ความคิดเห็นที่ 1 เป็น 2 นาทีครึ่ง ที่ทำเอาวงการสัตว์ประหลาดของโลกต้องหวั่นไหว เพราะเป็นภาพที่เห็น ได้ชัดเจนถึงการเคลื่อนที่ของสัตว์ชนิดหนึ่ง สีดำขนาดใหญ่ คาดว่ายาวราวๆ 15 เมตร แหวกน้ำด้วยความเร็วประมาณ 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บนผืนน้ำล็อคเนสอย่างชัดเจน และบางส่วนของภาพมองเห็นครีบด้วย เอเดรียน ไชน์ นักชีววิทยาสัตว์น้ำ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ลุ่มหลงที่ติดตามเรื่องราวของเนสซีบอกว่า ภาพวีดิโอฝีมือของโฮล์มส์นั้น เป็นภาพที่ยากจะทำ ปลอมขึ้น เพราะไม่ได้ถ่ายเฉพาะ ตัวสัตว์ ประหลาดเท่านั้น แต่ยังถ่ายเลยไปถึงฉากหลังที่เป็นภูเขารอบทะเลสาบด้วย ทำให้สามารถ เปรียบเทียบขนาดและความเร็วของสิ่งที่เห็นได้ถนัดชัดเจน ส่วนตัวนายโฮล์มส์เองที่ยังตื่นเต้นไม่หายก็บอกว่า ทีแรกก็นึกอยู่เหมือนกันว่าจะเป็นคลื่น หรือเปล่า แต่เมื่อมองแล้วก็เห็นการเคลื่อนไหว ที่ไปคนละทิศกับระลอกคลื่น แถมยังเห็นหลัง สีดำชัดเจน และตอนที่เห็นก็นึกว่าสัตว์ประหลาดนี้น่าจะยาวสัก 4-6 ฟุต แต่พอมามองอีกทีก็ น่าจะใหญ่กว่านั้นมาก งานนี้สำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษนำภาพเคลื่อนไหวของโฮล์มส์ไปออกอากาศ และได้รับเสียง ครางฮือจากผู้ชมว่าชัดเจนแจ่มแจ๋ว แต่ถึงกระนั้น นักวิชาการบางคนก็ยังไม่ค่อย อยากเชื่อ อะไรง่ายๆ เพราะฉะนั้นภาพที่ถ่ายได้ก็จะถูกนำไปวิเคราะห์อีกหลายยก เพื่อให้แน่ใจ ว่าไม่ใช่นาก หรือแมวน้ำมาล้อเล่นกับกล้อง อย่างไรก็ตาม หากจะถามว่าเนสซีมีตัวตนจริงหรือไม่ ก็ไม่มีใครตอบได้ชัดเจนแจ่มแจ้ง และในทางกลับกัน ถ้าจะบอกว่าไม่มีจริง ก็พูดได้ไม่เต็มปาก เพราะมีคนเห็นเยอะเหลือเกิน แต่ถ้าจะกล่าวถึงความชัดเจนที่สุดจากทางการ ต้องฟันธงลงไปว่า เนสซีมีตัวจริงแหงๆ รัฐบาลแห่งสหราชอาณาจักรเพิ่งจะเปิดเผยเอกสารที่เคยเป็นเอกสารลับเกี่ยวกับเนสซีไป เมื่อเดือนมกราคม พ.ศ.2549 หรือเมื่อ 2 ปีก่อนนี้เองว่า รัฐบาลยอมรับในการมีอยู่ของเนสซี!! จากคุณ : Mr.Terran - [ 28 ต.ค. 51 16:55:35 ]

ความคิดเห็นที่ 2 การเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยเสรีภาพในการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร ซึ่งข้อความในเอกสารที่ (เคย) ลับมากนี้ระบุว่า รัฐบาลอังกฤษภายใต้การนำของนางมาร์กาเร็ต แธตเชอร์ เชื่อเรื่องการมีอยู่ของสัตว์ ประหลาดแห่งล็อคเนส และเชื่อไม่เชื่อเปล่า ยังพยายาม หาทางปกป้องมันอีกต่างหาก เพราะเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลเกิดกังวลว่า การที่มี ผู้พยายาม ค้นหา ตามล่าแทบทุกตารางนิ้วของทะเลสาบ อาจจะทำให้เจ้าสัตว์ หลงยุคนี้ได้รับอันตราย รัฐบาลจึงได้ทุ่มเททั้งเงินและเวลาในการวิจัยเพื่อหาทางปกป้องเนสซี สุดท้ายก็ตกลงกันได้ว่า ไม่ต้องไปทำอะไรมันหรอก เพราะสัตว์ประหลาดนี้ถูกคุ้มครองอยู่แล้ว ตามกฎหมายคุ้มครองสัตว์ป่าและชนบท ค.ศ.1981 ซึ่งคุ้มครองทั้งสัตว์ที่รู้จักและไม่รู้จัก อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นไม่ต้องไปออกกฎหมายใหม่ให้เมื่อย แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ยังมีผู้รักเนสซีที่ไม่ยอมเลิกราง่ายๆ ในปี ค.ศ.2001 ก็เลยมีความพยายาม จากหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมของสกอตแลนด์ ในการตั้งคณะกรรมการที่มีผู้เชี่ยวชาญ มาช่วยปกป้องสัตว์ใหญ่ที่ผลุบๆโผล่ๆนี้อีก เรียกว่าเอาจริงเอาจังกันน่าดู เห็นรัฐบาลสหราชอาณาจักรทำงานกันอย่างนี้ หน่วยราชการของสวีเดนเองก็สนใจ ถึงกับติดต่อมาขอถามเกี่ยวกับการปกป้องเนสซี เพราะสวีเดนเองก็มี ทะเลสาบสโตร์สโจ ที่ว่ากันว่า มีสัตว์ ดึกดำบรรพ์หลงยุคอาศัยอยู่กับเขา เหมือนกัน จะได้ หามาตรการในการ ดูแลถูก เรียกว่าในทางราชการแล้ว ทั้งสองประเทศ “เชื่อ” ในการมีอยู่ของสัตว์ประหลาด นี้กันอย่างเต็มที่ จากคุณ : Mr.Terran - [ 28 ต.ค. 51 16:56:48 ]

ความคิดเห็นที่ 3 แต่จะมีจริงหรือไม่จริง คงไม่มีใครตอบได้ชัดเจนที่สุดเท่าตัวเนสซีเอง ที่ยังเหนียมอาย ไม่ยอมออกมาให้เจอกันแบบชัดๆสักทีนั่นแหละ แต่ตอนนี้เท่าที่หาหลักฐานได้ ฝ่ายที่รัก เนสซีเชื่อว่าถ้ามีอยู่จริง เจ้าเพื่อนร่างยักษ์นี้น่าจะเกี่ยวดอง เป็นญาติกับสัตว์ดึกดำ บรรพ์พันธ์ ุ์เพลซิโอซอรัส ซึ่งหายหน้าหายตาจากโลกเราไปนานตั้ง 70 ล้านปีแล้ว แต่เจ้าสัตว์ หลงเวลา นี้อาจจะพลัดหลงจากทะเลใหญ่มาสู่ทะเลสาบในช่วงสิ้นสุดยุคน้ำแข็ง แล้วก็ไม่ออก ไปไหนอีก เลย แต่เล่นเกมซ่อนหามาจ๊ะเอ๋เป็นอารมณ์ๆไป เจ้าเพลซิโอซอรัสนี้ เป็นไดโนเสาร์คอยาว ตัวเบาะๆ ก็สูงกว่า 15 ฟุต แต่ ถ้าโตเต็มวัยจริงๆ อาจจะสูงยาวเพิ่มได้อีกถึง 32 ฟุต มีครีบรูปทรงเหมือนเพชร ว่ายน้ำได้เก่งฉกาจ และ เมื่อปีกว่าๆ ที่ผ่านมา คือเดือนธันวาคม พ.ศ.2549 ก็เพิ่ง จะมีการขุดค้น พบฟอสซิลที่ สมบูรณ์ที่สุดของเพลซิโอซอรัสที่อาร์เจนตินา ซึ่งคง จะต้องมีการวิเคราะห์ตัวอย่าง กันอีกยกใหญ่ว่าจะเป็นญาติกับเนสซีจริงหรือเปล่า เมื่อเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา(2008) มีเรื่องราวให้ชาวสวีเดนได้ตื่นเต้นกันน่าดู เมื่อมีผู้จับภาพของสัตว์ประหลาดชนิดหนึ่งที่อาศัยอยู่ในทะเลสาบได้ อันเป็นการยืนยันถึงการมีอยู่ของสัตว์ที่ถูกกล่าวขานว่าหลงยุค และ “ติด” อยู่ในห้วงน้ำ ชื่อของมันคือ สตอร์โจ (Storjoe) สัตว์ลึกลับที่เป็นตำนานมานานกว่า 4 ศตวรรษ และโผล่หน้ามาให้ผู้คนได้เห็นกันบ่อยๆ แม้จะไม่โด่งดังเท่าเนสซีแห่งทะเลสาบล็อคเนสของอังกฤษ แต่สำหรับชาวสวีเดนแล้ว สตอร์โจเป็นหนึ่งในเรื่องเล่าที่ถูกกล่าวขาน จากคุณ : Mr.Terran - [ 28 ต.ค. 51 16:58:45 ]

ความคิดเห็นที่ 4 สัตว์ประหลาดแห่งทะเลสาบสตอร์จอน ในเมืองแจมท์แลนด์ ตอนกลางของสวีเดน ซึ่งมีความลึก 300 ฟุตนี้ เป็นสัตว์ยักษ์ตัวใหญ่ ลำตัวยาวคล้ายงู มีหัวคล้ายสุนัข หรือแมว แถมมีครีบ มันถูกกล่าวถึงมาตั้งแต่ ค.ศ.1635 ซึ่งเริ่มมีผู้พบเห็นเจ้าสัตว์ร่างใหญ่ และนักบวชมอร์เกนส์ เพเดอร์เซน ได้เล่าถึงตำนานพื้นเมืองว่า แต่เดิมมีโทรลล์อยู่ 2 ตัว (โทรลล์ (troll) อยู่ในตำนานสแกนดิเนเวีย มีรูปร่างคล้ายคนแคระ แต่มีขนาดใหญ่กว่า สูงประมาณ 20 ฟุต อาศัยอยู่ในถ้ำ มีทั้งดุร้ายและใจดี) ที่คงจะว่างจัด ระหว่างนั่งเล่นอยู่ริมฝั่ง ไม่รู้จะทำอะไรดี ก็เลยหยิบโน่นจับนี่มาต้มเรื่อยเปื่อย โดยไม่ได้วางแผนว่าจะเกิดเป็นอะไรขึ้นมา เวลาผ่านไปเป็นวัน เป็นเดือน เป็นปี โทรลล์ ทั้งสองก็ยังคงต้มไปเรื่อยๆ และคาดหวังว่าน่าจะเกิดอะไรที่ยิ่งใหญ่ออกมาในที่สุด และวันหนึ่งมันก็เกิดขึ้น มีเสียงดังลั่นออกมาจากหม้อต้ม และสัตว์ประหลาดสีดำ ตัวยาวคล้ายงู มีหัวเหมือนแมวก็กระโจนออกมาจากหม้อ แล้วโผลงไปในทะเลสาบ ก่อนจะเติบโตมีขนาดใหญ่ยักษ์ และมันก็ยึดเอาทะเลสาบเป็นบ้านนับแต่นั้น จากคุณ : Mr.Terran - [ 28 ต.ค. 51 16:59:36 ]

ความคิดเห็นที่ 5 นับจากคริสต์ศตวรรษที่ 17 เรื่อยมาจนถึงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 มีผู้พบเห็นสตอร์โจหลายครั้ง และเกิดความพยายามที่จะจับมันให้ได้ ถึงกับบางครั้งมีการขอความช่วยเหลือไปยังกษัตริย์ แต่เจ้าสตอร์โจก็หลบเลี่ยงไปได้เรื่อยๆ ใน ค.ศ.1986 ทางการได้ประกาศให้สตอร์โจเป็นสัตว์ที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ และให้การคุ้มครอง แต่หลังจากมึนๆ งงๆ ไม่รู้จะคุ้มครองตัวอะไร เพราะสตอร์โจไม่โผล่มาสวัสดีอย่างเป็นเรื่องเป็นราวเสียที การประกาศคุ้มครองดังกล่าวก็เลยยกเลิกไปในปลายปี ค.ศ.2005 หากพูดได้ เจ้าสตอร์โจอาจจะประกาศเหมือนกันว่า ผู้คนจะมายุ่งอะไรนักหนา ฉันดูแลตัวเองได้เฟ้ย...เท่าที่เห็นก็ดูแลตัวเองไม่ให้ใครจับได้ตั้งหลายร้อยปีแล้ว มนุษย์ตัวจ้อยจะมาคุ้มคงคุ้มครองอะไรเล่า จากคุณ : Mr.Terran - [ 28 ต.ค. 51 17:00:41 ]

ความคิดเห็นที่ 6 พูดถึงสัตว์ปริศนาแล้ว มีการกล่าวถึงพวกมันมากมายทั่วโลก เคยมีการรวบรวมว่าน่าจะมี มากกว่า 250 ชนิด ที่ยังคงเป็นเรื่องลึกลับให้ ค้นหา นอกจากตำนานต่างๆที่เหมือนนิยายแล้ว ในเชิงวิทยาศาสตร์ก็มีผู้เชื่อว่า เจ้าสัตว์ประหลาดเหล่านี้ น่าจะเป็นสัตว์ “หลงยุค” มาจากยุคไดโนเสาร์ คนจำนวนมากเชื่อในตำนานเกี่ยวกับนํ้าท่วมโลก อันเป็นเรื่องเล่าที่มีในหลายอารยธรรม และคาดกันว่า เป็นเหตุการณ์ที่น่าจะเคยเกิดขึ้นจริง และมีความเป็นไปได้ว่า เจ้าสัตว์ร่างใหญ่บางชนิดที่เคยครองโลกอยู่ได้หลุดเข้าไปอยู่ในทะเลสาบ และเมื่อนํ้าลด มันก็ติดอยู่ในนั้น ไม่สามารถออกมาเพ่นพ่านบนโลกแห้งๆได้อีก โดยมีเจ้าเนสซีเป็นสัตว์ดึกดำบรรพ์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดอย่างที่ว่ามาแล้ว จากคุณ : Mr.Terran - [ 28 ต.ค. 51 17:01:40 ]

ความคิดเห็นที่ 7 สัตว์ประหลาดจากทะเลสาบที่มีชื่อเสียงมากอีกตัวหนึ่ง ถูกเรียกขานอย่างน่ารักว่า โอโกโปโกะ (Ogopogo) ซึ่งมีบันทึกมากกว่าหนึ่งพัน ครั้งว่า มีผู้พบเห็นมันในทะเลสาบโอคานาแกน บริติช โคลัมเบีย ซึ่งลึกกว่า 1,200 ฟุต ด้วยลักษณะของสัตว์ร่างใหญ่ หัวเล็กคล้ายม้า คอยาว มีโหนกหลายอัน เท้าเป็นพังผืด และหางเป็นเหมือนแส้ยาว จากการตรวจสอบด้วยการจับภาพเคลื่อนไหว และระบบโซนาร์ ได้ข้อพิสูจน์ถึงการมีอยู่ของสิ่งมีชีวิตบางอย่างที่เคลื่อนไหวอยู่ใต้นํ้าลึก ทำให้เชื่อกันว่า โอโกโปโกะไม่ได้เป็นเพียงเรื่องเล่า แต่มันน่าจะมีอยู่จริง และที่น่าตื่นเต้นที่สุด เห็นจะเป็นตอนที่นักว่ายนํ้ามาราธอนชื่อดารี่ เอลลิส ว่ายนํ้าข้ามทะเลสาบใน ค.ศ.2000 และอาจจะทำให้เจ้าโอโกโปโกะเกิดสงสัยว่า มาว่ายอะไรอยู่นานนักหนาตั้ง 2-3 ชั่วโมง มันเลยโผล่มาทักทายให้เห็นกันจะจะ สิ่งที่ดารี่เจอะคือ สัตว์ประหลาดสุดพิศวง 2 ตัว ยาวราวๆ 20-30 ฟุต ตัวหนึ่งว่ายเข้ามาใกล้ จนสามารถสบตากันได้ เป็นดวงตาที่ดารี่บอกว่า มีขนาดใหญ่ราวกับผลเกรปฟรุต และหลังจากนั้นก็ยังมีคนเจอโอโกโปโกะอยู่บ่อยๆ อีกตัวที่ดังไม่แพ้กันคือ เจ้าแชมป์ (Champ) แห่งทะเลสาบแชมเพลน ในเวอร์มอน ซึ่งเป็นทะเลสาบใหญ่เป็นอันดับ 6 ของสหรัฐอเมริกา โดยเฉลี่ยแล้วทะเลสาบแห่งนี้ลึกเพียง 64 ฟุต แต่ในช่วงที่ลึกที่สุดจริงๆ ลึกลงไปถึง 400 ฟุต จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะสามารถเป็นบ้านอันอบอุ่น และซ่อนเจ้าเพื่อนร่างยักษ์ตัวนี้เอาไว้ได้ จากคุณ : Mr.Terran - [ 28 ต.ค. 51 17:02:39 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ที่ผ่านมา มีรายงานการพบเจอแชมป์แล้วมากกว่า 500 ครั้ง และมีผู้คนประมาณ 600 คน บอกว่าเคยเห็นมันแหวกว่ายนํ้าในทะเลสาบเล่น เดนนิส เจ ฮอล ได้ลงทุนศึกษาเจ้าแชมป์มานานกว่า 30 ปี และเขียนหนังสือเรื่อง Champ Quest 2000 ขึ้น เขายืนยันว่า มันมีอยู่จริงแน่นอน และเขาเคยเห็นมันมากับตาแล้วประมาณ 20 ครั้ง ลักษณะของเจ้าสัตว์ประหลาดนี้มี 4 ขา เท้าเป็นพังผืด ลิ้นเป็นแฉก ลักษณะทั่วไปคล้ายสัตว์ประเภทจิ้งจก แต่น่าจะเป็นจิ้งจกยักษ์เสียมากกว่า ใน ค.ศ.2001 มีผู้ถ่ายวีดิโอเป็นภาพสัตว์ประหลาดขนาดใหญ่หลายตัว ว่ายนํ้าอยู่ด้วยกันในทะเลสาบ ทำให้ชื่อของเจ้าแชมป์ดังขึ้นมาอีกมาก เจ้าสัตว์ปริศนาเหล่านี้ บางคนคิดว่ามันเป็นสัตว์ประเภทเดียวกัน แต่ไปหลงติดอยู่ในทะเลสาบหลายแห่ง แต่บางคนก็คิดว่า มันอาจจะไม่เกี่ยวข้องกันเลยก็ได้ แต่ถึงขณะนี้ ก็ยังถือว่าไม่มีข้อพิสูจน์ที่แน่ชัด กระนั้นก็ไม่สามารถจะบอกได้ว่าพวกมันไม่มีอยู่จริง ทำให้ในแต่ละทะเลสาบที่มีเสียงเล่าลือกันเรื่องสัตว์ประหลาดต่างๆ นี้ มีผู้คนจำนวนมากไปเยือน เพื่อหวังจะพิสูจน์ให้ได้ว่าพวกมันมีตัวตนอยู่แน่นอน แต่บางคนก็ไม่กล้าเดินไปคนเดียวในย่านที่พวกมันอาศัยอยู่ จะว่าพวกเขากลัวไม่เข้าเรื่องก็คงไม่ได้ เพราะจากบันทึกที่ผ่านๆมา แม้ส่วนใหญ่แล้วเจ้าสัตว์ประหลาดพวกนี้จะโผล่มาส่งยิ้มเฉยๆ แต่ก็มีบ้างเหมือนกันที่มาแบบหิวจัด อย่างเช่น บันทึกจากสกอตแลนด์ใน ค.ศ.565 ที่ระบุว่า สัตว์ประหลาดที่ดังที่สุด คือเจ้าเนสซีนั้น โผล่มาไม่โผล่เปล่า ยังสวาปามชาวนาสกอตไปเป็นอาหารเย็นซะนี่ ที่มา http://www.thairath.co.th/news.php?section=specialsunday08&content=82538 http://www.thairath.co.th/news.php?section=specialsunday08&content=106524 จากคุณ : Mr.Terran - [ 28 ต.ค. 51 17:05:16 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ปาด....หรือเปล่า ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆนะคะ จากคุณ : Cha_cha_koi - [ 28 ต.ค. 51 17:10:15 ]

ความคิดเห็นที่ 10 รูปสุดท้ายน่ากลัวมาก =w=" จากคุณ : คุณซัมซุง - [ 28 ต.ค. 51 17:27:06 ]

ความคิดเห็นที่ 11 สุโค่ยยยยยย จากคุณ : ltf06 - [ 28 ต.ค. 51 17:33:14 ]

ความคิดเห็นที่ 12 มาดูสัตว์ประหลาด ในทะเลสาบ น่ากลัวนะ ถ้านึกว่าลงไปว่ายน้ำในทะเลสาบ แล้วจินตนาการว่าจะมีสัตว์ประหลาดโผล่มาไหม.. จากคุณ : iamnid - [ 28 ต.ค. 51 18:05:44 ]

ความคิดเห็นที่ 13 แก้ไขเมื่อ 28 ต.ค. 51 20:23:29 จากคุณ : linky - [ 28 ต.ค. 51 18:09:12 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เเจ่ม.......... จากคุณ : เจ้าชายแห่ง_โคโลญจ์ - [ 28 ต.ค. 51 18:10:48 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ป๊าด ช้างว่ายน้ำ จากคุณ : Natthanuch1 - [ 28 ต.ค. 51 18:34:41 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เจ้าของภาพในข้อ 13 เปิดเผยไปแล้วครับว่าเป็นการทำของเล่นขึ้นมาถ่าย ไม่ใช่ช้าง หรือตูดแมวน้ำอย่างที่หลายคนออกมาฟันธงกัน จากคุณ : หมอแมว - [ 28 ต.ค. 51 18:37:59 ]

ความคิดเห็นที่ 17 LOCH NESS                          ด้วยความเคารพ จากคุณ : บาเยงนอง - [ 28 ต.ค. 51 18:38:24 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ทำไมไม่ดำลงไปตรวจสอบหรือใช้วิทยาการทันสมัยอะไรก็ได้ลงไปตรวจสอบอะคะ ทะเลสาบนี้มันก็ไม่ได้กว้างอะไรเลย... มีตำนานมาเป็นพันปี กะแค่ไดโนเสาร์ตัวใหญ่ในน้ำ ทำไมหาไม่เจอซะที (ถ้ามีจริง) จากคุณ : Pretty_Cute_Girl - [ 28 ต.ค. 51 18:48:57 ]

ความคิดเห็นที่ 19 สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2550 หนังสือพิมพ์ซิดนีย์ มอร์นิ่ง เฮรัลด์ของออสเตรเลียรายงานว่า กอร์ดอน โฮล์มส์ พนักงานห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ วัย 55 ปี จากเมืองชิปลีย์ แคว้นยอร์กเชียร์ ประเทศอังกฤษ สามารถถ่ายวิดีโอสัตว์ประหลาดลึกลับแห่งทะเลสาบล็อคเนสในสกอตแลนด์ หรือที่เรียกกันว่า "เนสซี" (Nessie) ได้เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมปีเดียวกัน โดยบรรดาผู้เชี่ยวชาญทางด้านการเฝ้าดู "เนสซี" ระบุว่า เป็นวิดีโอที่ดีและเห็นชัดเจนที่สุดเท่าที่เคยถ่ายได้          ทั้งนี้ โฮล์มส์กล่าวว่า เขาแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเมื่อเห็นสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่สีดำ ความยาวประมาณ 15 เมตร เคลื่อนที่ด้วยความเร็วราว 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในผืนน้ำ ขณะที่ทะเลสาบล็อคเนสนั้นเต็มไปด้วยความลึกลับและตำนานที่เล่าขานกันมา เนื่องจากเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในเกาะอังกฤษ และมีความลึกถึง 230 เมตร          อย่างไรก็ตาม ตำนานของเนสซีถูกบันทึกไว้เมื่อปี พ.ศ.1108 (ค.ศ.565) โดยนักบุญโคลัมบา หนึ่งในผู้ก่อตั้งศาสนาคริสต์นิกายเชิร์ช ออฟ สกอตแลนด์ แต่หลังจากที่ศัลยแพทย์รายหนึ่งสามารถถ่ายภาพของมันได้เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2477 ก็มีผู้อ้างว่าได้เคยเห็นเนสซีกว่า 4,000 ครั้ง ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็เริ่มมีผู้ที่สนใจศึกษาเรื่องของเนสซีอย่างจริงจังมากขึ้น          ถึงกระนั้นเรื่องราวเกี่ยวกับ เนสซี ก็มีทั้งผู้ที่เชื่อ และผู้ที่ไม่เชื่อ โดยผู้ที่เชื่อ เชื่อว่าเนสซีอาจเป็นไดโนเสาร์ที่ยังหลงเหลืออยู่ โดยสภาพทางภูมิศาสตร์ของทะเลสาบล็อคเนสในยุคโบราณนั้นเคยเป็นทะเลมาก่อน ไดโนเสาร์ในสมัยนั้นอาจเข้ามาอยู่อาศัย จนสภาพของพื้นที่เปลี่ยนไปกลายเป็นพื้นที่ปิด และปราศจากสิ่งรบกวน สัตว์ที่อาศัยอยู่ในนี้จึงยังหลงเหลืออยู่ และมีสภาพไม่เปลี่ยนแปลงจากครั้งแรกที่เข้ามาอาศัย ไม่เพียงเท่านั้น แหล่งน้ำหรือทะเลสาบที่มีลักษณะใกล้เคียงกับบล็อคเนสที่อื่นๆ และบริเวณใกล้เคียงกัน ก็มีรายงานการพบสิ่งประหลาดที่คล้ายกับเนสซีด้วย          ขณะที่ฝ่ายที่ไม่เชื่อ เชื่อว่ารูปถ่ายหรือภาพเคลื่อนไหวที่มีผู้บันทึกได้นั้น อาจไม่เกี่ยวกับเนสซีเลย และทั้งหมดทำขึ้นก็เพื่อสร้างชื่อเสียงให้ทะเลสาบแห่งนี้โด่งดังขึ้น โดยบางรูปเชื่อว่าเป็นเพียงหางของตัวนากที่กำลังดำน้ำ หรือเป็นขอนไม้หรือวัสดุต่างๆ ที่กำลังลอยน้ำอยู่ ซึ่งในเวลาต่อมาก็ได้มีผู้ที่อ้างว่าถ่ายรูปเนสซีได้รายหนึ่ง เปิดเผยว่า แท้ที่จริงแล้วรูปถ่ายเนสซีนั้น เป็นเพียงเรื่องแหกตาที่ตนกับพ่อเลี้ยงสร้างขึ้นนั่นเอง          ทุกวันนี้... เรื่องราวของเนสซีก็ยังเป็นเรื่องลึกลับที่เป็นที่สนใจของคนทั้งโลก มีผู้ไปสำรวจและศึกษามากมาย แต่ก็ยังไม่เคยมีผู้ใดได้หลักฐานของเนสซีที่หนักแน่นสักราย อย่างไรก็ตาม ชื่อเสียงของเนสซีก็สร้างรายได้ให้แก่รัฐบาลสกอตแลนด์และชุมนุมใกล้เคียง เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาเที่ยวเป็นจำนวนมาก ที่มา http://web.bangmod.ac.th/newsboard2006/view_news.asp?news_id=2921 จากคุณ : Mr.Terran - [ 28 ต.ค. 51 19:04:07 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ครับ ขอบคุณคุณบาเยงนอง  #17 ด้วยครับ พอดีรีบไปหน่อย จากคุณ : Mr.Terran - [ 28 ต.ค. 51 19:09:31 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณมากนะครับ ในความคิดของผม ถ้าเนสซี่มีจริง บิ๊กฟุตก็ต้องมีจริง มังกร พญานาค สัตว์ประหลาดต่างๆทั่วโลก ก็คงมีจริงเหมือนกัน เพราะสัตว์เหล่านี้ อิงอยู่กับความเชื่อ และจิตนาการของคน แม้ว่าความจริงมันจะโหดร้ายสำหรับความฝันของหลายๆคน แต่ถ้ามันมีประโยชน์กับเศรษฐกิจเป็นจุดขายให้กับท้องถิ่นสร้างรายได้ปีละมากๆ ก็ไม่แปลกที่สมาชิกในชุมชนจะยินยอมพร้อมใจกันอุปโลกให้มันดูเหมือนกับมีจริง จากคุณ : knine2five - [ 29 ต.ค. 51 07:55:34 ]

ความคิดเห็นที่ 22 คห.20 มันคืออะไรน่ะ จากคุณ : Archi - [ 29 ต.ค. 51 08:52:59 ]

ความคิดเห็นที่ 23 คห.21 ไม่จำเป็นว่าทุกอย่างที่เดป็นความเชื่อจะต้องมีจริง เสมอไปนี่ครับ ทุกอย่างมันต้องมีเหตุมีผล ครับ อย่างที่ จีนเคยมีการบันทึกไว้ว่า เคยมีมังกรบินเหนือปราสาท วัง(อะไรที่สักอย่าง) บินไปบินมา และมังกรของจีนที่พบเห็นจากรูปวาดบ่อยๆ ไม่มปีกนะครับ มันเหาะได้ไงอ่ะ? ถ้าเป็นมังกร ฝรั่งยังพอเชื่อได้ (ไม่ได้เชื่อทุกอย่าง จากทางยุโรปนะครับ) ตรงกันข้ามสังเกตุดูแล้ว ฝรั่งเนี่ยล่ะ มีความเชื่ออะไรต่อมิอะไร มากมายเหลือเกิน สัตว์ประหลาดจากความเชื่อ ส่วนมากจะโผล่แถบนั้นตลอดเลย ก็แค่สงสัยจากความเป็นไปได้น่ะครับ บางที พญานาค มังกรบิ๊กฟุต เยติ อาจจะเป็นสัตว์ชนิดหนึ่ง ที่เคยมีมาบนโลกก็ได้ครับ โลกมีเกิดขึ้นมานานมากแล้ว ถ้าจะมีอะไรแปลกๆที่เคยเกิดและ สูญหายไปแล้ว มันเป็นเรื่องแปลกตรงไหน มันเป็นเรื่องธรรมดาทั้งนั้น แต่คนเราเองที่คิดว่ามัน "แปลก" จากคุณ : hahesf (hahesfha) - [ 29 ต.ค. 51 09:49:22 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ลองถาม Angus McMorrow ดูครับ จากคุณ : PV - [ 29 ต.ค. 51 10:03:04 A:203.155.78.243 X: TicketID:102349 ]

ความคิดเห็นที่ 25 บ้านเรา ถ้าไป ดำหา ต้นเหตุของบังไฟ พญานาค สงสัย คน ต้นคิด คงโดนถล่ม ซะก่อน ว่าแต่ ถ้า มันมีอยู่จริง มันกินอะไรเป็นอาหาร? ด้วย ขนาดที่ใหญ่ ขนาดนั้น ถ้า มันมีสองตัว สืบพันธ์ ยังไง ครับ หรือมีตัวเดียว แต่ อายุยืนยาวนานสุดๆ ถ้าสืบพันธ์ ได้ แล้ว ลูกๆ มันละครับ ไม่น่าจะออกมาตัวเดียว นิ  ??? จากคุณ : vn, man - [ 29 ต.ค. 51 10:18:09 ]

ความคิดเห็นที่ 26 นึกถึงโดเรมอน จากคุณ : + (yongiee) - [ 29 ต.ค. 51 22:57:38 ]

ความคิดเห็นที่ 27 นึกถึงโนบิตะ จากคุณ : baszard25 - [ 30 ต.ค. 51 16:14:14 ]