ความคิดเห็นที่ 1 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 9 ม.ค. 52 21:28:26 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เข้ามารอเช่นกัน คิดว่าอาจจะยาว จากคุณ : ถุนคุง - [ 9 ม.ค. 52 21:31:08 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ระบบขายตรง  มีบางวัด บางนิกายยังนำมาใช้เลย จากคุณ : lee_qd - [ 9 ม.ค. 52 21:36:18 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ลงชื่อรอ... จากคุณ : ซายูบิ - [ 9 ม.ค. 52 21:39:05 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เคยเจอคนที่เป็นสมาชิก Amway ไหมล่ะ? ถ้าเคยเจอกับตัวจะรู้ดี ไม่ว่าอะไร ก็จะหาว่าสินค้าจาก Amway นั้นดีไปหมด คุ้มทุกอย่าง ทั้งที่ของมันไม่น่าจะดีอย่างนั้น คุณสมบัติอะไรก็เวอร์ซะ แต่พวกสมาชิก Amway ยังจะเชื่ออีก แถมมักจะชักชวนเราไปร่วมกับAmway เหมือนกับพวกชักชวนเข้าลัทธิล้างสมองยังไงอย่างนั้น ตื้อสุด ๆ เวลาจะเข้าร่วมก็ต้องไปฟังบรรยายก่อนทุกครั้ง ฟังเผิน ๆ เหมือนกับจะหลอกพาไปสะกดจิตล้างสมองเลย ของที่ใช้ก็มีแต่ Amway ไปที่ไหนก็เจอแต่Amway เหมือนพวกคลั่ง Brand ขั้นรุนแรง หากเคยเป็นคนที่เรารักใคร่แล้ว หากเขาไปเข้าร่วมกับ Amway เมื่อไหร่ ปากจะพร่ำพูดแต่ Amwayในทันที ชวนพูดอะไรก็จะชวนพูดแต่เรื่อง Amway จากที่เคยรักใคร่กัน ขอโทษที! เจอแบบนี้อยากเซย์กู๊ดบายตลอดชีวิตเลยทีเดียว และที่สำคัญ ลองถามดูว่า Amway มันดียังไง ทุกคนที่เป็นสมาชิกAmwayจะตอบเหมือนกันหมด ทั้งที่ยาวและไม่รู้เรื่อง มันก็จะตอบเหมือนกันแทบไม่ผิดเพี้ยน ราวกับว่าไอ้ความดีของ Amway เหล่านี้เป็นบทสวดของพระเจ้าที่สาวกต้องท่องจำทุกวันหลังสามมื้ออาหาร อย่างนี้จะไม่บอกว่าถูกล้างสมองได้ยังไง แก้ไขเมื่อ 09 ม.ค. 52 21:49:51 จากคุณ : กระต่ายโลหิต - [ 9 ม.ค. 52 21:45:39 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เออ ท่าจะยาว เอาสั้นก็คือว่า พวกนี้เค้าใช้วิชาจิตวิทยามาออกแบบกิจกรรมต่างๆที่ต้องทำ เพื่อประสงค์ให้กลุ่มคนที่เป็นเป้าหมายหลงเชื่อได้โดยง่าย จากคุณ : oatcpe - [ 9 ม.ค. 52 21:46:36 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เพื่อนเราโดนลัทธิ Amway ไปเรียบร้อยแล้ว ยังมาชวนเราเข้าอีกนะ -*- จากคุณ : Assasin Lady - [ 9 ม.ค. 52 21:50:02 ]

ความคิดเห็นที่ 8 "แอมเวย์คือธุรกิจของเราเอง ที่สามารถทำได้โดยไม่ต้องลงทุน แถมส่งต่อให้กับลูกหลานได้ ..... " ญาติเราพูดแบบนี้กับเรามื่อไม่กี่วันก่อน ( ช่างเหมือนกับที่มีเพื่อนเคยมาพูดกับเราเมื่อ 10 กว่าปีก่อน แด๊ะๆเลย ฟังแล้วยังขำ) ได้แต่ก็บอกน้อง(หลังจากผ่านการทำงานแบบธุรกิจของตัวเองอย่างแท้จริงมา 10ปี)ไปว่า ไม่มีธุรกิจของตัวเองที่ไหนที่ไม่ต้องลงทุนหรอกน้องเอ๊ย มีแต่ลงน้อย ลงมาก ต้องขยันทำมากได้มาก ทำน้อยได้น้อย แต่บอกได้เลยว่าอย่างแอมเวย์นี่ไม่ใช่ธุรกิจของตัวเอง แน่นอน ....ฟันธง จากคุณ : pounggati - [ 9 ม.ค. 52 21:53:14 ]

ความคิดเห็นที่ 9 Amway ก็ดีน่ะครับ แล้วก็แพง แต่ว่าไม่จำเป็น จากคุณ : 1812Overtureyoot - [ 9 ม.ค. 52 21:53:34 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เพื่อนผมก็ทำ สินค้ายี่ห้อนี้ บอกว่า เนี่ยที่ปกติเรากินอยุ่เนี่ยสารอาหารมันไม่พอ ต้องกินตัวนี้เพิ่มเข้าไปเพราะมันสกัดมาโดยเฉพาะ หรือถ้ากินของนี้จะช่วยดูดซับ สารพิษ น้ำล้างจาน เนี่ย ผสมน้ำ นิดเดียวใช้ได้เป็นปี ล้างสะอาดกว่าปกติ ไม่มีสารตกค้าง แต่ด้วยความเป้นเพื่อนก็ไม่อยากพุดอะไรแต่เพื่อนก็คล้อยตามกันหมด จากคุณ : Napoleonic - [ 9 ม.ค. 52 21:55:14 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ล้างสมองยังไง เจ้าของเขาเป็นถึง แพทย์หญิง ต้องรู้ดีกว่าเราอยู่แล้ว จากคุณ : vierzig - [ 9 ม.ค. 52 22:09:42 ]

ความคิดเห็นที่ 12 สุดท้ายเงินก็ออกไปอยู่กับ นายสองคนที่อเมริกา จากคุณ : นัทสึ (เหมา มาสเตอร์) - [ 9 ม.ค. 52 22:12:29 ]

ความคิดเห็นที่ 13 จิตวิทยา... วาจา... อันนี้สำคัญครับ...ความสวยของคนขายที่ทำให้เราเผลอใจ... จากคุณ : Mouse_Pad - [ 9 ม.ค. 52 22:21:08 ]

ความคิดเห็นที่ 14 #11 ความฉลาด ไม่เกี่ยวข้องกับความเป็นคนดี คนดี ไม่จำเป็นต้องฉลาด แต่คนฉลาดสามารถหลอกให้คนอื่นเชื่อว่าตนเป็นคนดีได้ และถึงจะมานั่งคุยเล่นอยู่ในพันทิปกันแบบนี้ เชื่อเหอะว่า ความรู้บางอย่างที่มีอยู่ที่นี่ มากกว่าแพทย์หญิงคนนั้นแน่นอน ดังนั้นคุณควรจะต้องไม่เชื่อว่า เขาฉลาดกว่า ทำตามเขาแล้วถึงจะดี #455 หมายถึง ความเห็นนี้เหรอ? ถ้าใช่ ขอบอกว่า เข้าใจผิดแล้ว หมายถึงคนทั่วไป ต่างหาก ไม่ได้เจาะจงว่าเจ้าของไม่ดีสักหน่อย เจ้าของอาจจะเป็นคนดี แต่คนรับช่วงมาทำต่ออาจจะเป็นคนไม่ดีก็ได้ เจ้าของเป็นหมอ และเป็นผู้หญิงเหรอ ? เพิ่งรู้ แก้ไขเมื่อ 16 ม.ค. 52 12:29:19 จากคุณ : กระต่ายโลหิต - [ 9 ม.ค. 52 22:25:42 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ถูกใจ คห.14 จากคุณ : jinu - [ 9 ม.ค. 52 22:30:47 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ก็มีเพื่อนทำอยู่ครับ มันทำให้รู้สึกอึดอัดใจมากเวลาปฏิเสธแบบไม่ให้เค้าเสียน้ำใจ จากคุณ : Sir.ขงเบ้ง - [ 9 ม.ค. 52 22:49:30 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ผมเฉยๆนะ บางอย่างของเค้าก็ดี สบู่อ่ะหอมดีชอบ จากคุณ : L'Oscar - [ 9 ม.ค. 52 22:51:44 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ไม่ได้เป็นสมาชิกแบบผู้ทำธุรกิจ เพียงซื้อสินค้ามาใช้ ถ้าไม่มีอคติ ยอมรับสินค้าหลายอย่างดีมาก... แต่แพง... แล้วก็ขายขวดซะบ่ะล่ะฮึม ใช้ห้าปียังไม่หมด... ฮ่วย... เข้าใจครับ ว่ามันแพง เพราะมันเข้มข้น เอามาผสมใช้นาน พี่ก็ทำขวดให้เล็กหน่อยสิครับ ผมจะได้ซื้อได้สบายใจ หมดเมื่อไหร่ ซื้อใหม่ แถมพอเราติดใจสินค้าตัวไหน พวกก็เลิกผลิต เลิกขายซะงั้น... จากคุณ : be Ambitious - [ 9 ม.ค. 52 23:02:57 ]

ความคิดเห็นที่ 19 #18 เจอเหมือนกัน กับพวกบอกว่ามันเข้มข้น แต่สงสัยจริง มันดีกว่ายังไง เพราะที่สินค้าอื่นออกแบบมาแต่ให้เข้มข้นน้อยกว่า เพราะรู้ลักษณะของผู้บริโภคว่า ยังไงก็บีบให้ออกมาน้อย ๆ ไม่ได้หรอก ยังไงก็ต้องบีบให้มามากในจำนวนหนึ่งอยู่ดี แถมเข้มข้นไป รุนแรงจนทำลายสุขภาพเราได้ แล้วเมื่อเอาไปผสม มันจะดีเท่าเขาเตรียมมาให้อยู่แล้วได้ยังไง เพราะยังไงเราก็อาจจะผสมมั่วสัดส่วนไม่ถูกต้องได้ บอกเลย ว่าสินค้าแต่ละอย่าง การตลาดเรื่องการวิจัยการใช้งานสินค้าของผู้ใช้ต่อสินค้า ห่วยมาก ท่าทางจะเน้นรวยทาง Chain อย่างเดียวแหง จากคุณ : กระต่ายโลหิต - [ 9 ม.ค. 52 23:10:16 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ของดี ก็ดี ธรรมดา เหมือนทั่วๆไป แต่ระบบการขายมันน่ารำคาญ ทำไม ขายธรรมดาแบบเจ้าอื่นไม่ได้หรือ? หรือถ้าขายแบบธรรมดาท่านกลัวจะขายไม่ออก ไม่มีคนซื้อ ระบบแบบนี้มันแสดงถึงความโลภมาก หิวกระหายเงิน ของเจ้าของ Agel อีกตัว ขายน้ำดื่ม 2-3 อึก ราคาเหยียดร้อย ทุนไม่ถึง 10 บาทด้วยซ้ำ แก้ไขเมื่อ 09 ม.ค. 52 23:20:53 จากคุณ : lunch - [ 9 ม.ค. 52 23:14:10 ]

ความคิดเห็นที่ 21 สมัยก่อนคุณพ่อก็โดนเลขาหลอกให้เป็นสมาชิก ลงเงินไปเป็นล้าน ของเหลือแบะบาน ขายไม่ได้ ใช้เองก็ไม่หมด สุดท้ายแจกฟรี ขนาดอย่างนั้น ยังมีที่เสียๆ หมดอายุไปก่อนก็มี แง่มๆๆๆ ทุกอย่างอยู่ที่ความพอดีค่ะ ใครใช้อะไรอยู่ที่วิจารณยาน มากไปก็เกินทน จากคุณ : Pinky Princess - [ 9 ม.ค. 52 23:16:42 ]

ความคิดเห็นที่ 22 #21 สต๊อกสินค้า เป็นล้าน โอ้แม่เจ้า... จากคุณ : be Ambitious - [ 9 ม.ค. 52 23:19:40 ]

ความคิดเห็นที่ 23 . . . แล้วแต่คน . . . จากคุณ : MIG-ON-THE-WAY - [ 9 ม.ค. 52 23:20:47 ]

ความคิดเห็นที่ 26 แพทย์หญิงคนไทยนั้น กิฟฟารีนนะครับ คนไทยเป็นเจ้าของ แอมเวร ของอเมริกาครับ แต่ทำธุรกิจเหมือนๆกัน แนวเดียวกัน ล้างสมองเหมือนกัน ส่วนผู้ชายห่มเหลือง นั่นก็ของคนไทยเหมือนกันคับขนาดธุรกิจใหญ่พอๆกับ แอมเวรมั๊งครับ จากคุณ : OmO (BIG SUR) - [ 9 ม.ค. 52 23:56:22 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ยอมรับว่าของเขาดี แต่ราคาเกินคุณภาพ แต่สุดท้ายเขาไม่เน้นขายของคุณหรอก แต่จะชวนคุณเป็นลูกข่ายมากกว่า  ไม่ใช่การล้างสมองแต่พยายามล้วงกระเป๋าคุณมากกว่า จากคุณ : ศุศศิ - [ 10 ม.ค. 52 00:10:20 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ผมก็โดนสาวลากไปครับ สมัครแบบนักธุรกิจด้วย แรกๆมีพวกuplineชวนไปฟังบรรยาย แต่พอเห็นผมไม่ค่อยสนใจฟัง ไม่หัวเราะตาม ดูท่าทางไม่อยากรวยเขาก็เลิกชวนผมไปซะงั้น 55 สินค้าผมก็หน้าด้านขายให้ญาติหนเดียว แบบเอาทุนค่าสมัครสมาชิกคืนได้ก็หยุดขายแล้วครับ ส่วนตัวไม่เคยซื้อใช้เลย แต่ตอนนี้ซื้อพวกแคลเซี่ยมให้แม่กินครับ เห็นแม่ผมบอกว่ารู้สึกดีกว่ายี่ห้อก่อนหน้าที่เคยกิน(รู้สึกได้ไงหว่า สงสัยที่ว่าดีเพราะมันถูกกว่า55) ระบบนี้ล้างสมองได้ครับ เห็นหลายคน แต่ล้างไม่ได้ทุกคนหรอกครับ หึ หึ จากคุณ : lomocat - [ 10 ม.ค. 52 00:17:22 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เพื่อนผมมาเล่าให้ฟังว่า จากคนกวาดขยะ เข้าสู่ธุรกิจแอมเวย์ จนตอนนี้รายได้หลักแสนต่อเดือน  ให้ตายผมก็ไม่เชื่อ จากคุณ : o_musachi - [ 10 ม.ค. 52 00:30:42 ]

ความคิดเห็นที่ 30 คห.20 โดน Agel มาด้วยเหรอครับ ผมก็โดนมา เค้าบอกว่ามีสารอาหารที่ร่างกายเราผลิตเองไม่ได้ กินแล้วจะแข็งแรงอายุยืน ทำแล้วเป็นธุรกิจที่มั่นคง ................................................................ เหอๆ ผมนั่งเงียบไปเลย ซองละเป็นร้อย จากคุณ : mhaque - [ 10 ม.ค. 52 00:39:03 ]

ความคิดเห็นที่ 31 สินค้าหลายตัวก็ดี หาซื้อที่อื่นไม่ได้ด้วย แต่ราคาแพงเกินเหตุ มีเพื่อนไปทำหลายคน ทุกรายเหมือนกันหมด เพ้อละเมอเป็นแอมเวร ไม่ชอบวิธีของบริษัทนี้ที่ชักจูงคนให้เข้ามาร่วมเครือข่ายโดยอาศัยความโลภของมนุษย์ หลอกว่าทำแล้วจะมีรายได้มากโดยไม่ต้องทำงานให้เหนื่อย อยู่เฉยๆ ก็ได้เปอร์เซ็นต์จากดาวน์ลายน์เอง หลอกลวงแบบหน้าด้านๆ จริงๆ จากคุณ : Holic (โฮลิก) - [ 10 ม.ค. 52 00:45:07 ]

ความคิดเห็นที่ 32 โดนมาแล้ว กับเพื่อนนี่แหละ มานจะโทรจิกตลอด - - ทั้งๆที่เมื่อก่อน คุยกันเฉพาะตอนเจอหน้าโดยบังเอิน ตอนนี้ โทรมาบ่อยๆ มาหาบ่อยๆ ก็เพราะเรื่องแอมเวย์แหละ ผมพึ่งคุยกะมานเมื่อกี้ บอกว่า เด๋วเอา CD ไปคืนแล้ว ไม่ทำนะ คือจะบอกตรงๆว่า ช้านไม่อยากเป็นเหยื่อแก มานกะหว่านล้อมร้อยพัน ให้ไปดูก่อน ฟังก่อน เวลาแค่ 2 ชม - - ตายๆ เพราะเพื่อนนี่แหละ ปฏิเสธยากมาก - - พยายามคุยว่า ไม่อยากทำ ไม่ทำ แต่แม่น้ำทั้งร้อยทั้งพัน ลงมาใน msn ผม ผมก็ได้แค่ "เออ" - - จากคุณ : nickkunta - [ 10 ม.ค. 52 00:48:50 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ขออีกนิดนะคับ คือ ผมไม่ได้ไม่ชอบสินค้าเค้านะ ผม อยากใช้หลายๆตัวเหมือนกัน แต่ด้วยวิธีการแล้ว ไม่ค่อยอยากเข้าใกล้เท่าไร - - เค้าบอกแค่ซื้อของเดือนละพัน คนอื่นๆก็จำเป็นต้องซื้อเหมือนกัน แต่..... สินค้าเป็นแบบเข้มข้น หัวเชื้อ แล้ว มันจะซื้อทุกๆเดือนไปทำไม - - จากคุณ : nickkunta - [ 10 ม.ค. 52 00:51:46 ]

ความคิดเห็นที่ 34 มีเพื่อนสมัยเรียนมัธยม ไม่ได้เจอกันมา 13 ปี มีอยู่วันนึงโทรมาหาผมถามสบายดีมั้ย ไม่ได้เจอกันตั้งนาน ตอนนี้อยู่ที่ไหนเดี๋ยวจะแวะไปหา ไปกินข้าวด้วยกัน ผมก็ดีใจพอเจอกันไปกินข้าวกัน นั่งคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้ จนสุดท้าย เพื่อนชวนผมให้ไปขายแอมเวย์ ตอนนั้นคิดเลยว่า เอที่มันมาหานี้เพราะคิดถึง หรือมาเพื่อขายของกันแน่หว่า แต่ผมก็ตอบปฏิเสธไป หลังจากวันนั้นถึงวันนี้ ยังไม่ได้เจอหน้าเพื่อนคนนั้นอีกเลย โทรไปหาจะชวนไปงานแต่งเพื่อนฝูงคนอื่นก็ไม่รับสาย จากคุณ : dech_1 - [ 10 ม.ค. 52 00:56:25 ]

ความคิดเห็นที่ 35 บางอย่างมันก็ดีจริงๆ อย่างเช่นสเปรย์ระงับกลิ่นปาก แต่โทษทีราคาจัดว่าแพงอยู่ เพื่อนผมก็สมัครเข้า Amway แต่โชคดีที่เพื่อนยังไม่ได้จัดอยู่ในกลุ่มสาวก ไม่เคยยัดเยียดขายของเลย ซื้อมาใช้ของมันคนเดียวเนี่ยแหละ(แต่ไม่ได้ซื้อทุกอย่างนะ) บางอันที่เราแอบจิ๊กไปใช้ดูแล้วชอบ เพื่อนก็สั่งมาให้เราแล้วเก็บเงินเท่าราคาสมาชิก ผิดกับรุ่นพี่หลายๆ คน ชวนไปอบรมอยู่ได้ ดีนะที่ไหวตัวทัน ^^ จากคุณ : มอนตะทาโร่ - [ 10 ม.ค. 52 01:33:04 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ธุรกิจพวกนี้มีบางอย่างเหมือนเล่นหุ้น คนเข้า 100 คนสำเร็จจริงๆ ไม่เกิน 5 คนแล้วก็จะเอาไอ้คนอยู่หนึ่งในห้ามาพูดๆๆๆๆๆ ไม่ยอมพูดถึงอีกเก้าสิบกว่าคนที่เหลือล่ะ เพื่อนผมหลายคนเคยเข้าไปสัมผัส แต่เวลาผ่านไป ไม่เห็นมีใครสำเร็จออกมาสักคน ตอนเข้าไปกันใหม่ๆ ก็จะพยายามลากผมเข้าไปให้ได้ ดีที่ผมทำงานอยู่บริษัทประกัน ก็เลยบอกไปว่า ถ้ามรึงให้กรูซิ้อของมรึง มรึงต้องประกันกรู ได้ผลวุ้ยหลังๆ เลิกตอแย (จริงๆ แล้วผมขายประกันได้ที่ใหน ผมเป็นพนักงาน backoffice  ไม่ใช่ตัวแทนขายซักหน่อย 5555 ) จากคุณ : chaos_r - [ 10 ม.ค. 52 01:35:30 ]

ความคิดเห็นที่ 37 อืม... แล้วข่าวที่ว่าขายแอมเวย์จนมีรายได้เป็นกอบเป็นกำ จนเป็นถึงระดับใหญ่ ๆ (ระดับอะไรไม่รู้เรียกไม่ถูก ชื่อมันเยอะ) แล้วเกือบไม่ต้องทำอะไรเลย รอกินเงินจากไลน์อย่างเดียว มันสบายขนาดนั้นเลยหรอ จากคุณ : MixZa - [ 10 ม.ค. 52 01:39:59 A:10.0.0.122 X:58.136.49.12 TicketID:184679 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ผมก็โดนมาเหมือนกัน เพื่อนมันบอกให้ไปฟังอะไรดีๆก็เลยหลวมตัวไป เดาไว้แล้วว่าต้องเป็น amway แต่ก็เกรงใจมันเลยต้องไปกับมัน ตอนพิธีกรขึ้นเวทีบรรยายสรรพคุณ ก็มีหน้าม้าคอย "อู้หู" กันใหญ่ ทำยังกะไม่เคยเห็นน้ำยาล้างจาน  แล้วก็ชอบยกตัวอย่างคนที่เค้าจนๆ พอมาทำแอมเวย์แล้วก็รวยเป็นล้านๆ  อันนี้ก็ไม่รุ้จริงรีเปล่า แต่ที่แน่ๆ  มันเป็นวิธีขายของที่กดดันคนซื้อมากๆ ไม่ชอบอย่างแรง จากเพื่อนที่เคยสนิทกัน เดี๋ยวนี้ยังไม่อยากจะคุย มีแต่เรื่องขายของ จากคุณ : สมัครยาก - [ 10 ม.ค. 52 01:43:33 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ไอ Agel นี่ผมมีเยอะมาก กินแบบขนมเลย ... ลุงๆ ป้าๆ เอามาให้คนละนิดคนละหน่อย ( สงสัยไม่อร่อย ฮ่าๆ ) ผมก็นึกว่าถูกๆ ลองถามพ่อดูว่ามันเท่าไร ตกใจราคาเลย 30 ซองก็ 3000 แล้ว เห็นแล้วเสียดายตังมากกว่า จากคุณ : Kyo3 - [ 10 ม.ค. 52 02:15:36 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ถ้าเจอคนที่ทำแล้วสต๊อกสินค้า บอกเค้าว่าเลิกสต๊อกนะ เพราะมันผิดกฏ(ถ้าคุณขึ้นถึงระดับสูงแล้ว แต่บริษัทรู้ว่ามีการทำผิดกฎข้อใดข้อนึง ปลดออกเลยนะ) ส่วนคนที่แอนตี้..ไม่รู้นะ เท่าที่เจอไม่มีใครรู้เรื่องจริงๆ ซักคนอ่ะ ลองมาคุยกันก็ได้นะ(ถ้าไม่ขี้เกียจคุยซะก่อน) บางคนยังเข้าใจเลยอ่ะว่าถ้ามีสมาชิกเยอะ ตำแหน่งจะสูง ตำแหน่งที่สูงขึ้นมันขึ้นอยู่กับว่าคุณทำให้/สอนให้คนอื่นเข้าใจและสามารถทำธุรกิจให้เป็นได้กี่คน ไม่ใช่ว่ามีดาวน์ไลน์กี่คน เก็ทป่ะ คห.ที่29 ลูกคนกวาดขยะ ตอนนี้มีภูเขาเป็นของตัวเองแล้ว เชื่อมั้ย? เป็น นธอ.ที่จีน ไต้หวันค่ะ(แอมเวย์มันทำข้ามประเทศได้อ่ะ) เค้าจะมาพูดที่เมืองไทยกลางเดือนนี้ อยากเจอก็มาเจอได้นะคะที่เมืองทองธานี(แต่ประเภทไม่อยากเจอหรอก แล้วก็ไปพูดต่อเรื่อยๆ ว่า ไม่มีตัวตนหรอก ไม่เชื่อ ไม่มี...ทั้งๆ ที่มีโอกาสได้เจอว่าเค้ามีตัวตนจริงๆ เนี่ย มันน่าเกลียดไปหน่อยนะ) ส่วนในไทยก็มีกรรมกรก่อสร้าง มีผู้หญิงที่เป็นโปลิโอเรียนไม่จบกระทั่ง ป.1(หรือสองนี่แหละ จำไม่ค่อยได้ เลขสามพันมีศูนย์กี่ตัวยังใส่ไม่ถูกเลย) เด็กเข็นผักในตลาด ครูบ้านนอก จ่าทหารเรือ อดีตทหารผ่านศึกที่ตาบอดทั้งสองข้าง จนถึงระดับผู้บริหาร เจ้าของโรงงาน ลูกเจ้าของบริษัทผลิตข้าวสารบรรจุถุง ผู้บริหารระัดับสูงของธนาคาร หมอ นักศึกษา ฯลฯ ที่พูดมานี่รู้จักหมดนะ ไม่ใช่จำเค้ามาพูด ถ้าถามว่าทำไมต้องให้แต่คนที่ประสบความสำเร็มาพูด เพราะเค้ามาพูดแนวทางที่จะทำธุรกิจให้สำเร็จค่ะ ถ้าคุณเป็นนักเรียนคุณอยากสอบได้คะแนนดีคุณจะไปถามคนที่ได้ท้อปของห้องว่าทำยังไงถึงได้คะแนนดี หรือเดินไปถามคนที่สอบตกว่า ทำยังไงถึงสอบตก(คงไม่ไปถามคนที่สอบตกหรอกนะว่าทำยังไงถึงจะสอบได้คะแนนดี) หรือถ้าทำธุรกิจ คุณว่าคุณจะเลือกเดินไปถามใครระหว่างคนที่ธุรกิจงอกเงยดี มีผลกำไร หรือคนที่ล้มเหลว ขาดทุน ล้มละลาย? อีกอย่างสมัครก่อนไม่ได้แปลว่าจะสำเร็จก่อน หรือได้เงินเยอะกว่านะ อันนี้น่าจะช่วยตอบได้เนอะ แต่สงสัยอย่างนึงนะ ถ้าตอบมากไปจะโดนหาว่าถูกล้างสมองใช่มะ ทั้งๆ ที่มันเพราะการกระทำทุกอย่างมันมีแนวคิดรองรับอ่ะ แล้วถ้าเราคิดละว่าจะทำอันนี้เราก็ต้องศึกษามันใช่ป่ะ(ทำธุรกิจทุกธุรกิจก็เหมือนกันค่ะ ไม่ศึกษาก็มีแต่เจ๊ง) อย่างถ้าถามว่าทำไมต้องสูตรเข้มข้น ถ้าเอาให้เคลียร์ ก็ต้องย้อนไปถึงเรื่องแนวคิดการก่อตั้งอ่ะ ว่าเพราะอะไร เพราะมันโยงเรื่องของสิ่งแวดล้อม(ละไว้ไม่อธิบายนะ มันยาวววว) มันเหมือนเราตอบคำถามคนอื่นว่าทำไมเมืองไทยถึงมีการเปิดเพลงชาติตอนแปดโมงเช้า กับหกโมงเย็น มันก็มีข้อเท็จจริง มีประวัติที่เอาไว้เล่า...จริงป่ะ เพื่อที่จะได้เกทว่า อ๋อ มันอย่างนี้ เพราะอย่างนี้ เรื่องอื่นอ่ะอธิบายได้สบายมากเลย แต่พอมาอธิบายเรื่องแอมเวย์กลับบอกว่าโดนล้างสมอง เฮ้อ ลองถามตัวเองดีกว่ามั้ย บางทีเราก็กลัว...เกินไปรึเปล่า คนเราไม่ได้จิตอ่อนขนาดนั้นนะคะ ขอร้องอีกอย่างเถอะ ถ้าจะเกลียดแอมเวย์ ช่วยอย่าเป็นคนประเภทสินค้าฉันก็ไม่เคยใช้ แผนการตลาดฉันก็ไม่เคยฟัง(ฟังในที่นี้คือฟังอย่างเข้าใจนะ ไม่ใช่ปิดใจฟัง ตั้งแง่ อคติ แล้วบอกนี่ไงฟังแล้ว...แต่พอถามว่าเป็นไงก็ตอบคนละเรื่องกัน) แต่ฉันเกลียดๆๆ ถามอะไรมาตอบไม่ได้ รู้แค่ว่าเกลียด และจะป่าวประกาศให้คนอื่นเกลียดตามไปด้วย(แม้ฉันจะไม่รู้เลยว่าแอมเวย์มันเป็นยังไง) คุณลองดูพฤติกรรมข้างต้น แล้วเปลี่ยนคำว่าแอมเวย์เป็นคำอื่นนะ คุณจะพบว่ามันเป็นพฤติกรรมที่น่ารังเกียจมาก ปล.ถ้าสมัครเพราะเกรงใจไม่อยากทำ ไปเอาเงินคืนได้ใน 90 วันนับจากวันสมัครเลยค่ะ เวลาคุณสมัครอัพไลน์คุณไม่ได้อะไรทั้งนั้นแหละ ปล.2 กลุ่มที่ทำผิดกฎก็มีค่ะ คนทำแอมเวย์ก็คนอ่ะมีทั้งดี ไม่ดีปะปนกัน และคนที่ทำผิดกฎจะสำเร็จในธุรกิจนี้ก็ยากค่ะ ถ้าเกิดมีตำแหน่งขึ้นมา แล้วเค้าสืบได้ ก็ปลดออกชัวร์ๆ แก้ไขเมื่อ 10 ม.ค. 52 02:21:09 จากคุณ : psycho patch - [ 10 ม.ค. 52 02:19:11 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เอ่อ....มีอีกเรื่อง ( เพิ่งเห็น ) ------------- อ้างอิง จาก คห.32 โดนมาแล้ว กับเพื่อนนี่แหละ มานจะโทรจิกตลอด - - ทั้งๆที่เมื่อก่อน คุยกันเฉพาะตอนเจอหน้าโดยบังเอิน ตอนนี้ โทรมาบ่อยๆ มาหาบ่อยๆ ก็เพราะเรื่องแอมเวย์แหละ ผมพึ่งคุยกะมานเมื่อกี้ บอกว่า เด๋วเอา CD ไปคืนแล้ว ไม่ทำนะ คือจะบอกตรงๆว่า ช้านไม่อยากเป็นเหยื่อแก มานกะหว่านล้อมร้อยพัน ให้ไปดูก่อน ฟังก่อน เวลาแค่ 2 ชม - - ตายๆ เพราะเพื่อนนี่แหละ ปฏิเสธยากมาก - - พยายามคุยว่า ไม่อยากทำ ไม่ทำ แต่แม่น้ำทั้งร้อยทั้งพัน ลงมาใน msn ผม ผมก็ได้แค่ "เออ" - - ------- สงสัยจะคุยเอ็มบ่อยเกินแล้วนะครับ อิอิ รบกวนช่วยแก้ไขภาษาของคุณหน่อยนะ ^^ จากคุณ : Kyo3 - [ 10 ม.ค. 52 02:19:33 ]

ความคิดเห็นที่ 42 อีกเรื่อง...ลืมๆ ขอโทษหลายๆ คนที่มีประสบการณ์แย่ๆ จาก นธอ. ที่ไม่มืออาชีพ แทนคนเหล่านั้นด้วยค่ะ จากคุณ : psycho patch - [ 10 ม.ค. 52 02:24:09 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ไม่ใช่แค่เพียงแอมเวย์เน้อ...      ตอนม.ปลายไปเจออาจารย์คนนึง ซึ่งลาออกไปแล้ว เปิดซัก อบ รีด บ้านอยู่ข้างๆที่หอเราตอนม.ปลาย      ก็เอาผ้าไปซัก.. ด้วยความดีใจที่ได้เจออาจารย์ที่ปรึกษาคนเก่า เลยอยากนั่งคุยนานๆ(คิดถึง)        แต่หัวข้อกลับการสนทนาหาใช่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ ฉันท์อาจารย์ กับ ศิษย์ไม่          "นี่ๆ มันดีมากเลยนะหนู ชุดลดกระชับสัดส่วนเนี่ยบอกให้คุณแม่ซื้อสิ  ชุดละสองหมื่นกว่าเอง"  (เอง!!)  เหอะๆๆ " นี่อาจารย์ก็ใส่อยู่ใส่สบายมากเลย"   เราก็ได้แต่พยักหน้า "อ๋อเหรอคะ ค่ะๆ โหดีจังเลยนะคะ"  ไม่มีช่องทางให้ พูดคำอื่น พูดได้แค่นั้นแหละ ชั่วโมงกว่า จนผ้าที่ขนมาซักเสร็จหมด    รู้สึก เปลี่ยนไป สำหรับอาจารย์คนนี้เลยค่ะ ก็เอาไปเล่าให้เพื่อนฟัง  เพื่อนก็ขำกันใหญ่  แล้วก็พยายามเลี่ยงๆอาจารย์คนนี้เหมือนกัน จากคุณ : ปลาหมึกรสเลม่อน - [ 10 ม.ค. 52 02:25:19 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ไมโครซอฟรวยขี้แตกในการทำระบบOS แต่โครตโหลยโท่ยในการสร้างเกมส์คอมพิวเตอร์ ก็ลองคิดดว่าบริษัทที่รวยเป็นอันดับต้นๆของโลก ยังทำดีได้แค่บางอย่างเท่านั้น แล้วประสาอะไรกับแอมเวย์ที่โฆษณาบอกว่าของตัวเองที่ทุกอย่าง โกหกทั้งเพ จากคุณ : Fatdiary - [ 10 ม.ค. 52 02:57:35 ]

ความคิดเห็นที่ 45 แอมเวย์น่าศึกษานะครับ ........ เป็นการขายที่ใช้จิตวิทยาหน้าด้านที่สูงมาก ผมไม่รู้ในกลุ่มงานขายอื่นๆเขาทำยังไง แต่แอมเวย์นี่ต้องยกให้เป็นหนึ่งเรื่องการขายโดยใช้ความเกรงใจและการตัดรำคาญของลูกค้ามาทำการขายอย่างได้ผล นี่ก็จบมานาน ถ้าย้อนไปได้อาจทำวิจัยเรื่องนี้เหมือนกันว่ายอดขายของแอมเวย์เป็นยอดขายที่เกิดจากความเกรงใจ+ตัดรำคาญของลูกค้าซักเท่าไหร่ เป็นกี่%เมื่อเทียบกับยอดขาย จากคุณ : waphoo - [ 10 ม.ค. 52 03:20:51 ]

ความคิดเห็นที่ 46 คห.44 เพราะว่าไม่ใช่คนๆ เดียวทำ บริษัทเดียวทำ หรือนักวิจัยกลุ่มเดียวทำนี่คะ ถ้ามองก็คือ ในแอมเวย์มีการทำงานแยกไปอย่างเช่น เครื่องสำอางค์ก็เป็นอาร์ทิส...(เขียนชื่อเต็มมันติดคำแบนของบอร์ดค่ะ) หรืออาหารเสริมเป็นของนิวทริไลท์(ซึ่งก่อตั้งบริษัทมาก่อนแอมเวย์ประมาณยี่สิบปี แล้วค่อยมารวมกันทีหลัง) เทคโนโลยีไร้สายในเครื่องกรองน้ำมาจาก Fulton ที่แอมเวย์ควบรวมเข้ามาภายหลัง จะมองว่าทำใต้ชื่อแอมเวย์ก็ได้อ่ะค่ะ แต่ถ้ามองความเป็นจริงสินค้าแต่ละตัวมีนักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ทำงานแยกออกไปในแต่ละประเภทของสินค้าค่ะ แอมเวย์ไม่มีแผนก R&D นะ แต่ีตั้งบริษัทที่ทำ R&D โดยเฉพาะมาทำงานเฉพาะด้านค่ะ นี่เป็นลักษณะการทำงานของแอมเวย์ จากคุณ : psycho patch - [ 10 ม.ค. 52 03:35:39 ]

ความคิดเห็นที่ 47 เราก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่นะคะ แต่คิดว่าถ้าของแอมเวย์ดีจริง ทำไมเค้าไม่เอามาวางขายเหมือนของทั่วไปอ่ะ  เอามาวัดกันกับยี่ห้ออื่นๆ ให้ผู้ซื้อได้ตัดสินใจไปเลยสิ ทำไมต้องเอามาขายวิธีแปลกๆ แบบนี้ด้วย  อีกทั้งเอากำไรมากเกินเหตุ ใครๆก็รู้  (เท่าที่ได้ยินมานี่แบ่งให้คนขายครึ่ง-ครึ่งเลย ใช่มั้ยคะ) ละผู้ซื้อที่ไหนจะไปซื้อลงล่ะคะ ส่วนตัวเคยโดนเพื่อนมาหลอกขาย+ชวนเข้าเหมือนกันค่ะ สามครั้งหนักๆ เห็นจะได้ ไม่ชอบเลย ดูเฟคมากๆ พรอบพากันด้าสุดๆ แอมเวย์เปลี่ยนเพื่อนเราไปเป็นคนละคนทั้งนิสัย(คล้ายๆพวก พธม ยังไงไม่รู้) และคำพูด (เหมือนโดนเค้าให้ท่องจำมาพูดอ่ะ) แทบจะเลิกคบกันไปช่วงหนึ่งเลยทีเดียว รำคาญ จากคุณ : lies_and_truth - [ 10 ม.ค. 52 03:57:41 ]

ความคิดเห็นที่ 48 คห 40 psycho patch ปัญหาของแอมหนักๆเลยคือวัฒนธรรมองกรณ์คุณลองถอยมามองไกลๆแล้วอ่านความเห็นคุณเองแล้วจะรู้ว่าปัญหาคืออะไร  อย่างแรกอีโก้  อย่างที่สองวิธีคิดพัฒนามาจากสิ่งแวดล้อมที่โดนปลูกฝัง  มันไม่ได้อยู่บนโลกที่เป็นจริงซะทุกเรื่อง  ถึงจะตอบข้อโต้แย่งได้ทุกเรื่องแต่ถ้าคนอื่นไม่เห็นด้วยมันก็เท่านั้น     ข้อมูลที่หน้าชั้นมันไม่ได้ถูกต้องจริงสวยหรูเสมอ   มันไม่ใช่ธุระกิจของคุณแล้วก็ไม่ได้เป็นหุ้นส่วนที่แฟร์ด้วย   คุณไม่มีความสามารถต่อรองอะไรกับแอมได้เลยทุกอย่างต้องทำตามกฎที่คุณเองก็เขียนมาล้วนๆ (รวมถึงแผนการตลาดด้วย )  นี่เค้าเรียกสัญญาทาสผูกขาดครับ  บริษัทจ่ายค่าหุ้นส่วนแค่ 30 % รวมถึงพาพวกคุณไปเที่ยวที่ต่างๆ  ที่เหลือคือ 21% ที่ต้องไปแบ่งดาวไลท์  อยากรู้ว่าผมรู้มาจากไหนก็ลอง + - x / ดูจากข้อมูลที่คุณใช้ทำแผนการตลาดดูสิครับ   คุณลองถามเพชรบริหารดูสิครับยอดรวมขายให้แอมไม่ต่ำกว่า 100 ล้านแน่นอนแล้วถามเค้าสิครับว่าผลประโชยน์เข้าตัวเค้าเท่าไหร่  ค่าเช่าเซนเตอร์  ค่าการตลาด  ค่าเทรนเซลล์  ค่าตัวอย่างสินค้าตัวอย่างทดลอง ค่าโลจิสติกที่ต้องจ่ายไปในการขายสินค้าสปอนเซอร์  สิ่งเหล่านี้แอมโยนให้คนทำจ่ายเรียบลองเอามา ++++ กันดูตั้งแต่ดาวไลท์ล่างสุดยังอัพสิครับ ขาดทุนย่อยยับ นี่แหละครับค่าใช้จ่ายที่เค้ารวบยอดให้ใน 30% บริษัทแบ่งให้คุณนี่แหละ  ใครทำธุรกิจก็ต้องจ่ายค่าใช้จ่ายพวกนี้ไม่ว่าบริษัทข้ามยักษ์แค่ไหน  แต่แอมเค้าหาวิธีหลุดพ้นได้  (บริษัทหลุดพ้นแต่คนทำน่ะไม่ใช่)   ถ้าเป็นธุระกิจของคุณเองล่ะยอด 100 ล้านกำไรควรจะเท่าไหร่ต่อเดือน/ปีแล้วที่ได้มันคุ้มไหมกับเวลาความทุ่มเทความสามารถที่ลงไป ขายตรงส่วนใหญ่อยู่ได้เพราะขายฝันครับ  ถ้าคุณไม่ฝันว่าจะสบายในอนาคตยอมลำบากตอนนี้แต่ในช่วยที่คุณลำบากนี่แหละคือช่วงที่คุณโดนเอาเปรียบสุดๆ  เพราะฉะนั้นคุณต้องเชื่อๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ   เปรียบเทียบง่ายๆคุณเข้ามาต้องเป็นน้องใหม่ต้องจมน้ำใครทนไม่ได้ก็ตายไป  พวกที่รอดสัก 5% ก็ขึ้นไปยืนบนหัวคนที่จมอยู่เริ่มไม่สูดอากาศละ  อย่ามาเถียงนะครับว่าไม่มีคนจมน้ำ  คุณขายของให้แอมได้ 10000 เค้าแบ่งคุณ 300 กว่าคุณจะถึงสวรรค์จะมีคนอยู่ใต้เท้าคุณกี่คน  ลองไม่มีพวกเค้าสิครับคุณจะถึงสวรรค์ไหม  แล้วทำไมถึงมีคนยอมจมน้ำเหรอก็เพราะเค้าหวังจะได้ไปสวรรค์ไง ใครจะทำผมไม่ว่าแต่ควรรู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่  มีแนวคิดดีๆเยอะในการทำแอมยอมรับ  อย่าหมกมุ่นไม่งั้นเสร็จ จากคุณ : JohnnyNahe - [ 10 ม.ค. 52 03:59:06 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ^ ^ นี่ไงสาวกตัวจริง จะตี 4 อยู่แล้วยังมาแก้ตัวแทน พูดได้ลื่นดีนะครับ หาทางเอาตัวรอดไว้ก่อนเลย เน้นเสียด้วยว่า ไม่เคยใช้ ถ้าไม่เคยฟัง "อย่างเข้าใจ" อย่ามาว่า ผมเคยไปสัมนามาแล้วด้วย บอกตรงๆว่าแทบจะอาเจียรเพราะมันคือหลักการจิตวิทยาหมู่้ดีๆนี่เอง ขึ้นรถคุยเรื่อง Amway ลงจากรถคุยเรื่อง Amway เข้าห้องประชุมก็...Amway เดินทางกลับบ้านก็ Amway ขนาดไปสัมนาบริษัทยังไม่มีบริษัทไหนพยายามล้างสมองดีๆนี่เอง ของๆ Amway ดีมั้ย บางอย่างก็ดีบางอย่างก็งั้นๆ แต่ที่แน่ๆคือ "แพงเกินเหตุ" และผมบอกเลยก็ได้ว่า Amway ทำของหลายอย่างแต่ที่ดีเป็นที่ยอมรับในตลาดวงกว้าง "ไม่มีซักอย่าง" เพราะอะไร ก็เพราะแต่ละบริษัทมีความถนัดไม่เหมือนกัน บริษัทที่เอาดีในด้านต่างๆจะทุ่มงบวิจัยทั้งหมดไปที่ผลิตภัณฑ์ที่เป็นความชำนาญของตัวเอง ไม่ใช่หว่านไปทั่วๆทำของดีประมาณหนึ่งถึงของธรรมดาๆแล้วมาใช้แผนการตลาดล้างสมองรายบุคคลเอา เอาแค่เครื่องสำอางค์ก็ได้ ถาม 100 คนที่ไม่ได้เป็นสมาชิกของ Amway ก็จะตอบเหมือนกันทั้ง 100 คนว่าถ้าผมกลับจากอเมริกา ผมจะหิ้ว Clinique กับ Artiste' อะไรของพวกคุณเนี่ยเขาจะเลือกอะไร มันแน่นอนอยู่แล้วระหว่างแบรนด์ดังที่เป็นที่รู้จักกันทั้งโลกและพิสูจน์กันมาแล้วว่าดี กับอีกอันหนึ่งที่พูดกันเองในหมู่สาวก Amway ว่าดีนักดีหนาแล้วตั้งราคาแพงๆขายกันเอง จริงๆธุรกิจ Amway "ไม่ต้องการ" ลูกค้าแต่อย่างใด ธุรกิจนี้ต้องการแค่สมาชิกที่จะมาทั้งรุมซื้อรุมใช้รวมถึงพยายามกระจายลูกโซ่ต่อ และเมื่อไม่ได้ขายให้คนทั่วไป ธุรกิจทุกธุจกิจต้องการเงินในการหล่อเลี้ยง ดังนั้นจึงต้องใช้การทำให้สมาชิกเครือข่ายนั่นแหละเชื่อว่าของๆตัวเองนั้นดีที่สุดและต้องซื้อใช้เป็นประจำและตั้งกฏต่างๆเพื่อเอายอดมาผูกมัดให้ทำการซื้ออยู่เรื่อยๆไม่ว่าจะจำเป็นหรือไม่ นี่ผมไม่ได้พูดเรื่องสต๊อกสินค้าเลยนะ และของที่ขายก็ต้องมีส่วนต่างกำไรมากกว่าปกติเพื่อทำการพยุงองค์กรรวมถึงสร้างกำไรให้กับคนไม่กี่คนบนยอดห่วงโซ่อาหาร รู้ตัวไว้ด้วยว่าพวกคุณไม่ใช่นักธุรกิจหรอก แต่พวกคุณเป็นแค่อาหารของสังคมสัตว์ใหญ่ที่ดูดน้ำเลี้ยงของคุณโดยไม่รู้ตัว(หรือว่ารู้ตัวแต่ก็ยังเต็มใจให้ดูด) และก็เสี้ยมให้คุณดูดน้ำเลี้ยงของสัตว์ที่เล็กกว่า อาจจะมีสัตว์ใหญ่สัตว์น้อยเติบโตและล้มตายไปบ้าง แต่ที่แน่ๆ ให้ตายยังไงคุณก็ไม่มีทางโตไปกว่าพวกจ่าฝูงทั้งหลายได้ จากคุณ : VeryBadman...Begins - [ 10 ม.ค. 52 04:12:05 A:128.242.106.124 X: TicketID:185387 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ไปสัมมนา ไปจีบสาวๆ .... ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น เลยไม่ต้องคิดอะไรมาก อยากลากไปก็ให้ลากไป ไปนั่งทำตาแบ้ว จากคุณ : CitizenShip - [ 10 ม.ค. 52 04:21:52 ]

ความคิดเห็นที่ 51 คห.49 แล้วทำไมคุณถึงยังไม่นอนอ่ะคะ แปลว่าเราตอบกระทู้ตอนตีสี่ไม่ได้ แต่คุณตอบได้? แฟร์ดีจัง ^.^ ชอบคนแบบนี้จังค่ะ(อันนี้ประชดนะคะ) รู้จักยูโรมอนิเตอร์ที่เป็นบริษัทวิจัยทางการตลาดมั้ยคะ? อาร์ทิส...ติดทอปไฟว์ของแบนด์ระดับprestige ที่มียอดขายสูงสุดในโลกทุกปีนะ(ในกลุ่มเดียวกันนี้มีคลีนิก เอสเต้ ลังโคม ชาแนล) ไปหาข้อมูลเอาก็ได้นะคะ เรื่องที่เราขอร้องไว้ แล้วแต่จะคิดค่ะ แต่ลองคิดดูว่าคนส่วนมากที่เข้ามาบอกว่าไม่ดี เค้าเอาข้อมูลมาจากไหน คืออยากด่าก็ด่าไปนะ แต่ด่าแบบไม่รู้อะไรนี่เราว่าน่ารังเกียจอ่ะ ถ้าคุณไม่คิดว่าน่ารังเกียจก็แล้วแต่ค่ะ) คห.48 เราว่าคุ้มนะ ไม่รู้นะ อย่างเซนเตอร์เรา เราใช้วิธีช่วยๆ กันแชร์ค่าห้อง ค่าไฟค่ะ ถามเรื่องส่วนแบ่งทางการตลาดกับสิ่งที่ต้องเสียไป เราว่าคุ้มนะ อย่าลืมว่าแอมเวย์(ประเทศไทย) ต้องจ่ายคือการขนส่งสินค้าจากอเมริกามาไทย การกระจายสินค้าตามสาขาต่างๆ ทั่วประเทศ(ประมาณ40 สาขา...ที่ยะลาก็มีนะ) การส่งสินค้าที่บ้านลูกค้า(สั่งให้แอมเวย์ไปส่งได้เลยค่ะ) ค่าใช้จ่ายในส่วนของช้อป ค่าไฟ ค่าพนักงาน อย่างเดือนนี้จะมีงานเอกซ์โป ก็จัดที่เมืองทอง(ฮอลล์ที่ข้างๆ อิมแพ๊คมั้ง ที่จัดงานสินค้า) เป็นงานฟรีอ่ะค่ะ อันนี้แอมเวย์ก็จัด การดูแลงานส่วนสต๊อกสินค้า พวกนี้คือส่วนหนึ่งของงานที่เราไม่ต้องทำอ่ะค่ะ (ไม่รวมส่วนของการผลิต วิจัย R&D อีกอ่ะ) หักลบแล้วมันก็โอเคจริงมั้ย ลองคิดว่าเราเปิดร้านขายของเอง จะมียอดขายร้อยล้านต่อเดือน(เทียบกับสินค้าอุปโภคบริโภคด้วยกันนะ อย่าเทียบกับแบบขายรถ ขายเครื่องบิน ขายบ้านนะคะ มาร์จิ้นมันต่างกันอ่ะ) หน้าร้านเราต้องใหญ่แค่ไหน มีกี่แห่ง เราต้องลงทุนเบื้องต้นเพื่อสต๊อกสินค้ามากขนาดไหน ต้องมีสินค้ากี่ชนิด อย่าลืมว่าถ้าคุณทำค้าขาย คุณไม่สต๊อกไม่ได้(ของแอมเวย์หน้าที่สต๊อกเป็นของช้อปแอมเวย์ คุณไม่ต้องเอาเงินไปลงกับสินค้าก่อน) นอกจากนี้ก็มีเรื่องความเสี่ยง ก็ลองชั่งน้ำหนักดูเอา รวมถึงเรื่องเวลา สมมติว่าคุณทำธุรกิจส่วนตัวสเกลซักสามร้อยล้าน(มาเทียบก็ซักเพชรบริหาร) จะสามารถไปเที่ยวต่างประเทศปีละ 3-4 ครั้ง แล้วก็นั่งเฟิร์สคลาสทุกครั้ง โดยที่ไม่ต้องมานั่งพะวงเรื่องธุรกิจเลยได้มั้ยอ่ะ เราว่านี่อ่ะกำไรที่คิดเป็นเงินไม่ได้ของแอมเวย์นะ เอาตัวอย่างที่จับต้องได้คุณวันชัย รุ่งภูวภัทร ที่ทำซอสศรีไทย(พวกซอสซองๆ รวมถึงของบรรจุซองๆ) มีแคชโฟลว์วันละแสนจากธุรกิจเดิม แล้วก็มีคนมาชวนทำแอมเวย์ ตอนแรกเ้ค้าก็กะว่าจะมาดูแอมเวย์เพื่อที่จะออกมาทำเอง(คือเปิดแข่ง) แล้วทำไมวันนี้เค้าถึงเลือกที่จะทำแอมเวย์แบบตั้งใจ ถ้าเค้ามองว่ามาทำแล้วไม่คุ้ม คิดว่าคนที่เป็นเจ้าของกิจการ(ที่ก็รุ่งเรือง ขยายสาขาฐานการผลิตไปเมืองนอก มีลูกค้าเป็นแมคโดนัลด์) เค้ามองเห็นอะไร? หรือเค้าจะแค่โลภหรอ? แค่ยกตัวอย่างให้ฟังนะคะ คคห. 47 เพราะเป็นขายตรงไงคะ ^^  สินค้าทั่วไป กำไรที่ทางผู้ผลิตได้ ก็พอๆ กับที่แอมเวย์ได้หลังหักค่าทางการตลาดให้ นธอ. อ่ะค่ะ ถ้าขายทางช่องทางปกติต้องตั้งราคาไว้เผื่อซัพพลายเออร์ ค้าส่ง ค้าปลีก ค่าโฆษณา จะเอาไปวางในห้างโมเดิร์นเทรด หรือตามเซเว่นก็ต้องเสียเงินให้บริษัทของทางโน้น(เสียแบบ สมมตินะคุณทำนมเปรี้ยวบรรจุกล่อง มีกี่รส มีกี่ขนาด ต้องเอาจำนวนรสxจำนวนขนาด แล้วจ่ายตามอัตราว่าจะวางสินค้ากี่แบบ แต่ละแบบเสียเท่าไหร่ เลยนะคะ) เพราะฉะนั้นสินค้าที่ขายกันทั่วไปคุณก็โดนคิดกำไรไปไม่น้อยอ่ะค่ะ จริงๆ ไม่สมควรตอบแล้วใช่มะ ตอบแล้วก็โดนด่าเนอะ ถ้าอันไหนไม่รู้ ก็ไม่รู้กันต่อดีกว่า เย้! จากคุณ : psycho patch - [ 10 ม.ค. 52 04:58:07 ]

ความคิดเห็นที่ 52 พวกนี้ต้นทุนกี่เปอร์เซ็นต์ของราคาขายจริง  เห็นขายราคาสูงจัง เสร็จแล้วก็เอามาแบ่งเป็นผลกำไรให้คนขาย (ถ้าคนขายเองได้กำไร บริษัทก็ต้องได้กำไรด้วยใช่มะ) จากคุณ : Ling-Er - [ 10 ม.ค. 52 05:10:52 ]

ความคิดเห็นที่ 53 จะตอบยังไงให้ไม่โดนด่า? ตอบ คห.52 นะคะ ปกติราคาขาย 100 ต้นทุน +กำไร อยู่ที่ 40% มันประมาณนี้หมดอ่ะค่ะ นอกนั้นก็แบบที่บอกข้างบน แบ่งให้ซัพพลายเออร์ แบ่งให้ค้าส่ง ค้าปลีก ยี่ปั๊ว ซาปั๊ว เอเจนซี่โฆษณา ซื้อเวลาของสื่อ ฯลฯ มันต่างกันตรงไหนน้อ ทีนี้ถ้าถามว่าทำไมของแอมเวย์แพง เอางี้ไม่อธิบายแต่อยากให้ลองหาข้อมูลเรื่อง "การผลิต" "โรงงาน" "ทีมวิจัย" "สิทธิบัตร" ของสินค้าดูค่ะ แล้วเทียบมาตรฐานกับสินค้าทั่วไปในตลาดค่ะ จากคุณ : psycho patch - [ 10 ม.ค. 52 05:21:34 ]

ความคิดเห็นที่ 54 คอยดูภาวะเศรฐกิจปีนี้แล้วกัน จะได้รู้ว่าแอมเวย์เป็นอย่างไร มาจากอเมริกาไม่ใช่รึ ทำไมอเมริกาถึงไม่ใช้ระบบของแอมเวย์แก้ไขล่ะ บารัค โอบาม่าก็ไม่เคยพูดถึงแอมเวย์เลย.. จากคุณ : เด็กน้อยขี่ม้าก้านกล้วย - [ 10 ม.ค. 52 05:31:36 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ถึงไม่ได้ใช้ แอมเวย์ แต่อยากให้คุณ psycho patch มาตอบ เพราะไม่งั้น กระทู้ ไปทางเดียว วันเวย์หมด... ต้องเปิดใจให้กว้าง รับฟัง เรื่องเถียงในกระทู้เปนธรรมดา เรื่องจะเชื่อใครแล้วแต่เหตุผล ผมคนนึงหล่ะ  ที่ไม่มีความสามารถที่จะขาย ให้ใครมาสร้างกำลังใจยังไง ผมก็ดูถูกตัวเองยังงี้หล่ะ เพราะรู้สิ่งที่ตัวเองชอบไม่ชอบได้ แต่พร้อมที่จะรับฟัง... จากคุณ : MAD Magazine - [ 10 ม.ค. 52 05:36:53 ]

ความคิดเห็นที่ 56 เคยมีเพื่อนบ้ามาโม้แอมเวย์ให้ฟัง เริ่มทนไม่ไหว บอกมัน เมองพูดอีกคำเดียวกูต่อยเมองจริงๆนะ และจะเลิกคบด้วย ถ้าเมองเห็นแอมเวย์ดีกว่าเพื่อนก็พูดต่อได้เลย ได้ผลครับ มันหยุดพูดเลย อิอิ จากคุณ : Shooter_MVP - [ 10 ม.ค. 52 05:48:34 ]

ความคิดเห็นที่ 57 bookmark จากคุณ : Reba - The Queen in my heart - [ 10 ม.ค. 52 06:38:07 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ผมเคยเป็นผู้บริหารระดับกลาง ผมไม่ชอบการขายตรงเพราะลูกน้องที่เป็นสมาชิกขายตรงมักทำงานหลักกันแย่ลง และมีความแตกแยกกันมากขึ้น ตอนหลังมีมากขึ้นทุกทีจนต้องสั่งห้ามไม่ให้มีกิจกรรมการขายตรงใดๆในที่ทำงาน และลงโทษอย่างเด็ดขาด แต่พอเผลอมันก็กลับมาอีก ตั้งแต่นั้นมาผมเลยไม่ชอบกิจกรรมการขายตรงมาตลอด จากคุณ : เสธแก่ - [ 10 ม.ค. 52 06:38:36 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ส่วนตัวที่ไม่สนใจธุรกิจพวกนี้คือ 1. สินค้าบางอย่าง ไม่ว่าจะระดับแอมเวย์ หรือ ระดับตามซุปเปอร์ทั่วไปก็ให้ความพึงพอใจที่เท่ากัน ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นต้องจ่ายแพงกว่า 2. เคยถูกลากไปฟังสัมมนามาแล้ว สำหรับเรา รุ้สึกว่าการสัมมนาของแอมเวย์ที่เราได้พบ ไม่มีอะไรมากไปกว่า เอาเรื่องราวของคนที่ประสบความสำเร็จมาให้ดู หรือ เอารูปคนไปเที่ยวที่นั่นที่นี่มาให้ดู แถมด้วยการสะกดจิตหมู่ ถามอะไรทุกคนในฮอลล์ (โดยเฉพาะคนที่เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ก็จะตะโกน "เห็นด้วย" "ถูกต้อง") พอเราเฉยๆ พิธีกร ก็ถามเราว่า เรารู้สึกอย่างไรกะการสัมมนา  เราตอบไปว่า "เฉยๆครับ" "ผมอยากรู้เรื่องคุณภาพสินค้ามากกว่า"  พิธีกรก็หน้าเจื่อนๆ ไปถามคนอื่นต่อ สิ่งที่เราสนใจอยากฟังคือ สินค้าดีอย่างไร น่าจะมีการให้ทดลองใช้ หรือ วิธีอื่นเพื่อให้ผู้มาฟังเชื่อมั่นในตัวสินค้า มากกว่า เอารายได้มาหลอก  ถ้าเราไม่เชื่อมั่นสินค้าแล้วเราจะเชื่อมั่นไปขายคนอื่นได้ยังไง 3. สินค้ามีร้อยแปดพันเก้า ถามจริงๆเหอะ คนขายอ่ะ เคยใช้ทุกตัวมั้ย ว่ามันดีหรือไม่ดี คุณมั่นใจในสินค้าทุกตัวขนาดไหนก่อนจะมาแนะนำคนอื่น ถ้าบริษัทมุ่งเน้นให้ตัวสินค้ามีคุณภาพ เพื่อให้สินค้าขายตัวเองได้ ทำไมถึงไม่ทำ (อันนี้เป็นความคลางแคลงใจ ส่วนตัวของผมเองนะ)   4. คนขายบางคนนะครับ (จริงๆก็เพื่อนๆผม แหละ) การที่เค้ามาขาย บางครั้งทำให้ผมรู้สึกว่า การที่เค้ามาแนะนำเนี่ย ไม่ได้เป็นห่วงเป็นใยอะไรเราหรอก บอกตรงๆ บางที มันรู้สึกเหมือนว่า "เอาคำว่าน้ำใจ เอาความเกรงใจ เอาความเป็นเพื่อนของตัวเอง มาแลกกะเงินอ่ะ"  (ขอโทษจริงๆนะครับ ถ้าแรงไป ความคิดเห็นส่วนตัว) ในขณะที่สินค้าทั่วไป ผมเลือก ผมตัดสินใจเอง ไม่ต้องมีแรงอย่างอื่นมาชักจูง 5. พอเราอธิบายเหตุผล เราไปแบบนี้กับผู้ชักจูง จะเหมือนโดนดูถูกตลอดว่า "โง่" มีเงินตรงหน้าแต่ไม่ทำ  ไม่ได้พูดตรงๆกันหรอกครับ แต่ทำให้เรารู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ตอนนี้คิดออกแค่นี้อ่ะครับ พ่อกับแม่ผม ก็เคยทำนะครับ ขายตรงอ่ะ (แต่ผลิตภัณท์อื่น) ยอมรับว่าถ้าทำสำเร็จก็จะได้รายได้เยอะมาก ขนาดเป็นหมอ เงินเดือนยังสู้ไม่ได้เลย   เพื่อนผมที่เป็นระดับนั้นก็มีครับ  จริงๆการขายตรง ก็เป็นการทำให้คนมีอาชีพอ่ะครับ แต่ผมมองว่า บริษัทนั้นค่อนข้างจะเห็นแก่ตัวที่ออกแบบให้การขายและการสร้างลูกนั้น เป็นเรื่องของผลประโชน์เกินไป ในขณะที่สังคมของไทยเรานั้นเป็นแบบ เกื้อกูล และ น้ำใจอะครับ ผมขออยู่แบบสบายใจ ไม่เสียเพื่อน ไม่เสียความรู้สึก  สินค้าอะไรในชีวิตก็ไม่ต้องการคุณภาพระดับอะไรนั่นหรอกครับ ผมแค่คนธรรมดาอ่ะ แค่ชิวิตมีความสุขก็พอแล้ว ปล. ขอโทษมา ณ ที่นี้นะครับ ถ้าพูดไปกระทบผู้ขายตรงท่านใด เพราะที่พิมพ์มามันเป็นความรู้สึกส่วนตัวของผมอ่ะครับ จากคุณ : Jazzmo - [ 10 ม.ค. 52 06:55:04 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ดุเดือด จากคุณ : เทาทองวอร์ริเออร์ - [ 10 ม.ค. 52 07:28:14 ]

ความคิดเห็นที่ 61 Well, I've had study the Amway's business plan before. I personally don't like it. If you guys smart enough to do the calculation, you would figure out how your money comes from. GOOD LUCK !! จากคุณ : Living Extreme - [ 10 ม.ค. 52 07:44:09 ]

ความคิดเห็นที่ 62 คุณคห 11 แพทย์หญิง คือผู้หญิงที่เรียนคณะแพทย์ศาสตร์  หลายคนในนี้ก็เรียนคณะแพทย์ศาสตร์  เพราะฉะนั้นเจ้าของ amway ก็คงไม่ได้วิเศษหรือผลิตภํณฑ์ที่ออกมาจะต้องวิเศษกว่า  ของที่ออกมาจากแพทย์คนอื่นๆ จากคุณ : nuch_tiew - [ 10 ม.ค. 52 08:30:35 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ...เข้ามางง จากคุณ : Mr. Fiction (pon2007) - [ 10 ม.ค. 52 08:32:04 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ไอคนทำมันยังไม่ยอมรับเล๊ยย  ว่ามันเป็น เซลล์แมน มันจะคิดได้แค่ว่า ข้าคือนักธุรกิจ.. ข้าคือนักธุรกิจ.. ข้าคือนักธุรกิจ.. มันไม่ใช่งานขาย.. มันไม่ใช่งานขาย.. มันไม่ใช่งานขาย.. เวลาไปฟังบรรยายเอาไอพวกประสบความสำเร็จมาเล่าให้ฟัง บอกกล้ายืนยันเลยว่ามันไม่มีใครเล่าความจริง 100% หรอก มันเล่าหรือเปล่าล่ะ... ว่าเจอเพื่อนเลิกคบไปกี่คน มันเล่าหรือเปล่าล่ะ... ว่าโดนคนแอนตี้สรรเสริญบรรพบุรุษลับหลัง เวลาหน้าด้านไปขาย เหมือนมาเล่านิทานให้คนฟังมากกว่า แถมถ้าไม่มีค่าจ้างให้มาบรรยายมันก็ไม่มาหรอก เอาเวลาไปดูดน้ำเลี้ยงแบบข้างบนว่าดีกว่า ฮ่าๆๆ จากคุณ : EvaNe - [ 10 ม.ค. 52 08:37:53 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ล้างสมองสมบูรณ์แบบ... จากคุณ : -OmegA- - [ 10 ม.ค. 52 09:10:53 ]

ความคิดเห็นที่ 66 บอกแล้วว่ารวยอย่างเดียวไม่พอ ต้อง....ด้วย จากคุณ : ผู้ครอบครองจักรยาน - [ 10 ม.ค. 52 10:06:33 ]

ความคิดเห็นที่ 67 เพื่อนผมใช้ glister แล้วปากเหม็นครับ ทุกคนเลย จากคุณ : Garlamare - [ 10 ม.ค. 52 10:11:11 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ทำไมไม่มีการเปรียบระหว่าง คนที่ประสบความสำเร็จ กับ คนที่ล้มเหลว ว่าส่วนไหนมีจำนวนมากกว่ากันละครับ จากคุณ : monsungja - [ 10 ม.ค. 52 10:17:30 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ไปค้างบ้านพี่ที่รู้จักอยู่คนนึง... พูดถึงแต่สินค้าของเค้าว่าดียังไงบ้าง โคตรคุ้มเลย... แต่ไม่สนใจ...  เพราะฟังเรื่องแบบนี้มาจนเบื่อเลย (ขอบอกว่าไม่ใช่เฉพาะแอมเวย์หรอกนะ ขายตรงเจ้าอื่นๆ ก็เป็น พูดคล้ายๆ กันหมดเลย มิตรภาพของคนในกลุ่ม เป็นพี่เป็นน้อง หาจากที่อื่นไม่ได้  -__-") ปลีกตัวฟอร์มจะไปนอน นอนอ่านหนังสืออยู่ คุณเธอเข้ามาใช้สินค้าตัวนั้นตัวนี้ เครื่องสำอางค์นั่นนี่... กะจะให้เราถามถึง...  แต่เปล่า... เงียบ (ก็ชั้นรู้แล้วอ่ะ มุขเนี้ย) เจ๊เลยมาโฆษณาต่อซะเอง...เฮ้อ.... ไม่นอนแล้วก็ได้ เลยทำฟอร์มเป็นเข้าห้องน้ำ และไม่เปิดโอกาสให้เธอพูดอะไรอีก... เซ็งอ่ะ....   -*- จากคุณ : chubbmind - [ 10 ม.ค. 52 10:29:20 ]

ความคิดเห็นที่ 70 มันเกือบเอาเพื่อนผมไปเลยล่ะ แค่ไปปฐมนิเทศน์ครั้งงเดียว เก่งจริงๆ จากคุณ : LedZepp - [ 10 ม.ค. 52 10:34:53 ]

ความคิดเห็นที่ 71 อยากจะบอกว่าผมโดนเพื่อนหลอกจากชลบุรี ไปกรุงเทพ ก็เพราะ amway เรียนจบมา ไม่ได้เจอกันหลายปี เพื่อนเค้าก็โทรมาชวนกินเหล้า มีเพื่อนในห้องอีกไปหลายคน เราก็ไปนั่งรอ ที่มาบุญครอง เค้าก็ชวนไปหาเค้าแถวสามย่าน บอกว่าเดี๋ยวจะไรแนะนำให้รู้จักกับพี่ ๆ ที่ทำงาน  เราก็ไม่ยอม จะรออยู่นี่ (มากินเหล้าน่ะๆ ไม่ได้มาทำงาน) ตกลงเค้าบอกจะมาหาเราที่มาบุญครอง แต่รอ 2 ชั่วโมงแล้วเพื่อนก็ยังไม่มา สุดท้ายก็กลับแบบเซ็ง ๆ มารู้ทีหลังจากเพื่อนอีกคนว่าเค้าขาย amway เค้าจะชวนเราไปสัมนา หลังจากนั้นก็ไม่เคยคุยกันอีกจะ 3 ปีแล้ว จากคุณ : titsom - [ 10 ม.ค. 52 11:09:36 ]

ความคิดเห็นที่ 72 มีเพื่อนทำแอม...เหมือนกันค่ะเค้าคุยว่าไม่ต้องทำอะไรก็ได้เงินเดือน เดือนละ 5-6 หมื่นแล้ว เธอเลยลาออกจากงานประจำบอกว่าจะได้มี เวลาทำธุรกิจส่วนตัวเต็มที่ ออกจากงานไปประมาณ 2 ปี ตอนนี้กลับมาขอเจ้านายทำงานเหมือนเดิมแล้ว (รายได้ตั้งเยอะไม่รู้ กลับมาทำไม งง) จากคุณ : แม่ปัณณ์ - [ 10 ม.ค. 52 11:12:15 ]

ความคิดเห็นที่ 73 เคยทำมาเกือบทั้งหมดครับ แต่ทำแบบเงียบๆ ไม่ชักชวนใครให้วุ่นวาย ถ้าใครพูดถึงก็เสนอตัวว่าทำอยู่ แค่นั้น แต่ท้ายสุดก็เลิกทำเพราะรู้สึกว่าทำงานตามปกติของเราไปนั่นแหล่ะ ดีที่สุดแล้ว ก็เข้าใจว่าคนอื่นเข้าไม่อยากถูกหลอก เท่าๆกับที่เราเองไม่อยากถูกคนอื่นหลอกครับ จากคุณ : Moonui - [ 10 ม.ค. 52 11:20:10 ]

ความคิดเห็นที่ 74 อธัยาศัย ดีนะ แต่ทำไม เราไม่อยากรู้จักหรืออยู่ฟังคนขายของแบบนี้ก็ไม่รู้ซิ จากคุณ : โทโมกะ - [ 10 ม.ค. 52 11:40:59 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ไม่ชอบตรงที่เวลาชวนใครมาสมัคร แล้วไปดูถูกความฝันของคนอื่น แล้วให้มาทำแอมเวย์เนี่ยแหละค่ะ เจอลูกพี่ลูกน้องลากไปทำเหมือนกัน ถามว่าจบไปจะไปทำงานอะไร  เราก็ตอบๆเล่าๆไป แล้วก็มองหน้าแบบดูถูกหน่อยๆ พร้อมกับถามว่า แล้วจะทำได้เหรอ??  ถ้าทำไม่ได้ล่ะ  เราก็ไม่ยอม บอกไปว่า..ถ้าทำไม่ได้ ก็จะทำให้ได้แน่ๆ ไม่ต้องห่วง คือเค้าพยายามจะบอกอยู่เสมอว่าให้มาทำงานกะเค้า มันทำให้เราได้ออกไปท่องเที่ยวได้โดยไม่ต้องทำงาน แต่โดยส่วนตัวแล้ว เราของทำงานที่เราชอบจะดีกว่าอีก วิธีการของลูกพี่ลูกน้องเราไม่ต่างอะไรกับเพื่อนเราที่คอยจะดูถูกความฝันของคนอื่น แล้วให้เข้ามาทำงานที่แอมเวยเลยอ่ะค่ะ จากคุณ : ~~ช้างน้อยร้อยโล~~ - [ 10 ม.ค. 52 11:44:46 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ตอบ มีสาระ โหวตละกัน จากคุณ : shonenjump - [ 10 ม.ค. 52 11:54:16 ]

ความคิดเห็นที่ 77 _เบื่อ _แอมเวย์ อ่านอยู่ตลอดนะคะ ถึงจะไม่ได้ตอบ จากคุณ : นู๋นัน - [ 10 ม.ค. 52 12:27:24 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ถ้าแอมเวย์เลิกระบบการล้างสมอง และให้เพื่อนหรือญาติมาหลอกกันเองได้ ทัศนคติของผู้บริโภคจะดีกว่านี้มาก อย่าบอกว่าทางแอมเวย์ไม่รู้ไม่เห็น มันเป็นธุรกิจของคุณ คุณมีหน้าที่รับผิดชอบ หรือว่าสักแต่ปล่อยของให้ได้ คนที่เอาไปขาย คนที่ไปหลอกคนอื่นมาเป็นสมาชิก คุณจะแค่ปลดออกจาก การเป็นสมาชิก มันต้องมีการฟ้องร้องทางคดีให้เป็นรูปธรรม ว่าคนพวกนี้ กำลังทำให้ธุรกิจคุณเสียหายอยู่ หรือว่าที่ไม่ทำ เพราะคุณก็สนับสนุนระบบนี้ จากคุณ : AW Milan - [ 10 ม.ค. 52 12:42:23 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ตอนนี้กำลังโดนเพื่อนชวนเป็นสมาชิกเหมือนกันแต่เป็นของ Aimstar อะไรเนี่ย คงคล้าย Amway บอกผลัดไปเรื่อยๆ ไม่อยากเสียเพื่อน ผมว่าธุรกิจนี้ขายได้เพราะความเกรงใจกับตัดรำคาญจริงๆนะ  ของแพงแถมสมาชิกต้องซื้อทุกเดือนเพื่อรักษายอดขายอีก  พวกอาหารเสริมก็แพงแถมยังบอกว่ามีสรรพคุณสารพัด ผมยังคิดเลยว่าถ้าดีขนาดนั้นน่าจะวางขายทั่วไปเลยดีกว่า ขายถูกลงแต่ขายได้เยอะขึ้น ได้ช่วยคนอีกต่างหาก จากคุณ : FlyingChicken - [ 10 ม.ค. 52 12:44:26 ]

ความคิดเห็นที่ 80 เงิน ไม่ใช่ทุกอย่างนะครับ จากคุณ : becauseofu - [ 10 ม.ค. 52 13:01:50 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ความคิดเห็นที่ 45 โดนมากครับ ผมก็มีประสบการณ์ตรงเลย เพือ่นสนิทผมคน1 เรียนด้วยกันตั้งแต่ ม.ต้น มาเข้ามหาลัย ก็คณะเดียวกัน มหาลัยเดียวกัน ช่วงปิดเทอมปี2 มันโทรมาบอกว่า มีธุรกิจมานำเสนอ มันไม่บอกนะว่าเป็นแอมเวย์ พอผมฟังมันเล่าจบ ผมบอกว่า นั้นมันเป็นแชร์ลูกโซ่นิ แล้วมันก็บอกว่า "ไม่ใช่ มันเป็นแอมเวย์" แล้วมันชวนเพื่อนทุกคน ผมกับเพื่อนทุกคนที่โดนมันชวน ลงความเห็นกันว่า เหมือนมันโดนล้างสมอง แล้วมันก้ไปเข้าประชุมทุกครั้ง จัดที่ต่างจังหวัดมันก็ไป มาชวนผมด้วย ไม่ได้บอกว่าไปประชุมแอมเวย์นะ บอกว่าไปเที่ยวกัน ผมก็บอกว่า บอกมาเหอะว่าจะชวนไปประชุม มันก็เลยยอมรับ แล้วมันก็มีเพือ่นใหม่ที่คณะคนหนึ่งทำแอมเวย์เหมือนกันสนิทกันมาก แต่ปัจจุบันเพือ่นคนนั้นเลิกแล้ว พอซักพักมันก็บอกว่าจะซิ่วไปอยู่คณะการตลาด แล้วมันก้ทำจริงๆ แล้วหลังจากนั้นมันก็ไปชวนทุกคนที่ขว้างหน้า ถึงขนาดไปตามชานเมือง เพื่อไปชวนคนที่เขาทำไร่ทำสวน ให้ซื้อ...อะไรซักอย่างที่เอาไปผสมน้ำแล้วรดต้นไม้ ไปชวนอาจารย์โรงเรียนต่างๆ สุดท้าย ชวนไม่ได้สักคน ผมก็สงสารมันอยุ่นะ แต่ไม่รู้จะทำไง แล้วมีอยู่วันหนึ่งมันไปประชุมกลับมา แล้วโทรมาบอกว่า ปีหน้า มันจะซื้อมาสด้าสาม จะไปเที่ยวต่างประเทศ จากแต่ก่อนมันกับผมเปนคนขี้อายเหมือนกัน เรื่องสาวๆนี้ไม่ต้องพูดถึง แต่หลังจากมันทำแอมเวย์ มีอยุ่วันนึ่งมันมาเล่าให้ผมฟังว่า ไปขอเบอร์สาวคนนึง เขาไม่ให้ แล้วมันก็เลยเดินตามขอเบอร์เขาไปเรื่อยๆ - - สุดท้าย ถ้าแอมเวย์ดีจริงทำไมเพือ่นผมเวลาไปชวนถึงไม่ชวนตรงๆเลย ทำไมต้องอ้างชื่ออื่น เช่น network 21 ด้วย แล้วทำไมต้องยกตัวอย่างแต่คนที่ประสบความสำเร็จ ทำไมไม่ยกตัวอย่างคนที่ทำแล้วไม่ประสบความสำเร็จบ้าง ผมว่ามีเยอะกว่าคนที่ทำแล้วสำเร็จหลายเท่านะ จากคุณ : nguyen - [ 10 ม.ค. 52 13:30:18 A:10.66.235.6 X:202.12.97.114 ]

ความคิดเห็นที่ 82 กระทู้ยาวมาก อ่านตั้งนานเลย ผมว่ามันขึ้นกับแต่ละคนมั้งครับ เราต้องยอมรับว่า ทุกธุรกิจมีทั้งคนดีและคนไม่ดี ภาพที่ทุกคนสัมผัสกับธุรกิจนี้ เป็นมุม 2มุมที่เจอมา บางคนชอบก็มองว่าดี บางคนเจอเรื่องแย่ๆ ก็มักจะจดจำขึ้นใจ(ทำดีไม่มีคนชม แต่ทำพลาดเมื่อไรซ้ำแน่ๆ) ถ้าว่างๆไม่คิดอะไรมาก ก็ลองฟังดูเถอะครับ ไม่เสียหายไร ผมยังฟังมาทุกอย่างเลย 555 แต่ไม่เคยสมัครอะไรเลย ถือว่าเปิดโอกาสให้แก่ตัวเองแล้วกัน จากคุณ : เจ้าหนูขี้สงสัย - [ 10 ม.ค. 52 13:32:13 ]

ความคิดเห็นที่ 83 เหตุ ที่ไม่ชอบ การขายแบบ นี้ มี 1 มัน เป็น โครง สร้าง แบบ ปีรามิด คน ที่อยู่ ยอด ก็สบาย ครับ เชื่ออย่างจริงใจ ว่าคน ที่ประสบ ความสำเร็จ มีอยู่จริงครับ แล้ว คนที่อยู่ที่ ฐาน ปิรามิด หละครับ เขามีโอกาส สบาย บ้างไหมครบ คุณ อาจ บอกว่า ก็มี ครับ ต้องขยัน ครับ  ถ้า ประชากรโลก มี 1แสน ล้านคน เป็น สมาชิกทุกคน ใคร ดีสุด ยอดครับ ไม่ต้องคิดมาก แล้วใคร ลำบากสุด ฐาน ครับเพราะ เขาหา ลูกข่ายไม่ได้แล้ว ไม่มีโอกาสโตอย่างสิ้น เชิงครับ ยอด สบาย โดยไม่ต้องทำอะไรหลังจากที่มีลูกข่ายชั้นยอด สัก 10 คน 2 ราคา ที่แพง คุณ บอกว่า ก็เหมือน กับ ที่ผู้ซื้อ เสีย อยู่แล้ว เพียงแต่ว่า ไม่ต้องให้ กับ ยี่ปั้ว คนกลาง มากมาย กายกอง ผมมองว่า มันไม่เป็นการกระจายรายได้ ครับ เงิน กระจุกตัว อยู่กับคนไม่กี่คน แล้วคนอื่น ก็ต้อง ตกงาน ไม่มีรายได้ ไม่มีงานทำ แล้วเขาต้องทำอย่างไร กัน ครับ   หรือคิดอะไร ไม่ออก ก็ ปล้น คนที่มีเงิน ก็คือ คนขายตรง  หรือไงครับ จากคุณ : a235 - [ 10 ม.ค. 52 13:32:46 ]

ความคิดเห็นที่ 84 pyramid คนที่ยืนอยู่้ข้างบนอิ่ม จากคุณ : ชายผู้ไร้ซึ่งความรัก - [ 10 ม.ค. 52 14:00:48 ]

ความคิดเห็นที่ 85 ธุรกิจแต่ละประเภทเขาก็มีแนวคิด มีวัตถุประสงค์ มีรูปแบบองค์กร แตกต่างกันไป แอมเวย์ เป็น ธุรกิจ ขายตรง เขามีแนวทางของเขา จะให้เปลี่ยนไปเป็นแบบอื่น มันก็ไม่ใช่แล้วสิ ดิฉันไม่ขอออกความเห็นว่า ธุรกิจแอมเวย์นี้ ดี หรือ เลว ล้างสมองหรือไม่ เพราะตัวธุรกิจก็อย่างหนึ่ง ตัว "นัก"ธุรกิจ (หรือพูดง่ายๆ ว่าคนขาย) ก็อย่างหนึ่ง แต่ละคน ก็มีวิธีการไปสู่จุดหมายแตกต่างกันไป ยอมรับว่า "แอมเวย์" นี่ ผ่านเข้ามาในชีวิตดิฉันและคนใกล้ตัวมาตลอด ผ่านมา ผ่านไป แล้วก็ผ่านเข้ามาอีก อยู่เป็นระยะๆ ดิฉันก็เจอทั้งคนดีๆ น่ารักๆ พูดจาดี มีเหตุผล แล้วก็เจอแบบแย่ๆ พูดอวยจนเลี่ยน แบบที่หลายๆ คนเจอ มันก็ขึ้นอยู่กับ "คน" แต่ละคนไป จะไปเหมาว่า สมาชิกขายแอมเวย์แย่ทุกคน ถูกล้างสมองทุกคน ก็คงไม่ได้ ทุกวันนี้ ดิฉัน ไม่ได้เป็นสมาชิกแอมเวย์ ถึงแม้ คุณแม่จะเคยเป็น เพื่อนสนิทจะเคยเป็น และพี่ที่ทำงานที่ยังคงเป็นอยู่ แต่ดิฉันก็ใช้ผลิตภัณฑ์แอมเวย์อยู่หลายตัว ราคามันก็แพงแหละ แต่เมื่อเทียบกับอีกหลายๆ ยี่ห้อจากต่างประเทศ มันก็พอเข้าใจ ดิฉันก็เลือกเอา ว่าชอบตัวไหน พอใจตัวไหน ทุกวันนี้ ที่บ้านก็ใช้ผงซักฟอกแอมเวย์กับเครื่องซักผ้า เพราะมันไม่ตกค้าง  ไม่เป็นคราบ เคยใช้ยี่ห้ออื่นแล้วมันไม่เหมาะสักยี่ห้อ แต่ใช้ บลีส สำหรับซักมือ เพราะมันถูกกว่ามาก ดิฉันใช้เครื่องสำอางค์ของแอมเวย์บางตัว แต่หลายๆ ตัวก็ใช้ยี่ห้ออื่น บอกได้เลยว่า ดิฉันเคยฟังสัมมนา ตามเพื่อนตามแม่ไปเข้ากลุ่ม ตั้งหลายหนแล้ว แต่ก็ "ไม่เคย" ถูกล้างสมองเลย และก็ "ไม่เคย" ต้องสมัครเพราะเกรงใจเลยสักครั้ง เพราะดิฉันไม่ใช่คนชอบขาย และคิดว่าตัวเองไม่เก่งงานแบบนี้ อยากใช้สินค้า ก็ซื้อผ่านเพื่อนฝูงที่ทำนี่แหละ สะดวกดี ถ้าคุณไม่ชอบ คุณก็เลือก "ปฏิเสธ" ได้ เท่าที่อ่านๆ มาเนี่ย ปัญหาของคนไทยส่วนใหญ่คือ "เกรงใจ" แต่ว่า .... มีใครไป "บังคับ" คุณหรือ?? ถ้าตัวเองใจไม่แข็งพอ อย่า "โทษ" คนอื่นดีกว่า ใครชอบแนวทางนี้ ก็ปล่อยเขาไป คุณไม่ชอบ ก็อย่าไปสนใจ เรื่องง่ายๆ ทำให้ยากทำไม จากคุณ : =^aEaY^= - [ 10 ม.ค. 52 14:12:04 ]

ความคิดเห็นที่ 86 ปิรามิด บริษัททั่วไปก็ปิรามิดอ่ะ แซงกันไม่ได้ด้วย ในแอมเวย์มีแบบอัพไลน์เป็นเพชรรายได้แค่หลักแสน ส่วนดาวน์ไลน์เป็นcrown ambasdor (ตำแหน่งสูงสุดของแผนการตลาด) รายได้ก็เดือนละล้านขึ้นไป ไปเที่ยวกับบริษัทนั่งเฟิร์สคลาสมีลีมูซีนมารับ นอนห้องแพงสุดของโรงแรม แต่ไม่เคยเจอบริษัทที่เจ้านาย(เข้าก่อน ทำงานมานานกว่า) ได้เงินเดือน มีรายได้ ได้รับการรับรองจากบริษัทแย่กว่าลูกน้องที่เข้าทีหลังเลยนะ แบบนี้ใครเป็นปิรามิด? จากคุณ : psycho patch - [ 10 ม.ค. 52 14:31:26 ]

ความคิดเห็นที่ 87 อ่านจบละ จากคุณ : ห้ามวางไว้ไกล้เด็ก - [ 10 ม.ค. 52 14:43:04 ]

ความคิดเห็นที่ 88 จริง ๆ ไม่มีใครบอกหรอกว่าสินค้าของเขา ไม่ดี เพียงแต่รูปแบบหรือว่าวิธีการนำเสนอสินค้า มันเป็นรูปแบบ ที่ออกแนวน่าเบื่อเท่านั้นเอง เคยตอบไปแล้วเพื่อนได้ตกเป็นสาวก เรียบร้อยแล้ว เพราะเคยชวนไปเข้าสัมมนาด้วยกัน แต่ส่วนตัว เป็นคนที่ไม่ชอบเชื่อเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะ เราว่ามันไม่ต่างอะไรจากพวกขายประกันเลย เพราะเราเองเราก็ไปฟังมาหมด ทั้งของแอม..เองก็ดี บริษัทประกันก็ดี ใช่ค่ะเวลาสัมมนาเขาก็จะเอาแต่บุคคลที่ประสบความสำเร็จมาพูด มันก็เป็นเรื่องดีทำให้เกิดแรงบันดาลใจให้กับหลาย ๆ คน อย่ามองในมุมมองของ "ใคร" คนใดคนหนึ่ง ให้มอง ๆ โดยรวมว่าคนที่ไม่ชอบ ไม่ชอบเพราะอะไร แล้วคนที่ชอบ ๆ เพราะอะไร วิธีการพูดของเค้า มันก็เชิงจิตวิทยา แต่ผ่านประการณ์ด้านนี้มาเยอะ เลยตัดสินใจได้ว่า "ไม่ชอบ" ก็เท่านั้น แล้วเหมือนมีเครือข่ายบอกว่าทำแล้วได้ไป ตปท. ด้วยนะ ไม่ต้องมาชักจูงหรอกค่ะ ทำงานของเราเก็บเงินไปเองก็ไปได้เหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ด้วยซ้ำ ชอบนะผลิตภัณฑ์ แต่ไม่ชอบวิธีการขาย หรือว่าวิธีการชักจูงเข้าเป็นสมาชิกเท่านั้นเอง ปล. ที่โดนมานี่ออกแนวบังคับซะด้วย เสียความรู้สึกมาก ๆ กับแบรนด์นี้ เอาใบสมัครมายื่นกันหน้าด้าน ๆ แล้วบังคับให้เซ็นด้วย นี่แหละถึงไม่ชอบ จากคุณ : Assasin Lady - [ 10 ม.ค. 52 14:47:30 ]

ความคิดเห็นที่ 89 เพื่อนสนิทเราเคยขายค่ะ ช่วงนั้นมันเร่งทำยอดอย่างเดียวเลย ไม่มีเวลาจะไปกินข้าวพูดคุยกัน เจอกันก็มีแต่จะขายของ  ก็เลยห่าง ๆ กันไปช่วงนึง เราเป็นอีสุกอีใส  มันบอกว่าต้องกินโปรตีนกะอะไรอีกอย่างนึงจำไม่ได้ ประมาณ 1,800.- มันเอาตังค์เราไป 2,000.- ปรากฏว่าสมัครสมาชิกให้  แล้วก็ซื้อไอ้กระบอกสำหรับผสมมาด้วย สรุปว่า 2,000.- ไม่เหลือ  เรายังเคืองมาจนทุกวันนี้นะ กับเพื่อนกับฝูงก็ไม่มีเว้น  จะเอายอดเอาจำนวนลูกข่ายอย่างเดียว ตอนนี้มันไม่ได้ขายแล้ว  ค่อยรู้สึกเหมือนได้เพื่อนคนเดิมกลับมาหน่อย จากคุณ : cotton_ud - [ 10 ม.ค. 52 14:51:19 ]

ความคิดเห็นที่ 90 อยากเห็น statement ของพวกทำธุรกิจแอมเวย์ครับ จากคุณ : Knight - [ 10 ม.ค. 52 14:59:16 ]

ความคิดเห็นที่ 91 แน่จริงทำไมไม่วางขายตามชุปเปอร์มาเกต แข่งกับ แบรนด์อื่นไปเลยหละ น่ารำคาญ จากคุณ : Master Chief - [ 10 ม.ค. 52 15:02:53 ]

ความคิดเห็นที่ 92 น้องๆ Ponzi scam นั่นแหละ เพียงแต่ใช้สินค้ามาเป็นตัวเเลกเปลี่ยน อีหรอบเดียวกับ นูสกิน และอื่นๆ Amway executives make Top 5 Scam Artists list Thu 11 Sep 2008 Pyramid Schemes & MLM, Scam Busting Published by Vue Weekly, a news source in Edmonton, the Top 5 Scam Artists list included Amway (Quixtar): Dick DeVos and Steve Van Andel are the inheritors of Quixtar, the company left to them by their billionaire fathers. Call it a pyramid scheme, call it multi-level marketing, or, better yet, call it by its original brand name: Amway. Quixtar created a pseudo-religion where God is money and its prophets are the success stories recorded in expensive tapes and books. Quixtar has convinced millions around the world that they too can make six figures simply by selling “the best” soap, vitamins and other amazing products, when the actual average annual income of a recruiter is $1400. Some even lose money at the cost of the recommended seminars and audio tapes. http://www.sequence-inc.com/fraudfiles/2008/09/11/amway-executives-make-top-5-scam-artists-list/ จากคุณ : mrs.night owl - [ 10 ม.ค. 52 15:07:48 ]

ความคิดเห็นที่ 93 รู้แต่ว่าชอบใช้ยาสีฟันแอมเวย์ จากคุณ : gouppa - [ 10 ม.ค. 52 15:08:09 ]

ความคิดเห็นที่ 94 เหตผลอะไรที่ยี่ปั๊ว ซาปั๊ว ที่ทำงานอาบเหงื่อต่างน้ำไม่ควรได้ตังค์ แต่ควรเอาตังค์ไปให้อัพไลน์ ที่นั่งอยู่บนยอดเฉยๆครับ? จากคุณ : mr.social - [ 10 ม.ค. 52 15:17:23 A:124.157.152.217 X: TicketID:194874 ]

ความคิดเห็นที่ 95 ใช่ จิตวิทยาสูงมาก เคยมีวีรกรรมครั้งหนึ่ง นักขายแอมเวย์เขามั่นใจมากเลย มาเสนอขายสินค้าเรา เขาเหมือนท้าทายทุกอย่าง ให้เราลองได้ ตอบคำถามได้ มั่นใจว่าคุณภาพสินค้าดี พอดีเราเคยเรียนวิชาอาหารเพื่อสุขภาพ(Food for Health) อาจารย์ที่คณะเภสัชศาสตร์ก็สอนหลักการที่ดีว่า สารอาหารปกติถ้าเรารับประทานให้หลากหลายครบทุกหมู่ เราก็ไม่จำเป็นต้องทานอาหารเสริม เขายกอะไรมาให้ตาย วิตามินซีแบบนั้น สังเคราะห์แบบนี้ อัดเม็ดอย่างนั้น อย่างนี้ ผมก็หักล้างได้หมดเลยด้วยหลักการนี้ เขานี้ลงทุนค่าโทรศัพท์ดีเนอะ เขาบอกว่าไว้เขาจะโทรมาใหม่ แล้วก็หายไป ทำไงได้ เราเรียนด้านธุรกิจและการตลาดมาโดยตรง เราเข้าใจเทคนิคการขายและพฤติกรรมผู้บริโภคเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว อิอิ จากคุณ : Sand and Sea (เม็ดทราย กะ ชายหาด) - [ 10 ม.ค. 52 15:22:01 ]

ความคิดเห็นที่ 96 เรื่องนี้จริงๆผมก็อยากรู้ครับ ว่างจะไปให้ อ.โต ทีคณะบัญชีฟันธงให้หน่อยว่า  เเอม์เวย์ น่าทำหรือไม่อย่างไร ??? เถียงกันไม่จบไม่สิ้นครับว่าดีหรือไม่ดีกัน เเน่อย่างไร จากคุณ : Egist - [ 10 ม.ค. 52 15:25:18 ]

ความคิดเห็นที่ 97 ของผมถ้าเจอจะตอบไปว่า ตอนนี้ยังไม่สนใจ รอให้สนใจก่อนเดี๋ยวจะติดต่อไปเอง ตอนนี้ยังขี้เกียจอยู่ แล้วจะโดนถามกลับว่า ตอนนี้ยังใช้เงินพ่อแม่อยู่ไม่ใช่หรือ มาทำแอมเวย์สิ ช่วยแบ่งเบาภาระพ่อแม่ ผมก็ตอบกลับไปว่า ไม่เป็นไร ตอนนี้พ่อแม่ยังมีให้เกาะอีกเยอะ รอให้หมดก่อน เดี๋ยวจะไปหาที่เกาะใหม่(เมีย ถ้ามี) โดยส่วนตัวไม่ชอบเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับการขายอยู่แล้วถ้าไม่บอกข้อจำกัด หรือข้อเสียมาก่อน จากคุณ : ^^ (ผู้ไม่รู้เลย) - [ 10 ม.ค. 52 15:28:27 ]

ความคิดเห็นที่ 98 วิเคราะห์ แล้ว เลือกเอาว่าอะไรคุ้มค่าไหม จำเป็นไหม ที่จะต้องซื้อ เห็นสินค้าพวกขายตรงก็ ก๊อบๆกันมาทั้งนั้นแหละ เมกา ญี่ปุ่น เกาหลี จีน ไทย ยั้วเยี๊ย กันไปหมด ศึกษาในเน็ต หรือถามคนใน หว้ากอ ดูครับ ส่วนเรื่องทำขายตรงแล้ว รวย ผมขอทำงานแบบอื่นแล้วรวยดีกว่าครับ เป็นแผนการตลาดแบบ คนกลัวเจ๊ง จากคุณ : eping - [ 10 ม.ค. 52 15:37:35 ]

ความคิดเห็นที่ 99 ทำไมคนจำนวนมากถึงมีอคติกับแบรนด์นี้ รวมถึงผมคนหนึ่งก็ด้วย ก็เป็นอย่างที่หลายๆ คนได้บอกจากด้านบนแล้วนะแหละครับ เพื่อนสนิทคนหนึ่งก็เคยชวนให้ไปหาแม่เป็นเพื่อนกัน พวกเราก็ไม่ได้คิดอะไร ไปกัน 3 - 4 คน สรุปโดนหลอกให้ไปฟัง + สมัคร ผมว่าที่หลายคนมีอคติ ก็เพราะว่า 1. เวลาชวนคนอื่นไปสมัครสมาชิก ไม่ยอมบอกตรงๆ เหมือนจะพาเราไปล้างสมองเลย รู้ว่าถ้าบอกตรงๆ คงไม่มีใครไป บอกว่าจะไปเที่ยวบ้าง พาไปเลี้ยงข้าว ไปเปนเพื่อนทำธุระบ้าง 2. ชอบกดดันเราด้วยความเป็นเพื่อน ความเป็นญาติ และที่บอกว่า ถ้าไม่ชอบทำไมไม่ปฏิเสธไป พูดง่ายแต่ทำยากนะครับ สังคมไทยเป็นสังคมที่เกื้อกูลกัน เป็นสังคมที่มีน้ำใจ อย่างน้อยคนคนนั้นก็เป็นญาติ ก็เป็นเพื่อนเรา สุดท้ายก็ต้องซื้อด้วยการตัดรำคาญ 3. ธุรกิจแบบนี้อบรมให้คนแห็นแก่กำไร เห็นแก่ยอดขาย จนทำให้คนทำกดดันตัวเอง แล้วก็ไปกดดันคนอื่นต่อ เพราะต้องทำยอดให้ได้ในแต่ละเดือน คนเรามีความสามารถในแบ่งสรรค์ปันส่วนการดำเนินชีวิตต่างกัน ทำให้คนทำธุรกิจนี้หลายๆ คนหายใจเข้าก็จะขายของ หายใจออกก็จะขายของ เพื่อนผมตอนเรียนวันๆ ก็ได้แต่เดินไปตามโต๊ะ ชวนคนอื่นไปฟังสัมมนาท่าเดียว เพื่อนคนไหนอ่อนๆ ก็เสร็จ จนเพื่อนเกือบจะเลิกคบกันไปหมด สิ่งที่เหล่านี้ล่ะครับทำให้เกิดความอคติ อย่าโทษคนอื่นเลยครับว่าทำไมเขาถึงอคติ เพราะมันเป็นวิธีการจากธุรกิจของพวกคุณเอง ผมเคยโดนหลอกไปฟัง 2 - 3 ครั้งจากคนใกล้ตัวอย่างเพื่อนสนิท อย่างญาติ คนที่ผมไว้ใจนี่แหละครับ ถ้าเหล่านี้คือความแตกต่างที่ทำให้ธุรกิจเจริญก็เชิญเถอะครับ แต่ถ้ามีเครือข่ายที่ไหนมาหลอกให้ผมไปฟังอีกล่ะก็ ผมด่าจริงๆ ด้วย จากคุณ : เฮโลสาระพา - [ 10 ม.ค. 52 15:39:38 ]

ความคิดเห็นที่ 100 เคยเจอ เวลามันจะปิดยอดเหมือนกัน มันบอก ช่วยซื้อเครื่องกรองน้ำ หน่อย เดือนนี้เหลือตัวเดียวจะปิดยอด โหย ราคาเกือบได้ มอเตอร์ไซค์ เครื่องนึง จะบร้า รึ จากคุณ : พนมพร - [ 10 ม.ค. 52 15:39:53 ]

ความคิดเห็นที่ 101 ตอบ จขกท. เพราะคนส่วนใหญ่เจอนักธุรกิจแอมเวย์ (ก็คนขายนั่นแหละ) มาขายอย่าง hard sell มากๆ   ไม่พูดเรื่องอื่นเลย นอกจากสินค้าของเค้า จะเป็นเพื่อน ญาติ พี่น้อง ยังไงก็ไม่สนใจ จะขายอย่างเดียว เจอมาแต่ละคน แทบจะไม่คุยเรื่องอื่นเลย เราอุตส่าห์เปลี่ยนเรื่อง เค้ายังหาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับเรื่องนั้นๆ ได้ด้วย เลยยอมแพ้ค่ะ  นั่งฟังต่อไป แต่หลังจากนั้นพอเห็นคนนี้มาที่บ้าน ต้องแกล้งทำเป็นไม่อยู่บ้านเอง อยากทราบว่าตอนอบรมนี่มีสอนวิธีการขายที่มันไม่ hard sell ขนาดนี้บ้างมั้ย แล้วคุยกันบ้างมั้ยว่าญาติๆ เพื่อนๆ เค้าเบื่อวิธีการขายแบบนี้น่ะค่ะ จากคุณ : หมึกปิ้งสีชัง - [ 10 ม.ค. 52 15:42:20 ]

ความคิดเห็นที่ 102 ขายความหวัง หวังว่าจะรวย จากคุณ : Natthanuch1 - [ 10 ม.ค. 52 15:50:30 ]

ความคิดเห็นที่ 103 ความคิดเห็นที่ 90 อยากเห็น statement ของพวกทำธุรกิจแอมเวย์ครับ จากคุณ : Knight ถ้าเจอก็ลองขอดูได้อ่ะ จากคุณ : psycho patch - [ 10 ม.ค. 52 15:57:09 ]

ความคิดเห็นที่ 104 คิดว่า แอมเวย์คือระบบสหกรณ์ที่เอามาฟิวชั่นกับระบบเซลบริษัท คือแทนที่จะให้คนมาซื้อหุ้นเอาปันผลจากรายได้ ก็กลายเป็นซื้อสินค้าเอาปันผลจากตัวสินค้า ซึ่งเป็นการตลาดที่แยบยลทีเดียว   เพราะการเอาปันผลจากตัวสินค้า  เป็นการปันผลที่เห็นชัดเจนกว่า หมายความว่า  ยิ่งคุณขายได้เยอะ  คุณจะได้ส่วนแบ่งเยอะขึ้น แต่มันต่างกับเซลบริษัท  ตรงที่เซลมีรายได้ประจำ   ส่วนระบบนี้ไม่มี ฉะนั้น  ผมจึงไม่คิดว่า  แอมเวย์ล้างสมองอะไรหรอก ส่วนกิฟฟารีนน่ะ เอ่อ...เวลาซื้อของจากผู้ค้านี่  โคตรต่อเลย... ต่อจนผู้ค้าแทบไม่มีกำไร....แบบว่าจะเอาถูกอย่างเดียว.. จากคุณ : ชาวบางนา - [ 10 ม.ค. 52 15:59:59 ]

ความคิดเห็นที่ 105 555 กระแสตอบรับดีจริงๆ Brand นี้ จากคุณ : vichu (Vichu_Vichu) - [ 10 ม.ค. 52 16:01:47 ]

ความคิดเห็นที่ 106 ผมเคยไปอบรมแอมเวย์อยู่บ้างครับ แต่ไม่ได้ทำแล้ว ข้อดีก็มีนะครับ ที่บางคนบอกว่าเอาแต่คนที่ประสบความสำเร็จมาพูด มันก็ต้องเอาคนที่ได้แล้วมาพูดซิครับ เอาคนล้มเหลวมาพูด จะได้อะไรละครับ 55 ก็เหมือนกับเราไปฟังบรรยาย ไปอบรมวิชาความรู้ เราก็ต้องฟังคนเก่ง คนประสบความสำเร็จทั้งนั้นเเหละครับ ส่วนเรื่องที่ว่าเป็นปิรามิด บ.ทั่วๆก็ปิรามิดหมดครับ มีคนบนยอดๆไม่กี่คนครับ เรื่องสินค้าบางอย่างผมชอบครับ แต่ว่าไม่ได้ใช้แล้ว สู้ราคาไม่ไหว ส่วนเรื่องที่ชวนแบบปิดๆ เพราะถ้าบอกว่ามาชวนทำแอมเวย์เลย คนที่ถูกชวนจะปฎิเสธทันทีครับ เขาเลยต้องมีวิธีชวนครับ 55 เรื่องล้างสมอง ผมว่าไม่หรอกครับ แนวทางดีๆที่เขาสอนก็มีครับ เรื่องการบริหารเวลา การสอนทีมงาน หลายๆอย่าง การตั้งเป้าหมาย จากคุณ : bigwores - [ 10 ม.ค. 52 16:03:12 ]

ความคิดเห็นที่ 107 amway herbal life เพื่อนอีฉันตกหลุมให้กับMLM2เจ้านี้เรียบร้อยแล้ว ที่ไม่ชอบขายตรง เพราะไม่เข้าใจว่าทำไมต้องหลอกล่อให้ไปสมัครเป็นสมาชิก ด้วยคำพูดโง่ๆว่า "เราจะมาแนะนำสิ่งดีๆในชีวิตให้กับคุณ" แล้วยังซุงแหลบอกยังไงๆก็ไม่ใช่การขายตรง แต่เป็นการสร้างธุรกิจให้ตนเอง -*- พอไม่สนใจ ก็จิกกัดว่า โง่ ดักดาน เป็นกบในกะลาต่อไป เคยไปห้องเพื่อน (เก้งสาวหัวเกรียน) ทุกสิ่งในชีวิตที่มันใช้เป็นของแอมเวย์เกือบทุกอย่าง เสื้อผ้ารองเท้าก็ซื้อจากชอปแอมเวย์   มันยังมีหน้ามาบอกอีฉันอีกว่ากินโปรตีนแอมเวย์คู่กับยาคุมแล้วนมมันตู้มขึ้น เอาเงินซื้อโปรตีนนรกนั้นไปเสริมนมไม่ง่ายกว่าหรอ -*- ปล. ใช้แต่สเปรย์ฉีดเต่าของแอมเวย์อยู่อย่างเดียว ซื้อปีละกระป๋อง (กระป๋องนึงใช้ได้ตั้ง13เดือนอะ อุอุ) จากคุณ : *+*ข น ม ผิ ง ข้ า ง เ ต า*+* - [ 10 ม.ค. 52 16:09:54 ]

ความคิดเห็นที่ 108 อีกอย่าง แอมเวย์นี่ ทำบัตรผ่อนสินเชื่อต่าง ๆ ได้ง่ายนะครับ ทำได้แล้วเอาไปไหนล่ะครับ ถ้าไม่ใช่สต๊อกสินค้าเอายอดขาย แล้วจวนตัวก็แข่งกันปล่อยของ หมดความเป็นพี่น้องกัน ไม่เหมือนตอนที่เป็นสมาชิกใหม่ ๆ มีแต่คนอุ้ม มีแต่คนโอ๋ จากคุณ : AW Milan - [ 10 ม.ค. 52 16:10:08 ]

ความคิดเห็นที่ 109 อาการอย่างนี้ทางการแพทย์เรียก แอมเวย์ซินโดรม ยังมีอีกกลุ่มอาการที่น่าเป็นห่วงพอๆกัน คือ กิฟฟารีนซินโดรม ม้านนน พูดเหมือนกันทุกคน เอากะมันสิ....???  555+ จากคุณ : ฝนฟ้ากะพายุ - [ 10 ม.ค. 52 16:26:07 ]

ความคิดเห็นที่ 110 ความคิดเห็นที่ 108 อีกอย่าง แอมเวย์นี่ ทำบัตรผ่อนสินเชื่อต่าง ๆ ได้ง่ายนะครับ ทำได้แล้วเอาไปไหนล่ะครับ ถ้าไม่ใช่สต๊อกสินค้าเอายอดขาย แล้วจวนตัวก็แข่งกันปล่อยของ หมดความเป็นพี่น้องกัน ไม่เหมือนตอนที่เป็นสมาชิกใหม่ ๆ มีแต่คนอุ้ม มีแต่คนโอ๋ จากคุณ : AW Milan เงื่อนไขมันก็เหมือนทำบัตรข้างนอกนี่คะ? คนที่เคยเห็นที่ทำเรื่องผ่อนนี่(บอกเท่าที่เห็นนะ) คือตอนนั้นไม่มีเงินก้อนซื้อสินค้าตัวใหญ่ หรืออยากผ่อนเอาดีกว่าซื้อเงินสด(เพราะผ่อนมันก็มีของแถมจากพวกเฟิร์สชอยส์) เรื่องสต๊อกของ อันนี้ไม่รู้นะว่าที่กลุ่มอื่นเป็นไง แต่กลุ่มเรา "ห้าม" สต๊อกของเด็ดขาดอ่ะ แต่ลองคิดก็ตลกดีนะ อย่างถ้าจะใช้วิธีสต๊อกของ ถ้าจะเป็นแพลตตินั่ม ต้องสต๊อกของเดือนละสามแสนกว่าๆ หกเดือนต่อกัน เค้าจะทำกันไปทำไม? ยิ่งคนเป็นแพลตตินั่ม q12 นี่ต้องสต๊อกกันสิบสองเดือนติดเลยหรอ คุณรู้ป่ะในไทย เอาแค่แพลตตินั่มมีกี่คน คุณว่าถ้าใช้วิธีสต๊อก จะมีทุนมากพอที่จะเอาไว้ใช้ขนาดนี้มั้ยอ่ะ? จากคุณ : psycho patch - [ 10 ม.ค. 52 16:26:45 ]

ความคิดเห็นที่ 111 มีวิธีปฏิเสทการซื้อสินค้าหรือสมัครเป็นสมาชิกแบบไม่เสียน้ำใจทั้งสองฝ่ายมั้ยครับ เอาแบบฮาๆก็ได้ ขายกันแบบนี้มันกดดันซื้อจริงๆ เคยดูหนังสือพวกระดับบิ๊กๆของแอมเวย์ มีกันอยู่ไม่กี่คน จากสมาชิกทั้งประเทศ สำเร็จกันนับคนได้ (แล้วใครจะเสี่ยงละจ๊ะ) จากคุณ : KnOtZilLa - [ 10 ม.ค. 52 16:30:39 ]

ความคิดเห็นที่ 112 คุณ psycho patchกำลังฝึกตอบข้อโต้แย้งหรอครับ   เหมือนในตำราเดี๊ยะเลยนะครับ ฮ่าๆ สำหรับผม ถ้าเป็นแพตตินัีม เป็นเพชร แล้วต้องมีวัฏจักรชีวิตที่น่าสมเพชในแต่ละวัน โดนเพื่อนเลิกคบ รอยอดขายจากคนอื่น  และตื้อให้อื่นใช้สินค้าที่ราคาไม่สมเหตุสมผล ผมยอมรับเงินเดือน หมื่นเศษๆ แล้วมีชีวิตที่เรียบง่าย แต่มีเกียรติดีกว่าครับ อ้อ ลืมบอกไป  ผมก็เคยทำ เห็นชีวิตแพตตินั่ม ชีวิตเพชร ข้างนอกสวยหรู แต่คุณลองได้รู้ไส้รู้พุงพวกนี้สิ น่าทุเรศยิ่งนัก  แต่อย่างว่าแหละ กว่าคุณจะรู้คุณก็คือพวกเดียวกับมันแล้วล่ะ ฮ่าๆ แก้ไขเมื่อ 10 ม.ค. 52 16:39:25 จากคุณ : EvaNe - [ 10 ม.ค. 52 16:37:44 ]

ความคิดเห็นที่ 113 เข้ามาอ่านแล้วมันส์ดี ไม่เคยเจอกับตัวเลยไม่ขอออกความเห็น รู้แต่ว่าแพงจริงๆ จากคุณ : Neo_geol - [ 10 ม.ค. 52 16:42:33 ]

ความคิดเห็นที่ 114 โชคดีที่เคยเจอแต่คนขายแอมเวย์ที่ดี  (หา อะไรนะ  ต้องเรียกนักธุรกิจแอมเวย์เหรอ  โทษที) ที่รู้จักเป็นคนดีมากทั้งสองคน  ไม่เคยเซ้าซี้  เจอหน้าก็มีถามสารทุกข์สุขดิบ  คุยกันเรื่องโน้นเรื่องนี้ มีแต่เรารู้ใจ  ว่าถ้าไม่ได้พูดเรื่องแอมเวย์ก่อนกลับบ้าน  พี่เขาอาจนอนไม่หลับ  ก็ถามซะหน่อยว่าวันนี้มีอะไรมาแนะนำบ้าง แกก็ดีใจมาก  หน้าระรื่นและมีความสุขกว่าเมื่อกี๊  (ผมก็ดีใจที่ทำให้คนมีความสุข) ถ้าเห็นว่าเป็นของที่ใช้อยู่  น่าสนใจ  ก็ซื้อมาใช้  เพราะเขาก็จะแนะนำสินค้าที่ดี  แม้ราคาจะแพงกว่าก็รับได้ เพราะบางอย่างก็คุณภาพก็ดีกว่าจริง  บางอย่างหารปริมาณและเวลาใช้แล้วก็ราคาพอ ๆ กัน แต่พอจะเข้าใจที่คนอื่น ๆ พูดถึงนักธุรกิจแอมเวย์ที่น่ารำคาญมาก  ถึงมากที่สุด โทรมาเซ้าซี้จะให้ไปอบรมอยู่นั่นแหละ  เอาเรื่องเงินมาหลอกล่อสุดชีวิต   จะขายของก็มาขายสิ  จะช่วยซื้อ  ทำไมจะต้องให้ไปเป็นสมาชิก หลายครั้งเข้า  แกล้งทำสายหลุดบ่อย ๆ เลยเลิกโทรมากวน จากคุณ : jedi-jaidee - [ 10 ม.ค. 52 17:01:08 ]

ความคิดเห็นที่ 115 ของแพงจริง แต่คุณภาพก็โอเคนะครับ แม่ผมทำธุรกิจนี้มา 7 ปี เต็มๆ ซึ่งตอนนี้เลิกทำไปแล้วครับ แต่ขนาดเลิกทำยังได้เงินปันผลเดือนละเกือบๆ 3 หมื่นโดยไม่ต้องทำอะไร แต่ก่อนที่ท่านจะทำได้ระดับนี้ ก็เหนื่อยเหมือนกันครับ จำได้ว่าช่วงผมอยู่ ม.ปลาย ต้องอยู่บ้านคนเดียวตลอดเลย คือผมคิดว่าไม่ว่างานอะไร ไม่มีงานที่สกปรก งานที่ไม่ดีหรอกครับ ถ้าคนๆนั้น ทำงานนั้นๆด้วยใจ แม้แต่นักการเมืองก็เถอะ ครับ ^^~ จากคุณ : แพ้รอยยิ้ม - [ 10 ม.ค. 52 17:30:19 ]

ความคิดเห็นที่ 116 ผมคิดว่าที่คนส่วนใหญ่อคติกับ Amway น่าจะเป็นประเด็นการเข้าหาลูกค้า มันไม่เกี่ยวกับว่าสินค้าดี/ไม่ดี แพง/ไม่แพง สินค้าตามห้างหรูๆราคาไม่สมเหตุสมผลกับคุณภาพยิ่งกว่า Amway มีมากมายนับคณนา ที่คนส่วนใหญ่รับไม่ได้คือเทคนิคการขาย ที่ใช้ความเกรงใจของเราเป็นเครื่องมือ การใช้ความสนิทสนม ความเป็นคนเคยรู้จัก ถ้าอ่านดูหลายๆคห.จะพบว่าหลายคนเสียเพื่อนไปกับเรื่องแบบนี้ อย่างนี้ไงมันถึงไม่น่าประทับใจ แน่นอนว่าเรื่องนี้ขึ้นกับบุคคลที่เป็นสมาชิกว่าจะมีวิธีการใดในการขายสินค้าของบริษัท ซึ่งประสบการณ์ส่วนใหญ่ที่พวกเราประสบพบเจอคือไม่เวิร์ก... bad impression เริ่มต้นเกิดขึ้นจากตรงนี้ ขยายความไปเรื่องอื่นๆ ตำหนิสินค้าบ้าง ตำหนิราคาบ้าง เรื่องเกิดจากตัวบุคคล แต่ทางบริษัทที่เป็นผู้เทรนก็ต้องรับผิดชอบด้วย ดังนั้นอาจกล่าวได้ว่าระบบการขายตรงของ Amway ไม่น่าประทับใจ ส่วนเรื่องล้างสมอง อุปทานหมู่ ยอดปิรามิด ผมไม่ขอวิจารณ์ *edit ไวยากรณ์ผิด เดี๋ยวโดนครูภาษาไทยตี แก้ไขเมื่อ 10 ม.ค. 52 17:51:25 จากคุณ : Cryptomnesia - [ 10 ม.ค. 52 17:32:39 ]

ความคิดเห็นที่ 117 ผมประทับใจสินค้าตัวหนึ่งคือ โรลออน กลิ่นหอมพอดี ไม่เลอะ แห้งเร็วและหอมทั้งวันแม้เหงื่อจะออก ใช้ได้เป็นปีจริงๆ ให้ตายเถอะ..ไม่เคยเจอที่ไหน สรุป สินค้าเค้าดีจริงๆครับ เรื่องแพงน่ะ ไม่แพงหรอกครับ คิดแบบไม่มีอคติสิ ในชีวิตจริงๆ มีสินค้าที่แพงโคตรๆมากมาย  แต่เราก็หน้ามืดซื้อมาใช้ มือถือสมาร์ทโฟนเจ๋งๆ ราคาขาย2หมื่นน่ะ สั่งจีนผลิต10,000ชิ้น ราคาชิ้นละ 2,000ครับ.. ปลาหมึกซอง 10กรัม ราคาซองละ10บาท  ถูกไหมครับ  แต่เราก็ซื้อ และถ้าเป็น1000กรัมล่ะ  (1กิโล)  ก็โลละ1000บาทใช่ป่าวว แพงไหม..ปลาหมึกจริงๆโลละเท่าไหร่  ??? เรื่องแผนธุรกิจ ยอมรับว่า แอมเวย์ล้างสมองจริงๆ เหมือนให้คิดว่า ไม่มีงานไหนดี รายได้มั่นคง เท่าแอมเวย์ ทั้งที่จริงๆมันไม่ใช่ ถ้ามันดีขนาดนั้น คุณเจริญ เจ้าของเบียร์ช้าง คุณธนินท์ เจ้าของซีพี เอาเงินมาลงทุนเป็นหมื่นล้านไปละ.... ถ้าออกมาจากลัทธิจะรู้ว่า  ในโลกนี้มีธุรกิจมากมาย ที่คุณสามารถทำได้ และมีรายได้มากกว่าเพชร มงกุฏ 18 มงกฎฑูตอะไรนั่นตั้งเยอะแยะครับ แก้ไขเมื่อ 10 ม.ค. 52 17:35:11 จากคุณ : O-DED - [ 10 ม.ค. 52 17:33:26 ]

ความคิดเห็นที่ 118 คห. 112 เปล่าค่ะ ไม่ได้ฝึกตอบข้อโต้แย้ง แค่ตอบคำถาม สรุปตอบก็ไม่ได้จริงๆ สิเนี่ย จากคุณ : psycho patch - [ 10 ม.ค. 52 17:42:35 ]

ความคิดเห็นที่ 119 แอมเวรนี่ผมเกลียดเข้าใส้่เลย.......หากินได้แม้กระทั่งแม่ผมที่ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ แม่ผมเป็นครูมัธยม ป่วยก็เลยออกจาก ขรก. ได้เิงิน กบข.หลายแสนอยู่...... มีอาจารย์เพื่อนแม่ในโรงเรียนเดียวกัน ขายไอ้ แอมเวรนี่แหละ มาบอกกินนู่นนี่แล้วจะหาย โปรตีนนั่น วิตามินนี่..... พาไปสัมมนา.....ไปคลังสินค้า ไปต่างจังหวัด แล้วก็ขายวิตามิน อะไรของมันนี่แหละ..... แทนที่จะเก็บเงินไว้ใช้ตอนป่วย ก็เกลี้ยงซะ ในเวลาแค่หนึ่งปี หมดไปเป็นแสน..... สุดท้ายแม่ผมก็เสีย......(ก็เล่นไซโคแม่ผมว่ากินแล้วหาย ทั้งๆที่โรคแบบนี้มีแต่ทรงตัวทั้งนั้น)...... ปัจจุบัน....อิอาจารย์นั่น ผมก็ยังจำหน้าได้เป็นอย่างดี ชื่อก็ยังจำได้...... ตอนงานศพแม่ผมก็ยังมางานซะอีกแน่ะ...... แต่ก็นะ อิ อาจารย์นั่นก็ตกเป็นขี้ปากทั้งโรงเรียนว่าหากินกับคนป่วย ก็สมน้ำหน้าอยู่หรอก (ปล.ถ้าแม่ผมเก็บตังค์นั่นไว้ให้ผมกับพี่ๆน้องๆเรียนหนังสือ ป่านนี้ผมจบไปนานแล้ว) จากคุณ : Sakurachan (Tomoeda) - [ 10 ม.ค. 52 17:48:53 ]

ความคิดเห็นที่ 120 ตอบเจ้าของกระทู้นะครับ เพราะสิ่งที่แอมเวย์ทำ ไม่เหมือนกับคนอื่น เป็นความรู้ที่แตกต่างจากระบบการขายที่เราคุ้นชิน ดังนั้น เมื่อได้รับความรู้ใหม่ แล้วเริ่มมีบางคน เปลี่ยนความคิดไป มันจึงเป็นการล้างสมองครับ แต่ทว่า หลังจากโดนล้างสมองแล้ว การตอบสนองของผู้คนไม่เหมือนกัน มีทั้งขาดสติ บังเกิดความโลภ ออกไปขายของกระจาย หาคนมาต่อข้างล่าง จะได้รีบหยุด มีทั้งมีสติเห็นโอกาสทำธุรกิจ แต่ยังขาดความรู้ไปบ้าง ก็ออกไปทำผิดบ้างถูกบ้าง มีทั้งมีสติเห็นโอกาสทำธุรกิจ เรียนรู้จนมีความรู้ในผลิตภัณฑ์ ก็ออกไปแนะนำสินค้าได้ถูกต้อง มีทั้งมีสติเห็นโอกาสทำธุรกิจ เรียนรู้จนมีความรู้ในผลิตภัณฑ์ ก็ออกไปแนะนำสินค้าได้ถูกต้อง และให้โอกาสผู้คนทำธุรกิจต่อไป ปรัชญาของแอมเวย์ คือ เมตตาทุนนิยมครับ ทำธุรกิจอย่างมีเมตตา ต่อบุคคล ต่อองค์กร ต่อสิ่งแวดล้อม ถ้าทำธุรกิจด้วยการเมตตา คุณจะค่อย ๆ สำเร็จ ด้วยการแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เรารู้สึกว่ามันดี ช่วยแก้ปัญหาให้กับลูกค้า ไม่ได้ไปยัดเยียดบังคับซื้อ จะมีใครรังเกียจ？ ด้วยการไปแนะนำโอกาสทำธุรกิจร่วมกัน โดยมีเป้าช่วยให้เค้าทำธุรกิจเป็นอย่างถูกวิธี มีวิถีชีวิตดีขึ้น จะมีใครรังเกียจ？ ปัญหาคือคนส่วนใหญ่ ใช้ความโลภมาทำธุรกิจแอมเวย์ครับ ผลก็ออกมาอย่างที่เห็นเป็นส่วนใหญ่ กรรมเลยมาตกกับนักธุรกิจเพิ่ม นอกจากเมตตาแล้ว จะต้องมีวิริยะ อุตสาหะ เพิ่มเข้ามาอีก เพราะต้องพยายามอธิบายให้คนที่เข้าใจผิด ให้กลับมาเข้าใจให้ถูกต้อง งั้นทำไมไม่กำจัดไอ้พวกทำธุรกิจน่าเกลียดเนี่ยทิ้งให้หมดล่ะ รับแต่คนดีมีเมตตาสิ？ บริษัทมีกฏจรรยาบรรณ ซึ่งใช้ทำให้คนทำธุรกิจที่ฐานะต่างกัน ทำธุรกิจได้เสมอภาคกัน ซึ่งถ้าละเมิดจะถูกไล่ออก แต่สำหรับเรื่องวิธีทำธุรกิจนั้น แอมเวย์เปิดโอกาสให้แต่ละคนสร้างสรรค์วิธีการแนะนำสินค้า และชวนคนทำธุรกิจเอง จะมีเพียงแนวทางให้ใช้ความเมตตาในการทำงานเท่านั้นครับ ที่ทางแอมเวย์แนะนำอยู่เสมอ ทั้งในคู่มือ และนิตยสารรายเดือน และด้วยความเท่าเทียมในโอกาส คนที่มีความโลภ ก็มีโอกาสสำเร็จได้ครับ ด้วยการเปลี่ยนแปลงตัวเองเข้าหาความสำเร็จ เปลี่ยนเป็นคนที่มีเมตตาต่อผู้อื่นเป็น ทำเพื่อผู้อื่นได้ เปลี่่ยนเป็นคนที่ขยันขึ้น เปลี่ยนเป็นคนที่อดทนขึ้น ก็สำเร็จได้เช่นกัน ตรงนี้เป็นการล้างสมองที่แท้จริงของแอมเวย์ครับ ล้างแล้วสมองสะอาด ก็เจริญขึ้น สำเร็จได้ ปล. ถ้าคุณเจอนักธุรกิจแอมเวย์ทำธุรกิจด้วยความโลภ ลองแนะนำสิ่งที่ผมพิมพ์ลงไปให้เค้าลองนำไปพิจารณาดูครับ อาจจะได้ผลดีกว่าเลิกคบครับ เพราะคุณอาจจะได้เพื่อนที่ดีขึ้นเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคนแทน จากคุณ : Pegasus7th - [ 10 ม.ค. 52 18:11:23 ]

ความคิดเห็นที่ 121 เอา Amway คืนไป......... เอาเพื่อนผมคืนมา.......... จากคุณ : barking at the moon (Pier Gerlofs Donia) - [ 10 ม.ค. 52 18:23:49 ]

ความคิดเห็นที่ 122 นั่งอ่าน ยาวมากๆ กว่าจะจบ -_-" เท่าที่อ่านมา สรุปได้ว่า คนส่วนใหญ่ที่มีทัศนคติไม่ดีต่อแบรนด์ Amway เกิดจากประสบการณ์ไม่ดี ที่ได้รับมาจากเหล่าคนขายแอมเวย์...เอ่อ....หมายถึง นักธุรกิจแอมเวย์ ทั้งหลายนั่นหละครับ ตัวสินค้าดีจริงมั้ย....ผมไม่ทราบ เพราะตัวผมเองและคนรอบตัวไม่มีใครใช้ซักคน เรื่อง MLM เคยถูกหลอกไปฟังอยู่เหมือนกัน....ฟังแล้วก็ผ่าน เพราะคิดว่าไม่น่าสนใจ.....ไม่ใช่สิ่งที่ตัวเองทำได้แน่ๆ จากคุณ : CLK BRABUS - [ 10 ม.ค. 52 18:39:37 ]

ความคิดเห็นที่ 124 แอมเวย์ไม่ได้ล้างสมองครับ แต่มันเป็นแหล่งรวมตัวของคนที่เห็นเงินเป็นเรื่องใหญ่กว่ามิตรภาพก็เท่านั้นเอง จากคุณ : คิ้วโก้-หน้ากลม - [ 10 ม.ค. 52 18:49:31 ]

ความคิดเห็นที่ 125 ของดีไม่จำเป็นต้องแพง ของแพงไม่จำเป็นต้องดี ถ้าคิดว่าไม่คุ้มก็ไม่ต้องซื้อ มันเหมือนผลักภาระของบริษัทไปให้คนขายมากกว่า แล้วใช้ความโลภ มีใครบ้างที่ไม่อยากรวย ไม่มีอยากมีเงิน ถ้ามีอาชีพที่ ได้เงิน โดยไม่ต้องทำอะไร  ทำไมคนไม่ไปแห่กันทำให้หมดหละ การที่ บริษัทให้ พนักงานขาย ที่ทำยอดได้ถึงเป้า ไปเที่ยว มันก็แค่เป็นแรงจูงใจให้ตั้งหน้าตั้งตาทำเป้า ต่อไป แต่อย่ามาอ้างว่าไปเที่ยวต่างประเทศ จริงอยู่มันดูหรู แต่คุณนั้นแหละกำลังโดนหลอก แสดงว่าไอ้สิ่งที่คุณทำ มันทำให้บริษัทได้กำไร มากกว่า ในสิ่งที่บริษัทให้คุณ ไม่อย่างนั้น บริษัทคงเจ๊งไปนานแล้ว เงินไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต อะไรที่ทำแล้วมีความสุขแล้วคนอื่นไม่เดือดร้อน ก็ทำต่อไป จากคุณ : locomotion - [ 10 ม.ค. 52 19:10:35 ]

ความคิดเห็นที่ 126 กระทู้แอมเวย์ ร้อนแรงเสมอ จากคุณ : นั่งสิจะเล่าให้ฟัง - [ 10 ม.ค. 52 19:19:27 ]

ความคิดเห็นที่ 127 ^ | | | | | งั้นเอา H e r b a l i f e มาสู้ดีมั้ยครับ จากคุณ : ทิงกะมะบ๊อบ (thingamabob) - [ 10 ม.ค. 52 19:30:29 ]

ความคิดเห็นที่ 128 ผมเคยกินโปรตีนผงอ่ะ ของเพื่อนกินแล้วปวดคอเลย กลืนน้ำลายไม่ลง ต้องไปหาหมออีก มันเหมือนเป็นผงในน้ำอ่ะ แล้วกลิ่นเหมือนนมผงเด็ก แต่มีผงระคายคอมากเลย  แต่เพื่อนผมปกติดีนะ เพื่อนผมขายแอมเวย์ ผมก็สนับสนุนมากๆ แล้วเขาก็บอกว่า แอมเวย์นั้นไซร์ดีจังเรย เจอหน้าก็พูดแต่แอมเวย์ คราวนี้ผมก็ไปที่มิตซูบิชิ บอกว่า เอาแอมเวย์โปรตีนกระป๋องนึง พนักงานงงกันใหญ่ แต่สุดท้ายมีคนเอามาให้จริงๆ งงเลยคราวนี้ ดันมีพนักงานขายแอมเวย์ในนั้น ตอนแรกผมจะซื้อเครื่องกรองน้ำนะ กะว่าเอาไว้กรองก่อนต้ม ที่ไหนได้ ถามราคา สามหมื่นกว่า (มั้ง) ! แม่เจ้าอะไรจะถูกปานนั้น ่ช็อคซีนีม่าเลยครับท่าน ก็เลยบอกว่า ขอยกเลิกก่อนนะ คือว่ามันรุนแรงจริงๆ เลยราคาเนี่ย จากคุณ : AVSystem - [ 10 ม.ค. 52 19:31:02 ]

ความคิดเห็นที่ 129 แอมเวย์จะจ้างหน้าม้าไว้กลุ่มนึงครับ เค้าเรียกว่า "ตัวโชว์" ไอ้ตัวโชว์เนี่ย มันไม่ได้รวยจริงหรอกครับ มันไม่ได้ขายได้จริงหรอกครับ แต่ตัวโชว์พวกนี้ได้เงินเดือน ได้ไปเที่ยวเมืองนอก นะครับ -สงสารพวกที่จงรักพักดี แต่ไม่รู้เบื้องหลัง - ปล. อยากเป็นตัวโชว์ บ้างจังเลย จากคุณ : อาจารย์แมว บัตรใหม่ - [ 10 ม.ค. 52 19:33:39 A:192.168.0.17 X:125.27.19.214 TicketID:199878 ]

ความคิดเห็นที่ 130 แล้วระบบแอมเวย์ กับ กิฟฟารีน มันเหมือนกันมั้ยครับ จากคุณ : ฝนฟ้ากะพายุ - [ 10 ม.ค. 52 19:35:41 ]

ความคิดเห็นที่ 131 ตอบ125 ครับ ว่า ของแพง ดีจริงครับ (และจริงๆมันก็ไม่ได้แพงด้วย) จริงๆผมไม่ได้แอนตี้ และก็ไม่ได้เชิดชูแอมเวย์นะ(ผมเลิกทำแอมเวย์แล้ว) แต่ถ้าเห็นว่า สิ่งใดเป็นการเข้าใจผิด ก็จะช่วยอธิบายละกัน.. ผมสังเกตเห็นว่า ความเห็นข้างบนที่มีอคติ เรื่องแผนธุรกิจเป็นลูกโซ่ คนอยู่บนสุด สบาย มาก่อน ได้ก่อน เป็นข้อมูลที่ผิดครับ.. จริงๆคนมาก่อน แต่ไม่ทำอะไรเลย ก็ไม่ได้อะไรเลยเช่นกัน  ต่อให้มาคนแรกใน1แสนล้านคนอย่างข้างบนบอกก็เถอะ และดูเหมือนว่า ผู้คนส่วนใหญ่ จะไม่ต้องการให้บริษัทมีกำไร หรือให้คนที่ทำธุรกิจมีกำไรเลย  จะเอาแต่ราคาต้นทุนเท่านั้น.. ซึ่งจริงๆมันไม่ใช่  สินค้าทุกอย่างมันมีกำไรอยู่แล้วครับ เมื่อรู้ว่าเค้าเอากำไร เราก็รับไม่ได้..งั้นก็ขายขาดทุนเลยมะ จากคุณ : O-DED - [ 10 ม.ค. 52 19:40:37 ]

ความคิดเห็นที่ 132 "ตัวโชว์" มีในขายตรงกับขายประกันครับ ทุกยี่ห้อต้องมีครับ - "ตัวโชว์" เป็นสิ่งบังคับที่ต้องมีเลยครับ ในธุรกิจแนวนี้ - จากคุณ : อาจารย์แมว บัตรใหม่ - [ 10 ม.ค. 52 19:42:32 A:125.27.19.214 X: TicketID:199878 ]

ความคิดเห็นที่ 133 555 จากคุณ : sandee.kung - [ 10 ม.ค. 52 19:54:12 ]

ความคิดเห็นที่ 134 เอ่อ เคยสมัครสมาชิกเป็นเมมเบอร์ด้วยค่ะ เพราะเกรงใจ แล้วโดนลากไปฟังประมาณสองสามอาทิตย์ ช่วงนั้นเอ๋อๆ ต๊องๆ เพราะเชื่อคนง่าย เลยออกมาชวนชาวบ้านซื้อของเพราะหวังว่าจะได้เงินค่าขนมมั่ง แต่ผ่านไปเดือนนึงก็คิดได้ว่า "เลือกเพื่อนดีกว่าเลือกแอมเวย์" 555 ปัจจุบันเลยพยายามหลบลี้หนีหาย เพราะคิดว่าของบางอย่างไม่สมกับราคา จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ - [ 10 ม.ค. 52 19:56:19 ]

ความคิดเห็นที่ 135 ผมอคติต่อตัวระบบการทำธุรกิจแบบนี้ครับ  ส่วนคนที่ว่ากันว่าโดนล้างสมองหรือไม่นั้น ผมสงสารมากกว่า  (ส่วนคำตอบ มันก็แล้วแต่ความคิดเห็นจากประสบการณ์ส่วนบุคคลซึ่งแตกต่างกันไป หากจะว่าเค้าโดนล้างสมอง ซึ่งฟังดูเป็นลบมากกว่าบวก ก็ไม่ยุติธรรมต่อคนที่ทางเลือกและโอกาสน้อย แต่มันก็น่าคิดถ้าเป็นอาจารย์มีความรู้สูง แต่ทุ่มให้งานขายมากกว่าการสอนนักเรียน หรือคนที่มีอาีชีพมั่นคง รายได้ไม่ขาด ครอบครัวพร้อมหน้า แล้วเอาแต่หนีคนในครอบครัวออกไปขายของและหาสมาชิกเพิ่ม ซึ่งเจอมากับตัว )          ผมสงสารโดยเฉพาะ 1.เด็กนักเรียน นักศึกษา หรือคนทำงานผู้มีรายได้น้อย ที่หวังจะมีรายได้ช่วยเหลือจุนเจือครอบครัว และดำรงชีพ ซึ่งถ้าไปถึงฝันได้ก็น่ายินดีด้วยมากๆ แต่ถ้าไม่ มันก็น่าเห็นใจเขาอยู่เหมือนเกิน (เจอมากับตัว)                                     2.ผู้มีความรู้น้อยซึ่งมีจำนวนมาก และต้องตกเป็นเหยื่อ ทั้งในฐานะผู้บริโภคผลิตภัณฑ์ที่เชื่อในการอ้างอิงสรรพคุณอันวิเศษและฐานะผู้ร่วมธุรกิจ ที่มั่นใจว่าจะไม่ต้องทำไร่ทำสวน ค้าขายแรงงาน แค่ขายๆๆ แล้วพอปิดงบก็นั่งนับเงิน เก็บกระเป๋าไปเที่ยวต่างประเทศกัน ( เจอมากับตัวอีกแล้ว )            - เพื่อนผมสองคน เจอที่คณะมันก็ชวนให้ไปร่วมธุรกิจด้วยทุกครั้งที่เจอกันในห้องเรียน กลับบ้านยังโดนโทรจิก พอไม่รับสายก็ใช้เบอร์อื่นโทรมาอีก            - น้องคนนึง " โกหก " ผมโดยหลอกให้ขับมอเตอร์ไซค์ ตากฝนหนักออกจากบ้านตอนสองทุ่มมาหาเค้าที่โรงแรมแห่งหนึ่ง โดยอ้างว่ามาติดอยู่ที่นี่คนเดียว กลับบ้านไม่ได้ ไม่มีเพื่อนด้วย ไอ้เราก็สงสารเพราะเป็นน้องผู้หญิงตัวคนเดียว ค่ำมืดยังกลับไม่ถึงบ้าน ฝนก็ตกหนัก เลยออกไปโดยไม่ลังเลอะไร ตอนขับมอเตอร์ไซค์เข้าไปถึงโรงแรมก็สงสัยว่าเอ๊ะวันนี้มันมีงานอะไร ทำไมโรงแรมคนเดินกันเต็มล๊อบบี้เลย พอเจอตัวน้องเค้า ก็มีผู้หญิงอีกคนนึงเดินเข้ามาด้วยพร้อมกัน น้องเค้าแนะนำบอกว่าเป็นญาติห่างๆ ตอนนี้ทำธุรกิจอย่างนึงอยู่ซึ่งดีมาก พอปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดได้ ผมก็เริ่มมีคำว่าแอมเวย์ผุดเข้ามาในหัวทันทีโดยที่เค้ายังไม่ได้ทันได้บอกว่าธุรกิจอะไร แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ผมขอตัวกลับทันทีแต่ก็ต้องยอมแพ้กับการชักจูงให้ลองฟังด้วยตัวเองดูก่อน                           ผมโดนเค้าพาไปนั่งที่โต๊ะชุด แถมยังพาคนอื่นๆมานั่งล้อมอีก แต่ละคนก็แต่งตัวดีๆมา เอารูปที่ไปเที่ยวต่างประเทศมากมายมาให้ดู และน่าเกลียดมากที่ทุกคนพยายามแสดงให้เห็นว่า เกือบทุกนิ้วนั้นมีแหวนประดับอัญมณีสะท้อนแสงแว๊บว๊าบเข้าตา ( รำคาญมากๆ ปวดตาว้อย ) ที่ข้อมือ ที่คอมีกำไล สร้อยทอง เวลาเอากระดาษปากกามาวาดแผนผังการทำธุรกิจ เชื่อมั้ยครับ ทุกคนใช้ปากกายี่ห้อเทพๆทั้งนั้น คืนนั้นต้องนั่งฟังไปทั้งๆที่เวียนหัวและมึนกับข้อมูลที่เราไม่สนใจมาก หนาวก็หนาว เปียกก็เปียก ยุงรุมตอมอีก ยังใจร้ายให้เราอยู่ฟังอยู่ได้ ขอตัวกลับประมาณสามครั้งครับ ไม่เคยชนะเลย จนสุดท้ายผมบอกโอเคครับ ผมจะกลับไปเอาเอกสารมาสมัคร จะลองดูก็ได้นะครับ แล้วผมก็ขับมอเตอร์ไซค์กลับบ้านอาบน้ำนอนเลยครับ หลายวันต่อมาเจอน้องอีกครั้ง ผมถามเลยว่าบอกมาตรงๆว่าญาติคนนั้นหนะใครกันแน่ ทำไมบางทีแอบเรียกเธอเหมือนลูกเลย สุดท้ายก็เฉลยว่าแม่บังเกิดเกล้าเค้านั่นแหละครับ ก็แปลกดีว่าทำไมต้องโกหกกันขนาดนี้ด้วย ปล. ที่เจอมาไม่เฉพาะแอมเวย์ แต่รวมถึงธุรกิจขายตรงอื่นๆด้วย ซึ่งบางครั้งผลิตภัณฑ์น่ากลัวกว่าแอมเวย์มาก เพราะไม่มีที่มา ไม่มีการรับรองโดยหน่วยงาน  หรือองค์กรใดๆ ด้านมาตรฐานและความปลอดภัยทั้งสิ้น แก้ไขเมื่อ 10 ม.ค. 52 20:06:11 จากคุณ : o_taro_cmu - [ 10 ม.ค. 52 20:03:16 ]

ความคิดเห็นที่ 136 เหมือนมีศาสดามาชักจูงให้เข้าร่วมศาสนาเลยแหะ จิตวิทยา นี่เป็นวิชาน่ากลัวที่สุดในโลกแล้วมั้ง ป.ล. Mr. Fusion ครับ คราวหน้าอย่าโพสความเห็นที่ 1 นะครับมันเป็นลางยังไงไม่รู้ (แซวเล่นครับ) จากคุณ : feenmolder - [ 10 ม.ค. 52 20:09:30 ]

ความคิดเห็นที่ 137 เอ  จะบอกยังไงดี  เป็นสมาชิกแอมเวย์นะคะ   แต่ไม่เคยขายแอมเวย์เลย  และไม่ใช่สาวกแอมเวย์ด้วย   คิดว่าสินค้าแอมเวย์หลายๆ ตัวดีนะคะ ทุกวันนี้ก็ยังใช้สินค้าแอมเวย์อยู่ในบ้านหลายตัวด้วย สิ่งที่ชอบ คือคุณภาพสินค้าบางตัวดีมาก ที่ใช้อยู่ก็มียาสีฟัน  โรลออน ผงซักฟอก LOC น้ำยาล้างจาน   น้ำยาล้างรถ   แต่ที่ไม่เลือกใช้สินค้าตัวอื่นๆ เพราะสองเหตุผลค่ะ บางอย่างก็ไม่ได้ดีกว่าสินค้าอื่นๆ ในท้องตลาดมาก หรืออาจจะดีกว่าแต่คิมไม่เห็นว่าสำคัญ และอีกเหตุผลหนึ่งคือ  ทางเลือกค่ะ เช่น ครีมอาบน้ำ  คิมเป็นคนชอบครีมอาบน้ำกลิ่นหอมๆ และชอบเปลี่ยนไปเรื่อยๆ  เวลาไปตปท. ก็จะเลือกซื้อกลิ่นแปลกๆ ใหม่ๆ มาสะสมไว้ใช้ ครีมอาบน้ำของแอมเวย์ก็หอมนะ แต่มีให้เลือกแค่สองกลิ่น เคยไปสัมนาที่แอมบาสเดอร์  ก็ดีนะ ไปฟังเขาพูดสร้างแรงบันดาลใจดี แต่คิมก็ฟังแล้วพิจารณาว่ามันเข้ากับตัวเราไหม รู้สึกว่ามันกดดันไปน่ะค่ะ  ตารางก็แน่นมากๆ ด้วย เริ่มสัมนาแต่เช้าเชียว  เลิกก็ดึกแล้ว แล้วยังมี meeting กลุ่มอีก  คิมก็ฟังเท่าที่อยากฟัง นอกนั้นก็ออกไปหาอะไรกิน  ไปเดินซื้อของ สบายๆ  แต่ต้องทนสายตาคตในกลุ่มหน่อยนะคะ สิ่งที่ชอบเกี่ยวกับแอมเวย์ก็คงจะเป็นผลิตภัณฑ์และแนวคิดบางอย่างค่ะ เช่น แนวคิดของสินค้าที่เข้มข้น  เอามาให้เราผสมเอง เพื่อลดปริมาณภาชนะบรรจุ  ผลิตภัณฑ์บางอย่างใช้ดีมาก สิ่งที่ไม่ชอบคือคนขายแอมเวย์บางคน  กดดันเพื่อน ญาติ คนรู้จักมากเกินไป  การพูดสร้างแรงบันดาลใจต่างๆ กดดันเกินไป  เห็นแต่แอมเวย์ดี  เหมือนคนทำงานอย่างอื่น ไม่มีคุณค่า  โง่  ไม่เห็นช่องทาง ซึ่งจริงๆ การทำงานหลายอย่างมีผลตอบแทนมากกว่าเงิน เช่น หมอ ได้ช่วยชีวิตคนป่วย   คนกวาดถนน  ทำให้บ้านเมืองสะอาดขึ้น ครู เงินเดือนน้อยแต่มีพระคุณกับเด็กมาก มีบทบาทสำคัญในการสร้างเยาวชนคนรุ่นใหม่ ถ้าครูดีๆ ออกไปทำแอมเวย์หมด ลูกของคนขายแอมเวย์น่ะแหละจะแย่ เพราะไม่มีครูดีๆ มาคอยสอน   ไม่ชอบที่บังคับให้ซื้อสินค้าตอนจะสิ้นเดือน ไม่ชอบที่มิตรภาพของคนในแอมเวย์ที่ได้สัมผัส มันเหมือน fake ไม่อบอุ่น   สรุป ชอบผลิตภัณฑ์  ชอบแนวความคิดบางอย่าง แต่ไม่ชอบคนแอมเวย์ส่วนใหญ่ค่ะ จากคุณ : Ms. Kim - [ 10 ม.ค. 52 20:10:25 ]

ความคิดเห็นที่ 138 ลืมบอกไป  เดี๋ยวจะหาว่าพูดไม่จริง เคยพาคนมาสมัครเป็นสมาชิกแอมเวย์นะคะ หลายคนเหมือนกัน  แต่ไม่ได้ไปหลอกเค้ามา ไม่ได้ชวนด้วยซ้ำ  คือ เราทำธุรกิจด้านการศึกษาและกีฬาน่ะค่ะ รอบๆ ตัวเราก็มีแต่คนรักสุขภาพ   ที่บ้านก็มีน้องๆ ที่ทำงานกับสามีแวะมาเยอะ สามีทานโปรตีนผสมวิตามินซีกับวิตามินบี ก็ชงให้เค้ากินกัน  กินไปกินมา น้องๆ เค้าก็ชอบว่าสดชื่น ก็ตามมาสมัครกัน ไม่ชอบตื๊อใครน่ะค่ะ จากคุณ : Ms. Kim - [ 10 ม.ค. 52 20:15:01 ]

ความคิดเห็นที่ 139 สินค้าดีนะ แต่ไม่ชอบวิธีการ เอามาขายที่โลตัสเหอะนะ จากคุณ : operation 24 - [ 10 ม.ค. 52 20:22:01 ]

ความคิดเห็นที่ 140 มักเป็น Bad Impression จากคนขาย จากคุณ : Zew - [ 10 ม.ค. 52 20:25:36 ]

ความคิดเห็นที่ 141 #132 เรื่องตัวโชว์ ผมไม่รู้ว่าธุรกิจประกันเป็นอย่างไร หรือธุรกิจเครือข่ายตัวอื่นๆมีหรือไม่ แต่รู้ว่า ธุรกิจแอมเวย์ ไม่มีแน่นอนครับ... แอมเวย์เป็นธุรกิจหลายหมื่นล้าน(ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเกือบแสนล้าน) และมั่นคงส่งต่อมาถึงรุ่นลูกบริหารต่อแล้ว.. และนักธุรกิจแต่ละคนที่ประสบความสำเร็จ และได้ไปพูดที่เวทีนั้น ไม่ใช่อยู่ๆก็ขึ้นไปพูด.. กว่าจะมาถึงจุดนั้นได้ ผ่านการทำงานมาร่วมกันกับดาวน์ไลน์และเพื่อนๆไซด์ไลน์มาเป็นร้อยๆพันๆคนครับ มันเป็นไปได้ยากที่จะจับใครก็ได้ขึ้นไปพูด โดยที่จะจับผิดไม่ได้เลย คุณคิดว่าในทุกวันที่คุณอยู่นี่  ไม่มีอะไรบิดเบือน ฉ้อฉล หลอกลวงหรือครับ ข่าว หนึ่งละ...สองก็โฆษณา ผมไม่คิดว่าพี่โต๋ แกจะดื่มแบรนด์ แล้วฉลาด เล่นเปียโนเก่ง ผมไม่คิดว่าดาราที่เป็นพรีเซนเตอร์โฆษณาจะใช้เครื่องสำอางค์ยี่ห้อธรรมดาๆ ขวดละ50-100บาท แล้วจะสวยขนาดนั้น.. มันก็หลอกลวง บิดเบือนกันทั้งนั้นแหละครับ จากคุณ : O-DED - [ 10 ม.ค. 52 20:27:58 ]

ความคิดเห็นที่ 142 อะโด่ ถ้าแน่จริง จ้างผมนอนเล่นอยู่กับบ้าน เดือนละสี่ห้าหมื่น  24 เดือน พาไปเที่ยวต่างประเทศ แล้วจะเอายอดขายเท่าไหร่  ค่อยมาคุยกันที่หลัง จากคุณ : ไฟลามทุ่ง - [ 10 ม.ค. 52 20:42:15 ]

ความคิดเห็นที่ 143 ถ้าใช้สติปัญญาวิเคราะห์ดูก็รู้ครับว่า "ได้ไม่คุ้มเสีย" จากคุณ : gregloki - [ 10 ม.ค. 52 20:42:21 ]

ความคิดเห็นที่ 144 ข้อดีของแอมเวย์... คือทำให้เพื่อนและญาติที่พลัดพลาดจากกันไปเนิ่นนานได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง และมีเรื่องคุยกันยาวมาก เริ่มจากการขายสากกะเบือ จบลงที่ เรือรบ และเพื่อนจะชวนไปเที่ยว เที่ยวไหน?...ไปเที่ยวฟังสัมนาแอมเวย์?   ถ้าไม่ไป เพื่อนบอก ไม่เป็นไร..... มีเทป1 ตลับ(อย่างน้อย) เป็นเทปเสียงสัมนาแอมเวย์ ให้ไว้ฟัง ข้อดีของเทปที่ได้จากเพื่อนคือ...ฟังแล้วหลับสบาย... จากคุณ : นินจาคาปูชิโน่ - [ 10 ม.ค. 52 20:44:27 ]

ความคิดเห็นที่ 145 คนที่ทำแอมเวย์ คิดว่าเขาทำเพื่อเงินหรือ? อาจจะใช่แต่ไม่ทั้งหมดครับ เป็นงานที่เปิดโอกาสให้กับคนทุกชนชั้น ไม่ว่าจะรวยหรือจน มีความรู้มากหรือน้อย ทุกคนเริ่มต้นเหมือนกันหมด ต้องสมัคร 900 บาท แล้วไม่แปลกใจบ้างเหรอครับว่า ทำไมถึงมีคนหลายหลายอาชีพเข้ามาในธุรกิจนี้ มีทั้งสำเร็จและล้มเลิก จริงๆแล้วเนื้องานของแอมเวย์นั้นดูแล้วไม่น่าทำหรอกครับ เหมือนอาชีพของหมอครับ ที่ต้องสัมผัสเลือด ของเสียต่างๆ คนเจ็บคนตาย กลิ่นฯลฯ เนื้องานดูสกปรกน่ากลัว แต่ผลของงานดูดีไม๊ครับ ขึ้นชื่อว่า "หมอ" ทกคนก็อยากเป็นใช่ไม๊ครับ เพราะรายได้ดี มีเกียรติ แอมเวย์ก็เช่นกันครับ เนื้องานน่าเบื่อมากๆๆๆๆๆๆๆ ทำงานประจำก็เหนื่อยอยู่แล้ว ต้องมาทำแอมเวย์อีก นอนดึก ประชุม เดินทางไกล พอออกไปทำงานจริงก็โดนปฏิเสธสารพัด ค่าใช้จ่ายแฝงเพียบ บางคนทำไปทำมา จากรายได้เสริม กลายเป็นรายจ่ายเสริม............. แต่...... ความสำเร็จของแอมเวย์ครับ ที่หลายๆคนยอมที่จะเหนื่อย งานประจำให้อะไรครับ ยิ่งทำยิ่งยุ่ง ยิ่งยุ่งยิ่งเหนื่อย ธุรกิจยิ่งโต ยิ่งต้องลงทุนมากขึ้น มีเงินมากขึ้น แต่ไม่มีเวลาใช้เงิน คุณสามารถประสบความสำเร็จในงานประจำของคุณได้ นับครั้งไม่ถ้วน แต่ถ้าผิดพลาด ล้มเหลว เพียงครั้งเดียว ครั้งเดียวจริงๆครับ ทุกอย่างจบ แต่ในธุรกิจแอมเวย์แล้ว คุณสามารถที่จะประสบความผิดพลาด ล้มเหลวได้ นับครั้งไม่ถ้วน แต่ถ้าคุณประสบความสำเร็จเพียงครั้งเดียว เพียงครั้งเดียวจริงๆ ............ พระเจ้าจอร์จ...... ทุกอย่างจบ คุณจะมีทั้งรายได้ และมีเวลาที่จะใช้เงิน มาจากเครือข่ายที่คุณได้สร้างไว้ แม้คุณหยุดทำแล้ว แต่เครือข่ายที่คุณสร้างไว้ ยังคงบริโภคสินค้าของแอมเวย์ กลายเป็นรายได้ที่ไม่หยุดไงละครับ ที่สำคัญ ทายาทของคุณ สามารถมารับรายได้นี้ได้ทันที ไม่ต้องไปเริ่มต้นใหม่ คุณจะปราศจากความกังวล ความกลัว ความคับแค้นใจ นี่เป็นเหตุผลไงครับว่า เนื้องานไม่น่าทำหรอกครับ แต่ผลของมันต่างหาก "ที่ทำให้หลายๆคนต้องทำ" จากคุณ : ผ่านมาดู - [ 10 ม.ค. 52 20:52:43 A:58.9.117.12 X: ]

ความคิดเห็นที่ 146 สำหรับผมการขายแอมเวย์  เป็นงานสำหรับคนหน้าด้านเท่านั้นแหละ ที่จะทำได้.... และการสอนของแอมเวย์  ก็เป็นการสอนให้คนธรรมดากลายเป็นคนหน้าด้านโดยไม่รู้ตัว.... จากคุณ : FOR YOUR EYES ONLY - [ 10 ม.ค. 52 20:57:13 ]

ความคิดเห็นที่ 147 อืม แอมเวย์....นึกถึงเฮอร์บัลไลฟ์เลย...เอาตังค์ตูคืนมานะ ไหนบอกธุรกิจทางเน็ตไง ฮ่วย....แล้วไม่บอกตูก่อนละว่าต้องจ่าย 100k ก่อน สรุปโดนฟันไป 2500 จากคุณ : บีเค01 - [ 10 ม.ค. 52 21:00:19 ]

ความคิดเห็นที่ 148 ขอ share ความเห็นหน่อยผมว่าไม่ชอบตรงไหน 1. คือเริ่มต้นก็หลอกให้ไปฟัง/ทำงาน บริหารแล้ว ไม่ยอมบอกตรงๆว่า Amway (อันนี้โดนมา 2-3 ครั้ง - -" ประสบการณ์ตรง) 2. ไม่ชอบงานขายตรง เพราะคิดว่าตัวเองหน้าไม่หนาพอ 3. ไม่อยากเอาเพื่อน/ญาติ/คนใกล้ตัวมาเสี่ยงกับความสัมพันธ์ที่ส่วนใหญ่จะเลวร้ายลงมากๆ 4. ธุรกิจนี้เป็นการเหยียบ downline ไปเรื่อยๆ คนทำเจ๊งมากกว่าคนทำสำเร็จ (ว่าแต่มีคนทำวิจัยไหมว่าอัตราส่วนมันเท่าไหร่) จะว่าไปก็เหมือน share ลูกโซ่ เหมือนกัน 5. คนขายมักมีวิธีหลอกให้ไปฟังการขายของแบบอำพรางเสมอ (เช่นชวนไปกินข้าว เป็นต้น ส่วนตัวโดนมาครั้งนึง แสบมากๆ) สรุป ใครจะทำก็ทำไป ส่วนผมไม่ทำ และไม่แนะนำให้เพื่อนๆของผมทำเด็ดขาด (ด้วยเหตุผลข้างต้นนี้) จากคุณ : nopex - [ 10 ม.ค. 52 21:07:24 ]

ความคิดเห็นที่ 149 ^ ^ สินค้าก็ดีนะแต่คนมันน่ากลัวน่ะ พร่ำเพ้อแต่ชื่อแบรนด์ ฟังแล้วขนลุก แล้วพวกขายตรงแบบเฮอร์บลา...อะไรนั่นก็หลอกลวงสุดๆทำรายได้ผ่านอินเตอร์เนต  ฮ่วยหลอกลวงๆๆๆๆ  ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆหรอกคุณ ปล.ขอบ่นหน่อยแล้วกันนะเสียเพื่อนมาก็หลายคนละ จากคุณ : ก้านดอกบัว - [ 10 ม.ค. 52 21:19:35 ]

ความคิดเห็นที่ 150 แล้วเมื่อไหร่จะตอบผม ว่าทำไม ยี่ปั๊ว ซาปั๊ว หรือพวก marketing ถึงสมควรได้เงินน้อยกว่าอัพไลน์อ่ะ จากคุณ : mr.social - [ 10 ม.ค. 52 21:20:21 A:124.157.152.217 X: TicketID:194874 ]

ความคิดเห็นที่ 151 เออ อย่าว่าอย่างโน้นอย่างงี้เลยนะ กระทู้นี้ มัน หมวด "วิทยาศาสตร์" ตรงไหนเนี่ย แก้ไขเมื่อ 10 ม.ค. 52 22:48:07 จากคุณ : be Ambitious - [ 10 ม.ค. 52 21:25:08 ]

ความคิดเห็นที่ 152 ยาวๆ กันไป แก้ไขเมื่อ 10 ม.ค. 52 21:41:21 จากคุณ : มอนตะทาโร่ - [ 10 ม.ค. 52 21:39:33 ]

ความคิดเห็นที่ 153 โอย..  ตาลาย.. กระทู้นี้ยาวมากกก...  เยอะไปหมด จากคุณ : kekodes - [ 10 ม.ค. 52 21:42:34 ]

ความคิดเห็นที่ 154 อ่านมาจนจบ สะดุดใจอยู่บางจุดครับ ที่ยกตัวอย่างคนจนๆ ว่า ขายจนรวยเนี่ย ว่าจนๆแล้วจะเอาเงินที่ไหนไปเข้าสมัครสมาชิก ซื้อสินค้ามาเป็นสต๊อกล่ะครับ ผมเข้าใจถูกไหม ว่า ตอนแรก ต้องซื้อสินค้าก่อน?? จากคุณ : whutzy - [ 10 ม.ค. 52 21:43:18 ]

ความคิดเห็นที่ 155 เสียเพื่อนไปแล้วก็มีครับ มาหลอกล่อให้เราเข้าสมาชิกให้ได้ หว่านล้อมทุกอย่าง อวกอ้างบรรดาอาหารเทพของเขาว่าดีทุกอย่าง จนผมบอกไปว่า " ลองดูกันมั้ย คุณกินเข้าไปนะพวกอาหารเสริมนั่น แล้วมาดูว่า คุณ กับ ผม ใครจะตายก่อนกัน..." ปล.คำพูดที่พิมพ์ไปมันสุภาพเกินนะครับ ปล.สอง ผมไม่ได้เกลียดสินค้าแอมเวย์ เท่า คนขายของ ครับ จากคุณ : NoOscar - [ 10 ม.ค. 52 22:13:19 ]

ความคิดเห็นที่ 156 แวะเข้ามาแจมเป็นการเฉพาะกิจครับ.. มีประสบการณ์ส่วนตัวที่เพื่อนสนิทคนหนึ่งทำแอมเวย์..แต่ก่อนเขามีกิจการเป็นคนตัวเอง มีลูกน้องมากมาย..ชอบคบเพื่อนในวงสังคมสูง.. วันหนึ่งเพื่อนของแฟนก็ชวยแฟนเขาทำแอมเวย์ แล้วลามเข้ามาถึงตัวเขา..หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็เปลี่ยนไป..จากการใช้ตรรกะในการทำธุรกิจ เขาใช้ความรู้สึกมากขึ้น (มักจะอ้างว่ามีคนเราจะทำอะไรสำเร็จ ทัศนคติต้องดีก่อน) บางครั้งใครขัดแย้ง ก็บอกว่าไม่ลองจะรู้ได้ยังไง.. ผมปฏิเสธการชวนไปฟังสัมมนา 2 ครั้งพร้อมบอกว่า "ไม่เอาเด็ดขาด ถ้ารักจะคบกัน ให้เลิกมาชวน" ก็เงียบไปซักพัก ทีหลังมารู้ว่าเขาเอาผมไปนินทากับเพื่อนคนอื่นว่าผมคงไม่มีทางก้าวหน้าในชีวิตหรอกถ้าไม่รู้จักเป็นแก้วเปล่ารับสิ่งใหม่ๆในชีวิต (ด่ากรูลับหลังนี่หว่า - เพื่อนกันยกให้ซักครั้ง) หลังจากนั้นก็เที่ยวหาดาวน์ไลน์เรื่อยเปื่อยไม่เว้นแม้ลูกน้องในบริษัทฯ จนผวากันไปหมด..ในที่สุดศรัทธาที่ลูกน้องมีก็ร่อยหรอ.. ผมเองก็ห่างเหินออกมาเพราะไม่อยากเสียเพื่อนไปมากกว่านี้..แต่หากมีโอกาสอยากบอกเขาว่า "ทำสิ่งตัวเองเป็นอยู่ให้ดีที่สุด แล้วความสำเร็จจะรอเขา".. จากคุณ : กาแฟยามบ่าย - [ 10 ม.ค. 52 22:23:30 ]

ความคิดเห็นที่ 157 ความคิดเห็นที่ 103   ความคิดเห็นที่ 90 อยากเห็น statement ของพวกทำธุรกิจแอมเวย์ครับ จากคุณ : Knight ถ้าเจอก็ลองขอดูได้อ่ะ จากคุณ : psycho patch    - [ 10 ม.ค. 52 15:57:09 ]   ^^^^^^^^^^^^^^^^^ ก็ไม่เอาของคุณมาแปะให้ดูหน่อยล่ะครับ จากคุณ : Knight - [ 10 ม.ค. 52 22:27:00 ]

ความคิดเห็นที่ 158 อ่าว คห.ที่152 เอาการ์ตูนออกซะงั้น อุตส่าห์แจกกิฟ จากคุณ : BonaPart - [ 10 ม.ค. 52 22:29:52 ]

ความคิดเห็นที่ 159 ผมก็เคยเข้าไปเล่นๆ หลายๆ ยี่ห้อเหมือนกัน สนุกดี แต่เราไม่ "โลภ" ซะอย่าง ปล. มีเพื่อนที่หลับหูหลับตาเข้าไปเป็นเหยื่อ จนทุกวันนี้ไม่มีเพื่อนคบแล้ว ถามถึงก็ไม่มีใครรู้ว่าชะตาชีวิตเป็นอย่างไร ปล.2 อยากให้ Am..way ทำหมู่บ้านมาขายนะครับ จะได้ซื้อแล้วก็ให้อาศัยอยู่ในนั้นกันทั้งหมู่บ้านอย่าออกมาเลย จากคุณ : beer2nd - [ 10 ม.ค. 52 22:41:19 ]

ความคิดเห็นที่ 160 ลงชื่อมั่ง จากคุณ : quartzite - [ 10 ม.ค. 52 22:45:18 ]

ความคิดเห็นที่ 161 รู้เรื่องจิตวิทยาอยู่บ้าง แล้วก็เคยสัมผัสด้วยตัวเองมาแล้ว เลยพอดูออกว่า ที่คนโดนๆ กันน่ะ มันล้างสมองทั้งนั้น... ใช้หลักจิตวิทยามาโน้มน้าว ชักจูงให้คนเชื่อ ให้ความหวัง กระตุ้นความหวังไปเรื่อยๆ เพื่อให้อยู่นานๆ จากคุณ : ปฏิจจสมุปบาท (ปฏิจจสมุปบาท) - [ 10 ม.ค. 52 22:47:46 ]

ความคิดเห็นที่ 162 ไม่มีอะไรจะเขียน แต่แค่อยากจะบอกว่า คนใช้ ยาสีฟัน am.... และ dent... เลิกใช้ ไปใช้ คอลเกต ใกล้ชิด ถูกๆ บ้านๆ ดีกว่าครับ โปรดฟังอีกครั้ง เลิกใช้ ยี่ห้อหนึ่ง ทำให้ฟันสึกมากๆๆ อีกยี่ห้อไม่มี ฟลูออไรด์ ด้วยความหวังดีของ หมอฟันคนหนึ่งครับ จากคุณ : หมอprosthrodontic ปีที่12 - [ 10 ม.ค. 52 22:57:09 A:124.121.105.153 X: TicketID:195526 ]

ความคิดเห็นที่ 163 ทีสำคัญ มันแพงทั้งสองยี่ห้อครับ แล้วที่ไปต้มชาวบ้านว่า ยี่ห้ออื่นผสมแป้ง!!! มาเจอผมได้ครับ ผมผสมยาสีฟันเป็น สรุป เลิกใช้ ยาสีฟัน a และd(ที่แนะนำพวกผมใช้ แต่พวกผมถ้าไม่ได้ฟรี ไม่เสียตังซื้อให้โง่) จากคุณ : หมอprosthodontic ปีที่12 - [ 10 ม.ค. 52 23:01:55 A:124.121.105.153 X: TicketID:195526 ]

ความคิดเห็นที่ 164 แถวบ้านเรียก ศาสนาแอมเวย์ จากคุณ : rainfull - [ 10 ม.ค. 52 23:15:44 ]

ความคิดเห็นที่ 165 ผมว่าให้ผมตอบปิดท้าย หรือ บ๊วยจะดีกว่านะครับ ทุกๆคนที่ทำงานอยู่ในสายงานที่ต่างๆกัน น่าจะยอมรับความแตกต่างกันได้ นะครับ เพราะความแตกต่างจะไม่ใช่ความแตกแยก ทุกๆคนที่ประสบความสำเร็จก็ควรได้รับความชื่นชม ไม่ว่าเขาจะทำธุรกิจประเภทใดก็ตาม ที่ทำแล้วถูกต้องครรลองธรรม คนหนึ่งคนอาจทำงานในหลายสายงาน หลายธุรกิจ ก็ไม่น่าจะผิดอะไร หรือ บริษัทฯขายตรงที่มีในปรเทศไทยนับพัน ก็มีคนเข้าไปพัวพันตั้งมากมาย โดยไม่รู้ว่าเข้าไปทำแล้วจะได้อะไรหรือไม่ มนุษย์ไม่ได้ถูกหล่อหลอมให้โลภ แต่เพราะความคิดต่างหากที่ถูกหล่อหลอม ให้เชื่อหรือไม่ เราควรยอมรับเรื่องเหล่านี้ให้ได้ เพราะอาหาร 1 จานให้ คนมาชิมก็อาจได้รับรสชาติที่แตกต่างกัน ดังนั้นเราควรยอมรับความคิดเห็น ของคนอื่นมันดูแล้วน่าจะมีคุณค่ากว่า บริษัทฯ แอมเวย์ ประเทศไทยถูกวิจารณ์มา 16 ปีกว่าแล้วมั้งครับ แต่อัตรายอดธุรกิจโตเอาโตเอา ก็ไม่แตกต่างกับธุรกิจอื่นๆที่โตเอาโตเอาเหมือนกัน แต่คนที่ได้รับประโยชน์จากบริษัทฯแอมเวย์อาจมีหลายหมื่นคน แต่บริษัทฯอื่นที่ได้รับผลประโยชน์ก็จะมีแค่ผู้ถือหุ้นหรือลูกหลานเขาเท่านั้น สินค้าบริษัทฯแอมเวย์ มีขายอยู่ 80 ประเทศทั่วโลก ซึ่งยอดธุรกิจก็ไม่เคยตก แต่สินค้าบางอย่างที่ตีตราบางยี่ห้อไม่สามารถเข้าไปขายในประเทศอื่นได้ เรื่องการล้างสมอง เราควรยอมรับความแตกต่าง แล้วยอมรับในสิ่งที่เป็นไป เพราะในขณะที่เราทำงานอะไร แล้วเราทุ่มเทให้กับมัน จนดูเหมือนว่าถูกล้าง สมอง มันจะเป็นความรู้สึกที่ไม่แตกต่างกันนัก แต่เราจะไม่นำเรื่องนี้มาวิจารณ์เพราะว่า คนที่เราไปวิจารณ์ในแง่ลบกับเขา วันนึงเขาอาจจะกลับมาในฐานะที่เราอาจจะมองบางอย่างผิดไปก็ได้ เราจะไม่เคยทำอะไรถูกต้องทุกอย่างในชีวิต เพราะเราเป็นมนุษย์ เราย่อมรู้ดีว่าเราก็เคยทำอะไรผิดมาก็มาก-น้อย แต่ทุกอย่างทำไปเพราะเป็นเหตุผลส่วนตัว ใครก็ไม่อยากให้ใครมาล้วงเรื่องส่วนตัวเรามากเกินไป สินค้าในโลกนี้มีเป็นแสนชนิด ดังนั้นคนที่ใช้ย่อมรู้ดีว่ามันเหมาะสมหรือไม่อย่างไร ถ้าไม่ดีเขาก็เลิกผลิตไปแล้ว อีกอย่างแอมเวย์รับประกันความพอใจ ถ้าใช้ไม่ถึงครึ่งก็ไปคืนได้ แต่มีสินค้าอีกนับพันไม่ยอมรับคืนซึ่งพิสูจน์ให้เห็น ความจริงใจในการทำธุรกิจ เพราะผมแน่ใจว่า สมมตินะครับผมขายสินค้าชนิดนึงออกไปแล้ว และมีคนใช้แล้วบอกไม่ดีจะเอามาคืนผม ทั้งๆที่ผมก็วิจัยสินค้าตัวนี้ดีแล้ว คราวนี้ผมต้องแบบกรับภาระเรื่องเหล่านี้ด้วยก็คงแย่เหมือนกัน เราจะไม่มีทางรู้เบื้องลึกๆของการก่อตั้งธุรกิจแอมเวย์ ดังนั้นเราควรจะเฝ้าดู ความเจริญเติบโตของธุรกิจไปอย่างเที่ยงธรรมดีไหม เพราะถ้าไม่ดีกับ 17 ปีคงจะมีคนไปต่อต้านจนเขาไม่สามารถทำธุรกิจได้อย่างแน่นอน สุดท้าย ไม่ว่าจะเป็นยังไงต่อไป เราก็ควรได้รับการชื่นชมหากเราทำธุรกิจใด ๆสำเร็จ ดังนั้นเราควรจะชื่นชมความสำเร็จแล้วเคารพการที่คนอื่นเขามีฝัน แล้วอยากคว้าให้ได้จะดีกว่านะครับ เพราะเราทุกคนต่างมีฝัน เราต้องการ คนสนับสนุนเราทั้งนั้นแหละครับ แต่ทำยังไงที่จะเปิดใจแสดงความยินดีกับคนอื่นด้วยใจจริงก่อน แล้วไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจนี้หรือไม่ หากคุณทำสำเร็จ จนประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างแท้จริง เราก็จะยินดีกับคุณอย่างแน่นอน ลืมเรืองที่ใครๆมาทำให้คุณเดือดร้อน แต่ลึกๆ คุณรู้หรือไม่เขารักคุณแค่ไหน การกระทำบางอย่างมันอาจจะดูไม่เป็นอย่างที่คุณคิด แล้ววันนึงมันจะกลาย เป็นเรื่องจริงที่คุณอาจต้องใช้เวลา เข้าใจมัน จากคุณ : smilehand (smilehand) - [ 10 ม.ค. 52 23:25:20 ]

ความคิดเห็นที่ 166 ความคิดเห็นที่ 154   อ่านมาจนจบ สะดุดใจอยู่บางจุดครับ ที่ยกตัวอย่างคนจนๆ ว่า ขายจนรวยเนี่ย ว่าจนๆแล้วจะเอาเงินที่ไหนไปเข้าสมัครสมาชิก ซื้อสินค้ามาเป็นสต๊อกล่ะครับ ผมเข้าใจถูกไหม ว่า ตอนแรก ต้องซื้อสินค้าก่อน?? ................................................................. คำว่าจนของคุณนี่ หมายถึงมีเงิน 0 บาทใช่ป่าวครับ มันใช่อย่างงั้นที่ไหนอ่ะ..มันก็ต้องมีเงินเก็บบ้างสิครับ ผมว่ายุคนี้ เงินเดือนหลักพัน-หมื่นต้นๆ นี่ก็ถือว่าจนแล้วนะครับ ถ้าไม่จน คือระดับปานกลาง  ก็ค่อนไปทางจนอยู่ดีครับ.. จากคุณ : O-DED - [ 10 ม.ค. 52 23:25:33 ]