ความคิดเห็นที่ 1 แก้ปัญหาโดยการตั้งราคาสินค้าไม่ให้มีเศษสตางค์ปัดขึ้นไปเลยเวลาคิดเงินก็ไม่ยากเย็น จากคุณ : มอสคุงอะครับ - [ 20 ต.ค. 51 23:33:36 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ร้านขายของชำถึงนับวันจะโดน modern trade เอาไปกินไง จากคุณ : _K_F_C_ - [ 21 ต.ค. 51 00:07:23 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ปัดขึ้นแล้วหยิบลูกอมให้ไปสิครับ . . . จากคุณ : ไม่มีสมาชิกชื่อนี้ - [ 21 ต.ค. 51 00:16:39 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ทำใบสะสมยอดเศษสตางค์ให้ลูกค้าไปเลยสิ สะสมได้เท่าไหร่ก็ให้มาแลกของมูลค่าเท่าเศษสตางค์ที่สะสมได้นั่นแหละ จากคุณ : Buff_Power - [ 21 ต.ค. 51 00:17:57 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้าลูกค้าอยากให้ปัดขึ้น ไม่อยากให้ปัดลง ก็แปลกแล้วครับ ลูกค้าก็ไม่ผิดอะไรครับ ที่ปัดลงแล้วไม่โวยวาย เพราะจริงๆฝ่ายที่โวยวายต้องเป็นผู้เสียหาย หากนิ่งเฉยเสียก็ถือว่ายอมรับ ถ้าต้องเสียเงินไปฟรี กับได้เงินฟรี เป็นคุณจะเลือกโวยวายอันไหน แต่จริงๆเรื่องเล็กๆน้อยก็ไม่น่ามาคิดมากอะไรกันครับ ก็น่าจะตั้งราคาให้ลงตัว หรือไม่ก็ปัดลงให้หมดทุกกรณี แบบนี้ก็เป็นการซื้อใจลูกค้าได้ครับ เดียวนี้ธุรกิจเค้าไม่เน้นสะสมกำไรละครับ เน้นสะสมคน ใครมีฐานลูกค้ามาก ครองใจลูกค้าได้ นั่นย่อมได้เปรียบครับ สังเกตได้จากบางบริษัทแจกซิมฟรี เพราะอะไร??? จากคุณ : Sir.ขงเบ้ง - [ 21 ต.ค. 51 00:37:21 ]

ความคิดเห็นที่ 6 แต่ 50 สตางค์ ร้อยครั้งก็ 50 บาท นะครับ แต่ที่จริงมันไม่ต้องคิดมากขนาดนั้นหรอก ตราบใดที่เรายังไม่มีเหรียญ 1 สตางค์ จะเล็กขนาดไหนนั่น.... เอาเหอะ จากคุณ : ไฟแดงลิซึม - [ 21 ต.ค. 51 00:45:35 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เข้าใจว่าเป็นเศษสตางค์ที่เกิดมาจาก VAT ที่ผมเห็นส่วนใหญ่มักจะตั้งราคารวม VAT ให้ลงตัวพอดีน่ะครับ เก็บยอดสะสมแบบ #4 ก็เข้าท่าดีนะครับ ผมว่าอย่างน้อยน่าจะมีหลักเกณฑ์ที่แน่นอน และน่าจะมีป้ายบอกลูกค้าล่วงหน้าก่อนจ่ายเสียเลย จะได้ไม่ต้องมีปัญหากันภายหลัง เพราะคนที่ไม่โวยวายเนี่ย เขาอาจจะไม่พอใจอยู่บ้างก็ได้ เพียงแต่ไม่อยากมาทะเลาะด้วยเรื่องเศษสตางค์ ยังไงก็ The customer is always right. ล่ะครับ จากคุณ : ปั๊ปโปะจัง - [ 21 ต.ค. 51 00:45:59 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เป็นผม ผมจะปัดลง เพราะไม่อยากให้ลูกค้าเสียความรู้สึก จากคุณ : =Por= - [ 21 ต.ค. 51 00:54:56 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ส่วนใหญ่พวกราคาสินค้าจะไม่ค่อยมีปัญหา ยกเว้นแต่บางร้านที่มีแบบว่า ถ้าไม่ออกบิลไม่คิด VAT แต่ถ้าออกบิลจะคิด VAT อะไรแบบนั้น แต่ที่เจอบ่อยมากจริงๆ ก็คือการจ่ายค่าสาธารณูปโภค ทั้งค่าน้ำค่าไฟค่าโทรศัพท์ต่างๆ พวกนี้มีเศษสตางค์ประจำ ส่วนเราเองมักจะเตรียมเงินไว้แบบปัดขึ้นอยู่แล้ว ก็เลยไม่เคยบ่นอะไร แต่บางทีก็อดเซ็งไม่ได้เพราะพนักงานบางคนก็เกินไปหน่อย เอะอะอะไรก็เล่นปัดขึ้นหมดไม่ว่าจะกี่สตางค์ก็ตาม บางที 10 สตางค์ยังจะปัดขึ้นเลยเป็น 1 บาทเลย เฮ้อ จากคุณ : เกียรตินำ - [ 21 ต.ค. 51 00:55:18 ]

ความคิดเห็นที่ 10 แบบ #7 ครับ เขียนป้ายแปะไว้ครับ มากกว่า 12 สตางค์ปัดขึ้นเป็น 25 สตางค์ มากกว่า 37 สตางค์ปัดขึ้นเป็น 50 สตางค์ มากกว่า 62 สตางค์ปัดขึ้นเป็น 75 สตางค์ มากกว่า 87 สตางค์ปัดขึ้นเป็น 1 บาท หากรับไม่ได้ กรุณาอย่าใช้บริการ :P และที่ง่าย ๆ ก็ตั้งค่าให้พอดี ๆ ครับ แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 51 00:57:03 จากคุณ : MAX - [ 21 ต.ค. 51 00:56:11 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ความคิดเห็นที่ 6 ผมมีนะ เหรียญ1สตางค์ เล็กเหมือนกัน อิอิ จากคุณ : Sir.ขงเบ้ง - [ 21 ต.ค. 51 01:30:46 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ร้านอะไรน่ะ ขายของราคาทุน จากคุณ : Waterman (LN106) - [ 21 ต.ค. 51 01:33:43 ]

ความคิดเห็นที่ 13 จขกท. ขายอะไรครับ จากคุณ : จั๊กกะจี๋ - [ 21 ต.ค. 51 01:47:30 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ชำระค่าบริการต่างๆครับ จากคุณ : yagioh - [ 21 ต.ค. 51 01:57:40 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ไม่เคยสนเรื่องเศษสตางค์ ทอนเงินมาเป็นเศษเหรียญ ไม่เคยนับเก็บใส่กระเป๋าเลย เกินก็ไม่รู้ ขาดก็ไม่รู้ ขี้เกียจทะเลาะด้วย ถ้าทอนขาด ทอนเป็นเหรียญ เต็มที่ก็ขาดไม่เกิน 19 บาท ถ้าทะเลาะกันขึ้นมาผมว่ามันน่าจะเกิน 19 บาท เคยเอาคูปองฟาสฟู๊ดที่บิ๊กซี ซื้อของไม่หมด เหลือ 55 บาท พวกนับแล้วส่งเงินให้ 40 บาท ทะเลาะกันแทบตายกับเงินแค่ 15 บาท เสียความรู้สึกเปล่าๆ จนบัดนี้ยังไม่หายเสียความรู้สึกเลย เลยเลิกนับเศษสตางค์ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา จากคุณ : takbai - [ 21 ต.ค. 51 01:59:03 ]

ความคิดเห็นที่ 16 จนเดี๋ยวนี้ ไม่ใช้เศษสตางค์ซื้อของเลย จะใช้ธนบัตรทุกครั้ง ขี้เกียจล้วงขึ้นมานับ เสียเวลา กลับถึงบ้าน เหรียญเต็มกระเป๋า อาทิตย์นึงเอามานับที แยกเหรียญ 1, 5,10 ,สลึง,สองสลึง นับใส่ถุง ถุงละ 100 เหรียญรอไว้ให้ญาติๆมาแลก กลายเป็นเงินสะสมอีกต่างหาก(แต่ถ้าทำนิสัยอย่างนี้ทุกคน เหรียญไม่พอใช้แน่ เดี๋ยวก็ขาดตลาดอีก) จากคุณ : takbai - [ 21 ต.ค. 51 02:05:49 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เราเคยแต่จะเป็นคนซื้ออ่ะนะ ปรกติไม่นิสัยหยุมหยิมไรหรอก นอกจากร้านที่บริการไม่ดี ไม่สุภาพ ขายแพงเกินงาม เราก้อจะเม้งเรื่องที่จะเม้งได้ ถ้าได้โอกาสอ่ะนะ ถ้ากรณีเศษเงินอย่าง จขกท เราก้อจะเม้งไป อิอิ รอโอกาสอยู่แว้ว.. จากคุณ : เดือนสว่าง - [ 21 ต.ค. 51 02:12:21 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขอโทษนะครับ จขกท. ก็คุณยังคิดกลัวขาดทุน ส่วนของกำไร แล้วห้ามลูกค้าคิดได้ไง เคยไปกินข้าวร้านอาหารแห่งนึง บิลออกมาสมมติ 207 บาท ควักแบงค์ 100 ให้ 2 ใบ กำลังจะหาแบงค์ 20 ให้อีก 1 ใบ เจ้าของร้านบอก ไม่ต้องคิดแค่ 200 พอ (เอ่อร้านนี้ไม่งกทริปด้วยแหะ) จริงๆ อาหารก็ไม่ได้อร่อยอะไรมากมาย แต่อยากกลับไปกินอีก จากคุณ : PiGsPy - [ 21 ต.ค. 51 03:25:49 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ฟังดูเหมือนคุณต้องการมาระบายมากกว่าต้องการวิธีแก้ปัญหานะคะ ยังไงเอาความเห็นของคนในกระทู้ไปพิจารณาดูจะมีประโยชน์ต่อกิจการคุณมากกว่า "คนที่ไม่เคยทำงานเกี่ยวกับ การทอนสตางค์ เงินทอน  คงไม่เข้าใจ   ในสักพันคน น่าจะมีพวกที่เคี่ยวๆหลงมาสักคน    ร้านผมไม่ใช่ เซเว่น ไม่ใช่เคาร์เตอร์โลตัส ครับที่จะได้ตุน เหรียญ ห้าสิบสตางค์ เหรียญสลึง เป็นถุงๆ" เริ่มจากเปลี่ยนตรงนี้ก่อนค่ะ ถ้าคุณขายของก็ต้องรับผิดชอบที่จะเตรียมเงินทอนให้ลูกค้าด้วย ไปขอแลกที่ธนาคารก็ไม่เห็นจะลำบากตรงไหน "เพราะจะมีพวกตงฉินพวกนี้หลุดมาน้อยถึงน้อยมาก โดยที่คนอื่นเค้าไม่เห็นมีปัญหากัน  แต่ถ้าพวกนี้หลุดมาสักทีเครียดมาก...  และเสียสุขภาพจิต " จะบอกว่าพวกที่ไม่พูดนี่แหละน่ากลัวกว่า เพราะไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ คนเราพอรู้สึกถูกเอาเปรียบก็เสียความรู้สึกแล้ว แต่ถ้าเรื่องเล็กน้อยส่วนใหญ่ก็เลือก ที่จะจากไปเงียบๆ แต่ว่าความรู้สึกมันเสียไปแล้วไม่กลับมาใช้บริการอีกดีกว่า เมื่อก่อนเราก็เคยใช้ให้ลูกอมเวลาไม่มีเศษสตางค์ทอนลูกค้า  แต่ก็เปลี่ยนมาใช้วิธีตุนเศษสตางค์ไว้แทนรู้สึกว่ายุติธรรมดีทั้งคนซื้อคนขาย ตั้งกติกาแบบ คห 10 ก็ดีค่ะ แต่เรื่องการแปะป้ายเขียนคำให้ดูอ่อนน้อมนิดนึงไม่งั้นคน มาใช้บริการจะรู้สึกอึดอัด จากคุณ : nangoing - [ 21 ต.ค. 51 07:55:37 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ถ้าเป็นชำระค่าบริการแบบพวกมือถือเนี่ย (ส่วนใหญ่จะมีเศษสตางค์) ปัดไปปัดมา เดือนๆนึง ผู้ให้บริการได้เงินเป็นล้านฟรีๆเลยนะครับ ไอ้ที่จะไม่ปัด ก็เงินหายไปหลายบาทอยู่เหมือนกัน ทางที่ดีปัดให้ใกล้ .25 .50 .75 ให้มันไม่น่าเกลียดกันทั้งสองฝ่ายละกันครับ จากคุณ : ตัวตุ้ย - [ 21 ต.ค. 51 09:27:00 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ก็ปัดลงโลด จากคุณ : Mr.june - [ 21 ต.ค. 51 09:34:45 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ปัญหาคือ บ้านเรามีเศษสตางค์ใช้กันน้อยไปอะคับ จะเอาเหรียญห้าสิบสตางค์สองเหรียญไปใช้เป็นเงินหนึ่งบาทผมยังอายเลยครับ จำใจเอาสตางค์หยอดกระปุก แล้วค่อยไปให้ธนาคารดีกว่า จากคุณ : Bassism - [ 21 ต.ค. 51 09:46:29 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ทำไมคุณไม่เปลี่ยนจุดอ่อนให้เป็นจุดแข็ง ด้วยการติดป้ายร้านนี้ตัดเศษสตางค์ลงในสินค้าทุกชนิดล่ะครับ เป็นผมเจอพ่อค้าปัดราคาขึ้นแล้วทำไม่รู้เรื่อง ก็เลิกซื้อร้านนั้นทันทีแล้ว กำไรต่อชิ้นที่ลดลงหน่อยนึง กับจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้น(หรือไม่ลดลง) กับ กำไรต่อชิ้นเท่าเดิม จำนวนลูกค้าลดลง แถมได้อารมณ์เสียอีก เลือกทางไหนครับ ถ้าเป็นธุรกิจที่ผูกขาด คู่แข่งไม่มี คุณจะทำอะไรก็ได้ แต่นี่มันไม่ใช่ครับ แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 51 11:22:52 จากคุณ : lunch - [ 21 ต.ค. 51 11:19:23 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เด็กที่ร้าน เงินขาดเพราะ ปัดลงทุกวัน บาท 2บาท 3บาท ได้กำไรเป็นล้าน เป็นไปไม่ได้หรอกครับ นั่นเป็นมุมมองของลูกค้า ส่วนที่ขาดทุนอีกล้านกว่า ต้องเอามาหักล้างด้วย จากคุณ : yagioh - [ 21 ต.ค. 51 11:28:02 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ชำระค่าบริการ มีเศษเพราะมี vatครับ สินค้าอื่นก็มีขาย แต่ไม่มีเศษ ลดขาดใจอยู่แล้ว จากคุณ : yagioh - [ 21 ต.ค. 51 11:36:47 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ไม่เคยได้ยินข่าวเหรอครับ ตำรวจยิงเด็กปั๊มตายเพราะไม่มีเศษตังค์ทอนให้ จากคุณ : ซายูบิ - [ 21 ต.ค. 51 15:42:34 ]

ความคิดเห็นที่ 27 หน่วยงานที่ทำหน้าที่ดูแลผู้บริโภค ควรออกระเบียบที่เป็นลายลักษณ์อักษร ถึงระเบียบการปัดเศษ 1-12ส.ต.ปัดลง 13-24 สตางค์ปัดขึ้นเป็น 25 สตางค์ เหรียญ 25 สตางค์ต้องเตรียมไว้ให้พร้อม  หากไม่มีต้องปัดชนิดที่เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค จากคุณ : mamao - [ 21 ต.ค. 51 22:10:11 ]

ความคิดเห็นที่ 28 มันเป็นเรื่องลำบาก เพราะว่าเราไม่มีเหรียญ 1 สตางค์ ให้พก (ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย มี) อย่าว่าแบบนั้นเลย เหรียญ 50 สตางค์ บางทีเอาไปใช้ ร้านค้ายังไม่อยากได้เลย (แจ้งความจับได้นะ แต่ใครจะไปทำ) ไม่ว่าจะปัดขึ้นหรือปัดลง มันก็ไม่ดีต่อทั้งสองฝ่าย ขึ้นอยุ่กับว่า จะยอมเสียเปรียบ หรือ จะเอาเปรียบ มีบางคนแนะนำว่า ให้ใช้พวกบัตรเครดิต แทน ปัญหานี้ก็จะลดไปได้ แต่ระวังเรื่องหนี้สิน จะมาแทนละกัน จากคุณ : locomotion - [ 22 ต.ค. 51 17:24:20 ]