ความคิดเห็นที่ 1 คนแรก "นักฆ่าลุ่มแม่น้ำเขียว" แกรี ลีออง ริดจ์เวย์ (Gary Ridgeway 1949-?? )        แกรี ลีออง ริดจ์เวย์ ช่างทาสีรถบรรทุกเมืองซิแอตเทิลและทาโคน่า รัฐวอชิงตัน วัย 54 ปี ฆาตกรโรคจิตเจ้าของฉายา “นักฆ่าลุ่มแม่น้ำเขียว” ยอมรับว่าสังหารสตรีทั้งหมด 48 คน (ปัจจุบันพบ 50 ศพแล้ว) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโสเภณี ซึ่งตำรวจเชื่อว่าน่าจะสังหารมากกว่านั้น โดยสังหารระหว่างปี 2525 จนกระทั่งถูกจับกุมในปี 2544 จากการตรวจสอบดีเอ็นเอ        แกรี ลีออง ริดจ์เวย์ เป็นฆาตกรที่เป็นต้นแบบของฆาตกรคนอื่นๆ นำมาเลียนแบบมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของอเมริกา จนถึงทุกวันนี้ก็ยังมีศพใหม่ ศพเก่าปรากฏขึ้นในแม่น้ำสีเขียว ขอบเมืองซีแอตเติล ประเทศอเมริกา อย่างไม่ขาดสาย แสดงให้เห็นว่านอกเหนือแกรี่ ริดจ์เวย์แล้วก็ยังมีนักฆ่าลุ่มแม่น้ำเขียวคนใหม่กำเนิดมาอย่างไม่ลดละไม่หยุดไม่หย่อนเลยทีเดียว        แกรี ลีออง ริดจ์เวย์ ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต ปัจจุบันยังมีชีวิตสุขสบายดีในคุก จากคุณ : primjang - [ วันปิยมหาราช 20:38:39 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ภาพเหยื่อที่เสียชีวิต จากการกระทำของ แกรี ลีออง ริดจ์เวย์ บางรายถูกรัดคอด้วยชั้นในสีฟ้าของผู้ชาย บางรายถูกหินรูปร่างคล้ายพีระมิดอยู่ในช่องคลอด ก่อนถูกถ่วงน้ำ จากคุณ : primjang - [ วันปิยมหาราช 20:42:30 ]

ความคิดเห็นที่ 3 คนที่สอง "โฉดที่สุดในโลก" อันเดร ชิกาทิโล( Andrei Chikatilo. 1936 - 1994)        เป็นฆาตกรที่มีชื่อเสียงของรัสเซียฆ่าคนไป 53 ศพ เหยื่อมีทั้งผู้หญิงและเด็ก แถมฆ่าแล้วกินศพอีกด้วย โดยเริ่มไล่ล่าฆ่าคนตั้งแต่ปี 1978 ถึง 1992 โดยปกติเหยื่อของเขาจะเป็นผู้คนไม่มีบ้าน หรือผู้ซึ่งพักรอบๆทางหลวง ซึ่งบางรายถูกควักตาในขณะที่ยังมีชีวิต ถูกกัดหัวนม บางรายถูกผ่าท้องในขณะที่เป็นๆ และมีอวัยวะบางส่วนถูกกินอย่างสยดสยอง ก่อนจะถูกจับได้ในปี 1992 ต่อมา และถูกประหารชีวิตด้วยการยิงเป้า เมื่อวันที่ 14กุมภาพันธ์1994 จากคุณ : primjang - [ วันปิยมหาราช 20:46:35 ]

ความคิดเห็นที่ 4 น่าสนใจครับ ตามอ่านอยู่ครับ สู้สู้ จากคุณ : ร้อยละสิบสลึง - [ วันปิยมหาราช 20:46:38 ]

ความคิดเห็นที่ 5 คนที่สาม "ฆ่าเพราะสงครามหรือ" บรูโน ลุค (Bruno Ludke. 1908 - 1944)       เกิดที่เยอรมัน เริ่มฆ่าคนเมื่ออายุ 18 ปี ค.ศ. 1927 ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยสังหารผู้หญิงไปถึง 85 ศพ โดยส่วนใหญ่สภาพศพส่วนใหญ่ถูกข่มขืนและถูกแทงหลายแผล หลังสงครามโลก 2 วันที่ 29 มกราคม 1943 บรูโนก็ถูกตำรวจ จนกระทั้งบรูโนจบชีวิต หลังจากถูกนำตัวไปทดลองโดยการฉีดยา โดยคณะแพทย์ที่โรงพยาบาลเพราะต้องการศึกษาว่าทำไมเขาถึงเป็นฆาตกรต่อเนื่องที่โหดมแบบนี้ จากคุณ : primjang - [ วันปิยมหาราช 20:51:52 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ขอปาดค่ะ น่าสนใจมาก โหดโคต ร ร จากคุณ : St.Kyo - [ วันปิยมหาราช 20:51:55 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ปูเสื่อ รอชม จากคุณ : ginosty - [ วันปิยมหาราช 20:54:10 ]

ความคิดเห็นที่ 8 คุณ ร้อยละสิบสลึง  กำลังพยายามอยู่ค่ะ  อ่านไปก็ชักเริ่มกลัวๆ เหมือนกัน มาต่อค่ะ คนที่สี่ "นักฆ่าเด็ก 100 ศพ" จาเว็ด อัคบอล (Javed Iqbal ??-2000)       ปี 1999 แคว้นปัญจาบ ปากีสถาน ชายคนหนึ่งชื่อ จาเว็ด อิคบอล ชาวปากีสถาน อาชีพรับจ้างทั่วไป ทำการฆ่าเด็กชายถึง100 ศพ! โดยใช้เวลาแค่ 5 เดือน! โดยทุกรายจะลงมือข่มขืน รัดคอ จากนั้นก็สับร่างกายของเหยื่อออกเป็นชิ้นๆ และโยน ลงในหม้อที่มีกรดเพื่อทำรายหลักฐาน       จนกระทั่งวันหนึ่งจาเว็ดเกิดนึกเบื่อเขาเลยเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับเขาในจดหมายให้หนังสือพิมพ์ในเมืองจนถูกตำรวจจับในที่สุด               อาจกล่าวได้ว่า จาเว็ดเป็นปีศาจร้าย แต่สิ่งที่น่าคิดในภายหลังคือ ชีวิตของเด็กในสังคมปากีสถานนั้นมันช่างไร่ค่าราวกับขยะไม่ปาน สถานที่เด็กๆ 100 คน ที่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ถูกทรมานและสังหารอย่างเลือดเย็นนั้นไม่มีใครสังเกตเลยแม้แต่นิดเดียว กลับพอใจด้วยซ้ำที่ไม่มีพวกเด็กๆ มากวนใจในสังคม        จาเว็ดอาจไม่ใช้ผู้ชายที่ชอบมีความสัมพันธ์กับเด็ก แต่เขาเป็นฆาตกรต่อเนื่องที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของปากีสถาน ทั้งนี้เพราะเขาทำให้คนทั่วโลกมองประเทศปากีสถานว่าเป็น ประเทศที่ไม่มีความใส่ใจต่อชีวิตประชาชนของรัฐบาล และความไร้ความสามารถของเจ้าหน้าที่ตำรวจ             นอกจากนี้เขาทำให้ทั่วโลกได้รับรู้กฎหมายประหารชีวิตที่แสนเก่าและล้าสมัยของปากีสถานอีกด้วย คือ ฆ่าเหยื่อตายยังไงก็ต้องถูกประหารแบบนั้น จากคุณ : primjang - [ วันปิยมหาราช 21:02:57 ]

ความคิดเห็นที่ 9 มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตประเภทเดียวที่ฆ่ากันด้วยความเลือดเย็นและไร้ปราณีเช่นนี้ ที่สำคัญ ไม่ได้ทำเพื่อความ อยู่รอดหรือเลี้ยงชีพเลย จากคุณ : axquest - [ วันปิยมหาราช 21:07:42 ]

ความคิดเห็นที่ 10 คนที่ห้า " จับผมซะ ! ก่อนที่ผมจะฆ่าใครอีก" เฮนรี่ ลู ลูกัส (Henry Lee Lucas. 1936 -2001 )         เฮนรี่ ลู ลูกัสฆาตกรต่อเนื่องที่ตาบอดข้างหนึ่งในอเมริการ่วมมือกับออตติส เอลวูด ช่วยกันสังหารคนที่โบกรถตามทางหลวงของเท็กซัส ฟลอริดา ตั้งแต่ปีและทั่วประเทศในอเมริกา 1966 ซึ่งเขาอ้างว่าสังหารคนกว่า 3,000 ชีวิต แต่หลังจากการตรวจสอบพบว่า เขาฆ่าเพียง 210 ศพเท่านั้น โดยหนึ่งจำนวนนี้มีทั้งแม่และครูประจำชั้นของลูกัสรวมอยู่ด้วย ลูกัสใช้ชีวิตอยู่ในแดนประหารนานถึง 15 ปี จนกระทั้งตายในคุกตามธรรมชาติเมื่อปี 2001 จากคุณ : primjang - [ วันปิยมหาราช 21:08:57 ]

ความคิดเห็นที่ 11 "ฆ่าเหยื่อตายยังไงก็ต้องถูกประหารแบบนั้น" แล้วใครจะลงมือข่มขืนมันละเนี่ย จากคุณ : guharu - [ วันปิยมหาราช 21:09:34 ]

ความคิดเห็นที่ 12 Javed Iqbal ลงมือข่มขืน รัดคอ จากนั้นก็สับร่างกายของเหยื่อออกเป็นชิ้นๆ และโยน ลงในหม้อที่มีกรดเพื่อทำรายหลักฐาน แต่โดนประหารด้วยกฎหมายเก่า ฆ่าเหยื่อตายยังไงก็ต้องถูกประหารแบบนั้น เอ่อ กฏหมายที่ว่าเนี่ย .... เอาแค่ตอนฆ่า หรือว่า เอาทั้งหมดตั้งแต่เริ่มลงมือ กำลังสงสัยว่าแล้วใครจะเป็นผู้กล้าไปข่มขืนเขาละนั่น จากคุณ : ginosty - [ วันปิยมหาราช 21:11:56 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามนะคะ งั้นมาต่ออีก 5 คนสุดโหดกันเลยค่ะ.. คนที่หก "ฆาตกรในเสื้อกราวด์" เอซ เอซ โฮล์ม (H.H. Holmes. 1861 - 1896)       ชื่อจริง เฮอร์แมน เว็บสเตอร์ มัดเกทท์เป็นนักธุรกิจ หมอ นักต้มตุ๋น สังหารสตรีไป 200 ศพ (แต่สารภาพเพียง 27 ราย) โดยอุตสาห์ลงทุนสร้างโรงแรมที่ชิคาโก บนหัวมุมถนนบล๊อกที่ 63 สหรัฐอเมริกา เพื่อฆ่าคนโดยเฉพาะ โรงแรมเสร็จสมบูรณ์ในปี 1892 และแขกส่วนมากจะถูกฆ่าด้วยวิธีการต่างๆ นาๆ เช่น ราดน้ำกรด หั่นศพ รมแก๊ซ ฯลฯ แต่ผลสุดท้ายเขาถูกตัดสินว่ามีความผิดเพียงฆ่าคนเพียงคดีเดียว และโฮมส์ถูกแขวนคอเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 1897 ซึ่งเขาไม่ได้ตายทันที เขากระตุกอยู่ถึง 10 นาที ก่อนจะตายสนิทในอีก 5 นาทีให้หลัง         จริงๆเขาเป็นคนมีความสามารถ มีบุคลิคภาพที่ดี ฉลาด อยู่ในวงสังคมชั้นสูง อะไรทำให้เขาเป็นฆาตกร.. จากคุณ : primjang - [ วันปิยมหาราช 21:14:33 ]

ความคิดเห็นที่ 14 bookmark จากคุณ : Reba - The Queen in my heart - [ วันปิยมหาราช 21:19:39 ]

ความคิดเห็นที่ 15 คุณ guharu ลืมนึกไปเลยนะเนี่ย คงใช้แต่วิธีฆ่ามังคะ ไม่งั้นคนลงโทษคงทรมานแย่.. มาต่อกันค่ะ คนที่เจ็ด "“อสูรกายแห่งเทือกเขาแอนดีส" เปโดร อลองโซ โลเปซ (Pedro Alonso Lopez . 1949-??) “ผมจะหาเหยื่อตามท้องตลาด เหมือนกับเลือกผัก ปลา เหยื่อต้องเป็นเด็กที่ดูน่ารัก บางครั้งผมต้องเฝ้ารอสองถึงสามวัน เพื่อรอให้เธออยู่คนเดียว ผมจะให้ของมีค่าเล็กๆ น้อยแก่เธอ พาเธอออกถึงบริเวณชานเมืองหรือนอกเมือง โดยบอกว่าผมมีของจะให้แม่ของเธอ” “ผมพาเธอไปที่ลับตาคน ผมขุดหลุมสำหรับเธอเอาไว้ บางที่หลุมนั้นก็มีศพเหยื่อคนก่อนอยู่แล้ว ผมเริ่มโอบกอดเธอและข่มขื่นตอนอาทิตย์ลับขอบฟ้า เมื่อถึงจุดสุดยอด ผมเริ่มกำมือบรอบลำคอ ก่อนที่ดวงอาทิตย์ขึ้นผมจะบีบเต็มแรง (โหมันเล่นโต้ดึก)” “ดวงตาเธอเยี่ยมที่เดียว ผมดูตาคู่นั้นภายใต้แสงอาทิตย์ มันเปรียบเหมือนช่วงเวลาอันศักดิ์สิทธิ์ ผมจ้องตาและเห็นแสงที่เป็นประกายก่อนที่จะหายวับในพริบตา ช่วงเวลาตายนั้น มันช่างแสนหลงใหล ชวนตื่นเต้น ที่คนทั่วไปไม่มีทางเข้าใจหรอก มีแต่คนที่ฆ่าคนจริงๆ เท่านั้นว่ามันหมายถึงอะไร” “ถึงอย่างไรกว่าพวกเธอจะตายก็กินเวลามากอยู่ สักห้าถึงสิบห้านาทีก็ได้ ผมรอบคอบมากนะ จะใช้เวลาอยู่กับเธอนานๆ เพื่อที่จะรู้ว่าเธอสิ้นลมจริงหรือเปล่า บางทีก็เอากระจกไปอังจมูกด้วยละ” “พวกเธอไม่เคยกรีดร้อง เพราะไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับตัวเอง ช่างไร้เดียงสาจริงๆ” “และผมก็มองหาเด็กผู้หญิงต่อไป.........และต่อไป” เปโดร อลองโซ โลเปซ ให้สัมภาษณ์ในหนังสือพิมพ์  มกราคม 1999              เปโดร อลองโซ โลเปซ ได้รับบันทึกว่าเป็นฆาตกรต่อเนื่องที่ฆ่าคนมากที่สุดในยุคปัจจุบัน โดยทำสถิตฆ่าเหยื่อไปแล้วทั้งหมดแบบคร่าวๆ คือ300 ศพ โดย 100 ศพเป็นผู้หญิงเผ่าอินเดียแดง เกือบทั้งหมดถูกข่มขืนอย่างรุงแรงก่อนที่จะรัดคอหรือบีบคอตาย       โดยในช่วงปลายทศวรรษที่ 70 ต่อต้นทศวรรษที่ 80 เปโดรเดินสายฆ่าคนเป็นว่าเล่นถึงสามประเทศคือ เปรู โคลัมเบีย และเอกวาดอร์ ก่อนที่จะถูกจับในในขณะเขากำลังฆ่าพอดี ก่อนที่จะสารภาพว่าฆ่าเหยื่อกว่า 300 ซึ่งตำรวจได้เพียงแต่เชื่อเขาเท่านั้นเพราะช่วงนั้นเกิดน้ำท่วมใหญ่ในอเมริกาใต้ทำให้หลักฐานที่เขาทำไว้หายหมด        ส่วนเรื่องราวการพิจารณาคดีของเปโดร ทางการไม่ต้องการเปิดเผยให้คนภายนอกได้รับรู้ แต่ว่าปลายปี 1980 เปโดร  อลองโซ โลเปซ ถูกตั้งข้อหาฆ่าคนมากกว่าหนึ่งคน และพิพากษาให้จำคุกตลอดชีวิตและมีสิทธิไต่สวนอีกครั้งที่ศาลในโคลัมเบียและเปรู        จนถึงทุกวันนี้ เปโดร  อลองโซ โลเปซ ยังกินดีอยู่ดีที่เรือนจำที่เอกวาดอร์ จากคุณ : primjang - [ วันปิยมหาราช 21:23:18 ]

ความคิดเห็นที่ 16 The judge sentenced Iqbal to die by strangulation in the same public square he had frequented when searching for victims, and that his body should be cut up into 100 pieces and dissolved in acid under the Shariah legal concept of Qisas ("an eye for an eye"). เอาไปแขวนคอในที่ที่ชอบไปหาเหยื่อ จากนั้นเอาร่างมาตัดเป็น 100 ชิ้น แล้วเอาไปใส่กรดให้ละลาย ไม่ได้ข่มขืนครับ จากคุณ : หมอแมว - [ วันปิยมหาราช 21:24:54 ]

ความคิดเห็นที่ 17 คนที่แปด "วีรบุรุษและปีศาจ" กิลส์ เดอ เรยส์ (Gilles de Rais, 1404-1440)       อดีตคนสนิทของ แจนน์ ดาร์ค (โจน ออฟ อาร์ค) วีรสตรีซึ่งมีชื่อเสียงที่สุดของฝรั่งเศส หลังจากแจนน์ ดาร์คก็ถูกทหารฝ่ายศัตรูจับ และถูกเผาทั้งเป็นในฐานะแม่มดเมื่อปี 1431 กิลส์ก็เริ่มบ้า และเชื่อว่าเลือดคนสามารถเล่นแร่แปรธาตุเป็นทองคำได้ ทำให้เขาริเริ่มทำการรวบรวมเด็กชายจากที่ต่างๆมาเพื่อเป็นเครื่องสังเวยให้กับปีศาจโดยเด็กบางคนถูกผ่าท้องแล้วทึ้งไส้ออกมา บ่อยครั้งที่กิลส์ข่มขืนศพของเด็กที่เสียชีวิตแล้ว เขาสะสมศีรษะของเด็กหนุ่มจำนวนมาก และศีรษะที่หน้าตาดีจะถูกเรียงไว้เหนือเตาผิงเหมือนเป็นคอลเลคชั่นพิเศษ มีการพบศพของเด็กจำนวนกว่า 150 ศพ (ส่วนใหญ่ไม่มีศีรษะ) ในปราสาท แต่พูดกันว่าเหยื่อของเขาน่าจะมีมากกว่า 1500 ราย(อันนี้เกินไปหน่อย) และผลสุดท้าย กิลส์ ถูกตัดสินให้ประหารโดยการแขวนคอในวันที่ 26 ตุลาคม 1440 และศพถูกลงโทษโดยการเผา จากคุณ : primjang - [ วันปิยมหาราช 21:27:29 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ความคิดเห็นที่ 13 เอาไปดัดแปลงเป็นบทหนังได้เลยนะครับ^^ จากคุณ : Chordate - [ วันปิยมหาราช 21:29:01 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณ คุณ หมอแมว ที่มาให้ความกระจ่างค่ะ กำลังจะแอบไปค้นอยู่พอดี.. คนที่เก้า "ฆ่าเพื่อความสวย" เอลิซาเบธ บาโธรี่ (Erzsabet Bathory. 1560 - 1614)        เป็นผู้หญิงที่ฆ่าคนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยจำนวนเหยื่อเป็นสาวพรหมจารี 605 ศพ!เป็นถึงเชื้อพระวงค์ชั้นสูง ฮังการี ในยุโรป มีอำนาจล้นหลาม ฆ่าคนจำนวนมากเพราะเชื่อว่าเลือดของเด็กสาวเป็นยาอายุวัฒนะชะลอความแก่ได้ โดยเอริซาเบทจะรวบรวมเด็กสาวจากที่ต่างๆในดินแดนของตน กว่า 600 ราย จากนั้นก็ฆ่าและรีดเลือดจากศพเด็กสาวเพื่อมาใช้อาบตัวแทนน้ำ ส่วนศพก็ไปฝังในปราสาท โดยวิธีการรีดเลือดส่วนใหญ่มักมีอุปกรณ์ทรมานมาใช้ประกอบ เช่น ใช้เหล็กร้อนเผาลำคอ ใช้เครื่องทรมานบีบหน้าอก บางครั้งเธอก็ใช้มือทั้งสองของตัวเองล้วงเข้าไปในปากและฉีกร่างของเหยื่อออกเป็นสองซีก บางครั้งก็ให้ทหารกรูกันเข้ามาลงแขก แล้วแทงด้วยมีดที่กลางอก บ้างก็ถูกตัดหัว บ้างก็ถูกตัดแขนตัดขาและเสียเลือดมากจนสิ้นลม        มกราคมปี 1611 เอริซาเบทถูกตัดสินให้ถูกจำคุกตลอดชีวิต ส่วนผู้ร่วมสังหารทุกคนต่างก็ถูกตัดสินโทษเผาทั้งเป็น เธอเสียชีวิตในอีก 3 ปีให้หลัง และมีบางตำนานกล่าวว่าเธอหนีออกไปได้และกลายเป็นผีร้ายอยู่ในป่าของฮังการี จากคุณ : primjang - [ วันปิยมหาราช 21:31:11 ]

ความคิดเห็นที่ 20 คนสุดท้ายแล้ว คนที่สิบ "“อสูรกายแห่งไร่อ้อย" หลุยส์ อัลเบอร์โต้ การาวิโต้ (Luis Alfredo Garavito.1957-??)       หลุยส์ อัลเบอร์โต้ การาวิโต้ (บางชื่อเป็น  ลูอิส อัลเฟรโด้ การาวิโต้ ) ถือกำเนิดขึ้นมาในเขตควินดิโอของประเทศโคลัมเบีย เมื่อวันที่ 25 มค. 1957  เจ้าของฉายา “อสูรกายแห่งไร่อ้อย” จากปากคำเขาสารภาพว่าลงมือสังหารเหยื่อมากมายถึง 1,800 ราย!! (1982-1999) โดยส่วนมากล้วนเป็นเด็กชายที่มีอายุ 6 ขวบ ถึง 15 ปีทั้งสิ้น ซึ่งถือได้ว่าเป็นจำนวนมหาศาลมากจนไม่คิดว่าจะมีใครในโลกที่ฆ่าคนโดยลงมือคนเดียวได้ขนาดนี้       แต่กระนั้นการตามรอยหาศพของฆาตกรคนนี้ลงมือไว้ สามารถตามเก็บเพียง 157 ศพเท่านั้น ซึ่งเขาสารภาพว่าเขาชอบทรมานเหยื่อก่อนฆ่า มีหลายครั้งที่เขาชอบเอามีดแทงเหยื่อก่อนที่จะข่มขืนอย่างเมามัน จากนั้นก็ทิ้งศพที่ไร่อ้อย ซึ่งทั้งนี้ที่เขาสามารถฆ่าคนได้เป็นจำนวนมากๆ ได้ ก็เนื่องมาจากประเทศโคลัมเบียค่อนข้างเป็นประเทศที่กฎหมายค่อนข้างล้าหลัง และสงครามกลางเมืองในประเทศทำให้หลายคนชาชิมกับการตายของคนอื่น       ปัจจุบัน หลุยส์ อัลเบอร์โต้ ถูกตัดสินจำคุกถึง 2,400 ปี แต่กระนั้นเขาก็ยืนยันว่าถ้าออกจากคุกเขาก็จะฆ่าคนอยู่ดี       เอากับเขาซิ น่ากลัวจริง จากคุณ : primjang - [ วันปิยมหาราช 21:34:49 ]

ความคิดเห็นที่ 21 มาถึงวิชาการกันบ้างนะคะ.. สาเหตุที่ทำให้คนเป็นฆาตกร         นักจิตวิทยาหลายคนได้ยอมรับแล้วว่า ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมและด้านชีววิทยาของร่างกายมีบทบาทไม่น้อยในการทำให้คน เป็นฆาตกร จนนักจิตวิทยาบางคนถึงกับกล่าวว่า ความผิดปกติของร่างกายคือโรคชนิดหนึ่งที่สามารถทำให้คนฆ่าคนได้ แต่กระทั่งถึงวันนี้นักชีววิทยาก็ยังรู้ไม่หมดว่าปัจจัยดังกล่าวมีอะไรบ้าง         Cesare Lombroso ผู้เป็นบิดาของวิทยาการด้าน อาชญากรรมวิทยาได้เคยตั้งสมมติฐานว่า คนที่เป็นฆาตกรหรือนักโทษที่จะก่อคดีอุกฉกรรจ์ มักเป็นคนที่มีรูปร่างหน้าตาผิดปกติเช่น มีกะโหลกศีรษะที่บิดเบี้ยว มีคางยื่นและกรามใหญ่ หรือมีดวงตาทั้งสองข้างที่มีขนาดไม่เท่ากัน เป็นต้น และหากบุคคลที่มีรูปลักษณ์ ดังกล่าวนี้ตกอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี เขาจะไม่กระทำการฆาตกรรมใดๆ แต่ถ้าสภาพแวดล้อมไม่เหมาะสม เขาก็จะลงมีดลงไม้ทันที แนวความคิดของ Lombroso นี้ ได้มีปรากฎในหนังสือชื่อ L' uomo delinquente ของเขา ซึ่งถูกตีพิมพ์ในปี พ.ศ. 2419 และได้สร้างความตื่นเต้นให้กับสังคมมาก เพราะเป็นการนำเสนอผลงานชิ้นแรกที่แสดงให้เห็นว่า วิทยาศาสตร์สามารถวิเคราะห์และ วิจารณ์พฤติกรรมของฆาตกรได้ แต่ ณ วันนี้ ทฤษฎีของ Lombroso ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าไม่จริง         นักจิตวิทยาชาวอังกฤษคนหนึ่งชื่อ Henry Maudsley ได้เคยรายงานผลการสำรวจของเขาว่า บุคคลที่เป็นฆาตกรมักจะมีแนวโน้มเป็นคนวิกลจริตได้มาก ความคิดเห็นนี้ได้รับการสนับสนุนจากนักจิตวิทยาอีกท่านหนึ่งชื่อ William Healy ผู้มีความเห็นคล้ายกันว่า ความขัดแย้งด้านบุคลิกภาพคือสาเหตุสำคัญในการทำให้คนเป็นฆาตกรและความขัดแย้งนี้มิได้เกิด จากความบกพร่องทางชีววิทยาของบุคคลคนนั้นเพียงสาเหตุเดียว แต่มาจากความสัมพันธ์ที่ผิดปกติระหว่างคนๆ นั้นกับสภาพและ คนแวดล้อม แต่นักจิตวิทยาเองก็ยังสรุปไม่ได้ชัดเจนว่า ความผิดปกติด้านจิตใจมีบทบาทมากเพียงใดในการผลักดันให้คนเป็นฆาตกร จากคุณ : primjang - [ วันปิยมหาราช 21:40:04 ]

ความคิดเห็นที่ 22 แต่ละคน -_-' ทำไมถึงโหดร้ายขนาดนี้เนี่ย จากคุณ : monology - [ วันปิยมหาราช 21:43:00 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ต่อค่ะ....        นอกจากความบกพร่องทางชีววิทยาและทางจิตวิทยาแล้ว ทฤษฎีที่ทำให้คนเป็นฆาตกรก็ยังกล่าวถึงปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม และ สภาพของสังคมรอบข้างด้วย        ทุกวันนี้ เราก็คงยอมรับกันแล้วว่าสภาพอากาศมีส่วนทำให้คนมีอารมณ์เปลี่ยนแปลงเมื่ออากาศร้อน ผู้คนมักมีอารมณ์ฉุนเฉียวง่าย            เมื่อประมาณ 170 ปีมาแล้ว นักจิตวิทยาชื่อ Adolphe Quetelet เคยเชื่อว่า อากาศร้อนจะผลักดันให้คนฆ่าคน และอากาศหนาว ผลักดันให้คนลักขโมยของ แต่นักจิตวิทยาอีกหลายคนเชื่อว่า สภาพเศรษฐกิจที่ไม่เท่าเทียมกันก็มีบทบาทไม่น้อยในการทำให้คน เป็นฆาตกร        โดยเฉพาะ Gabriel Tarde นักสังคมวิทยาชาวฝรั่งเศสนั้นเชื่อว่า คนที่เป็นฆาตกรมักเป็นบุคคลที่เลื่อมใสในลัทธิ เอาอย่างคือชอบเลียนแบบการฆาตกรรมที่ฆาตกรคนอื่นๆ ได้กระทำไปและบุคคลจิตผิดปกติเหล่านี้มักได้รับการฝึกฝนและเสี้ยมสอน จากฆาตกรรุ่นพี่ จนสามารถดำเนินการได้ด้วยตนเอง... จากคุณ : primjang - [ วันปิยมหาราช 21:43:57 ]

ความคิดเห็นที่ 24 โหวตไม่ได้วุ้ย จากคุณ : i love my boss - [ วันปิยมหาราช 21:47:54 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ต่อค่ะ...       แต่ขณะนี้ก็มีนักวิทยาศาสตร์อีกกลุ่มหนึ่งที่เชื่อว่า วิธีการถ่ายภาพสมองโดยคอมพิวเตอร์สามารถชี้บอกได้ว่าบุคคลใดมีความ บกพร่องด้านจิตใจหรือไม่       A. Raine แห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียที่ Los Angeles เป็นนักวิทยาศาสตร์ผู้หนึ่งที่เชื่อว่า เทคโนโลยีถ่ายภาพการทำงาน ของสมองที่รู้จักกันในนามว่า PET (positron emission tomography) หรือ MRI (magnetic resonance imaging) สามารถทำนายแนวโน้มการเป็นฆาตกรของคนได้ เพราะเขาได้พบว่าสมองส่วนที่เรียกว่า prefrontal cortex ซึ่งเป็นส่วนที่ มนุษย์ใช้ในการตัดสินใจ หากถูกทำลายในขณะที่เจ้าของมีอายุน้อย พอเวลาเติบใหญ่ เขาจะมีปัญหาด้านพฤติกรรมมาก เช่น ก้าวร้าว       ส่วน J.Blair แห่ง University College ที่มหาวิทยาลัยลอนดอน ก็มีความเห็นว่า สมองส่วนที่เรียกว่า amygdala ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมอารมณ์และความกลัวของคน หากเวลาใดทำงานบกพร่อง คนๆ นั้นก็จะมีอารมณ์อยากฆ่าคน       และเมื่อปี พ.ศ. 2543 Raine ได้แสดงภาพถ่ายสมองของฆาตกร 21 คน โดยเปรียบเทียบกับสมองของคนจิตใจปกติ ซึ่งเขาก็ได้ พบว่าโดยทั่วไปแล้วสมองของคนที่เป็นฆาตกรส่วนที่เรียกว่า prefrontal cortex นั้น จะมีขนาดเล็กกว่าสมองของคนที่มีจิตใจ ปกติถึง 14%              ข้อสรุปเช่นนี้ได้ทำให้คนหลายคนตระหนักในความสำคัญของการวัดสมองว่า บุคคลใดที่มี prefrontal cortex ขนาดเล็ก กว่าปกติ เขามีแนวโน้มจะฆ่าคน หากจิตใจเขาถูกกระตุ้นและสภาพแวดล้อมเอื้ออำนวยต่อการฆาตกรรมนั้น และถ้าร่างกายเขา บกพร่องเช่นนี้จริง เขาก็ควรจะได้รับการบำบัดรักษาด้วยยา และรับจิตบำบัดอย่างดีก่อนเหตุร้ายจะระเบิด แต่ก็มีนักวิทยาศาสตร์ อีกหลายท่านที่ไม่เห็นด้วยกับวิธีการนี้ เพราะมองเห็นว่าวิธีการนี้ก็คือวิธีการเดียวกับที่ Lombroso ได้เคยใช้เมื่อ 130 ปีมาแล้วนั่นเอง จากคุณ : primjang - [ วันปิยมหาราช 21:48:31 ]

ความคิดเห็นที่ 26 หนูกลัว  แง้ๆๆ ในสังคม รู้หน้าไม่รู้ใจ จากคุณ : มาดามชะนี - [ วันปิยมหาราช 21:51:07 ]

ความคิดเห็นที่ 27 สุดท้าย อันนี้แถมค่ะ... แบบทดสอบความเป็นฆาตกรในตัวคุณ.. คิดค้นโดยนักจิตวิทยาชาวอเมริกัน เอาไว้ทดสอบสภาพจิตฆาตกร อ่านคำถามก่อน แล้วลองวิเคราะห์กันดูนะคะ เดี๋ยวมาเฉลยค่ะ ผู้หญิงคนหนึ่ง ขณะกำลังอยู่ในงานศพแม่ของตัวเอง เธอได้พบกับผู้ชายที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน เธอคิดว่าผู้ชายคนนี้วิเศษมาก เป็นชายในฝันของเธอ แล้วเธอก็ตกหลุมรักเขาทันที แต่เธอไม่ได้ขอเบอร์โทรศัพท์เขาไว้ แล้วก็หาเขาไม่พบอีกเลย ไม่กี่วันต่อมา ผู้หญิงคนนี้ฆ่าน้องสาวของตัวเอง ถามว่า : แรงจูงใจที่ทำให้เธอฆ่าน้องสาวคืออะไร แก้ไขเมื่อ 23 ต.ค. 51 21:54:29 จากคุณ : primjang - [ วันปิยมหาราช 21:53:53 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ไม่มีแรงจูงใจอะไรครับ แค่อยากฆ่าเฉยๆ จากคุณ : monology - [ วันปิยมหาราช 22:06:34 ]

ความคิดเห็นที่ 29 โหดมาก ทำร้ายเด็ก และผู้หญิง จากคุณ : iamnid - [ วันปิยมหาราช 22:07:49 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ^ ^ ^ Spoil ดีไหมเนี่ย เอาเป็นว่าผม เคยตอบคำถามนี้แล้ว ถ้าใช้ตรรกะก็ตอบได้นะครับ จากคุณ : กฤตยฎีกา - [ วันปิยมหาราช 22:07:51 ]

ความคิดเห็นที่ 31 แถมคนนี้อีกคนนะคะ แบบว่า เป็นผู้หญิงที่โหดเหี้ยมจนไม่น่าเชื่อ.. "แม่พระนักฆ่าแห่งซาคราเมนโต" โดโรเธีย พูเอนเด้       โดโรเธีย ถือกำเนิดเมื่อวันที่ 9 มกราคม 1929 ในเมืองเรดส์แลนด์ ซานเบอร์นาดิโน มลรัฐแคลิฟอร์เนีย์ เธอมีชื่อจริงคือ โดโรเธีย เฮเลน เกรย์ พ่อชื่อ เจสซี เกรย์ แม่ชื่อ ทรูดี้ มีอาชีพเกษตรกร รับจ้างเก็บฝ้าย ทั้งคู่เป็นพวกขี้เมาหยำเป ฐานะในครอบครัวจึงอยู่ในสภาพแย่        ดังนั้น สิ่งแรกที่โดโรเธียจำความได้ ตอน 3 ขวบ คือการสาละวนกับการอาเจียนของบิดามารดา และเก็บผลไม้เอาเงินเป็นค่าขนมตนเอง         อายุ 8 ขวบ พ่อเป็นวัณโรคตาย อีกปีต่อมาแม่ก็ตายด้วยอุบัติเหตุมอเตอร์ไซต์ ทำให้พี่น้องตระกูลเกลย์ถูกแยกไปเลี้ยงตามที่ต่างๆ ส่วนโดโรเธียเป็นลูกหนึ่งในเจ็ดที่ถูกนำมาเลี้ยงในสถานเด็กกำพร้า และถูกญาติไปอุปการะในเมืองเฟรสโน แคลิฟอร์เนีย โดยภายหลังเธอได้สร้างเรื่องวัยเยาว์ขึ้นมาใหม่ โดยใช้จินตนาการ เช่นเป็นลูกในสิบแปดคนของครอบครัวเม็กซิกันที่อบอุ่น         โดโรเธียแต่งงานมา4ครั้ง ครั้งแรกเมื่ออายุเพียง 17 ปี               ปี 1960 โดโรเธียต้องโทษจำคุกเป็นเวลา 90 วันที่เรือนจำกลางเมืองซาคราโตในข้อหาเป็นโสเภณี ตำรวจพบเธอในซ่อง แต่เธออ้างว่าไปเยี่ยมเพื่อนเท่านั้น ศาลไม่เชื่อ         นี้คือชีวิตคุกครั้งแรกและแน่นอนมันไม่ใช้ครั้งสุดท้าย         หลังออกจากคุกเธอเริ่มก่อตั้งบ้านพักคนชราที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตเธอ เป็นบ้านสามชั้น จำนวน 16 ห้องนอน ตั้งอยู่ในบ้านเลขที่ 2001 ถนนเอฟ ชื่อว่า "ซามาริตัน" เป็นบ้านพักฟื้นสำหรับคนติดเหล้า         และแล้วการฆาตกรรมครั้งแรกของชีวิตโดโรเธียก็มาถึง!         หญิงชรานามรุธ มันโร คือเหยื่อรายแรก เธอตายเพราะยาไทลินนิลและโคเคอีนเกินขนาด         กิจการบ้านพักคนชรา ณ บ้านเลขที่ 2001 ถนนเอฟยุติโดยปริยายโดโรเธีย ถูกจำคุกอีกครั้งเป็นเวลานานถึง 5 ปี เธอยอมรับสารภาพในความผิด 3 กระทง ตำรวจเจ้าของคดีกล่าวถึงเธอว่าเป็นเสมือนขวดยาพิษปิดฉลากว่า "น้ำผึ้ง" จากคุณ : primjang - [ วันปิยมหาราช 22:10:55 ]

ความคิดเห็นที่ 32 น่ากลัว... แต่พวกนี้มีแค่คนขี้ขลาดทั้งนั้นเลยนะคะ... ฆ่าแต่ผู้หญิงกับเด็ก แน่จริงไปไล่ฆ่าผู้ชายตัวโตๆเท่ากันซิ... จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ - [ วันปิยมหาราช 22:17:33 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ชอบกระทู้นี้ค่ะ ไม่มี ED GAIN หรือ อีตานี่ก็โหดใช่ย่อยนะ? จากคุณ : คืนนี้ไม่เหมือนคืนนั้น - [ วันปิยมหาราช 22:19:20 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ตอบคำถาม แรงจูงใจมาจากที่พี่สาวอิจฉาน้อง ไม่อยากให้ชายที่เธอหลงรักมาเห็นหญิงสาวหน้าตาคล้ายกันจนตกหลุมรักน้องสาวแทนตัวเธอ หรือเปล่านะ? จากคุณ : คืนนี้ไม่เหมือนคืนนั้น - [ วันปิยมหาราช 22:20:13 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เพราะว่าชายคนนั้นเป็นแฟนของน้องสาว หรือเปล่าครับ ? จากคุณ : THE_AR - [ วันปิยมหาราช 22:21:49 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ต่อค่ะ..        ระหว่างอยู่คุก จู่ๆ โดโรเธียก็ได้เหยื่อ เขาเป็นชายชื่อเอเวอร์สัน กิลเม้าท์ วัย 77 ปี เธอรู้จักเขาจากเพื่อนทางจดหมาย เอเวอร์สันทำพลาดอย่างร้ายแรงเมื่อเขียนจดหมายถึงเธอว่าเขามีเบี้ยบำนาญใช้และเป็นเจ้าของรถพ่วง เขาไม่รู้ตัวเลยว่าทุกครั้งที่เขาเช็นชื่อในจดหมายถึงเธอ นั้นคือการลงนามพินัยกรรมมรณะของตัวเอง         และแล้วเช้าวันที่ 9 กันยายน 1985 หลักจากถูกจำคุก 3 ปี โดโรเธียก็ออกมาสูดอากาศข้างนอกอย่างสบายใจ เอเวอร์สันมารับเธอประทับใจจนถึงขั้นแต่งงาน         สองเดือนถัดมา ปี 1986 มีคนพบหีบไม้ลอยปริ่มน้ำ ข้างในมีศพชายอายุราวแปดสิบ ไม่มีร่องรอยการทำร้ายซากศพเน่าเปื่อยไม่สามารถจำแนกว่าผู้ตายเป็นใคร คดีนี้จึงกลายเป็นคดีปริศนา ปล่อยให้แม่พระปลอมเงินสามีของตัวเองนานถึง 10 ปีเต็ม ระหว่างนั้นเธอยังเขียนจดหมายถึงน้องสาวของเอเวอร์สันว่า  "สบายดี น้ำหนักลดลง 15 ปอนด์ร่างกายฟิตเปรี๊ยะ"         ต่อมาโดโรเธีย ดำเนินการบ้านพักคนชราเต็มรูปแบบ จากบ้านหลังเล็ก ขยับขยายใหญ่ขึ้น จนวันหนึ่งเธอรู้จักกับ ริคาโด ออโดริก้า และล้างสมองเขาสำเร็จ เธอได้เช่าบ้านหลังใหม่อัตราเดือนละ 600 เหรียญเท่านั้น         โดโรเธียผู้ซึ่งมีสองบุคลิกในตัว ฉากหนึ่งเป็นหญิงชราใจดีและสูงสง่า ส่วนอีกร่างหนึ่งเป็นฆาตกรใจเหี้ยม         เดือนเมษายน ปี 1988 เบนจามิน ฟิงค์ วัย 55 เมาเอะอะอาละวาดตอนดึก ทุบผนังจนทุกคนตื่น โดโรเธียโกรธมาก จนเช้าวันรุ่งขึ้นเบนจามินหายไป สี่วันต่อมาปรากฏว่ามีกลิ่นเหม็นจากพื้นดิน         เดือนพฤศจิกายน 1988 ชายชราโรคจิตนาม อัลวาโร เบิร์ด มอนโทย่า หายตัวไปลึกลับ มอนโทย่าไม่ใช้คนชราประเภทไร้ญาติขาดมิตร เขาถูกส่งจากองค์กรการกุศลมาที่นี้เพราะประทับใจในฉากหน้าสวยหรู และเมื่อเขาหายไป โดยไม่มีเหตุผล เรื่องจึงถึงมือตำรวจ         วันที่ 10 ธันวาคม 1993 โดโรเธีย พูเอนเต้ แม่พระนักฆ่า ถูกพิพากษาต้องโทษจำคุกตลอดชีวิต ข้อหาฆาตกรรมโดโรธี มิลเลอร์ เบนจามิน ฟิงค์ และลีโอนา คาร์เพนเตอร์ แต่คณะลูกขุนยกฟ้องฆาตกรรมหกชีวิตโดยไม่ให้เหตุผล ทั้งๆ ที่น่าจะสืบพยานได้ง่ายกว่า         เธอถูกส่งเข้าคุกเซ็นทรัส แคลิฟอเนีย ใกล้เมืองเชาว์ซิลล่า คุกหญิงที่ใหญ่ที่สุดในเมือง โดยไม่รับอนุญาตให้ลดหย่อนผ่อนผัน         แต่ด้วยอายุของโดโรเธีย เธอคงชดใช้ชีวิตที่เหลือในคุกนั้นไม่กี่ปี คนนี้เล่ายาวเลยนะคะ แม่พระกับปีศาจในคนๆเดียว ไม่น่าเชื่อ.. จากคุณ : primjang - [ วันปิยมหาราช 22:21:54 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ดูเหมือนจะฆ่าเพื่อความบันเทิงกันเป็นหลักเลยนะ บรึ๋ยยยย... จากคุณ : oro - [ วันปิยมหาราช 22:23:17 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ู^ อ่านเรื่องนี้แล้วสงสัยว่า ทำไมคนเราถึงมีสองบุคลิกได้คะ? จากคุณ : คืนนี้ไม่เหมือนคืนนั้น - [ วันปิยมหาราช 22:23:45 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ดีใจจัง ที่ตอบมา ยังไม่มีใครมีแววจะเป็นฆาตกรกันเลย.. ดึกๆ มาเฉลยนะค่ะ....คืนนี้มีแววว่าจะนอนไม่หลับ..อ่านไปอ่านมา ชักกลัวแฮะ.. จากคุณ : primjang - [ วันปิยมหาราช 22:24:10 ]

ความคิดเห็นที่ 40 -*-อ่านหนังสือดึกจะมารอนะครับ จากคุณ : ความจริงโหดร้ายเสมอ - [ วันปิยมหาราช 22:32:07 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ตา อันเดร ชิกาทิโล คห.3 ตายวัน วาเลนไทน์ ซะด้วย จากคุณ : สุกี้๒จาน - [ วันปิยมหาราช 22:34:37 ]

ความคิดเห็นที่ 42 เพราะอยากเจอผู้ชายคนนั้นใช่ป่าวครับ จากคุณ : A_II - [ วันปิยมหาราช 22:34:51 A:118.173.204.213 X: ]

ความคิดเห็นที่ 43 ตอบคำถาม (อีกรอบ ... คงไม่ผิดกฏนะ?) อ่านแล้วสงสัยว่า ผู้ชายคนที่ไปงานศพแม่ตนเองเป็นใคร หรือญาติทางไหนของแม่ เค้าไปงานศพ / มีใครลากเค้าไป / เดินผ่าน / เป็นพระ (ในศาสนาคริสต์) แรงจูงใจที่ทำให้เธอฆ่าน้องสาวคือ อยากให้มีงานศพอีกหน เผื่อจะได้เจอผู้ชายคนนั้นอีก ซึ่งอาจจะเป็นญาติทางใดก็ได้ เหมือนเรื่องของญี่ปุ่น ชิโจ สาวขายผักหรือเปล่า - ถ้าชื่อผิด ขออภัย - ที่เห็นผู้ชายถูกชะตาตอนไฟไหม้ ซึ่งเป็นนักดับเพลิง แล้วตอนหลังตัวเองวางเพลิงเผาทั้งเมืองเอโดะเพราะอยากเจอผู้ชายคนนั้นอีกครั้งนึง แต่ก็ไม่ได้เจอ เอามาจากหน้ากากแก้วค่ะ ^^ ** แก้ไขข้้อความ รีบพิมพ์ค่ะ ** แก้ไขเมื่อ 23 ต.ค. 51 22:38:18 จากคุณ : คืนนี้ไม่เหมือนคืนนั้น - [ วันปิยมหาราช 22:37:01 ]

ความคิดเห็นที่ 44 รายนี้โหดสุดๆ จากคุณ : zardic - [ วันปิยมหาราช 22:39:38 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ตอบคำถามค่ะ  อืมม  มันน่าวิเคาะห์ เจอกันในงานศพแม่ตัวเอง ผู้ชายคนนี้เป็นแบบผู้ชายในฝัน แถมไม่ได้ถามเบอร์ติดต่อไม่ได้ อืมม  อาจจะเป็นเพราะ กำลังเศร้าว่าเหว่ หรือป่าวหน่ะที่สูญเสียคนที่รัก คือแม่ตัวเอง  พอมีความหวัง ที่ได้เจอผู้ชายที่ใช่กลับไม่มีความหวังที่จะทำให้ฝันเป็นจริง  เลยฆ่าน้องสาวตัวเองเพือให้เป็นข่าวดังขึ้นมา  เค้าจะได้สนใจและรับรู้ข่าวในตัวเธอ  เรียกร้องความสนใจว่างั้น เหอ ๆ ๆนี่เราคิดอะไร  หวังว่าคำตอบคงไม่ใช่หน่ะ  เด๊ยวหาว่าเรามีแนวโน้มเป็นฆาตกร  อะจ๊ากก จากคุณ : eissee - [ วันปิยมหาราช 22:52:54 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ดญ.วัลลี หุ่นยนต์น้อยยอดกตัญญู จากคุณ : หมอแมว - [ วันปิยมหาราช 22:55:25 ]

ความคิดเห็นที่ 47 อันนี้ก็โหดกว่าอีก จากคุณ : zardic - [ วันปิยมหาราช 22:55:43 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ตอบ ฆ่าน้องสาวเพื่อให้ชายคนนั้นมางานศพอีกครั้ง เดาว่าชายคนนั้นเป็นพระผู้ทำพิธีจ้ะ +++++++++ ทำไมต้องมาอ่านอะไรโหดๆก่อนนอนอีกแล้ว แงๆ จากคุณ : doxday - [ วันปิยมหาราช 22:55:51 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ตอบคำถาม.... ประมาณว่าถ้าจัดงานศพน้อง ผู้ชายคนนั้นอาจมาอีกก็ได้มั้งคะ? เอ่อ... จขกท.ให้ Give นี่แปลว่าตอบถูกหรอคะ? งั้นสรุปว่าหนูมีแววเป็นฆาตกรหรอคะเนี่ย? TT^TT แก้ไขเมื่อ 23 ต.ค. 51 23:04:20 จากคุณ : griselda - [ วันปิยมหาราช 22:56:27 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ช่วยลบรูปน่ากลัวความเห็นข้างบนได้ไหมคะ เรากลัวมากเลยอะ กำลังรอคำตอบจากจขกท ค่ะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : คืนนี้ไม่เหมือนคืนนั้น - [ วันปิยมหาราช 23:00:05 ]

ความคิดเห็นที่ 51 #27 ผมเคยเจอคนเล่นคำถามนี้หลายรอบล่ะ (มีเฉลยแน่นอน :P ) แต่ผมก็สามารถตอบถูกในตอนที่ถูกถามครั้งแรกเลยล่ะน่ะ เหอๆๆ แต่เพราะต้องการตอบถูก ก็เลยไม่ได้ถามแล้วตอบเลย ใช้การวิเคราะห์อะไรเชิงลึกเพื่อหาคำตอบก่อน และมันก็ถูกดังคาด ;) จากคุณ : Detonator_Pao_ - [ วันปิยมหาราช 23:02:09 ]

ความคิดเห็นที่ 52 โห... อึ้งค่ะ พวกนี้มันไม่ใช่คน อย่าเรียกพวกมันว่าเป็นคนเลยนะคะ เพราะคนจะไม่สามารถทำพฤติกรรมแบบนั้นเด็ดขาด โอ้ อึ้ง.....มาก แก้ไขเมื่อ 23 ต.ค. 51 23:07:20 จากคุณ : เสียงจากบ้านนา - [ วันปิยมหาราช 23:06:49 ]

ความคิดเห็นที่ 53 #27 เค้าคงต้องการงานศพอีกสักหน  ใครก็ได้ขอให้เป็นญาติตัวเอง จากคุณ : แมวริษยา - [ วันปิยมหาราช 23:14:47 ]

ความคิดเห็นที่ 54 มีหลายคนเลยมีแนวโน้มจะเป็นฆาตกรซะแล้ววว....เอิ่ม..นู๋กัวนะ.. จากคุณ : primjang - [ วันปิยมหาราช 23:24:55 ]

ความคิดเห็นที่ 55 เข้ามารอคำเฉลยครับ จากคุณ : คุณสะอาด - [ วันปิยมหาราช 23:29:45 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ู^ แปลว่าคนที่คุณให้ give นี่มีแววใช่ไหมเนี่ย อยากรู้คำตอบเร็วๆ แล้วค่ะ (นั่งจิ้ม F5 บ่อยมาก 555) จากคุณ : คืนนี้ไม่เหมือนคืนนั้น - [ วันปิยมหาราช 23:30:44 ]

ความคิดเห็นที่ 57 F5รอเฉลยมานานแล้วนะ อิอิ เอ๊ะ...เราได้Giveนี่หว่า แสดงว่า... แง้ๆ หนูเปล่าทำ หนูแค่ฝันไป จากคุณ : doxday - [ วันปิยมหาราช 23:33:23 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ตอบคุณ คืนนี้ไม่เหมือนคืนนั้น ไม่ได้ให้ give คนมีแววหรอกค่ะ แต่ว่าให้เพราะขอบคุณที่มาร่วมแจมกระทู้กัน.. เฉลยเลยแล้วกันนะค่ะ.. จากที่อ่านมา เขาบอกว่า คนที่ให้เหตุผลว่า เพราะอยากให้มีงานศพอีกเพื่ออยากเจอชายคนรัก แปลว่ามีแนวโน้มจะทำฆาตกรรม... ข้อทดสอบนี้ตำรวจในอเมริกาใช้ทดสอบกับฆาตกรที่ฆ่าบุคคลอื่นโดยมีเหตุจูงใจเกินที่จะคาดคิดได้ และฆาตกรส่วนใหญ่ที่ทำแบบทดสอบนี้มัก..............ตอบได้ถูกต้อง.................. ว่าแล้วก็...ใครมีแนวโน้มบ้างเอ่ย..ไปไล่อ่านกันเถอะ.. แก้ไขเมื่อ 23 ต.ค. 51 23:47:48 แก้ไขเมื่อ 23 ต.ค. 51 23:40:17 จากคุณ : primjang - [ วันปิยมหาราช 23:39:43 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ฮ่าาาาาาาาาาาาาาาา ปริศนานี้ ไขกระจ่างแล้ว เรามีแนวโน้ม ... แต่เป็นความคิดที่สอง ไม่ใช่ความคิดแรก ไม่น่าจะต่างกันมั้ง ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ใครมีคำถามแบบนี้อีก เอามาทายกันอีกได้ไหมคะ สนุกดี ^^ แก้ไขเมื่อ 23 ต.ค. 51 23:48:40 จากคุณ : คืนนี้ไม่เหมือนคืนนั้น - [ วันปิยมหาราช 23:44:33 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ว้า มาช้าไปนิดเดียว แงๆๆๆ มัวแต่ตั้งใจอ่านข้างบนก็ ครึ่ง ชม แว้วอ่ะ T_T อ่านแล้ว สยองก่อนนอนจริงๆเลย จิตใจพวกฆาตกรพวกนี้ทำด้วยอะไรนะ อ่านดูฆาตกรส่วนใหญ่ จะฆ่า+ข่มขืนไปด้วยแม้กระทั่งเด็กผู้ชาย เห้ออ วิตปริตมากๆเลยอะ แล้วฆาตกรบางคนอย่างคนแรกนี่ ทำมัยโทษเบาจัง จำคุกตลอดชีวิต เนี่ยนะ ปล่อยไว้ทำมัยเนี่ย - -'' ขอบคุณ จขกท ที่เอามาฝากกัน ถึงแม้จะโห๊ดโหดก็เถอะ จากคุณ : Choco-Mix - [ วันปิยมหาราช 23:45:07 ]

ความคิดเห็นที่ 61 พวกนี้ส่วนมากมีความหลัง มีอดีตที่เจ็บปวด ครอบครัวมีปัญหา ฯลฯ เฮ้อ.......................พวกฆาตกรรมต่อเนื่องอ่ะ เราว่าฆาตรกรบางรายแอบฉลาดอีกต่างหาก ซุกซ่อน กลบเกลื่อนหลักฐาน สารพัด แต่สมัยนี้ตรวจ DNA ได้แล้ว ไม่เหมือนสมัยก่อน จากคุณ : ผักผลไม้รวม - [ วันปิยมหาราช 23:57:07 ]

ความคิดเห็นที่ 62 คนมีกรรม จากคุณ : 1812Overtureyoot - [ 24 ต.ค. 51 00:41:40 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ส่วนมากเริ่มจากการกระทำความผิดในเรื่องเพศนะ คาดว่าน่าจะเริ่มการฆ่าเพื่อปกปิดความผิดจากเรื่องเพศที่สังคมไม่ยอมรับ.. หลังจากนั้นเลยติดในการฆ่าเพิ่มเข้ามาอีกอย่าง ผมชักสงสัยแล้วซี่ แสงวูบสุดท้ายในตาเป้นยังไง ไม่รู้ในสัตว์มีรึป่าว.. รึว่ามีเฉพาะในคน อยากเห็น จากคุณ : avalanche_fx - [ 24 ต.ค. 51 01:44:52 ]

ความคิดเห็นที่ 64 - -* เอามาเพิ่มให้นะครับ มีเป็นร้อยเลย ลายตาไปหมด http://my.dek-d.com/cammy/story/view.php?id=205702 แก้ไขเมื่อ 24 ต.ค. 51 02:17:27 จากคุณ : Heathen Chemistry - [ 24 ต.ค. 51 02:13:25 ]

ความคิดเห็นที่ 65 คำถามนั้นเคยโดนถาม แต่ไม่ใช่คำถามแบบนี้นะ คล้ายๆกัน คำถามคือ ผู้หญิงคนนั้นตามหาผู้ชายคนนั้นแต่ไม่เจอ วันหนึ่ง น้องสาวเค้าตาย แล้วคำถามคือ คิดว่าน้องสาวของเธอตายเพราะอะไร เราตอบโดยไม่ต้องคิด "พี่มันฆ่าชัวร์ เผื่อจะได้เจอชายคนนั้นในงานศพอีก" คนถาม (น้าเขยเราเอง) บอกขนลุกวุ้ย ทำไมมันตอบไวแล้วโป๊ะเชะขนาดนี้วะนี่ กรรมจริงๆ ยุงยังไม่ตบเลยขอบอก T_T เล่าเพิ่ม น้าเขยบอกว่าเค้าเอาคำถามนี้ไปถามคนงานที่บริษัท บ้างก็เดาว่าอาหารเป็นพิษจากงานศพหรือเปล่า บ้างก็เดาว่าคงเสียใจที่แม่ตายจนตรอมใจตาย (ในคำถามไม่เอ่ยถึงโดนฆ่าตาย ให้เดาเอาเองว่าตายเพราะอะไรทำไมถึงตาย) เค้าบอกว่า คนงานเค้าเกือบร้อยลองถามดูไม่มีใครตอบอย่างเราสักคน เศร้าอ่ะ เลยแก้ตัวไปว่าเราชอบอ่านคดีฆาตรกรรมลึกลับนะ (ไม่เคยเดาตัวคนฆ่าถูกสักที) เค้าบอกไม่เกี่ยวอ่ะ คำถามนี้นักจิตวิทยาเค้าสำรวจกันมาแล้ว แล้วลองถามนักโทษในคุก และนักโทษที่ตอบอย่างเรา นี่ไม่ใช่เล่นๆ ฆาตกรแบบอารมณ์ชั่ววูบยังตอบไม่ได้แบบนี้เลย แต่ว่าฆาตกรต่อเนื่องตอบเหมือนเราหมด (ที่จริงเราดันไปตอบเหมือนเค้าต่างหาก) เศร้า ใครช่วยบอกทีเราโดนอำ แก้ไขเมื่อ 24 ต.ค. 51 02:33:30 จากคุณ : Reba - The Queen in my heart - [ 24 ต.ค. 51 02:24:29 ]

ความคิดเห็นที่ 66 เนื่องจากคำตอบของเราข้างบน วันหนึ่งกำลังจะติดแผ่นฟลิมป้องกันรอยขีดข่วนที่กล้อง ก็เอาสก้อตเทปมาแปะๆเพื่อทำความสะอาดก่อน แฟนเราถามว่าทำอะไรน่ะ เราตอบว่า สก้อตเทปช่วยทำความสะอาดรอยนิ้วมือที่เช็ดไม่ออกได้ แฟนเราแซวว่าต่อไปนี้ไม่ต้องทำกับข้าวนะ เค้าจะเอามีดไปซ่อน T_T จากคุณ : Reba - The Queen in my heart - [ 24 ต.ค. 51 02:39:41 ]

ความคิดเห็นที่ 67 มาแจมช้าไปหน่อยแฮะ... จากคุณ : นายขนมหวาน - [ 24 ต.ค. 51 04:26:28 ]

ความคิดเห็นที่ 68 คำถามทดสอบเนี่ย ได้ยินทีแรกทาง ฟอร์เวิร์ดเมล์ นึกว่าไม่ใช่ของจริง เราก็ตอบถูกตั้งแต่ครั้งแรกนะคะ แต่ไม่คิดว่าเป็นแบบทดสอบฆาตรกร จริงๆ คห. 65 อย่าตกใจเลย เราก็ตอบได้แวบแรกที่ได้ยินเหมือนกัน ได้ยินปุ๊บก็คิดออกเลย...แต่เราเข้าข้างตัวเองว่า เราฉลาด จากคุณ : pankee - [ 24 ต.ค. 51 05:44:55 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ถ้าสนใจก็ลองเข้า http://www.trutv.com/library/crime/index.html หมวด Serial Killers น่ะครับ มีเต็มไปหมดแหละ จากคุณ : น้ำใส - [ 24 ต.ค. 51 05:55:15 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ตอบถูก ไม่ใช่ว่ามีแนวโน้มเป็นฆาตกรแต่เพราะอ่านหน้ากากแก้ว คนที่ศึกษาเกี่ยวกับพวกแรงจูงใจ ปม มนุษย์ การละคร การภาพยนต์ น่าจะตอบได้เกือบทุกคนนะ จากคุณ : scarlett - [ 24 ต.ค. 51 06:44:04 ]

ความคิดเห็นที่ 71 สังเกตว่าสาวๆส่วนใหญ่จะตอบถูกเยอะ อิอิอิ จากคุณ : nangoing - [ 24 ต.ค. 51 07:45:13 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ไฟแดงนี่เป็นแรงจูงใจที่คาดไม่ถึงหรือปล่าวเอ่ย.. ลืมบอกไป จขกท.ทำแบบทดสอบถูกนะ มีแววจะเป็นฆาตกรนะเนี่ย.. ปล.ขอบคุณสำหรับการปล่อยผ่านให้นะคะ. แก้ไขเมื่อ 24 ต.ค. 51 08:51:47 แก้ไขเมื่อ 24 ต.ค. 51 08:36:47 จากคุณ : primjang - [ 24 ต.ค. 51 08:29:04 ]

ความคิดเห็นที่ 73 นี่ก็ฆาตกรครับ จากคุณ : ต้นกล้า (ADHT1006) - [ 24 ต.ค. 51 08:34:30 ]

ความคิดเห็นที่ 74 เหอๆๆ ตอบไม่ถูก ทั้งที่คุ้นเหมือนเคยอ่านคำถามมาแล้ว จากคุณ : heart_sea - [ 24 ต.ค. 51 08:57:07 ]

ความคิดเห็นที่ 75 อ่านะนึกถึงหนังสือของ สรจักร อ่ะ ตอนมอต้นอ่านจนคิดว่าจะกลายเป็น serial killer ไปอีกคน -"- จากคุณ : PADAPA--DOO - [ 24 ต.ค. 51 09:15:44 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ขอบคุณมากครับผม อ่านแล้วจิตตกดีทีเดียว นี่แหละหนอ สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์ จากคุณ : knine2five - [ 24 ต.ค. 51 09:25:41 ]

ความคิดเห็นที่ 77 มาอีกตอนเช้า ฮาๆๆๆ คนกดไฟแดงเข้าข่ายโรคจิต ด้วยรึป่าว นี่ จากคุณ : Choco-Mix - [ 24 ต.ค. 51 09:27:55 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ชอบเรื่องฆาตกร ไปลิ้งนี้เลยครับ http://my.dek-d.com/cammy/story/view.php?id=205702 ผมเข้าไปอ่านบ่อยๆ ศึกษาจิตวิทยา และแรงจูงใจมากมาย จากคุณ : Zenith4z_parn - [ 24 ต.ค. 51 09:42:06 ]

ความคิดเห็นที่ 79 "ฆาตกรตรต่อเนื่อง..ยังดีนะครับที่มีแต่ใน มนุษย์ ถ้าไปเกิดกันสัตว์ต่างๆจะเป็นยังไงเนี่ย "......(คิดไปไกลเลยเรา) จากคุณ : ฆาตกร ต่อยอด (nrYraY) - [ 24 ต.ค. 51 10:08:38 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ชอบอ่านแต่ก็กลัว น่ากลัวยิ่งกว่าผีซะอีก จากคุณ : mengnoi - [ 24 ต.ค. 51 11:06:50 ]

ความคิดเห็นที่ 81 คห. 27 ผมคิดแรงจูงใจได้ว่า เพราะพี่สาวมาพบว่าความจริงแล้วน้องของเธอเป็นฆาตกรที่ฆ่าแม่จึงทำการแก้แค้น ไม่รู้ดูหนังมากไปป่าวแฮะเรา แต่โชคดีที่ไม่มีแนวโน้ม ^^ จากคุณ : lunch - [ 24 ต.ค. 51 11:48:49 ]

ความคิดเห็นที่ 82 เล่าเพิ่มจากคคห 65 เรื่องของเรื่องคือว่า วันนึงกำลังนั่งกินข้าวกันอยู่ในครอบครัว มีแน่ มีน้าสาว น้าเขย เรา กับ น้องสาว กำลังจกส้มตำกันอร่อย อยู่ๆน้าก็โพล่งขึ้นมาว่า เออนี่ๆๆ น้ามีคำถามจะถาม เค้าเลยเกริ่นว่า ผู้หญิงคนหนึ่ง ได้เจอชายในฝันของเธอในงานศพแม่ แต่เธอไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลย และได้เจอกันครั้งเดียว ไม่นาน น้องสาวเธอก็ตาย อยากทราบว่า ทำไมน้องสาวเธอถึงตาย ข้อมูลให้มาแค่นั้นจริงๆ ไม่ได้บอกว่าพี่เป็นคนฆ่าน้อง แต่ถามให้คิดว่าทำไมน้องถึงตาย เราโพล่งเลย พี่มันฆ่าชัวร์ เผื่อจะได้เจอชายคนนั้นอีกในงานศพน้อง น้าเขยก็นะ พยายามโน้มน้าว ว่าเฮ้ย เป็นไปได้มั้ยว่าน้องสาวเค้าเนี่ยไม่สบายอยู่ก่อนแล้ว แล้วพอแม่มาเสียเลยตรอมใจ ตายไปด้วยอีกคน เรายืนยัน ไม่อ่ะ พี่สาวนั่นแหล่ะทำ เค้าจะยกเหตุผลอะไรมาก็ตามเราก็ยืนยันคำตอบเดิม แล้วแถมยังทำให้น้าสาวเราเห็นด้วยกับเราด้วยว่าตายเพราะพี่สาวเป็นคนฆ่า สุดท้ายเราบอก เฉลยเหอะน้า ส้มตำก็จะหมดแล้วยังเถียงกันไม่เลิก น้าเขยบอกมันไม่มีคำตอบที่ถูกต้อง แต่คำถามนี้เป็นคำถามที่นักจิตวิทยาคิดค้นขึ้นมา แล้วเค้าถามนักโทษ พวกที่ตอบไปทางเดียวกันหมดว่า พี่สาวฆ่าน้องสาวเพื่อที่จะเจอชายคนนั้นในงานศพอีก คือฆาตกรต่อเนื่อง พวกรับจ้างฆ่าหรือฆ่าด้วยอารมณ์ชั่ววูบไม่มีใครตอบแบบนั้นอ่ะ เราเหวอไปเลย อะไรก็ไม่เท่ากะเราดันโน้มน้าวน้าสาวเราให้เชื่อตามเราได้อีก น้าเขยบอกคืนนี้ต้องนอนลืมตา T_T จากคุณ : Reba - The Queen in my heart - [ 24 ต.ค. 51 12:04:30 ]

ความคิดเห็นที่ 83 เราเลยเถียงไปว่า ไม่จริงอ่ะ เรื่องราวมันชวนให้เชื่อว่าพี่สาวเป็นคนฆ่า น้สเขยเลยบอกว่า ไม่มีอะไรบอกเลยว่าผู้ชายคนนั้นเกี่ยวพันเป็นอะไรกับครอบครัวนี้ แล้วไม่มีอะไรยืนยันได้เลยว่าผู้ชายคนนี้จะมาในงานศพของน้องสาว แต่เรากลับคิดว่าการที่น้องสาวตายจะทำให้ได้เจอเค้าอีก คืออะไรทำให้เราคิดว่ายอมสูญเสียชีวิตน้องสาวแล้วเค้าจะมา แล้วถ้าเค้าไม่มาล่ะ จะต้องฆ่าต่อไปเรื่อยๆหรือเปล่า เค้าก็อธิบายเรื่องฆาตกรต่อเนื่องคิดอะไรเป็นขั้นๆ อะไรของเค้าก็ไม่รู้ไม่ได้สนใจฟัง รู้แต่น้องสาวเราบอก เปลี่ยนเรื่องคุยเหอะว่ะ ฟังแล้วขนลุก -_-' จากคุณ : Reba - The Queen in my heart - [ 24 ต.ค. 51 12:16:22 ]

ความคิดเห็นที่ 84 ขอบคุณ จขกท.ครับ ว่าแต่... ซีอุย ไม่ติดเหรอครับ จากคุณ : DUB-COOK - [ 24 ต.ค. 51 12:29:00 ]

ความคิดเห็นที่ 85 โหดร้ายกันจริงๆ จากคุณ : ปองดาว - [ 24 ต.ค. 51 12:39:27 ]

ความคิดเห็นที่ 86 แบบนี้อ่านมาก ๆ ก็ไม่ดี เดี๋ยวจิตตก เครียดไปซะป่าว จากคุณ : handghost - [ 24 ต.ค. 51 13:58:44 ]

ความคิดเห็นที่ 87 เราว่ามองอีกมุมฆาตรกรพวกนี้นี่ก็เกิดมาโชคร้ายนะ เราเป็นคนชอบพวกจิตวิทยามาก เเล้วชอบอ่านเรื่องพวกนี้มาก เชื่อมั๊ยว่าฆาตรกรพวกนี้ 100 เปอร์เซ็นต์(ทุกคนน่ะเเหล่ะ)มีชีวิตวัยเด็ก-ปูมหลังที่มีปัญหา บางคนถูกพ่อเเท้ๆข่มขืน บางคนมีเเม่โรคจิตขั้นเทพ บางคนนี่เราอ่านชีวิตวัยเด็กเเล้วเเทบจะร้องเลย ว่าทำไมชีวิตคนเรามันถึงบัดซบได้ขนาดนี้ ตามทฤษฏีnaturalismเค้าบอกว่าคนเราจะกลายเป็นยังไงได้มันขึ้นอยู่กับ 1.กรรมพันธุ์ 2.สภาพเเวดล้อม 3.เหตุการณ์เฉพาะหน้า หลายคนอาจจะบอกว่าถึงเกิดมาในครอบครัวที่ไม่ดีเเต่เราก็เลือกที่จะตัดสินใจทำความดีได้นี่.... เเต่เราว่ามันยากนะ บางคนปูมหลังชีวิตเค้าเลวร้ายมากเกินกว่าที่เราจะจินตนาการได้ด้วยซ้ำ เค้าไม่ได้รับความรักจากใคร เค้าก็เลยไม่เคยรักใคร ไม่เคยได้รับความอบอุ่น เเล้วเค้าจะเอาความคิดที่ไหนมาตัดสินใจทำดีหรือเปลี่ยนเเปลงชีวิตให้ดีขึ้นล่ะคะ ในเมื่อทั้งชีวิตเค้ารู้จักเเต่เรื่องบัดซบ อ่านเรื่องพวกนี้เเล้วมันทำให้เรามองโลกในเเง่ดีขึ้นนะคะ คืออย่างน้อยเราก็จะรู้สึกว่าไม่มีใครที่เกิดมา"เลว" เพราะตอนเด็กๆทุกคนเปรียบเหมือนผ้าขาว โตขึ้นจะจะรู้เป็นัยไงขึ้นอยู่กับครอบครัวกับสภาพเเวดล้อมที่เจอนั่นเเหล่ะ อ่านเเล้วรู้สึกว่าเราเกิดมาโชคดีเเค่ไหนที่มีครอบครัวที่ปกติ โชคดีเเค่ไหนที่ไม่ได้มีชีวิตวัยเด็กที่เลวร้ายขนาดนั้น ถ้าเรามีชีวิตวัยเด็กที่เลวร้ายเท่าพวกเค้าตอนนี้เราอาจจะกลายเป็นฆาตรกรเเบบพวกเค้าไปเเล้วก็ได้ ใครจะรู้ -*- ปล.อยากให้ทุกคนอ่านเรื่องเลี้ยงลูกอย่างไรไม่ให้เป็นฆาตรกร กับ ดูหนังเรื่องmonster มากเลยค่ะ เเล้วจะเข้าใจเรื่องพวกนี้ขึ้นมากๆ จากคุณ : baby - [ 24 ต.ค. 51 14:24:01 A:58.10.195.72 X: TicketID:143314 ]

ความคิดเห็นที่ 88 84 ซีอุยไม่ติดหรอกครับ ถ้าเทียบกับต่างประเทศ ที่บ้านเราดังมากๆเพราะไม่ค่อยมีอาชญากรรมแบบนี้ ต่างประเทศเขาโหดกว่านี้เยอะครับบางรายฆ่าเป็นสิบ เป็นร้อย บางทีทรมาน ข่มขืน ก่อนฆ่า ฆ่าแล้วติดใจ ฆ่าอีก555+ สารพัดจะเล่า จากคุณ : Zenith4z_parn - [ 24 ต.ค. 51 15:42:45 ]

ความคิดเห็นที่ 89 กฏหมายที่ว่าล้าหลังสำหรับเราไม่ล้าหลังเลย ใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น เราว่ามันแฟร์มาก ปล.แต่อย่าจับแพะแล้วกัน สงสาร จากคุณ : Slurbody - [ 24 ต.ค. 51 16:50:53 ]

ความคิดเห็นที่ 90 แวะเข้ามาดูอีกทีตอนเย็น-เย็น ค่ะ วันนี้เราก็ยังนั่งอ่านเรื่องพวกนี้ทั้งวัน (แอบโหดป่าวเนี่ย) ยิ่งอ่านยิ่งวางไม่ลง กะว่าค่ำๆ จะมานั่งโพสต่ออีกนะค่ะเนี่ย..แบบว่า ว่าง ลาง หลอน.. ขอบคุณทุกท่านอีกครั้งนะค่ะ ที่มาร่วมพูดคุยแชร์ความเห็นกัน... จากคุณ : primjang - [ 24 ต.ค. 51 17:52:06 ]

ความคิดเห็นที่ 91 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 24 ต.ค. 51 19:30:40 ]

ความคิดเห็นที่ 92 โหดกันจังนะครับ ^^ จากคุณ : mr.wisdom - [ 24 ต.ค. 51 23:15:49 ]

ความคิดเห็นที่ 93 ผ่านมาอ่านจ้า จากคุณ : Echizen - [ 25 ต.ค. 51 13:18:44 ]

ความคิดเห็นที่ 94 อ่านแล้ว ลงชื่อ ขอบคุณที่นำเรื่องหนุกๆ มาค่ะ จากคุณ : .... (Ollie) - [ 25 ต.ค. 51 16:35:17 ]

ความคิดเห็นที่ 95 ความคิดคำนึง  ในเสี้ยวเวลา กระทู้นี้โดนแตกประเด็นไปยังงงงงง http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X7138837/X7138837.html จากคุณ : โอ๊ะเอ๊ะ - [ 25 ต.ค. 51 21:45:28 ]

ความคิดเห็นที่ 96 GOD!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! ผมตอบเหมือนที่พี่เค้าเฉลยเลยอ่า แปลว่ามีแนวโน้ม ไปเปลี่ยนชื่อล็อกอินเป็น แจ๊ด เดอะ ริปเปอร์ ดีกว่า จากคุณ : NorsDavincy - [ 29 ต.ค. 51 20:22:10 ]