ความคิดเห็นที่ 1 พบจานบินครั้งแรก รายงานการพบเห็นวัตถุบินลึกลับเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 1947 เมื่อเคนเนท อาร์โนลด์ (Kenneth A. Arnold)นักธุรกิจและนักบินเครื่องบินส่วนตัวกำลังบินอยู่เหนือเทือกเขาเรนเนียร์ (Mount Rainier) รัฐวอชิงตัน ขณะนั้นเขากำลังบินอยู่ที่ระดับความสูง 9,000 ฟุต เมื่อเขามองต่ำลงมาก็พบว่ามีวัตถุลึกลับคล้ายจานจำนวน 9 ลำ บินอยู่เบื้องล่าง ในภาพคืออาร์โนลด์ กับลักษณะของจานบินที่เขาเห็นครับ แก้ไขเมื่อ 12 ม.ค. 52 20:34:14 จากคุณ : Mr.Terran - [ 12 ม.ค. 52 20:09:13 ]

ความคิดเห็นที่ 2 จากนั้นมาก็เริ่มมีรายงานการพบเห็นวัตถุบินลึกลับทั้งจากนักบินกองทัพอากาศ นักบินพาณิชย์ และเจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุมการบินทั่วสหรัฐ พลอากาศเอก นาธาน ทวินิง (General Nathan F. Twining) หัวหน้าศูนย์บริการเทคนิคการบินจึงได้เริ่ม "โครงการจานบิน" (Project Saucer) ขึ้นในปี ค.ศ. 1948 โครงการนี้มีหน้าที่ในการรวบรวม ตรวจสอบ วัดผล และสรุปข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับปรากฏการณ์วัตถุบินลึกลับ เพื่อใช้เป็นหลักฐานพิสูจน์ว่ายานอวกาศจากนอกพิภพอาจเป็นเรื่องจริง และส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ ซึ่งในเวลาต่อมา นาธาน ได้เปลี่ยนชื่อโครงการเป็น "โครงการสัญลักษณ์" (Project Sign)  (แปลได้ซับนรกจริงๆ  ปกติผมเรียกว่าโครงการไซน์ครับ-TerraN) ภาพพลอากาศเอก นาธาน ทวินิง แก้ไขเมื่อ 12 ม.ค. 52 20:41:33 แก้ไขเมื่อ 12 ม.ค. 52 20:35:49 จากคุณ : Mr.Terran - [ 12 ม.ค. 52 20:10:24 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ปาดแปลว่ารายอะ จากคุณ : ตามหานักร้องนำ - [ 12 ม.ค. 52 20:18:55 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ปาด คือ ผ่านหน้า จากคุณ : คนรักแมวมาก - [ 12 ม.ค. 52 20:21:27 ]

ความคิดเห็นที่ 5 หน่วยงานที่รับผิดชอบในโครงการสัญลักษณ์ก็คือ แผนกเทคนิคสืบราชการลับ ของศูนย์ยุทโธปกรณ์การบินที่ฐานทัพไรท์ (Wright field) ซึ่งปัจจุบันก็คือฐานทัพอากาศไรท์-แพทเทอร์สัน (Wright-Patterson Air Force Base) จากคุณ : Mr.Terran - [ 12 ม.ค. 52 20:37:02 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ที่ตั้งอยู่ที่เมืองเดทัน รัฐโอไฮโอ โครงการสัญลักษณ์ได้เริ่มดำเนินงานอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 23 มกราคม 1948 ในตอนแรกนั้นบรรดานักวิจัย ต่างเชื่อว่า วัตถุบินลึกลับ เหล่านั้นเป็นอาวุธของรัสเซีย แต่ต่อมาเมื่อมีการสืบสวนลึกลงไปก็พบว่ามันไม่ใช่อย่างที่พวกเขาคาดไว้ พวกเขาจึงสรุปว่าวัตถุบินลึกลับที่พบเห็นกันอาจจะเป็นยานอวกาศของมนุษย์ต่างดาวจริงๆ ก็ได้ จากคุณ : Mr.Terran - [ 12 ม.ค. 52 20:39:29 ]

ความคิดเห็นที่ 7 สงสัย ในการค้นพบครั้งแรกนะครับ 24 มิถุนายน 1947 บินเดียวเครื่องส่วนตัว ในสมัยนั้น เครื่องเจทยังอยุ่ในช่วงที่ใช้ในทางทหาร อีกทั้งยังไม่แพร่หลาย เครื่องบินช่วงนั้นเลยเป็นเครื่องยนตร์ ที่ใช้ ลูกสูบ ความเร็วที่ได้ก็ ไม่หน้าที่จะเกิน 300 km/h โดยปกติ ตามที่เคยอ่านเรื่อง ของ UFO จะบินเร็วมากหรือ เห็นแค่แสงแว๊บเดียวแล้วหายไป ถ้าเครื่องบิน เห็นจานบินอยุ่ข้างล่างก็แปลว่า จนบินนั้นบินความเร็ว ที่ต่ำมากๆ ไม่เกิน 300 km/h หรืออาจจะต่ำกว่านั้น จากคุณ : Napoleonic - [ 12 ม.ค. 52 20:44:21 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ไม่นานนักพวกเขาก็ได้ข้อสรุปใหม่ว่าปรากฏการณ์ที่ได้รับแจ้งส่วนใหญ่แล้วเป็นเรื่องที่เกิดจากผู้แจ้งข่าวเพ้อเจ้อไปเองบ้าง ข่าวเท็จบ้าง สำคัญผิดบ้าง และบางครั้งก็เกิดจากผู้อยู่ในเหตุการณ์เป็นโรคประสาท แต่กระนั้นพวกเขาก็ยังคงสืบสวนเรื่องปรากฏการณ์ประหลาดเหล่านี้อยู่ต่อไปเพราะพวกเขาก็ยังคงคิดว่ามีหลายเหตุการณ์ที่อาจเป็นเรื่องจริง บิดเบือนข้อมูล ท่ามกลางข่าวลือเรื่องวัตถุบินลึกลับที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ กองทัพอากาศก็ยังคงพยายามที่จะรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ ปรากฏการณ์นี้เพื่อหาข้อสรุปที่ชัดเจน ในปลายทศวรรษที่ 1940 กองทัพอากาศได้เริ่มโครงการใหม่ชื่อว่า "โครงการกรูดจ์" (Project Grudge) โครงการนี้มีหน้าที่ในการสร้างข่าวออกสู่สาธารณชน เพื่อให้ประชาชนคลายความวิตกกังวลเรื่องมนุษย์ต่างดาวจะบุกโลก โดยการออกข่าวชักจูงให้ประชาชนมีความเห็นคล้อยตามว่าวัตถุบินลึกลับที่เห็นนั้นเป็นเรื่องอธิบายได้ง่ายๆ หาใช่จานบินของมนุษย์ต่างดาว เช่น ลูกบอลลูน เครื่องบิน ดาวเคราะห์ ดาวตก ฝนลูกเห็บ หรือแสงสะท้อน จากการสืบสวนอยู่นานนับปี ก็ไม่พบหลักฐานว่าปรากฏการณ์วัตถุบินลึกลับจะเกิดจากการบุกรุกจากพวกมนุษย์ต่างดาวหรือแม้แต่เป็นอาวุธลับของประเทศที่เป็นศัตรูของสหรัฐ ในทางตรงกันข้าม การที่รัฐบาลตั้งหน่วยงานเฉพาะกิจขึ้นมาสืบสวนเรื่องนี้กลับทำให้ประชาชนต่างยิ่งหวาดผวาว่าเรื่องที่พวกเขากลัวจะเป็นความจริง ดังนั้นรัฐบาลจึงได้ล้มเลิกโครงการนี้ลงเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 1949 เอกสารของโครงการ(เน่าจัง - -") จากคุณ : Mr.Terran - [ 12 ม.ค. 52 20:45:23 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ตอบคุณ Napoleonic  เป็นลักษณะที่ยานทั้ง 9 ลํานั้นบินผ่านไปครับ ไม่ใช่บินช้ากว่าเครื่องของเคนเนธแต่บินเร็วกว่ามาก เอาจากที่ เคนเนธ อาร์โนลด์ เคยบอกเอาไว้นะครับ สิ่งบินลึกลับ อยู่ต่ำลงไปเบื้องล่าง กำลังบินฉวัดเฉวียนอยู่เหนือหุบเขาสูงๆต่ำๆ ซึ่งทอดแนวยาวต่ำกว่าเพดานบินของเขาลงไป อาร์โนลด์รู้สึกพิศวงกับสิ่งที่เห็น เนื่องด้วยประสบการณ์เสืออากาศของเขา ยังไม่สามารถบอกได้ว่า เจ้าสิ่งที่เห็นนั้นคืออะไร มันบินด้วยลักษณะอาการที่แตกต่างไปจากสิ่งบินหรืออากาศยานในสมัยนั้นโดยสิ้นเชิง ด้วยลักษณะที่เหมือนกับจานสองใบประกบกัน อาร์โนลด์เรียกมันว่าจานบินครับ ลักษณะการบินของมันก็แปลกใช่ย่อย มันร่อนไปในลักษณะที่แฉลบไปมา "เหมือนกับเวลาเราร่อนหินหรือจานแบนๆ ให้แฉลบไปบนผิวน้ำ" อาร์โนลด์กล่าว จานบินที่เขาเห็นมีอยู่ด้วยกันทั้งสิ้น 9 ลำ บินเกาะหมู่กันมาอย่างไม่เป็นระเบียบ คล้ายลูกปัดที่ร้อยกันห่างๆด้วยด้ายหรือโซ่ "จะว่าไปมันก็เหมือนห่านที่บินเรียงแถวกัน" เขาย้ำ ขนาดของจานบินเหล่านั้น มีขนาดประมาณ 2/3 ของเครื่อง DC-4 บินด้วยความเร็วประมาณ 1,700 ไมล์ต่อชั่วโมง มากกว่าเครื่องเชสน่าลำโปรดของเขาหลายเท่านัก ลักษณะของจานบินที่เคนเนธ อาร์โนลด์บรรยาย จากคุณ : Mr.Terran - [ 12 ม.ค. 52 20:56:39 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ต่อนะครับ.. วันที่ 19-20 กรกฏาคม 1952 เรดาร์ของสนามบินนานาชาติใน กรุงวอชิงตัน และ ฐานทัพอากาศแอนดรูว์ จับภาพวัตถุบินลึกลับได้ แล้วจู่ๆ มันก็หายไปจากจอเรดาร์ วันที่ 27 กรกฏาคม มันก็กลับปรากฏขึ้นมาอีกและหายไปเฉยๆ เหมือนครั้งก่อน กองทัพอากาศก็รีบออกมาให้ข่าวว่ามันเป็นเพียงแค่ปรากฏการณ์อุณหภูมิเปลี่ยนแปลงกระทันหันจึงทำให้สัญญานเรดาร์สะท้อนกลับ วันที่ 29 กรกฏาคม ว่าที่ผู้ช่วยผู้อำนวยการหน่วยสืบราชการลับสายวิทยาศาสตร์ของ ซีไอเอ (CIA's Acting Assistant Director for Scientific Intelligence) ได้ทำบันทึกรายงานถึง ว่าที่ผู้อำนวยการหน่วยสืบราชการลับว่า "สืบเนื่องจากการที่มีผู้พบเห็นวัตถุบินไม่ปรากฏสัญชาติทั้งชนิดเห็นได้ด้วยตราเปล่าและปรากฏบนจอเรดาร์เป็นจำนวนมาก จึงได้มีการจัดตั้งหน่วยปฏิบัติการพิเศษขึ้นเพื่อหาข้อเท็จจริง" งานชิ้นแรกที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษกระทำก็คือ การสืบค้นข่าวจากหนังสือพิมพ์และนิตยสารของรัสเซียเพื่อหาดูว่าทางค่ายคอมมิวนิสต์นั้นมีการสร้างอาวุธลับอะไรหรือเปล่า เพราะพวกเขาเกรงว่าวัตถุบินไม่ปรากฏสัญชาติเหล่านั้นอาจมาจากรัสเซีย แต่ก็ไม่ปรากฏว่าจะมีข้อมูลใดสามารถนำมาผูกโยงกับเรื่องนี้ได้ เป็นภัยต่อความมั่นคง วันที่ 1 สิงหาคม เอ็ดเวิร์ด เทาส์ (Edward Tauss) หัวหน้าฝ่ายสรรพาวุธของ ซีไอเอ ได้รายงานข่าวว่า จากการที่เขาได้ตรวจสอบข่าววัตถุบินลึกลับกว่า 1,000 ข่าวที่ถูกส่งมายังฝ่ายเทคนิคการบิน (Air Technical Intelligence Center - ATIC) นั้นมีอยู่ราว 100 ข่าวที่ไม่สามารถที่จะอธิบายได้ว่าเกิดจากอะไร แต่อย่างไรก็ตามมันไม่ได้เป็นเพราะว่าเขาหาเหตุผลมาอธิบายปรากฏการณ์นั้นไม่ได้ หากแต่เป็นเพราะว่าข้อมูลข่าวที่ได้รับแจ้งนั้นมีน้อยเกินไป และตราบใดที่เขายังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่ามันคืออะไร รัฐบาลควรที่จะต้องปกปิดเรื่องเหล่านั้นไว้เป็นความลับ เอ็ดเวิร์ด ยังได้แนะนำอีกด้วยว่าประชาชนไม่ควรจะรู้ด้วยซ้ำว่ารัฐบาลกำลังทำการสืบสวนเรื่องวัตถุบินลึกลับนี้อยู่หาไม่แล้วประชาชนจะต้องเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดเผยข้อมูลเหล่านั้นต่อสาธารณชน ซึ่งรัฐบาลเองก็ยังไม่มีคำตอบ ปัญหาที่น่าห่วงที่สุดก็คือ ถ้าหากมีปรากฏการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นบ่อยๆ กองทัพจะรู้ได้อย่างไรว่าภาพที่เห็นบนจอเรดาร์นั้นเกิดจากการทำงานที่ผิดพลาดของเรดาร์ หรือเป็นยานอวกาศมนุษย์ต่างดาว หรือร้ายที่สุดก็คือเป็นขีปนาวุธของรัสเซีย จากคุณ : Mr.Terran - [ 12 ม.ค. 52 21:05:08 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เดือนพฤศจิกายน 1954 ซีไอเอ ได้เปิดตัวเครื่องบินสอดแนมที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูง เครื่องบินลำนี้พัฒนาขึ้นมาโดยฝ่ายพัฒนาขั้นสูงของ บริษัท ลอคฮีด ในเมืองเบอร์แบง รัฐแคลิฟอร์เนีย หรือที่รู้จักกันในนามของ สกังเวิร์ค (Skunk works) U2 เจ้าเครื่องบินลำนี้ได้ถูกทดสอบบินเป็นครั้งแรก เมื่อเดือนสิงหาคม 1955 โดยนักบินที่มีชื่อเสียง เคลลีย์ จอห์นสัน (Kelly Johnson) จากคุณ : Mr.Terran - [ 12 ม.ค. 52 21:12:15 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เครื่องบิน U2 นี้ใพดานบินสูงถึง 60,000 ฟุต ซึ่งในช่วงทศวรรที่ 1950 นั้นเครื่องบินส่วนใหญ่จะมีเพดานบิน อยู่แค่ 10,000 ฟุต หรืออย่างมากก็ไม่เกิน 20,000 ฟุต และด้วยเหตุที่เครื่องบิน U2 เป็นอาวุธลับที่ไม่สามารถ เปิดเผยให้สาธารณชนทราบได้ จึงทำให้มีรายงานการพบเห็นวัตถุบินลึกลับถี่ขึ้นในช่วงนี้ เครื่อง U2  รุ่นแรกๆ นั้นเป็นสีเงิน ทำให้มันสะท้อนแสงอาทิตย์ได้ดี เมื่อมองจากที่ต่ำกว่าจะทำให้ดูเหมือนเป็นวัตถุที่โชติช่วง ดังนั้นเมื่อมีรายงานพบวัตถุบินลึกลับที่ส่องสว่างเป็นประกาย รัฐบาลก็พอจะทราบอยู่ว่าเจ้าสิ่งนั้น ก็คือเครื่องบิน U2 นั่นเอง แต่เป็นเพราะว่ามันเป็นความลับ รัฐบาลจึงต้องบิดเบือนว่า สิ่งที่เห็นนั้นเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ เช่น ผลึกน้ำแข็งบนท้องฟ้า หรือมีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิโดยกระทันหัน ท้ายที่สุด รัฐบาลก็กลับเป็นต้นเหตุที่ทำให้ประชาชนเกิดความแตกตื่นในเรื่องวัตถุลึกลับเสียเอง แม้ว่ารัฐบาลสหรัฐ จะประสบความสำเร็จในการปกปิดเรื่องเครื่องบินล่องหน U2 แต่มันก็นำไปสู่ปัญหาอื่นๆ ที่พวกเขาพยายามแก้ไขมาหลายสิบปี นั่นก็คือการลดความแตกตื่นของประชาชนในเรื่องยานอวกาศของมนุษย์ต่างดาว และอย่างที่เราทราบกันดีแล้วว่าเครื่องบิน U2 ไม่ใช่โครงการลับโครงการเดียวของรัฐบาลสหรัฐ แต่ยังมีโครงการลับอื่นอีกนับสิบโครงการที่รัฐบาลสหรัฐปฏิเสธว่ามันไม่มีจริง ก็ลองคิดดูแล้วกันว่า จะมีประชาชนชาวอเมริกันได้พบเห็นวัตถุบินลึกลับบนท้องฟ้ามากมายและบ่อยขนาดไหน มีเรื่องราวที่เป็นปริศนามากมายที่รัฐบาลสหรัฐรูดซิบปากเงียบในตอนแรก และมาเปิดเผยความ(ไม่)จริง หลังจากเหตุการณ์ผ่านไปเนิ่นนานหลายปี หรือเป็นเพราะว่าพวกเขารอสร้างหลักฐานให้ดูสมจริงสมจังเสียก่อน จึงค่อยนำมาเปิดเผยต่อสาธารณชน บันทึกลับรายงานจานบิน โดย ศิลป์ อิศเรศ หนังสือ"ร้ายสาระ" สำหรับวันนี้ นิทราราตรีสวัสดิ์ ลาไปก่อนครับ ลาไปแล้วครับ แก้ไขเมื่อ 12 ม.ค. 52 21:24:01 จากคุณ : Mr.Terran - [ 12 ม.ค. 52 21:18:13 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ยอดเยี่ยมครับ....... จากคุณ : รู้น้อยไปหน่อย - [ 12 ม.ค. 52 21:31:42 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เนื้อหาแน่นค่ะ ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : kekodes - [ 13 ม.ค. 52 00:30:02 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ถ้ามัน "ลับ" จริง แล้วคนอื่นรู้ได้ไงอะคับ จากคุณ : จับได้โดยละม่อม Return - [ 13 ม.ค. 52 00:39:53 ]

ความคิดเห็นที่ 19 สนุกดีนะ จากคุณ : totetote - [ 13 ม.ค. 52 03:34:14 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ต้องยังไม่จบซิมันขาดๆ จากคุณ : Mr.june - [ 13 ม.ค. 52 05:41:06 ]

ความคิดเห็นที่ 21 นั่งอ่านครับ จากคุณ : sariell - [ 13 ม.ค. 52 09:02:50 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ตอนเด็กๆ ผมเคยเห็นจานบินของจริงด้วยล่ะ พ่อกับแม่ทะเลาะกัน แม่เขวี้ยงจานกระเบื้องร่อน บินผ่านหัวผมเลย อ่ะ ไม่คุยละ ฟังต่อครับ ^ ^ จากคุณ : น้องหยิก - [ 13 ม.ค. 52 09:35:32 ]

ความคิดเห็นที่ 23 อ้าวจบซะแล้ว - -* จากคุณ : vn, man - [ 13 ม.ค. 52 09:46:43 ]

ความคิดเห็นที่ 24 รอ อ่าน อิก จากคุณ : eping - [ 13 ม.ค. 52 11:10:37 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ตามมาติดๆ .... รอชมคับผม..... จากคุณ : witjoe - [ 13 ม.ค. 52 12:45:55 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เยี่ยมมากครับ จากคุณ : ฮักเมาน้องหล้า - [ 13 ม.ค. 52 14:54:30 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ก็คงคล้ายๆกับ เสตลท์ละมั้งครับ ตอนทดลองใหม่ๆ ก็นึกว่าจานบินกัน เพราะรูปทรงมันใช่เลยที่จะเชื่อแบบนั้น จากคุณ : ตาตี๋ตกต้นตาล - [ 13 ม.ค. 52 16:05:19 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ความลับไม่มีในโลก...มีแต่ของลับ.. จากคุณ : Night Claw - [ 13 ม.ค. 52 21:11:37 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เรือง nazi ufo ็ก็น่าสนใจนะครับ น่าจะเอามาลงให้อ่่านกันบ้าง เคยเห็ฯในเว็บ มัีนน่าจะใช่นะ ที่ฮิตเล่อร์ มีจานบินไว้ใช้ ลองเสริชหาดูในยูทูปนะครับ จากคุณ : 2 - [ 14 ม.ค. 52 00:17:10 A:118.174.218.254 X: TicketID:199389 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ยังมีให้อ่านอีกไหมอ่ะ  อยากอ่านต่อ จากคุณ : นู๋ขี้สงสัย - [ 14 ม.ค. 52 08:18:11 ]

ความคิดเห็นที่ 31 รออ่าน... จากคุณ : time3957 - [ 14 ม.ค. 52 09:10:44 ]

ความคิดเห็นที่ 32 มารอตอนต่อ มีมั้ยคะ ^^ จากคุณ : จันทร์ซ่า - [ 14 ม.ค. 52 15:43:16 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ขอบคุณบทความดีๆครับ จากคุณ : anurak_jun - [ 14 ม.ค. 52 19:00:57 ]

ความคิดเห็นที่ 34 สงสัยว่า หากมีจริง ทำไมมีแต่อเมริกาที่เห็นกันบ่อยๆ แล้วทำไมไม่มาไทยบ้างล่ะ หรือประเทศอื่นๆ บ้าง จากคุณ : สาวสยาม - [ 14 ม.ค. 52 20:20:28 ]

ความคิดเห็นที่ 35 จำได้ เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว คนที่อำเภอพระประแดงเห็นวัตถุประหลาดคล้ายจานบินลอยอยู่ เห็นกันหลายคน ลงไทยรัฐด้วย และมี ช่างทำผมย่านนั้นถ่ายวิดีโอเก็บไว้ไม่รู้เค้าสรุปว่าไง เห็นเงียบๆ ไปแล้ว จากคุณ : วิญญาณเดียวกัน - [ 14 ม.ค. 52 22:00:18 ]

ความคิดเห็นที่ 36 น่าติดตามครับ จากคุณ : พิราบเขียว (พิราบเขียวแห่งที่ราบสูง) - [ 15 ม.ค. 52 11:09:35 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ชื่อเต็มๆ Ho229V7 Night Fighter (Plototype of Ho229B) น้ำหนัก : 20,500Kg เครื่องยนต์ : Jumo004B-2 (่หนัก900Kg) x 2เครื่อง ความเร็วสูงสุด : 950Km/h ระยะบินไกลสุด : 2,080Km จำนวนลูกเรือ : 2 จากคุณ : Kooly - [ 16 ม.ค. 52 22:46:35 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ภาระกิจ : ต่อสู้ หรือ ทิ้งระเบิด ชื่อโรงงาน : Gothaer Waggonfabrik ชื่อผู้ออกแบบ : Horten brothers เริ่มบินครั้งแรก  1 มีนาคม ค.ศ.1944 สถานะการถึงปัจุบัน : ยกเลิกการผลิตหลังจบสงครามโลกครั้งที่2 สร้างขึ้นจำนวน : 3 ลำ อันนี้ภาพถ่ายจริง จากคุณ : Kooly - [ 16 ม.ค. 52 22:50:26 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ภาพถ่ายที่ปัจจุบัน (ซาก) จัดแสดงอยู่ใน พิพิธภัณฑ์อากาศยานและอวกาศแห่งชาติ วอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา จากคุณ : Kooly - [ 16 ม.ค. 52 22:53:57 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ด้านหลัง (เห็นสัญญาลักษณ์ สวัสดิกะ อย่าชัดเจน) "แสดงถึงความเป็นของแท้" แสดงให้เห็นระบบขับเคลื่อนเทอร์โบเจ็ท ที่นำมาใช้ในเครื่อบิืนโดยสารและพานิชในปัจจุบัน. ( เครื่องยนต์ : Junkers Jumo 004 ) จากคุณ : Kooly - [ 16 ม.ค. 52 22:58:16 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ทีแรกเตรียมเครื่องยนต์เทอร์โบเจ็ทของ : BMW 003 แต่เอาเข้าจริงเปลี่ยนใจหันไปใช้เครื่องฯ : Junkers Jumo 004 แทน ในภาพ : หน้าตาของเครื่องยนต์เทอร์โบเจ็ทของ : BMW 003 จากคุณ : Kooly - [ 16 ม.ค. 52 23:04:08 ]

ความคิดเห็นที่ 42 เครื่องยนต์เทอร์โบเจ็ท : Junkers Jumo 004 ** ในภาพนี้จาก พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา จากคุณ : Kooly - [ 16 ม.ค. 52 23:07:47 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ก่อนจากไปขอฝากไว้นิดนึงครับ (คันปาก) * หลังสงครามโลกครั้งที่2 อเมริกาเจอสิ่งประดิษฐ์อะไรขนเอากลับประเทศหมด แล้วก็เอาไปแกะของเยอรมัน ศึกษาและลองสร้างตาม ก็ยังห่วยแตกสู้นักวิทยฯเยอรมันไม่ได้ (ถ้าไม่มี Rocket V2 ป่านนี้ NASAก็ยังไม่มีปัญญาไปดวงจันทร์หรอกครับ) ** ดูตัวอย่าง "รถยนต์อเมริกันสไตล์" ที่เห็นคันใหญ่ๆเครื่องยนต์8สูบ จริงๆแล้วอุตสาหกรรมยานยนต์อเมริกาไม่ได้ตั้งใจฟุ่มเฟือยทำเครื่องยนต์ใหญ่กินน้ำมันอย่างที่คิดกัน สาเหตุจริงๆแล้วมันแย่ยิ่งกว่า "ฟุ่มเฟือย" อีก นั้นก็คือ "โง่" มากกว่า เพราะมันไม่มีปัญญาทำเครื่องยนต์4สูบเล็กแต่ให้แรงม้าสูงต่างหาก รถยนต์ตัวถังใหญ่ อเมริกันมันลองใส่เครื่องเล็ก6สูบแล้ว แต่ผลปรากฏว่าวิ่งไม่ออกเพราะแรงม้าไม่ถึง จึงต้องใส่เครื่องใหญ่8สูบแทน. ..จบ.. จากคุณ : Kooly - [ 16 ม.ค. 52 23:20:20 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ^ ^ ถ้าที่ว่ามาทั้งหมดเป็นเรื่องจิง  แล้วทำไมเมากา  ถึงเป็นประเทศมหาอำนาจได้ ทั้งที่ดูเหมือนจะมีความรู้น้อยเอามากๆ เลยอ่ะค่ะ จากคุณ : นู๋ขี้สงสัย - [ 17 ม.ค. 52 08:52:31 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ชอบเรื่องแบบนี้ มาโหวตให้ครับ จากคุณ : LightBreeze - [ 17 ม.ค. 52 20:13:58 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ทำไมมีพวก UFO และมนุษย์ต่างดาวชอบไปแถวโซนอเมริกานะคะ แถวเอเชียมีบันทึกเรี่องนี้บ้างมั้ย? ปล. พ่อเคยเล่าให้ฟังว่า ตอนปี2492 เคยมีจานบินตกลงมาที่สนามหลวงด้วย เป็นช่วงกลางวัน จริงรึเปล่าคะ? จากคุณ : my little jijie - [ 17 ม.ค. 52 20:48:04 ]

ความคิดเห็นที่ 47 สงสัยประเทศไทยจะโคตร"ฉลาด"เลยประดิษฐ์อะไรสู้เขาไมได้ซักกะอย่าง ถนัดซื้ออย่างเดียว จากคุณ : ผ่านมา - [ 19 ม.ค. 52 07:16:42 A:192.168.0.17 X:222.123.21.135 TicketID:199098 ]