ความคิดเห็นที่ 1 วิธีการหาลายนิ้วมือแฝง 1. การใช้ผงฝุ่นเคมี คือ นำเอาสสารที่เป็นของแข็งบางอย่างมาทำเป็นผงฝุ่นสีต่างๆ ซึ่งแต่ละสีมีคุณสมบัติและความเหมาะสมต่างกันในอันที่จะทำให้รอยลายนิ้วมือแฝงมองเห็นได้ชัดเจนพร้อมที่จะนำไปตรวจเปรียบเีทียบ สีที่เหมาะสมที่สุดคือสีดำ เนื่องจากเหงื่อปรากฎอยู่ในสภาพไร้สี และมักจะพบเห็นได้อย่างดีที่สุดบนพื้นผิววัตถุที่เรียบ และเป็นมัน เช่น แก้ว กระจก เครื่องเรือนขัดมัน เป็นต้น ซึ่งสีดำนี้จะตัดกับสีของพื้นผิววัตถุจนเห็นรอยได้ชัดเจน แต่ถ้าเป็นพื้นผิววัตถุที่มีสีมืดๆ ก็ควรใช้แป้งฝุ่นสีขาว (White Powder) ก็จะเห็นภาพได้ชัดเจนเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ พื้นผิววัตถุบางอย่างอาจมีความเหมาะสมกว่าที่จะใช้่ผงฝุ่นกว่า 2 ชนิดขึ้นไปผสมกัน เพื่อให้เห็นรอยและเก็บรอยแฝงได้ดีขึ้น จากคุณ : กระบี่เก้าเดียวดาย - [ 24 ต.ค. 51 23:36:13 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เกือบลืมท่านเทพ แฮะๆ -*- ~ เทพมังกรอวยชัย เอนมา เอนมา ~ จากคุณ : กระบี่เก้าเดียวดาย - [ 24 ต.ค. 51 23:36:58 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ู^ เห็นมาหลายกระทู้แล้ว ท่านเทพ เป็นสัญลักษณ์อะไรหรือเปล่าคะ ทำไมต้องเอน มะเข้าใจอะค่ะ จากคุณ : คืนนี้ไม่เหมือนคืนนั้น - [ 24 ต.ค. 51 23:47:20 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ......... แก้ไขเมื่อ 25 ต.ค. 51 00:14:32 จากคุณ : กระบี่เก้าเดียวดาย - [ 24 ต.ค. 51 23:55:48 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกันผงฝุ่นเคมี ในการใช้ผงฝุ่นเคมี จะต้องมีอุปกรณ์อื่นเพื่อการปัดหา และการเก็บลอกถอดรอยลาย คือ 1. แปรง ซึ่งมีอยู่ทั่วๆ ไป 3 ชนิด คือ 1) แปรงขนกระต่าย ซึ่งใช้ในการปัดผงฝุ่นเบื้องต้น 2) แปรงขนอูฐ ใช้่ปัดผงฝุ่นเพื่อให้เห็นรอยลายอย่างละเอียด และในกรณีที่ไม่มีแปรงขนกระต่าย จะใช้แปรงขนอูฐอย่างเดียวก็ได้ผลดีเช่นเดียวกัน ถ้าระวังที่จะไม่ใช้น้ำหนักมือกดลงไปที่พู่แปรงจนเกินไป 3) แปรงแม่เหล็ก ใช้กับผงฝุ่นสีดำที่มีผงแม่เหล็กเป็นส่วนผสมอยู่ ซึ่งแปรงที่เป็นตัวแม่เหล็กหรือ Magna Brush นี้ ไม่ได้มีลักษณะของรูปร่างแปรงที่เป็นตัวแม่เหล็ก และใช้่กับผงฝุ่นชนิดพิเศษ เรียกผงฝุ่นที่ว่านี้ติดอยู่กับ "แปรง" นั้น จนสัมผัสพบกับเหงื่อที่เป็นรอยลายแฝงอยู่ ก็จะแตะติดที่รอยแทน การใช้แปรงแม่เหล็กนี้ให้ผลดีมากโดยเฉพาะกับการหารอยที่ด้านใต้วัตถุ เช่น ใต้ลิ้นชัก หรือเมื่อพื้นผิววัตถุมีความยืดหยุ่นได้ เช่นพื้นหนัง และยังไม่เปลืองผงฝุ่นโดยไม่จำเป็นในช่วงที่มีการซัดฝุ่นออกไปในเบื้องต้นเพื่อควานหารอยอย่างคร่าวๆ อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดประัการเดียวที่ไม่มีความเหมาะสมกับการใช้แปรงแม่เหล็กก็คือ การตรวจหารอยลายที่อาจปรากฎอยู่กับวัตถุที่มีพื้นผอวทำด้วยโลหะ เท่านั้น 2. เทปกาวใส (Scotch Tape) หรือเทปกาวยาง (Rubber Lifter) เพื่อใช้ในการลอกรอยแฝงหลังจากปัดผงฝุ่นเห็นชัดเจนแล้ว สำหรับเทปกาวใสควรใช้ชนิดดี และมีขนาดกว้างของเทปประมาณ 3/4 นิ้วฟุตจะเหมาะสมมาก หากไม่เช่นนั้นแล้ว เราจะต้องปะต่อเทปหลายๆ ชิ้น ซึ่งอาจเกิดความเสียหายระหว่างร่องรอยการเชื่อมต่อระหว่างแต่ละชิ้นได้ และยิ่งถ้าทำไม่เป็น หรือไม่ระวัง ก็อาจทำให้รอยที่เก็บมาแยกส่วนกันและไม่อาจนำไปตรวจเปรียบเทียบในลักษณะที่อ้างว่ามาจากรอยเดียวกันนั้นได้ด้วย ส่วนเทปกาวยางหรือ Rubber Lifter นั้น สะดวกกว่าและเป็นชิ้นใหญ่ซึ่งเราสามารถจะตัดออกมาได้ตามขนาดที่ต้องการโดยไม่ต้องปะต่อเทป ซึ่งเหมาะสมอย่างยิ่งกับการลอกถอดรอยอุ้งมือ ฝ่ามือ และฝ่าเท้าส้นเท้า แต่ทว่าเป็นอุปกรณ์ที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศจึงไม่สะดวกเท่าเทปกาวใส จากคุณ : กระบี่เก้าเดียวดาย - [ 25 ต.ค. 51 00:14:11 ]

ความคิดเห็นที่ 6 คห. 4 เทพมังกรเป็นสัญลักษณ์ของศาสนาเทพมังกรขอรับ เทพมังกรอวยชัย เอนมา เอนมา เป็นบทสวด ที่คิดกันขึ้นเล่นๆ แซวกันสนุกๆ อ่ะขอรับ บทเต็มคือ (สำหรับหนุ่มๆ นะขอรับ) "สาวๆ เอนมา หนุ่มๆ เอนไป เทพมังกรอวยชัย เอนมา เอนมา" ส่วนของสาวๆ ก็ตรงกันข้ามอ่ะขอรับ อะเค๊ จากคุณ : กระบี่เก้าเดียวดาย - [ 25 ต.ค. 51 00:16:53 ]

ความคิดเห็นที่ 7 3. กระดาษปะรอยแฝงที่ลอกออกมา หากเป็นการใช้่ผงฝุ่นสีดำ หรือสีเข้มผิดปกติและใช้เทปกาวใสลอกออกมา กระดาษที่ใช้สำหรับปะรอยนี้ก็ใช่กระดาษขาวเรียบ มัน ไม่มีแนวเส้นบรรทัด อย่างที่ปรากฎอยู่ในแบบฟอร์มของกองพิสูจน์หลักฐาน หรือจะใช้กระดาษขาวที่มีลักษณะคล้ายกันแทนก็ได้ แต่ถ้าเป็นการใช้ผงฝุ่นสีอ่อนหรือสีขาว ก็จำเป็นจะต้องใช้กระดาษสีดำเพื่อให้เห็นรอยลายเส้นที่เก็บมาตัดกัยสีพื้นโดยรอบของกระดาษนั้น ส่วนกรณีที่ใช้เทปกาวยาง หรือ Rubble Lifter ก็ไม่จำเป็นต้องหากระดาษมาปะ เพราะลักษณะของ Rubber Lifter นั้น ประกอบด้วยแผ่นกาวยาง (สีนวล หรือสีดำ) ซึ่งมีแผ่นเซลลูลอยด์ (Celluloid) ปะติดอยู่ เมื่อเรานำมาใช้ก็ตัดขนาดของแผ่นเทปกาวนี้ตามที่ต้องการ แล้วดึงแผ่นเซลลูลอยด์แแห ปะทาบลงไปที่รอยนิ้วมือแฝงซึ่งปัดเรียบร้อยแล้ว จากนั้นดึงแผ่นเซลลูลอยด์ขึ้นนำไปปะกลับไว้ที่ส่วนกาวยางเหมือนเดิม ด้วยวิธีการนี้ รอยลายนิ้วมือแฝงที่ได้มานั้น จะปรากฎอยู่อย่างถาวรตลอดกาล โดยจะไม่ถูกสภาวะอากาศ อุณหภูมิ หรือธรรมชาติสามัญอย่างอื่นทำอันตรายให้เสียหายได่ และพร้อมที่จะนำไปดำเนินการที่จำเป็นเพื่อระบุรายละเอียด เครื่องหมายกำกับที่เป็น ก่อนส่งมอบไปตรวจพิสูจน์ หรือตรวจเปรียบเทียบต่อไป จากคุณ : กระบี่เก้าเดียวดาย - [ 25 ต.ค. 51 00:35:41 ]

ความคิดเห็นที่ 8 กำลังมันเลย จากคุณ : mekmok - [ 25 ต.ค. 51 00:59:30 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ปาด (หรือเปล่า) ดีครับ รอตอนต่อ ท่านจะสาธยายถึงขั้นตอนการเปรียบเทียบด้วยป่าวครับ ว่าเค้าเอาลายนิ้วมือมาเทียบกับฐานข้อมูลอย่างไร ดูแล้วน่าจะยาก จากคุณ : มนุษย์ถ้ำ - [ 25 ต.ค. 51 01:01:47 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ปาดได้ขอรับมิเป็นรัย ส่วนใหญ่มาจากหนังสือ "นิติเวชวิทยา ที่เกียวกับงานสืบสวนสอบสวน" ของ อ.ไทพีศรีนิวัติ ภักดีกุล คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (หนังสือไม่มีวางจำหน่าย) ถือว่า ท่านแจกความรู้มากเลยขอรับ ดังนั้น ขอคารวะท่านด้วยใจจริง m(_ _)m และขอบพระคุณที่ท่านแจก F ให้กระผมด้วยขอรับ m(_ _)m (รู้ตัวขอรับ ว่าความรู้ของตนนั้น อ่อนด้อยมากขนาดไหน TT^TT) ปล. จริงๆ มีท่านหนึ่งตั้งกระทู้ ข้าน้อยเลยมาสาธยาย + เล่าให้ฟังน่ะขอรับ ^_____^ ------------------------------- วิธีการปัดผงฝุ่น เพื่อให้เห็นภาพรอยลายมือแฝงได้ชัดเจน เราสามารถนำวิธีการใช้ผงฝุ่นปัดได้อย่างง่ายๆ คือ ควรเทผงฝุ่นเพียงจำนวนเล็กน้อยออกจากภาชนะบรรจุ (ดีกว่าการใช้จุ่มๆ ลงไป และควรระวังเรื่องลมด้วยนะขอรับ ^___^) เทใส่ไว้ในกระดาษขาวสะอาดธรรมดา แล้วใช้แปรง (ขนกระต่ายหรือขนอูฐ) แตะผงฝุ่นแล้วสลัดออกเบาๆ เพื่อต้องการเพียงที่ติดอยู่กับแปรงเท่านั้น ถ้าไม่เช่นนั้น ผงฝุ่นอาจเกาะกันมากจนเกินไป จะทำให้เมื่อนำไปแตะโดนรอยเหงื่อ แทนที่จะเห็นเป็นลายเส้น อาจเลอะเทอะจนใช้ไม่ได้ และไม่มีทางแก้ไขอีกด้วย ดังนั้นการใช้แปรงแตะผงฝุ่นแม้จะดูเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แต่ถ้าขาดความระวัง อาจจะทำให้เกิดความเสียหายอย่างไม่มีอะไรจะทดแทนได้ ทั้งนี้ เพราะต้องระลึกไว้ให้ขึ้นใจเสมอว่า รอยลายนิ้วมือแฝงในสถานที่เกิดเหตุเป็นสิ่งที่บอบบางมาก แต่มีค่าอย่างสูงในการยืนยันพิสูจน์เอกลักษณ์ของเจ้าของได้อย่างเด็ดขาด เมื่อใช้แปรงแตะผงฝุ่นแล้ว จึงจับแปรงในลักษณะตั้งฉากกับพื้นผิวของวัตถุที่จะตรวจหารอย แล้วปัดแปรงอย่างเบาๆ เป็นรูปวงกลม หรือที่เรียกว่า ปัดวน หากพื้นผิวนั้นมีรอยลายแฝงจริง ผงฝุ่นก็จะไปเกาะติดอยู่กับคราบเหงื่อนั้น จากนั้นสิ่งที่ต้องทำต่อไปคือ พยายามปัดฝุ่นซ้ำๆ กันลงไปตรงบริเวณนั้น เพื่อให้ภาพชัดเจนยิ่งขึ้น ทั้งนี้จะต้องปัดแปรงไปตามทิศทางของรอยลายเส้นของรูปแบบลายนิ้วมือนั้นๆ ด้วย เพื่อป้องกันการปัดของแปรงที่จะทำให้รอยอาจเสียรูปได้ ต่อจากนั้นถ้าใช้เทปกาวยางเก็บลอกถอดรอยก็ใช้วิธีการง่ายๆ ดังที่กลาวมาแล้ว คือ ตัดขนาดตามต้องการ ดึงเซลลูลอยด์ออก แปะทาบทับ และกดลงไปบนรอยโดยตรง (อย่าให้เคลื่อนเด็ดขาด) แล้วดึงกลับขึ้นมาปะไว้กับแผ่นกาวยางชิ้นเดิม เป็นอันว่างานขั้นนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ถ้าเป็นกรณีทั่วไปที่เราใช้เทปกาวใส ก็ให้ใช้วิธีดึงออกมาจากม้วนให้ยาวพอสมควร (ประมาณ 5-6 นิ้วฟุต สำหรับหนึ่งรอยนิ้วมือ) แต่ต้องระวังด้วยที่จะไม่ให้มีรอยพับ หรือรอยหยุดของเทปปรากฎอยู่ในช่วงความยาวของเทปที่ต้องการ เนื่องจากเราไม่ต้องการรอยอื่นใดที่ไม่จำเป็นนอกจากรอยที่เห็นจากภาพรอยลายแฝงเท่านั้น และขณะที่ดึงเทปก็ยังต้องระวังไม่ให้มีการม้วน หัก หรืองอด้วย เมื่อได้เทปที่ต้องการแล้วจึงนำไปแปะทาบทับลงไปตรงที่พื้นผววัตถุบริเวณที่เห็นรอยแล้ว โดยระวังไม่ให้มีฟองอากาศอยู่ ซึ่งสามารถทำได้โดยขณะที่แตะเทปดานหนึ่งลงไปที่วัตถุ (ระยะห่างจากรอยเล็กน้อย) แล้วดึงอีกปลายให้ตึง แล้วกดทับลงไป ใช้นิ้วของเรารีดลงไปบนตัวเทปนั้นโดยตรงจนไม่เหลือฟองอากาศตรงรอย ความระวังเช่นนี้ยังคงมีเช่นเดียวกันในขณะลอกรอยนั้นขึ้นมาจากวัตถุ แล้วนำไปปะทาบไว้กับกระดาษหรือแบบฟอร์ม โดยเทคนิคการวางเทปทำนองเดียวกัน จากนั้นจึงเขียนรายละเอียดของคดี และเครื่องหมายกำกับ รวมทั้งร่างแผนที่สังเขปอยู่ด้านหลังของกระดาษหรือแบบฟอร์มแผ่นนั้น ----------------------- ครั้นจะทำภาพอธิบายด้วย Photoshop คอมเฮงซวยของข้าพเจ้าก็ช้าเหลือเกิน ดังนั้น เอาภาพทุเรศๆ ไปก่อนแล้วกันขอรับ -*- จากคุณ : กระบี่เก้าเดียวดาย - [ 25 ต.ค. 51 01:42:29 ]

ความคิดเห็นที่ 11 การตรวจหารายนิ้วมือแฝงด้วยน้ำยาทางเคมี เทคนิคสำหรับการตรวจหารอยลายแฝงด้วยวิธีการทางเคมีนั้น โดยหลักการได้ครอบคลุมถึงการใช้ประโยชน์ของสสารหรือสารประกอบทางเคมีที่เป็นของ เหลวในรูปสารเคมีละลาย (Immersion) เช่นน้ำยานินไฮดริน(Ninhydrin) และน้ำยาเกลือเงินไนเตรท(Silver Nitrate Solution) และน้ำยาผลึกม่วง (Crystal Violet) หรือ วิคตอเรีย เพียว บลู (Victoria Pure Blue) รวมทั้งการใช้ประโยชน์ของสารประกอบทางเคมีบางชนิดที่ระเหย หรือระเหิดเป็นไอ ดังที่บางครั้งเรา อาจเรียกกันได้ว่าเป็นวิธีรมควัน (Fuming) เช่นการใช้เกล็ดไอโอดีน(Iodine) และกาว (Super Glue) ดังมีคำอธิบายให้พอเข้าใจถึงสิ่งที่เจ้าหน้าที่วิทยาการ หรือกองพิสูจน์หลักฐานใช้เป็นแนวทางในการตรวจหารอยลายนิ้วมือแฝงจากพื้นผิววัตถุที่เป็นกระดาษ (ทั้งอ่อนและแข็ง) ไม้เปลือย(ไม่ได้ทาสี) ตลอดจน พื้นผิวที่มีคุณสมบัติดูดซึมอื่นๆ ดังนี้ 1. น้ำยานินไฮดริน (Ninhydrine Method) น้ำยาเคมีชนิดนี้มีส่วนผสมของนินไฮดริน 0.5 กรัม ละลายในอาเซโตน (Acetone) 100 มิลลิลิตร เป็นสารละลายที่มีความเหมาะสมมากกับการตรวจของ กลางประเภทกระดาษและเอกสารต่างๆ แต่มีข้อที่ต้องตระหนักด้วยเสมอว่า น้ำยาทางเคมีประเภทนี้อาจทำให้หมึกในเอกสารนั้นเสียหายได้ จึงต้องได้รับอนุญาตจากคู่กรณีซึ่งเป็นเจ้าของเสียก่อนลงมือปฎิบัติ วิธีการนี้ คือ การตรวจหาร่องรอยของกรดอะมิโน (Amino acid) ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของโปรตีนที่มีอยู่ในร่างกายของมนุษย์ทุกส่วน รวมทั้งส่วนที่เป็นเหงื่อด้วย การใช้น้ำยานินไฮดรินนั้น อาจทำได้ทั้งฉีดเป็นละอองฝอย การจุ่ม หรือการแปรง แต่ดูเหมือนว่าการนำน้ำยามาฉีดเป็นฝอยจะเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดใน การใช้งาน อย่างไรก็ตามเมื่อพื้นผิววัตถุถูกอาบด้วยน้ำยานี้แล้ว ควรนำไปอาบความร้อนทับซึ่งอาจใช้เตารีดไฟฟ้านาบลงไปโดยตรง หรือใช้วิธีผึ่งไว้กลางแดด หรือผึ่งด้วยลมร้อนก็ได้ แต่ต้องระวังอย่าใช้ความร้อนถึงขั้นที่จะลุกไหม้ได้ ด้วยกระบวนการที่กล่าวมาแล้ว หากพื้นผิวนั้นๆ มีรอยลายนิ้วมือแฝงอยู่ก็จะเกิดภาพมองเห็นได้อย่างชัดเจน(มากกว่าผงฝุ่น) เนื่องจากน้ำยานินไฮดรินจะไปทำปฎิกิริยากับโปรตีนในเหงื่อ น้ำยาะเปลี่ยนจากภาวะไร้สี (Colorless) ไปสู่สีม่วงปนน้ำเงิน เมื่อเห้นเช่นนี้แล้วจึงควรถ่ายภาพ(ใกล้)โดยทันที แล้วจึงเอาเทปกาวใส ปิดทับลงไป ถ่ายภาพซ้ำอีกครั้งหนึ่ง จดรายละเอียด แล้วจึงนำส่งฝ่านตรวจพิสูจน์และตรวจเปรียบเทียบต่อไป --------------------- ภาพข้างล่างเป็นลายนิ้วมือที่ได้จากการรมด้วยควันนะขอรับ แก้ไขเมื่อ 25 ต.ค. 51 02:08:07 แก้ไขเมื่อ 25 ต.ค. 51 02:06:36 จากคุณ : กระบี่เก้าเดียวดาย - [ 25 ต.ค. 51 02:05:52 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เมื่อก่อนตอนเรียนนิติเวช ลองเอาแปรงขนกระต่าย มาปัดเล่น โดยใช้ลายนิ้วมือของตัวเอง กับแป้งแทนผงฝุ่น อยากจะบอกว่า มันปัดยากชิบเลยขอร๊าบบบบ -*- ดังนั้น วันนี้ จึงต้องขอลาทุกท่านไปแต่เพียงเท่านี้ พุ่งนี้พบกันใหม่ เมื่อชาติต้องการ ปล. หนุ่มน้อยลำปางสวัสดี คุณป้าเชียงใหม่ ล่วงหน้า ขอรับ ^______^ จากคุณ : กระบี่เก้าเดียวดาย - [ 25 ต.ค. 51 02:26:22 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณคร๊าบบบบ กระทู้มีสาระอีกกระทู้นะเนีย เคยอ่านผ่านๆ ลองทำเล่นๆ ก็ลืมไปแล้ว รู้แต่ปัดให้เป็นรอยนิ้วมือ ยากจริงๆแหละ -*- จากคุณ : Jet_XP - [ 25 ต.ค. 51 05:36:54 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขออบคุณครับที่แบ่งปัน ขออนุญาตเก็บเอาไปอ่านนะครับ ^ ^ จากคุณ : MaoCom - [ 25 ต.ค. 51 10:32:30 ]

ความคิดเห็นที่ 15 แต่เคยเห็นของเล่นสำเร็จรูปของเมืองนอกนะ ประมาณว่า ทำเองก็ได้ ง่ายดี จากคุณ : Cryptomnesia - [ 25 ต.ค. 51 11:53:22 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ตกลง ใช้แป้งฝุ่นลองแทนเล่นๆก็ได้หรอครับ ท่านเทพมังกร ? จะไปลองเล่นบ้าง จากคุณ : Calypsol_Red - [ 25 ต.ค. 51 12:07:44 ]

ความคิดเห็นที่ 17 #13 นั่นสินะขอรับ ยากเนอะ ^______^ #14 ได้ขอร๊าบ ^_______^ #15 ของเล่นแบบนี้ น่าจะมีประโชน์ใช้งานได้จริงด้วยนะขอรับ ^_______^ #16 ลองได้ขอรับ แต่มันจะไม่ติดมาก เพราะแป้งจะติดเฉพาะน้ำ แล้วในเหงื่อของเรา นอกจากมี H20 แล้ว ยังมี ยูเรีย กับ เกลือแกงอีกขอรับ ^______^ ------------------------------------------ 2. น้ำยาเกลือเงินไนเตรท (Silver Nitrate Method) วิธีการตรวจด้วยน้ำยาเคมีชนิดนี้เป็นวิธีการตรวจหาเกลือแกง (Sodium Cloride) ที่อยู่ในเหงื่อของมนุษย์ (ส่วนประกอบหลักๆ ได้แก่ น้ำประมาณ 98.5-99.5% และมีอัตราส่วนของสิ่งที่เป็นของแข็งเพียง 0.5-1.5% เท่านั้น ส่วนหลังนี้เองที่ประกอบด้วยสสารประเภทอโลหะ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเกลือถึง 1 ใน 3 อีก 2 ใน 3 มีธาตุยูเรีย (Uria) น้ำมัน และกรดชนิดต่างๆ ที่มีส่วนประกอบของโลหะอยู่ที่แนวจีบย่นต่างๆ ที่ด้านในของนิ้วมือ ฝ่ามือ และฝ่าเท้าส้นเท้า ขอรับ) น้ำยาเกลือเงินไนเตรทจะทำปฎิกริยากับเกลือแกงที่มีอยู่ที่รอย เกิดเป็นเงินคลอไรด (Silver Chloride) ได้ และจะสามารถให้ผลได้ดีมากสำหรับกาสรตรวจของกลางประเภทกระดาษและไม้ น้ำยามีส่วนผสมของเกลือเงินไนเตรทละลายน้ำความเข้มข้น 3% (เงินไนเตรท 3 กรัม ผสมกับน้ำ 100 มิลลิลิตร) ซึ่งเราอาจใช้วิธ๊นำเอกสารจุ่มลงไปในน้ำยาโดยตรง หรือเป็นละอองฝองก็ได้ แล้วปล่อยให้แก้งเองในห้องมืด เมื่อแห้งแล้วจึงนำมาให้แสงสว่างจ้า (ประมาณ 1,000 แรงเทียน) ก็จะปรากฎเห็นรอยแฝงซึ่งเคยสัมผัสที่บริเวณพื้นผิวของวัตถุนั้นได้อย่างชัดเจน เป็นลายเส้นสีน้ำตาลไหม้เข้ม รอยที่ปรากฎขึ้นนี้จะต้องใช้วิธีการตรวจเก็บโดยการถ่ายภาพบันทึกใกล้(และขยาย) ข้อควรระวังอย่างที่สุดสำหรับการใช้น้ำยาทางเคมี คือต้องตระหนักด้วยว่าอาจเป็นการทำให้วัตถุที่ตรวจเกิดความเสียหายไปจากเดิม จึงต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของก่อน และสำหรับน้ำยาเกลือเงินไนเตรทนี้ ยังเป็นการทำลายไขมัน น้ำมัน และกรดอมิโนด้วย ซึ่งล้วนเป็นสิ่งจำเป็นที่เราต้องตรวจหาจากวิธีการของนินไฮดริน และการรมด้วยควันไอโดดีน ดังนั้นถ้าประสงค์จะใช้ทั้ง 3 วิธีในการตรวจรอยเดียวกัน จำเป็นต้องใช้วิธีการตรวจตามลำดับก่อนหลัง (อย่างเด็ดขาด) ดังนี้ ขั้นที่ 1 ตรวจด้วยวิธีรมควันไอโอดีน (Iodine Fuming) เพื่อหาไขมันในเหงื่อ ขั้นที่ 2 ตรวจด้วยวิธีการของนินไฮดริน เพื่อหากรดอะมิโนในโปรตีนของเหงื่อ และขั้นที่ 3 ตรวจด้วยวิธีการของน้ำยาเกลือเงินไนเตรท (Silver Nitrate) เพื่อตรวจหาเกลือแกงในเหงื่อ ------------------------------------- เห็นหรือเปล่าขอรับ ว่าเป็นเรื่องยุ่งยากเพียงใด กว่าจะได้วัตถุพยานสักชิ้น ^______^ จากคุณ : กระบี่เก้าเดียวดาย - [ 25 ต.ค. 51 13:34:27 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เข้ามาอ่านกระทู้แล้วนะคะ ชอบเรื่องลายนิ้วมือค่ะ และขอบคุณที่ตอบคำถามด้วย นึกแล้วเชียว อุอุ จากคุณ : คืนนี้ไม่เหมือนคืนนั้น - [ 25 ต.ค. 51 14:58:46 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณนะคะสำหรับความรู้ ชอบเรื่องแบบนี้แฮะ จากคุณ : Pinky Princess - [ 25 ต.ค. 51 15:23:21 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เอนมา เอนมา จากคุณ : ซายูบิ - [ 25 ต.ค. 51 17:32:02 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ถ้าในเคสจริงเจออย่างรูปใน คห.11 ก็คงจะดี ปกติถ้าเป็นลายนิ้วมือแฝงที่ได้จากวัตถุพยาน .. อย่าให้พูดเลย เรื่องมันเศร้า แล้วบางทีถึงจะ fume มาดี ปัดฝุ่นมาดี แต่มาตกม้าตายพลาดเอาตอน lift ก็แย่่เหมือนกัน ปล. แอบเอาใจช่วย จขกท. เพราะเห็นมีคนอยากให้อธิบายเรื่องการเปรียบเทียบ fingerprint เรื่องนั้นรายละเอียดเยอะกว่าเรื่องนี้อีกนะคะเนี่ย   ^^" จากคุณ : when i'm feeling .. blue - [ 25 ต.ค. 51 23:54:24 ]

ความคิดเห็นที่ 22 จริงๆ กระผมว่า ถ้าเป็นคำอธิบายมันไม่ยากเท่าไหร่นะ แต่ถ้าลองทำ จะรู้เองถึงปัญหา อย่างที่ คุณ when i'm feeling .. blue บอกไว้ขอรับ -------------------------------------------------- 3 วิธีรมด้วยควันไอโอดีน (Iodine Fuming) การใช้ประโยชน์ของสารไอโอดีนเพื่อตรวจรอยลายแฝง เหมาะกับการตรวจของกลางได้หลายอย่าง รวมทั้งกระดาษ ผนัง และพื้นผิวที่มีความเหนียวเหนอะหนะด้วย โดยหลักการก็คือ เรานำเกล็ดไอโอดีน ซึ่งเป็นสสารแข็งที่มีคุณสมบัติที่จะระเหิดเป็นก๊าสได้เมื่อได้รับความร้อนในระดับหนึ่ง และเราสามารถใช้รูปแบบบของการตรวจในห้องทดลองปฎิบัติการได้โดยใช้ตู้ไอโอดีน (Iodine Fuming Cabinet) ส่วนถ้าจะนำไปใช้ตรวจ ณ สถานที่เกิดเหตุก็เหมาะสมที่จะใช้แบบที่บรรจุอยู่ในกระบอกแก้วเล็กๆ ซึ่งมีความสะดวกในการพกพาและตรวจหาบนบริเวณพื้นผิวที่ไม่กว้างขวางเกินไปนัก กระบอกเช่นนี้เรียกว่า Iodine Fuming Gun ความร้อนของตู้ในอุณหภูมิที่ประมาณ 80 - 90 celcius's degree จะสามารถทำให้เกร็ดไอโอดีนในตู้ระเหิดเป็นควันขึ้นได้  ซึ่งถ้าเราไม่ใช้ตะเกียงวิทยาศาสตร์วางไว้ใต้ตู้ตรงภาชนะบรรจุเกล็ดไอโอดีน ก็อาจใช้หลอดไฟฟ้าขนาด 60 -100 แรงเทียนไส่ไว้ที่ด้านล่างในตู้ได้ การใช้ความร้อยช่วย จะทำให้ปรากฎภาพรอยได้รวดเร็วขึ้นสำหรับการใช้กระบอกไอโอดีน (Iodine Fuming Gun) ซึ่งเหมาะกับการพกพาไปในการตรวจหารอยลายแฝง ณ สถานที่เกิดเหตุนั้น เป็นหลอดหรือกระบอกแก้วที่ภายในบรรจุใยแก้ว (Glass Wool) เกล็ดไอโอดีน (Iodine Crystals) และแคลเซียม คลอไรด์ (Calcium Chroride) ซึ่งภายในหลอดแก้วมีท่อยางโปร่งอยู่ตรงกลางสำหรับใช้เป่าได้ เมื่อนำมาใช้ในการตรวจหารอยแฝง ก็ใช้การเป่าท่อยาง ลมร้อนจากปากจะผ่านแคลเซียม คลอไรด์สู่ไอโอดีน ทำให้เกิดการระเหิดของไอโอดีนขึ้น ไอระเหยหรือควันของไอโอดีนก็จะถูกปล่อยออกมายังปลายท่อยางอีกข้างหนึ่ง ซึ่งเราต้องจ่อไว้ใกล้ที่สุด (แต่ไม่ใช่ชิดหรือสัมผัสถึง กับพื้นผิวของวัตถุที่ต้องการตรวจหารอยลายแฝง ซึ่งถ้าเคยมีการใช้มือหรือเท้าเปลือยสัมผัสมาก่อนแล้ว ก็จะปรากฎรอยลายเส้นให้เห็นขึ้นได้อย่างชัดเจนเช่นเดียวกับการใช้ตู้ไอโอดีนตรวจหา ในทางปฎิบัติปรกติ เมื่อเราใช้เทคนิคนี้ในการตรวจหาตัวอย่างของลายแฝง เราจำเป็นต้องใช้วิธีการหยิบจับด้วยปากคีบหรือสวมถุงมือโดยเสมอ และพยายามไม่สัมผัสเลยไปกว่าบริเวณขอบวัตถุโดยไม่จำเป็นเพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสซ้ำทับลงไปบนบริเวณที่อาจมีรอยลายแฝงปรากฎอยู่ได้ เมื่อนำไปใส่หนีบจับไว้ในตู้ไอโอดีนแล้วใช้ความร้อนช่วย หรือการใช้ลมปากเป่าท่อยางไอโอดีน ลมร้อนอุ่นๆ เช่นนี้จะเป็นปัจจัยให้เกล็ดไอโอดีนระเหิดเป็นไอและควันสีม่วง ซึ่งถ้ามีไขมันหรือน้ำมัน (ของเหงื่อ) ปรากฎอยู่ มันจะดูดซึมไอควันเหล่านี้ไว้ปรากฎเห็นเป็นรอยเส้นสีน้ำตายหรือออกสีเหลืองๆ ขึ้นตัดกับสีพื้นวัตถุนั้น เมื่อภาพรอยปรากฎชัด จะต้องถ่ายภาพไว้โดยทันที เนื่องจากรอยเส้นเหล่านี้จางหายอย่างรวดเร็วเมื่อกระบวนการนี้สิ้นสุดลง ส่วนวัตถุที่ปรากฎของลายแฝงเหล่านี้ จะต้องทำเครื่องหมายกำกับกำหนดตำแหน่งอย่างถูกต้องเพื่อการนำไปพิสูจน์เอกลักษณ์ต่อไป จากคุณ : กระบี่เก้าเดียวดาย - [ 27 ต.ค. 51 04:43:16 ]

ความคิดเห็นที่ 23 Iodine Fuming Gun จากคุณ : กระบี่เก้าเดียวดาย - [ 27 ต.ค. 51 04:43:46 ]

ความคิดเห็นที่ 24 วิธีการใช้ระเหยจากกาว (Super Glue) (โปรดระวัง วิธีการนี้มีผลเสียต่อผู้ใช้) วิธีการใช้ Super Glue จะคล้ายๆ กับการรมควันด้วยไอโอดีน แต่ต่างกันตรงที่ใช้การระเหยจาก Super Glue แทน (กาวตราช้า *0*) เมื่อสาร Cyanoacrylate Ester ได้รับความร้อนก็จะระเหยเป็นไอซึ่งมีความเข้มข้นสูง และจะทำปฎิกริยากับโปรตีน และน้ำที่มีอยู่ในเหงื่อ ทำให้ปรากฎเห็นเป็นรอยลายสีขาว แล้วจึงใช้ผงฝุ่นเคมีปัดขึ้นอีกครั้งหนึ่งเพื่อเก็บถอดลอกรอยลายนั้นออกมาตามปรกติ วิธีการใช้ผลึกม่วง (Crystal Violet) หรือวิคตอเรีย เพียว บลู (Victoria Pure Blue) การใช้ผลึกม่วงตรวจหารอยลายแฝงที่ติดอยู่กับพื้นผิววัตถุมีความเหนียว เช่น เทปกาวใส หรือกระดาษกาว หรือเทปยางที่มีผู้นิยมในการมัดห่อยาเสพติดไว้ภายใน ซึ่งบริเวณที่มีความเหนียวนั้น มักจะมีรอยลายนิ้วมือของผู้ห่อติดอยู่ด้วยเสมอ แต่เราไม่สามารถเก็บรอยลายแฝงนั้นได้ด้วยวิธีการปัดฝุ่นปรกติ ส่วนผสมของน้ำยาชนิดนี้ประกอบด้วยผลึกม่วง (Crystal Violet) ขนาด 1 - 1.5 กรัม ละลายในเอธิล แอลกอฮอล (Ethyl Alcahol) ปริมาณ 100 มิลลิลิตร แล้วนำน้ำยาที่ผสมแล้วนี้ ปริมาณ 2 มิลลิลิตรเต้มลงไปในน้ำ 100 มิลลิลิตรใส่ในภาชนะต่อจากนั้น จุ่มหรือวางวัตถุชิ้นนั้นแช่ลงไปในน้ำยาจนรอยลายแฝงปรากฎเห็นได้ แล้วล้างน้ำก๊อกเพื่อล้างสีส่วนที่เกินออกไปจะเหลือแต่รอยลายเส้นของรอยลายแฝงเท่านั้น ต่อนากนั้นจึงนำไปวางบนด้านมันของกระดาษอัดรูปที่ยังไม่ได้รับแสงและมีความเปียกหมดๆ นำไปรีดด้วยความร้อนอ่อนๆ แล้วจึงดึงเทปที่เป็นวัตถุที่มีรอยลายแฝงออกจากกระดาษอัดรูป จากนั้นให้ตรวจเก็บรอยลายดังกล่าวที่กระดาษนั้นด้วยการถ่ายภาพบันทึกไว้ ส่วนการทำเครื่องหมายกำกับในการตรวจเก็บของกลางก็ต้องทำไว้เช่นเดียวกัน -------------------------------- Super Glue จากคุณ : กระบี่เก้าเดียวดาย - [ 27 ต.ค. 51 04:47:44 ]

ความคิดเห็นที่ 25 การตรวจหารอยลายแฝงด้วยวิธีการทางฟิสิกส์ วิธีการที่ใช้มากในการตรวจสถานที่เกิดเหตุเกี่ยวกับการหารอยลายแฝงก็คือ ประโยชน์ของแสง และที่มีใช้อยู่ในการทำงานของกองพิสูจน์หลักฐานในประเทศไทยปัจจุบัน คือ แสงเลเซอร์ (LASER) และเครื่องโพลีไลท์ (Polilight) แสงเลเซอร์ (LASER) แสงเลเซอร์มาจากคำย่อภาษาอังกฤษว่า Light Amplification by Stimulated Emission of Radiation ซึ่งเป็นแสงกล้าที่เป็นอุปกรณ์ทำขึ้นประกอบด้วยผลึก ก๊าซ หรือสารอย่างอื่นที่มีความเหมาะสม ซึ่งอะตอมภายในนั้น เมื่อถูกกระตุ้นขึ้นด้วยการรวมจุดของคลื่นแสงทั้งหลายจะขยายและรวมกันอยู่ที่คลื่นเหล่านี้ แล้วจึงฉายเปร่งออกมาเป็นลำแสงแคบและจ้ามาก ในเครื่องเลเซอร์ที่เราใช้อยู่ เป็นแสงที่เกิดจากการกระตุ้นโดยใช้เครื่องมือ ซึ่งมีปรมาณูก๊าซอาร์กอน (Argon-Ion) ซึ่งเป็นธาตุบริสุทธิ์ประเภทหนึ่ง เป็นแหล่งกำเนิดแสง (ไม่ทราบว่าตอนนี้มีเครื่องใหม่หรือยัง) เราใช้ประโยชน์ของแสงเลเซอร์นี้ในการตรวจหารอยลายแฝงที่วัตถุพื้นผิวชนิดต่างๆ ได้ เช่น แก้ว กระจก ผนัง พลาสติก และไม้ เป็นต้น และยังสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการตรวจร่องรอยในลักษณะอื่นๆ ได้อีก เช่น รอยขูดลบแก้ไขเอกสาร ชนิดของหมึก รอยเหยียบย่ำ เป็นต้น นับว่าเป็นเครื่องมือที่ดีมากเครื่องหนึ่ง เครื่องโพลีไลท์ (Polilight) เครื่องโพลีไลท์เป็นเครื่องมือตรวจหาร่องรอยวัตถุพยานได้หลายอย่าง คือ นอกเหนือจากการตรวจหารอยลายแฝงต่างๆ แล้ว ยังตรวจหาคราบน้ำเชื้อ คราบโลหิต รอยเหยียบย่ำ ร่องรอยของตัวอักษรที่มีการขีดเขียนทาบทับ การขูดลบแก้ไขเอกสารต่างๆ ได้ โดยปรับคลื่นแสงตามความเหมาะสม เครื่องมือนี้ใช้โคมแสงก๊าซซีออน (Xenon Arc Lamp) ซึ่งเป็นก๊าซที่เป็นธาตุบริสุทธิ์ มีน้ำหนักมาก (น้ำหนักปรมาณูเท่ากับ 131.3 เท่าของไฮโดรเจน) ปรกติใช้เป็นยาสลบได้ และยังเพิ่ความสว่างของไฟฟ้าด้วย ในด้านการทำงานของเรา เราใช้ Xenon Arc Lamp นี้เองเป็นแหล่งกำเนิดแสง ซึ่งเป็นเครื่องมือน้ำหนักเบา สามารถใช้ได้ทั้งในและนอกสถานที่ ปรกติมีสภาวะทางแสงเป็นสีขาวที่สามารถเปลี่ยนเป็นแสงสีต่างๆ ได้ 5 ช่องสีโดยการใช้เครื่องกรองแสง (Filter) ซึ่งแสงแต่ละช่องสีจะมีความเหมาะสมกับการตรวจหารอยลายแฝงบนพื้นผิวและวัตถุที่มีลักษณะต่างๆ กัน -------------------------- เครื่อง Polilight จากคุณ : กระบี่เก้าเดียวดาย - [ 27 ต.ค. 51 04:51:18 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เด๋วจะมาต่ออีก 3 วัน ถ้ากระทู้ไม่หายไปไหนซะก่อนนะขอรับ ^______^ ปล. หรือใครจะเล่าก่อน ก็มิว่ากัน ^______^ จากคุณ : กระบี่เก้าเดียวดาย - [ 27 ต.ค. 51 04:52:08 ]

ความคิดเห็นที่ 27 กระทู้นี้มีประโยชน์จังค่ะ ข้อมูลละเอียดดีจังเลย กำลังจะไปราชการที่ ตจว. เดี๋ยวไปตามอ่านต่อที่นู่นนะคะ จากคุณ : when i'm feeling .. blue - [ 27 ต.ค. 51 15:36:39 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ผงฝุ่นเคมี แปรง และอุปกรณืต่างๆ หาซื้อที่ไหนได้บ้างค่ะ แล้วพอปัดๆแล้วมันจะเห็นได้ด้วยตาเปล่าเลยไหมอ่ะค่ะ กำลังสนใจเรื่องนี้ รบกวนขอคำตอบด้วยนะค่ะ จากคุณ : เกี๊ยวกุ้ง - [ 9 ธ.ค. 51 18:46:30 A:58.9.36.41 X: ]