ความคิดเห็นที่ 1 ผมรักงานที่ทำและชอบการทำงาน แต่ถ้าคิดให้ดีแล้ว การเอาแต่ทำงานโดยไม่ สนใจต่อสุขภาพ จะทำให้ทำงานได้ลดน้อยลงในระยะยาว เพราะร่างกาย ที่มีสุขภาพย่ำแย่ย่อมเจ็บป่วยบ่อย และถ้าเจ็บป่วยมากๆ จนถึงขั้นที่ทำงาน ไม่ได้ ย่อมไม่มีประโยชน์อันใด ควรต้องรักษาสุขภาพกายและใจให้ดีเป็น อันดับแรกก่อน เพื่อการทำงานได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ผมไม่ต้องการ ทำงานอย่างหามรุ่งหามค่ำ จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่ออายุ 50 กว่าปี นั่งประชุมอยู่ ในห้อง แล้วจู่ๆ ก็ฟุบคาโต๊ะ ด้วยเส้นโลหิตฝอยในสมองแตก ต้องนั่งรถเข็นแล้ว ไม่สามารถทำงานใดๆ ต่อไปได้ (เหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นกับนักเรียนทุนรัฐบาล ตรี โท เอก) นับตั้งแต่นั้นจึงเริ่มการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เริ่มจากการเดินเป็น เวลา 30 นาที แล้วค่อยเปลี่ยนเป็นวิ่งที่เพิ่มปริมาณมากขึ้นในลำดับถัดมา ส่งผลให้สัญญาณชีพดีขึ้นเป็นลำดับ ดังแสดงในรูปด้านล่าง สำหรับวันที่ 22 พฤศจิกายน ปี 2549 และ 2550 อย่างไรก็ตามน้ำหนักยังไม่ลดและ วนเวียนอยู่ที่ 78 kg แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 51 06:21:49 แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 51 06:02:35 จากคุณ : Practical x 2 - [ 5 ต.ค. 51 05:58:46 ]

ความคิดเห็นที่ 2 จากความสำเร็จในเบื้องต้น จึงมีความเป็นไปได้ในการดำเนินการวิจัยขั้นตอน ถัดไป เพื่อลดน้ำหนักลงและหาวิธีการกินอาหารอย่างมีความสุขโดยที่มี สุขภาพดีและไม่อ้วน วัตถุประสงค์ของงานวิจัย 1. ผมที่มีส่วนสูง 167 cm ต้องการจะลดน้ำหนัก 78 kg ให้เหลือ 60 kg และต้องการรักษาระดับน้ำหนักดังกล่าวให้คงอยู่เป็นเวลาอย่างน้อย 1 ปี เพื่อยืนยันว่าการลดน้ำหนักสัมฤทธิ์ผลอย่างแท้จริง 2. เพื่อค้นหาวิธีการกินอาหารอย่างมีความสุข ที่เราอยากจะกินในขณะที่ สามารถรักษาน้ำหนักให้อยู่ในระดับ BMI ที่แนะนำ ได้อย่างยั่งยืนและไม่มี การหวนคืนของน้ำหนัก (โยโย่) จากคุณ : Practical x 2 - [ 5 ต.ค. 51 06:20:58 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ระยะเวลาดำเนินการวิจัย 1 ปี 2 เดือน ตั้งแต่วันที่ 9 กรกฎาคม 2551 จนถึง 8 กรกฎาคม 2552 ขอบเขตของงานวิจัย ดำเนินการลดน้ำหนักโดยอาศัยการวิ่ง 7 km ในเวลา 45 นาที และเดิน 1.5 km ในเวลา 15 นาที ทุกเช้า และการควบคุมอาหารโดยการลดแต่ ไม่อดอาหารเท่านั้น จากคุณ : Practical x 2 - [ 5 ต.ค. 51 06:25:04 ]

ความคิดเห็นที่ 4 วิธีดำเนินการวิจัย 1. บันทึกน้ำหนัก และสิ่งที่กินในแต่ละวัน แต่ละมื้อ ลงในสมุดบันทึก เพื่อให้เห็นความต่อเนื่องและเป็นกำลังใจในการลด 2. ลดหรืองดน้ำอัดลม ของหวาน อาหารที่มีน้ำตาลสูง พวกน้ำผักผลไม้ ต่างๆ ล้วนมีการเติมน้ำตาลในปริมาณสูง 6 - 9% ทั้งสิ้น 3. วิ่ง 7 km ภายใน 45 นาที ตามด้วยเดิน 1.5 km อีก 15 นาที โดยทำ ทุกเช้า มีหยุดพักได้ เช่น 2 อาทิตย์หยุดหนึ่งครั้ง 4. เปลี่ยนลักษณะการกิน และอย่าอดอาหาร เพราะมีแต่จะนำไปสู่ความ ล้มเหลว และโยโย่ที่จะทำให้น้ำหนักกลับมาเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม โดยหัน ไปกินผลไม้ ผัก ให้มากขึ้นเยอะๆ อย่างในกรณีผม จะกินแต่ผลไม้และผัก ต้มในมื้อเย็นจนอิ่ม (ผลไม้จำพวกแก้วมังกร มะม่วงดิบ แอ๊ปเปิ้ล สาลี่ และ ผักอย่างผักกาดขาวต้ม ใส่คนอร์ รวมกับสาหร่ายและเต้าหู้) คำว่าอิ่มนี้ไม่ได้ จำกัดว่าอย่างละผลสองผล หรือผักต้มถ้วยเล็กๆ ในกรณีของผมมื้อหนึ่ง กินแก้วมังกร 3-4 ลูก มะม่วงดิบ 1-2 ลูก แอ๊ปเปิ้ลฟูจิ แอ๊ปเปิ้ลวอชิงตัน สาลี่ 2 ลูก มะเขือเทศราชินี 15 ลูก และผักต้มอย่างที่บอกด้านบน 2 ถ้วย ใหญ่ แต่กินแบบนี้วันรุ่งขึ้นน้ำหนักก็ลด เพราะพลังงานอาหารพวกนี้ต่ำ แต่ ต้องทำควบคู่ไปกับการออกกำลังกายตามข้อ 3. จากคุณ : Practical x 2 - [ 5 ต.ค. 51 06:33:39 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ผลการวิจัย ดูกราฟด้านล่างและท่านที่อยากได้โปรแกรมการกินอาหารติดต่อมาได้ ที่อีเมลล์ของผมครับ (เผยแพร่เป็นวิทยาทาน) วันที่ 9 กรกฎาคม 2551 น้ำหนัก 78 kg วันที่ 5 ตุลาคม 2551 น้ำหนัก 60.0 kg (น้ำหนักที่สัมพันธ์กับ BMI ที่แนะนำ คือ 63.2 kg) กางเกง size 36 นิ้วที่มี ตอนนี้หลวมโพรกไปแล้ว และมาใส่ขนาด 32 นิ้ว ได้อย่างสบาย ที่ลดลงให้น้อยกว่า BMI 3 kg เผื่อตอนไปกินอาหารที่อยาก กิน แล้วเฝ้าดูน้ำหนักในอีก 2-3 วันถัดมา ถ้าสูงเท่า 63.2 kg อีก ผมก็จะ กลับไปเข้าโปรแกรมลดน้ำหนักอย่างเดิม แล้วเริ่มกินตามปกติใหม่ จาก คราวที่ผ่านมาสามารถกินตามปกติที่เราเคยกินได้ 3-4 วัน แล้วใช้ เวลาลดเพียง 2 วัน (ดูกราฟ) แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 51 06:38:14 จากคุณ : Practical x 2 - [ 5 ต.ค. 51 06:37:29 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ข้อแนะนำเพิ่มเติม 1. ระหว่างการลดน้ำหนัก ถ้าน้ำหนักเริ่มคงที่ หรืออยู่ในช่วง dieting plateau อย่าลงโทษตัวเองโดยอดอาหารหรือลดการกินมากขึ้นอีก เพราะตอนนั้น ร่างกายเราเริ่มปรับตัวเข้ากับสภาพการกิน โดยลดอัตราการเผาผลาญพลัง งานลง ทำให้น้ำหนักไม่ลด วิธีแก้ไขคือใช้ calorie variation technique โดยกลับไปกินอาหารอย่างเดิม ซักหนึ่งหรือสองมื้อ ซึ่งนอกจากที่คุณจะ เริ่มมีความสุขขึ้นบ้าง เพราะได้มีช่วงพักบ้าง ร่างกายเองก็จะเพิ่มอัตราการ เผาผลาญขึ้น แล้วในมื้อถัดไป ให้กลับไปกินผักผลไม้อย่างเดิมอีก สิ่งที่จะ ตามมาก็คือ บรรเทาปัญหาเรื่องท้องผูกระหว่างการลดอาหาร (ใช่แล้วครับ แม้จะกินแต่ผักและผลไม้ ก็ท้องผูกได้) และน้ำหนักจะลดลงจาก dieting plateau ได้ ซึ่งผมพบในช่วงน้ำหนัก 66 และ 68 kg 2. ในกรณีของผมเมื่อน้ำหนักลดลงเหลือ 60 kg เมื่อไหร่ จะกลับไปกิน อาหารตามปกติ ที่เคยกินอีกครั้ง แต่จะเฝ้าดูน้ำหนักทุกวัน ตัวอย่างเช่น เมื่อวานนี้น้ำหนักผมหลังออกกำลังกาย ลดลงเหลือ 60 kg แล้ว (ทันช่วง งานเลี้ยงในวันเสาร์และวันอาทิตย์พอดี) มื้อกลางวันกลับไปกิน ข้าวคลุก กะปิ ผัดผักคะน้าน้ำมันหอย ไก่ทอด ไอศครีมเรนโบว์พาเฟ่ต์ น้ำมะเกี๋ยง ตามด้วยงานเลี้ยงเกษียณอาจารย์อาวุโสในมื้อเย็น ประกอบไปด้วย ข้าว และอาหารที่จัดเลี้ยงในงาน ผัดไทยกินตามปกติ ผลไม้พวกแคนตาลูป และแตงโม ตามด้วยของหวานขนมชั้น 1 ชิ้น  แต่สิ่งที่จะหลีกเลี่ยงระหว่าง ทั้งสองมื้อคือการกินอาหารที่มีไขมันสูงปริมาณมาก และการกินน้ำอัดลม เมื่อครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา ผมกลับไปชั่งน้ำหนักได้ 62.1 ครับ แต่เดี๋ยวไปวิ่ง ตามโปรแกรมเดิม จะลดน้ำหนักลงได้ 0.6 - 0.7 kg  น่าจะเหลือราวๆ 61.4 - 61.5 kg ยังเหลือพอสำหรับข้าวกลางวันในวันนี้ ที่อาจไปกินบุฟเฟ่ต์ ที่โรงแรมในตอนกลางวัน และร้านอาหารจีนในตอนเย็น แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 51 06:50:01 จากคุณ : Practical x 2 - [ 5 ต.ค. 51 06:40:49 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เก็บข้อมูล จากคุณ : Echizen - [ 5 ต.ค. 51 11:17:23 ]

ความคิดเห็นที่ 8 18 กก. ในสามเดือน เก่งมากครับ ผมเคยทำ 10 กก. ในเดือนเดียว ครั้งที่ยังเป็นนักเรียนอยู่ วันนี้กลับมาหนักมากกว่าเดิม 20 กก. จากคุณ : น้าพร - [ 5 ต.ค. 51 11:23:14 ]

ความคิดเห็นที่ 9 18 กก. ในสามเดือนทำมาแล้ว เพิ่มนะคะ จากคุณ : มิ้นๆ (mint_la) - [ 5 ต.ค. 51 11:44:36 ]

ความคิดเห็นที่ 11 สมเป็นนักวิทยาศาสตร์จริง ๆ  ให้ใจไปเลย 3 ดวง   ทำมั่งดีกว่า  สุขภาพทรุดโทรมมากช่วงนี้   ขอบคุณที่มาแบ่งปันครับ จากคุณ : jedi-jaidee - [ 5 ต.ค. 51 12:15:16 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ไปซื้อลู่วิ่งบ้างดีกว่า จะได้หุ่นดี สุขภาพดี จากคุณ : Natthanuch1 - [ 5 ต.ค. 51 12:34:05 ]

ความคิดเห็นที่ 13 วันเสาร์ ที่ 11 นี้ กรุณาอย่าลืม ไปเพิ่มน้ำหนักกันที่ ร้านคุ้มเวียงยอง เวลา 18.30 นะครับ ปล. รบกวนอาจารย์เตรียมเรื่อง การทำ alc จากพืชไปด้วยครับ เป็นหัวข้อ เสวนาครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : น้าพร - [ 5 ต.ค. 51 13:01:22 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ครับ น้าพร แล้วพบกันครับ จากคุณ : Practical x 2 - [ 5 ต.ค. 51 14:17:59 ]

ความคิดเห็นที่ 15 โห  ลด  18 กิโลใน 3 เดือน  เยี่ยมครับ แต่ 78 โล  ก็อวบกำลังดีนะครับ  อิอิ ผมสูงพอ ๆ กันกับท่าน  แต่น้ำหนัก  65-69 กิโล  แล้วแต่ช่วงเวลา กะว่าจะลดให้เหลือสัก 60  ก่อนปีใหม่ครับ จากคุณ : ขุนไกรครับผม - [ 5 ต.ค. 51 14:43:42 ]

ความคิดเห็นที่ 16 18 โล ใน 3 เดือน   O_o" นับถือครับ จากคุณ : ksk - [ 5 ต.ค. 51 15:52:04 ]

ความคิดเห็นที่ 17 นับถือความพยายาม ^_^ ผมสูง 178 หนัก 63 อยากหยุดไว้เท่านี้ ไม่อ้วนกว่านี้ไปตลอดชีวิตเลยจะทำได้ไหมเนี่ย จากคุณ : Cryptomnesia - [ 5 ต.ค. 51 16:52:08 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ผมเคยทำได้ที่ 8 กิโล ใน 2เดือน เอวหายไป5 นิ้ว คล้ายกับที่อาจารย์ทำมากครับ แต่ผม เป้นกฎคือ ทุกมือ 1 จานเท่านั้น และไม่กินน้ำอัดลมและของหวานอะไรเลย นอกนั้นตามปกติ ออกกำลังกายแล้วแต่จะมีเวลา อยากจะให้อาจารย์ทำเป็นสูตรจังครับ จากคุณ : lyonheartz (lyonheartz) - [ 5 ต.ค. 51 18:16:37 ]

ความคิดเห็นที่ 19 อยากลดแค่ 9 ขีด  ลดมาตั้งแต่ปีใหม่ ปี 51 จนจะครบปีอยู่แล้วยังลดไม่ได้เลยค่ะ -*- จากคุณ : Rata_RG - [ 5 ต.ค. 51 18:40:30 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ไม่ธรรมดาทั้งการลดน้ำหนัก วิธีคิด และวิธีนำเสนอ สร้างกำลังใจให้ผมได้ดีทีเดียวครับ จากคุณ : จั๊กกะจี๋ - [ 6 ต.ค. 51 02:47:31 ]

ความคิดเห็นที่ 21 สมกับเป็นอาจารย์จริงๆค่ะ เขียนให้อ่านเข้าใจง่าย แบบนี้ อ่านเพลินเลย ส่วนตัว ไม่อ้วนอะ อยากเพิ่มอีกสักนิดด้วย จากคุณ : Choco-Mix - [ 6 ต.ค. 51 13:54:43 ]

ความคิดเห็นที่ 22 อาจารย์เก่งจังเลยค่ะ หนูก็กำลังลดอยู่ แอโรบิคเอาค่ะ วิ่งไม่ค่อยไหว มันเงียบเกิน อาจารย์เป็นกำลังใจให้หนูด้วยนะคะ เจอกันวันรับปริญญาค่ะ จากคุณ : ~~ช้างน้อยร้อยโล~~ - [ 6 ต.ค. 51 14:16:49 ]