PANTIP.COM : X6875600 พบแล้ว The Missing Link of Evolution ยืนยันทฤษฏีวิวัฒนาการ []

ความคิดเห็นที่ 22

ชอบจังที่บอกว่าทฤษฏีวิวัฒนาการทำให้มนุษย์ตกต่ำลงไปเป็นส่วนหนึ่งของสัตว์
และผู้เชื่อในพระเจ้าเชื่อว่ามนุษย์ถูกวางอยู่เหนือกว่าสัตว์ทั้งปวง....

มันแสดงให้เห็นถึงอะไรบางอย่างนะครับ สำหรับผมมนุษย์จะเป็นส่วนหนึ่งของสัตว์หรือไม่นั้นก็ไม่ใชประเด็น เพราะผมมองว่ามนุษย์ต่ำช้ากว่าสัตว์ตั้งหลายอย่าง และไม่ได้มองว่าสัตว์ที่ทำได้ดีจะดูแล้ว "ประเสริฐเหมือนมนุษย์" แต่เพราะมันเป็นลักษณะทั่วไปอยู่แล้ว (กรณีน้องหมาช่วยเพื่อนหมาบาดเจ็บ ก็ทำซะหมาตัสนี้ประเสริฐราวมนุษย์ ทำไมไม่คิดบ้างว่านี่แหละคือสิ่งธรรมดา มนุษย์ที่ไม่สนใขเรื่องนี้ต่างหากที่ต่ำกว่าสัตว์??)

ทฤษฏีวิวัฒนาการ เท่าที่อ่านหลังจากนั่งดูสารคดีนะครับ มันค่อนข้างสรุปได้แน่นอนว่า ตั้งแต่จุดแรกที่สายพันธุ์ ape ตัวแรกยืนขึ้นบนขาสองขา เดินด้วยมือที่เป็นอิสระ มีการพัฒนาการแบบหลายแขนงครับไม่ใช่สายเดียวสายเดี่ยวแบบนี้เลย มีการเอา DNA ของนีแอนเดอธาลมาเช็คแล้วครับว่าไม่เข้ากันกับระบบ DNA ของมนุษย์ปัจจุบัน และพบว่าช่วงเวลามันมีช่วงเหลื่อมซ้อนกัน เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าในหลายๆสายของวิวัฒนาการได้แตกแขนงออกไปจนมีสายพันธุ์ที่เจริญขึ้นมาคู่กันได้

เพราะว่าในตอนกลางๆของวิวัฒนาการนั้น ดันพบว่ามีสองสาายพันธุ์ที่เป็นพวก tools maker อย่างจริงจังเหมือนกันอยู่แต่มีปริมาณสมอง และ ขากรรไกรที่ต่างกัน ทำให้แนวคิดมองหาวิวัฒนาการจากขากรรไกรและปริมาณสมองตกไปเหลือเพียงเป็นผู้สร้างและใช้เครื่องมือและเดินด้วยขาสองข้างตัวตั้งตรงเท่านั้น เพราะการเดินด้วยมืออิสระจัดเป็นหนึ่งหน้าของการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ มีผลกับลักษณะของตำแหน่งดวงตา เมื่อพัฒนามือก็พัฒนาทักษะการใช้มือซึ่งเชื่อมโยงกับสมอง มีการทำงานของมือและสมองเชื่อมหากัน

ทว่าเหตุผลหนึ่งที่มีปัญหาก็คือ ape รุ่นแรกๆนั้นกินพืชเป็นหลัก แต่เชื่อว่าหนึ่งปัจจัยที่สำคัญขาดไม่ได้ก็คือต้องเปลี่ยนมากินเนื้อเป็นหลัก เพราะการจะพัฒนาสมองได้เยอะๆนั้นต้องการโปรตีนมากกว่า ดังนั้นจึงเป็นทฤษฏีที่เชื่อว่าจากการกินพืชเริ่มเปลี่ยนมากินเนื้อพวกแมลงต่างๆ ปรับตัวเองให้กินซากสัตว์ได้ จนถึงเป็นผู้ล่าในที่สุด ทฤษฏีที่กว้างขวางก็คือ ape กลุ่มแรกๆที่พัฒนาเป็น tool maker ได้แล้วจับสัตว์ที่เรียกว่าจับได้ค่อนข้างง่ายนั่นคือ"ปลา"ในแม่น้ำเป็นหลัก ด้วยการกินปลาเยอะนั้นมีผลกับการพัฒนาสมองที่ทำงานได้ซับซ้อนขึ้น ร่างกายสูงใหญ่ขึ้น เมื่อสูงใหญ่ก็เปลี่ยนไปล่าสัตว์ใหญ่ขึ้นได้ นี่เป็นเหตุผลให้ในสายพันธุ์พบลักษณะของขากรรไกรที่ต่างกันในเวลาเดียวกันได้

ทฤษฏีต่อจากนั้นก็คือ อาจมีมากกว่าหนึ่งสายพันธุ์ที่แตกแขนงไปแต่เป็นกลุ่ม tools maker เหมือนกัน มีการแย่งชิงดินแดนกัน มีการอพยพ มีการรวมสายพันธุ์และทำลายล้างกันเป็นปกติ สายพันธุ์หนึ่งเดินทางหนีขึ้นไปทางเหนือเรื่อยๆ(เริ่มจากอัฟริกา) ไปเร่ร่อนพัฒนาอยุ่ในบริเวณยุโรปเป็นหลัก ลักษณะของขนและสีผิวจึงเปลี่ยนไปเป็นลักษณะเฉพาะ บริเวณนั้นเต็มไปด้วยโปรตีนที่หาได้ง่ายกว่า พื้นที่เป็นหุบเขามากกว่าทำให้การอยู่เป็นสังคมใกล้ชิดกันพัฒนาได้ง่ายกว่าพื้นที่ราบในอัฟริกา ดังนั้นการล่าหนึ่งครั้งจึงมีจำนวนนักล่ามากว่า โอกาสล้มสัตว์ได้มีบ่อยกว่า กินเยอะ ก็พัฒนาได้เร็ว สังคมใหญ่มีวัฒนธรรมได้มาก

ต่อมาพวกนีแอนเดอธาลก็อพยพขึ้นมาทางเหนือเช่นกัน ในขณะที่นีแอนเดอธาลเองก็พัฒนามาอย่างซับซ้อนมากๆแล้ว เรียกว่าเชื่อว่าเป็นรากเหง้าสุดท้ายกันเลยทีเดียว แต่ขนาดสังคมที่เพิ่งอพยพจะเล็กกว่ามาก เมื่อสองกลุ่มมาจ๊ะเอ๋กัน นักประวัติศาสตร์เชื่อว่าโอกาสเกิดการสู้ฆ่าฟันกันสูงกว่าการผูกมิตร เนื่องจากในมือของทั้งสองฝ่ายถืออาวุธ(tools)ด้วยกันและการเรียนรู้สอนให้เข้าใจได้ไม่ยากว่าเครื่องมือนั้นน่ากลัวกว่าเขี้ยวเล็บสัตว์ และแล้วนีแอนเดอะาลก็ไม่สามารถรับมือกับการแข่งขันในการอยู่รอดได้ นี่คือเหตุที่นีแอนเดอธาลไม่ได้เชื่อมโยงกับเราด้วยลักษณะทาง DNA

นอกจากเดินทางจากอัฟริกาขึ้นเหนือมายังยุโรป ก็ยังมีอีกกลุ่มที่เลี้ยวขวามาทางเอเชีย ลักษณะที่แตกต่างก็สร้างพัฒนาการเฉพาะกลุ่มตัวเองออกมาเป็นอีกสายหนึ่ง

ทฤษฏีพวกนี้ เป็นทฤษฏีที่โผล่มาพยายามอธิบายหลังจากที่นีแอนเดอธาลหลุดวงโคจรไป ซึ่งก็เมคเซนส์พอสมควรตรงประเด็นที่ว่า ในการวิวัฒนาการนั้นไม่ใช่ขั้นบันไดอย่างชัดเจน จะต้องมีการเหลื่อมและพัฒนาการคู่ขนานไปด้วยกัน แต่สายพันธุ์ใหนล่ะจะสามารถแข่งขันเอาตัวรอดต่อไปได้

ผมชอบเห็นคำถามประมาณนี้ครับ...
"ทำไมคนต้องมาจากลิงล่ะ จะพัฒนาการมาจากหมาได้มั้ย แล้วถ้ายอ่างนั้นทำไมเราไม่เฆ็นพวกหมาที่พัฒนาการมาแบบครึ่งคนครึ่งหมาบ้าง ถ้าทฤษฏีนี้เป็นจริง"
คำตอบก็คือต้องลบความเชื่อพื้นฐานก่อนว่าคนก็คือคนสัตว์ก็คือสัตว์การเป็นสิ่งมีชีวิตทรงอารยธรรมต้องมีหน้าตาแบบคน แต่หมาคงพัฒนามาได้ยาก อย่างที่เล่าไปแล้วว่าอะไรคือจุดเด่นที่ทำให้เราสามารถพัฒนาได้ง่ายและเร็วกว่าสายพันธุ์อื่นๆ

"ทำไมไม่เห็นมีลิงอื่นๆที่ทำได้คล้ายๆคนเลย ถ้าวิวัฒนาการมาจากลิงก็น่าจะยังมีลิงที่ยังไม่เป็นคนแต่ไม่ใช่ลิงเหลือสิ"
สิ่งมีชีวิตสองสายพันธุ์ที่ล้ำหน้าพอๆกัน แข่งขันกกันอย่างชัดเจน อยู่ร่วมกันไม่ได้ครับ ไม่ล้างบาง ก็ผสมกลืนกันซะ ลองคิดดูนะครับว่ามีมั้ยที่จะมีสองสายพันธุ์ที่แกร่งพอๆกันแบ่งปันพื้นที่กันอยู่?? นี่คือสาเหตุที่ทำไมสายพันธุ์อื่นๆหายไปหมดครับ เมื่อล้ำมาเท่ากันก็ต้องเหลือผู้รอดที่คงอยู่แค่หนึ่งเดียว

ที่สำคัญที่สุดนะครับ.... ถ้าสิ่งที่พบนั้นคือฟอสซิลของกลุ่มสิ่งมีชีวิตที่ต่อสู้ดิ้นรน อาศัยเป็นสังคมใหญ่ มีภาษา มีวัฒนธรรม มีการสร้างเครื่องมือเครื่องใช้ แม้ว่าจะขนรุงรัง หน้าตาดูไม่ได้ กรามเบื้อเร่อ เดินตัวค่อมๆหน่อย ผมก็ไม่ได้คิดว่าผมประเสริฐกว่าเค้านะครับ ผมก็เคารพเค้าพอๆกันแหละครับ ไม่เห็นเสียหายเลยถ้าจะนับฐาติกัน แต่จะนับได้หรือไม่ได้ก็อีกเรื่อง

แต่ก็ยังไม่เคยหาข้อยุติได้เพราะมันคือ"ทฤษฏี" กับ "สมมุติฐาน" ที่ในมุมมองของผู้เชื่อต่างไปก็มองว่ามันด้อยกว่าสิ่งที่คำภีร์ที่ทางเค้าเชื่อบันทึกเอาใว้ เพราะนั่นก็คือความจริงของผู้เชื่อเหล่านั้นเช่นกัน ดังนั้นเมื่อมีฐานของความจริงคนละอย่างกันแล้ว ก็คงยากจะเห็นสอดคล้องกันได้หมดทุกอย่าง

แต่ผมสงสัยจังว่านักประวัติศาสตร์ที่ค้นคว้าหาความจริงเหล่านี้ จะเข้าข่ายท้าทายพระเจ้าของพวกเค้ามั้ยนะ??

จากคุณ : rabbit&guide (rabbit&guide) - [ วันปีใหม่ 13:18:44 ]