ความคิดเห็นที่ 1 1.ไม่เรียน (อันนี้ชัวร์) 2.เงินหมด ทางบ้านหมดปัญญาส่ง หรือ ประสบวิกฤติทางการเงิน (อันนี้ชัวร์) ผมว่า มีเงินและตั้งใจเรียน ยังไงมันก็จบแหละว่ะ ยกเว้นว่า หัวไม่ไป แต่ใจมันรัก อันนี้ก็ไม่ไหวครับ ญาติไกลๆผมคนหนึ่ง เรียน ปวช.(ย้ำว่า ปวช. มิใช่ ปวส.) 8 ปี ที่กรุงเทพไม่จบ กลับมาอยู่บ้านได้ 2-3 ปี รบเร้าให้ทางบ้านขายที่ดินเพื่อจะได้ส่วนแบ่ง มันบอกว่าจะเอาไปเรียนต่อที่อเมริกา เหอ เหอ ยังดีที่ญาติผู้ใหญ่เขาไม่บ้าจี้ตาม ปล. กรณีนี้คือ ไม่เรียนแต่มีเงิน ยังมีอีกกรณีว่า มีเงินแต่ไม่เรียน แต่เล่าแล้วยาวครับ -*- แต่ที่น่าสงสารคือ อยากเรียนแต่ไม่มีเงิน จากคุณ : Ice-man - [ 16 ก.ย. 51 11:59:09 ]

ความคิดเห็นที่ 2 อ่านชื่อ จขกท แล้ว อยากให้อธิบายชื่อหน่อยอ่ะว่าเป็นยังไง จากคุณ : infernaldevilking - [ 16 ก.ย. 51 12:00:40 ]

ความคิดเห็นที่ 3 มีปัญหาอะไรบ้างที่ทำให้เราไปเรียนในต่างประเทศแล้วไม่จบ ความอดทนต่ำในสิ่งเร้ารอบตัว - เพื่อนเยอะขึ้นแปลกหน้าแปลกตา แปลกนิสัย พากันกิน ดื่ม เที่ยว ช๊อบปิ้ง จนหมดสภาพ หมายถึง ไปเรียนไม่ไหว ขาดเรียนจนถูกยกเลิกวีซ่า - ตั้งหน้าตั้งตา ตี ภาชนะใส่แกง ไม่ขำครับ มีจริง ตั้งตัวกันเป็นกลุ่ม เช่าบ้าน เรียนแต่ภาษาเรื่อยๆ ตกซ้ำๆไม่เป็นไร พ่อแม่มีตัง ไล่เก็บสแปร์หญิงต่างชาติ จนกว่าจะครบทุกประเภท ไปบ้านพวกมันแล้วตกใจ ถุงยางซื้อกันเป็นโหล - ปรับตัวรับสภาพไม่ได้ ร้องไห้ ตั้งแต่เครื่องขึ้น จนกระทั่งสามเดือนถัดมาก็ยังร้องอยู่เลยไม่ไหว ต้องล้มเลิก พวกนี้เป็นคนขี้เหงา เห็นใจ - ทะเลาะกับแฟน บินกลับทุกเดือน การเรียนเลยไม่ไป พวกนี้ขี้ระแวงจัด ประมาณว่าแฟนอยู่เมืองไทยมันต้องลั๊นลาชัวร์ กังวลมากกก จนต้องเลิกเรียน จากคุณ : Eakiji Onisuka - [ 16 ก.ย. 51 13:20:00 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ประสบการณ์จากอเมริกา ประเมินค่าใช้จ่ายให้ถูกต้อง ประเมินความรู้ตัวเองให้ถูกต้อง ถ้ารับผิดชอบต่อตัวเองและการเรียน ยังไงก็จบได้ครับ 1.เรื่องทุนหรือค่าใช้จ่าย ลองสำรวจดูว่ารัฐไหนค่าใช้จ่ายเหมาะกับทุนที่มี ค่าใช้จ่ายแต่ละรัฐจะไม่เท่ากัน บางรัฐต่างกันราวฟ้ากับดิน ส่วนที่ว่าได้ทุนเรียนนั้น เข้าใจว่าคงต้องมีความรู้พอที่จะเรียนจนจบได้นะครับ อันนี้คงต้องไปดูเงื่อนไขของทุนนั้นๆครับว่าถ้าไม่จบต้องมีเงื่อนไขอะไร หรือว่าจบมาแล้วต้องมีเงื่อนไขอะไร 2.เรื่องความรู้ ระดับของมหาวิทยาลัยมีหลากหลายตั้งแต่ระดับTOP 10 ถึง TOP 500 หรือ TOP 1000 อาจเป็น 10000 เลย ที่นี้เราก็ต้องดูว่าระดับความรู้เราที่มีนั้นควรเลือกเรียนในระดับไหน  ถ้าเราเลือกระดับมหาลัยได้เหมาะกับความรู้พื้นฐานที่เรามี ยังไงก็จบได้ครับ ที่สำคัญคือต้องเป็นมหาวิทยาลัยที่ กพ.รับรองด้วยนะครับ เว้นเสียแต่ว่ามีกิจการเป็นของตัวเอง และไม่เล่นการเมือง 3.โดยส่วนตัวผมมองว่าระบบการศึกษาและสถาบันการศึกษาของอเมริกามีเหตุมีผล ตามแต่ปัจจัยรอบๆด้านครับ คือถ้ารักที่จะเรียนยังไงก็เรียนจบครับ ถ้าไม่สร้างเงื่อนไขที่ยากเกินความรู้ที่ตัวเองมี ขอให้โชคดีและมีความสุขในการเรียนต่อครับ จากคุณ : ดงพระเจ้าแดนดิน - [ 16 ก.ย. 51 13:22:07 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ต่อ... - พวกหลงกลิ่น ดอลล่า ทำงานได้เงินเป็นกอบเป็นกำ คำนวนแล้ว พอจ่ายค่าเทอมแถมยังเหลือดาวคัมรี่ได้อีก....เลยตัดสินใจลงเรียนเทอมละสองวิชา ลากยาว พวกนี้จบไม่ใช่ไม่จบ แต่จบช้า (ผมเก็บได้แค่แจ๊สป้ายแดง) - พวกไม่ไหวที่เมืองไทย พ่อแม่ส่งมาไม่ไหวต่อที่ต่างประเทศ คิดเอาละกัน มีน้องคนหนึ่งที่รู้จัก เรียนภาษาระดับหนึ่ง ย้ำระดับหนึ่ง เจ็ดเทอม....หัวไม่ไปจริงๆอันนี้ - เจอพวกฝรั่งถ่อยกระทำชำเราทางคำพูดและ การกระทำ จากเด็กขยันๆ ไฟแรง โดนฝรั่ง:-)น้ำลายใส่ทีสองที กลายเป็นคนเก็บตัวเอาแต่ร้องไห้ ไม่ออกจากบ้าน จนสุดท้ายต้องกลับ อนาถจิต ผมเจอเคเอฟซีปาใส่หน้า ยังตะโกนถามหาน้ำจิ้มเลย...ไม่ตลกแต่แกล้งตลก จริงๆแล้วเจ็บใจ จากคุณ : Eakiji Onisuka - [ 16 ก.ย. 51 13:29:14 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ต่อ.... แล้วเมื่อไม่จบจะทำอย่างไรกับตัวเอง... กลับสิครับ จะอยู่ทำไมให้เงินมันไหลออก...แต่ก็มีอีกพวก เช่นข้ากะว่าจะมาต่อโท จับพลัดจับผลู กลายเป็นพ่อครัวเงินเดือนสองแสนกว่าโรงแรมหรูไปแล้ว.เปลี่ยนสายการเรียนครับ เอาดีทางทำอาหารไปเลยทุกวันนี้โรงแรมไหนก็อยากได้ตัวไปทำอาหาร....บางคนก็ไปเรียนพวกกราฟฟิคดีไซน์ไปเลย แหวกแนวดี เรียนวิชาชีพเฉพาะก็เจอครับ ประสบการณ์หัวหน้านักเรียนกลุ่มใหญ่ในออสเตรเลียสามปีครับ จากคุณ : Eakiji Onisuka - [ 16 ก.ย. 51 13:34:51 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ...ทำไมเขาดูถูกเราจังคะ......... จากคุณ : ช่อเอี้อง - [ 16 ก.ย. 51 13:35:49 ]

ความคิดเห็นที่ 8 #7 เหมือนเราดูถูกคนพม่ายังไงล่ะครับ จากคุณ : Ice-man - [ 16 ก.ย. 51 13:47:50 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เออเนาะ ผมก็จะเข้ามาตอบอยู่พอดีเหมือนกันว่า ชาติพันธุ์เราดี ชาติพันธ์เขาไม่ดี ลืมนึกไป แค่คนไทยต่างภาค เรายังดูถูกกันเองเลย อย่างนั้นก็สมควรแล้วที่เราจะต้องเรียนรู้ไงครับ เรียนรู้ที่จะไม่ดูถูกคนอื่น เพราเขาก็เป็นมนุษย์เฉกเช่นเดียวกับเรา.... พูดถึงเรื่องนี้แล้วมันขึ้นครับ...ที่โดนเองกะที่น้องๆมาฟ้องก็มีดังนี้ :-)น้าลายใส่ ตะโกนด่า ปาของใส่ :-)หมากฝรั่งใส่ น้องผู้หญิงเจอหมากฝั่งยีหัวมันนึกว่าน้องเป็นคนจีน ปาใข่ใส่ สบถ กระแทก ดันผลัก ต่อย แย่งของ กระตื้บ...มันบอกลิงใช้โทรศัพท์ไม่เป็นหรอก ตุ๊บตั้บๆๆ ฉี่รด โอยสารพัด.... อยากเอาคืน แต่เราเป็นนักเรียน ได้แต่จำหน้าแล้วคิดในใจว่า อย่าให้กุเจอที่เมืองไทยนะมรึน...ฮึ่มๆ อิอิ ทุกวันนี้ลืมไปแล้วครับ ประสบการณ์ชีวิตดีๆนี่เอง จากคุณ : Eakiji Onisuka - [ 16 ก.ย. 51 13:58:36 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ตอนนี้กำลังเรียนอยู่ที่เยอรมันครับ มันขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของแต่ละคนครับว่ามาเรียนเมืองนอกเพื่ออะไร จะเพราะโอกาส การนับหน้าถือตา งานดีเงินดี หรืออะไรทั้งหลายแหล่ แต่ผมเชื่อแน่ว่าคนที่ตั้งใจมาเรียนจริงๆ และมีความตั้งใจที่จะเอาความรู้นั้นกลับไปพัฒนาประเทศ ยังไงก็ต้องเรียนจบแน่นอนครับ เพราะความตั้งใจอย่างแรงกล้านี่แหละที่จะเป็นพลังขับดันให้คนที่มีฝันก้าวไปถึงจุดหมายที่มุ่งหวังเอาไว้ได้ ไม่มีอะไรที่ยากเกินความตั้งใจของคน เพราะคนเป็นคนคิดมันขึ้นมา ยังไงเราต้องแก้ปัญหามันได้อยู่แล้ว สำหรับคนที่ไม่ประสบความสำเร็จกลับไปอาจจะเป็นเพราะไม่ได้ตั้งใจจะมาเรียนหาความรู้ใส่ตัวจริงๆ ทำงานแล้วได้เงินดีใครหละจะไม่อยากทำ ซึ่งมันก็ไม่ผิดที่เค้าจะเลือกเส้นทางนั้น แต่ละคนมีทางเดินที่แตกต่างกัน แต่คนที่มาแบบแน่วแน่ตั้งใจจริง เค้าจะมองเห็นภาพอนาคตของตัวเองไว้แล้ว วางแผนเป็นขั้นตอนว่าจะเดินไปทางไหน จะทำอะไรตามลำดับก่อนหลัง สำหรับตัวผมเองถ้าจะเรียนไม่จบจริงๆก็คงเป็นเรื่องสุขภาพที่ไม่เอื้ออำนวย และถ้าจะเป็นแบบนั้นจริงๆผมก็ต้องทำใจครับ แต่ถ้าสามารถก้าวข้ามอุปสรรคนี้ไปได้ความฝันก็อยุ่ใกล้ขึ้นเยอะเลยครับ ผมชอบสังคมการเรียนที่เยอรมันนะครับ ทุกอย่างรอบตัวเราสามารถเรียนรู้ได้หมด ไม่แค่เฉพาะในห้องเรียน ภาษาอังกฤษก็ใช้กันลำบากลำบนแล้ว มาเรียนเยอรมันยิ่งบ้าบอไปกันใหญ่ มาอยู่นี่แล้วรู้สึกเหมือนภาษาอังกฤษเป็นภาษาประจำชาติเลยอะ ช่วยชีวิตได้ในทุกสถานการณ์ แต่ถ้าจะให้แนะนำคนใกล้ตัวผมว่าไปที่อื่นที่ใช้ภาษาอังกฤษดีกว่า นอกเสียจากว่าจะมาเรียนวิศวะก็มาเหอะ เพราะค่อนข้างจะต้องปรับตัวมากพอสมควร ยิ่งมาแบบฉายเดี่ยวด้วยแล้ว มันจะเหนื่อยกว่าปกติมากทีเดียว ส่วนคนที่อยากจะมาเรียนเมืองนอก ต้องตอบตัวเองได้ว่าถ้ากลับไปแล้วจะทำอะไรเพื่อแผ่นดินเกิด เพราะคุณได้โอกาสมาในฐานะตัวแทนของประเทศแล้วคุณก็ต้องกลับไปตอบแทนคนที่เค้ายอมให้คุณเหยียบหลังมาเรียนถึงเมืองนอกเมืองนาบ้าง จากคุณ : Finnegan 'Finn' Bell - [ 16 ก.ย. 51 15:14:53 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เลือก supervisor ผิด จากคุณ : Practical x 2 - [ 16 ก.ย. 51 17:55:23 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ผมไม่ใช่ นักเรียนนอก แต่  เคยได้ยินมา ส่งไปเรียนนอก  เรียนไป  จน ปี 3 จะขึ้นปี สุดท้าย ที่ นอก  แล้วเค้าไปเปลี่ยน สาขาวิชา เรียน  ด้วยเหตุผลอะไรผมไม่ทราบได้ อาจจะเรียนไม่ได้ หรืออะไรไม่ทราบ พอทางที่บ้านเรา ทราบ ก็ เรียกตัวกลับ มา แล้วเรียน ปี 2 ใหม่ ในเมืองไทย  คับผม  นับ 2 ใหม่ เลย ส่วนที่โหดๆ น่าจะ เยอรมัน  เพราะ  ตรี กะ โท เหมือน เค้า  ควบไป เลยหากไม่จบก็ คือ  วุฒิ ม.6  เลย คับผม หาก จบก็ ป.โท เยอรมันก็ ภาษา  และ ความเข้มข้นในการเรียน คับผม เห็น ด้วยกะ ที่ เยอรมันโหด เพราะ  ส่วนมาก คนไม่จบก็ ที่ เยอรมัน คับผม จากคุณ : ชลน่าน - [ 16 ก.ย. 51 18:16:52 ]

ความคิดเห็นที่ 13 พลาด ท้องซะก่อน อย่างนี้ก็มี จากคุณ : เต่าหลังอ่อน - [ 16 ก.ย. 51 18:57:26 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ผ่านมาอ่าน...   จากคุณ : ชายยอดนักทดลอง - [ 16 ก.ย. 51 19:00:30 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ก่อนจะไป เข้าไปลาอาจารย์ อาจารย์บอกว่า "ห้ามทะเลาะกับอาจารย์ที่ปรึกษาเด็ดขาด" >> เรียนด้วยทุนตัวเองไม่จบแล้วจะทำไรต่อ ถึงไม่มีปัญหาเรื่องเงิน แต่อาจจะมีปัญหาเรื่องวีซ่า >> หรือเรียนทุนแล้วไม่จบจะทำไรต่อ ทางเจ้าของทุนจะมีบทลงโทษอะไรหรือเปล่า แล้วแต่เจ้าของทุน  กรณีที่คิดว่าโหดๆ เช่น ให้เวลาเรียนโทสองปี เอกสี่ปี  เกินจากนี้ต้องกลับมาใช้สี่เท่า ไม่ว่าจะมีปัญหาอะไร  ขอให้คิดว่าคนอื่นทำได้ ทำไมเราจะทำไม่ได้ จากคุณ : Badboy - [ 16 ก.ย. 51 19:25:29 ]

ความคิดเห็นที่ 16 อาจารย์ที่ปรึกษาตอนเรียน ป.โท บอกให้มาเรียนต่อ ป.เอก ที่เมืองนอกก็เลยมา ถ้าไม่จบก็กลับบ้านไปทำนาแหละครับ บริษัทจ่ายให้ตราบเท่าที่ผลงานวิจัยเป็นที่พอใจของบริษัท แก้ไขเมื่อ 16 ก.ย. 51 19:43:34 จากคุณ : kanoomtan - [ 16 ก.ย. 51 19:42:40 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ติดพนัน จากคุณ : Ronachai (amscmu) - [ 16 ก.ย. 51 19:57:22 ]

ความคิดเห็นที่ 18 อิอิอิ นึกถึง ดร.โนงุจิเลย ก่อนไปต่างประเทศท่านสลักฝาบ้านว่า "ถ้าไม่ได้ดั่งใจหวั่ง จะไม่ขอกลับมาเหยียบแผ่นดินแม่อีก" เออ........ ใครตั้งใจแน่วแน่แล้วก็ลองทำตามดูนะ แก้ไขเมื่อ 16 ก.ย. 51 20:02:02 จากคุณ : ป๊อปปูล่า - [ 16 ก.ย. 51 20:01:14 ]

ความคิดเห็นที่ 19 คำตอบที่ชัดเจน ชัดลึก และกว้าง ... อยู่ที่ห้องไกลบ้าน จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 16 ก.ย. 51 20:29:22 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ความคิดเห็นที่ 3   - ตั้งหน้าตั้งตา ตี ภาชนะใส่แกง ไม่ขำครับ มีจริง ตั้งตัวกันเป็นกลุ่ม เช่าบ้าน เรียนแต่ภาษาเรื่อยๆ ตกซ้ำๆไม่เป็นไร พ่อแม่มีตัง ไล่เก็บสแปร์หญิงต่างชาติ จนกว่าจะครบทุกประเภท ไปบ้านพวกมันแล้วตกใจ ถุงยางซื้อกันเป็นโหล จากคุณ : Eakiji Onisuka ปรกติกล่องนึงมันก็มีโหลนึงไม่ใช่เหรอ??? -_-' จากคุณ : {P}a{T}t{Y} - [ 17 ก.ย. 51 03:15:12 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ปัญหาหลักๆคือไม่มีความมุ่งมั่นที่จะทำในสิ่งที่ตั้งใจไ้ว้มากพอ แค่นั้นแหละ อย่างอื่นคือข้ออ้างที่จะทำให้ปัญหาหลักมันฟังดูดีขึ้น จากคุณ : VeryBadman...Begins - [ 17 ก.ย. 51 04:53:02 A:128.242.106.124 X: TicketID:185387 ]

ความคิดเห็นที่ 22 #2 ชื่อผมก็ตรงๆนั่นแหละครับ โรแมนติคแบบไม่ธรรมดา อิิอิ.. จริงๆ ไม่รู้จะใส่อะไรดีมันนึกคำนี้ขึ้นมาได้ ก็เลยเออเอาว้า #11 นั่นแหละครับที่เสียวอยู่ เพราะตอนที่เรียนที่ไทยนี่ ก็เคยเจออาจารย์ฝรั่งคนนึงที่เขาเป็นคนที่จะคอยแก้เปเปอร์ภาษาอังกฤษให้นักศึกษา ซึ่งปกติภายนอกก็เป็นคนใจดี ผมก็ส่งให้เขาแก้ แล้วเขาก็เรียกไปคุยด้วย พอดีมีอยู่ประโยคนึงที่เอาอะไรขึ้นก่อนนี่แหละ ผมก็สงสัยว่าทำไมเขาถึงต้องเอาตัวนี้ขึ้นก่อน ถามดีๆปกตินี่แหละครับ เขาโมโหเลยบอกว่าถ้าไม่เชื่อก็เอากลับไปแก้เอง งงเลยเรา ก็เลยบอก ครับๆ โอเคว่าตามนั้น จากคุณ : โรแมนติคโครตพิศดาร - [ 17 ก.ย. 51 08:58:13 ]

ความคิดเห็นที่ 23 "มีปัญหาอะไรบ้างที่ทำให้เราไปเรียนในต่างประเทศแล้วไม่จบ" 1. ไม่มีความรับผิดชอบ เงินไม่ใช่ประเด็น หาเองได้ อยู่ที่ว่าอดทนและพร้อมจะลำบากหรือเปล่า เมื่อพร้อมที่จะลำบาก ก็ต้องรับผิดชอบต่อตัวเอง แบ่งเวลาทำงาน แบ่งเวลาเรียน อ่านหนังสือ ทำการบ้าน 2. เลื่อนแล้วเลื่อนอีก ขอทำงานก่อน ขอสนุกก่อน ขอเก็บตังค์ก่อน อีกซักพักค่อยเรียน เลือนไปเลื่อนมา ก็ยังไม่ได้เรียนซักที ข้อนี้ ส่วนมาก ผลสุดท้ายจะไม่ได้เรียน 3. อกหัก รักคุด ไม่เรียนดีกว่า 4. ติดเพื่อน เที่ยว พี้ยา อเมริกา จากคุณ : LAPD21 - [ 17 ก.ย. 51 10:53:18 ]

ความคิดเห็นที่ 24 Do you mind English? If you don't, I would like to share you my experiences in America with you. When you enroll into any graduate course, there is NO guarantee that you will be graduated..... This is a fact. For PhD study in the US, it looks like working more than conventional studying you've experienced here in Thailand..... So, in this American sense, it's a work... Thus, students have a full liberty to quit at any time they want.... Please remember that studying or academic achievment is only a part of life, it does not equal life.... And, the word "life" (in American's sense) is full of freedom (and, at the same time, difficulties). Many graduate students study while they have a family. That's a big responsibility and requires serious commitment, even more than graduate study so to speak. When we compare the ideas of life and education between our and American society, it clearly demonstrates major difference in objectives..... Different results? I guess so. จากคุณ : amatuer translator - [ 17 ก.ย. 51 19:47:04 ]

ความคิดเห็นที่ 25 มีรุ่นพี่เรียนเอกที่ญี่ปุ่น เจออ.ขี้โมโห (ตามที่เค้าเล่ามา) เวลาทำอะไรไม่ถูกใจ อ.แกจะโมโห แล้วพูดว่า "มีความรู้แค่นี้ก็กลับประเทศไปเถอะ" พี่แกเข้าเรียนได้แค่ 2 เดือนก็กลับประเทศจริงๆ ปล ผมเรียนที่ญี่ปุ่นก็เคยเจออ.โมโหถึงขั้นทุบโต๊ะ กับเรื่องบางเรื่องที่เรามองว่าเป็นเรื่องเล็กมาก จนงงไปเลย คือตอนนั้น นั่งทำงานกับคนญี่ปุ่นอยู่ แล้วอ.เอาเอกสารว่าสอบเข้ามหาลัยผ่านแล้วมาให้ ผมเห็นเอกสารมันหนาแล้วก็เยอะมากเลยกะว่าจะอ่านตอนกลางคืน เลยนั่งทำแลบไป จากนั้นอีกประมาณชั่วโมงครึ่ง อ.ก็เดินมาเรียกไปคุยที่ห้องอ. ถามว่าได้อ่านรึยัง (ตอนอ.มาเรียก ดันมาจังหวะผมอ่านเวปอยู่) พอตอบว่า ยังไม่ได้อ่านเลยครับ เท่านั้นแหละ อ.แกโมโหทุบโต๊ะเปรี้ยง แล้วสีหน้าแกโมโหอย่างสุดๆ แล้วก็แกหยิบซองเอกสารที่ให้มาเปิดอย่างแรงราวกับจะฉีกออก แล้วหยิบใบที่บอกว่าสอบผ่านขึ้นมา แล้วชี้ที่ตัวอักษรภาษาญี่ปุ่นที่บอกว่าสอบผ่าน แล้วตะโกนว่า "คุณเข้าใจความหมายมั๊ยยยย" (คิดในใจว่า กรูรู้สิวะ ไม่งั้นกรูจะเรียนมาได้ยังไง) แล้วยังทุบโต๊ะอีกหลายเปรี้ยง พร้อมกับตะโกนว่าให้ไปอ่านมาซะ ตอนนั้นงงๆว่าอะไรวะ เรื่องแค่นี้ทำไมโมโหขนาดนี้ เพราะเห็นว่าเอกสารมันหนามาก ไม่ว่าจะเริ่มอ่านตอนที่อ.ให้ หรือเริ่มอ่านตอนกลางคืน มันก็น่าจะอ่านจบในวันถัดไปเหมือนกัน แล้วตอนนั้นอยู่ที่แลบก็เลยอยากทำแลบก่อน กะว่าจะเอาไปอ่านที่บ้านตอนกลางคืน เพราะยังไง dead line ในการเดินเอกสารนั้นมันอีกตั้ง 1 อาทิตย์ ในขณะที่ dead line ของงานแลบที่ทำอยู่มันอีกแค่ไม่กี่วันแล้ว หรือว่าจะโกรธที่เข้ามาเห็นตอนกำลังเปิดเน็ตพอดี (จริงๆตอนนั้นนั่งทำงานตลอดไม่ได้พักเลย พอเริ่มจะพัก เปิดเน็ตขึ้นมาปุป โชว์หน้าเวปผู้จัดการ แล้วอ.เปิดประตูเข้ามาตอนนั้นพอดี ซวยจริงๆ) คือปกติอ.แกใจดีมาก แล้วเรื่องผิดพลาดกว่านี้ก็เคยมาก่อน แต่อ.ไม่เคยว่าเลย ครั้งนั้นเลยจำฝังใจมา เข้าใจว่าอาจเป็นเพราะวัฒนธรรม เรื่องเล็กของเรา แต่เป็นเรื่องใหญ่ของเค้า ถ้าพลาดตรงจุดนี้บ่อยๆน่าจะสามารถเรียนไม่จบได้ แก้ไขเมื่อ 18 ก.ย. 51 00:25:47 จากคุณ : FREE_OFFICER - [ 18 ก.ย. 51 00:11:50 ]