ความคิดเห็นที่ 1 สมุมติพิมพ์แจกซักคนละ 1 แสน คนก็จะเอาไปซื้อนู่นซื้อนี่ แล้วท้ายที่สุดของก็จะขึ้นราคา มาม่าจากซองละ 6 บาทจะกลายเป็นซองละ 6,000 บาท เงินเฟ้อครับ จากคุณ : ichioini - [ 14 ก.พ. 52 14:45:33 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ขืนเราพิมพ์ตังค์ออกมาใช้ตามใจ ชาติอื่นก็เอามั่ง ไม่มีการควบคุม เงินก็ล้นโลก ค่าเงินไม่สอดคล้องกัน ก็คิดว่ากลายเป็นเงินกงเต็กแน่ๆ ครับ...เค้าว่า เรา ต้องมีทองอะไรประมาณนั้นค้ำประกันค่าเงิน...ก็ไม่รู้ ว่าทองอยู่ที่ไหน แถวเยาวราชหรือเเปล่า? ไม่เข้าใจ เหมือนกัน ต้องรอผู้สันทัดมาอธิบายแบบบ้านๆหน่อย เพราะหว้ากอเนี่ยหัวไปทางวิทยาศาสตร์มากกว่าเศรษ ศาสตร์ คิดว่านะ... จากคุณ : เต๋านีโอ - [ 14 ก.พ. 52 14:47:10 ]

ความคิดเห็นที่ 3 =[]= มันมีมาตราของเขาในการพิมพ์แบงค์ใข้ พิมพ์มั่วซั่วได้อย่างไร เงินเฟ้อพอดีกัน จากคุณ : แมวเหมียวปริ้นจิ - [ 14 ก.พ. 52 14:49:03 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ^ จำได้ว่าดูในหนัง 102 ปิดกทม.ปล้นไม่นาน จะมีทองอยู่ที่แบงค์ชาติเอาไว้ค้ำค่าเงินหรือว่าเป็นเงินสำรองนี่หละครับ จากคุณ : ichioini - [ 14 ก.พ. 52 14:49:23 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เงินจะกลายเปนแค่เศษกระดาษครับ จากคุณ : GreenEyes - [ 14 ก.พ. 52 14:49:56 ]

ความคิดเห็นที่ 6 #4 อืมมม น่าจะใช่นะ เขาน่าจะใช้ ค่าของทองคำ เคยได้ยินมาเหมือนกัน ผิด ถูกอย่างไรรอผู้รู้มาตอบให้เครียอีกทีดีกว่า จากคุณ : แมวเหมียวปริ้นจิ - [ 14 ก.พ. 52 14:52:00 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เกี่ยวกับ ทองคำ ครับ จากคุณ : ken_tempon - [ 14 ก.พ. 52 15:00:38 ]

ความคิดเห็นที่ 8 พิมพ์เอง คงต้องเป็นคูปองใช้ส่วนตัวในบ้านนะครับ ลองคิดดูว่า ถ้ามีคนมาซื้อของกับคุณ โดยที่เขาพิมพ์ธนบัตรเองที่บ้าน คุณอยากจะขายให้หรือเปล่า ได้ธนบัตรเขามา เอาไปใช้ที่อื่นได้หรือเปล่า ประเทศอื่น จะไม่ขายของให้เรา ก็ด้วยสาเหตุเดียวกัน ไปๆมาๆ แม้แต่คนในชาติเอง ก็ไม่อยากจะเชื่อมูลค่าของธนบัตรนั้น ซึ่งก็คือ เงินเฟ้อ สรุปคือ ความน่าเชื่อถือของธนบัตร มันต้องมีสิ่งค้ำประกัน ระบบที่ทุกประเทศตกลงร่วมกันคือ แต่ละประเทศต้องมีทองคำมูลค่าเท่าธนบัตรที่พิมพ์ออกใช้ในประเทศ เอาไปวางไว้ที่กรรมการกลาง เพื่อให้ได้รับความเชื่อถือจากชาติอื่นๆ เขาจึงจะยอมค้าขายด้วย จากคุณ : ksk - [ 14 ก.พ. 52 15:15:20 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ซิมบับเว จากคุณ : GeneGTO - [ 14 ก.พ. 52 15:17:32 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ลองดูแค่ในครอบครัวตัวเองสิครับ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับใคร สมมติว่า จขกท มีเงินอยู่ 100 บาท อยากให้มีเงิน สัก 1 พันบาทจะทำอย่างไร พิมเอาเองอีก 900 แล้วเอาไปให้ลูกให้เมียใช้ มันจะได้หรือป่าว จากคุณ : นายโอ้นโต้น - [ 14 ก.พ. 52 15:25:20 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขึ้นกับทองคำสำรองครับ ถ้าพิมพ์เยอะขึ้นแต่จำนวนทองคำสำรองเท่าเดิมจะทำให้ค่าเงินตกและดูว่าสกุลเงินนี้ไม่น่าเชื่อถือครับ ว่าง่ายๆ แต่อาจไม่ถูกซักทีเดียว คุณมีเงินจริงๆ แค่ 100 บาท แต่ออกคูปองให้เพื่อนบาทแลกใช้ 1000 บาท เพื่อนบ้านคุณขี้เกียจใช้คูปองนี้แล้วรวมตัวกันมาแลกคืนเป็นเงินจริงๆ คุณต้องจ่ายเงินเค้า 1000 บาททั้งๆ ที่คุณมีแค่ 100 บาท ซึ่งเป็นไปไม่ได้ จากคุณ : มอนตะทาโร่ - [ 14 ก.พ. 52 15:33:57 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เมื่อก่อนใช้ทองเป็นตัวหลักค้ำค่าเงิน แต่การพัฒนาของระบบการเงินมันเปลี่ยนไปเยอะจนเดี๋ยวนี้สัดส่วนทองที่แบงค์ชาติถือไว้เป็นสินทรัพย์มีนิดเดียว ของไทยแค่ 2% หน่อยๆ สินทรัพย์ที่เหลือส่วนใหญ่ที่ถืออยู่เป็นสกุลเงินต่างประเทศ รู้สึกซิมบัฟเวเคยพิมพ์แบงค์เองแบบไม่มีการค้ำ แต่ตอนนี้ 94% ของคนในประเทศเค้าไม่มีงานทำ เกิดโรคระบาด อัตราเงินเฟ้อพุ่งเป็นล้าน % ติดต่อกันมาหลายเดือนและทวีคูณไปเรื่อยๆ เงินช่วยเหลือที่เข้าไปบางส่วนเอาไปจัดงานเลี้ยงให้งานวัดเกิดครบ 85 ปีของประธานาธิปดี คนอดอยากที่ประท้วงได้ส่วนแบ่งเป็นลูกปืน แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 52 15:41:43 จากคุณ : เกรียนมาสเตอร์ - [ 14 ก.พ. 52 15:40:42 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เหมือนว่า จะต้องเอา อะไรสักอย่าง ไปวางค้ำประกันไว้ แล้วจึงผลิตแบงค์ออกมา น่ะครับ ประมาณว่า เอาทองไปเปลี่ยนเป็นเงินสดมาหมุนเวียนในประเทศชาติ จากคุณ : Chimaira - [ 14 ก.พ. 52 15:41:38 ]

ความคิดเห็นที่ 14 แบงค์ 250 000 000 ของ ZImbabwe ครับ รู้สึก 50 000 000 จะซื้อกล้วยได้ 1 หวี - - แต่จริง ๆ ผมก็เคยสงสัยนะว่า ไอ้คนที่กำหนดระบบทองคำเพื่อเป็นอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศคนแรกนี่คือใคร ? ให้เดา ไม่ Europe ก็ USA แล้วทำไม ประเทศอื่นต้องยอมอยู่ร่วมในกฏที่ตั้งขึ้นมาโดยเอามาตรฐานที่ตัวเองได้เปรียบเป็นตัวยืนก็ไม่รู้ วันนึง น่าจะเปลี่ยนจากเกณฑ์ทองคำเป็นข้าวสารบ้าง :D จากคุณ : cookiecompany - [ 14 ก.พ. 52 15:42:46 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ^ ข้าวสารคงลำบากในการเก็บรักษาพอสมควรละครับ เกิดมีความชื้นหรือมอดหลุดเข้าไปในคลัง มูลค่าข้าวสารอาจเหลือไม่ถึงครึ่งก็ได้ เหอๆ ส่วนเรื่องว่าทำไมไม่พิมพ์แบ๊งค์ใช้เองเยอะๆ คห บนๆ รวมถึงกระทู้เก่าๆ ก็พูดถึงกันเยอะแล้วครับว่า พิมพ์มาเยอะๆ สุดท้ายแบ๊งค์นั้นก็จะไม่ต่างอะไรกับแบ๊งค์กงเต๊ก ไม่มีใครเชื่อถือยอมรับ ไม่มีใครอยากได้อยากเก็บไว้อยู่ดี จากคุณ : เกียรตินำ - [ 14 ก.พ. 52 15:56:00 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ผมอยากให้ จขกท นึกถึงความเป็นจริง แบบนี้ แล้วจะรู้ว่าเงินมีค่ายังไง ไม่มีค่ายังไง?? ให้คนไทยทุกคนไม่ต้องทำอะไร กินนอนอยู่ที่บ้าน รัฐบาลพิมพ์เงินแจก อย่างเดียว เงินหมดก็ไปรับได้อีก.. คนทำนาก็ไม่ได้ทำนา คนเลี้ยงหมู่ก็ไม่เลี้ยงหมู คนขายกับข้าวก้ไม่ขาย สิ่งของเครื่องใช้ไม่มีใครทำขาย เพราะคอยไปรับแจกเงินอย่างเดียว ก็พอแล้ว เห็นไม๊ครับมีเงิน แต่ ข้าวกินไม่มี ไม่ได้ทำนา หมูเห็ดเป็นไก่ ก็ไม่มี ไม่มีคนเลี้ยง ข้าวของเครื่องใช้ไม่มีเงินก็เป็นได้แค่เศษกระดาษ ...........มองออกแล้วยังครับ......... .....เพิ่มเติม... แต่เงินคือ ไม่ต้องสร้างฉางเก็บเหมือนข้าว มีข้าวเอาไปขายเอาเงินเก็บ ที่ธนาคาร ข้าวต้องแบก แต่เงินโยกแต่ตัวเลข โอนไปโอนมา กี่ล้านก็ได้ คนรวยถึงได้รวยมากๆๆๆๆ เกินความจำเป็น กินไม่หมด แต่ก็ยังผลิตอยู่นั่นแหละ และไปเก็งกำไร ทำให้เกิดการผลิต มาก จนทำให้โลกร้อน เห็นไม๊ครับ ซึ่งเค้าเรียก ดีมานซัพพลาย...DEMAND SUPPLY .......ที่ผมพูดนี้ เป็นพื้นฐานทางธรรมชาติ ล้วนๆ ครับ จขกท ลองนึกดู จากคุณ : ดอกไม้ริมทาง - [ 14 ก.พ. 52 16:32:03 A:117.47.97.28 X: TicketID:203484 ]

ความคิดเห็นที่ 17 มี #11 อันเดียวที่ตอบเข้าเค้า นอกนั้นตอบอะไรก็ไม่รู้ หว้ากอเป็นอะไรไปแล้ว -"- จากคุณ : ปลากวน - [ 14 ก.พ. 52 16:41:35 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ผมเข้าใจว่า เค้าไม่ได้ใช้ทองคำเป็นตัวกำหนด มานานแล้วนะครับ แต่โรงเรียนก็ยังสอนอยู่ว่าใช้ทองคำ จากคุณ : oakemon - [ 14 ก.พ. 52 16:43:52 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ผมว่า จริงๆมันก็เป็นแค่สิ่งสมมติกันขึ้นมา ที่ทั่วโลกยึดเอาเป็นมาตรฐานครับ และปกติก่้มีการพิมพ์ออกมาเรื่อยๆอยู่แล้วครับ จากคุณ : โบวี่ (bovy_zzz) - [ 14 ก.พ. 52 16:58:45 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ตอบคุณปลากวน ผมว่าคคห.อื่นเขาก็ตอบตรงประเด็นนะครับ เพราะการพิมพ์เงินแจกมันทำให้เกิดเงินเฟ้อจริงๆ  ว่าง่ายๆคือเมื่อปริมาณเงินในระบบเพิ่มขึ้น คนทั่วไปจะใช้จ่ายมากขึ้น สิ่งที่ตามมาคือ คนเหล่านี้ก็จะทำงานน้อยลง(ก็ในเมื่อได้เงินเพิ่มแล้วจะทำงานเท่าเดิมทำไม) เมื่อการทำงานลดลง การผลิตสินค้าและบริการต่างๆก็จะลดลงตามไปด้วย ประเทศไทยเป็นประเทศทุนนิยมแบบผสม เพราะฉะนั้นราคาสินค้ามันขึ้นอยู่กับปริมาณสินค้า นึกภาพว่าพอปริมาณสินค้าลดลง แต่ในขณะที่คนต้องการสินค้ามากขึ้น  ผลลัพธ์ก็คือราคาสินค้าต้องสูงขึ้นตาม  ในเมื่อของใช้ราคาสูงขึ้นแล้วเงินที่ได้มาจะมีค่าอะไร? สรุป เงินในระบบเพิ่มขึ้นแต่การผลิตเท่าเดิม --> ภาวะเงินเฟ้อ ภาวะเงินเฟ้อรุนแรงหน่อยก็แบบซิมบับเว ไข่ฟองเดียวราคาเป็นล้าน นี่เป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ในกระทู้พยายามจะสื่อครับ ไม่ได้มีใครตอบ"อะไรก็ไม่รู้"  หว้ากอก็ยังเป็นหว้ากอเหมือนเดิมครับ จากคุณ : โซรุจะ - [ 14 ก.พ. 52 17:02:23 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ฮังการี 1946 โยนทิ้งกันเป็นขยะ http://en.wikipedia.org/wiki/File:Inflaci%C3%B3_utan_1946.jpg จากคุณ : be Ambitious - [ 14 ก.พ. 52 17:13:05 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เยอรมัน 1923 ไร้ค่าจนเอามาแปะฝาบ้าน http://en.wikipedia.org/wiki/File:Bundesarchiv_Bild_102-00104,_Inflation,_Tapezieren_mit_Geldscheinen.jpg จากคุณ : be Ambitious - [ 14 ก.พ. 52 17:14:40 ]

ความคิดเห็นที่ 23 แบงค์ใบนี้ซื้อเรือได้หนึ่งลำ จากคุณ : ลุง500 - [ 14 ก.พ. 52 17:19:11 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ซิมบับเว 2008 ซื้อไข่ได้สามฟอง http://en.wikipedia.org/wiki/File:Hundred_billion_dollars_and_eggs.jpg จากคุณ : be Ambitious - [ 14 ก.พ. 52 17:19:24 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ลำนี้ครับไว้ออกทะเล จากคุณ : ลุง500 - [ 14 ก.พ. 52 17:21:00 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ของลุงว่าเยอะ เจอนี้เข้าไป แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 52 17:22:25 จากคุณ : be Ambitious - [ 14 ก.พ. 52 17:21:14 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ซิมบับเว 2008 หนึ่งร้อยล้านล้านดอลล่าร์ ซื้ออะไรได้บ้าง http://en.wikipedia.org/wiki/File:Zimbabwe_$100_trillion_2009_Obverse.jpg แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 52 17:25:48 แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 52 17:24:06 จากคุณ : be Ambitious - [ 14 ก.พ. 52 17:23:51 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ข้อความจาก Wiki เกี่ยวกับเรื่องนี้มีดังนี้... "Modern currencies are not linked to physical commodities (silver or gold) and are not a contract to deliver a good or service. As such the value of a currency fluctuates based on politics, perception and emotion in addition to monetary policy." ดังนั้น คห. ที่ update จึงเป็น คห. 18 จากคุณ : Shinemon คุง - [ 14 ก.พ. 52 17:27:15 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ห้ามเอาทิ้งชักโครกนะ http://www.nytimes.com/images/blogs/freakonomics/posts/Zimdollars.jpg จากคุณ : be Ambitious - [ 14 ก.พ. 52 17:28:35 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ทำไมไม่ลองแอบพิมพ์เอาล่ะครับ รู้กันไม่กี่คน ส่วนวิธีกระจายเงินตราก็ผ่านทางนโยบายแจกเงินทั้งหลายแหล่ เพราะเงินเฟ้อมันมาจากคนถือเงินที่ไม่เชื่อถือเงินสกุลนั้นๆ งั้นเราก็ทำให้เค้าไม่รู้สิครับ ใช้ไปเหมือนเดิม ไม่คิดว่ามันเฟ้อแต่อย่างใด จากคุณ : Sakurachan (Tomoeda) - [ 14 ก.พ. 52 17:30:56 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เยอรมัน 1923 เอาเงินไปซื้อฟืนได้ไม่คุ้มเลย เผาเงินมันเลยคุ้มกว่า http://arslounge.com/tag/mugabe/ จากคุณ : be Ambitious - [ 14 ก.พ. 52 17:45:01 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เยอรมัน 1923 อีกล่ะ ไม่มีเงินซื้อของเล่น เอาเงินให้ลูกเล่นซะเลย http://the-master-class.com/ จากคุณ : be Ambitious - [ 14 ก.พ. 52 17:46:29 ]

ความคิดเห็นที่ 33 หนึ่งปีต่อมา 1924 แม่บ้านเยอรมันเตรียมเงินไว้เผาเป็นฟืนหุงข้่าว http://theoath.wordpress.com/2008/09/13/lehman-bros-employee-its-over-man/ จากคุณ : be Ambitious - [ 14 ก.พ. 52 17:51:03 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ตอนสงครามโลกครั้งที่2 ญี่ปุ่นยึดไทย ก็พิมพ์แบ๊งค์ไทยใช้เอง นะครับ ตอนหลังก็ไม่มีค่าหมือนแบ๊งค์กงเต๊กเลย...    การออกธนบัตรจะต้องเป็นไปตามวิธีการที่กฎหมายกำหนดไว้ เพื่อให้ธนบัตรเป็นที่เชื่อถือของประชนชน นั่นคือ เป็นไปตามข้อกำหนดในพระราชบัญญัติเงินตรา    ตามพระราชบัญญัติเงินตรา ธนาคารแห่งประเทศไทยจะนำธนบัตรออกใช้ได้ใน ๒ กรณี คือ    ๑. แลกกับธนบัตรชำรุด    ๒. แลกกับสินทรัพย์ในจำนวนที่เท่ากัน สินทรัพย์จำนวนนี้หมายถึงทองคำ เงินตราต่างประเทศ หลักทรัพย์ต่างประเทศ หลักทรัพย์รัฐบาลไทยและหลักทรัพย์อื่น จำนวนสินทรัพย์ทั้งหมดส่วนที่เป็นทองคำ เงินตราต่างประเทศและหลักทรัพย์ต่างประเทศทั้งหมด จะต้องมีจำนวนไม ่น้อยกว่าร้อยละ ๖๐ ของธนบัตรที่นำออกใช้ทั้งสิ้น ... ประเทศเดียวที่พิมพ์ธนบัตรออกมาใช้โดยไม่ต้องใช้สินทรัพย์ทองคำเป็นตัวค้ำ คือ ประเทศสหรัฐอเมริกา... แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 52 18:09:18 จากคุณ : เต๋านีโอ - [ 14 ก.พ. 52 18:02:54 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เหรียญทำเองได้ใช่ป่ะ เหมือนเคยเรียนเลย ส่วนแบงค์ต้องจ้างเค้าพิมพ์ จากคุณ : OrganizerO - [ 14 ก.พ. 52 18:10:42 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ^ ^ ^ โรงพิมพ์อยู่แถวธนบุรีปากท่อครับ... จากคุณ : Night Claw - [ 14 ก.พ. 52 18:27:22 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เหรียญมันมีราคาในตัวอยู่แล้วครับ เพราะทำจากโลหะมีค่า... จากคุณ : be Ambitious - [ 14 ก.พ. 52 18:33:20 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ผมคหที่16 เงินคือเอกสารชนิดหนึ่งใช้รับรองการมีสิ่งของเป็นมูลค่า ตามจำนวนเงิน อยู่ๆพิมพ์เงินออกมา เงินนั้นก็ไม่มีค่าเพราะไม่มีของเพิ่มขี้นมา มันเลยเฟ้อ ผมเลยอธิบายแบบธรรชาติ ให้ลึกซึ้ง เห็นคนถามมากเหมือนกัน ยกตัวอย่างญี่ปุ่น เค้ารวยเพราะเค้าทำของออกมาขายทั่วโลก ถ้าพิมพ์แต่เงิน เต็มประเทศ เค้าจะรวยไม๊คิดเอาเอง ผมคิดว่าไม่นอกประ เด็นนะ แต่อยากให้ จขกทเข้าใจความเป็นจริงทุกอย่างอยู่บนฐาน ความเป็นจริง ที่ว่าต้องมีทองคำสำรอง ผมรู้ครับ แต่อันนั้นเป็นหลักการ ระเบียบการ ทองคำมันมีค่าในตัวเหมือน น้ำมัน ข้าว ส่วนอเมริการนั้นพิมพ์ฟรีได้เพราะความมั่นใจ ใครถือดอลล่าร์ถือว่าโอเค ถ้ายูเอสดอลล่าหมดค่า ก็แสดงว่าอเมริกาล่มสลายแล้ว แล้วทั้งโลกจะอยู่ เหรอ. นอกจากอัลกออีดะ แต่เท่ากับเค้าใช้เงินในอนาคตเหมือนกัน ดอลล่าร์ออกสู่ตลาดเยอะ เวลาคนเอาดอลล่าร์ไปซื้อของ อเมริการก็ต้อง มีของขายให้เค้า เช่นเครื่องบินงี้....ของประเทศเขาชิ้นหนึ่งมูลค่าเท่าไหร่ เอฟ22 ลำเดียว หมื่นกว่าล้านบาทมั๊ง... จากคุณ : จ่อย - [ 14 ก.พ. 52 18:46:08 A:117.47.97.28 X: TicketID:203484 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบคุณคุณโซรุจะ เงินที่พิมพ์เอง มันจะไม่มีค่า ใช่ครับถูก ก็เหมือนคนที่ไปขโมยของมา ก็จะไม่ใช่คนดี คำตอบแบบ นามธรรมอย่างนี้ใครก็ตอบได้ครับ ผมว่าที่ตอบๆกัน มันยังไม่ตอบคำถามที่ว่า ทำไมอยู่ๆเราถึงพิมพ์เงินใช้เองดื้อๆเลยไม่ได้ มีแต่ตอบ ประมาณ ถ้าพิมพ์แล้วมันจะเป็นยังงี้ๆ มันจะเฟ้อ แล้วจบด้วย ลองไปคิดเอาเอง มันยังไม่เคลียร์น่ะครับ -"- ตามความเข้าใจของผม เงินคือสิ่งที่สมมติเอามาแทนมูลค่าของทรัพย์สิน เพราะเวลาซื้อขาย เราไม่ สามารถจะเอาสิ่งของไปแลกกันตรงๆได้ จึงต้องกำหนดเงินขึ้นมาเป็นตัวกลาง เงินที่พิมพ์ออกมา จึงต้องมีมูลค่าเท่ากับสิ่งของที่เรามี แล้วจะรู้ได้ไงว่าใครมีเงินจริงๆเท่าไร ก็ต้องใช้โลหะมีค่า เช่นทอง เป็นตัวรับรองว่าคุณมีเงินเท่านี้จริงๆ อันนี้เข้าใจแล้ว แต่ที่อยากรู้คือ เค้าควบคุมยังไงจึงจะทำให้ไม่เกิดการพิมพ์เงินออกมามากกว่าทองที่มี อย่างที่ คหที่ 30 ถามน่ะครับ ถ้าอเมริกาเป็นคนควบคุมการพิมพ์ธนบัตร แล้วทำไมเราไม่แอบพิมพ์เองไม่ให้อเมริการู้ล่ะครับ? เค้าควบคุมได้ยังไง ไม่ให้ใครแอบพิมพ์เอง? ถ้าเราแอบพิมพ์เอง เค้าจะรู้มั้ย จะรู้ได้ยังไง? ถ้าเราพิมพ์เอง แล้วเอาไปซื้อของจากประเทศอื่นเข้ามา แล้วมันจะเฟ้อในประเทศเราได้ยังไงล่ะครับ? คือที่ตอบๆกันมันเหมือนกับตอบว่า เราขโมยของคนอื่นไม่ได้ เพราะกฏหมายเค้าห้าม อันนั้นรู้ครับ แต่อยากรู้ว่า งั้นถ้าเราขโมยแบบไม่ให้ใครรู้ เค้าจะจับเราได้มั้ย แล้วเค้าจะจับได้ยังไง? เข้าใจมั้ยครับ -"- จากคุณ : ปลากวน - [ 14 ก.พ. 52 19:12:24 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ตอบ #39 พิมพ์ได้ครับ ไม่มีใครรู้  แต่ถ้ามากเกินจะตรวจความผิดปรกติได้ใน ดุลการชำระเงิน การพิมพ์เพิ่มขึ้นมามากกว่า ทุนสำรองระหว่างประเทศ (เงินสกุลต่างประเทศ และ ทองคำสำรอง SDR และกองทุนใน IMF )  พวกนี้จะอยุ่ในรายการ ดุลการชำระเงิน ซึ่งมีอยู่ 3 บัญชีครับ 1.Current account 2.Capital account 3.Reserve account การทำแบบนี้จะทำให้เกิดผลเสียต่อมากกว่า เพราะ จะทำให้ค่าเงินบาทมีค่าน้อยลง เมื่อเงินบาทในประเทศ เพิ่มขึ้นมาก มากเกินกว่าทุนสำรองระหว่างประเทศที่มี จะทำให้ความน่าเชื่อถือของเงินบาทลดลง  เหมือนเงินกงเต๊กนะครับ ฝรั่งจะมองเราแบบนั้น ผมอธิบายไม่ค่อยเก่งด้วยสิ จากคุณ : เรียนเศรษฐศาสตร์ (กรุณาเก็บให้พ้นมือเด็ก) - [ 14 ก.พ. 52 19:42:47 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เด่วผมตอบข้อนี้ก่อนนะ คำถามคุณปลากวน ถ้าเราพิมพ์เอง แล้วเอาไปซื้อของจากประเทศอื่นเข้ามา แล้วมันจะเฟ้อในประเทศเราได้ยังไงล่ะครับ? - คุณปลากวน ต้องเขาใจว่า ธนบัตรของเรา ใช้ซื้อของประเทศอื่นไม่ได้นะ ครับ เราเอาเงินบาทไปแลกเงินประเทศนั้นหรือยูเอส ดอลล่าร์ก่อน ถึงจะ ไปซื้อได้ครับ..เค้ารับเงินน้อยๆพอรับได้...เยอะเค้าไม่รับ เวลาจ่ายค่าน้ำมันก็ต้องจ่ายตอลล่าร์ หรือเอาข้าวไปแลกโดยตรง ถ้าชายแดนใกล้ๆกัน ลาว พม่า เขมร ไม่ต้องดอลล่า ระดับชาวบ้านๆ -สำหรับเงินบาทเรา เราพิมพ์เอง ธ.แห่งประเทศไทย คุม ต่างประเทศไม่ได้ คุม อเมริกาก้ไม่ได้มายุ่งการพิมพ์ของเรา ผมตอบถูกป่ะ งง แต่ที่อเมริกาและธนาคารโลกคุม คุมส่วนไหนผมไม่รู้นะ และทองค้ำประ กันให้คนอื่นตอบจะชัดเจนกว่า... -ตอบคห30 เงินเฟ้อ คือ การใช้เงินมกกว่าปกติซื้อของเท่าเดิมเหมือนน้ำมัน ลิตรละ44 บาทกะ15 บาท หรือเงิน100 บาทมีค่าลดลงเพราะของแพง ของแพงเพราะมีน้อย หรือกักตุน หรือของใกล้หมด ......เด่วรอคืนอื่นมาอธิบายต่อให้กระจ่างทุกข้อครับ.... จากคุณ : จ่อย - [ 14 ก.พ. 52 19:50:41 A:117.47.97.28 X: TicketID:203484 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ถึงไม่มีใครจับได้ แต่ด้วยความน่าเชื่อถือของเงิน มันจะเป็นกลไกที่ทำให้ ค่าเงินไร้ความหมายครับ สมมุติกันง่ายๆ มีประเทศ ผม  กับคุณ ปลากวน  และ คุณโดราแบงค์  3 ประเทศ ทุกคนมีทองคำประเทศละ 10บาท มีกฏว่า  ทองคำ 1 บาทมีค่าเท่ากับ เงินบาท  1000 บาท (สมมุติว่าค่าเงินเดียวกันจะได้ไม่งง) เท่ากับว่าทุกประเทศมีเงิน  10000 บาท  ถูกต้องนะครับ แต่เวลาผ่านไป  ดูที่ดุลการชำระเงิน ประเทศผมและคุณโดราแบงค์มีทองคำ เพิ่มขึ้น อีก 5 บาท  เงินในประเทศ เพิ่ม มา 5000 บาท แต่ประเทศคุณปลากวนมี ทองคำในบัญชี อยู่ 3 บาท แต่กลับมีเงินในประเทศเพิ่มขึ้นมา ถึง  2หมื่นบาท   ถามว่า ประเทศอื่นจะจับได้รึเปล่า ตอบว่าอาจจะจับไม่ได้ แต่มันจะเป็นผลเสียในตัวมันเองคือ เงินในประเทศจะค่อยๆเฟ้อ  และ อัตราแอลกเปลี่ยนจะก็ค่อยๆปรับตามกลไก เพราะเรามีแต่แบงค์ ไม่ได้มีของไปขาย ไม่ได้มี เงิน ตปท ไปแลกกับเค้า เงินก็จะค่อยๆไร้ค่าๆๆ  จนเหมือน แบงค์กงเต๊กน่ะครับ แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 52 19:56:22 จากคุณ : กรุณาเก็บให้พ้นมือเด็ก - [ 14 ก.พ. 52 19:55:30 ]

ความคิดเห็นที่ 43 สรุปสั้นๆง่ายๆเลยนะครับ ต่างประเทศเค้าไม่ได้มองที่เงินบาท  เค้ามองที่ดุลการชำระเงิน (ทุนสำรองระหว่างประเทศ) คุณมีเงินบาทมากแค่ไหนก็ไม่มีความหมายถ้า ไม่มีทุนสำรองระหว่างประเทศ เพราะเวลาทำการซื้อขายต่างประเทศ ต้องผ่านทุนสำรองระหว่างประเทศทั้งสิ้น ไม่ได้เอาเงินบาทไปซื้อได้โดยตรง จากคุณ : กรุณาเก็บให้พ้นมือเด็ก - [ 14 ก.พ. 52 20:06:58 ]

ความคิดเห็นที่ 44 นั่นผมพูดได้เต็มปาก ต่อจาก คหที่42 การพิมพ์ธนบัตรไทย ไม่ต้องแอบ ครับ ธ.แห่งประเทศไทย รัฐบาบไทยเป็นคนจ้ดการ แต่เพียงผู้เดียว คุณยากพิมพ์กี่ พันโกดัง คุณก็พิมพ์ไป ไม่มีประเทศไหนมาห้าม ครับ แต่มันไร้ค่าโดยอัตโนมัติในตัวมันเอง ก็ของไมมี มีแต่เงินจะไปซื้อ อะไร ครับ...ธรรมชาติครับ จากคุณ : จ่อย - [ 14 ก.พ. 52 20:12:49 A:117.47.97.28 X: TicketID:203484 ]

ความคิดเห็นที่ 45 เงิน เป็น ตัวแทนของ มวลรวมของ "การผลิตสินค้า(และบริการ)" ถ้ามีเงิน แต่ไม่มี ของ(และบริการ) มันก็เหมือนกรณี "แชร์ลูกโซ่" หรือ "เศรษฐกิจฟองสบู่" แหละครับ เสมือนกับมี "เงินหลอกๆ" หมุนเวียนในระบบ หนำซ้ำมันจะไปพร่อง ค่าของ "เงินที่มีตัวตนจริง" ในระบบ ซะอีก สุดท้ายแล้ว ก็เกิด "เงินเฟ้อ" วิธีพิมพ์แบงก์ป้อนระบบเองแบบมั่วๆ เป็นวิธีที่รัฐบาลคนโง่ทำกัน เคยมีตัวอย่างมากมาย รัฐบาลไหนทำเมื่อไร เงินเฟ้อเมื่อนั้น ในอดีตเก่าโบราณ ญี่ปุ่น กัมพูชา เวียดนาม พม่า ไทย เคยทำมาแล้วทั้งนั้น ตอนนี้ใครๆ เขารู้กันแล้วว่า วิธีนี้แก้ปัญหาไม่ได้ ไม่มีใครโง่ทำแล้ว ก็เห็นมีแต่ ซิมบับเว นี่แหละที่ผมงงน้องแกมาก ไอ้รัฐบาลประเทศนี้ ไร้การศึกษาสุดๆ ไม่ได้ดูประวัติศาสตร์โลกกับเขาเลย คิดเป็นเด็กประถมไปได้ จากคุณ : Prof.Sirius - [ 14 ก.พ. 52 20:19:18 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ตามความเข้าใจของผมนะครับ อันนี้ผมคิดว่ามันมีหลักง่ายๆคือ เราจะพิมพ์เงินออกมาได้ ต้องคำนึงถึงทรัพย์สินที่เรามีไว้ค้ำประกันกระดาษที่เรียกว่า เงิน นั้นแหละ ทรัพย์ที่ว่าก็อาจจะเป็นพวกทอง แต่สมัยนี้ก็คงมีอย่างอื่นๆแล้วแหละ อย่างอเมกาเค้าไม่ใช้เลย คือใช้เศรษฐกิจกิจการในประเทศเป็นตัวคำประกันเลย ทำไมถึงต้องมีอะไรมาค้ำประกันเงินที่เราพิมพ์ออกมา ก็เพราะว่า เวลาที่มีคนเอาเงินของประเทศเรามาแลกคืน มัีนก็ต้องมีทรัพย์สินให้เค้าแลกคืนเงินนั้นๆไปได้ ยกตัวอย่างเช่น ไทยเรา มีมูลค่าทองที่เอาคำประกันเงิน 1000 บาท เราก็พิมพ์เงินออกมา 1000 บาท เอาเงินนี้ไปใช้ ใครๆก็เชื่อถือ เพราะว่ามันมีตัวคำประกันอยู่ ถ้าเราไม่อยากได้เงินตัวนี้แล้ว เราก็เอามาแลกกับรัฐบาลได้ ก็จะได้มาเป็นทองในราคาเท่ากันไปแทน แต่ถ้าเราพิมพ์ออกมาเป็น 2000 ละ ถ้าคนที่ได้เงิน 2000 นี้ไป เค้าจะเอามาแลกคือ เราจะเอาอะไรให้เค้า เพราะว่า เรามีทองคำมูลค่าแค่ 1000 บาท นี้แหละความหมดค่าของเงิน พอคนที่มีเงิน 2000 นี้รู้ว่าไม่สามารถแลกคืนได้ เค้าก็ต้องลดความน่าเชื่อถือเงินนี้ และสุดท้ายเค้าก็ไม่อยากได้ เงินเราก็หมดค่าไปทันที ค้าขายกับใครก็ยากเพราะไม่มีใครอยากได้เงินเรา นั้นเอง แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 52 20:59:46 จากคุณ : รูปหล่อ_พ่อคนดี - [ 14 ก.พ. 52 20:58:15 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ขอบคุณคุณปลากวน ผมอ่านมาแต่ต้นก็ยังงง ๆ ตอนนี้เริ่มเข้าใจและ ฮี่ๆๆ จากคุณ : อิฐมอญ - [ 14 ก.พ. 52 21:26:06 ]

ความคิดเห็นที่ 48 คือ ถ้าชาวบ้านแอบพิมพ์กันเอง  ก็จะได้เป็นข่าวเหมือนข่าวที่พึ่งเกิดไง พิมพ์แบงค์ปลอม ได้เข้าตารางไป เพราะจับได้ว่าผลิตแบงค์ปลอม(โทษหนัก) -การควบคุมชั้นแรก ควบคุมการสร้างวัสดุที่ใช้สร้างเงิน โดยที่ การทำธนบัตร ทำเหรียญ ต้องมีวิธีการทำที่ทำให้ปลอมแปลงหรือเลียนแบบยาก ตรงนี้ต้องอาศัยเทคโนโลยีมาช่วย ส่วนเหรียญต้องทำใ้ห้ค่าของเหรียญจริง(ค่าของโลหะที่ผลิตเหรียญ มีน้อยกว่ามูลค่าที่รัฐกำหนด/สมมติให้เหรียญนั้นๆ ไม่งั้นชาวบ้านก็จะเอาเหรียญนั้นไปหลอมแล้วขายเป็นแท่งโลหะ ได้ราคากว่า เหรียญชนิดนั้นๆก็จะขาดตลาด หาไม่ค่อยได้ เป็นปัญหาของรัฐขึ้นมาอีก) -แล้วรัฐก็ตั้งเป็นกฏหมาย บัญญัติโทษของผู้กระทำขึ้นมาอีกที เป็นการควบคุมชั้นที่สอง -ตั้งรางวัลนำจับเป็นชั้นที่สาม แล้วก็ตรวจสอบทางการเงินอีกที (อันนี้เศรษศาสตร์มหาภาค ยังไม่ได้เรียน) -ปล.-คนจะทำเงินปลอมโดนจับ    แต่คนใหญ่คนโตที่จะเอาทรัพย์สินที่ค้ำประกันค่าเงินไปใช้่สุรุ่ยสุร่าย ทำให้เงินไร้ค่า ไม่ยักโดนจับแฮะ แต่โดนหลวงตาด่า  ไม่เกี่ยวการเมืองครับไม่เกี่ยวการเมือง ปล.สอง แก้ไขข้อความใส่ เพิ่ม แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 52 21:48:19 แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 52 21:42:11 แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 52 21:41:20 แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 52 21:40:43 จากคุณ : Clarvoyance - [ 14 ก.พ. 52 21:40:09 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ได้ความรู้ดีจังเลย จากคุณ : Typhoon No.29 - [ 14 ก.พ. 52 21:54:34 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ถึง จขกท. มีนักการเมืองคนนึงเสนอไอเดียเหมือนความคิดคุณเนี่ยแหละ เคยเป็นนายกรัฐมนตรีด้วย (ตอนที่พูดยังไม่ได้เป็น) แต่ตอนนี้ ท่านป่วยอยู่ ... - -" จากคุณ : ขออภัยที่โยงเข้าเรื่องการเมือง (s m l xl) - [ 14 ก.พ. 52 21:58:33 ]

ความคิดเห็นที่ 51 คุณปลากวน ตอนนี้ไทยเราก็ไม่ค่อยได้เก็บทองคำเป็นทุนสำรองแล้วครับ ถือเป็นสัดส่วนน้อยมาก ที่จะเยอะ ก็เป็นเงินตราสกุลต่างประเทศ  และสำหรับ US หนักกว่านั้นคือ ไม่มีทุนสำรอง อิ ๆ อาจจะทำให้งงกว่าเก่า ว่าทำได้อย่างไร อย่าถามผม เพราะผมก็ตอบได้ไม่เคลียร์หรอก จากคุณ : Capo - [ 14 ก.พ. 52 22:13:51 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ในโลกนี้มีแค่สหรัฐประเทศเดียวที่พิมพ์แบงค์เองโดยไม่ต้องมีทองคำสำรอง จากคุณ : นายไวรัส - [ 14 ก.พ. 52 22:23:01 ]

ความคิดเห็นที่ 53 คห.52 รู้สึกว่าหลังแบงก์ดอลลาร์สหรัฐจะพิมพ์คำว่า "In god we trust" เราต้องมีสินทรัพย์หนุนหลังเงิน เช่น ทองคำ เงินสกุลต่างๆ ถึงจะมีความน่าเชื่อถือ จากคุณ : Boysicky - [ 14 ก.พ. 52 22:37:09 ]

ความคิดเห็นที่ 54 เข้ามาดูอีกที คนตอบยาวเหยียดเลย ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาตอบคำถามโง่ๆนี้ด้วยนะครับ แบบว่าผมยังเด็กอยู่ พอดีดูข่าว เห็นว่าท่านนายกจะไปกู้ยืมเงินต่างชาติ เลยเกิดสงสัย ว่าทำไมต้องไปยืมเงินเค้า พิมพ์ใช้เองไม่ได้หรอ? จะได้ไม่ต้องเป็นหนี้เค้าไงครับ ตอนนี้ก็เข้าใจแจ่มแจ้งแล้วครับ ขอบคุณท่านผู้ใหญ่ใจดีที่เข้ามาตอบกระทู้นะครับ ^^ จากคุณ : โดราแบงค์ - [ 14 ก.พ. 52 23:07:54 ]

ความคิดเห็นที่ 55 คุณจ่อย #41 ถ้าเราพิมพ์เอง แล้วเอาไปซื้อของจากประเทศอื่นเข้ามา แล้วมันจะเฟ้อในประเทศเราได้ยังไงล่ะครับ? - คุณปลากวน ต้องเขาใจว่า ธนบัตรของเรา ใช้ซื้อของประเทศอื่นไม่ได้นะ ครับ เราเอาเงินบาทไปแลกเงินประเทศนั้นหรือยูเอส ดอลล่าร์ก่อน ถึงจะ ไปซื้อได้ครับ..เค้ารับเงินน้อยๆพอรับได้...เยอะเค้าไม่รับ - อ้าว... ก็นั่นไงล่ะครับ พิมพ์แบงค์ไทยขึ้นมาเยอะๆ แล้วก็เอาไป "แลก" เงินประเทศอื่นเอาไปซื้อของไง ^ ^" ขอบคุณคุณกรุณาเก็บให้พ้นมือเด็ก #40 ผมพอนึกภาพออกแล้วครับ และ #43 ทำให้ผมเข้าใจแล้วล่ะครับ ขอบคุณมาก (เนี่ย.. ต้องตอบแบบนี้ถึงจะสมกะห้องหว้ากอ) ความรู้เรื่องนี้ผมไม่ค่อยมี ผมจะลองเปรียบเทียบดู ใกล้เคียงยังไงช่วยบอกด้วยนะครับ สมมติประเทศเป็นฟู้ดเซ็นเตอร์ เงินสดเปรียบเสมือนทองคำหรือทุนสำรองระหว่างประเทศ เจ้าของฟู้ดเซ็นเตอร์ก็คือแบงค์ ชาติ ทำหน้าที่ออกคูปองใช้ภายในฟู้ดเซ็นเตอร์แห่งนี้ ถ้าหากเจ้าของแจกคูปองให้ลูกค้าฟรีๆ (เหมือนพิมพ์แบงค์เองและจ่ายเข้าสู่ระบบเอง) พอลูกค้าเอาไปซื้อข้าว แล้วพอเจ้า ของร้านข้าวเอาคูปองมาแลกเงินสดกับเจ้าของฟู้ด เจ้าของฟู้ดก็จะไม่มีเงินให้แลก เพราะไม่ได้ขายคูปองจริงๆแต่แรก แต่ถ้าหากลูกค้าไปพิมพ์คูปองมาเอง มันก็จะเหมือนแบงค์ปลอม ถ้ามีเยอะๆ เจ้าของก็ขายคูปองไม่ได้ แต่กลับต้องรับแลก คูปองคืนจากร้านค้า ดังนั้น การพิมพ์แบงค์ขึ้นมาเอง ถึงจะพิมพ์โดยแบงค์ชาติ ผลที่ตามมาก็จะไม่ต่างอะไรกับแบงค์ปลอมที่คนอื่นพิมพ์ ผมเข้าใจถูกต้องมั้ยครับ? จากคุณ : ปลากวน - [ 14 ก.พ. 52 23:23:16 ]

ความคิดเห็นที่ 56 การกู้ยืมเงินต่างประเทศอธิบายให้เข้าใจง่ายๆก็คือ ตอนนี้ผมกำลังป่วยไม่่สบาย ขี้เกียจหรืออะไรก็ว่าไป ไม่สามารถทำงานสร้างผลผลิตให้พอเลี้ยงตัวเองได้ คุณช่วยทำงานสร้างผลผลิตออกมาเลี้ยงผมก่อนได้ไหม วันหน้าผมหายป่วยแข็งแรง หรือหายขี้เกียจแล้วผมจะทำงานรับใช้คุณตอบแทน จากคุณ : ~ - [ 14 ก.พ. 52 23:41:34 A:125.25.233.14 X: TicketID:188497 ]

ความคิดเห็นที่ 57 เงินคือตัวแทนสินค้าหรือบริการในพื้นที่ควบคุมของเงินนั้นๆ (ในที่นี้คือ ประเทศ FoodCenter 7-11 หรือที่ใดๆก็ตามที่ออกเงินนั้น) จำนวนเงินทั้งหมดจึงมีค่าเท่ากับสินค้าหรือบริการที่เงินนั้นซื้อได้ในพื้นที่นั้นๆ ตัวอย่าง. FoodCenter ออกคูปอง(เงินสกุลคูปองที่ใช้ซื้ออาหารในพื้นที่ FoodCenter เท่านั้น) จำนวนคูปองทั้งหมดจะสัมพันธ์กับจำนวนอาหารที่มีอยู่ทั้งหมดใน FoodCenter การซื้อคูปอง ก็คือการซื้อสินค้าหรือบริการในบริเวณนั้น เปรียบได้กับ การแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ การพิมพ์คูปองออกมาจึงต้องระมัดระวัง ถ้าพิมพ์ออกมามากเกินไป เงินก็จะเฟ้อคูปองจะลดค่า มากเกินไปในที่นี้คือ มีคูปองมากกว่าจำนวนอาหารใน FoodCenter ทำให้ราคาคูปองต้องมากขึ้น ในการซื้ออาหารจำนวนเท่าเดิม การแอบพิมพ์คูปองไม่ได้ทำให้เรามีอาหารมากขึ้น ผลของมันจะสะท้อนออกมาเอง ถึงจะแอบไปก็เท่านั้น ในกรณีเงินฝืดก็ทำนองเดียวกัน เงินเมื่อถูกเอาใช้ในระบบ มันจะสะท้อนค่าของมันออกมาเองตามคุณค่าของพื้นที่ออกเงินสกุลนั้นๆ จากคุณ : ชาเขียวเข้มๆ - [ 15 ก.พ. 52 03:45:55 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ที่บอกว่า ทำไมไม่แอบพิม  มันก็เหมือนกับปัญหาแบงค์ปลอมนั้นละ มีเงินอยู่ในระบบเศรษฐกิจมากเกินไปมันก็ไม่ได้ดีขึ้นนะ ส่วนเหรียญ ปัจจุบัน เหรียญหนึ่งบาท ก็ไม่ได้มีมูลค่าเท่ากับหนึ่งบาทนะครับ ไอ้ที่ว่าเหรียญมีมูลค่าเท่าตัวเหรียญนิเขาเลิกใช้กันมานานแล้ว จากคุณ : Calypsol_Red - [ 15 ก.พ. 52 04:16:27 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ผมตอบคุณปลากวนต่อนะครับ ผมบอกไม่หมด.... ปลากวน::::::: อ้าว... ก็นั่นไงล่ะครับ พิมพ์แบงค์ไทยขึ้นมาเยอะๆ แล้วก็เอาไป "แลก" เงินประเทศอื่นเอาไปซื้อของไง ^ ^" ....เงินประเทศอื่นนั้นถ้าเราไม่มีข้าวไปขายให้เขา เราก็ไม่มีเงินประเทศอื่น.. อย่างเราส่งข้าวไปเยอรมัน ๆให้เงินยูโร มา พ่อค้าข้าวจะเอาเงินยูโร ไปแลกเงินไทย ที่ธนาคารฯ เพื่อใช้ในประเทศไทย ....ถ้าเราไม่มีของส่งออกนอก เราจะได้เงินประเทศอื่นได้อย่างไร เงินที่ส่งของขายนอกได้ คือทุนสำรองระหว่างประเทศ ถ้าเราส่งของไปนอกเยอะ ก้จะมีเงิน ต่างประเทศเยอะ ....ที่นี่เมื่อเราอยากนำเข้าสินค้าจากเยอรมัน พ่อค้าก็เอาเงินไทย ไปแลกเงินยูโร ที่ธนาคาร จ่ายเยอรมัน... .....สาวๆเมียฝรั่งไปทำงานได้เงินยูโรมา ก็มาแลกเงินไทยที่ธนาคารไทย เห็นไม๊ครับทำให้เรามีทุนสำรองฯเพิ่มขี้นอีก... ....ถ้ามีเยอะๆๆๆก็เป็นความมั่งคั่งของเรา..... .....เล่นเก็งกำไร ค้าเงิน อีกก็ยังได้......เอาเงินไทยไปแลกยูโร พอมันได้กำไร ก็เอายูโร ไปและเป็นเงินไทยกินส่วนต่าง ....เงินสกุลหลักๆที่โลกเชื่อถือ โดยเราได้มาไม่ต้องแลกเก็บไว้ในบ้านเอง ก็ได้ ถ้าไม่กลัวราคาตกเช่น US ดอลล่าร์ ยูโร เยน ....ผมตอบเป็นครั้งสุดท้ายแล้วนะครับ..คุณปลากวน.. จากคุณ : จ่อย - [ 15 ก.พ. 52 07:51:39 A:117.47.173.88 X: TicketID:203484 ]

ความคิดเห็นที่ 60 โห คำตอบเยอะมาก เพราะเป็นคำถามที่ถามบ่อยนะ จากคุณ : รถจี๊บอิซูซู ฐท2464 ขาว เลวมาก ({M}-มดนะจ๊ะ) - [ 15 ก.พ. 52 11:09:09 ]

ความคิดเห็นที่ 61 คุณจ่อย ผมแซวเล่นนะ เพราะเห็นคุณตอบขัดกันเองอยู่ แต่ความจริงผมเข้าใจตั้งแต่ที่คุณกรุณาเก็บฯ ตอบแล้วล่ะ ถึงคุณโดราแบงค์ คำถามนี้ไม่โง่หรอกครับ เป็นคำถามที่ผมเชื่อว่ามีไม่กี่คนที่เข้าใจจริงๆและสามารถอธิบายให้คนอื่นเข้าใจ อย่างชัดเจนได้ ส่วนมากเวลาใครถามขึ้นมา ก็จะได้คำตอบแบบ คห. แรกๆ ของกระทู้นี้น่ะ คือตอบได้ แต่ไม่เคลียร์ วกวน อ้อมไปอ้อมมา จะออกแนว 1. ลองไปคิดเอาเองนะครับว่าถ้าพิมพ์เองแล้วจะเป็นอย่างไร กับ 2. ถ้าทำอย่างนั้นเงินจะเฟ้อ ซึ่งมันไม่ได้ตอบคำถามนี้ เพราะคำถามคือ เราพิมพ์แบงค์เองเยอะๆเลยไม่ได้เหรอครับ ไม่ได้ถามว่า ถ้าพิมพ์แบงค์เอง เยอะๆแล้วจะเกิดอะไรขึ้น เห็นความไปไหนมาสามวาสองศอกมั้ยล่ะครับ ผมเลยบ่นตอนแรกว่า หว้ากอเป็นอะไรไปแล้ว ก็เพิ่งมีคราวนี้แหละที่มีคนตอบจนพอจะเข้าใจภาพรวมแบบกว้างๆได้ เหมือนกับคำถามว่า ดิจิตอลคืออะไร คนจะแย่งกันตอบเหมือนกับรู้จริง แต่คำตอบมันจะประมาณ 1. มันคือ 1010101100 ครับ 2. มันคือรูปคลื่นสแควร์ครับ (แล้ววาดรูปมาให้ดู) โคตรขำเคยเจออยู่กระทู้หนึ่ง ดิจิตอลกับอนาล็อกต่างกันอย่างไร คนตอบวาดรูปซายน์กับสแควร์ให้ดู แล้วบอกว่า นี่ไงครับ ลองเอาไปคิดเอง โอ้โหพี่ตอบได้เคลียร์มาก จากคุณ : ปลากวน - [ 15 ก.พ. 52 11:45:47 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 15 ก.พ. 52 11:56:21 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ไหนๆก็ตอบกันมาเยอะแล้ว ผมขอถามเพิ่มได้ไหมครับ เพราะคิดว่าเป็นคำถามต่อเนื่องกัน คือผมอยากรู้ว่า ค่าเงินของแต่ละประเทศใครเป็นคนกำหนด เช่น 35 บาท = 1 ดอลล่า แล้วเค้าใช้หลักอะไรในการกำหนดครับ จากคุณ : อยากรู้เหมือนกัลล์ - [ 15 ก.พ. 52 19:08:09 A:202.176.152.160 X: TicketID:165515 ]

ความคิดเห็นที่ 64 การเงินนี่แม่มเป็นอะไรที่เข้าใจยากจริงๆค่ะ - -" ทู้นี้ทำให้เข้าใจมากขึ้นเยอะเลย ขอบคุณทุกท่านที่ช่วยอธิบายค่ะ จากคุณ : Ponyo - [ 15 ก.พ. 52 21:45:05 ]

ความคิดเห็นที่ 65 เด่วผมตอบให้ คห63 ผมอาจตอบแบบชาวบ้านๆหน่อยนะ ค่าเงินของแต่ละประเทศใครเป็นคนกำหนด ก็คือ ความเชื่อมั่นในตลาดโลก เป็นคนกำหนดค่ามันเองโดยอัตโนมัติ ความได้เปรียบในเชิงเศรษฐกิจของเค้าเป็นตัวกำหนด ดูอังกฤษ เมริกา ไทย ลาว ยังงี้ คนแห่ไปนิยมแห่ซื้อของประเทศไหนมาก หรือในตลาดการเก็งค่าของเงิน เงินสกุลไหนมั่นใจมาก ค่าก็ขึ้นมาก แสดงว่าประเทศนั้นมีของดี เหมือนอเมริกา ค่าเงินก็ขึ้นตามผู้ที่ ต้องการเงินสกุลนั้นๆเหมือนยูเอสดอลล่าร์ ........รอผู้อื่นมาตอบเพิ่มเติม ผมอธิบาย ไม่ค่อยเป็นครับ จากคุณ : จ่อย - [ 16 ก.พ. 52 07:16:04 A:222.123.207.73 X: TicketID:203484 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ประเทศไทยจะประกาศว่า 1 บาท ไทย เท่ากับ 1 ยูเอส ดอลล่าร์ก็ได้...ไม่ผิดกฏหมายโลก ถ้า1 บาทเท่ากับ1ดอลล่าร์ คนที่ซื้อข้าวไทยอาจต้องซื้อกระสอบละ 800 ยูเอสดอลล่าร์ แล้วของจะขายออกไม๊ ข้าวไทยก็ขายไม่ออกแพง ค่าเงินไทยเลยต้องลดเพื่อผู้ซื้อจะหันมาซื้อข้าวไทย คือ 35 บาท ต่อ 1 ดอลล่าร์ ถือว่ามีคนมาซื้อข้าวไทย ถ้า35 ไม่มีคนมาซื้อข้าวไทย ตลาดมันก็จะลดไปอีกเป็น 40 บาทต่อดอลล่าร์ ซึ่ง 35 บาทต่อดอลล่าร์ ข้าวไทยอาจกะสอบละ 28 หรือ29 ดอลล่าร์เอง .............. ในขณะเดียวกัน เราต้องเอา 35 บาท ต่อดอลล่าร์ ไปซื้อเครื่องบิน อเมริกา ซื่งต้องใช้เงินมาก ถามว่า แล้วทำไมยังซื้อ ก็เครื่องบิน เราผลิตเองไม่ได้ จะไปซื้อที่ลาว เขมร ก็ไม่มี เมื่อไทยที่ประเทศไทย เทียบเท่าอเมริกา เมื่อนั้น 1 บาท จะเท่ากับ 1 ดอลล่าร์ จากคุณ : จ่อย - [ 16 ก.พ. 52 07:46:27 A:222.123.207.73 X: TicketID:203484 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ค่าเงินถูกกำหนดโดยความต้องการเงินสกุลนั้น กับปริมาณเงินสกุลนั้นที่มีอยู่ในประเทศ(ตามภาษาเศรษฐศาสตร์คือDemand และ supplyของเงิน) เหมือนของที่เราซื้อขายกันครับที่ราคากำหนดโดยความต้องการและจำนวนของที่มี ถ้าหายาก ขาดแคลน จำเป็น ราคาก็จะสูง ค่าเงินก็เหมือนกัน มูลค่าแลกเปลี่ยนก็หมายถึงราคาของเงินนั่นเอง เช่นถ้าเราส่งออกได้เยอะเงินดอลล่าร์เข้ามามาก ปริมาณเงินดอลล่าร์จะเพิ่มขึ้นในประเทศค่าเงินดอลล่าร์ก็จะถูกลง(หรือเงินบาทจะแข็งค่าขึ้น) กรณีตรงกันข้ามถ้าเราไปซื้อของอเมริกามากๆเราก็ต้องเอาดอลล่าร์ไปจ่ายเขา ความต้องการดอลล่าร์ก็จะเพิ่มขึ้นค่าเงินดอลล่าร์จึงเพิ่มขึ้น(ค่าเงินดอลล่าร์แข็งค่าขึ้น เงินบาทอ่อนค่า) จากคุณ : อรหันต์นิทรา - [ 16 ก.พ. 52 11:35:40 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ทำไมต้องไปกูยืมเงินจากต่างชาติ พิมพ์แบงค์ใช้เองเยอะๆไม่ได้หรอครับ? ถ้าจะตอบให้ตรงคำถามคือพิมพ์ได้ครับแต่ พิมพ์แล้วจะเอาไปใช้ยังไง? เพราะเวลาเขาดูความมั่นคงของเงินเขาดูที่บัญชีของรัฐ และงบประมาณรายได้รายจ่าย สมมติว่าตอนนี้รัฐมีรายได้ พันล้าน(เอาเลขง่ายๆ) แต่ตั้งรายจ่ายสองพันล้าน (งบขาดดุล) เงินตรงนี้ถ้าไม่อยากกู้ จะพิมพ์เองก็ได้ แล้วเอาออกมาใช้ดื้อๆซะงั้น คราวนี้คนข้างนอกที่มองมาก็จะเห็นว่าอยู่ดีๆเงินเพิ่มขึ้นมา พันล้านอย่างไม่มีที่มาที่ไปรายได้ก็ไม่มี ความน่าเชื่อถือก็ลดลง คำตอบของผมคือพิมพ์เท่าไหร่ก็พิมพ์ได้ แต่จะใช้ยังไงไม่้ให้เกิดเงินเฟ้อมันอีกเรื่องหนึ่ง ถ้าพิมพ์สักล้าน สองล้าน คงพออุบอิบเอาออกมาใช้ได้โดยไม่มีใครรู้ แต่ถ้าเป็นเรื่องของประเทศที่มีการทำบัญชีอย่างละเอียด มีคนจ้องจับผิดทุกฝีก้าว ต่อให้พิมพ์ออกมาได้ก็เอาออกมาใช้ไม่ได้ (ในประมาณมากพอที่จะชดเชยการกู้ยืมโดยไม่ให้ถูกจับ) จากคุณ : Nexus - [ 16 ก.พ. 52 12:48:26 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ถ้าอยากศึกษาเรื่องเงินเฟ้อง..ลองดู เกมส์ Ragnarok ดูสิครับ..ว่าช่วงไหนถ้าบอทเยอะ(เงินหาง่าย) ราคาของจะสูงขึ้น แต่ก็ซื้อได้เท่าเดิม... และลองดูเซิฟเถื่อน กำหนดให้เงินหาง่ายๆ ราคาของก็แพงมหาโหด...แต่ก็ใช้ได้สำหรับสังคมของเค้าเอง เพราะถ้ารวมเซิฟเว่อร์ เถื่อน + เถื่อน ก็คงจะมีการปรับค่ากันอยู่พักหนึ่งจนกระทั่งเกิดสมดุลและยอมรับราคาซื้อขายกันในที่สุด ปล. สำหรับบางล็อคอินที่ชอบบอกว่าอธิบายไม่เคลียร์ ไม่เข้าใจ.. หว้ากอเป็นอะไรไป..อธิบายเรื่องง่ายเป็นยาก... ขอบอกว่าเรื่องพวกนี้เค้าเรียนกันเป็นเทอมๆครับ..แล้วคุณจะมาเรียนรู้ใน 1 กระทู้....เฮ้อ..คนเรา จากคุณ : Night Claw - [ 16 ก.พ. 52 13:01:46 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ~นอกเรื่อง~ สาระเยอะแล้ว เกมส์ World of Warcraft แก้ปัญหาเงินเฟ้อโดยการทำให้ของบางอย่างนั้นติดตัวคนเล่น โอนถ่ายให้กันไม่ได้ ดังนั้นเลยไม่มีปัญหาเงินเฟ้อมากนักเพราะของเก่าที่ไม่ใช่ก็เอาไปขายคนอื่นต่อแพงๆไม่ได้ ต้องเอามาขายร้านถูกๆ และไม่มีการตั้งร้านของผู้เล่น ส่วน การซื้อ-ขาย ไอเทม จะผ่านระบบประมูลซึ่งจะมีการหักค่าประมูลด้วย เกมส์ออนไลน์บางเกมส์มีการจ้างนักเศรษฐศาสตร์เข้ามาเพื่อดูและระบบการเงินในเกมส์โดยเฉพาะ หรือเกมส์ออนไลน์บางเกมส์ก็ถูกนักวิจัยใช้ทำการทดลองด้านเศรษฐศาสตร์ด้วย จากคุณ : Nexus - [ 16 ก.พ. 52 16:05:48 ]

ความคิดเห็นที่ 71 น้าน.. โดนกระทบจนได้ แต่ไม่เป็นไรเพราะเรากระทบคนอื่นก่อน คนอื่นก็ต้องกระทบเราได้ ไม่ได้หวังว่าจะเข้าใจจนแจ่มแจ้งหรอกครับ (เพราะรู้ว่าคงไม่ใช่เรื่องที่เข้าใจได้ง่ายๆ) หวังแค่จะมีคน ที่รู้และเข้าใจจริงๆ และสามารถอธิบายภาพรวมให้คนนอกเห็นภาพได้ง่ายๆ มากกว่า ถึงจะเรียกว่าคนรู้จริง ถึงจะเรียกได้ว่า คห คุณภาพ ตอบแล้วได้ประโยชน์ ไม่ใช่แบบอ่านๆแล้ว เหมือนจะดี แต่พออ่านจบก็ยังงงเหมือนเดิม และผมก็ได้เคยบอกไว้แล้วว่า คำตอบแค่ #43 ก็พอใจแล้ว ไม่ได้เคยเรียกร้องให้ต้องเปิดคอร์สสอน กันกลางกระทู้เลยนะครับ คุณเอามาจากไหน? ทั้งๆที่ ทุนสำรองระหว่างประเทศ หน้าตาเป็นยังไงก็ไม่รู้ แต่แค่รู้ว่า อ๋อ เพราะไอ้นี่นี่เองถึงทำให้ทำ ไม่ได้ ก็ช่วยให้เข้าใจได้เยอะขึ้นแล้ว แล้วผมได้ไปเซ้าซี้หรือว่า กองทุนสำรองฯ มันเป็นยังไง ทำไมมันสำคัญ ทำไมเค้าถึงเขื่อถือ? ผมก็ พอใจคำตอบแค่นั้น ที่อย่างน้อยก็ทำให้เข้าใจได้มากขึ้น ดีกว่าที่อ่านแล้วไม่ได้เข้าใจอะไรเพิ่มขึ้นเลย แล้วใครอยากจะศึกษาต่อ อยากรู้เรื่องมากขึ้น ก็สามารถหาข้อมูลต่อได้ แล้วมันไม่ดีตรงไหนหรือครับ? ปล. เวลามีนักการเมืองหรือใครบอกว่า เงินเราน้อยเราก็พิมพ์แบงค์ออกมาเยอะๆสิ จะต้องมีคนด่าว่า เดี๋ยวเงินเฟ้อ โง่ชิบ (ถ้าเป็นฝ่ายที่เกลียด) แต่รับรองได้เลยว่า คนที่ด่าๆ นั้น น้อยคนที่จะรู้จริงๆว่า พิมพ์แบงค์เองมันจะทำให้เงินเฟ้อได้ยังไง เพราะจำจากที่เค้าว่ามาทั้งนั้น ก็เลยทำให้รู้อยู่แค่นั้น ตอบได้แค่นั้น จากคุณ : ปลากวน - [ 16 ก.พ. 52 20:53:59 ]