ความคิดเห็นที่ 1 มาจาก oxyacetylene ครับ พี่ไทยก็จับมันหดมาเหลือแค่ "อ๊อก" ครับ จากคุณ : เศียรนาคา ... (Eumentis) - [ 27 ม.ค. 52 17:41:41 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 27 ม.ค. 52 17:53:12 ]

ความคิดเห็นที่ 3 น่าจะมาจากคำว่าออกซิเดชั่นมั๊ง ------------------------------------------------------ อ่อ  คุณเศียนนาคาเฉลยแล้ว แก้ไขเมื่อ 27 ม.ค. 52 17:54:05 จากคุณ : Mr.Whisper (wsteven) - [ 27 ม.ค. 52 17:53:24 ]

ความคิดเห็นที่ 4 อืม....พึ่งรู้ตาม คห.1 จากคุณ : @home (บ่าวจ่อย) - [ 27 ม.ค. 52 18:02:11 ]

ความคิดเห็นที่ 5 oxyacetylene น่าจะหมายถึง การเชื่อมเหล็กด้วยเปลวไฟ ทีเกิดจากการผสมระหว่าง อ็อกซิเจนกับแก็สนะครับ การอ็อกเหล็ก น่าจะหมายถึง การเชื่อมด้วยกระแสไฟฟ้ามากกว่า น่าจะมาจากคำว่า อ๊าค ที่แปลว่า สปาร์คมากกว่า ข้อความข้างบน มาจากการเดาล้วนๆครับ จากคุณ : เด็กทุ่งครุ - [ 27 ม.ค. 52 18:04:15 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เพิ่มเติม oxyacetylene = oxygen+acetylene ที่เป็นก๊าซทั้งสองประเภทผสมกันสำหรับการเชื่อมแก๊ส แต่ทำๆไปๆมา คำว่าอ๊อซ์เหล็กก็รวมไปทั้งเชื่อมแก๊สและไฟฟ้าอยู่ดี จากคุณ : ไวท์คุง - [ 27 ม.ค. 52 18:06:59 ]

ความคิดเห็นที่ 7 อกเล็ก /me ฟิ้วว..... จากคุณ : nutxnut - [ 27 ม.ค. 52 19:19:23 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ^^^ ^^ ^ เตรียมออกทะเล จากคุณ : vader007 - [ 27 ม.ค. 52 19:49:49 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ใช้ว่า อ๊อกเหล็ก เฉยๆ ก็น่าจะพอครับไม่ต้องมีการันต์ เพราะเป็นภาษาพูดไปแล้ว และมันก็เปลี่ยนรูปของคำไปเยอะด้วย ตัวอย่างที่ใกล้เคียงเช่น ซากูไล (ไขควง - มาจาก Screwdriver) ไม่รู้สิครับ ผมไม่กล้าเขียนว่า สกรูไลฟ์ อะครับ อีกคำ คำว่า ยอย (Joint นั่นเอง) ลองเขียนว่า ยอยท์ มันก็ดูแปลกๆ นะครับ ... จากคุณ : มุขไม่ฮาพาเพื่อนเครียด - [ 27 ม.ค. 52 20:15:28 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ภาษาช่างมันจะไม่ค่อยถูกวรรณยุกต์เท่าไรครับ ซากูไล โช้คอัพ มู่เล่ ที่บ้านผมเรียกเฟืองท้ายสิบล้อว่า ลูกกระโป_รถ ด้วยล่ะ จากคุณ : ม้าไม้เมืองทรอย - [ 27 ม.ค. 52 20:27:09 ]

ความคิดเห็นที่ 11 # 3 คุณน่าจะเข้าใจถูกแล้วนะครับ ทำไมเขวซะล่ะครับ ตามที่ท่านเศียรนาคาบอกนั้นเป็นการเชื่อมแบบใช้ oxygen ผสมกับ acetylene ในการให้ความร้อน ปรกติก็เรียกเชื่อมแก็สตามปรกติครับ จากคุณ : Y-80 Mate (ใช้อยู่) - [ 27 ม.ค. 52 20:38:11 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ผมเคยสงสัยว่า อาชีวะ มีแผนกช่างเชื่อม เนี๊ย เรียนจบมาคงจะทำอะไร เปิดร้านเชื่อมรั้ว เหล็กดัด ต้องไปเรียน สาม สี่ ปีเลยเหรอ? """" พอโตขึ้นถึง เข้าใจว่า อ๊อคเชื่อมที่ดีๆ นี้ มันต้องประณีต ต้องฝีมือจริงๆ พอลองทำแล้วถึงจะรู้ (ตอนนี้เข้าใจได้ด้วยตัวเองแล้วคร๊าบบ) อย่างในรายการ ออเรนจ์ เคาท์ตี้ ชอปเปอร์ หรือรายการ มอนส์เตอร์การาจ พวก ช่างเชื่อมเก่งๆ นี้ มันเก่งแบบ หาคนอื่นทำแทนไม่ได้เลย เคยถามน้องที่เรียนมา มันก็บอกว่า งานที่ต่างประเทศเค้ายอมรับกันเรื่องเฉพาะทางอย่างนี้ จากคุณ : เลือนลางร่ำไร - [ 27 ม.ค. 52 21:02:01 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ได้คำตอบกันแล้ว.... ผมขอแชร์ด้วยคนว่า ถ้าลองทำดูจะพบว่ามันแปลกมากครับ เพราะเราเริ่มต้นด้วยการเอาลวดเชื่อมไปแตะ ๆ กับงานเชื่อม พอได้จังหวะ มันจะมีเหมือนเปลวไฟพุ่งออกจากลวดเชื่อมไปที่ชิ้นงานเลยครับ ซึ่งวิธีนี้ ไม่มีการใช้แก้สอะไรมาพ่นทั้งนั้น แต่เมื่อมองผ่านทางที่บังแสง จะเห็นเหมือนเปลวไฟพุ่งออกจากลวดไปหาชิ้นงาน ซึ่งทำให้ลวดเชื่อมที่หุ้มด้วย flux ละลายอย่างรวดเร็ว....อันนี้ผมเดาว่า มันเกิดจาก Back EMF จากขดลวดตู้เชื่อม ซึ่งเป็น Back EMF ที่มีกระแสสูงมาก ทำให้ลวดละลายอย่างรวดเร็วครับ ลองเชื่อมไปซักชิ้นสองชิ้น...จะสนุกมากเลย แต่แปลกที่จะรู้สึกปวดหัวหลังทำเสร็จแล้วน่ะครับ จากคุณ : James Cook - [ 27 ม.ค. 52 22:26:16 ]

ความคิดเห็นที่ 14 กรุณาอย่าใช้คำว่าอ๊อกเลย ฟังแล้วไม่ตรงศัพท์ พยายามใช้คำว่าเชื่อมเถอะ แล้วค่อยขยายความว่า "เชื่อมแกส" "เชื่อมไฟฟ้า" "เชื่อมติ๊ก" "เชื่อมมิ๊ก" ต่อไป พวกนี้ใช้กับงานไม่เหมือนกัน รวมถึงเครื่องมือก็ต่างกัน แม้จะมีหลักการเดียวกัน จากคุณ : ต้นโพธิ์ต้นไทร - [ 27 ม.ค. 52 22:49:50 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เวลดิ้ง จากคุณ : Mr.Odwa - [ 27 ม.ค. 52 23:54:03 ]

ความคิดเห็นที่ 16 งานเชื่อมนี่มันไม่ใช่เล็กๆนะครับ เทคนิคการเชื่อมที่เป็นภาคแยกออกมานี่ เรียนไปถึงโครงสร้าง material etc. บลาๆๆ รู้สึกจะมีถึง ป.โทเลยมั้ง งานก็เยอะแยะพอๆกับแม่พิมพ์เลยมั้ง ไม่ใช่เรียนมา ไปเชื่อมมุ้งลวด เหล็กดัด พูดซะเสียเลย -_- จากคุณ : HaPp - [ 27 ม.ค. 52 23:59:47 ]

ความคิดเห็นที่ 17 อ่อเป็นเช่นนี้นี่เอง ว่าแล้วว่าจะต้องได้ความกระจ่าง ^^ ตอนแรกก็คิดว่ามาจากออกซิเจน แต่เรียกกันว่า "อ็อกเหล็ก" หรือ "ช่างอ็อก" ก็คิดว่าคำว่า "อ็อก" เป็นคำกริยาซะอีก :P แต่ที่แท้มาจาก oxyacetylene และจะแอบงงต่อไป ถ้าไม่ขยายความ แปลว่าห้องนี้มีช่างอ๊อกมากมาย...อิอิ ขอบคุณค่ะ ^^ จากคุณ : minnie the mouse - [ 28 ม.ค. 52 00:29:09 ]

ความคิดเห็นที่ 18 มันไม่ได้เพี้ยนมาจากคำว่า Electric Arc หรอครับ จากคุณ : AjuntaPall - [ 28 ม.ค. 52 00:50:02 ]

ความคิดเห็นที่ 19 กำลังคิดแบบ # 18 ครับ จากคุณ : น้าพร - [ 28 ม.ค. 52 01:11:35 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ผมว่ามันน่าจะมาจาก Arc มากกว่านะครับ อย่างตู้เชื่อมมันคือ Arc Welder น่ะครับ จากคุณ : anthonoy - [ 28 ม.ค. 52 07:50:19 ]

ความคิดเห็นที่ 21 อ็อก ภาษากัมพูชา  ก็แปลว่าเชื่อมนะ เจิ๊ด อ็อก เจิ๊ด-----ใจเชื่อมใจ เอ่ะหรือจะแผลงมาจากภาษานี้ จากคุณ : katasaro - [ 28 ม.ค. 52 07:56:39 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ทีแรกผมก็คิดเหมือน #3 เหมือนกัน จากคุณ : AW Milan - [ 28 ม.ค. 52 08:23:06 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ชัชซี Chassis ต๊าป Tap จากคุณ : PV - [ 28 ม.ค. 52 09:26:20 A:203.155.78.243 X: TicketID:102349 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เคยเรียนมาตอน ปวช. ครับ เพี้ยนมาจาก Electric Arc ครับ จากคุณ : bank09 - [ 28 ม.ค. 52 09:52:13 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เหมือนเคยได้ยินมาว่า ภาษาช่างกับวิศวไม่เหมือนกันหนะครับ เรียก อ๊อก กับ เชื่อม ไม่รู้ว่าใครเรียกกันยังไง จากคุณ : hyesoo (hyesoo) - [ 28 ม.ค. 52 13:14:43 ]

ความคิดเห็นที่ 26 #21 โอ้ว ความลับถูกไขกระจ่างแล้ว เจิ๊ด อ๊อก เจิ๊ด *-* ใจเชื่อมใจ ซะงั้น แก้ไขเมื่อ 28 ม.ค. 52 14:57:30 จากคุณ : หงส์โหด - [ 28 ม.ค. 52 14:57:01 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ที่โรงกลึงจะใด้ยินคําว่า  มิเนียม  บ่อยมาก ต่อไปคงลืม  อลูมิเนี่ยม ไปเลย จากคุณ : ลุงขาว (renangkull) - [ 28 ม.ค. 52 15:33:59 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ยาวแฮะ  หลากหลายเลย ให้ข้อมูลเพิ่มเพื่อพิจรณา อิ อิ ผมไม่คิดว่าจะมาจาก oxyacetylene นะครับ เพราะผมคุ้นเคยกับเจ้าถัง อะเซตทีลีนนี้มาตั้งแต่เด็ก สมัยเป็นแก็สก้อนแล้วเติมน้ำได้เป็นอะเซตทีลีนแล้วครับ  กระบวนการเชื่อมด้วย oxyacetylene นี้ก็เรียก เชื่อมแก็สมาตลอด แต่ตู้เชื่อมแบบที่ใช้เชื่อมแบบ Electric Arc Welding ที่เป็น Stick Welders นั้น ไม่ว่าที่ไหน ก็เรียก ตู้อ๊อก นะครับ เลยประมาณเอาว่า เป็นคำที่เรียกมาแต่สมัยโบราณแล้ว เวลาเอา อิเลคโทรด(ลวดเชื่อม) ไป arc กับชิ้นงาน  ซึ่งเป็นกระบวนการ oxidation อย่างหนึ่งครับ  การเชื่อมไฟฟ้าไม่ว่าจะเป็น TIG  MIG  Stick Welders ใช้หลักการเดียวกันหมดครับ เป็น oxidation แบบ ฟิวชั่น ครับ ถ้าจำไม่ผิดนะครับ เพราะเรียนมานานแล้วชักไม่แน่ใจและลืมๆเหมือนกัน ขี้เกียจค้น ใครขยันลองค้นมาค้านดูครับ  แต่ที่แน่ๆจะเป็นหลักการเดียวกันหมด ต่างกันที่วัสดุที่ใช้เชื่อม ฟลั๊ก หรือก๊าซเฉื่อยที่ใช้คุมอ๊อกซเจน ไฮโดรเจน ไนโตรเจน ในขณะ arc ครับ ไม่มีเวลาทวนแล้ว  ไปรับลูกก่อนล่ะครับ อิ อิ จากคุณ : Y-80 Mate (ใช้อยู่) - [ 28 ม.ค. 52 15:52:29 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ตาม #1 เชื่อมไฟฟ้า มาทีหลัง เลยเรียกการประสานโลหะเข้าด้วยกัน ด้วยการหลอมละลายว่า ออกซ์ ตามไปด้วย การเชื่อมไม่ใช่ Oxidation แน่นอน แต่เป็นการหลอมละลาย ถ้ามี Oxide เกิดขึ้นมาก รอยเชื่อมจะเปราะ ใช้งานไม่ได้ Oxidation คือการทำปฏิกิริยากับ Oxygen จะใช้กับการตัดแผ่นเหล็กครับ นอกนั้นไม่พึงประสงค์ คือใช้ไฟจากการเผาก๊าซ จนเหล็กร้อนได้ที่ แล้วปล่อย Oxygen ออกไป เกิดปฏิกิริยาคายความร้อน เหล็กจะร้อนจัดมากขั้นจนหลอมละลาย จากนั้นถูกความดันของ Oxygen เป่าออกไปเป็นรอยตัด จากคุณ : KuatengAk - [ 28 ม.ค. 52 23:51:31 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ยืนยันตาม #1 ครับ สมัยเรียน อาจารย์ก็บอกว่า เชื่อมแก๊ส มีมาก่อน เชื่อมไฟฟ้า oxyacetylene = Oxygen + Acetylene ยังบอกอีกว่า ช่างรุ่นเก่าๆขี้เกียจเรียกยาว oxyacetylene เลยเหลือแค่ อ็อก จากคุณ : NATSKI13 - [ 29 ม.ค. 52 11:48:44 ]

ความคิดเห็นที่ 31 อิ อิ ยอมแพ้ครับ oxyacetylene ก็ oxyacetylene ครับ แต่การเชื่อมนั้นยืนยันว่าเป็น Oxidation ครับ   ส่วนการใช้ฟลั๊กแข็งหุ้มไว้หรือใช้ก๊าซเฉื่อยคลุมไว้สำหรับลวดเปลือยครับ  เพื่อลดหรือคอลโทรล Oxidation ซึ่งจะเกิดผลเสียกับแนวเชื่อมอย่างที่คุณ # 29 ว่ามาแหละครับ -------------------------------------------------- ขอแย้ง # 29 หน่อยครับ "การเชื่อมไม่ใช่ Oxidation แน่นอน แต่เป็นการหลอมละลาย ถ้ามี Oxide เกิดขึ้นมาก รอยเชื่อมจะเปราะ ใช้งานไม่ได้ Oxidation คือการทำปฏิกิริยากับ Oxygen"   ----------------------------------------------------- ใช่ครับ   Oxidation คือการทำปฏิกิริยากับ Oxygen แต่คำนี้คงไม่เฉพาะกับปฏิกิริยาเดียวนะครับ ยังหมายถึง  การที่อะตอมของธาตุสูญเสียอิเล็กตรอนไป  ด้วยนะครับ ผมจึงไม่เห็นด้วยกับที่ว่า  "การเชื่อมไม่ใช่ Oxidation แน่นอน แต่เป็นการหลอมละลาย" แล้วการหลอมละลายคืออะไรล่ะครับ  เกิดขึ้นได้อย่างไร ? ในการเชื่อมด้วยไฟฟ้าก็คือตัวอิเลคโทรด(ลวดเชื่อมเหล็ก)ถูกกระตุ้นด้วยไฟฟ้า  ทำให้สูญเสียวาเลนซ์อิเล็กตรอน โมเลกุล อยู่ในสภาวะไม่เสถียรและสภาวะที่โปรตรอนขาดอิเลคตรอนไปมีสถานะเป็นประจุบวก  เมื่อเอาไปจ่อใกล้กับชิ้นงานกราวนด์จึงวิ่งเข้าหาอิเลคตรอน ช่วงนี้แหละครับ ที่เป็นฟิวชั่น(หลอมละลาย) ก็คือโมเลกุลของลวดเชื่อมหรืออิเลคโทรดเข้าไปเกาะกับอิเลคตรอนในส่วนของชิ้นงาน ส่วนการ Oxidation ปฏิกิริยากับ Oxygen นั่นก็อีกส่วนที่เกิดขึ้นพร้อมๆกันครับ ผิดพลาดยังไงก็แนะนำด้วยก็แล้วกัน เรียนมาตั้งแต่สมัย ม.ศ 4 แล้ว อาจารย์แก่ๆของผมแกอาจสอนผิดก็ได้ ถ้าผิดก็ช่วยสอนผมด้วยก็แล้วกันครับ จากคุณ : Y-80 Mate (ใช้อยู่) - [ 29 ม.ค. 52 21:05:51 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เคยเรียนพื้นฐานช่างเชื่อมมาตอนปีหนึ่ง  ตามตำราเรียก"อาร์ค"ครับ ป.ล. โรงเรียนผมมีสอน ตัด-เชื่อมใต้น้ำด้วยนะเอ้อ จากคุณ : paztzaa44 - [ 30 ม.ค. 52 00:53:58 ]

ความคิดเห็นที่ 33 #31 โลหะ สูญเสียอิเลคตรอน เรียกว่า การกัดกร่อน หรือ Corrosion ครับ ธาตุสูญเสียอิเลคตรอน คือ การทำปฏิกิริยาเคมีได้เป็นสารประกอบใหม่ ก็จะมีการดูดหรือคายความร้อนออกมา ไม่เกี่ยวกับกระบวนการเชื่อม Oxidation ชื่อก็บอกตรงๆอยู่แล้ว ว่าเกี่ยวกับ Oxygen ส่วนความร้อนจากการเชื่อมไฟฟ้านั้น เกิดขึ้นจากหลายรูปแบบ ทั้งจากการอาร์ค ความต้านทานไฟฟ้า เป็นต้น การเชื่อมเกิดจากการไหลของกระแสไฟฟ้า ครบวงจร การไหลของกระแสไฟฟ้า คือ อิเลคตรอน หรือประจุลบ ไม่มีการเคลื่อนที่ของประจุบวก เพราะเป็นของแข็ง พานิวเคลียสไปไม่ไหวหรอกครับ ความร้อนที่เกิดขึ้นจากการไหลของกระแสไฟฟ้า ทำให้ปลายลวดเชื่อมหลอมละลาย เติมลงไปในร่องรอยเชื่อมที่เตรียมไว้ ในการเชื่อม สามารถที่จะต่อลงจร ให้ลวดเชื่อมเป็นบวกหรือลบ เมื่อเทียบศักย์ไฟฟ้ากับชิ้นงานก็ได้ ทั้งนี้เพื่อหวังผลการซึมลึก เหมาะสมต่อวิธีการเชื่อม ชนิดของโลหะ ชนิดก๊าซที่ใช้ปกคลุม ฯ จากคุณ : KuatengAk - [ 30 ม.ค. 52 18:11:43 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ที่ความร้อน เกิดขึ้นได้หลายรูปแบบ ทั้งจากการอาร์ค  ความต้านทานไฟฟ้า นั้น มันถูกต้องอยู่แล้วครับ อยากจะขอให้ช่วยอธิบายเรื่องความร้อนที่เกิดจากการอาร์ค และจากความต้านทานไฟฟ้าครับ  ความร้อนที่เกิดจากการไหลของกระแส  ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร(กระบวนการที่ทำให้เกิดความร้อน) "การไหลของกระแสไฟฟ้า คือ อิเลคตรอน หรือประจุลบ ไม่มีการเคลื่อนที่ของประจุบวก เพราะเป็นของแข็ง พานิวเคลียสไปไม่ไหวหรอกครับ" ทั้งประจุบวกหรือลบมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้วครับ แต่ที่คงตัวอยู่ได้เป็นธาตุสถานะต่างๆนั้นเพราะแรงยึดเหนี่ยวภายในโมเลกุลครับ  เมื่อถูกกระตุ้นโดยไฟฟ้า หรือพลังงานภายนอกที่เหมาะสม ก็เปลี่ยนสถานะหรือเคลื่อนตัวได้นี่ครับ ดูท่าทางจะเชี่ยวชาญทางด้านนี้นะครับ  เพราะจากที่ได้แลกเปลี่ยนกันมาความรู้ทางด้านนี้คุณอยู่ในระดับดีมากเลยนะครับ  ในด้านนี้ผมคงไม่รู้เท่าคุณ เพียงแต่บางประเด็น บางเรื่องดูเหมือนคุณจะยังปิดๆอยู่นะครับ ยังไงช่วยไขความกระจ่างเรื่องกระบวนการเกิดความร้อนด้วยนะครับ อยากรู้มากและลึกกว่าแค่ว่าเกิดจากความต้านทานหรือการไหลของกระแสไฟฟ้าครับ ส่วนเรื่อง Oxidation นั้น  คงไม่ถกประเด็นนี้กับคุณอีกแล้ว ถ้าคุณยังยืนยันแค่ว่า Oxidation คือการรวมตัวกับ ออกซิเจนอย่างเดียว  และ ชื่อก็บอกตรงๆอยู่แล้ว ว่าเกี่ยวกับ Oxygen ทั้งๆที่คุณเองก็ทราบดีอยู่แล้วว่า ฟลั๊กและก๊าซเฉื่อยที่จำเป็นต้องใช้ในการการเชื่อม ก็เพื่อลดผลเสียที่เกิดจากOxidation ที่เกิดขึ้น ต้องปิดร้านกลับบ้านแล้ว แล้วจะกลับมาดูคำอธิบายเรื่องกระบวนการเกิดความร้อนนะครับ จากคุณ : Y-80 Mate (ใช้อยู่) - [ 30 ม.ค. 52 21:21:42 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เอาเท่าที่รู้ครับ ยินดีที่ได้แลกเปลี่ยน เรากำลังพูดถึงการเชื่อมโลหะอยู่นะครับ เพื่อวางกรอบให้แคบๆหน่อย ที่ท่าน #34 กล่าว "ทั้งประจุบวกหรือลบมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้วครับ แต่ที่คงตัวอยู่ได้เป็นธาตุสถานะต่างๆนั้นเพราะแรงยึดเหนี่ยวภายในโมเลกุลครับ  เมื่อถูกกระตุ้นโดยไฟฟ้า หรือพลังงานภายนอกที่เหมาะสม ก็เปลี่ยนสถานะหรือเคลื่อนตัวได้นี่ครับ" การเปลี่ยนสถานะเป็นของเหลวแล้ว เคลื่อนที่ได้ เห็นด้วยครับ เพราะประจุบวก หรือ อิออนบวกเคลื่อนที่ได้ในของเหลวหรือก๊าซ อะตอมของก๊าซขนาดเล็ก เช่น ไฮโดรเจน สามารถเคลื่อนไปตามช่องว่างของอะตอมโลหะที่มีขนาดใหญ่ได้ เรียกว่า การแพร่ หรือ Diffusion คล้ายกับโรยเม็ดถั่วเขียวเข้าไประหว่างลูกสนุกเกอร์ แต่อะตอมขนาดใหญ่จะผ่านไปไม่ได้ เพราะช่องว่างเล็กเกินไป อะตอมคาร์บอน แทรกไปอยู่ระหว่างช่องว่างของเหล็กทำให้ได้เหล็กกล้า แบบนั้น นิวเคลียสของของแข็งเคลื่อนที่นั้นก็เป็นไปได้ครับ แต่ไม่มาก ในของแข็งอะตอมเคลื่อนได้แค่สั่นๆ เพราะอะตอมของโลหะถูกตรึงอยู่กับที่จาก Metallic bond ถ้าว่ากันโดยละเอียดแล้ว ถ้ามีแรงกระทำ ก็สามารถจะขยับได้บ้างแค่ไปแทนที่ว่างของอะตอมข้างเคียง (Vacancy) หรือไม่ก็ต้องทุบให้เสียรูปนะครับ ทุบแล้วจะเคลื่อนตัวและเกิดความร้อน การใส่แรงทางกลเข้าไป ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า Cold work ก็แค่อะตอมขัดลำเท่านั้น ไม่ได้ไหลแบบประจุลบ ถ้าอยากให้เคลื่อนมากจริงๆ ผมว่าต้องใส่พลังงานอย่างมากเข้าไปให้มันเคลื่อน เช่น ยิงด้วยอนุภาค พวกนิวตรอน แต่เดี๋ยวจะกลายเป็นกัมมันตรังสีหรือนิวเคลียร์บอมบ์ ถ้าอะตอมแตก สำหรับกลไกที่การไหลของกระแสไฟฟ้าทำให้เกิดความร้อนโดยอธิบายระดับอะตอมนั้น ผมคิดว่า มันเกิดจากที่อิเลคตรอนเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว โดยแรงขับของความต่างศักย์ มันต้องผ่านแรงยึดเหนี่ยวของประจุบวก และชนกันเอง หรือเรียกง่ายๆว่าความฝืดในการไหล ประจุลบหรืออิเลคตรอนสูญเสียพลังงานตามรายทางโดยเปลี่ยนมาในรูปของความร้อน สนามแม่เหล็ก แสงสว่าง ฯลฯ ถ้าเป็นความร้อนจากการอาร์ค จำได้ว่า เป็นลักษณะที่ลำอิเล็คตรอนวิ่งไปปะทะ ฝั่งที่มีความต่างศักย์เป็นบวก และสูญเสียพลังงานจลน์เป็นความร้อนและแสงสว่างครับ ก็ประมาณนี้ละครับ ผิดไปจากวิทยาศาสตร์ยังไง ช่วยแก้ไขและขออภัยล่วงหน้าครับ จากคุณ : KuatengAk - [ 30 ม.ค. 52 22:58:20 ]

ความคิดเห็นที่ 36 อิ อิ วันนี้มาเปิดร้านก็เข้ามาดูเลยครับ อิ อิ ตามที่ท่านอธิบายมาก็พอจะเข้าใจครับ ขอเสริมในส่วนหนึ่งก็แล้วกันครับ  คงเอาแค่พอเข้าใจ  ไม่ลงลึกกว่านี้แล้ว  เพราะถ้ามากกว่านี้ก็คงต้องหาอ่านตำราเพื่อยืนยันความรู้ที่มีอยู่และศึกษาเพิ่มเติม ซึ่งผมคงไม่สามารถทำได้  เพราะโดยมากมีเวลาตอนพักก็เข้ามาหาความรู้ในห้องนี้แค่นั้นเองครับ การเคลื่อนที่สามารถทำได้ไม่แตกต่างกันครับ    ไม่ว่าจะในสถานะของแข็งหรือของเหลวหรือก๊าซครับ ขอเพียงมีสภาวะแวดล้อมและการให้พลังงานกระตุ้นที่เหมาะสมครับ เพราะสถานะที่เป็นของแข็ง  ของเหลว  ก๊าซ นั้นแตกต่างกันที่แรงยึดเหนี่ยวภายในโมเลกุลนี่ครับ  ส่วนการเคลื่อนก็เป็นไปตามลักษณะของพลังงานที่กระทำและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุล การใส่พลังงานอย่างมากเข้าไปให้มันเคลื่อนอย่างที่คุณว่า เช่น ยิงด้วยอนุภาค พวกนิวตรอน  ซึ่งทำให้เกิดการสั่นสะเทือนของโมเลกุลให้เกิดความร้อน  พวกที่เชื่อมด้วยเลเซอร์ก็น่าจะเป็นหลักการทำนองนี้นะครับ หรือใส่พลังงานแบบคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเข้าไป ให้เกิดแรงสั่นสะเทือนในโมเลกุล จนร้อนแล้วเชื่อมต่อกัน(เครื่องเชื่อม ให้ความร้อนแบบเหนี่ยวนำ) ซึ่งเดี๋ยวนี้มีขายเยอะแยะนี่ครับ  แต่ราคาค่าใช้จ่ายค่อนข้างแพงครับ เลยยังไม่เป็นที่นิยมและมักใช้กับงานผลิต งานเชื่อมนี่แบบต่างๆนี่ น่ามีเป็นครึ่งร้อยแบบเหมือนกันนะครับ  ผมเองก็รู้อยู่ไม่กี่แบบ  เคยไปดูงานแสดงเครื่องจักรอุตสาหกรรม ผมว่า มีเป็น 40-50 แบบแหละครับ  เครื่องเชื่อมและงานเชื่อมแบบต่างๆ ส่วนพวกที่จบเทคนิคบ้านเรา ก็คงได้แค่ แบบใช้ธูปเชื่อมธรรมดา  TIG MIG และเชื่อมแก๊สเป็นหลัก เพราะใช้งานได้กว้างขวางกว่า ขอบคุณมากนะครับ  ยินดีที่ได้แลกเปลี่ยนครับ จากคุณ : Y-80 Mate (ใช้อยู่) - [ 31 ม.ค. 52 10:47:44 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ครับ ยินดีครับ คงจะตีความหมายคนละอย่างอ่ะ การเคลื่อนของประจุบวก ในความหมายของผม คือไหลแบบ electron หรือกระแสไฟฟ้า ซึ่งในของแข็ง ผมว่ามันวิ่งไม่ได้ เพราะประจุบวก คือ อะตอมที่สูญเสีย Electron แต่เอาสั่นๆอย่างที่ท่านว่า ก็โอ ครับ จากคุณ : KuatengAk - [ 31 ม.ค. 52 15:26:39 ]

ความคิดเห็นที่ 38 หลงเข้ามาได้ไงไม่รู้เเต่บังเอิญมันเกี่ยวกับผมอ่าครับ ผมนักศึกษาวิชาช่างเชื่อมครับ คำว่า ออก ออกซ์ หรือ(อ้อกเหล็ก ) มันมาจากคำว่าอาร์คครับ ไม่ใช่มาจากคำว่าออคซี่อเซทีลีนน้ะครับ มันมาจากคำว่าอาร์คครับ คำว่าอาร์คคือ ระยะห่างจากปลายลวด กับชิ้นงานโลหะที่จะเชื่อม หรือเรียกว่า ระยะอาร์ค นั่นเองครับ ส่วนสาเหตุที่คำว่าอาร์คมาเป็นออคนี่ไม่มีเหตุลรองรับที่แน่นอน จากคุณ : ช่างเชื่อมที่ไม่มีใครคิดเรียน - [ 16 มี.ค. 52 00:37:30 A:222.123.82.29 X: ]

ความคิดเห็นที่ 39 ต่อจาก 38 ที่จริงมันมาจากคำว่าไรไม่สำคัญหรอกน้ะครับ แต่ผมว่าไม่ใช่ออกซิเดชั่นเเละทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์อย่างที่พวกท่านๆอธิบายมากันน้ะครับ การเชื่อมนั้นไม่สามารถให้ออกซิเจนมาผสมอยู่ในแนวเชื่อมได้ครับ ไม่งั้น เหล็กก็จะพรุน โหว่ แหว่ง เกิด อัเดอร์คัต และอื่นๆ ไม่งั้นจะมี ฟลั๊กหุ้มลวดไว้ทำไม เขามีไว้กันอากาศเข้าไปผสมในแนวเชื้อมขณะเนื้อเหล็กหลอมละลายกับชิ้นงาน อีกอย่างที่ท่านพูดมายาวเป็นหน้kกระดาษท่านคิดถึงความเป็นจริงอีกอย่างน้ะ ช่างที่ไม่ได้เรียนมาเขาจะรู้จักไม้ ที่ท่านพิมพ์มากันเนี่ย เฮ้อ ไปกันใหญ่เลย อ่านเเล้วตลก ถกกันเเค่คำว่า ๊อ๊อก" จากคุณ : ช่างเชื่อมที่ไม่มีใครคิดเรียน - [ 16 มี.ค. 52 00:50:45 A:222.123.82.29 X: ]