ความคิดเห็นที่ 17
การโหมงาน : มฤตยูเงียบในญี่ปุ่น January 11th, 2009 ปี หนึ่ง ๆ คนญี่ปุ่นนับพันทำงานหนักเกิดขีดจำกัดจนเสียชีวิต แม้ว่านั่นทำให้ประเทศเจริญรุดหน้า แต่แท้จริงแล้วมันอาจส่งผลเสียในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจโลกเช่นนี้ ซาดาโกะ หญิงสาวที่ทำงานในหอศิลป์ในโตเกียว กล่าวว่าเธอต้องทนกับความเครียดเป็นประจำทุกวัน "พวกพนักงานทำงานกันเป็นบ้าเป็นหลังและสิ่งรอบตัวก็วุ่นวายมาก โดยเฉพาะในช่วงสูงสุดที่ทุกคนทำงานล่วงเวลาจนถึงกลางคืน" เธอกล่าว แม้ ว่าจะออกจากสำนักงานแล้ว ความเครียดยังคงมีอยู่ "บ่อยครั้งในตอนกลางคืนที่กลุ่มเพื่อนร่วมงานออกไปคุยกันถึงสิ่งแย่ ๆ ที่เจอมาในตอนกลางวัน และปัญหาที่มีกับเจ้านาย ฉันไม่ได้มีโอกาสพักเลย" เธอกล่าว ในภาษาญี่ปุ่นมีคำว่า "คาโรชิ" (karoshi) หรือการเสียชีวิตจากการทำงานหนักเกินไป และเมื่อพิษเศรษฐกิจโลกทำให้ลูกค้าของบริษัทส่งออกและบริษัทชั้นนำอื่น ๆ ของญี่ปุ่นมีรายได้ลดลงแล้ว ความเครียดในกลุ่มผู้ทำงานยิ่งเพิ่มสูงขึ้น จาก การสำรวจในเดือนตุลาคมโดยสหภาพแรงงานหลักของญี่ปุ่น เรงโกะ (Kengo) พบว่าร้อยละ 53 ของพนักงานทั้งหมดกล่าวว่าพวกเจามีความเครียดมากขึ้นเมื่อช่วงเวลาไม่นานมา นี้ แม้ว่าสำหรับบางคน การทำงานหนักเกินไปเป็นแค่เรื่องน่ารำคาญ สำหรับผู้อื่นแล้วมันอาจทำให้เกิดอาการหลายอย่าง ตั้งแต่ปัญหาการไหลเวียนของเลือด จนถึงกล้ามเนื้อหัวใจแข็งตัวและหลอดเลือดอุดตัน "ยังไม่มีหน่วยงาน ภาครัฐหรือเอกชนใด ๆ ที่เสนอหนทางแก้ไขปัญหานี้อย่างเป็นรูปธรรม" ฮิโรชิ คาวาฮิโตะ ทนายความที่ว่าความให้กับญาติของผู้เสียชีวิตาจากคาโรชิ กล่าว ตำรวจกล่าวว่ามีคนญี่ปุ่นมากกว่า 2,200 คน ฆ่าตัวตายจากสาเหตุเรื่องงานใน พ.ศ. 2550 แต่ คาวาฮิโตะกล่าวว่าตัวเลขดังกล่าวนั้นเป็นเพียงเศษเสี้ยวของปัญหาทั้งหมด เขาประเมินว่ามีพนักงานกว่า 10,000 คนที่ต้องประสบปัญหาโรคหัวใจหรือหลอดเลือดอุดตันจากความเครียด ซึ่งบางครั้งเป็นอันตรายถึงชีวิต เขากล่าวว่าจำนวนน้อยกว่าร้อยละ 10 ของกรณีทั้งหมดถูกแจ้งแก่บริษัทหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากมันใช้เวลานานในการพิสูจน์แต่ละกรณี และมีโอกาสที่ความพยายามนั้นจะสูญเปล่า ในปี พ.ศ. 2550 ใบแจ้งความจำนงกว่าร้อยละ 58 ของผู้คนที่เรียกร้องค่าชดเชยจากการสูญเสียสมาชิกในครอบครัวไปด้วยคาโรชิถูก ปฏิเสธ แต่อย่างไรก็ตาม นั่นก็เป็นสิ่งที่ดีขึ้นแล้วจากเมื่อ 20 ปีก่อนที่เอกสารร้อยละ 95 ถูกปฏิเสธ "มีความกดดันจากสาธารณะมากเพื่อให้มีการจัดการที่ดีขึ้นกับเรื่องนี้" คาวาฮิโตะกล่าว ใน เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2550 หัวหน้างานก่อสร้างในเขตโตชิงิ ทางเหนือของโตเกียว ได้ฆ่าตัวตายหลังจากทำงานสัปดาห์ละ 65 - 70 ชั่วโมงเป็นเวลา 6 เดือน ซึ่งส่งผลให้เขาป่วยและมีอาการหดหู่ หน่วยงานต่าง ๆ แจ้งกับกระทรวงแรงงานว่าพวกเขาตกลงยอมรับให้การฆ่าตัวตายถือเป็นอุบัติเหตุ จากการทำงาน และจะจ่ายค่าชดเชยให้กับภรรยาม่ายเป็นเงิน 3 ล้านเยน (ประมาณ 1.15 ล้านบาท) ต่อปี แต่แม้ว่ารัฐบาลจะทราบปัญหานี้ มีเพียงไม่กี่ครอบครัวเท่านั้นที่มีผู้เสียชีวิตจากคาโรชิที่กล้าไปพบผู้ว่าจ้างของผู้ตาย " เรื่องนี้เป็นเรื่องต้องห้ามในญี่ปุ่น โดยบริษัทต่าง ๆ คิดว่าสภาวะทางจิตใจของพนักงานเป็นเรื่องส่วนบุคคล" ฮาจิเมะ อุรุชิฮาระ โฆษกด้านสภาพการทำงานของสหภาพแรงงานเรงโกะกล่าว จากการสำรวจโดยสหภาพแรงงาน เกือบครึ่งของบริษัททั้งหมดไม่มีมาตรการแม้แต่ข้อเดียวในการป้องกันความเครียดในที่ทำงาน แม้ ว่ากฎหมายจะระบุเวลาทำงานไว้ที่ 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ก็ตาม 1 ใน 4 ของผู้ทำงานชาวญี่ปุ่นทั้งหมดหักโหมทำงานมากกว่า 50 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และ 1 ใน 10 ทำงานมากถึง 60 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ พนักงานที่ทำงานหนักเกินไปเกือบทั้งหมดเป็นเพศชาย ส่วนมากอยู่ในวัยต้น 30 ซึ่งเป็นช่วงที่กำลังไต่เต้าในบริษัท ความ เครียดเป็นปัญหาในประเทศญี่ปุ่นมานาน แม้แต่ราชวงศ์ก็ไม่เว้น โดยมีราชวงศ์ 3 พระองค์ ซึ่ง 1 ในนั้นคือ สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ ได้รับถวายการวินิจฉัยว่ามีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจอันเนื่องมาจากความเครียด แต่ คาโรชิกลายเป็นปัญหาสำคัญตั้งแต่หลังปี พ.ศ. 2533 หลังจากการล่มสลายของเศรษฐกิจที่รุ่งเรืองขึ้นมามากในช่วงหลังสงครามโลก ครั้งที่ 2 ซึ่งทำลายความหวังของคนงานในการมีชีวิตที่มั่นคง ปัจจุบัน บริษัทต่าง ๆ มักจ้างพนักงานชั่วคราว และให้เจ้านายสามารถเลิกจ้างงานเมื่อถึงช่วงวิกฤติ และหันไปกดดันพนักงานที่ติดสัญญาทำงานเต็มเวลาแทน เทตสึโนโจ อุเอฮาตะ ผู้ดำเนินศูนย์ช่วยเหลือผู้คนที่ทำงานหนักเกินควรกล่าวว่า ปัญหาสำคัญไม่ใช่เพียงแค่เวลาทำงานอันยาวนาน แต่ยังรวมไปถึงเจ้านายที่กดขี่ ความเครียดจากเพื่อนร่วมงาน และการแข่งขันในอาชีพ "บ่อยครั้งที่พวกตำแหน่งสูง ๆ ไม่เห็นความร้ายแรงของสถานการณ์นี้" อุเอฮาตะกล่าว อุรุชิฮาระ จากสหภาพแรงงาน กล่าวว่าหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 "คนญี่ปุ่นนั้นทำงานหนักมาก แต่พวกเขาก็ยังฝันถึงชีวิตที่ดีกว่านี้" "ความฝันนั้นเหมือนจะสูญสลายไปแล้ว" เขากล่าว ต้นฉบับ : Overwork a silent killer in Japan http://www.physorg.com/news150864195.html http://www.vcharkarn.com/vnews/151989
จากคุณ :
Anonymous
- [
12 ก.พ. 52 21:32:44
A:118.172.39.247 X: TicketID:202689
]
|
|
|