ความคิดเห็นที่ 1 บรรจุวิชาประวัติศาสตร์ แบบให้ชำระประวัติศาสตร์แบบตรงไปตรงมา เน้นด้านภาษานะครับ ควรรื้อระบบการสอนภาษาต่างประเทศในประเทศไทยทั้งหมด คณิตศาสตร์ และ วิทยาศาสตร์ ควรสอนเป็นภาษาอังกฤษ ตั้งแต่ประถม เฉพาะคณะบริหารธุรกิจ นิเทศศาสตร์ ต้องเรียนเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด ต้องทำวิทยานิพนธ์ก่อนจบ ทุกมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะเอกชน มีการสอบคุณวุฒิด้านภาษาเทียบเท่า Tofle ในราคาถูก สร้างมหาวิทยาลัยที่เรียนฟรีจริงๆ ทัั้งกินอยู่ ซักมหาลัยนึงในประเทศ อัพเกรดครูที่มีอยู่ ให้ศักดิ์ศรีความเป็นอยู่รายได้เทียบเท่าแพทย์ คือผมไม่ได้เก่งอะไรน่ะครับ แค่เห็นคนไทยเราลำบากเรื่องภาษามากๆ ตำราดีๆ เวปดีๆมีทั่วโลก แต่อ่านไม่ออก มันก็วนกันอยู่ในอ่าง จะไปค้าขายต่างประเทศก็ติดเรื่องภาษา จบบริหารสมัยนี้ก็เป็นได้แค่ธุรการเอกสาร ตัดราคาสู้กัน กอดกันตายในกะลา เอ้ย ในประเทศ ภาษาที่ดีจะสามารถเปิดโลกของไทยเราให้กว้างขึ้นครับ จากคุณ : ppp (ajibjoy) - [ 9 ต.ค. 51 11:49:08 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ส่วนตัวผมไม่ได้กล่าวถึงระบบเลยนะ ต่อให้เทพมาเซตระบบให้ดีเลิศยังไง แต่ผู้ใช้ระบบไม่ทำตามก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะทำให้ระบบมันดีเลิศเกินจำเป็น... เหมือนเมืองหลวงประเทศหนึ่งรถติดมากๆ ประชาชนบ่นกันใหญ่รถติดจังเลย รบกวนผู้นำแก้หน่อย ผู้นำก็เอาละจัดการรถไฟฟ้าให้ รถใต้ดินให้ เรียบร้อยเบ็ดเสร็จ จัดรถเมล์ฟรีรถไฟฟรีเป็นแรงจูงใจให้มาใช้ระบบขนส่งมวลชนอีกตะหาก... แต่ประชาชนเมืองนั้นกลับไม่เปลี่ยนแปลงตัวเองไปตามระบบใหม่ที่ได้แก้ไขแล้ว ยังคงขับรถส่วนตัวกันออกมาอยู่เหมือนเดิมใช้ชีวิตเหมือนเดิมกันต่อไป... สุดท้ายระบบใหม่ที่เชื่อมโยงดีแค่ไหน มีการเสริมแรงจูงใจให้มาใช้ระบบไปเท่าไหร่ คนใช้ยังเลือกที่จะใช้ระบบเดิม "เพราะคุ้นเคยกับระบบเดิมมากกว่า" ส่งผลให้ระบบเป็นระบบที่มีประสิทธิภาพแต่ไม่มีประสิทธิผลไป... ระบบการศึกษาก็คงเหมือนกัน มีระบบดีมากมายแค่ไหน แต่ถ้า เด็กไม่รักเรียนเอง หรือ ครูสอนไม่ดีเอง ระบบดีให้ตายยังไงก็ใช้ไม่ได้ผลหรอกครับ... ** แก้ไขเพราะเผลอกดส่งไปก่อนครับ ** แก้ไขเมื่อ 09 ต.ค. 51 11:57:08 จากคุณ : Cocopok - [ 9 ต.ค. 51 11:53:23 ]

ความคิดเห็นที่ 3 สร้างระบบความคิดใหม่ ไม่งั้นเราก้อวนที่เดมๆ สร้างหลักการใช้เหตุผล สร้างหลักมนุษยธรรม สร้างความสำนึกในแผ่นดีน สร้าง องความรูู้็ที่นำไปใช้ได้ จากคุณ : nine_ichatta - [ 9 ต.ค. 51 11:59:38 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ต้องเพิ่มค่าตอบแทนให้ครูครับ  เพื่อให้คนที่เก่งๆระดับหัวกระทิ มาทำอาชีพนี้บ้าง ไม่ใช่ ent ไม่ติดมาเรียนครู แม้แต่รุ่นผมเองนะครับ สมัยมัธยมพวกห้องท้ายสุด(เรียนแย่มาก) ตอนนี้กลับมาเป็นครูโรงเรียนเดิมซะงั้น ครูหนึ่งคนลูกศิษย์เป็นพันเป็นหมื่น อาจารย์ท่านใดลูกศิษย์รักมาก แต่งงานแต่งการ มีซองมาให้ตลอด(ซองเนี่ยไม่ได้ใส่เงินมานะครับ แต่ต้องใส่เงินไป) แล้วอาชีพนี้นะครับ สังคมตั้งความหวังไว้สูงมาก ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีแก่เด็กๆ  จะไปหากินกับเด็ก รับใต้โต๊ะ ฯลฯ เป็นสิ่งที่คนไทยรับไม่ได้  อย่างเก่งนะครับช่วงเย็นมาท่านจะหารายได้เสริมด้วยการค้าขายเล็กๆน้อยๆที่ตลาด แถวบ้านผมเป็นอย่างนี้จริงๆ ถ้าตามในเมืองคงมีรับสอนพิเศษ ก็เป็นธุรกิจที่ดีแต่ก็เป็นส่วนน้อย และเพิ่มปัญหาบ้างอย่างเข้าไปอีก อย่างการสอนพิเศษอย่างดี สอนที่ชั้นเรียนกลับเป็นอีกแบบ ฯลฯ จากคุณ : false - [ 9 ต.ค. 51 12:02:51 ]

ความคิดเห็นที่ 5 1. เอาระบบการศึกษา ออกจากระบบราชการ 2. ยกเลิกข้าราชการครู 3. เพิ่มเงินเดือนอาชีพครู ให้เทียบเท่านักบิน และคิดค่าสอนจากชั่วโมงสอน 4. เปลี่ยนระบบคัดเลือกอาชีพครู ให้มีมาตรฐานสูง พอ ๆ กับนักบิน (ใช้ทักษะคนละด้าน แต่ความเข้มข้นพอกัน) ผมเชื่อว่า ถ้าบุคคลากรมีคุณภาพ ระบบมันจะดีขึ้นมาเอง แต่ตอนนี้บุคคลากรในระบบการศึกษามันด้อยคุณภาพเกินไป จากคุณ : jaminonez - [ 9 ต.ค. 51 12:05:56 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เพิ่มเงินเดือนครูเหมือนกันครับ และก็จัดอมรมพัฒนาครูบ่อยๆ เน้นให้นักเรียนสามารถคิดเองทำเองได้  ไม่ใช่มัวแต่ลอกฝรั่ง เชื่อแต่ทฤษฎีของฝรั่ง   แล้วเนื้อหาที่เรียนก็ไม่ต้องยากเกินไป แต่ให้ทุกคนเข้าใจพื้นฐาน ใช้ข้อสอบเอนทรานซ์ควบคุมความยากง่ายและเนื้อหาที่ต้องเรียน เอาแบบแค่เข้าใจถึงพื้นฐานในเรื่องที่เรียน เข้าใจที่มาที่ไป การนำไปใช้ ไม่เอาแบบยากซับซ้อน ต้องเคยทำมาก่อนถึงจะทำได้ทัน ซึ่งไม่ได้ส่งเสริมให้เด็กเข้าใจอะไรเลย จากคุณ : Sir.ขงเบ้ง - [ 9 ต.ค. 51 12:11:49 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ผมว่าควรจะมองในรูปแบบ ธุรกิจ สัก 30 % เป็นอย่างน้อย เพราะส่วนหนึ่งของปัญหาก็คือ เรื่องเงิน จากคุณ : นายโอ้นโต้น - [ 9 ต.ค. 51 12:13:31 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้าพูดเรื่องภาษา ผมว่า ถ้าเราใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาประจำชาติ (แล้วให้ภาษาไทยเป็นภาษารอง) ประชากรเราจะพัฒนาได้เร็วกว่านี้นะครับ.. ดูอย่างอินเดีย ฟิลิปปินส์ ได้เปรียบเราด้านภาษาทั้งนั้น เป็นแค่ความคิดเห็นนะครับ (และก็เชื่อว่ามีคนคิดแบบนี้อีกไม่น้อย) จากคุณ : skycreeper - [ 9 ต.ค. 51 12:15:54 ]

ความคิดเห็นที่ 9 สอนเรื่องการทำงานเป็นทีม คนไทยเดี่ยวๆ เก่งสู้ใครก็ได้ แต่พอทำงานกันเป็นทีม ทำไมไม่ได้เรื่อง จากคุณ : Geneticist - [ 9 ต.ค. 51 12:42:26 ]

ความคิดเห็นที่ 10 โดยส่วนตัวเราคิดว่า ระบบตอนนี้ก็ไม่ได้เลวร้ายมากค่ะ เราว่าที่สมควรแก้อันดับแรก คือ . . . . . . ผู้ปฏิบัติงาน มีจรรยาบรรณในวิชาชีพ และหน้าที่... ดูง่ายๆจากเด็กที่ต้องออกมาเรียนพิเศษเป็นบ้าเป็นหลังถึงสองทุ่มก็รู้... ถ้ามาตรฐานโรงเรียนรัฐ เอกชน ทั่วประเทศไม่แตกต่างกันมากนัก ก็จะไม่มีระบบแป๊ะเจี๊ย เด็กเรียนที่ไหนก็มีคุณภาพ ไม่ต้องมีระบบห้องคิงห้องควีน (เด็กที่อยู่ห้องท้ายก็โดนทิ้งเหมือนขยะ อันนี้พูดได้เต็มปาก เพราะเราเรียนห้องอ่อนค่ะ อาจารย์ไม่สนใจ สภาพแวดล้อมก็ไม่น่าเรียนด้วย จะเรียนได้ยังไงล่ะคะ ในเมื่อเด็กในห้องสี่สิบกว่าคนส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าว ไอ้ไม่ถึงสิบคนที่อยากเรียนก็ต้องให้พวกสี่สิบกว่าคนนั่นลอกการบ้าน ไม่ให้ลอกก็โดนประณาม) ส่วนเรื่องทักษะด้านภาษาที่สอง... เรามีความเห็นว่า ทุกวันนี้ภาษาไทยเป็นภาษาแม่... แต่เด็กไทยใช้ภาษาไทยได้ถูกต้องหรือเปล่า... ต่อให้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ แต่ถ้าผู้สอนยังไร้คุณภาพ เด็กคงไม่มีวันพัฒนา... ทำไมบางคนเรียนภาษาที่สองในประเทศนับสิบปี แต่พัฒนาด้านภาษาต่ำกว่าคนที่ไปเรียนภาษา ณ ประเทศเจ้าของภาษาแค่ปีเดียว... (ไม่ได้หมายถึงทุกคน แต่หมายถึงแค่ "บางคน") ทำไมเด็กไทยได้เหรียญทองโอลิมปิคด้านวิชาการ แต่เด็กหลายคนอ่อนวิชาการถึงขั้นที่ว่า... จบ ม.6 สายวิทย์ คณิต แต่ไม่เข้าใจเลขยกกำลังสอง... ทำไมคนไทยยังมีคำถามเรื่อง "แบบนี้จะท้องไหมคะ แบบนั้นจะท้องไหมคะ ทานยาคุมฉุกเฉินได้หรือเปล่า" "ท้องแล้วทำยังไงดีคะ ทานเบนโลทำแท้งได้ไหม" ทั้งๆที่การวางแผนครอบครัวเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศ สร้าง "คน" ให้มีคุณภาพ เป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก แต่ก็ล้มเหลวตั้งแต่ต้น เรื่องพวกนี้ก็มีบรรจุในหลักสูตรมานานแล้ว ทำไมทุกวันนี้ยังมีคนบ้าขูดหวยตามต้นไม้ ไหว้สิ่งประหลาด ดื่มน้ำซึมจากบ่อ "ส้วม" (อย่างที่เป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์) ทั้งๆที่มีคำสอนว่า "อย่าเชื่อตามๆกันมา" แทบทุกอย่างมีสอนอยู่แล้ว แต่ทำไมคนถึงไม่ปฎิบัติ... ปัญหาโลกแตกค่ะ เดี๋ยวว่างๆกลับมาคุยต่อ ปล. นอกเรื่องนะคะ คนอินโดนีเซีย คนฟิลิปปินส์ คนอินเดีย เก่ง "อังกฤษ"ค่ะ แต่ว่าคนเหล่านี้จำนวนมาก ไม่อยากอยู่ประเทศตัวเอง... ตอนเราไปเรียนภาษา ก่อนจะกลับประเทศ มีเพื่อนต่างชาติไม่ต่ำกว่าสามคนถามว่า "ทำไมคนไทยเวลาเรียนจบ ส่วนใหญ่ถึงกลับประเทศไทย ประเทศคุณมีอะไรน่าอยู่หรือ ทำไมคุณถึงไม่อยู่ที่นี่ต่อ" คำตอบง่ายๆ สั้นๆค่ะ เราตอบไปแค่ว่า "ก็ที่นั่นเป็นบ้านของเรา แล้วคุณล่ะ" เพื่อนเราตอบว่า "เขาไม่มีความผูกพันกับประเทศบ้านเกิดหรอกนะ คนในประเทศเขาถึงต้องดิ้นรนหนีออกไปอยู่ที่อื่นกัน" จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ - [ 9 ต.ค. 51 12:47:51 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ^ ^ ^ ตามนั้นครับ แทบจะทุกประเทศในอาเซียนถ้าสามารถออกไปหางานทำในต่างประเทศได้จะไปทันที ไปกันแบบไม่อยากเหลียวหลังกลับ มียกเว้นแค่สิงคโปร์ เวียตนาม บรูไนกับมาเลเซีย. จากคุณ : อิ่มบุญครับ (กัปตันสมหมาย) - [ 9 ต.ค. 51 12:55:23 ]

ความคิดเห็นที่ 12 สร้างความเป้นชาตินิยมให้มากกว่า เด็กไทยดูถูกชาติตัวเองมากไป วิชาประวัติศาสตร์ เห็นด้วยกับ #1 ให้ให้เขียนตรงไปตรงมา บางครั้งเราให้ความสำคัญกับประวัติศาสตร์นอกประเทศมากไป จนลืมว่าตัวเองเป็นไง ชาติเราเคยทำไรถูกทำอะไรผิดไว้เขียนลงไปให้หมด ผมยกตัวอย่างให้ฟัง มีใครในที่นี้รู้ จากหนังสือเรียนมั้งว่า ทหารสมัย พระนเรศวร กองทัพไทย ทั้งทหารบก และทหารเรือ ในรัชสมัยสมเด็จพระนเรศวรนั้นยิ่งใหญ่มาก ประเทศในแถบเอเชีย ต่างเกรงกลัว  ขนาดที่จะยกไปตี ญีปุ่นมาแล้ว... http://www.oknation.net/blog/print.php?id=111461 บังเอิญไปเจอบล๊อคนี้เข้า ถึงเพิ่งรุ้ว่า เราเคยยิ่งใหญ่ขนาดนี้... ในหนังสือเรียนที่เคยเรียนไม่เห็นมีบอก บอกแค่ว่าปราบพม่าได้ พม่าไม่เคยยกมาตีไทยอีกเป็นร้อยปี จากคุณ : Napoleonic - [ 9 ต.ค. 51 12:55:44 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ผมว่า ก่อนจออกแบบ มาช่วยกัน ระบุปัญหา หรือ กำหนด ความต้องการ เป้าหมาย กันก่อนดีมั้ย เพราะ ถ้าไม่ระบุแล้ว แบบ ที่บอกๆมา ผมว่า มันก็คงจะดี แต่ว่า มันดียังไงหละ แล้วถ้าทำสำเร็จแล้ว มันสำเร็จมั้ย ถ้าถามผม ผมจะเริ่มที่ว่า เรา (ต้องระบุก่อนว่า หมายถึงใคร บ้าง) ต้องการบัณทิต แบบไหน (และชี้ให้ชัดว่า ต้องการแบบนี้จริงๆ) จากนั้นก็มาองว่า ระบบหลัก คือระบบการศึกษา จะมา  ตอบรับความต้องการเรา ได้แค่ไหน และระบบอื่นๆ(การเมือง สังคม ครอบครัว) ส่งผลกระทบต่อระบบเราแค่ไหน ... จากคุณ : aLITTLEspaceAround7day - [ 9 ต.ค. 51 13:03:20 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ยกเลิกการศึกษาภาคบังคับ ใช้การเรียนจากการปฏิบัติ ส่งเสริมทักษะนอกห้องเรียน เปลี่ยนกลุ่มครูอาจารย์ มีเกียรติ มีกิน  ไม่ต้องขายตรง ทำได้หมดแล้ว มาเริ่มที่หลักสูตร เปลี่ยนเป็นหลักสูตรผสม แต่เป็นการผสมเอง อยากเรียนอะไร สนใจสิ่งไหน ให้เด็กมันผสมเอา บางอย่างที่จำเป็นก็อยู่ในส่วนของภาคบังคับ เมื่อเรียนครบหน่วยกิจแล้ว เอามาดูว่า วิชาที่เค้าเรียนมา กับเกรดที่ได้รับ ควรไปเรียนต่อในด้านไหน ถ้าเวลานั้นแล้ว ไม่ตรงกับใจ กับความต้องการเด็ก ถามว่า อยากเรียนไร แล้วไล่กลับไปเรียนตัวที่ขาดมาเพิ่ม แล้วค่อยมาเรียนต่อในวิชาชีพที่ต้องการ เรียนเมื่อไหร่ก็ได้ จบเมื่อไหร่ก็ได้ ส่วนเรื่องเงินหรือค่าสนับสนุน ไม่รู้ครับ บอกแค่ให้ ลองตั้งวิธีการเรียนขึ้นมาเท่านั้น จากคุณ : boyzson - [ 9 ต.ค. 51 13:08:06 ]

ความคิดเห็นที่ 15 กลับไปจุดเริ่มต้น "เราส่งเสริมการศึกษาเพื่อเสริมสร้างอนาคตที่ดีให้บุตรหลาน" "การศึกษาวันนี้กลายเป็นเครื่องคัดเกรดคน" ดังนั้น การสอบต้องทำเพื่อ ทำความเข้าใจเด็ก การจัดกลุ่มต้องจัดตามเรื่องที่เรียน และความสนใจของเด็ก ผลการเรียน ไม่ใช่ผลการสอบ ผลการต้องเป็นสิ่งเดียวกันกับ วัตถุประสงค์ เช่น วัตถุประสงของ วิชาคิตสาตร์ เบื้องต้น คือ ต้องการให้เด็ก บวกลบคุณหาร เปอร์เซ็นได้ (ใช้ในชีวิตประจำวัน และการค้า) ผลการศึกษาคือ เด็กต้องทำได้ทั้งหมดที่ว่ามาจริง แต่ปัจจุบันนี้ ผลการศึกษา คือ "4" มั่ง "A" มั่ง "ซ้ำชั้น" มั่ง ถ้าเข้าใจ ว่า ห้องฟักไข่ กับ เครื่องคัดขนาดไข่ ต่างกันยังไง จะเข้าใจ ว่าผม พูดอะไร จากคุณ : Humandroy - [ 9 ต.ค. 51 13:12:24 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เอาเลขา สพฐ. ออกไปก่อนครับ จากนั้นก็ตามท่านบน ๆ ว่ามาเลย เพิ่มเงินเดือนแก่ผู้สอนเพื่อเป็นแรงจูงใจในการหาคนระดับหัวกระทิมาสอนและอื่น ๆ ตามที่หลายคนได้กล่าวมา จากคุณ : DraGo - [ 9 ต.ค. 51 13:20:03 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ผมคิดว่าควรจะให้เด็กเข้าไปฝึกปฏิบัติงานตามที่เรียนมาให้มากขึ้นเช่นวิศวะก็ควรฝึกงานสักปีนึงไปเลยครับ จะได้เข้าใจงานมากขึ้น จากคุณ : andyslam - [ 9 ต.ค. 51 13:37:03 ]

ความคิดเห็นที่ 18 พัฒนาตัวเองก่อนที่จะไปพัฒนาคนอื่น มีอำนาจ ไช่ว่าจะมีสมอง... จากคุณ : รักสาว มธ. (NoahComeBack) - [ 9 ต.ค. 51 13:43:29 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ใช้ข้อสอบกลาง ทุกโรงเรียนสอบข้อสอบชุดเดียวกัน จากคุณ : Disorder - [ 9 ต.ค. 51 14:29:04 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ขอเพิ่มจาก 19# ถ้าข้อสอบมีมาตรฐานด้วยจะดีมาก ๆ (ไม่ใช่ยาก-ง่ายเว่อร์จนวัดอะไรไม่ได้) จากคุณ : ลูกนกตกต้นไม้ - [ 9 ต.ค. 51 14:55:38 ]

ความคิดเห็นที่ 21 อืม ....... จะว่าไปมันเยอะและ ยาว มากมาย อะ - -* จากคุณ : vn, man - [ 9 ต.ค. 51 15:00:33 ]

ความคิดเห็นที่ 22 วิธีการคิดของเด็กต้องไม่อยู่ในกรอบ สอนให้คิดตั้งแต่เด็ก ไม่ใช่อะไรที่มีอยู่เออ ออไปตามนั้น จากคุณ : เมก้าซาวะหมายเลข154 - [ 9 ต.ค. 51 15:03:59 ]

ความคิดเห็นที่ 23 - ลดภารกิจของครูในส่วนที่ไม่ใช่การสอนหนังสือ เช่น การทำเอกสารเพื่อประเมินโรงเรียน เพื่อทำมาตรฐานไอเอสโอ เพื่อเลื่อนตำแหน่ง การให้ไปเยี่ยมนักเรียนทั้งชั้นเรียนกว่า 40-50 คน (ไม่งั้นก็ให้ผู้บริหารไปเยี่ยมบ้านครูซัก 40-50 บ้านด้วย จะได้เข้าใจ) - ให้โอกาสครูผู้ปฏิบัติการ(สอนหนังสือ)จริง ได้ใช้ประสบการณ์จริงเพื่อเสนอคำแนะนำกับผู้วางนโยบาย เลิกเอาแต่อยู่บนหอคอยงาช้าง แล้วกำหนดนโยบายลงมา - เลิกระบบที่ใช้ผลการเรียนมาคิดคะแนนสอบเข้ามหาวิทยาลัย เพราะสร้างความไม่ยุติธรรมในการสอบ บิดเบือนมาตรฐานการให้เกรดของโรงเรียน ไม่มีโอกาสให้พยายามแก้ตัวใหม่ - ให้นักเรียนติดศูนย์และสอบซ่อมได้ตามความเหมาะสม เพื่อเป็นแรงกระตุ้นให้นักเรียนพยายามเอาตัวรอด พัฒนาตัวเองบ้าง ไม่ใช่ว่าไม่ทำอะไรเลยแต่ได้เกรดหนึ่ง - ตระหนักถึงความสามารถด้านอื่นๆ ของมนุษย์ ไม่ใช่ทุกคนที่เกิดมาเพื่อเรียนหนังสือในห้อง จากคุณ : ikkyu - [ 9 ต.ค. 51 15:31:32 ]

ความคิดเห็นที่ 24 - เลิกข้อกำหนดที่นักเรียนต้องเรียนจบมัธยมปลายก่อนสอบเข้ามหาวิทยาลัย เพราะศักยภาพคนเราไม่เท่ากัน  การบังคับแบบนี้ เท่ากับการดับดาว ทำลายอัจฉริยะ การเรียนเมื่ออายุน้อย จะได้ผลดีกว่าตอนอายุมาก ไม่จำเป็นต้องไปคิดแทนเขาว่า เรียนเร็วจะเกิดปัญหาการเข้าสังคม แต่อาจจะเพิ่มการสอบสัมภาษณ์ เพื่อพิจารณาความพร้อมสำหรับคนที่เข้าเรียนเร็วกว่าเกณฑ์ด้วย - อยากให้กลับมาคิดกันหน่อยว่า ทำไมผู้ปกครองเด็กถึงเสียเงินให้ไปเรียนพิเศษ มันมีข้อดีอะไรตรงไหน อยากให้หาครูเก่งๆ มาสอนทางวีดีโอ (เลียนแบบที่เรียนพิเศษ) เด็กต่างจังหวัดที่ไม่มีครูเก่งๆ (หรือบางทีไม่มีครูจะสอนด้วยซ้ำ) จะได้มีโอกาสเรียนกับครูเก่งๆ ลดปัญหาความไม่เท่าเทียมกันได้อีก จากคุณ : ikkyu - [ 9 ต.ค. 51 15:34:46 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ความเคยชินทำให้เราเคยตัว จากคุณ : Blizzaia - [ 9 ต.ค. 51 15:58:50 A:58.8.137.164 X: TicketID:170193 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เพิ่มการศึกษาวิชาชีพต่างๆ มีหลักสูตรอบรม มีใบอนุญาต มีทางเลือกและวัดความถนัดของเด็กตั้งแต่ประถม และม.ต้น พอ ม.ปลายก็ให้เลือกสายให้ชัดเจน จะสามัญรวมๆ วิทย์ ศิลป์ วิชาชีพ ภาษาอังกฤษก็มีมาตรฐานให้ชัดเจน มีการสอบผ่านมาตรฐานทีละขั้นไม่ใช่ประถมเรียนแล้ว ม.ต้นมาเรียนซ้ำ ปวช. ปวส. ป.ตรีก็เรียนซ้ำอยู่อย่างนั้น แยกออกมาเรียนต่างหากเลย จะเข้าม.ต้น ต้องได้มาตรฐานระดับไหน ปวช. ม.ปลาย ต้องระดับไหน ฯลฯ ขึ้นเงินเดือน สวัสดิการ ค่าครองชีพ และการคัดเลือกให้มากขึ้น มีการสอบทบทวนความรู้ในวิชาที่ครู+อาจารย์สอนอยู่เรื่อยๆ โดยการสอบแต่ละครั้งอาจจะต้องอัพเดตข้อสอบตามยุคตามสมัย และมีการประเมินการสอนโดยกรรมการกลางอยู่เป็นระยะๆ การเรียนรู้ด้านวิชาชีพเน้นการนำไปใช้ได้จริง ส่วนคนที่ฝึกเองหัดเองก็ต้องมีการสอบใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเพื่อผลักดันให้ได้มาตรฐาน อาจต้องใช้เวลานาน 20-30ปี แต่ถ้าทำได้จะแก้ปัญหาได้เยอะ แต่แบบนี้ถ้าใครอยากเปลี่ยนอาชีพ หรือเปลี่ยนสายงานก็ต้องมาสอบใบอนุญาตกันที ปล.หวังว่าคงไม่มีการซื้อใบอนุญาตประกอบวิชาชีพกันนะ ปล.2 ทั้งหมดเป็นความเห็นส่วนตัวผม อาจจะสุดโต่งไปบ้าง เพราะคิดคนเดียว แต่ผมก็รับฟังคห.คนอื่นนะ จากคุณ : ดีจ้า - [ 9 ต.ค. 51 16:44:22 ]

ความคิดเห็นที่ 27 อืมมม... ทุกสรรพสิ่งดำเนินตามทิศทางของอำนาจ...(อีกแล้ว -"-) ปัญหาคือรัฐมีอำนาจโดยสมบูรณ์ที่จะวางนโยบายการศึกษาโดยไม่ต้องสนใจสถาบันการศึกษา, บุคลากร, ประชาชนหรือผู้เรียน สถาบันการศึกษาวางหลักสูตร, บุคลากรโดยไม่จำเป็นสนใจผู้เรียน นายจ้างให้สวัสดิการ, เงินเดือน, เลื่อนขั้นไม่จำเป็นต้องสนใจบัณฑิต ไม่ว่าจะเซ็ตระบบสวยหรูวิลิศมาหรายังไงตราบใดที่มันยังเป็นระบบ top-down อย่างนี้มันก็จะต้องล่มวันไหนซักวัน key ของมันคือต้องทำลายระบบ top-down นี้ลง ให้สถาบันการศึกษา, ผู้เรียน ไปคานกับรัฐได้ ให้นักเรียนผู้ปกครองไปคานกับสถาบันการศึกษาได้ และก็ให้ลูกจ้างไปคานกับนายจ้างได้มันก็เท่านี้ ก็คิดว่าถ้าจบอะไรมาหรือไม่จบอะไรมามีรายได้+สวัสดิการ+โอกาสในการผสมพันธ์เอ้ยม่ายช่ายยยย 5555 เท่ากันหมดแบบนี้ก็คงพอจะไปคานกันเองแบบที่ว่าได้ จากคุณ : Catwater (Catwater) - [ 9 ต.ค. 51 17:48:55 ]

ความคิดเห็นที่ 28 จะแก้ปัญหา อ่ะ ขั้นแรกเลยน่ะครับ "เงิน" มีหรือเปล่าครับ อย่างความเห็นแรก อยากให้มีเรียนฟรี มีเงินอุดหนุนทำได้แน่นอนครับ หลายๆความเห็น อยากได้ อาจารย์เก่งๆ แน่นอนครับ มีเงินไปจ้างเค้า เค้าก็มาสอน อยากได้สื่อการเรียนการสอน ดีๆ มีเงินก็ทำได้ครับ อยากได้บุคลากร ดีๆ ในปริมาณมาก มีเงินทำไมจะจ้างไม่ได้ครับ ................. จากคุณ : kanoomtan - [ 9 ต.ค. 51 19:47:43 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ขอแบบเว่อๆหน่อยครับ -ปรับเกรด A หรือ 4 ลงมาที่ 70 คะแนนจาก 100 -ลดหลักสูตรโจทย์ยากๆที่นำมาใช้ในชีวิตประจำวันไม่ได้ เช่น เอาน้ำ 2 ลิตร ใส่ในแก้วน้ำ 20 แก้ว  รัศมี 5ซม. สูง 6ซม. จะเรียนไปทำไมเหรอ? เวลาผมจะตักน้ำกินที ต้องมากดเครื่องคิดเลขเทน้ำจำนวน 1ลูกบาศซม.ใน 5 วินาทีน้ำจะไม่ล้นแก้ว ใช้กะๆเอาประมาณเอาก็ได้ -ทำให้เด็กเริ่มเรียน 9 โมง เลิก 2โมง(ตื่นไม่ไหวอะ) จากคุณ : คนรักแมวมาก - [ 9 ต.ค. 51 21:05:24 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ชั้นประถม ยกเลิกตำราเรียนในชั้นประถมศึกษา เด็ก ๆ ไม่ต้องแบกตำราไปเรียน ให้ครูเป็นคนถือตำราสอนเท่านั้นพอ กำหนดวิชาภาคปฏิบัติให้มากกว่าทฤษฎี เน้นให้เด็กเรียนรู้จากของจริง คิดเป็น มีความคิดสร้างสรรค์ วิชาศิลปะ และดนตรี ให้เรียนจากผู้รู้จริง หรือเชิญวิทยากร/ครูพิเศษ ที่มีความรู้จริงเรื่องศิลปะและดนตรี มาช่วยสอน สอนวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ด้วยการทดลองอย่างง่าย ลด/ยกเลิกวิชาท่องจำ แต่ให้เป็นการวิเคราะห์ ค้นคว้า รายงานหน้าห้อง แทน เช่นวิชาประว้ติศาสตร์ สังคม ฯลฯ อาขยาน ให้เอื้อนเป็น ร้องเป็น เขียนกลอนเป็น แต่ไม่ต้องเน้นให้ท่องจำให้ได้ ยกเลิกเครื่องแบบนักเรียนชั้นประถม มัธยม เน้นเฉพาะทางมากขึ้น ลดวิชาท่องจำที่ไม่มีเหตุผล เพิ่มวิชาวิเคราะห์ ค้นคว้า รายงาน ในการวิเคราะห์ ครูไม่ต้องบอกว่าอะไรถูกผิด เปิดโอกาสให้มีการถกเถียง จากคุณ : มุมมองหลายมิติ - [ 9 ต.ค. 51 21:14:30 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ผมว่าต้องรื้อระบบประถมทั้งระบบเลยครับ จับมาเป็นร.ร.กินนอนฟรี  (ปัญหาเด็กติดเกมส์ ปัญหาตัวอย่างไม่ดีในครอบครัว ปัญหารถโรงเรียน ปัญหาการจราจรตอนเช้า ปัญหาขาดกิจกรรม ปัญหาเพื่อนต่างเพศ การปรับตัวในสังคม) ไม่ใช้ระบบการสอบเลื่อนขั้น ควรทำแบบในลูกเสือ คือสอบย่อยๆแล้วได้สัญลักษณ์ประจำทักษะ ใครพร้อมก่อนขอสอบก่อน ใครสอบแล้วช่วยสอนเพื่อนต่อ แป็บเดียวก็ผ่านยกกลุ่ม ครบปีก็ทบทวนครั้งใหญ่ทีนึง แล้วชั้นต่อไปก็ใช้พื้นฐานเดิมต่อยอดเป็นขั้น2-3-4 เลิกจัดกีฬาสี  ไอ่คนที่แข่งก็ต้องลงทุกปี คนที่ไม่ร่วม ก็ไม่เคยจะได้แข่ง ให้เด็กฝึกแต่ทักษะล้วนๆไปเลย เล่นให้ครบทุกตำแหน่ง  ทุกสัปดาห์ เรื่องการเล่นกีฬาเป็นทีม ไว้มันคล่องค่อยไปจัด ไม่ใช่ใครเล่นไม่เป็นก็เฝ้าโกล แบบทุกวันนี้ ป.5 - ป.6 แยกระบบพิเศษ จัดไว้ในฐานะนักเรียนผู้ช่วยครู ป.5ใส่พื้นฐานวิชาชีพ ที่มันมีคนทำเป็นอาชีพจริงๆให้เด็กเรียน จำลองระบบงานในโรงเรียน(เพราะตั้งให้เป็นร.ร.กินนอนอยู่แล้ว) เช่นกลุ่มโรงอาหาร กลุ่มสหกรณ์-การเงิน-คณิต-เกษตร กลุ่มงานออฟฟิซ(ห้องพักครู) กลุ่มงานช่าง-งานฝีมือ-ตกแต่งอาคาร(ซ่อมโต๊ะเรียน) กลุ่มวิทย์(ขังไว้ในห้องทดลอง) กลุ่มชีวะ-กีฏะ(ปล่อยป่าหลังร.ร.) กลุ่มอนุรักษ์ธรรมชาติ-กู้ภัย(เอาไปเก็บพวกชีวะกลับ555+) หมุนเวียนเรียนกันให้ครบจนจบป.5 ป.6ให้เด็กเลือกเรื่องที่สนใจอยากยึดเป็นอาชีพจริงๆ(เอก)และวิชารอง(โท) ซัก 3สาย ปฏิบัติควบคู่กับเรียนหลักสูตรกลาง หากมีใครยังหาความถนัดไม่ได้ ให้จัดฝึกงานในกลุ่มช่วยสอน ป.1 - ป.4(ทบทวนความรู้พื้นฐานให้แน่น) และเรียนหลักสูตรกลางเช่นกัน เรื่องทุนกินอยู่ เอาจากอ.บ.ต.มาทำ ลูกหลานคนในตำบลทั้งนั้นน่าจะเต็มใจช่วย ตอนผมเรียนประถมมีรุ่นน้องป.3คนนึงที่ อ่านหนังสือไม่ออก? เรียนไม่ทัน บ้านไกล พ่อแม่ไม่ว่าง ครูเองก็ต้องรับมือกับเด็กในห้องอยู่แล้วตั้งหลายสิบ ผมจึงฝังใจกับเรื่องเวลาเรียนรู้ที่เด็กสูญเปล่าไปกับการเดินทางมากครับ อีกทั้งการที่รัฐ รับบุตรหลานมาเลี้ยงบ้างยังจะช่วยให้พ่อแม่ ในฐานะประชาชน ได้มีเวลาพักผ่อนจากงานที่เร่งรีบบ้าง เรื่องกินเหล้า-สูบยา-ทะเลาะ ถ้าเด็กไม่เห็นทุกวัน ก็ช่วยได้เยอะอยู่ เรื่องการเรียนมัธยม ผมคิดไม่ออกแฮะ ไม่รู้โรงเรียนดังๆเขาพัฒนาไปถึงไหนแล้ว.... แต่ถ้าได้เด็กจบประถมจากโรงเรียนผม รับรองรุ่งชัวร์^^ จากคุณ : mkhazard - [ 9 ต.ค. 51 21:15:36 ]

ความคิดเห็นที่ 32 แก้ยากครับ เด็กมันโง่ คนมัน here อุปมาเหมือนดั่งจะแก้รัฐธรรมนูญ แล้วให้สส.ไทยกลายเป็นคนดีนั่นแหละ มันไม่เกี่ยวกัน จากคุณ : ธีรภัทร์2 - [ 10 ต.ค. 51 10:45:25 ]