ความคิดเห็นที่ 1 ม.เอกชน ม.เปิด มีทางให้เดินอีกเยอะครับ ถ้าคิดจะเดินนะ จากคุณ : Mr.Odwa - [ วันออกพรรษา 23:13:46 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ใช้เวลาปีนึงค้นหาว่าอะไรที่เราถนัด แล้วก็อ่านหนังสือไปด้วย จากคุณ : คุณซัมซุง - [ วันออกพรรษา 23:14:44 ]

ความคิดเห็นที่ 3 1.ท่านๆจะรู้สึกอย่างไรบ้างครับ ถ้าพูดกันตรงๆก็คือเสียใจอะครับเครียดและบางคนก็มีพ่อแม่มากดดันอีก Bar Bar Bar 2.ท่านๆจะทำอะไรต่อไปครับ ถ้าไม่มีที่ไหนเปิดรับอีกก็คงหนีไมพ้น ราชภัฏอะครับ อาจะเลือกที่ดีๆหน่อย ที่คุ้นๆหูกันนะหรือไม่ก็มหาวิทยาลัยเปิดพวก ราม สุโขทัย จากคุณ : LordPongpon - [ วันออกพรรษา 23:19:24 ]

ความคิดเห็นที่ 4 อย่าติดแค่ชื่อเสียงมหาลัย อย่าติดแค่คณะฮิต จงหาตัวเองให้เจอ ชอบอะไร ตั้งใจไปทางนั้น เชื่อในตัวเอง แล้งเดินไปทางนั้น ผลจะออกมาเป็นอย่างไร ที่สุดแล้วเราตั้งใจทำแล้วหรือยัง ... มหาลัยมีเยอะแยะคะ แม้บางที่อาจจะไม่ดัง อาจจะมีคนดูถูก แต่ถ้าหากคุณไขว้คว้าตั้งใจเล่าเรียนอย่างถึงที่สุด ก็ไม่ต้องแคร์ใครๆ มันอยูที่ตัวคุณไม่ใช่ใคร เคยผ่านแล้วมาแล้วคะ สู้ๆ จากคุณ : cKz* - [ วันออกพรรษา 23:22:12 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ผมเอ็นท์ไม่ติด เรียนจบ ม.เอกชน แต่สมัครงานปั๊บเขาก็รับปุ๊บ เงินเดือนเท่าคนจบจุฬา จากคุณ : nine_ichatta - [ วันออกพรรษา 23:22:12 ]

ความคิดเห็นที่ 6 อย่าไปคิดมากค่ะ เราป่วยหนัก ต้องออกจาก ม.ปลายกลางครัน ยังไม่คิดมากเลย ตอนนี้เรียนราม  ก็โอเคดี  หาหนังสืออ่านไปเรื่อย  ทุกอย่างมันก็ต้องมีทางไปของมันแหล่ะ จากคุณ : ขี้เหงา...เอาแต่ใจ - [ วันออกพรรษา 23:22:25 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ไม่เครียดอะครับ ทำตัวตามสบา่ย จะไปกดด้ันตัวเองทำไมเนอะ เหอๆ ผมมีเวลาอีกปีกว่าๆ ก็จะ เข้ามหาลัยแล้วครับ โดยรุ่นผม มันต้องสอบ get pat  โคตรปวดหัวเลยเนี่ย ค่าสมัครก็แพ๊ง...แพง T_T บางคน 3000 แนะ เง้ออออ ผมว่าจะเข้่า U.เอกชนอะ อย่างน้อยก้อกะจะใช้สิทธิ์ที่ข้าราชการ เบิกค่าเล่าเรียนบุตรได้ 20,000 ต่อเทอมหรือต่อปี นี่แหละครับ จากคุณ : Nanoดะ - [ วันออกพรรษา 23:41:07 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ก็คง ABAC ที่จิง ตอนนั้นก็สมัครไปแล้ว เค้าก็รับแล้ว เกือบจะจ่ายตังแล้ว แต่ คิดอีกที รอเอนท์ดีกว่า.. ทั้งๆที่ตอนนั้นติดรับตรง ศิลปากร 2 คณะ ยังเจือกกลัว(โง่มากมายช้าน) ไปสมัคร ABAC สุดท้าย ก็ม่ะเลือกที่ได้ๆก่อนเอนท์สักที่ แล้ว เลือกคณะที่เอนท์ติด... เฮ้อ... สภาวะกดดันจากที่บ้านมันเหนื่อยเนอะ.. แถวยังชอบมาพูดว่า แม่ไม่ได้กดดันนะ อยากเรียนอะไรก็เรียน แต่ พอเราบอกว่าจะเรียนที่นั่นที่นี่ ลากเราไปให้ญาติๆ รุมประนามเป็นชั่วโมงๆ คนที่ทำให้รู้สึกว่า เอนท์ไม่ติดแล้วชีวิตจบสิ้นอ่ะ พ่อแม่ทั้งนั้น เฮ้อ... จากคุณ : Bubble_eis - [ วันออกพรรษา 23:45:26 ]

ความคิดเห็นที่ 9 มหาลัยเอกชนเปิดรับเยอะแยะไปครับ เรียนไปแล้วจะรู้ครับ ว่าเอนทรานซ์มันแค่เรื่องขี้ปะติ๋วในชีวิต ที่ทุกคนสมัยวัยรุ่นหลงคิดว่ามันคือทุกสิ่งทุกอย่าง เอนท์ไม่ติดแล้วแปลว่าต้องนอนอยู่บ้าน ? ถ้าทำได้แค่นั้นก็สมควรแล้วครับที่เอนท์ไม่ติด นอนง่อยไปเถอะ จากคุณ : Limelight - [ วันออกพรรษา 23:52:02 ]

ความคิดเห็นที่ 10 มาทุกปี จากคุณ : Mr.june - [ วันออกพรรษา 23:58:10 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เรียนเอกชนสิเยอะแยะ ถ้าอยากเรียนมหาลัยนั้นจริงๆ ก็เลือกเรียนภาคพิเศษ ภาคสมทบเข้าไปสิ กลัวไร ถ้านอนอยู่บ้านเฉยๆเสียเวลาไป 1 ปี สมองยิ่งถดถอยไปเปล่าๆ จากคุณ : merida_recon - [ 15 ต.ค. 51 00:28:44 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ตอนเอนท์ เราซื้อใบสมัครของม.เอกชนเตรียมไว้เลยง่ะ ยิ่งเดี๋ยวนี้ไม่ต้องคิดมาก เพราะม.เอกชนที่คุณภาพดีๆ มีตั้งเยอะ จากคุณ : ปฏิจจสมุปบาท (ปฏิจจสมุปบาท) - [ 15 ต.ค. 51 00:29:29 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ไม่เคยคิดครับ . . . จากคุณ : ไม่มีสมาชิกชื่อนี้ - [ 15 ต.ค. 51 00:32:39 ]

ความคิดเห็นที่ 14 สังคมกดดันไปเอง เด็กเลือกคณะเข้ามหาลัยเนี่ยถามจริงๆรู้แน่หรือว่าตัวเองชอบอะไร? จริงๆเราชอบระบบเมืองนอกอย่างหนึ่งนะที่เด็กจบม.6 ก็ออกไปใช้ชีวิตก่อนลองโน่นนี่นั่นให้พอเข้าใจ แล้วค่อยไปเรียนมหาวิทยาลัยในสาขาที่ตนชอบตนสนใจ แต่ก็นะประเทศไทยไม่มีใบแปะข้างฝาก็หางานยากหน่อย โลกยังกว้าง ออกมาดูโลกก่อนมั่งก็ดีนะ น่าเสียดายที่เด็กกลุ่มนี้มักเป็นเด็กถูกโอ๋จนเคย หรือเป็นไข่ในหิน ไม่เคยลำบากและพ่อแม่ไม่ชอบให้ไปลำบาก ไม่งั้นนะ มีกิจกรรมดีๆเยอะแยะให้ทำ -อย่างไปช่วยครูดอยสอนหนังสือดูแลเด็กบ้าง(สำหรับคนอยากเป็นครูไง) -ไปช่วยสถานเด็กกำพร้าที่ขาดพี่เลี้ยงบ้าง(สำหรับคนอยากเป็นครู พยาบาล นักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ ฯลฯ) -ไปช่วยสถานสงเคราะห์สัตว์(ถ้าอยากเป็นสัตวแพทย์ หรือนักชีววิทยาไง) -หรือท่องโลกการเกษตรกับโครงการหลวง โครงการเพื่อสังคมของโครงการหลวงก็มีนะ ถ้าเราไปเป็นอาสาสมัครก็น่าจะยิ่งดีเลย -ออกไปช่วยมูลนิธิอย่างร่วมกตัญญู หรือ พวกร่วมด้วยช่วยกัน โลกเรามีสิ่งดีๆเยอะแยะให้ทำให้มอง แต่เด็กอยู่ในสังคมที่มองข้ามสิ่งเหล่านี้ไป น่าเสียดายมากๆ แนวๆเด็กเรียนก็งี้เลยใช้เวลาปีนั้นเรียนภาษาซะแล้วมองหาทุนสาขาที่สนใจไปเรียนสาขาตรงที่เมืองนอกเลย เรียนฟรีแถวยุโรปก็มีนี่นะ บางประเทศรวมๆค่าครองชีพยังถูกกว่าค่าเทอม ม.แพงๆในบ้านเราซะอีก จากคุณ : บางเวลา - [ 15 ต.ค. 51 00:34:07 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เรามีเพื่อนคนนึง((เพื่อนสนิทมาก)) แอดติดในคณะ และมหาลัยที่ มีคนอยากเรียนเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศ คะแนนสูงปรี๊ด แต่ชีไม่เรียน .......เลือกไปอันดับแรกสุดด้วยนะ เลือกเพราะไม่รู้จะเลือกอะไร.....คะแนนถึงก็เลยเลือก พอไม่เรียนที่โดนที่บ้านรุมว่า ทำให้มันเครียด ๆๆๆๆๆๆ เพราะครอบครัวไปคุยไว้เยอะว่าแอดติดคณะนี้ มหาลัยนี้นะ เอาคะแนนไปยื่นอีกคณะนึงที่อีกมหาลัย เค้ารับ......มันก็ไม่เรียน โดนว่าอีกแล้ว.............เราก็ว่ามันด้วยตอนนั้นอ่ะ มันอยู่บ้านเฉย ๆ ดูหนังเกาหลีอ่ะ + เล่นเนต แล้วปัจจุบันก็ไม่รู้ว่าอยากจะเรียนอะไรด้วย - -* ตอนนี้เรียนพิเศษรอสอบใหม่อยู่.... ----------------------------------------------------------------------------- แอดไม่ติดเนี่ย ไม่คิดหรอกว่าตัวเองจะฆ่าตัวตาย เพราะว่า สมัยนี้การศึกษาเปิดกว้างมาก ๆ มหาลัยทั้งเอกชนและรัฐบาลพรึ่บพรั่บหมด ----------------------------------------------------------------------------- มหาลัยรัฐกับเอกชนแตกต่างกันไหม ต้องบอกว่าต่างแน่นอน มหาลัยรัฐด้วยกันก็ต่างกันแล้ว ต่างมากแค่ไหนเท่านั้นเอง สิ่งนึงที่เราให้ความสำคัญ เพราะเราเชื่อว่าสมัยนี้ คุณภาพของการศึกษา การเรียนการสอน มันไม่ใช่ประเด็นเท่าไหร่ การศึกษาช่วยยกระดับ วุฒิภาวะทางปัญญา จริงหรือ ? นี้คือสิ่งที่เราสนใจ จากสภาพแวดล้อมในมหาลัยเรา เพื่อนเอย อะไรเอย การแต่งกาย เครื่องแบบนิสิต ของคนส่วนมาก...... เปรียบเทียบกับรูมเมทเรา...ที่เรียนเอกชน แค่นี้ก็ต่างมากแล้ว อีกอย่างนึงคือ ......เกรด เทียบกันได้ไหม ถ้ามันเกิดจากการอิงกลุ่ม กลุ่มเด็กที่แอดติดด้วยคะแนนระดับนี้.............เทียบกับระดับนั้น.............. หรือกลุ่มเด็กที่แอดไม่ติดด้วยกัน............. A เหมือนกัน แต่นัยยะต่างกัน ----------------------------------------------------------------------------- เราไม่ได้โจมดีเอกชนหรืออะไรนะ ((ทุกที่ก็มีดีต่างกันไปคนล่ะแบบ)) แต่เราว่า การได้เรียนในมหาลัยรัฐดีดี ช่วยให้คุณเจอสังคมที่ดี ......โอกาสที่จะนอกลู่นอกทางก็น้อยลง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อยู่ที่ตัวบุคคลเป็นสำคัญ ถ้าคุณเป็นคนหนักแน่น สังคมไหน ก็พาคุณเสียไม่ได้แน่นอน ^^ เอาตรงนี้มาเป็นแรงผลักดันดีกว่านะ อย่าคิดอะไรเพื่อกดดันตัวเองเลย ตอนเราสอบก็แทบไม่ค่อยจะอ่านหนังสือ.......... ออนเอ็ม เล่นเนต ดูละคร คุยโทรศัพท์......ฯลฯ...... เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีนะ อย่าทำตาม ยิ่งกดดันก็ยิ่งเครียด เครียดมาก ๆ ก็ลน คนเราเวลาเครียดมากทำอะไรออกมาไม่ค่อยดีหรอก ............................จากประสบการณ์ แล้วก็มุมมองมุมมองนึงเท่านั้น ผิดถูกขออภัยค่ะ ----------------------------------------------------------------------------- คุณ  ขี้เหงา...เอาแต่ใจ ชื่นชมและเป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ ๆ ค่ะ ^^ จากคุณ : ผักผลไม้รวม - [ 15 ต.ค. 51 01:14:29 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เราสอบไม่ได้ ไม่มีที่เรียน คนอื่นเค้าเปิดเรียนกันหมดแล้วเราอยู่เฉยๆกับบ้าน 1.ท่านๆจะรู้สึกอย่างไรบ้างครับ ซวยแล้วสิครับพี่น้อง แต่คงลนลานสัก 1 วันก็พอ 2.ท่านๆจะทำอะไรต่อไปครับ แผนสองครับ เรื่องสำคัญๆแบบนี้ปกติผมวางแผนไว้ล่วงหน้าก่อนครับ ดังนั้นมีแผนสองแน่นอน อย่างปีที่แล้วก็พลาดไป ... แทนที่จะได้ไปต่อกลับไม่ได้ไปต่อ แต่มีแผนสองไว้แล้วทำให้ไม่แย่จนเกินไป ยังมีที่ทำงานต่อ จากคุณ : หมอแมว - [ 15 ต.ค. 51 02:03:40 ]

ความคิดเห็นที่ 17 คิดถึงคนที่ไม่มีโอกาสได้เรียนเลยแล้วกัน จากคุณ : กิ๊กกะเฮิร์ท - [ 15 ต.ค. 51 03:40:45 ]

ความคิดเห็นที่ 18 มหาลัยเปิดมีเยอะแยะครับ การไปยึดค่านิยมที่ผิดๆ ไม่ใช่สิ่งที่ควรแนะนำ มีคนหลายๆ คนก็ประสบความสำเร็จจากมหาลัยเปิดเหล่านี้ ก็มากมายครับ จากคุณ : นายสาระแน - [ 15 ต.ค. 51 07:00:50 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ขอแนะนำให้ไปเมืองนอกหรือไปต่างจังหวัดสักปีสองปี ถ้าบ้านพอมีตังค์ ไปทำงานกรรมกร เที่ยว เก็บเกี่ยวประสบการณ์เมื่อยามไฟแรง โลกนี้กว้างใหญ่ ไม่ได้มีแค่จังหวัดตัวเองกะมหาลัยชื่อดัง/และไม่ดัง สิบเจ็ดสิบแปดนี่เบ่งบานสุดแล้ว ไปค้นหาตัวเองสักพัก ให้โอกาสตัวเองได้ คิด" เพื่อตัวเองจริงๆบ้าง ไม่ใช่โดนครอบงำด้วยสังคมและคนรอบข้างตลอดเวลา ไม่รู้ว่าจะรีบเข้าระบบกันไปทำไม เรียนๆๆๆ จบมาก็ทำงาน ชีวิตมีหนเดียวนะฟ่อย ใช้ให้คุ้มหน่อยเด้ เหี่ยวตาย (ตอนนี้เป็นอยู่ และหมดโอกาสแล้ว T^T) จากคุณ : PADAPA--DOO - [ 15 ต.ค. 51 07:09:20 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ไปเรียนเทคนิค อาชีวะ การอาชีพเยอะแยะครับ หลาย ๆ คนเปิดร้านเป็นเจ้านายตัวเอง ดีซะอีก อย่างรายหนึ่งที่ผมรู้จัก รับทำป้าย ป้ายทุึกอย่าง ผมก็ใช้บริการตั้งแต่เค้าเอาบ้านตัวเองเป็นหน้าร้าน จนได้ ปีกว่า ออกมาเซ้งตึกแถว ซื้อเครื่องตัดสติกเกอร์ราคาเป็นแสน ปีต่อมา ซื้อวีโก้ 4 ประตู นี่ปาไป 6 ปีแล้วมั้ง ลูกน้องเกือบสิบคนละ งาน อบต เทศบาล โรงเรียนในละแวกนี้ กับอำเภอข้าง ๆ พี่แกเหมาหมด ชีวิตมีทางเลือกมากกว่าหนึ่งทางครับ แต่คุณจะเลือกมั้ยแค่นั้นล่ะ จากคุณ : Pixzz - [ 15 ต.ค. 51 09:09:55 ]

ความคิดเห็นที่ 21 Ent' ไม่ติด ก้อเรียน ราม สิครับ " ไม่มีอะไร ที่เด็กรามทำไม่ได้ นอกจาก ... Ent' ติด " จากคุณ : vn, man - [ 15 ต.ค. 51 09:13:28 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ถ้าไม่คิดจะเข้า ม.เปิด หรือ ม.เอกชน ก็ลองใช้เวลานี้ค้นหาตนเองดูครับ ว่าชอบอะไรแบบไหน ลองหางานทำเป็นพาร์ทไทม์ดูครับ ลองดูหลายๆงาน ไม่ก็ไปดูชีวิตที่อื่นที่ไม่เคยไปดู เช่นไปอยู่ตามบ้านญาติ หรือคนรู้จักที่จังหวัดอื่น เวลาที่เหลือก็อ่านหนังสือ เรียนรู้เนื้อหาวิชาที่ต้องสอบ เรียนรู้ชีวิต เก็บเกี่ยวประสบการณ์ ค้นหาตนเอง เรียนรู้ความยากลำบาก อาจจะเลือกสาขาที่จะเรียนปีหน้าได้ดีขึ้น จากคุณ : เคยสอบไม่ติดและรีไทร์มาแล้วT_T (ดีจ้า) - [ 15 ต.ค. 51 09:38:23 ]

ความคิดเห็นที่ 23 สู้ต่อไปค่ะ ว่าแต่ผีไฟแดงโผล่มาอีกละ เซ็งจริงๆ จากคุณ : Cha_cha_koi - [ 15 ต.ค. 51 09:38:51 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เข้าใจนะ ... เพราะผ่านช่วงชีวิตช่วงนั้นมาแล้ว * ตอนเป็นเด็ก ก็ไม่เข้าใจคำพูดผู้ใหญ่ที่บอกว่า " เรียนที่ใหนก็ได้ อยู่ที่ตัวเรามากกว่า " ... ตอนนั้นไม่ get เอามากมาก * ...ตอนนี้ ขอสนับสนุนข้อความข้างบนครับ * มันจริงนะ เพราะผ่านมันมาแล้ว !!~ และมันจริงอย่างที่ได้ยินมา !!!*~ จากคุณ : มาม่าเรนเจอร์ - [ 15 ต.ค. 51 10:39:27 ]

ความคิดเห็นที่ 25 โลกนี้กว้างใหญ่ครับ และช่วงเวลาสิ้นอายุใขของคนเรามีตั้งแต่ 60 - 108 ปี(อายุปู่เย็น) อย่าให้ความผิดหลังอันเล็กน้อยแค่ปีเดียวทำให้ชีวิตที่ยาวเกือบร้อยจะต้องเสียไป อยากจะให้ยึดคติปู่เย็น ชีวิตคน เหมือนสะพาน มีขึน .... มีลง มีสูง ... มีต่ำ พอสุดท้าย ... ก็ตาย แก้ไขเมื่อ 15 ต.ค. 51 11:00:33 จากคุณ : นายสาระแน - [ 15 ต.ค. 51 10:56:51 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ไม่มีที่เรียน คนอื่นเค้าเปิดเรียนกันหมดแล้วเราอยู่เฉยๆกับบ้าน - ถามก่อน ทำไมต้องอยู่บ้านเฉยๆคะ ทำไมไม่พยายามหาที่เรียนให้ได้ มหาลัยเปิด หรือราชภัฏ ทำไมไม่เข้าเรียนต่อ 1.ท่านๆจะรู้สึกอย่างไรบ้างครับ - ไม่รู้สึกอะไรคะ เพราะเราเองก็เป็นคนที่ไม่ได้สอบเข้ามหาลัย เกรดสูงแต่อยากเรียนใกล้บ้าน ก็เดินเข้ามหาลัยเปิดแห่งหนึ่งในจังหวัดแล้วเรียนเลย 2.ท่านๆจะทำอะไรต่อไปครับ - ก็ถ้าอยากเรียนต่อก็พยายามหาที่เรียนต่อ ถ้าไม่อยากเรียนต่อก็หางานทำค่ะไม่นอนเฉยอยู่บ้าน จากคุณ : เสียงจากบ้านนา - [ 15 ต.ค. 51 11:41:36 ]

ความคิดเห็นที่ 27 หาหัวใจให้เจอก็เป็นสุข จากคุณ : sc24 Naresuan U. - [ 15 ต.ค. 51 11:57:22 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ตอนที่โรงเรียนให้นักเรียนคุยกับอาจารย์เรื่องเลือกคณะ เราเป็นคนนึงที่ยังไม่รู้ว่าอยากเรียนอะไร ตอนเด็กๆอยากเรียนหมอ เพราะเห็นหมอรวย โตขึ้นมาอีกอยากเป็นนักโบราณคดี อยากจะไปขุดนู่นขุดนี่ แต่โดนผู้ใหญ่บอกว่าไม่เจริญหรอกงานแบบนี้ ต่อมาอยากเป็นฑูต เพราะค่อนข้างดีเรื่องภาษา แต่โดนผู้ใหญ่ดักทางอีกว่า เขาใช้เส้นกัน ไม่รอดหรอก สรุปเลยไม่รู้ว่าควรจะเรียนอะไรกันแน่ เพราะโดนห้ามตลอด จน 1 เดือนสุดท้ายก่อนเอนท์ ตัดสินใจไปเรียนติวสถาปัตย์ คราวนี้โดนเพื่อนในชั้นดูถูก บอกเรียนไปจะมีงานเหรอ อย่างมันพ่อแม่รู้จักคนที่จุฬา ได้งานแน่ๆอยู่แล้ว เราก็ช่างมัน อยากลองติวดู ไปๆมาๆตอนต้องเลือกคณะ 4 อันดับ เราเลือกสถาปัตย์หมดทุกลำดับ เลือกมหาวิทยาลัยตั้งแต่กรุงเทพจนพิษณุโลก คิดแค่ว่า ที่ไหนก็ได้ ขอแค่เรียนคณะนี้ เพราะรู้สึกว่าตัวเองมาถูกทางแล้ว เป็นสิ่งที่เราชอบจริงๆ ปรากฎว่าเราสอบได้คณะและมหาวิทยาลัยที่เราอยากเข้าเรียน ส่วนคนที่ดูถูกเราไปติดคณะอื่น เนื่องจากคะแนนไม่ถึง นอกเรื่องไปนิด...มาที่จขกท.ถาม เราคิดไว้ก่อนแล้วว่าถ้าเราเอนท์ไม่ติด เราจะเรียนนิติฯ ม.ราม แรกๆคงรู้สึกแย่ เพราะพ่อแม่คาดหวังในตัวเราสูง หลังๆคงไม่สนใจ เพราะเราทำสิ่งที่เราอยากทำ เราไม่ใช่คนเรียนเก่ง คะแนนก็ไม่ได้ดี ออกแนวขี้เกียจเรียนด้วยซ้ำ แต่โชคดีมีเพื่อนคอยเข็น มีแฟนคอยสอนการบ้าน มีแรงบันดาลใจให้เราตั้งใจอ่านหนังสือก่อนสอบสองอาทิตย์สุดท้าย แรงนั่นคือแรงดูถูกจากคนรอบด้านนี่แหละ คนที่กล้าพูดว่า เอนท์ไม่ติดไม่เห็นเป็นไร มีอยู่สามประเภทคือ - คนที่เอนท์ติด - คนที่เอนท์ไม่ติดแต่ผ่านจุดนั้นมาแล้ว และปัจจุบันได้เจอสิ่งที่ดีกว่าแล้ว - คนที่ไม่ใส่ใจ ไม่คิดจะเอนท์แต่แรก แพล่มมายาวมาก ที่อยากจะบอกจขกท.คือ ซักวันเราจะเจอสิ่งที่เราชอบ สิ่งที่ใช่สำหรับเรา แล้วมันอาจเป็นสิ่งที่อยู่นอกสายตามาตลอดก็ได้นะ ขอแค่เราไม่ยอมแพ้แค่นั้นเอง จบจ้ะ จากคุณ : ด๋อยด๋อย - [ 15 ต.ค. 51 12:15:58 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ลุงเรา จบม.ปลายก็แพ็คกระเป๋า เอาเงินเก็บซื้อตั๋วเครื่องบินมั่งโบกรถมั่ง ร่อนไปทั่วโลก เห็นเค้าว่า มหาลัยมันรอได้ เที่ยวก่อน เดี๋ยวรู้ว่าอยากเรียนอะไรค่อยกลับมาเรียน ตอนนี้เป็นนักอัญมณีวิทยา ชีวิตก็แฮปปี้ดีนะ ถ้าไหนๆก็เอนท์ไม่ติดแล้ว พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสมันซะเลยเป็นไง ไม่อยากเข้ามหาลัยเปิดหรือของเอกชน ก็ลองหางานทำดู ไงๆชีวิตมันก็มีทางไป สู้ๆค่ะ จากคุณ : inventio - [ 15 ต.ค. 51 13:55:20 ]

ความคิดเห็นที่ 30 เรียน ม.เปิด ก็ได้ . . จากคุณ : TheToey - [ 15 ต.ค. 51 14:17:46 ]

ความคิดเห็นที่ 31 จริงๆ แล้วมันก็แค่กระดาษใบเดียว จากคุณ : jumponnet - [ 15 ต.ค. 51 15:40:43 ]

ความคิดเห็นที่ 32 1.ท่านๆจะรู้สึกอย่างไรบ้างครับ -แน่นอนคือเสียใจ แต่ก็ต้องทำใจอ่ะครับ 2.ท่านๆจะทำอะไรต่อไปครับ - ม.เปิดเยอะแยะครับ ชีวิตยังมีอีกหลายทาง ...ต้นเดือนหน้าสอบความถนัดแพทย์แล้ว เหอๆ (-_-") จากคุณ : ScaperS - [ 15 ต.ค. 51 16:02:38 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เลือกทำในสิ่งที่คุณชอบครับ หางเสือ กับ หัวหมา ลองเลือกดูครับบ ปัจจุบันผมจบ เอกชน แต่เงินเดือนสูงเอาการ เพราะได้ทำในสิ่งที่เรารัก เราเลยทำได้เต็มที่ครับ จากคุณ : Kasuo - [ 15 ต.ค. 51 16:10:16 A:124.121.240.29 X: ]

ความคิดเห็นที่ 34 ราม ตอนนั้นพ่อบอกว่าถ้าเอนท์ไม่ติดไม่มีตังค์ในเรียนเอกชนนะ ผมเลยอ่านหนังสือเตรียมเอนท์ตลอดปี ตั้งแต่ขึ้น ม 6 ตอนเลือก ก็ตามชอบ วิศวะ รวดทั้งสี่อันดับ กะว่าถ้าไม่ได้ก็รามละ แต่ติด สอบได้ จากคุณ : house (panote_saechiew) - [ 15 ต.ค. 51 16:21:51 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เดี่ยวนี้ ม.เอกชน บางแห่ง(ย้ำว่าบางแห่ง) ดีกว่า ม.รัฐด้วยซ้ำ ถ้าเทียบในด้านเทคโนโลยีที่ใช้ในการเรียนการสอน เอกชนบางแห่งก็พัฒนาได้ล้ำไม่แพ้กัน จากคุณ : Gonzii_7 - [ 15 ต.ค. 51 16:36:29 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เปนผม ผมจะออกเดินทางท่องเที่ยว จากคุณ : รบมิพัก รักมิยั้ง - [ 15 ต.ค. 51 17:26:03 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ไม่เคยติดจะเอนท์  เลือกมาเรียนสายอาชีพก็เพราะเกลียดระบบเอนท์นี่แหละ  จนตอนนี้ก็จบ วศบ. ได้  มีงานทำ  มีเงินเลี้ยงตัวเองได้ครับ จากคุณ : หนอนทะเลทราย - [ 15 ต.ค. 51 17:26:34 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เอนท์ติดก็ใช่ว่าจะรอดนะ จากคุณ : Practical x 2 - [ 15 ต.ค. 51 17:43:53 ]

ความคิดเห็นที่ 39 มันจะเครียดก็เพราะโดนกดดันจากคนรอบข้างนี้แหละค่ะ จากคุณ : m-o-o-k-i - [ 15 ต.ค. 51 18:35:55 ]

ความคิดเห็นที่ 40 มีอีกหลายทางที่จะเข้าไปในคณะที่ผมต้องการได้ ซึ่งก็ได้แล้ว แต่ดันสอบติดที่เดิม  ^^ จากคุณ : Sympho - [ 15 ต.ค. 51 19:32:19 ]

ความคิดเห็นที่ 41 สังคม ค่านิยม ความเชื่อผิดๆ จุฬา ธรรมศาสตร์ มหิดล และอื่นๆที่ชื่อดังทั้งหลาย มันก็เท่านั้นแหละครับ ผมเองถึงจะได้ธรรมศาสตร์ แต่ก็ไม่เห็นจะรู้สึกว่าวิเศษวิโสกว่าเพื่อนที่เรียนรามตรงไหน ก็แค่ไว้พูดโก้ๆตอนคนอื่นถามว่าเรียนที่ไหน แต่มันก็แค่เปลือกครับ เรื่องพวกนี้จะเอาอะไรนักหนา เรียนจบมาก็ทำงานเหมือนกันหมด มันไม่ใช่แก่นสารอะไรที่ยิ่งใหญ่แบบที่พวกเด็กๆคิดกันหรอกครับ แค่เรื่องชื่อมหาลัยเนี่ย เห่อๆกันก็แค่อีตอนก่อนจะเข้านั่นล่ะ พอเข้ามาได้ก็งั้นๆ ไม่ได้ต่างกันตรงไหนเลย.. จากคุณ : Limelight - [ 16 ต.ค. 51 00:32:25 ]

ความคิดเห็นที่ 42 #41 เราว่าสังคมมันต่างกันจริง ๆ นะ ส่วนคุณภาพการสอน สมัยนี้ทุกที่ต่างก็เร่งพัฒนาตรงนี้กันแล้วทั้งนั้น ฝากไว้นิดนึง เรียนเก่งมาก จบมหาลัยดัง แต่ทำงานไม่เป็น - -* ก็เปล่าประโยชน์นะ การจะประสบความสำเร็จในชีวิตได้ มันมีอะไรมากกว่าเรียนเก่ง แน่นอนว่ามันมีคนที่ไม่ได้เรียนหนังสือแล้วก็ประสบความสำเร็จได้ ^^ น่านับถือนะ การเรียนคือการรู้ ตรงนี้จะช่วยให้มีโอกาสมากกว่า ((ถ้ารู้จักใช้)) ช่วยให้คิดได้กว้างขึ้น แต่มันไม่มีประโยชน์อะไรหรอก ถ้าจะเข้าไปเรียนมหาลัยดัง ๆ เพื่อ"ชื่อเสียง" เพราะเราเคยผ่านจุดนั้นมา "ชื่อเสียง" ของมหาลัยที่จะเข้า มันมีผลอย่างเห็นได้ชัดกับเพื่อน ๆ เรา หลายคนเลือกเรียนคณะที่ตัวเองไม่อยากเรียนแต่เพราะคำว่า จุฬา....นั่นแหละ เพื่อนเราบางคนไม่ได้อยากเป็นหมอแต่ก็ต้องเป็น เพราะ"ครอบครัว"อีกเช่นกัน พ่อเพื่อนเราคนนึง เอนท์ไม่ติด.... เพื่อนเราเล่าให้ฟัง ว่าสมัยนั้น พ่อมันโดนเพื่อน ๆ ดูถูก.... พ่อมันไปเรียนราม....ตอนนี้ เป็นผู้พิพากษา ทางเลือกในชีวิตคนเรามีมากมาย จะลองไปค้นหาตัวเองดูก่อนก็ได้....... แคร์สังคมมากไปบางทีเราก็ทุกข์เอง.....ใครจะว่ายังไงก็ช่างเค้าเถอะค่ะ ทำในสิ่งที่ตัวเองมีความสุข ดีกว่าเป็นในสิ่งที่สังคมคาดหวังแต่เราทุกข์ใจเอง ....ส่วนตัวเราเชียร์ ม.เปิดนะ และชื่นชมคนที่จบมาได้ ^^ เราว่ามันวัดความพยายามของคนได้ค่ะ ที่ไหน....ถ้าจบ ก็ถือว่าดีแล้วค่ะ *แก้คำผิด แก้ไขเมื่อ 16 ต.ค. 51 01:31:42 จากคุณ : ผักผลไม้รวม - [ 16 ต.ค. 51 01:29:54 ]

ความคิดเห็นที่ 43 แค่ตั๋วสมัครงาน คิดอะไรมากมายขอรับ เรียนจบได้ก็พอล่ะ ปล. แต่เรียนไม่จบเนี่ย เครียดกว่ากันเยอะ (ฮา) ~ เทพมังกรอวยชัย เอนมา เอนมา ~ จากคุณ : กระบี่เก้าเดียวดาย - [ 16 ต.ค. 51 07:26:51 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ไม่สนใจจะเอนท์ ได้โควต้าที่ค่อนข้างดีแต่ไกลบ้าน พ่อไม่อยากให้ไปไกล เรียนเอกชนนี่แหละ ที่บ้านไม่สนใจว่าจะต้องรัฐบาลดังๆเท่านั้นนะ พ่อแม่บอกว่า เพชร อยู่ที่ไหนมันก้อคือเพชร ต่อให้อยู่บนดินยังไงมันก้อมีประกาย มีคุณค่าในตัวเองเสมอ ถ้ามั่นใจว่าเราเป็นคนมีความสามารถ ยังไงมันก้อต้องฉายประกายให้คนอื่นเห็นจนได้ ที่สำคัญที่สุด พ่อแม่ไม่เคยอายเวลาคุยกับชาวบ้าน ว่าลูกจบเอกชน จบมา พักผ่อน นั่งเล่นเกม 2 เดือน หางานทำ ก้อได้เลย เหอๆ แบบว่าความสามารถล้นกระป๋อง ได้รับการสนับสนุนมากมายจากต้นสังกัด ได้อยู่ในตำแหน่งที่เพื่อนร่วมวิชาชีพหลายคนอยากจะเป็น ที่สำคัญได้เรียนต่อพร้อมทุนการศึกษาและเงินเดือนต่างหาก หาตัวตนให้เจอ และเดินไปตามฝัน ทางเดินไปเส้นชัย มีหลายทาง ไม่ได้มีทางเดียว      ป.ล. ไม่เคยเรียนพิเศษ เรียนติว มีชีวิต ม.ปลายที่สนุกมาก ไม่เคยเครียดเรื่องเรียนเลย ไม่เคยต้องมานั่งอ่านหนังสือดึกๆ เพื่อเตรียมสอบ เฮฮามาก จบมาปัจจุบัน มีหน้าที่การงาน และชีวิตส่วนตัว ที่มีความสุขมากๆๆๆ สุขภาพจิตดีเยี่ยม ขอบอกค่ะ จากคุณ : มามั่ว - [ 16 ต.ค. 51 13:42:39 ]

ความคิดเห็นที่ 45 นั่นเป็นเพราะคุณคห.44 มีพลังอยู่ในตัวอยู่แล้วรึเปล่าครับ? บางคนไม่เรียนพิเศษก็ชิลๆ สอบออกมาก็ท็อปห้อง แต่บางคนก็ขยันเรียนแทบบ้า ผลสอบออกมากลางๆก็มี คนเราไม่เท่ากันครับ บางคนเห็นว่าตัวเองไม่มีประกาย ก็ขวนขวายที่จะใช้ประกายที่สังคมยอมรับมาคลุมตัว บางคนมีความสามารถพิเศษและพรสวรรค์อยู่แล้ว แต่ประเภทนี้ก็นับว่ายังน้อยครับ สำหรับคนเดินดินธรรมดา จากคุณ : ข้าพเจ้า - [ 16 ต.ค. 51 19:06:56 A:58.9.195.238 X: ]

ความคิดเห็นที่ 46 ทำไมไม่ไปราชภัฏบ้างละ จากคุณ : ฮักเมาน้องหล้า - [ 18 ต.ค. 51 10:23:11 ]