PANTIP.COM : X7476153 JFK ตายจากการยิง ของใครครับ [วิทยาศาสตร์]

ความคิดเห็นที่ 36

วันลอบสังหาร

การลอบสังหารคือการกระทำโดยกลุ่มบุคคลหรือบุคคลเพียงคนเดียว เพื่อทำลายชีวิตของบุคคลสำคัญ ส่วนใหญ่จะเป็นนักการเมืองระดับสูงซึ่งการตัดสินใจของเขาส่งผลกระทบในวง กว้าง หากศึกษาประวัติศาสตร์ให้ดีจะพบว่ามีการลอบสังหารบุคคลสำคัญเกิดขึ้นหลาย ครั้ง ตั้งแต่จูเลียส ซีซาร์เรื่อยมาจนปัจจุบัน ที่โด่งดังที่สุดคือกรณีของอดีตประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคนเนดี้ ผู้ถูกยิงด้วยกระสุนปืนเล็กยาวหลายนัดจากหลายตำแหน่งยิงเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 1963 เพราะมีผู้อยู่ในข่ายต้องสงสัยมากมาย ทั้งทหาร นักการเมือง แม้แต่มาเฟียซึ่งมีเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าเคนเนดี้สัญญาว่าจะเอื้อ ประโยชน์ แลกกับความช่วยเหลือให้ชนะการเลือกตั้ง แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่สามารถเปิดโปงได้ว่าเป็นฝีมือใครกันแน่ จับได้แต่”แพะ”คนเดียวคือนายลี ฮาร์วีย์ ออสวอลด์ แล้วคณะกรรมการวอเรนก็สรุปว่าเป็นฝีมือของเขาคนเดียว

เทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัยได้ช่วยให้เกิดความกระจ่างขึ้นมากในปัจจุบัน เมื่อใช้ทั้งภาพถ่ายและคอมพิวเตอร์กราฟิกจำลองสถานการณ์การลอบสังหารครั้ง นั้น แล้วพบว่ากระสุนพุ่งมาจากหลายที่ในบริเวณดีลีย์ พลาซา ไม่ใช่มาจากปากกระบอกปืนเล็กยาวแมนลิเคอร์ คาร์คาโนของออสวอลด์ ผู้(ถูกอ้างว่า)ซ่อนตัวอยู่บนอาคารคลังหนังสือของเท็กซัสเพียงกระบอกเดียว แม้ผลการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนแห่งสภาผู้แทนราษฎร(เฮาส์ เซเลคต์ คอมมิตตี ออน แอสแซสซิเนชั่น)จะสรุปอีกครั้งในช่วงปี 1976 ถึง 1979 ว่าเป็นน้ำมือของออสวอลด์เพียงคนเดียว เป็นผลจากการสมคบคิดกันหลายฝ่าย แต่คนอเมริกันและใครก็ตามที่ติดตามเรื่องนี้ก็เชื่อได้ยาก ภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่อง JFK ของโอลิเวอร์ สโตนได้เสนอเรื่องราวการลอบสังหารครั้งนั้นอย่างมีน้ำหนักจากข้อมูลที่รวบ รวมได้ ทำให้คำถามว่า”ใครฆ่าเคนเนดี้?”ยังคงเป็นปริศนา

หากคิดจะลอบสังหารบุคคลสำคัญกันแล้วก็ต้องทำให้แนบเนียน เมื่อออสวอลด์ถูกคุมตัวออกจากรถตำรวจเดินฝ่าฝูงชนไปยังห้องพิจารณาคดี ยังไม่ทันจะทราบว่าทำไมต้องทำหรือใครใช้ให้ทำ ชายคนหนึ่งชื่อแจ็ค รูบีก็เดินเข้ามาใช้ปืนพกรีวอล์ฟเวอร์จ่อยิงจนตาย อีกไม่นานตัวรูบี้เองก็ตายเพราะมะเร็งขั้นสุดท้าย นับเป็นการฆ่าตัดตอนที่หมดจดที่สุด คนฆ่าประธานาธิบดีตาย คนที่มาฆ่าปิดปากก็ตายตาม ในที่สุดก็สาวไปหาตัวการใหญ่ไม่ได้

ผลจากการลอบสังหารเคนเนดี้ที่เห็นชัดๆ ก็คือเด็กหนุ่มอเมริกันต้องไปเสียชีวิตในเวียตนามตลอดเวลา 10 ปีที่เกิดสงครามถึง 58,000 คน ยังไม่รวมคนพิการและมีปัญหาทางจิตอีกนับไม่ถ้วนที่กลับมาก่อปัญหาให้ สังคมอเมริกัน การตัดสินใจไม่ดำเนินการต่อตามกระแสหวาดกลัวคอมมิวนิสต์จากความคิดของอดีต ประธานาธิบดีดไวต์ ดี. ไอเซนเฮาเออร์ถือว่าเป็นภัยต่อโลกเสรีและชาวอเมริกันบางกลุ่ม ถ้าเคนเนดี้ยังมีชีวิตก็มีโอกาสมากที่เขาจะถอนทหารจากเวียตนาม และเลือกใช้วิธีอื่นเพื่อจัดการกับทฤษฎีโดมิโน

การลอบสังหารที่สำเร็จสามารถส่งผลกระทบได้ร้ายแรงถึงขั้นพลิกประวัติศาสตร์ กลุ่มบุคคลผู้สมคบคิดจึงต้องวางแผนกันอย่างรอบคอบ สร้างเครือข่ายให้มากจนไม่สามารถสาวถึงตัวจอมบงการได้ ต้องใช้คนนอกวงการเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ บางครั้งอาจต้องใช้มือสังหารปลอมเพื่อเป็นเป้าลวง ในขณะที่นักฆ่าตัวจริงคอยสังเกตท่าทีและประเมินผลก่อนจะลงมือจริง สิ่งนี้เกิดขึ้นได้จากทั้งฝ่ายของเป้าสังหารเองเมื่อคลางแคลงใจในการกระทำ อันอาจก่อให้เกิดผลร้ายต่อบ้านเมือง หรือจากฝ่ายตรงข้ามเมื่อต้องการกำจัดให้พ้นเส้นทางแห่งอำนาจ

ถ้าจะลอบฆ่ากันจริงๆ ฝ่ายเป็นเป้าต้องได้รับความเห็นใจหากเป็นคนดี ทำเพื่อบ้านเมืองจริงๆอย่างจริงใจ แต่จะกลายเป็นตรงกันข้ามถ้าเป้าสังหารเป็นนักการเมืองฉ้อฉล กอบโกยแต่ผลประโยชน์ใส่ตัวและพวกพ้อง

ที่ผ่านมาคือเรื่องราวการลอบสังหารประธานาธิบดีสหรัฐฯครับ ไม่ได้พูดถึงผู้นำคนไหนในบ้านเราเลย

ที่มา
http://www.thaitownusa.com/frontnews/frmNews_View.aspx?NewsNo=0608000484

จากคุณ : PV - [ 31 ม.ค. 52 12:33:49 A:118.174.40.92 X: TicketID:102349 ]