ความคิดเห็นที่ 2 ไม่เชื่อ เหตุผลเพราะ พิสูจน์ไม่ได้ จากคุณ : หนุ่มแว่นเร้าใจ - [ 23 ส.ค. 51 14:08:39 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เชื่อ เพราะยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าไม่มี **แก้คำผิด แก้ไขเมื่อ 23 ส.ค. 51 14:32:39 จากคุณ : Mc>Punk-Rock - [ 23 ส.ค. 51 14:32:12 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ถ้ามีชีวิตหลังความตาย สงสัยสสารล้นโลก จากคุณ : Sarani - [ 23 ส.ค. 51 15:03:27 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ลองคิดดูครับ คนเราคิดเพียงว่า หลังตายแล้ว ความรู้สึกนึกคิดจะเป็นคนปรกติ ร่างกาย(กายทิพย์ ถ้ามี)คือเราคิดแค่คนปกติที่ตาย คนศาสนาอื่นตายแล้วไปไหน เด็กในท้อง 4 เดือนตายแล้วไปไหน เด็กปัญญาอ่อนตายแล้วไปไหน คนพิการ ทั้งปัญญา และร่างกาย ตายแล้วไปไหน คนแก่อายุ 100 ปี ความจำเลอะเลือน ตายแล้วไปไหน สัตว์เซลเดียว -> หลายเซล ตายแล้วไปไหน etc...  ตายแล้วไปไหน จากคุณ : AbsolutelyTop - [ 23 ส.ค. 51 15:19:56 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ต้องลองฆ่าตัวตายก่อน มั้ง สำหรับเรา พูดยากน่ะ บอกไม่ถูกเหมือนกัน จากคุณ : Choco-Mix - [ 23 ส.ค. 51 15:21:40 ]

ความคิดเห็นที่ 7 อย่าประมาทนะครับและต้องรู้จักบริหารความเสี่ยงไว้ด้วย ถ้ามีจริงละก็ ตอนนั้นใครจะช่วยเราได้ ถ้าเราไม่ได้เตรียมตัวไว้ จากคุณ : กาลัง กัตวา - [ 23 ส.ค. 51 15:39:06 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เชื่อไว้ก่อนจ่ะถึงไม่มีก้อไม่เป็นไร ดีกว่าถ้ามีจริงแล้วไม่เชื่อ จากคุณ : i love my boss - [ 23 ส.ค. 51 15:40:56 ]

ความคิดเห็นที่ 9 อาจมีหรือไม่มีก็ได้ จากคุณ : -->+:+โชยุ&วาซาบิจัง+:+<-- - [ 23 ส.ค. 51 16:47:03 ]

ความคิดเห็นที่ 10 แล้วถ้าอย่างนั้นการมีชีวิตคืออะไรละ จากคุณ : meddy hao - [ 23 ส.ค. 51 17:26:09 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ถ้าความตายคือความว่างเปล่า แล้วความว่างเปล่าคืออะไรล่ะครับ....... ถ้าเราตายแล้วรู้สึกถึงความว่างเปล่าจริง นั่นก็ไม่ใช่ความว่างเปล่าน่ะสิครับ เพราะเรายังมีความรู้สึกถึงความว่างเปล่าอยู่นี่เอง...... ผมว่าคิดแล้วปวดหัว เลิกคิดดีกว่าครับ...... จากคุณ : Sakurachan (Tomoeda) - [ 23 ส.ค. 51 17:32:19 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ทฤษฎีของผมคือ สมมติว่าเมื่อ 100 ปีก่อนมีประชากร 5 พันล้านคน (สมมติตัวเลขนะ) ปัจจุบันมี หมื่นล้านคน อีก 100 ปีมีประชากร 2 หมื่นล้านคน ถ้าตายแล้วเกิดใหม่แสดงว่าวิญญาณต้องปั๊มตัวเองได้ ประชากรโลกถึงได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ผมเชื่อหลักศาสนาพุทธที่ว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ทำดีอย่างไรจิตใจก็เป็นสุขครับ จากคุณ : chaiwaru - [ 23 ส.ค. 51 17:58:17 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ไม่เชื่อ เพราะ ไม่มีการทดลองซักครั้งเดียวที่พิสูจน์ว่ามีจริงหรือแย้งว่ามีจริง จากคุณ : Medengin@ - [ 23 ส.ค. 51 18:56:55 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ที่จริงทดลองอยู่ทุกลมหายใจ ใครมองทันก็จะเห็นตัวอวิชชานำไปเกิดทุกขณะจิตอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องรอตอนตายถึงรู้ โลภ โกรธ หลง ที่จะเกิดตอนวันนี้หรือพรุ่งนี้ มันมาจากไหน แล้วมันหายไปไหน ลองสังเกตดูสิ จากคุณ : หลับตา - [ 23 ส.ค. 51 19:41:11 A:58.64.64.147 X: TicketID:173601 ]

ความคิดเห็นที่ 16 อ่านะ มันพ้นความเชื่อไปแร้ว ข้อพิสูจน์มีมากจนเฝือ ยังมาถามกันอีก จากคุณ : ปู่ (thaimusa) - [ 23 ส.ค. 51 20:12:32 ]

ความคิดเห็นที่ 17 .....    เชื่อ จากคุณ : DR บ๊อง - [ 23 ส.ค. 51 20:45:19 ]

ความคิดเห็นที่ 18 จะมีจริงหรือไม่ ไม่อยากรอใครมาพิสูจน์เพราะรอกันตัวเราตายไปแล้ว ก็คงจะยังไม่มีใครพิสูจน์ได้ ขอเชื่อมั่นในความคิดตัวเองดีกว่าว่า เชื่อครับ จากคุณ : -=เหมือนจะใช่=- - [ 23 ส.ค. 51 20:47:26 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ถ้าผมตาย ผมจะไปสิงที่ห้องอาบน้ำพอลล่า ... จากคุณ : Walking in the Sunshine - [ 23 ส.ค. 51 21:01:44 ]

ความคิดเห็นที่ 20 กลับสู่ดิน. . . วนเวียนพลังงานสู่ระบบนิเวศ จากคุณ : ปีกแห่งรัก - [ 23 ส.ค. 51 21:08:04 ]

ความคิดเห็นที่ 21 คห.16 ข้อพิสูจน์ ว่างัยเหรอครับ จากคุณ : back room - [ 23 ส.ค. 51 22:22:45 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ไม่เชื่อ ไร้สาระ เหมือน คห. 20 ไม่ได้ไปไหนหรอก กลับสู่ดิน แค่นั้นแหละ จากคุณ : ^oio^ - [ 23 ส.ค. 51 23:55:38 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เชื่อหรือไม่ ไม่ได้ทำให้ความจริงเปลี่ยนคับ ความเชื่อในเรื่องนี้ มีความแตกต่างมาตั้งแต่ ยุคเริ่มแรก จะพิสูจน์เรื่องมนุษย์ต่างดาว ยังยากกว่าเรย พื้นๆมาก ขอบอก จากคุณ : thaimusa - [ 24 ส.ค. 51 00:03:34 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เห็นด้วยกับเหตุผลของอีกหลาย ๆ ท่านที่ไม่เชื่อครับ ผมก็เชื่อว่าตายแล้วสูญ เพียงแต่เวลาที่จิตใจอ่อนแอ (สูญเสียสิ่งรัก, ขาดความรัก, หมดที่พึ่งทางใจ, ประสบกับคนที่ทำร้ายเรา) ก็จะคิดถึงเรื่องเหนือธรรมชาติ เช่น ผีหรือการทำนายทายทัก ประการแรกก็คือการวนใช้สสารและพลังงานแหละครับ รวมทั้งการรียูสวิญญาณที่หลาย ๆ ความเชื่อ มีเหตุผลมาแย้งได้ง่าย ๆ ขณะที่ผมกำลังนั่งเฉย ๆ อยู่ในห้อง ไรฝุ่นก็กำลังกินเศษผิวหนังของผมที่หลุดร่วงอยู่ในห้อง และให้กำเนิดชีวิตใหม่จากสสารและพลังงานที่ได้รับ ตามพระพุทธศาสนาก็คือ ทุกอย่างเป็นอนัตตาครับ แต่ของผม แม้กระทั่งวิญญาณ (ของขันธ์ 5) ก็คือสมองของเรานี่เอง ส่วนอะไรที่ดูเหมือนจะนอกเหนือจากการควบคุมของสมอง ก็มาจากฮอร์โมนในร่างกายน่ะแหละครับ ชีวิตเรามีชีวิตเดียว รักษามันให้ดีและใช้ให้คุ้มครับ ให้คุ้มในที่นี้คือทำเพื่อโลกด้วยนะ ไหน ๆ เค้าก็สร้างเราขึ้นมาให้สัมผัสกับความงามและรสชาติต่าง ๆ ของการมีชีวิตแล้ว ถ้าจะต้องสูญเสียหรือตายไป ก็อย่าไปยึดติด สมองเราล้วนสมมุติมันขึ้นมาเอง จะกลัวไปไย สัตว์ทั้งหลายยังไม่คิดมากเลย บางทีผมก็เสียดายนะชีวิต แต่บางทีก็ปล่อยวางได้อย่างดูไร้ความรับผิดชอบมาก จากคุณ : โหมด: เพ้อเจ้อ (RealWorld) - [ 24 ส.ค. 51 04:44:45 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ประสิทธิภาพการทำงานของเซลล์ลดลง พลังงานที่รับเข้ามาก็เอาไปใช้ประโยชน์ไม่ได้ ก็กินน้อยลง รับพลังงานน้อยลง จนเซลล์หยุดทำงาน มวลสารคืนกลับสู่ระบบ เป็นแหล่งพลังงานให้สิ่งอื่นๆ ต่อไป ผมมองในแง่ของ energy, mass, momentum conservation แล้วก็ทฤษฎีวิวัฒนาการของ Dawin การรับรู้ ความรู้สึกผมว่ามันก็หมดไป สิ่งพวกนี้วิวัฒนาการมันเป็นตัวสร้างขึ้นมา การคิดได้ มีสมองที่ดี จุดประสงค์ก็คือการให้แน่ใจว่าเผ่าพันธุ์จะคงอยู่ต่อไป ถ้ามองคนก็คือสิ่งมีชีวิตที่แค่มาอาศัยอยู่บนโลกนี้ชั่วคราว และยอบรับความจริงที่ว่า ยังไงซักวันคนก็จะหายไป สิ่งมีชีวิตมันมีจุดเริ่ม และจุดจบ เพราะการที่มีสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวครอบครองระบบเป็นเวลานานๆ มันไม่เป็นผลดีต่อตัวระบบ วันนึงอาจถูกกำจัดโดยสิ่งมีชีวิตชนิดอื่น เช่น ไวรัส แบคทีเรีย ฯลฯ ที่คนเราเรียกว่าโรคระบาด คือต้องอย่าลืมว่าไม่ใช่แค่เราที่วิวัฒนาการ หรืออาจจะถูกกำจัดโดยธรรมชาติที่เปลี่ยนไปจากปริมาณของสิ่งมีชีวิตบางชนิดที่มากเกินไป ประสบการณ์ต่างๆ ที่ได้ยิน ล้วนมาจากคนที่เคยตายไปช่วงหนึ่ง น่าเชื่อขนาดไหน? หากจังหวะนั้นเซลล์สมองกำลังจะตาย ระบบไฟฟ้าทำงานรวนๆ ผมว่าการเห็นภาพต่างๆ น่าจะเกิดจากการกระตุ้นของสมองในเฮือกท้ายๆ พยายามรับอ๊อกซิเจนที่เหลืออยู่ให้มากขึ้น ตอนนั้นสมองควบคุมตัวเองมันทำงานอัตโนมัติเพื่อให้เซลล์อยู่รอด และก็ไม่แปลกที่มีเรื่องเล่าว่าคนที่ตื่นจากความตายมักจะหิวน้ำ เพราะระบบเซลล์มัน consume แหล่งพลังงานไปเยอะเพื่อรักษาสภาพ คำถามคือ เชื่อเรื่อง ชีวิตหลังความตายมั้ย ถ้า"ชีวิต"เป็น function ของ พลังงาน กับ เวลา ผมว่ามันไม่มีเกิด ไม่มีตายครับ มันก็แค่การเปลี่ยนรูปของ มวล-พลังงาน เรื่อยไป ตาย=เกิด เกิด=ตาย ชีวิตมันว่างเปล่าครับ จากคุณ : B. - [ 24 ส.ค. 51 08:24:44 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ที่มีเรื่องเล่าต่อเนื่องก็มีมากมายทั้งในเว็ปไทย และเทศ แต่ทำความดีไว้ มีแต่กำไรชีวิต ตายไปไม่มีขาดทุน จากคุณ : jesse - [ 24 ส.ค. 51 11:38:47 A:124.157.153.64 X: ]

ความคิดเห็นที่ 27 เอางี้...ง่ายๆ เคยมีจราจร มาดักจับความเร็วรถหลังพุ่มไม้ เพื่อนผมมันบอกว่า มาดักจับหลังพุ่มไม้ทำไมฟ่ะ อย่างงี้คนมันก็ยังขับเร็วอยู่ดี เพราะมันไม่เห็นจราจร ส่วนอีกคนก็บอกว่า ถ้าตำรวจไม่แอบ คนขับมันเห็นจราจรแต่ไกล มันก็ไม่ขับเร็ว แต่ถ้าคนที่ประพฤติตัวดีไม่ขับเร็วอยู่แล้วมันก็ไม่โดนจับหรอก เค้าแอบหลังพุ่มไม้ เพื่อสั่งสอนจับคนที่มันมีเจตนาขับเร็วจริงๆ แล้วความคิดเห็นที่ 12 ที่ว่าประชากรโลก เพิ่มขึ้นเป็นหมื่นล้าน แล้ววิญญาณปั๊มตัวเองได้ เราไม่ได้เป็นภพภูมิเดียวนะครับ ภพภูมิอื่นก็มี จากภพอื่น มาเกิดในโลกมนุษย์ก็มี จากโลกมนุษย์ ไปเกิดในภพอื่นก็มี จากโลกมนุษย์ มาเกิดบนโลกมนุษย์อื่นก็มี เคยเห็นเด็กเกาหลีตาบอด Yoo Ye-eun อายุ 5ขวบ เล่นเปียโนอย่างเซียนโดยไม่มีใครสอนใหมครับ ลองไปดูในyoutube ละกัน ถึงยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ ก็จงคิดซะว่ามีคนจ้องมองเราอยู่หลังพุ่มไม้เหมือนตำรวจละกัน จงตั้งอยู่ในความไม่ประมาทเถอะ จากคุณ : Luxor - [ 24 ส.ค. 51 13:16:13 A:24.131.200.191 X: TicketID:183094 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เชื่อครับว่าตายแล้วยังไม่จบ เพราะผมเป็นชาวพุทธ เชื่อในเรื่องกฏแห่งกรรม ทำอะไรไว้ย่อมได้รับในสิ่งนั้น และผมเชื่อด้วยว่า วิทยาศาสตร์ ไม่ได้ให้คำตอบในทุก ๆ สิ่ง อะไรที่วิทยาศาสตร์พิสูจน์ไม่ได้ ไม่ได้หมายความว่าไม่มี แม้สิ่งที่พิสูจน์ได้แต่ต่อมามีผู้นำสิ่งอื่นมาหักล้าง ก็ต้องเปลี่ยนตาม ? "วิทยาศาสตร์ไม่ได้วิเศษขนาดพอที่จะเอามายึดติดกับชีวิตหรอกครับ" จากคุณ : จอมยุทธตะเกียบคู่ - [ 24 ส.ค. 51 17:31:28 ]

ความคิดเห็นที่ 30 โหวตแล้วค่ะ ชีวิตหลังความตายไม่รู้ว่ามีจริงหรือเปล่า แต่เชื่อเรื่องพลังจิต จิตใต้สำนึกสุดท้าย จากคุณ : อยากจะเป็นแฟนคลับ (รัลชา) - [ 24 ส.ค. 51 20:18:17 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ไม่เชื่อ เพราะชีวิตหลังความตายไม่มีประโยชน์ . . . จากคุณ : ไม่มีสมาชิกชื่อนี้ - [ 24 ส.ค. 51 21:51:54 ]

ความคิดเห็นที่ 32 สิ่งมีชีวิตเมื่อตายลงไปก็เป็นสิ่งที่ไม่มีชีวิต ทิ้งซากเน่าย่อยสลาย ถูกสัตว์เล็กใหญ่กินและขับถ่ายลงดิน หรือไม่ก็ถูกเผาเป็นผงเถ้า นานไปก็รวมอยู่กับดิน ตรงไหนที่เรียกว่าชีวิตหลังความตาย จขกท น่าจะหมายถึงว่ามีสิ่งใดของผู้ตายหลงเหลืออยู่มากกว่า ถ้าถามว่ามีสิ่งใดของผู้ตายหลงเหลืออยู่ก็จะรู้ได้กับคนที่รู้จักคุ้นเคยหรือมีความผูกพันธ์ด้านจิตใจกัน เช่นพ่อแม่ตายลูกที่มีความผูกพันธ์ทางจิตใจกับพ่อแม่ก็จะรู้ได้ว่าความรู้สึกของตัวลูกต่อพ่อแม่ยังมีอยู่แม้ร่างกายของพ่อแม่จะตายไปแล้วก็ตาม จิตใจเป็นเรื่องของความประทับใจไม่ใช่แค่เนื้อสมอง ไม่ใช่สสาร แต่น่าจะเป็นพลังงานอย่างหนึ่ง กระบวนการทำงานของร่างกายของผู้ที่มีจิตใจดีงามประกอบด้วยคุณธรรม กับกระบวนการทำงานของร่ายกายของผู้มีจิตใจเลวทราม ต่างกัน คนอย่างแรกจังหวะการเต้นของห้วใจจะเสถียรกว่า(ไม่ขึ้นๆลงๆมาก) และเมื่อเขาได้รับการยอมรับทางสังคมเขาก็จะพึงพอใจทางอารมณ์ ส่งผลให้ร่างกายได้รับฮอร์โมนความสุขหลั่ง กับกลุ่มคนประเภทหลังที่การเต้นของหัวใจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นๆลงๆสูงร่างกายหลังสารเพิ่มความเครียด ทำให้ไม่สบายใจฝังรากลึก แม้แต่ตัวเองยังเกลียดตัวเองแล้วจะได้รับความสุขจากคนอื่นรักได้อย่างไร ชีวิตเป็นเพียงเครื่องมืออย่างหนึ่งแต่จิตใจต่างหากสำคัญกว่าครับ มีชีวิตอย่างเป็นสุขหรือเป็นทุกข์ตัวเราทำเองนะครับ ตายไปแล้วคนรักหรือตายไปแล้วคนเกลียดชังเราก็เป็นคนทำเอง ตายแล้วคนรักจิตใจน่าจะเป็นสุขนะผมว่า และสิ่งนี้แหละที่เรียกว่าไม่สูญมิใช่หรือ จากคุณ : นิดหน่อย - [ 25 ส.ค. 51 12:38:33 A:10.32.26.5 X:202.57.190.52 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ตอบ เชื่อ จากคุณ : ปฏิจจสมุปบาท (ปฏิจจสมุปบาท) - [ 25 ส.ค. 51 21:40:39 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ไม่เชื่อ จากคุณ : the last wizard of the century - [ 26 ส.ค. 51 20:26:21 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณทุกความเห็นดีดี นะครับ .. ตัวเลือกที่ตั้งไว้  มีเชื่อกับไม่เชื่อ ซึ่งจริงๆแล้ว อาจกล่าวได้มั้ยว่า ยังไม่มีใครรู้แน่ชัด ดังนั้นคำถาม จึงเป็นเรื่องของความเชื่อ  ที่อยากได้เหตุผลสนับสนุน จึงเป็นที่มาของการตั้งกระทู้นี้ ในห้องหว้ากอ เหตุที่อยากได้ทรรศนะของ เพื่อนๆในห้องหว้ากอ เนื่องจากผมเชื่อเอาเองว่า ชาวหว้ากอมีเหตุผล  และมั่นคงในอารมณ์สูง ก็อย่างที่บอกปกติผมเล่นอยู่ห้องอื่น เมื่อมีปัญหาก็เข้ามาพึ่ง เพราะการพลัดพรากนั้นเป็นทุกข์ ดีใจที่แทบจะทุกความเห็น ไม่ดูแคลนผมว่าเขลา และแทบทุกความเห็นของ ชาวหว้ากอ ให้ความเป็นมิตรกับผม  สอนให้ผมรู้คุณค่าของชีวิต และ ประพฤติในสิ่งที่ควรประพฤติ                        ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ.. แลธหากจะกรุณา ผมยังอยากได้ทรรศนะอีกเรื่อยๆนะครับ จากคุณ : back room - [ 27 ส.ค. 51 01:39:16 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ตามมาดู จากคุณ : secondpage - [ 27 ส.ค. 51 02:02:43 ]

ความคิดเห็นที่ 37 *-*/*-*/*-*/ ในที่สุดการทดลองขับ (แยกกันขับสัปดาห์ละคัน) ของ Wish - Stream - Zafira ก็เสร็จสักที.../*-*/*-*/*-*/ เหนื่อยและเพลียไม่น้อยเหมือนกันครับ ขอออกตัวไว้ก่อนว่า นี่ "ไม่ใช่การทดสอบเปรียบเทียบ Comparision เต็มรูปแบบ" ซึ่งควรจะมีการชั่งน้ำหนัก เอาขึ้นไดโนเทสต์ ฯลฯ มาประกอบด้วย เนื่องจากใช้วิธีแยกทดลองขับ ทีละคัน และทดลองโดยใช้สภาพการณ์ที่ใกล้เคียงกันมากที่สุดเท่าที่ทำได้ เพราะเวลา และสภาพชีวิตของผมไม่เอื้ออำนวย ให้เอารถทั้ง 3 คัน คันละล้านกว่าบาท มาจอดเก็บไว้บ้านพร้อมๆกัน แล้วงานนี้ ผมลุยเองโดยได้รับความร่วมมืออย่างดีจาก ฝ่ายพีอาร์ของทั้ง 3 ค่ายรถ ทั้งพี่เรวดี และพี่อ๊อดจากฮอนด้า ทั้งพี่แน็ต และพี่แข รวมทั้งพี่แมน จากโตโยต้า และพี่บอย กับตาคาร์ลอส จาก จีเอ็ม (ที่เรียกว่า ตา เพราะอายุเท่ากันเป๊ะ) รวมทั้งความช่วยเหลืออย่างประเสริฐยิ่งจากเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ หลายๆคน ที่ช่วยผมทำมันออกมาจนเสร็จสิ้นไปได้ด้วยดี ไม่ว่าจะเป็นน้ากล้วย 910-ผู้ช่วย และผู้ที่ทำให้รถสะอาดเอี่ยมอ่องทั้ง 3 คัน , น้องเนย มาสด้าคลับ-ช่างภาพ,น้องแพท ช่างภาพ และที่ขาดไม่ได้ นายหนึ่ง...คนที่ละเอียดถี่ยิบกับทุกรายละเอียด จนผมยังอึ้งว่า มีคนบ้ารถมากกว่าผมอีกเหรอเนี่ย? แต่ผลที่ได้ ออกมาตามที่พึงพอใจครับ ดังนั้น ขอเรียกมันว่า First impression เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมาแล้วกันครับ งานนี้มีวัดขนาดห้องโดยสารด้วย แต่ ขอเวลารวบรวมและเรียบเรียงหน่อยแล้วกันนะครับ ที่พอจะบอกได้ในตอนนี้ มีอย่างเดียวที่พอจะเกริ่นได้ครับ อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงครับ วัดตามมาตรฐาน 110 กิโลเมตร/ชั่วโมง เปิดแอร์ นั่ง 2 คน + จักรยาน 1 คัน เพื่อถ่วงน้ำหนัก เติมน้ำมันจากพระราม 9 วิ่งตรงเข้า มอเตอร์เวย์ จบที่ หน้าสนามพีระฯเลี้ยวกลับตรงเข้าปั้มเดิม ระยะทางประมาณ 250 กิโลเมตร Zafira - 12.51 km/L Wish - 12.27 km/L Stream - 12.02 km/L จากที่ผมได้ทดลองขับทั้ง 3 คันแล้ว ซาฟิรา นั้น แน่นอนว่า การอยู่ในตลาดมานานกว่าใคร ย่อมทำให้เสียเปรียบค่แข่งที่มีความสดใหม่กว่า อย่างไรก็ตาม ซาฟิราเองก็ยังสามารถยึดเหนี่ยวใจ ของลูกค้าที่ชอบความมั่นใจในการขับขี่ ด้วยระบบกันสะเทือน และระบบเบรกที่ให้การตอบสนองได้เอาใจคุณพ่อบ้าน นักขับไม่น้อย เว้นเสียแต่ว่า ห้องโดยสารมีขนาดเล็กไปสักหน่อยเมื่อเทียบคู่แข่ง c]tตำแหน่งพวงมาลัยนั้น เงยมากเกินไป ใครที่คิดจะซื้อแนะนำว่า ควรทดลองขับ เพราะเป็นจุดเดียวที่จะตอบใจตัวคุณเองได้ว่า คุณรับได้กับท่านั่งขับลักษณะของซาฟิรา หรือไม่? เพราะถ้าคุณรับได้ ซาฟิรา ก็เป็นรถที่เหมาะกับคุณครับ ---------------------- วิช แน่นอนว่า สมบูรณ์สุด จนผมเองไม่ทราบว่าจะหาข้อตำหนิตรงไหน เพราะมันเป็นรถที่ออกแบบมาได้เอาใจนักขับเป็นหลัก และให้ความรู้สึกที่ใกล้เคียงรถเก๋งมากกว่าใคร เพราะตำแหน่งเบาะจะอยู่ใกล้พื้นรถมากกว่าทั้งสองคัน ท่านั่งขับจึงใกล้เคียงรถเก๋งมากกว่า เครื่อง ให้เสียงที่จัดจ้านพร้อมอัตราเร่งที่สมตัว เกียร์ทำงานนุ่มนวลมากแทบไม่กระตุกเลย แต่ไม่ได้มาในสไตล์นุ่มนวลอย่างสตรีม ช่วงล่างกับเบรกดีมาก แต่อาจจะไม่แน่นเท่ากับซาฟิรา มันเหลื่อมล้ำกันประมาณนิดเดียวครับ นิดเดียวจริงๆ แต่อย่างน้อยผมก็หาเจอข้อที่ควรปรับปรุงอีกนิดบ้าง ซึ่งก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าเสียงยางที่ดังมากไปเนื่องจากเป็นยางซีรีส์ต่ำ และมีดอกยางค่อนข้างเยอะ การรับแรงสะเทือนจากพื้นถนน คมชัดมาก และเอาใจลูกค้าที่ เป็น "นักขับ" ได้อย่างแน่นอน หากใครที่ชอบความนุ่มนวล อาจต้องทำใจบ้างเล็กน้อย ส่วนเบาะแถวกลางนั้น โดยส่วนตัวผม ผมรับได้กับการที่วิชจะมี 6 ที่นั่ง แต่จะดีกว่านี้ ถ้าโตโยต้า จะตัดสินใจทำตามเสียงเรียกร้องของผู้บริโภค ที่น่าจะมีรุ่น 7 ที่นั่ง (เบาะแถวกลางยาวติดกัน) มาให้เลือกด้วย ---------------------- ในขณะที่สตรีม ซึ่งเอาใจคนรักครอบครัว ที่ชอบการขับขี่แบบนุ่มสไตล์ผู้ใหญ่ สักหน่อย ก็มีจุดเด่นในตัวเอง ชนิดที่จะว่าไปแล้ว หากตัดในเรื่องคุณภาพการประกอบของโรงงานที่อินโดนีเซียที่ยังต้อง ค่อยๆปรับปรุงกันไปเรื่อยๆ ออกไปแล้ว ไม่ว่าใครก็ไม่อาจบอกว่าสตรีมเป็น "ม้านอกสายตา" ได้เต็มปากนัก เพราะ ในขบวนทั้ง 3 คันนี้ เครื่อง K20A ให้อัตราเร่งที่ดี แต่ขึ้นในสไตล์นุ่มๆ เกียร์เปลี่ยนราบเรียบมากๆจนไม่รู้สึกเลย ตอบสนองดีที่สุดใน 3 คันที่ขับมา ถ้าจะให้ผมเลือกจริงๆแล้ว ผมอยากจะได้ เครื่อง +เกียร์ ของ สตรีม (หรือวิชก็ได้ แม้จะ คนละอารมณ์กันก็ตาม) พร้อมช่วงล่าง + เบรก ของซาฟิรา วางลงในตัวถังแพ็กเก็จจิงและห้องโดยสารของ วิช... รายละเอียดแบบเต็มๆ อดใจรออีกนิดครับ ผมเริ่มทะยอยสรุปเพื่อปิดต้นฉบับอยู่ครับ ลงเล่มเดือนไหน ยังไม่ทราบจริงๆครับ จากคุณ : JIMMY - [ 14 ก.พ. 47 23:30:19 ] จากคุณ : the last wizard of the century - [ 27 ส.ค. 51 03:57:56 ]