ความคิดเห็นที่ 1 ทฤษฎีทางฟิสิกส์เกี่ยวกับการเดินทางข้ามเวลาที่เราต้องยกความดีความชอบให้คือ ทฤษฎีสัมพัทธภาพของไอน์สไตน์ครับ ไม่มีทฤษฎีใดที่จะเกี่ยวข้องกับการเดินทางข้ามเวลาได้เท่ากับทฤษฎีนี้อีกแล้ว ทฤษฎีสัมพัทธภาพคืออะไร? เพื่อเป็นการปูพื้นฐาน ผมจะอธิบายทฤษฎีสัมพัทธภาพอย่างคร่าวๆ สำหรับผู้ที่ทราบอยู่แล้วก็ข้ามไปได้เลยครับ ทฤษฎีสัมพัทธภาพแบ่งเป็น 2 กรณี 1. ทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษ (Special relativity) อธิบายการเคลื่อนที่ของวัตถุที่ไม่มีความเร่ง (ประยุกต์หลักสัมพัทธภาพกับกรอบอ้างอิงเฉื่อยเท่านั้น) 2. ทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป (General relativity) อธิบายการเคลื่อนที่ของวัตถุที่มีความเร่งหรือเกี่ยวกับแรงโน้มถ่วง (ประยุกต์หลักสัมพัทธภาพให้ใช้ทั่วไป กล่าวคือ ใช้ได้กับทุกกรอบอ้างอิง) เรามาดูทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษกันก่อน ในยุคกาลิเลโอ ความเข้าใจเกี่ยวกับสัมพัทธภาพนั้นเหมือนกับที่เราได้เรียนในฟิสิกส์ม.ปลายกล่าวคือ กฎทางฟิสิกส์จะเหมือนกันสำหรับผู้สังเกต 2 คนที่เคลื่อนที่สัมพัทธ์กันด้วยความเร็วคงที่ ยกตัวอย่างเช่น คุณ Choco-mix กำลังจอดรถสีแดงอยู่นิ่งๆรอสัญญาณไฟเขียว ส่วนคุณ primjang กำลังขับรถสีฟ้าด้วยความเร็ว 60 km/hr ฝ่าไฟแดงผ่านหน้าคุณ Choco-mix ไปอย่างหน้าตาเฉย สิ่งที่คุณช็อคโก้มิกซ์เห็นคือ คุณพริมจังเคลื่อนที่ผ่านหน้าไปด้วยความเร็ว 60 km/hr http://www.vcharkarn.com/uploads/45/45429.gif ส่วนคุณพริมจังล่ะ คุณพริมจังก็จะเห็นคุณช็อคโก้มิกซ์เคลื่อนไปข้างหลังด้วยความเร็ว 60 km/hr เช่นกัน เข้าใจไม่ยากนะ http://www.vcharkarn.com/uploads/45/45430.gif เขยิบความเข้าใจขึ้นมาอีกนิด ทีนี้สมมติว่า คุณพริมจังยังคงขับรถด้วยความเร็ว 60 km/hr อยู่ ส่วนคุณช็อคโก้มิกซ์เนื่องจากอารมณ์เสียที่ถูกคุณพริมจังแซง ก็เร่งความเร็วจนถึง 100 km/hr ขับแซงหน้าคุณพริมจังในที่สุด ดังนั้น สิ่งที่คุณพริมจังเห็นคือ คุณช็อคโก้มิกซ์เคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วยความเร็ว 100-60 = 40 km/hr ส่วนคุณช็อคโก้มิกซ์ก็จะเห็นคุณพริมจังเคลื่อนที่ไปข้างหลังด้วยความเร็ว 40 km/hr เช่นกัน ขยับขึ้นมาอีกหน่อย แล้วถ้าหากคุณช็อคโก้มิกซ์กำลังขี่จรวดด้วยความเร็ว 90% ของความเร็วแสงในสุญญากาศ (c ~ 3 x 108 m/s) พุ่งตรงเข้าหาแหล่งกำเนิดแสงเส้นเดี่ยว ดังนั้นคุณช็อคโก้มิกซ์ต้องเห็นแสงกำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 0.9c - c = -0.1c หรือ 10% ของความเร็วแสงในสุญญากาศในทิศทางตรงข้ามกับจรวด ถูกต้องหรือไม่? คำตอบคือผิด!! สิ่งที่เกิดขึ้นคือ คุณช็อคโก้มิกซ์จะเห็นความเร็วแสงเท่าเดิมเคลื่อนที่ในทิศทางตรงข้ามกับจรวด และเวลาของคุณช็อคโก้มิกซ์เดินช้าลง เมื่อวัตถุเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงใกล้ความเร็วแสง สิ่งที่เกิดขึ้นคือสัมพัทธภาพแบบกาลิเลโอจะใช้ไม่ได้ผล! ทั้งหมดนี้พิสดารเกินสามัญสำนึกของคนทั่วไป แต่สามารถอธิบายด้วยทฤษฎีสัมพันธภาพพิเศษครับ สัจพจน์ในทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษ 1. กฎเกณฑ์ทางฟิสิกส์เหมือนกันในทุกๆกรอบอ้างอิงเฉื่อย (สัมพัทธภาพแบบกาลิเลโอ) 2. อัตราเร็วของแสงในสุญญากาศมีค่าคงที่สำหรับทุกๆผู้สังเกต สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาจากทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปที่จะต้องนำมาใช้ในการอธิบายการเดินทางข้ามเวลาคือ การยืดออกของเวลา (time dilation) – เวลาที่ล่วงไประหว่างเหตุการณ์สองอย่างนั้นไม่แปรเปลี่ยนจากผู้สังเกตหนึ่งไปยังผู้สังเกตหนึ่ง แต่ขึ้นอยู่กับความเร็วสัมพัทธ์ของกรอบอ้างอิงของผู้สังเกต แก้ไขเมื่อ 27 ม.ค. 52 14:10:21 จากคุณ : Cryptomnesia - [ 26 ม.ค. 52 16:24:17 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป เช่นเดียวกันกับทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษ ทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปก่อกำเนิดขึ้นเพื่ออธิบายปรากฏการณ์ที่ฟิสิกส์ยุคนิวตันอธิบายไม่ได้ คือความพยายามที่จะพยากรณ์เส้นทางโคจรของดาวพุธ ซึ่งตามทฤษฎีของนิวตันแล้วจะต้องมีดวงจันทร์ล้อมรอบดาวพุธ แต่เมื่อพิสูจน์พบว่าไม่มีดวงจันทร์โคจรรอบดาวพุธ นักวิทยาศาสตร์จึงคาดว่าทฤษฎีของนิวตันต้องมีบางอย่างผิดพลาด ซึ่งปัจจุบันเราก็เข้าใจว่าทฤษฎีแรงโน้มถ่วงของนิวตันเป็นเพียงการประมาณการณ์ที่ดีมากๆ ทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปทำนายการเบี่ยงเบนวงโคจรของดาวพุธซึ่งได้รับอิทธิพลจากแรงโน้มถ่วงของดวงอาทิตย์ได้แม่นยำกว่าทฤษฎีแรงโน้มถ่วงของนิวตัน ไอน์สไตน์กล่าวว่าความโน้มถ่วงและความเร่งเป็นสิ่งเดียวกัน นอกจากนี้เขายังรวมอวกาศกับเวลาเข้าด้วยกันในทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป กลายเป็น 4 มิติ (M-theory พิสูจน์ในภายหลังว่าจักรวาลมีทั้งหมด 11 มิติ แต่เราจะไม่พูดถึงมันในที่นี้---อ่านย้อนหลังได้ในกระทู้น้องวินครับ) คือกว้าง-ยาว-สูง และเวลา ทอถักเป็นพื้นผ้าแห่งจักรวาล ไม่ต้องพูดถึง 11 มิติ แค่ 4 มิตินี้ก็เข้าใจยากแล้ว เพื่อให้พูดกันรู้เรื่องจึงขอลดให้ง่ายที่สุดเหลือแค่ 2 มิติ คือ อาจจะเป็นอวกาศทั้ง 2 มิติ (ไม่รวมเวลา) หรือ อวกาศ 1 มิติ + เวลา อีก 1 มิติ เปรียบเปรยว่าถ้า 2 มิติเป็นแบบนี้ แล้ว 4 มิติจะเป็นแบบไหน นี่คือที่มาของแบบจำลองผืนยางบางๆ ที่ฝรั่งเรียกว่า Rubber Sheet Model ตามแบบจำลองนี้ ในบริเวณที่ไม่มี ความโน้มถ่วง อวกาศจะมีลักษณะ “แบน” (flat space) ซึ่งเป็นกรณีที่ทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษใช้ได้ดีครับ แต่ถ้าหากมีความโน้มถ่วงมาเกี่ยวข้อง เช่น บริเวณนั้นมีดาวฤกษ์หรือดาวเคราะห์อยู่ใกล้ๆ อวกาศบริเวณนั้นจะ “โค้ง” (curved space) ในกรณีนี้ ทฤษฎีที่ถูกต้องคือทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป เพราะเป็นทฤษฎีเกี่ยวกับความโน้มถ่วงที่บอกว่า ความโน้มถ่วงเป็นผลมาจากความโค้งของอวกาศ จินตนาการเหมือนเรามีผืนผ้าขนาดใหญ่ที่ขึงให้แบนเรียบ คุณโยนลูกบอลหนึ่งลูกลงไปกลางผืนผ้านั้น ผ้าก็จะยุบตัวลงไปตำแหน่งที่ลูกบอลนั้นอยู่ ยิ่งลูกบอลใหญ่เท่าไรผ้าก็ยิ่งยุบตัวลงมาก—เปรียบเทียบว่ายิ่งมวลมาก อวกาศก็ยิ่งโค้งงอมาก ทีนี้หากคุณวางลูกเทนนิสลงบนผืนผ้า ลูกเทนนิสที่มีมวลน้อยกว่าลูกบอลจะเคลื่อนหมุนเป็นวงตามความโค้งที่เกิดขึ้น—เปรียบเหมือนดาวเคราะห์โคจรรอบดวงอาทิตย์ สิ่งที่อยากจะเน้นย้ำคือ ตามทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป เราไม่สามารถแยกกาลและอวกาศออกจากกัน ดังนั้นวัตถุที่มีมวลบิดทั้งกาลและอวกาศให้โค้งงอได้ ตรงนี้ขอเน้นย้ำเลยครับ เพราะว่ามีความสำคัญกับทฤษฎีการข้ามเวลาที่จะพูดถึงต่อไป จากคุณ : Cryptomnesia - [ 26 ม.ค. 52 16:24:49 ]

ความคิดเห็นที่ 3 หมดส่วนปูพื้นฐานไปมากแล้ว ก็จะมาพูดเรื่องแนวคิดทฤษฎีเกี่ยวกับการเดินทางข้ามเวลาซะทีนะครับ เฮ้อ...เริ่มเหนื่อยละ การเดินทางไปในเวลาที่เชื่อกันว่าไม่ขัดกับหลักการทางฟิสิกส์ในปัจจุบันมี 2 แนวใหญ่ๆ ที่ฟังดูง่าย ๆ (แต่ทำยาก) แบบนี้ครับ • แนวทางที่ 1 : ใช้ ‘บ่วงเวลา’ ในอวกาศ-กาล นักฟิสิกส์ได้แสดงให้เห็นว่า บนอวกาศ-กาลที่บิดเบี้ยวนั้น อาจจะมีเส้นทางบางเส้นทางซึ่งถ้าหากคุณออกเดินทางจากจุดเริ่มต้น ณ เวลาหนึ่ง แล้วเดินทางออกไปเรื่อยๆ ตามทางที่ว่านี้ พอผ่านไปได้สักพัก คุณจะพบว่าคุณกลับมาที่จุดเริ่มต้น ณ เวลาเดิม นักฟิสิกส์เรียกเส้นทางดังกล่าวว่า บ่วงเวลา (ภาษาง่ายๆ เรียกว่า time loop ส่วนภาษาที่เป็นทางการจะเรียกว่า closed timelike curve) ซึ่งการที่คุณเดินทางกลับมาที่เดิม ณ เวลาเดิมได้ก็แสดงว่า ตลอดเส้นทางที่คุณเดินทางอยู่นั้น คุณกำลังเดินทางกลับไปยังอดีตนั่นเอง • แนวทางที่ 2 : ใช้ ‘ทางลัด’ ในอวกาศ-กาล ถ้าเราสามารถทำให้อวกาศ-กาลบิดเบี้ยวไปเกิดเป็นทางลัดซึ่งเชื่อมบริเวณสองบริเวณในอวกาศ-กาลได้ และถ้าทางลัดที่ว่านี้เชื่อมบริเวณสองบริเวณที่มีเวลาต่างกัน ก็หมายความว่า เราสามารถกลับไปในอดีตหรือรุดหน้า ไปสู่อนาคตได้ ดังนั้น ยานเวลาของเราต้องเป็นเครื่องมือที่มีความสามารถในการสร้างทางลัดที่ว่าได้นั่นเอง จากคุณ : Cryptomnesia - [ 26 ม.ค. 52 16:25:15 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ยานเวลาแบบทรงกระบอกหมุน (rotating dust cylinder) แนวคิดนี้มาจากหลักการที่ว่า มวลสารทำให้อวกาศ-กาลเกิดการบิดเบี้ยวตามทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป จุดเริ่มต้นแรกสุดมาจากฝีมือของ ดับลิว.เจ. แวน สต็อคคุม (W.J. van Stockum) ซึ่งในปี ค.ศ. 1937 นักฟิสิกส์ท่านนี้ได้แก้สมการสนามในทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปของไอน์สไตน์และพบบ่วงเวลาโผล่ออกมาจากคำตอบของสมการ แต่ตอนนั้น ไม่มีใครคิดว่าเจ้าบ่วงเวลานี้จะสามารถใช้สร้างเป็นยานเวลาได้ คุณสต็อคคุมก็เลยไม่ดังเท่าที่ควร ยิ่งไปกว่านั้นแนวคิดนี้ต้องอาศัยวัตถุรูปทรงกระบอกยาวเป็นอนันต์ และมีความหนาแน่นสูงมหาศาลหมุนรอบตัวเองในอวกาศ ซึ่งจะทำให้อวกาศ-กาลบริเวณใกล้ๆ กับผิวของทรงกระบอกจะเกิดการบิด-เบี้ยวไป เกิดเป็นบ่วงเวลา ต่อมา ในปี ค.ศ. 1974 (พ.ศ. 2517) นักฟิสิกส์หนุ่มชาวอเมริกันชื่อ แฟรงค์ ทิปเลอร์ (Frank Tipler)ได้นำทฤษฎีเดิมของสต็อคคุม มาปัดฝุ่น และยืนยันว่า ถ้าต้องการให้เกิดบ่วงเวลาจริงๆ ก็ต้องใช้วัตถุรูปร่างทรงกระบอกความหนาแน่นสูง ยาวเป็นอนันต์ เหมือนอย่างทฤษฎีเดิมนั่นแหละ แต่ต้องทำให้มันหมุนรอบแกนตามยาวของตัวเองเร็วจี๋ระดับหลายพันรอบต่อวินาที ซึ่งถ้านักท่องเวลาเข้าและออกได้จังหวะเหมาะสมแล้ว เขาก็อาจจะเดินทางกลับไปสู่อดีตได้! แต่นี่ก็ยังไม่ได้แก้ปัญหาเรื่องขนาดของทรงกระบอกที่ยาวเป็นอนันต์ ซึ่งคุณทิปเลอร์ก็ไม่ยอมแพ้ครับ  เขาบอกว่า เอาล่ะ! รู้แล้วว่าของยาวๆ ขนาดนั้นมันทำไม่ได้ งั้นผมขอลดขนาดเหลือแค่กว้าง 10 กิโลเมตร ยาว 100 กิโลเมตร ก็แล้วกัน! (ขนาดเล็กจังเลยนะครับ) แต่ไม่รับประกันว่า จะเกิดบ่วงเวลาที่ทำให้คุณเดินทางไปในเวลาได้สำเร็จนะ  แถมเจ้าทรงกระบอกขนาดมหึมาที่หมุนเร็วๆ นั้นก็อาจจะโก่งงอหรือแตกหักได้ง่ายๆ อีกต่างหาก จากคุณ : Cryptomnesia - [ 26 ม.ค. 52 16:25:56 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เอกภพของโกเดล (Godel’s universe) แล้วถ้าหากว่าเอกภพกำลังหมุนอยู่ล่ะ และมียานอวกาศเดินทางรอบเอกภพที่กำลังหมุนอยู่นั้น ก็จะย้อนเวลาได้เช่นกัน ในปี ค.ศ. 1949 (พ.ศ. 2492) นักฟิสิกส์ชื่อ เคิร์ต กอเดล (Kurt Godel) ได้สร้างความฮือฮาให้กับวงการฟิสิกส์ด้วยการพิสูจน์ด้วยคณิตศาสตร์ว่า ถ้าหากเอกภพทั้งเอกภพหมุนอยู่อย่างต่อเนื่อง เจ้า ‘บ่วงเวลา’ หรือเส้นทางปิดที่จะนำคุณและผมกลับไปยังอดีตก็จะมีได้อย่างแน่นอน แต่เส้นทางการเดินทางนั้นจะต้องเป็นวงกลมใหญ่ยาวไกล ซึ่งเมื่อคุณเดินทางไปเรื่อยๆ จนกลับมาที่ตำแหน่งเดิม คุณก็จะพบว่า คุณมาถึงก่อนเวลาที่คุณจะเริ่มออกเดินทาง! แต่แนวคิดนี้ก็ถูกตีตกไป เพราะมีนักฟิสิกส์ออกมาแย้งว่าเอกภพไม่ได้กำลังหมุนอยู่ หรือไม่ก็ว่า เอกภพที่กำลังหมุนและไม่ได้หมุนไม่มีความแตกต่างกัน จากคุณ : Cryptomnesia - [ 26 ม.ค. 52 16:26:23 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ยานเวลาซึ่งใช้คอสมิกสตริง (cosmic string) นักฟิสิกส์ที่ไม่ปฏิเสธแนวคิดจักรวาลหมุนหรือทรงกระบอก ก็บอกว่ามีอีกวิธีหนึ่งที่ทำได้โดยไม่ต้องอาศัยโครงสร้างใหญ่มหึมาพิสดารขนาดนั้น แค่หาคอสมิกสตริงซึ่งกำลังหมุนอยู่ (rotating cosmic string) ให้พบก็เท่านั้นเอง คอสมิกสตริงดังกล่าวเป็นเหมือนบ่วงเวลาที่บิดผันกาล-อวกาศเช่นกัน แล้วคอสมิกสตริงคืออะไร? คอสมิกสตริงคือวัตถุประหลาดที่มีความบางเฉียบมากๆหนาไม่เกินขนาดของอะตอม แต่มีความหนาแน่นเป็นอนันต์ และถือกำเนิดมาพร้อมกับจักรวาลช่วงที่เกิดบิ๊กแบง สายเดี่ยวจักรวาลนั้นอาจเป็นเส้นตรงยาวๆ ก็ได้ หรือ อาจมีลักษณะเป็นห่วงก็ได้ แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน มันจะไม่มีหัว ไม่มีหาง นักฟิสิกส์เชื่อว่าในจักรวาลน่าจะยังมีคอสมิกสตริงหลงเหลืออยู่บ้าง และถ้าเราโชคดีก็อาจจะพบมัน บางท่านก็บอกว่า ไม่ต้องให้เจ้าคอสมิกสตริงหมุนก็สามารถสร้างบ่วงเวลาได้เหมือนกัน ในปี ค.ศ.1991 (พ.ศ. 2534) เจ.ริชาร์ด ก็อตต์ ที่ 3 นักฟิสิกส์ดาราศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน ได้เสนอแนวคิดว่า ถ้าให้สายเดี่ยวจักรวาล หรือคอสมิกสตริงสองเส้นขนานกันวิ่งสวนทางกัน โดยแต่ละเส้นวิ่งด้วยความเร็วสูงมากใกล้ๆ ความเร็วแสง (คล้ายๆ กับรถ 2 คัน วิ่งสวนทางกันอยู่บนคนละเลนใกล้ๆ กันบนทางด่วน) เราก็สามารถเดินทางไปในเวลาได้ ข้อจำกัด: เราต้องหาเจ้าคอสมิกสตริงที่ว่าให้เจอ! จากคุณ : Cryptomnesia - [ 26 ม.ค. 52 16:26:53 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ยานเวลาที่ใช้รูหนอน (wormhole) มาดูอีกวิธีที่น่าจะเป็นไปได้ที่สุด(มั้ง)ครับ ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักรูหนอนกันก่อน รูหนอนเป็นทางลัดที่สั้นที่สุดที่เชื่อมระหว่างกาล-อวกาศสองบริเวณเข้าด้วยกัน ซึ่งอธิบายได้ด้วยคณิตศาสตร์โทโปโลยี่ กำเนิดของรูหนอนนั้นไม่แน่ชัด บ้างก็ว่าเกิดจากหลุมดำ แล้วจะสร้างยานเวลาจากรูหนอนได้อย่างไร? ผมขอเน้นว่า รูหนอนเชื่อมกาล-อวกาศสองบริเวณเข้าด้วยกัน กาล-อวกาศคือไม่ใช่แค่สถานที่ครับแต่รวมถึงเวลาด้วย ต่อจากนี้เราจะค่อยๆอธิบายการทำงานของมันด้วยทฤษฎีสัมพัทธภาพนะครับ (ขอสมมติสถานที่และตัวเลขทั้งหมดเพื่อไม่ให้ปวดหัวกับการคำนวณ) Mr.Fusion ทำงานเป็นนักบินอวกาศที่ได้รับมอบหมายให้เดินทางไปดาวเคราะห์หว้ากอซึ่งอยู่ห่างจากโลก 600 ปีแสง วันนี้ Mr.Fusion ต้องออกเดินทางแต่บังเอิญเกิดมีเรื่องทะเลาะกับคุณแก่ม แก๊มเสียก่อน ใช้เวลางอนง้ออยู่นานก็ไม่หายโกรธ Mr.Fusion จึงตัดสินใจนำรูหนอนรูหนึ่งขึ้นยานอวกาศไปด้วย ซึ่งรูหนอนที่ว่านี้เชื่อมอยู่กับรูหนอนที่บ้านคุณแก่ม แก๊ม เพื่อจะได้ง้อคุณแก่ม แก๊มได้ตลอดเวลาที่ Mr.Fusion เดินทาง Mr.Fusion อยู่ในยานอวกาศที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 99.999999% ของความเร็วแสงในสุญญากาศ ดังนั้น Mr.Fusion จะเดินทางไปถึงดาวเคราะห์หว้ากอใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 600 ปี แต่เนื่องจาก Mr.Fusion เดินทางไปด้วยความเร็วใกล้แสง ปรากฏการณ์ time dilation จึงเกิดขึ้น Mr.Fusion รู้สึกว่าเวลาได้ผันผ่านไปเพียง 1 เดือน ซึ่งทางคุณแก่ม แก๊มที่กำลังนั่งงอนก็เช่นเดียวกัน เมื่อ Mr.Fusion ทำธุระที่ดาวเคราะห์หว้ากอเสร็จสิ้นแล้วก็เดินทางกลับโลกด้วยความเร็วเท่าเดิม ระหว่างทางก็พูดคุยกับคุณแก่ม แก๊มจนคืนดีกันเรียบร้อย เมื่อยานอวกาศลงจอดพื้นโลก Mr.Fusion ก็ต้องตกใจที่โลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เพราะเขาใช้เวลาเดินทางไปทั้งหมด 1,200 ปี (แม้ว่าปรากฏการณ์ time dilation จะทำให้รู้สึกว่าผ่านไปเพียง 2 เดือน) เวลาผ่านไป ปี อะไรๆก็เปลี่ยนแปลงไปหมด แต่ในระหว่างที่ Mr.Fusion กำลังยืนงงอยู่นั้น คุณแก่ม แก๊มก็ร้องเรียกจากรูหนอนอีกฝั่ง เมื่อ Mr.Fusion มองเข้าไปในรูหนอนอีกฝั่ง บ้านคุณแก่ม แก๊ม ก็พบว่าฝั่งนั้นเป็นเวลาในยุคเดียวกับที่เขาจากมาผ่านไปเพียงสองเดือน Mr.Fusion จึงกระโดดข้ามรูหนอนจากยานอวกาศลัดมาทางรูหนอนบ้านคุณแก่ม แก๊ม เท่านี้ Mr.Fusion ก็ได้กลับสู่ยุคปัจจุบันอันน่าอบอุ่นของเขา ส่วนรูหนอนที่เชื่อมระหว่างบ้านคุณแก่ม แก๊มกับในยานอวกาศที่จอดอยู่ก็กลายเป็นประตูเวลาเชื่อมสองยุคที่ต่างกัน 1,200 ปี กล่าวโดยสรุปการสร้างยานเวลาจากรูหนอนทำได้โดย 1. สร้าง หรือ หารูหนอน ในอวกาศหรือบนโลก (ปัจจุบันรูหนอนมีอยู่แต่ในทฤษฎีและการคำนวณทางสมการคณิตศาสตร์ ยังไม่พบหลักฐานการดำรงอยู่จริง) 2. ทำให้รูหนอนมีเสถียรภาพเพื่อให้คนสามารถเดินทางเข้าออกได้อย่างปลอดภัย (ตามสมการคณิตศาสตร์ รูหนอนที่เกิดขึ้นมีสเถียรภาพต่ำมาก และมักเสื่อมสลายไปในเวลาไม่ถึงเสี้ยววินาที นักฟิสิกส์เชื่อว่า ต้องอาศัยพลังงานลบ—สิ่งซับซ้อนมากๆที่ไม่อาจอธิบายได้ในที่นี้ ซึ่งทำงานตรงข้ามกับแรงโน้มถ่วงเพื่อให้รูหนอนมีสเถียรภาพ) 3. ใส่ประจุให้กับปากทางด้านหนึ่งของรูหนอน แล้วย้ายปากทางด้านที่มีประจุนี้เข้าไปในยานอวกาศด้วยสนามไฟฟ้า (ซึ่งคงต้องใช้พลังงานมหาศาลมาก มาก มาก) 4. ทำให้ปากทางทั้ง 2 ด้าน มีเวลาต่างกัน โดยการขับเคลื่อนยานอวกาศออกไปด้วยความเร็วสูงใกล้ความเร็วแสง (ดังนั้น ต้องมีเทคโนโลยีในการเคลื่อนที่ด้วยความเร็วใกล้แสงให้ได้ และหากจะนำมนุษย์ขึ้นไปด้วย ยานอวกาศก็ต้องสามารถทนแรงบีบอัดอันมหาศาลจากการเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง---มิฉะนั้น Mr.Fusion จะได้ Fusion จริงๆก็งานนี้) 5. นำยานอวกาศกลับมาใกล้ๆ ที่เดิมอีกครั้ง   (อืม...ถ้าทำ 1-4 ได้ ข้อนี้ก็ไม่อยากแล้วเนอะ) เห็นไหม สร้างยานเวลาจากรูหนอนเองก็ได้! ง่ายจัง~ จากคุณ : Cryptomnesia - [ 26 ม.ค. 52 16:27:31 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ทั้งหมดนี้ก็เป็นทฤษฎีทางฟิสิกส์ที่เป็นไปได้ในการสร้างยานเวลา ซึ่งเป็นประเด็นทางเทคนิคเสียมากที่ทำให้มันเกิดขึ้นไม่ได้ แต่ถ้าหากว่ายานเวลาสร้างได้สำเร็จล่ะ ยังมีปัญหาเชิงอภิปรัชญาตามมาอีกครับ -_-“ นั่นคือ Time’s paradoxes TIME PARADOXES คือ ข้อขัดแย้งในตัวเองของการย้อนเวลา ข้อขัดแย้งดังกล่าวทำให้การย้อนเวลาเป็นเรื่องที่ขัดต่อเหตุผล ตรรกะ และความสวยงามของจักรวาล มองอีกแง่หนึ่ง มันเป็นคำถามเชิงปรัชญาที่สิ่งมีชีวิตต้องตีให้ตก ก่อนจะได้รับอนุญาตให้เดินทางข้ามเวลา เรามาดูกันว่า Time paradoxes มีอะไรบ้าง 1. Grandfather's paradox คือ การที่คุณย้อนเวลาไปในอดีตแล้วทำให้ปัจจุบันไม่เป็นความจริง ตัวอย่างคลาสสิคคือ จะเกิดอะไรขึ้นหากคุณนั่งไทม์แมชชีนกลับไปอดีตสมัยที่คุณยังไม่เกิด คุณได้สังหารชายคนหนึ่งซึ่งแท้จริงเป็นปู่ของคุณ หากปู่ของคุณถูกฆ่า คุณต้องไม่มีทางได้เกิด...เมื่อคุณไม่ได้เกิด คุณจะย้อนเวลากลับไปฆ่าปู่ของคุณได้อย่างไร? 2. Information paradox คือ การได้รับข้อมูลจากอนาคตซึ่งไม่มีจุดกำเนิดที่แท้จริง เช่น คุณเกิดมาในยุคสมัยที่มีเครื่องไทม์แมชชีน คุณย้อนเวลากลับไปในยุคอดีตที่ยังไม่มีไทม์แมชชีนและบอกความลับในการสร้างไทม์แมชชีนให้นักวิทยาศาสตร์ผู้หนึ่ง ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ผู้นั้นจะเป็นนักประดิษฐ์ไทม์แมชชีนในเวลาต่อมา สรุปแล้ว ความรู้ในการสร้างไทม์แมชชีนมาจากไหน? 3. Bilker's paradox คือ การรู้อนาคตแล้วทำให้อนาคตนั้นไม่เป็นจริง เช่น คุณได้เดินทางไปในอนาคตและเห็นว่า โลกอนาคตนั้นไม่น่าอภิรมย์แม้แต่น้อย อย่ากระนั้นเลย คุณกลับมายังปัจจุบันแล้วหาหนทางยับยั้งไม่ให้เกิดอนาคตนั้นจนได้ ถ้าเช่นนั้น อนาคตเดิมที่คุณเคยไปเยือนมันหายไปไหน ในเมื่อมันก็คือความจริงเหมือนกัน? 4. The sexual paradox คือ ข้อขัดแย้งเชิงชีวภาพของการย้อนเวลา ลองนึกถึงหนังเรื่อง Terminator ดูนะครับ หากคุณย้อนเวลากลับไปในอดีตไปแต่งงานกลับแม่ของคุณ คุณจะเป็นพ่อของคุณเอง มีกฎทางพันธุกรรมบางประการที่ทำให้ปรากฏการณ์นี้เป็นไปไม่ได้? มีความพยายามที่จะแก้ paradoxes พวกนี้เช่น กลไกการป้องกันตัวของเวลาหรือทฤษฎีหลายโลก ซึ่งก็ซับซ้อนขึ้นไปอีก หากสนใจแนะนำให้อ่านต่อใน reference ที่ 1 ครับ ฟังดูแล้วน่าปวดหัวดีไหมครับ จากคุณ : Cryptomnesia - [ 26 ม.ค. 52 16:28:00 ]

ความคิดเห็นที่ 9 สุดท้าย...ท้ายสุด ขอแนะนำ นิยายวิทยาศาสตร์อ่านง่ายๆสำหรับผู้ที่สนใจการเดินทางข้ามเวลา The end of eternity by Isaac Asimov (จุดดับแห่งนิรันดร์) นิยายเอกเทศของลุงไอแซคเล่มนี้กล่าวถึง องค์กรนิรันดร์กาลที่สามารถประดิษฐ์ยานเวลาและสนามเวลาได้ ทำให้พวกเขาเป็นอิสระจากกาลเวลา และสามารถเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ได้โดยไม่มีผลกระทบกับตนเอง องค์กรนิรันดร์กาลเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์เพื่อความสงบสุขสูงสุดของมนุษยชาติ พวกเขาเปลี่ยน “สภาวะแท้จริง” ของมนุษยชาติซ้ำๆกันหลายครั้งเพื่อจุดประสงค์นี้ แต่พวกเขาจะแน่ใจได้อย่างไรว่า สิ่งที่ทำนั้นเพื่อประโยชน์ของมนุษยชาติจริงๆ? และพวกเขาจะแน่ใจได้อย่างไรว่า “สภาวะแท้จริง” ของตนเองนั้นก็ไม่ถูกเปลี่ยนแปลงโดยองค์กรอื่น... สิ่งที่น่าสนใจของนิยายเรื่องนี้คือ อาสิมอฟแบ่งปัญหาเกี่ยวกับการเดินทางข้ามเวลาเป็นสองประเด็นคือ ปัญหาเชิงทฤษฎีในการสร้างยานเวลา ซึ่งอาสิมอฟไม่ได้ขยายความว่ายานเวลาในนิยายของเขาใช้หลักการอะไร กล่าวเพียงแต่ว่าใช้พลังงานจากซุปเปอร์โนวาในการผลักดัน กับอีกประเด็นคือ ปัญหาข้อขัดแย้งของเวลา (Time’s paradoxes) ซึ่งแก้ไขโดยเทคโนโลยีสนามเวลาซึ่งลัดวงจรกาล-อวกาศออกเป็นอิสระจากการไหลของกาลเวลาทำให้องค์กรนิรันดร์กาลไม่ได้ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ จากคุณ : Cryptomnesia - [ 26 ม.ค. 52 16:28:30 ]

ความคิดเห็นที่ 10 The Forever War by Joe Haldeman (สงครามชั่วนิรันดร์) สงครามอันยาวนานระหว่างมนุษยชาติกับมนุษย์ต่างดาวทัวแรนซ์ ฮาเดมานพาผู้อ่านผ่านประวัติศาสตร์สงคราม 1,000 กว่าปีผ่านชีวิตของทหารคนหนึ่งเพียงไม่กี่ปี เนื่องจากเขาได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์ time dilation ระหว่างการเดินทางของยานรบสงครามนั่นเอง ตัวเอกของเรื่อง ทหาร—นายพลแมนเดเลเอฟผ่านสงครามตั้งแต่มันเริ่มต้นขึ้นเมื่อเขาอายุเพียง 20 ปี ตลอดเวลาที่เดินทางด้วยความเร็วแสงทำให้พระเอกแก่ช้ามาก ขณะที่โลกภายนอกเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง เมื่อพระเอกกลับมาโลกเป็นครั้งแรก น้องชายก็กลายเป็นคนแก่วัยกลางคน การปกครองโลกเปลี่ยนเป็นระบบคล้ายคอมมิวนิสต์ เมื่อออกเดินทางต่อ โลกก็เปลี่ยนไปอีก มนุษย์ทุกคนกลายเป็นพวกรักร่วมเพศและเกิดจากมดลูกเทียม เมื่อสงครามสิ้นสุดลงพระเอกก็แก่ขึ้นเพียงไม่กี่สิบปี ขณะที่มนุษยชาติเปลี่ยนเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีจิตสำนึกร่วมสากล— นิยายเรื่องนี้ได้รางวัลฮิวโกและเนบิวลา นอกจากประเด็นเรื่องผลกระทบจากการเดินทางด้วยความเร็วแสงแล้ว ผู้เขียนยังสอดแทรกประเด็นเกี่ยวกับสงครามไว้อย่างน่าสนใจ (เป็นเพราะผู้เขียนเคยเข้าร่วมสงครามเวียดนาม) ตลอดทั้งเรื่องจะพบการจิกกัดอเมริกาประเทศมหาอำนาจเป็นระยะๆ และเมื่อตอนจบเราจะรู้ว่าสงครามเป็นสิ่งไร้สาระเพียงใด นิยายทั้งสองเล่มนี้ แนะนำให้อ่านและไม่ควรพลาดโดยประการทั้งปวงครับ จากคุณ : Cryptomnesia - [ 26 ม.ค. 52 16:29:06 ]

ความคิดเห็นที่ 11 Reference ทอถักจักรวาล (The Fabric of The Cosmos) ผู้แต่ง Brian Greene ผู้แปล ดร.อรรถกฤต ฉัตรภูติ Parallel world ผู้แต่ง Michio Kaku นิตยสาร UpDATE ฉบับ 177 พฤษภาคม 2545 www.vcharkarn.com จขกท.ไปอยู่เวรรพ.ละครับ เจอกันตอนค่ำๆเด้อ จากคุณ : Cryptomnesia - [ 26 ม.ค. 52 16:29:54 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขออนุญาตนั่งชม และโหวต.... แหมตั้งแข่งกันเลยนะครับกะคุณลึกลับแมน ^^ แก้ไขเมื่อ 26 ม.ค. 52 16:41:21 จากคุณ : sariell - [ 26 ม.ค. 52 16:40:22 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ปาดๆๆๆ จากคุณ : division by zero - [ 26 ม.ค. 52 16:40:54 ]

ความคิดเห็นที่ 14 นั่งรอ จากคุณ : บ่าวจ่อย - [ 26 ม.ค. 52 16:43:33 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ปูเสื่อรอเลย เพื่อไปสร้างบาง จากคุณ : chipper - [ 26 ม.ค. 52 16:48:03 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณคร้าบ วันนี้เลยได้ปาด 2 กระทู้เลย รออ่านต่อครับ จากคุณ : Pu'Chew - [ 26 ม.ค. 52 17:06:28 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เข้ามาเชียร์ให้ขึ้นเป็นกระทู้แนะนำครับ จากคุณ : MaoCom - [ 26 ม.ค. 52 17:08:02 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ไทม์แมชชีนนี่ติดแอร์เปล่าครับ แล้วยุงบินในนั้นจะรู้สึกยังไง จากคุณ : มนุษย์(ต่าง)ดาวบ้านนอก (pon2007) - [ 26 ม.ค. 52 17:11:58 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ...เข้ามาโหวต แต่โหวตไม่ได้ จากคุณ : utd - [ 26 ม.ค. 52 17:29:30 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ผมว่า TIME MACHINE มีแต่ผลเสียกับเสียและเสีย คุณว่า ถ้าประเทศๆหนึ่ง ไม่ถูกกับจีน แล้่วประเทศนั้นมีTime Machine ก็ส่งคนย้อนเวลาไป ฆ่าคนคิดตัวอักษรจีน แค่นี้ก็ง่าย แล้วถ้า มีคนหนึ่งจะตายเพราะโดนรถชน หรืออะไรก็ตาม แต่มีคนนั่งย้อนเวลาไป ห้ามไว้ โลกก็เสียสมดุลหมดดิ หรือ สมมุติง่ายๆ การเก็งกำไร ที่ดินแบบเนี้ย หุ้นแบบเนี้ย ถ้ามีไทม์แมชชีนทุกคนก็รวยหมดดิ ก็แค่นั่งย้อนเวลาไปบอกตัวเองว่า หุ้นตัวนี้ซื้อไปเ้ยอะๆเลย รวยเละ แค่นั้น หรือ ญี่ปุ่นอาจส่งคนไปฆ่าไอสน์ไตน์เพื่อให้ประเทศไม่แพ้สงคราม มีแต่ เสียกับเสียครับ ถ้ามีไทม์แมชชีน ใครคิดออกลองบอกมาได้อีกนะครับ ผลเสียเยอะมากๆ จากคุณ : kepok - [ 26 ม.ค. 52 17:30:03 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ไม่รู้ว่ามอเตอร์โชว์ปีนี้จะมีเปิดจองหรือยังครับ... เอาแบบรุ่น Limited เลยแล้วกัน..เอาแบบแต่งจากโรงงานมาเลยนะครับ.. จากคุณ : Night Claw - [ 26 ม.ค. 52 17:34:16 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ผมว่า เป็นแค่เรื่องเหลวไหล นะ จากคุณ : utd - [ 26 ม.ค. 52 17:34:34 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ย้อนกลับไปบอกลูกหลานว่า หุ้นกระจอกๆ ของบริษัทเล็กๆที่ชื่อGoogle น่ะ ขายทิ้งให้หมด จากคุณ : ห้ามวางไว้ไกล้เด็ก - [ 26 ม.ค. 52 17:45:23 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ผมนั้งไทม์แมชชีนกลับไปฆ่าตัวผม แล้วใครในอนาคตที่นั่งไทม์แมชชีนกลับมาหาผม แค่คิดก็งงแล้วครับ ปวดหัวเปล่าๆ จากคุณ : Artaria EpisodeII - [ 26 ม.ค. 52 18:11:48 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ย้อนไม่ได้ จากคุณ : ผู้ครอบครองจักรยาน - [ 26 ม.ค. 52 18:20:58 ]

ความคิดเห็นที่ 26 มิน่าหละตอนเด็ก ถึงเห็นหุ่นยนต์สีฟ้าๆโผล่มาจากลิ้นชักได้ ที่แท้ก็มาจากอนาคตนี่เอง จากคุณ : โนบิ โนบิตุ๊ด (EleMent M@stER) - [ 26 ม.ค. 52 18:21:59 ]

ความคิดเห็นที่ 27 คห.20 ผมว่ามันคงอีกนานโขทีเดียวนะครับ ที่การย้อนเวลาจะเป็นอะไรที่สามารถทำกันได้ง่ายๆตามอำเภอใจแบบนั้น จนกว่าจะถึงตอนนั้น โลกเราอาจมีระบบปกครองมนุษย์แบบใหม่ๆแล้วก็ได้ โดยเราไม่จำเป็นจะต้องย้อนเวลาอีกต่อไป จากคุณ : โข่งบอย - [ 26 ม.ค. 52 20:08:34 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ทำไมบางความเห็นดูซีเรียสจัง - -" #22 เรื่องเหลวไหลที่ว่า มีนักฟิสิกส์ระดับโลกศึกษาจากทฤษฎีที่เป็นไปได้นะครับ เห็นความเห็นแบบนี้แล้วเสียใจจัง ทีหลังจะตั้งกระทู้แบบนี้อีกดีไหมเนี่ย แก้ไขเมื่อ 26 ม.ค. 52 20:55:07 จากคุณ : Cryptomnesia - [ 26 ม.ค. 52 20:22:52 ]

ความคิดเห็นที่ 29 อ่านสนุกดีครับ ขอบคุณที่สละเวลาหามาให้อ่าน จากคุณ : ksk - [ 26 ม.ค. 52 21:11:07 ]

ความคิดเห็นที่ 30 โอเคผมให้ give และกดโหวตให้นะครับ (เป็นครั้งแรก เพราะผมไม่เคยสนใจเรื่องให้ give กับกดโหวตมาก่อน แต่เริ่มเห็นมีคนให้ผม ก็เลยรู้สึกเขินและคงต้องปรับตัว) ขอแนะนำเพิ่มเติมดังนี้ครับ - เรื่อง กาล-อวกาศ 4 มิติ ที่มานั้นมาจากตั้งแต่ทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษ โดย Hermann Minkowski (อดีตอาจารย์ที่เคยด่าไอน์สไตน์ว่า สุนัขสันหลังยาว) นำทฤษฎีมาเขียนอยู่ในรูปคณิตศาสตร์ 4 มิติ ซึ่งเรื่องตลกก็คือ ตอนแรกไอน์สไตน์เองก็ไม่ยอมรับการตีความแบบนี้ด้วยซ้ำ หลังๆมาที่พัฒนาทฤษฎีทั่วไปจึงค่อยๆยอมรับ - ทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปนั้น เป็นเรื่องของแรงโน้มถ่วงและความเร่งถูกแล้ว แต่ปัญหาสำคัญจริงๆ แล้วมาจากที่ สมการแรงโน้มถ่วงของนิวตันไม่ได้มีเวลาเข้ามาเกี่ยวข้อง นั่นคือเกิดคำถามที่ไม่มีใครกล้ายุ่งนักที่ว่า ถ้าดวงอาทิตย์หายไป แรงโน้มถ่วงที่กระทำต่อโลกจะหายไปทันทีหรือไม่? ซึ่งสมการนิวตันก็จะบอกว่า หายไปทันที ทำให้เกิดปัญหาต่อมาว่า แสงใช้เวลาจากดวงอาทิตย์มาถึงโลกตั้ง 8 นาที แล้วแรงโน้มถ่วงจากดวงอาทิตย์มายังโลก เกิดขึ้นทันที ก็แสดงว่าแรงโน้มถ่วงเร็วกว่าแสง? คำถามนี้เองที่เป็นจุดสลบ ไม่สมการแรงโน้มถ่วงของนิวตัน ก็ทฤษฎีสัมพัทธภาพของไอน์สไตน์ ที่จะต้องมีจุดอ่อน ซึ่งทำให้ไอน์สไตน์ต้องมาคิดค้นทฤษฎีรูปทั่วไปเ้พื่อตอบปัญหานี้ให้ได้ คำตอบของไอน์สไตน์คือ ความโน้มถ่วง ไม่ใช่แรง แต่เป็นการกระเพื่อมของกาล-อวกาศ* หรือ ที่กล่าวกันว่า Warped Space-Time (กาล-อวกาศที่โค้งงอ) ซึ่งทำให้คำถามที่ว่าแรงโ้น้มถ่วงจะหายไปทันทีหรือไม่ดังกล่าวข้างบนนั้น เปลี่ยนคำตอบเป็น จะไม่หายไปในทันที แต่จะใช้เวลาเท่ากับระยะการเดินทางของแสงคือ 8 นาที นั่นคือ สมการแรงโน้มถ่วงของนิวตันถูกหักล้าง (ในทางแนวคิด) <* ที่่น่าตลกคือ ทฤษฎีแสตนดาร์ดโมเดล ความโน้มถ่วง กลับมาเป็น แรง อีกแล้ว> ทีนี้สมการที่ได้จากทฤษฎีใหม่นี้ก็จะต้องตอบคำถามอื่นๆได้ด้วย เช่น วงโคจรที่เบี่ยงเบนไปของดาวพุธ ภ้าพิจารณาจากสมการของนิวตัน นักดาราศาสตร์ตีความว่า จะต้องมีดาวเคราะห์อีกดวงนึง ที่ทำให้วงโคจรของดาวพุธเบี่ยงเบนไป ซึ่งเรียกชื่อดาวเคราะห์นี้กันว่า Vulcan ซึ่งมุขนี้เคยใช้มาแล้วกับการค้นพบดาวเนปจูน ที่ตีความกันมาก่อนค้นพบว่าทำให้ดาวยูเรนัสมีวงโคจรเบี่ยงเบนไป แต่คราวนี้หาเท่าไหร่ก็หาไม่พบ ไอน์สไตน์ใช้ทฤษฎีทั่วไปของเขาคำนวณแล้วบอกว่าไม่มีหรอกดาว vulcan ดาวพุธเบี่ยงเบนไปเพราะการกระเพื่อมของกาลอวกาศต่างหาก (ที่มีผลมากกับดาวพุธ เพราะมันอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์) แก้ไขเมื่อ 26 ม.ค. 52 22:31:32 แก้ไขเมื่อ 26 ม.ค. 52 22:30:43 แก้ไขเมื่อ 26 ม.ค. 52 22:14:43 จากคุณ : อุปนิกขิต - [ 26 ม.ค. 52 21:57:23 ]

ความคิดเห็นที่ 31 บางครั้ง paradox ก็สามารถแก้ได้ นะครับ คือ บางแนวคิด เสนอว่า หากคุณย้อนเวลากลับไป จะมีกลไกทางฟิสิกส์บางอย่าง ที่ ห้าม คุณเกิด interaction กับ เวลาในอดีต หรือ ไม่ก็ หากเราย้อนกลับไป เราจะทำให้ เกิด "เส้นทาง" ในการไปสู่ อนาคต หรือก็คือปัจจุบันที่คุณจากมา แตกต่างออกไป นะครับ โดยส่วนตัว ผมเชื่อ เรื่อง รูหนอน ที่ใช้ในการเดินทาง มากกว่า ครับ ส่วน time machine ก็มีความเป็นไปได้ ครับ จากคุณ : Schwarzschild - [ 26 ม.ค. 52 22:02:17 ]

ความคิดเห็นที่ 32 - เรื่องกาลเดินทางข้ามเวลา พอจะสรุปกันได้ว่าวิธีที่เป็นไปได้ที่สุดคือ การเดินทางผ่านรูหนอน แต่... ทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปแสดงถึงความเป็นไปได้ในการเดินทางไปในอนาคต ส่วนการเดินทางไปในอดีตนั้น ต้องอาศัยทฤษฎีควอนตัมเข้ามาจับร่วมด้วย ซึ่งในระดับอนุภาคนั้นสามารถตีความได้ว่ามีการเดินทางย้อนอดีตได้ แต่ในระดับมหภาพเป็นไปได้หรือไม่ยังมีปัญหาหลายประการ ทั้งในทางเทคโนโลยีที่ต้องสร้างพลังงานเป็นลบ และพาราดอกซ์ตามที่กล่าวมา สตีเฟน ฮอว์กิ้ง สร้างทฤษฎีที่อธิบายว่าการเดินทางย้อนอดีตคงทำไม่ได้ แต่ไปในอนาคตคงทำได้ ไว้ในหนังสือของท่านด้วยครับ หนังสือแนะนำเพิ่มเติมครับ - จักรวาลของไอน์สไตน์ มิชิโอะ คากุ แปลโดย สว่าง พงศ์ศิริพัฒน์ (แปลสละสลวยมาก) ผมคิดว่าเล่มนี้อธิบายแนวคิดของไอน์สไตน์ได้อย่างดีเยี่ยม - ประวัติย่นย่อของกาลเวลา (ที่ย่อมาจาก ประวัติย่อของกาลเวลาอีกที) สตีเฟน ฮอว์กิ้ง แปลโดย รอฮีม ปรามาท อธิบายเรื่องการเดินทางข้ามเวลาได้กระชับอย่างยิ่ง - ประวัติย่อของหลุมดำ คิป เอส ธอร์น แปลโดย ดนัย วิโรจน์อุไรเรือง ที่มา รายละเอียด ของทฤษฎีการเดินทางข้ามเวลา เขียนโดยประสบการณ์ตรงของตัวจริงเสียงจริง แก้ไขเมื่อ 26 ม.ค. 52 22:19:23 แก้ไขเมื่อ 26 ม.ค. 52 22:16:28 จากคุณ : อุปนิกขิต - [ 26 ม.ค. 52 22:10:59 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 26 ม.ค. 52 23:13:57 ]

ความคิดเห็นที่ 34 อ่านนานมากเลยค่ะ แฮะๆ แต่ก้ออ่านจนจบ จากคุณ : แก่ม แก๊ม - [ 26 ม.ค. 52 23:14:54 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เข้ามาเก็บเกี่ยวความรู้ ผมว่าในอนาคตก็ยังสร้างไม่ได้หรอกครับ เพราะถ้ามันสร้างได้ มันก็ต้องย้อนกลับมา ป่วนเราในปัจจุบันแล้ว หรือเปล่า หรือว่าสามารถย้อนเวลาได้แค่จนถึงวินาทีแรกที่เครื่องนี้สร้างเสร็จเท่านั้น   ติดปัญหาตรง Time paradoxes จริงๆเลยและจะเป็นปัญหามากเเวลาเดินไปอดีต ปล ผมเชื่อว่าสักวันมนุษย์จะต้องสร้างมันได้ ไม่มีอะไรหรอกที่มนุษย์ทำไม่ได้ จากคุณ : poobas - [ 26 ม.ค. 52 23:16:55 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ชอบอ่านเรื่องพวกนี้ แต่อ่านไปงงไป (โง่ฟิสิกส์มากๆ) ส่วนตัวเชื่อว่าเวลาไม่มีจริง ดังนั้นการย้อนเวลาจึงเป็นไปไม่ได้ (แต่ก็ยังชอบอ่าน) จากคุณ : ปฏิจจสมุปบาท (ปฏิจจสมุปบาท) - [ 26 ม.ค. 52 23:27:32 ]

ความคิดเห็นที่ 37 อาจารย์ขยันโคดเลยครับ จากคุณ : ชีวิตเราต้องเทียมด้วยวัวสองตัว - [ 27 ม.ค. 52 00:03:03 ]

ความคิดเห็นที่ 38 บางที่คิดอย่างฝรั่งก็ปวดหัว... มีอยู่วิธีหนึ่งที่ใครๆก็ทำได้แต่มองข้ามไป เพราะต้องใช้เวลาและสมาธิอย่างมากแต่ไม่ต้องลงทุนเลยซักบาท ข้อนี้ไอน์สไตน์ ก็น่าจะรู้ด้วย วิธีแบบชาวพุทธครับ นั่งวิปัสสนากรรมฐานทำสมาธิ ถอดจิตไปในภพภูมิอื่นได้ จากคุณ : Nutz (supernutman) - [ 27 ม.ค. 52 00:04:21 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เรื่องที่เกี่ยวกับเวลานี่เป็นเรื่องที่ซับซ้อนจริงๆนะครับ อ่านทีไรปวดหัวทุกที จะสร้า้ง Time Machine น่าจะสร้างแบบยานอวกาศในเรื่องคอนแทรกผมว่าน่าจะสร้างปัญหาน้อยที่สุดนะครับ คือเรานั่งดูได้อย่างเดียว ไม่ต้องไปวุ่นวายกับอะไรเลย เรื่องเดินทางข้ามเวลานี่ผมว่าอยู่ในกระดาษนี่ดีที่สุดแล้วแหละครับ ไม่งั้นวุ่นวายตายเลย จากคุณ : พ่อค้าก๋วยเตี๋ยว ณ ทุ่งบางกะปิ - [ 27 ม.ค. 52 00:04:50 ]

ความคิดเห็นที่ 40 . . . น่าสนใจ . . . จากคุณ : MIG-ON-THE-WAY - [ 27 ม.ค. 52 00:27:48 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ทฤษฏีฟิสิกส์เป็นเรื่องที่ไม่ชอบเลย      เพราะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เลยไม่เข้าใจ      แต่ยังไงก็ชอบที่จะอ่านเพราะเราก็อยากย้อนเวลาได้เหมือนกัน        อ่านไปงงไป     มึนไป    ต้องพักเป็นระยะๆ         แต่ก็อ่านจนจบจนได้   ยังนึกชมตัวเองเลยนะเนี่ย         ขอบคุณที่เข้ามาให้ความรู้ค่ะ สุดท้ายนี้  จะพยายามไม่อยากย้อนเวลาดีกว่า    ทำปัจจุบันและอนาคตให้ดีดีกว่าเนาะ          (ข้อนี้เป็นไปไม่ได้หรอก  เชื่อเหอะ  ไม่งั้นคนจะยังฝันถึงไทม์แมชชีนทำไม) จากคุณ : อ่านจบปวดหัวเลย (toymasa) - [ 27 ม.ค. 52 00:52:08 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ได้เรื่องละ ที่ มข. มี Forever war ด้วย เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปยืมดีกว่า ^^ จากคุณ : โข่งบอย - [ 27 ม.ค. 52 01:07:34 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ไม่เหลวไหล ไม่งงครับ พยายามจะไม่งง อย่างกระจกเงาในหนังเรื่องทวิภพ หรือลิ้นชักโต๊ะของโนบิตะเนี่ย จัดว่าเป็นรูหนอนหรือเปล่า เรื่องราวของไทม์แมชชีนก็สนุกดีครับ  ป่วยการที่จะคิดถึงเรื่องผลดีผลเสีย เอาแค่สร้างให้ได้ก่อนเหอะ ถึงแม้จะเหตุผล ทฤษฎีรองรับ จะดูเป็นเรื่องยากมากๆ ที่จะทำได้ แต่ก็ยังพอทำความเข้าใจได้มากกว่าหม้อตุ๋นเป็ด จากคุณ : นายเดชา - [ 27 ม.ค. 52 01:59:56 ]

ความคิดเห็นที่ 44 นึกถึง "เดือนช่วงดวงเด่นฟ้า ดาดาว" ต้องไปรื้อมาอ่านล่ะ     จากคุณ : Glight - [ 27 ม.ค. 52 02:41:32 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ทำเป็นไทม์ทีวีก็ได้นะ ฮ่าๆๆ ส่งกล้องที่ซูมได้ไกลหลายปีแสง ออกไปไกลๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แล้วถ่ายกลับมาที่โลก แล้วส่งสัญญาณ แต่ปัญหาคือ ต้องมีตัวส่งสัญญาณที่เร็วกว่าแสงสัก 10000 เท่า แก้ไขเมื่อ 27 ม.ค. 52 03:10:38 แก้ไขเมื่อ 27 ม.ค. 52 03:10:37 แก้ไขเมื่อ 27 ม.ค. 52 03:10:37 จากคุณ : Artaria EpisodeII - [ 27 ม.ค. 52 03:10:22 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ถ้าย้อนเวลากลับไปได้จะขายหุ้นไทยออยล์ให้หมดตอนที่มันยัง 60 อยู่ เจ็บใจๆ จากคุณ : Master Chief - [ 27 ม.ค. 52 08:51:28 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ไม่เห็นต้องสงสัยมากครับ เหตุผลเหมือนในการ์ตูนโดเรมอน ถ้าในอนาคตมีคนสร้างไทม์แมชชีนสำเร็จ ตอนนี้ก็อาจจะมีคนย้อนเวลามาปะปนกับเราแล้วก็ได้ ดังนั้น ถ้ามีเหตุการณ์อะไรที่เกิดขึ้นกับอดีต โดยที่คนอนาคตเป็นคนมาทำ มันก็จะวนลูปจนเป็นเหตุผลให้อนาคต เท่ากับว่าคุณเปลี่ยนเหตุในอดีตและอนาคตไม่ได้ ตัวอย่างที่ชัดที่สุดก็ตอนที่ โดเรมอนช่วยโนบิตะทำการบ้าน โดยการไปพาตัวเองในช่วงเวลาต่างๆมาทำ เป็นวิธีคิดที่เหมือนจะแยบยล แต่พอเสร็จแล้วนั่งพักไม่เท่าไร ก็มีตัวเองในอดีตโผล่มาลากเราไปช่วยทำงาน (- -") ไม่ทราบว่ามีใครจำตอนนี้ได้ไหม อธิบายยากจริงๆ หรืออีกตอนนึงที่พ่อกับแม่เถียงกัน พ่อบอกว่าแม่ขอพ่อแต่งงาน แม่บอกว่าพ่อนั่นแหละเป็นคนขอ ก็เลยย้อนไปดู ที่แท้ทำไปทำมา เป็นโนบิตะนั่นเองที่ปลอมตัว เป็นแม่ไปบอกพ่อ แล้วปลอมเป็นพ่อไปบอกกับแม่ จากคุณ : NATSKI13 - [ 27 ม.ค. 52 08:52:08 ]

ความคิดเห็นที่ 48 มาให้กีฟท์ไว้ตั้งกะเมื่อวาน...เช้านี้เพิ่งมานั่งอ่านจนจบ.. อ่านแล้วชักจะเพ้อ-เพ้อ ว่า ถ้าย้อนเวลากลับไปได้จริง-จริง ก็ดีซิค่ะ.. แต่ก็มีตั้งหลายอย่างนะคะ ที่เป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้ในวันนี้แล้วกลับเป็นไปได้ในวันหน้า... ต้องขอบคุณ คุณคลิป สำหรับบทความดี-ดี ค่ะ .. จากคุณ : primjang - [ 27 ม.ค. 52 08:54:23 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ให้ค่าตัวนักแสดงทุกท่านด้วยกิฟนะครับ จากคุณ : Cryptomnesia - [ 27 ม.ค. 52 09:17:38 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ได้ความรูเต็มที่เลยล่ะค่ะ แต่จะว่าไปเรื่องนี้คงเป็นไปได้ยาก  และถ้าเป็นไปได้มันคงมีเรื่องวุ่นวายตามมานแน่นอนค่ะ ทำไมมนุษย์ชอบฝืนกฏธรรมชาตินะ จากคุณ : นู๋ขี้สงสัย - [ 27 ม.ค. 52 09:54:18 ]

ความคิดเห็นที่ 51 อ่าน zipang กันหรือเปล่าครับ ไม่ค่อยพูดถึงเรื่องวิทยาศาสตร์เท่าไร แต่ก็เป็นประเด็นเรื่อง TIME PARADOXES เรือรบยุคปัจจุบันไปอยู่ในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 เหตุการณ์เกิดคล้ายเดิม แต่ไม่เหมือนเดิม แต่อีกเรื่องที่นึกถึงคือ เจาะเวลาหาจิ๋นซี่ นิยายจีนของหวงอี้ สร้างเครื่อง time machine ได้ ส่งคนไปยุคโบราณ แต่ก็กลายเป็นเหตุการณ์ที่เกิดก็ทำตามประวัติศาสตร์ จากคุณ : 821 (บัตรผ่าน 821) - [ 27 ม.ค. 52 09:54:54 ]

ความคิดเห็นที่ 52 [ - -] ปู่อุป เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนี้เหรอครับ อ่อมิน่า จะได้อธิบายเรื่องคุณทีเร๊กซ์ในเพชรพระอุมาได้ชัดๆใช่ไหมครับว่ามายังไง :D จากคุณ : ccjn - [ 27 ม.ค. 52 10:12:09 ]

ความคิดเห็นที่ 53 อ่านแรกๆเหมือนจะเข้าใจ พอเปลี่ยนจากรถมาเป็นจรวด เริ่มงงเลยคับพี่น้อง 555...แต่น่าสนใจทีเดียว ซักวันคงจะทำได้จริงนะผมว่า จากคุณ : FlyingChicken - [ 27 ม.ค. 52 11:01:41 ]

ความคิดเห็นที่ 54 มันจะเป็นไปได้หรือ จากคุณ : xSharez - [ 27 ม.ค. 52 11:08:24 ]

ความคิดเห็นที่ 55 มันจะเป็นไปได้ไหมว่า UFO คือ Time Machine ดีๆนั่นเอง จากคุณ : neilarm - [ 27 ม.ค. 52 11:24:44 ]

ความคิดเห็นที่ 56 หวัดดีค่ะคุณครู มาขอ give เอ๊ย มารายงานตัวค่ะ ^^' จากคุณ : Choco-Mix - [ 27 ม.ค. 52 11:33:27 ]

ความคิดเห็นที่ 57 เยอะจนขี้เกี่ยจอ่าน -*- อย่างงี้จะสอบเก็บคะแนนได้มั้ยเนี่ยะ !!! จากคุณ : ElinTyne - [ 27 ม.ค. 52 11:54:42 ]

ความคิดเห็นที่ 58 #52 จุ๊ๆ แอบมาเล่นครับ อิๆ จากคุณ : อุปนิกขิต - [ 27 ม.ค. 52 12:10:04 ]

ความคิดเห็นที่ 59 เหอะๆ งงอ่า เรื่องรูหนอน เดินทางระยะทาง 600ปีแสง แต่ทำไม Mr.Fusion ถึงรู้สึกว่า 1เดือน อ่ะครับ? จากคุณ : ปังปอนด์ป่วน - [ 27 ม.ค. 52 12:46:38 ]

ความคิดเห็นที่ 60 เหมือนกำแพงที่มนุษย์ไม่สามารถข้ามได้เลยครับ เห็นอยู่ว่ามีวิธีข้าม แต่ทำไม่ได้ เป็นไปได้ในทางทฤษฎีแต่เป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ ทฤษฏีที่นำมาปฏิบัติจริงไม่ได้ นี่ คล้าย ๆ กับ ไม่มีประโยชน์เลยครับ หรือหมายถึง เป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ ในปัจจุบันนี้ ครับ ขอบคุณมากครับ ที่เขียนบทความดี ๆ ให้ได้อ่านกัน เข้าใจไม่ยากด้วยครับ จากคุณ : [Zero] - [ 27 ม.ค. 52 13:08:55 ]

ความคิดเห็นที่ 61 เพราะ Mr.Fusion ได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์ time dilation ที่เกิดผลชัดเจนเมื่อวัตถุเดินทางด้วยความเร็วสูงใกล้เคียงความเร็วแสง ดังนั้นสมการด้านล่าง เมื่อ t เป็นเวลาของวัตถุที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็ว v ในชีวิตประจำวัน เราไม่รู้สึกถึงปรากฏการณ์ time dilation เพราะเราไม่ได้เดินทางด้วยความเร็วใกล้แสง สมมติคุณขับรถด้วยความเร็ว 100 กม./ชม.เป็นระยะทาง 100 กม. v = 27.78 m/s น้อยมากๆเมื่อเทียบกับ c = 3 x 108 m/s ดังนั้น t และ t' จึงแทบจะเท่ากัน คุณไม่รู้สึกถึงการยืดขยายของเวลาเลย คุณขับรถถึงจุดหมายในเวลา 1 ชม.และก็รู้สึกว่าเวลาผ่านไป 1 ชม. แต่ถ้าคุณเดินทางด้วยความเร็วสูงใกล้เคียงความเร็วแสง t' จะมากกว่า t นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับ Mr.Fusion เมื่อ t'~600 years ขณะที่ t~1 months (โดยประมาณนะครับ) แก้ไขเมื่อ 27 ม.ค. 52 17:34:35 จากคุณ : Cryptomnesia - [ 27 ม.ค. 52 13:11:04 ]

ความคิดเห็นที่ 62   จากคุณ : Cryptomnesia - [ 27 ม.ค. 52 13:11:21 ]

ความคิดเห็นที่ 63 เข้ามารับความรู้ค่ะ ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆนะคะ ถ้าสักวันเรามี TIME MACHINE จริงๆ คงจะมีปัญหา TIME PARADOXES มากมายสินะคะ นึกถึง The Butterfly Effect ขึ้นมาเลยค่ะ จากคุณ : ข้าวปั้นตัวอ้วนกลม - [ 27 ม.ค. 52 13:14:57 ]

ความคิดเห็นที่ 64 เคยคิดเรื่องนี้เหมือนกันครับสิ่งที่ต้องทำ gravitation field generator เอาตัวนี้ไปติดไว้หน้ายาน จากนั้นคำนวณเส้นทาง destination ว่าจะให้ grav filed วิ่งออกไปทางไหน ทำให้ space-time บิดเข้ามาจากนั้นก็ออกเดินทางด้วยเครื่องยนต์ธรรมดา คุณก็จะใช้เวลาไม่นานเดินทางจากจุดหนึ่งไปยังจุดหนึ่ง แต่จะสร้างเครื่องนี้ได้อย่างไร graviton เปนยังไง กลไกการเกิดมวลเปนยังไง ยังเปนสิ่งซึ่งต้องพิสูจน์  และค้นหากันต่อไป ถ้าทำเครื่องที่ว่าได้ ต่อไปก็จะมีหนังสือออกมาชื่อว่า Fundamental of Warp engine จากคุณ : Santa_Baby - [ 27 ม.ค. 52 13:19:28 ]

ความคิดเห็นที่ 65 #47 คำอธิบายของคุณคือกลไกการป้องกันตัวของเวลาครับ เป็นหนึ่งในสองคำอธิบายที่เป็นไปได้ที่สุดในการแก้ปัญหา Time's paradoxes ณ ปัจจุบัน กล่าวคือ เวลาไม่ยอมให้มีการขัดแย้งเชิงตรรกะ หากคุณย้อนอดีตไปเพื่อเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ เป็นเพียงภาพมายาที่คุณคิดไปเอง ความจริงคุณไม่ได้เปลี่ยนอดีตอะไรเลย คุณมีตัวตนดำรงอยู่ในอดีตตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว เนื่องจากกระแสเวลากำหนดไว้ให้เป็นอย่างนั้น เท่ากับว่าเวลาวนเป็น loop ไมรู้จบ ฟังดูเหมือนเหลวไหลแต่นักฟิสิกส์ส่วนหนึ่งเชื่อกันอย่างนี้แบบเป็นจริงเป็นจังมากเลยนะครับ แนะนำให้อ่านตาม Reference ที่ 1 และ 2 ส่วนอีกคำอธิบายหนึ่งคือทฤษฎีโลกคู่ขนาน กล่าวคือทุกครั้งที่มีการย้อนเวลาเพื่อเปลี่ยนแปลงบางสิ่งบางอย่างจะเกิดโลกคู่ขนานที่มีประวัติศาสตร์ของโลกนั้นแยกออกไป ฟังดูเว่อร์ๆ แต่ก็นักฟิสิกส์อีกส่วนหนึ่งเลือกที่จะเชื่อแนวคิดนี้เหมือนกัน ซึ่งอาจจะมากกว่าแนวคิดแรกเสียด้วยครับ จากคุณ : Cryptomnesia - [ 27 ม.ค. 52 13:19:33 ]

ความคิดเห็นที่ 66 หวังว่าจะอยู่ทันได้ขับรถความเร็ว 3 ปีแสง จากคุณ : Pu'Chew - [ 27 ม.ค. 52 13:57:14 ]

ความคิดเห็นที่ 67 หวังว่าจะอยู่ทันได้ขับรถความเร็ว 3 ปีแสงต่อชั่วโมง จากคุณ : Pu'Chew - [ 27 ม.ค. 52 14:03:19 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ชอบความคิดคุณ NATSKI13 ใน คห. 47 จังครับ สมมุติว่าในอนาคตมีคนสร้างเครื่องย้อนเวลาได้จริง ตอนนี้เราอาจกำลังได้รับผลกระทบจากการแก้ไขอดีต ของคนในอนาคตอยู่ก็ได้ (งงมั้ย??) อ่านเรื่องนี้แล้วอยากแนะนำให้ไปดูหนังเรื่อง The Butterfly Effect ของผู้กำกับ อีริค เบรส (ส่วนใหญ่คงเคยดูกันแล้ว ^^ ) จากคุณ : ninji - [ 27 ม.ค. 52 15:37:31 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ขอบคุณมากๅเลยค่ะที่เรียบเรียงบทความที่น่าสนใจมาให้อ่านกัน ถือเป็นการทบทวนเรื่องที่เราเคยได้อ่านๆมาแล้วด้วยค่ะ ^^ ฟิสิกส์กับจินตนาการ(ที่มีเหตุผลนะคะ)แยกกันไม่ได้เลยทีเดียว อ่านแล้วคิดตามไปเรื่อยๆสนุกมากค่ะ ขอให้มีบทความให้เพื่อนๆอ่านไปเรื่อยๆนะคะ รอติดตามเสมอค่า จากคุณ : just a little thing - [ 27 ม.ค. 52 16:10:48 ]

ความคิดเห็นที่ 70 forever war นี่เครียดมากเลยนะครับ อ่านแล้วสนุกไม่ลง (โศกกับความโง่ของมนุษย์มากกว่า) จากคุณ : house (panote_saechiew) - [ 27 ม.ค. 52 16:22:11 ]

ความคิดเห็นที่ 71 กว่าจะอ่านจบ  -*- ขอบคุณคะที่ลงให้อ่าน จากคุณ : ฟินจัง - [ 27 ม.ค. 52 16:28:34 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ขอยกข้อสงสัยจากกระทู้เก่ามาถามนะครับ (ของเก่าไม่มีคนมาตอบ อิอิ) อาจจะยังไม่เกี่ยวกับเรื่องย้อนเวลาสักเท่าไร แต่ผมสงสัยน่ะครับ ข้อสงสัยผมเป็นดัังนี้ครับ 1. แสงเป็นตัวกำหนดขอบเขตของ space-time หรือเปล่า (ตามความคิดผม แสงเป็นตัวกำหนดเหตุการณ์ คือถ้าไม่มีแสงผ่าน เหตุการณ์ก็ไม่อาจเกิดขึ้น เพราะเราคงไปวัดมันไม่ได้ ซึ่งทำให้แสงเป็นสิ่งพิเศษในเอกภพและทำให้การสังเกตทุกครั้ง แสงมีความเร็วเท่าเดิมตลอด) หรือพูดง่ายๆ ก็คือ แสงถูกกักไว้ในสี่มิติของเราหรือเปล่า 2. แล้วระหว่างมิติ หรือในมิติอื่นๆ หรือในโลกคู่ขนานอื่น แสงจะมีความเร็วเท่ามิติของเราหรือเปล่า และจะมีความเร็วคงที่หรือมีคุณสมบัติเช่นเดียวกับในมิติเราหรือเปล่า (ตามวามคิดผม น่าจะมีคุณสมบัติเหมือนๆ กัน แต่ไม่สามารถเดินทางระหว่างมิติได้ ทำให้มองไม่เห็นมิติอื่น) ในความ คิดผม (อีกแล้ว) ผมคิดว่า โลกที่เราอยู่มีสามมิติ และโลกสามมิตินี้กำลังเคลื่ิอนไปในแกนมิติที่สี่ โดยมีการแตกแขนงเหตุการณ์ต่างๆ ไปเรื่อยเป็นมิติอื่นๆ ในเวลาอื่นๆ โดยที่แสงจะถูกขังอยู่ในแต่ละมิติ ไม่สามารถเดินทางข้ามกันได้ ดังนั้น ถ้าอยากดูมิติอื่นๆ หรืออยากเห็นอนาคต หรืออดีต (ซึ่งจะเป็นเหมือนการมองกล่องสามมิติบนแกนเวลาหนึ่งๆ โดยเลือกกล่องที่อยากจะเห็น) ก็อาจจะต้องหาวิธีดูดแสงข้ามมิติมาจึงจะเห็น วานท่านคริปและผู้รู้ทุกท่านช่วยไขให้กระจ่างด้วยครับ จากคุณ : ปั๊ปโปะจัง - [ 27 ม.ค. 52 16:35:15 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ไม่เข้าใจเลยค่ะ -*- จากคุณ : MaNgKoOd - [ 27 ม.ค. 52 16:43:01 ]

ความคิดเห็นที่ 74 จขกท. อย่าท้อใจนะครับ ยังมีหลายคนชื่นชม และติดตามคุณอยู่นะ แค่ความเห็นเดียวเอง ปล่อยไปเถอะครับ ขอบคุณ ความรู้ที่ค้นคว้ามาให้อ่านนะครับ จากคุณ : eping - [ 27 ม.ค. 52 17:51:00 ]

ความคิดเห็นที่ 75 พูดถึงเรื่อง Time's paradoxes ทำให้นึกถึงเรื่อง The Time Machine ที่นักวิทยาศาสตร์สร้างเครื่อง Time machine ไปช่วยแฟนตัวเองที่ถูกฆ่า แต่พอไปช่วยแฟนกลับตายด้วยสถานะการณ์อื่นๆแทน คือสรุปว่ายังไงก็ตายอยู่ดี หรือเป็นการบอกว่า มนุษย์ย้อนเวลากลับไปอดีตได้ แต่แก้ไขเหตุการณ์บางอย่างไม่ได้ ส่วนเรื่องเวลาในอนาคต คิดแล้วก็ยังงงอยู่ เพราะในขณะที่ผมกำลังพิมพ์อยู่นี้ ผมได้แต่คิดว่า อนาคตมันมีอยู่แล้ว มันเกิดขึ้นแล้ว อย่างนั้นหรือ??? เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นจริง สิ่งต่างๆก็คงต้องปล่อยให้มันเป็นไป เพราะเหตุการณ์มันได้เกิดขึ้นไปแล้วในอนาคต เราก็ไปแก้ไขไม่ได้อยู่ดี งงมั๊ยครับ จากคุณ : ม่วงโตน - [ 27 ม.ค. 52 19:38:51 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ตามทฤษฏีและตัวเลขเป็นจริงไม่มีอะไรจะค้านครับ แต่ตามความเห็นส่วนตัวแล้ว เวลาเป็นสิ่งสมมุติครับ สิ่งมีชีวิต แตกสลายแตกดับด้วยตัวมันเอง ดังนั้น การเอาชนะการสูญสลาย(แก่เฒ่า)ด้วยการเอาชนะเวลาหรือเร่งความเร็วสัมพัทธ์ให้เร็วกว่า ทำไม่ได้ครับ จากคุณ : Y-80 Mate (ใช้อยู่) - [ 27 ม.ค. 52 20:28:10 ]

ความคิดเห็นที่ 77 จากความคิดเห็นที่ 38   จากคุณ : Nutz (supernutman) คงแก้ปัญหา Paradox s ต่างๆ ได้นะครับเพราะว่าเราย้อนกลับไปเห็นอดีต เดินทางไปในอดีตแต่อยู่อีกมิติหนึ่ง (วิญญาณ) ซึ่งแตะต้อง มิติของมนุษย์ไม่ได้จึงไม่ได้เปลี่ยนแปลงแก้ไขอดีตเป็นการเดินทางย้อนกลับมาดูโดยผ่านทางมิติอื่นที่ซ้อนทับกันอยู่ >< งงไหมนี้คนเขียนงงแล้วครับ == จากคุณ : Ont_AJ (ont_aj) - [ 27 ม.ค. 52 21:31:42 ]

ความคิดเห็นที่ 78 อ่านแล้วได้ความรู้เยอะมาก~~ ขอบคุณที่นำความรู้มาฝากนะครับ~~ ^_^ จากคุณ : นักศึกษาโดนรีไทร์น่าเวทนา - [ 27 ม.ค. 52 21:50:42 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ขอบคุณค่ะ  อธิบายและยกตัวอย่างได้แจ่มดีจริงๆ จากคุณ : ต้นจั่น - [ 28 ม.ค. 52 02:08:35 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ลองคิดดูดีๆ โลกมันก็เกิดขึ้นมาเอง เวลาอะไรต่างๆ มนุษย์ก็เป็นผู้กำหนดขึ้นมาเองทั้งนั้น ถ้าจะมีการสร้างเครื่องย้อนเวลา พูดง่ายๆมันก็คือการสร้างเครื่องทำให้โลกหมุนย้อนกลับ ถามหน่อยว่า มันเป็นไปได้หรือครับ....แค่คิดถึงเรื่องพลังงานที่ทำแบบนั้นได้ มันต้องใช้พลังงานมหาศาลขนาดไหน ยิ่งคิดยิ่ง impossible .....หรื่อจะเอาหลักพุทธศาสนาก็ได้ คนๆนึงตายไปแล้ว สูญสลายไปจากโลกแล้ว ไม่มีทางที่เราจะได้เห็นเขาอีก เพราะมันสูญสลายไปแล้ว จากคุณ : Kill11by1pass - [ 28 ม.ค. 52 02:33:32 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ขอแจมด้วย การเอาไสยศาสตร์มาปนวิทยาศาสตร์ ผู้ย้อนเวลาในอนาคตอาจไม่สามารถมายุ่งกับอดีตได้รูปแบบ ทางกายภาพ แต่ย้อนเวลามาได้ทางจิตก็มาในรูปแบบ เทพ หรือเจ้าพ่อ เช่นมากระซิปให้ ฟันธงว่า ดาราคนนี้ท้องก่อนแต่งแน่นอน หรืองวดหน้ามันออกเอะไร แต่บางครั้ง สัญญาณเชื่อมต่อไม่ชัด เลยแค่เฉียดโดนแดกหมดตูด สํญญาณติดต่อขาดหายไปแล้วตอนหลังเลย คอนเฟิม หรือฟันธงผิดตลอด จากคุณ : ศุศศิ - [ 28 ม.ค. 52 09:45:58 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ผมเคยแต่ฝันว่าทำอะไรบางอย่าง แล้วจากนั้นผ่านมา 1 เดือน หรือ 1 ปี ผมดันไปเจอเหตุการในความฝันทั้งผู้คน และบรรยากาศที่เหมือนกันนี่สิ จากคุณ : Bangkok_Knight - [ 28 ม.ค. 52 10:20:21 ]

ความคิดเห็นที่ 83 อ่าน จขกท. ปุ๊บ นึกถึงเรื่องนี้เลยครับ  อาจจะไม่เกี่ยวกับความรู้ต่างๆนะครับ อะ บิวตี้ฟูล ไมด์(A Beautiful Mind) ตอนหนึ่งในเรื่อง  จำได้คร่าวๆ ว่าประมาณนี้ -เวลาที่อยู่เรากับสาวแสนสวย  เวลาผ่านไปเร็วเหลือเกิน - เวลาที่เราอยู่กับคนน่าเบื่อ  เวลาผ่านไปช้าเสียเหลือเกิน   จอห์น แนช เองก็ไม่ต่างจากนักเรียนคนอื่น ๆ เขามุ่งมั่นที่จะไปทำงานที่วีลเลอร์แล็บเช่นกัน แต่เขาเชื่อว่าจะการที่จะไปถึงจุดนั้นได้ ผลงานของเขาจะต้องแตกต่างจากคนอื่น และต้องเป็นผลงานที่เกิดจากความคิดริเริ่มใหม่ ๆ (original idea) ไม่ใช่ผลงานประยุกต์จากทฤษฎีหรือแนวความคิดของคนอื่น (Applied Idea) เขาจึงไม่ยอมเข้าห้องเรียน เพราะเชื่อว่าการเข้าห้องเรียนจะเป็นการปิดกั้นความคิดของเขา ยิ่งเวลาผ่านไปจอห์นก็ยิ่งกดดันมากขึ้น เพราะบรรดาเพื่อน ๆ ซึ่งเป็นคู่แข่งของเขาล้วนแต่มีความก้าวหน้าในผลงานของตน แต่ตัวเขาเองกลับยังไม่มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอันเลย แต่แล้วจู่ ๆ เขาก็ทำสำเร็จ เพราะได้แรงบันดาลใจจากสาวงามคนหนึ่งที่เดินเข้ามาในบาร์ เธอสวยจนทำให้เพื่อน ๆ ของเขาอยากแย่งกันเข้าไปทำความรู้จัก เหตุการณ์นั้นทำให้เขาสามารถคิดทฤษฎี “สมดุลไดนามิค” ขึ้นได้ โดยที่แนวคิดนี้สามารถหักล้างทฤษฎีเศรษฐศาสตร์เดิมที่เชื่อถือกันมากว่า 150 ปี ความสำเร็จของเขาทำให้เขาถูกส่งไปทำงานที่วีลเลอร์แล็บ พร้อมทั้งสามารถเลือกผู้ร่วมงานได้อีกสองคน ซึ่งจอห์นก็ตัดสินใจเลือก โซล และ เบนเดอร์ ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมชั้นของเขา http://www.movieseer.com/ReviewsBil.asp?moID=1379&rID=230&Channel=1 จากคุณ : NuyPond - [ 28 ม.ค. 52 10:46:53 ]

ความคิดเห็นที่ 84 แล้วไม่คิดมั่งเหรอครับ ว่ามนุษย์ต่างดาวนั้นอาจจะเป็นมนุษย์ในอนาคต แล้ว วบกอม นั้นก็คือ time machine ย้อนเวลามาที่โลก จริงๆแล้ว อารยธรรมในอดีต อาจเป็นฝีมือของการทดลองของมนุษย์ในอนาคต เมื่อการทดลองล้มเหลวเลยทำลายอารยธรรมนั้นให้ราบคาบ ไม่มีบันทึกที่ดีๆหลงเหลือมาเลย จากคุณ : หน้าบ่าแดง แฮงบ่ามี - [ 28 ม.ค. 52 11:08:59 ]

ความคิดเห็นที่ 85 ...ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ค่ะ ..นักแสดงนี่ หล่อ ๆ สวย ๆ ทุกคนเนาะ... จากคุณ : ช่อเอี้อง - [ 28 ม.ค. 52 13:05:19 ]

ความคิดเห็นที่ 86 อะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้นค่ะ  ตราบใดที่ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ชัดเจน แต่เราก็แอบคิดนะว่า  ถ้าเป็นอย่างที่ คห.84 พูดจิง เราก็ไม่ต่างจากหนูทดลองของมนุษย์ที่มาจากโลกอนาคตเลยอ่ะซิ จากคุณ : นู๋ขี้สงสัย - [ 28 ม.ค. 52 13:48:08 ]

ความคิดเห็นที่ 87 ยังไงอดีตก็แก้ไขไม่ได้ครับเพราะ ถ้าเราแก้ไขอดีตตัวเราในอนาคตที่จะย้อนมาอดีตก็หายไปแล้วใครจะเป็นคนย้อนมาอดีตละทีนี้และกลับเข้าสู่วงจรอนันต์ จากคุณ : babu_radio - [ 28 ม.ค. 52 15:34:09 ]

ความคิดเห็นที่ 88 ตรง คห ที่ 65 เรื่อง โลก คู่ขนาน นะครับ ไม่ว่า ไม่น่ามี นะครับ ไม่ได้ว่านะครับ ถ้ามี อะไร คือจุดเริ่ม ครับ ในเมื่อมัน แยก ออกจากตัวมัน แล้วเริ่ม อย่างไร ครับ เริ่มตอนไหน แล้ว ตอนนี้มี กี่โลกแล้ว ครับ ถ้า มัน มีการเกิดขึ้น ทุก การตัดสินใจ คน ในโลก ตอน นี้ มี เอาประมาณว่า 1000 ล้าน คน วินาที นี้ ตัดสินใจ เลือก อย่างน้อย 2ทาง โลก เกิดขึ้น 1000 ล้าน โลกทันที นี่ แค่ ชั้นเดียวนะครับ แล้ว ต่อไปสัก 10 วิ หละครับ แล้วตอนนี้ โลกเรา ผ่านการตัดสินใจมาแล้วกี่ครั้ง ครับ นี่ 1000ล้าน ยก กำลัง อนันต์ เลย นะครับนี่ ผมเลย ไม่ค่อยเชื่อ ครับ เพราะ มัน ขัด กับ ธรรมดาของโลก ตาม ศาสนาที่ผมเชื่อครับ ว่า ทุก อย่าง มี เกิดขึ้น มีอยู่ ดับไป ครับ จากคุณ : a235 - [ 28 ม.ค. 52 16:25:39 ]

ความคิดเห็นที่ 89 ^ ^ ในแง่โลกคู่ขนาน ประวัติศาสตร์จะมีนับหมื่นนับแสนเส้นทาง หากมีการย้อนเวลาได้จริง จุดเริ่ม คือเมื่อมีการเปลี่ยนอดีตครั้งแรกครับ จะเกิดอนาคตขนานกันสองเส้น สมมุติว่า ผมย้อนกลับไปจีบแม่ แข่งกับพ่อ พอผมเหยียบโลกอดีตปุ๊ป จะเกิดโลกคู่ขนาน B ทันที ในโลก B ผมจีบแม่สำเร็จ พ่อแห้ว และผมก็จะไม่เกิดมา ตัวของผมในโลก B คือผมในอนาคตซึ่งเป็นสามีแม่ หากผมทะลึ่งย้อนกลับมาที่โลก A ได้จริงๆ ในโลก A แม่ยังคงมีสามีเป็นพ่ออยู่ และผมก็ยังคงเป็นลูกเค้าอยู่ โลกสองโลกนี้จะเดินขนานไปเรื่อยๆ โดยไม่มีวันบรรจบกัน จากคุณ : Angos - [ 28 ม.ค. 52 23:12:26 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ว่าแต่การย้อนเวลาขัดกับกฏข้อ 2 ของเทอร์โมไดนามิกส์หรือเปล่า...? ความยุ่งเหยิงรวมจะลดลงทันที ที่คนๆ หนึ่งย้อนกลับไปอดีต จากคุณ : Angos - [ 28 ม.ค. 52 23:18:30 ]

ความคิดเห็นที่ 91 ชอบคำว่า จิตสำนึกร่วมสากล คิดต่อได้เยอะเลย... จากคุณ : น้องหนูเอวตัน - [ 29 ม.ค. 52 10:08:50 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ถ้าอนาคต ทำได้จริง ประวัติศาตที่ผ่านมาเปลี่ยนไปเยอะแล้ว ถ้ามีจริงในอนาคต ปัจจุบันก็เห็นแล้ว (คนในอนาคต ก็ต้องกลับมาทำไรให้ดูบ้างแหละ) ฉนั้นผมเชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ จากคุณ : inutero - [ 29 ม.ค. 52 14:36:32 ]

ความคิดเห็นที่ 93 bookmark ก่อน จากคุณ : Matriarch Miaw - [ 29 ม.ค. 52 15:36:22 ]

ความคิดเห็นที่ 94 ความรู้แน่นปึ้ก แต่อ่านไม่เข้าใจ 555555555 อย่าถือสาเด็กสายศิลป์นะคร้าบ จากคุณ : supertarokung - [ 29 ม.ค. 52 17:07:34 ]

ความคิดเห็นที่ 95 #92 กลไกที่คุณคริปตอมนำเสนอทั้งหมดมีจุดร่วมอยู่ข้อหนึ่งครับ คือ ึคุณย้อนเวลาได้ แต่ไปไกลกว่าวันที่สร้างไทม์แมชชีนสำเร็จไม่ได้ ดังนั้นมีความเป็นไปได้ที่สร้างไทม์แมชชีนได้ในอนาคต และัที่เราไม่เจอคนในอนาคตในวันนี้ เพราะเรายังสร้างไทม์แมชชีนไม่้ได้ จากคุณ : house (panote_saechiew) - [ 29 ม.ค. 52 17:37:32 ]

ความคิดเห็นที่ 96 ผมว่าเวลา ( time ) เป็นนามธรรมนะ มันไม่ใช้รูปธรรม แบบเราใช้มันเพื่อให้รู้ว่าต้องรอนานแค่ใหน เช่น รถขับด้วยความเร็ว120 ก.ม./ช.ม. ถ้าระยะทาง120 ก.ม. ใช้เวลาเท่าไร ผมว่ามันเป็นจินตนาการมากกว่าความจริง คือการสร้างเครื่องย้อนเวลานะดูไม่ค่อยมีเหตุผลมารองรับเท่าที่ควร  เหตุผลไม่ค่อยมีนำหนัก  มันดูจะเป็นความเชื่อมากกว่าเหตผล จากคุณ : Lamelez - [ 29 ม.ค. 52 18:51:52 ]

ความคิดเห็นที่ 97 แล้วถ้าย้อนเวลาไปหยุดการเกิดบิ๊กแบงล่ะ??? จากคุณ : ฝนฟ้ากะพายุ - [ 29 ม.ค. 52 20:17:58 ]

ความคิดเห็นที่ 98 ่อ่านแล้วสนุกดีครับ ผมว่าหลายคนไม่อ่านดูดีๆหรือไม่ก็อ่านแล้วไม่เข้าใจนะครับ เช่น คห.96  อ่ะครับผม ปล.ไม่ได้ว่าหรือดูถูกนะครับผม แค่อยากให้ลองอ่านแล้วศึกษาดีๆมันเป็นเรื่องที่น่าสนใจครับ จากคุณ : tHeNuT - [ 30 ม.ค. 52 01:30:56 ]

ความคิดเห็นที่ 99 พูดถึง TIME MACHINE  ผมจะนึกถึงเรื่องนี้ก่อนทุกทีเลย จากคุณ : ปรานทยา - [ 30 ม.ค. 52 09:36:57 ]

ความคิดเห็นที่ 100 บางครั้งผมก็เคยคิดอะไรซับซ้อนแบบนี้... บางเรื่องอธิบายเป็นตัวอักษรไม่ได้ ไม่รู้จะสื่อยังไง... ยกตัวอย่าง... คนเราเกิดมานี่ รับรู้เรื่องราวต่างๆจากประสาทสัมผัสทั้ง 6 ทั้งสิ้น  รับรู้ว่ามีตัวตน รับรู้ว่ามีโลก มีจักรวาล มีเวลา  ซึ่งจริงๆมันอาจไม่มีอะไรเลย หรือมีอะไรที่ซับซ้อนกว่านี้.... ถ้าคนไม่เกิดมา จะมีจักรวาล มีเอกภพ มีเวลาหรือเปล่า   นี่ผมยังสื่อได้ไม่หมดนะครับ  อธิบายให้ละเอียดกว่านี้ไม่ถูก ปล.ผมก็จบวิทย์ครับ จากคุณ : ทิมคา - [ 30 ม.ค. 52 10:52:15 ]

ความคิดเห็นที่ 101 เห็นด้วยกับ#87 ครับ ถึงจะย้อนเวลาได้ แต่เราก็ไม่สามารถแก้ไขเหตุการณ์ที่กระทำไปแล้วได้ จากคุณ : engine - [ 30 ม.ค. 52 16:06:37 A:114.29.248.49 X: ]

ความคิดเห็นที่ 102 ^ ^ ^ ถ้าใช้ทฤษฎี Paradox ตามคห. 89 ก็แก้ปัญหานี้ได้คับ ขอบคุณ จขกท.ที่เอามาให้ได้ศึกษานะคับ ^^' ผมเรียนด้านอุตสาหกรรมการบินอยู่ปีสอง สนใจเรื่องปรัชญาและวิทยาศาสตร์ ไม่มีศาสนาเฉพาะ ว่างๆ มาทำความรู้จักกันนะคับ จขกท. :3 โดยส่วนตัวในเรื่องของเวลา ผมเชื่อไอน์สไตน์นะ มันมีหลักฐานชัดเจนและพิสูจน์ได้จริงอ่ะคับ ที่คนส่วนมากไม่เชื่อกันเพราะมันขัดกับสามัญสำนึกละมั้ง ^3^ Quantum Mechanic / Game / EVT / Small World / Copenhagen Interpretation / Many World Interpretation / Big Bang / Anthropic / Schrodinger's Cat / M / String / Super Gravity / Special Relativity ช่วงนี้อ่านอยู่สองเล่มคับ มี 25 ความคิดพลิกโลก กับจักรวาลในเปลือกนัท กะลังหา History of Time อยู่คับ *----* (แต่จักรวาลในเปลือกนัทก็ยังไม่แตกฉานทุกบทนะ) งิงิ จากคุณ : DesservirPhilosophy - [ 30 ม.ค. 52 22:50:42 ]

ความคิดเห็นที่ 103 hondahadon@hotmail.com คับ การถนัดเรื่องการตั้งคำถามต่อชีวิตและสิ่งรอบตัว ตามทฤษฎีพหุปัญญา (Multiple Intelligence) ของ Howard Gardner เรียกว่า Existential Intelligence คับ โดยความฉลาดของตาโฮวาร์ดนั้นประกอบไปด้วย 9 ความฉลาดคือ Musical Int. : ดนตรี การร้องเพลง การจดจำจังหวะ การใช้เครื่องดนตรี Interpersonal Int. : การเข้าใจคนอื่น ปฏิสัมพันธ์ต่อผู้อื่น Intrapersonal Int. : การเข้าใจตัวเอง ค้นพบตัวเอง Body-Kinetic  Int. : กีฬา การเคลื่อนไหวร่างกาย การเต้น Spartial Int. : การจัดการกับรูปทรงวัตถุ 3 มิติ (ใช้ในด้านวิศวฯ) Logical Int. : การใช้เหตุผล คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ Natural Int. : ทักษะด้านธรรมชาติ เช่นการอนุรักษ์ป่าไม้ หรือด้านสัตววิทยา Existential Int. : การตั้งคำถามต่อสิ่งต่างๆ การคิดเชิงปรัชญา ซึ่งการวัดความฉลาดในลักษณะนี้ ยังช่วยให้เกิดความเป็นธรรมต่อผู้ที่มีความฉลาดเฉพาะทาง มากกว่าการใช้แบบวัด IQ นั่นเอง งิงิ จากคุณ : DesservirPhilosophy - [ 31 ม.ค. 52 00:16:20 ]

ความคิดเห็นที่ 104 จขกท อธิบายได้เข้าใจง่ายจังคะ ถึงแม้จะไม่ค่อยรู้ศัพท์ทางวิทยาศาสตร์ แต่ก็สามารถเข้าใจได้ พอมาอ่านแต่ ละ คห ก็ยิ่งแน่นขึ้น แต่ละคนเก่งๆ กันทั้งนั้นเลย จากคุณ : นกไร้ขน - [ 31 ม.ค. 52 00:28:17 ]

ความคิดเห็นที่ 105 ผมคิดว่า เวลา (t) คงเป็นมิติที่ 4 แล้วมันก็มีของมันอยู่แล้ว เมือน x y z เพียงแค่ตอนนี้เรายังไม่มีภูมิปัญญาที่จะเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระในแกนที่ 4 เราทำได้แค่ x y z เราสามารถไปอนาคตได้แล้วก็ย้อนถอยหลังไปอดีตได้เหมือนกัน (แบบเดียวกับที่เรากำหนดจุดอ้างอิงในแกน x y z แล้วก็เลื่อนไปมา) เข้ามาดู จากคุณ : เฮียมี่ - [ 31 ม.ค. 52 14:35:55 ]

ความคิดเห็นที่ 106 จากตัวอย่างที่ จขกท. ยกมา ผมมีข้อสังเกตง่ายๆดังนี้ - เท่าที่ผมอ่านมา เมื่อวัตถุเดินทางด้วยความเร็วเข้าใกล้แสง ขนาดของมันจะหดลงด้วย แต่ไม่มีทางเดินทางด้วยความเร็วแสงได้ เพราะว่า ขนาดจะเหลือ 0 (ผมไม่แน่ใจว่าขนาดหรือมวล) - การที่ Mr. Fusion เดินทางไปดาวหว้ากอ และกลับมายังโลกด้วยความเร็วใกล้แสงทั้งไปและกลับนั้น พบว่าเวลาบนโลกผ่านไป 1200 ปี !  ไม่ได้แปลว่า Mr.Fusion เดินทางไปยังอนาคตได้ แต่ผมแปลว่า เวลาของ Mr.Fusion ช้าลงเองต่างหาก หมายถึง Mr.Fusion เข้าใกล้สภาวะหยุดเวลาให้ตัวเอง แต่ชาวบ้านเขาก็เปลี่ยนแปลงไปตามปกติ รวมทั้งจักรวาลด้วย... ดังนั้น เหตุการณ์ที่จะทำให้เราเดินทางไปเจอตัวเราในอนาคต ไม่มีอยู่จริง เพราะเรามีอยู่คนเดียว ถ้าเราในปัจจุบันนั่งยานเวลาที่ว่า เพื่อเปิดประตูออกมาพบกับโลกในอนาคตล่ะก้อ เราจะไม่เจอตัวเองอีกคน เนื่องจากคนบนโลกก้อจะรับรู้แค่ว่า เราเข้าไปนั่งในยานเวลามาเมื่อ 200 ปีที่แล้ว ออกมายังไม่แก่เลย เจ๋งว่ะ !! แค่นั้นแหละ... - เวลาย้อนไม่ได้ ทำได้แค่เกือบจะหยุดไว้ที่จุดเริ่มต้นเมื่อก้าวเข้าไปนั่งในยานเวลาแล้วปิดประตูเดินเครื่องเท่านั้น !! เพราะการกลับไปยังจุดเริ่มต้นนั้น ก็ไม่ใช่การย้อนเวลา แต่เป็นการทำให้ตัวเราเองเวลาผ่านไปเร็วขึ้น แก่เร็วขึ้น นั่นเอง คือเวลาของเราในยานเวลาผ่านไปเร็วมากๆ แต่ไม่เกินอายุขัยของเราไม่งั้นได้ตายก่อนแน่นอน แต่โลกภายนอกแทบไม่เปลี่ยนแปลงอะไรเลย และเหมือนเดิม เราไม่มีทางเปิดประตูยานออกมาแล้วเจอตัวเราอีกคนในอดีต เพราะตัวเราในอดีตนั่งยานอยู่ !! และตอนที่เราซึ่งคิดว่าเวลาผ่านไปตั้งหลายสิบปีจนเราแก่มากแล้วนั้น กลับไปอดีต มันก้อเป็นเพียงภาพลวงตาว่าอดีต เพราะคนบนโลกจะรับรู้แค่ว่า เราเข้าไปนั่งในยานเวลา พอปิดประตูเดินเครื่องไปแค่ 1 นาที เราก้อเปิดประตูออกมาแล้วกลายเป็นคนแก่ใกล้ตายไปซะงั้น สรุปว่า ทุกคนเรียกยานเวลานั้นว่า เครื่อง รีบไปตาย...อิอิ - ยานเวลาที่ย้อนไปได้เกินกว่าช่วงที่เราเข้าไปในยานแล้วปิดประตูเดินเครื่องนั้น ในทางทฤษฏี ยังต้องอาศัยพวก รูหนอน หรือ สายเดี่ยวจักรวาลมาช่วย ซึ่งสิ่งที่ว่ามานั้น ผมไม่เชื่อว่ามันจะมีจริง !!... - ผมเชื่อว่า เวลา เกิดจาก การเปลี่ยนแปลง ถ้าทุกสิ่งทุกอย่างไม่มีการเปลี่ยนแปลง เวลาจะหยุด แต่ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่เวลาจะหยุดเป็น 0 อย่างมากก็ทำได้แค่เพียงให้การเปลี่ยนแปลงนั้น ช้ามากๆๆๆๆ เท่านั้น เช่น การเปลี่ยนแปลงของ Mr.Fusion ที่ช้ามากๆๆๆๆๆ เมื่อเทียบกับชาวโลก ดังนั้นประโยชน์ของยานเวลาที่ว่า ทำได้คือ ยืดอายุขัยคนที่เข้าไปนั่ง แต่ก็ต้องตายอยู่ดี...เพียงแต่ได้ตายหลังคนอื่นเท่านั้น แต่ไม่ได้หมายความว่าจะมีชีวิตยืนยาวกว่าคนอื่น เพราะในระหว่างที่นั่งในยาน เราก็ไม่ได้ออกไปทำกิจกรรมอื่นๆเหมือนอย่างที่คนอื่นเขาได้ทำไป ดังนั้น เราแค่เข้าไปนั่ง แล้วออกมา เจอโลกที่เปลี่ยนแปลงไปเป็นสิบๆ ร้อยๆปี แล้ว อายุของเรามันก็ยังเป็น 70-90 ปี ตามธรรมชาติมนุษย์ เท่านั้นเอง เรานั่งอยู่ในยานได้นานแค่นั้นแหละ เพียงแต่โลกภายนอก เค้าเร็วกว่าเท่านั้นเอง เพราะเราน่ะ ช้า !!  งงมะ อิอิ - สรุปว่า 99.99999999... % ของอะตอมเป็นที่ว่าง ใช่มั้ยคร้าบบบบ... แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 52 15:33:02 จากคุณ : ROOTAMAN - [ 31 ม.ค. 52 14:46:31 ]

ความคิดเห็นที่ 107 พอจะเข้าใจบ้างค่ะ จากคุณ : Sanctuary O. - [ 31 ม.ค. 52 15:51:58 ]

ความคิดเห็นที่ 108 บางคนก็ยังข้ามเวลาจากไดโนเสาเต่าล้านปีมาเป็น นัก ก. เมือง จากคุณ : ตะอีโม่ง - [ 31 ม.ค. 52 16:30:08 A:115.67.143.132 X: TicketID:160546 ]

ความคิดเห็นที่ 109 ชอบกระทู้ คุณ cryptom ทุกกระทู้เลย เป็นกำลังใจให้อยู่คู่หว้ากอ เสนอข้อความสาระดีๆอย่างงี้ตลอดไปค่ะ :) แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 52 20:24:46 จากคุณ : Pretty_Cute_Girl - [ 31 ม.ค. 52 20:03:25 ]

ความคิดเห็นที่ 110 นี่พวกคุณยังมิรู้ดอกหรือ ว่าปัจจุบัน แม้ยังไม่มีเครื่องย้อนเวลา แต่เราก็สามารถเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตได้แล้ว และมีวิธี เห็นถึง ๒ วิธี ดังจะกล่าวนี้     ๑. การจำ : ง่ายมาก เราไม่จำเป็นต้องย้อนเวลาเลย เราแค่ ย้อนความจำ ภาพที่ปรากฏจะเด่นชัดมาก หากคุณมีความจำที่ดี กระบวนการทำงานของมันก็คือ : ในอดีต เราจะแปรภาพต่าง ๆ ซึ่งรับจากตา มาสู่ความทรงจำของเรา : ในอนาคตของอดีตหรือ ปัจจุบัน เราก็จะย้อนความทรงจำนั้น ภาพในอดีตก็จะผุดขึ้นมา ประดุจดังแสงสว่างกลางจิตใจ ฉะนี้แล     ๒. การถ่าย : มิใช่กิจ ณ สุขา แต่เป็นการถ่ายภาพเก็บไว้ เวลาเราต้องการเห็นอดีต เราก็แค่ค้นหาภาพที่เคยถ่ายไว้ออกมา กระบวนการทำงานของมันก็คือ : ในอดีต เราจะถ่ายภาพเก็บไว้ ภาพในอดีตจะถูกเขียนใหม่ด้วยรหัสบางอย่าง : ในอนาคตของ อดีต หรือปัจจุบัน รหัสที่แทนภาพนั้น จะแสดงออกมาเป็นภาพ ในอดีต ให้เราได้เห็น     ข้อเสียของสองวิธีนี้คือ เราแค่เห็น แต่เราไม่สามารถแก้ไข เหตุการณ์ในภาพนั้นได้ แต่ยังดีที่เราแก้ไขภาพได้ โดยการนำ ไปเข้า Photoshop แล้วตกแต่งแก้ไขได้ตามสบาย และการแก้ ไขภาพนั้น จะไม่ทำให้เหตุการณ์ในอดีตเปลี่ยนแปลงได้เลย         ล้อเล่นครับ ! ที่จริงแล้วผมอยากจะบอกว่า     ถ้าให้อดีต เป็น เหตุ            ผล  ก็คือ อนาคต         ถ้า อดีต แล้วอนาคต     ไม่อดีต หรืออนาคต     ปัจจุบัน หรืออนาคต หรืออนาคต     ปัจจุบัน หรืออนาคต       เพราะฉะนั้น     มนุษย์มีสิทธิ์กำหนดได้เฉพาะ ปัจจุบันหรืออนาคตเท่านั้น     ก่อนที่คุณจะไปอดีตกัน แล้ว ปัจจุบัน คุณไปมาแล้วหรือยัง? จากคุณ : อัตสัมมาปณิธิจะ (กัลลอร์ง) - [ 31 ม.ค. 52 20:41:49 ]

ความคิดเห็นที่ 111 เป็นไปได้ในทางทฤษฎีแต่เป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ ตรงนี้หล่ะค่ะ ที่ จขกท คุณตุ้ม เค้าเรียนไว้ให้ทราบแล้ว อย่าปิดกั้นจินตนาการสิคะ ไม่มีอะไรปัจจุบันแท้จริง????? จากคุณ : Warlock:เชิญคุณก่อน????? - [ 31 ม.ค. 52 21:24:36 A:222.123.222.19 X: TicketID:191399 ]

ความคิดเห็นที่ 112 ถ้าใครเคยอ่าน A Brief History of Time ของ Hawking จะได้แนวคิดเรื่องลูกศรเวลา 3 ประเภทและเรื่อง Predestination ของเอกภพ แนวคิดนี้บ่งบอกว่า ไม่มีเรื่องเอกภพคู่ขนาน เอกภพมีเพียงเอกภพเดียวที่เราอาศัยอยู่นี้ และเหตุการณ์ทั้งอดีตและอนาคตทั้งหมดล้วนเกิดขึ้นแล้วและเปลี่ยนแปลงไม่ได้ อนาคตถูกกำหนดเอาไว้ทั้งหมด (จะเรียกว่าถูกกำหนดก็ไม่เชิง เพราะมันคือมิติ (Time) ที่มีอยู่แล้ว เรียบร้อยสมบูรณ์ในตัวเอง เหมือนสามมิติที่เหลือ (Space) มิติเวลา ก็เป็นมิติหนึ่งเหมือน กว้าง ยาว ลึก ที่มีปรากฏอยู่แล้ว แต่ด้วยมนุษย์ซึ่งถูกควบคุมด้วยลูกศรเวลาที่เรียกว่า Psychological Arrow ที่ทำให้เรารับรู้อดีต แต่ไม่รับรู้อนาคต และเป็นกลไกที่ทำให้มนุษย์เข้าใจว่า เรากำลังเดินทางไปสู่อนาคต และทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นกับความพยายามของตนเอง (Free Will) จริงๆ ผมไม่ค่อยชอบแนวคิดเรื่อง Psychological Arrow เท่าไหร่ เพราะหากใครที่เชื่อในแนวคิดนี้ ก็แปลว่าเชื่อในพรหมลิขิตแบบ 100% และจะไม่พยายามทำอะไรให้มันดีขึ้น แต่ก็ต้องเข้าใจเรื่องที่ Hawking เล่าด้วย เค้ายกแนวคิดต่างๆ หลายๆ ประเภทมาเล่าให้คนอ่านฟัง ไม่ได้หมายความว่าตัวของ Hawking เชื่อในความคิดนี้ จากคุณ : Angos - [ 1 ก.พ. 52 12:39:32 ]

ความคิดเห็นที่ 113 #6 สายเดี่ยวจักรวาล ฟังดูน่าสนใจดีครับ มีเกาะอกจักรวาลมั้ยครับ #9 The End of Eternity เคยอ่านเหมือนกันครับ #50 ดีครับๆ ได้ความรู #65 Many World เป็นเพียงหนึ่งในหลายๆ interpretation (การตีความ) ของทฤษฏีควอนตัม คงพูดไม่ได้ว่าเป็นคำอธิบายที่เป็นไปได้ที่สุดในการแก้ปัญหา Time Paradox นะครับ การตีความ ไม่ใช่ทฤษฏี และไม่มีผลให้ทฤษฏีนั้นเปลี่ยนแปลง มันเป็นเพียงการแปลจากภาษาคณิตศาสตร์อันเป็นนามธรรม ให้เป็นภาษามนุษย์ ทฤษฏีจะใช้ได้หรือไม่ ก็ไม่ขึ้นกับการตีความ (ไม่ต้องตีความก็ยังใช้ทฤษฏีทำนายปรากฏการณ์ได้) แต่การตีความจะใช้ไม่ได้ ถ้าขัดกับทฤษฏี #76 เอาอะไรมาอ้างว่าเป็นสิ่งสมมุติครับ ถ้าไม่สมมุติแล้วมันจะหายไปงั้นหรือ? การ "สมมุติ" สิ่งที่เรียกว่าเวลาขึ้นมา หรือการนิยามคำว่าเวลา ก็แค่เป็นการ "ตั้งชื่อ" ให้กับสิ่งนั้น ไม่ได้ทำให้อะไรมีตัวตนขึ้นมาใหม่ได้หรอกนะครับ จากคุณ : ikkyu - [ 1 ก.พ. 52 12:48:21 ]

ความคิดเห็นที่ 114 #88 เรื่อง "จำนวน" คงไม่ใช่ข้อโต้แย้งที่ดีเท่าไหร่ เพราะจำนวนค่าสถานะต่างๆ ในจักรวาล มันก็มีจำนวนนับอนันต์อยู่แล้ว และถึงแม้ว่ามันจะแตกแขนงออกมากี่โลกก็ตาม มันก็ยังมีสิ่งที่ เกิดขึ้น-ตั้งอยู่-ดับไป ได้ตามแนวคิดศาสนาของคุณ (แต่ไม่ได้หมายความว่าผมสนับสนุนการตีความแบบ Many-world หรือ Parallel universe นะครับ) #90 Good Point ครับ การเอาคนๆ นึง หรือวัตถุอะไรก็ตาม ย้อนเวลากลับไป ก็เท่ากับการนำเอา "ข้อมูล" หรือ "entropy"  ให้หายไปจากปัจจุบัน แต่กลับไปเพิ่มให้อดีต มันก็ขัดกับกฏข้อสองของเทอโมแน่ๆ แต่ถ้ากฏข้อสองยังเป็นจริงภายใต้สถานการณ์ที่มีการย้อนเวลา เราอาจจะต้องนำเอา entropy จากอดีต ไปใส่ในอนาคต (ณ จุดที่มีการย้อนเวลา) เป็นการชดเชยด้วย นั่นอาจจะหมายความว่า เราจะไม่สามารถย้อนเวลาไปที่ไหนๆ ได้ตามใจ แต่สามารถไปได้เฉพาะจุดที่กำหนดไว้เท่านั้น #106 - ถ้าไม่มีการเปลี่ยนค่าสถานะของวัตถุ(หรือข้อมูล)ใดๆ เลย (ทุกอย่างคงที่เหมือนเดิม) ก็คงไม่มี "เวลา" แต่จักรวาลแบบนั้น คงไม่มีสิ่งมีชีวิตหรอกครับ นี่ก็ไม่ได้แปลว่าเวลาเป็นสิ่งสมมุติหรอกนะ แต่เป็นสิ่งจำเป็นที่จะเกิดระบบจักรวาลแบบที่เราอาศัยอยู่ได้นี้เอง - 99.99999999... % ของอะตอม ไม่ได้เป็นที่ว่างเลยครับ แม้ตรงที่ไม่มีมวลสาร ก็ยังมีสนามของแรงต่างๆ อยู่ทุกส่วน แทบไม่มีที่ว่างเลย ว่าแต่สรุปได้ไงวะครับเนี่ย จากคุณ : ikkyu - [ 1 ก.พ. 52 12:52:58 ]

ความคิดเห็นที่ 115 #106 มีการทดลองที่น่าจะเป็นหลักฐานที่ช่วยสนับสนุนว่าการเกิดรูหนอนมีความเป็นไปได้นะครับ (แต่ในระดับเล็กจิ๋ว) เรีบกการทดลองนี้ว่า Casimir Effect ทำการทดลองโดยการใช้แผ่นโลหะสองแผ่นมาวางใกล้ๆ กัน ปรากฏว่ามีประจุโฟตอนที่วิ่งข้ามไปได้ด้วยความเร็วเหนือแสงนิดหน่อย (แปลว่า มวลติดลบมีจริงในโลกนี้) อ่านเค้ามาอีกทีเหมือนกันน่ะ จากคุณ : Angos - [ 1 ก.พ. 52 12:56:48 ]

ความคิดเห็นที่ 116 ผม คือ  เจ้าเมืองบูรพา จากคุณ : เบียร์ (เจ้าเมืองบูรพา) - [ 1 ก.พ. 52 17:01:21 ]

ความคิดเห็นที่ 117 #106(ด้วยคน) ถ้าสมมติเราเดินทางที่ความเร็วเท่ากับแสงได้  มวลเราจะเป็นอนันต์ครับ ไม่ใช่มวลเป็น 0 จากคุณ : ดวงฉลุย - [ 1 ก.พ. 52 20:22:42 ]

ความคิดเห็นที่ 118 ความคิดเห็นที่ 28   ทำไมบางความเห็นดูซีเรียสจัง - -" #22 เรื่องเหลวไหลที่ว่า มีนักฟิสิกส์ระดับโลกศึกษาจากทฤษฎีที่เป็นไปได้นะครับ เห็นความเห็นแบบนี้แล้วเสียใจจัง ทีหลังจะตั้งกระทู้แบบนี้อีกดีไหมเนี่ย แก้ไขเมื่อ 26 ม.ค. 52 20:55:07 จากคุณ : Cryptomnesia ------------------------------ ขอโทษครับที่ทำให้คิดแบบนั้น แต่ว่าผมคิดว่ามันเหลวไหลจริงๆนี่นา!! ไม่มีใครหรอกที่สามารถย้อนไปแก้ไขในสิ่งที่ตัวเองทำมาแล้วได้ สายน้ำไม่เคยไหลย้อนกลับ ผมว่ามันเป็นแต่ความเพ้อฝัน+จินตนาการ+สมมุติฐานของนักวิทยาศาสตร์มากกว่านะครับ ผมเชื่อในศาสนาพุทธ การที่เราอยากรุ้ความเป็นไปของจักรวาลเค้าเรียก อจินไตย ผมว่าทางเดียวที่เราจะสามารถจะย้อนไปดูอดีตหรือไปดูอนาคตได้คือ วิปัสนา-กรรมฐาน อะครับ ผมว่า จิตเดินทางได้เร็วกว่าแสงแน่นอน ปล. ผมไม่ได้ซีเรียส นะครับ แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 52 21:04:16 จากคุณ : utd - [ 1 ก.พ. 52 20:46:10 ]

ความคิดเห็นที่ 119 ไม่ว่าอะไรๆก็ล้วนเป็นไปได้ทั้งนั้นค่ะ ขอบคุณจขกท อ่านแล้วกระตุ้นต่อมจินตนาการดีจัง จากคุณ : ปีบเล็กในป่าใหญ่ - [ 1 ก.พ. 52 22:29:29 ]

ความคิดเห็นที่ 120 ^ จิ้มไป 118 ^ ^ โดยในทางทฤษฎีมันก็มีกล่าวไว้แล้วเรื่องการย้อนเวลา ถึงแม้จะยังทำไม่ได้ แต่ก็ยังพิสูจไม่ได้หรอกครับว่า ทำได้หรือไม่ได้แน่ๆแล้ว ผมก็เชื่อพุทธศาสนาครับ และก็เชื่อด้วยว่าพุทธศาสนาเองก็เป็นศาสนาที่เป็นวิทยาศาสตร์ด้วยเช่นกัน การย้อนเวลาไม่ได้จำเป็นต้องแก้ไขในสิ่งที่ตัวเองทำไว้อย่างเดียวหากแต่จุดประสงค์หลักมันก็คือความอยากรู้อยากเห็นนั่นแหละครับ อจินไตยนั้นผมคิดว่าไม่ใช่ข้อห้ามว่า อยากรู้ไม่ได้ หรือห้ามอยากรู้นะครับ แต่จุดมุ่งหมายของอจินไตยนั้นน่าจะเป็นที่ว่า เราคิดไปก็เหนื่อยหาคำตอบไม่ได้ และ เป็นเรื่องที่เหนือความเข้าใจในปัจจุบันมากนักครับ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านจึงทรงเรียกว่านั่นคืออจินไตย คืออธิบายไปก็ไม่เข้าใจอยู่ดีจึงไม่มีประโยชน์ที่จะอธิบายหรือไปค้นหามัน <<< "แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่ามันอธิบายไม่ได้นะครับ" แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 52 22:38:28 จากคุณ : sariell - [ 1 ก.พ. 52 22:37:52 ]

ความคิดเห็นที่ 121 เราคิดเหมือน คห 106 ขอให้เครดิตคุณ ROOTAMAN จากคุณ : sb*star - [ 1 ก.พ. 52 23:21:01 ]

ความคิดเห็นที่ 122 ^ ^ อจินไตย ๔ อจินไตย ๔ - สิ่งที่ไม่ควรคิด ๔ ประการ (Acinteyya - (the four unthinkables) "จตฺตารีมานิ ภิกขฺเว อจินเตยยานิ น จินเตตพฺพานิ ดูกรภิกษุทั้งหลาย สิ่งที่ไม่ควรคิด ๔ อย่างนี้คือ ๑. พุทธวิสัย วิสัยของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ใครๆ อย่าคิด ถ้าใครคิด เป็นผู้มีส่วนแห่งความเป็นบ้า ๒. ฌาณวิสัย วิสัยของผู้ได้ฌาณ (อันนี้ลอกหนังสือครูบาอาจารย์มา ท่านสะกดอย่างนี้ เลยไม่ทราบว่าหมายถึง ฌาน หรือ ญาณ แน่ ต้องขออภัย ถ้าค้นเจอจะมาแจ้งให้แน่อีกทีค่ะ) ๓. กัมมวิบาก กรรมและผลกรรม ๔. โลกจินตา คิดเรื่องโลก อันนี้ ครูบาอาจารย์อธิบายขยายความไว้ดังนี้ค่ะ ทั้ง ๔ ข้อนี้ ก็เหมือนกัน ใครๆ อย่าคิด ถ้าใครขืนคิด เป็นผู้มีส่วน แห่งความเป็นบ้า มีส่วนแห่งความคับแค้นใจฯ ตามนัยนี้ แสดง ให้เห็นว่า ถึงจะคิดจะวิพากษ์วิจารณ์สักเท่าไรๆ ก็ไม่มีที่สิ้นสุดได้ และไม่ทำให้ผู้นั้นหายสงสัยได้ ถ้าลงมือทำเอง (คือ ลงมือเจริญสติ ตามแนวสติปัฏฐานสี่ ลงมือปฏิบัติกายและใจตามแนวไตรสิกขา คือ ศีล-สมาธิและปัญญา เพื่อให้เกิดปัญญาเห็นโลกเห็นธรรม ตามความเป็นจริง - deedi) จึงจะหายข้องใจเช่น ผู้ที่จะหยั่งทราบ พุทธวิสัย (= ความสามารถในการหยั่งรู้ของพระพุทธเจ้า - deedi) ต้องบำเพ็ญคุณธรรมคือ บารมี ๓๐ ทัศ ให้เต็มเปี่ยมอย่างพระพุทธเจ้า จึงจะวิพากษ์วิจารณ์ได้ ผู้ที่จะหยั่งทราบเรื่องการเข้าฌาณ เข้าผลสมาบัติ ตนเองก็จะต้องปฏิบัติธรรมจนได้ผลถึงขั้นเดียวกันก่อน ... จึงจะรู้ได้เช่น เดียวกับท่าน จึงจะรู้กันได้เรียกว่าเดินทางถึงขั้นเดียวกัน การที่จะหยั่ง ทราบผลกรรมของบุคคลและสัตว์ต่างๆ ก็ดี การที่จะหยั่งทราบเรื่องโลก ก็ดีเป็นวิสัยของพระพุทธเจ้า ถ้าจะพากันขืนคิดไปก็ตายเปล่า ไม่มีอันสิ้นสุดยุติลงได้ ... ผมว่ามันเกินขอบเขจความรู้ของปถุชนมนุษย์เดินดินกินข้าวแกงอะครับ จากคุณ : utd - [ 1 ก.พ. 52 23:23:51 ]

ความคิดเห็นที่ 123 แล้วคุณ utd แน่ใจได้อย่างไรครับว่าเรื่องนี้เป็น อจินไตย ในเมื่อมีทั้งทฤษฎี แนวคิด ความเป็นไปได้นำเสนอแล้ว คนคิดก็ไม่ใช่ตาสีตาสา เป็นนักวิทยาศาสตร์ระดับโลกทั้งสิ้น คุณก็ปิดใจไม่เชื่อ กล่าวว่าเป็นเรื่องเหลวไหล สิ่งสมมติเสียแล้ว ไม่เปิดใจหน่อยหรือครับ จากคุณ : Cryptomnesia - [ 1 ก.พ. 52 23:33:46 ]

ความคิดเห็นที่ 124 ^ ^ ถ้าจะพากันขืนคิดไปก็ตายเปล่า ไม่มีอันสิ้นสุดยุติลงได้ ... นี่ละครับ อจินไตย จากคุณ : utd - [ 1 ก.พ. 52 23:35:59 ]

ความคิดเห็นที่ 125 ^ ^ ขอออกความเห็นหน่อย.. ในยุคที่นิวตันตั้งทฤษฏีแรงโน้มถ่วงนั้น หลายๆ คนเชื่อว่าเวลาเป็นสิ่งสัมบูรณ์ (absolute time) ตอนไอนสไตน์ยกทฤษฏีสัมพัทธภาพขึ้นมาเพื่อพิสูจน์เรื่องเวลาสัมพัทธ์ (relative time) ก็มีคนหาว่าเหลวไหล เมื่อก่อนมีโทรศัพท์ ไม่มีใครเชื่อว่าคนที่อยู่คนละฝั่งของโลกจะสามารถสื่อสารกันได้ พออเลกซานเดอร์ เกรแฮม เบลล์ คิดค้นโทรศัพท์ เรื่องเหลวไหลก็กลายเป็นจริง คำถามของผม ก็คือ คุณ utd ใช้อะไรตัดสินว่า สิ่งที่เรากำลังพูดถึงนั้น เหลวไหล หรือควรให้ความสนใจ...? อะไรเป็นตัวบอกว่า เราคิดแล้วจะตายเปล่า..? หรืออะไรเป็นตัวบอกว่า ความคิดนี้ไม่มีทางหาข้อสิ้นสุดลงได้..? เรื่องการย้อนเวลา มันเป็นกรณีเดียวกันกับทฤษฏีสัมพัทธภาพของไอนสไตน์หรือเปล่า..? ผมไม่ใช่พุทธ และผมไม่สนใจว่า ผมสมควรจะปฏิบัติตามแนวคิดเรื่องอจินไตยหรือไม่ แต่ผมเชื่อในหลักกาลามสูตรครับ ผมไม่เชื่อ เพียงเพราะพระพุทธเจ้าตรัส ผมเชื่อในตัวเอง แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 52 01:27:10 จากคุณ : Angos - [ 2 ก.พ. 52 01:26:22 ]

ความคิดเห็นที่ 126 มันไม่ตายเปล่าหรอกครับ ผมคิดว่าตายเปล่าในที่นี้ หมายความว่า ท่านคิดยังไม่ออก ขบปัญหากันยังไม่แตกก็ตายเสียก่อนตะหาก แต่ปัญหาเหล่านี้บางครั้งมันไม่สามารถขบได้ด้วยคนรุ่นเดียวหรอกครับ จากคุณ : sariell - [ 2 ก.พ. 52 08:10:09 ]

ความคิดเห็นที่ 127 ครับ จากคุณ : utd - [ 2 ก.พ. 52 16:32:46 ]