ความคิดเห็นที่ 1 หงส์ (Swan) หงส์ สวยทั้งชื่อ สวยทั้งตัว สวยทั้งความรัก หงส์ จัดเป็นนกน้ำขนาดใหญ่ในตระกูล Anatidae ลักษณะโดยทั่วไป คือคอยาว เวลาว่ายน้ำลำคอจะตั้งเป็นรูปตัวเอส ทำให้ดูสวยสง่างามมาก เท้าสั้นคล้ายเป็ด.. มีหลากหลายชนิด เช่น หงส์ขาว (Mute Swan) ขนเป็นสีขาวตลอดตัว หรือ หงส์ดำ (Black Swan) ขนเป็นสีเทาดำ จงอยปากสีส้ม หงส์กินพวกพืชน้ำ ลูกกุ้ง ลูกปลา .. ความรักของหงส์ หงส์เป็นสัตว์รักคู่ของมันมากค่ะ (แอบอิจฉา) เรียกว่าครองคู่อยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่าถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชรกันเลยทีเดียว  มักอาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูง ในฤดูผสมพันธุ์จะจับคู่กันในช่วงฤดูใบไม้ร่วงต่อฤดูหนาว เมื่อปิ๊งกันและผสมพันธุ์กันแล้ว...ทั้งตัวผู้และตัวเมียก็จะร่วมมือกันสร้างรังใหม่ โดยการคาบกิ่งไม้, ใบไม้มากองรวมกันเป็นรัง จากนั้นก็จะช่วยกันถอนขนอ่อนจากตัวไปปูรองรังอีกชั้นหนึ่ง...โดยไม่มีการเกี่ยงงอนว่าขนใครจะมากกว่ากัน...(ตาร้อนผ่าวๆ).. ในภาพเป็น หงส์ดำ  (Black Swan) ค่ะ จากคุณ : primjang - [ 3 ก.พ. 52 19:27:52 ]

ความคิดเห็นที่ 2 นกเงือก (HORNBILL) นกขนาดใหญ่ ในวงศ์ Bucerotidae ส่วนมากมักจะมีขนสีดำสลับขาว มีหลากหลายชนิด มีการแพร่กระจายอยู่ในแถบเขตร้อน ของทวีปอัฟริกา และเอเชีย นกเงือกจะมีส่วนหนังเปลือยเป็น สีฉูดฉาดอยู่บ้าง เช่น บริเวณคอ ขอบตา มีขนตายาว ขาสั้น ชอบกระโดด ลิ้นสั้น จึงกินอาหารโดยจัดอาหารให้อยู่ที่ปลายปากแล้วโยน กลับลงคอไป นกเงือกกิน ผลไม้ เช่น ผลไทร ผลตาเสือ หรือ สัตว์ตัวเล็กๆ เช่นสัตว์เลื้อยคลาน แมลง เป็นต้น ......................................................... เสียสละเพื่อรักแท้ นกเงือกตัวผู้จะบินตามหารักแท้ของตัวเอง เมื่อพบนกเงือกตัวเมียที่ถูกใจ ตัวผู้ก็จะเที่ยวบินหาอาหารต่าง ๆ หลายชนิด มาให้ตัวเมียเพื่อหวังจะได้ครองใจจากตัวเมีย บินไปจนกว่าตัวเมียจะรับอาหารนั้น ซึ่งก็แปลว่า สาวเจ้ายินยอมพร้อมใจแล้วค่ะ.. จากนั้นทั้งคู่ก็เที่ยวบินหาโพรงไม้ต่้าง ๆ ที่สัตว์อื่น ๆ ได้ทำทิ้งไว้อยู่แล้ว ทั้งสองจะร่วมกันนำเศษไม้ เศษดินต่าง ๆ มาปิดปากทางเข้า ให้เหลือเพียงรูเล็ก ๆ จากนั้นตัวเมียก็จะวางไข่ ฟักตัวเป็นลูกนกตัวน้อยอยู่ในโพรง ตัวผู้ก็จะทำหน้าที่หาอาหารมาป้อนทั้ง แม่นกและลูกนก โดยตัวเองจะยอมนอนตากแดดตากน้ำค้างอยู่นอกบ้าน เพื่อให้ครอบครัวได้อยู่ในโพรงอย่างเป็นสุข..โอ้ววว โรแมนติกมากมากค่ะ รุ่นพี่ที่นิยมดูนกคนหนึ่ง เคยเล่าให้ฟังค่ะว่า ถ้าเราไปพรากตัวผู้มาเนี่ย เท่ากับเราฆ่านกเงือกทั้งครอบครัวเลย เพราะแม่นกกับลูกนกนั้นจะเฝ้ารอคอยแต่พ่อนกกลับมาจนตายในโพรงนั้นเลยค่ะ....น่าสงสารจัง ภาพประกอบจาก http://khaoyai.files.wordpress.com/2008/01/hornbill_013.jpg จากคุณ : primjang - [ 3 ก.พ. 52 19:34:55 ]

ความคิดเห็นที่ 3 นกกระเรียน (Sarus Crane) นกกระเรียนอยู่ในวงศ์  Gruidae  มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า  Grus antigone นกกระเรียน เป็นนกบินได้ที่สูงที่สุดในโลก มีความสูงถึง 176 เซนติเมตร  ลำตัวสีเทาอ่อน กระหม่อมไม่มีขน มีหนังเปลือยเปล่าสีอมเขียว ส่วนคอและใบหน้าเปลือยเปล่า หนังขรุขระสีแดงหรือส้ม ที่หูมีกระจุกขนสีขาวอมเทาขนาดเล็ก นกกระเรียนอาศัยอยู่ในพื้นที่หลายประเภท แต่พื้นที่ที่ชอบที่สุดได้แก่หนองน้ำขนาดเล็กที่มีเฉพาะฤดูกาล พื้นที่ราบที่ถูกน้ำท่วม พื้นที่ชุ่มน้ำที่อยู่เหนือระดับน้ำทะเลมาก ไร่ที่เพิ่งไถ และทุ่งนา ชอบกินหัวพืชใต้ดิน และกินสัตว์ขนาดเล็กด้วย .. เต้นรำหาคู่ ตอนจีบกัน นกกระเรียนจะขับร้องเพลงเป็นเพลงเสียงประสาน ตัวผู้และตัวเมียจะร้องในทำนองเดียวกันและประสานเสียงกันอย่างพร้อมเพรียง  ทั้งคู่จะทำท่าทางเหมือนเต้นรำโดยแอ่นคอโค้งไปด้านหลังจนปากชี้ฟ้าและส่งเสียงร้อง ขณะเต้นรำตัวผู้จะเหยียดปีกลู่ไปด้านหลัง ส่วนตัวเมียจะเก็บปีกไว้เสมอ นอกจากการเต้นรำแล้วนกกระเรียนอาจแสดงกริยาอย่างอื่นอีกเช่น กระโดด วิ่ง ก้มหัว จิกหรือพุ้ยหญ้า และกระพือปีก เมื่อได้คู่แท้กันแล้ว ก็จะหาสถานที่ทำรัง เช่น ข้างลำคลอง กลางทุ่งนา บางครั้งทำรังอยู่บนที่น้ำตื้นที่มีพืชน้ำโผล่พ้นน้ำขึ้นมา แม่นกมักวางไข่ครั้งละ 2 ฟอง ทั้งพ่อและแม่นกจะช่วยกันกกไข่เป็นเวลาประมาณ 31-34 วัน ระหว่างนี้ตัวผู้มักต้องรับบทเป็นผู้ปกป้องรังจากอันตรายรอบด้านด้วย และนกกระเรียนก็เป็นนกอีกชนิดที่ครองคู่กันโดยไม่เปลี่ยนคู่ไปจนตลอดชีวิตค่ะ ... (พับนกกระเรียนแก้เคล็ดดีกว่าไหมเนี่ย...) ภาพประกอบจาก http://kiranpv.files.wordpress.com/2008/04/duet.jpg จากคุณ : primjang - [ 3 ก.พ. 52 19:36:15 ]

ความคิดเห็นที่ 4 นกกาบบัว (Painted Stork) อยู่ในวงศ์นกกระสา (Ciconiidae) สกุล Genus Mycteria ชื่อสกุลมาจาก mukte เป็นรากศัพท์ภาษากรีก มีความหมายว่า “ปากยาวใหญ่” เป็นนกขนาดใหญ่ ความยาวจากปลายปากถึงปลายหาง 100-102 ซม. ปากยาวตอนปลายมนและโค้งลงเล็กน้อย หัวเล็ก คอค่อนข้างยาว ปีกกว้างและยาว หางสั้น ขายาว ปากสีเหลืองแกมส้ม ทั้งสองเพศสีสันคล้ายกัน นิสัยประจำตัวมักชอบเดินลุยน้ำตื้นๆพร้อมกับอ้าปากออก แล้วควานหาอาหารกินเป็นฝูงตามแหล่งน้ำ เช่น บึง หนองน้ำขนาดใหญ่ ทุ่งนา หรือชายทะเลที่เป็นโคลนเลน ห่างไกลจากบ้านคน กินสัตว์จำพวกปลา กบ เขียด ลูกปู กุ้ง หอย และตัวอ่อนของแมลง .................................... รักแท้ไม่ใช่แค่เหงา นกกาบบัวจะจับคู่และเกี้ยวพาราสีกันด้วยการหันหน้าเข้าหากัน ผงกหัวพร้อมกับขยับขา กรรไกรให้กระทบกันจนเกิดเสียงดัง  “แก๊ก-แก๊ก” บางครั้งก็ใช้ปากกระทบกัน จากนั้นก็จะผสมพันธุ์กัน เป็นนก “ผัวเดียวเมียเดียว” ตลอดฤดูผสมพันธุ์และ อยู่ร่วมกันไปตลอดชีวิต !!! นกจะทำรังเป็นกลุ่มบนยอดไม้สูงใหญ่ที่ขึ้นใกล้แหล่งน้ำ หรืออยู่ในแหล่งน้ำ เช่น ต้นยางนา ต้นเทียะ ต้นกระทุ่มน้ำ มันมักเสริมรังเสมอ เมื่อวัสดุเก่าผุพังหรือเมื่อมีจำนวนไข่เพิ่มขึ้นระหว่างสร้างรังมันจะผสมพันธุ์เรื่อยๆ...โอ้วววววว แม่นกวางไข่ครอกละ 2-6 ฟอง โดยพบ 4 ฟองบ่อยที่สุด ทั้งสองเพศผลัดกันฟักไข่ ใช้เวลาประมาณ 30-31 วัน พ่อแม่นกจะช่วยกันกกไข่ ตั้งแต่ออกไข่ฟองแรก ลูกนกจะฟักออกจากไข่ไม่พร้อมกัน แต่นานวันจะโตทันกัน ใช้เวลาประมาณ 50-60 วันก็จะบินได้ จากนั้นก็ทิ้งรังไป.. แก้ไขเมื่อ 03 ก.พ. 52 19:38:41 จากคุณ : primjang - [ 3 ก.พ. 52 19:38:20 ]

ความคิดเห็นที่ 5 กระทู้สร้างสรรค์อีกแล้ว มาคอยอ่านจร้า.... จากคุณ : iamnid - [ 3 ก.พ. 52 19:39:13 ]

ความคิดเห็นที่ 6 .... นกเป็นสัตว์ที่เกือบ 80% มีลักษณะครอบครัวเป็น แบบผัวเดียวเมียเดียวค่ะ(Monogamy) เมื่อถึงฤดูผสมพันธ์ นกตัวผู้มักมองหาตัวเมียที่ถูกใจ จากนั้นก็จะเริ่มออกจีบ ตามวิธีของเผ่าพันธุ์ตนเอง บางชนิดเต้นรำ บางชนิดรำแพนหาง บางชนิดส่งเสียงร้อง ... เมื่อได้คู่ถูกใจแล้ว นกชายนกหญิงมักจะครองคู่ รักกันไปจนตลอดชีวิต ไม่ค่อยมีการหย่าร้าง นกทั้งสองจะร่วมกันสร้างรัง เลี้ยงดูลูกน้อยจนเติบใหญ่ ไม่ค่อยทะเลาะเบาะแว้งก่อปัญหาครอบครัวให้แก่กัน.. นกหลายชนิดมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้ถ้าขาดคู่ชีวิต ... รักแท้มีจริง ธรรมชาติบอกให้เรารับรู้ค่ะ... (อิจฉานก จะผิดมากไหมค่ะเนี่ย..) จากคุณ : primjang - [ 3 ก.พ. 52 19:40:44 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ไปตามหารักแท้ในน้ำกันบ้างนะคะ ปลาการ์ตูน (Anemonefish) Anemonefish ประกอบด้วยคำ 2 คำคือ Anemone   +  fish   ความหมายของ Anemone ก็คือดอกไม้ทะเล ส่วนคำว่า fish ก็คือปลา ชื่อของปลาการ์ตูนก็คือ ปลาดอกไม้ทะเล หรือปลาที่อาศัยอยู่กับดอกไม้ทะเล ชื่อ นีโม คงย่อมาจาก Anemonefish มั่งค่ะ... ปลาการ์ตูนเป็นปลาในตระกูลปลาสลิดหิน (family Pomacentridae).. ปลาการ์ตูนพบได้เฉพาะในเขตมหาสมุทรอินเดีย และมหาสมุทรแปซิฟิกบางส่วน มีหลายหลายสายพันธ์ค่ะ หลากสีสัน เป็นปลาสวยงามอีกชนิดหนึ่งในท้องทะเล.. ...................................... เรื่องราวความรักของเจ้า นีโม ตัวน้อย ปลาการ์ตูนเป็นสัตว์อีกชนิดหนึ่ง ที่รักคู่ครอง มักจะอยู่กันเป็นคู่ ๆ ในดอกไม้ทะเลดอกหนึ่ง ตัวเมียจะมีขนาดโตกว่าตัวผู้และตัวอื่น ๆ อย่างเห็นได้ชัด ภรรยาเป็นผู้นำของครอบครัว (อันนี้คล้ายมนุษย์เหมือนกันนะค่ะ..) คอยปกป้องอาณาเขตที่เป็นที่อาศัย ถ้าสมมุติว่าเจ้าปลาตัวเมียนี้เกิดตายไป ก็จะมีปลาตัวใหม่เจริญเติบโตขึ้นมาอย่างรวดเร็วและกลายเป็นตัวเมียแทน (แทนกันได้หรือเนี่ย..) เมื่อเวลาแม่ปลาวางไข่ พ่อปลาก็จะมาคอยเฝ้าคุ้มครองและทำความสะอาดให้กับไข่ พร้อมทั้งช่วยพัดโบกไข่ให้ได้รับออกซิเจน เพื่อให้ไข่ที่กำลังพัฒนาได้รับสิ่งต่างๆที่เหมาะสม   วันเวลาที่ผ่านไปจนกว่าลูกปลาจะฟักออกมาและลอยไปตามกระแสน้ำ ไปหา ดอกไม้ทะเลดอกใหม่ สร้างครอบครัวต่อไปรุ่นแล้วรุ่นเล่า เป็นครอบครัวในฝันของหญิงสาวหลายคนเลยใช่ใหม่ค่ะ... จากคุณ : primjang - [ 3 ก.พ. 52 19:42:40 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ม้าน้ำ (seahorse) ม้าน้ำ เป็นปลาทะเลชนิดหนึ่ง ที่อยู่ในสกุล Hippocampus ของครอบครัว Syngnathidae ในประเทศไทยพบม้าน้ำที่บริเวณชายฝั่งทะเล ภาคตะวันออกของอ่าวไทย ม้าน้ำที่พบในประเทศไทยมีประมาณ 4 ชนิดค่ะ ม้าน้ำหนาม  เป็นม้าน้ำที่สวยงาม เป็นที่นิยมของนักดำน้ำมากเลย (นิยมดูนะคะ ไม่ได้นิยมกิน.) ม้าน้ำ 3 จุด  อันนี้ลำตัวจะมีจุดๆ 3 จุด ตามชื่อเรียกเลยค่ะ ม้าน้ำแคระ  เป็นม้าน้ำตัวเล็ก-เล็ก หายาก ไม่ค่อยพบเห็นค่ะ ม้าน้ำดำ  ม้าน้ำขนาดใหญ่ที่สุดที่พบในประเทศไทยค่ะ เคยมีคนประมาณไว้ว่า ตัวอาจยาวได้ถึง 1 ฟุตกว่าๆ อุ้มรัก ม้าน้ำเป็นสัตว์อีกชนิดหนึ่งที่เหมาะกับเทศกาลแห่งความรักนี้มากเลยค่ะ เวลาเกี้ยวพาราสีกัน ม้าน้ำสามารถปรับเปลี่ยนสีของลำตัวได้ตามสภาพของแสงและอารมณ์ เลยเชียว ในช่วงเช้าเช้าวันหนึ่ง ม้าน้ำตัวผู้ก็จะว่ายน้ำไปหาตัวเมีย แล้วใช้หางกวาดเพื่อจับตัวเมียเอาไว้ หลังจากนั้นจะเริ่มแอ่นอก งอหัวลงจนปากแนบชิดหน้าอก (เหมือนรูปหัวใจเลยนะคะ) แล้วบีบถุงหน้าท้องจนเห็นช่องเปิด เพื่อแสดงให้ฝ่ายหญิงเห็นว่า -ผมพร้อมแล้วคร๊าบบ!!- หากตัวเมียพร้อมก็จะเปลี่ยนสีลำตัว แล้วว่ายหันข้างลำตัวคู่กันไป ถ้าไม่พร้อมจะสลัดให้หลุด สวยเลือกได้ค่ะ... ม้าน้ำตัวผู้จะมีถุงหน้าท้อง ตัวเมียจะถ่ายไข่ลงไปในถุงหน้าท้องนั้น จากนั้นตัวผู้ก็จะปล่อนน้ำเชื้อให้ลอยไปในกระแสน้ำ แล้วเชื้อก็จะว่ายวนกลับมาในถุงหน้าท้อง ผสมกับไข่ เกิดการปฎิสนธิ  เชื้ออสุจิจะต้องว่ายให้ทันก่อนกระเป๋าปิดด้วยนะ (ว้าวว  มหัศจรรย์พันลึกมากมากค่ะ) เมื่อไข่ได้รับการผสมแล้ว ก็จะเจริญเติบโตอยู่ในถุงหน้าท้องนั้น  พ่อม้าน้ำก็จะเป็นฝ่ายอุ้มท้องแทนแม่ ไปอีกประมาณ 2 สัปดาห์ ฝ่ายแม่ก็จะคอยเฝ้าวนเวียนอยู่ใกล้ๆ จนกว่าตัวผู้จะฟักลูกออกมาเป็นตัว และจะอยู่ด้วยกันตลอด จนเมื่อตัวใดตัวหนึ่งตายไป  จากนั้นก็ค่อยดูอีกทีค่ะว่าจะแต่งงานใหม่ไหม ซึ่งก็ต้องใช้เวลาอีกนาน ยกม้าน้ำ สัตว์มหัศจรรย์ตัวนี้ให้เป็น สัญลักษณ์แห่งความรักเดือนนี้เลยค่ะ.. จากคุณ : primjang - [ 3 ก.พ. 52 19:44:16 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขึ้นบกกันเถอะนะ ไม่ไหว ในทะเลหวานเกินค่ะ..อิจฉา ชะนี (Gibbon) ชะนี เป็น สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ในพวกลิงที่ไม่มีหาง (Apes) จัดอยู่ในวงศ์ Hylobatidae และเป็น 1 ใน 4 ลิงที่มีความใกล้เคียงกับมนุษย์มากที่สุด ชะนีมีขนาดเล็ก รูปร่างผอมบาง แขนยาว เขี้ยวยาว และระบบการจัดเรียงของฟันเหมือนกับพวก Great Apes   ส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ในป่าดิบชื้นที่อุดมสมบูรณ์ กินผลไม้เป็นอาหารหลัก กินใบไม้บ้าง บางครั้งอาจกินสัตว์เล็ก ๆ ด้วย ............................................. รักแท้แต่อาจแพ้ความใกล้ชิด เนื่องจากชะนีมีสายพันธ์ใกล้เคียงกับมนุษย์มาก พฤติกรรมหลายๆ อย่างเลยอาจลอกเลียนแบบมนุษย์ไปบ้างนะคะ.. โดยปกติแล้ว ชะนีจัดเป็นสัตว์ที่มีลักษณะการใช้ชีวิตคู่แบบผัวเดียวเมียเดียว เหมือนกันค่ะ  เจ้าชะนีมงกุฎ นี้ตลอดชีวิต มีคู่เพียงตัวเดียวเท่านั้นเอง แม่ชะนีตั้งท้องทุกสองสามปี อุ้มท้องนานราว 7-8 เดือน ออกลูกคราวละตัว ชะนีถือเป็นสัตว์สังคม คืออยู่รวมกันเป็นฝูง และการอยู่รวมกันเป็นฝูงนี่หล่ะคะ บางทีอาจมีเหตุการณ์พลิกผัน ดร.วอเรณ บรอกเคลแมน (Warren Brockelman) และคณะ ได้ติดตามศึกษาพฤติกรรมสังคมชะนีมือขาว (White-handed Gibbon: Hylobates lar) ณ.ที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มาตั้งแต่ปี 2513 ซึ่งนอกจากชะนีมือขาวแล้ว ยังพบว่ามีชะนีมงกุฎ (Pileated Gibbon: Hylobates pileatus) อาศัยอยู่ในพื้นที่อุทยานฯด้วย โดยในบางบริเวณที่มีชะนีทั้ง 2 ชนิดปรากฏ ก็จะมีกลุ่มที่เป็นลูกผสมระหว่างชะนีทั้ง 2 ชนิดนี้ มันเกิดอะไรขึ้น.... ดร.วอเรนพบว่า เกิดการมีชู้กันขึ้นในกลุ่ม.โอ้ว... ชะนีตัวเมียออกอาการให้ท่าชะนีตัวผู้ต่างถิ่นที่มาเยี่ยมเยียนด้วย....ช่างเหมือนมนุษย์อะไรเช่นนี้... จบเรื่องชะนีแต่เพียงเท่านี้นะคะ รู้สึกไม่ค่อยเหมาะกับวันแห่งความรักเท่าไร จากคุณ : primjang - [ 3 ก.พ. 52 19:47:21 ]

ความคิดเห็นที่ 10 หนู Prairie Vole หนู Prairie Vole (Microtus ochrogaster) จัดอยู่ในพวกหนูนา วงศ์  Cricetidae ตัวเล็ก พบใน ทุ่งหญ้าแถบแอฟริกาใต้ ขุดโพรงอยู่ใต้พื้นหญ้า ในฤดูหนาวก็ขุดโพรงเป็นอุโมงค์อยู่ในหิมะ เป็นที่อยู่อาศัยและยังป้องกันศัตรูผู้ล่าต่างๆ อีกด้วย กินพืชพวก หญ้า เมล็ดพืช ผลไม้บางชนิด หรือสัตว์ตัวเล็กเช่นแมลง เป็นอาหาร .................................... รักมั่นคง ยืนยง มั่นใจ หนู Prairie Vole เป็นหนึ่งในเพียง 5% ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ที่มีลักษณะ monogamy หรือผัวเดียวเมียเดียว ในขณะที่เพื่อนหนูต่างเผ่าพันธุ์ของมันก็ไม่เป็นแบบนี้นะคะ ออกจะเจ้าชู้กันเสียด้วยซ้ำ แถมหนูนาบางพันธ์ นอกจากเจ้าชู้แล้วยังทอดทิ้งลูกเมียไม่เลี้ยงดูด้วยนะคะ.. แต่เจ้าหนูพันธ์นี้ไม่ค่ะ  เขายึดมั่น รักใคร่ในหนูตัวเมียเพียงตัวเดียวค่ะ  เวลาจีบกัน ก็จะมีการแตะต้องตัว และใช้เวลากับหนูตัวนั้นๆมากกว่าหนูตัวเมียตัวอื่นๆ  หึงหวง กีดกันหนูตัวผู้ออกจากเธอ ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้จะเกิดขึ้นเกือบจะทันทีหลังจากที่ได้ผสมพันธุ์กัน นอกจากนี้ยังมักจะช่วยตัวเมียดูแลลูกๆอีกด้วย น่ารักซะ... จากคุณ : primjang - [ 3 ก.พ. 52 19:49:22 ]

ความคิดเห็นที่ 11 นากเล็กเล็บสั้น (Small-Clawed Otter) นากเล็กเล็บสั้นมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Aonyx cinerea เป็นนากที่เล็กที่สุดในโลก ตัวเต็มวัยมีน้ำหนักไม่เกิน 3 กิโลกรัม ขนสีน้ำตาลเข้ม เล็บสั้นจนเรียกได้ว่า กุด (นี่คือที่มาของชื่อแน่เลยค่ะ..) เป็นสัตว์ที่มีสายตาดีมากทั้งบนบกและใต้น้ำ หูมีลิ้นสำหรับปิดกันน้ำเข้าได้..แปลกดีเนอะ หากินเวลากลางคืนและพลบค่ำเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็พบตอนกลางวันบ้าง จับเหยื่อด้วยขาหน้า ซึ่งต่างจากนากชนิดอื่นที่จับเหยื่อด้วยปากและใช้ประสาทสัมผัสของหนวดในการรับรู้ อาหารหลักคือปู หอย ปลา และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในน้ำขนาดเล็ก คนเดียวที่รัก คนเดียวที่คิดถึง นากชนิดนี้เป็นสัตว์ฉลาดมากเลยนะคะ แสนรู้ด้วย มีการจัดแสดงโชว์ความสามารถกันอยู่บ่อยๆ  แต่ไม่ใช่แค่ฉลาดอย่างเดียวค่ะ.... นากเล็กเล็บสั้นยังเป็นสัตว์ที่ครองคู่แบบผัวเดียวเมียเดียว อีกด้วย ทั้งๆที่นากชนิดอื่นก็ไม่ได้เป็นแบบนี้ สามีภรรยาจะช่วยกันเลี้ยงลูก หากินอยู่กันเป็นฝูงครอบครัว รักฝูง ฝูงหนึ่งราว 4-12 ตัว และที่สำคัญ ความสัมพันธ์ของฝูงเป็นแบบภรรยาธิปไตยค่ะ ให้ความสำคัญกับตัวเมียอย่างมาก คือตัวเมียเป็นผู้ปกครองฝูง ส่วนตัวผู้มีหน้าที่หาอาหารและเลี้ยงลูก.. แหม...แหม  แบบนี้ น่ารักจริง-จริง เนอะ.. จากคุณ : primjang - [ 3 ก.พ. 52 19:54:08 ]

ความคิดเห็นที่ 12 หมาจิ้งจอก (Golden jackal, Asiatic jackal) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า  Canis aureus หมาจิ้งจอก มีขนาดใกล้เคียงกับหมาไทยทั่วไป มักสีเหลืองทองทั่วทั้งตัว บางตัวอาจค่อนไปทางน้ำตาล ขนหยาบสั้น บริเวณแผ่นหลังปลายขนสีดำหรือสีเทา หางฟูเป็นพวง ยาว หูยาวตั้ง พบตั้งแต่ทวีปแอฟริกาตอนเหนือทั้งหมดตั้งแต่โมรอกโกจนถึงอียิปต์ทางใต้แพร่ไปจนถึงเคนยา ในยุโรปพบในคาบสมุทรบอลข่าน ตะวันออกกลาง เอเชียใต้ พม่า มาจนถึงประเทศไทย ลาว กัมพูชาตอนบน และเวียดนาม หมาจิ้งจอกชอบอาศัยอยู่ตามป่าโปร่งที่มีทั้งต้นไม้ ไม้พุ่ม หญ้า ไม้แคระ กินได้ทั้งพืชและสัตว์ สัตว์ที่กินส่วนใหญ่เป็นสัตว์ขนาดเล็ก เช่นกระต่ายป่า หนู ลูกกวาง นก สัตว์เลื้อยคลาน บางครั้งก็กินซาก รักสันโดษ..รักเธอ หมาจิ้งจอกเป็นสัตว์อีกชนิดหนึ่ง ที่ไม่นิยมเจ้าชู้หรือมีกิ๊ก เนื่องด้วยอาจจะไม่ใช่สัตว์สังคม ไม่ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูงเหมือนหมาใน อาจเรียกได้ว่าเป็นสัตว์รักสันโดษ... เวลาถึงฤดูผสมพันธ์ เมื่อถูกใจตัวเมียตัวไหน ก็มักจะครองคู่เป็นผัวเดียวเมียเดียวกันไป อยู่ด้วยกัน ออกล่าด้วยกันเป็นคู่ เมื่อได้เวลาตั้งท้องก็หาโพรง เพื่อคลอดลูก  แม่หมาป่าตั้งท้องนาน 63 วัน ออกลูกครั้งละ 1-9 ตัว ส่วนใหญ่มัก 5-6 ตัว ในตอนแรกพ่อหมาป่าจะเป็นฝ่ายออกไปหาอาหารมาให้ลูกเมีย แต่เมื่อลูกอายุได้ 3 สัปดาห์ก็จะเริ่มกินอาหารแข็งได้ โดยพ่อแม่จะสำรอกอาหารออกมาให้กิน จนกว่าจะหย่านมได้เมื่ออายุได้ราว 8-10 สัปดาห์ ถึงจะได้ขึ้นชื่อว่าเจ้าเล่ห์แสนกล แต่ก็รักน้องหน้ามลคนเดียวนะเนี่ย... จากคุณ : primjang - [ 3 ก.พ. 52 19:55:35 ]

ความคิดเห็นที่ 13 พังพอนแคระ (dwarf mongoose) เป็นพังพอนขนาดเล็ก อยู่ในวงศ์ Herpestidae  มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Helogale parvula มีหัวขนาดใหญ่ หูเล็ก และหางยาว ขาสั้น แต่อุ้งเท้ายาว พบได้ในแถบแอฟริกากลาง เอธิโอเปีย ไปจนถึงแถบแอฟริกาใต้ อาหารโดยทั่วไปของพังพอนแคระ เป็นพวกสัตว์ชนิดเล็กๆ เช่น แมงมุม แมงป่อง จิ้งเหลน ตลอดไปจนถึง นกตัวเล็กๆ หรือแม้กระทั่งผลไม้.. . ผู้หญิงคือ ผู้นำ พังพอนแคระ เป็นสัตว์สังคม โดยในกลุ่มหรือในฝูงมักจะมีสมาชิกตั้งแต่ 2-20 ตัวได้ ตัวเมียจะมีจำนวนมากกว่าตัวผู้ ปกครองโดยระบบภรรยาธิปไตยอีกแล้วค่ะ..เพราะฉะนั้นตัวผู้หมดสิทธิ์มีกิ๊กมีกั๊กโดยเด็จขาด.. จึงจัดเป็นสัตว์ที่มีพฤติกรรมแบบผัวเดียวเมียเดียวหรือ monogamous species อีกชนิดหนึ่งค่ะ (ไม่รู้ว่ารักหรือว่ากลัวกันแน่..) ในฝูงตัวเมียจะเป็นหัวหน้าปกครองฝูง มีอิทธิพลมาก ตัวผู้มักให้ความยำเกรง ในสัตว์มีกระดูกสันหลังชั้นสูงพวกนี้ ถ้าเป็นสัตว์รวมฝูง แล้วมีลักษณะ monogamous นี่ สังเกตได้ว่า อำนาจอยู่ในมือ ตัวเมียเกือบทั้งนั้นเลยนะคะเนี่ย.. จากคุณ : primjang - [ 3 ก.พ. 52 19:56:52 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ปาดดดดดดดดดดดดดดดดด ^^ +โหวต แก้ไขเมื่อ 03 ก.พ. 52 20:00:30 จากคุณ : PUMPKINbig - [ 3 ก.พ. 52 19:59:55 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อินดรี อินดรี ลีเมอร์ (Indri-indri Lemur) ลีเมอร์ สัตว์สัญลักษณ์ประจำชาติของมาดากัสการ์ อินดรี อินดรี เป็นลีเมอร์สายพันธ์หนึ่ง เป็นสายพันธุ์ที่ตัวใหญ่ที่สุดที่ยังหลงเหลืออยู่  จัดอยู่ในสัตว์ประเภทเลี้ยงลูกด้วยนม ตระกูลเดียวกับลิงโบราณ อินดรี อินดรี อยู่ในวงศ์  Indriidae  มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า  I. indri   ลักษณะของลีเมอร์พันธุ์นี้คือ มีขนาดใหญ่ ตัวโตประมาณลูกหมี ลำตัวมีสีขาว-ดำ หางสั้น มีหูกลมคล้ายหมีแพนด้า เป็นสัตว์ท้องถิ่นเฉพาะ คือพบได้ในธรรมชาติเฉพาะที่เกาะมาดากัสการ์ เท่านั้นค่ะ กินใบไม้ และหน่ออ่อนของต้นไม้เป็นอาหาร มีขาแข็งแรงเพราะต้องใช้ในการปีนป่ายต้นไม้ ........................................ ครอบครัวอบอุ่น อินดรี อินดรี ก็เป็นสัตว์สังคมอีกชนิดหนึ่ง ที่ใช้ชีวิตครอบครัวแบบ ผัวเดียวเมียเดียว (monogamy) ไปเป็นระยะเวลายาวนาน  ทั้งสองจะครองรักกันอยู่ในฝูง ที่ประกอบไปด้วย ลูกๆ หลานๆ พ่อแม่ เป็นครอบครัวใหญ่ ที่อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันหลายรุ่นเลยหล่ะค่ะ.. ดูท่าทางน่าอบอุ่นดีจังเลยนะคะเนี่ย... ภาพประกอบจาก http://farm4.static.flickr.com/3095/2580475341_b617a36887.jpg จากคุณ : primjang - [ 3 ก.พ. 52 19:59:59 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ทานูกิ (Tanuki) ทานูกิ เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดหนึ่ง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Nyctereutes procyonoides  อยู่ในวงศ์  Canidae รูปร่างหน้าตาคล้ายแรคคูนที่มีขนาดใหญ่ ขนตามลำตัวค่อนข้างยาว มีสีเทาเข้ม ลักษณะเด่นคือ มีสีดำคาดที่หน้าดูคล้ายหน้ากาก มีแถบสีน้ำตาลปนดำพาดจากไหล่ถึงขาหน้า ขนหางค่อนข้างยาวและฟูดูคล้ายหางของกระรอก บริเวณปลายหางมีสีดำ มีการกระจายพันธุ์กว้างขวาง โดยพบตั้งแต่ทวีปยุโรป รัสเซีย ภาคตะวันออกของจีน ญี่ปุ่น และตอนเหนือของเวียดนาม โดยมักอาศัยอยู่ตามป่าที่มีแหล่งน้ำหรือบริเวณหุบเขา กินผลไม้ แมลง และสัตว์ฟันแทะขนาดเล็ก นก และไข่นก มักออกหากินในเวลากลางคืน ....................................................... ถึงเมาเหล้าแล้วเรายังเมารัก สุดจะหักห้ามจิตคิดไฉน ในญี่ปุ่น มีความเชื่อว่า ทานูกิ เป็นปีศาจที่สามารถแปลงร่างได้ โดยใช้ใบไม้แปะไว้ที่หน้าผาก ชอบดื่มเหล้าสาเก (เมาไม่ขับนะ..) แต่กลับ-งก-ไม่ยอมเสียเงินซื้อเอง กลับมาแปลงร่างหลอกผู้คนเพื่อเอาเหล้ามาดื่ม รักสนุก และจะชอบหลอกมนุษย์ด้วยการแปลงลูกอัณฑะให้มีขนาดใหญ่ขึ้นด้วย แต่ไม่ว่าความเชื่อจะเป็นเช่นไร ทานูกิ จะขี้เหล้าเมายาแค่ไหนก็ตาม ตัวจริงเสียงจริงของทานูกิ กลับเป็นสัตว์ที่รักครอบครัวอย่างยิ่งค่ะ ทานูกิ เป็นสัตว์รวมฝูง มีครอบครัวแบบรักเดียวใจเดียว รักแล้วรักเลย ครองคู่อยู่กันจนแก่เฒ่าไปข้างหนึ่ง ภาพประกอบจาก http://mfrost.typepad.com/cute_overload/images/2007/11/08/jcs_nyctereutes_procyonoides_23693.jpg จากคุณ : primjang - [ 3 ก.พ. 52 20:03:24 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ^ ^ นุ่มฟู จากคุณ : เทาทองวอร์ริเออร์ - [ 3 ก.พ. 52 20:12:30 ]

ความคิดเห็นที่ 18 วาเลนไทน์เป็นเรื่องของ คริสต์ เขาไม่ใช่เหรอครับ - -'' จากคุณ : ซายูบิ - [ 3 ก.พ. 52 20:12:31 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ... ...................................... 13 รูปแบบความรัก สำหรับ ความรักของสรรพสัตว์ จบไปแล้วค่ะ.. ส่วนอีก 1 รูปแบบความรัก อันสุดท้ายนี้ ของเป็นความรัก ที่มนุษย์อย่างเรา-เรา ส่งกลับคืนไปยังธรรมชาติ..อันแสนสวยงาม มหัศจรรย์ ของเราแล้วกันนะคะ... สัตว์หลายชนิดในธรรมชาติ กำลังอยู่ในภาวะใกล้สูญพันธ์ บางชนิดถูกล่า ถูกทำลายระบบนิเวศน์ จนพวกเขาไร้ที่อยู่อาศัย และบางชนิดสูญพันธ์ไปแล้ว...ไม่มีให้เราได้เห็นได้ศึกษากันอีก.. คืนความรักกลับไปให้พวกเขากันดีกว่าค่ะ... ..รักษ์ป่า รักษ์สัตว์ รักษ์โลก... ครบพอดีค่ะ รัก 14 รูปแบบ 14 กุมภาพันธ์ วันวาเลนไทน์.... จากคุณ : primjang - [ 3 ก.พ. 52 20:13:32 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ........................................ เมื่อก่อนเคยอ้างอิงแหล่งข้อมูลแบบกว้างๆ พอได้มาเห็นคุณ Due_n อ้างอิงข้อมูลแล้ว รู้สึกว่า เป็นสิ่งที่ถูกต้องมากเลย งั้นขอตามอย่างบ้างนะคะ เพราะเอาข้อมูลมาจากหลายที่หลายทางจริง-จริง หนังสือส่วนตัวบ้าง อินเตอร์เน็ตบ้าง ตามนี้เลยค่ะ.. http://www.panyathai.or.th/wiki/index.php/%E0%B8%AB%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B9%8C http://www.sanzonshop.com/webboard_233182_12228_th?lang=th http://khaoyai.files.wordpress.com/2008/01/hornbill_013.jpg http://www.kanchanapisek.or.th/kp8/culture////nrs/nrs702.html http://www.verdantplanet.org/ http://www.naturestrands.com/gallery2/d/375-3/CR2_PaintedStork_InFlight.jpg http://www.nemotour.com/knowledge/nemo.htm http://www.fishespond.th.gs/web-f/ishespond/fish2.html http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=duen&month=01-2007&date=22&group=7&gblog=127 http://www.elib-online.com/doctors/lady_seahorse01.html http://cms.jcu.edu.au/idc/groups/public/documents/presentation/jcudev_008553~5.3.jpg http://www.biotec.or.th/biotechnology-th/newsdetail.asp?id=3317 http://en.wikipedia.org/wiki/Prairie_Vole http://www.vcharkarn.com/vcafe/20769 http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/5/56/Golden_Jackal_Revivim.jpg http://www.verdantplanet.org/animalfiles/goldenjackal_(Canis_aureus).php http://www.verdantplanet.org/mammaltax/mammaltaxonomy.php?taxon=Helogale http://en.wikipedia.org/wiki/Common_Dwarf_Mongoose http://en.wikipedia.org/wiki/Indri http://www.gconsole.com/forum/show.php?page=topicdetail&id=55554&cat=5&layout= ลืมอากู๋ไปได้ยังไงเนี่ย รูปภาพหลายภาพมาจากอากู๋นี่หล่ะค่ะ http://www.google.co.th/ หนังสือส่วนตัวอีกนิดหน่อยนะคะ.. แก้ไขเมื่อ 03 ก.พ. 52 20:16:58 จากคุณ : primjang - [ 3 ก.พ. 52 20:15:13 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ช่างเป็นความรักที่หวานซึ้งดีจังเลยครับ โดยเฉพาะครอบครัวนกเงือก...ผมชอบพวกมันเป็นพิเศษ อย่างนี้ต้องให้กิ๊ฟเป็นกำลังใจ และอยู่เป็นเพื่อนกับคุณพริมด้วยอีกคน ฮาๆ ขอบคุณสำหรับบทความดีๆ ที่ส่งมาให้เสมอมาครับ ^^ จากคุณ : Due_n - [ 3 ก.พ. 52 20:18:26 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เอ้า... ฮิ้ววว...  หวานซะ จากคุณ : ฝนฟ้ากะพายุ - [ 3 ก.พ. 52 20:19:55 ]

ความคิดเห็นที่ 23 โหวตคร้าบบบบ จากคุณ : ดาวหมีน้อยย่ำค่ำ - [ 3 ก.พ. 52 21:17:03 ]

ความคิดเห็นที่ 24 จขกท. ขออนุญาตไปนอนก่อนแล้วนะคะ..พรุ่งนี้มีแมทซ์แข่งขันแต่เช้าค่ะ.. พรุ่งนี้เย็น-เย็น จะเข้ามาติดตามดูกระทู้ใหม่นะคะ.. ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาติดตามอ่านกระทู้กันนะจร้า...ฝันดี ราตรีสวัสดิ์ค่ะ.. จากคุณ : primjang (primjang) - [ 3 ก.พ. 52 21:47:05 ]

ความคิดเห็นที่ 25 นึกว่าจะลืมสมการแจ้งเกิดของพริมจัง จากคุณ : Epinephrine - [ 3 ก.พ. 52 22:04:00 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณครับ จะขอแคปไปทำ FWM ได้ไหมครับนี่ ^^" พรุ่งนี้แข่งก็ขอให้โชคดีนะครับ (แข่งอะไรก็ไม่รู้?) จากคุณ : oro - [ 3 ก.พ. 52 22:13:24 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เยี่ยมเลยครับ  ชอบที่มีอ้างอิงด้วย เผื่อใครสนใจลึกซึ้ง จะได้ไปต่อยอดได้ จากคุณ : Pixzz - [ 3 ก.พ. 52 22:16:49 ]

ความคิดเห็นที่ 28 แข่งตีกอล์ฟครับ จากคุณ : Cryptomnesia - [ 3 ก.พ. 52 22:17:28 ]

ความคิดเห็นที่ 29 กระทู้ดีมากครับบบ ชออนุญาตถามคำถามครับ มีการศึกษาบ้างรึเปล่าครับ ว่าจริงๆลึกๆ ตามที่ธรรมชาติกำหนด  ตามสัณชาติญานแล้ว มนุษย์เป็นประเภทไหนแบบไหนครับ จากคุณ : vrpanda - [ 3 ก.พ. 52 22:22:15 ]

ความคิดเห็นที่ 30 มาเสริมความรักของมนุษย์ให้แทนพริมจังที่ต้องเตรียมตัวออกรอบแล้วกันครับ วิทยาศาสตร์ของความรัก เมื่อมีรัก ทุกคนคงเคยพร่ำถามตัวเองว่า ความรักมันเกิดขึ้นได้อย่างไร ทำไมถึงต้องเป็นเขา/เธอคนนี้ ทำไมเรารู้สึกแปลกๆ หัวใจเต้นแรง หน้าแดง มือเปียก พวกแนวศิลปินอาจบอกว่ารักเป็นเรื่องของอารมณ์ล้วนๆ เหตุผลไม่เกี่ยว รักมีทั้งความรันทดและความงดงาม รักเป็นเรื่องที่โรแมนติกเกินกว่าจะพรรณนา สำหรับพวกแนวเหนือธรรมชาติจะเชื่อว่า เนื้อคู่ของเราถูกกำหนดมาแล้ว จะต้องตามหาคนที่มีด้ายแดงผูกนิ้วก้อยให้เจอ บ้างก็ว่ารักเกิดจากกรรมเก่า มีการตามมารักมาเลิกกันเป็นชาติๆ ไป การรักใครสักคนอาจจะเป็นเพราะโดนสาป ไสยศาสตร์เท่านั้นที่ช่วยได้ ในขณะที่นักวิทยาศาสตร์ก็มีคำอธิบายที่ฉีกทั้งสองแนวนี้ออกไป ซึ่งแม้ว่าจะฟังแล้วไม่ได้อารมณ์ ไม่โรแมนติก และไม่ลี้ลับเท่า แต่สิ่งที่นักวิทยาศาสตร์กำลังจะบอกเรานี้ ล้วนแต่เป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในตัวเรา โดยมีเราเป็นผู้กระทำทั้งสิ้น ทฤษฎี “รัก 3 ตอน” ก่อนจะรู้จักความรักในบทที่ลึกเข้าไปถึงสมองและอวัยวะภายในร่างกาย มาทำความรู้จักกับทฤษฎีรัก 3 ตอน ของ ดร.เฮเลน ฟิชเชอร์ แห่งมหาวิทยาลัยรุทเจอรส์ (Rutgers University) ในนิวเจอร์ซี กันก่อนดีกว่า ดร.ฟิชเชอร์บอกว่า ห้วงความรักของคนเราแบ่งเป็น 3 ตอน โดยจะมีฮอร์โมนที่แตกต่างกันมาร่วมแสดงบทบาทในแต่ละตอน จากคุณ : Cryptomnesia - [ 3 ก.พ. 52 22:45:52 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ตอนที่ 1 ช่วงเกิดตัณหา ตัณหาราคะถูกขับโดยฮอร์โมนเพศ 2 ตัว คือ เทสโทสเทอโรน (Testosterone) และเอสโตรเจน (Oestrogen) เทสโทสเทอโรนเป็นฮอร์โมนที่ไม่ได้พบเฉพาะในผู้ชายเท่านั้น ผู้หญิงก็มีเช่นกัน ดร.ฟิชเชอร์บอกว่า เจ้าฮอร์โมนเพศสองตัวนี้เอง ที่ช่วยควบคุมอาการอยากได้โน่น อยากได้นี่ ของเรา ตอนที่ 2 ช่วงคลั่งรัก เป็นช่วงที่ทำให้ชีวิตเราผิดเพี้ยนไป ไม่รับรู้ ไม่สนใจสิ่งรอบกาย ไม่กิน ไม่นอน เอาแต่นั่งฝัน เพ้อ ละเมอถึงคนรัก  อาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ ถูกควบคุมโดยกลุ่มสารสื่อประสาทที่เรียกว่า โมโนอะมิเนส (Monoamines) ซึ่งประกอบด้วย -          โดพามีน (Dopamine) เป็นสารเคมีที่ช่วยให้สมองตื่นตัว เช่นเดียวกับนิโคตีนและโคเคอีน -          นอร์เอพิเนฟรีน (Norepinephrine) หรือรู้จักกันในนามของ อะดรีนาลิน (Adrenalin) ที่เป็นตัวการทำให้เราเหงื่อแตกและหัวใจเต้นรัวยามตื่นเต้น -          เซโรโทนิน (Serotonin) หนึ่งในสารสำคัญที่ทำให้เราเกิดอาการ...ซึม..เศร้า..เหงา..เพราะรัก ตอนที่ 3 ช่วงผูกพัน ไม่มีใครที่จะทำตัวคลั่งรักได้ตลอดชีวิต เมื่อผ่านพ้นไปช่วงเวลาหนึ่ง ถ้าไม่โบกมือลากันไปเสียก่อน คู่รักก็จะฉุดกระชากลากจูงกันเดินมาสู่ช่วงแห่งความผูกพัน ในตอนนี้จะว่าด้วยการตกลงปลงใจที่จะใช้ชีวิตคู่และสร้างครอบครัว ฮอร์โมนสองตัวสำคัญคือ -          ออกซีโทซิน (Oxytocin) จากต่อมไฮโปธาลามัส (Hypothalamus) ซึ่งช่วยกระตุ้นให้เกิดการขับน้ำนมและเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างมารดาและทารก โดยมีการพบว่าออกซีโทซินจะถูกขับออกมาเมื่อชายหญิงมีความสัมพันธ์ทางเพศที่ลึกซึ้ง ทฤษฏีบอกไว้ว่ายิ่งชายหญิงมีความสัมพันธ์กันลึกซึ้งแค่ไหน ความผูกพันก็มีมากขึ้นเท่านั้น -          วาโซเพรสซิน (Vasopressin) สารสำคัญอีกตัวหนึ่งที่เป็นตัวรักษาสมดุลของน้ำในร่างกาย จะถูกขับออกมาเมื่อร่างกายขาดน้ำ ความตึงเครียดสูง ความดันเลือดสูง หรือเมื่อคู่รักมีความสัมพันธ์ทางเพศ นักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่งพยายามทำการศึกษาถึงฤทธิ์เดชของวาโซเพรสซิน โดยหลังจากที่พวกเขาได้ฟังตำนานรักของหนูแห่งทุ่งหญ้าแพรรี (Prairie vole) ซึ่งเป็นหนึ่งในร้อยละ 3 ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่จับคู่อยู่กินกันแบบผัวเดียวเมียเดียวตลอดช่วงชีวิต (Monogamous) ที่มีว่า ถ้าคู่ของพวกมันตาย อีกตัวก็จะตรอมใจตายตามไปในไม่ช้า โดยไม่คิดจะมีใหม่ ด้วยจิตริษยาต่อหนูแห่งทุ่งหญ้าแพรรี่ที่ถือและปฏิบัติตามศีลข้อสาม ห้ามผิดลูกผิดเมียเขาอย่างเคร่งครัด นักวิทยาศาสตร์กลุ่มนี้ทำการให้ยาที่ลดปฏิกริยาของวาโซเพรสซินในหนูตัวผู้ ปรากฏว่าหนูตัวผู้ตัวนั้นไม่ถึงกับศีลแตก แต่เริ่มมีอาการเย็นชา ห่างเหินคู่รัก และไม่แสดงอาการหึงหวงเมื่อมีหนูหนุ่มตัวอื่นๆ เข้ามาตีท้ายครัวเลยสักนิด หลังจบปฏิบัติการสร้างความร้าวฉานแล้ว พวกเขาก็ได้ข้อสรุปมาให้ชาวโลกชื่นใจว่า ถ้าขาดวาโซเพรสซินเมื่อไร ก็ให้เตรียมพร้อมรับมือหายนะที่กำลังจะมาสู่ครอบครัวได้เลย จากคุณ : Cryptomnesia - [ 3 ก.พ. 52 22:46:55 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ทฤษฎีการจีบ เมื่อเราปิ๊งใครสักคนที่ไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้า จะรู้ได้อย่างไรว่าเขา/เธอคนนั้นคือคนที่ “ใช่เลย” หรือ “ไม่ใช่เลย” เชื่อหรือไม่ว่าภายในเวลาแค่ 90 วินาที ถึง 4 นาทีของการพูดคุยกัน ระบบภายในร่างกายจะช่วยเราตัดสินได้ว่า จะ “รุก” ต่อ หรือ จะ “ชิ่ง” ดี เพราะว่าในการพูดคุยอย่างสวีทหวานแหววกับบุคคลเป้าหมาย ความประทับใจและการรับรู้ข้อความจากการสื่อสารนั้น ร้อยละ 55 จะมาจากภาษากาย ร้อยละ 38 มาจากน้ำเสียงและความเร็วในการพูด และแค่ร้อยละ 7 จากสาระที่เราพูดออกไป ซึ่งหมายความว่าเพียงแต่มีลีลาดี ก็จะมีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว การมองตาเป็นกลยุทธ์หนึ่งที่หนุ่ม/สาวเจ้าเสน่ห์ทั้งหลายยืนยันว่ามีประสิทธิภาพเหลือเกิน เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ ศาสตราจารย์อาเธอร์ อรัน นักจิตวิทยาจากนิวยอร์ค ได้ทำการทดลองโดยนำชายหญิงหลายคนมาจับคู่นั่งพูดคุยกันแบบเปิดอกเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวของแต่ละคน นานหนึ่งชั่วโมงครึ่ง หลังจากนั้น ให้นั่งจ้องตากันเฉยๆ โดยไม่ต้องเอื้อนเอ่ยอะไรทั้งสิ้นอีกสี่นาที ผลคือผู้ที่เข้ารับการทดลองหลายคนยอมรับว่า เกิดความสนใจในตัวของคู่ทดลอง โดยเฉพาะคู่ที่อยู่ในสายงานหรือมีระดับทางสังคมที่ใกล้เคียงกัน และมีคู่หนึ่งก้าวหน้าไปถึงขั้นแต่งงานกันเลย ในประเด็นของความรักที่เกิดจากการมองตานั้น นักวิทยาศาสตร์บอกว่าเมื่อเรารู้สึกสนใจอะไร รูม่านตาของเราจะขยาย นัยน์ตาจะดูกลมโตและเป็นประกาย ซึ่งอาจจะเป็นการส่งสัญญาณเตือนให้เขา/เธอรู้ตัวก็เป็นได้ หากสาวอิตาเลียนในสมัยกลางได้รู้เรื่องนี้คงจะร้องไห้ เพราะแค่พวกเธอพบเจอคนที่ถูกใจ นัยน์ตาของพวกเธอก็จะกลมโต สวยงาม เหมือนสาวใสไร้เดียงสาได้แบบอัตโนมัติ โดยไม่ต้องเสี่ยงไปใช้น้ำสกัดจากลูกเบลลาดอนน่า (Belladonna) ซึ่งเป็นพืชจำพวกมะเขือพวงและมีพิษ มาหยอดตาเพื่อทำการขยายรูม่านตาอย่างที่นิยมทำกัน สัญญาณอื่นๆ ที่บ่งบอกให้รู้ถึงรัก ได้แก่ การเลียนแบบ เมื่ออยู่ในโลกแห่งรักของสองเรา คนสองคนนี้ก็จะลอกเลียนแบบทุกสิ่งทุกอย่างจากกันโดยไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะเป็นการเดิน นั่ง พูด บุคลิกท่าทางต่างๆ นักวิทยาศาสตร์เรียกปรากฏการณ์นี้ว่า ปรากฏการณ์กระจกเงา การที่คู่รักทำอะไรที่เหมือนกัน แสดงว่าทั้งคู่เปิดใจให้กัน พร้อมที่จะยอมรับซึ่งกันและกัน นับว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี แต่ถึงกระนั้น ปรากฏการณ์กระจกเงาอาจเป็นอันตรายได้ เพราะมันเกิดขึ้นในกลุ่มของเพื่อนสนิทด้วยเช่นกัน ผู้ที่กำลังแอบรักเขาต้องระวังให้มาก เพราะหากตีความไม่ดีแล้ว อาจจะสับสนระหว่างสัญญาณของความรักกับมิตรภาพได้ มีบางทฤษฎีบอกว่า มนุษย์เราชอบความท้าทาย ยิ่งยากยิ่งอยากพิชิต เหมือนยอดเขาเอฟเวอเรสต์ที่มีคนแวะเวียนไปท้าทายปีนป่ายไม่เคยขาด นักวิทยาศาสตร์ทำการทดสอบเพื่อยืนยันสมมติฐานนี้ (อีกแล้ว) โดยได้ใช้คอมพิวเตอร์หาคู่ (Computer dating experiment) ทดสอบกับผู้หญิงสามคน คนแรก หญิงเอ สาวนักทดลอง อยากจะเดทซะกับทุกคนที่คอมพิวเตอร์สุ่มเลือกมาให้ คนที่สอง หญิงบี ผู้ไร้ความรู้สึก ไม่ยินดียินร้ายกับชายที่คอมพิวเตอร์จัดให้เลยสักคน คนสุดท้าย หญิงซี สาวช่างเลือก ที่กัดฟันเลือกชายผู้โชคดีมาได้หนึ่งคนจากทั้งหมดที่คอมพิวเตอร์จัดให้ จากนั้นถามความเห็นผู้ชายทั้งหมดที่เป็นตัวเลือกในคอมพิวเตอร์ ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า สาวขี้เลือกเบอร์สามกับสามจอมหยิ่งเบอร์สองเนี่ย โดนใจที่สุด เรื่องการผจญภัยก็สำคัญไม่น้อย มีหลายคนบอกว่า ถ้าคนเราผ่านสถานการณ์ที่ยากลำบาก สยดสยอง โหดร้าย ทารุณมาด้วยกัน จะยิ่งทำให้เข้าใจกันดีขึ้น นักวิทยาศาสตร์ยืนยันว่าจริง แต่ทว่าคนมักจะเข้าใจผิดไปเองว่าความรู้สึกดีๆ ที่เกิดขึ้นหลังผ่านพ้นช่วงเวลาวิกฤตนั้นเป็นความรัก ถ้าการออกเดทที่สวนสนุก (โดยมีข้อแม้ว่าต้องเล่นเครื่องเล่นผาดโผนหวาดเสียวด้วยกัน) จะช่วยกระชับความสัมพันธ์ให้แนบแน่นขึ้นแล้วนั้น การจับคู่กระโดดบันจี้จัมพ์ด้วยกันน่าจะทำให้ความสัมพันธ์ยิ่งแน่นแนบไปถึงขั้นเป็นคู่แท้ตลอดกาลเลยทีเดียว ทั้งนี้ทั้งนั้นคนจะอยู่ด้วยกันได้ ก็ย่อมจะต้องมีอะไรที่คล้ายกันบ้าง คนที่มีระดับความกล้าบ้าบิ่นและชอบอะไรที่สยองๆพอๆกัน ก็เหมาะแล้วที่จะเป็นคู่รักคู่ทรโหด จากคุณ : Cryptomnesia - [ 3 ก.พ. 52 22:50:29 ]

ความคิดเห็นที่ 33 รักฉันเพราะอะไร เมื่อคบหากันไปสักระยะ หลายคนเกิดคำถามขึ้นในใจว่า ฉันประทับใจเขา/เธอคนนี้ที่ตรงไหน รูปลักษณ์ภายนอกเป็นสิ่งแรกที่ทำให้ชาย/หญิงเกิดอาการสะดุดรัก ในขณะที่ยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่ทำให้เราเกิดอาการดังกล่าวได้ โดยชายและหญิงก็จะมีกฎเกณฑ์ที่แตกต่างกันอยู่ในใจ บางคนไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองช่างเลือกขนาดไหน ความไม่สมดุลเป็นสัญญาณที่แสดงถึงความบกพร่องของยีน ดังนั้นผู้ชายส่วนมากจึงมองผู้หญิงที่รูปลักษณ์ภายนอก เพื่อยืนยันว่าผู้ชายให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก จึงมีคนคิดสูตรคำนวณหาสัดส่วนของผู้หญิงในอุดมคติออกมา โดยยกให้รูปทรงของนาฬิกาทรายที่มีเอวคอดกิ่วเป็นต้นแบบ สูตรคำนวณมีว่า ขนาดรอบเอว ¸ รอบสะโพก ต้องเท่ากับ 0.7 ถ้าได้ค่าประมาณนี้ หญิงผู้นั้นถือว่ามีสัดส่วนที่ได้รับการยอมรับอย่างท่วมท้นจากชายทั้งโลก มีการยืนยันทฤษฏีหุ่นนาฬิกาทรายนี้โดยนำค่าสัดส่วนของผู้ชนะการประกวดมิสอเมริกาแต่ละปีมาคิดและพบว่าได้ 0.7 เกือบทุกคน หลายคนเชื่อว่าหญิงที่มีหุ่นนาฬิกาทรายจะมีคุณสมบัติที่ดีที่เหมาะแก่การสืบพันธุ์ด้วย ในขณะที่ผู้ชายมุ่งมั่นเสาะหาหญิงในฝันจากเปลือกนอก ผู้หญิงเองกลับไม่ได้ให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย พวกเธอกลับมองที่ความสามารถในด้านต่างๆ และภาวะผู้นำที่มีอยู่ในตัวของผู้ชายมากกว่า จุดร่วมของความเหมือนก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ผู้คนพยายามมองหาในตัวของคู่รัก เราเคยได้ยินกันบ่อยๆ ว่า คนเป็นเนื้อคู่กัน จะหน้าเหมือนกัน คำพูดนี้มีความเป็นไปได้ นักวิทยาศาสตร์บอกว่าคนเราจะให้ความสนใจคนที่ดูคล้ายตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นรูปร่าง หน้าตา หรือบุคลิกภาพ และแม้จะไม่มีความใกล้เคียงในสิ่งที่กล่าวมานี้อยู่เลย ก็อย่าเพิ่งหมดหวังว่าเขา/เธอนั้นจะไม่ใช่คู่แท้ของเรา เพื่อช่วยให้คู่รักที่เกือบหมดหวังกลับมามีกำลังใจอีกครั้ง นักวิทยาศาสตร์จึงเสนอจุดสังเกตของความเป็นคู่แท้เพิ่มเติมอีกห้าหกอย่าง ได้แก่  ความยาวของนิ้วกลาง ขนาดของใบหู ความยาวของติ่งหู ขนาดรอบคอและรอบข้อมือ ปริมาตรของปอด และอัตราการเผาผลาญสารอาหาร ซึ่งถ้าจะมาเสียเวลานั่งหาว่าสิ่งนี้เธอมีเหมือนฉัน สิ่งนั้นของฉันเหมือนเธอแล้ว คู่รักควรจะเอาเวลาไปดูแลซึ่งกันและกันเพื่อรักษาความสัมพันธ์ให้ยาวนานจะดีกว่า กว่าจะรู้ใจกันต้องใช้เวลา ในการพบเจอกันของคนแปลกหน้าสองคน ซึ่งไม่มีแม้เวลาจะให้ทำความรู้จักกัน “หน้าตา” จึงเป็นสิ่งแรกที่ถูกใช้นำมาตัดสินตัวบุคคล เดวิด เพอร์เรตต์ นักจิตวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยเซนต์แอนดรูว์ ในสก๊อตแลนด์ ทำการศึกษาเพื่อที่จะรู้ให้ได้ว่า ต้องมีหน้าตาอย่างไรจึงจะสะกิดใจคน เดวิดได้นำภาพใบหน้าของนักศึกษาที่เข้าทำการทดลองมาทำให้เป็นเพศตรงข้าม แล้วเอาไปปนกับรูปอื่นๆ ก่อนจะให้กลุ่มนักศึกษาเหล่านั้นเลือก พวกเขาส่วนใหญ่เลือกรูปของตัวเองโดยที่ไม่ได้เฉลียวใจเลยว่าหลงรักตัวเองเข้าให้แล้ว เดวิดอธิบายเรื่องนี้ว่า ส่วนหนึ่งอาจมาจากความทรงจำในวัยเด็กที่เห็นภาพใบหน้าเดิมๆ ของบุคคลสองคน คือพ่อและแม่ ซ้ำไปซ้ำมาเป็นประจำทุกวัน จนเกิดเป็นความฝังใจ การจะรัก จะเลือกใครสักคนมาเป็นคู่ หลายคนยังยืนยันว่าเรื่องของเหตุผลสำคัญน้อยกว่าจิตใจ แม้เขา/เธอจะรวย เก่ง ดูดี มีตระกูล แต่ถ้าอารมณ์มันไม่ได้ มันก็ไม่ใช่ ในโลกสีชมพูของความรัก นักวิทยาศาสตร์กลับทำลายความโรแมนติกแบบสามัญชนเสียหมดสิ้นด้วยทฤษฎีรักที่โรแมนติกกว่า คือ รักนางให้ดูที่ยีน การเลือกคู่ครองคือการเลือกบุคคลที่มียีนดีเลิศ ดีกว่า หรือ(อย่างน้อย)ดีเท่ากับเรา มาเพื่อร่วมกันผลิตทารกรุ่นใหม่ที่แข็งแรง ฉลาด หน้าตาดี ไม่มีโรค ยามแรกรัก น้ำต้มผักก็ว่าหวาน แล้วความรักของเราล่ะ จะยาวนานไปถึงเมื่อไหร่? คำถามนี้ตอบยาก แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีเบาะแสเล็กๆ น้อยๆ พอให้นักวิทยาศาสตร์เอามาอ้างอิงประกอบวิชาหลักการเลือกคู่ขั้นสูงได้ โดยหลักการมีว่า ความน่าจะเป็นของการหย่าร้างสามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรม เพราะฉะนั้นให้ทำความรู้จักตัวเขา/เธอ และต้นตระกูลของเขา/เธอให้ดีก่อนตัดสินใจ ส่วนผู้ที่คิดจะรักฝาแฝด โปรดจำไว้ว่าชีวิตของฝาแฝดนั้นเป็นแบบแปรผันตรง ไม่ว่าคนหนึ่งจะประสบความสำเร็จในการใช้ชีวิตคู่มากน้อยแค่ไหน ชีวิตของอีกคนก็จะเป็นไปในทิศทางเดียวกันเสมอ อย่างไรก็ตาม รักยืนยงของแต่ละคู่นั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นภูมิหลังของการพบรัก การยอมรับและปรับตัวเข้าหากัน หรือความคาดหวังในตัวของแต่ละคน เป็นต้น จากคุณ : Cryptomnesia - [ 3 ก.พ. 52 22:51:10 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เป็นไปได้เพราะรัก เศร้า เหงา ..เพราะรัก อาการนี้อธิบายได้ด้วยผลการศึกษาจากประเทศอิตาลีที่ระบุว่า คนที่กำลังมีความรักมักจะเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำ (Obsessive Compulsive Disorder – OCD) อาการคือ สติไม่อยู่กะร่องกะรอย คอยแต่กังวลว่าปิดประตู ปิดหน้าต่างแล้วหรือยัง ชักโครกหรือเปล่า หรือชอบล้างมือบ่อยๆ เพราะคิดว่าไม่สะอาด อะไรทำนองนี้ โรคย้ำคิดย้ำทำมีความสัมพันธ์กับระดับของเซโรโทนิน (Serotonin) แบบปฏิภาคผกผัน ยิ่งเซโรโทนินต่ำ ความเศร้า เหงา โกรธก็จะยิ่งมาก เรื่องนี้ไม่ได้พูดกันลอยๆ มีการวัดระดับเซโรโทนินในกลุ่มทดลองซึ่งเป็นนักศึกษาที่กำลังมีความรัก พบว่าระดับเซโรโทนินในร่างกายของพวกเขาลดลงถึงร้อยละ 40 จากปกติ อย่างไรก็ตาม ผล(เสีย)จากการตกหลุมรักนี้ไม่ได้อยู่ค้ำฟ้า เมื่อเวลาผ่านไปหนึ่งปี (โดยที่นักศึกษาเหล่านี้ยังรักษาความสัมพันธ์ฉันท์คนรักเอาไว้ได้) ระดับเซโรโทนินของพวกเขากลับคืนมาสู่ระดับปกติ ช่างเป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่ง เพราะหากระดับเซโรโทนินยังต่ำอยู่ โอกาสที่พวกเขาจะเกรี้ยวกราดอาละวาดยิ่งสูง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ชาย ระดับความต้องการมีเพศสัมพันธ์ก็จะมีมากขึ้นด้วยเช่นกัน แอนเดรียส บาร์เทลส์ และเซเมียร์ เซกี แห่ง University College London ใช้เครื่องมือที่ชื่อว่า Functional Magnetic Resonance Imaging (fMRI) แสกนและถ่ายรูปสมอง เพื่อศึกษาการทำงานของสมองของผู้ที่กำลังมีความรัก โดยให้ผู้เข้าทำการทดลองทั้งหมดดูรูปของคนรักที่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งและคนที่รู้สึกชอบพอกันฉันท์เพื่อน ทั้งสองคนพบว่าพื้นที่สี่ส่วนของสมองมีการทำงาน และมีเพียงหนึ่งจุดที่ไม่ทำงาน โดยหนึ่งในบริเวณที่สมองทำงานได้แก่บริเวณที่จะมีบทบาทเมื่อเวลาเราเกิดความรู้สึกประหลาดที่ยากจะเข้าใจ และอธิบายไม่ได้ด้วยเหตุผล หรือที่เรียกว่า Gut feelings และอีกส่วนคือจุดที่จะตอบสนองเวลาร่างกายได้รับสารที่มีฤทธิ์กล่อมประสาท ที่ทำให้รู้สึกสบาย สนุกสนาน เหมือนคนเสพกัญชา ส่วนบริเวณที่ไม่ตอบสนองเลยคือสมองส่วนที่เรียกว่า Prefrontal cortex ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมปฏิกริยาสนองตอบร่างกายเวลาที่จิตใจถูกกระตุ้น ในผู้ที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ก็พบว่าสมองส่วนนี้จะไม่ทำงานเช่นกัน ด้วยเหตุจากการทดลองดังกล่าว คนบางกลุ่มจึงได้ให้นิยามของ “รัก” ว่าเป็นสารเสพติดชนิดหนึ่ง เมื่อเสพแล้วทำให้สดชื่นรื่นรมย์ เคลิบเคลิ้มเป็นสุข ตื่นตัว มีพละกำลัง การเสพต่อเนื่องไปเรื่อยๆ จะส่งผลข้างเคียงที่รุนแรงพอตัว ทำให้เกิดอาการประสาทหลอน ชอบฟังเพลงรัก ไม่กินอาหาร ไม่หลับไม่นอน และมีความแปรปรวนทางอารมณ์อยู่ตลอดเวลา ความรุนแรงของอาการที่เกิดจากรัก จะมีมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับปริมาณที่เข้าตรงสู่สมอง โดยอาจจะออกฤทธิ์อยู่ได้นานตั้งแต่ 1 วันจนถึงชั่วชีวิต จากคุณ : Cryptomnesia - [ 3 ก.พ. 52 22:51:41 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ใครที่เกิดมาคู่กับฉัน นักวิทยาศาสตร์บางคนเชื่อว่าฟีโรโมน (Pheromones) จากตัวเรา เป็นกุญแจสำคัญในการคัดสรรคนที่คู่ควรมาเป็นคู่ชีวิต ในเผ่าพันธุ์สัตว์ฟันแทะ (Rodent) ซึ่งมีอวัยวะสำคัญในจมูกที่เรียกว่า Vomeronasal organ หรือ VNO ฟีโรโมนจากปัสสาวะจะมีความสำคัญมาก เพราะมันเป็นสิ่งที่ชี้นำการใช้ชีวิตในกลุ่มสังคมของพวกมัน เมื่อมันพบปะกับตัวอื่นๆ มันก็สามารถรู้เพศของตัวนั้นๆ ได้ทันที และจะนำมาซึ่งการจับคู่ในลำดับต่อไป สัตว์ฟันแทะจะมีฟีโรโมนที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย เมื่อถึงเวลาเลือกคู่ มันจะหลีกเลี่ยงคู่ที่มีกลิ่นฟีโรโมนใกล้เคียงกับมัน เพราะต้องการให้ลูกๆ ที่เกิดมาแข็งแรง สดใส ห่างไกลโรค (เช่นเดียวกับลูกมนุษย์) อย่างไรก็ตาม ในพวกเราเหล่ามนุษย์ การที่จะประทับใจใครสักคนด้วยการสูดกลิ่นฟีโรโมนจากปัสสาวะเฉกเช่นเดียวกับหนู มันออกจะเกินงามไปสักหน่อย นักวิทยาศาสตร์บอกว่าแค่ฟีโรโมนจากเหงื่อก็สะกิดเราให้รู้ตัวได้แล้ว เคล้าส์ เวเดไคนด์ จากมหาวิทยาลัยเบิร์น ในสวิตเซอร์แลนด์ ทำการทดลองเพี้ยนๆ ขึ้น โดยขอให้ผู้หญิงกลุ่มหนึ่งสูดดมเสื้อที่ยังไม่ได้ซักและเต็มไปด้วยกลิ่นเหงื่อจากผู้ชายหลายคน ปรากฏว่าผู้หญิงแต่ละคนจะประทับใจในกลิ่นเหงื่อของผู้ชายที่มีระบบภูมิคุ้มกันที่แตกต่างจากพวกเธอ ซึ่งเป็นไปตามทฤษฎีที่เกิดขึ้นกับสัตว์ฟันแทะ ผลการศึกษาเสื้อยืดอาบเหงื่อเวอร์ชันของ ดร.มาร์ธา แม็คคลินทอค จากมหาวิทยาลัยแห่งชิคาโก บอกว่าผู้หญิงมักจะสนใจผู้ชายที่มีกลิ่นคล้ายพ่อของตัวเอง ทั้งนี้ด้วยเหตุผล (ที่ไม่ค่อยเห็นแก่ตัวสักเท่าไหร่เลย) ว่าผู้ชายเหล่านี้น่าจะมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดี (เหมือนที่เธอได้รับจากพ่อ) และเขาก็ไม่ใช่คนในตระกูล แม้ว่าเธอจะมั่นใจว่าตระกูลของเธออุดมสมบูรณ์ไปด้วยยีนที่ดีเลิศ แต่การแต่งงานกันในวงศ์ญาตินั้นเสี่ยงเกินไปที่จะเลือกปฏิบัติ เพราะนอกจากจะทำให้ลูกที่เกิดมาอ่อนแอหรือถึงตายได้แล้ว ยังอาจทำให้ลักษณะเด่นบางประการหายไป และยังทำให้ความสมบูรณ์ของพันธุ์ลดต่ำลงได้ในรุ่นลูกรุ่นหลาน เป็นไปตามกฎแห่งพันธุกรรม ดังนั้นการเลือกชายที่มีความใกล้เคียงกับพ่อของเธอจึงเป็นทางออกที่สดใสกว่า เพราะนอกจากจะน่ายินดีที่ได้ยีนดีแล้ว ชายนอกตระกูลผู้นั้นยังน่าจะมียีนดีๆ อื่นๆ อยู่ในตัวอีกด้วย กลยุทธ์นี้ช่วยสร้างสมดุลระหว่างความเสี่ยงของการผสมนอกสายสัมพันธ์และความอันตรายของการผสมในสายสัมพันธ์ได้อย่างลงตัวที่สุด จากคุณ : Cryptomnesia - [ 3 ก.พ. 52 22:53:37 ]

ความคิดเห็นที่ 36 บทส่งท้าย มีคน (คาดว่าเป็นนักวิทยาศาสตร์) ให้นิยามของความรักว่า “ความรักเป็นปฏิกริยาทางเคมีที่เกิดขึ้นภายในร่างกายเพื่อตอบสนองความต้องการทางพันธุกรรมกับอิทธิพลจากสิ่งแวดล้อม” ไม่ว่ารักจะเป็นอะไรก็ตามในความคิดของคน และแม้ว่านักวิทยาศาสตร์จะสรรหาข้อเท็จจริงมากมายมาเฉลยปริศนาแห่งรักให้เรารู้ได้ เราก็ต้องเข้าใจอยู่เสมอว่ารักเกี่ยวพันกับสิ่งต่างๆ มากมาย ไม่ใช่แค่วิทยาศาสตร์ แต่ยังรวมถึงปัจจัยทางสังคม วัฒนธรรม รวมทั้งการเรียนรู้ด้วย ความรักเติบโตขึ้นพร้อมๆ กับเรา โดยประสบการณ์เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เรารู้จักเลือกที่จะรัก รู้จักหยุดเพื่อที่จะเริ่มใหม่ และรู้จักสร้างเงื่อนไขเพื่อให้ได้มาซึ่งการดำรงพันธุ์ที่เหมาะสม แม้ว่าปริศนาบางอย่างในโลกแห่งรักจะถูกไขกระจ่างโดยนักวิทยาศาสตร์ ก็ไม่ได้หมายความว่าต่อจากนี้ไปเราจะรักกันด้วยเทคโนโลยี การปล่อยให้ความรักดำเนินไปตามครรลองของมันน่าจะเป็นสิ่งที่ถูกต้องมากกว่า ------------------------------------------------------------- เนื้อหาทั้งหมดจาก รักฉัตร เลหวนิช. วิทยาศาสตร์ของความรัก. หน่วยบริหารจัดการความรู้ ไบโอเทค http://www.biotec.or.th/biotechnology-th/newsdetail.asp?id=2179 แก้ไขเมื่อ 03 ก.พ. 52 22:56:06 จากคุณ : Cryptomnesia - [ 3 ก.พ. 52 22:55:36 ]

ความคิดเห็นที่ 37 กระทู้นี้หวานจัง จากคุณ : ฟินจัง - [ 3 ก.พ. 52 23:07:49 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ชอบกระทู้นี้จัง เพราะกำลังอินเลิฟเหมือนกัน .. จากคุณ : รัญจน์ - [ 3 ก.พ. 52 23:50:29 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เฮ้อออออออออออออออออออออออออออ ... จากคุณ : อิจฉาเฟ้ย (บะหมี่^^ผีแดง) - [ 3 ก.พ. 52 23:56:40 ]

ความคิดเห็นที่ 40 มาตอนคุณพริมจัง เล่าเรื่อง(น้อง)หนู เลยไม่กล้า ปาด แถมคุณ คลิบฯมาต่อให้อีกด้วย ตามมาอ่านต่ออ่ะค่ะ.. อยากโหวต และ อยากเป็น กิ๊ก เอ้ย..อยากให้กี้ฟ ค่า.. จากคุณ : บินไปในฟ้ากว้าง - [ 4 ก.พ. 52 01:49:01 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 4 ก.พ. 52 03:02:35 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ^^ หวาน สดชื่น ^^ จากคุณ : ผู้ไม่รู้เลย - [ 4 ก.พ. 52 07:06:34 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ชอบกระทู้คะ... จากคุณ : thangthai_ladypink - [ 4 ก.พ. 52 07:44:33 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ซึ้ง ครับ มีความหมาย มากมาย 14 กุมภา ขอให้รักเป็นพลังให้ทุกคนครับ จากคุณ : eping - [ 4 ก.พ. 52 09:15:26 ]

ความคิดเห็นที่ 45 อยู่ที่ไหน ความรัก จากคุณ : netkuff72 - [ 4 ก.พ. 52 10:00:28 ]

ความคิดเห็นที่ 46 แอบหลงรักเธออยู่ ... แต่เธอคงดู ... ไม่ออก ^^~ จากคุณ : แพ้รอยยิ้ม - [ 4 ก.พ. 52 10:03:09 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ชอบกระทู้นี้จัง น่ารักดีครับ จากคุณ : Necessary - [ 4 ก.พ. 52 10:50:56 ]

ความคิดเห็นที่ 48 หวานมากมาย ! อิอิ จากคุณ : Time & Trust - [ 4 ก.พ. 52 10:56:31 ]

ความคิดเห็นที่ 49 นอกจากจะได้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์แล้ว ยังได้ความรักกลับไปด้วย อิอิ จากคุณ : นู๋ขี้สงสัย - [ 4 ก.พ. 52 11:28:46 ]

ความคิดเห็นที่ 50 มาเป็น มด!!  อิอิ จากคุณ : Choco-Mix - [ 4 ก.พ. 52 11:45:22 ]

ความคิดเห็นที่ 51 愛 จากคุณ : a6mzero - [ 4 ก.พ. 52 12:08:37 ]

ความคิดเห็นที่ 52 (ญ) พี่อย่าเป็นเหมือนเช่นนกแก้ว (ช) พี่ไม่เป็นเหมือนเช่นนกแก้ว (ญ) พูดเจื้อยแจ้วเรื่อยไป (ช) ออกจากปากพี่ไป (ญ) ขอให้ออกจากใจ (ช) พี่ปากกับใจตรงกัน (ญ) แน่ะใคร (ช) ไหนใคร (ญ) โน่นไง แฝงตัวร่มเงาไม้ใหญ่ (ช) ใช่ใครนกเขาคู่มัน (ญ) เสียงใคร (ช) ไหนกัน (ญ) เสียงนั่น (ช) อ๋อ นกมันพรอดคำรำพัน ฝากชีวันรักกันไงเล่า (ญ) ไย รู้ (ช) ดู เอา พี่เห็นมันเฝ้าหยอกเย้า ต่อกัน (ญ) พี่ต้องเอาอย่างมัน (ช) พี่จะเอาอย่างมัน มิเปลี่ยนแปรผัน เลยเอย จากคุณ : neoultema - [ 4 ก.พ. 52 12:21:51 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ขออนุญาตนำข้อความบางส่วนไปใช้นะครับ บทความดีครับ ^_^ จากคุณ : ฟางข้าวในทุ่งนา - [ 4 ก.พ. 52 13:24:38 ]

ความคิดเห็นที่ 54 จากคุณ : Skyman (Analayo) - [ 4 ก.พ. 52 14:40:54 ]

ความคิดเห็นที่ 55 อ่านจนเหนื่อยเลย ได้ความรู้สึกดีๆ ได้ความรู้ด้วย จากคุณ : maikeet - [ 4 ก.พ. 52 14:52:00 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆ ขออนุญาตใช้ด้วยนะคะ จากคุณ : mantanafm - [ 4 ก.พ. 52 15:04:06 ]

ความคิดเห็นที่ 57 อยากให้กิฟหมดตัวเลย ^^ จากคุณ : MadeByHeart (PleaseLoveMe) - [ 4 ก.พ. 52 15:15:55 ]

ความคิดเห็นที่ 58 จากคุณ : กรประเสริฐ - [ 4 ก.พ. 52 17:30:35 ]

ความคิดเห็นที่ 59 กลับมาแล้วค่าาาา.... ก่อนอื่นต้องขอบคุณทุกท่านก่อนเลยนะคะ สำหรับกีฟท์และเสียงโหวต..//me ยิ้มแล้วโบกมือไปรอบๆ (ยังกะประกวดนางสาวไทย..) ขอบคุณ คุณคลิป สำหรับเรื่องราวความรักอันดับที่ 14 ของมนุษย์เราค่ะ วิทยาศาสตร์ อาจต้องการเหตุผล   แต่เรื่องความรัก ย่อมไม่ต้องการเหตุผลใดใด.... จากคุณ : primjang - [ 4 ก.พ. 52 17:44:59 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ตามมาแล้วคร้าบบบบบ ชอบนกกระเรียนครับ เท่ห์ดี ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ จากคุณ : กวิวัฏ - [ 4 ก.พ. 52 17:45:00 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ชอบภาพประกอบของคุณขลิบจัง หว๊าน...หวาน   จากคุณ : javascript:PopupDraw('X',%20'1 (just a little thing) - [ 4 ก.พ. 52 18:27:16 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ขอให้มีความรักมากๆ จากคุณ : คานาอัน (คานาอัน) - [ 4 ก.พ. 52 18:39:56 ]

ความคิดเห็นที่ 63 อ้าว ไม่มีตั๊กแตนตำข้าวเหรอ จากคุณ : Jacare - [ 4 ก.พ. 52 22:36:18 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ขออนุญาตนำข้อความบางส่วนไปใช้นะครับ ชอบกระทู้ นี้มาก ๆ เลยครับ เป็นกระทู้ที่ชอบที่สุดตั้งแต่ เล่นพันทิปมา ขอบคุณสำหรับข้อมูล+รูปภาพดีๆครับ จากคุณ : อดหวานไว้กินเปรี้ยว - [ 5 ก.พ. 52 00:10:12 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ถ้าจำไม่ผิด นกเงือกบางพันธ์ ถ้าคู่มันตาย อีกตัวจะเป็นม่ายตลอดชีวิตด้วยค่ะ... อิจฉานกเงือกจัง... จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ - [ 5 ก.พ. 52 01:16:30 ]

ความคิดเห็นที่ 66 "Welcome to Valentine Sweet Season" Never forget that Love won't hurt you. Happy in love all... จากคุณ : autoPING - [ 5 ก.พ. 52 03:27:10 ]

ความคิดเห็นที่ 67 กระทู้หวานรับวันแห่งความรัก ความรักไม่มีเหตุผล เรายอมได้ทุกอย่างเพื่อคนที่้เรารัก.... วาเลนไทน์ปีี้อายุก็เพิ่มขึ้นอีก 1 ปีแล้ว.... จากคุณ : @Server ! maN@ - [ 5 ก.พ. 52 06:57:37 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ดูของสัตว์ไปแล้ว ของคนตามวิทยาศาสตร์ปัจจุบันไปแล้ว มาดูทางธรรมะบ้าง (จะมองว่าศาตร์ก็ได้ เพราะมุ่งเสนอข้อเท็จจริงในมุมมองทางจิตใจ) http://dungtrin.com/mag/?49.love http://dungtrin.com/mag/?50.love http://dungtrin.com/mag/?51.love http://dungtrin.com/mag/?52.love http://dungtrin.com/mag/?53.love http://dungtrin.com/mag/?54.love http://dungtrin.com/mag/?55.love http://dungtrin.com/mag/?56.love http://dungtrin.com/mag/?57.love http://dungtrin.com/mag/?58.love http://dungtrin.com/mag/?59.love http://dungtrin.com/mag/?60.love :) จากคุณ : Detonator_Pao_ - [ 5 ก.พ. 52 08:24:53 ]

ความคิดเห็นที่ 69 น่ารักจังค่ะ โดยเฉพาะทานูกิ ตัวจริงน่ารักเอาเรื่องเลยแหะ อยากเห็นตัวเป็นๆจัง จากคุณ : Ponyo - [ 5 ก.พ. 52 14:30:48 ]

ความคิดเห็นที่ 70 พฤติกรรมการมีชู้ในนก หลายๆ คนอาจจะเคยได้ยินเรื่องนกบางชนิดที่อยู่ด้วยกันอย่างผัวเดียวเมียเดียวอย่างน่าซาบซึ้งและน่าประทับใจ นกสองตัวผัวเมียช่วยกันสร้างรังและหาอาหารคอยเลี้ยงดูลูกอ่อน จนกระทั่งลูกอ่อนโตพร้อมจะบินออกจากรัง แต่ว่าหลังจากที่เริ่มมีการทดสอบความเป็นพ่อโดยใช้รอยนิ้วมือทางดีเอ็นเอ (DNA-Fingerprinting) นกเหล่านี้ก็เริ่มโดนแฉ เพราะว่าผลการสำรวจรอยนิ้วมือทางดีเอ็นเอพบว่า นกตัวผู้ในรังของนกที่เชื่อกันอยู่อย่างผัวเดียวเมียเดียวก็ยังแอบดอดไปผสมพันธุ์กับนกตัวเมียรังข้างๆ (Extra pair copulation)  ยกตัวอย่างเช่น ใน Zebra finch ในออสเตรเลีย ที่โดยเฉลี่ย 5 % ของการผสมพันธุ์ของนกตัวเมียจะเกิดขึ้นกับกับนกตัวผู้ที่ไม่ใช่คู่ของตัวเองและ 8% ของลูกที่เกิดขึ้นของตัวเมียเป็นลูกชู้!! สำหรับตัวผู้ที่ตัวเมียแอบยอมผสมกับตัวผู้ตัวอื่นจะได้รับผลเสียแน่นอนเพราะลูกที่ตัวเองเลี้ยง ไม่ใช่ลูกของตัวเอง ทำให้เสียแรงโดยเปล่าประโยชน์ นกตัวผู้จึงต้องมีมาตรการลดโอกาสการเกิดของลูกชู้ ยกตัวอย่างเช่น นกตัวผู้ที่หายจากรังไปนานๆ จะต้องรีบกลับมาผสมพันธุ์กับนกตัวเมีย ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความคิดถึงหรือความผูกพันอย่างที่นักวิทยาศาสตร์เคยตั้งสมมติฐาน แต่เป็นเพราะตัวผู้กลัวตัวเมียจะผสมพันธุ์กับชู้ จึงต้องทำการผสมพันธุ์ทับ เพราะว่าไข่สวนใหญ่ของนกตัวเมียถูกผสมโดยอสุจิที่ได้รับครั้งหลังสุด หรือการที่นกตัวผู้ไล่ตามเฝ้านกตัวเมียในช่วงที่ตัวเมียพร้อมผสมพันธุ์ก็เป็นวิธีป้องกันชู้อีกเช่นกัน เราจะเห็นว่านกตัวผู้ที่แอบไปมีชู้ได้ประโยชน์แน่นอน เพราะว่าเป็นการมีลูกโดยไม่ต้องเลี้ยงให้เปลืองแรง แต่ตัวเมียจะได้ประโยชน์อะไร เพราะลูกที่เกิดมาไม่ว่ากับตัวผู้ตัวไหนก็เป็นลูกของตัวเมียเหมือนกัน ในการทดลองหนึ่งในนก Zebra finch อีกเช่นเคย แสดงให้เห็นว่านกตัวเมียจะยอมให้แต่ตัวผู้ที่น่าดึงดูดกว่าคู่ของตัวเองเท่านั้นมาผสม ซึ่งตีความได้ว่าการที่ตัวเมียยอมผสมพันธุ์กับชู้ เพราะเธอจะได้รับประโยชน์ทางพันธุกรรม โดยการได้ลูกที่มีลักษณะที่ดี ที่จะมีหลานต่อไปได้มากๆ แต่ก็อาจจะยังเป็นไปได้ว่าการที่ตัวเมียยินยอมเป็นเรื่องง่ายกว่าการที่จะขัดขืน เพราะการขัดขืนอาจจะนำไปการเสียประโยชน์ของตัวเมียในการต่อสู้และการบาดเจ็บได้ กลับมาย้ำอีกครั้งนะครับว่าสิ่งที่เขียนเป็นการแสดงการมองหาคำตอบของคำถามต่างๆ ในทางชีววิทยาเฉยๆ ไม่ใช่การให้คำตอบว่าทำไมนาย ก ย่องไปหาอีหนูหรือทำไมนาง ข ถึงมีชู้ และไม่ได้ยุให้มีชู้กันนะครับ สำหรับเรื่องความขัดแย้งระหว่างเพศคงจะจบไว้แค่นี้ก่อนนะครับ ไว้อ่านเจอเรื่องสนุกๆ จะมาเขียนอีก คราวหน้าขอเขียนเรื่องแนวอื่นบ้าง ใครมีคำถามอะไรก็เขียนทิ้งไว้ได้นะครับ (กลับมาแก้ ลืมใส่แหล่งอ้างอิง: Krebs, J. R. & Davies, N.B. (1993) An Introduction to Behavioural Ecology, 4th ed. Oxford: Blackwell.) จากคุณ : Chaos dragon - [ 5 ก.พ. 52 17:08:47 ]

ความคิดเห็นที่ 71 แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 52 13:25:26 แก้ไขเมื่อ 05 ก.พ. 52 22:00:55 จากคุณ : คุณตุ่น - [ 5 ก.พ. 52 18:42:20 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ขอบคุณสำหรับรูปและบทความนะครับ จากคุณ : anurak_jun - [ 5 ก.พ. 52 20:08:03 ]

ความคิดเห็นที่ 73 แจมด้วยภาพนี้ค่ะ สำหรับนักวิทยาศาสตร์ Entomologists ค่ะ จากคุณ : Komi (komi_to) - [ 5 ก.พ. 52 20:38:52 ]

ความคิดเห็นที่ 74 #19นี่สมการอะไรนะ ขอหน่อย เอามุขเสี่ยวมาแลก http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K7497452/K7497452.html จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน - [ 6 ก.พ. 52 06:33:27 ]

ความคิดเห็นที่ 75 รัก คือ อนัตตา จากคุณ : ปืนเถื่อน โดนยึดอมยิ้ม (Colt 1911 A1) - [ 6 ก.พ. 52 08:12:02 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ขอบคุณคุณ  Komi นะคะ ภาพสวยทุกครั้งเลย...แอบเป็นแฟนคลับดูรูป.. คุณ ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน เอาสมการมาให้ค่ะ.. 2x^2 - 2lxly + y^2 = 16  (พิมพ์ตัวยกกำลังไม่เป็น ทำสัญลักษณ์นี่นะค่ะ^) จากคุณ : primjang - [ 6 ก.พ. 52 09:35:06 ]

ความคิดเห็นที่ 77 รักแต่ไม่ได้ครอบครอง จากคุณ : Wa-Oo - [ 6 ก.พ. 52 13:53:44 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ....รูปสวยจัง     แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 52 20:27:30 จากคุณ : lolonoar - [ 6 ก.พ. 52 20:20:27 ]

ความคิดเห็นที่ 79 รักสั้นๆ ง่าย แต่ความหมายเหลือล้น จากคุณ : env42_tay - [ 6 ก.พ. 52 20:46:26 ]

ความคิดเห็นที่ 80 หวานจังเลย ~ ^^ จากคุณ : pongpei (pongpei) - [ 6 ก.พ. 52 21:22:24 ]

ความคิดเห็นที่ 81 แอร้ย..... อ่านกระทู้นี้แล้วคิดถึงตาอ้วนที่บ้านจริงจริ๊งงงง จากคุณ : i aM uNiQuE GaLaxY - [ 6 ก.พ. 52 21:54:51 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ให้ผมเดา คงไม่มีใครอ่าน #68 ผมแหง แค่เห็นบอกว่าธรรมะ ก็กระเจิง กลัวจะทำให้หมดอารมณ์กัน, ในตอนที่กำลังเคลิ้มๆ(โมหะ) ความจริง กับ ความฝัน มักไม่ค่อยจะตรงกัน จากคุณ : Detonator_Pao_ - [ 6 ก.พ. 52 23:50:32 ]

ความคิดเห็นที่ 83 เอ่อ..คุณ Cryptomnesia ครับ รู้สึกว่าผมจะเคยตั้งกระทู้เกี่ยวกะความรัก แล้วโดนลบ จริงๆแล้ว ผมอยากให้คุณตอบแบบที่คุณตอบในกระทู้นี้มากเลย ปล. รู้ที่มาของคำว่า อิชะนี แล้ว อิอิ จากคุณ : utd - [ 7 ก.พ. 52 00:48:42 ]

ความคิดเห็นที่ 84 วันแห่งความรัก  ไม่ใช่วันแห่งคู่รักนะครับ รักแฟนแล้ว อย่าลืมที่จะบอกรักแม่รักพ่อ รักครอบครัว ญาติพี่น้องด้วยนะ วันแห่งความรักจะได้สมดังชื่อ... จากคุณ : น้องหนูเอวตัน - [ 7 ก.พ. 52 00:52:46 ]

ความคิดเห็นที่ 85 #82 คุณ Detonator_Pao_ เดาผิดค่ะ เพราะช่วงนี้อ่านหนังสือ "รักแท้มีจริง" ของ  ดังตฤณ   ติดใจสำนวนการเขียน  เนื้อหา  ความเป็นจริงของชีวิต ขอบคุณนะคะที่ทำลิงค์ มาให้  สมัครสมาชิกไปแล้วค่ะ จากคุณ : จริงใจ.......สบายจริง - [ 7 ก.พ. 52 13:15:24 ]

ความคิดเห็นที่ 86 อยู่มาได้ทุกวันนี้ก็เพราะรักแหละครับ จากคุณ : poobas - [ 7 ก.พ. 52 13:28:46 ]

ความคิดเห็นที่ 87 สวัสดีวันเสาร์ค่ะ... เข้ามาส่งความรักให้กับทุกคนอีกครั้งค่ะ.. นิยามความรัก มีหลากหลาย....... ความรัก เกิดขึ้นได้หลายแบบ.............. แต่ไม่ว่าจะยังไง ความรักก็ยังเป็นสิ่งที่ดี เสมอ... ถ้ารักกันให้ถูกที่ ถูกเวลา................................. จากคุณ : primjang - [ 7 ก.พ. 52 13:44:18 ]

ความคิดเห็นที่ 88 โอ้ #85 ยินดีครับยินดี :D กรณีแบบนี้ ยอมรับการทายผิดเลย ^^ แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 52 22:52:35 จากคุณ : Detonator_Pao_ - [ 7 ก.พ. 52 22:52:13 ]

ความคิดเห็นที่ 89 ว้าว!! จากคุณ : เสียงจากบ้านนา - [ 8 ก.พ. 52 22:05:02 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ขออนุญาตเอาไปลงในบล็อกนะคะ จากคุณ : Ms.MeAwY - [ 8 ก.พ. 52 22:11:16 ]

ความคิดเห็นที่ 91 กระทู้น่ารัก จากคุณ : nana_toon - [ 8 ก.พ. 52 22:45:47 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ถึงจะตาลาย แต่ก็ได้ข้อคิดอะไรดี ๆ ไปเยอะครับ จากคุณ : นายกองกัซ - [ 10 ก.พ. 52 18:33:42 ]