ความคิดเห็นที่ 1 เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น ผมขอท้าวความสักนิดครับ ตาของคนเรามีหลักการง่ายๆเหมือนกล้องถ่ายรูป  เวลาเรามองอะไร แสงจะวิ่งผ่านกระจกตาดำ (cornea) และเลนส์ตา (lens) ซึ่งทั้งสองส่วนนี้ เปรียบเหมือนระบบเลนส์กล้อง ภาพที่ได้จากการหักเหแสงของกระจกตาดำ และเลนส์ตา จะไปตกที่จอประสาทตา (retina) ซึ่งทำงานเหมือนฟิล์มกล้องถ่ายรูป ระหว่างเลนส์ตา และจอประสาทตา จะมีส่วนของน้ำใสๆ ลักษณะคล้ายวุ้น เรียกว่า น้ำวุ้นตา หรือวุ้นตา (vitreous) จากคุณ : หมอเถื่อน - [ 4 ธ.ค. 51 08:30:20 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ของตาเราก็ประมาณนี้ จากคุณ : หมอเถื่อน - [ 4 ธ.ค. 51 08:30:50 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ตอนเราอายุน้อยๆ วุ้นตาจะใส ไม่มีตะกอน และแนบติดกับด้านหน้าของจอประสาทตา แนบติดกับด้านหลังของเลนส์ เมื่อมีเหตุอะไรสักอย่าง เช่น - อายุเกิน 40 (สัญญาณแก่เริ่มมา....อิอิ) - มีอุบัติเหตุกระแทกที่ตา หรือเคยผ่าตัดในตามาก่อน - สายตาสั้น โดยเฉพาะสั้นกว่า 600 - เคยมีตาอักเสบรุนแรง (uveitis) - โรคของวุ้นตาบางโรค เช่น Jansen disease, Wagner disease, Stickler syndrome มีแต่ชื่อประหลาดๆครับ วุ้นตาก็จะเสื่อม แก้ไขเมื่อ 04 ธ.ค. 51 08:32:10 แก้ไขเมื่อ 04 ธ.ค. 51 08:31:59 จากคุณ : หมอเถื่อน - [ 4 ธ.ค. 51 08:31:41 ]

ความคิดเห็นที่ 4 นี่ตาปกติ จากคุณ : หมอเถื่อน - [ 4 ธ.ค. 51 08:32:58 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ซึ่งการเสื่อมก็จะมีสองขั้นตอนใหญ่ๆ 1. วุ้นตาเริ่มขุ่นเป็นตะกอน (vitreous syneresis, vitreous degeneration, vitreous liquefaction) - อันที่จริงวุ้นตา ไม่ใช่วุ้นใสๆเบสิคๆเหมือนปีโป้ หรือเยลลี่ แต่จริงๆแล้วมันเป็นโครงข่ายของเส้นใยคอลลาเจน ซึ่งมีน้ำอยู่มากถึง 90%    โครงข่ายเส้นใจคอลลาเจนเหล่านี้ ตอนปกติมันก็เป็นเส้นเล็กละเอียดๆ เรียงเป็นระเบียบ  ทำให้เราไม่สามารถมองเห็นเงาของเส้นใยเหล่านี้ พอวุ้นตาเสื่อม เส้นใยคอลลาเจนเหล่านี้ บางเส้นจะขาดเป็นท่อนๆ บ้างเส้นใยก็หนาขึ้น จับตัวกันเป็นก้อนๆ และเสียความใสไป ทำให้คนที่มีวุ้นตาขุ่น เริ่มเห็นตะกอน ซึ่งอาจบรรยายเป็นใยแมงมุม, จุดๆ, เส้นๆ หรือหมอกๆ ลอยไปมาตามการกลอกตา (เพราะเมื่อเรากลอกตา วุ้นตาก็จะเลื่อนลอยไปตามด้วย) โดยมากมักจะไม่ถึงกับเห็นตะกอนเหล่านี้ตลอดเวลา จะเห็นได้เฉพาะช่วงที่ภาวะของแสงเหมาะสม เช่น มองออกไปที่ท้องฟ้าในวันฟ้าสว่างๆ, การอ่านหนังสือ กลอกตาซ้ายขวา ทำให้วุ้นตาเลื่อนไปมามาก เห็นมันง่ายขึ้น เป็นต้น จากคุณ : หมอเถื่อน - [ 4 ธ.ค. 51 08:33:42 ]

ความคิดเห็นที่ 6 2. วุ้นตาหลุดออกจากจอประสาทตา (posterior vitreous detachment) - ท้าวความอีกสักเล็กน้อย ว่าวุ้นตาของเรา จะเกาะกับจอประสาทตาแต่ละส่วนด้วยความแข็งแรงไม่เท่ากัน จุดที่มันเกาะแน่นที่สุด อยู่ที่ด้านหน้าๆของจอประสาทตา ใกล้ๆกับบริเวณด้านหลังของเลนส์  เราเรียกบริเวณนี้ว่า ฐานของวุ้นตา (ไม่รู้จะแปลยังไงดี จากคำว่า vitreous base) ส่วนที่เกาะแน่นรองๆลงมาคือ รอบๆขอบขั้วประสาทตา (optic disc), บริเวณจุดรับภาพ (macula) และตามแนวเส้นเลือดบนจอประสาทตา (retinal vessels) ดังนั้น เมื่อวุ้นตาหดตัว มันจึงมักจะค่อยๆแยกจากจอประสาทตาด้านหลัง แถวๆขั้วประสาทตา กับจุดรับภาพก่อน แล้วเลื่อนตัวเข้ามาหาฐานของมันที่อยู่ด้านหน้า ในระยะนี้ คนไข้บางคนอาจสังเกตเห็นตะกอนมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้เพราะ บ่อยครั้งที่ วุ้นตาที่อยู่บริเวณขอบของขั้วประสาทตา จะหนาตัวขึ้นเป็นเส้นแนววงกลม เมื่อวุ้นตาแยกตัวออกมาปุ๊บ เจ้าวงนี่ก็จะทำให้คนไข้เห็นเงาเป็นวงเบี้ยวๆของมันปั๊บ (ซึ่งเมื่อวุ้นตาหลุดออกมาจากขั้วประสาทตา วงนี้จะเบี้ยวๆ หรือโย้ๆไป) คนไข้หลายๆรายจะบอกได้ชัดเลยว่า เห็นเป็นเงาโค้งๆ หรือเป็นวงกลม วงรี ลอยไปมาทางหางตา  - floaters ในบางครั้ง บางคน เมื่อกลอกตาเร็วๆในที่มืด ตัววุ้นตาจะแกว่งไปกระทบจอประสาทตา หรือเกิดแรงดึงรั้งที่จอประสาทตา ตรงรอยต่อระหว่างส่วนที่วุ้นตาแยกจากจอประสาทตาแล้ว กับส่วนที่วุ้นตายังติดกับจอประสาทตาอยู่ นี่จะเป็นการกระตุ้นจอประสาทตาด้วยแรงกล และมันจะแปลผิดเป็นแสงแว่บ แสงแฟลช  - flashing - คงคล้ายๆกับที่บางท่าน 'เห็นดาว' ตอนโดนชก ส่วนช่องว่างที่อยู่ระหว่างวุ้นตา กับจอประสาทตา ตาของเราก็จะสร้างน้ำใสๆเข้ามาเติมเต็ม จากคุณ : หมอเถื่อน - [ 4 ธ.ค. 51 08:34:41 ]

ความคิดเห็นที่ 7 หลังจากนั้นหลายๆเดือน เมื่อการแยกชั้นสมบูรณ์ขึ้น  แสงแว่บก็จะน้อยลง และค่อยๆหายไป ตะกอนในวุ้นตาจะค่อยๆคงที่อยู่นานหลายเดือนหรือหลายปี ทำให้คนที่เป็นเห็นจุดๆเส้นๆพวกนี้อยู่พักหนึ่ง แล้วค่อยๆลดลง (ที่คนที่เป็นสังเกตเห็นเงาของมันลดลง เพราะวุ้นตาหดตัวมากขึ้น ตะกอนพวกนี้จะลอยมาอยู่ด้านหน้า ห่างจากจอประสาทตามากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้คนไข้สังเกตเห็นเงาของมันน้อยลง (กฏง่ายๆ ที่ว่า วัตถุอยู่ใกล้ฉาก เห็นเงาได้ง่ายและชัดกว่าวัตถุอยู่ไกลฉาก) ในคนทั่วไป เรื่องก็มีแค่นี้ครับ ซึ่งเราก็ไม่ต้องทำอะไร เพราะส่วนมาก มันก็แค่สร้างความรำคาญเท่านั้น จากคุณ : หมอเถื่อน - [ 4 ธ.ค. 51 08:35:37 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ---- อ้างอิงจากคห.6 วุ้นตาที่อยู่บริเวณขอบของขั้วประสาทตา จะหนาตัวขึ้นเป็นเส้นแนววงกลม เมื่อวุ้นตาแยกตัวออกมาปุ๊บ เจ้าวงนี่ก็จะทำให้คนไข้เห็นเงาเป็นวงเบี้ยวๆของมันปั๊บ (ซึ่งเมื่อวุ้นตาหลุดออกมาจากขั้วประสาทตา วงนี้จะเบี้ยวๆ หรือโย้ๆไป) คนไข้หลายๆรายจะบอกได้ชัดเลยว่า เห็นเป็นเงาโค้งๆ หรือเป็นวงกลม วงรี ลอยไปมาทางหางตา  - floaters นี่คือภาพเจ้าวงของวุ้นตาที่ขุ่นเป็นวงมาก (เคยอยู่รอบขอบเส้นขั้วประสาทตามาก่อน) จากคุณ : หมอเถื่อน - [ 4 ธ.ค. 51 08:36:53 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ยกเว้นกรณีที่ 1. ตะกอนบางก้อนในวุ้นตา ขนาดใหญ่มาก จนเกิดปรากฏการณ์จันทรคาตร...นี่ก็เว่อร์ไป...จนบังการมองเห็น  ก็อาจใช้เลเซอร์ยิงให้ตะกอนขนาดโตๆเหล่านี้ แตกเล็กลง - วิธีนี้ยังไม่ใช่มาตรฐาน ถือเป็นการทดลอง เพราะว่ามีความเสี่ยงสูง ถ้าเกิดโชคร้าย เลเซอร์ไม่สอยตะกอน ไปสอยจอประสาทตาตรงจุดรับภาพแทน ก็ยุ่งได้ อาจถึงขั้นมัวกันชั่วชีวิต 2. ตะกอนมีจำนวนมากๆๆๆ จนวุ้นตาขุ่นไปซะหมด ทำให้มัว อันนี้ก็ผ่าตัดล้างเอาตะกอนออกได้ (pars plana vitrectomy) จากคุณ : หมอเถื่อน - [ 4 ธ.ค. 51 08:37:41 ]

ความคิดเห็นที่ 10 แต่จะมีบางคน ที่มีเรื่องอื่นๆต่อ ซึ่งเป็นเรื่องร้ายแรง 1. เลือดออกในวุ้นตา (vitreous hemorrhage) ดังที่ได้กล่าวมาแล้วว่า วุ้นตาเกาะกับจอประสาทตาค่อนข้างแข็งแรงตามแนวเส้นเลือด บางครั้ง ถ้ามีบางจุดที่มันเกาะแน่นมากๆ เมื่อวุ้นตาหดตัว วุ้นตาอาจไม่แยกออกมา แต่กลับทำให้ผนังเส้นเลือดฉีกขาดแทน เลือดก็ไหลฟุ้งเข้าไปในวุ้นตากับช่องระหว่างวุ้นตากับจอรับภาพ ทำให้คนไข้มัวมากๆทันที (เห็นเหมือนหมอกลงจัด) ถ้าในที่แสงน้อยๆ คนไข้จะเห็นเป็นเงาดำๆ ถ้าในที่แสงจ้าๆ กลางแดด หรือเอาไฟฉายส่อง บางคนจะเห็นเป็นสีแดงสดของเลือดได้ครับ จากคุณ : หมอเถื่อน - [ 4 ธ.ค. 51 08:38:24 ]

ความคิดเห็นที่ 11 การรักษา -------- ถ้าเลือดออกไม่มาก เราก็รอให้มันดูดซึมไปเอง -------- ถ้าเลือดออกมาก (บางครั้งมากจนหมอตายังส่องหาจอประสาทตาไม่เจอ) ก็อาจจะพิจารณาผ่าตัดล้างเลือดออก นี่รูปการผ่าตัดล้างมันออก มีหมอทำแบบนี้ได้ราว 50-60 คนในเมืองไทย จากคุณ : หมอเถื่อน - [ 4 ธ.ค. 51 08:39:08 ]

ความคิดเห็นที่ 12 2. จอประสาทตาฉีกขาด (retinal break, retinal tear) เหตุผลเหมือนข้อ 1 คือ ในระหว่างที่วุ้นตาหดตัว บางจุดที่วุ้นตาเกาะกับจอรับภาพแน่นกว่าปกติ จะดึงจอรับภาพให้ฉีกขาด ถ้าจอรับภาพฉีกขาด (อาจมีเลือดออกเหมือนข้อ 1 ร่วมด้วยหรือไม่ก็ได้) คนไข้จะเห็นแสงแว่บบ่อยมากๆๆๆ เพราะเมื่อกลอกตา จอรับภาพบริเวณที่ฉีกขาดออกมาจะเคลื่อนไหวมากกว่าปกติ (เพราะยังมีวุ้นตาซึ่งเลื่อนตัวง่ายเกาะติดอยู่) บางคนบอกว่าเห็นแสงแว่บเหล่านี้ วันนึงห้าหกสิบครั้ง ในกรณีนี้ ถ้าไม่ทำอะไร อาจเป็นไปได้สองอย่าง -------- วุ้นตาแยกชั้นออกจากจอประสาทตาส่วนที่ฉีกขาดได้เอง อันนี้ก็จบ ไม่ต้องทำอะไร -------- วุ้นตาดึงจอประสาทตามากขึ้นเรื่อยๆ จนจอประสาทตาทั้งหมดหลุดลอกออก (เข้าสู่กรณีข้อ 3) ในรูป แสดงจุดที่วุ้นตาเกาะกับจอรับภาพแน่นกว่าบริเวณอื่น อยู่ด้านบนของภาพครับ จากคุณ : หมอเถื่อน - [ 4 ธ.ค. 51 08:40:31 ]

ความคิดเห็นที่ 13 นี่ก็จอรับภาพโดนวุ้นตาดึงฉีกออก จากคุณ : หมอเถื่อน - [ 4 ธ.ค. 51 08:41:37 ]

ความคิดเห็นที่ 14 โดยทั่วไปแล้ว การมีจอประสาทตาหลุดลอกเป็นเรื่องใหญ่ ถ้ารักษาช้าก็มัวมาก รักษาไม่ได้ก็บอดกัน เราจึงมักให้การรักษาจอประสาทตาที่ฉีกขาด ด้วยการฉายเลเซอร์ หรือจี้ความเย็นที่จอประสาทตาบริเวณรอบๆรอยฉีกขาดนั้น (laser/ cryoretinopexy) - เลเซอร์ หรือการจี้ความเย็น ไม่ได้ปิดรอยฉีกของจอประสาทตา แต่เป็นการสร้างแรงยึดเหนี่ยวระหว่างจอประสาทตากับลูกตารอบบริเวณรอยฉีก (เหมือนปะกาวรอบๆรอยฉีก ประมาณนั้น.....) ถ้าไม่ได้รักษา หรือรักษาแล้วคนไข้ยังโชคร้าย - เช่น เกิดรอยฉีกขาดใหม่บริเวณอื่นของจอประสาทตา, แรงดึงรั้งของวุ้นตา เอาชนะแรงยึดเหนี่ยวที่เราเติมเข้าไป - ก็จะเข้าสู่กรณีที่ 3 จากคุณ : หมอเถื่อน - [ 4 ธ.ค. 51 08:44:13 ]

ความคิดเห็นที่ 15 นี่เลเซอร์เรียบร้อย จากคุณ : หมอเถื่อน - [ 4 ธ.ค. 51 08:45:00 ]

ความคิดเห็นที่ 16 จ๊าก...ไม่ใช่ นั่นมันดาบเลเซอร์ อันนี้ต่างหาก ที่เลเซอร์เรียบร้อย จากคุณ : หมอเถื่อน - [ 4 ธ.ค. 51 08:45:46 ]

ความคิดเห็นที่ 17 3. จอประสาทตาหลุดลอก (retinal detachment)  รายการนี้แย่ที่สุด จอประสาทตาหลุดลอกออกมาจากลูกตาด้านใน (ลองจินตนาการตอนคุณพยายามเอาช้อนขูดเนื้อมะพร้าวเผาออกจากลูกมะพร้าวให้เป็นชิ้นเดียวโตๆ  ให้อารมณ์เดียวกันครับ)   จอประสาทตาเรา เป็นเนื้อเยื่อบางๆ แต่ก็ยังประกอบด้วยชั้นที่บางย่อยลงไปอีก 10 ชั้น ชั้นย่อยที่อยู่ด้านใน ชิดกับวุ้นตา อาศัยเลือดมาเลี้ยงจากเส้นเลือดที่จอประสาทตาเอง ชั้นย่อยที่อยู่ด้านนอก อาศัยเลือดจากเส้นเลือดของชั้น choroid ซึ่งอยู่นอกกว่าจอประสาทตา ดังนั้น ถ้ามันหลุดออกมา ชั้นย่อยนอกๆ ก็ขาดเลือดมาเลี้ยง - เซลล์รับแสงของเรา ทั้งรูปแท่ง รูปกรวย อยู่ชั้นย่อยนอกสุดนี้ครับ มันก็จะค่อยๆตายไปเรื่อยๆ การซ่อมแซม ทำได้ด้วยการเอาจอประสาทตาที่หลุดกลับเข้าไปติดใหม่ ซึ่งยุ่งยาก ทรมาณคนไข้ และในบางราย สร้างความเหน็ดเหนื่อยให้ทั้งหมอ ทั้งคนไข้ และญาติ จากคุณ : หมอเถื่อน - [ 4 ธ.ค. 51 08:46:39 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขั้นตอนโดยทั่วไปที่เราทำเวลาคนไข้มาหาด้วยเรื่องตะกอน/หมอก/จุดลอย คือ เรามักจะขยายม่านตา ตรวจดูว่ามีวุ้นตาเสื่อม/จอประสาทตาฉีกขาด/จอประสาทตาหลุดลอกหรือไม่ 1. ถ้ามีจอประสาทตาหลุดลอก ก็ส่งให้หมอจอประสาทตา (retina specialist) ผ่ากัน 2. ถ้ามีจอประสาทตาฉีก ก็เลเซอร์หรือจี้ความเย็นกัน แล้วนัดตรวจซ้ำ ------------------ ถ้าตรวจแล้วเกิดแรงยึดเหนี่ยวไม่พอ ก็รักษาซ้ำ ------------------ ถ้าตรวจแล้วมีรอยฉีกขาดใหม่เพิ่มเติม ก็เพิ่มการรักษาเข้าไปอีก ------------------ ถ้าตรวจแล้วมีจอประสาทตาหลุดลอก ก็ส่งไปผ่ากัน (ในช่วง 1-2 วันแรกยิ่งผ่าเร็ว การมองเห็นก็ยิ่งฟื้นมาก, ถ้าปล่อยให้จอประสาทตาหลุดหลายๆเดือนหรือเป็นปี แม้เราจะทำให้มันกลับเข้าไปติดได้ การมองเห็นก็ไม่กลับมา เพราะเซลล์รับแสงเสียชีวิตในที่เกิดเหตุหมดแล้ว) 3. ถ้าไม่มีจอประสาทตาฉีกขาดหรือหลุดลอก ก็นัดตรวจซ้ำ และแนะนำคนไข้ว่า ------------------- มาหาตามนัดนะครับ ------------------ ถ้ามีอาการไม่เข้าท่า อันได้แก่ ตามัวลง, หมอก/ตะกอน/ฝุ่นมากขึ้น, เหมือนมีม่านบังด้านใดด้านหนึ่ง ให้มาก่อนนัดทันที ------------------ อย่าเอาตัวเองไปเสี่ยงกับกิจกรรมที่จะมีการกระแทกตาโดยตรง เช่น มวยสากลสมัครเล่น, อเมริกันฟุตบอล, รักบี้, กีฬาปะทะทั้งหลาย ------------------ การออกกำลังกายแบบชาวบ้านๆ ไม่เพิ่มความเสี่ยงอะไร กระโดดโลดเต้นได้ แกว่งแขนขาไปมา วิ่งได้ ------------------ ทำบุญเยอะๆ (อันนี้อาจไม่ statistically significant   แต่ก็เป็นเรื่องดีที่คนเราจะทำความดีเพิ่มเติมมิใช่หรือ) จากคุณ : หมอเถื่อน - [ 4 ธ.ค. 51 08:47:45 ]

ความคิดเห็นที่ 19 คุณพ่อก็เคยเป็นครับ ลองไปดูใน blog ผม จากคุณ : Practical x 2 - [ 4 ธ.ค. 51 08:50:37 ]

ความคิดเห็นที่ 20  ยอดเยี่ยมครับ คุณหมอเถื่อน โหวตและเก็บเข้าคลังกระทู้ทันที จากคุณ : 447 - [ 4 ธ.ค. 51 08:50:57 ]

ความคิดเห็นที่ 21 จบแค่นี้แล้วล่ะ มีคำถามอะไรเชิญนะครับ ผมจะแวะ...เข้ามาดู....เรื่อยๆ references (ส่วนใหญ่จิ๊กรูปเค้ามา) - Bethesda eye hospital - Lions eye institute/ AUS - www.center-for-sight.com - newyork eye and ear infirmary - และอื่นๆ ช่วงนี้พระจันทร์สวยนะครับ... จากคุณ : หมอเถื่อน - [ 4 ธ.ค. 51 08:51:50 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ผมเป็นๆ หายๆ นะ - -* ได้ใยแมงมุมลอยไปลอยมาเนี่ย แต่ยังไม่แก่อ่ะ จากคุณ : vn, man - [ 4 ธ.ค. 51 08:54:59 ]

ความคิดเห็นที่ 23 กระทู้นี้ ผมจะเอาไปปล่อยใน www.ไทยคลินิก.com ที่สิงสถิตย์ประจำอีกแห่งของผมในเน็ทครับ เผื่อให้เพื่อนพ้องน้องพี่หมอๆอ่านเล่นกัน ----------------------------------------- ช่วงนี้ว่างจังนิ ทำผ่าตัดไม่ค่อยได้เลย ห้องผ่าตัดตาที่รพ.ผมมี 5 ห้อง ตอนนี้ชั้นบนเค้าซ่อมแซม รื้อทุบ renovate กันใหม่  เลยมีทั้งฝุ่นทั้งน้ำหยดผ่านฝ้าลงมาที่ห้องผ่าตัดผม ต้องปิดสนิทงดเคสไป 1 ห้อง อาทิตย์หน้า ต้องปิดหมด 5 ห้องไปราวๆอาทิตย์นึง หวังว่ามันคงจะเสร็จตามที่ผู้รับเหมากะเอาไว้ เลื่อนคนไข้กันกระจาย....เซ็งเป็ด..... คนไข้ก็บ่น หมอก็บ่น บ่น บ่น บ่น... จากคุณ : หมอเถื่อน - [ 4 ธ.ค. 51 09:01:20 ]

ความคิดเห็นที่ 24 สวัสดีครับ ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆ คุณหมอเถื่อน อยู่รามาหรอครับ จากคุณ : Num..na - [ 4 ธ.ค. 51 09:05:55 ]

ความคิดเห็นที่ 25 คุณพ่ออาจารย์แพร็ก ใครผ่าให้ครับเนี่ย อ.นิมิตร? อ.ดิเรก? แต่ยังไง ทั้งสองท่านก็ระดับป๋าอยู่แล้ว :) ผมเป็นลูกศิษย์อาจารย์ทั้งสองท่านนั้นครับ ทีแรกก่อนเรียนหมอตา อยากเรียน oculoplastic พอเจออ.นิมิตรกับอ.ดิเรกเข้า เปลี่ยนทันที.....เรียน retina ดีกั่ว หุหุ คิดถึงเจียงใหม่จัง คงหนาวดีนะครับ จากคุณ : หมอเถื่อน - [ 4 ธ.ค. 51 09:07:23 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ผมเป็นเหมือน#22เลย กระทู้ดีมีสาระครับ จากคุณ : บะหมี่^^ผีแดง - [ 4 ธ.ค. 51 09:21:14 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เราเป็นตั้งแต่อายุ 20 จอประสาทตาฉีก หมอยิงเลเซอร์ไปแล้ว ขอถามคุณหมอเถื่อน เรามีอาการอีกอย่าง ไม่รู้จะเรียกว่าอะไร ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย แต่เคยเป็นมาสองครั้งแล้ว คือเห็นจุดเบลอๆลายๆในสายตา จุดลายๆนี้ ถ้าดูให้ดีๆมันเหมือนกับเวลาเห็นทีวีลายๆ ไม่มีสัญญาณ เป็นกลุ่มจุดสีเล็กๆกระพริบถี่ๆ เวลาเป็นจะรำคาญสายตามาก หลับตาก็ยังเห็นเลยบอกไม่ได้ว่าเป็นที่ตาข้างไหนกันแน่ จะว่ามันคล้ายกับภาพติดตาที่เกิดจากการมองแสง หรือจ้องอะไรนานๆก็ไม่ได้ เพราะมันไม่ยอมหายไปง่ายๆ ที่ประหลาดคือ จุดลายๆนี้จะค่อยๆขยายกว้างออก กระจายเป็นเส้นโค้งออกไปทางขอบสายตาเรื่อยๆจนออกนอกสายตาไปในที่สุด ใช้เวลาเป็นชั่วโมง แล้วแต่ว่ามันจะเริ่มตรงจุดไหนของสายตา ครั้งแรกที่เป็นมันเกิดขึ้นด้านบนๆหน่อยก็เลยหายไปเร็ว แต่ครั้งล่าสุดเนี่ย มันเริ่มตรงกลางสายตาเลย รำคาญมาก กว่ามันจะไป อยากรู้ว่าอาการอย่างนี้มันเรียกว่าอะไร แล้วมันเกิดจากอะไรกันแน่ เกี่ยวกับจอประสาทตารึเปล่า เคยคิดจะตั้งกระทู้ถามเหมือนกัน แต่เดี๋ยวใครเห็นจะคิดว่า ถามเรื่องวุ้นในตาเสื่อมกันอีกแล้ว ไหนๆคุณหมอเถื่อนก็มาให้ความรู้ทั้งที ขอฝากถามเอาไว้ด้วยเลย เผื่อใครจะเคยมีอาการอย่างเรามั่ง จากคุณ : ari - [ 4 ธ.ค. 51 09:22:22 A:125.24.142.71 X: TicketID:102543 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ขอบคุณครับ จากคุณ : jedi-jaidee - [ 4 ธ.ค. 51 09:31:00 ]

ความคิดเห็นที่ 29 วุ้นเสื่อม ไม่มีเปลี่ยนเหรอครับ เราเพาะแบบ stem cell ได้ป่าว ผมรุ่นเดียวกับ หมอ อ๋อย รุ่งทิพย์ ที่ รพ. ภูมิพล ครับ จากคุณ : น้าพร - [ 4 ธ.ค. 51 09:43:51 ]

ความคิดเห็นที่ 30 เคยเห็นเป็น FW mail ไม่นึกว่าจะเป็นเรื่องจริงนะเนี่ย O_o ขอบคุณคุณหมอเถื่อนมากค่ะ :) จากคุณ : เมอแรงก์มะนาว - [ 4 ธ.ค. 51 10:04:34 ]

ความคิดเห็นที่ 31 คุณหมอดิเรกครับ บ้านคุณหมอที่สวนดอกอยู่ตรงข้ามบ้านผมเลย แต่ตอนนี้ผมกับที่บ้านย้ายออกมาแล้ว จากคุณ : Practical x 2 - [ 4 ธ.ค. 51 10:06:58 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณมาก ๆ ครับ ผมเคยเห็นแสงแว้บในลูกตา ตอนจ้องคอม รีบไปหาหมอเลย หมอส่องจอประสาทตาแล้วบอกปกติ เสียไป 280 บาท โอ้ววว เสียตังค์แล้วสบายใจจัง ^ ^ กลัวจะเป็นเสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย (อาจจะเสียดวงตาไปด้วย) จากคุณ : อิฐมอญ - [ 4 ธ.ค. 51 10:58:11 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ผมเป็นแบบที่เห็นทั้งใยแมงมุม แล้วก็แสงแว๊บๆ เห็นตลอดเวลาเลยครับ ตอนแรกตระหนก และ รำคาญมาก ไปหาหมอที่โรงพยาบาลตาอยู่เป็นปีครับ แต่หมอบอกว่าทุกอย่างในตาผมก็แข็งแรงดี เนื่องจากผมย้ายที่อยู่ ก็เลยไม่ได้หาหมอตา มานานแล้วครับ ทุกวันนี้ผมก็ยังเห็นอยู่ทั้งไยแมงมุม และไอ้แสงแว่บๆนั่น แต่ผมก็อยู่กับมันอะครับ ทำเป็นแกล้งๆไม่เห็นไป ก็อยู่ได้ปกติ ถามครับ ผมควรไปตรวจสายตาบ่อยแค่ไหนครับ ? หวังว่าจะไม่อันตรายขึ้นนะครับ เพราะ หมอคนเก่าแกบอกว่า ถ้าอาการยังเหมือนเดิมก็ไม่ต้องไปหาหมอก็ได้ จากคุณ : พิสุข - [ 4 ธ.ค. 51 11:06:58 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ น่าสนใจมาก จากคุณ : ksk - [ 4 ธ.ค. 51 11:17:44 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เข้ามาเก็บความรู้ แล้วก็ดูหมอคุยกัน จากคุณ : AW Milan - [ 4 ธ.ค. 51 12:00:03 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ให้หนึ่งโหวตกับหนึ่ง give เลย ชอบในสำนวนภาษา จากคุณ : chaos_r - [ 4 ธ.ค. 51 12:40:35 ]

ความคิดเห็นที่ 37 มา Give & Vote ไว้ก่อนเลยครับ เดี๋ยวมาอ่านอีกทีนึง ^^ จากคุณ : ninji - [ 4 ธ.ค. 51 14:36:42 ]

ความคิดเห็นที่ 38 อายุ 14 แล้วป็นอ่ะครับ เป็นมา 2 ปี ได้แล้วมั้งครับ ไปหาหมอแล้วหมอบอกว่าเป็นโรคนี้ล่ะครับ จากคุณ : สุกี้๒จาน - [ 4 ธ.ค. 51 17:00:10 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ********* ขอถามหน่อยครับ ********** เวลาที่มีฝุ่นหรือขนตาเข้าตาผม ตาจะแดง+อักเสบอย่างรุนแรง จนเปลือกตาล่าง (ข้างใน) (ไม่รู้เหมือนกันว่าเรียกว่าไร แต่ลองใช้นิ้วจับเปลือกตาล่างลงมา) มันบวมมากๆ..... ลักษณะเหมือนวุ้น แต่สีขุ่น บางทีเวลานอน....ก็มักจะเป็นเอง ++++ อย่างนี้อันตรายมั้ยครับ ++++ ขอบคุณที่ตอบครับ (ล่วงหน้า) จากคุณ : GROUP_B - [ 4 ธ.ค. 51 17:03:22 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ผมก็เป็นน้ำวุ้นในตาเสื่อมครับ พึ่งอายุ17ปีเอง T_T สาเหตุก็น่าจะมาจากการที่ผมเล่มคอมมากเกินไป (เวรแท้ๆ) อยากเรียนถามคุณหมอเรื่องอาการตาแห้งน่ะครับ เวลาผมใช้คอมพิวเตอร์ประมาณ1ชม.ขึ้นไป จะรู้สึกตามันแห้งๆไม่มีน้ำตา กระพริบตาถี่ๆก็ไม่หาย ต้องเอาน้ำล้างตาแล้วเลิกเล่นไปเลยถึงจะหายน่ะครับ อยากทราบว่าอาการที่ว่านี้อันตรายมั้ยครับ อีกเรื่องหนึ่งคือ ถ้าเห็นหยากไย่แค่2อัน จะมีสิทธิจอประสาทตาหลุดลอกหรือเปล่าครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : MW_[F]reEDoM - [ 4 ธ.ค. 51 18:01:58 ]

ความคิดเห็นที่ 41 มาให้ give ค่ะ.. จากคุณ : primjang - [ 4 ธ.ค. 51 20:47:43 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ขอบคุณครับ สงสัยมานานละ ไม่รู้จะถามใคร กระจ่างแจ้งก็วันนี้นี่เอง  นึกว่าเราเป็นคนเดียวซะอีกนะ ^ ^ จากคุณ : PliZZarD... - [ วันพ่อแห่งชาติ 00:01:30 ]

ความคิดเห็นที่ 43 กระทู้ดีจริงๆ ค่ะ   เห็นแสงแว๊บๆ อยู่พอดีเลยค่ะ  กำลังกังวลอยู่หน่อยๆ   ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : Queen_Devil - [ วันพ่อแห่งชาติ 00:24:17 ]

ความคิดเห็นที่ 44 คุณ ari คห. 27 อาจเป็นได้สองสามอย่าง เช่น entoptic phenomenon, phosphene(ซึ่งไม่อันตราย) หรือการมองเห็นที่เกิดก่อนการชัก-ก่อนการเกิดไมเกรน(aura)  หรือไมเกรนของจอประสาทตาเอง (retinal migraine) ถ้าไม่เคยมีอาการชักหรือไมเกรน ก็รอๆกันไปก่อนได้ครับ คุณน้าพร คห.29 ไม่มีรายการ stemcell สำหรับวุ้นตาครับ มีคนเปรียบเทียบวุ้นตาไว้ว่า เหมือนไส้ติ่ง ธรรมชาติทำมาเกิน :) คุณพิสุข คห.33 ถ้าอาการมากขึ้น ไปตรวจทันที ถ้าไม่มีอะไรเพิ่มเติม สองสามปีครั้งก็พอครับ คุณ MW freedom คห.40 อาการของคุณอาจเป็น computer vision syndrome หรือภาวะน้ำตาบกพร่อง, ภูมิแพ้ที่ตา ลองหาข้อมูลโรคแรกใน www.thaiclinic.com ก็ได้ครับ ผมเขียนไว้นิดหน่อย ขอบคุณทุกท่านที่ แวะเข้ามาดูนะครับ จากคุณ : หมอเถื่อน - [ วันพ่อแห่งชาติ 07:39:30 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ขอบคุณมากครับ ปล. 2-3วันมานี้ เชียงใหม่ไม่หนาวแล้วอ่ะครับ จากคุณ : น้องลูกหมู - [ วันพ่อแห่งชาติ 11:41:01 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ขอบคุณครับที่สรุปอะไรดีๆมาให้ได้อ่านกัน ผมเห็นเหมือนไข่กบมาตั้งแต่เด็กๆแล้วน่ะครับ อย่างนี้เป็นไรไหมครับ อีกอย่างหนึ่ง บางทีเหมือนเห็นตรงกลางภาพที่เห็นจะมีแสงสีแดงกระพริบออกมาน่ะครับ อย่างนี้ผิดปกติมากไหมครับ ผมทำงานใช้คอม กับเล่นเกม ค่อนข้างเยอะครับ แล้วก็สายตาเอียงนี่เป็นยังไงแน่ครับ เข้าใจว่าทำให้เห็นภาพซ้อนกัน คือผมเห็นภาพซ้อนแนวตั้งน่ะครับ เวลามองพวกอักษรไฟ หรือ อักษรหนาๆจะไม่ชัดครับ สุดท้ายครับ ควรไปตัดแว่นตามโรงพยาบาลจักษจะดีกว่าไหมครับ จากคุณ : Pu'Chew - [ วันพ่อแห่งชาติ 19:29:23 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ....ขอบคุณครับ... จากคุณ : granun - [ วันพ่อแห่งชาติ 20:19:11 ]

ความคิดเห็นที่ 48 แวะมาอ่าน ได้ความรู้ดีมาก ปัจจุบันตัวเองก็เป็น อยู่ เสื่อมเร็วกว่าวัย คาดว่า มีปัจจัยครบที่ทำให้เสื่อมก่อนวัย สายตาสั้น อุบัติเหตุทางศรีษะอย่างแรง ผ่าตัดตา อันนี้ไม่แน่ใจ ว่าเลสิกเข้าข่ายหรือเปล่า จากคุณ : วีทีอาร์ - [ วันพ่อแห่งชาติ 21:26:04 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ขอบคุณคะ จากคุณ : a lovely rainbow - [ 6 ธ.ค. 51 09:00:59 ]

ความคิดเห็นที่ 50 คุณ Pu'CHew 8s คห.46 ----- เรื่องสายตาสั้น ยาว เอียง โดยเฉพาะเอียง astigmatism (ที่หลายท่านงงๆไปปนกันกับตาเข หรือตาเหล่ squint, strabismus) อ่านในไทยคลินิกได้ครับ กล่าวคร่าวๆคือ ------------ ถ้าลูกตาเป็นระบบที่กลมๆสมบูรณ์ และภาพตกหน้าจอประสาทตา คือสายตาสั้น ------------ ถ้าลูกตาเป็นระบบที่กลมๆสมบูรณ์ และภาพตกหลังจอประสาทตา คือสายตายาว ------------ ถ้าลูกตาเป็นระบบที่ไม่กลมสมบูรณ์ โดยเฉพาะกระจกตาดำ อาจเป็นวงรีหน่อยๆ ทำให้การโฟกัสภาพในสองแกน (ลองนึก สองแกนเป็นขอบประตูบนล่างแกนนึง และขอบประตูซ้ายขวาอีกแกนนึง) ตกคนละตำแหน่งกัน ภาพก็เบลอๆตกโฟกัสไปครับ ส่วนเรื่องตัดแว่น ตัดกับ optometrist หรือหมอตา น่าจะดีกว่าตัดกันใครก็ไม่รู้ที่เอามาฝึกใช้เครื่องวัดอัตโนมัติ แล้วก็สั่งตัดกันไปครับ (ร้านแว่นตา franchise หลายเจ้าเป็นแบบนี้ มั่วกันกระจาย...) คุณเสี่ยวีที เอ๊ย วีทีอาร์ LASIK อาจเข้าข่าย แม้ไม่มีรายงานสนับสนุนที่ชัดเจน แต่ในทางทฤษฎี อาจเป็นได้ เพราะตอนก่อนที่จะเอาใบมีดหรือเลเซอร์เฉือนกระจกตาดำ ต้องเอา suction ดูดตาให้ตึง(ตึงพอที่จะตัดใบมีดแล้วไม่เฉไปมา) คาวมดันตาจะสูงขึ้นมากในระยะสั้นๆ ตัวลูกตาจะ expand ออก และมีแรงดึงของวุ้นตาเพิ่มที่จอประสาทตาในขณะนั้น   เรียกว่า ในทางทฤษฎี เป็นไปได้ ในทางปฏิบัติ คนไข้ทุกคนที่จะทำ LASIK ~ต้องได้หยอดยาขยายม่านตาตรวจหารอยฉีกขาดเหล่านี้ครับ ถ้าพบ ก็เลเซอร์แบบที่แสดงภาพข้างบนก่อน LASIK ถ้าไม่พบ ก็สบายไป จากคุณ : หมอเถื่อน - [ 6 ธ.ค. 51 09:55:52 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ขอบคุณค่ะ วันนี้หมอตามาเอง #25 พี่นิมิตร Room mate ใครเอ่ย ? จากคุณ : Komi (komi_to) - [ 6 ธ.ค. 51 10:38:34 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ป็นเหมือนกันค่ะวุ้นในตาเสื่อมนี่ ขอเรียนถามคุณหมอนิดนึงค่ะ ว่า 1.เห็นเหมือนมีเส้นๆๆลอยไปลอยมาตลอด โดยเฉพาะเวลาจ้องไปในแสงธรรมชาติ แค่นี้ มีอันตรายอะไรมั๊ยคะ แล้วมันจะเป็นเพิ่มขึ้น หรือว่าสามารถวิวัฒนาการไปเรื่อยๆ ทำให้ถึงขั้นจอประสาทตาหลุดลอก หรือตาบอดได้มั๊ยคะ 2.บางทีจะเห็นแสงเหมือนกับตอนที่เราพึ่งไปจ้องดวงอาทิตย์มาอ่ะค่ะ แต่ไม่บ่อย วันนึงทีนึงหรือไม่ก็ 2-3 วันที แบบนี้อันตรายมั๊ย แล้วจำเป็นต้องไปตรวจขยายม่านตาดูประสาทตามั๊ยคะ ถ้าจำเป็นจะได้ไปนัดหมอเลยค่ะ กลัวตาบอด เพราะปกติใช้สายตาเยอะค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ ^________^ แก้ไขเมื่อ 06 ธ.ค. 51 11:18:40 จากคุณ : หนมปังช็อกโก้ - [ 6 ธ.ค. 51 11:17:52 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ขอบคุณคร้าบ ผมเคยไปถามท่านหมอเถื่อนใน TCC อยู่เหมือนกัน อิอิ เข้าไปอ่านประจำ 555+ จากคุณ : Sir.ขงเบ้ง - [ 6 ธ.ค. 51 14:05:18 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ถามต่อ ... แล้วการผ่าตัดเอาจอประสาทตาไปติดกับที่เดิมนี่ทำได้ยังไงครับ มันลอกมาแล้วมันจะติดกับไปด้วยอะไรครับ จากคุณ : pizza_p - [ 6 ธ.ค. 51 18:19:53 ]

ความคิดเห็นที่ 55 คุณ pizza_pa โปรดติดตามภาคสองครับ :) ป.ล. ถ้าห้องผ่าตัดผมปิดนานกว่าที่คิด ภาคสองคงมาเร็วๆนี้ T-T จากคุณ : หมอเถื่อน - [ 7 ธ.ค. 51 07:12:03 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ขอบคุณครับ ผมว่าจะลองไปตัดกับหมอตาดูบ้าง เพราะตั้งแต่ตัดร้านมา ใส่แล้วยังไงก็สู้คนตาปกติไม่ได้เลย จากคุณ : Pu'Chew - [ 7 ธ.ค. 51 18:39:26 ]

ความคิดเห็นที่ 57 โหวต ๆ จากคุณ : Zew - [ 7 ธ.ค. 51 19:23:33 ]

ความคิดเห็นที่ 58 มีคำถามค่ะ เวลาอ่านหนังสือตอนกลางคืนซักพักจะมีอาการปวดตาซ้าย ตาซ้ายมืดเห็นดาววิบๆ แต่พักซักแป๊บจะดีขึ้น แล้วพออ่านต่อไปอีกเรื่อยๆจะปวดร้าวไปถึงศีรษะซีกซ้ายและเกิดอาการเหมือนมีหมอกขาวๆมาบังตาค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้นเป็นเฉพาะตาซ้ายและก็เฉพาะเวลาอ่านหนังสือ .. ลองเปลี่ยนให้ไฟสว่าง แสงมากขึ้นก็ไม่หาย แต่ถ้าเล่นคอมกลับไม่เป็นไร เคยไปหาหมอ หมอบอกว่าอาจเป็นที่ physical ของหนังตาลูกตาเอง แต่หมอก็ยังสงสัยว่า ถ้าเป็นงั้นก็น่าจะเป็นมาตั้งนานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมาเป็นตอนอายุ 20 กว่าๆยังงี้ ... สรุปหมอให้แค่ยาคลายกล้ามเนื้อมา แล้วก็ให้ไปหาอีกที แต่ยังไม่มีเวลาเลยค่ะ คุณหมอเถื่อนว่า... เป็นไรอะคะ อันตรายมั้ย แหะๆ รบกวนด้วยนะคะ ^ ^ จากคุณ : นู๋กุ๊ก... - [ 7 ธ.ค. 51 23:00:39 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ของผมเคยเป็นอาการเห็นแสงวาบตรงหางตา เพราะก่อนหน้านัน้นสัปดาห์นึงโดนปลายผ้าเช็ดตัวฟาดเข้าตาเต็มๆ เลยรีบไปหาโรงบาลรัตนิน เสียไป 1000 หมอ ให้ยาม่านตาขยายแล้วส่องดู บอกว่าวุ้นเสื่อม สักพักปีนึงก็หาย แต่ยังเป็นอยู่นานๆที เวลาเผลอๆ จากคุณ : Spirit of Darkness - [ 8 ธ.ค. 51 00:34:22 ]

ความคิดเห็นที่ 60 น้องผมตามัวไปเฉพาะครึ่งตาล่างเหมือนกับว่ามองผ่านกระจกฝ้ามันเกิดจากสาเหตุเดียวกันรึป่าวครับ จากคุณ : etorys - [ 8 ธ.ค. 51 10:19:22 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆแบบนี้ค่ะ ตาสว่างเลย จากคุณ : Choco-Mix - [ 8 ธ.ค. 51 13:57:37 ]

ความคิดเห็นที่ 62 วุ้นลุกตาเสื่อมใส่คอนแท็กเลนส์ได้ไหมคะ คุณหมอ จากคุณ : laloonas - [ 8 ธ.ค. 51 14:35:48 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ขอบคุณสำหรับเกล็ดความรู้ดีๆค่ะ จากคุณ : annie_gnd - [ 8 ธ.ค. 51 20:06:36 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ถึงว่าซิ มองท้องฟ้าเห็นเป็นเส้นๆอะไรกฌไม่รู้ กระจ่างเสียที ฮุฮุ จากคุณ : EnvymasK - [ 9 ธ.ค. 51 12:37:23 ]

ความคิดเห็นที่ 65 กระทู้ดีมีสาระจังค่ะ ตัวเองก็มีใยแมงมุมในตาเหมือนกัน (เห็นมีอยู่สามสี่เส้น) แต่ไม่รู้สึกรำคาญเ่ท่าไหร่ ..แต่ถ้าปล่อยนานไปมันจะขยายเยอะไปกว่านี้ไม๊คะเนี่ย ไม่ค่อยว่างไปหาคุณหมอซักเท่าไหร่ ว่าจะ จะ จะ อยู่นั่น.. ขอบคุณคุณหมอค่ะ^^ จากคุณ : Kimi ni Aitai - [ 9 ธ.ค. 51 14:31:19 ]

ความคิดเห็นที่ 66 แวะกลับมาตอบอีกที ก่อนไปทำงานต่อครับ คุณ etorys (ชื่ออ่านยากจังครับ) ความคิดเห็นที่ 60   น้องผมตามัวไปเฉพาะครึ่งตาล่างเหมือนกับว่ามองผ่านกระจกฝ้ามันเกิดจากสาเหตุเดียวกันรึป่าวครับ ------ ต้องตรวจกันดูก่อนครับ มัวซีกนึงอาจเกิดจากหลายอย่าง --------------- เส้นเลือดที่จอประสาทตาบางเส้นอุดตัน --------------- จอประสาทตาหลุดลอก --------------- จอประสาทตาเสื่อม (แต่กำเนิดก็มีได้) --------------- ปัญหาในสมอง --------------- ต้อหิน พาน้องไปหาหมอตาเถอะครับ คุณ laloonas คห.62 วุ้นลุกตาเสื่อมใส่คอนแท็กเลนส์ได้ไหมคะ คุณหมอ ------- ใส่ได้ มันไม่เกี่ยวกันนี่ครับ :) จากคุณ : หมอเถื่อน - [ 9 ธ.ค. 51 16:07:28 ]

ความคิดเห็นที่ 67 คุณหมอเถื่อนค่ะ อยากทราบว่าเวลาร้องไห้ ทำไมน้ำมูกต้องไหลด้วยค่ะ งืม งืม จากคุณ : -:GhosT_Princezz:- - [ 9 ธ.ค. 51 22:26:08 ]

ความคิดเห็นที่ 68 แล้วอยากทราบว่า จุดดำๆในตาขาวนี่เกิดจากอะไรแล้วมีอันตรายไหมคะ เรามีหลายจุดเลยอ่ะค่ะ เพื่อนเราบางคนก็มีเหมือนกัน เกี่ยวกับที่เราชอบขยี้ตารึเปล่าคะ จากคุณ : Cyuurippu* - [ วันรัฐธรรมนูญ 10:15:37 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ขอบคุณมากครับ ^^ ความรู้ดีจริงๆสำหรับเด็ก ม.5 หึหึ จากคุณ : Reduce - [ วันรัฐธรรมนูญ 15:42:25 ]

ความคิดเห็นที่ 70 โหวตค่ะ กระทู้ดีมีสาระ ต้องสนับสนุน จากคุณ : Beautiful Eagle - [ วันรัฐธรรมนูญ 21:06:55 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ได้ความรู้เยอะเลย ขอบคุณมากๆ เป็นมาตั้งแต่เด็ก (เห็นใยแมงมุมอยู่ 2-3 เส้น) แต่ไม่เคยไปหาหมอเลย (ตอนไปหาหมอตาก็ไม่เคยถามเรื่องนี้ เพราะจะเห็นเฉพาะตอนจ้องแสงจ้าๆ เท่านั้น) อ่านกระทู้นี้แล้วทำให้เข้าใจดีขึ้น :3 จากคุณ : Holic (โฮลิก) - [ 11 ธ.ค. 51 12:13:56 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ลูกชายผมหมอบอกว่าเป็น ROP อยากให้ช่วยอธิบายแบบง่ายง่ายหน่อยครับเพราะอ่านหนังสือมาหลายเล่มแล้วไม่เข้าใจ ตอนนี้แก่อายุ 4 ขวบ ขอบคุณครับ จากคุณ : cement (cement) - [ 11 ธ.ค. 51 16:23:03 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ขอบคุณคุณหมอมากครับ ที่ให้ความรู้ ผมก็เป็นลักษณะใยแมงมุมที่คุณหมออธิบายให้ฟัง ตาม ความเห็น5 และมีอาการคล้ายกับความเห็น 33 บางทีก็มีคล้ายใยแมงมุม หรือ จุดลอยไปมาเวลาเกลือกตา แต่ไม่มีเป็นแสงแว๊ปๆนะครับ จนมันรำคาญมาก ผมก็เลยไปพบหมอ ตรวจที่โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน หมอตรวจแล้วบอกว่า ตาผมปรกติ ไม่มีปัญหาใดใด สาเหตุที่เกิดคือ เครียดเรื่องงาน กินอาหารไม่ตรงเวลา เออ..ผมก็ไม่ค่อยแน่ใจว่ามันเกี่ยวหรือเปล่ารบกวนสอบถามคุณหมอครับ 1.เหตุผลจากคุณหมอที่ผมไปตรวจ และอธิบายให้ผมฟังเป็นมูลเหตุที่ทำให้เกิดอาการหรือเปล่าครับ 2.อาการที่เกิดขึ้นจากที่อ่านมาไม่น่าเป็นปัญหาในระยะยาวใช่ไหมครับเพียงแค่สร้างความรำคาญ ขอบคุณครับ จากคุณ : ก้อนหินขยับ - [ 11 ธ.ค. 51 23:13:22 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ผมก็มีอาการอยู่เห็นเป็นหยากไย่ หรือพวกตัวเหมือนพวกพารามีเซียม โปรโตซัวลอยไปลอยมา เป็นเวลามองท้องฟ้า ตัวนี้มันจะใสๆโปร่งๆ แต่ถ้าเป็นตอนจามหรือไอ ซึ่งจะเป็นบ่อยมาก เพราะผมเป็นโรคภูมิแพ้ทางจมูกอย่างหนัก ลายมันจะเป็นสีเงินเป็นตัวหนอนซ่าชัดเจนมา ถามหมอที่รักษาคือหมอหู คอ จมูก เขาบอกว่าเป็นเพราะจามแรงไปกระเทือนจอประสาทตา ทิ้งไว้นานๆไม่ดี อันนี้จะเข้าข่ายโรคอะไรบ้างครับ จากคุณ : บิ๊ก - [ 11 ธ.ค. 51 23:31:24 A:118.174.208.63 X: TicketID:156138 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ขอบคุณครับ คุณหมอเถื่อน ที่สละเวลามาแบ่งปั่นความรู้ดีๆให้อ่าน *ถ้าประชนทัวไปมีความรู้เรื่องโรคต่างน่าจะดีต่อตัวเอง และคุยกับคุณหมอ ได้เข้าใจกัน คุณหมอก็วินิฉัยโรคง่ายขึ้นเสียเวลาน้อยลง เหมือนเวลาเอารถไปซ่อมถ้าพอมีความรู้พื้นฐานก็จะเข้าใจที่ช่างอธิบายอากาศเสียต่างๆ (อันผมคิดเล่นๆน่ะครับ) ขอบคุณมากๆครับ จากคุณ : น้ำเงี๊ยวเกี๊ยวกุ้ง - [ 12 ธ.ค. 51 11:35:18 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ขอบคุณสำหรับกระทู้ครับ ติดธุระไม่ได้เข้ามาหว้ากอซะนาน กลับเข้ามา ไล่อ่านกระทู้แนะนำก่อนเลย สุดยอดจริงๆ แต่ละกระทู้ จากคุณ : มาม่าไข่มะตูม - [ 12 ธ.ค. 51 12:10:26 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ให้ความสว่างแก่ดวงตาได้มากเลยครับ เหมือนดังคำพระที่ว่า... สว่างตาด้วยแสงไฟสว่างใจด้วงยแสงธรรม ใจว่างเป็นบุญใจวุ่นเป็นบาป กระจกที่ว่าใสยังแพ้ใจที่บริสุทธิ์ ภาวนาพุทโธเข้าไว้ จิตใจจะเบิกบาน พุทโธ พุทโธ พุทโธ... ...เข้าใจว่าไม่เกี่ยวข้องกัน แต่ชอบ เลยมาแจม จากคุณ : Kalee Chaplin (Kalee) - [ 12 ธ.ค. 51 12:40:49 ]

ความคิดเห็นที่ 78 เห็นตอนตั้งกระทู้ใหม่ๆ นึกว่าจะโดนลบเพราะผิดห้อง แต่เข้ามาดูแล้ว ผมตัดสินใจไม่ลบ เพราะเนื้อหาดีครับ ให้ความรู้ได้เยอะ ปล. ผมเห็นใยแมงมุม ใยๆ ลอยไปมา  ตั้งแต่เด็ก ตอนนี้ยังเห็นครับ จากคุณ : ห้ามวางไว้ไกล้เด็ก - [ 12 ธ.ค. 51 14:11:57 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ขอบคุณมากมายค่า สำหรับความรู้ดีดี จากคุณ : dingapom - [ 12 ธ.ค. 51 16:39:37 ]

ความคิดเห็นที่ 80 เรื่องเกี่ยวกับดวงตา...ขอถามมั่ง อาการเสื่อมของตาก็เริ่มมีแล้ว...อยากถามว่าถ้าหากตาขาวรอบตาดำมีเส้นคล้ายวุ้นเส้นบนตาขาว มันคล้ายปูดขึ้นมา ตั้งตรงประมาณ 2 ซม. เกิดจากสาเหตุใดครับ วันแรกที่ปูดขึ้นมาแสบตามาก แต่หลัง ๆ ไม่ปวด ไม่เคืองแล้ว จากคุณ : ...วนา... - [ 13 ธ.ค. 51 01:41:15 ]

ความคิดเห็นที่ 81 หนูเป็น ต้อลม ดูไม่เกี่ยวเนอะ แต่กลัว ที่จะเป็นโรคเกี่ยวกับตามากเลย ต้อง ระวัง เอาไว้ จากคุณ : PHOENIXz - [ 13 ธ.ค. 51 08:19:16 ]

ความคิดเห็นที่ 82 หมอ 50 - 60 คน ที่ผ่าเคส vitreous hemorrhage ได้นี่ รวมคุณหมอเถื่อนด้วยหรือปล่าวครับ อิอิ จากคุณ : ถุนคุง - [ 14 ธ.ค. 51 05:48:59 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ผมสายตาสั้น หกร้อยห้าสิบ กับ เจ็ดร้อย เห็นวุ้นนี้ทุกวันจนชินไปแล้ว ตอนแรกนึกว่าเห็นเชื้อโรค จากคุณ : Prince Baro5 - [ 15 ธ.ค. 51 03:24:57 ]

ความคิดเห็นที่ 84 เป็นไปแล้ว ยิงเลเซอร์ พร้อมกับ อัดแก๊ซเข้าไปแล้ว ผมไปทำกับคุณหมอที่ รพ ศิริราช ทุกวันนี้ตาที่ทำสภาพโอเค แต่อีกข้างเริ่มมีอาการ ต้องรอเช็คครั้งต่อไป เฮ้อ ตอนนี้คุณหทอขอตรวจ สี่เดือนครั้งนะครับ ของผมนี้เคสซวยครับ ตาไม่สั้น ไม่เคยโดนกระแทก ไม่มีประวัติในครอบครัว เฮ้อ จากคุณ : ข้าวแดงแห่งลาดยาว - [ 15 ธ.ค. 51 21:53:20 ]

ความคิดเห็นที่ 85 ผมเพิ่งเป็นจอประสาทตาฉีกขาด และหมอทำการยิงเลเซอร์แล้วรักษา แต่ตัวที่เป็น Floater ยังคงลอยอยู่ เหมือนรูปข้างบน คห.ที่ 8 เลยครับ และยังมีฟองอากาศเป็นจุด ๆ เต็มไปหมด ถ้าอยู่ข้างนอกอาคารที่มีแสงสว่างมากจะเห็นชัดเจน ขอถามว่า floater จะคงอยู่จนตลอดชีวิตหรือไม่ หรือมันจะย่อยสลายหรือเล็กลงเองหรือไม่ ถ้าไม่สามารย่อยสลายได้ จะมีวิธีการอะไร เพื่อย่อยสลาย เพราะมันจะบดบังการมองเห็นและสร้างความรำคาญพอสมควร แล้วอีกข้อนึงก่อนที่ผมจะมีอาการดังกล่าวประมาณ 2 อาทิตย์ก่อนหน้านี้ ผมเล่นฟุตบอล และถูกฟุตบอลอัดเข้าที่เบ้าตาข้างดังกล่าวอย่างแรง เลยจะขอถามว่า อาการที่เกิดขึ้นเกิดจากการถูกกระแทกรึเปล่า ขอบคุณมากครับ บทความนี้เป็นประโยชน์มากครับ ขอขอบพระคุณที่คุณหมอเถื่อนมาลงเป็นวิทยาทาน เพราะบางคนมีอาการแต่ไม่ได้หาหมอ ทำให้มีอาการเจ็บป่วยมากขึ้นจนไม่สามารถรักษาได้ เมื่ออ่านบทความนี้แล้วน่าจะมีหลายท่านต้องรีบไปปรึกษาหมอ จากคุณ : วิโรจน์ - [ 17 ธ.ค. 51 11:07:42 A:61.19.228.114 X: ]

ความคิดเห็นที่ 86 คุณ cement คห.72 - ไว้ผมจะตั้งอีกกระทู้นะครับ ขอเวลาสักพัก :) คุณวนา คห.80 - น่าจะเป็นต้อลม (pinguecula) ครับ คุณวิโรจน์ คห. 85 - คำถามของคุณ ผมตอบไว้ข้างบนๆแล้วนะครับ ทั้งเรื่องการรักษา - ความเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุกระแทกตา จากคุณ : หมอเถื่อน - [ 18 ธ.ค. 51 07:35:32 ]