ความคิดเห็นที่ 1 เดี๋ยวครับใจเย็น ปัญหาของคุณคืออะไร คือ คุณเชื่อที่คุณไปอ่านมา หรือ ยังไง?? จากคุณ : kepok - [ 14 ธ.ค. 51 16:37:42 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ธรรมะเขามีไว้ให้เราพ้นทุกข์นะครับ ถ้าคุณอ่านแล้วไม่สบายใจแสดงว่าคุณยังอ่านไม่เป็นนะซิครับ เมื่อคุณเห็นธรรม คุณก็จะยิ้มอย่างมีความสุข จากคุณ : 555จีจ้า - [ 14 ธ.ค. 51 16:42:29 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ธรรมะคือความจริงของธรรมชาติค่ะ แค่คิดว่า พูดดี คิดดี ทำดี แค่นี้ก็ไม่ต้องกังวลอะไรแล้ว จากคุณ : เซซาเร่ (เซซาเร่) - [ 14 ธ.ค. 51 16:47:31 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อย่างนี้คงต้องไปซื้อหนังสือ "ไอน์สไตน์พบ พระพุทธเจ้าเห็น" เสียแล้ว เพราะใส่เรื่องภพพูมิเอาไว้เต็มๆ จากคุณ : สม สุจี... - [ 14 ธ.ค. 51 16:49:55 A:118.172.100.138 X: TicketID:196116 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ปัญหาของคุณคือตีเจตนาของสิ่งที่คุณอ่านผิดไป สิ่งที่คุณอ่านเขาต้องการสื่อให้คุณรู้ว่า คุณต้องปฏิบัติตัวอย่างไร เพราะมันมีสิ่งที่คุณไม่รู้ไม่เข้าใจ และไม่อาจจะสัมผัสได้อยู่มาก ดังนั้น คุณต้องไม่หลงละเลิงไปกับการใช้ชีวิต สิ่งที่คุณทำต่าง ๆ ไม่ว่าจะมีคนรู้หรือไม่ล้วนแต่สามารถส่งผลต่อคุณในภายภาคหน้าทั้งสิ้น ไม่ว่าคุณจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม ดังนั้นคุณต้องหมี่นทำความดีซะ แต่คุณไม่ต้องกลัวไป ว่าคุณจะไปทรมานในชาติหน้า เพราะยังไงเวลาคุณเกิดใหม่ คุณก็จำความทรงของชาติที่แล้วไม่ได้อยู่ดี เช่นเดียวกับชาตินี้ หากคิดเหมือนกับชาติก่อน สิ่งที่คุณเผชิญอยู่ในตอนนี้อาจจะทรมานแสนสาหัสสำหรับชาติที่แล้วก็ได้ เพียงแต่คุณไม่อาจสำนึกได้ว่าสิ่งที่คุณเผชิญอยู่ตอนนี้ คือทุกข์ ถึงจะบอกอย่างนั้น แต่ยังไงเราก็ไม่มีทางรู้ว่าเราจะรู้สึกทรมานหรือทุกข์หรือไม่เวลานั้น หรือเราไม่สามารถตระหนักได้ว่ากรรมที่เราทำจะส่งผลในชาตินี้เลยหรือเปล่า ดังนั้นสิ่งที่เราสมควรทำในตอนนี้คือ ขวนขวายทำความดีให้ที่สุด และหลีกเลี่ยงการทำความชั่ว อย่างไรก็ตามการทำไปด้วยความกลัว มันจะชะลอให้ผลบุญนั้นให้ลดน้อยลง จึงควรที่จะทำความดีด้วยใจที่โปร่งใสจะดีกว่า และ ไม่มีใครรู้อนาคต อนาคตบางทีอาจจะดีกว่าที่คุณคิดก็ได้ ดังนั้นอย่ากลัว สิ่งที่จะเกิดก็ต้องเกิด คุณหลีกหนีมันไม่ได้หรอก การที่คุณกลัว คือคุณทำให้มันแย่มากกว่าเดิม แทนที่จะทรมานแค่ในอนาคตอย่างเดียว กลับต้องทรมานในปัจจุบันด้วย แปลว่าคุณทรมานมากกว่าเดิมใช่ไหม? ที่สำคัญ การที่คุณกำหนดจิตให้กลัวสิ่งเหล่านี้ มันก็เท่ากับคุณเรียกมันให้มาหาคุณทางอ้อมด้วยเหมือนกัน เช่นเดียวกับเวลาตาย (น่าจะเคยอ่านเจอนะ?) แล้วจิตคุณระลึกไปยังภพภูมิไหน คุณก็จะไปเกิดสู่ภพภูมินั้น ดังนั้นทำใจให้สบาย นึกถึงสิ่งที่ดี ทำตัวให้เหมาะสม โดยไม่ต้องสนใจพวกนี้ จะดีกว่า จากคุณ : กระต่ายโลหิต - [ 14 ธ.ค. 51 16:54:40 ]

ความคิดเห็นที่ 7 แปลว่า ยิ่งอ่านยิ่งยึดติด แนะนำให้ ไปเรียนกับครูดีๆนะครับ อย่าเรียนด้วยตัวเอง เดี๋ยวเพ้อ จากคุณ : gvd International - [ 14 ธ.ค. 51 17:17:58 ]

ความคิดเห็นที่ 8 พุทธศาสนาสอนให้ 1.ทำดี 2.เว้นชั่ว 3.ทำใจให้ผ่องใส รายละเอียด ของความดี ก็ มงคลสูตร 38 ประการ ความชั่วก็ การละเมิด ศีล 5 กับ อบายมุข 6 ถ้าอ่านหนังสือตามที่กล่าวแล้วจิตใจไม่ผ่องใส ก็เลิกอ่านมัน แล้วลอง อ่าน มงคลสูตร และ ศีล 5 กับ อบายมุข 6 แล้วนำไปปฏิบัติ จากคุณ : น้องแนนแฟนคลับลำดับที่หนึ่ง - [ 14 ธ.ค. 51 17:22:52 ]

ความคิดเห็นที่ 9 Arthur Eddington เขียนใน Cosmology and Big-Bang Theory ว่า Science is a differential equation. Religion is a boundary condition. บางทีผมว่าเลิกคิดไปน่าจะดีนะครับ ถือซะว่าอ่านนิยาย ... เป็นคนดี ไม่สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น ใช้ชีวิตแบบมีความสุข .. จริงๆ เราต้องการแค่นี้ไม่ใช่หรือครับ จากคุณ : B. - [ 14 ธ.ค. 51 17:49:36 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ลองเล่า...ปัญหาให้ฟังสิครับ ผมว่าช่วยกันแก้ได้ จากคุณ : putronium - [ 14 ธ.ค. 51 17:51:45 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เข้าไปถามให้ถูกที่ดีกว่า www.larndham.net จากคุณ : Protector - [ 14 ธ.ค. 51 17:53:32 ]

ความคิดเห็นที่ 12 แก้ที่ความคิดตัวเองค่ะ คุณเล่าแบบรวมๆ เราก็ไม่เข้าใจหรอกว่าช่วงไหนมันทำให้คุณจิตตกได้ พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนให้เชื่อในสิ่งที่ว่าตามกันมา แต่คุณต้องพิสูจน์และเห็นจริงเอง แค่ตัวหนังสือที่เขาว่ามาก็ทำคุณร้องไห้ได้แล้ว เราว่าคุณมีปัญหาในจิตใจตัวเอง จึงคิดต่อยอดจากสิ่งที่อ่านมา ผสมกับอารมณ์ที่แย่อยู่ลึกๆของตัวเอง ทำให้จิตตกแล้วร้องไห้ ทางที่ดีวางหนังสือแล้วไปพักผ่อนค่ะ จากคุณ : เสียงจากบ้านนา - [ 14 ธ.ค. 51 18:13:23 ]

ความคิดเห็นที่ 13 คุณเชื่อเรื่องพวกนี้เรอะ จากคุณ : Naruse_X - [ 14 ธ.ค. 51 18:24:47 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ผมคิดว่าธรรมชาติของมนุษย์ ย่อมมีความสุขกับทางโลกมากกว่าถ้า....ตนเองมีชีวิตที่ปกติ ผมเองก็ไม่ทราบว่า จขกท.มีปัญหาอะไรในชีวิตจริงบ้าง ซึ่ง .... ขณะนี้ เราควรจะต้องเผชิญกับชีวิตจริงของเราก่อนนะครับ การเป็นผู้อยู่ในศีลธรรม เข้าวัดเข้าวา....เป็นเรื่องดีแน่นอน แต่ นั้นก็คือสิ่งดีงามที่ยึดเหนี่ยวจิตใจเท่านั้น แต่การศึกษาถึงเรื่อง นรก สวรรค์ ชาติภูมิ ชาติหน้า ชาติที่แล้ว....น่าจะยังไม่มีความจำเป็นนัก สำหรับฆราวาสอย่างเรา ๆ ยิ่งอยู่ในวัยเรียน ทำงาน....นี่ยิ่งควรจะต้องให้เวลาไปกับการต่อสู้กับชีวิตจริง ของจริง ก่อนครับ เพราะเป็นสิ่งที่จะทำให้เราอยู่รอดได้อย่างมีความสุข การที่ จขกท.ศึกษาเรื่องแบบนั้นอย่างลึกซึ้งอาจทำเกิดจินตนาการบางอย่าง หรือ มีความเข้าใจบางอย่างผิดไปจึงทำให้จิตใจเกิดทุกข์ได้ ดังนั้น ผมขอแนะนำเบื้องต้นว่า ลองหันเหความสนใจไปด้านอื่นก่อน ผมมั่นใจว่า จขกท.เป็นคนมีจิตใจดี ถ้าหันมาสนใจทางโลกมากขึ้น ความดีก็ยังคงอยู่ครับ และก็สามารถเป็นคนดีได้เหมือนเดิม  โดยจะมีจิตใจผ่องใสขึ้นแน่นอน แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 51 18:33:08 จากคุณ : James Cook - [ 14 ธ.ค. 51 18:25:35 ]

ความคิดเห็นที่ 15 พระพุทธเจ้าท่านไม่ได้บอกว่า ให้เชื่อ แต่ให้ลองทำปรับเปลี่ยนแก้ไขให้ตรงกับชีวิตเรานะคะ อ่านแล้วจินตนาการอย่างเดียวทำไม ทำไมไม่เอาไปปรับใช้ล่ะคะ จากคุณ : นั่นน่ะซิ - [ 14 ธ.ค. 51 18:54:40 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เสียดายคนตายไม่ได้อ่านสิ เบสิค ๆ จากคุณ : nutxnut - [ 14 ธ.ค. 51 19:24:48 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ถ้างั้นก็ หยุดอ่านดีมั้ย จากคุณ : ปัจเอนก เจกชน - [ 14 ธ.ค. 51 19:44:00 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ทุกอย่าง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ไม่มีอะไรจีรัง ที่ให้พิจารณาทุกข์ก็เพื่อให้เห็นความไม่จีรัง ให้เห็นว่าไม่มีอะไรน่ายึดติดทั้งสุขและทุกข์ จากคุณ : ~ - [ 14 ธ.ค. 51 19:48:09 A:125.25.182.80 X: TicketID:188497 ]

ความคิดเห็นที่ 19 น่าจะลองหันมาอ่านหนังสือของคริสเตียนดูบ้าง ก็อาจเป็นอีกทางเลือกดีนะครับ http://www.cedthai.org/ http://www.nbcbook.com/ http://www.tyrannusthai.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=105503&Ntype=3 http://www.solomonbookclub.com/ จากคุณ : ksk - [ 14 ธ.ค. 51 19:50:14 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ในบางด้านผมเองก็ยิ่งอ่านยิ่งเครียดเหมือนกันโดยเฉพราะ เรื่องการตายเนี่ย เป็นอะไรที่พอผมเริ่มคิดแล้วฟุ้งซ่านทุกที จากคุณ : cdaz - [ 14 ธ.ค. 51 19:50:42 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ถึงที่สุดคือการหลุดพ้นในอาการที่ไม่หลุดพ้น จากคุณ : ~ - [ 14 ธ.ค. 51 19:51:06 A:125.25.182.80 X: TicketID:188497 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ผมก็เป็นบางครั้งนะครับ เวลาได้อ่านอะไรที่เกี่ยวกับธรรมมะ แล้วมันเกิดความรู้สึกที่ผมไม่รู้จะเรียกว่าอะไร ถ้าตอนไหนเกิดความรู้สึกแบบนั้น ผมจะเลิกอ่านไปเลย ทำจิตใจให้สบายๆ แล้ววันหลังค่อยว่ากันใหม่ จากคุณ : Junkyjoke - [ 14 ธ.ค. 51 19:55:25 ]

ความคิดเห็นที่ 23 จิตของอรหันต์เป็นจิตที่ไม่เศร้าหมอง ถ้าศึกษาธรรมมะแล้วจิตเศร้าหมองแสดงว่ายังศึกษาไม่ถึง จากคุณ : ~ - [ 14 ธ.ค. 51 20:05:39 A:125.25.182.80 X: TicketID:188497 ]

ความคิดเห็นที่ 25 คุณต้องแยกให้ออกระหว่าง...หลักธรรมจริงๆที่คิดว่าพระพุทธเจ้าตรัส.... ลบกับ เวลา ที่ผ่านมา ลบกับ การตกหล่นของภาษาในการแปล ลบกับ ทัศนะคติของคนแปร การเมืองสมัยก่อน ลบกับ เรื่องราวต่างๆที่คนสร้างขึ้นเพื่อเพิ่มจำนวนสาวก(บางครั้งการนับถือศาสนาบางครั้งถูกมองว่าเป็นการซ่องสุ่ม กำลังพล กษัตริย์ไม่ชอบ กลัวการถูกล้มล้างเพราะคนไม่เชื่อกษัตริย์แต่ไปเชื่อศาสดาแทน...เช่น เหตุที่เกิดกับพระเยซูเป็นต้น) แล้วที่เหลือเลือกเอาว่าจะเลือกเชื่ออะไร.... จากคุณ : Night Claw - [ 14 ธ.ค. 51 21:02:04 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ขอแนะนำให้ จขกท. ไปนั่งเงียบๆ (ไม่ถึงกับนั่งสมาธิ)ในวัดที่วิเวก ใกล้บ้านคุณ พิจารณาตัวเองเช้าถึงเย็น 3 วันเต็มๆครับ จากคุณ : FreeWing - [ 14 ธ.ค. 51 21:10:08 ]

ความคิดเห็นที่ 27 จิตตกที่ว่ามีรายละเอียดยังไง ลองเล่ามาหน่อยครับ เช่น กลัวบาปที่ทำมา กังวลเรื่องความทุกข์ ฯลฯ ถามมาแค่นี้ให้คำตอบอะไรไม่ได้ครับ จากคุณ : IL - [ 14 ธ.ค. 51 21:17:54 A:118.172.23.91 X: TicketID:121602 ]

ความคิดเห็นที่ 28 อ่านด้วยความเข้าใจคะ ธรรมะทำให้เห็นทุกข์ แต่ไม่ได้ให้เป็นทุกข์คะ จากคุณ : p (pangjang) - [ 14 ธ.ค. 51 21:23:25 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ผมเคยคิดเรื่องผิดศีล แต่บางทีมันก็เลี่ยงไม่ได้หรอก คิดๆไป  เลยไม่นับถืออะไรเลย  ถือเองก็หนักเอง จากคุณ : ร้อยละสิบสลึง - [ 14 ธ.ค. 51 21:38:41 ]

ความคิดเห็นที่ 30 รู้สึกว่าการสอนของศาสนาพุทธมันเหมือนดาบสองคมนะ ที่สอนๆกันก็เข้าใจว่าต้องการให้ปลงกับเรื่องต่างๆไม่ยึดติดแต่บางคนกลับยึดติด เครียดจิตตกเหมือนจขกท.นี่แหละ เหมือนปลงไม่ได้แถมยังวิตกหนักเข้าไปอีก ผมว่าเข้าวัดหาพระให้ท่านแนะนำดีกว่า จากคุณ : Salted Egg - [ 14 ธ.ค. 51 21:39:15 ]

ความคิดเห็นที่ 31 คุณ จขกท. ลืมบางอย่างครับ ธรรมะ สอนให้ มีสติ รู้ปัจจุบันขณะ ไม่ไปทบทวนปรุงแต่งอารมณ์กับอดีตที่แก้ไม่ได้ และ ไม่ไปกังวลกับอนาคต ที่ไม่รู้และไม่มีทางรู้ได้ด้วยความคิดหรือเครียด ปัจจุบันน่ะครับ ปัจจุบัน รู้ปัจจุบันเรื่อยๆ แล้วจะปลอดโปร่งครับ เวลาเผลอคิดอดีต ก็รู้ว่ากำลังคิด แล้วมันจะหายไปพักนึง เผลออีกอะไร ไม่ว่าอดีต อนาคต ต้องรู้ทันมันเรื่อยๆครับ ยิ่งรู้ทันมันเร็ว ก็ยิ่งทุกข์น้อย จากคุณ : Detonator_Pao_ - [ 14 ธ.ค. 51 21:50:45 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ธรรมะ คือ สภาพความเป็นจริงของธรรมชาติ ทุกสิ่งทุกอย่างไม่เที่ยง ยกเว้นธรรมะ ธรรมะ ก็คือธรรมะ มันอยู่ส่วนของมัน พระพุทธเจ้า เพียงค้นพบความเป็นจริงข้อนี้ แล้วนำมาเผยแพร่แก่มวลมนุษย์ ลองคิดตามนะครับ ตา รับรู้เพียงสี ถ้าไม่มีแสงสีมากระทบตาเรา เราก็มองไม่เห็น เราเห็นพื้น เพราะอะไร? แสงสีสะท้อนจากพื้นมาเข้าตาเรา? แล้วรู้ได้อย่างไรว่าเป็นพื้น? เพราะเมื่อเราเห็นพื้นครั้งแรก มีคนบอกว่า นี่คือพื้น มันคือความทรงจำ เพราะฉะนั้นทุกสิ่งทุกอย่างที่เราเห็นนั้นเป็นเพียงแค่สี ทุกอย่างที่เรายึดถือเป็นเจ้าของ มันไม่ไ้ด้เป็นอะไรมากไปกว่า สี หู รับรู้เพียงเสียง เวลาเราได้ยินคนว่ากล่าว พูดไม่ดีใส่เรา เราเกิดอารมณ์โมโห ลองคิดดู ว่าเราโมโหอะไร โมโหคำพูดเขา? คำพูดเขาคืออะไร? มันคือเสียงไม่ใช่หรอ? เราโมโหเสียงอย่างนั้นหรือ? จมูก รับรู้เพียงกลิ่น สูดดมเข้าไป รับรู้จากความทรงจำ ว่าเป็นกลิ่นของอะไร พอกลิ่นจาง จมูกก็ไม่รับรู้อะไร แต่กลิ่นยังตราตรึงอยู่ในความทรงจำ ลิ้น รับรู้เพียงรส กินอาหาร รู้รสชาติ จากความทรงจำ ว่าเป็นรสชาติของอาหารอะไร พอกินเสร็จ ลิ้นก็ไม่รับรู้อะไร แต่รสชาติยังตราตรึงอยุ่ในความทรงจำ กาย รับรู้ความรุ้สึกคือ ร้อน เย็น อ่อน ไหว ตึง แข็ง อากาศร้อน ไม่ได้ร้อนตลอด เมื่อความเย็นมา ความร้อนก็จางหายไป ท่ามกลางความมืดมิด เมื่อเกิดแสงสว่างขึ้น ความมืดย่อมหายไป โดยมีความสว่างเข้าแทนที่ หากแสงสว่างหายไป ย่อมเกิดความมืดมิดเข้ามาแทนที่ ฉันใดฉันนั้น มีเกิดย่อมมีดับ การเกิดนั้นเป็นทุกข์ เพราะการเกิดทำให้มีรูป เมื่อมีรูป ก็เกิดการเจ็บป่วยได้ ถูกเขาเฆี่ยนตีบ้าง ถูกเขาฆ่าบ้าง พบเจอกับความไม่สมหวังบ้้าง มีปัญหาชีวิตเข้ามาเรื่อยๆ และอื่นๆ..... จุดประสงค์ของบุคคลผู้ศึกษาธรรมะ เพื่อให้เกิดความเข้าใจในความจริงที่เที่ยงแท้ เพื่อให้เข้าใจถึงความทุกข์ของการมีรูป และค่อยๆปล่อยวาง จากกิเลสต่างๆ เพื่อไปสู่เป้าหมายคือนิพพาน หลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งปวง ไม่เกิดอีก ***ที่กล่าวมาทั้งหมด เกิดจากการศึกษาธรรมะตามความเข้าใจของข้าพเจ้าเท่านั้น ท่านไม่จำเป็นต้องเชื่อถือ ขอเพียงแค่ลองคิดพิจารณาตามดู ***ผู้รู้ท่านใด เห็นว่าข้อความของข้าพเจ้าผิดพลาด สามารถช่วยแก้ไขได้ หรือชี้แจงเพิ่มเิติมได้ครับ **เจ้าของกระทู้ ไปพูดคุยกับพระเยอะๆนะครับ ดูท่าว่าคุณกำลังศึกษาและเกิดความเข้าใจไปในทางที่ผิด จากคุณ : PhOeNiXo - [ 14 ธ.ค. 51 22:00:04 A:58.8.61.218 X: ]

ความคิดเห็นที่ 33 จขกท ลอง "เกือบตาย" ดูบ้างไหมครับ แล้วจะรู้ซึ้งเลยว่า ใดๆ ในโลกล้วนไม่ใช่ของเราทั้งสิ้น แป๊บเดียวทุกอย่างก็ไม่ใช่ของเราแล้วครับ ถ้า จขกท เข้าใจตรงนี้ละก็ คงปล่อยวางอะไรได้เยอะขึ้น เมื่อปล่อยวางได้ ใจก็คงสงบขึ้นเยอะเลยนะครับ 66666 จากคุณ : monsungja - [ 14 ธ.ค. 51 22:20:19 ]

ความคิดเห็นที่ 34 อย่าลืมเก็บจิตที่ตกไปนะ จากคุณ : เสือ_กลิ่นหอม - [ 14 ธ.ค. 51 23:39:17 ]

ความคิดเห็นที่ 35 จขกท. คงกังวลกับสิ่งที่เคยทำมาในอดีตเพราะไม่รู้เรื่องผลแห่งกรรม ให้เริ่มทำดีเสียตั้งแต่วันนี้ครับ สร้างกระแสกรรมดีให้มากๆเข้าไว้ มันเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับผู้ศึกษาใหม่ๆครับ จากคุณ : เข้มเท่านั้น - [ 14 ธ.ค. 51 23:50:58 ]

ความคิดเห็นที่ 36 อ่านแล้วอย่าเพิ่งรีบเชื่อ การรีบเชื่อมันคือการเชื่อโดนที่ยังไม่พิสูจน์ ยังไม่ไตร่ตรอง เมื่อยังไม่พิสูจน์ ยังไม่ไตร่ตรอง เราก็จะยิ่งไม่สงบ เพราะเรามีแต่ความสงสัย แล้วอีกอย่าง บางอย่างที่เราอ่านมามันอาจจะแต่งมาจากผู้ที่รู้ไม่จริงอีกต่างหาก จากคุณ : DevilDoll - [ 15 ธ.ค. 51 01:29:07 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ไม่สบายใจทำไม ไปทำอะไรเลวร้ายไว้งั้นหรอถึงต้องมานั่งกังวล ถ้าไม่าได้ทำแล้วจะกลัวทำไม หรือถ้าทำไปแล้วก็ช่วยอะไรไม่ได้ แต่ต่อจากนี้ไปก็หมั่นทำดีให้มากขึ้น คิดก่อนทำให้มากขึ้น จะได้ไม่ทำอะไรผิดผลาดอีก อดีตแก้ไขไม่ได้ แต่อนาคตเราทำให้มันดีได้ จากคุณ : คิน * คาเนะ - [ 15 ธ.ค. 51 04:33:24 ]

ความคิดเห็นที่ 38 แล้ว จขกท. ไปอ่านอะไรมาเลยรู้สึกไม่สลายใจกันละนี่ ถ้าเป็นเรื่อง นรกสวรรค์ ผลกรรม บลาๆ เมื่อก่อนผมเคยอ่านก็กลัวนะ เพราะบรรยายได้สยองมาก แต่ลองเอามาคิดนึกดูดีๆ มันก็ดูไร้เหตุผลอยู่บ้างเหมือนกัน หลักของพุทธศาสนาคือการมีสติอยู่ในทางสายกลาง เคร่งธรรมะไปก็ไม่ดี ไม่มีธรรมะเลยก็ไม่ดี  จับแก่นของพระพุทธศาสนาให้ได้ก็จะนำ คำสอนมาใช้ได้อย่างดีที่สุดครับ จากคุณ : Desolation Angel - [ 15 ธ.ค. 51 08:21:48 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เราคิดเหมือน # 37 ค่ะ จขกท. กังวลอะไรอยู่รึป่าว ควรหยุดอ่าน และปรับสภาพจิตใจใหม่ก่อน เดี๋ยวการเรียนจะแย่ตามไปด้วย จากคุณ : Choco-Mix - [ 15 ธ.ค. 51 11:22:06 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ขอเสนอ มงคล 38 ประการ ตอนจบ 35-38 ผุฏฐัสสะ โลกะธัมเมหิ จิตตัง ยัสสะ นะ กัมปะติ อะโสกัง วิระชัง เขมัง เอตัมมังคะละมุตตะมัง จิตผู้ใด อันโลกธรรมทั้งหลายถูกต้องดีแล้ว ไม่มีโศก ปราศธุลี เกษม ถ้าจิตตก ก็แสดงว่าตั้งโลกธรรมไว้ไม่ถูกต้อง ไปหาอาจารย์ซะ จากคุณ : เอวํ ด้วยประการฉะนี้แล - [ 15 ธ.ค. 51 11:53:45 A:61.19.67.165 X: TicketID:186388 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ธรรมะ คือ เรื่องราวของธรรมชาติ ไม่มีใครหนีพ้นความเป็นธรรมชาตินี้ได้ครับ ทุกคนต้องเป็นไปตามธรรมชาติ เกิด แก่ เจ็บ ตายในที่สุด นี่เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ง่ายที่สุด แล้วอาจมีโอกาสมาเกิดใหม่ แต่จะครบร่างหรือไม่ ไม่แน่ใจ จากคุณ : อีคิวศูนย์ - [ 15 ธ.ค. 51 12:26:16 ]

ความคิดเห็นที่ 42 คนเรามีวิธีให้เลือกตายอย่างน้อย 5 วิธี ถูกฆ่าตาย ฆ่าตัวตาย อุบัติเหตุ เจ็บป่วยหนัก และ แก่ตาย . . . จากคุณ : อีคิวศูนย์ - [ 15 ธ.ค. 51 12:30:20 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ดื่ม วีต้า พรุนสกัด แล้วนอนซะ   5555 ล้อเล่น แต่ ก็ได้ผลนะ รสชาติอาจห่วย แต่ ก็พอไหว คุณ  ยึด ติด เครียด ก็แค่นั้นแหละ วางซะ ก็สบาย หากมันเข้าใจยาก ก็ทำตาม คอมมอนเซนสิ นั่นนะ ธรรมะเกือบทุกอย่างเลย เช่น ไปตีเขา เขาเจ็บ บาปแน่ๆ คิดมาก เป็นทุก๘ ก้แน่ๆ  เห็นรถวิ่งมาหา โดดหลบ ฯก็ธรรมะ นะ ทำอะไรมีสติ กับปัจจุบัน ง่ายๆ  ชิลลๆ แล้วก็พัมนาไปเรื่อยๆ อาจจะเริ่มยาก แต่พอถึงสูงสุด คุณจะกลับสู่สามัญ ที่เป็นยิ่งกว่าสามัญ คือหลุดพ้นไง  สามัญจากการผ่านสูงสุด ไม่เหมือนกับ สามัญทั่วไปจ้า  แน่นอน พูดง่าย แต่ทำยาก มันเป็นธรรมดา แต่ก้ไม่ยากเกินไปหรอกจ้า แก้ไขเมื่อ 15 ธ.ค. 51 16:24:35 จากคุณ : หนูหงอย - [ 15 ธ.ค. 51 16:23:39 ]

ความคิดเห็นที่ 44 มาแอบอ่าน จากคุณ : เรียกเหมียวๆประเดี๋ยวก็มา - [ 15 ธ.ค. 51 16:42:59 ]

ความคิดเห็นที่ 45 อยู่กับความจริง อยู่กับสิ่งที่เรามองเห็น อย่าใช้ชีวิตอยู่กับแรงโน้มน้าวและโฆษณามากครับ ความจริง เราก็แค่มนุษย์ เป็นสิ่งมีชีวิตเล็กๆในดาวดวงเล็กๆครับ อย่าถามว่า ..ตายแล้วไปไหน เพราะไม่มีคำตอบ ดินมันไม่มีปากครับ จากคุณ : FisH DooK - [ 15 ธ.ค. 51 20:10:54 ]

ความคิดเห็นที่ 46 - จากคุณ : อีคิวศูนย์ - [ 16 ธ.ค. 51 19:06:27 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ไม่เข้าใจ จากคุณ : นกไฟแห่งป่ามายา - [ 18 ธ.ค. 51 16:31:44 ]