ความคิดเห็นที่ 1 ไม่เคยได้ยินว่าจักรวาลมีขอบเขต ส่วนไอ้ที่คุณได้ยินว่ามีขอบเขตเนี่ยมันคือ เอกภพสัมพัทธ์ ในเรื่องเซต รึป่าวครับ จากคุณ : it's my way (It's my way) - [ 21 ธ.ค. 51 14:15:31 ]

ความคิดเห็นที่ 2 รู้สึกจะเข้าใจอะไรผิดไปนะ จากคุณ : Mr.june - [ 21 ธ.ค. 51 14:20:52 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ยังเป็นความลับอยู่ จากคุณ : ท่านประธานบริษัท - [ 21 ธ.ค. 51 14:25:43 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เพิ่มเติมครับ ส่วนตัวผมคิดว่าจักรวาลไม่มีขอบเขตและไม่มีทางที่จะมีขอบเขตได้ เพราะถ้าจักรวาลมีขอบเขต จะเกิดคำถามอีกว่า แล้วนอกขอบเขตของจักรวาลคืออะไร เพราะฉะนั้นจักรวาลจึงเป็นอนันต์ครับ จากคุณ : It's my way - [ 21 ธ.ค. 51 14:29:02 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อนันต์ ใช้ในการแทนค่าการประเมิณถึง จำนวนหรือตัวเลข ที่มีการเปลี่ยนแปลงในทิศทางหนึ่งๆ อย่างไม่รู้จบ นั่นคือ ระบุไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นทิศทาง ลบ หรือ บวก นั่นคือ +อนันต์ และ -อนันต์ ถ้าจักรวาล มีการขยายตัวออกไปเรื่อยๆ ก็เข้าสู่รูปแบบของอนันต์ เพราะมีการเปลี่ยนแปลงในทิศทางหนึ่งๆ ไปไม่รู้จบ จากคุณ : ZeeOut - [ 21 ธ.ค. 51 14:49:26 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ปริศนาของเลขอนันต์ มีไว้เพื่ออะไร http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X6811491/X6811491.html จากคุณ : silverfox - [ 21 ธ.ค. 51 15:26:08 A:192.168.0.17 X:125.24.135.111 TicketID:185555 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เอกภพ (จักรวาล) มีขอบเขตครับ จากหลักฐานของฮับเบิล(กาแลกซีอยู่ไกลคลื่นที่ออกจากเราด้วยความเร็วตามระยะทางที่ห่าง และอุณหภูมิพื้นหลังเอกภพ (Cosmic Microwave Background) ถ้าเอกภพเป็นอนันต์ จะมีปัญหามากกว่านอกเอกภพคืออะไรอีกครับ ข้อมูลในปัจจุบัน เราเชื่อได้ค่อนข้างแน่นอนแล้วครับ ว่าเอกภพมีขอบเขต จากคุณ : nOnG_WinZ (nOnG_WinZ) - [ 21 ธ.ค. 51 15:44:51 ]

ความคิดเห็นที่ 8 #8 สวัสดีครับคุณ nOnG_WinZ เจอกันอีกแล้ว ขอบคุณกระทู้คราวก่อนด้วยครับ ผมจำได้ว่าเคยอ่านว่า จักรวาลไม่มีขอบ(no boundary)น่ะครับ หรือเป็นความคิดเก่าแล้ว จากคุณ : silverfox - [ 21 ธ.ค. 51 16:05:36 A:192.168.0.17 X:125.24.165.28 TicketID:185555 ]

ความคิดเห็นที่ 9 มันต้องรู้ก่อนเหรือเปล่า ว่าเอกภพ หมายถึงอะไรกันแน่ แล้วจักวาลหมายถึงอะไรกันแน่ ถึงจะคุยกันรู้เรื่อง จากคุณ : รูปหล่อ_พ่อคนดี - [ 21 ธ.ค. 51 17:31:56 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ยังสรุปไม่ได้หรอกครับ - ปรากฏการณ์ red shift จากการสังเกตการณ์ที่พิจารณากันว่าคือ doppler effect ที่หมายถึงเอกภพเคลื่อนที่ห่างจากเราในทุกทิศทางอย่างมีความเร่ง ถ้าเราตีความว่าเอกภพแบน คือมีขอบ จะมีคำถามตามมาว่า ถ้าเช่นนั้น โลกคือศูนย์กลางของเอกภพหรือ? (เพราะเราเห็นทุกสิ่งเคลื่อนที่ห่างจากเราในทุกทิศทาง) ดังนั้น การตีความแบบนี้สอดคล้องกับรูปแบบเอกภพทรงกลม ที่สิ่งต่างๆ อยู่บนผิวของทรงกลม ทำให้เห็นการขยายตัวทุกๆทิศทาง เป็นไปได้ในทุกๆ จุด มากกว่า ซึ่งเอกภพแบบทรงกลมนั่นคือรูปแบบที่ไม่มีขอบ - ส่วนเรื่องรังสีฉากหลังก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สอดคล้องกับทฤษฎีการพองตัวในยุคแรกเริ่มจากปรากฏการณ์บิ๊กแบง ถ้าข้อมูลปัจจุบันจริงๆ แล้ว ต้องบอกว่า - ทฤษฎีบิ๊กแบงดั้งเดิมนั้นก็เริ่มถูกสั่นคลอนแล้ว จากการมีทฤษฎี cycle universe เข้ามา (ดูได้จากหนังสือ Endless Universe) - ref shift ก็ถูกตั้งคำถามเช่นกันว่าเป็นปรากฏการณ์ doppler effect จริงหรือ? (เช่นในหนังสือ A Difference Approach to Cosmology, Big Bang Never Happened เป็นต้น) แม้ว่าจะไม่ใช่งานวิจัยกระแสหลัก แต่ก็ไม่ใช่เหตุผลที่จะไม่รับฟัง สรุปว่ายังเปิดกว้างสำหรับจินตนาการครับ จากคุณ : อุปนิกขิต - [ 21 ธ.ค. 51 17:37:09 ]

ความคิดเห็นที่ 11 #7 มันแล้วแต่การจำกัดความ 1 ถ้าบอกว่าจะจำกัดความของจักรวาลด้วยเคหะวัตถุและอนุภาคที่ไกลที่สุดในปัจจุบัน คือขอบเขตของจักรวาล แปลว่าจักรวาลมีขอบเขต 2 แต่ถ้าจะจำกัดความถึงข้อความในด้านบน แต่กล่าวถึงการที่จักรวาลจะสามารถขยายไปได้เรื่อย ๆ ไม่มีวันสิ้นสุด แปลว่าจักรวาลมีขนาดเป็นอนันต์ สองข้อบน เหมือนกับการตีความว่า เวลามีจำนวนเป็นอนันต์หรือเปล่า ถ้าคุณตีขอบเขตตั้งแต่เริ่มถึงปัจจุบัน มันก็มีขอบเขต แต่ถ้าคุณตีความถึงอนาคตด้วย มันก็ไม่มีขอบเขต แต่อย่าลืมว่า เวลาที่ว่า มันอยู่ในแกน XY ที่ไม่มีขอบเขตด้วย จักรวาลที่ว่าของคุณคือเวลา หรือ แกน XYกันล่ะ? แถมยังมีทฤษฎีอื่น ๆ เสริมอีก เช่นจักรวาลที่ว่า เมื่อเริ่มเดินทาง ณ จุดใดจุดหนึ่งแล้ว จะสามารถเดินทางกลับจุดเดิมได้เสมอ เหมือนอยู่บนเปลือกลูกโป่งที่ขยายออกไปเรื่อย ๆ หรือ เมื่อเราเดินทางไปจนสุดแล้ว เราจะไม่สามารถไปต่อได้อีก หรือจักรวาลกว้างได้เรื่อย ๆ ตราบใดที่เราสามารถเดินทางไปได้เรื่อย ๆ กรณีพวกนี้ถือว่ายังไงกันเนี่ย? แก้ไขเมื่อ 21 ธ.ค. 51 17:39:52 จากคุณ : กระต่ายโลหิต - [ 21 ธ.ค. 51 17:38:11 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อาจจะมีหรือไม่มี เพราะยังไม่มีใครที่เรารู้จักเดินทางไปถึงขอบเอกภพแล้วกลับมาบอก อนันต์ก็เหมือนกันอาจจะมีหรือไม่มี เพราะยังไม่มีใครเรารู้จักเดินทางไปจนถึงจุดสิ้นสุดของกาลเวลาแล้วกลับมาบอก จากคุณ : มังกรใจเย็น - [ 21 ธ.ค. 51 18:25:23 ]

ความคิดเห็นที่ 13 #8 มันมีหลายทฤษฎีน่ะครับ แต่ที่แน่ๆ จักรวาลมีขอบเขต ซึ่งขอบเขตในที่นี้ อาจอุปโลกว่าเป็นระยะที่มนุษย์ก้าวเข้าไปถึงก็ได้ครับ #10 ใช่ครับ ยังสรุปไม่ได้ ผมถึงใช้คำว่า "ค่อนข้างแน่นอน" ซึ่งอาจจะดูว่าฟันธงเกินไป แต่ผมเพียงต้องการสื่อว่า จากกข้อมูลหลักๆ เราเชื่อเช่นนั้นเฉยๆครับ ข้อมูลต่างๆข้างต้น ผมเขียนเพียงเผินๆครับ เพราะขี้เกียจต" ครับ สงสัยจะใช้ภาษาผิด *----*) ยิ่งมี M theory ออกมาอีก ก็ยิ่งทำให้แต่ละทฤษฎีปั่นป่วน เพราะนั่นหมายถึงสามารถมีเอกภพคู่ขนานได้ ซึ่งตามทฤษฎีนี้ นักดาราศาสตร์เสนอว่าเอกภพมีวัฎจักรเป็นวงจร คือ มีการพองตัวขยายตัว เย็นตัว ร้อนขึ้น เป็ฯวงจรไม่สิ้นสุด ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อเอกภพซึ่งเคลื่อนที่อยู่บน membrane เข้าใกล้ และถอยห่างออก เป็นวงจรเรื่อยไป สำหรับกรณีที่โลกเป็นจุดศูนย์กลางจักรวาลหรือ ? เพราะเราเห็นกาแลกซีที่ห่างเท่ากันเคลื่อนที่ออกจากตัวเราด้วยความเร็วเท่ากันนี่ ? คำอธิบายของกรณีนี้คือ การสังเกตุการณ์ต้องอาศัยผู้สังเกตุเป็นหลัก เคยได้ยินทฤษฎี "เอกภพสมมาตร" ไหมครับ ที่กล่าวว่า เอกภพจะเหมือนกันในทุกทิศทางไม่ว่าเราจะมองจากตรงไหนก็ตาม ปล.1 ก่อนหน้านี้ ที่อธิบายไว้สั้นๆเพราะ ขี้เกียจพิมยาว และไม่คิดว่าจะมีคนเข้ามาตอบครับ เลยอธิบายไว้อย่างง่ายๆ ดีใจครับ ที่ได้สนทนากับคนมีความรู้ ปล.2 ขออภัยที่อ้างไม่ได้เลย เอาแต่บอกว่า มีทฤษฎีนู้น มีทฤษฎีนี้ ข้อมูลเหล่านี้ ด้นเอาจากหัว และผมก็จำชื่อคนเสนอทฤษฎีพวกนี้ไม่ได้ครับ - - จากคุณ : nOnG_WinZ (nOnG_WinZ) - [ 21 ธ.ค. 51 18:50:55 ]

ความคิดเห็นที่ 14 #11 เห็นด้วยครับ ว่าขึ้นอยู่ว่ากล่าวถึงเรื่องอะไร เพียงแต่ว่าถ้าตอนนี้จักรวาลมีขนาดเป็นอนันต์(ซึ่งผมเข้าใจว่าคุณ จขกท. เข้าใจเช่นนี้) มันจะมีปัญหาตามมาหลายตัวเลยครับ เอาง่ายๆอย่างที่ผมเคยพูดถึงเรื่อง olber paradox ที่คุณ cryptomnesia เคยเอามาถามเล่น เรื่องนั้่นเรื่องหนึ่ง เรื่องคำนิยามต่างๆทางดาราศาสตร์มีปัญหาเสมอ เอาแค่นิยามดาวเคราะห์ ขนาดประชุม IAU แล้ว ให้นิยามมาแล้ว ยังจำกัดความได้ไม่ชัดเจนเลยครับ แล้วไหนจะเรื่องดาวเคราะห์คู่ ? ดาวบริวาร ? บลา บลา บลา บลาาา ดาราศาสตร์สนุกตรงนี้แหละครับ ข้อมูลเปลี่ยนแปลงได้เสมอ จากคุณ : nOnG_WinZ - [ 21 ธ.ค. 51 18:56:12 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ------แถมยังมีทฤษฎีอื่น ๆ เสริมอีก เช่นจักรวาลที่ว่า เมื่อเริ่มเดินทาง ณ จุดใดจุดหนึ่งแล้ว จะสามารถเดินทางกลับจุดเดิมได้เสมอ เหมือนอยู่บนเปลือกลูกโป่งที่ขยายออกไปเรื่อย ๆ หรือ เมื่อเราเดินทางไปจนสุดแล้ว เราจะไม่สามารถไปต่อได้อีก หรือจักรวาลกว้างได้เรื่อย ๆ ตราบใดที่เราสามารถเดินทางไปได้เรื่อย ๆ----- ผมไม่เข้าใจว่า ทฤษฎีเสริมที่กล่าวถึงหมายความถึงอะไร แต่ว่าที่แน่ๆ ที่กล่าวมาข้างต้น ทั้งสามอย่างนั้น เป็นคนละทฤษฎี คนละรูปร่างของจักรวาลเลยครับ ----เมื่อเริ่มเดินทาง ณ จุดใดจุดหนึ่งแล้ว จะสามารถเดินทางกลับจุดเดิมได้เสมอ เหมือนอยู่บนเปลือกลูกโป่งที่ขยายออกไปเรื่อย ๆ >> นี่คือกรณีที่ถ้ารูปร่างของจักรวาลเป็นทรงกลมครับ สองกรณีหลัง อาจเป็ฯการจินตนาการที่ยังไม่มีใครรู้ ของจักรวาลแบนราบ และอานม้าครับ จากคุณ : nOnG_WinZ - [ 21 ธ.ค. 51 19:00:15 ]

ความคิดเห็นที่ 16 อ้าว...แล้วคนนี้อะ... จากคุณ : Night Claw - [ 21 ธ.ค. 51 19:20:32 ]

ความคิดเห็นที่ 17 อืมครับ สงสัยที่ผมรู้คงทฤษฎีเก่าแล้ว เป็นรูปลูกโป่ง ที่มีขนาดจำกัด ไม่ได้เป็นอนันต์ แต่สามารถพองตัวยุบตัวได้ ข้างในคงเป็นสสารมืด แต่ไม่มีขอบ ดังนั้นถ้าเดินไปเรื่อยๆสามารถกลับมาที่จุดเดิมได้ ขอบคุณ คุณ nOnG_WinZ อีกทีครับ จากคุณ : silverfox - [ 21 ธ.ค. 51 19:55:19 A:125.24.104.168 X: TicketID:185555 ]

ความคิดเห็นที่ 18 นอกจักรวาลอาจมีพวกนี้อยู่ จากคุณ : silverspider - [ 21 ธ.ค. 51 20:54:47 ]

ความคิดเห็นที่ 19 คุณ silverspider คุ้นๆ เหมือนเรื่อง IBM เลยครับ ช่ายป่าว จากคุณ : silverfox - [ 21 ธ.ค. 51 21:43:10 A:125.24.104.168 X: TicketID:185555 ]

ความคิดเห็นที่ 20 #19 เอามาจาก MIB นะแหละ จากคุณ : silverspider - [ 21 ธ.ค. 51 22:38:40 ]

ความคิดเห็นที่ 21 นอกจักรวาลผมว่าเป็นเพียงความว่างเปล่าอย่างแท้จริงอะ เพราะหาไม่ได้ในทางศาสนาผมเชื่อว่าเป็นแดนนิพพานครับ มนุษย์นี่ยิ่งไชว่คว้าไปเท่าไหร่ก็ไม่มีจบสิ้นกันซะที ผมว่า้ชื่อในคำสอนของพระพุทธเจ้ากันดีกว่า คิดไปก็ปวดหัวเรื่องอย่างนี้ เอาไปแต่งนิยายได้อย่างเดียวแหละ จากคุณ : pon2007 (pon2007) - [ 22 ธ.ค. 51 08:52:41 ]

ความคิดเห็นที่ 22 คุณ pon2007 ไม่รู้จริงๆเหรอครับ ว่าเขาศึกษาดาราศาสตร์กันไปทำไม ถ้างั้นก็อย่าพูดแบบนั้นดีกว่าครับ จากคุณ : Sial - [ 22 ธ.ค. 51 09:27:04 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เราอยู่ เพื่อ หาความจริง ความจริง คือสิ่งที่ไม่สามารถ ปฏิเสธได้ เราอยากรู้ความจริง ที่มีหลักฐานที่น่าเชื่อถือพอ ไม่ใช่คำพูดของใคร เพียงสิ่งเดียว เราอยากรู้สิ่งที่แท้จริง ไงล่ะครับ คือ เหตุผล ที่เรา ทำอยู่ทุกวันนี้ และเพราะ ความพยายามของเรา ก็ได้พบความจริงบางอย่างของ จักรวาล (คุณถึงมีไฟฟ้า มีรถ สามารถ ออกนอกโลกไปเหยียบ ดวงจันทร์ ได้ยังไงล่ะครับ มีการผ่าตัด รักษาโรคมาลาเรีย ด้วยยาควิกนิน ไม่ใช่น้ำมนต์) และซักวัน เราจะต้องรู้ทั้งหมด และ ขอร้องอย่าดูถูกเรา วิทยาศาสตร์ อาจเป็นเรื่องใหม่ สำหรับพวกคุณ แต่ ศาสตร์นี้ มีมานาน นับพัน ปี ไม่ได้พึ่งมามี เอาตอนนี้ ขอบคุณ -------------------------------------- จักรวาลมีขอบเขต แต่เป็นอนันต์ ครับ เนื่องจาก จักรวาล ขยายตัวไปอย่างไม่สิ้นสุด ด้วยความเร็ว ที่ วัตถุ ไม่มีทางตามทัน สมมติ ตัวเราเป็น เลข 1 ขอบเขตจักวาล คือ 0 เอา 1/2 หาร ผลลัพธ์ไปเรื่อย ก็จะได้เป็น 1/2 1/4 1/8 1/16 ไปเรื่อย เมื่อไร จะถึง 0 เราสามารถเรียก สิ่งนี้ว่า อนันต์ ได้ไหม จากคุณ : x (ZGMF-X10A) - [ 22 ธ.ค. 51 14:47:57 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ถึงจะมีขอบเขต แต่ถ้าคุณวิ่งเป็นวง มันก็ได้ระยะเป็น อนันต์ได้ จากคุณ : aLITTLEspaceAround7day - [ 22 ธ.ค. 51 15:17:47 ]

ความคิดเห็นที่ 25 จักรวาลตอนนี้ขยายตัวเร็วมากจนเกินความเร็วแสงแ้ล้วล่ะ อ่านมาจาก SciAm เดือน March - The End of Cosmology นะ จากคุณ : Ritalin - [ 22 ธ.ค. 51 20:18:18 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ถ้าจักรวาลขยายตัวได้เร็วกว่าความเร็วแสง... 1. เมื่อไหร่มันจะชน...อะไรสักอย่างที่กำลังขยายตัวด้วย 2. แสดงว่ามีสิ่งที่เร็วกว่าแสง.. จากคุณ : Night Claw - [ 22 ธ.ค. 51 21:43:41 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 30 ธ.ค. 51 19:49:25 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ก่อนปี1929 คนเชื่อว่า กาแลกซีของเราคือเอกภพครับ แต่หลังจากการค้นพบกาแลกซีอื่นๆ ความหมายของเอกภพก็เปลี่ยนครับมันคือกาแลกซีทั้งหมดหรือเรียกอีกอย่างว่าจักรวาล   เรื่องค่าอนันต์ของคุณน่าสนใจครับ ตั้งคำถามนี้มาได้ก็นับว่าเยี่ยมยอดทีเดียว  จักรวาลตามทฤษฎีจักรวาลวิทยากระแสหลักก็คงบอกว่า ไม่มีขอบแต่ก็ไม่ได้มีปริมาตรอินฟินนิตี้ แต่ถ้าจักรวาลที่สังเกตได้ผมคิดว่าน่าจะมีขอบนะ  แต่จากการทดลองทางดาราศาสตร์ใหม่ๆเหมือนจะบอกเราว่าจักรวาลแบน ถ้ามันแบนจริง มันก็คงไม่มีขอบและไร้ที่สิ้นสุด เดินทางเป็นเส้นตรงเรื่อยๆจะไม่กลับมาจุดเดิม จากคุณ : Aloner - [ 10 ม.ค. 52 13:31:53 ]