ความคิดเห็นที่ 1 กองทัพบก โครงการจัดหารถเกราะล้อยาง BTR-3E1 จากประเทศยูเครนจำนวน 96 คัน (3.8 พันล้านบาท) ปีที่ผ่านมากองทัพบกมีการจัดหาอาวุธหลายรายการทีเดียวครับ ส่วนมากแล้วเป็นการจัดหาเพื่อทดแทนอาวุธรุ่นเก่าที่ใกล้หมดอายุการใช้งาน และเป็นการจัดหาในโครงการซึ่งถูกเลื่อนมาเมื่อครั้งวิกฤตต้มยำกุ้งปี 2540 ครับ โครงการที่น่าจะเป็นไฮไลต์ก็คือโครงการจัดหารถหุ้มเกราะล้อยาง BTR-3E1 จำนวน 96 คัน ราคา 3.8 พันล้านบาทจากประเทศยูเครนครับ โครงการนี้เป็นโครงการที่ถูกเลื่อนมาเมื่อครั้งวิกฤตต้มยำกุ้งปี 2540 ซึ่งในตอนนั้นกองทัพบกเลือกแบบรถเกราะ LAV-25 จากบริษัท General Motor Canada เอาไว้ แต่ไม่มีการจัดหาจริงเนื่องจากขาดงบประมาณ และในราวปี 2548 ก็มีการทำสัญญาระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีนในการแลกเปลี่ยนลำไยอบแห้งกับรถเกราะล้อยางแบบ WZ-551 จากบริษัท NORINCO ของจีน แต่หลังจากที่มีข่าวว่าทางฝ่ายจีนกดราคาประเมินลำไยต่ำมากจนไม่คุ้มค่าและพบการทุจริตลำไยของฝ่ายไทย ทำให้โครงการถูกยกเลิกอีกครั้ง ซึ่งโครงการกลับมาอย่างจริงจังในปี 2550 ครับ โดยกองทัพบกเลือกแบบรถเกราะ BTR-3E1 จากประเทศยูเครนให้เป็นผู้ชนะในการแข่งขันด้วยเหตุผลว่ารถเกราะยูเครนมีราคาถูกกว่ารถเกราะอื่น ๆ ของตะวันตกถึง 50% ทำให้สามารถจัดหาได้ครบความต้องการ 96 คันภายในงบประมาณที่ได้รับการอนุมัติ และมีการเซ็นสัญญาจัดหาไปเมื่อกลางปี 2551 ที่ผ่านมาครับ ตามข่าวที่ออกมาก็คือรถเกราะที่กองทัพบกจัดหานั้น ครึ่งหนึ่งจะใช้ตัวถังของรถเกราะที่ผลิตไว้แล้วแต่ไม่ได้ส่งมอบให้กับลูกค้ามาติดตั้งเครื่องยนต์และระบบอาวุธ ส่วนอีกครึ่งหนึ่งจะเป็นตัวถังใหม่ แต่ประบบเครื่องยนต์และอาวุธจะเป็นของใหม่ทัง้สิ้นครับ ซึ่งยูเครนเสนอที่จะถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตกระสุนให้กับกองทัพไทยเพื่อที่จะสามารถผลิตกระสุนมาใช้งานกับปืนกลอัตโนมัติขนาด 30 มม. รุ่น ZTM-1 ที่ติดตั้งกับรถรุ่นนี้ครับ ยังไม่แน่ชัดถึงแบบแผนของอาวุธที่จะติดตั้งในรถเกราะชุดนี้ว่าจะมีอะไรบ้างนอกจากปืน ZTM-1 ซึ่งคาดว่ากองทัพบกจะได้รับมอบรถเกราะ BTR-3E1 ในปี 2552 ครับ ................................................................. Ukraine Snags Large Armored Personnel Carrier Deal in Thailand News and commentary from the Ukrainian Observer Online KYIV, Aug. 6 – Sources in Bangkok said Monday that Thailand will strengthen its military with the purchase in a government-to-government deal of 96 BTR-3E1 armored personnel carriers designed and produced by the state-owned Kharkiv Morozov plant at Kharkiv, Ukraine. The deal is valued at four billion Thai baht, the equivalent of approximately 670 million Ukrainian hryvnia. Military sources in Thailand said the choice of Ukraine’s APCs was based primarily on price and the fact that Ukraine will continue making spare parts for its vehicles. Thai Defense Minister Boonrawd Somtas was quoted in press reports as having said last week that the army favored the Ukraine-made BTR-3E1 armored vehicle because it was the cheapest of the nine bidders. There were nine competitors for the contract with Ukraine beating out spirited efforts by Canada, Russia and China. ............ http://www.ukraine-observer.com/2?PHPSESSID=4f6bd630dff0a6fb443f03ce2849d30b จากคุณ : Skyman (Analayo) - [ วันสิ้นปี 22:30:39 ]

ความคิดเห็นที่ 2 โครงการจัดหารถเกราะ REVA 4x4 จากประเทศแอฟริกาใต้จำนวน 87 คัน (870 ล้านบาท) นอกจากนั้นกองทัพบกยังลงนามจัดหารถเกราะแบบ REVA 4x4 จำนวน 87 จากประเทศแอฟริกาใต้ครับ กองทัพบกให้เหตุผลของการจัดหาว่าเพื่อใช้งานในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งรถ REVA 4x4 นั่นเริ่มปฏิบัติงานในพื้นที่ตั้งแต่เมื่อกลางปีที่ผ่านมาครับ เราคงได้เห็นจากภาพข่าวจากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้บ้างแล้วครับ FAR SOUTH Army set to deploy its new APCs WASSANA NANUAM, MUHAMMAD AYUB PATHAN & ABDULLOH BENJAKAT The army will deploy 42 armoured vehicles newly purchased from South Africa in the restive South by early June, an army source said yesterday. The source said the armoured vehicles costing US$310,000, or around 10 million baht each, will be sent to military units in Yala, Pattani and Narathiwat. It was the first time the army has bought armaments from South Africa. It has also opened an army attache’s office in Cape Town for future military cooperation between the two countries, the source added. ........ http://www.bangkokpost.com/News/30May2008_news05.php จากคุณ : Skyman (Analayo) - [ วันสิ้นปี 22:32:45 ]

ความคิดเห็นที่ 3 โครงการจัดหาปืนเล็กยาว TAR-21 Tavor และปืนกล Negev จากประเทศอิสราเอล (300 ล้านบาท) อีกโครงการหนึ่งที่เริ่มต้นเมื่อราวปลายปี 2550 ที่ผ่านมาต่อเนื่องจนถึงปีนี้ก็คือโครงการจัดหาปืนเล็กยาวแบบ TAR-21 Tavor และปืนกลแบบ Negev จากประเทศอิสราเอลครับ กองทัพบกมีโครงการที่จะจัดหาปืนเล็กยาวรุ่นใหม่เพื่อทดแทนปืนเล็กยาวแบบ M16A1 ซึ่งใช้งานมานาน โดยกองทัพบกตั้งความต้องการเอาไว้ 106,205 กระบอก รวมถึงมีโครงการจัดหาปืนกลอีก 3,507 กระบอกครับ โครงการเป็นโครงการระยะยาวซึ่งจะทะยอยจัดหาไปจนกว่าจะครบตามจำนวน ตามข่าวแล้วกองทัพบกทำการประเมินค่าปืนจำนวน 4 แบบคือ M4A1 จากสหรัฐ, Styler AUG จากออสเตรีย, G36 จากเยอรมัน, และ TAR-21 Tavor จากอิสราเอล ซึ่งผลจากการประเมินค่าทำให้กองทัพบกเลือกปืน TAR-21 Tavor จากประเทศอิสราเอลให้เป็นผู้ชนะครับ นอกจากนั้นยังเลือกปืนปล Negev เพื่อเพิ่มอำนาจการยิงให้หมู่ปืนเล็ก โดยในล็อตแรกกองทัพบกสั่งซื้อ TAR-21 Tavor จำนวน 15,000 กระบอก Negev อีก 992 กระบอก และในล็อตที่สองซึ่งอนุมัติเมื่อราวเดือนกันยายน 2551 ที่ผ่านมา กองทัพจัดหา TAR-21 Tavor และ Negev อีก 15,037 กระบอกและ 531 กระบอกตามลำดับครับ หน่อยแรกที่ได้รับ TAR-21 Tavor ไว้ใช้งานก็คือกรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ ซึ่งเป็นหน่วยพร้อมรบเคลื่อนที่เร็ว (Rapid Deployment Force) ครับ ส่วนปืนกล Negev นั้นผมยังไม่เห็นภาพของทหารที่ถือเท่าไหร่ แต่ที่เห็นบ่อย ๆ ก็คือมีการติดตั้ง Negev ไว้บนรถ REVA 4x4 นั่นเองครับ Thailand Plans $191.3M Arms Purchase By PATRICK WINN Published: 12 Sep 15:32 EDT (19:32 GMT) Print | Email ...... Thailand has also inked a contract to buy 15,037 Tavor TAR-21 assault rifles from Israel. This $30.1 million buy will boost the Thai military’s total stock of the bullpup-design rifles to more than 30,000 - replacing many of the Army’s aging rifles. That purchase is coupled with a $4.4 million order for 531 Israeli Negev light machine guns, raising Thailand’s stock to more than 1,100. These will be partially paid for from a special budget tied to securing the violence-scarred Malaysian border, where separatist Muslim insurgents continue to target soldiers and civilians.  ........ http://www.defensenews.com/story.php?i=3722292&c=ASI&s=LAN จากคุณ : Skyman (Analayo) - [ วันสิ้นปี 22:35:12 ]

ความคิดเห็นที่ 4 โครงการจัดหาจรวดต่อสู้อากาศยานประทับบ่า Igla-S จากประเทศรัสเซียจำนวน 36 ชุด (130 ล้านบาท) ระบบต่อสู้อากาศยานส่วนมากของกองทัพบกนั้นเป็นปืนต่อสู้อากาศยานครับ แต่ระบบที่เป็นจรวดนั้นแทบไม่มีใช้งาน ในราวปี 2548 กองทัพบกมีความต้องการที่จะจัดหาจรวดต่อสู้อากาศยานพิสัยใกล้แบบ Jurnas จากประเทศอังกฤษ แต่ขาดงบประมาณ ประกอบกับมีความเร่งด่วนต่ำ โครงการจึงยังไม่ได้รับการอนุมัติงบประมาณ ซึ่งทั้งนี้ ปีนี้กองทัพบกได้รับอนุมัติงบประมาณในการจัดหาจรวดต่อสู้อากาศยานประทับบ่า (MANPAD) แบบ Igla-S จากประเทศรัสเซียครับ ถือเป็นครั้งแรกที่กองทัพบกจัดหาอาวุธจากประเทศรัสเซีย ทั้งนี้ Igla ถือเป็นหนึ่งใน MANPAD ที่ดีที่สุดในโลกแบบหนึ่งครับ โดยมีใช้งานในหลายสิบประเทศแม้แต่สิงคโปร์ซึ่งใช้งานอาวุธสหรัฐเป็นหลักครับ Thailand Plans $191.3M Arms Purchase By PATRICK WINN Published: 12 Sep 15:32 EDT (19:32 GMT) Print | Email ...... Russia will also supply 36 Igla-S shoulder-fired, surface-to-air missiles to Thailand - with seven launching mechanisms - for nearly $4 million ........ http://www.defensenews.com/story.php?i=3722292&c=ASI&s=LAN จากคุณ : Skyman (Analayo) - [ วันสิ้นปี 22:36:03 ]

ความคิดเห็นที่ 5 โครงการจัดหาเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงขนาดกลางแบบ Mi-17V5 จากประเทศรัสเซียจำนวน 6 ลำ (2 พันล้านบาท) ตามแผนการจัดหาอาวุธของกองทัพไทยที่ทำขึ้นเมื่อราวปี 49 และปรับปรุงแผนอีกครั้งเมื่อ ธ.ค. 50 นั้น กองทัพบกมีความต้องการเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงขนาดกลางจำนวน 3 เครื่องครับ โดยกำหนดคุณสมบัติว่าต้องมีจำนวนเครื่องยนต์ไม่น้อยกว่า 2 เครื่อง มีแรงม้ารวมไม่น้อยกว่า 3,500 แรงม้า สามารถบรรทุกกำลังพลไม่น้อยกว่า 30 นาย เป็นต้น ซึ่งเมื่อวันที่ 20 ต.ค. ที่ผ่านมามีข่าวออกมาตามหน้าหนังสือพิมพ์ว่ากองทัพบกได้จัดหาเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงขนาดกลางแบบใหม่คือ Mi-17V5 จำนวน 3 ลำจากประเทศรัสเซียครับ นี่ถือเป็นครั้งที่สองที่กองทัพไทยจัดหาอาวุธจากรัสเซียครับ โดยเฮลิคอปเตอร์ตระกูล Mi-8/Mi-17 นั้นผลิตมาตั้งแต่สมัยสงครามเย็น สำหรับรุ่นที่ใช้ในรัสเซียจะเรียกว่า Mi-8 แต่สำหรับรุ่นส่งออกจะเรียกว่า Mi-17 ซึ่งพัฒนามาจาก Mi-8 ครับ Mi-17 มีใช้กันมากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก ในแถบอาเซียนก็มีหลายประเทศที่ใช้งานคือพม่า, ลาว, กัมพูชา, เวียดนาม, มาเลเซีย, และอินโดนิเซีย ไทยเป็นประเทศที่ 7 ในอาเซียนที่มีใช้งาน ทั้งนี้ Mi-17 เคยถูกเสนอขายให้กองทัพไทยแล้วเมื่อราวสองสามปีที่ผ่านมา โดยในครั้งนั้นรัสเซียเสนอ Mi-17 จำนวน 8 ลำแบบลดราคาพร้อมทั้งแพ็คเก็จด้านอวกาศและพลังงานรวมถึงอาวุธรายการต่าง ๆ ถ้ากองทัพอากาศไทยเลือกจัดซื้อ Su-30MKIT จำนวน 12 ลำ แต่กองทัพอากาศไทยเลือก Gripen เป็นผู้ชนะแทน ส่วนหนี้ข้าวที่รัสเซียติดค้างประเทศไทยอยู่ราว 50 ล้านเหรียญมานานหลายปีนั้น ในขั้นต้นรัสเซียเสนอที่จะจ่ายเป็น Mi-17 เช่นกัน แต่สุดท้ายก็ไม่ได้รับการจัดหาจากประเทศไทย และเปลี่ยนไปเลือกเฮลิคอปเตอร์แบบอื่น ตามข่าวว่าน่าจะเป็น ฮ. ธุรการขนาดเบาแบบ Ansat จำนวน 8 ลำแทนครับ ยังไม่มีกำหนดการการรับมอบเปิดเผยออกมาครับ แต่การจัดหาในครั้งนี้ไม่นาจะมีการจัดหาอาวุธปล่อยหรือจรวดมากับเฮลิคอปเตอร์ครับเนื่องจากข่าวระบุว่าเป็นรุ่นไม่ติดอาวุธเพื่อใช้ในการลำเลียง ซึ่งถ้ามีการติดอาวุธก็น่าจะเป็นการประยุกต์ติดปืนกลที่มีอยู่ในกองทัพบกครับ Army eyes Russian choppers Repair deal for Bell fleet could be canned WASSANA NANUAM The army has decided to drop a project to repair helicopters built in the US and has approved the proposed purchase of three new helicopters from Russia, an army source said. The source said army commander Gen Anupong Paojinda had approved the proposed purchase of three MI-17 multi-role helicopters from Russia at a cost of about 950 baht million baht altogether or about 316 million baht each. The army chief, at the same time, decided to cancel the 999-million-baht repair and maintenance programme for 15 Bell 212-type helicopters bought from the US, the source said. According to the source, the army has more than 200 of the US-built helicopters However, more than half of them can barely function now because they have been in use for more than 20 years. The proposal has been submitted to Prime Minister Somchai Wongsawat, in his capacity as defence minister, the source said. The source added it would be the first time that the army would use the Russian-built helicopters. Until now, the army had used only US helicopters. The armed forces previously were interested in buying military armaments from Russia. The source said that when Sonthi Boonyaratkalin was coup leader and was in charge of the army in 2006, Russia offered to sell eight MI-17 type helicopters to the army for about 168 million baht each, lower than the present price quoted. Earlier, the air force also bought six Gripen fighters from Sweden for about 19 billion baht. When Thaksin Shinawatra was prime minister, he told the air force to procure SU-30 combat aircraft from Russia, but the air force showed no interest in buying them. The procurement programme was stopped when the 2006 coup took place. ........ http://www.bangkokpost.com/201008_News/20Oct2008_news05.php จากคุณ : Skyman (Analayo) - [ วันสิ้นปี 22:37:23 ]

ความคิดเห็นที่ 6 การจัดหาอื่น ๆ นอกนั้นก็เป็นการจัดหาอื่น ๆ ซึ่งผมก็ตก ๆ หล่น ๆ ไปบ้าง หาข้อมูลไม่ได้บ้าง ถ้าท่านใดมีข้อมูลเพิ่มเติมก็ยินดีนะครับ ซึ่งหลัก ๆ แล้วจะยังมีการจัดหาเครื่องบินทำแผนที่พร้อมอุปกรณ์ทำแผนที่ด้วยเลเซอร์จากแคนนาดาจำนวน 2 ลำครับ รายงานข่าวไม่ได้ระบุรุ่นของเครื่องบินเหมือนกัน จึงไม่ทราบว่าหน้าตาเป็นแบบไหน แต่ก็คงหนีไม่พ้นเครื่องบินของบริษัท Bombardier ที่กำลังมาติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณให้กับรถไฟฟ้า BTS สายตากสินนี่แหละครับ ถ้าจะให้เดาเล่น ๆ ก็น่าจะเป็นเครื่องบินโดยสารใบพัดตระกูล Q Series หรือ Dash 8 ก็ได้ ซึ่งก็คงต้องรอดูต่อไปครับ นอกจากนั้นก็มีการจัดหาจรวดต่อสู้รถถังแบบ Carl Gustav จากประเทศสวีเดนและ M72A5 จากสหรัฐ รวมถึงจรวด RPG-2/7 จากประเทศจีนในงบประมาณ 19 ล้านบาทด้วยครับ อีกทั้งยังมีข่าวเรื่องการจัดหาเฮลิคอปเตอร์โจมตีแบบ AH-1F จำนวน 7 ลำที่เป็นโครงการเก่าที่ดำเนินการสำเร็จในปีนี้ โดยคาดว่าน่าจะรับมอบได้ในเดือนมกราคม 2552 นี้ครับ จากคุณ : Skyman (Analayo) - [ วันสิ้นปี 22:39:10 ]

ความคิดเห็นที่ 7 กองทัพเรือ โครงการจัดหาเรือยกพลขึ้นบกชั้น Endurance จากประเทศสิงคโปร์ (4.9 พันล้านบาท) ปัจจุบันกองเรือยกพลขึ้นบกมีเรือยกพลขึ้นบกหลักประจำการจำนวน 4 ลำ ได้แก่เรือหลวงพงัน เรือหลวงพระทอง เรือหลวงสีชัง เรือหลวงสุรินทร์ (ลำนี้เคยไปปฏิบัติงานที่ติมอร์ด้วย) อีกไม่นานเรือหลวงพงัน เรือหลวงพระทองก็ต้องปลดประจำการลงครับเนื่องจากใช้งานมานานมาก เช่นเรือหลวงพงันนี้ได้รอบมอบจากสหรัฐเมื่อปี 2509 เคยมีประวัติไปช่วยทหารไทยในการปฏิบัติภารกิจที่เวียดนามในช่วงสงครามเวียดนามโน้นแหนะครับ ตอนสึนามิ เรือยกพลขึ้นบกเหล่านี้มีบทบาทสำคัญมาก เพราะสามารถแล่นไปเกยหาดและเปิดประตูด้านหน้าเพื่อรับผู้ประสบภัยได้ ทำให้เรือยกพลขึ้นบกมีความจำเป็นในยามสงบอย่างมากเช่นกัน แต่การจัดหาเรือยกพลขึ้นยกลำใหม่ก็เป็นเรื่องที่ลำบากอยู่ครับเนื่องจากประเทศประสบภาวะเศรษฐกิจฝืดเคือง และถึงแม้ไม่ฝืดเคืองมันก็แพงอยู่ และเรือที่เรามีประจำการอยู่ในตอนนี้ส่วนใหญ่ก็ได้รับบริจาคจากสหรัฐเมื่อหลายสิบปีก่อน มีบางชั้นเท่านั้นที่ต่อเองในประเทศ แต่ละลำอายุอานามก็กว่า 20 ปีไปจนถึงวัยเกษียณ ดังนั้น การจัดหาจึงยังจัดหาได้เพียง 1 ลำจากจำนวนที่ต้องการ 2 ลำ สำหรับแบบเรือที่ชนะการคัดเลือกนั้นมาจากบริษัท ST Marine ประเทศสิงคโปร์ครับ (กองทัพเรือเคยสั่งต่อเรือเร็วโจมตีอาวุธปล่อยนำวิถีชั้นปราบปรปักษ์จากอู่นี้ในปี 2520 เช่นกัน) สำหรับแบบเรือนั้นคาดว่าน่าจะเป็นแบบเรือชั้น Endurance ที่กองทัพสิงคโปร์มีใช้งานอยู่ 4 ลำ เพียงแต่เรือที่กองทัพเรือไทยสั่งต่ออาจจะมีขนาดใหญ่กว่าเรือที่กองทัพเรือสิงคโปร์มีใช้งานอยู่ในปัจจุบันครับ เนื่องจากเมื่อครั้งที่สั่งต่อนั้นกองทัพเรือสิงคโปร์ต้องการเรือที่มีขนาดเล็กก็เพียงพอ นอกจากนั้นในสัญญาเดียวกันยังมีเรือลำเลียงพล LCM ขนาด 23 เมตร 2 ลำและเรือลำเลียงพลและยานเกราะ LCVP อีก 2 ลำด้วยครับ ทั้งนี้ดูแล้วภายในเรือน่าจะจุได้มากกว่านี้ ซึ่งยังต้องรอดูครับว่ากองทัพเรือจะสั่งต่อเรือลำเลียงพลแบบไหนหรือใช้เรือลำเลียงพลที่มีประจำการอยู่แล้วแบบไหนมาประจำการในเรือ LPD ลำนี้ครับ เฮลิคอปเตอร์ที่จะมาประจำการบนเรือ น่าจะเป็นเฮลิคอปเตอร์แบบ MH-60S ซึ่งกองทัพเรือสั่งซื้อไปในขั้นต้นจำนวน 2 ลำเมื่อราว 2 ปีที่แล้ว และมีข่าวว่ากำลังสั่งซื้ออีก 4 ลำครับ ... MH-60S ใช้พื้นฐานเดียวกับ ฮ. UH-60L Black Hawk และ SH-60B Sea Hawk ที่กองทัพบกและกองทัพเรือมีประจำการ นอกจากนั้นยังใกล้เคียงกับ ฮ. S-92 ซึ่งเป็น ฮ. พระที่นั่งลำใหม่ของกองทัพอากาศ โดยกองทัพเรือเป็นลูกค้าต่างชาติรายแรกถัดจากกองทัพเรือสหรัฐ โดยอาจจะใช้ในการค้นหาและกู้ภัย หรือขนส่งหน่วยปฏิบัติการพิเศษครับ อาวุธที่คาดว่าจะติดตั้งก็น่าจะเป็นปืนกลและจรวดไม่นำวิถี คาดว่าเฮลิคอปเตอร์ลำแรกน่าจะได้รับมอบในปีหน้าหรือปี 2553 ครับ ทั้งนี้เรือของกองทัพเรือจะมีรายละเอียดบางส่วนแตกต่างจากกองทัพสิงคโปร์บ้างครับเช่นระบบอัตโนมัติต่าง ๆ ที่น่าจะตัดไปหลายส่วนเนื่องจากกองทัพเรือมีกำลังพลเพียงพอที่จะปฏิบัติงานได้โดยไม่จำเป็นต้องติดตั้งระบบอัตโนมัติ รวมถึงระบบเซ็นเซอร์และระบบอาวุธบางส่วนก็จะใช้ระบบมาตราฐานของกองทัพเรือไทยครับ ST Engineerings Marine Arm Secures S$200m Contract To Design And Build Landing Platform Dock Singapore, 11 November 2008 - Singapore Technologies Engineering Ltd (ST Engineering) today announced that its marine arm, Singapore Technologies Marine Ltd (ST Marine), has secured a contract in a basket of currencies amounting to about S$200m, to design and build a 141m Landing Platform Dock (LPD), two 23m Landing Craft Mechanised (LCM) and two 13m Landing Craft Vehicle and Personnel (LCVP), for a navy in the Asia Pacific region.  Construction is scheduled to begin in mid 2009 and delivery is planned for in 2H 2012. This contract is not expected to have any material impact on the consolidated net tangible assets per share and earnings per share of ST Engineering for the current financial year. “ST Marine is very honoured to be selected amongst renowned international yards and is proud that its proprietary design is successful beyond our shores.” ~ CHANG Cheow Teck, President, ST Marine ST Marine, the marine arm of ST Engineering, provides turnkey building, repair and conversion services for a wide spectrum of naval and commercial vessels.  In shipbuilding, it has the proven capabilities to provide turnkey solutions from concept definition to detailed design, construction, on-board system installation and integration, testing, commissioning to through-life support.  It has also established a track record in providing high engineering content shiprepair and ship conversion services for a worldwide clientele.  Please visit www.stengg.com. ST Engineering is an integrated engineering group providing solutions and services in the aerospace, electronics, land systems and marine sectors.  Headquartered in Singapore, the Group reported revenue of $5.05b in FY2007 and ranks among the largest companies listed on the Singapore Exchange.  ST Engineering has more than 19,000 employees worldwide, and over 100 subsidiaries and associated companies in 21 countries and 35 cities.  Please visit www.stengg.com. http://www.stengg.com/pressroom/press_releases_read.aspx?paid=1317 จากคุณ : Skyman (Analayo) - [ วันสิ้นปี 22:39:57 ]

ความคิดเห็นที่ 8 การจัดหาอื่น ๆ ของทร.มีโครงการหลักที่เป็นข่าวโครงการเดียวก็คือการจัดหาเรือ LPD นี่แหละครับ ส่วนโครงการอื่นเป็นโครงการย่อย ๆ หรือไม่ก็เป็นโครงการใหญ่แต่ผมยังไม่มีรายละเอียดเช่นโครงการจัดหาเรือจู่โจมความเร็วสูงของหน่วยสงครามพิเศษทางเรือจำนวน 6 ลำ ต่อที่อู่มาร์ซัน ยานใต้น้ำสำหรับหน่วยสงครามพิเศษทางเรืออีกเช่นกันจำนวน (ถ้าจำไม่ผิด) 1 ลำที่อู่กรุงเทพครับ ใช้งบประมาณ 30 ล้านบาท ซึ่งได้งบจากสำนักวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงกลาโหมและสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีครับ โครงการจัดหาเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งจำนวน 1 ลำ มูลค่าราว 1 พันล้านบาทซึ่งจะต่อที่อู่มหิดล เรายังไม่เห็นรูปร่างของเรือครับ คาดว่าอาจจะต้องมีการปรับแก้ไปตามระยะจนกว่าจะสรุปได้ และยังมีโครงการจัดหาเรือลำเลียงพล LCU อีก 2 ลำซึ่งก็ยังไม่ทราบรายละเอียดเพิ่มเติมครับ นอกนั้นก็เป็นการติดตั้งอาวุธปล่อยต่อต้านเรือรบแบบ C-802A ทดแทน C-801 ที่หมดอายุลงในเรือชุดเรือหลวงเจ้าพระยาครับ ตอนนี้กำลังดำเนินการอยู่ และคาดว่าการฝึกยิง C-801 ในปีนี้น่าจะเป็นครั้งสุดท้ายของการยิง C-801 แล้วล่ะครับ นอกจากนั้นกองทัพเรือยังทำการประเมินค่าและสำรวจเรือชุดเรือหลวงนเรศวรเพื่อทำการปรับปรุงเรือต่อไป โดยมีบริษัทอย่าง Lockheed Martin, Selex, และ Thales เข้ามาสำรวจเรือแล้ว คาดว่ากองทัพเรือจะทำการปรับปรุงเรือชั้นนี้ให้มีความทันสมัยเหมือนในแบบแผนที่เคยร่างเอาไว้ เช่นอาจจะเปลี่ยนระบบอำนวยการรบจากของจีนเป็นของตะวันตก (อาจจะเป็นของ Thales หรือ Selex) เพิ่มระบบเรด้าร์ที่จำเป็น และติดตั้งจรวด ESSM กับระบบท่อยิงทางดิ่งแบบ MK 48 เพื่อที่จะทำให้เรือยังสามารถรองรับการปฏิบัติภารกิจไปได้อีกอย่างน้อย 15 ปีครับ รายละเอียดที่กล่าวมาเป็นเพียงการคาดเดา ยังไม่มีรายงานออกมาเช่นกัน ส่วนทางกองพลนาวิกโยธินมีความต้องการรถเกราะล้อยางอีก 12 คันครับ มีความเป็นไปได้สูงมากที่จะเป็น BTR-3E1 แบบเดียวกับกองทัพบก อันนี้ก็ยังไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติมเช่นกันครับ สุดท้ายก็คือมีข่าวว่ากองทัพเรือสั่งซื้อเฮลิคอปเตอร์แบบ Super Lynx 300 และ MH-60S เพิ่มเติมอีกอย่างละ 4 ลำ ข่าวนี้ออกมาในสื่อต่างประเทศคือ Channel News Asia ครับ ยังไม่สามารถยืนยันความถูกต้องได้ครับเลยยังไม่อยากนำมารวมเขียนเอาไว้ครับ จากคุณ : Skyman (Analayo) - [ วันสิ้นปี 22:41:34 ]

ความคิดเห็นที่ 9 กองทัพอากาศ โครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่ Gripen C/D, เครื่องบินควบคุมและแจ้งเตือน Saab 340 AEW&C และเครื่องบินลำเลียง Saab 340 จากประเทศสวีเดน (19 พันล้านบาท) กองทัพอากาศได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีในวันที่ 19 ตุลาคม 2550 ให้ดำเนินการจัดหาเครื่องบินครื่องบินขับไล่ Gripen C/D จำนวน 6 ลำ, เครื่องบินควบคุมและแจ้งเตือน Saab 340 AEW&C จำนวน 1 ลำและเครื่องบินลำเลียง Saab 340 จำนวน 1 ลำจากประเทศสวีเดน พร้อมทั้งระบบที่เกี่ยวข้อง ในงบประมาณ 19,000 ล้านบาทครับ ที่มารวมในบทความนี้ก็เพราะว่าสัญญาถูกเซ็นในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2552 นั่นเอง ซึ่งในปีนี้กองทัพอากาศกำลังดำเนินการปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ในกองบิน 7 จังหวัดสุราษฏ์ธานีซึ่งจะเป็นบ้านของ Gripen ครับ นอกจากนั้นการถ่ายทอดเทคโนโลยีและการฝึกอบรมต่าง ๆ รวมถึงทุนการศึกษาที่ได้รับจะเริ่มตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นไป ในปีหน้าครูการบินชุดแรกจำนวน 4 นายจะเริ่มเข้ารับการฝึกเปลี่ยนแบบกับ Gripen ที่ F7 Wing เมือง Satenas โดยจะทำการฝึกเป็นเวลา 12 เดือน  นักบินชุดที่สองซึ่งจะเป็นนักบินพร้อมรบจำนวน 6 นายจะทำการฝึกที่สวีเดนอีก 5 เดือนและกลับมาฝึกที่กองบิน 7 อีก 6 เดือน ส่วนนักบินที่บินกับควบคุมและแจ้งเตือน Saab 340 AEW&C จะทำการฝึกที่ประเทศสวีเดนในปี 2553 คาดว่าจะสามารถรับมอบเครื่องบิน Gripen ชุดแรกจำนวน 3 ลำได้ในราวปลายปี 2553 หรือต้นปี 2554 และจะสามารถประกาศความพร้อมรบได้ในราวไตรมาสที่ 3 ของปี 2554 ครับ สำหรับรายละเอียดการตอบแทนทางอุตสาหกรรม การถ่ายทอดเทคโนโลยี และการลงทุนในไทย ต้องรอการเจรจาระหว่างกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงกลาโหมของไทยกับสวีเดนก่อนสรุปแผนงานทั้งหมดครับ Gripen agreement between Sweden and Thailand signed FMV, Sweden's Defence Materiel Administration and the Royal Thai Air Force (RTAF), have today signed an agreement for the delivery of six Gripen multirole fighter aircraft of the latest version and a surveillance system 2008-02-11 | At a ceremony in Stockholm today, FMVs (Swedish Defence Materiel Administration) Director General Gunnar Holmgren and Air Chief Marshal Chalit Pukbhasuk, Commander in Chief of the Royal Thai Air Force (RTAF), signed an agreement for the delivery of six Gripen multirole fighter aircraft of the latest version and a surveillance system With this agreement RTAF will be able to replace its outgoing F-5 aircraft at the beginning of 2011. RTAF will get six Gripen multirole aircraft of the latest C and D version (four two-seat Gripen D and two single-seat Gripen C fighters) together with one Saab 340 Erieye surveillance system and one Saab 340 aircraft for training and transport. The Gripen system together with the Erieye surveillance system will give the RTAF the capability they have asked for regarding air surveillance and protection of Thailand’s territory. In a comment to the agreement FMVs Director General, Gunnar Holmgren stated: -  We are of course very pleased that the RTAF have chosen the Gripen and Erieye systems to meet their future needs. Since we are well aware of the capability of both systems in Sweden, I am convinced that the RTAF also will be satisfied when they have started to operate the Gripen and Erieye. The agreement also includes comprehensive logistic support and training of RTAF pilots and technicians, as well as simulators. Sweden will also provide Swedish Air Force pilots and technicians as advisors in Thailand during the introduction of the Gripen and Erieye systems in RTAF. The delivery of the aircraft will take place in the beginning of 2011. The training in Sweden will start in 2009. The total value of the agreement is 19 Billion Baht. For further information please contact Ulf Lindström, Communications Manager at FMV, cell phone + 46 70 982 63 96, E-mail: ulf.lindstrom@fmv.se http://www.gripen.com/en/MediaRelations/News/2008/080211_th_signing.htm จากคุณ : Skyman (Analayo) - [ วันสิ้นปี 22:47:09 ]

ความคิดเห็นที่ 10 โครงการจัดหาระบบควมคุมปฏิบัติการทางอากาศ StriC (158 ล้านบาท) StriC คือระบบจัดการและสั่งการการปฏิบัติการทางอากาศซึ่งพัฒนาเพื่อกองทัพอากาศสวีเดนตั้งแต่ปี 1998 และมีการปรับปรุงเรื่อยมาจนถึงปัจจุบันครับ ระบบนี้มีหน้าที่เชื่อมต่อระบบต่าง ๆ ทั้งทางทหารและพลเรือนเข้าด้วยกันเพื่ออำนวยปฏิบัติการทางอากาศ โดยในทางทหารระบบสามารถรับข้อมูลจากเครื่องบินขับไล่ Gripen, เครื่องบินควบคุมและแจ้งเตือนแบบ Saab 340 AEW&C, เรือคอแวตต์ Stealth ชั้น Visby, กองกำลังป้องกันภัยทางอากาศภาคพื้นดิน, รวมถึงเฮลิคอปเตอร์ตค้นหาและกู้ภัยครับ สำหรับกองทัพอากาศไทยได้มีการจัดตั้งทีมค้นคว้าและวิจัยเทคโนโลยีของการรบแบบเครือข่าย (Network Centric Warfare) มาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว ....... Network Centric Warfare เป็นหลักการของการรบสมัยใหม่ซึ่งจะเชื่อมต่อหน่วยกำลังทหารแต่ละหน่วยเข้าหากันผ่านระบบเครือข่ายการส่งข้อมูล (Datalink) เพื่อรวบรวมข้อมูลและสถานะของแต่ละหน่วยในเวลาจริง (Real Time) ซึ่งจะช่วยให้ผู้บังคับบัญชาเห็นภาพของพื้นที่การรบทั้งหมด จึงทำให้สามารถสั่งการการปฏิบัติการได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นพร้อมกับลดโอกาสที่จะโจมตีใส่ฝ่ายเดียวกันเอง (Blue On Blue) หลักการของ Network Centric Warfare ได้พิสูจน์ประสิทธิภาพแล้วในการปฏิบัติการทางอากาศตั้งแต่ปฏิบัติการพายุทะเลทรายเป็นต้นมา ซึ่งจัดหาเครื่องบินขับไล่ Gripen, เครื่องบินควบคุมและแจ้งเตือนแบบ Saab 340 AEW&C, Ground-base Station สำหรับรับส่งข้อมูล, ระบบ Datalink, และเครื่อง Simulator ของ Gripen จากสวีเดนนั้น StriC จะทำหน้าที่เชื่อมต่อสัญญาณของข้อมูลจากแต่ละส่วนเข้าสู่ศูนย์ควบคุมปฏิบัติการทางอากาศของกองทัพอากาศเพื่อให้ผู้บังคับบัญชาตัดสินใจสั่งการในการปฏิบัติการแต่ละภารกิจครับ Saab develops Royal Thai air defence Saab has received an order worth 158 MTHB from the Royal Thai Air Force for development of the Royal Thai Air Force air defence command and control system. 9/24/2008 | The system will be developed in close collaboration with the customer and adapted for the specific requirements of the Royal Thai Air Force. The system involves the latest technology within for example data fusion capabilities, and is developed to be intuitive and user friendly. “The order is important for the continued development of Saab’s expertise in command and control systems for air defence”, says Peter Wimmerström, President of Saab Systems. The contract has been awarded in competition with the major command & control companies in the world and marks the continued cooperation between Saab and the Royal Thai Air Force. http://www.saabgroup.com/en/MediaRelations/News/2008/saab_develops_royal_thai_air_defence.htm จากคุณ : Skyman (Analayo) - [ วันสิ้นปี 22:48:25 ]

ความคิดเห็นที่ 11 โครงการจัดหาเครื่องบินฝึกสองเครื่องยนต์ DA42 Twin Star (ประมาณ 100 ล้านบาท) มา กองทัพอากาศไทยได้ลงนามจัดหาเครื่องบินฝึกใบพัดสองเครื่องยนต์รุ่น DA42 Twin Star จากบริษัท Diamond Aircraft ประเทศออสเตรีย โดยกองทัพอากาศจะได้รับมอบเครื่องบินลำแรกจากจำนวน 6 ลำในกลางปีหน้าครับ DA42 Twin Star เป็นเครื่องบินฝึกสองเครื่องยนต์ครับ มีราคาราว 4 แสน - 6 แสนเหรียญสหรัฐ โดย DA42 ใช้วัสดุผสมเป็นองค์ประกอบหลักของเครื่องบิน เครื่องบินมีสองเครื่องยนต์ครับแม้ว่าจะมีขนาดเล็กก็ตาม เนื่องจากการฝึกนักบินที่จะไปบินเครื่องบินที่มีมากกว่าหนึ่งเครื่องยนต์ (Multi-Engine Aircraft) จะต้องมีรายละเอียดปลีกย่อยที่มากกว่าการบินเครื่องบินเครื่องยนต์เดียวครับ ซึ่งในปัจจุบันกองทัพอากาศมีเครื่องบินลำเลียงที่มีเครื่องยนต์มากกว่าหนึ่งเครื่องยนต์จำนวนมากครับ เช่น C-130H ที่ใช้ในภารกิจลำเลียงต่าง ๆ (4 เครื่องยนต์), HS-748 หรือที่เราเรียกกันว่า Avro-748 ซึ่งใช้ในภารกิจลำเลียงบุคคลสำคัญและโดยสารทั่วไป (2 เครื่องยนต์), G-222 ในภารกิจลำเลียงทั่วไป (2 เครื่องยนต์), BT-67 ที่ปรับปรุงมาจาก C-47 ซึ่งใช้ในภารกิจลำเลียงทั่วไปและทำฝนหลวง (2 เครื่องยนต์), N22B Normad ซึ่งใช้ในภารกิจลำเลียงทั่วไปและทำฝนหลวงเช่นกัน (2 เครื่องยนต์), รวมถึงฝูงบินพระที่นั่งต่าง ๆ คือเครื่องบินพระที่นั่งหลัก Boeing 737-800 (2 เครื่องยนต์), และเครื่องบินพระที่นั่งสำรอง/เครื่องบินลำเลียงบุคคลสำคัญคือ Boeing 737-400, A319CJ, และ A310 (2 เครื่องยนต์) และในอนาคตเมื่อ HS-748 ที่มีอายุกว่า 40 ปีปลดประจำการไป กองทัพอากาศก็จะจัดหา ATR-72-500 มาใช้งานซึ่งก็เป็นเครื่องบินลำเลียงสองเครื่องยนต์เช่นกันครับ ในสมัยก่อนเมื่อศิษย์การบินจบจากโรงเรียนการบินไปแล้วนั่น ศิษย์การบินที่ได้รับเลือกให้บินเครื่องบินลำเลียงก็จะไปฝึกกับเครื่องบินแบบที่ตนบินเลยครับ การจัดหา DA42 มาฝึกศิษย์การบินให้มีความคุ้นเคยกับเครื่องบินสองเครื่องยนต์จึงน่าจะเป็นความต้องการของกองทัพอากาศที่จะลดค่าใช้จ่ายในการฝึกลง Royal Thai Air Force chooses 6 DA42 for it´s training program The Royal Thai Air Force has the longest history and is one of the leading forces in South East Asia in terms of combat and transport issues. Due to the high demand for sophisticated pilot training, the Royal Thai Air Force has very high standards for training aircraft. To satisfy these high standards for their training purpose, the Air Force has evaluated different aircraft and selected Diamond under all competitors. Air Chief Marshall A.C.M. Bunjarit KERDSUK and his team came to visit the factory in Wiener Neustadt, in order to inspect the aircraft and factory facilities. The first aircraft out of six DA42 will be delivered in Mid of 2009. The DA42 with its carbon composite structure is an innovative, state-of-the-art product with Garmin G1000 glass cockpit. “The aircraft has proven records towards outstanding reliability and performance in Thailand´s tropical climate.” said Marshall Kerdsuk, “we have decided for the DA42, because this aircraft fulfils all our demands.” All major flying schools in Thailand are using Diamond DA42 aircraft. For further information please visit http://www.rtaf.mi.th/eng or contact our local distributor Mr. Hubert Trunzer sales@asianaerospaceservices.com http://www.diamond-air.at/news_detail+M52b92d461e3.html จากคุณ : Skyman (Analayo) - [ วันสิ้นปี 22:49:31 ]

ความคิดเห็นที่ 12 การจัดหาอื่น ๆ ส่วนใหญ่การจัดหาหลักก็มีแค่นี้ครับผม นอกจากนั้นยังมีโครงการทั้งที่ดำเนินการไปแล้วและกำลังดำเนินการนั่นก็คือโครงการปรับปรุงระบบเอวิโอนิกส์ของเครื่องบิน C-130 ทั้ง 12 ลำที่กำลังดำเนินการอยู่ นอกจากนั้นยังมีโครงการปรับปรุงระบบเอวิโอนิกส์ของเครื่องบินฝึกใบพัด PC-9M ซึ่งดำเนินการเสร็จไปแล้วและโครงการปรับปรุงโครงสร้างของเครื่องบินขับไล่ F-16 ทั้ง 59 ลำที่กำลังดำเนินการอยู่ครับ ทั้งสามโครงการดำเนินงานโดยบริษัท TAI ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของกองทัพอากาศครับ ส่วนโครงการต่อเนื่องจากปีที่แล้วก็คือโครงการจัดหาเครื่องบินลำเลียงใบพัดแบบ ATR-72-500 เพื่อมาเป็นเครื่องบินพระที่นั่งและลำเลียงบุคคลากรทดแทนบางภารกิจใช้เครื่องบินพระที่นั่งหลัก-สำรอง และเครื่องบิน C-130 เพื่อประหยัดงบประมาณ และยังมีการติดตั้งระบบการฝึกในกองบิน 4 ตาคลีและกองบิน 1 โคราชเพื่อทดแทนระบบเก่าที่ใช้งานมากว่า 20 ปีและเพื่อเชื่อมต่อระบบการฝึกเข้ากับระบบของกองทัพอากาศสหรัฐในภาคพื้นแปซิฟิคครับ โดยมีกำหนดแล้วเสร็จในเดือนมีนาคมปี 2552 นี้ครับ นอกจากนั้นยังมีโครงการจัดหาอาวุธเพื่อติดตั้งกับ Gripen, F-16, และ F-5 อีกด้วยครับ แก้ไขเมื่อ 31 ธ.ค. 51 22:54:38 จากคุณ : Skyman (Analayo) - [ วันสิ้นปี 22:50:26 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ติดขอบจอ...ตามมาชมด้วยคน สวัสดีปีใหม่ครับ จากคุณ : Zero Fighter - [ วันสิ้นปี 22:51:10 ]

ความคิดเห็นที่ 14 หวังว่าข้อมูลเหล่านี้คงเป็นประโยชน์กับทุกท่านได้ไม่มากก็น้อยครับ ผมหวังว่าทุก ๆ ท่านคงจะใช้ข้อมูลเหล่านี้ไปเพื่อตรวจสอบและวิจารณ์การจัดหาของกองทัพไทยเพื่อที่จะได้ทราบว่าเงินภาษีของพวกเรานั้นไปอยู่ที่ไหนบ้าง ถ้าท่านเห็นด้วยกับการจัดหาเราจะได้อุ่นใจว่าเรามีของดี ๆ ไว้ปกป้องประเทศของเรา แต่ถ้าท่านไม่เห็นด้วยท่านก็จะได้มีข้อมูลเป็นพื้นฐานเพื่อวิจารณ์การจัดหาที่ท่านไม่เห็นด้วยต่อไป ข้อมูลเหล่านี้ไม่ใช่ความลับ แต่เป็นข้อมูลที่ปรากฏตามสื่อต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศทั้งสิ้น เพียงแต่สื่อของไทยมักจะไม่สามารถวิจารณ์และวิเคราะห์การจัดหาแต่ละแบบได้มากนักนอกจากกล่าวหาว่ามีนักการเมืองหรือนายพลรับค่านายหน้าซึ่งในหลายกรณีก็ไม่เป็นความจริง ดังนั้น ทุกท่านมีสิทธิที่จะวิจารณ์ได้ เพราะเงินเดือนของทหารในกองทัพคือเงินเดือนจากภาษีอากรของท่าน กองทัพจึงเปรียบเสมือนลูกจ้างของท่าน ประชาชนในฐานะนายจ้างต้องช่วยกันตรวจสอบเพื่อทำให้มั่นใจว่าเงินค่าจ้างของเราจะถูกใช้ไปเพื่อประโยชน์ของเราอย่างแท้จริงครับ แล้วพบกันใหม่ปีหน้า สำหรับปีนี้ จบเพียงเท่านี้ ขอบคุณทุกท่านที่ตามอ่านกันมาตลอดทั้งปี โชคดีมีชัยในปี 2552 สวัสดีครับ จากคุณ : Skyman (Analayo) - [ วันสิ้นปี 22:52:49 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ปล. รูปนี้เป็นรูปเสี่ยแต่งตัวเป็นซานต้าหิ้วถุงเงินค่าคอมพ์สองหมื่นล้านบาทเกาะปีก Gripen กลับบ้านจากสวีเดนครับ จากคุณ : Skyman (Analayo) - [ วันสิ้นปี 22:53:56 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ลงชื่อ แต่ยังไม่มีgive ต้องรออีก ชั่วโมงนิดๆ จะมาแจก ใหม่ อิอิ สวัสดีปีใหม่จ้า จากคุณ : bbiggy - [ วันสิ้นปี 22:59:53 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ^ ^ ^ หวัดดีปีใหม่เช่นกันนะครับผม คุณ  Zero Fighter ด้วยครับ จากคุณ : Skyman (Analayo) - [ วันสิ้นปี 23:45:59 ]

ความคิดเห็นที่ 18 แหมท่านโย มีความหลังอะไรกับสื้อเกราะ รึเปล่าครับ Happy  NeW YeaR ชาวหว้ากอทุกคนนะครับ แก้ไขเมื่อ 01 ม.ค. 52 00:23:19 จากคุณ : ~รักความรุนแรง~ - [ วันปีใหม่ 00:21:35 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ^ ^ ^ ^ มีนิดหน่อยครับ กระทู้ผมถ้าเป็นเรื่องจัดซื้อส่วนใหญ่จะมีคนเข้ามาพูดว่าทำไมไม่ซื้อเสื้อเกราะมาซื้อนี่ทำไม เลยต้องขออนุญาตดักไว้ก่อนฮะ สวัสดีปีใหม่ครับ ^ ^ จากคุณ : Skyman (Analayo) - [ วันปีใหม่ 00:33:19 ]

ความคิดเห็นที่ 20 สวัสดีปีใหม่ ครับ จากคุณ : i_nam - [ วันปีใหม่ 00:48:53 ]

ความคิดเห็นที่ 21 สวัสดีปีใหม่ทุกท่านครับ จากคุณ : นายเดชา - [ วันปีใหม่ 02:13:02 ]

ความคิดเห็นที่ 22 มาจองที่ไว้ก่อนค่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้มาอ่านนะ...ตอนนี้ง่วงแล้ว สวัสดีปีใหม่ค่ะ... จากคุณ : primjang - [ วันปีใหม่ 02:27:31 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ชอบชุด camouflage เขียนแบบนี้ป่าวหว่า วันหลังถ้ามีเวลารบกวนช่วยสงเคราะห์ทำเป็น series ให้อ่านทีเถอะครับ จากคุณ : ผ่านมา - [ วันปีใหม่ 05:21:56 A:222.123.208.66 X: TicketID:199098 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ******* สำหรับผม บรรดาอาวุธที่ซื้อมาก็ไม่ถือว่า ขี้เหร่ เท่าไหร่ครับ เหมาะสมกับฐานะเราดี ของใหม่ สเป็คด้อยกว่าหน่อย แต่อายุการใช้งานก็ยาวนาน ดีกว่า ไปซื้อบรรดาของมือสองตกยุคทั้งหลาย ซื้อมาแล้วใช้งานได้ไม่เท่าไหร่ก็ต้องทิ้งเป็นเศษเหล็ก 666 ******* หวังว่า คนที่จะมาตอบน่าจะ "อ่านภาษาไทย" ออกนะครับ ว่า ที่นี่คือ ห้องวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่ ห้องการเมือง 666 จากคุณ : monsungja - [ วันปีใหม่ 10:00:37 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ^ ^ ^ .... หวังว่าอย่างงั้นครับ คุณผ่านมา #23 ...... ลองอ่านที่นี่นะครับ "ชุดลายพรางดิจิตอลใหม่ของกองทัพบก+ปืน TAR-21 Tavor" http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=skyman&month=09-03-2008&group=2&gblog=67 จากคุณ : Skyman (Analayo) - [ วันปีใหม่ 10:18:47 ]

ความคิดเห็นที่ 26 หวัดดีครับผม อยากทราบว่าในอนาคตทางกองทัพมีแนวโน้มที่จะจัดหาอาวุธจากประเทศรัสเซียเพิ่มขึ้นไหมครับ เพราะตอนนี้ยังไม่เห็นข่าวว่าจะจัดซื้ออาวุธจากสหรัฐอเมริกาเลย แล้วเรื่องรถถังทางกองทัพกำลังทำเรื่องจัดซื้อหรือยังครับ รถถัง M60 ของเรายังประจำการอยู่ แต่ทางอเมริกเขาไปตั้งโชว์แล้ว - -" ป.ล. ผมเชียร์รถถัง T-90 จากรัสเซียครับ จากคุณ : Buzz and Busy - [ วันปีใหม่ 12:16:21 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ... กองทัพเรือ โครงการจัดหาเรือยกพลขึ้นบกชั้น Endurance จากประเทศสิงคโปร์ (4.9 พันล้านบาท)... ..............................................________________________.......... ^ ^ ^ ไม่ทราบว่า   สี่พันเก้าร้อยล้านนี่ ลำเดียวหรือสองลำครับ จริงๆอยากให้การซื้ออาวุธมีแบบผ่อนยี่สิบปี ปลอดดอกเบี้ย กองทัพไทยคงจะมีความคล่องตัวเรื่องการจัดหาอาวุธเยอะ   ส่วนเรื่องหนี้ข้าวของรัสเซีย  ไทยยังผัดผ่อนการชำระหนี้เป็นอาวุธ น่าเสียดาย! สวัสดีปีใหม่ครับ คุณ : Skyman (Analayo) จากคุณ : Clarvoyance - [ วันปีใหม่ 14:00:31 ]

ความคิดเห็นที่ 28 แวะมาทักครับ วันก่อนเห็นคุณ Analayo ออกทีวีด้วยรายการที่คุณ นิรุต เป็นพิธีกร รู้สึกว่าจะเรื่องเครื่องบินน้ำ ;-) สวัสดีปีใหม่ครับผม จากคุณ : Chaotic System - [ วันปีใหม่ 16:33:11 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ^ ^ ^ แหะ ๆ ฮะ ^ ^" ...... ขอบคุณที่พี่ Chaotic System มาเยี่ยมครับ ผมแอบอ่านพี่วิเคราะห์กราฟทุกวันเลยฮะ แถมชีวิตนักเรียนนอกในกระทู้แนะนำนี่สุดยอดมากครับ ....... สวัสดีปีใหม่ครับ ^ ^ สวัสดีปีใหม่ครับคุณ Clarvoyance #27 ....... ความจริงอาวุธโครงการใหญ่ ๆ แทบทั้งหมดนี่ซื้อเงินผ่อนหมดเลยนะครับผม อย่าง Gripen นี่ผ่อน 10 ปีครับถ้าซื้อเต็มโครงการ ...... เรือ LPD นี่สี่พันเก้าร้อยล้านได้ลำเดียวครับ ลดจากโครงการเดิม 2 ลำเพราะงบหมด ผ่อนเกือบ 5 ปีครับ .... อาวุธพวกนี้ซื้อเงินสดไม่ไหวล่ะครับ จนตายเลย เรื่องหนี้ข้าวรัสเซียนี่ เป็นส่วนหนึ่งของหนี้ข้าวที่เราเป็นเจ้าหนี้อยู่สามประเทศครับคือรัสเซีย กีนี และเกาหลีเหนือ รวมแล้วประมาณ 250 ล้านเหรียญครับ ประเทศที่มีโอกาสใช้คืนเราได้มากที่สุดก็คือรัสเซีย รู้สึกว่าเราเสนอทางเลือกไป 4 ทางคือ คือทางแรกให้รัสเซียจ่ายเงินต้นพร้อมดอก 7% ส่วนอีก 3 ทางคือให้ใช้เป็นอาวุธบางส่วนหรือทั้งหมดครับ เนื่องจากรัสเซียเสนอว่าอยากใช้เป็นอาวุธเพราะตัวเองผลิตอาวุธได้และมักจะใช้หนี้เป็นอาวุธเสมอ (อย่างเขาก็เคยใช้หนี้ยูเครนเป็น ฮ. Mi-17 และ Mi35 ตั้งเกือบ 30 ลำ) เขาเลยอยากใช้แบบนี้ต่อ เพราะเงินสดเขาจ่ายไม่ไหวเนื่องจากเศรษฐกิจเขาพัง ซึ่งความจริงมันก็ต้องขึ้นอยู่กับเราด้วยครับว่าจะเอายังไง ต้องรอการเมืองนิ่ง ๆ และเจรจากันจริง ๆ จัง ๆ ครับเพราะเรื่องนี้คาราคาซังมาหลายปีแล้ว สวัสดีปีใหม่ครับคุณ Buzz and Busy #26 ...... เรื่องอาวุธรัสเซียมีโอกาสสูงที่ต่อไปจะมีการจัดหามากขึ้นครับ .... หลังจากเกิดรัฐประหาร กองทัพไทยกระจายการจัดหาอาวุธไปหลายประเทศและลดการจัดหาอาวุธจากสหรัฐลงค่อนข้างมาก ..... ช่วงสองสามปีนี้ที่นับได้คือรัสเซีย จีน ยูเครน แอฟริกาใต้ สวีเดน สิงคโปร์ อังกฤษ ฯลฯ แถมเรายังไปจุ๊บปากกับจีนเรื่องพัฒนาจรวดหลายลำกล้องอีกแหนะ ...... เห็นเทรนอย่างงี้ดูแล้วในอนาคตน่าจะมีอาวุธรัสเซียโผล่มาอีกแน่นอนครับ แต่ขึ้นอยู่กับว่ามันจะเป็นอะไร และความเหมาะสมว่าอาวุธอะไรที่น่าจะใช้ของรัสเซีย อาวุธอะไรที่น่าจะอยู่กับ NATO ต่อไป เพราะใจจริงเป็นเรื่องดีที่กระจายการจัดหาแต่ผมก็ไม่อยากให้มันมั่วมากเกินไปเดี๋ยวจะกลายเป็นแบบมาเลเซียที่มีอาวุธครบทุกชาติแต่ใช้ได้มั่งไม่ได้มั่งเพราะซ่อมไม่ไหวครับ เรื่องรถถัง ...... รอไปเลยครับผม รออีกนานนนนน เพราะความเร่งด่วนยังต่ำกว่าโครงการอื่นครับ กองทัพบกไทยมีรถถังไม่ต่ำกว่า 500 คัน ถ้าเปลี่ยนหมดทีเดียวนี่กินแกลบแน่นอน อีกนานล่ะครับ จากคุณ : Skyman (Analayo) - [ วันปีใหม่ 17:32:26 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ต่าข้าวที่เกาหลีเหนือติดนี่น่าจะขอขีปนาวุธแลกข้าวนะครับ อิอิ จากคุณ : หมาเห่าดาวเทียม - [ 3 ม.ค. 52 00:08:12 ]

ความคิดเห็นที่ 31 แหม โฆษกกระทรวงกลาโหม น่าจะทำงานชี้แจงแบบนี้บ้างได้นะเนี่ย ชาวบ้านเค้าจะได้ไม่มีอคติกะกองทัพ จากคุณ : ckman (ckman) - [ 3 ม.ค. 52 19:49:32 ]