ความคิดเห็นที่ 1 แต่คนส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะเชื่อและปฏิบัติตามศาสนา ตอบแบบกำปั้นทุบดิน ก็ศาสนา เขามีไว้ให้เชื่อ คนส่วนใหญ่เชื่อ ด้วยเหตผลต่างกัน เช่น เชื่อตามครอบครัว เชื่อเพราะมีประสบการณ์ชักนำ เชื่อเพราะ เห็นว่าดี และที่มากสุด น่าจะเชื่อเพราะ ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่ จิตวิทยา ต้องเรียน ต้องเป็นคนขยันอ่าน (ซึ่งมีน้อย) ต้องมีความสนใจ และ ความรู้ทางจิตวิทยา ก็เพิ่งมีมาไม่นานและยังไม่ชัดเจนรบถ้วน อย่างนี้จะไม่น้อยได้ไง จากคุณ : sb*star - [ 24 ส.ค. 51 02:10:38 ]

ความคิดเห็นที่ 2 มันเป็น Empirical Theory หรือเปล่า แบบว่าไม่ได้เป็ฯ Fact น่ะครับ จากคุณ : helldiver - [ 24 ส.ค. 51 02:49:12 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ศาสนามันเป็นแก้วสารพัดนึกครับ สามารถใช้เรื่องที่เกี่ยวข้องกับศาสนาตอบเรื่องราวต่างๆของมนุษย์ได้ดีกว่าน่ะครับ จากคุณ : Sillything - [ 24 ส.ค. 51 02:54:46 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ผมว่ามันไม่ได้มีจุดอ่อนหรอก แต่คนเราไม่ค่อยได้รับรู้เรื่องจิตวิทยานี้เท่าไหร่ ถึงรับรู้ก็ไม่ใช่ทางตรง บางครั้งเรื่องศาสนามันก็คือจิตวิทยา แต่เราคิดว่ามันคือความศักดิ์สิทธ์ เช่น เราป่วย เราไปหาพระ พระทำพิธีบอกว่าเราหายชัวร์ ให้ทำบุญบ่อยๆ >>> เราเชื่อว่าเราหาย เรามั่นใจว่าเราหาย >>> สุขภาพจิตเราดีขึ้น >>> สุขภาพกายเราดีขึ้น >>> เราหาย >>> เราเชื่อว่าเพราะพระ เพราะเราทำบุญ เราถึงหาย (ทั้งที่เราอาจจะกินอย่างอื่นของหมอไปด้วย) จากคุณ : อย่ามาห้ามผม - [ 24 ส.ค. 51 03:04:06 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เอาตามความเข้าใจก็คือ  พอดีเคยได้ฟัง ท่านอาจารย์ ตอบปัญหา ธรรมะ ทางวิิทยุ เลยได้ฟังงท่านได้อธิบาย จิตวิทยาศึกษา เรื่องทางจิต ศึกษาโดยนักวิทยาศาสตร์ ผู้ซึ่งยังเต็มไปด้วย (กิเลส รักโลภโกรธหลง)ทั้งหลายทั้งมวล ยังไม่พ้นจากกองทุกข์ทั้งมวล เช่น เดียวกับปุถุชนทั่วไป ที่ยังครอบคลุมไปด้วยอวิชชา (ความไม่รู้) (การศึกษาจะต้องมีการใช้เครื่องมือพิเศษเพื่อตรวจสอบ มีหลักฐาน มีการตั้งสมมติฐาน ทดลองซ้ำๆ ผลที่ได้จากการทดลองสามารถพิสูจน์ได้เป็นต้น) แต่ในทางกลับกัน เรื่องทางศาสนา ไม่สามารถพิสูจน์ได้ โดยเครื่องมือ ทางวิทยาศาสตร์ ว่าจิตนั้นทำงานอย่างไร แต่โดยแท้ที่จริงแล้ว จิต ต้องอาศัยจิต เป็นตัวรับ ซึ่งเครื่องมือ ทางวิทยาศาสตร์ ยังห่างไกล จากการเป็นรีเซฟเตอร์ ในระดับจิตได้ ศาสนา เป็นหนทางรอด จากวัฏฏสงสาร กำจัดทุกข์ได้อย่างสิ้นเชิง (สำหรับผู้ที่กำจัดอวิชชาได้หมดสิ้น) (พระพุทธ) ได้พบหนทางการกำจัดกิเลส ให้หมดสิ้น ทุกข์ ก็หมดไป ยกตัวอย่างคุณไปหาจิตแพทย์ เพราะว่า คุณมีปัญหา (จิตตก) เป็นต้น แต่คุณคุยปัญหากับจิตแพทย์ คุณกลับบ้าน คุณรู้สึกดีขึ้น แต่ วันรุ่งขึ้น คุณทุกข์อีก เพราะคุณกลับไปที่ทำงาน คุณไม่มีคนยอมรับ ทะเลาะกับเจ้านาย คุณไปหาจิตแพทย์อีก คุณหายทุกข์ ณ ขณะนั้น วันนั้น แต่พุทธศาสนา แนะทางรอด จากทุกข์ ทั้งมวล เมื่อคุณรู้ ว่าปัญหาทั้งปวงมันเกิดจาก กิเลส โดยมีอวิชชาเป็นเครื่องกางกั้น (อวิชชาก็คือ ความไม่รู้อริยสัจ ๔ :ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค) เหมือนความเห็นที่สองพุทธะ เป็นแฟค เป็นสัจจธรรม เป็นจริง เป็นหนึ่งไม่มีสอง ศาสนา ได้สอนวิธี ละกิเลส (พิจารณา วิปัสสนา ตามดูรูป ให้เป็นไปตามกฏไตรลักษณ์) เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ (รูปดับ นามดับ) ส่วน นักจิตวิทยา (ไม่ได้ ทำให้เกิดการหลุดพ้น  จากทุกข์ทั้งปวง) แม้แต่ท่านเป็นนักจิตวิทยา (ท่านก็ยังมีทุกข์อยู่เช่นเดียวกัน เหมือนปุถุชนท่านอื่น หนีไม่พ้น ทุกข์ ->>เกิด แก่ เจ็บ ตาย (เป็นต้น) เหล่านี้ล้วนทุกข์(ทั้งสิ้น) พุทธะ มีหลักกาลามสูตร (ไม่ให้เชื่อ) ให้พิสูจน์ ด้วยตนเอง ขอให้เกิดศรัทธา แล้วอยากที่จะศึกษาต่อ อยากพิสูจน์ด้วยตัวเอง จากคุณ : pikulkeaw - [ 24 ส.ค. 51 05:18:58 ]

ความคิดเห็นที่ 6 แค่อายุ ก็ต่างกันมากแล้ว ^^ จากคุณ : nutxnut - [ 24 ส.ค. 51 07:42:52 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ความจริงของมด ก็ไม่เหมือนความจริงของปลา ความจริงของคนไทยก็ไม่เหมือนความจริงของคนอังกฤษ มันเป็นศาสตร์เรื่องสมมติ ก็เลยมีความแน่นอนลำบาก คนที่รู้จริงต้องบริสุทธิ์จากเปลือกจริงๆ ประเพณีวัฒนธรรมแฟชั่นตัวแปรความเชื่อมีเยอะ คุณต้องออกไปเรียนรู้เปลือกระดับไหน คนสอนคุณก็ต้องทะลุเปลือกระดับนั้นไปได้จริงๆ ไม่ใช่มาจากการทำแบบฟอร์มตอบคำถาม เพราะนั้นคือความจริงของคนอื่น เป็นแค่สถิติความจริงณ.ช่วงที่ทำข้อมูล ส่วนศาสนาพุทธในอนาคตผลการบันทึกที่เปรียบเทียบได้จะมีมาให้ศึกษาเชิงชีวะวิทยามากขึ้นเรื่อยๆ ผ่านการอ่าน fMRI อีกที และการรักษาโรคต่างๆ จากคุณ : หลับตา - [ 24 ส.ค. 51 08:42:55 A:58.64.67.228 X: TicketID:173601 ]

ความคิดเห็นที่ 8 +++คิดว่าวิชาจิตวิทยามีจุดอ่อนตรงไหนคับ คนส่วนใหญ่ถึงเลือกที่จะศึกษา และปฏิบัติตามหลักศาสนามากกว่าจะใช้จิตวิทยา+++ ผมคิดว่าไม่ต่างกันในแง่ของการแก้ปัญหา เพราะในความเป็นจริง หลวงพี่จนปัญญาก็ส่งโยมไปหาหมอ หมอจนปัญญาก็ส่งเข้าวัด ทั้ง 2 ศาสตร์มีจุดอ่อนร่วมกันคือ ไม่สามารถจับมือคนไข้รำได้ 24 ชั่วโมง หมออาจจะมีภาษีกว่าด้วยซ้ำ คุณนอนไม่หลับหมอสั่งให้ไปออกกำลังกาย เลิกกาแฟ ร้อยทั้งร้อยเชื่อหมอมากกว่าหลวงปู่นะ +++คิดว่าเพราะอะไรคับมันจึงเข้าถึงคนส่วนใหญ่ได้น้อย +++ น่าจะเป็นปัจจัยของรากฐานสังคมเข้ามาเกี่ยวข้อง สังคมไทยผูกพันธ์กับวัดมากกว่าโรงพยายาบาล หรือตำรับตำรา เกิดมาก็เข้าวัดไปให้พระตั้งชื่อ รู้จักกันก็งานบุญสงกรานต์ แต่งงานก็เชิญพระมาเทศน์ เงินให้พระก็เป็นเงินบุญ ซื้อ ถ้วย ชาม พานแจกัน ไว้ใช้กันในชุมชนตามงานมงคลต่างๆ สร้างโบสถ์ สร้างกุฏิ ไว้ให้ลูกหลานบวชเณรภาคฤดูร้อน สร้างเมรุ เอาไว้เผาตัว แต่ถ้าถามส่วนตัว ผมคิดว่าหลักปฎิบัติในศาสนาพุทธง่ายกว่า เหมือนในโฆษณา จ๊ะเอ๋ Bye Bye นั่นแหล่ะครับ และให้มุมมองทางประวัติศาสตร์ สังคมและวัฒนธรรมไทยได้ครบถ้วน ยกตัวอย่างมารยาทไทย มีคนเคยวิเคราะห์ไว้ว่ามีที่มาจากศีล 227 ของสงฆ์นั่นเอง(เสขิยวัตร) ศาสนาพุทธช่วยให้ผมมองสังคมไทยด้วยความเข้าใจ ลดท่าทีแข็งกร้าวลงครับ จากคุณ : จิรกาลภาวนา - [ 24 ส.ค. 51 09:34:42 A:124.121.72.240 X: TicketID:114114 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ผมมองว่า ศาสนาเป็นเครื่องมือที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อให้อยู่ร่วมกันได้  เพียงแต่ว่ามันมีหลายศาสนา  ส่วนจิตวิทยาเป็นความพยายามของมนุษย์ในการทำความเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเพื่อสร้างเป็นศาสตร์ให้มนุษย์เรียนรู้ได้ง่ายขึ้น ศาสนามันเข้าไปในจิตวิญญานมากกว่าเพราะถูกปลูกเข้าไปในจิตตั้งแต่เกิด  ย่อมฝังรากลึกและมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมมากกว่า  แต่แนวโน้มของคนที่ไม่นับถือศาสนาใดๆเลยก็มากขึ้นซึ่งพวกนี้น่าจะมีสิ่งอื่นมาเป็นแนวทางในการดำรงชีพแทน  ทำไม??? แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 51 10:16:27 จากคุณ : 2498 (cpbu) - [ 24 ส.ค. 51 10:01:55 ]

ความคิดเห็นที่ 10 รู้สึกดีที่เป็นคนส่วนน้อย จากคุณ : atheist - [ 24 ส.ค. 51 10:22:50 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ศาสนาพุทธ ต้องนับว่าเป็นหลักจิตวิทยาชั้นสูงนะครับ ถ้าทำความเข้าใจตาม  ดังที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ว่า ให้พิจารณาก่อนจะเชื่อ ถ้าเรานั่งคิดตาม มันก็คือจิตวิทยาแท้ๆครับ แต่ทุกวันนี้ เราไปใส่ใจกันที่อะไรก็ไม่รู้ เปลือกนอกแท้ๆ ใส่ใจกับพิธีกรรมมากเกินไป แทนที่จะเอาหลักมาใช้ จากคุณ : ฮันนิบาลที่รัก - [ 24 ส.ค. 51 10:56:55 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ฝสาสนาใช้หลักจิตวิทยาควบคุมคนนะเราว่า ศาสนาสร้างอาณาจักรทางจิตของตัวเอง สร้างระบบความคิดในแบบของศาสนา แล้วดึงคนเข้าไปอยู่ในนั้นอ่ะ มันออกยากกกกกกกก ศาสนาเนี่ย -"- จากคุณ : PADAPA--DOO - [ 24 ส.ค. 51 11:50:11 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ....    ถ้าเรา ๆ รู้ว่าการออกกำลังการแล้ว สุขภาพจะดี  ฉันใด     -  การฝึกกำลังจิต    ก็จะทำให้สุขภาพจิตดี และแข็งแรงได้  ฉันนั้น     -  ไม่ว่า  ศาสนา  หรือหลักจิตวิทยาใดก็ตาม   (  แต่แบบไหน จะดีกว่ากัน  มันเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ) . จากคุณ : DR บ๊อง - [ 24 ส.ค. 51 12:24:42 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ผ่านมาอ่าน...   จากคุณ : ชายยอดนักทดลอง - [ 24 ส.ค. 51 12:30:22 ]

ความคิดเห็นที่ 15 คนอยากมีอำนาจ มั้งครับ ควบคุมคนอื่นได้ก็แสดงว่ามีอำนาจ ผมชอบจิตวิทยาแบบรักษา คนมากกว่า จากคุณ : 1812Overtureyoot - [ 24 ส.ค. 51 13:39:20 ]

ความคิดเห็นที่ 16 สิ่งที่เปลี่ยนแปลงยากที่สุดของมนุษย์ก็คือ Human Behavior อันที่จริงมันก็ไปควบคู่กันนะ จิตวิทยามีตั้งแนวความคิด และ 1 ในนั้นก็มี พุทธิปัญญา ( Cognitive Behaviorism) จิตวิทยา ต้องการศึกษามากกว่าว่า ทำไมคนเราถึงมีพฤติกรรมเช่นนั้น และ ศึกษาเพื่อทำนาย หรือ ควบคุม อธิบายออกมาโดยอาศัยการทดลองในแบบต่างๆ ทั้งการเฝ้าสังเกต บันทึกติดตาม ทดลองในห้องทดลอง เพื่อให้ได้คำตอบ โดยที่บางครั้งอาจจะไม่ตรงตามที่คิดก็ได้ มันไม่ใช่แค่ว่า ออกมาพูดให้คนรัก ให้คนชอบก็เป็นจิตวิทยา มันเป็นเหมือนแนวทางการใช้มากกว่า แต่ที่จริงแล้วเขาต้องการให้อธิบายคำถามต่างๆ อย่าง ทำไมมนุษย์ถึงต้องรวมกันในสังคม  ทำไมเราถึงรู้สึกรักคนอื่น  ทำไมในบางสถานการณ์อีกคนหนึ่งทำแบบหนึ่ง แต่อีกคนหนึ่งเลือกทำอีกแบบ ทำไมเด็กที่โตขึ้นมาอย่างอบอุ่นบางคนถึงก้าวร้าว ในขณะที่บางคนประสบความสำเร็จ  มันเป็นการศึกษาเพื่อต้องการหาคำอธิบายมากกว่า ส่วนศาสนาเป็นเรื่องของความรู้สึกทางใจ ถ้ารู้สึกดีมีที่พึ่งเวลาสิ้นหวัง หรือ ยึดถือเป็นแนวทางมันก็ดีนี่ คนเราจะทำผิดทำไมถึงรู้สึกต่อบาป รู้สึกเกรงกลัวต่อสิ่งต่างๆ บางครั้งจิตวิทยาก็ศึกษาถึงความรู้สึกเหล่านี้ และ อธิบายมากกว่า แต่ก็ไม่ได้มาปลูกฝังว่า ทำอย่างไร หรือ ให้ยึดถือปฏิบัติ ไม่ได้มาฝังว่า ต้องเกรงกลัว แต่หาคำอธิบายว่า ทำไมคนเราถึงกลัว และความกลัวนั้นส่งผลอะไรบ้าง เราคิดว่า มันคนละเส้นทางกันเลย แต่มันก็เกี่ยวข้องกัน  จิตวิทยาไม่ได้มีหลักตายตัวว่า คุณทำแบบนี้แล้วอีกฝ่ายจะต้องปฏิบัติตอบแบบนี้ 100% เหมือนพวกเลข + - * /  แต่เป็นเพียงแค่ศึกษาแนวโน้ม และ ต้องการหาคำตอบให้ ในกลุ่มใหญ่ๆเท่านั้นเอง  ส่วนศาสนาถ้าเขาว่า ถูก ก็คือ ถูก ถ้าเขาว่าผิด ก็คือ ผิด อย่างคนมีเพศสัมพันธ์กับคนหลายคน  หรือ คนที่ชอบฆ่าสัตว์ ก็จะถูกกาหัวเลยว่า เป็นคนผิด  เพียงแค่พฤติกรรมไหนในสังคมนั้นที่ถูกยอมรับก็จะกลายเป็นสิ่งถูก แต่จิตวิทยาจะหาคำอธิบายว่า ทำไมคนๆนั้นถึงมีพฤติกรรมสำส่อนทางเพศมากกว่า  สิ่งหนึ่งในสังคมหนึ่งอาจจะผิด แต่พออยู่อีกสังคมกลายเป็นสิ่งที่ถูกก็ได้ จิตวิทยาไม่มีผิด หรือ ถูก มากสุดก็มีแค่ ไม่บรรลุเป้าหมาย หรือ ความต้องการที่ควรจะเป็น [ ไม่มีการลงโทษ ] ซึ่งถือเป็นสาเหตุหลักเลย เพราะไม่มีกรอบให้เกรงกลัว คนเรามักจะอยู่ในกรอบเพราะกลัวการถูกลงโทษ หรือ ผิดแปลกจากคนอื่น เลยทำให้ต้องประพฤติตัวตามกรอบธรรมเนียม เรื่อง การลงโทษ เนี่ยก็มีส่วนมากนะ เอาง่ายๆเลย ไม่ต้องศาสนาหรอก แค่แหกกฏของพันทิป อย่างขายสินค้า โพสคำหยาบ รูปXXX ก็ต้องโดนลงโทษแล้ว และคนเราก็ไม่อยากโดนลงโทษ หรือ ทำผิดต่างจากคนอื่น ก็เลยเดินตามกฏ เพราะเดินตามกฏแล้วได้ประโยชน์มากกว่าแหกกฏ เราเลือกปฏิบัติตามเพราะได้ผลประโยชน์ร่วมกันด้วยส่วนหนึ่ง มันก็เกี่ยวข้องกับจิตวิทยาแล้ว เพราะใครแหกกฏต้องโดนเพื่อนสมาชิกด้วยกันว่ากล่าว หรือ ลงโทษด้วยไฟแดง นี่แค่สังคมเล็กๆ แล้วเรื่องของศาสนามันกว้างมากกว่านี้อีกนะ แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 51 17:41:54 แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 51 17:37:53 จากคุณ : ขี้เหงา...เอาแต่ใจ - [ 24 ส.ค. 51 17:24:24 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ขออนุโมทนา สาธุ... _/\_ กับการอธิบายแนวความคิด ของคุณพิกุลแก้วในความเห็นที่ 5 และ ผู้มีเจตนาดี ทุกท่านด้วยครับ *แก้ไข ใส่โค็ดตัวหนาครับ โลกที่น่าอยู่... สังคมที่ดี...   ไม่มีขาย อยากได้...   ต้องช่วยกันสร้าง โดยเริ่มจาก...   ตัวเราเอง...   เดี๋ยวนี้... แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 51 20:16:29 จากคุณ : Phoenixนิลมังกร - [ 24 ส.ค. 51 19:52:05 ]

ความคิดเห็นที่ 18 - คิดว่าวิชาจิตวิทยามีจุดอ่อนตรงไหนคับ คนส่วนใหญ่ถึงเลือกที่จะศึกษา และปฏิบัติตามหลักศาสนามากกว่าจะใช้จิตวิทยา อืม... -คิดว่าวิชาสังคมศึกษามีจุดอ่อนตรงไหนคับ คนส่วนใหญ่ถึงเลือกที่จะศึกษา และปฏิบัติตามหลักศาสนามากกว่าจะใช้สังคมศึกษา -คิดว่าวิชาเศรษฐศาสตร์มีจุดอ่อนตรงไหนคับ คนส่วนใหญ่ถึงเลือกที่จะศึกษา และปฏิบัติตามหลักศาสนามากกว่าจะใช้เศรษฐศาสตร์ -คิดว่าวิชาฟิสิกส์มีจุดอ่อนตรงไหนคับ คนส่วนใหญ่ถึงเลือกที่จะศึกษา และปฏิบัติตามหลักศาสนามากกว่าจะใช้ฟิสิกส์ ฯลฯ โดยส่วนตัวคิดว่า เป็นเพราะศาสนาเข้าถึงง่ายกว่าวิชาดังกล่าวครับ ^^ จากคุณ : มาม่าไข่มะตูม - [ 24 ส.ค. 51 22:03:05 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ถ้าจะมองว่าจุดอ่อนของจิตวิทยาคืออะไร  ก็น่าจะได้แก่ ทุนทางสังคมในแง่ความเชื่อถือ(trust) ครับ เท่าเรียนมา ถึงนักจิตวิทยาจะมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับพฤติกรรมและมีความสามารถมากแค่ไหน แต่ถ้าไม่สามารถทำให้ผู้รับบริการเชื่อถือ มั่นใจในตัวนักจิตวิทยาผู้นั้นได้แล้ว การจะเปลี่ยนแลงความคิด ความเชื่อ พฤติกรรมของผู้รับบริการนั่นแทบจะเหนื่อยเปล่าเลยที่เดียว ตรงกันข้ามกับศาสนาซึ่งแม้แต่พุทธศาสนาซึ่งว่ากันว่าเป็นศาสนาแห่งปัญญาก็ยังต้องมีเรื่องศรัทธาประกอบด้วย ฉะนั้น ด้วยอายุของศาสนาที่มีมายาวนากว่าจิตวิทยาที่พึ่งก่อตัวเป็นรูปร่างชัดเจนเมื่อไม่กี่ร้อยปีที่ผ่านมา ศาสนาจึงได้เปรียบจิตวิทยาอยู่มากในแง่การปลูกฝังศรัทธาใจศาสนาลงใจจิตใจของคนในสังคม แต่จะบอกว่า ศาสนากับจิตวิทยาอันไหนดีกว่ากัน ผมว่าป่วยการที่จะวิจารณ์ครับ ลางเนื้อ ชอบลางยา จากคุณ : Xomega - [ 25 ส.ค. 51 05:13:59 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เห็นด้วยกับคุณพิกุลแก้วคห.5 เพราะนักจิตวิทยาเองยังมีความโลภ โกรธ หลงอยู่ ในขณะที่ครูบาอาจารย์ในศาสนาทั้งหลายท่านละความโลภ โกรธ หลงไ้ด้สิ้นเชิงแล้ว ดังที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า บัณฑิตย่อมฝึกตนเองก่อนแล้วจึงฝึกผู้อื่น ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบนั้น ท่านละทุกข์ทั้งปวงได้แล้ว สมมติว่านักจิตวิทยา กลับบ้านไป เจอไฟไหม้บ้านอยู่ มีความเสียใจเกิดขึ้นหรือไม่ (สมมติเฉยๆนะครับ ยกตัวอย่างที่เห็นว่าเป็นเหตุการณ์รุนแรง) ในขณะที่ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบนั้น บางท่านเสียชีวิตด้วยโรคที่ร้ายแรง แต่ท่านนอนสงบ ไม่เคยแสดงความตกใจ หรือกิริยาอันไม่งามอื่นๆแต่อย่างใดเลย จากคุณ : FREE_OFFICER - [ 25 ส.ค. 51 07:14:01 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ศาสนาพัฒนามาหลายพันปีนะคุณ จิตวิทยาเพิงจะพัฒนา ที่ดีแล้ว ผมว่าจิตวิทยาน่าจะเอาความรู้ดั้งเดิม หรือความรู้ชุมชน ความรู้พื้นฐาน มาศึกษาต่อยอด เพื่อจะให้เข้าใจง่ายและเร็วกว่าการเริ่มต้นจาก 0 แล้วอีกประการหนึ่ง ผมว่าจิตวิทยาๆ เราก็ไปเลียนแปบบฝรั่งอเมริกา ซึ่งเค้ามีประวัติศาสตร์มาแค่ 200 ปีเองนะครับ จากคุณ : นายสาระแน - [ 25 ส.ค. 51 08:26:43 ]

ความคิดเห็นที่ 22 คำสอนศาสนา มักจะเข้าข้างตัวเอง ,ผู้นับถือ,ผู้เผยแพร่ ในศาสนานั้นๆ เสมอๆ ลองดูคำสอน หรือ แนวคิดในการกระทำสิ่งต่างๆดูก็ได้ ว่าจะแฝงไปด้วยแนวคิด "พวกพ้อง" ซะไม่น้อย......  เช่น ทำบุญกับพระ ได้บุญเยอะกว่าทำบุญกับคนธรรมดา  , อุทิศตนเพื่อพระเจ้าได้ผลบุญดีกว่าทำเพื่อคนธรรมดา ฯลฯ แต่  จิตวิทยา ไม่เน้นกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นพิเศษ เน้นที่ "มนุษย์" ทุกคนบนโลกเท่าเทียมกัน ไม่เลือกปฏิบัติเฉพาะบุคคล ผมอยากรู้จริงๆ คนที่บอกว่า ตัดขาดกิเลสแล้วนั้น......ท่านทั้งหลายได้เจอสักคนหรือยังบนโลกนี้ ?   หรือว่า "ได้ยินเขาเล่ามา,หนังสือบันทึกไว้" .....เลยเชื่อว่ามีจริง........ เหมือน กระต่ายกับเต่า พูดได้ ทำไมถึงไม่เชื่อว่า มันพูดได้จริง ๆ ?......ทั้งๆที่สองสิ่งนี้ ก็ไม่มีใครเคยเจอ หรือ เคยพบเห็นเลย ถ้าไม่ยึดเอาจิตใต้สำนึกที่โดนปลูกฝังศาสนาเอาไว้แต่เด็กๆ จะแยกแยะได้ชัดเจนว่า ศาสนา คืออะไร ? ชาวนาอายุ 80 ปี กับ เด็ก นศ. ปริญญาโทด้านการเกษตรอายุ 25 ปี คิดว่าใครสามารถปลูกข้าวได้ผลผลิตต่อไร่ สูงกว่ากัน ? อายุมาก ไม่ได้แปลว่า เก่งมากนี่ครับ ถ้าจะอายุมากและเก่งมาก ก็คือ ต้องมีการ "อัพเดท" ความรู้ตัวเองอยู่เรื่อยๆ ตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ แต่ถ้ายังยึดติดกับความรู้แบบเดิมๆ ไม่เปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาแนวคิด ก็คงจะหยุดอยู่แค่นั้นเช่นกัน...... ไม่มีสิ่งไหน เกิดมาแล้วสมบูรณ์แบบเป็นอนันต์ในจักรวาลนี้............ทุกสิ่งต้องมีการพัฒนา เปลี่ยนแปลง ปรับปรุง ถึงจะได้ชื่อว่า สมบูรณ์ ณ. ปัจจุบัน นักกีฬาโอลิมปิก วิ่งได้เร็วที่สุดในโลกเมื่อ 40 ปีที่แล้ว กับ วันนี้ คนละเรื่องกันแล้ว..... จากคุณ : ศิลาโรเซ็ตต้า - [ 25 ส.ค. 51 10:00:27 ]

ความคิดเห็นที่ 23 จุดประสงค์ของการนำเอาหลัก ทางจิตวิทยา ไปใช้งาน กับคนที่มีปัญหาทั่วไป ก็เพื่อที่จะ แก้ปัญหา ให้กับ ผู้ที่ มีปัญหาทางจิต ไม่ว่าทางสังคม สภาพแวดล้อม  แน่นอนที่ว่า ย่อมใช้วิชา ทางจิตวิทยา มาแก้ปัญหา ได้ แต่การแก้ปัญหา ที่จุดเป้าประสงค์หลัก ของทางพุทธศาสนา ที่มีจุดมุ่งหมายหลัก มุ่งหมายเดียว และมีค่า อันมหาศาล คือ มุ่งให้ ท่าน สามารถ แก้ปัญหาได้จากรากหญ้าของมันเลยทีเดียว ก็คือ แก้ที่จิตใจของตัวบุคคลๆ นั้น แถมยังช่วยยกระดับจิตใจ มิให้ไหลกลับลงสู่ที่ต่ำ ลงไปอีก และที่สุด แห่งที่สุด ถ้ามีบารมี คนคนนั้นจะได้ไม่ต้องกลับมาทุกข์อีก พ้นจากวัฏฏสงสาร ห้วงแห่งทุกข์ ที่คอยพันธนาการ มนุษย์ ทุกชาติ ทุกภาษา ทุกศาสนา ไม่ต้องกลับมาเวียนว่าย ตายเกิด กันอีก ทุกข์ซ้ำซาก อย่างนี้ ตายเกิด ตายเกิด กันอีก พุทธศาสนา ไม่ได้บอกให้ท่านเชื่อ เค้าท้าให้ท่านพิสูจน์ ต่างหาก โดยหลัก กาลามสูตร "อย่าเชื่อ" จากคุณ : pikulkeaw - [ 25 ส.ค. 51 17:29:17 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เราว่า ศาสนา ถูกปลูกฝังมาก่อนเรื่องจิตวิทยา อะ แบบ เจอตั้งแต่เกิดเลย แล้วศาสนา มีบางเรื่องที่จิตวิทยาไปไม่ถึง(อย่างนิพพาน) ขณะเดียวกัน จิตวิทยา เรามาเรียนรู้เอาตอนโต บางคนก็ไม่ได้เรียน แถมคนไทย ยังมีทัศนคติผิดๆ เรื่องจิตวิทยา ไปพบนักจิตวิทยา หรือไปหาจิตแพทย์ หมายความว่า เป็นบ้า ซึ่งไม่จริงเสมอไป มันมีประโยชน์ มีอะไรมากกว่านั้นอีกเยอะ แล้วรัฐบาลบ้านเรา ก็ไม่ให้ความสำคัญกับวงการจิตวิทยา ทั้งที่ความจริงมันช่วยชาติได้มหาศาล เพราะมันใช้ได้กับคนทั่วไปทั้งหมด แก้ปัญหาได้ตั้งแต่ระดับบุคคล ครอบครัว บางประเทศอย่างเยอรมัน เค้าบังคับให้มีนักจิตวิทยาประจำทุกบริษัทด้วยซ้ำ นักจิตที่นั่นเป็นอาชีพที่มีเกียรติมากๆ หรืออย่างอเมริกา จนท.ตำรวจที่บางครั้งเจอคดีสะเทือนขวัญ อย่างเช่น ศพเด็กที่ถูกฆ่าอย่างทารุณ ก็ต้องพบนักจิตวิทยา ช่วยบำบัดความรู้สึกแย่ๆ ที่เกิดขึ้น บ้านเรา ไม่รู้ต้องรออีกกี่ชาติ... จากคุณ : ปฏิจจสมุปบาท (ปฏิจจสมุปบาท) - [ 25 ส.ค. 51 20:45:43 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ผมว่าจิตวิทยา มีเพื่ออธิบายจิตใจมนุษย์ แต่ศาสนา เราจะรู้สึกพักสงบและพึ่งพิงได้มากกว่า เกิดเป็นคนเขาให้ความรู้สึกมาทำไมล่ะ แสดงว่าต้องใช้ได้ดีแน่ๆ เลย ศาสนาก็ตอบสนองความรู้สึกที่ควบคุมไม่ได้มากกว่าจิตวิทยาจะตอบสนองได้ จากคุณ : AVSystem - [ 26 ส.ค. 51 21:13:40 ]