่อตามคำเล่าลือ อย่าเพิ่งเชื่อโดยอ้างตำรา อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกเดา อย่าเพิ่งเชื่อโดยคาดคะเนเอา อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกคิดตามแนวเหตุผล อย่าเพิ่งเชื่อเพราะถูกกับทฤษฎีของตน อย่าเพิ่งเชื่อเพราะมีรูปลักษณ์ที่ควรเชื่อได้ อย่าเพิ่งเชื่อเพราะผู้พูดเป็นครูบาอาจารย์ของตน จากคุณ : -=นามไร้ชื่อ=- - [ 5 ส.ค. 51 08:27:30 ]

ความคิดเห็นที่ 9 คุยกันไม่กี่คนก็สรุปได้เลย - -" เทพจริงๆ จากคุณ : อยู่คนเดียวเปล่าเปลี่ยวใจ - [ 5 ส.ค. 51 08:47:26 ]

ความคิดเห็นที่ 10 จขกท. ก็ไม่ต่างอะไรกับคนที่ จขกท. กำลัง ตำหนิ หรอกครับ คุณบอกว่า เค้า ไม่มีหลักฐานในการยืนยัน ในสิ่งที่เค้าพูด  งั้นผมถาม คุณ จขกท.บ้างน่ะครับ ว่าคุณเอาอะไรมายืนยัน ว่า ไอน์สไตน์ ไม่เคยพูดจริงๆ ดูที่หัวข้อกระทู้คุณซิครับ "สรุปว่าไอน์สไตน์""""""""""""ไม่"""""""""""""""เคยพูดว่าศาสนาพุทธเป็นศาสนาแห่งอนาคต " คุณเอาอะไรมาสรุปครับ จากคุณ : Loginman (Loginman) - [ 5 ส.ค. 51 09:08:11 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ลบ แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 51 15:34:12 แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 51 09:12:16 จากคุณ : FREE_OFFICER - [ 5 ส.ค. 51 09:11:35 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ลบ แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 51 15:33:55 จากคุณ : FREE_OFFICER - [ 5 ส.ค. 51 09:15:42 ]

ความคิดเห็นที่ 13 จขกท.เป็นอะไรมากมั้ย จากคุณ : เสียงจากบ้านนา - [ 5 ส.ค. 51 09:26:37 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ก่อนอื่นขออภัย ยอมรับความผิดพลาด ผมควรตั้งชื่อกระทู้ใหม่ว่า "สรุปว่าตอนนี้ก็ไม่มีใครพิสูจน์ได้เลยว่าไอน์สไตน์เคยพูดว่าศาสนาพุทธเป็นศาสนาแห่งอนาคต" คห ที่ 3 ขอชื่อหนังสือ หน้า และบรรทัดที่ข้อความนั้นบรรจุอยู่ด้วยครับ ถ้าได้ข้อความของ paragraph ก่อนและหลังข้อความนั้นมาด้วยก็จะดี คห ที่ 4 พุทธศาสนา(ยัง)ไม่เป็นวิทยาศาสตร์ เพราะเป็นเรื่องที่รู้เห็นได้เฉพาะตน คุณไม่สามารถชั่ง ตวง วัดบาป กรรม สวรรค์ นรก นิพพาน ให้คนอื่นดูได้ จนกว่าจะทำได้พุทธศาสนายังไม่เป็นวิทยาศาสตร์ เพียงแต่มีปรัชญาความคิดคล้ายกับหลักทางวิทยาศาสตร์ คห ที่ 5 ลองกลับไปอ่านบรรทัดสุดท้ายของ คห. นั้น ดู เค้าเขียนว่า Misattributed แปลว่าอะไรไปเปิดดิคดู คห ที่ 6 ในกรณีนี้ แค่หลักฐานเดียว อันเดียวเท่านั้นมายืนยันว่าจริง มันก็จะเป็นจริง ตัวอย่าง ทางวิทยาศาสตร์(ยัง)ไม่เชื่อว่าผีมีจริง เพราะไม่มีหลักฐานที่น่าเชื่อถือแม้แต่ชิ้นเดียวที่พิสูจน์ได้ว่าผีมีจริง ไม่ใช่เพราะเจอหลักฐานว่าผีไม่มีจริง คห ที่ 8 และ 9 เปล่าครับ สรุปจากหลักฐานที่มีตอนนี้ ลองหาหนังสือที่ไอน์สไตน์เขียน หรือสัมภาษณ์ไอน์สไตน์เกี่ยวกับศาสนา เล่มเดียวกับที่ คหที่ 5 อ้างถึงก็ลองอ่านแล้ว เปิดดูดรรชนีท้ายเล่มหาคำว่า buddhism มีเพียงสองสามที่ และข้อความนั้นไม่เกี่ยวอะไรเลยกะที่บอกว่าพุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่งอนาคต ลองหาในเน็ตดูเองแล้วไม่มีเลยแม้แต่หลักฐานเดียวที่บอกที่มาของข้อความดังกล่าว ถ้าคุณมี หรือรู้กรุณาบอกด้วย จะขอบคุณมากๆ ครับ คห ที่ 11 กรุณาคุยกันด้วยเหตุผลดีๆ ถ้าคุณบอกว่าผมผิดตรงไหน แล้วเหตุผลดีพอผมก็ยอมรับผิดครับ แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 51 10:00:15 จากคุณ : Geneticist - [ 5 ส.ค. 51 09:40:34 ]

ความคิดเห็นที่ 15 พุทธศาสนา ไม่ใช่ วิทยาศาสตร์ ครับ แต่พุทธศาสนา เป็นศาสนาที่ใกล้เคียงกับ วิทยาศาสตร์ มากที่สุด พุทธศาสนาไม่มีระเบียบวิธีการเหมือนวิทยาศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ ก็ไม่มีระเบียบวิธีการเหมือน พุทธศาสนา จากคุณ : .eAT - [ 5 ส.ค. 51 09:53:46 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ลบ แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 51 15:31:27 จากคุณ : FREE_OFFICER - [ 5 ส.ค. 51 10:12:52 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เพิ่งรู้ว่าแค่บอกว่าศาสนาพุทธไม่ใช่วิทยาศาสตร์ ถึงขั้นต้องกระทบถึงบุพการีเลยเหรอ neural network คุณบอกว่ามี input output นั่นแหละคือส่วนที่ชั่งตวงวัดได้ คุณยังไม่สามารถวัดความทุกข์ หรือความสุขของคุณเอามาให้ผมดูได้ ผมใส่วงเล็บว่า ศาสนาพุทธ(ยัง)ไม่เป็นวิทยาศาสตร์ เพราะมันยังมีโอกาสเป็นได้ในอนาคตไง เข้าไปหาดูชื่อคนๆ นี้ Richard Davidson เป็นอาจารย์ที่ U of Wisconsin-Madison มีการทดลองหนึ่งที่พยายามวัดความสุขของคนโดยการดู activity ในสมองส่วนหนึ่ง ปรากฏว่า activity ในสมองส่วนนี้ของพระลามะที่กำลังแผ่เมตตา พุ่งสูงทะลุ chart (นี่ไม่ใช่การวัดความสุขโดยตรงนะ แค่สมองที่น่าจะเกี่ยวกับความสุข) การทดลองแนวนี้แหละถึงจะทำให้วิทยาศาสตร์กับพุทธศาสนาเข้าใกล้กัน แต่ก็ยังคงอีกนาน จากคุณ : Geneticist - [ 5 ส.ค. 51 10:27:08 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ไม่ได้พูด แล้วได้อะไร พูดแล้วได้อะไร สิ่งที่คุณต้องการ มีประโยชน์ต่ออะไร อยากทราบคับ จากคุณ : littlecute - [ 5 ส.ค. 51 10:32:32 A:203.130.134.132 X: ]

ความคิดเห็นที่ 19 คห 18 ปัญหาจริงๆ ไม่เกี่ยวกับไอน์สไตน์พูดไม่พูดหรอกครับ แต่เกี่ยวกับการที่คนเิอาข้อความไร้แหล่งที่มา เอามาโฆษณาชวนเชื่อจนเขียนเป็นหนังสือขายได้ ความรู้สึกส่วนตัวผมเห็นว่าทำอย่างงี้ไม่เป็นการดีต่อตัวไอนสไตน์ และศาสนาพุทธทั้งคู่ จากคุณ : Geneticist - [ 5 ส.ค. 51 10:39:35 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ลบ แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 51 15:31:55 จากคุณ : FREE_OFFICER - [ 5 ส.ค. 51 10:39:59 ]

ความคิดเห็นที่ 21 นี่หล่ะน้า เขาถึงว่าศาสนา เป็นเรื่องที่ไม่ควรนำมาคุยกัน แค่เห็นต่างนิดเดียว เล่นถึงแม่กันเลย จากคุณ : ซินเดอเรล่า - [ 5 ส.ค. 51 10:42:54 ]

ความคิดเห็นที่ 22 นิยามของวิทยาศาสตร์ตาม marriam webster 3 a: knowledge or a system of knowledge covering general truths or the operation of general laws especially as obtained and tested through scientific method b: such knowledge or such a system of knowledge concerned with the physical world and its phenomena : natural science ขอให้ดูคำว่า physical world แ่ก่นของศาสนาพุทธเกี่ยวกับจิต ไม่ใช่  physical world จึงไม่เกี่ยวกัน แต่ถ้าเราหาทางอธิบายปรากฏการณ์ทางจิตเป็น physical world ได้เมื่อนั้นศาสนาพุทธอาจกลายเป็นวิทยาศาสตร์ จากคุณ : Geneticist - [ 5 ส.ค. 51 10:55:04 ]

ความคิดเห็นที่ 23 แต่ที่แน่ๆอย่างหนึ่ง ศาสนาพุทธสามารถอธิบายปรากฏการณ์ทางธรรมชาติของจักรวาลได้ดีที่สุด จากคุณ : Styer - [ 5 ส.ค. 51 10:57:46 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ลบ แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 51 15:32:31 จากคุณ : FREE_OFFICER - [ 5 ส.ค. 51 11:02:35 ]

ความคิดเห็นที่ 25 คห ที่ 23 ดีที่สุดยัง? ดีที่สุดแบบกำปั้นทุบดินหรือเปล่า ว่า โลกนี้เกิดจากจิต ทุกอย่างเกิดจากจิต ตัวเราเกิดมาเพราะจิตสำคัญว่าเป็นตัวเรา คอมพิวเตอร์เป็นคอมพิวเตอร์เพราะจิตจำได้หมายรู้ว่าเป็นคอมพิวเตอร์ หากไม่มีจิตที่จำได้หมายรู้ในจักรวาล จักรวาลจะมีจริงหรือไม่ ก็ไม่สำคัญ ลองหา Anthropic Principle มาอ่านดูสิ หรือ เกี่ยวกับไตรลักษณ์ ทุกอย่างในจักรวาลล้วน ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา คห ที่ 24 ที่อ้าง marriam webster แหล่งเดียวเพราะ อ้างแหล่งอื่นก็เหมือนกันไง ตัวอย่าง WIKI Science (from the Latin scientia, meaning "knowledge") is the effort to discover, and increase human understanding of how >>>>>>>>>>the physical world<<<<<<<< works. Through controlled methods, science uses observable physical evidence of natural phenomena to collect data, and analyzes this information to explain what and how things work. Such methods include experimentation that tries to simulate natural phenomena under controlled conditions and thought experiments. Knowledge in science is gained through research. Oxford In modern use, often treated as synonymous with &#8216;Natural and Physical Science&#8217;, and thus restricted to those branches of study that relate to the phenomena of the >>>>>>>>material universe<<<<<<<< and their laws, sometimes with implied exclusion of pure mathematics. This is now the dominant sense in ordinary use. Dictionary.com 2. systematic knowledge of the >>>>>>>>>>>>physical or material world<<<<<<< gained through observation and experimentation. และ อื่นๆ ถ้าคุณคิดว่า definition เหล่านี้ผิด ผมให้การบ้านคุณไปหา นิยามของวิทยาศาสตร์จากแหล่งที่น่าเชื่อถือ ที่รวมเอาโลกของจิตวิญญาณมาด้วย แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 51 11:15:59 จากคุณ : Geneticist - [ 5 ส.ค. 51 11:06:17 ]

ความคิดเห็นที่ 26 #20 ผมเข้าใจ จขกท ครับ แต่ไม่แน่ใจว่าคุณพูดเรื่องเดียวกับ จขกท หรือเปล่า ประเด็นอยู่ที่ว่า "หากไอนสไตน์ไม่เคยพูดว่าพุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่งอนาคต ก็อย่าเอาชื่อไอนสไตน์มาอ้าง" เรานำเสนอ ศาสนาได้ บอกได้ว่ามันดียังไง แต่อย่าเอาคำพูดยัดใส่ปากคนที่ไม่ได้พูด เวลาถามหาหลักฐานแล้วหาให้ไม่ได้ ความน่าเชื่อถือของทั้งหมดที่พูดมามันจะหายสาปสูญทันควันเลยครับ จากคุณ : house (panote_saechiew) - [ 5 ส.ค. 51 11:07:18 ]

ความคิดเห็นที่ 27 #8 ที่ใกล้เคียงกับ original version ที่สุดเป็นดังนี้ http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/sutta_name.php?name=กาลามสูตร&book=1&bookZ=45 "ว่า ดูกร กาลามชนทั้งหลาย ก็ควรแล้วที่ท่านทั้งหลายจะเคลือบแคลงสงสัย และท่านทั้งหลายเกิดความเคลือบแคลงสงสัยในฐานะที่ควรแล้ว มาเถิดท่านทั้งหลาย ท่านทั้งหลาย - อย่าได้ยึดถือตามถ้อยคำที่ได้ยินได้ฟังมา - อย่าได้ยึดถือตามถ้อยคำสืบๆ กันมา - อย่าได้ยึดถือโดยตื่นข่าวว่า ได้ยินอย่างนี้ - อย่าได้ยึดถือโดยอ้างตำรา - อย่าได้ยึดถือโดยเดาเอาเอง - อย่าได้ยึดถือโดยคาดคะเน - อย่าได้ยึดถือโดยความตรึกตามอาการ - อย่าได้ยึดถือโดยชอบใจว่าต้องกันกับทิฐิของตัว - อย่าได้ยึดถือโดยเชื่อว่าผู้พูดสมควรจะเชื่อได้ - อย่าได้ยึดถือโดยความนับถือว่าสมณะนี้เป็นครูของเรา เมื่อใด ท่านทั้งหลายพึงรู้ด้วยตนเองว่า ธรรมเหล่านี้เป็นอกุศล ธรรมเหล่านี้มีโทษ ธรรมเหล่านี้ผู้รู้ติเตียน ธรรมเหล่านี้ใครสมาทานให้บริบูรณ์แล้วเป็นไปเพื่อสิ่งไม่เป็นประโยชน์ เพื่อทุกข์เมื่อนั้น ท่านทั้งหลายควรละธรรมเหล่านั้นเสีย " นี่คือประโยคที่พระพุทธองค์ตรัสกับชาวกาลามะ ปกติคนส่วนใหญ่ไม่ยกเอาส่วนท้ายซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญมากมาด้วย ผมเลยยกมาให้ดูครับ ส่วนไอจะตายจะพูดอะไร ผมไม่เคยสนใจและไม่คิดจะสนใจอยู่แล้วเพราะพุทธศาสตร์คือสุดยอดของศาสตร์เป็นองค์ความรู้ที่ดีที่สุดสูงที่สุด ตามความเห็นส่วนตัวของผม ผมก็อยากถามชาวพุทธที่นับถือพระรัตนตรัยอย่างจริงจังเหมือนกันว่า "คุณแคร์อะไร ถ้าวิทยาศาสตร์หรือไอสไตน์ไม่ได้พูดสอดคล้องกับสิ่งที่พระพุทธองค์พูด"   "ทำไมต้องอ้างอิงความเห็นของปถุชนคนหนึ่งเพื่อให้สิ่งที่ตัวเองยึดถือดุดีขึ้นมา" สงสัยขาดความมั่นใจในตัวเองแง่ๆเงย คนที่นับถือพุทธ มุสลิม คริสต์ แบบเต็มหัวใจ ก็เป็นนักวิทยาศาสตร์ชั้นแนวหน้าของดาวดวงนี้กันมากมาย ถ้าแยกแยะเป็น วิทย์กับศาสนาอยู่ด้วยกันได้ครับ จากคุณ : AnotherPractitioner - [ 5 ส.ค. 51 11:17:21 ]

ความคิดเห็นที่ 28 คห ที่ 26 ถูกต้อง ขอบคุณมากๆ ครับที่สรุปให้ นั่นละสิ่งที่ผมต้องการบอก รู้สึกภาษาไทยตูห่วยลงเยอะแฮะ.........T_T จากคุณ : Geneticist - [ 5 ส.ค. 51 11:20:18 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เรื่องนี้น่าสนใจมากคับ ผมมีความคิดเห็นว่าศาสนาพุทธมีความใกล้เคียงวิทยาศาสตร์มาก แต่ในประวัติของศาสนาที่เราเรียนกันนั้น ผมว่าคงมีการบิดเบียนหลายๆอย่าง เช่น พระพุทธเจ้าเกิดมา เดินได้เลยและมีดอกบัวบานมารองรับ ผมว่ามันยากที่จะหาคำอธิบายนะครับ คงจะต้องมีการบิดเบียนตามความศัทธาของแต่ละบุคคลแน่ๆ ก็อย่างว่า ประวัติศาสตร์มันก็ไม่ใช่เรื่องจริงทั้งหมดแล้วก็ไม่ใช่เรื่องโกหกซะหมด จากคุณ : mc>punk-rock (Mc>Punk-Rock) - [ 5 ส.ค. 51 11:20:59 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ลบ แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 51 15:33:10 จากคุณ : FREE_OFFICER - [ 5 ส.ค. 51 11:24:46 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ลบ แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 51 15:33:29 จากคุณ : FREE_OFFICER - [ 5 ส.ค. 51 11:27:16 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ถ้าจะให้เป็นวิทยาศาสตร์ มันต้องพิสูจน์ได้ จากคุณ : พอรู้ - [ 5 ส.ค. 51 11:29:14 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ลบ แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 51 15:30:57 จากคุณ : FREE_OFFICER - [ 5 ส.ค. 51 11:32:24 ]

ความคิดเห็นที่ 34 คิดเหมือน#15 จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน - [ 5 ส.ค. 51 11:34:25 ]

ความคิดเห็นที่ 35 #25 เพราะคุณไม่ใช่คนที่นับถือศาสนาพุทธยังไงล่ะครับ ถึงได้ตอบความคิดเห็นของผม ไปอย่างนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดจากจิต ศาสดาของศาสนาพุทธไม่เคยตรัสไว้แบบนี้นะครับ จากคุณ : Styer - [ 5 ส.ค. 51 11:40:39 ]

ความคิดเห็นที่ 36 #33 เรื่องของเรื่องคือ มีหนังสือที่อ้างว่าไอนสไตน์พูด หลุดออกมาในตลาดมากขึ้นเรื่อยๆ และการทำแบบนี้โดยที่เราพิสูจน์ชัดแจ้งไมไ่ด้ ไม่เป็นผลดีต่อพุทธศาสนาครับ ชาวพุทธคงไม่สนใจหรอก ว่าไอนสไตน์จะว่ายังไง หลักแท้ๆก็คือ พระไตรปิฏกเท่านั้น แต่ปัญหาจะเ้กิดเมื่อหนังสือกลุ่มนี้ไหลเข้าไปสู่คนที่ยังไม่ได้ศรัทธา ถ้ามีใครคนใดคนหนึ่งถามหาหลักฐานเรื่องนี้ แล้วเราหาไมไ่ด้ แม้ว่าที่เหลือในหนังสือจะถูกต้อง แต่คนเหล่านั้นจะสนใจหรือครับ? เขาก็จะบอกว่า เล่มนี้จับแพะชนแกะ ศาสนานี้เอาดีใส่ตัว เอาคำพูดใส่ปากคนที่ไม่ได้พูด เพื่อหวังผู้ศรัทธา นี่ไม่เป็นผลดีต่อศาสนาพุทธแน่นอน จขกท ต้องการปรามว่า ถ้าหาแน่ชัดไม่ได้ ข้อความเหล่านี้ไม่ควรไปอยู่ในหนังสือเหล่านั้น และที่จะออกในโอกาสต่อๆไป จากคุณ : house (panote_saechiew) - [ 5 ส.ค. 51 11:43:59 ]

ความคิดเห็นที่ 37 อ้าวแล้วคุณ FREE_OFFICER จะให้ทำไงล่ะ นักวิทยาศาสตร์อ้างอิงจากแหล่งที่น่าเชื่อถือได้ ไม่ใช่ต้องไปคิดตรัสรู้เอาเองทุกอย่าง (แม้จะผิดหลักกาลามสูตรก็เหอะ เพราะไม่มีใครให้เงินไปทดลองซ้ำผลงานที่ตีพิมพ์แล้วบ่อยๆ หรอก) แต่แหล่งที่อ้่างอิงที่น่าเชื่อถือต้องโดนตรวจสอบเสมอ M-W ตีพิมพ์ครั้งแรกมาตั้งแต่เมื่อ 150-160 ปีก่อน น่าเชื่อถือเพราะรอดมาได้นานขนาดนี้ บทความทางวิทยาศาสตร์ก็ถูกตรวจสอบตอน peer review จากนักวิทยาศาสตร์คนอื่นๆ ทำให้เราเชื่อถือได้ เมื่อไม่แน่ใจ ผมก็ไปหานิยามที่อื่นมาเทียบให้รู้ว่าไม่ผิดไปจากกัน ที่ผมพูดว่า "ที่อ้าง marriam webster แหล่งเดียวเพราะ อ้างแหล่งอื่นก็เหมือนกันไง" เพราะผมก็ได้ search หาจากหลายที่มาแล้ว เปรียบเทียบจนแน่ใจว่า M-W ไม่ได้นิยามวิทยาศาสตร์ประหลาดจากชาวบ้านเขา คุณ FREE_OFFICER รู้จักวิทยาศาสตร์ดีแค่ไหน คุณ styer หา ธรรมบท บทที่หนึ่งมาอ่าน แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 51 12:06:26 แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 51 12:05:37 จากคุณ : Geneticist - [ 5 ส.ค. 51 11:49:16 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ถ้ากล่าวถึงหลักพุทธศาสนาอันเป็น พระไตรลักษณ์ พระปฏิจจสมุปบาท นับว่าท้าทายต่อความเป็นศาสนาแห่งอนาคต หรืออาจเป็น cosmic religion ฯลฯ อย่างมาก     แต่ถ้าอ้างอิงรวมไปถึงบางเนื้อหาที่เชื่อตามกันมา เช่น เขาพระสุเมรุ ทวีปทั้ง4 พืชไม่ใช่สิ่งมีชีวิต พระอินทร์ ท้าวสักกะ ฯลฯ คงต้องกล่าวต่อกันว่าชาวพุทธควรรู้จักสละฉีกพระไตรปิฎกบางส่วนทิ้งไป เพื่อแลกกับปัญญาอันเป็นทรัพย์สูงค่ายิ่ง จากคุณ : ผู้ศึกษา - [ 5 ส.ค. 51 12:00:34 ]

ความคิดเห็นที่ 39 should determine difference between   "believe" and "truth" What  GOOD or BAD "effect" of those DATA How much "cost" to prove them What is "gotten" for do the thing science or truth is not the "magic medicine" for solve every problem "there are million ways to love" even if there is the only one i love จากคุณ : aLITTLEspaceAround7day - [ 5 ส.ค. 51 12:11:02 ]

ความคิดเห็นที่ 40 Einstein did comment that Buddhism "contains a much stronger element of [the cosmic religious feeling, by which] the religious geniuses of all ages have been distinguished."[15] จากคุณ : มังกรใจเย็น - [ 5 ส.ค. 51 12:12:39 ]

ความคิดเห็นที่ 41 "Buddhism has the characteristics of what would be expected in a cosmic religion for the future: it transcends a personal God, avoids dogmas and theology; it covers both the natural & spiritual, and it is based on a religious sense aspiring from the experience of all things, natural and spiritual, as a meaningful unity" This quotation is often cited as appearing in Helen Dukas & Banesh Hoffman, Eds., "Albert Einstein: The Human Side," Princeton University Press, (1954). It looks like something he could have written or said. It resembles the type of language found in other religious and spiritual material that Einstein wrote. However, we must remember that this was not WRITTEN by Einstein and only attributed to him by a biographer. จากคุณ : มังกรใจเย็น - [ 5 ส.ค. 51 12:18:47 ]

ความคิดเห็นที่ 42 http://books.google.com/books?id=T5R7JsRRtoIC&pg=PP1&dq=the+human+side+albert+einstein&sig=Qg_dCa35rhewhu7PyAgNj0TWQoo#PPA155,M1 จากคุณ : มังกรใจเย็น - [ 5 ส.ค. 51 12:24:35 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ความคิดเห็นที่ 39 Well, Good or Bad makes no sense in science other than the cost that affect the society. That's why us scientist need an ethical board to review our proposed experiments 555555555 คุณ มังกรใจเย็น Where did you obtain that quotation? I would like to see the source. Here is the excerpts from the book usually cited to contain Einstein's praise of Buddhism: "What humanity owes to personalities like Buddha, Moses, and Jesus ranks for me higher than all the achievements of the enquiring and constructive mind." (Albert Einstein, The Human Side, edited by Helen Dukas and Banesh Hoffman, Princeton University Press, 1954) That's the only page in the book that have something to do with Buddha or Buddhism..... จากคุณ : Geneticist - [ 5 ส.ค. 51 12:26:51 ]

ความคิดเห็นที่ 44 คุณ FREE_OFFICER ใช้คำพูดเสียดสี แฝงนัยไม่ดีในคำพูด ไม่ดีเลยนะ ไหนๆก็ไหนๆ ตะถามว่าคุณมีความคิดเห็นอย่างไรที่ในประไตรปิฎก ซึ่งแบ่งเป็น 3 ส่วน มี 1 ส่วนที่กล่าวเรื่องปาฏิหาริย์ต่างๆ และเป็นส่วนที่มีเนื้อหาครึ่งหนึ่งของพระไตรปิฎกทั้งหมด จากคุณ : ชาลีฟ - [ 5 ส.ค. 51 12:33:15 ]

ความคิดเห็นที่ 45 คุณ : มังกรใจเย็น Aha, you referred to the same book I was talking about........... So, that quotation happens to be misattributed to this book. Try to search for the words like "Buddha," "Buddhism" or "Buddhist" in this book. You will see what I mean. Here is the source where i found out about this book: http://tricycleblog.wordpress.com/2007/10/26/einsteins-quotes-on-buddhism/ จากคุณ : Geneticist - [ 5 ส.ค. 51 12:35:34 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ถ้าจะคุยเรื่อง "พุทธศาสนาเป็นวิทยาศาสตร์หรือไม่" ก็น่าจะแตกประเด็นนะครับ แยกแยะให้ดีว่ามันเป็นคนละเรื่อง ในเมื่อประเด็นคือ "Einstein เคยพูดหรือไม่" ไม่ใช่ว่า พุทธศาสนาเป็นหรือไม่เป็นวิทยาศาสตร์ คุยกันแบบนักวิทยาศาสตร์ ก็ควรคุยกันด้วยหลักฐานอ้างอิง ถ้ามันเป็นของแท้ ก็ต้องพิสูจน์ให้ได้ quote ที่ #40 พูดถึง เป็น quote ที่มีที่มาจริง "The individual feels the futility of human desires and aims and the sublimity and marvelous order which reveal themselves both in nature and in the world of thought. Individual existence impresses him as a sort of prison and he wants to experience the universe as a single significant whole. The beginnings of cosmic religious feeling already appear at an early stage of development, e.g., in many of the Psalms of David and in some of the Prophets. Buddhism, as we have learned especially from the wonderful writings of Schopenhauer, contains a much stronger element of this. The religious geniuses of all ages have been distinguished by this kind of religious feeling, which knows no dogma and no God conceived in man's image; so that there can be no church whose central teachings are based on it. Hence it is precisely among the heretics of every age that we find men who were filled with this highest kind of religious feeling and were in many cases regarded by their contemporaries as atheists, sometimes also as saints. Looked at in this light, men like Democritus, Francis of Assisi, and Spinoza are closely akin to one another." - - New York Times, November 9, 1930 - - จากคุณ : ikkyu - [ 5 ส.ค. 51 12:36:57 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ส่วน สอง quote นี้ "The religion of the future will be a cosmic religion. It should transcend personal God and avoid dogma and theology. Covering both the natural and the spiritual, it should be based on a religious sense arising from the experience of all things natural and spiritual as a meaningful unity. Buddhism answers this description. If there is any religion that could cope with modern scientific needs it would be Buddhism." "Buddhism has the characteristics of what would be expected in a cosmic religion for the future: It transcends a personal God, avoids dogmas and theology; it covers both the natural and the spiritual, and it is based on a religious sense aspiring from the experience of all things, natural and spiritual, as a meaningful unity." มักจะถูกอ้างว่ามาจากหนังสือเล่มนี้ Albert Einstein, The Human Side, edited by Helen Dukas and Banesh Hoffman, Princeton University Press, 1954 ซึ่งจริงๆ แล้ว หนังสือเล่มดังกล่าว มีการอ้างถึงพระพุทธเจ้าไว้เพียงข้อความเดียว คือ Page 70 "What humanity owes to personalities like Buddha, Moses, and Jesus ranks for me higher than all the achievements of the enquiring and constructive mind." ใน WikiQuote ก็มี discuss เรื่องนี้ ลองเข้าไปดู มีคนอ้างว่าเขาได้ติดต่อคนที่เกี่ยวข้องกับ Einstien หลายคน โดยเฉพาะ John Stachel ที่เป็นบรรณาธิการหนังสือ "Collected Papers of Albert Einstein" และยังรวมไปถึงหลายคนที่แต่งหนังสือรวม Quote ของ Einstein ไม่มีใครเลยที่ยืนยันว่า Einstein เคยพูดข้อความดังกล่าว http://en.wikiquote.org/wiki/Talk:Albert_Einstein จากคุณ : ikkyu - [ 5 ส.ค. 51 12:37:45 ]

ความคิดเห็นที่ 48 บทความ Religion and Science ที่เขียนโดย Einstein ลงใน New York Times เมื่อ November 9, 1930 สามารถเข้าไปอ่านได้ที่นี่ครับ http://www.endlesssearch.co.uk/science_cosmicreligion.htm จากคุณ : ikkyu - [ 5 ส.ค. 51 12:39:28 ]

ความคิดเห็นที่ 49 โอเค ผมยอมรับ quote ของคุณ ikkyu ครับผม แต่ที่มีปัญหาคือ quote สองตัวนั้น นั้นแหละที่คนชอบยกมา จบแค่นี่ละกัน คุณ FREE_OFFICER ถ้าจะถกต่อเรื่องพุทธศาสนาเป็นวิทยาศาสตร์หรือไม่ช่วยแตกกระทู้ตามที่คุณ ikkyu บอกละกัน (เพราะ ผมโง่ครับแตกกระทู้ไม่เป็น ทำแล้วมันกลายเป็นกระทู้ใหม่เลย) จากคุณ : Geneticist - [ 5 ส.ค. 51 12:46:35 ]

ความคิดเห็นที่ 50 มีใครในโลกคอยบันทึกคำพูดของไอน์สไตน์อยู่ตลอดเวลาบ้าง     แล้วคนที่เขียนเกี่ยวกับไอน์สไตน์พูดถึงศาสนาพุทธก็เป็นฝรั่ง เขาจะเขียนขึ้นมาเพื่ออะไรถ้าไม่ได้พูดจริง มันมีหลักฐานแค่นี้เราก็ใช้แค่นี้ ถ้ามันไม่จริงคนยุคนั้นทำไมไม่เขียนว่ามันไม่จริง สรุปว่าถ้าหาหลักฐานไม่ได้มันต้องไม่ใช่เรื่องจริงตามตรรกะของคุณ! ถ้าเช่นนั้นตามตรรกะผมบ้าง  ดำโดนยิงตาย  หาตัวคนยิงไม่ได้  ตัดสินให้ดำมีชีวิตเหมือนเดิม จากคุณ : ตาเป๋า - [ 5 ส.ค. 51 13:02:49 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ^ ^ คุณใช้ตรรกะผิดเรื่อง ผิดที่ ผิดทาง ....... เท่านั้นแหละ เพราะการที่ดำตาย เป็นข้อเท็จจริง ไม่เกี่ยวกับว่าเขาตายยังไงหรือเพราะอะไร ดังนั้นการที่หาตัวคนยิงไม่ได้ ไม่มีผลกับข้อเท็จจริงที่ว่าดำตายไปแล้ว แต่คำพูดของ Einstein นั้นต่างกัน เราไม่มีหลักฐานยืนยันว่าเขาพูดเอาไว้จริงๆ ดังนั้นการที่หาหลักฐานมายืนยันไม่ได้ จึงมีผลกับ Authenticity ของข้อความที่ว่า ตรรกะที่บิดเบือน(แต่ฟังดูคล้ายกับมีเหตุผล) ทำให้เรื่องมันวุ่นๆมามากแล้วครับ จากคุณ : Nexus - [ 5 ส.ค. 51 13:35:56 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ผมว่าเจ้าของกระทู้ก็เชื่อกาลามสูตรมากเกินไป    ฮาาาาาาาาาาา จากคุณ : NaCl - [ 5 ส.ค. 51 13:43:04 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ู^ ^ ^ ใช่ๆ ในกรณีนี้เปรียบเหมือน มีคนบอกว่า นายดำโดนนายแดงยิงตาย แต่ไม่มีใครมีหลักฐานว่านายแดงเป็นคนทำ ดังนั้นศาลจึงตัดสินว่า นายแดงไม่ได้ยิงนายดำ ทั้งๆที่นายแดงอาจเป็นคนทำ แต่สังคมต้องยอมรับว่านายแดงไม่ได้ทำ เพราะไม่มีหลักฐาน จากคุณ : ชาลีฟ - [ 5 ส.ค. 51 13:44:59 ]

ความคิดเห็นที่ 54 #50 การอ้างอิงผิดพลาดเกิดขึ้นได้หลายกรณี ทั้งจงใจและไม่จงใจ เช่น - เล่ากันมาหลายๆ ต่อ - paraphase ข้อความเดิมผิดเพี้ยนไป - การดัดแปลงข้อความ - อ้างอิงเจ้าของข้อความผิดคน ฯลฯ ข้อมูลใดที่ตรวจสอบยืนยันความถูกต้องไม่ได้ ก็ไม่ควรนำมาใช้อ้างอิงครับ แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 51 14:11:09 จากคุณ : ikkyu - [ 5 ส.ค. 51 13:49:43 ]

ความคิดเห็นที่ 55 เถียงกันเรื่องศาสนา เขาว่ายึดติด ศาสนาพุทธสอนให้รู้จักคิด รู้จักเข้าใจ รู้จักการอยู่ จากคุณ : c2k - [ 5 ส.ค. 51 14:16:10 ]

ความคิดเห็นที่ 56 #51    ใช่แล้วครับ ผิดที่ผิดทางผิดตรรกะ   #53 คุณ : ชาลีฟ  อย่างนั้นแหละครับ   แต่ผมลองบิดดูครับ #54 ผมหมายถึงคอยติดตามบันทึกอยู่ตลอดเวลาแบบไม่พลาดครับ ............................................................... ถึงแม้ไอน์สไตน์จะพูดไว้จริงแล้วคนฟังก็นำมาเขียนก็จะมีคนไม่เชื่ออีกเพราะไม่มีหลักฐานว่าฟังจริง ถึงแม้ไอน์สไตน์เขียนไว้จริงแล้วลงพิมพ์ก็จะมีคนไม่เชื่ออีกเพราะหาต้นฉบับไม่ได้หนังสือคงพิมพ์กันเอง ใช่ หรือ ไม่ใช่  มันเป็นไปได้ทั้งสองอย่างถ้าไม่มีหลักฐานชัดเจน   หลักฐานบางเบาที่มีอยู่ ย่อมเอนเอียงมาทาง ใช่ มากว่า ไม่ใช่ ...แต่ จขกท. ต้องการให้มันไม่ใช่ หรือเปล่าครับ และกลัวว่าลูกหลานจะเข้าใจผิด.....จะเข้าใจอย่างใรก็ไม่ส่งผลเสียหายอะใรครับเพราะไม่มีใครรู้ ความจริงเรื่องนี้   ถ้าเขาอยากรู้ความจริงเขาก็จะหาความจริงเหมือน จขกท. นั่นแหละ ถึงจะให้เหตุผลว่า ไม่จริงเพราะไม่มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า... ก็จะยังมีคนเชื่อว่าจริงและผลงานทำนองนี้ก็จะมีเรื่อยๆครับ จากคุณ : ตาเป๋า - [ 5 ส.ค. 51 14:56:26 ]

ความคิดเห็นที่ 57 Another Fallacy. The argument from ignorance, also known as argumentum ad ignorantiam ("appeal to ignorance" ) or argument by lack of imagination, is a logical fallacy in which it is claimed that a premise is true only because it has not been proven false or is only false because it has not been proven true. http://en.wikipedia.org/wiki/Argument_from_ignorance จากคุณ : Nexus - [ 5 ส.ค. 51 15:16:55 ]

ความคิดเห็นที่ 58 เพราะ "สม" มั้ง จากคุณ : GrandOpera - [ 5 ส.ค. 51 15:20:19 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ไอน์สไตน์จะพูดหรือไม่พูดไม่รู้ ขอแค่พิสูจน์ได้เป็นพอ .. สิ่งที่จับต้องไม่ได้ .. ใช่ว่าจะพิสูจน์ไม่ได้ เอาใจช่วยครับ แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 51 15:26:08 จากคุณ : silence.screamer - [ 5 ส.ค. 51 15:23:41 ]

ความคิดเห็นที่ 60 คุณชาลีฟบอกว่าผมพูดเหมือนเสียดสี ถ้าผมพูดเหมือนเสียดสีจขกท ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ ผมไม่ได้ตั้งใจเสียดสีใครเลยจริงๆ T_T ถ้าคำพูดตรงๆของผม เหมือนเสียดแทง ผมจะตามไปลบคอมเม้นตัวเองนะครับ จขกทครับ คุณจะว่าอะไรผมก็ว่าเถอะครับ จะเข้าใจผมผิดด้วยก็ได้ครับ T_T จากคุณ : FREE_OFFICER - [ 5 ส.ค. 51 15:30:10 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ผมลบคอมเม้นตัวเองหมดแล้วนะครับ ถ้าสิ่งที่ผมพิมพ์ทำให้ท่านใดไม่พอใจ ผมขอโทษอีกครั้งครับ T_T จากคุณ : FREE_OFFICER - [ 5 ส.ค. 51 15:35:59 ]

ความคิดเห็นที่ 62 คุณ FREE_OFFICER ไม่น่าต้องลบเลยน้า ผมว่าแค่ความเข้าใจไม่ตรงกันธรรมดาๆ #56 ผมอ่านแล้วแปลกๆ ถ้าเอาตรรกกะเดียวกันเป๊ะๆ ผมพูดได้มั้ยครับว่า "พระองค์หนึ่้ง เคยสอนไว้ว่า สปาเก็ตตี้มอนสเตอร์เป็นพระเจ้าสูงสุด ศาสนาพุทธสอนเพื่อรอสปาเก็ตตี้มอนสเตอร์มาพิพากษา"(ยำมั่ว เพื่อยกตัวอย่าง) ที่มา "ไม่มี-อ้างต่อๆกันมาเฉยๆ" ความจริงหรือเท็จ "ไม่รู้-แต่วัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ศาสนาสปาเก็ตตี้" ตกลงศาสนานี้ทำถูกมั้ยครับ เอาคำพูดที่พิสูจน์ไม่ได้มาอ้างเนี่ย? เพราะว่า ถึงแม้ "พระ" จะพูดไว้จริงแล้วคนฟังก็นำมาเขียนก็จะมีคนไม่เชื่ออีกเพราะไม่มีหลักฐานว่าฟังจริง ถึงแม้"พระ" เขียนไว้จริงแล้วลงพิมพ์ก็จะมีคนไม่เชื่ออีกเพราะหาต้นฉบับไม่ได้หนังสือคงพิมพ์กันเอง ใช่ หรือ ไม่ใช่  มันเป็นไปได้ทั้งสองอย่างถ้าไม่มีหลักฐานชัดเจน   หลักฐานบางเบาที่มีอยู่ ย่อมเอนเอียงมาทาง ใช่ มากว่า ไม่ใช่ ...แต่ คุณตาเป๋า  ต้องการให้มันไม่ใช่ หรือเปล่าครับ และกลัวว่าลูกหลานจะเข้าใจผิด.....จะเข้าใจอย่างใรก็ไม่ส่งผลเสียหายอะใรครับเพราะไม่มีใครรู้ ความจริงเรื่องนี้   ถ้าเขาอยากรู้ความจริงเขาก็จะหาความจริงเหมือน จขกท. นั่นแหละ ถึงจะให้เหตุผลว่า ไม่จริงเพราะไม่มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า... ก็จะยังมีคนเชื่อว่าจริงและผลงานทำนองนี้ก็จะมีเรื่อยๆครับ จากคุณ : house (panote_saechiew) - [ 5 ส.ค. 51 15:43:15 ]

ความคิดเห็นที่ 63 เข้าใจว่าเจ้าของกระทู้ต้องการสื่ออะไร แต่ดูจะใช้ภาษาไปในทำนองดูหมิ่นคนอื่นไปนิดหนึ่ง (จากความรู้สึกตัวเองนะครับ) และผมก็ขอยืนยันในสิ่งที่ตัวเองคิดก็แล้วกันว่า ความเชื่อความศรัทธาของผม  ขึ้นอยู่กับคุณค่าของสิ่งนั้น ๆ ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะคนดังมาพูดถึง ที่จริงไม่อยากให้คนอื่นที่ยังไม่เข้าใจพุทธศาสนาชัดเจนมายกย่องด้วยซ้ำ จากคุณ : ขุนไกรครับผม - [ 5 ส.ค. 51 16:19:12 ]

ความคิดเห็นที่ 64 #62 มันก็แปลกแหละครับ สั้นๆของกระทู้นี้คือ  ไม่มีหลักฐานไม่ควรนำมาอ้างอิง....ถูกต้องแล้วครับเชื่อว่ารู้กันทุกคนครับ แต่เหตุใดจึงมีคนอ้างว่าไอน์สไตน์พูด  มีแรงจูงใจอะใร  ถ้าไม่จริงอ้างเพื่ออะไร  ทำไมไม่อ้าง นักวิทยาศาสตร์ท่านอื่นๆ  แล้วทำไมต้องอ้างศาสนาพุทธ  ฯฯฯฯฯฯฯฯฯ ....ที่ล้อมาถูกต้องแล้วครับจึงไม่ควรสรุปว่า ไอน์สไตน์....ไม่.....เคยพูดว่าศาสนาพุทธเป็นศาสนาแห่งอนาคต ตามหัวข้อกระทู้ หรือ     ไอน์สไตน์...........พูดว่าศาสนาพุทธเป็นศาสนาแห่งอนาคต จากคุณ : ตาเป๋า - [ 5 ส.ค. 51 17:30:56 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ถึงไอนสไตน์พูดคุณก็ไม่รู้อยู่ดีว่าเค้าตอนนั้นเข้าใจศาสนาพุทธในเชิงไหน แนวไหน พุทธที่เค้าพูดแปลว่าอะไร เป็นพุทธแบบไทย พุทธแบบญี่ปุ่น พุทธแบบธิเบต พุทธแบบแก่นธรรมอริยสัจสี่ พุทธแบบพระป่า พุทธแบบเถรวาท พุทธแบบไหว้เจ้าทำบุญ พุทธแบบทะเบียนบ้าน พุทธแบบวัดต้องมีพระประทานตั้งตรงนี้ ตรงนี้วางกระถางธูป ตรงนี้ไว้จุดเทียน ตรงนี้มีเซียมซีให้เขย่า ปัญหาคือไอนสไตน์ ตายไปแล้ว ไม่สามารถมาพูดคุยต่อไปว่าเค้าสื่ออะไรหรือคิดยังไงมุมไหนกันแน่ ... แต่แก่นพุทธศาสนายังอยู่ให้ทดลองทุกเมื่อ ถ้าไม่จริง มันก็แค่ไม่จริง แล้วทำไมไม่ลองดูกันละ แล้วมาพูดคุยกันทีหลังก็ได้ OK พุทธศาสนาแบบไทยๆทีเห็นกันอยู่มันอาจดูวุ่นวายไม่เหมือนในตำรา มีคนห่มเหลืองเพื่อเลี้ยงชีพ มีคนสร้างวัตถุ มีคนรักษาพระไตรปิฏก มีคนสร้างกำแพงวัด มีประเพณีรูปแบบตายแล้วต้องสวดแบบนั้นแบบนี้ 2500ปีล่วงมาแล้วก็เป็นแบบนี้แหละ แล้วมันเป็นหน้าที่ของใครละที่จะไปหาแก่นธรรม ทั้งๆที่แก่นก็ยังอยู่รอพิสูจน์ แต่ก็จะไปมัววุ่นวายเรื่องนอกๆทำกับว่าแก่นไม่มีอยู่จริง อะไรที่คุณไม่รู้ คุณก็ขึ้นเครื่องหมาย N/A ไว้ก่อน จากคุณ : หลับตา - [ 5 ส.ค. 51 18:17:03 A:58.64.64.96 X: TicketID:173601 ]

ความคิดเห็นที่ 66 AHA เยี่ยมเลย สรุปว่าพุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่งปัจจุบันและอนาคตตามที่ท่านไอน์สไตน์กล่าวไว้สินะ จริงๆแล้ว ศาสนาคอสมิคของไอน์สไตน์เป็นเรื่องหนึ่ง ศาสนาในอนาคตก็อีกเรื่องหนึ่ง อนาคตต่อให้คนพัฒนาไปมากก็ไม่มีทางมีแค่ศาสนาเดียวอย่างที่คนบางกลุ่มอยากจะให้เป็นหรอกครับ ตราบใดที่คนยังมีกิเลสยังมีอัตตา ยังอยากมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แม้แต่ศาสนาพุทธตามที่ต่างๆในโลกก็ไม่เหมือนกัน ต่างมีเอกลักษณ์ของตัวเองตามถิ่นตามเผ่าพันธ์และความคิดคน ดังนั้นอย่าไปคิดเลยว่าศาสนาในอนาคตจะมีเพียงศาสนาเดียว ส่วนศาสนาคอสมิคของไอน์สไตน์ถ้ามีขึ้นมาจริงก็น่าจะเป็นหนึ่งในอีกหลายๆศาสนาในอนาคตเท่านั้นเอง แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 51 18:26:31 จากคุณ : มังกรใจเย็น - [ 5 ส.ค. 51 18:18:20 ]

ความคิดเห็นที่ 67 "2500ปีล่วงมาแล้วก็เป็นแบบนี้แหละ แล้วมันเป็นหน้าที่ของใครละที่จะไปหาแก่นธรรม ทั้งๆที่แก่นก็ยังอยู่รอพิสูจน์ แต่ก็จะไปมัววุ่นวายเรื่องนอกๆทำกับว่าแก่นไม่มีอยู่จริง" โดนใจครับ จากคุณ : FREE_OFFICER - [ 5 ส.ค. 51 18:36:14 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ศาสนาพุทธบอกได้ทุกอย่างถ้าคุณ"เชื่อ"ครับ ถ้าคุณไม่เชื่อ มันก็แค่เรื่องโกหก จากคุณ : จาจาบิงแปงร่างเป็นไอ้มดเขียว - [ 5 ส.ค. 51 21:09:22 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ที่มีหลักฐานยืนยันว่าไอน์สไตน์พูดถึงศาสนาพุทธมี 2 แหล่งคือ New York Times 1930 กับ Nature 1940 แต่ประโยค "The religion of the future will be a cosmic religion. ..." ไม่มีการยืนยัน และศาสนาพุทธที่ไอน์สไตน์กล่าวถึงก็ไม่ใช่นิกายเถรวาท จากคุณ : silverspider - [ 5 ส.ค. 51 21:47:23 ]

ความคิดเห็นที่ 70 แล้วทำไมต้องไปฟังไอน์สไตน์ล่ะครับ ตอนนี้มีความสุขกับศาสนาหรือเปล่า ถ้าไม่มีก็แค่ไม่นับถือศาสนาอะไรเลย แล้วจะอยู่ได้เหรอเนี่ย จากคุณ : AVSystem - [ 5 ส.ค. 51 22:14:49 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ^- คนไม่นับถือศาสนาอะไรเลยมีเยอะในโลกครับ เขามีเซตความเชื่อ และอุดมคติของเขาเอง อาจจะเรียกว่าศาสนาแบบ customize เฉพาะตัวก็พอได้ จากคุณ : house (panote_saechiew) - [ 6 ส.ค. 51 10:44:12 ]

ความคิดเห็นที่ 72 อันดับ 1 ศาสนาคริสต์ อันดับ 2 ศาสนาอิสลาม อันดับ 3 ศาสนาฮินดู อันดับ 4 ไม่มีศาสนา อันดับ 5 ศาสนาพุทธ จากคุณ : ชาลีฟ - [ 6 ส.ค. 51 18:50:00 ]

ความคิดเห็นที่ 73 #66 สรุปจากไหนหรือครับ ?? จากคุณ : Zkizzik - [ 6 ส.ค. 51 23:14:58 ]

ความคิดเห็นที่ 74 กาลามสูตร นี่ ก็ถือเป็นวิทยาศาสตร์ได้หรือเปล่า จากคุณ : mamao - [ 7 ส.ค. 51 01:00:54 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ข้อความที่ว่า พุทธกับวิทย์สอดคล้องกัน,พุทธกับวิทย์เป็นเรื่องเดียวกันอะไรเทือกนี้ มันน่าจะเรียกว่าเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของแต่ละบุคคล ซึ่งถ้าไอสไตน์ได้พูดประโยคอะไรทำนองนี้เอาไว้มันก็เป็นแค่ความคิดเห็นส่วนตัวของไอสไตน์อยู่ดีซึ่งใครจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็ได้ จากคุณ : อิอิคุง - [ 7 ส.ค. 51 01:35:52 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ไอสไตน์ไม่เคยบอกว่าศาสนาพุทธเป็นศาสนาแห่งอนาคต แต่ได้กล่าวเอาไว้ว่า "พุทธศาสนา.... มีสภาวะที่เรียกว่า Cosmic Religious feeling คือความรู้สึก หรือสำนึกทางศาสนาอันหยั่งโยงสรรพสิ่งทั่วสากลนี้อย่างเข้มข้น หรือแรงกล้ามาก" จากหนังสือ  Ideas and opinions  ของ Albert einstein หน้าที่ 38 ข้อความนี้จะหมายถึง ศาสนาพุทธเป็นศาสนาแห่งอนาคตจริงหรือไม่ ก็ลองไปคิดไปวิเคราะห์กันดูเอาเอง ผมรู้แต่เพียงว่า - จักรวาลนั้นมีกาแล๊กซี่อยู่มากมาย (สมัยครั้งพุทธกาลใช้คำว่าโลกธาตุ) - โลกมีสันฐานกลม - ลักษณะของมนุษย์ในครรภ์มารดา มีการพัฒนาอย่างไรในแต่ละสัปดาห์ เหล่านี้ เป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ ตั้งแต่เมื่อ 2500 ปีก่อน ก่อนที่นักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงหลายๆท่านจะเกิดขึ้นมาบนโลกนี้ครับ และ ไม่ว่าไอสไตน์จะกล่าวไว้อย่างไร ก็ไม่สำคัญหรอกครับ  เพราะความเห็นของไอสไตน์ ก็เป็นความเห็นของตัวเขาเอง ไม่ได้เป็นสิ่งตัดสินว่า พระพุทธศาสนาเป็นอย่างไร เพราะพระพุทธศาสนา  เป็นอย่างที่เป็นอยู่ ไม่ใช่เป็นเพราะคำพูดของนักวิทยาศาสตร์คนไหนทั้งสิ้น ประวัติศาสตร์ของพระพุทธศาสนากว่า ๒๕๐๐ ปี จึงไม่เคยหวั่นไหวต่อการค้นพบของนักวิทยาศาสตร์ ที่นับวันก็ยิ่งพิสูจน์หลักการของพระพุทธศาสนา ซึ่งต่างกับบางศาสนา ที่ต้องเอาตัวนักวิทยาศาสตร์ไปเผาตายทั้งเป็น ไปประหารชีวิต  เพราะการค้นพบที่ขัดกับหลักในคัมภีร์ศาสนาของเขา จากคุณ : chohokun - [ 7 ส.ค. 51 11:45:43 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ...ตถตา มันเป็นเช่นนั้น...... จากคุณ : ไร้สาระคุง - [ 7 ส.ค. 51 23:26:56 ]

ความคิดเห็นที่ 78 เย้ชนะ........แล้วไง จากคุณ : โมไนย - [ 8 ส.ค. 51 00:42:41 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ใช่ แล้ว ได้อะไร ไม่ใช่ แล้วได้อะไร เอาเวลาไปอบรม ตน ดีกว่า บาย จากคุณ : SiamKuriki - [ 8 ส.ค. 51 18:08:56 ]

ความคิดเห็นที่ 80 "ศาสนาในอนาคต จะต้องเป็นศาสนาสากล ศาสนานั้นควรอยู่เหนือพระเจ้าที่มีตัวตน และควรจะเว้นคำสอนแบบสิทธันต์ (คือเป็นแบบสำเร็จรูปที่ให้เชื่อตามเพียงอย่างเดียว) และแบบเทววิทยา(คือพึ่งเทวดาเป็นหลักใหญ่)"  อ่านดูเเล้วถ้าเค้าเขียนอย่างงี้จริงเอาเเค่ตรงนี้นะครับไม่ต้องเอาประโยคส่วนอื่น 1.ศาสนานั้นควรอยู่เหนือพระเจ้า 2.ควรจะเว้นคำสอนแบบสิทธันต์ (คือเป็นแบบสำเร็จรูปที่ให้เชื่อตามเพียงอย่างเดียว) 3.แบบเทววิทยา(คือพึ่งเทวดาเป็นหลักใหญ่)  มันทำให้เดาได้ว่า 1.อะไรที่มีพระเจ้ามาเกียวไม่ใช่เเน่                          2.ใช้ปัญญามากกว่าความเชื่อ                          3.ความจริงที่ว่าตนเป้นที่พึ่งแห่งตน  มันทำให้คิดได้ว่าเป็นศาสนาพุทธ จากคุณ : mce - [ 10 ส.ค. 51 11:53:42 ]

ความคิดเห็นที่ 81 http://books.google.com/books?id=T5R7JsRRtoIC&pg=PA70&dq=the+human+side+albert+einstein+buddha&sig=ACfU3U0I-sNuq1enX22xxJSPdw7s8T1MJA#PPA152,M1 เอาไปอ่านครับ จากคุณ : mce - [ 10 ส.ค. 51 13:19:20 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ศาสนาเป็นเรื่องของความเชื่อ สำหรับคนที่เชื่อมันคือเรื่องจริง แต่สำหรับคนที่ไม่เชื่อถึงจะจริงมันก็คือไม่จริง วิทยาศาสตร์ในวันนี้ก็ใช่ว่าจะถูกต้องเสมอไปในอนาคต แบบโลกแบนนั้นไง ที่แน่ ๆ ศาสนากับวิทยาศาสตร์ ไม่เคยกลมกลืนเป็นเนื้อเดียวกันได้ ก็แค่สะกดยังไม่เหมือนกันเลย จริงไหม ว่าแต่ว่าคุณเถอะ คิดว่าตัวเองเชื่อในคำพูดของ พระพุทธเจ้า หรือ ไอนสไตน์มากกว่ากัน หรือแท้จริงแล้ว แค่ความรู้ที่มีอยู่ในตัวของคุณบอก ว่านี่ ว่านั้น คือสิ่งถูกต้อง และความรู้ของคนที่คิดต่างจากเราเขาคิดผิด ค่อย ๆ ลอง ค่อย ๆ คิด ค่อย ๆ ดู แล้วก็อยู่กันไป มนุษย์ก็แค่เศษธุลีในจักรวาลที่ชอบเผลอลืมตัวไปว่ารู้สิ้นแล้วทุกอย่าง เผลอ ๆ ตั้งตัวเป็นพระเจ้าผู้หยั่งรู้สิ้นในจักรวาลมันซะเองเลย ... สนุกดี ! จากคุณ : internetsmile - [ 10 ส.ค. 51 15:34:40 ]

ความคิดเห็นที่ 83 คุณ mce ครับ ตกลงข้อความที่ คคห.80 นั้นอยู่ตรงไหนครับ ผมอ่านในลิงค์มาหลายวันแล้ว ดูซ้ำตั้งหลายรอบ ยังหาไม่เจอเลย นอกจากหน้า70เท่านั้น จากคุณ : taiyo - [ 10 ส.ค. 51 20:39:25 ]

ความคิดเห็นที่ 84 http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y6871360/Y6871360.html นี่ครับคุณ taiyo จากคุณ : mce - [ 11 ส.ค. 51 00:35:32 ]

ความคิดเห็นที่ 85 ความคิดเห็นที่ 84   http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y6871360/Y6871360.html นี่ครับคุณ taiyo จากคุณ : mce ------------------------------------------------------ คุณยกลิงค์เหล่านั้นมา แต่ลิงค์เหล่านั้นก็ให้แหล่งอ้างอิงของข้อความนั้นที่เดียวกัน คือ หนังสือ The Human Side ซึ่งผมก็ไปอ่านมาวันนี้อีกรอบก็ยังไม่พบข้อความนั้นในหนังสือเลยครับ ไม่ทราบว่า แหล่งอ้างอิงผิดหรือเปล่า แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 51 23:10:27 จากคุณ : taiyo - [ 11 ส.ค. 51 21:29:18 ]

ความคิดเห็นที่ 86 อ่านแล้ว สรุปไม่ได้ว่า ไอน์สไตน์ พูด หรือไม่พูด จะอ่านเอาจากสมองของแกที่ดองไว้ก็ไม่ได้เนอะ สำหรับผมแล้ว การที่ไอน์สไตน์จะพูด หรือไม่พูด ก็ไม่ได้เป็นสาระสำคัญอะไร ศาสนาหลักๆของโลกในปัจจุบัน ดีพอที่จะนับถือทั้งนั้น ถ้าตัดเอาน้ำจิ้มพวกปาฏิหาริย์ต่างๆออกไป พื้นฐานของแต่ละศาสนาก็ไม่ได้ต่างกันมาก แม้จะมีคนที่อ้างตนว่านับถือศาสนาใดศาสนาหนึ่ง พยายามหาพวก และทำลายคนที่คิดว่าไม่ใช่พวกก็ตาม ก็เป็นไปได้สองเรื่อง 1. ไอน์สไตน์พูดไว้จริง แต่ยังหาอะไรมาอ้างอิงไม่ได้ 2. ไอน์สไตน์ไม่ได้พูดไว้ซะหน่อย แต่มีเจ๊หรือเฮียบางคน เอาชื่อแกมาอ้างหากิน จากคุณ : หมอเถื่อน - [ 14 ส.ค. 51 16:16:08 ]