ความคิดเห็นที่ 31
จำนง พิมาน ญาติของนายช้วนซึ่งเป็นทหารประจำค่ายทหารบกชุมพร พอได้รับข่าวร้ายเท่านั้น ส.อ.ห้วง พิมาน กับ ส.อ.จำนง พิมาน ได้รายงานผู้บังคับบัญชาขอลาและขออนุมัติติดตามล่าจระเข้ยักษ์โดยใช้อาวุธ ซึ่งผู้บังคับบัญชามีคำสั่งอนุญาต ในการออกเดินทางครั้งนี้นอกจาก ส.อ.ห้วง พิมาน กับ ส.อ. จำนง พิมานแล้ว ได้มีผู้ร่วมเดินทางไปปราบจระเข้ยักษ์อีก ๔ คน คืน ร.ท.ลิขิต จันทโรทัย ร.ท.มาโนช เขียนยาคำ ส.อ.ละออ นาคจิตติ และส.อ.ช่วน แปลงรอด โดยไปถึงเมื่อเวลา ๑๒ น.เศษ ขณะที่คณะล่าจระเข้ไปถึงได้พบว่า ชาวบ้านประมาณ ๑๐๐ กว่าคน พร้อมด้วยอาวุธปืน และฉมวกกำลังค้นหาจระเข้ยักษ์กับศพนายช้วน ตีแนวขนานทั้ง 2 ฝั่งคลองเขาปีบอย่างชุลมุน ซึ่งในที่สุดได้ค้นพบศพนายช้วนอยู่ใต้รากไม้ริมตลิ่งถูกไอ้ด่างจระเข้ยักษ์ลากไปขัดไว้ และไม่มีทางที่จะดึงออกมาได้ ต้องให้นักประดาน้ำดำลงไปใช้เชือกผูกศพแล้วใช้คนกว่า ๒๐ คนดึงอยู่พักใหญ่จึงลากศพนายช้วนมาได้ ปรากฏว่าศพนายช้วนไม่มีส่วนใดเหลือเป็นชิ้นดีให้เห็นเลยเพราะถูกจระเข้กัดกินด้วยความหิวกระหายกับถูกรากไม้ครูดจนจำแทบไม่ได้ ทุกคนได้แต่สังเวชและอนาถใจไปตาม ๆ กัน จากแหล่งที่พบศพของนายช้วนนั้นเอง คณะนักล่ากับชาวบ้านจึงรู้ว่า เป็นบริเวณแอ่งน้ำลึกหรือวังจระเข้เก่าที่ ไอ้ด่าง จระเข้ยักษ์ใช้เป็นที่หลบซ่อนและกบดานอยู่ในวัง พอรู้แหล่งซ่อนของจระเข้ยักษ์ คณะนักล่าแห่งค่ายทหารบกชุมพรได้ให้ชาวบ้านทุกคนหลบซุ้มอยู่บนตลิ่งแล้วใช้ระเบิดซี .3 หย่อนลงไปในบริเวณวังจระเข้ยักษ์เป็นนัดแรก เสียงระเบิดดังก้องสนั่นหวั่นไหวพร้อมกับน้ำพุ่งเป็นลำขึ้นสูงเทียมยอดตาลกลางลำน้ำ พอสิ้นเสียงระเบิดและสงบลงแล้วไม่ปรากฎว่ามีสิ่งหนึ่งสิ่งได้ลอยขึ้นมาเลย จากนั้นอีก ๑๐ นาที ส.อ.ห้วงได้ตัดสินใจทิ้งระเบิดซี.๓ นั้นที่ ๒ ตามลงไปในวังน้ำลึกนั้นอีก เสียงระเบิดครั้งที่ ๒ นี้เองทำให้ทุกคนเห็นพรายน้ำผุดขึ้นแล้ววิ่งพุ่งเป็นทางจากจุดระเบิดเหนือวังไปตามลำคลองด้านเหนืออย่างรวดเร็ว นั่นไอ้ด่าง หนีไปแล้ว เสียงคนร้องบอก ทำให้คนนับร้อยและคณะล่าจระเข้วิ่งไล่ตามทั้งสองฝั่งคลองไปอย่างกระชั้นชิด จนกระทั่งทุกคนเหนื่อยหอบ และได้พบว่าพรายน้ำผุดเป็นทางนั้นไปหยุดที่ริมตลิ่งที่มีน้ำลึกแค่เอว แต่ก่อนที่ใครจะทำอะไรต่อไป ส.อ.ห้วงได้สั่งให้ทุกคนหนีขึ้นตลิ่งก่อนแล้ว ส.อ.ห้วงได้ปีนขึ้นต้นตาตุ่มริมคลอง พร้อมเหวี่ยงระเบิดซี .๓ นัดที่ ๓ ลงไปในน้ำตรงบริเวณที่พรายน้ำวิ่งมาหยุดตรงนั้น การระเบิดครั้งที่ ๓ นี้ได้ผล เพราะแรงระเบิดตกถูกเป้าหมาย เป็นผลให้ส่วนหางของจระเข้โผล่ขึ้นก่อนลอยกระเพื่อมตามกระแสน้ำ บอกให้รู้ถึงการสิ้นอิทธิฤทธิ์ของ ไอ้ด่าง จระเข้ยักษ์แล้ว ทันใดนั้น ส.อ. จำนงได้ใช้ฉมวกพุ่งลงไปกลางส่วนหลังของไอ้ด่าง ซึ่งทำให้มันดิ้นพลิกขึ้นมาให้เห็นทั้งตัวแต่มันไม่สามารถจะอาละวาดต่อไปได้อีกแล้ว เพราะกระดูกสันหลังของมันหักด้วยอำนาจของแรงระเบิดซี .๓ ชาวบ้านจึงช่วยกับเอาเชือกมัดพันธนาการตัว ไอ้ด่าง และลากจระเข้จอมเพชฌฆาตแห่งลำน้ำขึ้นมาบนตลิ่ง ซึ่งไอ้ด่างอยู่ในสภาพร่อแร่เต็มที่ จากนั้นคณะล่าจระเข้ได้ใช้เชือกลากจระเข้ยักษ์จากคลองเขาปีบมุ่งไปยังตลาดอำเภอสวี แต่ระหว่างที่ลากมาในคลองนั้น ไอ้ด่าง ก็พลิกท้องบอกถึงการจบชีวิตปิดฉากอันโหดเหี้ยมของมันเสียก่อน มีผู้เชื่อว่าจระเข้ที่เคยปรากฏเมื่อ ๑๐ ปีที่แล้วเป็นตัวเดียวกับไอ้ด่าง เกี่ยวกับประวัติความดุร้ายของ ไอ้ด่าง จระเข้ยักษ์กินคนละแวกคลองบางมุดและคลองเขาปีบมี นายอุดม , นายอิน , นายเต็ก, นางรัด ,ด.ช.เลือน ทองมาก และนายช้วน พิมานเป็นศพที่ 6 โดยจระเข้ยักษ์ที่อาละวาดตั้งแต่ปี ๒๔๙๘ - ๒๕๐๐ ที่คลองเขาปีบโดยถูกกัดจนได้รับบาดเจ็บ ๕ คนคือสิบเอกห้วง พิมาน นายเฉียน พิมาน และนายสาย พวงมาลัย นายจวง และนายนิกูล เสียชีวิต ๑ รายคือนายจ๊ง สำหรับลักษณะของจระเข้ยักษ์ที่เรียกกันว่า ไอ้ด่าง นั้นเพราะเป็นจระเข้พันธุ์ ไอ้เคี่ยม ซึ่งเป็นจระเข้ตีนเป็ด หรือพันธุ์ทองหลาง ตัวดำเมื่อมสนิทมีสีขาวที่คอและตามตัวเวลามันโผล่ลอยตัวขึ้นมาเหนือน้ำนั้นจะมองเห็นสีขาวพาดที่บริเวณคอ ซากไอ้ด่างถูกนายไห้ แซ่เซ็งซื้อตัวไปในราคา ๒๓,๐๐๐ บาท ทำให้องค์การสวนสัตว์ชวดได้ตัวไอ้ด่าง จากการวัดจากซากของไอ้ด่าง มีความยาวจากหัวถึงหาง ๔.๒๕ เมตร รอบตัว ๑.๗๕ เมตร เล็กกว่าถังน้ำมัน ๒๐๐ ลิตร ๗ นิ้ว จากหัวถึงคอ ๒๕ นิ้ว อ้าปากกว้าง ๒๐ นิ้ว การชำแหละไอ้ด่างเพื่อทำสต๊าฟฟ์ไว้ เมื่อผ่าลงไปในท้องก็พบกระดูกในท้องไอ้ด่างมากมาย และยืนยันได้ว่ากินคนแน่ ปรากฎว่าหลังจากการผ่าชำแหละซากแล้ว ได้พบแผลเห็นได้อย่างชัดเจนในซาก ไอ้ด่าง จระเข้ยักษ์ดังนี้
จากคุณ :
สุรินกรรมพู
- [
3 ม.ค. 52 21:20:58
A:124.121.181.206 X:
]
|
|
|