ความคิดเห็นที่ 1 น่าจะซ่อมแซมง่าย+ผลิตได้เร็ว ครับ         ชิ้นส่วนบางชิ้นที่ทำเครื่องบินบางรุ่นยังเป็นไม้เลย  (หรือว่าจำผิดกับสงครามโลกครั้งที่1 หว่า??) จากคุณ : yabeer - [ 14 ก.พ. 52 07:47:24 ]

ความคิดเห็นที่ 2 มันเบากว่าเยอะ มั้งครับ จะได้ไม่ต้องสิ้นเปลือง กำลังเครื่องยนต์มาก เพราะแต่ก่อนยังไม่มีการโจมตีแบบดำทิ้งระเบิดลงมา พอหลังๆโดนกันหมดเลยต้องเปลี่ยนเป็นเหล็ก พอเป็นเหล็กก็หนักมาก เรื่องต้องใญ่มากตาม ไม่งั้นจะพลิกเวลาเจอคลื่น ใหญ่ๆ เลยต้องเปลี่ยนเครื่องยนต์น้ำมัน เป็น เครื่องยนต์นิวเครียร์ไป แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 52 08:28:03 จากคุณ : กระเทยชายแดน - [ 14 ก.พ. 52 08:23:01 ]

ความคิดเห็นที่ 3 จากรูปข้างบนทำไมเครื่องบินแยะจัง แล้วจะบินขึ้นยังไงเนี่ยเต็มไปหมด จากคุณ : โอพ่อพระ - [ 14 ก.พ. 52 09:29:32 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เอามาจอดโชว์มั้ง ถึงเวลาจริงก็โหลดลงใต้ท้องก่อน แล้วค่อยเอาขึ้นมาปล่อยบิน จากคุณ : Gunn_Sap - [ 14 ก.พ. 52 09:44:35 ]

ความคิดเห็นที่ 5 #2 dive bomber มันมีตั้งแต่มี CV นั่นแหละครับ เรือ CV ญี่ปุ่นที่จมไปตอน midway ก็โดน DB ทั้งนั้นแหละ PoW กับ Repulse ก็โดน DB จากคุณ : craftman - [ 14 ก.พ. 52 09:51:45 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ในรูปรุ้สึกจะเป็นผลของการใช้ดาดฟ้าไม้ แล้วระเบิดมันทะลุลง ไปถึงชั้นเก้บเครื่อง บิน เสียหายเลยเอาบางส่วนทีรอดมาจอดไว้ข้างบนแล้ว ลากกลับไปซ่อม จากคุณ : Napoleonic - [ 14 ก.พ. 52 10:00:37 ]

ความคิดเห็นที่ 7 น่าจะเพราะหลังจาก Pearl habor การที่อเมริกาจะรีบตอบโต้ด้วยการใช้เรือที่สามารถบรรทุกเครื่องบินและเป็นสนามบินไปในตัวเพื่อเป็นการขยายขอบเขตอำนาจการโจมตีทางทะเลไปด้วย เลยต้องรีบสร้างเรือให้ทันต่อการชิงความได้เปรียบ อีกอย่างก็ตามความคิดเห็นข้างบนด้วยอะฮะ เรื่องน้ำหนัก... ส่วนทำไมยุโรปใช้ดาดฟ้าเรือเป็นเหล็ก ...น่าจะเพราะการรบกับญี่ปุ่นเนี่ย มันน่าจะหลังจากที่ยุโรปกำลังโต้กลับเยอรมันอยู่แล้ว หรือว่าได้เปรียบไปแล้ว น่าจะมีเวลาพัฒนาเรื่องเรือบรรทุกเครื่องบินมาช่วยอเมริกาสู้กับญี่ปุ่นได้ แต่เอาเข้าจริงๆ ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากอเมริกาไม่คาดคิดว่ายังจะมีคนบ้าที่ไหนใช้ยุทธวิธีการรบแบบเอาเครื่องบินไม้เบา บรรทุกระเบิดพุ่งเข้ามาอัดกันตรงๆ แบบนั้น น่าจะติดประมาทด้วย ...พอๆ กับปัจจุบันเลย ที่ใช้การรับที่ดีที่สุดคือการรุกรานไปจนพึงหน้าบ้านเค้าเลย ...เจอเค้าพลีชีพแบบเดียวกันเลยหมาบ้ากัดไปทั่ว ถ้าไม่ได้วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ ไม่รู้ว่าป่านนี้บ้านหลังไหนจะโดนอีก... ที่ว่าญี่ปุ่นไปแหย่ยักษ์หลับในสมัยนั้น ข้าเจ้าว่าน่าจะเป็น ไปแหย่หมาบ้ามากกว่า.. จากคุณ : _K_F_C_ - [ 14 ก.พ. 52 10:11:36 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เพราะ ในสมัยสงครามโลกครั้งที่2 ค่านิยมของอเมริกาในยุคนั้น เค้าเน้นจำนวนมากกว่าคุณภาพครับ เพื่อที่จะชิงความได้เปรียบครับ อีกอย่างเดาว่าน่าจะซ่อมได้ง่ายมั้งครับ แต่ทำไมโดนระเบิดทีเนี่ย มันโทรมสุดๆเลยหล่ะ ตอบคห.1(คุณyabeer)อืมร้สึกว่าเครื่องบินบางรุ่น ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เนี่ย ก็ยังใช้ไม้อยู่นะครับ เช่น Mosquito ของอังกฤษหน่ะครับ ถ้าไม่ใช่ก็ขออภัย คห.3(คุณ : Gunn_Sap)ทำไว้โชว์พาว์ครับ ประมาณว่าคุณอย่ามาแหยม ถ้าเรือของเอ็งไม่มีเครื่องบินพอมาสู้กับเรือของฉัน รบกันจริงลานบินน่าจะโล่งกว่านี้ครับ ไม่งั้นนักบิน คามิกาเซ่ จะบอกว่า"จัดให้" (May the newtype be with you) ขอให้นิวไทป์จงสถิตย์อยู่กับท่าน จากคุณ : Norah - [ 14 ก.พ. 52 11:58:41 ]

ความคิดเห็นที่ 9 - สร้างได้เร็ว - น้ำหนักเบากว่า - ราคาในการสร้างถูกกว่า ทำให้ได้จำนวนมากกว่า อย่างกรณีเรือของ ญี่ปุ่น ใน WWII ช่วงนั้นขาดแคลนเหล็กและเชื้อเพลิง ทำให้ต้องพัฒนาเรือแบบนี้ออกมา อย่าว่าแต่ CV เลยครับ BB , BC ก็ใช้ดาดฟ้าเป็นไม้ ^ ^ อย่างลำนี้คือ Ise Battleship ก็ใช้ไม้ในการวางดาดฟ้าเรือ ในส่วนหน้า ส่วนหลังที่ใช้ปล่อยเครื่องบินก็เป็นเหล็ก แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 52 12:10:31 จากคุณ : Doralords - [ 14 ก.พ. 52 12:07:40 ]

ความคิดเห็นที่ 10 อย่างงี้ต้องมาเจอกับ มิไร จากเรื่อง zipang จากคุณ : netkuff72 - [ 14 ก.พ. 52 12:21:48 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ในเรื่องของการที่กองทัพเรือมะริกันนิยมใช้ดาดฟ้าเรือบรรทุกเครื่องบินเป็นไม้นั้น "เจไดหนุ่ม" จะมาอธิบายเหตุผลอย่างคร่าวๆดังนี้ครับ  โดยก่อนอื่นเราต้องมาลองย้อนไปในช่วงยุค30-40ก่อนครับ **วัสดุสังเคราะห์หลายประเภทยังไม่ถูกคิดค้น**      เป็นเรื่องจริงที่ว่าในยุคนั้นวัสดุจำพวกพลาสติก ไทเทเนียม หรือโลหะผสมหลายต่อหลายชนิดที่เรารู้จักกันดีในปัจจุบันนั้นยังไม่ถูกคิดค้นขึ้นมาครับ  อันจะเห็นได้จากเครื่องไม้เครื่องมือในชีวิตประจำวันแลอาวุธสงครามแขนงต่างๆในยุคนั้นที่ยังใช้ไม้และโลหะหนักเป็นส่วนประกอบ อาทิเช่นปืนกลหนักหรือไรเฟิลประจำกายของทหารราบที่ยังมีส่วนประกอบของไม้แลเหล็กอยู่  (เยอรมนีเป็นเจ้าแรกที่ผลิตปืนกลเบารุ่น "Mp" ด้วยโลหะเบาซึ่งปั๊มขึ้นรูปมาจากโรงงานเพื่อความรวดเร็วในการผลิตครับ  ในขณะที่ "ทอมมี่" ของอเมริกาแลปืนกลเบาชนิดอื่นของยุโรปยังมีส่วนประกอบของไม้อยู่) **ความชะล่าใจ?**      นั่นจึงทำให้การจัดสร้างดาดฟ้าเรือบรรทุกเครื่องบินของอเมริกาในตอนนั้นจึงมักจะใช้วัสดุที่ทำจากไม้  ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการลดน้ำหนักของตัวเรือนั่นเองครับ  แต่ข้อเสียของการใช้ไม้นั้นเพื่อนๆหลายท่านอาจจะทราบกันแล้วก็คือความเสี่ยงต่อการโจมตีด้วยเครื่องบินดำทิ้งระเบิด  เพราะไม้เป็นวัสดุที่ง่ายต่อการติดไฟจึงเสี่ยงต่อการโมตีด้วยอาวุธที่ทำให้เกิดเปลวเพลิงซึ่งอาจลุกลามไปยังส่วนอื่นๆของเรือได้  แต่สิ่งที่ทำให้อเมริกายังดื้อดึงผลิตดาดฟ้าแบบไม้นั่นก็คือความชะล่าใจแลการยังไม่เคยเจอของจริงครับ        โดยเมื่อคราวเหตุการณ์ที่อ่าวเพิร์ลจนยุทธภูมิประวัติศาสตร์ที่เกาะ "มิดเวย์" นั้นเรือบรรทุกเครื่องบินอเมริกายังไม่ค่อยเจอกระดูกชิ้นโต  กล่าวคือกองทัพเรือแลเครื่องบินของพวกยุ่นยังไม่ค่อยได้ฉะกับเรือบรรทุกเครื่องบินมะกันเท่าไหร่  จนเมื่อพวกยุ่นใกล้แพ้แลมีการใช้ยุทธวิธีนักรบพลีชีพ "คามิกาเซ่" ขึ้นมา เสนาธิการของมะริกันจึงรู้ซึ้งถึงความผิดพลาดขนานใหญ่เมื่อเครื่องบินพวกยุ่นทำการเสี่ยงตายทิ้งระเบิดแลดำดิ่งเข้าชนดาดฟ้าเรือบรรทุกเครื่องบินจนพังยับ  ยังผลให้เกิดไฟไหม้ขนานใหญ่แลนำไปสู่การเสียเรือบรรทุกเครื่องบินจำนวนมากในช่วงปลายสงครามนั่นเอง  (อัตราการสูญเสียของเรือมะริกันด้วยฝีมือของนักบินคามิกาเซ่นั้น  มากกว่าการสูญเสียในการรบทางผิวน้ำกับกองทัพยุ่นด้วยเรือประจันบานเสียอีก) *ผลกระทบหลังสงคราม*      ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เมื่อสงครามสงบลงกองทัพเรือมะริกันจึงได้มีการเปลี่ยนแปลงสเป็คของเรือบรรทุกเครื่องบินที่จะเข้ามาประจำการใหม่ให้ใช้วัสดุอื่นที่ไม่ใช่ไม้แทนในการสร้างดาดฟ้าเรือ  จนมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงมาหลายต่อหลายครั้งอย่างที่เราได้เห็นกันในทุกวันนี้ครับ (May the Spoi lbe with you) ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน จากคุณ : เจไดหนุ่ม - [ 14 ก.พ. 52 12:57:51 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ผมว่าเป็นข้อได้เปรียบเลยนะนั่น คิดดูว่าไม้กับ เหล็ก อะไรมันซ่อมได้ง่ายกว่ากัน จากคุณ : bankpakim - [ 14 ก.พ. 52 14:50:01 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เจอ มิไร เสร็จหมดครับ จากคุณ : ซายูบิ - [ 14 ก.พ. 52 15:40:57 ]

ความคิดเห็นที่ 14 อืม ต้องบอกว่า ดาดฟ้าไม้ ซ่อมแซมได้เร็วมากๆ ครับ ขอยกตัวอย่าง uss yorktown โดนระเบิดลง รันเวย์เสียหาย แต่หน่วยช่างซ่อมแซม และออกปฏิบัติการต่อได้ ทันทีภายในเวลาเพียงแค่ 3ชม. หน่วยช่าง ของ ฝ่าย สหรัฐ ค่อนข้างมีชื่อเสียงกับการ ซ่อมแซม เรือ ในระหว่างภารกิจครับ บางที สภาพเรือ ดูสภาพไม่น่ารอด ถึงขั้น ฝ่ายนักบิน ญี่ปุ่นวิทยุ ถึง ฐานว่า เราจม เรือได้แล้ว แต่ ก็สามารถซ่อมแซม เครื่องยนต์ ถึงไม่ทั้งหมดแต่ก็พาเรือ กลับออกจากแนวรบ เข้าซ่อมแซมใหม่ได้หลายครั้ง ภาพ เรือบรรทุกเครื่องบินของ จขกท น่าจะเป็น เรือ เอนเตอไพรซ์ ใช่หรือไม่ครับ เพราะจำได้ว่า มี ยุทธนาวี นึง โดน ระเบิด ลง ท้ายลำเช่นเดียวกะในภาพ พลปืนปตอ. โซนนั้น ละลายไปทั้งแนว และ ทำให้เรือ เสียหายหนักมาก ต้องออกจากแนวรบ มุ่งหน้าเข้าซ่อมแซมที่อู่ในฐานที่สหรัฐ ทันที ดัง ภาพ เครื่องบินจากใต้ดาดฟ้า ถูกยก ขึ้นทางลิฟท์ที่ยังไม่ได้รับความเสียหาย และเป็น การปิดฉาก เรือ บรรทุกเครื่องบินที่ มีชื่อเสียงที่สุดของสหรัฐ กับ สงครามโลกครั้งที่2 นั่นเอง จากคุณ : USMC - [ 14 ก.พ. 52 21:34:02 A:125.25.118.229 X: TicketID:201209 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เพิ่่มเติมให้นิดหน่อย นน เครื่องบินในสมัยนั้นต่อเครื่องถือว่าไม่เยอะครับ  นน บรรทุก และแรงปะทะ ตอน take-off+landing  แค่ดาดฟ้าไม้ก็เอาอยู่ จากคุณ : Kross_ISC - [ 15 ก.พ. 52 01:41:21 ]

ความคิดเห็นที่ 16 #5 POW กับ Repulse โดนเครื่องทิ้งระเบิดแนวระดับ และ ต ครับ จากคุณ : helldiver - [ 16 ก.พ. 52 00:40:11 ]

ความคิดเห็นที่ 17 #16 ทั้ง POW กับ Repulse ก็จมเพราะ:-)ะครับ  แต่ยกตัวอย่างว่า  การทิ้งระเบิดแนวดิ่งหรือ dive bomber มันมีมาตั้งนานแล้ว  ไม่ใช่พึ่งมีตอนหลังอย่างที่ #2 บอก จากคุณ : craftman - [ 16 ก.พ. 52 16:22:24 ]