ความคิดเห็นที่ 1 ที่นี้เรามาดูกันว่า นกตัวเล็กๆ พวกนี้ เคยทำเครื่องบิน เสียหายไปกี่ลำบ้าง 7 กันยายน 1905 ครั้งแรกที่มีรายงานอากาศยานชนนก  อ้างจ้างไดอารี่ของพี่น้องตระกูลไร้ท์  บินอยุ่ที่ความสูง 4751 เมตร แล้วได้ชนกับนกเข้าตัว หนึ่ง เป็นพันธุ์  red-winged blackbird มาดูครั้งแรกที่มีอากาศยานชนนกแล้วมีผู้เสียชีวิต 10 มีนาคม 1960 โดยอากาศยานชนเข้ากับนกนางนวลขณะบินแสดงบริเวณชายหาด แล้วตกลงไปที่ Boston Harbor มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 62 คน ครั้งนี้เป้นครั้งแรกที่เครื่องบินชนนกแล้ว มีผู้เสียชีวิต รูปของเจ้านกตัวแรกที่โดยเครื่องบินชนตัวแรกของโลก แก้ไขเมื่อ 19 ม.ค. 52 08:52:31 จากคุณ : Napoleonic - [ 19 ม.ค. 52 08:28:39 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่เว้นแม้กับเครื่องบินของทหาร 15 กรกฎาคม 1996 เครื่อง C-130 ของ บังแกเลีย ชนกับนกเข้าในช่วง ที่กำลัง ทำ approach แล้วก็ตกลง ลูกเรือ 4คนตาย ผู้โดยสารที่มากับเครื่อง 30 จาก 37 คนเสียชีวิต เครื่องบินทิ้งระเบิดรุ่น B1-B ชนกับนกเข้าบริเวณปีก แล้วสร้างความเสียหายให้กับระบบ hydraulic เครื่องนี้มีน้ำมันอยู่น้อยและอยู่ในช่วยการฝึก การบินด้วยความเร็วสูง จากคุณ : Napoleonic - [ 19 ม.ค. 52 08:29:18 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เครื่อง E-3 AWACS ถูกชนโดยฝูงห่านอย่างน้อย 3 โหล ในช่วง take off โดย อย่างน้อย 2 ตัวโดนดูดเข้าไปในเครื่องยนต์ที่ 2 แล้ว อย่าง 1 ตัว โดนดูดเข้าไปในเครื่องยนต์ที่ 1 เครื่อง ไม่สามารถควบคุมได้ จึงตกลง ฆ่า ชีวิต ลูกเรือ  24 คน อีกเครื่องเป็นเครื่อง  AWACS ของนาโต้ ชนกับนกระหว่างบินขึ้น นักบินพยายามที่   aborted  takeoff แต่เครื่องก็ไถ่ เข้าป่าไป ลูกเรือ 4คนได้รับาดเจ็บสาหัส จากคุณ : Napoleonic - [ 19 ม.ค. 52 08:29:51 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เครื่อง F-16 ของ  National guard ชนกับนกระว่างบินขึ้น นักบินไม่สามารถควบคุมเครื่องได้  นักบินจึงตัดสินใจดีดตัวออกมา นี้เป็น VDO ของF-16 ลำนั้น จากคุณ : Napoleonic - [ 19 ม.ค. 52 08:30:33 ]

ความคิดเห็นที่ 5 หรือ แม้กระทั้งนกกับยานอวกาศ เดือนกรกฎาคม ปี 2005 นกบินชนกับ ยาน Discovery ในระหว่างการปล่อยยานขึ้นไปทำภารกิจ   นี้เป็นคลิปของยานที่ชนนก จากคุณ : Napoleonic - [ 19 ม.ค. 52 08:33:00 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ทำไมอากาศยานชนนก จึงก่อให้เกิดความเสียหายมาก - นกจะถูกเครื่องยนต์ดูด เข้าไป  ทำให้เครื่องยนต์เกิดความเสียหาย  หรือ ใช้การไม่ได้ จนต้องขอลงฉุกเฉิน -เมื่อ ขอลงฉุกเฉิน ก็หมายถึงต้องปล่อยน้ำมัน หลายหมื่น ลิตรทิ้งไป ( อากาศยานชนนกส่วนใหญ่จะเกิดช่วง Take off rate) เนื่อง จากเครื่อง บินไม่ได้ออกแบบให้มารับแรงกระแทก ที่เกินกำหนด จึงต้องทำการทิ้ง น้ำมันบางส่วน  เพื่อให้เครื่องบินเบา ลง  เพราะว่าการเติมน้ำมัน จะเติมเผื่อไปในช่วงของการบินถึงสนามบินปลายทาง + การวนรอ อย่างน้อย 15-20 นาที ถ้าเป็นการลงปกติน้ำมันจะถูกใช้ไประหว่างทาง -เมื่อเครื่องลง ก็ต้องนำช่างมาสำหรับความเสียหาย เปลี่ยนอุปกรณ์  รวมทั้งหาเครื่องใหม่มาขนผู้โดยสาร เกิดการดีเลย์ หรือถ้าหาเครื่องไม่ได้สายการบินก็ต้องรับผิดชอบเรื่อง ค่า กิน นอน ให้กับผู้โดยสาร ซึ่งทั้งหมดนี้ก็จะกลายเป้นตัวเงินตามมา ในกรณีที่นกสร้างความเสียหายให้กับทั้ง 2 เครื่องยนต์ เหมือนเคสล่า สุด ที่ลงในแม่น้ำ ก็อาจจะหมายถึงชีวิต ลองดูคลิปของอากาศยานชนนก ที่เห็นชัดๆ เลยว่ามันสร้างความเสียหายยังไง จากคุณ : Napoleonic - [ 19 ม.ค. 52 08:34:06 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ในปี 2508 ICAO (องค์กรการบินพลเรือนระหว่างประเทศ) ได้เริ่มเก็บข้อมูลจากรัฐภาคี ด้วยแบบฟอร์มที่เป็นมาตรฐาน เพื่อ หาทางป้องกันหรือลดอันตราย  เนื่องจกนกไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่จะก้อให้เกิดอันตรายใหญ่หลวงได้ทั้งนั้น ที่นี้เรามาดูสถิติต่างๆกัน ช่วงปี 2523-2539 เกิดเหตุทั้งหมด 89,251 ครั้ง แบ่งตามทวีปได้ •Europe 42% •North America 32% •Asia 19 % •Africa 4% •Caribbean & S. America 2% •Other 1 % แบ่งตามสถานที่ •ในเขตสนามบิน 79% •บริเวณใกล้สนามบิน 11% •นอกสนามบิน 10% จากเหตุการณ์ 23,375 ครั้ง ส่วนของเครื่องที่ถูกชนจะเป็น •เครื่องยนต์ 19% •กระจก 15% •จมูกเครื่องบิน 15% •ปีก 14% •ใต้ท้องเครื่อง 13% •ลำตัว 12% •ล้อ 6% •อื่นๆ 6% จาก 22,660 ครั้ง ช่วงที่ถูกชนจะแบ่งได้ •Approach 38% •Take-off run 22% •Landing Roll 19% •Climb 16% •Other 5% จากคุณ : Napoleonic - [ 19 ม.ค. 52 08:37:16 ]

ความคิดเห็นที่ 8 แล้วอะไรละที่ดึงพวกมันเข้ามาในสนามบิน แหล่งอาหาร เช่นพวกขยะจากร้านอาหาร , หนอนแมลงตามในดิน-น้ำ , แมลงต่างๆที่มาเล่นไฟ (เนื่องจากสีขาวจะดูดแสงดีกว่า สีเหลืองและส้ม) , กินปลา กบเขียด ตามคูระบายน้ำต่างๆ ที่อยู่บริเวณสนามบิน ใช้เป็นที่กำบังหรือพักอาศัย นกชอบไปทำรังหรือพักอาศัยตามซอกในช่องหลังคา หรือ แผ่นระบายความร้อน ความปลอดภัย เนื่องจากคิดว่า Runway Taxiway ปลอดภัยจากพวกนกนักล่า  มันจึงมาหลบจากสัตว์ที่รบกวน เส้นทางอพยพผ่านของมัน บางชนิดใช้เส้นทางนี้อพยพผ่านประจำ วางไข่ เนื่องจากมันปลอดภัยจากนกนักล่า เนื่องจากไม่มีใครรบกวน นิยมมา วางขาริม runway Taxiway จากคุณ : Napoleonic - [ 19 ม.ค. 52 08:38:50 ]

ความคิดเห็นที่ 9 สงสารนกนะ จากคุณ : bbiggy - [ 19 ม.ค. 52 08:41:29 ]

ความคิดเห็นที่ 10 มาถึงการทำสนามบินเป็นนรกสำหรับนก  โดยการปรับปรุงด้านโครงสร้าง สิ่งแวดล้อม - ความคุมความสูงของต้นไม้ใหญ่ๆ  ตัดหญ้าแล้วก็เก็บเศษหญ้าทุกครั้ง เพื่อที่จะไม่ให้เป็นแหล่งหากินของนกกินแมลง - ถม ปรับพื้นที่ลุ่มน้ำขังเพื่อไม่ให้เป็นแหล่งหากิน - รื้อถอนสิ่งก่อสร้างที่ไม่ใช้เพื่อไม่ให้เป็นที่อาศัยของนก - หาวัสดุมาปกคลุมที่ ทิ้งขยะ รางระบายน้ำ  เพื่อป้องกันมันมากินอาหาร - รวมทั้งทำหลายแหล่งอาหารของมัน เช่น จับปลา หรือ ทำให้ระบบน้ำในรางระบายมีการไหลเวียน จากคุณ : Napoleonic - [ 19 ม.ค. 52 08:41:34 ]

ความคิดเห็นที่ 11 หลังจากที่เราได้ทำการปรับปรุง ด้านสิ่งแวดล้อมแล้ว ก็ยังจำเป็นที่จะต้องไล่นกออกจากท่าอากาศยานด้วย โดยอาจจะอาศัยวิธีการหลายๆแบบช่วยกันไป  ทั้งนี้ความสำเร็จแล้วแต่ละวิธีขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในแต่ละที่  รวมทั้งการปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง ทีนี้เรามาดูกันว่าเค้าใช้ วิธีไหนกันบ้าง การใช้เสียง ได้แก่ ใช้ปืนยิงให้เกิดเสียงดัง , อุปกรณ์เทคนิคเกี่ยวกับแสงไฟ , เสียงเตือนภัยของนก , เสียงร้องของสัตว์ล่าเหยื่อ   การใช้เสียงจะต้องศึกษาขั้นตอนใช้อย่างถูกต้อง เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ นกตกใจแล้วบินเข้าหาเครื่องบิน ในระหว่าง บินขึ้น หรือ ร่อนลง แต่ความเคยชินก็เป็นปัญหา เมื่อนกเคยชินก็จะลดกับการตอบสนองต่อเสียงดัง ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเรียนรู้ว่าไม่มีอันตราย รวมทั้งการใช้เสียงของสัตว์ล่าเหยื่อ บางครั้งก็อาจจะจำเป็นต้องฆ่านก เพื่อให้มันรู้ว่ามีอันตรายจริงๆ จากคุณ : Napoleonic - [ 19 ม.ค. 52 08:42:17 ]

ความคิดเห็นที่ 12 การใช้ภาพ ได้แก่ หุ่นไล่กา ธงสี แสงสว่าง หุ่นรูปสัตว์ล่าเหยื่อ แต่ปัญหาหลักก็จะเหมือนกับ ใช้เสียงคือ อาจจะทำให้นกที่ผ่านมาตกใจได้ แต่สำหรับนกประจำถิ่นอาจจะมีความเคยชินกับสิ่งเหล่านี้ บางครั้งการใช้ทั้งภาพ เสียง จะเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น จากคุณ : Napoleonic - [ 19 ม.ค. 52 08:42:49 ]

ความคิดเห็นที่ 13 สิ่งกีดขวาง สำหรับสัตว์ป่าหลายชนิด สิ่งที่สำคัญที่สุดคืออาหาร น้ำ และที่พักพิง ถ้าพวกมันไม่สามารถเข้าถึง สิ่งจำเป็นเหล่านี้ได้แล้ว ก็จะลดปัญหาในบริเวณท่าอากาศยานได้ สิ่งกีดขว้างนั้นมีหลายประเภทเช่น ป้องกันไม่ให้มาเกาะ หรือทำรังในอาคาร  และอาจจะป้องกันไม่ให้มากินพืชผล ต่างๆ จากคุณ : Napoleonic - [ 19 ม.ค. 52 08:43:21 ]

ความคิดเห็นที่ 14 สารเคมีอันตราย แบ่งออกได้ 3 ประเภท คือ สารพิษรุนแรงฆ่านกในเวลาไม่นานหลังจากินเข้าไป , สารต้านการแข็งตัวของเลือดและลดปริมาณแคลเซียม ตามปกติต้องกินติดต่อหลายๆครั้ง , ยาฆ่าแมลง ใช้ฉีดให้กับสัตว์ในดินที่เป็นอาหารนก เมื่อมันมากินก็จะได้รับสารเคมี   วิธีธรรมดาที่สุดในการวางยาก็คือ ใช้คอนเกาะอาบยาเบื่อ วางยาคลุกกับอาหาร จากคุณ : Napoleonic - [ 19 ม.ค. 52 08:43:55 ]

ความคิดเห็นที่ 15 สารเคมีไล่นก บ่อยครั้งที่สารจำพวกนี้ถูกนำมันใช้สิ่งที่ดึงดูดนกพันธุ์หนึ่งๆ ชอบมากที่สุด โดยการฉีดพ่นด้วยสารเคมีบางอย่างทำให้นกไม่เข้ามาให้พื้นที่ แต่บางสาร ก็ใช้ได้กับบางพันธุ์เท่านั้น อย่างไรก็ดีข้อสำคัญก็คือ จะต้องมีความปลิดภัยกับนกและสิ่งแวดล้อม สารเคมีชนิดนี้แบ่งได้2แบบ สารไล่นกชนิดที่มีผลทางด้านความรู้สึก ซึ่งมีลักษณะเป็นสารเหนียวๆทาตามอาคารเพื่อไม่ให้นกมาเกาะชายขอบอาคาร เช่น สารเหนียวใช้ทาไล่นกชนิดติดเท้า , สารติดเท้านก , สารเหนียวใช้ทาสำหรับไล่นก   สารไล่นกชนิดที่มีผลต่อพฤติกรรม สารชนิดนี้จะผ่านทางการกิน นกจะเครียด เมื่อไรรับสารและจะทำให้นกตัวอื่นๆตกใจ ชนิดที่นิยมกันที่สุดคือ Avitrol  ตามรูป จากคุณ : Napoleonic - [ 19 ม.ค. 52 08:44:27 ]

ความคิดเห็นที่ 16 การดักจับ การดักจับจะใช้กับนกในพันธุ์ที่ได้รับการคุ้มครอง แล้วนำไปปล่อยนอกท่าอากาศยาน เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายที่สูง และเสียเวลา  รวมทั้งต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญในการมาทำกับดัก จากคุณ : Napoleonic - [ 19 ม.ค. 52 08:46:34 ]

ความคิดเห็นที่ 17 อื่นๆ อาจจะใช้สุนัข หรือเหยี่ยว ไว้สำหรับการไล่นก การใช้เหยี่ยวนั้นจัดเป็นวิธีที่มีค่าใช้จ่ายสูง จึงต้องมีการวางแผนกลยุทธ์ หรือการควบคุมนกแบบอื่นๆ อีกเช่น ใช้ Benomy 1 และ Kainnite เพื่อควบคุมจำนวนไส้เดือนในบริเวณท่าอากาศยาน จากคุณ : Napoleonic - [ 19 ม.ค. 52 08:47:05 ]

ความคิดเห็นที่ 18 การใช้พื้นที่รอบท่าอากาศยาน เป็นที่ยอมรับกันว่าพื้นที่รอบๆท่าอากาศยานมีผลต่อการดึงดูดนกให้เข้ามาในพื้นที่ใกล้ท่าอากาศยาน และหลังจากนั้นก็จะเข้าไปในบริเวณท่าอากาศยานเพื่อ หาอาหาร เป็นที่พักอาศัย จากสถิติข้างต้น จะเห็นว่า 21% ของการชนเกิดขึ้นบริเวณนอกท่าอากาศยานด้วย   การใช้ที่ดินที่อาจจะก่อให้เกิดปัญหา การแปรรูปปลา ที่ดินเลี้ยงสัตว์ ที่ทิ้งขยะ หลังคาโรงงานและลานจอดรถยนต์ ร้านขายอาหาร ที่ซึ่งสัตว์ป่าอพยพมา ทะเลสาบ สนามกอล์ฟ โรงฆ่าสัตว์   สนามบินก็ต้องไปทำความเข้าใจ ข้อความร่วมมือกับชาวบ้านตามพื้นที่เหล่านี้ เพื่อลดอันตรายที่จะเกิดขึ้น จบแล้วครับ พอดีได้เรียนเรื่องนี้มาเลยเอาความรุ้มาแบ่งปันกัน ให้จะเอาวิธีพวกนี้ไปไล่นกที่บ้านก็ได้ เห็นตอนนี้เรื่อง นกกับเครื่องบินกำลังบูม หลายๆคนอาจจะสงสัยว่า ทางสนามบินหรือหน่วยงานต่างๆ เค้าควบคุมจัดการการอย่างไร ใน สนามบินมีหน่วยงานชื่อ Bird Control Unit เพื่อไล่นก แล้วหน่วยงานนี้ต้องมีการประชุมร่วมกันกับหน่วยงานอื่นๆ ของต่างชาติ (กลายเป้นปัญหาระดับชาติเลย) ทุกปี เรื่อง นกชนกับเครื่องบิน พร้มอทั้งแนวทางแก้ไขใหม่ จากคุณ : Napoleonic - [ 19 ม.ค. 52 08:50:37 ]

ความคิดเห็นที่ 19 อ่านจบแล้วครับ ด้วยความขอบคุณ จากคุณ : eera - [ 19 ม.ค. 52 09:46:36 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ร้ายแรงเหมือนกันนะเนี่ย จากคุณ : บะหมี่^^ผีแดง - [ 19 ม.ค. 52 09:58:00 ]

ความคิดเห็นที่ 21 5 กลายเป็นนกย่างไปเลย จากคุณ : fah_999_9 - [ 19 ม.ค. 52 10:29:55 ]

ความคิดเห็นที่ 22 แฮ่ๆๆ อย่างงี้ถ้าเลี้ยงเป็นฝูงๆ รอบสนามบิน นี่ถือเป็นอาวุธชีวะภาพ ได้ป่ะครับเนี่ย จากคุณ : ฟลุ๊ก (dybydx) - [ 19 ม.ค. 52 10:47:34 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ความคิดเห็นที่ 7 แบ่งตามสถานที่ •ในเขตสนามบิน 79% •บริเวณใกล้สนามบิน 11% •นอกสนามบิน 10% จากข้อมูลตรงนี้ชี้ให้เห็นว่า พื้นที่ที่สำคัญที่สุดในการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุนี้ คือ สนามบินและใกล้เคียง การจัดการพื้นที่ตรงนี้ได้จึงสำคัญอย่างยิ่งยวด ถ้าจัดการพื้นที่ได้ดีสามารถลดอุบัติเหตุได้สูงถึง 90% นกที่มีศักยภาพที่ก่อให้เกิดปัญหา คือนกที่มีขนาดกลางขึ้นไปจนถึงขนาดใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มนกน้ำ เช่น นกยาง นกปากห่าง นกเป็ดแดง ฯลฯ  พวกเหยี่ยว นกพิราบ เป็นต้น  ส่วนนกกินแมลงมักมีขนาดเล็ก จึงส่งผลกระทบน้อย อย่างไรก็ตาม การจัดการพื้นที่โดยการตัดหญ้าให้สั้นนั้น เป็นการตอบโจทย์ที่ผิด เพราะพื้นที่ที่ตัดหญ้าสั้น มักมีนกน้ำเข้ามาหากินเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะนกยางควาย นกยางเปีย นกปากห่าง (ดูรูปปลากรอบ) จากคุณ : leopoldamys - [ 19 ม.ค. 52 11:04:49 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เนื่องจากพื้นที่โล่ง ทำให้นกเหล่านี้สังเกตุเห็นสัตว์ตรูได้ชัดในระยะไกล ๆ แต่พื้นที่ที่ปล่อยให้รก และหญ้ายาว กลับไม่พบนกเหล่านี้ พบเพียงนกกินแมลงขนาดเล็ก ที่ก่อให้เกิดปัญหาการบินน้อย (รูปปลากรอบ ที่เป็นพื้นที่รกในสนามบินที่ไม่พบนกน้ำอาศัยอยู่) ดังนั้นการจัดการที่ถูกต้อง คือ การ ควบคุมความยาวของพื้นให้สูงพอ โดยไม่ขัดต่อระเบียบของการรักษาความปลอดภัยของสนามบิน จากคุณ : leopoldamys - [ 19 ม.ค. 52 11:09:14 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ส่วนแหล่งน้ำ จะพบว่ามีนกหากินตามริมน้ำเท่านั้น โดยเฉพาะนกยางเปีย  แก้ไขง่าย ๆ โดยทำตลิ่งให้ชัน และลึกพอที่นกยางเปียจะยืนอยู่ไม่ได้ ทำแง่าย ๆ แค่นี้ ก็ลดผลกระทบไปได้มหาศาล จากนกที่มีศักยภาพที่ก่อให้เกิดปัญหา แต่อย่างไรก็ตาม สนามบินบ้านเราไม่เคยมีรายงานไว้เลยว่า อุบัติเหตุแต่ละครั้ง ชนนกอะไรบ้าง? เมื่อไม่มีข้อมูลตรงนี้แล้วจะแก้ไขปัญหากันอย่างไร? แก้ไขเมื่อ 19 ม.ค. 52 11:12:53 จากคุณ : leopoldamys - [ 19 ม.ค. 52 11:11:06 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ไม่อยากจะเชื่อว่า นกตัวเล็กๆสามารถทำให้เครื่องบินตก ได้ และไม่น่าเชื่ออีกอย่างคือ ไม่ว่าเทคโนโลยีการบินจะพัฒทนาไปแค่ไหน ปัญหา นก ก้อ(ทำไม)ยังแก้ไขไม่ได้อีกนะเออ... จากคุณ : อาท (chan ty) - [ 19 ม.ค. 52 11:19:22 ]

ความคิดเห็นที่ 27 #4 อยากให้เช็คข้อมูลครับ เครื่องที่ชนไม่ใช่ F-16 แต่เป็น BAE Hawk http://www.flightglobal.com/articles/2006/02/01/204464/video-nftc-ct-155-hawk-pilots-eject-after-bird-strike.html The incident happened on 14 May 2004 while the aircraft was on a training mission involving UK Royal Air Force crew in Moose Jaw, Saskatchewan. The official accident report from the Canadian directorate of flight safety says the mission was a "navigation trip and part of a conversion syllabus designed to familiarise an RAF student with the NFTC Hawk variant." จากคุณ : Azureus - [ 19 ม.ค. 52 11:24:37 ]

ความคิดเห็นที่ 28 คนที่ต่อต้านสนามบินสุวรรณภูมิ มาอ่านอาจเกิดไอเดีย ไปเลี้ยงนก แต่!!!! ขอบอกก่อนว่าอย่าเอาไปใช้เด็ดขาด ทำไมน่ะเหรอ ถ้านกมันชนเครื่อง แล้วเครื่องจะโหม่งลงบ้านท่าน(ซึ่ง%ว่าจะเป็นคนที่อยู่ใกล้สนามบินค่อนข้างสูง) ก็ตัวใครตัวมันล่ะคร้าบ จากคุณ : SkullHeart - [ 19 ม.ค. 52 11:35:10 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณ คุณ Napoleonic มาก ๆ ครับ ข้อมูลดีเหลือเกิน เซ็ง...โหวตกระทู้ก็ไม่ได้...ให้ Give ใครก็ไม่ได้ จากคุณ : James Cook - [ 19 ม.ค. 52 11:38:23 ]

ความคิดเห็นที่ 30 น้ำเป็นของปลา ฟ้าเป็นของนก จากคุณ : T7Promoter - [ 19 ม.ค. 52 12:02:01 ]

ความคิดเห็นที่ 31 แล้วทำไมไม่ทำตะแกรงที่เครื่องบินครับ พอชนนก นกก็ติดตะแกรงแทนที่จะเข้าไปในเครื่อง จากคุณ : installation - [ 19 ม.ค. 52 12:09:46 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ^ ^ ^ !!! จากคุณ : " - [ 19 ม.ค. 52 12:31:54 A:192.168.0.17 X:124.120.191.166 TicketID:191799 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ผมว่าต้องออกแบบเครื่องบินใหม่ ทุกวันนี้เรามีข้อจำกัดเกี่ยวกับความปลอดภัยกับการ Design เครื่องบินแบบเก่า ผมว่าถ้าทำให้พื้นที่หน้าสัมผัสกับอากาศน้อยลง มีการ design ที่ลู่ลมในลักษณะแบบราบแทนที่จะโป่งพองในรูปลักษณะท่อยาวๆ  ถ้าออกแบบได้ดีเปอร์เซ็นต์ในการชนกับฝูงนกจะน้อยลง เพราะฝูงนกจะถูกแหวกไปพร้อมกับอากาศ และเครื่องยนต์ไอพ่นก็ต้องออกแบบให้่พื้นที่รับลมด้านหน้าน้อยลง หรืออาจจะต้องทำการปกปิดในส่วนนั้น ส่วนจะทำอย่างไรนั้นก็ต้องให้วิศวกรรออกแบบเพื่อชดเชยกับอากาศที่ไหลเข้าได้น้อยลงนั่นเอง จากคุณ : rbko - [ 19 ม.ค. 52 12:57:28 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ขนาดชนปีก หรือตัวถังเครื่องบิน ยังฉีกขาดขนาดนั้น ตะแกรงที่ไหนจะเอาอยู่ครับ จากคุณ : [Zero] - [ 19 ม.ค. 52 13:46:01 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ขอแย้ง ใน #1 ประโยคที่ว่า "นกจึงกลายมาเป้นภัยคุกคามอย่างรุนแรง มากขึ้น " ผมกลับ มองว่า "เครื่องบินเป็นภัยคุกคามของนกมากกว่า" ป.ล. เค้า อยู่กันบนฟ้ามาตั้งนานแล้ว แต่ มนุษย์เราๆ ต่างหากไปรบกวนเค้า จากคุณ : latissier - [ 19 ม.ค. 52 14:02:22 ]

ความคิดเห็นที่ 36 #25 ครับ สนามบินบ้านเราไม่เคยมีรายงานไว้เลยว่า อุบัติเหตุแต่ละครั้ง ชนนกอะไรบ้าง? เมื่อไม่มีข้อมูลตรงนี้แล้วจะแก้ไขปัญหากันอย่างไร? เรามีแบบฟอร์มต้องกรอก ส่งครับถ้าเราบินไปชนกับนกเข้า เพราะ ICAO เค้าสั่งมาให้ทำเราก็ต้องทำเราเป็น1ในรัฐภาคีขององค์กรนี้ เพียงแค่คนที่จะเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ คนธรรมดาคงเข้าถึงได้ยาก ฟอร์มมันหน้าตาเป็นแบบนี้ http://www.aviation.go.th/safety/ApplicationForms/BirdStrikeReportForm.pdf จากคุณ : Napoleonic - [ 19 ม.ค. 52 14:39:22 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เห็นด้วยกับคห31 การออกแบบทำตะแกรงเป็นรูปกรวยแหลมที่แข็งแรงพอครอบไว้ปากเครื่องไอพ่นนกที่มาปะทะก็จะถูกผลักให้กระเด็นออกไปแทนที่จะปะทะโดยตรง เพราะเท่าที่สังเกตุดู leading edge ของเครื่องบินสมัยนี้แข็งแรงพอที่จะไม่เสียหายจากการชนนก ปัญหามีแค่นกถูกดูดเข้าไปในเครื่องไอพ่นทำให้เครื่องดับ ซึ่งน่าจะแก้ได้ด้วยตะแกรงดังกล่าว แต่ถ้าตะแกรงนี้สร้าง drag ในการบินก็อาจทำให้เป็นลักษณะหดตัวเก็บได้เมื่อขึ้นพ้นเขตอันตรายแล้วก็ได้ จากคุณ : Cyber Sage - [ 19 ม.ค. 52 14:41:37 ]

ความคิดเห็นที่ 38 นกเป็นภัยคุกคามของเรา หรือว่าเราเป็นภัยคุกคามของนกกันแน่เนี่ย จากคุณ : Dr.Studios - [ 19 ม.ค. 52 14:59:29 ]

ความคิดเห็นที่ 39 F111 VS Pelican จากคุณ : PUMPKINbig - [ 19 ม.ค. 52 15:02:51 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เรื่องน่ากลัว ของเจ้านกตัวน้อย-น้อย.. จากคุณ : primjang - [ 19 ม.ค. 52 15:17:54 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ... เข้ามาดู ชวนเพื่อน ๆ ไปดูนกกันครับ [ + + + สั พ เ พ เ ห ร ะ + + + ] http://www.pantip.com/cafe/gallery/topic/G7423430/G7423430.html http://www.google.co.th/search?q=PANTIP+G7423430 แก้ไขเมื่อ 19 ม.ค. 52 16:02:31 แก้ไขเมื่อ 19 ม.ค. 52 16:00:19 จากคุณ : Mr. Fusion - [ 19 ม.ค. 52 15:55:06 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ได้ความรู้อีกแล้วครับ ขอบคุณที่เอื้อเฟื้อข้อมูลนะครับ คห.31 ให้ใส่ตะแกรง คห.37 ตะแกรงรูปกรวย แก้ปัญหาได้มั้ยครับ รบกวนถามผู้รู้ จากคุณ : eping - [ 19 ม.ค. 52 16:19:37 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ตามความคิดผมขนาดลำตัวของเครื่องบิน มันยัง ฉีกได้ขนาดนี้ตะแกรงเหล็ก เกิดนกชน เหล็กหลุดเข้าไปข้างในเครื่องยนตร์ด้วย มันจะระเบิด เอา ปกติถ้านกหลุดไปอย่างดีแค่พัง ไม่ถึงกับระเบิด อีกเรื่อง ก็คงเป้นเรื่องการไหลเวียนของอากาศ เหมือนกับเวลาเราถอดที่ครอบพัดลมออก แล้วลมที่เบามาหาเรามันจะแรงกว่า ที่ใส่ผาครอบ จากคุณ : Napoleonic - [ 19 ม.ค. 52 16:27:58 ]

ความคิดเห็นที่ 44 อย่าไปชนเบิร์ดนี้เข้าละกัน เดี๋ยวแม่ยกเคือง.... จากคุณ : หมอเถื่อน - [ 19 ม.ค. 52 16:44:16 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ตะแกรง???? เครื่องบินโดยสาร ความเร็วต่ำๆ ... ตอนบินหนะ ... 1,000 กม/ชม.นะครับ ไม่ใช่ยี่สิบนา น้อตเหล็กที่หนาๆ ร่วม 1/4 นิ้ว ที่ขันเข้าไปไม่เรียบร้อย ยังโดนแรงลมปะทะจนฉีกขาดได้เลย จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 19 ม.ค. 52 20:07:44 ]

ความคิดเห็นที่ 46 อยากดูที่ๆมีหญ้าสั้นๆเยอะๆ หนองน้ำ ตันไม้ให้นกเกาะ ข้างๆRunway เลยไหมครับ แถมต้องจ่ายงบประมาณไปดูแลมันอีก ขอนำเสนอ สนามกอล์ฟกานตรัตน์ ไม่รู้ว่าเขาควบคุมนกกันยังไงถีงอยู่ร่วมกันมาได้เป็นสิบๆปี ใครทำงานอยู่ตรงนั้นบอกหน่อยครับ อยากรู้จริงๆนะ เอ้า ไม่ได้ประชด เพราะลงหนังสือกอล์ฟหลายเล่มแล้ว ว่าเป็นสนามกอล์ฟ แห่งเดียวในโลกที่ตั้งอยู่กลาง Runway ของสนามบิน จากคุณ : อัสสุชลแห่งตารา - [ 19 ม.ค. 52 21:59:41 ]

ความคิดเห็นที่ 47 Bird Strike จากคุณ : จักรยานคนจน - [ 19 ม.ค. 52 22:59:30 ]

ความคิดเห็นที่ 48 เคยเห็นแต่เครื่องบินขับเสียงดังๆ บินผ่านไปๆมาตอนเค้าสร้าง สนามบินสุวรรณภูมิใหม่ๆ   ไม่ค่อยจะเป็นอันเรียนกันเลย เจอเสียงแบบนั้น เห็นเค้าว่าบินเพื่อไล่ นกในพื้นที่ให้ออกไป ไม่รู้ชัวร์หรือมั่ว จากคุณ : darkjunk - [ 20 ม.ค. 52 00:11:01 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ป้องกันนกจากเครื่องบิน แล้วมีวิธีป้องกันคนจากสนามบินบ้างไหม?? เผ่นนนดีกว่า..............=P จากคุณ : บะหมี่คุง - [ 20 ม.ค. 52 00:38:03 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ^ M16 พร้อมแอมโมฯต่อรปภ.หนึ่งนายสำหรับกรณีในคห.49 อย่า... แม้แต่จะคิดอีกเชียว... ว๊า... พูดอะไรไปเนี่ย เค๊ายิงนกบุกรุกกันอยู่นี่ ว่าแต่... ถ้าไม่ใช้ตะแกรง... เปลี่ยนเครื่องไอพ่นให้เป็น food processor hybrid ไปน่าจะง่ายกว่า เข้าไปแล้วปั่นเป็นอณูไปเลย (หลบรองเท้าคนรักนกก่อน) เรื่องนี้พูดยากนะ ถ้าไม่ใช่เหตุสุดวิสัย ไม่มีใครอยากทำร้ายนกแน่นอน แต่ถ้าไม่มีเครื่องบิน เราก็อด ถ้าไม่มีนก เราก็แย่ มันยากที่จะทำให้ลงตัวทั้งสองอย่างเพราะมันอันตรายจริงๆ... สงสารห่านตัวบักเอ๊กอัดปีกเครื่องที่หัวกระทู้มากๆ จากคุณ : abstract - [ 20 ม.ค. 52 01:28:17 A:124.120.145.218 X: TicketID:071021 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ความคิดเห็นที่ 36 #25 ครับ สนามบินบ้านเราไม่เคยมีรายงานไว้เลยว่า อุบัติเหตุแต่ละครั้ง ชนนกอะไรบ้าง? เมื่อไม่มีข้อมูลตรงนี้แล้วจะแก้ไขปัญหากันอย่างไร? เรา มีแบบฟอร์มต้องกรอก ส่งครับถ้าเราบินไปชนกับนกเข้า เพราะ ICAO เค้าสั่งมาให้ทำเราก็ต้องทำเราเป็น1ในรัฐภาคีขององค์กรนี้ เพียงแค่คนที่จะเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ คนธรรมดาคงเข้าถึงได้ยาก ฟอร์มมันหน้าตาเป็นแบบนี้ http://www.aviation.go.th/safety/ApplicationForms/BirdStrikeReportForm.pdf จากคุณ : Napoleonic - [ 19 ม.ค. 52 14:39:22 ] ขอบคุณครับที่แจ้งให้ทราบ แต่ในรายงานจริง ๆ นั้น ไม่มีการระบุชนิดนกที่ถูกชนเลยครับ เมื่อไม่มีการระบุชนิดนกก็ยากที่จะแก้ปัญหา โดยเฉพาะการจัดการเรื่องสิ่งแวดล้อมและถิ่นที่อยู่อาศัย มีข้อมูลไม่ยืนยัน คือ ที่สุวรรณภูมิ ชนนกปากห่าง 1 ครั้งเท่านั้น ที่เหลือยังไม่รู้ ไม่แน่ใจว่าเป็นนก หรือเป็นค้างคาว จากคุณ : leopoldamys - [ 20 ม.ค. 52 07:25:05 ]

ความคิดเห็นที่ 52 สงสารนกเนอะ ยังไงนกกับท้องฟ้าก็เรื่องของธรรมชาติ แต่เครื่องบิน ไม่ใช่ จากคุณ : HeLL_Is_HeRe - [ 20 ม.ค. 52 12:15:30 ]

ความคิดเห็นที่ 53 นกกะสนามบินมันเป็นเรื่องคู่กันที่ปวดหัวกันทั่วโลก จากภาพและข้อมูลของจขกท.ก็เป็นตัวอย่างที่ดี จากประสบการณ์นกบ้านเรายังตัวไม่ใหญ่เมื่อเทียบกับนกเมืองนอก แต่ก็ไม่ใช่ไม่เคยเข้าไปในเครื่องยนต์ หรือชนกับเครื่องบิน (ในที่นี้ผมหมายถึงเครื่องโดยสารทั่วๆไป) เวลาเข้าไปในเครื่องยนต์ ส่วนมากแล้วจะโดนใบพัดส่วน Fan ปั่นซะเป็นเศษ แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าซัดนกเข้าไปแล้ว (ในกรณีไม่ร้ายแรงนัก) เครื่องยนต์จะมี Vibration ครับ เนื่องจากถึงแม้ว่านกจะเล็ก กระดูกจะอ่อน แต่มันก็ทำให้ Fan เบี้ยวผิดรูปไป ไม่มากก็น้อย จากการคาดการณ์ของผม (เน้นว่าของผมคนเดียว) ไอ้เจ้า Vibration นี่แหละครับทำให้เครื่องยนต์ดับ เพราะมันเป็น Safty ของเครื่อง ถ้า Dynamic Balance เสียไปมันจะสั่นมากๆ จนโครงสร้างเสียหายได้ อันนี้เรื่องใหญ่ ใหญ่มากๆแน่ะครับ ปีกขาดเนี่ย แต่ถ้าVibration นิดหน่อย ก็เอา Blade ของ Fan มาเจียรได้นิดหน่อย พอกล้อมแกล้ม หรือจะเปลี่ยนก็ได้ แต่ต้องเปลี่ยนยกชุด เพราะเขาทำ Dynamic Balance มาเป็นชุดๆ ส่วนที่ชนลำตัวหรือ L/E ส่วนมากไม่เท่าไร เอาผ้ามาเช็ดรอยเลือดก็จบ (ถ้าไม่บุบเสียหายหรือมีการฉีก) จากคุณ : Akysar - [ 21 ม.ค. 52 00:27:05 ]

ความคิดเห็นที่ 54 สงสารทั้งคน สงสารทั้งนก จะว่าไปมนุษย์เราเบียดเบียนสิ่งมีชีวิตประเภทอื่นเยอะเหมือนกันนะ... จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ - [ 21 ม.ค. 52 01:44:22 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ พิมพ์ผิดเยอะมาก แก้ไขด้วยครับ จากคุณ : ikkyu - [ 21 ม.ค. 52 11:06:51 ]

ความคิดเห็นที่ 56 มนุษย์ช่างเบียดเบียนโลกเหลือเกิน .. มาหลังเค้าเป็นล้านปี ยังจะว่าเค้าคุกคามอีก เฮ้อ ... สงสารนก  แต่ ขวางความต้องการของมนุษย์ไม่ได้ ขอภาวนาว่า อย่าให้มนุษย์เห็นแก่ตัวมากจนทำลายทุกสิ่งเพื่อตัวเองเลย .. ขอให้มีทางออกที่ปลอดภัยทั้งคนและผู้ร่วมโลกทุกชีวิต ครับ .. จากคุณ : ทุ่มเท - [ 21 ม.ค. 52 11:26:52 ]

ความคิดเห็นที่ 57 น่ากัวจริงๆ จากคุณ : blueboyhub - [ 21 ม.ค. 52 21:24:47 ]

ความคิดเห็นที่ 58 เคยดูซีรี่ย์เกาหลีเรื่อง air city มีฉากที่แสดงให้เห็นว่าปัญหาเรื่องนกนี้มันใหญ่มากจริงๆ นะ แก้กันจนไม่ได้นอนเลย สนุกนะ ไม่ค่อยมีเรื่องราวความรักด้วย ดูแล้วเราว่าได้สาระมากกว่า จากคุณ : faiene - [ 22 ม.ค. 52 13:55:49 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ขอบคุณสำหรับความรู้นะคะ^^ จากคุณ : LoOkPlA3*12 - [ 23 ม.ค. 52 21:40:06 ]

ความคิดเห็นที่ 60 วิธีแก้คือติดใบพัดคมๆ หน้าเครื่องยนต์ไอพ่นอีกที (ลดเกรดกลายเป็นเครื่องบินใบพัดไปเลย) จากคุณ : ดาวดึงส์ - [ 24 ม.ค. 52 11:02:55 ]