ความคิดเห็นที่ 1 วิคกี เอ๊คเคอร์ นักค้นคว้าเกี่ยวกับการผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ในประเทศมหาอำนาจ ได้นำเรื่องราวที่น่าสนใจมากมาเปิดเผยให้ชาวโลกได้ทราบว่าขณะนี้สหรัฐอเมริกากำลังมีโครงการผลิตเครื่องบินแสงเลเซอร์ทำลายล้างขีปนาวุธนิวเคลียร์ และขีปนาวุธเคมีหรืออื่นๆ ในลักษณะคล้ายกับจานบินส่งพลังแสงทำลายศัตรู หรือแม้แต่ลักพาตัวมนุษย์และสัตว์บนโลกขึ้นไปทดลองทางชีววิทยาและวิทยาศาสตร์บนยานจานบิน แนวคิดในการผลิตเครื่องบินเลเซอร์เพื่อใช้ในสงครามอวกาศซึ่งสันนิษฐานว่าอาจเกิดขึ้นในยุคศตวรรษที่ 21 นี้ แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 52 10:22:23 แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 52 10:12:39 จากคุณ : Mr.Terran - [ 2 ก.พ. 52 10:12:13 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ...เข้ามาโหวต จากคุณ : Raginail - [ 2 ก.พ. 52 10:17:11 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ขอบคุณครับคุณ Raginail ทีนี้จากแนวความคิดดังกล่าวมีประเด็นสำคัญที่น่าสนใจหลายประการดังนี้ 1.แสดงว่าสหรัฐอเมริกาและชาติมหาอำนาจทั้งหลาย ยังระแวงภัยจากสงครามนิวเคลียร์ สงครามอวกาศที่อาศัยดาวเทียม ยานอวกาศ จรวด และ เครื่องบินไฮเทคซึ่งอาจเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ 2.แสดงว่า ชาติมหาอำนาจเช่นสหรัฐอเมริกาประสบความสำเร็จในการพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง เพื่อก้าวสู่ตำแหน่งผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรายใหญ่ที่สุดในอนาคต 3.การพัฒนาอาวุธด้วยการสร้างเครื่องบินเลเซอร์เลียนแบบจานบินนั้น แสดงให้เห็นเด่นชัดว่า สหรัฐได้ติดตามค้นคว้าเรื่องจานบินมาตลอดหลายทศวรรษ และเป็นการยอมรับว่าเรื่องจานบินจากต่างดาวมาปรากฏบนโลกจริง จากคุณ : Mr.Terran - [ 2 ก.พ. 52 10:23:48 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ได้ข่าวว่าเร็วๆ นี้ ดีิเซฟติค่อน จะกลับมาบุกทำลายล้างโลก เพื่อจับตัวแซม วิควิสกี้ อีกแล้วนะครับ จากคุณ : Dr.Studios - [ 2 ก.พ. 52 10:23:57 ]

ความคิดเห็นที่ 5 มาปูเสื่อรออ่าน จากคุณ : bbiggy - [ 2 ก.พ. 52 10:24:28 ]

ความคิดเห็นที่ 6 แซม วิตวิคกี้ เอ๊ย.. วิคกี เอ๊คเคอร์ (พาผมมึนเลย)ได้เริ่มต้นไว้ว่า แม้ว่าในช่วงจุดสูงสุดของสงครามเย็น ประเทศมหาอำนาจสองประเทศคือสหรัฐและรัสเซียต่างขับเคี่ยวแข่งขันสร้างขีปนาวุธนำวิถีติดหัวรบนิวเคลียร์ที่สามารถยิงข้ามทวีป ใช้ยิงในเขตยุทธศาสตร์ที่สามารถยิงเป้าหมายที่อยู่ห่างไกลหลายพันไมล์ภายใน 2 -3 นาที ขีปนาวุธนำวิถีติดหัวรบนิวเคลียร์แบบหัวเดียวและหลายหัวทำลายล้างหลายจุด หลายเมืองภายในเวลาเดียวกันเพียงไม่กี่นาที รวมทั้งขีปนาวุธพิสัยสั้นที่ยิงในระยะใกล้ต่ำกว่า 60 ไมล์ สหรัฐอเมริกาในสมัยประธานาธิบดีเรแกน ได้เริ่มบทบาทพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ให้ทันสมัยยิ่งขึ้นนับตั้งแต่ปี 1980 เป็นต้นมา โดยหน่วยปฏิบัติการ ซึ่งเรียกชื่อสั้นๆว่า หน่วยพัฒนายุทธศาสตร์การป้องกันภัยทางอากาศ ซึ่งต่อมามีชื่อว่า หน่วยสตาร์วอร์ส (ชื่อเดียวกับภาพยนตร์ของจอร์จ ลูคัสนั่นแหละครับ,คนละอันกับโครงการสตาร์วอร์ส) ประเด็นสำคัญก็คือหลายฝ่ายเห็นว่าขีปนาวุธนิวเคลียร์แบบต่างๆดังกล่าวเริ่มจะล้าสมัย ควรพัฒนาไปเป็นขีปนาวุธยุทโธปกรณ์ทางอวกาศ เนื่องจากในอนางอ.. เอ๊ย คต อาจเกิดอุบัติเหตุทำให้เกิดสงครามนิวเคลียร์และสงครามอวกาศขึ้น แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 52 10:36:49 จากคุณ : Mr.Terran - [ 2 ก.พ. 52 10:27:47 ]

ความคิดเห็นที่ 7 คำว่าสงครามอวกาศนั้น ความหมายสั้นๆคือสงครามไฮเทคที่ต่อสู้กันด้วยยานอวกาศ เครื่องบิน ดาวเทียม สถานียานอวกาศที่โคจรอยู่ในระดับสูงรอบโลก อาวุธที่สำคัญก็คืออาศัยปืนแสงเลเซอร์หรืออนุภาคลำแสงทำลายล้างกัน ใครสามารถครอบครองน่านฟ้าได้กว้างไกลและมีอาวุธทันสมัยกว่าก็สามารถชนะสงครามอวกาศและนิวเคลียร์ที่ยิงโดยขีปนาวุธต่างๆของฝ่ายศัตรู หรือฝ่ายตรงข้ามได้อย่างสิ้นเชิง   นักวิทยาศาสตร์ นักค้นคว้าเรื่องจานบินกลุ่มหนึ่ง ได้เสนอแนะให้ทางกองทัพอากาศสหรัฐผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ที่มีอำนาจการยิงเลเซอร์เลียนแบบจานบิน ซึ่งคิดว่าจะทันสมัยกว่าชาติมหาอำนาจอื่น เนื่องจากขณะนี้เห็นว่าประเทศต่างๆที่เจริญก้าวหน้าต่างส่งดาวเทียมของตนขึ้นไปบนท้องฟ้าเต็มไปหมด ไม่นับรวมของสหรัฐอเมริกา,รัสเซีย,อังกฤษ,ฝรั่งเศส และจีน ที่ส่งขึ้นไปโคจรเหนือโลกนับจำนวนมหาศาล อาวุธที่สร้างขึ้นสามารถใช้แสงเลเซอร์ทำลายดาวเทียมชนิดต่างๆอากาศยาน ขีปนาวุธที่ยิงข้ามทวีปและวัตถุเป้าหมายทางยุทธศาสตร์ในอวกาศของชาติฝ่ายตรงข้ามทุกชนิด จากคุณ : Mr.Terran - [ 2 ก.พ. 52 10:33:37 ]

ความคิดเห็นที่ 8 บุคคลสำคัญที่ได้รับนโยบายจากผู้นำระดับชาติตามลำดับ และอยู่เบื้องหลังโครงการเพื่อผลิตอาวุธดังกล่าวคือ พลอากาศโทเลสเตอร์ ลีลส์ ซึ่งได้มีโอกาสไปชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการความมั่นคงของสภา ในเรื่องการพัฒนาการผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์เพิ่มเพื่อความมั่นคงแห่งชาติ โดยได้เน้นการผลิตอาวุธทำลายขีปนาวุธนำวิถีและขีปนาวุธครูซที่มีแนวโน้มคุกคามความมั่นคงของกองกำลังทหารสหรัฐและกำลังพันธมิตรต่างชาติ นอกจากนั้น ยังได้กล่าวถึงการพัฒนาอาวุธป้องกันภัยในสงครามอวกาศที่จะเกิดขึ้นในอนาคตและแผนการคุ้มครองโลกให้เกิดสันติภาพปลอดภัยของชาติอันธพาลและบ้าคลั่ง (เอ๊ะ..ยังไง) จากคุณ : Mr.Terran - [ 2 ก.พ. 52 10:45:47 ]

ความคิดเห็นที่ 9 นาวาอากาศโท ฟิลลิป คอร์โซ ได้เสนอแนะภัยต่างชาติที่อาจเพิ่มขึ้นในอนาคต นั่นคือมนุษย์ต่างดาวที่ดุร้ายเข้ามาคุกคามโลก เราจำเป็นต้องหาทางป้องกันโดยผลิตอาวุธที่พัฒนาจากเทคโนโลยีต่างดาว ซึ่งสันนิษฐานว่าเจริญสูงส่งกว่าโลกเรามาก ในหนังสือ”The day after roswell” ที่เขาได้เขียนโดยค้นคว้าจากเอกสารและหลักฐานจำนวนมาก เขาได้เสนอแนวความคิดไว้ตอนหนึ่งว่า เราน่าจะเรียนรู้เทคโนโลยีการสร้างจานบินและประยุกต์นำไปใช้กับเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดของเรา สร้างอากาศยานหรืออาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ จากการเปิดเผยของนาวาอากาศโทฟิลลิป และผลจากการวิเคราะห์ของกองทัพอากาศ ต่อมาจึงเกิดโครงการพัฒนาความมั่นคงของชาติหลังสงครามเย็น เนื่องจากเกรงว่าอาจเกิดสงครามอวกาศขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 21 นี้ก็เป็นได้ ประการสำคัญนั่นหมายความว่าต้องเพิ่มการผลิตอาวุธหรือระบบต่อต้านขีปนาวุธ เอ.บี.เอ็ม. (Anti-Ballistic-Missiles) โดยพัฒนาจากเทคโนโลยีของมนุษย์ต่างดาวมาเป็นอาวุธอนุภาคลำแสงเลเซอร์ยิงขีปนาวุธหรืออากาศยานของฝ่ายตรงข้ามที่รุกล้ำน่านฟ้าเข้ามา จากคุณ : Mr.Terran - [ 2 ก.พ. 52 10:48:59 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ลงชื่อนั่งรอชมครับ จากคุณ : sariell - [ 2 ก.พ. 52 10:54:28 ]

ความคิดเห็นที่ 11 หน่วยป้องกันภัยขีปนาวุธแห่งชาติ (เอ็น.เอ็ม.ดี.)และหน่วยป้องกันภัยขีปนาวุธโจมตีพื้นที่เป้าหมายยุทธศาสตร์ภายในประเทศ (ที.เอ็ม.ดี.) พลอากาศโทเลสเตอร์ ซึ่งต่อมาคือผู้อำนวยการหน่วยป้องกันภัยขีปนาวุธ (บี.เอ็ม.ดี.โอ.)ได้บรรยายในสภาคองเกรสว่า ได้แบ่งหน่วยงานรับผิดชอบย่อยออกเป็นสองหน่วยตามลำดับดังนี้คือ 1.หน่วยป้องกันภัยขีปนาวุธแห่งชาติ (เอ็น.เอ็ม.ดี.) 2.หน่วยป้องกันภัยขีปนาวุธโจมตีพื้นที่เป้าหมายยุทธศาสตร์ภายในประเทศ (ที.เอ็ม.ดี.) จากคุณ : Mr.Terran - [ 2 ก.พ. 52 10:58:09 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ลำ #8 นี่ล่ะครับโหดจริง เดี๋ยวคุณ Mr.Terran โพสเสร็จเมื่อไหร่จะขออนุญาตมาช่วยเพิ่มเติมครับ จากคุณ : Skyman (Analayo) - [ 2 ก.พ. 52 10:59:41 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ทั้งสองหน่วยมีหน้าที่ป้องกันการโจมตีของขีปนาวุธข้ามประเทศหรือทวีป และป้องกันหรือสกัดกั้นขีปนาวุธโจมตีพื้นที่ยุทธศาสตร์ในประเทศ จากเงินงบประมาณปี 1998 ที่หน่วย บี.เอ็ม.ดี.โอ. ได้รับ ปรากฏว่า หน่วยป้องกันขีปนาวุธโจมตีพื้นที่เป้าหมายได้รับมากสุดถึง 75 เปอร์เซ็นต์ จากงบประมาณจำนวน 3.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ผู้เปิดเผยความลับนี้คือ นาวาอากาศเอกริค เอเนอร์ นอกจากผลิตอาวุธเตรียมป้องกันภัยดังกล่าวแล้ว ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังเสนอความคิดเห็นว่า ยังเป็นการสกัดกั้นระบบการก่อการร้ายที่แพร่ไปทั่วโลกจากกลุ่มชนบางกลุ่มในประเทศที่มักถูกอ้างถึงก็คือ อิรัก อิหร่าน ซีเรีย ลิเบีย และเกาหลีเหนือ ทั้งนี้เพื่อช่วยให้โลกประสบกับความสงบสุขและสันติภาพมากขึ้น และเป็นการปูทางสำหรับการผลิตอาวุธที่ทันสมัยต่อไปในอนาคต TerraN เรียบเรียงบางส่วนจากเทคโนโลยีเกี่ยวกับจานบินและอาวุธยุทโธปกรณ์ในสงครามอวกาศ ยุคศตวรรษที่ 21,บรรยงค์ บุญฤทธิ์ สำหรับวันนี้  ลาไปก่อนครับ ลาไปแล้วนะครับ. จากคุณ : Mr.Terran - [ 2 ก.พ. 52 11:02:53 ]

ความคิดเห็นที่ 14 แล้ว ถ้าผิวนอกของของ ขีปนาวุธ เคลือบด้วย ปรอท(กระจกเงา) ซึ่ง สะท้อนแสงมาก ละครับ อาวุธแสง จะทำลายหัวรบได้อย่างไร จากคุณ : Humandroy - [ 2 ก.พ. 52 11:04:51 ]

ความคิดเห็นที่ 15 รอดูด้วยคน จากคุณ : ธันวา (Hokage) - [ 2 ก.พ. 52 11:22:32 ]

ความคิดเห็นที่ 16 รอดูของเสี่ยโยต่อ จากคุณ : Raginail - [ 2 ก.พ. 52 12:31:36 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ตามนั้นครับ จากคุณ : Mr.june - [ 2 ก.พ. 52 14:17:37 ]

ความคิดเห็นที่ 18 โหวตครับ ขอบคุณความรู้ดีๆ จากคุณ : หัวไพล - [ 2 ก.พ. 52 14:20:11 ]

ความคิดเห็นที่ 19 รออ่านต่อเจ้าค่ะ  คริคริ จากคุณ : นู๋ขี้สงสัย - [ 2 ก.พ. 52 15:39:15 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ติดตามเนื้อหาของคุณ Mr.Terren มานานแล้วขอรับ เอ๊ะ...แล้วอเมริการู้ได้ยังไงว่าจะเกิดการรุกรานจากต่างดาว น่าสงสัยจริงๆ ขอรับ ~ เทพมังกรอวยชัย เอนมา เอนมา ~ จากคุณ : กระบี่เก้าเดียวดาย - [ 2 ก.พ. 52 17:54:02 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ค้าง ครับ มาต่อนะครับ รอๆๆๆๆๆ จากคุณ : eping - [ 2 ก.พ. 52 18:17:08 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ระหว่างที่รอเสี่ยโยมาเพิ่มเติม ผมก็ขอเพิ่มเติมอีกสักหน่อยนะครับ แต่ก่อนอื่นก็ขอบคุณเพื่อนๆที่พอจะให้ความสนใจอยู่บ้างครับ ราว 2-3 ศตวรรษหน้า การใช้อาวุธสงครามในอวกาศ ไม่เพียงจะมีในเกมส์หรือในภาพยนต์เท่านั้น มีความเป็นจริงจะเกิดขึ้นได้ จากประเทศมหาอำนาจบางประเทศที่ได้แอบ ทำการทดลองทางอวกาศอยู่อย่างลับๆและไม่ลับ ในรูปแบบต่างๆ ความสำคัญการสงครามคือ ตัวบ่งชี้ต่อการแย่งชิงทรัพยากรโลก เกิดขึ้นเป็นปัจจัยหลัก ในสงครามทุกยุคทุกสมัย การให้เกิดความได้เปรียบ ประสบชัยชนะนอกจากแผนการรบที่แยบยลแล้ว เทคโนโลยีก็เป็นสิ่งที่ ชี้ชะตาความสูญเสียของทั้งสองฝ่ายได้ สิ่งที่เกิดขึ้นในศตวรรษนี้ คือ ความร่วมมือหลายชาติของโลก ได้เปิดเผยจะใช้ห้วงอวกาศเป็นสนามรบ เพื่อความได้เปรียบของสงครามอนาคต จากเทคโนโลยีสำคัญของโลก ถูกเชื่อมโยงด้วยการสื่อสารด้วยดาวเทียม นับเป็น จุดอ่อนของประเทศชั้นนำทั้งหลาย จากคุณ : Mr.Terran - [ 2 ก.พ. 52 18:53:55 ]

ความคิดเห็นที่ 23 โครงการอาวุธต่อต้านดาวเทียมภาคพื้นดิน เหนือระดับน้ำทะเล 6,24O ฟิต ตั้งอยู่บริเวณ ทิศใต้ของฐานทัพอากาศ Kirtland ใน New Mexico (ภาพบน) ศูนย์ปฎิบัติการ European Space Agency (ภาพล่าง) จากคุณ : Mr.Terran - [ 2 ก.พ. 52 18:57:39 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ตำนานดาวเทียมดวงแรก ถึงจำนวนดาวเทียมปัจจุบัน 50 ปีที่แล้ว ประเทศโซเวียต ได้ส่งดาวเทียมดาวแรกของโลกสู่วงโคจรได้สำเร็จ ชื่อ Sputnik ในวันที่ 4 ตุลาคม ค.ศ. 1957 ปัจจุบันหุ่นจำลองดาวเทียมแสดงไว้ที่ National Museum of Air Force in Dayton, OH ประเทศสหรัฐอเมริกา ณ วันนี้จากข้อมูลเดือน ตุลาคม ค.ศ.2008 รวบรวมโดย Dr. T.S. Kelso ได้แสดง จำนวนดาวเทียม ตั้งแต่ขนาด 10 ซม. ขึ้นไป มีจำนวนทั้งสิ้น 33,395 ดวง โดยยังโคจรใช้งานอยู่เพียง 13,019 ดวง และส่วนที่เหลือ 20,376 ดวง อยู่ในสภาพหมดอายุการใช้งาน มีอุปสรรคในด้านต่างๆ เช่น ขาดแคลนเงินลงทุน ระบบสั่งการผิดพลาด เป็นต้น ทั้งหมดจึงรอการผุพังเป็นขยะอวกาศ จากคุณ : Mr.Terran - [ 2 ก.พ. 52 19:03:29 ]

ความคิดเห็นที่ 25 Vanguard I ดาวเทียมของประเทศอเมริกา ช่วงปี 1957 -1958 จากความร่วมมือ 3 สถาบันคือ U.S. Army U.S. Air Force Naval Research Laboratory (NRL) ในโครงการวิทยาศาสตร์ International Geophysical Year จากคุณ : Mr.Terran - [ 2 ก.พ. 52 19:04:56 ]

ความคิดเห็นที่ 26 รูปแบบดาวเทียมจำนวนนับหลายหมื่น มีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน แบ่งได้โดยสังเขปดังนี้ 1.Weather & Earth Resources Satellites ดาวเทียมตรวจสภาพอากาศ   และทรัพยากรโลก เช่น ตรวจเก็บข้อมูลพายุ ตรวจสอบแหล่งแร่่-น้ำมัน เป็นต้น 2.Communications Satellites ดาวเทียมสื่อสาร เช่น สถานีโทรทัศน์ ระบบของ  อินเตอร์เนท โทรศัพท์มือถือ เป็นต้น 3.Navigation Satellites ดาวเทียมนำทาง เช่น ใช้กับระบบ GPS ในรถยนต์ เรือ  เครื่องบิน กล้องดูดาว เป็นต้น 4.Scientific Satellites ดาวเทียมทางวิทยาศาสตร์ เช่น สำรวจดวงอาทิตย์ 5.Miscellaneous ดาวเทียมประเภทอื่นๆ เช่น ดาวเทียมทางทหาร ดาวเทียมเรดาห์  เป็นต้น จากคุณ : Mr.Terran - [ 2 ก.พ. 52 19:06:33 ]

ความคิดเห็นที่ 27 International Space Station ฐานทัพอวกาศด้านวิทยาศาสตร์ เพื่อให้มองเห็นถึง จุดสำคัญทางเทคโนโลยี่ด้านอวกาศของวันนี้ โครงการสถานีอวกาศสากลหรือ ISS เกิดขึ้นโดยมีภาระกิจด้านวิทยาศาสตร์มากมาย เพื่อรอคอยคอยการทดลองสรุปผล เมื่อ ค.ศ. 1998 ระดับวงโคจร Low Earth orbit เหนือจากผิวโลกราว 350 กิโลเมตร (สามารถมองลงมาเห็นโลกได้ด้วยตาเปล่า) โคจรด้วย ความเร็วเฉลี่ย 27,700 กม. ต่อชั่วโมงเท่ากับโคจรรอบโลกได้ 15.77 รอบต่อวัน จนถึงวันที่ 15 ตุลาคม 2008 โคจรรอบโลกไปแล้ว 57,084 รอบ นับเป็นระยะทางกว่า 2,000,000,000 กิโลเมตร มีขนาดยาว 58.2 เมตร (191 ฟุต) กว้าง 44.5 เมตร (146 ฟุต) กว้างรวม Solar arrays (แผงพลังงานแสงอาทิตย์) 73.15 เมตร (240 ฟุต) และสูง 27.4 เมตร (90 ฟุต) น้ำหนักรวมประมาณ 419,600 กิโลกรัม และพื้นที่ใช้สอย 424.75 ตรม.(15,000 ตร.ฟุต) มีชื่อเรียกขนาน ในระบบ NASA ว่า Alpha เป็นความร่วมมือของ United States (NASA) - Russia (RKA) - Japan (JAXA) -Canada (CSA) - European countries (ESA) - Brazilian Space Agency (AEB, Brazil) - Italian Space Agency เป็นต้น มีเป้าหมายเสร็จสมบูรณ์ภายใน ปี ค.ศ. 2010 หลังจากนั้นจะยังอยู่ในวิถีโคจรจนถึง ค.ศ. 2016 จากคุณ : Mr.Terran - [ 2 ก.พ. 52 19:10:22 ]

ความคิดเห็นที่ 28 แนวโน้มโอกาสเกิดสงครามอวกาศ รูปแบบใหม่แห่งอนาคต ความเป็นไปได้จริงหรือต่อความเห็นดังกล่าว จากความหนาแน่นเพิ่มขึ้นในทุกๆปีของดาวเทียม พอมองเห็นหนทางถึง ความได้เปรียบเชิงเศรษฐกิจประเทศเจ้าของดาวเทียม ซึ่งนำมาเรื่องผลประโยชน์และอำนาจ เมื่อถึงจุดหนึ่งอาจนำมาซึ่งความขัดแย้ง เป็นชนวนเหตุมุ่งสู่การทำลาย ล้างกันได้ ดาวเทียมสอดแนม (Spy satellites) หรือดาวเทียมทางทหารเป็นเป้าหมายแรกที่ถูกโจมตี โดยไม่ต้องอธิบายเหตุผล ถัดมาดาวเทียมเชื่อมโยงการสื่อสารของประเทศกลุ่มคู่สงคราม ก็คงจะเป็นเป้าหมายต่อไปก็เป็นได้ ถ้าหากเป็นเช่นนั้นผลกระทบต่อประชากรโลก คงเกิดปัญหาใหญ่ แม้ไม่เกิดการเสียชีวิตก็ตาม แต่ระบบเศรษฐกิจที่เชื่อมโยงกันจะนำพาไปสู่วิกฤตได้ เหมือนตายทั้งเป็นและการทำลายดาวเทียม มิจำเป็นต้องยิงอาวุธให้ระเบิดแตกออกเป็นซากผุยผง เพียงแต่ยิงคลื่นความถี่สูงไปยังเป้าหมาย เช่นหลักการเดียวกับ Killer electrons in space ผลที่เกิดทำให้ระบบทำงานผิดพลาด สะดุดหยุดลงก็ถือว่าได้ผลเกินคาดแล้วเพราะไม่สามารถที่จะขึ้นไปซ่อมแซมให้ใช้งานได้อีก กว่าจะส่งดาวเทียมใหม่ขึ้นไปได้คงใช้เวลานับเดือน Spy satellites มักเป็นของกองทัพที่ลาดตระเวณอย่างเงียบๆ แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 52 19:15:09 จากคุณ : Mr.Terran - [ 2 ก.พ. 52 19:14:36 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ความเห็นที่โต้แย้งและคัดค้าน บางกลุ่มของผู้เชี่ยวชาญ ยังมีความเห็นในทางตรงกันข้ามด้วย เหตุผลว่า ดาวเทียมในอวกาศ ทั้งหมด ยังไม่มีความจำเป็นที่ต้องโจมตี ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีฐานทัพอวกาศที่จะเป็นเป้าหมายเพื่อการสงคราม และการพัฒนาระดับสูงในเรื่องต่อต้านดาวเทียมสงคราม กองทัพของชาติต่างๆยังขาดแคลนผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริง พร้อมกับค่าใช้จ่ายในการพัฒนาการ อาวุธสงครามอวกาศมีค่าใช้จ่ายสูงมาก และประเด็นสำคัญการใช้อวกาศทดลอง เป็นเรื่องที่ต้องมีคุณภาพของแบบแผนสูงมาก มิฉะนั้นน่าวิตก ต่อระบบดาวเทียมต่างๆนับหมื่นที่โคจรอยู่รอบโลก รวมทั้งอากาศยานต่างๆ ทางพาณิชย์ จึงมีความไม่เห็นพ้องถึงโอกาสการเกิดสงครามอวกาศ US Spy Satellites ในโครงการ Project Key Hole ค.ศ.1960-1970 เกี่ยวข้องกับ CIA จากคุณ : Mr.Terran - [ 2 ก.พ. 52 19:16:35 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ความหมายคำว่า สงครามอวกาศ Space wars เป็นคำที่คุ้นเคยในเกมส์และภาพยนตร์ให้เราเข้าใจง่าย ในความเป็นจริงแล้ว จากการทำนายอนาคต ด้านอากาศยาน ของ U.S. Air Force (กองทัพอากาศสหรัฐฯ) ใช้คำว่า Future War (สงครามแห่งอนาคต) เป็นรายงานเอกสารชื่อ Transformation Flight Plan ตั้งแต่ปี ค.ศ.2003 ลงนามโดย John P.Jumper (General USAF Chief of Staff) และ Dr. James G. Roche (Secretary of the Air Force) กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงรูปแบบใหม่ ของยุทธวิธีสงครามจำนวน 176 หน้าสรุปได้ว่า เป็นสิ่งที่ดีหากกองทัพแห่งสหรัฐฯ มีอุปกรณ์รบด้านอวกาศ และจุดเน้นในรายงานสำคัญดังกล่าว เหตุผลหลักจะทำให้แนวทางการรบภาพรวม มีความเหนือคู่ต่อสู้ 3 ประการคือ 1.เพื่อปกป้องพิทักษ์ทรัพย์สินในอวกาศ (เช่น ดาวเทียมด้านการพาณิชย์) 2.เพื่อการต่อต้านปรปักษ์ ที่จะบุกรุกเขตอวกาศ 3.เพื่อความรวดเร็วต่อการปฏิบัติการของอากาศยาน ที่เข้ายึดครองพื้นที่กลับคืน  ในกรณี ที่ถูกผู้บุกรุกทำลาย โดยใช้อาวุธประเภท Laser engagement (การต่อสู้ด้วยลำแสง) - Anti-satellite missiles (การยิงขีปนาวุธต่อต้านดาวเทียม) - Space-based radio frequency energyweapons(การทำสงครามด้วย คลื่นพลังงานวิทยุสูงในอวกาศด้วยการกวนคลื่นสัญญานจากโลกสู่อวกาศ) เป้าประสงค์ในการปฎิบัติการ สงครามพิทักษ์ชาติ จาก อาวุธเคมี อาวุธชีวภาพ อาวุธคลื่นวิทยุอาวุธปรมาณ ูและการจู่โจมด้วยวัตถุระเบิดพลังสูง จากคุณ : Mr.Terran - [ 2 ก.พ. 52 19:18:50 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ปฎิบัติการสร้างอาวุธเพื่อการสงครามยุคใหม่ แม้ว่ามีการคัดค้าน ก็มิใช่สามารถยุติแนวคิดได้ หลายอย่างได้ดำเนินการไปแล้วไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม มีหลักฐานมากมายเริ่มเกิดขึ้นในกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ด้านพัฒนาอาวุธสงคราม เช่น Kinetic-Energy Interceptors จากคุณ : Mr.Terran - [ 2 ก.พ. 52 19:20:49 ]

ความคิดเห็นที่ 32 จรวดสกัดกั้นติดหัวรบ พลังงานจลน์ The Kinetic Energy Interceptors โครงการพัฒนาการยิง ขีปนาวุธพิสัยกลางและพิสัยไกล มียุทธวิธีจากฐานยิงเคลื่อนที่ บนพื้นดินและพื้นทะเล จัดเป็นระบบอาวุธสงครามอนาคตศักยภาพสูง พัฒนาจากความรู้ด้านขีปนาวุธ (Integrated Ballistic Missile Defense System) โดยมีเงื่อนไข 3 ประการหลักคือ 1.Land-mobile (ฐานยิงเคลื่อนที่บนพื้นดิน) 2.Sea-mobile (ฐานยิงเคลื่อนที่บนพื้นทะเล) 3.Land-fixed (ฐานยิงไม่เคลื่อนที่บนพื้นดิน) จากคุณ : Mr.Terran - [ 2 ก.พ. 52 19:22:40 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ส่งสัญญานคลื่นวิทยุ หรือค้นหาเป้าหมายจากสถานีภาคพื้นดิน (Ground-control stations) มีศักยภาพสามารถยับยั้งดาวเทียม ขณะทยานสู่ท้องฟ้า ให้หายนะก่อน เข้าสู่วงโคจรในทุกสภาพอากาศ ไม่ว่ามีเมฆหมอกหนาทึบ การสะท้อนรังสีของดวงอาทิตย์ จะไม่เป็นอุปสรรคใดๆ แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 52 19:26:14 จากคุณ : Mr.Terran - [ 2 ก.พ. 52 19:23:56 ]

ความคิดเห็นที่ 34 นอกจากนั้นยังมีแนวคิด แบบ Garages Interceptors (เก็บขีปนาวุธในอวกาศ) เพื่อโจมตีขัดขวาง อากาศยานที่มีความเร็วสูงได้ทันถ่วงที การโจมตีมี 2 ระดับคือ ระดับ Low earth orbit (วงโคจรระดับต่ำเหนือพื้นโลกหรือ LEO ) 100-2,000 กม. มีอำนาจทำลายล้าง อากาศยานขนาดเล็ก ดาวเทียมที่อยู่ตำแหน่งโคจรระดับต่ำได้แม่นยำสูง จากคุณ : Mr.Terran - [ 2 ก.พ. 52 19:26:35 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ระดับ Geostationary earth orbit (วงโคจรดาวเทียมค้างฟ้าหรือ GEO) ประมาณ 36,000 กม.เป็นการโจมตีระดับสูง มีความต้องการพลังงานสนับสนุนเพิ่มกว่าปกติ ขณะนี้อยู่ระหว่างพัฒนา จากความร่วมมือด้านอวกาศ 8 ประเทศ มีเป้าหมายขั้นทดลองราวปี ค.ศ. 2009 และก่อสร้างอาคารบัญชาการระบบให้เสร็จภายใน 20 ปี จากคุณ : Mr.Terran - [ 2 ก.พ. 52 19:26:54 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ระบบพลังงานทิศทางตรง เป็นการยิง ลำแสงแรงกล้าระยะไกล (Ground-based laser beams) จากภาคพื้นดินของโลกไปไกลได้ ถึงดวงจันทร์ เป็นเส้นตรงอย่างแม่นยำถูกต้องสู่เป้าหมายโดยประดิษฐ์จากเลนส์ ชนิดใช้สำหรับ Atmospheric distortions (การบิดเบือนในชั้นบรรยากาศ) เป็นพิเศษ เพื่อหยุดยั้งดาวเทียมเป้าหมาย ระดับ Low earth orbit (วงโคจรระดับต่ำเหนือพื้นโลกหรือ LEO ) 100-2,000 กิโลเมตร การยิงลำแสง (Laser beams) ดังกล่าว ในขนาดไม่รุนแรงทำให้เกิด แสงลานตาพร่างง (Dazzle) มีผลกระทบไปยังเครื่องมือของดาวเทียม ในจุดที่อ่อนไหวง่าย (Sensitive detectors) ทำให้ระบบขัดข้องเสียหาย เกิดอาการ Erro (ทำงานผิดพลาด) จากคุณ : Mr.Terran - [ 2 ก.พ. 52 19:28:46 ]

ความคิดเห็นที่ 37 การยิงลำแสง (Laser beams) ขนาดรุนแรง ใช้กรณีดาวเทียมทีกำลังมุ่งหน้าเดินทางด้วยความเร็ว สามารถทำให้เสียหายโดย Electronic เจาะไชสู่ผนังดาวเทียมเข้าสู่ระบบภายในได้ เป็นหลักการเดียวกับ Killer electrons in space ด้วยลักษณะเดินทางดาวเทียมมีความเร็วสูง มีเส้นทางมากมายรอบโลกในขอบฟ้าและมีโอกาส เพียงครั้งเดียวในการเล็งยิงจากภาคพื้นดิน ฉะนั้นหากสามารถนำระบบ Laser beams ติดตั้ง ไปกับเครื่องบินหรือดาวเทียม เพื่อทำการ Redirect (ปรับทิศทาง) สะท้อนลำแสงไปเป้าหมายอีกชั้นหนึ่ง จะมีศักยภาพน่าเกรงขามขึ้น จากคุณ : Mr.Terran - [ 2 ก.พ. 52 19:29:48 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ขณะนี้ Ground-based laser beams ได้เป็นโครงการที่พัฒนาเบื้องต้นเป็นอาวุธประจำสนามบินในการปกป้อง สายการบินพาณิชย์ และทางทหาร ให้ปลอดภัยจากการลอบโจมตี และติดตั้งบน Ground combat vehicle (รถต่อต้านการโจมตี) ใช้ในสนามรบ คาดว่าจะบรรลุผลในไม่กี่ปีข้างหน้า ติดตามดาวเทียมในวงโคจร วัตถุประสงค์ ออกแบบเป็นอาวุธต่อต้านดาวเทียมขนาดเล็ก (Small antisatellite weapons) หรือ ดาวเทียมขนาดจิ๋ว มีขนาดเท่าเค็กแต่งงาน (Micro-satellites) เป้าหมายในระดับสูงของวงโคจรเดียวกัน โดยระบบติดตาม ค้นหาเงาดาวเทียม (ในอวกาศเงาของวัตถุเป็นปัจจัยสำคัญต่อการแสดงการเคลื่อนที่) จากคุณ : Mr.Terran - [ 2 ก.พ. 52 19:31:51 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ออกคำสั่งโจมตีทำลายล้างแบบกวาดไปทั่วคล้าย Space mines (สนามทุ่นระเบิดอวกาศ) ด้วยอุปกรณ์ขนาดเล็ก มีหัวทรงแหลมที่ยื่นออกมา (Small projectils) ส่งระบบคลื่นวิทยุความถี่สูง (Radion-frequency) หรือเปล่งคลื่นไมโครเวฟพลังสูง (High-powered microwave) สู่เป้าหมายได้อย่างแม่นยำ ขณะนี้มีการทดลองในประเทศอิหร่าน (Iranian Space Center) และประเทศจีน(China’s technological prowess) ทำนองที่คล้ายกัน โดยต้นแบบแนวคิดก่อนหน้านี้ เรียกว่า Flyswatter (ไม้ตบแมลงวัน) หรือ Large net (ตาข่ายยักษ์) ได้พัฒนาจากกลุ่มประเทศยุโรป จากคุณ : Mr.Terran - [ 2 ก.พ. 52 19:33:02 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ยานลำเลียงอวกาศ โครงการสำคัญของ Pentagon พัฒนารูปแบบ Spaceplane (อากาศยานใช้ในอวกาศ) โดย Wickman Spacecraft & Propulsion (WSPC) โดยใช้ต้นแบบของ NASA'S SHARP thermal protection system ระบบ Aero vehicle/Hypersonic Technology ขับเคลื่อนด้วยพลังงานระเบิด ของ Hypersonic มีหลักการไม่ได้ใช้ในการทำสงครามโดยตรง แต่ใช้ลาดตะเวณ ขนส่งสัมภาระกำลังทหารปกป้องโลก มีความพร้อมทั้งฝูงบิน แปรขบวนสู่อวกาศภายใน 90 นาทีไปถึงทุกที่ ทุกมุมโลกที่มีภาวะอันตราย ทั้งนี้ 90% ระบบควบคุมด้วย Aerodynamic ความเร็วที่ 7 มัค(Mach) เมื่อบินเหนือระดับน้ำทะเลโดยไม่เปลี่ยนทิศทาง ความเร็ว 11 มัค (Mach) เมื่อบินระดับความสูง 100,000 ฟิต โดยไม่เปลี่ยนทิศทาง มีศักยภาพโคจรร่อนในชั้นบรรยากาศ (Atmosphere) โดยไม่ต้องใช้พลังงานได้หลังจากเสร็จภาระกิจ มีแผนการสำเร็จสมบูรณ์ทั้งโครงการ ราว 10-15 ปีข้างหน้า ที่มา http://www.sunflowercosmos.org GlobalSecurity.org Missile Defense Advocacy Agency U.S.Department of Defense The Aerospace Corporation AFRL / Wright-Patterson Air Force Base / U.S. Air Force Northrop Grumman   NASA Goddard Space Flight Center Massachusetts Institute of Technology Science Technology Wickman Spacecraft & Propulsion (WSPC) NASA Goddard Space Flight Center จากคุณ : Mr.Terran - [ 2 ก.พ. 52 19:39:07 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เข้ามาโหวตครับ............... ปล.88s #4 แฮ่ะ ๆ ด้วยความเคารพ วิททิกกี้ ครับผม แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 52 19:44:20 แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 52 19:42:44 จากคุณ : เทพบุตรแดนสนธยา - [ 2 ก.พ. 52 19:40:48 ]

ความคิดเห็นที่ 42 โหวต ...... จากคุณ : ฟินจัง - [ 2 ก.พ. 52 20:26:56 ]

ความคิดเห็นที่ 43 vote จากคุณ : ยังมีหวัง - [ 2 ก.พ. 52 21:23:39 ]

ความคิดเห็นที่ 44 เอ้าโหวตก็โหวตสิ  นึกว่ากลัวเหรอ.... 555+ จากคุณ : ฝนฟ้ากะพายุ - [ 2 ก.พ. 52 22:21:16 ]

ความคิดเห็นที่ 45 มาปักธง จากคุณ : LR3 - [ 2 ก.พ. 52 22:58:29 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ดีครับ ผมว่าโลกเราจำเป็นต้องมีเขี้ยวเล็บทางอวกาศบ้าง เผื่อมีอะไรไำม่่คาดฝันเกิดขึ้น จากคุณ : DON'T CARE - [ 2 ก.พ. 52 23:44:06 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ช่ายๆๆ  เผื่อมีอะไรไม่คาดฝันเกิดขึ้น ( แบบในรูปนี้ป่ะ ) 555+ จากคุณ : สมาคมช่างกิโลขาย - [ 3 ก.พ. 52 03:02:27 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 3 ก.พ. 52 19:52:57 ]

ความคิดเห็นที่ 49 #47 interface มันแปลกๆนะ จากคุณ : TheJackalII - [ 3 ก.พ. 52 21:20:19 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ... ขอด้วยด้วยครับ จากคุณ : กระบี่แสวงรัก - [ 3 ก.พ. 52 21:43:16 ]

ความคิดเห็นที่ 51 รอ เครื่องบิน #8 จากคุณ : อาจจะแก่ - [ 3 ก.พ. 52 22:25:17 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ขอบคุณสำหรับบทความดีๆค่ะ จากคุณ : just a little thing - [ 4 ก.พ. 52 02:43:57 ]

ความคิดเห็นที่ 53 เท่าที่อ่านแล้วไม่มีอะไรเลยที่ใหม่ เป็นความรู้ใหม่ หรือ เกี่ยวกับจานบินเลย ดูแล้วน้ำท่วมทุ่งมากเลย ใหนก็ว่าเรื่องเลเซอร์ป้องกันหัวรบแล้วทำไมไม่ว่าเรื่องข้อเสียด้วยละ เรื่องที่ว่า เลเซอร์สีแดง เมื่อยิงออกไปใกล10กิโลเมตร ความรุนแรงจะลดลงไป40% หากเป็นอากาสหมอกรึฝนจะลดลง90% ระยะกะเจิด ของเลเซอร์ลำ1นิ้ว เมื่อไปถึงดวงจัทร์(ถ้ามันไปถึงนะ)จะกลายเป็นลำขนาด 1.5กิโลเมตร ใหนมันจะต้องยิงแช่ไม่ต่ำกว่า10วิ เพื่อทำลายเกราะของหัวรบอีก(อย่าลืมนะว่าหัวรบICBMมีเกราะเพื่อผ่าชั้นบรรยากาศ)โซเวียตหัวเสธ์ติดเกราะกระจก หรือเกราะไอปรอทก็จบ นี่ไม่ไช่ทั้งหมด จุดอ่อนของโครงการนี้จริงๆคือความแม่นยำ หากจำกันได้อเมริกาทดสอบยิงเลเซอร์ทำลาย หัวรบพิสัยไกล5ลูก ด้วยเลเซอร์บนเรือรบ ผลออกมาคือพลาดไป4ลูก นี่เลยเป็นจุดจบของโครงการนี้ไปในที่สุด แต่โครงการอื่นๆที่เกี่ยวกับเลเซอร์เท่าที่จำได้และได้ผลยังมีอยู่ จากคุณ : เลเซอร์อิรฟาเรดมันกระจอก (jackmaster) - [ 4 ก.พ. 52 08:18:18 ]

ความคิดเห็นที่ 54 รูปเครื่องบินในความเห็นที่ 8 เป็นรูปที่ร่างมา 20 กว่าปีแล้วและก็ยังคงเป็นภาพร่างอยู่ต่อไป แต่แนวความความคิดที่ติดเลเซอร์ด้านหน้าเครื่องบินนี้ถูกนำไปใช้ ในการชี้เป้าหมาย ของจรวดอากาศสู่พื้นแทน พอเห็นได้ในเครื่องบินรบรุ่นใหม่ทั่วไป แทบเป็นไปไม่ได้ที่ว่า จะยิงเลเซอร์ผ่าชั้นบรรยากาศ(โดนที่ไม่เสียกำลังไปน้อนกว่า80%) จึงมีแนวความคิดที่ว่าจะเปิดบรรยากาศโดนยิงเลเซอร์คลื่นวิทยุ(น่าจะเป็นไมโคเวฟ)เพื่อแตกประจุอากาศให้เลเซอร์ ผ่าออกไปง่ายขึ้น จึงเป็นต้นกำเนิด3โครงการก็คือ 1ไมโคนิวเคลียล์ไมโครเวฟเลเซอร์   ใช้การระเบิดเล็กๆของนิวเคลียล์เพื่อให้เกิดสนามแม่เหล็กแรงสูงผ่านแท่งโลหะพิเศษ เกิดลำไมโครเวฟ  ซึ่งสามารถ ทำลาย ICBM ได้ทั้ง 3 ระยะ และยังผ่าชั้น บรรยากาศได้ด้วย 2 UVเลเวอร์ ใช้ยิงขึ้นจากฐานภาคพื้นดิน ผ่าชั้นบรรยากาศได้ 95% ใช้ทำลาย ICBM ระยะที่2 3 พลาสมอย วงแหวนพลาสม่า ที่ถูกบีบอัดผ่านกรวยแม่เหล็ก ยาวหลายร้อยเมตร เมื่อพ้นกรวยไปแล้ว มันวิ่งไปหาโลหะที่อยู่ในระยะของมันทำมันเป็น อาวุธแสงแบบแสวงเป้าแบบแรกๆ (อันนี้เป็นอันเดียวที่ในหนังสือไม่มีภาพประกอบให้ดูไม่รู้ว่าอเมริกาโม้รึเปล่า) แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 52 09:26:40 จากคุณ : พลาสมอย อย่าเติม ห. หีบนะจะ (jackmaster) - [ 4 ก.พ. 52 09:13:18 ]

ความคิดเห็นที่ 55 งง จากคุณ : นกน้ำเงิน - [ 5 ก.พ. 52 08:47:21 A:118.175.179.251 X: ]

ความคิดเห็นที่ 56 จะเสริมข้อมูลก็บอกดีดีครับ ทำนิสัยดีดี กันหน่อย จากคุณ : Bangkok_zone - [ 5 ก.พ. 52 11:35:40 ]

ความคิดเห็นที่ 57 คุณ 53 ผมไม่เคยอ่านพวกนี้ครับ การที่ จขกท เอามาให้ดู เค้าก็ช่วยให้หลายคนได้มีความรู้เพิ่มขึ้น คุณเองรู้อยู่แล้ว ก็ช่วยเสริมความรู้กันดีกว่า จะมาแดกดันกันทำไม จากคุณ : DON'T CARE - [ 5 ก.พ. 52 11:53:20 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ขอบคุณสำหรับบทความดีๆครับ Mr.Terran โหวตตต จากคุณ : anurak_jun - [ 8 ก.พ. 52 16:10:18 ]