ความคิดเห็นที่ 1 อ้าว เป็นถึงซีซาร์ ไหงไม่รู้เรื่องนี้ล่ะก๊าบบบ จากคุณ : ksk - [ วันรัฐธรรมนูญ 13:22:53 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่ใช่ครับ ช่วงที่โรมตะวันตกแตกคนโรมันอพยพหนีกันเป็นแสน แล้วสุดท้ายรู้สึกจะโดนสังหารหมู่ ส่วนที่เหลือก็ผสมปนเปไปกับพวกที่บุกรุกไปหมดแล้ว ไม่มีโรมันแท้แน่นอน จากคุณ : Tasurahings - [ วันรัฐธรรมนูญ 13:45:22 ]

ความคิดเห็นที่ 3 คิดว่า ส่วนใหญ่น่าจะเป็นเชื้อโรมันนั่นแหล่ะ จากคุณ : Styer - [ วันรัฐธรรมนูญ 14:34:30 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ...เจไดหนุ่มขออธิบายอย่างคร่าวๆนะครับ...      พวกชนชาวอิตาลีในปัจจุบันนั้นไม่ได้สืบสายเลือดมาจากชาวโรมดั้งเดิมอย่างแท้จริงครับ  เพราะในช่วงที่จักรวรรดิโรมันเสื่อมอำนาจจนโดนพวกอานารยชนบุกปล้นสะดมกรุงโรมนั้น  ชาวโรมันแท้ๆก็หลบหนีกระจัดกระจายกันไปหมดแล้วครับ  โดยหนึ่งในบรรดาเมืองที่ชาวโรมันสมัยนั้นหนีไปรวมตัวกันก็คือ "คอนสแตนติโนเปิ้ล" ทางตะวันออกซึ่ง "จักรพรรดิคอนสแตนติน" ได้สร้างเอาไว้ก่อนหน้านั้นสำหรับใช้เป็นเมืองหลวงแห่งที่2  เพื่อความสะดวกในการปกครองจักรวรรดิอันยิ่งใหญ่ทั้งทางตะวันตกแลตะวันออกครับ        แต่ทว่าเมื่อโรมันตะวันตกเริ่มเสื่อมอำนาจลงจนล่มสลายลง  พวกอานารยชนต่างๆก็เข้าครอบครองดินแดนเหล่านั้นแลซึมซับแบบแผนธรรมเนียมของชาวโรมันดั้งเดิมมาบวกกับวัฒนธรรมของตนเอง  กระทั่งในที่สุดจึงได้พัฒนาปรับเปลี่ยนกลายมาเป็นชนชาติที่เรารู้จักกันอยู่ในทุกวันนี้ครับ  ส่วนอิตาลีนั้นหลังกรุงโรมตะวันตกล่มสลายลงจนเข้าสู่ยุคมืด  อาณานิคมหลายแห่งของชาวโรมก็กลายสภาพเป็นเมืองเล็กๆซึ่งอยู่ใต้การปกครองของพวกกอธครับ  แต่เพื่อนๆอย่าพึ่งคิดว่าชาวโรมันจะสิ้นชาติไปเลยซะทีเดียว  เพราะอย่างที่ "เจไดหนุ่ม" กล่าวไว้ด้านบนคือทางตะวันออกนั้น "กรุงคอนสแตนติโนเปิ้ล" ของชาวโรมันยังสามารถยืนหยัดรักษาประเพณีแลขนบธรรมเนียมดั้งเดิมของชาวโรมไว้ได้ครับ  แลสามารถขยายอำนาจของตนเองออกไปรวมกับพวกกรีกจนแปรสภาพกลายเป็น "จักรวรรดิไบเซนไทม์" ในที่สุด        จนกระทั่งศตรวรรษที่6 "จักรพรรดิจัสตีเนี่ยน" แห่งจักรวรรดิไบเซนไทม์ได้ยกกองทัพอันกล้าแข็งเข้ามาขับไล่พวกกอธออกไปจากบริเวณคาบสมุทรอิตาลีได้ครับ  ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่พวกเยอรมัน(ชาวลอมบาร์ด) จากจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ทางเหนือของอิตาลีได้หลั่งไหล่เข้ามาอยู่อาศัยในบริเวณนี้จนผสมกลมกลืนไปกับชาวโรมันดั้งเดิมในที่สุดครับ  แลจากการขับไล่พวกกอธของจักรวรรดิไบเซนไทม์นี่เองจึงทำให้กรุงโรมถูกฟื้นฟูขึ้นอีกครั้งจนมีการสถาปณาที่นี่ให้กลายเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์นิกาย-โรมันคาธอลิกนั่นเองครับ  ทว่าเรื่องนี้กลับกลายเป็นชนวนแห่งความวุ่นวายในภายหลังด้วยครับ  เพราะพวก "ไบเซนไทม์" หรืออดีตชาวโรมันตะวันออกนั้นเขานับถือคริสต์นิกายออโธดอกซ์น่ะสิ  นั่นจึงทำให้เกิดการฮึ่มๆใส่กันอย่างหนักจนล่วงเข้าสมัยสงครามครูเสดเลยทีเดียว   (May the Spoil be with you) ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน จากคุณ : เจไดหนุ่ม - [ วันรัฐธรรมนูญ 15:04:40 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ...ต่อครับ...      โดยความขัดแย้งตรงจุดนี้ถ้าเพื่อนๆท่านใดต้องการทราบก็ลองไปหาประวัติศาสตร์เกี่ยวกับศาสนาในยุคกลางอ่านดูครับเพราะมันยาวแลมีรายละเอียดมากจนผมไม่สามารถนำมากล่าวได้หมด ณ กระทู้แห่งนี้เป็นแน่  อ้อ!สำหรับใครที่สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับจักรวรรดิไบเซนไทม์อันยิ่งใหญ่กันแน่  ทำไมเราถึงไม่เห็นชนชาติของพวกเขาในปัจจุบันเลยล่ะ?  เจไดหนุ่มจะอธิบายตรงจุดนี้อย่างรวบรัดนะครับว่า เมื่อเกิดสงครามครูเสดครั้งแรกคือพวกอิสลามบุกโจมตีดินแดนในอาณัติของจักรววรดิไบเซนไทม์ทางตะวันออกนั้น  พวกไบเซนไทม์ได้บากหน้าไปขอความช่วยเหลือจากชาวคริสต์นิกายโรมัน-คาธอลิกครับ  ซึ่งความจริงในยุคนั้นสองนิกายนี้ไม่ค่อยถูกกันครับแต่ทว่าเมื่อมีสงครามศาสนาเข้ามายุ่งเกี่ยวทั้งสองนิกายจึงหันมาจับมือกันชั่วคราวเพื่อรับมือกับพวกมุสลิมครับ        กระทั่งครูเสดดำเนินไปหลายครั้งจนเวลาล่วงเลยมาถึงศตวรรษที่15ซึ่งในยุคนั้นชาวโรมัน-คาธอลิกทางตะวันตกเริ่มไม่สนใจกับความเป็นไปของอาณาจักรไบเซนไทม์แล้ว  แถมพวกชาว "ออตโตมันเติร์ค" ในตะวันออกกลางก็กำลังขยายอำนาจมากขึ้นทุกทีแลเริ่มตีชิงดินแดนของไบเซนไทม์ไปเรื่อยๆ  ซ้ำร้ายคำว่าครูเสดในยุคดังกล่าวกลับไม่มีความขลังเหมือนในอดีตเสียแล้วครับเนื่องจากหลายครั้งได้มีการนำ "ครูเสด" ไปใช้อ้างในการสงครามเพื่อการสร้างความชอบธรรมแลหาผลประโยชน์ใส่ตัวของผู้ครองแคว้นแลกษัตริย์ดินแดนต่างๆครับ        ในที่สุดเมื่อถึงยุคของ "สุลต่านเมเหม็ด" กองทัพชาวเติร์คก็สามารถทำลายกำแพงอันกล้าแข็งของกรุงคอนสแตนติโนเปิ้ลลงได้แลเข้ายึดครองดินแดนของจักรวรรดิไบเซนไทม์ทั้งหมด  จนจักรวรรดิต้องล่มสลายลงแลเป็นการปิดฉากดินแดนของชาวโรมันตะวันตกลงอย่างถาวรนั่นเองครับ **เหตุผลที่ไบเซนไทม์สามารถยืนหยัดต่อการโมตีของพวกมุสลิมมาได้หลายร้อยปีก็เพราะมีกำแพงเมืองอันแข็งแกร่งใหญ่โตครับ  แต่ในยุคที่จักรวรรดิพ่ายแพ้นั่นเริ่มมีการนำดินปืนเข้ามาใช้ในการสงครามแล้ว  กำแพงเมืองอันกล้าแข็งจึงไม่ใช่สิ่งก่อสร้างที่น่าหวาดหวั่นอีกต่อไป** (May the Spoil be with you) ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน **ขอแก้ไขคำและตัวสะกดที่พิมพ์ผิดครับ** แก้ไขเมื่อ 10 ธ.ค. 51 15:17:30 จากคุณ : เจไดหนุ่ม - [ วันรัฐธรรมนูญ 15:05:50 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ***ของแถมครับ***      สำหรับเพื่อนๆท่านใดที่อยากรู้ว่าชนชาติยุโรปในปัจจุบันบางชาตินั้นมีต้นกำเนิดมาจากไหนผมมีข้อมูลเล็กๆน้อยมาให้อ่านฆ่าเวลาเพลินๆครับ   ซึ่งตรงนี้ "เจไดหนุ่ม" จะลงคร่าวๆก่อนส่วนเนื้อหาเต็มๆกรุณาไว้รอกระทู้ "เปิดโลกแห่งการเรียนรู้ตอน ยุคกลาง" ครับ  ซึ่งผมจะนำสาระความรู้ที่น่าสนใจมาให้อ่านกันครับ  แต่นั่นต้องหลังจากเคลียร์กระทู้เรื่องมีดสปาร์ต้าที่ค้างเอาไว้เนิ่นนานจนเสร็จก่อนครับ -_-" "ฝรั่งเศส" หลังชาวโรมันล่มสลายพวกชาวเถื่อนแฟรงค์ปกครองดินแดนแถบนี้เรื่อยมาตลอดครับ  จนภายหลังในศตวรรษที่9ชาวแฟรงค์ถูกพวกนอร์แมน(ไวกิ้ง)ซึ่งเป็นชาวเหนือนำทัพมาขับไล่จนแตกพ่าย  กษัตริย์นอร์แมนในห้วงเวลานั้นจึงได้แบ่งพื้นที่ออกเป็นเขตปกครองต่างๆ  แลดินแดนนี้ภายหลังจะถูกเรียกกันว่า "นอร์มังดี" ครับ "อังกฤษ" บรรพบุรุษจดั้งเดิมริงๆของพวกผู้ดีตีนแดงนั้นคือพวกคนเถื่อนแองโกล-แซกซอนหรือพวก "อังเกิ้ล" ครับ  ซึ่งชนกลุ่มนี้ล้วนอาศัยอยู่ที่นี่ในฐานะชนชั้นล่างของชาวโรมันมานานแล้ว  แต่พอโรมันเสื่อมอำนาจพวกนี้ก็ขึ้นมาครอบครองเกาะอังกฤษตอนล่างไว้  โดยตอนหลังนั้นเรื่องราวจะเริ่มวุ่นวายชวนเวียนเฮด  เมื่อจะมีพวกนอร์แมนบุกเข้ามาพิชิตเกาะอังกฤษในยุคของ "กษัตริย์วิลเลี่ยมผู้พิชิต"  จนทำให้เกิดปัญหาในเรื่องของสายเลือดกษัตริย์แลการสืบสันติวงศ์ด้วยครับ  เพราะในยุคกลางนั้นบรรดาชนชั้นกษัตริย์อังกฤษกับฝรั่งเศสล้วนมีเชื้อสายนอร์แมนจึงทำให้มีปัญหาในเรื่องของรัชทายาทเวลาขึ้นครองราชย์มาตลอด "เยอรมัน" อันนี้เป็นขนชาติที่น่าสนใจมากครับ  โดยในยุคโรมันรุ่งเรืองนั้นพวกกอธได้ครอบครองดินแดนแถบนี้แลทำสงครามรบพุ่งกับชาวโรมมาตลอดอย่างเข้มแข็ง  ตั้งแต่สมัย "จูเลียส ซีซ่าร์" ยันยุคแบ่งจักรวรรดิเป็นสองฝั่งกระทั่งกรุงโรมล่มสลาย  แลพวก "วิสิธกอธ" ซึ่งในห้วงเวลาก่อนการล่มสลายของโรมนั้นมีอาชีพเป็นทหารรับจ้างให้กับโรมได้หันมาแว้งกันชาวโรมันพร้อมรวบรวมทัพคนเถื่อนกลุ่มต่างๆเข้าปล้นโจมตีกรุงโรมจนพินาศย่อยยับ  จนภายหลังพวก "เยอร์มานิก" ได้เข้ามาครอบครองดินแดนบริเวณประเทศเยอรมันก่อนจะพัฒนาวัฒนธรรมของตนเองจนกลายสภาพเป็น "จักรวรรดิโรมันศักดิ์สิทธิ์" ซึ่งมีบทบาทอย่างยิ่งในหน้าประวัติศาสตร์ยุคกลาง      กระทั่งการก้าวเข้ามาของยอดนักรบ "นโปเลียน โบนาปาร์ต" ซึ่งนำทัพทหารเสื้อน้ำเงินมาพิชิตแลจงใจป่วนเรื่องให้วุ่นด้วยการแตกกระจายดินแดนในจักรวรรดิจนกลายเป็นแคว้นเล็กแคว้นน้อยแลเริ่มอ่อนแอลงตามลำดับ  กระทั่งมาถึงยุครุ่งเรืองของ "บิสมาร์ค" ผู้นำซึ่งสามารถรวบรวมแคว้นที่แตกกระจายต่างๆให้เข้ามารวมกันเป็น "จักรวรรดิปรัสเซีย" แลแสดงแสนยานุภาพด้วยการบุกเข้าโจมตีศัตรูคู่อาฆาตฝรั่งเศสแลยึดกรุงปารีสไว้จน "จักรพรรดินโปเลียนที่3" ต้องยอมจำนนแลจ่ายค่าปฏิกรรมสงครามให้แก่ปรัสเซียเป็นเงินมหาศาล  (นั่นจึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่เยอรมันกับฝรั่งเศสเหม็นขี้หน้ากันในสงครามโลกครั้งที่1ครับ  เพราะนายทหารอวุโสในกองทัพของทั้งสองฝ่ายล้วนเคยผ่านสงครามนี้มาแล้ว) ป.ล. เรื่องราวชักจะเลยเถิดไปแล้ว^_^  วันนี้"เจไดหนุ่ม" ต้องขอยุติการตอบไว้แค่นี้ก่อนครับ (May the Spoil be with you) ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน จากคุณ : เจไดหนุ่ม - [ วันรัฐธรรมนูญ 15:12:23 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ถามคุณเจไดหนุ่มว่า แล้วยุคของพระเจ้าชาร์ลเลอมาญ ที่เคยรวบฝรั่งเศสกับเยอรมันเข้าไว้ด้วยกันล่ะค่ะ มันช่วงยุคไหนคะ จากคุณ : จอย - [ วันรัฐธรรมนูญ 15:36:27 A:203.160.4.200 X: TicketID:001154 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ข้อมูลคุณเจไดฯ แน่นมากเลย ชนชาวอิตาลีนั้น สมัยโรมันเรืองอำนาจ ชนชาวอิตาลีเป็นเพียงชนกลุ่มน้อยอยู่ครับ #7 พระเจ้าชาร์ลเลอมาณเป็นยุคหลังการล่มสลายของโรมัน ซึ่งคือยุคมืดของยุโรปครับ เป็นช่วงที่คริสตจักรมีอำนาจล้นฟ้าครับ จากคุณ : หมูน้อยพุงตึง - [ วันรัฐธรรมนูญ 15:46:48 A:58.8.8.81 X: TicketID:196452 ]

ความคิดเห็นที่ 9 Italian guy... จากคุณ : MaMa,PaPi - [ วันรัฐธรรมนูญ 15:50:49 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณท่าน เจไดหนุ่ม ครับ ถึงแม้มันจะลำบากอยู่สักหน่อย ในการหาคำตอบของกระทู้จากข้อมูลอันมากมายของท่าน จากคุณ : เจ้าของกระทู้ - [ วันรัฐธรรมนูญ 16:21:27 A:118.172.95.79 X: TicketID:196116 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ...ปิ๊งๆ จากคุณ : +AnGel+ - [ วันรัฐธรรมนูญ 17:54:41 ]

ความคิดเห็นที่ 13 TicketID:196116 จากคุณ : taechawat - [ วันรัฐธรรมนูญ 18:47:23 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ผ่านมาอ่าน...   จากคุณ : ชายยอดนักทดลอง - [ วันรัฐธรรมนูญ 19:00:31 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ...ตอบคุณความคิดเห็นที่7...      "พระเจ้าชาร์ลเลอมาญ มหาราช" นั้นมามีบทบาทเอาตอนหลังจักรพรรดิจัสตีเนี่ยนแห่งไบเซนไทม์ทำการเข้าขับไล่พวกกอธออกจากคาบสมุทรอิตาลีไปแล้วครับ  แต่ทว่าจัสตีเนี่ยนนั้นทำได้แค่ขับไล่พวกวิสิทธกอธไปชั่วคราวแต่ไม่สามารถฟื้นฟูยุโรปตะวันตกได้ครับ  ทว่าชาร์ลเลอมาญซึ่งเป็นชาวแฟรงค์นั้นกลับเป็นคนที่สามารถสร้างความยิ่งใหญ่แลช่วยสถาปานาศาสนาคริสต์นิกายโรมัน-คาทอลิกให้เฟื่องฟูในตะวันตก  โดยตอนที่ยกทัพมาอิตาลีเพื่อขับไล่พวกลอมบาร์ดบางส่วนออกไปนั้นแกได้สนับสนุนให้พวกคาธอลิกตั้งกรุงโรมเป็นศูนย์กลางของศาสนจักรด้วยครับ        แลในกระทู้บนๆผมมีเกริ่นบอกแล้วครับว่าพวกไบเซนไทม์ที่มาตีอิตาลีตอนคริสตศตวรรษที่6นั้นเป็นคริสต์นิกายออโธดอกซ์ครับ  แต่เนื่องจากชาร์ลเลอมาญที่เป็นชาวแฟรงค์แกเห็นประโยชน์จากพวกคาธอลิกจึงได้ตัดสินใจสนับสนุนทางฝั่งนี้อย่างเต็มที่  จนในที่สุดสันตะปาปาลีโอที่3จึงได้ทำการแต่งตั้งแกให้เป็นจักรพรรดิเลยครับ  แต่ว่ามีหรือที่แกจะยอมรับตำแหน่งจักรพรรดิของพวกแฟรงค์เฉยๆ  ชาร์ลเลอมาญจึงได้สถาปณาดินแดนของตนขึ้นมาภายใต้การรับรองของโป๊ปคือจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์(Holy Roman empire)ซึ่งในช่วงยุคกลางจักรวรรดิแห่งนี้มีบทบาทอย่างยิ่งต่อศาสนจักรซึ่งกำลังแผ่อิทธิพลแลความเชื่อไปทั่วภาคพื้นยุโรปครับ **สัญลักษณ์ของจักรวรรดินี้คือรูปนกอินทรีย์สีดำสนิท  ซึ่งภายหลังประเทศเยอรมันจะนำนกอินทรีย์แบบเดียวกันนี้ไปใช้ในธงพิธีของตนครับ**        ทว่าเมื่อสิ้นยุคของ "ชาร์ลเลอมาญ" ในดินแดนแฟรงค์นั้นพวกนอร์แมนกลับเข้ามามีบทบาทแทนครับเพราะกษัตริย์แฟรงค์ในเวลานั้นได้ประทานผืนดินแก่พวกนอร์แมนที่มาช่วยทำศึก(บริเวณนอร์มังดี)  ไปๆมาๆจึงกลับกลายเป็นว่าชาวนอร์แมนกลับมีอำนาจกล้าแข็งมากขึ้นกว่าชาวแฟรงค์ดั้งเดิมเสียอีก  นั่นเพราะเมื่อสิ้นยุคพระเจ้าชาร์ลเลอมาญนั้นไม่ค่อยมีกษัตริย์จากจักรวรรดิโรมันที่เก่งกล้าสามารถเหมือนพระองค์เท่าไหร่  ประกอบกับพวกนอร์แมนมายึดพื้นที่บริเวณอังกฤษแลฝรั่งเศสก่อนจะสถาปนาสองประเทศนี้ขึ้นแลเสริมสร้างความแข็งแกร่งมากตามลำดับ  อาณาเขตของจักรวรรดิ์โรมันอันศักดิ์สิทธิ์จึงไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงมากครับ      โดยความเห็นส่วนตัวของเจไดหนุ่มในเรื่องนี้นั้นคิดว่าการที่จักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์สามารถตั้งยืนยงมาได้หลายร้อยปีโดยไม่ถูกพิชิตจากดินแดนแถบนั้นซึ่งกำลังทำสงครามขยายอำนาจก็เพราะว่า  ดินแดนนี้มีโป๊ปคอยหหนุนหลังอยู่ครับแลในเมื่อคริสตจักรในห้วงเวลานั้นมีอำนาจมากขนาดสามารถแต่งตั้งกษัตริย์แลเข้าไปยุ่มย่ามในเรื่องของการเมืองแต่ละประเทศได้  จึงทำให้ไม่ค่อยมีดินแดนในยุโรปอยากจะไปทำสงครามกับจักรวรรดิ์โรมันเท่าไหร่ครับ(มีบ้างแต่น้อยมากครับ)  ดังนั้นนอกจากในสงครามครูเสดแล้วกองทัพของจักรวรรดิ์โรมันอันศักดิ์สิทธิ์ในช่วงปลายยุคกลางจึงมีหน้าที่หลักคือคอยสนับสนุนอำนาจของคริสจักรนั่นเองครับ   **ภาพเขียนแสดงถึงรูปร่างหน้าตาของจักพรรดิชาร์ลเลอมาญครับ** (May the Spoil be with you) ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน จากคุณ : เจไดหนุ่ม - [ วันรัฐธรรมนูญ 19:02:59 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ...ต่อครับ...      กระทั่งเวลาในหน้าประวัติศาสตร์ดำเนินมาถึงยุคแห่งความวุ่นวายแลการเสื่อมอำนาจลงของคริสจักรเมื่อยอดขุนศึกร่างเล็ก "นโปเลียน โบนาปาร์ต" ทำสงครามแผ่ขยายอำนาจของจักรวรรดิฝรั่งเศสไปทั่วยุโรป  จักรวรรดิ์โรมันอันศักดิ์สิทธิ์เองก็พลอยถูกดึงเข้าร่วมสงครามด้วยแลกลายเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ครับ  ทว่านโปเลียนแลที่ปรึกษาได้เล็งเห็นว่าการจะปกครองดินแดนนี้นั้นมันค่อนข้างวุ่นวายจึงได้วางแผนการต่างๆนาๆแลพบว่าชนชาติที่อาศัยในบริเวณนี้นั้นล้วนมีอยู่มากมายหลายหลากครับ(แค่ภาษาพูดก็แตกต่างกันจนนับไม่ถ้วนแล้ว)  ดังนั้นนโปเลียนจึงคว้ามีดมาฟันฉับๆๆแล้วตัดแบ่งดินแดนตรงนี้เป็นส่วนๆเพื่อให้ยากแก่การที่ชาวเมืองในจักรวรรดิ์โรมันฯเดิมจะมารวมตัวกันต่อต้านกองทัพฝรั่งเศสได้ครับ        จนกระทั่งนโปเลียนพ่ายแพ้ฝรั่งเศสจึงหมดอำนาจในยุโรปแลหันไปหาอาณานิคมนอกภาคพื้นทวีปแทนเหมือนดั่งอังกฤษ  นี่จึงเริ่มเข้าสู่ยุคของการล่าอาณานิคมอย่างแท้จริง  ในช่วงปลายคริสตศตวรรษที่19 "ออตโต วอน บิสมาร์ค" ซึ่งเป็นผู้นำของแคว้นปรัสเซีย(หนึ่งในแคว้นของจักรวรรดิ์โรมันฯเดิมที่แตกกระจายเป็นส่วนๆซึ่งมีความเข้มแข็งที่สุด) แลยังเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญซึ่งช่วยให้กษัตริย์วิลเลี่ยมที่1กลับมาครองบัลลังค์  ได้ทำการปฏิรูปดินแดนปรัสเซียใหม่หมดครับ  โดยบิสมาร์คนั้นได้ดำเนินนโยบายทางการเมืองเพื่อรวบรวมแว่นแคว้นเล็กน้อยให้ผนวกเข้าด้วยกันกับปรัสเซียพร้อมปฏิรูประบบกองทัพใหม่ทั้งหมด  โดยให้ทหารจากทุกแว่นแคว้นมีระบบการฝึกแลอาวุธที่ทันสมัยที่สุดในยุคนั้น        ที่สุดแล้วบิสมาร์คจึงได้สถาปนาจักรวรรดิเยอรมัน(Germany Empire)ขึ้นมา  ก่อนจะทำสงครามกับฝรั่งเศสในปี1870 (Franco-Prussian war) แลได้ชัยชนะอย่างเบ็ดเสร็จเมื่อทัพปรัสเซียล้อมกรุงปารีสแลเผาทำลายอาคารบ้านเรือนจนย่อยยับรวมทั้ง "กษัตริย์นโปเลียนที่3" ผู้ไร้ความสามารถเองก็ทรงถูกจับตัว  ฝรั่งเศสในการนำของคณะรัฐบาลชั่วคราวตอนนั้นจึงถูกบีบให้ยอมจำนนครับนี่จึงนับเป็นการสิ้นสุดระบบกษัตริย์ในฝรั่งเศสลงอย่างสิ้นเชิง  แลเรื่องตลกร้ายอีกอย่างก็คือบิสมาร์คนั้นคิดจะข่มขู่ฝรั่งเศสให้กลายเป็นเบี้ยล่างด้วยการบังคับให้ฝรั่งเศสต้องชดใช้ค่าปฏิกรรมสงครามเป็นจำนวนมหาศาล  แต่ฝรั่งเศสกลับสามารถรวบรวมเงินจำนวนดังกล่าวได้ภายในไม่กี่เดือนครับ        โดยมีเรื่องเล่ากันว่าชาวฝรั่งเศสทั้งประเทศถึงกับรวมใจบริจาคทรัพย์สินเท่าที่พอมีให้ทางการนำไปชดใช้เป็นค่าปฏิกรรมสงครามแก่เยอรมันทีเดียวครับ  ขนาดชาวบ้านชาวนาที่ไม่มีเงินทองยังอุตส่าห์สละแหวนแต่งงานแลทรัพย์สินมีค่าเท่าที่พอหาได้ให้กับทางการซึ่งนับเป็นการบริจาคที่ยิ่งใหญ่ครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติเลยทีเดียว  จึงทำให้เวลาผ่านไปไม่ถึงปีฝรั่งเศสก็ชดใช้ค่ายเสียหายจนหมด  กระทั่งบิสมาร์คเองก็ยังต้องตกตะลึงพร้อมยอมรับในเงื่อนไขแลถอนทหารออกไปครับ      โดยความจริงแล้วตอนแรกบิสมาร์คนั้นตั้งแง่ไว้ครับว่าถ้าฝรั่งเศสจ่ายเงินไม่ครบ  ทหารเยอรมันก็จะคงกำลังไว้ในปารีสแลเมืองอื่นๆต่อไป  เพราะเฮียมาร์คแกคิดว่าเงินจำนวนมหาศาลขนาดนี้ฝรั่งเศสซึ่งกำลังบอบช้ำจากการแพ้สงครามคงใช้เวลาเป็นสิบปีกว่าจะชำระหมด  ซึ่งเวลานั้นเขาจะหาโอกาสยึดครองฝรั่งเศสขั้นเด็ดขาดซะเลย  แต่การกลับกลายเป็นว่าฝรั่งเศสจ่ายเงินคืนมาหมดในเวลาไม่ถึงปีทหารเยอรมันจึงต้องถอนทัพกลับบ้านตามสนธิสัญญานั่นเอง (สมัยนั้นการสงครามยังมีความเป็นปัจเจกชนแลสุภาพบุรุษอยู่ครับคือถ้าแพ้ก็แพ้ถ้าชนะก็ชนะแลใช้สนธิสัญญามาทำการตัดสิน  แต่ถ้าเป็นช่วงนาซีครองเมืองนี่ต่อให้ขูดรีดเงินจากฝรั่งเศสจนเกลี้ยงเยอรมันก็ไม่มีวันทางถอนทัพกลับแน่) **รุปภาพของ "ออตโต วอน บิสมารค์" บิดาผู้สถาปนาประเทศเยอรมันให้ก้าวสู่ยุคใหม่ครับ** (May the Spoil be with you) ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน จากคุณ : เจไดหนุ่ม - [ วันรัฐธรรมนูญ 19:23:22 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ..ทิ้งท้ายนิดนึงครับ..      "เจไดหนุ่ม" ต้องขอทำความเข้าใจกับเพื่อนๆหลายท่านด้วยนะครับว่าข้อมูลที่ผมนำมาบอกกล่าวกันในที่นี้อาจจะไม่ครบถ้วน  เพราะประวัติศาสตร์ของดินแดนยุโรปนั้นมันมีมากมายมหหาศาลจนสาธารยายกันสามวันวามคืนก็ไม่หมด  ผมเองก็คัดเอามาเฉพาะเรื่องราวสำคัญที่เกี่ยวข้องกับคำถามขของคุณจขกท.มาในแบบฉบับย่อให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว        ดังนั้นถ้าข้อมูลขาดตกบกพร่องไปในส่วนไหนก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ  เพราะเนื้อหามันมีมากผมจึงจำต้องละส่วนสาระสำคัญๆแลเอาเนื้อหาเฉพาะจุดที่ทุกท่านน่าจะเข้าใจได้ไม่ยากมาให้ได้รับชมกันในสำนวนภาษาของผมเอง  ส่วนถ้าเพื่อนๆท่านใดสงสัยในเรื่องราวตรงจุดไหนก็กรุณาถามเจาะจงมาเลยครับเพราะถ้าถามแบบกว้างๆนั้นผมเองก็ไม่รู้จะตอบเช่นใดให้ตรงใจเพื่อนๆทุกท่านเหมือนกัน ^_^a" ป.ล. เรื่อง "จักรพรรดิชาร์ลเลอมาญมหาราช" ที่คุณความคิดเห็นที่7สงสัยนั้นไม่ใช่ว่าผมไม่อยากนำมาลงหรือจงใจละเลยไป  แต่เพราะเห็นว่าไม่ค่อยมีส่วนเกี่ยวข้องกับคำถามของคุณจขกท.ครับ  จึงต้องขอเรียนชี้แจงมา ณ ที่นี้ด้วย (May the Spoil be with you) ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน จากคุณ : เจไดหนุ่ม - [ วันรัฐธรรมนูญ 19:40:59 ]

ความคิดเห็นที่ 18 อิตาลีเป็นประเทศที่แปลกเหมือนกัน 7% ของจีดีพีประเทศเป็นรายได้ของมาเฟีย แต่ประเทศก็ดูเจริญดี เรื่องความโหดไม่แพ้มาเฟียชาติไหนในโลก แต่กฏของสมาชิกแก๊งมาเฟียอิตาลีก็ดูมีคุณธรรม เข้มงวด และวางตัวสูงส่งพอสมควรคือ 1.ไม่มีใครสามารถติดต่อพบปะตัวสมาชิกแก๊งโดยตรงได้ ต้องให้บุคคลที่สามเป็นผู้นำผู้ที่ต้องการเข้าพบมาเจอกับสมาชิกแก๊งเสมอ 2. ห้ามมองภรรยาของเพื่อนสมาชิก 3. ห้ามมีความสัมพันธ์กับตำรวจ 4. ห้ามไปผับและคลับบันเทิง 5. ต้องเตรียมพร้อมเสมอสำหรับการทำหน้าที่ แม้ว่าภรรยาใกล้จะคลอดลูก 6. ต้องไปตรงเวลานัดทุกครั้ง 7. ต้องปฏิบัติต่อภรรยาด้วยการให้เกียรติ 8. เมื่อถูกถาม ต้องตอบความจริงเท่านั้น 9. ไม่ควรใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือย หากเงินนั้นเป็นของเพื่อนสมาชิกหรือเป็นของครอบครัวเพื่อนสมาชิก 10.บุคคลที่ไม่สามารถร่วมแก๊ง ได้แก่ ผู้ที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับตำรวจ ผู้ที่ประพฤติตัวแย่และไม่เคารพศีลธรรม และผู้ที่มีญาติซึ่งคบชู้สู่ชายในครอบครัว จากคุณ : ~ - [ วันรัฐธรรมนูญ 20:20:44 A:125.25.214.114 X: TicketID:188497 ]

ความคิดเห็นที่ 19 โห มาเฟียอิตาลีดูมีคุณธรรมกว่าท่านผู้ทรงเกียรติของบางปท.อีกนะ ต่อไปนี้ถ้าใครหาว่าผมเป็นมาเฟียละก็ ผมยินดีน้อมรับครับ แฮ่... จากคุณ : FreeWing - [ วันรัฐธรรมนูญ 21:28:21 ]

ความคิดเห็นที่ 20 แตกประเด็น... จากคุณ : Roh_Z - [ วันรัฐธรรมนูญ 21:37:15 ]

ความคิดเห็นที่ 21 #18 โห คุณสมบัติของแก๊งมาเฟียอิตาลี รวมๆแล้ว ดีกว่าคุณสมบัติในการเป้นนายกฯของไทยเสียอีก แซว ขอบคุณ คุณเจไดหนุ่ม มากครับ สำหรับขอมูลประวัติศาสตร์ของยุโรป ว่าแต่ สาเหตที่อณาจักรโรมัน ล่มสลายนั้น เพราะไปฆ่าพระเยซูใช่ไหมครับ คนเลยเริ่มเสื่อมศรัทธา แหะ พอดีเป็นคนที่ไม่ค่อยสนใจประวัติศาสตร์เท่าไหร่น่ะครับ ใครที่ได้อ่าน และทราบ รบกวนช่วยตอบให้ด้วยนะครับ ขอบคุณมากๆ จากคุณ : Styer - [ วันรัฐธรรมนูญ 23:02:52 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ชอบภาพในความเห็น 6  น่ารักเวลากอดตุ๊กตา ขอได้มะ จากคุณ : หัวปลาทู - [ วันรัฐธรรมนูญ 23:03:24 ]

ความคิดเห็นที่ 23 มาเฟียอิตาลี เป็นหนึ่งในระบบของสมาคมของชาวอิตาเลียนครับ...ไม่ต่างจากหอการค้าที่เป็นสมาคมพ่อค้า หรือมหาวิทยาลัยที่เป็นสมาคมอาจารย์ ดังนั้นเขาจึงต้องมีจรรยาบรรณที่ละเมิดมิได้ของวิชาชีพของเขาอยู่...ต่อให้เป็นสมาคมวิชาชีพที่น่ากลัวก็เถิด จากคุณ : นายปลาตีน - [ 11 ธ.ค. 51 00:07:00 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ทุกวันนี้ ก็ไม่มีชนชาวกรีกโบราณแล้วเหมือนกัน ส่วนข้อมูลนั้นจะเป็นเช่นไร ต้องรอ คุณ เจไดหนุ่ม จากคุณ : Red Freeze - [ 11 ธ.ค. 51 15:21:15 ]