ความคิดเห็นที่ 1 อธิบายด้วย "ความน่าจะเป็น" ของคณิตศาสตร์ได้ครับ เพียงแต่มนุษย์เป็นฝ่ายตั้งชื่อเรียกแค่นั้นเอง ว่าความน่าจะเป็นน้อยเท่านั้นต่ออัตราส่วนของความเป็นไปได้ทั้งหมด (ภาษาคณิตศาสตร์อะไรไม่รู้นะ ลืม....) มันน้อยมากๆ เราจึงขอเรียกว่าความบังเอิญก็แล้วกัน หรือโชคก็กรณีเดียวกันครับ จากคุณ : ไฟแดงลิซึม - [ 6 ส.ค. 51 23:53:13 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ความบังเอิญไม่ได้เกิดกับเราคนเดียวนี้ แอปเปิ่ลจะล่นใสใครก็ได้ ทั่วโลกที่มีต้นแอปเปิ้ล รอคนอื่นมาอธิบายละกัน รอฟังครับ จากคุณ : 1812Overtureyoot - [ 6 ส.ค. 51 23:57:29 ]

ความคิดเห็นที่ 3 สิ่งบังเอิญก็เหมือนกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเรายังไม่สามารถรู้ความเป็นไปสิ่งต่างๆได้ทั้งหมดซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์  แต่มีบางคนที่จิตวิญญาณทางวิทยาศาสตร์ไม่แข็งพอ ก็จะรีบสรุปไปตามความรู้สึกต่างๆนานาของตนว่า สิ่งนั้นบังเอิญ สิ่งนี้ศักดิ์สิทธิ์ ฯลฯ ทั้งนี้ควรว่ากันตามหลักความจริงซึ่งเป็นเรื่องของ"เหตุผล"ที่มีอยู่อย่างครอบคลุมทุกธรรมชาติทุกจักรวาลใดๆ  ดังนั้นผลที่เกิดขึ้นบางอย่างที่เรายังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัดก็ควรพยายามตั้งสมมุติฐานใหม่ วิเคราะห์ทดสอบกันใหม่ ขืนรีบสรุปว่าเป็นเพราะความบังเอิญ เป็นเพราะความศักดิ์สิทธิ์ ฯลฯ อาจจะขัดใจจ๊อดได้ จากคุณ : ผู้ศึกษา - [ 6 ส.ค. 51 23:59:40 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ความบังเอิญ คือ ความน่าจะเป็นของการเกิดเหตุการณ์ ที่มีความน่าจะเป็นน้อยมากๆ จน บางครั้งการคำนวนทางวิทยาศาสตร์ จะละไว้ ในฐานที่เข้าใจครับ จากคุณ : Rhythm Investor - [ 7 ส.ค. 51 00:39:46 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้ามีกฏ หรือสามารถควบคุมให้เกิดขึ้นได้แบบตายตัว มันก็ไม่ใช่บังเอิญสิคับ ความบังเอิญ มันก็คือเหตุการณ์ที่มีโอกาสเกิด แต่น้อยมาก ถึงอย่างนั้น จะน้อยยังไง ก็ไม่ใช่ว่าเป็น 0 และมันก็ได้เกิดขึ้นหลายๆครั้ง มันไม่ใช่เหตุการณ์เหนือธรรมชาติ ไม่ใช่ปาฎิหาริย์ ไม่ใช่ความตั้งใจของใครสักคนเบื้องบน มันก็แค่เรื่องที่เกิดขึ้นมาจากโอกาสที่มันได้รับเท่านั้นเองคับ แอปเปิ้ลอาจจะตกใส่มนุษย์มาเป็นพันเป็นหมื่นลูกก่อนหน้านิวตั้น แต่พอดีว่าคนพวกนั้น ไม่นำมาเก็บไปคิดอะไรเท่านั้นเอง ตราบใดที่โลกเรายังมีมนุษย์ กับต้นแอปเปิ้ล เกิดและตายในยุคเดียวๆกัน ยังไงก็จะมีแอปเปิ้ลตกลงมาอีกหลายล้านลูกให้คนเห็นอยู่แล้วคับ จากคุณ : Limelight - [ 7 ส.ค. 51 00:58:28 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ความบังเอิญ = Uncontrol จากคุณ : KINKIMONO - [ 7 ส.ค. 51 01:06:44 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ความรู้ทางวิทยาศาสตร์หลายๆอย่างเกิดจากความบังเอิญจริงๆ ส่วนเรื่องความบังเอิญที่เกิดขึ้นในขณะนั้นหรือปัจจุบันนั้น(อ่านจากผู้เขียนท่านนึง) ได้บอกว่าปัจจุบันขณะนั้นคือการหยิบขวดเหตุการณ์ในสายธารแห่งอดีต กับหยิบขวดเหตุการณ์ในสายธารแห่งอนาคตมารวมกัน เหมือนแอปเปิ้ลตกใส่หัว หากไม่ได้อยู่ใต้ต้นแอปเปิ้ล กับแอปเปิ้ลลูกนั้นถึงเวลาหลุดจากขั้วลงมา ก็ไม่สามารถรวมได้เป็นเหตุการณ์ปัจจุบัน จากคุณ : Y (yoyolandk) - [ 7 ส.ค. 51 02:01:26 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ทฤษฎี ของ ไฮเซนเบิร์ก ครับ จากคุณ : ghanee.s - [ 7 ส.ค. 51 05:27:41 ]

ความคิดเห็นที่ 9 บังเอิญผ่านเข้ามา แล้วบังเอิญอ่าน แล้วบังเอิญเราไม่รู้จะตอบยังไง เพราะเราก็เชื่อในความบังเอิญ เลยบังเอิญตอบแบบนี้ แล้วบังเอิญออกไปดีกว่า จากคุณ : RealWorld - [ 7 ส.ค. 51 06:25:30 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ความแน่นอน คือความไม่แน่นอน ไม่มีมั้งคะ จากคุณ : มิ้นๆ (mint_la) - [ 7 ส.ค. 51 06:57:54 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เหตุการณ์น่ะเกิดขึ้นอยู่แล้ว แต่"บังเอิญ"นักวิทยาศาสตร์ไปสังเกตเห็นแล้วคิดต่อต่างหาก แอปเปิ้ลท่ีหล่นใส่หัวนิวตัน ไม่ใช่บังเอิญเป็นลูกแรกซักหน่อย มันก็หล่นอย่างงั้นทุกปีอยู่แล้ว และนิวตันคงไม่ใช่บังเอิญเป็นคนแรกในโลกที่แอปเปิ้ลหล่นใส่หัวหรอก แต่เพราะนิวตันนำไปคิดต่อเพื่อหาคำอธิบายต่างหาก ตอนนี้มีใครอธิบายปรากฏการณ์เล็บขบรึยังนะ อิอิ จากคุณ : บางเวลา - [ 7 ส.ค. 51 08:32:12 ]

ความคิดเห็นที่ 12 มีปัจจัยหลาย ๆ อย่าง มากมาย ผสม ปนเป รวมกัน ทำให้เกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ เหล่านี้ขึ้น พอเหตุที่มา ซับซ้อนเกิน ไม่สามารถจะทราบและอธิบายได้ ก็อ้างว่าบังเอิญ จากคุณ : GPPd - [ 7 ส.ค. 51 08:38:53 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เคยได้ยินคำว่า serendipity แต่ไม่ค่อยเข้าใจความหมายครับ จากคุณ : หนึ่งจุดแดงแห่งตงง้วน - [ 7 ส.ค. 51 11:02:37 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีเหตุและที่มา ส่วนความบังเอิญนั้นไม่ได้มีอยู่จริง จากคุณ : GPPd - [ 7 ส.ค. 51 11:35:34 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เวลาขนมปังตก มันต้องเอาหน้าที่ทาเนยไว้คว่ำลงเสมอ จากคุณ : atihasita - [ 7 ส.ค. 51 13:20:42 ]

ความคิดเห็นที่ 17 คห. 16 เออจริง แต่มันคงไม่ใช่ความบังเอิญมั๊ง ??? จากคุณ : คุณนู๋เรย์ - [ 7 ส.ค. 51 16:58:46 ]

ความคิดเห็นที่ 18 คห.16 คำนวณได้คับ มีคนเคยทดลองมากมาย คิดว่าความบังเอิญก็คือเราคิดไปเองเนื่องจาก คิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้แต่ไม่เกิดขึ้น รวมกับปัจจัยต่างๆที่ซับซ้อนและละเอียดอ่อน ก่อให้เกิดเหคุการณ์หนึ่งๆขึ้น ซึ่งบางทีก็ไม่ใช่การสุ่มอย่างแท้จริง แต่เวลาใช้คำนวณความน่าเป็น ก็จะไม่คิดถึงปัจจัยเหล่านั้น จากคุณ : Sir.ขงเบ้ง - [ 7 ส.ค. 51 20:51:21 ]

ความคิดเห็นที่ 19 #16 ถ้าทาเนยไว้หนาจนมันหนักกว่าอีกด้านชัดเจน ก็ไม่แปลกตรงไหนนี่คับ ที่ด้านหนักกว่าจะจิ้มหน้าลงพื้นก่อน ผมว่าตัวอย่างนี้ใช้ไม่ได้คับ หรืออีกอย่าง ถ้ามันไม่ตกตามที่คุณคิด คุณก็จะไม่เก็บไว้ใส่ใจ แต่ถ้ามันเอาเนยลง ทุกครั้งคุณก็จะสะสมไว้ในใจว่า มันเกิดขึ้นอีกแล้ว.. จากคุณ : Limelight - [ 8 ส.ค. 51 02:39:35 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ความบังเอิญมีทฤษฏีความน่าจะเป็นอธิบายได้ครับ เป็นการเกิดเหตุการณ์ ที่มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นน้อยมากๆ  และสามารถเกิดได้หลายครั้ง แต่ว่าไม่มีกฏตายตัวที่สามารถระบุหรือควบคุมได้ครับ ความคิดเห็นเพิ่มเติม จริงๆอาจจะมีกฏก็ได้นะครับ เพียงแต่ยังไม่มีคนค้นพบ อาจจะเพราะว่า มีหลายปัจจัยที่มีผลต่อเหตุการณ์นั้นๆ หรือก็คือหลายตัวแปรครับ ทำให้ การคำนวนเป็นไปได้ยากมากๆ เรื่องบังเอิญบางอย่างที่เราคิดว่าเป็นไปได้ยาก แต่คำนวนแล้วมีโอกาสเกิด ขึ้นมากกว่าที่เราคิด เช่น การหาคนที่เกิดวันเดียวกัน 2 คน ในสนามฟุตบอล ( นักกีฬาสองฝั่ง และกรรมการ 2 คน ) มีความน่าจะเป็นที่จะเกิดขึ้นตั้ง 48% เลยครับ จากคุณ : Ladatom - [ 11 ส.ค. 51 02:01:32 ]