ความคิดเห็นที่ 1 ผมว่าที่ถูกน่าจะเป็นสมองคนไทยไม่เหมาะกับการสอนภาษาอังกฤษของโรงเรียนไทยมากกว่าครับ เพราะผมก็ไม่เคยตั้งใจเรียนในห้องหรือไปติวพิเศษที่ไหน แต่ก็พูดได้นะ แก้ไขเมื่อ 28 ม.ค. 52 11:38:32 จากคุณ : Skyman (Analayo) - [ 28 ม.ค. 52 11:38:19 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ผมว่า ... การสอนภาษาอังกฤษของโรงเรียนไทย ไม่เหมาะกับสมองของมนุษย์ใด ๆ ในโลก มากกว่าครับ จากคุณ : เศียรนาคา ... (Eumentis) - [ 28 ม.ค. 52 11:42:46 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เพราะว่า logic ของ gamma ระหว่างภาษาไทย กับภาษาอังกฤษ มันต่างกันครับ ถ้าอยากพูดภาษาอังกฤษให้ได้ดี ผมมีให้ 3 ข้อครับ 1) ท่องศัพท์ พื้นฐาน ไม่ต้องมากครับ ไม่ต้องตะบี้ตะบันท่องด้วย เอาพวกพื้นฐานรอบตัวนี่ละ โต๊ะ เตียง ตู้ กินข้าว ไปเที่ยว ซ้าย ขวา แล้วก็ศัพท์เทคนิคใน area ที่เราทำงานอยู่ จะช่วยให้สื่อสารง่ายขึ้นไปอีกครับ 2) คิดเป็นภาษาอังกฤษเลย ไม่งั้นเสียเวลาต้องแปลงจากภาษาไทย ไปเป็นภาษาอังกฤษอีกรอบ เจรจาไม่ทันครับ 3) หน้าด้าน เวลาพูดกับฝรั่ง อันนี้ไม่ได้ตั้งใจหยาบนะ แต่หมายความว่ายังงั้นจริงๆ พูดไปเถิดครับ เดี๋ยวฝรั่งเค้าแก้ให้เอง ฝรั่งในเมืองไทย ยังไงๆ ก็ต้องพยามยามเข้าใจ แล้วถ้าเราพูดไม่ถูกเค้าจะแก้กลับมาเอง เพื่อยืนยันว่าเค้าเข้าใจถูกครับ ผมเอง เรียนภาษาอังกฤษ ด้วยเกรด 0 ตลอด ทุกเทอม ตั้งแต่ ป. 1 ยัน ม.6 เข้ามหาลัย มีเรียนภาษาอังกฤษอีก 5 ตัว ก็ D ทุกตัว จบมาทำงาน ใช้หลัก 3 ข้อบนนั่นละครับ เดี๋ยวนี้คล่อง ด่าฝรั่งสบายๆ ครับ ปล. ไม่ต้องคิดว่าฝรั่งเป็นพระเจ้านะ เค้าก็คนเหมือนเราหน่ะละ แค่คุยกันคนละภาษาเท่านั้นเอง คิดซะว่า ทีเค้ายังพูดภาษาไทยไม่คล่องเลย ทำไมจะต้องไปอายด้วย ที่เราพูดภาษาเค้าไม่คล่อง จริงๆ ผมว่าคนไทยเก่งกว่าฝรั่งอีก เพราะว่าพูดได้ 2 ภาษา แต่ฝรั่งพูดได้ภาษาเดียวอ่ะครับ จากคุณ : Dino - [ 28 ม.ค. 52 11:44:28 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ก็ฟังเยอะ  อ่านบ่อย  แล้วเดี๋ยวก็ได้เองค่ะ  เราก็ฝึกอย่างนี้บ่อยๆ  ซักพักมันก็ชิน อย่าไปกลัวค่ะ  ก็แค่ภาษา ภาษานึง  เหมือนคนเหนือพูดเมืองได้  เพราะสภาพแวดล้อมเค้าพูดเมืองกัน คนอีสานพูดอีสานได้ เพราะท้องถิ่นเค้าพูดแบบนี้ ภาคใต้ก็เหมือนกัน  แต่ภาษาอังกฤษ  เราจะทำยังงัยให้พูดได้  ก็สร้าง "สภาวะ" ขึ้นมางัยคะ  เช้ามาเปิดเพลงฝรั่งฟัง  อ่านเวบภาษาอังกฤษบ้าง  เลือกเอาเวบง่ายๆไปก่อน ฟังข่างไทย แล้วก็ลองไปเปิด CNN  BBC  ดูบ้าง เดี๋ยวก็พูดได้เองแหละค่ะ  ^^ เราก็พอฟังพูดอ่านเขียนได้ค่ะ  แต่ไม่คล่องมากนัก เพราะยังไม่เคยไปอยู่เมืองนอกซักที จากคุณ : ~~ช้างน้อยร้อยโล~~ - [ 28 ม.ค. 52 11:58:05 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ผมเห็นด้วยกับ  คห.ที่1 คุณ Skyman (Analayo)และ คหที่2.คุณ เศียรนาคา  ครับ แก้ไขเมื่อ 28 ม.ค. 52 12:05:29 จากคุณ : นายสีเสียด - [ 28 ม.ค. 52 11:58:14 ]

ความคิดเห็นที่ 6 คุณ Dino  คห.3ครับ    ถ้าโลกนี้เค้าใช้ภาษาไทยเป็นภาษากลาง เราก็ไม่ต้องไปเปลืองสมองเรียนภาษาอังกฤษหรอกครับ    แต่เพราะโลกเรานี้มันใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษกลางครับ    และตำราดีๆหนังสือดีๆ ก็เป็นภาษาอังกฤษครับ  ถ้าเรารู้แต่ภาษาไทยเราก็ได้อ่านแค่หนังสือที่คนไทยแต่งครับ จากคุณ : นายสีเสียด - [ 28 ม.ค. 52 12:02:09 ]

ความคิดเห็นที่ 7 555 คุณ คห. 6 ครับ อ่า.... จขกท. ด้วยนิ พึ่งสังเกตุ ผมไม่ได้ปฏิเสธว่า เราไม่ต้องเรียนภาษาอังกฤษหน่ะครับ :D ผมสนับสนุนให้เรียนด้วยซ้ำ ภาษาอังกฤษ เป็นปัจจัยที่ช่วยให้ได้งานดีๆ ครับ ส่วนภาษาจีนก็รองลงไป ในระยะนี้ แต่ในระยะยาว น่าจะกลายเป็นภาษาหลักอีกภาษาครับ ผมแค่แย้งประเด็นว่า คนไทยเนี่ย ความสามารถทางด้านภาษาน่าจะดีกว่าฝรั่ง เพราะว่าอย่างน้อยๆ ก็ต้องหาเรียน 2 ภาษาละเอ้า.... นี่พูดกันแบบบ้านๆ นะครับ :) แล้วก็เห็นด้วยครับคห. ที่ 1 และ 2 ครับที่ระบบการศึกษาบ้านเรายังไม่ดีเท่าไหร เลยทำให้เด็กท่องจำเอา มากกว่าที่จะเข้าใจครับ ผลเลยออกมาอย่างที่เห็นเนี่ยละครับ แก้ไขเมื่อ 28 ม.ค. 52 12:10:06 จากคุณ : Dino - [ 28 ม.ค. 52 12:07:10 ]

ความคิดเห็นที่ 8 gamma มันภาษากรีกไม่ใช่หรือครับ??? ไปล่ะ......แว๊บบบ จากคุณ : miumi - [ 28 ม.ค. 52 12:07:37 ]

ความคิดเห็นที่ 9 สมองของคนสร้างหลักสูตรการสอนและครูสอนภาษาอังกฤษของไทย(ส่วนใหญ่)ไม่เหมาะที่จะใช้ในการสร้างหลักสูตรและสอนคน  เหมาะที่จะใช้สร้างหลักสูตรการสอนที่ล้ำลึกมากกว่านี้ เช่น bovine training curiculum อิอิ จากคุณ : Cyber Sage - [ 28 ม.ค. 52 12:10:46 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เพราะเราไม่ได้ใช้ในชีวิตประจำวันค่ะ การเรียนภาษาอังกฤษก็เลยไม่ได้ผล ถ้าบอกว่าสมองคนไทยไม่เหมาะกับภาษาัอังกฤษแล้วล่ะก็ ทำไมเด็กไทยที่เกิดและเติบโตที่ต่างประเทศ ถึงได้พูดภาษาอังกฤษได้ปกติ เช่นเดียวกับคนในชาตินั้นๆ ล่ะคะ โดยส่วนตัวคิดว่าปัจจัยสำคัญที่สุดที่มีผลต่อการใช้ภาษา หรือความสามารถในการใช้ภาษา คือ สภาพแวดล้อมค่ะ ลองได้ใช้ทุกวันๆ มีหรือจะพูด ฟัง อ่าน เขียน ไม่ได้ จริงมั้ยคะ? จากคุณ : อมยิ้มจิ้มน้ำตาล - [ 28 ม.ค. 52 12:12:23 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ถ้าผมจะบอกว่า  ที่เป็นเช่นนี้เพราะ  "เป็นความจงใจ"   ไม่รู้จะมีคนเชื่อหรือเปล่า จากคุณ : นายสีเสียด - [ 28 ม.ค. 52 12:25:32 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ไม่ได้อวดนะ คืออยากบอกเฉยๆว่า ไม่เคยเรียนพิเศษที่ไหน ไม่เคยตั้งใจเรียนวิชาอังกฤษ โดดๆ หลับๆ ไม่เคยมีคนติวให้ แต่ผมได้เกรด 4 ตลอด คือ บางอย่างมันอยู่รอบตัวเราน่ะครับ หนังสือ เพลง ภาพยนต์ ฯลฯ อ่านมาก ฟังมาก ถามมาก รู้มาก ก็แค่นั้น --- ลืมไป การสอนในประเทศไทยก็มีส่วนครับ การสอนภาษาควรให้นักเรียนมีโอกาสคิด พูด และฟังในทุกๆครั้ง แต่ในประเทศไทยกลับให้นักเรียนนั่งเป็นคนใบ้ ท่องภาษาอังกฤษเป็นคำๆ อ่านน่ะ อ่านได้ แต่พอให้แต่งประโยคกลับแต่งไม่ได้.. ปล. ส่วนประกอบของประโยคแบบลวกๆ > Subj + v. + Obj. แก้ไขเมื่อ 28 ม.ค. 52 12:28:55 จากคุณ : streamrider (StreamRider) - [ 28 ม.ค. 52 12:26:16 ]

ความคิดเห็นที่ 13 การเรียนภาษาน่าจะเริ่มจาก ฟัง > พูด > อ่าน > เขียน ฟังพ่อแม่พูด พูดตาม ถามว่าอ่านว่าอะไร เขียน การศึกษาไทย เขียน > อ่าน > พูด > ฟัง เริ่มตอนเด็กๆก็ให้เริ่มเขียนตามเส้นประ ยังอ่านไม่ออกเลย แล้วถึงมาอ่าน เรื่องพูดกับฟังสอนน้อยมาก สังเกตุได้จากเด็กนักศึกษาสมัยนี้ อ่านออกเขียนได้กันหมด ข้อสอบภาษาอังกฤษให้อ่านบทความยาวๆ คำศัพท์ยากๆก็ทำกันได้ แต่พอต้องไปพูดหรือฟังฝรั่งเจ้าของภาษา เด็กไทยยืนขาสั่นกันหมด จากคุณ : หมีอ้วนนอนม้วนตัวกลม - [ 28 ม.ค. 52 12:34:40 ]

ความคิดเห็นที่ 14 มันไม่ได้ใช้ต่อเนื่องมากกว่าครับ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่สมองของคนเรียน มันอยู่ที่ระบบการศึกษากับการฝึกฝน การใช้งาน ประสบการณ์ที่เกิดจากการใช้บ่อยๆ ผมว่าต่อให้ไอสไตน์มานั่งเรียนภาษาไทยแบบคนไทยเรียนภาษาอังกฤษแล้วไม่เคยได้ใช้เลยเนี่ย ไอสไตน์ก็ไอสไตน์เหอะ ผมว่าก็คงไม่ต่างจากคนอื่นคนไทยเรียนภาษาอังกฤษแบบงูๆ ปลาๆ แบบนี้หรอก จากคุณ : เล็ก มหึมา (^oio^) - [ 28 ม.ค. 52 12:42:36 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ไม่น่าตำหนิเลยใช่ไหม  ที่คนไทยคนหนึ่งจะฟังภาษาอังกฤษได้เข้าใจมากกว่าภาษาไทยในภูมิภาคอื่น จากคุณ : สมภพ เจ้าเก่า - [ 28 ม.ค. 52 12:43:07 ]

ความคิดเห็นที่ 16 นี้เป็นเรื่องของการสื่อถึงความหมายมากกว่าครับ syntax (รูปประโยค/gramma) ของ ภาษาไทย และ ภาษาอังกฤษ แตกต่างกันเยอะพอสมควรครับ ประโยคส่วนใหญ่ เราไม่สามารถนึกประโยคเป็นภาษาไทยแล้วแทรกศัพท์อังกฤษได้ทันทีเช่น เมื่อวานฉันไปเที่ยวสวนสัตว์มา เราจะแทรกศัพท์ได้ว่า... yesterday, go travel zoo come   ซึ่งไม่ได้แน่นอนครับ เราจำเป็นต้องนึกถึง"ความหมาย"ที่เราจะพูด ซึ่ง ไม่ใช่"ประโยค"ที่เราจะพูด แล้วแปลความหมายผ่าน syntax ของ ภาษาอังกฤษออกมาเป็น I travelled the zoo yesterday.   ถึงจะถูกต้อง เห็นไหมครับว่าการแปลไทยมาอังกฤษมันซับซ้อนมากและยิ่งมากในบางประโยคที่ความแตกต่างของ syntax ระหว่างภาษาไทย กับ อังกฤษ แบบสุดขั้ว แต่ลองมาเปรียบเทียบกับภาษายุโรปด้วยกันบ้างสิครับ ยกตัวอย่างภาษาฝรั่งเศสที่แปลอังกฤษในประโยคเดียวกับภาษาไทย "เมื่อวานฉันไปเที่ยวสวนสัตว์มา" เราจะได้เป็น J'ai voyage le zoo hier  (จริงๆมีอัพซอง(คล้ายๆไอ้เอกไทย)ด้วยแต่พิมไม่ออก) เราจะเห็นได้ถึงความใกล้เคียงของ ศัพท์ และ syntax จึงไม่น่าแปลกใจที่คนยุโรปจะคุยกันรู้เรื่องผ่านภาษาอังกฤษ ถ้ายังนึกไม่ออกให้นึกถึงภาษาเรากับภาษาลาวครับ syntax เหมือนกันเปรี๊ยบ แค่เรารู้ศัพท์ของเค้าว่าแปลว่าอะไร เราก็คล่องล่ะครับ นี้แหละครับคือความสำคัญของ syntax เพราะคนเราจะใช้ภาษาจนติดsyntax จนแยกกันไม่ออกเป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งนี้แหละเราค่อนข้างเสียเปรียบหลายประเทศในยุโรปและเอเชีย ในการใช้ภาษาอังกฤษ ซึ่งผมก็อยากยกตัวอย่างประเทศใกล้ๆบ้านเหมือนกันครับแต่ไม่มีความรู้จริงๆ ถ้ามีโอกาสจะบอกต่อครับ... แก้ไขเมื่อ 28 ม.ค. 52 12:49:19 จากคุณ : crazybull - [ 28 ม.ค. 52 12:44:27 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ไม่เกี่ยวกับสมอง แต่มันขึ้นอยู่กับความเคยชินในการใช้งานมากกว่า คนไทยส่วนใหญ่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษทั้งวันอยู่ทุกวัน เมื่อต้องพูดแล้วมันจะพูดไม่ค่อยได้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ในทางกลับกันฝรั่งที่เรียนภาษาไทยถ้าไม่ได้ฝึกพูดกับคนไทยอยู่ทุกวัน ก็พูดได้งูๆปลาๆแค่ประโยคง่ายๆ เหมือนคนไทยที่พูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้เปี๊ยบ สรุปอย่างจขกท.มันดูเหมือนจะประเมินความสามารถของตัวเองต่ำเกินไปนะ จริงๆที่ผมหนักใจมากกว่าคือกคนไทยจำนวนหนึ่งในสมัยนี้ชอบพูดไทยปนอังกฤษ แต่พอให้พูดภาษาไทยเป็นทางการที่สุภาพหน่อยก็พูดไม่ได้ ออกเสียงไม่ชัด ให้พูดภาษาอังกฤษให้ฝรั่งเข้าใจก็พูดไม่ได้ ออกเสียงไม่ชัดเหมือนกัน พวกนี้นี่แหละที่เป็นปัญหาจริงๆ จากคุณ : VeryBadman...Begins - [ 28 ม.ค. 52 12:55:02 A:192.168.0.17 X:67.160.211.99 TicketID:185387 ]

ความคิดเห็นที่ 18 #15 หมายความว่ายังไงครับ? ผมไม่เข้าใจ -*- จากคุณ : Bowling Bash - [ 28 ม.ค. 52 13:18:35 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ตามนี้เลยครับ ************* ความคิดเห็นที่ 13   การเรียนภาษาน่าจะเริ่มจาก ฟัง > พูด > อ่าน > เขียน ฟังพ่อแม่พูด พูดตาม ถามว่าอ่านว่าอะไร เขียน การศึกษาไทย เขียน > อ่าน > พูด > ฟัง เริ่มตอนเด็กๆก็ให้เริ่มเขียนตามเส้นประ ยังอ่านไม่ออกเลย แล้วถึงมาอ่าน เรื่องพูดกับฟังสอนน้อยมาก สังเกตุได้จากเด็กนักศึกษาสมัยนี้ อ่านออกเขียนได้กันหมด ข้อสอบภาษาอังกฤษให้อ่านบทความยาวๆ คำศัพท์ยากๆก็ทำกันได้ แต่พอต้องไปพูดหรือฟังฝรั่งเจ้าของภาษา เด็กไทยยืนขาสั่นกันหมด จากคุณ : หมีอ้วนนอนม้วนตัวกลม *************** การเรียนรู้ทางด้านภาษาต้องเริ่มจากฟังให้รู้เรื่อง  สอนพูดให้เป็น แล้วค่อยไปหัดขีดเขียน ตามด้วยอ่านทีหลัง ของไทย ฟังภาษาไทย เข้าใจภาษาไทย ให้หัดเขียนภาษาอังกฤษ (แต่ยังพูดภาษาไทยอยู่) แล้วเรียนแกรมม่าไปพร้อม ๆ กับการอ่านเลย... อัจฉริยะแท้ ๆ กระบวนการการเรียนรู้ไม่เป็นไปตามธรรมชาติ ก็ยากที่คนทั่วจะทำได้ดี จากคุณ : leopoldamys - [ 28 ม.ค. 52 13:19:52 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เห็นด้วยกับความเห็นที่ 2 การเรียนการสอนภาษาอังกฤษของไทย ไม่เหมาะกับมนุษย์ใดๆในโลกนี้เลย ผมเคยมีปัญหากับการเรียนภาษาอังกฤษมากๆๆ เริ่มเรียนภาษาอังกฤษจริงๆตอนป.5 ท่อง A-Z ศัพท์ง่ายๆ ไวยากรณ์ง่ายๆ ตั้งแต่ป.5 ยัน ม.6 รูปแบบการสอนเหมือนเดิม ท่องจำๆ tense มี 12 tenses ก็จำมันเข้าไป ศัพท์มีเท่าไหร่ก็จำมันเข้าไป กริยามี 3 ช่องใช่ไหม จำมันเข้าไป จะบอกว่าคนไทยเก่ง Grammar นะแต่ไม่สามารถ เอามาใช้ได้เลย มีส่วนน้อยจริงๆที่เก่งภาษาอังกฤษ คนที่เก่งมาจากพื้นฐานใจรักด้วย อย่างเพื่อนคนหนึ่งเก่งภาษาอังกฤษมาก เพราะตอนเด็กฟังเพลงของมาดอนน่า แล้วชอบ เลยเป็นแรงบันดาลใจให้เรียนภาษาอังกฤษ ประเทศอื่นก็มีปัญหาแบบไทยนะ ไม่สิอาจจะหนักกว่าด้วยซ้ำ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี ใต้หวัน จีน เวียดนาม อินโดนิเซีย จากคุณ : Eps - [ 28 ม.ค. 52 13:24:51 A:118.173.248.91 X: TicketID:103981 ]

ความคิดเห็นที่ 21 จริง ๆ แล้วภาษาอังกฤษ ง่ายกว่าภาษาไทยมาก ๆ จากคุณ : heck - [ 28 ม.ค. 52 13:25:51 A:203.155.125.178 X: TicketID:119117 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ทำไมถึงไปโทษสมอง โทษครูล่ะครับ ถ้าพยายามจริง เรียนรู้ด้วยตัวเองก็ได้นี่ เห็นด้วยกับ #10 ครับ เพราะไม่ได้ใช้ในชีวิตประจำวัน จากคุณ : lunch - [ 28 ม.ค. 52 13:35:06 ]

ความคิดเห็นที่ 23 crazybull ครับ คุณ ลองทำความเข้าใจ คห. 3 ดูครับ มีข้อหนึ่งที่เขาบอกว่า ให้คิดเป็นภาษาอังกฤษ เลย ครับ นั่นแหละครับที่เขาบอกว่า ปัญหาส่วนใหญ่ คนจะแปลเป็นไทย ก่อนแล้ว ค่อยแปลเป็นอังกฤษอีกที ถ้าคุณคิดเป็นภาษาอังกฤษเลย ปัญหาที่คุณว่า ก็จะหมดไปครับ นี่ไทยยังดีนะครับ คล้ายฝรั่ง ตรงที่ เรียง ประธาน กริยา กรรม เจอ ภาษาญี่ปุ่น ที่เอา กริยา ไว้ท้ายประโยค อ้วกแน่ครับ ถ้า จะแปลเป็นไทย ก่อน แล้ว ค่อยแปลเป็นญี่ปุ่น ส่วนใหญ่ ผมคิดตาม คห. ข้าง บนครับ เมืองไทย สอน ผิด ถ้าฟัง ก่อน แล้วก็พูด คนจะไม่ติด การเขียน แล้ว ก็ต้องคิดเป็นประโยค ก่อนพูด ฟังดูเข้าใจยาก แต่ ถ้าไม่เปลี่ยน การศึกษา ประเทศ ไทย เรียน ภาษา 12 ปี ก็พูดไม่ได้ครับ จากคุณ : gotthepower - [ 28 ม.ค. 52 13:39:36 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ก็จำได้ว่าตกภาษาอังกฤษเป็นประจำ แต่มีเพื่อนเป็นฝรั่งมั่งค่า นะคะ ก็ผูดกันได้นะคะ  ตามบุญตามกรรม นะคะ  แบบกำปั้นทุบดินนะคะ แต่ถ้าถูกตามหลักเลย เห็นจะไม่รอดนะคะ จากคุณ : คุณป้าหางดง - [ 28 ม.ค. 52 13:46:27 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ไม่ใช่สมองไม่เหมาะครับ แต่ วิธีการสอนต่างหากที่ไม่เหมาะ.... จากคุณ : giwgaw16 - [ 28 ม.ค. 52 13:55:10 ]

ความคิดเห็นที่ 26 จิงๆ แล้วถ้าเราได้คำศัพท์ก็เพียงพอแล้วล่ะค่ะ  ที่เหลือไม่จำเป็นต้องพึ่งแกรมม่าเลย สังเกตุหลายภาษา เวลาพูดจิงๆ ไม่มีใครอิงแกรมม่ากันเลย่ะเพาะฉะนั้นถ้าได้ศัพท์ ก็คงไม่มีปัญหาแล้วล่ะค่ะ (แต่ยอมรับว่าภาษญี่ปุ่นยากจิงๆ ทุกวันนี้เรียนจนจบ จนทำงานแล้ว ก็ยังคุยกะมันไม่รู้เรื่องเลย เพราะไม่ได้ศัพท์เนี่ยล่ะ -*-) จากคุณ : นู๋ขี้สงสัย - [ 28 ม.ค. 52 13:56:47 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ปัญหาอยู่ที่มุมมองของคนไทยด้วยกันเองที่ปลูกฝังรากลึกยากจะถอดโคนออกมาด้วยมากกว่า มุมมองคนฝรั่ง : พูดเพี้ยนไป ไม่เข้าใจ เรียงประโยคถูกไม่ว่า ขอให้เข้าใจสิ่งที่เค้าจะสื่อได้ ก็ได้ (มุมมองเหมือนคนไทยมองฝรั่งพูดไทยอ้อแอ้) มุมมองผู้พูด : ต้องการจะให้เข้าใจจริง ๆ และกล้ามาก ที่จะช่วยเหลือ มุมมองคนไทยอื่น ๆ ที่ผ่านไปมาและได้ยิน : ไอ้นี่ ภาษาเค้าไม่แข็งแรง ก็ดันไปแดะพูดกับเค้าได้ ทุเรศ (และถ้าแกรู้นักหนา ทำไมไม่มาช่วยพูดกับเค้าหล่ะหา) เพราะคนไทยมองคนไทยด้วยกันแบบนี้หล่ะ เลยเหมือนปลูกฝังรุ่นหลัง ๆ ฝรั่งจริง ๆ เค้าก็ไม่ไ้ด้ต้องการให้เราเป๊ะ แบบนั้น แต่ต้องการสื่อสารกันรู้เรื่องจริง ๆ อย่างกรณี ถามทาง นี่ บ่อยมากเลย จากคุณ : Warlock:เชิญคุณก่อน????? - [ 28 ม.ค. 52 14:05:42 A:222.123.49.92 X: TicketID:191399 ]

ความคิดเห็นที่ 28 น่าจะปรับเปลี่ยนภาษาอังกฤษเป็นภาษาในทางราชการอีกสักภาษาดีไหมครับ เผื่อจะ "ขวนขวาย" สนใจภาษาอังกฤษกันบ้าง มากกว่าไปนั่งหลับในห้องเรียนแล้วบ่นว่าครูสอนไม่ดี ไม่รู้เรื่อง จากคุณ : socio - [ 28 ม.ค. 52 14:52:21 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ความคิดเห็นที่ 2 ผมว่า ... การสอนภาษาอังกฤษของโรงเรียนไทย ไม่เหมาะกับสมองของมนุษย์ใด ๆ ในโลก มากกว่าครับ จากคุณ : เศียรนาคา ... (Eumentis) ให้กิฟได้ ให้ไปแล้วนะเนี่ย นอกจากเรื่องการสอน ยังมีเรื่องสังคมในห้องเรียน เคยโดนนินทาเพราะดันไปคุยกับอาจารย์ฝรั่งรู้เรื่องมั้ยล่ะ T-T (นินทาแนวๆ แบบ กระแดะอะไรแบบนี้) เรียนโรงเรียนไทย พูดภาษาอังกฤษได้ พยายามพูดให้ถูก พยายามฝึกสำเนียง ก็โดนมองแล้วววว จากคุณ : psycho patch - [ 28 ม.ค. 52 14:57:31 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ไม่ค่อยได้ใช้ไงครับ จากคุณ : tuppee - [ 28 ม.ค. 52 15:12:54 ]

ความคิดเห็นที่ 31 1. ไม่ค่อยได้ใช้ 2. เด็กที่สนใจเรียนจริงๆ มีน้อย 3. คุณครูอาจจะยังไม่มีประสบการณ์ด้านการสอนให้นักเรียนเข้าใจได้มากพอ 4. หลักสูตรยังไม่รัดกุมพอ จากคุณ : อุ้ย (digimontamer) - [ 28 ม.ค. 52 15:18:15 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ถึงแม้จะกินระยะเวลาที่เรียนมา 20 ปี แต่ใน 20 ปีนั้นไม่มีคาบเรียนคุณภาพเลยนะคะ จะเหมาเอาว่าเรียนมา 20 ปีมันไม่ได้หรอกค่ะ ลองคำนวณดูจริงๆนะคะ ตั้งแต่ อนุบาล1 - ม.6 รวม12-15ปีนั้น คนไทยที่ได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานปกติจะเรียนภาษาอังกฤษวันละ 1 คาบเท่ากับวันละ 40-50 นาที เท่ากับ รวมห้าวัน จ-ศ  เรียนภาษาราว 4 ชั่วโมง เท่ากับ 1 เดือน เรียนภาษา 15-16 ชั่วโมง เท่ากับ 1 ปี เรียนภาษา 832 ชั่วโมง 15 ปี เรียนภาษา 12480 ชั่วโมง ในเมื่อ 1 ปีมี 8760 ชั่วโมง แล้วคุณเรียนภาษามาเกิน 1 ปีกี่ชั่วโมง? แต่มันไม่ใช่ประเด็น ประเด็น คือ เวลาคุณภาพ ใน 12480 ชั่วโมง คุณคิดว่าคุณได้เรียนอย่างจริงจังที่เข้าใจอย่างแท้จริงกี่ชั่วโมง? จากคุณ : กีเฮียวพู้ - [ 28 ม.ค. 52 15:21:59 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ได้ใช้ทุกวัน มันก็ซึมซับเองละ ตอนนี้คุยกับฝรั่ง ค่อยรู้เรื่องบ้างแล้ว จากคุณ : น้าวัชร-จัดให้ - [ 28 ม.ค. 52 15:26:34 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ยกตัวอย่างปัญหาของเราเองเลยเนี่ย 1.ครูผู้สอนไม่ค่อยมีวิธีการสอนที่จูงใจ 2.รู้สึกว่าเรื่อง+เนื้อหาซ้ำๆซากๆ เรียนไปก็ไม่ได้ใช้ 3.แต่ละคาบที่ผ่านก็เรียนไปแกนๆ ให้สอบผ่านไปเทอมๆ 4.ถึงแม้จะมีหนัง มีเพลง ให้จูงใจให้สนใจ แต่เนื้อเพลงก็ไม่ใด้ใช้ในชีวิตประจำวัน บทสนทนาอย่างในหนังครูก็ไม่เคยสอน ถามไปบางทีก็ไม่รู้ ข้อสอบเอนท์ก็น้อยครั้งที่จะมี ไม่รู้ว่ามีกี่คาบต่อกี่คาบที่เรียนอย่างใจเหม่อลอย ให้เวลามันเลิกเร็วๆ จากคุณ : กีเฮียวพู้ - [ 28 ม.ค. 52 15:29:37 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ผมฝึกจากเกมและหนังเยอะครับ ทุกวันนี้ผมสนทนากับฝรั่งได้ แต่ถ้าให้แปลภาษาไทยเป็นอังกฤษ ผมสะดุดครับ กว่าจะนึกออกแต่ละประโยค... ยังสงสัยอยู่เลย ว่าตอนคุยกับฝรั่ง เราคิดเป็นภาษาไทยหรืออังกฤษ ทำไมคิดประโยคได้เร็วนัก บางครั้งก็แอบคิดว่า การสอน ยังไม่ตรงจุดเป้าหมายครับ จากคุณ : NukitaR - [ 28 ม.ค. 52 15:48:34 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ผมอยู่บ้านนอก พูดภาษาอังกฤษขนาดฝรั่งหลายคนถามว่าผมเรียนมาจากไหน แต่ผมบอกได้เลยว่าผมเลือกพูดแต่ง่ายๆ วันหนึ่งมีคณะดูงานจาก เคนย่า ดำสนิทพูดผมฟังแทบไม่รู้เรื่อง ถามหลายรอบกว่าจะพอเข้าใจ ผมเลยถามว่าพวกคุณใช้ภาษาอังกฤษเป็นทางการหรือ เธอตอบว่าใช้แต่เกิด เป็นภาษาแม่ เรามัวแต่ภูมิใจภาษาไทยก็ไม่ต้องสงสัยว่าทำไมพูดไม่รู้ภาษา ยังมีการตั้งศัพท์บัดซบเช่น คณิตกร เต้าเสียบ ธรณี ให้เด็กโง่ต่อไป นึกออกไหมว่ามันเรียกเครื่องถ่ายเอกสารว่าอะไร เสียเวลาเด็ก สมัยก่อนผมไม่ต้องรู้จัก นิพจน์ ประพจน์ พหุนาม เรียนเลขก็ง่าย เดี๋ยวนี้เซ็งมากลูกถามไม่รู้ว่าคืออะไรถามลูกว่าภาษาอังกฤษว่าไงลูกบอกไม่มี จากคุณ : ์Heresy - [ 28 ม.ค. 52 15:50:35 A:125.27.78.18 X: TicketID:201770 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ที่บ้านเราเค้าสอนให้ เขียน > พูด > อ่าน > ฟัง เพราะว่าคนสอนก็คงไม่ได้พูดได้อะไรนักหนาหรอกในสมัยนั้น แล้วในสมัยนี้จะไปถึงไหนแล้วนะ อยากไปดูอาจารย์สอนเด็กอนุบาลจัง ว่าสไตล์ เขียน > อ่าน > พูด > ฟัง แบบ 10 ปีที่ผ่านมาหรือเปล่า จากคุณ : siLvan - [ 28 ม.ค. 52 15:55:09 A:125.25.77.181 X: TicketID:184679 ]

ความคิดเห็นที่ 38 #2   ให้นี่แทนละกัน   ผมก็ไม่รู้ว่าส่วนใหญ่เขาเรียนอะไรกัน  และเขาสอนมาอย่างไรกัน   แต่ผลลัพธ์ที่เห็น  คือล้มเหลว  เด็กอ่านไม่ออก  แปลไม่ได้ ที่น่าขันคือ  ครูหลายคนให้เด็กทำรายงานเป็นภาษาอังกฤษ  เขียนรายงานเป็นภาษาอังกฤษ มันจะไปกันใหญ่แล้ว  อ่านยังอ่านไม่ออกเลย  จะให้เขียนรายงานเป็นภาษาอังกฤษ   งานนี้ผมไม่โทษเด็กเลย  เพราะเห็นพวกเขาพยายามกันมากจริง ๆ   บางคนเขียนศัพท์เต็มหน้าจนกระดาษนี่ยุ่ยเลย  แต่แต่งประโยคไม่ได้  นอกจากเอาคำมาเรียงกัน จากคุณ : jedi-jaidee - [ 28 ม.ค. 52 16:13:45 ]

ความคิดเห็นที่ 39 โทษตัวเองดีกว่าคับ จากคุณ : luk_Nutt - [ 28 ม.ค. 52 16:16:06 ]

ความคิดเห็นที่ 40 สมองไม่เกี่ยวหรอก ถ้าชีวิตประจำวันต้องใช้ภาษาอังกฤษเดี๋ยวก็พูดฟังรูเรื่องเองแหละ แถวเชียงใหม่นี่พ่อค้าแม่ค้า คนขับรถแดง ส่วนใหญ่จะพูดกันได้เพราะต้องใช้พูดกับฝรั่ง เก่งกว่าตรูอีก หุหุ จากคุณ : FlyingChicken - [ 28 ม.ค. 52 16:47:04 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เห็นด้วยกับ คห.39 ถ้าคุณพยายาม....ต่อให้ไม่ได้เรียนจากในโรงเรียนเลย คุณก็ทำได้ จากคุณ : ยูริกรีน - [ 28 ม.ค. 52 17:53:50 ]

ความคิดเห็นที่ 42 เห็นด้วยกับ คห 3 มากๆค่ะ ปล ชอบภาษาอังกฤษมากก ตอนนี้ field งานที่ทำอยู่ก็มีแต่ภาษาอังกฤษอะ ยกเว้นการสื่อสารกับเพื่อนร่วมงาน จากคุณ : Choco-Mix - [ 28 ม.ค. 52 17:54:34 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ขอบอกว่าไม่เกี่ยวกับสมองมากๆ กรณีศึกษา เห็นด้วยตาตัวเองเพราะเป็นคนรู้จักกัน สมัยก่อนเช่าห้องอยู่ติดกันว่างั้นเถอะ น้องคนนี้เป็นเด็กต่างจังหวัด จบ ม.6 ญาติพามาหางานทำที่ภูเก็ต มาทำงานเป็นพนักงานเสริฟ ซึ่งลูกค้าเป็นนักท่องเที่ยว น้องเค้าก็พยายามฝึกภาษา ใหม่ๆ ก็ศัพท์เฉพาะที่ต้องใช้ในการทำงาน เช่น รายการอาหาร การพูดคุยกับแขกเบื้องต้น กล่าวทักทาย สวัสดี พาไปหาที่นั่ง ศัพท์จะวนเวียนอยู่เฉพาะตรงนั้น หลังจากนั้นน้องคนนี้ก็ย้ายไปทำงานของโรมแรมใหญ่ 4 ดาว ติดหาดแถวป่าตองน่ะ นัยว่า ร้านอาหารเก่าจ่ายค่าแรงไม่ตรงเวลา เลยเปลี่ยนงานใหม่ พอมาทำที่โรงแรมใหญ่ ก็เจอสังคมใหม่ โรงแรมก็มีการเทรนเรื่องภาษา เรื่องบุคลิภาพ การเสริฟ การทำงาน บางวันกลับมาบ้านเห็นเอาขวดไวน์มาซ้อมเป็นเสริฟไวน์ เราก็เพิ่งรุ้ เป็นเด็กเสริฟ โรงแรมหรูๆ เนี่ยเค้าเทรนกันขนาดนี้เชียวช่วงหลังๆ น้องคนนี้เค้าก็ชอบเที่ยวสังสรรค์ มีเพื่อนเป็นฝรั่ง ก็เลยกลายเป็นว่าพอไปเที่ยวก็ต้องพูดภาษาอังกฤษ และในห้องเค้าก็มีหนังสือเทคนิคการเรียนภาษาอังกฤษเยอะมาก ผ่านมาอีกปีมาบอกเรา พี่หนูจะแต่งงานแล้วนะ กับหนุ่มอังกฤษคนนั้นแหละ เนี่ยทำเรื่องวีซ่าแต่งงานจะย้ายไปอยู่ที่โน่น จะไปเสริฟที่ร้านอาหารไทยในลอนดอน เห็นว่าเงินดีกว่าเยอะ ก่อนย้ายออก น้องเค้าก็เอาหนังสือเทคนิคการเรียนภาษาอังกฤษมาให้ วันย้ายก็พาแฟนหนุ่มมา เห็นเค้าคุยกันเป็นไฟแลบ ก็บอกน้องเค้าว่า เก่งจังพูดอังกฤษได้ รุ้มั๊ย น้องเค้าตอบว่า แหมพี่ กว่าจะได้ขนาดนี้ต้องฝึกตั้งเยอะ และเค้าเองก็ไม่ได้เก่งภาษาอังกฤษมาก่อน ตอนเรียนมัธยม เรียนตก สอบแล้ว สอบอีก แต่พอพูดได้ ถึงรู้ว่า แหม ทำไมตอนเรียนมันโง่จัง กลับไปเปิดหนังสือเรียนสมัยตอนเรียนแล้ว มันง่ายมากๆ เลย มันอยู่ที่การฝึกฝน และได้ใช้จริงต่างหากล่ะ ตอนนี้ยังคิดถึงน้องคนนี้ไม่หาย ตอนนี้คงเป็นคนอังกฤษไปแล้วละ เพราะย้ายไปอังกฤษตัง 10 ปีแล้ว จากคุณ : SEAPATCHA - [ 28 ม.ค. 52 18:09:30 ]

ความคิดเห็นที่ 44 สรุปอย่างไม่ได้ เพราะไม่มีวิธีการเก็บข้อมูลที่น่าเชื่อถือพอ จากคุณ : JengisKhan - [ 28 ม.ค. 52 18:55:28 ]

ความคิดเห็นที่ 45 อยากให้ gift  Rep 2 แต่ให้ไม่ได้ -*- จากคุณ : GeneGTO - [ 28 ม.ค. 52 19:00:19 ]

ความคิดเห็นที่ 46 J'ai voyage le zoo hier = J'ai voyage a le zoo. hier = J'ai voyage au zoo, hier. หัดพูด หัดอ่าน หัดเขียน และหัดใช้คับ ถามตัวเองดูว่าทำไมเราถึงพูดไทยได้ คำตอบชัดเจนจะตาย การพูดภาษาใดภาษาหนึ่งนี่ต้องเก่งด้วยหรอคับ ที่เราเรียนภาษาอื่าทุกวันนี้เพราะหลักสูตร ไม่ใช่เรียนตามความชอบ มันไม่แปลกเลย สมัยที่ผมเรียนตอนแรก ผมไม่ทราบเลยว่าจะเรียนไปทำไม รู้แต่ว่าเราต้องสอบ ต้องท่องศัพท์ ต้องพูดกับครู แต่พอม. ปลาย - มหาวิทยาลัย ผมกลับเห็นความสำคัญของมันมาก แก้ไขเมื่อ 28 ม.ค. 52 19:05:21 แก้ไขเมื่อ 28 ม.ค. 52 19:03:09 จากคุณ : kwang_kung86 - [ 28 ม.ค. 52 19:02:15 ]

ความคิดเห็นที่ 47 อาจารย์จีนที่สอนผมมักจะพูดเสมอว่า ถ้าอยากเรียนภาษา ก็ต้อง ฟัง เยอะๆ พูดเยอะๆ ฝึกฝนบ่อยๆ ซึ่งการศึกษาของไทย และ เด็กไทย ขาดตรงนี้ครับ ฟังเพลง จำแต่เนื้อไม่คิดหาความหมายของเพลง ก็ไม่มีทางรู้หรอกครับ จากคุณ : Yakusa_evil - [ 28 ม.ค. 52 20:13:51 ]

ความคิดเห็นที่ 48 เป็นเพราะไม่ฝึกค่ะ ภาษาเป็นทักษะ ทักษะได้มาจากการฝึก ฝึกมากก็เก่งมาก ฝึกน้อยก็เก่งน้อย ไม่ฝึกก็อยู่เหมือนเดิมต่อไป ไม่มีอะไรฟรีค่ะ จากคุณ : ลัลลา - [ 28 ม.ค. 52 22:25:12 ]

ความคิดเห็นที่ 49 เอาอย่างนี้ดีกว่า ทำไมหลายประเทศในเอเซีย หรือแม้แต่บางประเทศในยุโรป ที่มีภาษาของตนเอง แต่ยังสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีกว่าคนไทย คนไทยอ่านเขียนอาจจะดีกว่า แต่พูดกับฟังภาษาอังกฤษไม่รู้เรื่อง จับใจความไม่ได้ พูดไม่ออก ผิดๆ ถูกๆ  เคยแชทกับฝรั่งยุโรปชาติที่ไม่ได้ใช้อังกฤษเป็นภาษาหลัก เขาเขียนคำศัพท์ผิดหลายตัวเลย แต่ผิดแบบพ้องเสียงกับคำที่ถูกต้องและตั้งใจจะสื่อความหมายนะ คือเขาเขียนตามเสียงอ่านของคำนั้น แต่เขียนคำสะกดไม่ถูก และฟังภาษาเก่ง เข้าใจหมด ในขณะที่เราเขียนถูก แต่ฟังไม่รู้เรื่องว่าพูดอะไร ทำไมมันเป็นอย่างนั้นหว่า จากคุณ : tormay - [ 28 ม.ค. 52 22:47:50 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ปัญหาไม่ได้อยู่ที่สมองคนไทยหรอกคับ ปัญหาอยู่ที่วิธีการสอนน่ะแหละ จากคุณ : ก้าวต่อไป - [ 28 ม.ค. 52 23:54:31 A:192.168.0.17 X:1.1.1.176, 117.47.196.60 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ดู DVD หนังแต่ไม่ต้องใส่ sub สิครับ....ทำให้ชิน เดี๋ยวก็จะรู้เรื่องเอง ใหม่ๆอาจจะ งง สุดๆ...เข้าใจแต่ภาพ แต่นานเข้า หลายวัน หล่ายเดือน หล่ายเรื่อง ก็จะเริ่มชินหูเอง ผมก็ฝึกแบบนี้ เพราะในหนัง บนสนทนาและศัทพ์มันมีแทบครบในชีวิตประจำวันเลย ไม่ต้องไปหาหนังสือและ CD อ่านพูดที่ไหน...มันเป็นแพทเทินร์เกินไป วิธีนี้เอาแค่เรื่อง สนนทา นะครับ....ไม่นับเรื่อง ไวยกรณ์ ที่บางครั้งในหนังก็ผิดหลักออกบ่อย อีกทาง ถ้ามี เคเลิ้ล ก็เปิด ดูช่องข่าวครับ เช่น BBC CNN ก็คล้ายๆกัน แต่ภาษาจะเป็นทางการมากกว่าในหนัง รับรองครับ...ทำให้ชินไปเรื่อยๆ อย่างน้อยคุณอาจจะพูดไม่คล่อง แต่ฟังได้ถนัดเลย จากคุณ : Petshop boy - [ 29 ม.ค. 52 00:51:14 ]

ความคิดเห็นที่ 52 เพราะเวลาพูดกับฝรั่ง พูดผิดฝรั่งไม่ว่า แต่ E คนไทย ที่ยืนฟังข้าง ๆ (ไม่ช่วยเลย) มันจะถากถางเอา ทุกวันนี้ทำงาน ชาวต่างชาติ เค้าดีใจนะครับ ที่เราพูดภาษาเค้าได้ แล้วก็ส่วนมากเค้าก็พยายามจะพูดภาษาเราเหมือนกัน อมยิ้มทุกครั้งเห็นฝรั่งพูดว่า  "ขอบคุณคาบบ" จากคุณ : UVPhenix - [ 29 ม.ค. 52 02:09:56 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ไม่เกี่ยวครับ ผมพยายามสังเกตุ คนไทยที่พูดภาษาอังกฤษได้ แต่ทำไมพูดภาษาอังกฤษไม่คล่องแคล่วเท่าคนอเมริกัน เราต้องยอมรับว่า ลักษณะการพูดของคนไทยนั้น ช้า แล้วมีคำลงท้ายตลอด เช่น นะครับ ละค๊ะ แต่ฝรั่งนั้น ไม่มี เวลาฝรั่งพูด จะพูดเร็วมาก ลองเทียบประโยคเดียวกัน ฝรั่งจะพูดรัวไปเลย แต่ในขณะที่ลักษณะการพูดของคนไทยโดยมาก จะพูดช้ากว่า ยิ่งถ้าเจอพวกเฮียมืด ยิ่งไปกันใหญ่ ฟังแทบไม่รู้เรื่อง ลองสังเกตุดูจากหนัง จากละครก้ได้ครับ ฝรั่งพูดเร็วปรื่อกว่าคนไทยเยอะ จากคุณ : LAPD21 - [ 29 ม.ค. 52 10:28:55 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ฝรั่งข้างบ้านผมเป็นครูจ้างสอนในโรงเรียนมัธยมมีชื่อแห่งหนึ่งในจังหวัด เขาบอกว่าเด็กไทยจะเก่งภาษาอังกฤษได้อย่างไร ในเมื่อตัวครู(คนไทย)ที่สอนภาษาอังกฤษยังใช้ภาษาอังกฤษไม่ได้เลย ก็เลยได้แต่ให้เด็กจำ present tense, past tense แกรมม่าบ้าบออะไรก็ไม่รู้ แกบอกว่าเวลาแกสอนเด็กแกจะเน้น vocab มากกว่า รู้ศัพท์เยอะๆ จำให้ได้ว่าไอ้นี่คืออะไร ไอ้นี่เรียกว่าอะไร แล้วก็สถานการณ์ต่างๆถ้าจะทำอย่างนี้พูดว่าอะไร ไม่ใช่ให้เด็กท่อง Subject+V2+Object อะไรแบบนั้นมันไร้สาระ จากคุณ : Ricardo Kaka - [ 29 ม.ค. 52 11:02:13 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ต้องตั้งว่า ครูสอนภาษาอังกฤษไทย มีกี่เปอร์เซนต์ ที่พูดสื่อสารภาษาอังกฤษกับฝรั่งได้ แบบนี้ดีกว่าไหมครับ... ปล..ถึง 20 เปล่าหว่า จากคุณ : น้องหนูเอวตัน - [ 29 ม.ค. 52 15:12:49 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ถ้าจากความเห็นส่วนตัวเห็นว่า มันผิดที่การเรียนการสอนนี่แหล่ะค่ะ แกรมม่าเรียนไว้น่ะถูกต้องแล้ว เพราะมาถึงจะให้เขียนเลย ไม่รู้อะไรเลย มนุษย์เราก็ต้องมีหลักการมาให้ก่อนเป็นเบื้องต้นสิ ถึงจะคลำทางไปต่อได้ แต่ว่าตะบี้ตะบันเรียนแต่หลักการล้วนๆอย่างเดียวก็ไม่ไหว สมัยตอนเราเรียน มีแต่ทำข้อสอบ แบบฝึกหัดเป็นข้อๆส่ง เช็คแกรมม่าถูกผิดมั่ง เติมศัพท์มั่ง เราว่าอันนี้มันไม่จำเป็นเท่าไหร่เลย เพราะเวลาใช้งานในชีวิตจริงมันคือ การเขียน เขียนยาวๆ แบบรายงานเลย สมัยเรียนไม่มีเลยที่ครูจะให้การบ้านเป็นแต่งประโยคยาวๆ มีแต่แบบฝึกหัดพวกนั้น ซึ่งมันไม่ช่วยอะไรหรอก แต่เดี๋ยวนี้อาจจะเปลี่ยนไปแล้วก็ได้นะ อยากให้ครูขยันตรวจหน่อย ให้เด็กเขียนเป็นบันทึกประจำวันง่ายๆมาส่งก็ได้ เริ่มจากเขียนอะไรง่ายๆในชั้นต้นๆ แล้วชั้นสูงๆไประดับความยากก็จะมากขึ้นไปเป็นลำดับ ทำไปควบคู่กับการเรียนศัพท์ แกรมม่า นี่แหล่ะ เพราะว่าเราต้องเขียนอะไรยาวๆ ที่นี้แหล่ะ จะแต่งประโยคก็จะต้องนึกถึงแกรมม่า นึกถึงศัพท์ สั่งสมไปเรื่อยๆมันก็จะได้ไปเอง ครูก็มีหน้าที่ตรวจแก้ให้ และอาจจะเพิ่มเติมสำนวนสวยๆ ดีๆ ที่ไม่ได้อยู่ในโหมดแกรมม่าให้นร.จำไปใช้ จะได้เขียนได้สละสลวยน่าอ่านขึ้น ถ้าสอนแบบนี้น่าจะดีกว่ามาให้ทำแบบฝึกหัดเป็นข้อๆนะ ส่วนการอ่าน อาจจะมีเรื่องมาให้อ่าน แล้วให้นักเรียนเขียนย่อ และ วิจารณ์สั้นๆเป็นภาษาของตัวเองก็ได้ ฝึกได้ทั้งเขียนทั้งอ่านเลยทีนี้ การฟังก็ไม่มีทางไหน นอกจากฟังบ่อยๆเท่านั้นเอง ประเทศเราก็คงต้องอาศัยเทป เพราะไม่ได้ใช้เป็นภาษาที่ 2 ในชีวิตประจำวัน ให้ นร. หัดถอดเทปก่อนก็ได้ เริ่มจากเรื่องง่ายๆในชั้นเล็กๆ ไปเรื่องยากๆ สำนวนยากๆ ก็จะช่วยฝึกการฟังได้ ฝึกเขียนอีกต่างหาก เรื่องภาษานั้น ไม่มีทางไหนอีกแล้วค่ะ อยากฟัง จงฟัง อยากพูด จงพูด อยากอ่านได้ จงอ่าน อยากเขียนได้ จงเขียน นั่งเฉยๆรอคนป้อนอย่างเดียว มันก็ไม่พัฒนาสักที แล้วยิ่งบ้านเราไม่ได้ใช้กันเป็นภาษาที่ 2 ด้วย โอกาสใช้มันก็น้อย ต้องขวนขวายเองกันหน่อย เราเล่นเว็ปบอร์ดกับเด็กมาเลย์ เด็กอินโด ภาษาอังกฤษเก่งกว่าเรามากจริงๆ เพราะเขาต้องใช้กันบ่อยๆเป็นภาษาที่ 2 นอกเหนือจากภาษาของเขาเองน่ะค่ะ แก้ไขเมื่อ 29 ม.ค. 52 15:42:35 จากคุณ : tor_toey (molecularkitten) - [ 29 ม.ค. 52 15:40:43 ]

ความคิดเห็นที่ 57 สาเหตูที่บางคนเก่งeng กับไม่เก่ง eng เอาที่มีความรู้เท่ากัน เช่น หัวสมองระดับเดียวกัน ระดับความรู้เดียวกัน นั้นก็เพราะ เรียนแล้วไม่ได้ใช้ มันเลยลืม ยกตัวอย่างเช่น แม่ค้าที่มีความรู้ระดับประถม จบจากที่เดียวกัน เรียนengมาเท่ากัน หัวสมองสติปัญญาระดับเดียวกัน เอาคนนึงไปขายของในต่างจังหวัดที่ไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเลย ถึงมีก็น้อย แล้ว เอาคนนึงไปขายของในต่างจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาก แน่นอนคนที่พบปะฝรั่งบ่อยๆ จะนำความรู้ที่เคยเรียนมาใช้ ผลคือไม่ลืม พูดได้แม้จะไม่ดีเท่าคนประกาศข่าว หรือทูต แต่เค้ากสามารถพูดได้ สื่อสารเข้าใจ พอที่จะขายของได่ ส่วนคนที่ไม่ได้ใช้ ก็จะลืมไงครับ จากคุณ : lamelez (Lamelez) - [ 29 ม.ค. 52 17:52:48 ]

ความคิดเห็นที่ 58 หลายๆท่านตอบตรงกันว่า  เป็นเพราะการสอน    แล้วไม่สงสัยหรือครับว่า ทำไมเค้าสอนแบบนี้  สอนแบบนี้เรียนให้ตายก็ไม่มีทางพูดกับฝรั่งหรืออ่านหนังสือฝรั่งรู้เรื่อง   สงสัยกันบ้างมั๊ยเอ่ย จากคุณ : นายสีเสียด - [ 29 ม.ค. 52 19:13:59 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ผมจะลองตอบดูนะ ว่าทำไมถึงสอนกันมาแบบนี้ อาจจะกระทบใจใครบางคนไม่ทราบได้ ขอออกตัวไว้ก่อนว่าไม่ได้เป็นอาจารย์แต่อย่างใดครับ ทำไมถึงสอนกันแบบนี้ ผมว่าเริ่มจากค่านิยมของคนไทย (ซึ่งก็ดีและไม่ดี ในคราวเดียวกัน) คือ "เด็กต้องเชื่อฟังผู้ใหญ่ ไม่โต้เถียง" ผมว่าค่านิยมอันนี้แหละที่ผู้ใหญ่ทั้งหลาย ท่านถือเป็นคติเลยว่า เรา(ผู้ใหญ่/ครู/อาจารย์) บอกอะไรเด็กนักเรียนไป เด็กนักเรียนเหล่านั้นต้องฟัง และปฏิบัติตามเท่านั้น ทีนี้ถ้าเป็นเรื่องอื่นๆ เช่นว่า เรา(ผู้ใหญ่) บอกเด็กไปว่า อย่าริไปเที่ยวกลางคืนนะ เด็กก็รับฟังและปฏิบัติตามโดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ อันนี้ก็คือว่าเป็นการดี แต่ถ้าเรา (อาจารย์) บอกเด็กว่า e=2mc2 นะเด็กก็เชื่ออีกเหมือนกันนั่นละ ไม่มีคำถามด้วย ทั้งๆ ที่เค้าอาจจะยังไม่้เข้าใจซะทีเดียว แต่ครูสอนมางี้ ท่องๆ ไปก่อน แล้วจะได้สอบได้เกรดดีๆ อันนี้ถ้าเด็กรู้ัจักเอาไปคิดและค้นคว้าต่อ ก็ดีไป อาจจะไปเจอเข้าว่า อ้าว e=mc2 นิ ไม่ใช่ e=2mc2 แล้วก็กลับมาถามครู/อาจารย์ว่า ครูครับ มันต้องเป็น e=mc2 ไม่ใช่เหรอครับ?  แต่ถ้าไม่ ก็จำตะพรืดเพื่อเอาไปสอบเลย แบบนี้มันก็ไม่ได้เรื่องเหมือนกัน โดยสรุปที่ผมพยายามจะบอกคือ เรา(ผู้ใหญ่) ไม่ได้พยายามที่จะสื่อสารให้เด็กเข้าใจ มีแต่จะพยายามที่จะสื่อสารให้เด็กเชื่อฟังเท่านั้น แล้วถ้าเรา(ผู้ใหญ่) พยายามทำแบบนั้น โดยไม่ได้ที่จะพยายามเข้าใจเด็กซะด้วย มันก็เลยไปกันใหญ่ สอนไปโดยไม่รู้ไม่เข้าใจว่า เด็กถึงทำไม่ได้ มันเลยเข้ามาสู้ข้อสรุปของ การเรียนการสอนแบบ Child Center ซึ่งครูผู้สอนต้องเข้าใจเด็กซะก่อน ถึงจะสอนในวิธีที่จะทำให้เด็กเข้าใจในวิชาที่สอนได้ครับ แต่อย่างที่เกริ่นไว้ในตอนต้นว่า ยังคนติดค่านิยมอยู่ ต้องให้เวลากันอีกนิด แต่ทางครู/อาจารย์เอง ก็ต้องพยายาม(มากๆ หน่อย) ที่จะปรับตัวให้เข้าสู่กระบวนการสอนแบบ Child Center ให้ได้อย่างถูกต้องครับ แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 52 09:23:55 จากคุณ : Dino - [ 30 ม.ค. 52 09:21:40 ]

ความคิดเห็นที่ 60 คือจริงๆ โทษ "สมอง" ไม่ได้หรอกครับ เพราะวิทยาศาสตร์ พิสูจน์ ยืนยันแล้วว่าสมองเท่ากันทุกคน แต่ที่ไม่เท่ากันคือความสามารถในการรับรู้ แล้ว เรียนรู้ต่างหาก และ ปัจจัยกระตุ้น ทางการเรียนรู้ด้วย สิ่งที่ผมจะบอกคือ โทษการศึกษาประเทศไทยเถอะครับ ไม่ได้บอกว่าตัวเองเก่ง แต่หัดภาษาอังกฤษ เอง ทั้งๆที่ตอนเรียนโง่ ตอนนี้เป้นครูสอนพิเศษ สาขาภาษาอังกฤษแล้วครับ แถมอ่านภาษาญี่ปุ่น (ฮิรางานะ - คาตาคานะนิดหน่อย) ได้แล้วด้วยครับ และผมก็เป็นคนไทยตั้งแต่เกิดด้วยครับ อันที่จริง ฝรั่งเศส และลาติน ก็อ่านออกนะครับ แต่ แปลไม่ได้ก็เลยไม่ขอพูดถึงครับ ทั้งหมดนี่ เกิดจากการ ฝึกฝนด้วยตัวเองทั้งนั้น ครับ อีกเรื่องหนึ่งที่จะพูดถึงคือความ ขี้เกียจ ของคนไทย(หรือคนชาติอื่นๆ) ต่อให้เกิดมา มีสิ่งที่เค้าเรียกว่า "พรสวรรค์" มากแค่ไหน ก็ไม่สามารถ ทำอะไรเก่ง ได้หรอกครับ นักฟุตบอลเก่งๆมากมาย ยังต้อง ซ้อม ต้องฝึก แล้วเราล่ะครับ? ไม่ได้ทำอะไร แล้วจะบอกว่า เพราะเกิดมาเป็นคนไทย เหรอครับ? (เอาแต่ แบ่งสี แท้ๆ << อันนี้ นอกเรื่อง) อิอิ ป.ล. ความคิดเห้นทั้งหมดเกิดจากความคิดเห็นส่วนตัว ไม่เห็นด้วยกรุณา อย่าด่า หรือถ้าหมั่นไส้ก็เก็บไว้ในใจ (ไม่ต้องการรับรู้ ขอบคุณ) จากคุณ : ทริปเปิ้ลด็อท (noptee) - [ 1 ก.พ. 52 22:12:09 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 5 ก.พ. 52 22:36:59 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ใช้ให้มาก เดี๋ยวก็จะดีเอง จากคุณ : Caroline McAden - [ 6 ก.พ. 52 20:10:30 ]