ความคิดเห็นที่ 1 เชิญห้องหน้าต่างโลกเลยครับ http://worldwindow.pantipmember.com/ จากคุณ : AVAVA - [ 7 ก.ย. 51 12:16:34 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เพราะมีความสามัคคี และมีวินัย จากคุณ : sb*star - [ 7 ก.ย. 51 12:16:39 ]

ความคิดเห็นที่ 3 คุณเชื่อจริงๆเหรอครับว่าพร้อมๆกัน ลองย้อนไปดูไกลกว่านั้นจะพบว่า คนของเค้าบันทึกประวัติศาสตร์ไว้เยอะและละเอียดมาก งานฝีมือหรือศิลปะก็มีการสืบทอดกันรุ่นต่อรุ่น สรุปนะผมว่าเค้ามีอารยธรรมที่ก้าวหน้ามากกว่าไทยนานแล้ว โดยเฉพาะการพิมพ์หรือการบันทึก ที่เป็น1ในสิ่งที่สืบทอดอารยะธรรมมนุษย์   ซึ่งของไทย มีน้อยมากๆ จากคุณ : 3N - [ 7 ก.ย. 51 12:31:33 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ตาม 2 กับ 3 เลยครับ จากคุณ : Heian - [ 7 ก.ย. 51 12:32:52 ]

ความคิดเห็นที่ 5 การเมืองการปกครองการดำรงชิวิตลักษณะภูมิประเทศและอากาศ จำนวนพลเมือง วินัย ความรู้ นิสัย วัฒนธรรม วัตถุดิบภายในประเทศ การส่งออก นำเข้า ฯลฯ หลายอย่าง ทุกประเทศมันก็ไม่เหมือนกันอยู่แล้วครับ จะให้มันเหมือนกันหมดทุกด้านคงไม่ได้ แต่อย่างน้อยผมว่าไทยยังดีน่ะ ที่ไม่มีคนมาไล่เอามีดแทงตามถนน หรือไม่ก็เหมือนเมกาเอาปืนมายิงกันในโรงเรียนเกือยทุกเดือน(เลยเปล่า...) จากคุณ : sarareal - [ 7 ก.ย. 51 12:39:42 ]

ความคิดเห็นที่ 6 การตรงต่อเวลา ความรับผิดชอบ .................... ฯลฯ จากคุณ : Rppc2 - [ 7 ก.ย. 51 12:59:55 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ตามความเห็น 2 จากคุณ : pla2 - [ 7 ก.ย. 51 13:00:02 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เจงดิ จากคุณ : อ้อเหรอซู่ซ่า - [ 7 ก.ย. 51 13:00:03 A:125.24.79.119 X: TicketID:152346 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เพราะระบอบการปกครอง ที่จริงตัวแปรอื่นๆมีเยอะ แต่อันนี้ล่ะสำคัญที่สุด จากคุณ : Jump.Jr - [ 7 ก.ย. 51 13:00:42 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ประเทศเขาเป็นมหาอำนาจมาตั้งนานแล้วนะครับ ไม่ใช่เพิ่งจะพัฒนามาพร้อมๆ กับเรา สิ่งหนึ่งที่สำคัญมาก ก็คือบ้านเมืองเราไม่นิยมการจดบันทึก ดังนั้นวิยาการและความรู้ต่างๆ มักจะตายไปกับเจ้าของโดยส่วนมาก อีกทั้งเมือร้อนเป็นบริเวณที่เจริญได้ยากอยู่แล้ว ประเทศที่เจริญแล้วก็อยู่ในเขตหนาวด้วยกันทั้งสิ้น ก็คงลำบาก หละครับ ที่จะให้เมืองร้อนเจริญ จากคุณ : axquest - [ 7 ก.ย. 51 13:01:39 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ญี่ปุ่นน่าจะดีกว่า เมกาไม่หวังยึดแค่โดนบังคับให้เปิดประเทศ ไม่ใช่รึครับ ของไทยเจริญแบบโดนอัดจาก2ยักษ์ในยุคนั้น ฝรั่งเศสกับอังกฤษ เดียวก็จ่ายเงินเดียวก็เสียดินเเดน -------------   เคยได้ยินว่าที่2 ญี่ปุ่นที่1 <ไม่ใช่เสมอกันนะ> แต่ตอนนั้นอาจจะเพราะประเทศอื่นโดนยึดหมด ไม่น่าจะใช่เพราะเค้าด้วยกว่าเรา แก้ไขเมื่อ 07 ก.ย. 51 13:10:11 แก้ไขเมื่อ 07 ก.ย. 51 13:07:13 จากคุณ : e (ไม่ได้มีสิบมือ) - [ 7 ก.ย. 51 13:06:20 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เพราะประเทศญี่ปุ่นมีคนญี่ปุ่น เพราะประเทศไทยมีคนไทย = =' ช่างน่าเศร้ายิ่งนัก จากคุณ : เพนกวินพเนจร - [ 7 ก.ย. 51 13:07:04 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ประเทศไทยเสียโอกาสไป 60 ปี เพราะคนญี่ปุน ให้ความสำคัญกับภาครัฐมากมาย ไม่นิ่งดูดายเหมือนคนไทย เขาเลยพัฒนาได้เร็วกว่า จากคุณ : วิญญาณพเนจร - [ 7 ก.ย. 51 13:17:04 A:202.62.105.155 X: TicketID:177078 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เมื่อ สี่ห้าสิบปีก่อน ฟิลลิปินส์ เจริญกว่าเรามาก แต่ตอนนี้ ตามหลังเราอยู่ไกล พม่าคู่แข่ง เราในอดีต ก็ตามหลังเราไม่เห็นฝุ่น หลายประเทศในยุโรป โดยเฉพาะ ยุโรปตะวันออก ที่เคยล่วงหน้าไทยไปไกล ก็โดนไทย ไล่ตามมาใกล้ หรือ แซงไปแล้ว อย่างที่ว่า ครับมันมีทั้งเจริญไว และช้า ไทยเรามีศักยภาพ ดี หลายๆด้าน ขาดที่สำคัญ ก็คือการเมืองที่เข้มแข็ง จากคุณ : -=Jfk=- - [ 7 ก.ย. 51 13:41:57 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ภาคการเมืองที่เข้มแข็ง จะถูกกล่าวหาว่าเป็น เผด็จการรัฐสภา สุดท้ายกลายเป็นภาคการเมืองที่อ่อน ปวกเปียก ล้มลุกคลุกคลาน แต่มันยังไม่สาย......ไม่มีอะไรสายเกินแก้....อยู่ที่ว่าจะใช้วิธีไหนแก้ จากคุณ : วิญญาณพเนจร - [ 7 ก.ย. 51 13:59:54 A:202.62.105.155 X: TicketID:177078 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เพราะ ปัจจุบัน ผมยังต้องติดป้าย ''คนไทยรักกัน''อยู่เลย จากคุณ : kepok - [ 7 ก.ย. 51 14:04:37 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เขาใส่ใจในทุกรายละเอียดของงาน สังเกตได้ที่แม้แต่การเขียนตัวหนังสือที่เขาพิถีพิถัน จนเพียงตวัดพู่กันฉับเดียว ก็กลายเป็นงานศิลปะ แต่ของเราลองสังเกตดู คนทั่วไปในปัจจุบันเพียงพิมพ์ตัวหนังสือง่ายๆ บนจอก็สะกดผิดกันดาษดื่นเสียแล้ว แถมไม่สนใจแก้ให้ถูกด้วย เพราะไม่มีความสนใจในการใส่ใจแม้กับเรื่องเล็กน้อย (มักอ้างพัฒนาการทางภาษาแช็ต) ดูจากลักษณะนิสัยแล้ว การพัฒนาให้เจริญทัดเทียม คงเป็นไปได้ยาก ทั้งนี้ไม่ใช่เราฉลาดไม่เท่าเขา แต่เป็นเพราะนิสัย ไม่ใส่ใจ หรือ "ทำอะไรตามใจ คือไทยแท้" เสียมากกว่า จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!! - [ 7 ก.ย. 51 14:13:43 ]

ความคิดเห็นที่ 19 มัยโดนไฟแดง ? จากคุณ : vn, man - [ 7 ก.ย. 51 16:26:10 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เพราะไทยกีดกันไทยกันเอง ทนเห็นคนอื่นได้ดีไม่ได้ ต้องทำลาย จากคุณ : นายขนมหวาน - [ 7 ก.ย. 51 18:01:24 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เพราะคนไทยบางคน พอมีอำนาจแม้น้อยนิดเท่า.จ.มดขึ้นมา ก็บ้าอำนาจ เช่นพวกให้ไฟแดงมั่วซั่วเป็นต้น จากคุณ : หล่อเลิศ ฉลาดล้ำ - [ 7 ก.ย. 51 18:03:27 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ต้องดูที่จุดสูงสุดของประเทศญี่ปุ่นกับไทยครับ d^_^b จากคุณ : Sakuder - [ 7 ก.ย. 51 18:36:33 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เพราะคนไทยไร้วินัย และชอบโชว์เดี่ยว ไม่ชอบทำงานเป็นทีม แถมอีกอย่าง ไม่ค่อยมองการณ์ไกล จากคุณ : ปฏิจจสมุปบาท (ปฏิจจสมุปบาท) - [ 7 ก.ย. 51 20:18:40 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ประเทศญี่ปุ่นอยู่ใกล้จีนครับ นักการเมืองญี่ปุ่นนั้นก็ไม่ธรรมดา (อ่านเรื่องเรียวม่าประกอบได้) นายทุนญี่ปุ่นเขาก็มีวิสัยทัศน์ คนงานญี่ปุ่นก็ขยันกันจริงๆจังๆ และสุดท้ายประเทศญี่ปุ่นเป็นเกาะอยู่ไกลสุดขอบเป็นชัยภูมิที่ดี ไกลจากพวกล่าอาณานิคมจากยุโรป มีเวลาตั้งตัวนาน เมื่อ138 ปีที่แล้วยาทาโร่ อิวาซากิตั้งบริษัทชิปปิ้ง จากนั้นไม่นานก็ทำกิจการขนส่งทางทะเลโกอินเตอร์ไปจีน ต่อมาก็ซื้อเหมืองถ่านหินเพื่อเอามาเติมเรือของตัวเอง   ในที่สุดก็ต่อเรือเอง จากนั้นก็ำลงมือผลิตอะไรต่อมิอะไรอีกสารพัด บริษัทนี้แหละที่ผลิตเครื่องบินรบซีโร่แล้วก็เรือรบทั้งหลายของญี่ปุ่นช่วงสงครามโลก จะเห็นว่าช่วงเกิดกบฎนักมวยในจีนนั้น ญี่ปุ่นก็ไปแจมกับเขาด้วย เพราะก่อนหน้านี้ญี่ปุ่นก็จัดการยึดเกาหลี ไต้หวัน แมนจูเรียตะวันออกไปเรียบร้อยแล้ว โดยการนำของรัฐบาลญี่ปุ่น บริษัทเอกชนของญี่ปุ่นอย่างบริษัทของยาทาโร่นี่ก็เข้าไปลุยสูบทรัพยากรมาใช้ได้มากมาย ส่วนของไทยนั้นก็ยังคงลุยอยู่กับอังกฤษกับฝรั่งเศส และส่วนมากจะแพ้ ประเทศราชหรืออาณาเขตที่มีอยู่ใหญ่โตก็ไม่ค่อยจะมีประโยชน์อะไรมากไปกว่าเอาไว้เสียเพื่อรักษาเอกราชไว้ จากคุณ : มังกรใจเย็น - [ 7 ก.ย. 51 20:37:25 ]

ความคิดเห็นที่ 26 หลาย ๆ ปัจจัยรวม ๆ กันครับ 1. การรวมอำนาจและการบริหาร ก่อนหน้านี้สยามกับญี่ปุ่นมีโครงสร้างการปกครองที่คล้ายกัน ของไทยอำนาจส่วนภูมิภาคจะอยู่ที่พวกเจ้าเมือง เช่นเดียวกันระบบโชกุน ของญี่ปุ่น ลักษณะให้แต่ละเมืองปกครองกันเอง การเปลี่ยนแปลงของญี่ปุ่นสมัยเมจิเป็นไปได้อย่างรวดเร็วกว่า การโค่นอำนาจและรวมอำนาจเข้าสู่ศูนย์กลางทำได้เร็วกว่าเรา ในขณะที่ของเราประสบปัญหาการโอนอำนาจจากขุนนางรุ่นเก่ามาสู่รุ่นใหม่แบบค่อนข้างประณีประนอมกว่า คือรอให้คนเหล่านั้นเกษียณอายุไปเองทีละคน ใช้เวลาตั้งแต่สมัย ร.4 ไปจนเกือบสมัย ร.5 ตอนปลาย ๆ (อารมณ์เดียวกับตอนเลิกทาสครับ ใช้เวลา สี่สิบกว่าปี) เราช้ากว่าญี่ปุ่นมากในเรื่องนี้แต่ดีกว่าเค้าตรงที่แทบไม่มีสงครามภายในใหญ่ ๆ เลย นอกจากกบฏเล็ก ๆ ตามหัวเมืองเท่านั้น 2. ภัยคุกคามจากประเทศผู้ล่าอาณานิคมตะวันตก ญี่ปุ่นเผชิญหน้ากับภัยคุกคามจากสหรัฐเป็นส่วนใหญ่ และจัดการได้ค่อนข้างดี ในขณะที่มหาอำนาจตะวันตกชาติอื่นไม่ค่อยอยากมีเรื่องกับสหรัฐ และมุ่งไปจีนมากกว่า เพราะทรัพยากรและ ผลประโยชน์มากกว่า ดังนั้นปัญหาการกระทบกระทั่งกับประเทศเหล่านี้จะไม่ค่อยมี อีกทั้ง ญี่ปุ่นเป็นหมู่เกาะ มีอาณาเขตที่ค่อนข้างชัดเจนกว่าสยาม เลยไม่ค่อยมีใครอยากมาเฉือนเท่าไหร่ ในขณะที่สยามเผชิญภัยคุกคามจากอังกฤษและฝรั่งเศสตั้งแต่สมัย ร.4 - 5 เป็นปัญหาเรื้อรังมาตลอด การกระทบกระทั่งหลายครั้ง เราต้องเสียดินแดนและค่าปฏิกรรมสงครามเป็นจำนวนมหาศาล 3. จังหวะการพัฒนาประเทศ จากปัจจัยในข้อ 1 กะ 2 ทำให้การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของเราเป็นไปได้ช้ากว่า ในสมัย ร.4-5  เรารับเทคโนโลยีและความรู้ใหม่ ๆ เข้ามาในประเทศมาก แต่การพัฒนาพวกนี้ยังอยู่แต่ในเขตพระนครและปริมณฑลเท่านั้น ยังไม่เห็นการพัฒนาสู่หัวเมืองไกล ๆ เท่าไหร่ ในขณะที่การพัฒนาของญี่ปุ่น มุ่งไปตามหัวเมืองค่อนข้างมากกว่า (อาจจะเพราะการคมนาคมสะดวกกว่า เพราะอาศัยทางน้ำเป็นหลัก) ถ้าผมจำไม่ผิด เรามีรถรางและรถไฟก่อนญี่ปุ่น แต่ญี่ปุ่นสร้างทางรถไฟเชื่อมระหว่างหัวเมืองได้เร็วกว่า จุดเปลี่ยนของญี่ปุ่น (ที่ทำให้ทิ้งสยามอย่างกระจุยกระจายตั้งแต่นั้นมา) น่าจะอยู่ที่ก่อนสงคราม ญี่ปุ่น-รัสเซีย ช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งญี่ปุ่นเอาชนะรัสเซียได้อย่างราบคาบทั้ง ๆ ที่มีกำลังน้อยกว่ามาก ทำให้ญี่ปุ่นถูกจัดชั้นเทียบเท่ามหาอำนาจตะวันตกทันที และเริ่มขยายอำนาจเข้าสู่เกาหลีและแมนจูเรียมากขึ้น ทำให้ได้ทรัพยากรมาพัฒนาประเทศได้อย่างรวดเร็ว ในช่วงเวลาเดียวกันสยามก็พยายามพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานโดยเฉพาะทางรถไฟ และระบบชลประทาน โดยไม่มีแหล่งทรัพยากรภายนอกประเทศมาช่วยเลย (ต้องทำนาเอาข้าวไปแลกเค้ามาอะครับ) ช่วงปลายสมัย ร.6 สยามก็เริ่มมีปัญหาด้านการคลังและเรื้อรังมาจนเป็นชนวนให้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองในช่วงเวลาต่อมา จากคุณ : เตยทะเล - [ 7 ก.ย. 51 21:39:59 ]

ความคิดเห็นที่ 27 อัตราการรู้หนังสือของญี่ปุ่นสมัยนั้นก็มากกว่าเราหลายเท่าแล้ว วัฒนธรรมในการเรียนรู้พัฒนาตนเองก็ดีกว่าเรามาก ในสมัยนั้น ญี่ปุ่นเพียงแค่ยอมเปิดประเทศรับอารยธรรมและวิชาการความรู้จากชาติตะวันตกเท่านั้น แต่ในประเทศญี่ปุ่นเองแล้ว อารยธรรมของเขาเองก็เจริญมากอยู่ หลังเปิดประเทศ รัฐบาลญี่ปุ่นก็ได้ส่งคนไปเรียนรู้วิชาการในยุโรป อเมริกามากมาย โดนเฉพาะด้านวิทยาศาสตร์ และวิศวกรรม มากกว่าของไทยหลายเท่าตัว แถมไทยยังเลือกส่งเฉพาะชนชั้นเจ้านายราชวงศ์ไปเรียนซะอีก  บุคคลชนชั้นธรรมดาปัญญาเลิศดูเหมือนจะไม่ได้รับโอกาสนั้น จากคุณ : นายเดชา - [ 7 ก.ย. 51 21:50:20 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เหมืองหนาวติดทะเล ..                 เจริญหมดบนโลกใบนี้ .. จากคุณ : tenno - [ 7 ก.ย. 51 21:50:56 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ความหมายของการมีการเมืองที่เข้มแข็ง ของผม หมายถึงการที่มีรัฐบาล ที่มีความสามารถ ซื่อสัตย์ สุจจริต มีฝ่ายค้านที่เข้มแข็งคอยตรวจสอบ มีประชาชน ที่มีความรู้ทางการเมือง และให้ความสำคัญกับการเมืองอย่างจริงจัง  เลือกตัวแทนเข้าไปบริหาร ด้วยนโยบาย และ ผลงาน ไม่ได้เลือกตัวแทนด้วยการถูกซื้อด้วยเงิน หรือ ความสนิทสนมส่วนตัว หรืออยู่ใต้อิทธิพล แต่ถ้าเป็นแบบที่ว่า การเมืองเข้มแข็งหมายถึงพรรคใหญ่ใช้ เงินหว่านซื้อคะแนนเข้ามามากในสภาและผูกขาด การบริหาร ปล่อยให้มีการเอื้อประโยชน์พวกพ้อง อันนั้น ไม่เรียกว่าการเมืองเข้มแข็ง ครับ แต่เป็นเผด็จการทางรัฐสภา อย่างที่เค้าว่ากันนั่นแหละ น่ากลัว มาก จากคุณ : -=Jfk=- - [ 7 ก.ย. 51 21:56:08 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ญี่ปุ่นเปนมหาอำนาจจริงๆ สะสมกำลังจนสามารถก่อสงครามสู้กับฝ่ายพันธมิตร อย่างอเมริการ ออกรุกรานดินแดนทั่วเอเซีย ถล่มเพริลฮาเบอร์จนเลื่องลือถึงทุกวันนี้ สารัตถะในประวัติศาสตร์มีแต่การต่อสู้เข้มแข็งยาวนาน เขาเปนอันดับหนึ่งในเอเซีย มาเปน100ปีแล้วครับ ต้องเข้าใจซะใหม่ จากคุณ : lord_guan - [ 7 ก.ย. 51 22:08:06 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ถามว่าตอนนั้นเมืองไทยมีคนรู้หนังสือกี่คน ขณะที่คนญี่ปุ่นตอนนั้น รู้สึกว่าจะหกสิบเปอร์เซนต์แหนะ จากคุณ : -->+:+โชยุ&วาซาบิจัง+:+<-- - [ 7 ก.ย. 51 22:29:16 ]

ความคิดเห็นที่ 33 จากวิชาสังคม ม.ต้น ประเทศที่มีอากาศหนาว ส่วนใหญ่จะเป็นประเทศที่พัฒนา เนื่องจาก มีช่วงเวลาฤดูหนาวที่หฤโหด ผู้คนไม่สามารถทำอะไรได้เลย อาหารก็ต้องสำรองไว้(หมายถึงสมัยก่อน) ทำให้ผู้คนมีการวางแผน รู้จักคิด และขยันเนื่องจากในปีหนึ่งๆจะมีเวลาทำงานจำกัด ผู้คนในเมืองหนาวเค้าจะตื่นเต้น ดีใจมากเมื่อฤดูหนาวผ่านไปสู่ฤดูใบไม้ผลิ นึกภาพเราต้องทนอยู่แต่ในบ้าน อยู่ในชุดกันหนาวสุดขีด ผิงแต่ไฟ เราจะทำไรกัน ออกไปข้างนอกก็หนาว หิมะอีก มันอัดอั้นนะ คงจะคิดว่าพอหายหนาวแล้วเนี่ยะ จะต้องทำโน่น ทำนี่ ทำนั่น ที่ญี่ปุ่นมีประเพณีดูดอกซากุระ ซากุระต้นหนึ่งอายุหลายร้อยปี เป็นพันปีก็มี คนที่นั่นเค้าถือว่า ซากุระต้องยืนต้นสู้กับอากาศที่แปรปรวน หน้าร้อนก็ร้อนไม่แพ้ไทย หน้าหนาวก็หนาวจับใจ ซากุระจึงเป็นตัวแทนหรือเป็นต้นแบบของคนญี่ปุ่นที่ขยัน ไม่ย่อท้ออุปสรรค เมื่อใดที่ซากุระออกดอกแสดงว่าฤดูหนาวผ่านพ้นไปอีกปี ถึงเวลาทำงานจริงๆจังๆแล้ว เราจะได้ยินคำพูดประมาณว่า ปีนี้ต้องพยายามมากขึ้นนะ หรือเรามาพยายามกันใหม่นะ ซึ่งฟังแล้วถ้าแปลตรงๆตัวก็จะงงๆ ว่าพยายามอะไรกันวะ ถ้าเป็นเมืองไทยก็ประมาณวันขึ้นปีใหม่เราก็จะสัญญากับตัวเองว่าจะเลิกสิ่งไม่ดี จะทำสิ่งดีๆ จะขยันขึ้น อะไรประมาณนั้น อีกเรื่องคือ ซามุไรสปิริต ซามูไรในอดีตได้รับการนับถือมากในสังคมญี่ปุ่น ซามูไรจะเก่งทั้งบุ๋น บู๊ ประพฤติตัวดี มีความรับผิดชอบ ลูกผู้ชาย เหมือนที่เราเห็นในหนัง ทำผิดนิดหน่อยก็คว้านท้องตัวเอง ทำให้มีการสอนลูกสอนหลานในเรื่องซามูไรสปิริตนี้ คือให้ซื่อสัตย์ ขยัน รับผิดชอบ แสวงหาความรู้... สิ่งต่างๆเหล่านี้ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น สิ่งต่างๆเหล่านี้จึงทำให้คนญี่ปุ่นเป็นคนขยัน ซื่อสัตย์ รับผิดชอบ เคารพกฎระเบียบ ทำงานเป็นขั้นตอน ทำงานเร็ว เท่าที่เคยเห็นมาคนทำงานช้าที่สุดของเค้าเท่ากับคนทำงานปกติของเรา แต่ละคนจะแตกต่างกันในเรื่องการศึกษาเท่านั้น คือคนนี้เรียนสูง จบสถาบันดัง คนนั้นจบม.ปลาย รร.ไม่ดัง คนโน้นจบสายอาชีพ แ่ต่ทุกคนมีความรับผิดชอบ เคารพระเบียบ ขยัน ซื่อสัตย์ ถ้าเป็นบ้านเรา คนขับรถร่วมฯเหมือนโจร ทั้งหน้าตาและพฤติกรรม พอเกิดอะไรกันทีก็มีคนบอก จะเอาอะไรมากกับคนพวกนี้ ป.4 ก็ไม่จบ และกลายเป็นที่ยอมรับในสังคมไทยว่าคนเรียนน้อยหรือไม่ได้เรียนหนังสือ นอกจากจะไม่มีความรู้แล้วยังไม่มีความรับผิดชอบ ไม่มีความซื่อสัตย์ ซึ่งมันไม่ใช่ ทุกคนต้องมีความรับผิดชอบ ซื่อสัตย์ ขยัน เป็นพื้นฐาน และเท่าที่ทราบ จบม.ปลายเค้าก็สามารถทำงานได้เลยนะ รายได้ก็มากพอเลี้ยงครอบครัวได้สบายๆทั้งครอบครัว ครอบครัวญี่ปุ่นนี่สามีทำงานหารายได้คนเดียวนะ บ้านเราถ้าม.ปลายก็เป็นได้แค่ผู้ใช้แรงงาน เลี้ยงตัวเองยังแทบไม่รอด พวกเรา อยู่ในประเทศร้อน ที่อุดมสมบูรณ์ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว นึกอยากกินอะไร ก็เข้าป่าหาผัก ผลไม้ หาปลาได้ง่าย จะปลูกอะไร จะเลี้ยงอะไรก็ง่าย ไม่ต้องวางแผนอะไรเท่าไหร่ มันสบาย สบายทั้งปี ทำก็ได้กิน ไม่ทำก็ไม่อด เราเลยมีนิสัยเป็นอย่างที่เห็น นี่ไม่นับคนไทยที่บรรพบุรุษเป็นคนจีนนะ ซึ่งอาจจะมีนิสัยพื้นฐานแตกต่างกัน สรุปจะพัฒนาหรือเจริญขึ้นกับคนในชาตินั้น ในแง่คุณภาพนะไม่ใช่ปริมาณ แก้ไขเมื่อ 07 ก.ย. 51 23:00:23 จากคุณ : Yoshitomi - [ 7 ก.ย. 51 22:56:36 ]

ความคิดเห็นที่ 34 การเมิองเข้มแข็งอย่างที่หมอเจว่าไว้ เป็นการเมืองเข้มแข็งอย่างที่ผมอยากจะเห็นเหมือนกันครับ แต่เมื่อมองไปดูสถานการณ์ที่ผ่านๆมาจนถึงปัจจุบัน ผมชักจะท้อใจว่าชั่วชีวิตของผมอาจจะไม่ได้เห็นสิ่งนั้น ถึงแม้ผมจะยังอายุไม่มากก็ตาม เพราะหลายๆสิ่งมันแสดงให้เห็นว่า คนไทยเราส่วนมากไม่เคยคิดที่จะเรียนรู้อะไรเลยกับความผิดพลาดในอดีตที่ผ่านมา และอาจจะแย่ถึงขั้นว่าจริงๆแล้วมีส่วนหนึ่งไม่เคยรับรู้ด้วยซ้ำไปว่าเคยเกิดอะไรขึ้นมาบ้าง สิ่งนี้แหละคืออุปสรรคชิ้นโตในการพัฒนาของชาติ จากคุณ : VeryBadman...Begins - [ 7 ก.ย. 51 23:56:47 A:67.160.226.25 X: TicketID:185387 ]

ความคิดเห็นที่ 35 มันอยู่ที่ระบบการปกตรองที่มีมาช้านาน โดยเฉพาะ ระบบไพร่ จากคุณ : EITHER - [ 8 ก.ย. 51 00:02:52 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ไทยกับญี่ปุ่นแค่เปิดประเทศรับอารยะธรรมตะวันตก พร้อม ๆ กันมากกว่าครับ. ญี่ปุ่นรวมประเทศจากสมัยก่อนที่เป็นยุคไดเมียว แบ่งกันครองอำนาจมานานมากแล้ว ช่วงปิดประเทศก็พัฒนาวัฒนธรรมภายในของตัวเองจนแข็ง เป็นหนึ่งเดียวกันทั้งประเทศ แต่ของไทยเมื่อร้อยกว่าปีก่อนยังมี ประเทศราชล้านนา ประเทศราชปัตตานี ประเทศราชไทรบุรี อยู่เลย. ญี่ปุ่นผลิตปืนยาวใช้เองได้มาตั้งแต่ สี่ห้าร้อยปีที่แล้ว ก่อนปิดประเทศ สามารถผลิตปืนให้ทหารราบทุกคนได้ใช้ และปืนนี่แหละที่ทำให้ญี่ปุ่นรวมกันเป็นหนึ่งเดียวได้ ในขณะที่ไทยเรา.. เออ ปัจจุบันนี้ยังไม่ได้ผลิตปืนให้ทหารใช้เองได้เลย คิดดูแล้วกันญี่ปุ่นโบราณแค่ซื้อปืนจากโปรตุเกสมาแค่สองกระบอก ยังเอาไปสร้างต่อใช้เองได้เลย. แต่พอปิดประเทศ ญี่ปุ่นก็เลิกใช้อาวุธปืนคงเพราะโชกุนกลัวมีการก่อกบฏง่าย ๆ กลับไปส่งเสริมลัทธิบูชิโด ยกย่องนักรบซามูไรที่ใช้ดาบคาตะนะคู่กาย ปลูกฝังวินัยอย่างสูงให้กับคนในชาติ รวมถึงขยายเรื่องการศึกษาไปแพร่หลายทั่วประเทศ ไม่น่าแปลกใจครับพอโดนบังคับให้เปิดประเทศ คนญี่ปุ่นก็สามารถพร้อมที่จะมาไล่ทันพวกฝรั่งในเวลาอันสั้นนิดเดียว. อย่าไปเทียบกับญี่ปุ่นเลยครับ ต้องยอมรับว่า ระบบในการสร้างชาติสร้างคนของเขา ก้าวล้ำหน้าเรามาตลอด เพียงแค่มีบางครั้งที่เขาแค่เก็บตัวนิดหน่อยเท่านั้นเอง. จากคุณ : LittleTiger - [ 8 ก.ย. 51 00:03:22 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เอาง่ายๆๆเลยไหมครับ ไปดูรถไฟฟ้าใต้ดิน รถไฟฟ้า คนญี่ปุ่นถือหนังสืออ่านกี่คน หลับกี่คน คนไทยถือหนังสืออ่านกี่คน หลับกี่คน จากคุณ : taecu - [ 8 ก.ย. 51 00:31:34 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เพราะระบบ ศักดินา ของไทยเป็นระบบศักดินาชนชั้นอยู่ ของยุ่นเป็นระบบ ขงจื๊อ บูชิโด ของยุ่น ยกเลิกไป และบอกว่า ทุกคนคือเชื้อสาย ยามาโตะ ทำดาบซามูไรให้ทุกคน ในWW2 บอกว่าทุกคนคือซามูไร แต่ของไทย แม้จะเลิกทาส แต่คนก็ยังยึดถือเจ้าขุนมูลนาย พยายามที่จะประจบ เลีย อยู่ใต้ร่มโพธ์ร่มเงา จะได้ไม่ต้องไปทำงานลำบาก แต่ยุ่น พยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด จะอาชีพใดๆก็ตาม ทำราเม็ง ก็จะทให้อร่อยที่สุดให้ได้ ไม่มีดูถูกอาชีพ อย่าว่าแต่ปัจจุบัน สมัยนี้ คนไทยยังศักดินาอยู่เยอะ นับถือคนรวย เส้นสายมีค่ากว่าความสามารถ พวกเติร์ก รุ่นใหญ่ อะไรมันถึงมีอำนาจมาก กำจัดยาก ใครบอกว่าเมืองหนาวติดทะเล เจริญ หรือบอกว่ายุ่นมี ปวศ ยาวนานกว่า นั่นไร้สาระไปหน่อย โทษอะไรที่มันไกลตัวซะปัญญานิ่มมาก เพราะจีนก็เมืองหนาว ติดทะเล ตอนนี้คนยังรายได้เฉลี่ยโคตรต่ำ เพราะ ระบบสังคม ศก ต่างหาก ที่เป็นปัจจัยสำคัญ เพราะระบบนี้หน่ะ การเมืองไทยถึงเป็นงี้ พวกหัวคะแนน เป็นเจ้าขุนมูลนาย และเป็นลูกน้องนักการเมือง อันนั้นคือเจ้าพระยา จำลองมาจากยุคโบราณเต่าล้านปีไม่พัฒนา ห้องนี้สายวิทย์เยอะ เลยพยายามโทษอะไรที่ตัวเองเข้าใจกันไปซะ แก้ไขเมื่อ 08 ก.ย. 51 02:20:03 จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน - [ 8 ก.ย. 51 02:07:35 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ชาติที่เจริญ ช่างคิด ผมคนไทยส่วนใหญ่ไม่ชอบคิด แต่ชอบตาม จากคุณ : coolplay - [ 8 ก.ย. 51 02:09:05 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ปัญหาของคนไทยอยู่ที่ 1. ขี้เกรงใจ 2. กลัวใครได้ดีกว่า 3. ช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม 4. พูดไปสองไพลเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง 5. มองแต่ตา มืออย่าต้อง ของจะเสีย "แบบผิดๆ" จากคุณ : ทัชชี่ - [ 8 ก.ย. 51 03:12:03 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ไป ลงเรียนรัฐศาสตร์ดูก่อน แล้วค่อยมาถามนะ  มันจะได้มีหลักการมากกว่านี้ จากคุณ : Code Veronica - [ 8 ก.ย. 51 08:57:49 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ใครบอกว่าเมืองหนาวติดทะเล เจริญ หรือบอกว่ายุ่นมี ปวศ ยาวนานกว่า นั่นไร้สาระไปหน่อย โทษอะไรที่มันไกลตัวซะปัญญานิ่มมาก เพราะจีนก็เมืองหนาว ติดทะเล ตอนนี้คนยังรายได้เฉลี่ยโคตรต่ำ เพราะ ระบบสังคม ศก ต่างหาก ที่เป็นปัจจัยสำคัญ อ่า งั้นถามหน่อย  beijing กะxinjiang   คนที่ไหนรายได้เยอะกว่า?? จากคุณ : tenno - [ 8 ก.ย. 51 13:16:19 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ได้ข่าว ตอนนี้ จีน แซง ญี่ปุ่นไปหลายเรื่องแล้วมากๆๆๆ จากคุณ : taecu - [ 8 ก.ย. 51 15:17:24 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ลองหาเรื่องน้ำแข็งครั้งแรกในสยามดู จะพอเข้าใจความเปนสยาม ลองมองร่องรอยในอดีตของญี่ปุ่นในยุคปัจจุบัน แล้วลองเทียบกับไทย คุณจะเห็นว่า เรานี่คือชนชาติป่าเถื่อนดีๆนี่เอง ลองบอกมาสิว่าชุดประจำชาติของเราคืออะไร อย่าเอาสิ่งที่แค่เห็นนะ คิดด้วย จะพบว่าเราไม่มีเลย นุ่งเตี๋ยว ปล่อยนมเพิ่มเลิกหมดไปนี่เอง อารยธรรมญี่ปุ่นยาวนานและเข้มแข็งมาก อย่างประเพณีเกี่ยวกับสงคราม-อาวุธ บ้านเราก็รำดาบกระบี่กระบอง คุณว่าไปสู้กับใครได้ ญี่ปุ่นมีครบ การผลิตปืน ธนู กีฬาขี่ม้ายิงธนู ธรรมเนียมนักรบ นักรบรับจ้าง ซามูไร การทำดาบซามูไรที่ยอมรับว่าดีเลิศที่สุดในโลก การเพาะพันธ์ม้าเพื่อสงคราม วัฒนธรรมที่ ยั่งยืนเข้มแข็งยาวนานต่อเนื่องกว่าไทยเยอะ จากคุณ : lord_guan - [ 8 ก.ย. 51 18:14:17 ]

ความคิดเห็นที่ 45 เพราะบ้านเราชิทแตก จากคุณ : Slurbody - [ 8 ก.ย. 51 19:17:57 ]

ความคิดเห็นที่ 46 #42เอาตัวอย่างเจ้าเดียวได้ไงครับ จีน ปวศ ยาวนานกว่ายุ่นมั้ย พวกที่นิยมว่า ความเก่งอยู่กับปัจจัยที่เราด้อยกว่า เรื่องเชื้อชาติ ภูมิศาสตร์ ทำไมมองโกลเลีย จนจัง เชื้อสายมองโกลลอยด์กลุ่มเดียวกับพวกญี่ปุ่น อากาศก็โคตรหนาว จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน - [ 9 ก.ย. 51 05:19:53 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ความคิดที่ว่าเมืองหนาวเจริญอะไรนั่นเลิกคิดได้เลย คนที่พูดมีความรู้แคบมากๆ เคยไปยุโรปเหนือ(สแกนดิเนเวียน)พบเจอเผ่าดั้งเดิมที่เรียกว่า ซามิ หน้าตาเหมือนมองโกลอยด์ชัดๆเลย อยู่มานานมากๆๆๆก่อนฝรั่งจะอพยพมาอยู่ รูปร่างก็ไม่ต่างจากคนเอเชีย เตี้ยเล็ก จนทุกวันนี้ก็ไม่เห็นจะพัฒนาอะไรได้เลย เป็นได้แค่เผ่าดั้งเดิมที่ยากจนที่สุดของประเทศ จากคุณ : โลกกว้าง - [ 9 ก.ย. 51 14:36:53 A:67.159.50.91 X: TicketID:185875 ]

ความคิดเห็นที่ 48 เหอ เหอ กะทู้นี้กระอึก จากคุณ : handghost - [ 9 ก.ย. 51 18:09:43 ]

ความคิดเห็นที่ 50 #49 เข้าของอารยธรรมโบราณ ไม่ใช่อารยันนะ แต่เป็นพวกดราวิเดียน พวกนิโกร แถบร้อนชื้น ก็มีขอม ไงครับ สร้างนครวัด ความรู้ วิทยาการก้าวหน้า ดราวิเดียนก็ใช่ พวกมายัน aztez นี่ก็เก่งมาก จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน - [ 9 ก.ย. 51 18:45:16 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ขอมก็ ตัวดำ ดั้งแบนนะ#51 ตามรูปปั้นหนะ แม้แต่รูปปั้นพระพุทธเจ้า ยังหน้าแบนเลย เรื่องเชื้อชาติ ผมว่ามีผลบ้าง แต่น้อยมาก เมื่อเทียบกับระบบสังคม การหล่อหลอม การที่เชื้อชาติไหน จะเก่งกว่าอยู่ที่ระบบการคัดเลือกคนเก่ง นั่นมาจากระบบสังคมวัฒนธรรมนั่นเอง ไม่มีใครเป็นผู้ถูกเลือกอะไรวิเศษกว่าใคร มีแต่เราไปยกย่องใคร อะไรแค่นั้น และการเน้นย้ำ ว่าชาติไหนเก่งกว่า ด้วยเชื้อชาติ มันไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น ไม่ช่วยให้พัฒนาตน แถมยังมีแต่จะสร้างความคลั่งชาติ และเหยียดเชื้อชาติ พวกอารยัน ชนะดราวิเดียนได้เพราะเป็นคนเถื่อน รบเก่ง ไม่ได้มีศิลปะวัฒนธรรมอะไรดีกว่า จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน - [ 12 ก.ย. 51 19:44:31 ]

ความคิดเห็นที่ 53 #49 แต่เอสกิโม ไซบีเลีย เป็นมองโกลอย์ ผิวค่อนแดง ใกล้ชิดอินเดียแดง ไม่เหมือนจีน-ญี่ปุ่น ส่วนเรือ่งเชื้อสายเนี่ยดูจากตระกูลภาษา ญี่ปุ่น แมนจู เกาหลี มองโกเลีย อยู่ในกลุ่มที่ใกล้ชิดกันมาก คนละพวกกับจีนฮั่นเลยนะ ที่ชาวมองโกล ผิวเข้มเพราะอยู่ในทะเลทราย ทำไมคนมองโกล ไอคิวต่ำมากล่ะ จะบอกว่าระบบสังคมเหรอ จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน - [ 12 ก.ย. 51 19:48:10 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ประเทศญี่ปุ่นหลังจากแพ้สงครามโลกทำให้ไม่สามารถมีทหารเป็นของตัวเองครับ ทำให้เหลือเงินที่ใช้อุดหนุนด้านการทหารมาใช้บริหารประเทศ รวมกับนิสัยต่างๆของคนญี่ปุ่น ที่เอื้อแก่การพัฒนาประเทศทั้งนั้น เข้าใจว่าปัจจุบัน ญี่ปุ่นก็ไม่มีทหารครับ มีแต่ตำรวจ ซึ่งหากมีภัยต่อประเทศ จะใช้ทหารของอมริกา จากคุณ : aquanoxx - [ 14 ก.ย. 51 22:47:30 ]

ความคิดเห็นที่ 55 #54 ปัจจุบัน กองทหารของญี่ปุ่นเรียกว่ากองกำลังป้องกันตนเอง มีกองทัพที่ยิ่งใหญ่อันดับต้นๆของเอเชียครับ อเมกาเลิกดูแลยุ่นไปหลายไป แต่ยุ่นห้ามขายอาวุธ และห้ามใช้งบกลาโหมเกิน1%ของGDP ซึ่งนั่นก็มหาศาลมากแล้ว จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน - [ 15 ก.ย. 51 01:43:44 ]