ความคิดเห็นที่ 1 ....มากเกินไป จากคุณ : axquest - [ 17 ก.พ. 52 00:17:28 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เป็นคนไทยต้องรู้จักรักษาสิ่งดีๆที่คนโบราณเค้าทำมาครับ จะไปเปลี่ยนแปลงไม่ได้ จงภูมิใจซะ (ประชด) แก้ไขเมื่อ 17 ก.พ. 52 00:21:50 จากคุณ : คุณโฮม - [ 17 ก.พ. 52 00:21:31 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ถามพวกบอร์ด สิ ครับ ผมก็ไม่เข้าใจ ที่ส่วนใหญ่ ทีมีก็ของ การรถไฟทั้งนั้น ค่าเช่าแผง ที่สวนจัตุจักรก็ได้  จากเซนทรัลก็ได้ หลายล้าน ไม่รุ้เอาตังไปเก้บไว้ไหน จากคุณ : Napoleonic - [ 17 ก.พ. 52 00:22:07 ]

ความคิดเห็นที่ 4 บอรฺ์ด.........................บอด จากคุณ : นิ้วจิ้ม - [ 17 ก.พ. 52 00:30:52 ]

ความคิดเห็นที่ 5 #2 ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ๆ ทำไมต้องยกเลิกรถรางหล่ะคะ เราว่านี่หล่ะสุดยอดคลาสสิค และเป็นจุดเด่นได้ (เราคน ต่างจังหวัด ) จากคุณ : สามล้อไกล้สูญสิ้นแล้วสิ - [ 17 ก.พ. 52 00:31:48 A:114.128.55.30 X: TicketID:191399 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ไม่ใช่ปัจจัยทางเทคนิค เป็นปัจจัยทางการเมืองล้วนๆ จากคุณ : อะธีลาส - [ 17 ก.พ. 52 00:46:07 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เพิ่มเติม ไม่พัฒนาไม่พอ หนี้บานตะเกียงเลยครับพี่น้อง แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผย สยามธุรกิจ ว่า จากการรายงานผลประกอบการในปี 2551 ในเบื้องต้น การรถไฟฯ ขาดทุนประมาณ 10,000 ล้านบาท ขสมก.ขาดทุนประมาณ 7,000 ล้านบาท ส่วนการบินไทย ขาดทุนประมาณ 10,800 ล้านบาท และรฟม.ขาดทุนประมาณ 6,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขการขาดทุนที่สูงกว่าทุกปีที่ผ่านมา โดยมีสาเหตุสำคัญคือ ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นอย่างมากในช่วงปี 2551 ที่มา http://www.siamturakij.com/home/news/display_news.php?news_id=413334496 แก้ไขเมื่อ 17 ก.พ. 52 00:46:51 จากคุณ : กล่องติดล้อ - [ 17 ก.พ. 52 00:46:07 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ระบบขนส่งมวลชลไทย เป็นระบบผูกขาดแบบเดียวในโลกทีขาดทุน จากคุณ : Napoleonic - [ 17 ก.พ. 52 00:49:26 ]

ความคิดเห็นที่ 9 สมัยรัชกาลที่ 5 ประเทศไทยเป็นประเทศแรกในทวีปเอเชียที่มีรถไฟใช้ ขนาดญี่ปุ่นยังต้องส่งคนมาดูงานการรถไฟในประเทศไทย แต่ปัจจุบัน... คิดว่าเป็นเพราะอะไร จากคุณ : beer - [ 17 ก.พ. 52 00:49:37 A:58.137.15.213 X: ]

ความคิดเห็นที่ 10 เพราะเจ้าของคือ ตำ..... จากคุณ : รถม้า-ปาแอ่ว - [ 17 ก.พ. 52 00:50:53 ]

ความคิดเห็นที่ 11 อนุรักษ์ความคลาสสิคเอาไว้ให้คนรุ่นหลังได้สัมผัส - -" จากคุณ : lotviler - [ 17 ก.พ. 52 01:16:11 ]

ความคิดเห็นที่ 12 "รางรถไฟ" ต่างหากล่ะครับเพื่อนๆที่มันเป็นปัญหาหลัก  เพราะความกว้างของรางรถไฟที่ใช้กันอยู่ในทุกวันนี้นั้นเป็นระบบที่พวกอังกฤษสมัยก่อนเป็นคนคิดขึ้นมาครับ  ทำให้รถไฟรุ่นใหม่ๆที่ผลิตในต่างประเทศนั้นไม่สามารถเข้ากันได้กับรางของบ้านเรา   ครั้นจะยกรางใหม่ทั้งประเทศก็เป็นเรื่องที่ออกจะเกินความจำเป็นซักหน่อย  ในเมื่อรถไฟรุ่นใหม่ที่ใช้กับรางของเราได้ก็ยังมีอยู่แม้จะน้อยก็ตาม  แต่ทว่าในเมื่อมันไม่มีงบต่อให้ตู้โบกี้กับหัวรถรุ่นใหม่ๆมาได้แล้วจะเอาเงินที่ไหนไปซื้อครับ "เงินหมื่นล้านที่เอามาตำน้ำพริกละลายแม่น้ำแจกจ่ายให้ประชาชนคนละ2000บาทไง"  (เสียงลึกลับดังลอดขึ้นมา!  แลเมื่อทุกผู้ในกระทู้หันไปยังต้นตอของเสียงก็พบว่า  บุรุษนิรนามนั้นได้หายตัวไปจากบริเวณดังกล่าวแล้ว) ปล. "อินเดีย" คือประเทศแรกในเอเซียที่มีการวางรถไฟตอนช่วงปีค.ศ.1853ครับ  โดยเป็นผลมาจากชาวอังกฤษซึ่งเป็นเจ้าอาณานิคมได้เข้ามาวางแผนจัดสร้างเพื่อความสะดวกในการเดินทางแลขนส่งสินค้ารวมถึงเคลื่นย้ายกำลังทหารของตัวเอง  ส่วนเมืองไทยนั้นมีการวางรางรถไฟในปีค.ศ.1894ซึ่งตรงกับช่วงรัชสมัยของ "กษัตริย์ ร.5" ครับ (May the Spoil be with you) ขอสปอยล์จงสถิตยือยู่กับท่าน จากคุณ : เจไดหนุ่ม - [ 17 ก.พ. 52 01:34:14 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เพราะเค้ายังไม่อิ่มกันอะครับ แล้วเหมือนไม่มีวันอิ่มด้วย จากคุณ : TheShawShank (TheShawShank) - [ 17 ก.พ. 52 01:50:01 ]

ความคิดเห็นที่ 14 หากพัฒนารถไฟ จะมีธุรกิจเดือดร้อนมากมายเลยครับ เช่น หากรถไฟสามารถวิ่งได้ 200 กม/ชม (ไม่ได้ครึ่งรถไฟหัวกระสุน) ขอนแก่นกรุงเทพ ก็วิ่งแค่สองชั่วโมงนิดๆ ขึ้นเครื่องก็รวมๆเวลาที่เสียไปก็เป็นชั่วโมง นั่งรถประจำทางก็หกชั่วโมงครึ่ง เครื่องบิน กับ รถโดยสารประจำทางได้เจ๊งเป็นแถบๆแน่ครับ งานนี้ จากคุณ : ariyanamvong - [ 17 ก.พ. 52 01:54:35 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขออนุญาตไม่พูดถึงปัญหาคอรัปชั่นแล้วกัน ปัญหาหลักๆ เลยของการรถไฟก็คือ รถไฟไทยถูกมองว่าเป็นบริการราคา "ถูก" เพื่อคนจนเป็นหลัก (ถึงจะมีตู้ชั้นหนึ่งชั้นสองอยู่บ้างแต่ก็ยังเป็นส่วนน้อย) ทำให้ปรับราคาให้คุ้มทุนจริงๆ ได้ยาก (ซึ่งกรณีนี้ก็คล้ายๆ กับรถเมล์ ขสมก ซึ่งขึ้นราคามากไม่ได้ เพราะมีคนจนหาเช้ากินค่ำใช้บริการมาก ถ้าขึ้นราคาตามจริงประชาชนก็เดือดร้อนอีก) ซึ่งแค่นี้ก็ตายแล้วครับ เพราะอย่าลืมว่าการรถไฟเสียเปรียบบริการขนส่งระบบอื่นอยู่แล้วก็คือ การรถไฟจะต้องลงทุนทั้ง "ทาง" และ "การเดินรถ" ไปด้วยพร้อมกัน ไม่เหมือนระบบขนส่งทางอื่นที่ดูแลเฉพาะในส่วนของ "การเดินรถ" อย่างเดียว แทบไม่ต้องรับผิดชอบการบำรุงรักษาหรือขยาย "ทาง" แต่อย่างใด (อย่างรถทัวร์ก็วิ่งบนถนนที่รัฐบาลเป็นผู้สร้างให้ เป็นต้น) ด้วยเหตุนี้จึงทำให้การรถไฟขยายเส้นทางได้ยากมาก เพราะไม่มีเงินลงทุน ได้เงินค่าโดยสารมาเท่าไหร่ก็หมดไปกับค่าใช้จ่ายในการจัดการเดินรถซะเกือบหมดแล้ว และพอไม่มีเส้นทางใหม่ๆ ก็แทบไม่มีโอกาสจะแข่งขันกับระบบขนส่งอื่นๆ โดยเฉพาะรถยนต์ซึ่งสามารถซอกแซกขยายเส้นทางจนครอบคลุมเกือบทั่วประเทศได้ ถ้าจะปรับปรุงรถไฟไทยจริงๆ คงต้องสร้างรถไฟรางคู่ (หรือสามรางเลยยิ่งดี) ทั่วทั้งประเทศ จากนั้นให้แบ่งเป็นสองส่วน คือ การรถไฟให้ดูแลการบำรุงรักษาและการขยายเส้นทางรวมถึงดูแลการจัดการจราจรเป็นหลัก กับบริษัทเดินรถไฟไทยทำหน้าที่ให้บริการเดินรถเป็นหลัก และอาจจะให้เอกชนเข้ามาเดินรถเพื่อให้เกิดการแข่งขันกันได้ แก้ไขเมื่อ 17 ก.พ. 52 02:08:25 แก้ไขเมื่อ 17 ก.พ. 52 02:06:04 จากคุณ : เกียรตินำ - [ 17 ก.พ. 52 02:03:14 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขาดทุน   ขาดทุน   และ   ขาดทุน   ครับ จากคุณ : Waterman (LN106) - [ 17 ก.พ. 52 02:08:54 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ผู้นำขาดขาดวิสัยทัศน์ และไม่แน่พอ จากคุณ : บางนรา - [ 17 ก.พ. 52 02:54:32 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ผมอ่ะรอมาตลอดทั้งชีวิตแล้ว ..ว่าเมื่อไรมันจะดีกว่านี้ ผมขึ้นรถไฟครั้งแรกตอน ป.2 ตอนนั้นก็งอแงตามประสาเด็ก แต่ผมตื่นเต้นไงเวลาลอดถ้ำขุนตาล ..มันสนุกตรงนั้น !! แต่ครั้งล่าสุดที่ขึ้น คือตอนประมาณ 2-3ปีที่แล้ว เหมือนเดิมครับ ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ที่แตกต่างคือ ผมไม่ได้ตื่นเต้นกะการลอดถ้ำขุนตาลอีกแล้ว ก็นะ ทั้งกลิ่นน้ำมัน ทั้งเสียงรถ ทั้งร้อน ..!! เข้าถ้าไปเจออากาศอับๆๆอีก .เฮ้อออออออออออ!! นั่งรถทัวร์ดีกว่าเยอะ !! แก้ไขเมื่อ 17 ก.พ. 52 03:51:33 จากคุณ : เด็กส่งแก๊ส - [ 17 ก.พ. 52 03:50:14 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ก็จริงนะที่ว่า เพื่อคนรายได้น้อยเป็นหลัก ตอนเดินทางกลับกรุงเทพ พอลงจากรถแล้วเดินในหัวลำโพง แอบตกใจ นี่หลงยุคมาหรือเปล่าหว่า ทั้งรูปลักษณ์อาคาร สภาพตึก เอ่อ เหมือนกำลังเดินในพิพิธภัณฑ์เลย นี่ซินะ อนุรักษ์เอาไว้เพื่อคนรุ่นหลัง แต่คิดว่า ถ้าปรับปรุงซะใหม่ ก็คงกระทบกับอาชีพอื่นพอควร อย่างพวกรถตู้ รถปรับอากาศ คนขายไก่ย่างอะไรแบบนี้ แต่ตอนนี้อย่าพึ่งพูดถึงรางเลย  ขอแค่ไม้กั้นรางรถไฟก่อนได้ไหม  แล้วขอแบบใช้งานได้จริงหน่อย  76 จังหวัดทั่วไทย ยังมีหลายแห่งที่ขาดไม้กั้นรางรถไฟ  ล่าสุดก็ชนกับรถโดยสารเข้าไป เด็กตายตั้งหลายคน แล้วตรงสถานีหัวหมาก รถติดขวางทางรถไฟเป็นแถว น่ากลัวซักวันจะชนวินาศเข้าซักที จากคุณ : ขี้เหงา...เอาแต่ใจ - [ 17 ก.พ. 52 04:05:24 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ผมว่ารถไฟความเร็วสูงไม่จำเป็นครับ สร้างมาก็ขาดทุน ในญี่ปุ่นชิงกันเซ็นยังขาดทุนย่อยยับ ยูโรสตาร์นี่ก็จะรอดไม่รอดแหล่ ในอเมริกานี่ไม่มีเลย ออสเตรเลียก็ไม่มี รถไฟความเร็วสูง จะมีต้องวางรางกันใหม่เลย แถมต้นทุนการ operate ก็สูงกว่าสารบิน low cost เยอะอยู่ แต่สิ่งที่ต้องทำโดยไว และให้ไว รางคู่ ครับ อยู่ดีๆ จะไปรื้อรางใหม่ทั้งหมดคงไม่ไหว ก็วางขนาดใหม่คู่กันไปเลยแล้วค่อยๆ เปลี่ยน อีกจุดนึงที่ผมอยากให้คนเมืองคิดให้มากน่ะครับ คุณต้องการรถไฟความเร็วสูง ต้องการรถไฟฟ้า ซึ่งราคาค่าโดยสารพวกนี้ผมว่าแพงมากเมื่อเทียบกับค่าครองชีพ ของคนที่ใช้บริการของมันจริงๆ ลองคิดดูซิครับ ทุึกวันนี้คนที่ใช้รถไฟจริงๆ เพราะค่าตั๋วมันถูกมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ถ้าอยู่ดีๆ จากที่เคยจ่าย ห้าบาท แต่ต้องมาจ่าย สามสิบ หรือห้าสิบ แค่นี้ก็กระอักแล้วน่ะครับ ผมไม่เถียงว่าการมีรถไฟความเร็วสูงเป็นเรื่องดี แต่ก็ต้องดูความเหมาะสมกับสถาณภาพของตัวเองด้วย คงไม่มีใครเถียงว่ารถเบนส์หรือวอลโว่ไม่ดี  แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่มีปัญญาซื้อมาขับจริงไหมครับ เราควรมองหาสิ่งที่เหมาะสมและสอดคล้องกับเราดีกว่าไหม รางคู่ที่เราต้องการ  (-__-'' จะได้ไหมล่ะนั้น) จากคุณ : kanoomtan - [ 17 ก.พ. 52 05:52:17 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ยังไงของเก่าย่อมดีกว่าของใหม่ ถ้ากลัวประชาชนไม่มีเงินขึ้นก็ให้ขึ้นฟรีเลยซิ จากคุณ : harvardวิทยาคม - [ 17 ก.พ. 52 07:07:56 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เทียบกับในแอฟริกาที่ใช้รางขนาด  1 เมตร ด้วยกันแล้ว ของไทยเรา ดีกว่าครับ จากคุณ : นายเดชา - [ 17 ก.พ. 52 07:41:13 ]

ความคิดเห็นที่ 23 แล้วทำมัยจีนทำเป็นว่าเล่น คนในประเทศเค้ารวยกันมากละซิถึงมีเงินขึ้นรถไฟฟ้า ทำมัยเค้าไม่กลัวขาดทุน หรือคุ้มทุน....ค่าโดยสารมันพอๆกับเครื่องบินนะนั้น ตามที่คนในนี้เคยคำนวนไว้ แสดงว่าในจีนไม่มีคนจนแล้ว555........แล้วเวียดนามละ...คนเวียดนามคงรวยกันหมดแล้ว ถ้ากลัวว่ารัฐทำแล้วจะมีคอรับชั่น ก็ให้เอกชนสัมประธานสิ การรถไฟทำเป็นหมาหวงก้างอยู่ได้...ทำไม่ได้ ไม่มีทุน ก็ให้คนอื่นเค้าทำแล้วเก็บค่าสัมประธานเอา อย่ามาบอกนะว่า มีหน้าที่แค่เก็บเงินค่าสัมประธานยังขาดทุนได้อีก เหมือนทำห้องเช่านะแหละ เสือนอนกิน ถ้าทำแล้วขาดทุนเค้าจะจ้องกันตาเป็นมันเหรอ....ให้สัมประธานไปเลย 100 ปี ก็ในเมื่อการรถไฟบอกว่าทำไปไม่มีวันคุ้มทุน....ถ้าเอกชนทำแล้วเก็บแพง คนเค้าก็ไม่ขึ้น...คนไม่ขึ้นมันก็เจ้ง รัฐก็ไม่ต้องรับผิดชอบเรื่องขาดทุน จากคุณ : วิญญานพเนจร_2 - [ 17 ก.พ. 52 07:47:23 A:192.168.0.17 X:202.62.105.155 TicketID:177078 ]

ความคิดเห็นที่ 24 วันดีคืนดีมันหยุดวิ่งซะด้วยซิ จากคุณ : ขอชื่อที่รักจ๋า ณ พันทิป - [ 17 ก.พ. 52 08:29:39 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ที่บอกว่าราคาถูกเพื่อคนจนน่ะ ข้ออ้างชัดๆ รู้มั๊ย ว่าการรถไฟมีที่ดินทั้งประเทศเท่าไหร่ แล้วรู้มั๊ย ว่าเค้าเอาที่ดินไปทำอะไรบ้าง ให้เซ็นทรัลและเอกชนรายอื่นๆเช่า ในราคาถูกเหมือนแจกฟรี เงินส่วนต่างนี้ เข้ากระเป๋าใคร ?? จากคุณ : maxijojo123 - [ 17 ก.พ. 52 08:41:00 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ยังไงก็ต้องสร้าง .. อย่างน้อย ๆ ขอรางคู่ทั่วประเทศ หลัก ๆ เอาไว้ขนของ กับผู้โดยสารชั้นประหยัดครับ (เอาค่าซ่อมถนนที่พี่ ๆ สิบล้อ รถพ่วงทำพัง ปีสองปีก็สร้างได้เส้นนึงแล้วครับ) ส่วนรถไฟความเร็วสูง รางมาตรฐาน สร้างตามเส้นทางใหม่ ๆ ครับ อย่าง กรุงเทพฯ-เด่นชัย-แม่สาย (เพื่อขนส่งสินค้ากับจีน), กรุงเทพ-โคราช, กรุงเทพ-ระยอง, กรุงเทพ-หัวหินครับ (สำหรับขนคน) จากคุณ : เตยทะเล - [ 17 ก.พ. 52 08:51:42 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ปัญหางูกินหางครับ 1. แบบที่คุณเกียรตินำว่าไว้......ถูกมองว่ามีไว้ให้คนจนใช้งาน 2. คนที่มีเงินพอ ก็ใช้รถส่วนตัว + รถทัวร์ + เครื่องบิน + เช่ารถไปเที่ยว ยังสะดวกกว่ารถไฟเยอะ 3. เส้นทางที่รถไฟวิ่งมีน้อย ....เข้าไม่ถึงที่ท่องเที่ยว (แถมไม่ตรงเวลา) คนก็ไม่ค่อยขึ้น (ถ้าไม่ได้เดินทางกลับบ้าน) 4. พอคนใช้เยอะเป็นช่วงๆ(แค่ช่วงเทศกาลหยุดยาว)......ช่วงปกติรายได้ก็ต่ำเหมือนเดิม...เนื่องจากที่ว่ามาข้างบน 5. เงินก็ไม่ค่อยจะพอใช้......ต่อให้ได้เงินจากการเช่าที่มาแต่ก็ไม่รู้ว่ามันหายไปไหน 6. พอเงินไม่พอที่จะเอามาพัฒนา ทำให้คนที่มีตัวเลือกที่ดีกว่าหันไปใช้อย่างอื่นแทน 7. กลับไปอ่านข้อ 1..... ------------------------------------------------------------------ ว่าแล้วก็มาดูการแก้ไข 1. ประชาสัมพันธ์ช่วยได้...... 2. เอาเงินมาตกแต่ง พัฒนา ให้มันน่าใช้งาน 3. เอาง่ายๆแต่ได้ผลก็คือ ระบบขนส่งสาธารณะ มันต้องเชื่อมโยงกัน....ถ้ารถไฟไปไม่ถึง ก็ต้องหารถเมล์มาให้บริการต่อที่สถานีรถไฟเลย....ไม่ใช่ว่า ลงรถไฟต้องจ้างสองแถวไปสถานีรถบัส -*-.......+ ต้องประชาสัมพันธ์ให้ทั่วถึงว่า การเดินทางด้วยรถไฟ + รถบัส ก็สะดวกนะจ๊ะ (ใช้เงินเยอะเหมือนเดิม) 4. อันนี้ผลพลอยได้จากข้อ 3 ..... ถ้าใช้งานสะดวก คนก็เที่ยวเยอะ 5. โกงกินให้น้อยๆลง + มีระบบตรวจสอบและเอาผิดที่ จริงจัง (ใช้เงินน้อยสุดแล้ว) 6. ได้เงินมาก็เอาไปปรับปรุงระบบซะ ไม่ใช่หายไปกับหาดทราย สายลมและสองเรา -*- 7. กลับไปอ่านข้อ 1...... -------------------------------------------------------- แก้ง่ายสุด คือ ทำระบบให้โปร่งใส......ลงทุนน้อยสุด แต่ก็สามารถตัดตอนวงจรด้อยพัฒนาของระบบทิ้งไปได้ ....... แล้วที่เหลือ จะดีตามมาเอง จากคุณ : ginosty - [ 17 ก.พ. 52 08:53:46 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ตอนผมไปอบรมที่ญี่ปุ่นผู้เชี่ยวชาญเรื่องระบบขนส่งมวลชนก็บอกผมว่าน่าเสียดายที่ระบบเส้นทางรถไฟในกรุงเทพฯไม่ได้รับการพัฒนาให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งถ้าสามารถทำได้จะช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทาง ลดการจราจรติดขัด และลดปัญหาสิ่งแวดล้อมได้มาก เหมือนเมืองใหญ่ของญี่ปุ่นที่ได้รับการพัฒนามากจนมีประชาชนใช้บริการมากครับ จากคุณ : หนุ่มสอนราม (หนุ่มสอนราม) - [ 17 ก.พ. 52 08:57:22 ]

ความคิดเห็นที่ 29 1. เพราะค่าตั๋วไม่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง 2. ไม่มีการแข่งขัน แน่จริงเปิดเสรีให้เอกชนเข้ามาประมูลวิ่งรถบนรางสิ แล้วการรถไฟทำหน้าที่แค่ดูแลบำรุงรักษารางเท่านั้น จากคุณ : Nexus - [ 17 ก.พ. 52 08:59:36 ]

ความคิดเห็นที่ 30 อ่ะ เพิ่มเติม จริงๆแล้วถ้าดูภาคขนส่งบ้านเรา ถ้าหาทางดึงเงินจากใต้ดิน ที่จ่ายส่วยน้ำหนักเกิน ..... ค่าผ่านทาง.....ค่ากินหิน กินปูน กินเหล็ก บลาๆๆๆๆ คงจะมีเงินเหลือมาพัฒนาอะไรได้อีกเยอะ -*-...... ....พอดีกว่า.....เดี๋ยวแรงเกิน จากคุณ : ginosty - [ 17 ก.พ. 52 09:01:11 ]

ความคิดเห็นที่ 31 คห 27 ถ้ารถไฟไปไม่ถึง ก็ต้องหารถเมล์มาให้บริการต่อที่สถานีรถไฟเลย.... เห็นด้วยอย่างยิ่ง และเท่าที่มีอยู่แล้วก็ที่สถานีรถไฟสุราษฎร์ธานี มีรถมารับ-ส่งถึงสถานีรถไฟไปยังภูเก็ต กระบี่ เกาะสมุย ฯลฯ จากคุณ : เกียรตินำ - [ 17 ก.พ. 52 10:08:59 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ขนาดรางไม่ใช่ปัญหาครับ  ลองเปลี่ยนเป็นรางคู่สิครับ  ผมว่าลดระยะเวลาได้เกือบ3-4 ชมเลยนะครับ  ผมเคยนั่ง แล้วจอดรอรถสวน เกือบ20 นาที คิดดูสิ แล้วสวน กัน ตลอดทาง  ประมาณ5-6ครั้งได้  จากกรุงเทพเชียงใหม่ 14 ชมก็ น่าจะเหลือ 8-11 ชมได้นะครับ  ผมว่า ถ้าทำรางคู่  แล้ว รางขนาด 1 m ของเรา จริงๆวิ่งได้ที่ความเร็วสูงสุด 160กิโลเมตร/ชม เลยนะ ที่ฮ่องกง เขาทำมาแล้ว  พี่ไทยเราวิ่งแค่ 70-80 กิโลเมตร/ชม เองครับ  สปริ้นเตอร์ ด่วนพิเศษ ยังไม่ถึง 90 กิโลเมตร/ชม เลยครับ ผมชอบ รถไฟไทยครับ  จริงๆ ก็ได้ข่าวว่า จะทำรถไฟรางคู่ อยู่ ไม่รู้ประมูลราคาไปยัง แล้ว สมัยทักษิน เห็นว่าจะทำ รถไฟหัวกระสุน ควบคู่ไปด้วย  แต่โดนค้านอย่างหนัก ครับ จากคุณ : joyrisus - [ 17 ก.พ. 52 10:36:26 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เหมือนได้อ่านเมกะโปรเจค ล่าสุดว่าจะเพิ่มเป็น 4สาย นี่นา โดนเพิ่มรางขนาด1.4เปนรางคู่ และรางขนาด1เมตรเดิมเป็นรางคู่ ค่าที่ดินไม่เสียเพราะเยอะอยู่แล้ว จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน - [ 17 ก.พ. 52 10:59:46 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ตอนนี้การรถไฟกำลังเจอวิกฤติการอีกอย่างหนึ่งก็คือ รถดีเซลรางแดวูเริ่มจะขาดแคลนจากการประสบอุบัติเหตุบ่อยๆ ครับ เท้าความนิดนึงว่ารถดีเซลรางความเร็วสูงของเราปัจจุบันกว่าร้อยละ 90% ไม่ได้ใช้รถสปริ๊นเตอร์แล้ว แต่ใช้รถดีเซลรางแดวูทำการแทนมานานแล้วครับ เพราะรถสปริ๊นเตอร์ต่างเริ่มทยอยกันถูกตัดบัญชีกันไปอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันเหลือใช้ได้ไม่กี่คันเอง และรถแดวูในปัจจุบันที่เหลืออยู่ก็ถูกหมุนเวียนกันอย่างหนัก จนรถทำงานกันหนักมากจนขาดการดูแลรักษา จนเป็นที่มาของความสกปรกและตัวเรือดตามที่เป็นข่าวครับ ผมเคยเห็นเขาจัดขบวนรถแบบนี้ครับ ออกกรุงเทพตอนกลางคืน ถึงเชียงใหม่เช้า ออกเชียงใหม่สาย ถึงกรุงเทพค่ำ จากนั้นเปลี่ยนป้ายเป็น กรุงเทพ - ยะลา วิ่งไปยะลาต่ออีก แล้วก็ตีกลับจากยะลาถึงกรุงเทพทันที โอ้ย เห็นแล้วสงสารรถครับ นี่ยังไม่รวมถึงพวกรถนอนปรับอากาศที่ใช้กันมาตั้งแต่รุ่นพ่อยังหนุ่มนะครับ จากคุณ : KenshiroJr. - [ 17 ก.พ. 52 11:09:55 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ขนาดราง 1หรือ 1.435 เมตร ไม่ใช่ปัญหาเลยครับ แค่เพลาสั้นลงตามรางที่แคบลง ก็เท่านั้น แต่ครับแต่ รถจักรที่มีขายอยู่ในปัจจุบัน เป็นรถจักรหนัก มีน้ำหนักมาก กดลงรางมาก รางเรามันรับน้ำหนักไม่ได้ขนาดนั้นครับ ถ้าน้ำหนักเกิน รางที่ท่อนขนาดหน้าตัดเล็ก มันจะคดครับ แล้วที่น้ำหนักเบาๆก็พอมี แต่มีให้เลือกไม่มาก แล้วค่าโดยสารรถไฟ ไม่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงครับ รถเมล์ ดอนเมือง บางเขน หัวลำโพง ร้อนจะตาย เท่าไหร่หละ? รถไฟ ดอนเมือง หัวลำโพง 5 บาท รถไฟตู้หนึ่ง ได้ 100 คน นั่ง 70 ยืน 30 รถชานเมือง มี 6 ตู้ ได้เงินมา 3 พัน รถไฟ กินน้ำมัน กิโลเมตรละ 4 ลิตร ไม่ผิดหรอก 0.25 กิโลเมตร/ลิตร มาดอนเมือง ล่อไป 53 กิโลเมตร กี่บาทแล้วครับ 200 ลิตร*19.79 บาท พัฒนาได้ แค่ติดแอร์ ปรับราคาค่าโดยสาร แต่คนจนจะหมดสิทธิใช้บริการอีกเลย จะเอามั๊ยครับ ขบวนที่ผมใช้บริการประจำ คือด่วน 51 รถนอนชั้น2 ปรับอากาศ ราคา 8 ร้อย แต่ขบวนนั้น มีชั้น 3 ร้อนๆด้วย ค่าตั๋ว 2 ร้อยกว่าบาท ถึงพร้อมกัน รถไฟใช้น้ำมันเท่ากันในการลากรถจาก กทม เชียงใหม่ แต่ความสบายผิดกันครับ ค่าตั๋วที่ได้ ก็ผิดกัน จากคุณ : เขมรดำดิน - [ 17 ก.พ. 52 11:35:34 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เห็นใจการรถไฟจริงๆครับ เงินไม่มี ขาดทุน ปัญหาภายใน ฯลฯ จริงๆผมชอบรถไฟมากๆ และก็ชอบนั่งรถไฟมากๆ อยากให้มีรถไฟรางคู่ครับ และถ้าเ็ป็นไปได้ก็ขยายให้คลุมทุกจังหวัดเลยก็ยิ่งดี จากคุณ : อุ้ย (digimontamer) - [ 17 ก.พ. 52 11:42:24 ]

ความคิดเห็นที่ 37 การขนส่งทางรถไฟถือว่าต้นทุนต่ำและขนส่งได้ครั้งละมากๆ เมื่อเทียบกับเม็ดเงินที่ต้องจ่ายเพื่อการขนส่ง คู่แข่งทางการขนส่งคือ รถสิบล้อ เครื่องบิน รถกระบะ อื่นๆ การส่งของทางรถไฟยังคงเป็นที่นิยมอยู่ ทั้งการส่งจักรยานยนต์ ตู้เย็น หรือ ของชิ้นใหญ่ๆ แต่หากเป็นการขนส่งขนาดย่อม ก็สู้รถทัวร์ที่รับฝากของหรือบริการของไปรษณีย์ที่เป็นต่อเรื่องเวลาไม่ได้ สิ่งที่รถไฟไทยพัฒนาได้ ก็มีนะครับ เพียงแต่ข้อเสียมากกว่าข้อดีบานตะไทเลยทำให้รู้สึกแย่ไปกับรถไฟไทย... จากคุณ : Cocopok - [ 17 ก.พ. 52 11:50:48 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ที่รถไฟไม่พัฒนาตามที่ควร ประการหนึ่งเพราะเราไปเห็นดีงาม ตามตรูดบางประเทศที่เน้นการขนส่งทั้งคนทั้งของทางถนนเป็นหลัก(ประเทศไรคิดเอง ที่ทำรถให้เป็นขาของคน ไม่มีรถก็เท่ากับไม่มีขา) รถมันขายง่าย ใช้สะดวก ทำถนนก็งาบได้เยอะ และบ่อย เรื่องประสิทธิภาพการใช้พลังงานอย่าไปพูดถึงเลย คนที่เข้ามาบริหารมันไม่รู้จะอยู่ได้กี่วัน ต้องทำเวลาทำเงินก่อนโดนเด้งโดนปลด ฉนั้นโครงการระยะยาว อย่ามาคุย คนที่มองไกล ทำยาว ก็ดันไปเหยียบหางเค้าอีก เฮ้อ... จากคุณ : FreeWing - [ 17 ก.พ. 52 12:00:40 ]

ความคิดเห็นที่ 39 คอรัปชั่น.. จากคุณ : tenno - [ 17 ก.พ. 52 12:05:05 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เรื่องรถไฟนี่...... รถเมล์นี่อีก...... ผมไม่ค่อยอยากพูด เพราะ พูดไปหลายรอบแล้ว.....ถึงว่า อัปยศ ของ สององค์การนี้....... จะสรุปง่ายๆ และ สั้นๆดีกว่า - ขสมก. จ้าง บ.เอกชนในการบำรุงซ่อมแซม รถเมล์ของ ขสมก. จำนวนประมาณ 2600 คัน ในอัตราเหมาจ่าย 500 บาท/วัน/คัน   เท่ากับต้องจ่ายค่าซ่อมเฉลี่ยวันละ 1,300,000 บาท (หรือเดือนละ 39 ล้านบาท)  ซึ่งการซ่อม จะเป็น บริษัทเอกชน เข้ามาประมูลงานซ่อม  ซึ่งตรงนี้ ก็ไม่ทราบว่า แพงไปหรือเปล่า ในการจ่ายค่าซ่อมเดือนละ 40 ล้าน - จำนวน พนักงาน ใน ขสมก. มีมาก เสียจนไม่มีงานจะทำ บางคนเอาญาติ เอาลูกหลานมานั่งทำงานหน้าห้อง 2 - 3 คน - รฟท. ให้ เซ็นทรัล เช่าพื้นที่ ตร.ม.ละ 5,200 บาท/ปี(เดือนละ 433 บาท/ตร.ม.) คิดว่า เหมาะสมหรือไม่ มีการเอื้อผลประโยชน์หรือไม่ - รฟท. ให้เอกชนเช่าพื้นที่ ตลาดนัด จตุจักร ในราคา 630 บาท/ตร.ม./ปี .....(เดือนละ 52 บาท/ตร.ม.)    แต่ราคาเช่นที่แท้จริงไม่ใช่เช่นนั้น.....ราคาเซ้งต่อแผง(4x4 ม.) บริเวณที่คนเดินผ่านเยอะ อยู่ที่ 1 ล้าน - 1.5 ล้านบาท แต่ถ้าหากเช่า จะอยู่ที่ประมาณ เดือนละ 1.5 แสน - 2.5 แสนบาท........ ถ้าอยู่ในที่มุม หรือ ซอก ที่ไม่มีคนเดินผ่านเลย จะอยู่ที่แผงละ 2 หมื่น - 3 หมื่นบาท/เดือน ถาม รฟท.ว่า จริงๆ พื้นที่ตรงนี้ เงินส่วนต่างที่ รฟท. ให้เช่าแค่ ตร.ม.ละ 52 บาท กับไปหยุดจริงๆ ตกที่ 1 แสนบาทเงินหายไปไหน ?........การเช่าช่วงต่อแบบนี้ ถือว่าผิดหลักราชการหรือไม่ ? (โดยปรกติ เจ้าของที่หรือทรัพทย์สินให้เช่าไม่ยอมอยู่แล้ว เพราะตัวเองไม่ได้ผลประโยชน์ที่แท้จริง)  ....  ถ้าไม่ผิด สมควรที่จะปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปหรือ..? หรือควรปรับให้มาเช่ากับการรถไฟโดยตรง เอาแค่เดือนละ 2 - 3 พัน ก็รวยแทบแย่แล้ว พื้นที่ ตลาดนัดจตุจักร 68 ไร่ คิดว่า มูลค่าการเช่าต่อเดือนเท่าไหร่ ? เข้า รฟท.จริงๆ เท่าไหร่ ? หายไปเท่าไหร่ ? ค่าเช่าตามระเบียบ รฟท. ไม่มีการแบ่งโซนราคานะครับยกเว้นจะเป็นพื้นที่ สิ่งปลูกสร้างถาวรที่จะราคาต่างกับตลาดนัดธรรมดา แต่ไม่มาก จะบอกให้........ เอาแค่ค่าเช่า จตุจักร กับ เซ็นทรัล (ที่ไม่เอื้อประโยชน์ให้เอกชน) ก็มากพอที่อาจจะทำให้ขึ้นรถไฟชั้น 3 ฟรีด้วยซ้ำไป รฟท. เป็นองค์กรที่มี ที่ดินเยอะที่สุดในประเทศ สามารถให้เช่าที่ดินได้โดยไม่ต้องลงทุนอะไรเลย เก็บแต่ค่าเช่าอย่างเดียวเท่านั้นก็มากพอแล้วที่จะมีเงินไปทำอย่างอื่นอีก เรื่อง ขาดทุน มันเป็นละครตบตาชาวบ้าน เพื่อให้ดูน่าสงสารเท่านั้น จะยากอะไร ให้ผมมีที่ดิน 1000 ไร่ แล้วประกาศในระเบียบบอกให้เช่นไร่ละ 500 บาทต่อปี แล้วก็ให้ญาติๆ หรือ เอกชนที่เสนอ%ค่าเช่าให้ผม เป็นผู้ได้สิทธิ์ไป ปล่อยเช่าเดือนละ 5 หมื่นบาท แค่นี้ผมก็ส่งงบดุลให้รัฐบาลเห็นแล้วว่า ได้รายได้แค่นี้เอง ไร่ละ 500 บาทเองนะครับ ผมขาดทุนๆๆๆๆ ผมน่ะ สงสารประชาชน กลัวว่าเขาจะขึ้นรถไฟแพง เลยยอมขาดทุน....... อ้อ...สหภาพ รฟท. ได้เงินกันเท่าไหร่ ไปสืบดูแล้วกัน บางคนไม่ต้องทำงาน แต่ได้เงินเดือน 3 - 4 หมื่น เอาเป็นว่า ถ้าระบบ อุปถัมภ์ ยังมีอยู่ รฟท. , ขสมก. ไม่มีวันเจริญเหมือนต่างประเทศหรอกครับ....... แก้ไขเมื่อ 17 ก.พ. 52 14:41:57 จากคุณ : น้ำปลาเดือนห้า - [ 17 ก.พ. 52 14:01:20 ]

ความคิดเห็นที่ 41 การเมืองครับ จากคุณ : envieco1 - [ 17 ก.พ. 52 16:25:01 ]

ความคิดเห็นที่ 42 การเมือง อีกเสียง ดูได้ไม่ยากเลย ยิ่งรัฐบาลไม่มีเสถียรภาพต่อเนื่องมาหลายชุด พวกที่เป็นรัฐบาลอยู่ก็มองแค่ถอนทุนเพื่อเป็นทุนการเลือกตั้งครั้งหน้าอย่างเดียว อย่างอื่นไม่สนหรอก จากคุณ : CuteCool - [ 17 ก.พ. 52 17:37:53 ]

ความคิดเห็นที่ 43 รถไฟไม่ใช่ทั้งของ ท... และ ต... ครับ...... ผู้นั้นแตะต้องมิได้.... ทีนี้เข้าใจหรือยัง....ทำไมไม่ว่ารัฐบาลไหนก้ทำอะไรไม่ได้ จากคุณ : Night Claw - [ 17 ก.พ. 52 18:28:08 ]

ความคิดเห็นที่ 44 เฮ้อ !!!! อดทนรอรางคู่ทั่วประเทศ ต่อไป ..... ก้าวต่อไป ..... จากคุณ : fimmaster - [ 17 ก.พ. 52 23:22:58 ]

ความคิดเห็นที่ 45 คุยกับฝรั่งที่ยุโรปเรื่องเสียง เช่นหมาไทยเห่าโฮ่งๆ หมาฝรั่งเห่าวูฟๆ จนมาถึงเสียงรถไฟ เราบอกรถไฟไทยเสียงฉึกฉัก ฝรั่งบอกรถไฟเค้าเสียงฟิ้ววววว T_T จากคุณ : Oh!_Bo_BaBy - [ 18 ก.พ. 52 04:13:28 ]

ความคิดเห็นที่ 46 .....^_^ จากคุณ : vc (vacheron) - [ 18 ก.พ. 52 06:59:51 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ขอแค่รางคู่ ก็พอครับ จะได้ไม่ต้องมารอสับราง รถไฟไทยเลทมากๆๆ จากคุณ : BaLL182 - [ 18 ก.พ. 52 08:40:47 ]

ความคิดเห็นที่ 48 555 ผมละขำเฮียเจได คห12 จริงๆ ผมว่านะ ไม่ต้องมานั่งพัฒนารถไฟหัวกระสุนหรอกครับ 1. แค่ "ปรับปรุง" คุณภาพของรถไฟไทย 2. แค่ "ปรับปรุง" ความสะอาดของรถไฟไทย 3. แค่ "ปรับปรุง" บริการของรถไฟไทย 4. แค่ "ปรับปรุง" การขายอาหารกันเกร่อ ส่งกลิ่นเหม็นอบอวลในรถไฟไทย แค่นี้ ประชาชนก็ยิ้มได้แล้วครับ ผมว่า งบประมาณ ก็ไม่น่าจะเยอะนะ ทำไมทำกันไม่ได้ ผมว่า คนที่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง "ทำไม่เป็น" มากกว่า ผมว่า คนที่ควบคุมดูแล หรือมีอำนาจ "ขี้เกียจ" หรือ "ช้าวชามเย็นชาม" มากกว่า ผมว่า ผู้บริหาร เอาแต่สบาย รับเงินเดือนแค่นี้ ไม่มีวิสัยทัศน์ซะมากกว่า อายเค้าไม๊ท่าน จากคุณ : LAPD21 - [ 18 ก.พ. 52 11:36:28 ]

ความคิดเห็นที่ 49 การพัฒนาจะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าไม่มีการแข่งขัน ถ้าแยกรางออกมาแล้วเปิดให้ประมูลสัมปทานเดินรถได้เมื่อไหร่ ผมว่าเราจะได้เห็นการพัฒนาแบบก้าวกระโดด จากคุณ : Red Aegis - [ 18 ก.พ. 52 19:17:52 ]

ความคิดเห็นที่ 50 จ๊ากกก โอยยย มึนๆ ตึงๆ ม่ายยย จากคุณ : AGENT 9 (AP10960052) - [ 22 ก.พ. 52 12:46:27 ]

ความคิดเห็นที่ 51 สาเหตุหลักเกิดจาก "การละเลยการส่งเสริมการขนส่งระบบรางอย่างจริงจังของรัฐบาลทุกสมัย" จากคุณ : สัญญาณหางปลา - [ 23 ก.พ. 52 08:36:07 ]