ความคิดเห็นที่ 1 เค้าไม่ได้ให้ยาให้ซึมครับ แต่ยาที่ใช้รักษา เป็นยาปรับสมดุลย์ของเคมีในสมอง มันมีผลข้างเคียงให้ซึม ยาใหม่ๆ ก็มีผลข้างเคียงน้อย แต่ราคาแพงมาก ยาเก่าๆ ที่เมืองไทยใช้กันอยู่มีผลข้างเคียงมาก แต่ราคาโคตรถูก และในทฤษฎีปัจจุบัน "บ้า" ระดับนี้ ไม่เกี่ยวกับขาดสำนึก หรือไม่มีวิจารณญาณ เครียด หรือกลุ้ม แต่เป็นเพราะเสียสมดุลย์เคมีในสมอง การให้เหตุผล หรือพูดคุยให้หายเครียด จะไม่ได้ผล เพราะสมองมีการประมวลผลที่ผิดปกติไป สอนไม่ได้ ไม่รู้เรื่อง การใช้เหตุผลไม่เป็นปกติ ต้องปรับสมดุลย์เคมีในสมองก่อนถึงจะทำอย่างอื่นได้ เหมือนคนที่เป็นโรคซึมเศร้า จะไปพูดคุย ช่วยอย่างไรก็ไม่ได้ผล เพราะสมองเค้าไม่สามารถคิดอะไรอย่างอื่นออกได้ นอกจากซึมเศร้า นึกไม่ออกว่าการไม่ซึมเศร้านั้นเป็นอย่างไร คนไม่เคยเป็นไม่มีทางรู้หรอกครับ แล้วก็ชอบไปบอกว่า จะยากอะไร แค่ไม่คิดเรื่องเศร้าเท่านั้น จากคุณ : อะธีลาส - [ 25 ก.พ. 52 00:03:14 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ..... ถามกลับอย่างง่ายๆครับ มีคนถือมีดเดินเข้ามาจะเชือดคอคุณและครอบครัว คุณมีปืนในมือซ้าย และมีหนังสือธรรมะในมือขวา คุณจะเลือกใช้ความรุนแรง (ถือปืนขู่ ยิงขู่ ยิงขา) หรือ สอนพระพุทธศาสนาให้ในระยะ 20ซม.ในเวลา15วินาทีครับ .... ตามที่คุณอะธีสาสบอกครับ อาการที่เรียกว่าบ้า หรือโรคจิต ไม่ใช่สิ่งที่คนๆนั้นอยากเป็น แต่มันคือโรค คือความผิดปกติของสมอง การรักษาคือการปรับระดับของสารต่างๆให้กลับมาอยู่ในสภาพที่สมดุลที่สุดเท่าที่จะทำได้ หลังจากปรับได้แล้ว ค่อยรักษาด้วยแนวทางอื่นๆ จากคุณ : หมอแมว - [ 25 ก.พ. 52 00:15:43 ]

ความคิดเห็นที่ 3 อ่ะโห.. คุณอะธีลาส  เก่งจัง เข้าใจเลยนะเนี่ย เพราะผู้ใหญ่ที่บ้านก็เป็น ถ้าเป็นเพราะเรื่องเคมีในสมอง น่าสงสารและน่าเห็นใจมากเลย จากคุณ : GarfiledPingPong - [ 25 ก.พ. 52 00:22:03 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ลองค้นคำว่า " antidepressant side effect" " antipsychotic side effect" ในฐานะที่เคยเป็นทั้งผู้ป่วยนอก และผู้ป่วยใน แผนกจิตเวช จะบอกผลข้างเคียงของยาให้นะครับ ผมเคยกินยา risperidone ซึ่งเป็น atypical antipsychotic หมายถึงยาต้านโรคจิตกลุ่มใหม่ ราคาแพง สมัยนั้นยังติดสิทธิบัตร เม็ดละ 60-70 บาท ผมกินไปช่วยอาการกลุ่ม anxiety disorder ดังนั้น จึงไม่ได้รับยามากมายนัก ทั้งกินยาต้านอาการข้างเคียงไว้ด้วยแล้ว วันดีคืนดีก็จะเกิดอาการลิ้นแข็ง พูดไม่ชัด เป็นที่ครื้นเครง แล้วผู้ป่วยในบางคนที่มีอาการ psychosis หนักๆ จะได้รับยาหลายตัวทั้งกลุ่มเก่ากลุ่มใหม่ อาการที่ชัดเจนอย่างหนึ่ง คือปัญหาระบบการเคลื่อนไหว เพราะยากลุ่มนี้ไปกดสารสื่อประสาท dopamine นอกจากอาการซึมจากสภาพจิตใจแล้ว (ซึ่งอาจเกินจากโรค จากยาตัวอื่น)  สภาพทางร่างกายจะดูแย่มาก  แต่ถ้าไม่รับยาต่อ ก็จะแย่กว่านี้ครับ ส่วนยากลุ่ม SSRI ที่ผมกินเป็นหลัก ยังมีอาการข้างเคียง ที่ทำให้ผู้ชายหลายๆคนซึมเศร้าหนักกว่าเดิมได้ครับ จากคุณ : atheist - [ 25 ก.พ. 52 00:33:32 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ด้วยยากลุ่มรักษาอาการทางจิต มักจะไปยุ่งกับสารสื่อประสาทหลายชนิด เช่น dopamine, serotonin, norepinephrine  ซึ่งสารสื่อประสาทเหล่านี้ มีผลต่อระดับอารมณ์ ความรู้สึกนึกคิด การที่สารกลุึ่มนี้ทำงานผิดปกติ มากไป น้อยไป มีผลต่อการเกิดอาการป่วย ยาที่เข้าไปรักษา ก็จะไปยุ่งกะสารเคมีพวกนี้ และ ไม่มีอะไรที่แน่นอนครับ การไปรบกวนสารสำคัญในระบบประสาท เราไม่สามารถจะจัดให้ชัดเจนไปว่า ต้องใช้ยาเท่าไร อาการถึงจะดีขึ้น มันจะไปรบกวนระบบอื่นๆ ในร่างกายรึเปล่า ดังนั้นรายการอาการข้างเคียงต่างๆ side effect, adverse effect ต่างๆ จะมีเป็นหางว่าว คนกินยาเห็นแล้วแทบจะเป็นลมเลยครับ และอาการพวกนี้ อาจเกิดขึ้นเป็นจำนวนเท่าไร กับคนไข้คนไหน ไม่สามารถเดาได้ เมื่อเกิดขึ้น ก็ต้องมาตรองดูอีกว่า คุ้มกับผลการรักษาหรือไม่ บางครั้ง ก็ต้องทนครับ ........................................ ตัวอย่างผลไม่พึงประสงค์ของ Fluvoxamine maleate Adverse Reactions Cardiovascular Immediate-release tablets Palpitations, vasodilation (3%); hypertension, hypotension, syncope, tachycardia (at least 1%); ventricular tachycardia, including torsades de pointes (postmarketing). Extended-release capsules Palpitation (3%); hypertension, vasodilation (2%). CNS Immediate-release tablets Headache, somnolence (22%); insomnia (21%); asthenia (14%); nervousness (12%); dizziness (11%); anxiety, tremor (5%); agitation, decreased libido, depression, hypertonia, stimulation (2%); amnesia, apathy, hyperkinesia, hypokinesia, malaise, manic reaction, psychotic reaction (at least 1%); myoclonus neuropathy, serotonin syndrome (postmarketing). Extended-release capsules Headache, insomnia (35%); somnolence (27%); asthenia (26%); dizziness (15%); dry mouth (11%); nervousness (10%); anxiety, tremor (8%); decreased libido (6%); abnormal dreams, abnormal thinking, agitation, apathy, paresthesia (3%); hypertonia, neurosis, twitching (2%). Dermatologic Immediate-release tablets Sweating (7%); bullous eruption, Henoch-Schönlein purpura, Stevens-Johnson syndrome, toxic epidermal necrolysis (postmarketing). Extended-release capsules Sweating (7%); acne (2%). EENT Immediate-release tablets Amblyopia, taste perversion (3%); laryngismus (postmarketing). Extended-release capsules Pharyngitis (6%); laryngitis (3%); amblyopia, epistaxis (2%). GI Immediate-release tablets Nausea (40%); dry mouth (14%); diarrhea (11%); constipation, dyspepsia (10%); anorexia (6%); vomiting (5%); flatulence (4%); tooth disorder (3%); dysphagia (2%); abdominal pain (1%); ileus, pancreatitis (postmarketing). Extended-release capsules Nausea (39%); diarrhea (18%); anorexia (14%); dyspepsia (10%); constipation, vomiting (6%); abdominal pain (5%); gingivitis, taste perversion, tooth disorder (2%). Genitourinary Immediate-release tablets Abnormal ejaculation (8%); urinary frequency (3%); anorgasmia, impotence (2%); urinary retention (1%); acute renal failure, priapism (postmarketing). Extended-release capsules Abnormal ejaculation (11%); anorgasmia (5%); abnormal sexual function, menorrhagia (3%); impotence, polyuria, UTI (2%). Hematologic-Lymphatic Immediate-release tablets Agranulocytosis, aplastic anemia (postmarketing). Extended-release capsules Ecchymosis (4%). Hepatic Immediate-release tablets Hepatitis (postmarketing). Extended-release capsules Abnormal LFTs (2%). Hypersensitivity Immediate-release tablets Anaphylactic reaction, angioedema (postmarketing). Lab Tests Immediate-release tablets Elevated liver transaminases (at least 1%). Metabolic-Nutritional Immediate-release tablets Edema, weight gain, weight loss (at least 1%); hyponatremia (postmarketing). Extended-release capsules Weight loss (2%). Musculoskeletal Extended-release capsules Myalgia (5%). Respiratory Immediate-release tablets Upper respiratory tract infection (9%); dyspnea, yawn (2%); increased cough, sinusitis (at least 1%). Extended-release capsules Yawning (5%); bronchitis (2%). Miscellaneous Immediate-release tablets Flu-like syndrome (3%); chills (2%); accidental injury (at least 1%); porphyria, vasculitis (postmarketing). http://www.drugs.com/ppa/fluvoxamine-maleate.html จากคุณ : atheist - [ 25 ก.พ. 52 00:47:07 ]

ความคิดเห็นที่ 6 จขกท ดูอคติพอสมควรเลยทีเดียว จากคำนิยามที่เขียนมา สำหรับเราผู้ป่วยจิตเวช ก็มีคุณค่าในความเป็นมนุษย์ เพราะถ้าไม่ยอมรับว่าเขามีคุณค่า เราคงช่วยบำบัดเขาไม่ได้หรอก ใครอยากจะยอมรับคนที่มองเราเหมือนหมูหมาค่ะ เราใช้ข้อนี้ล่ะ ในการเข้าหาผู้ป่วย แรกๆเขาอาจจะเงียบ ระแวง แต่พอผ่านไปซักพักเขาก็จะยอมรับเรามากขึ้น เพราะเรายอมรับในตัวของเขาเหมือนกัน เคยไปดูที่ศูนย์ฟื้นฟูบ้างไหมค่ะ ถ้าไม่แนะนำให้ไปที่ศูนย์สายใยครอบครัว ที่ ศรีธัญญา ที่นั่นมีทั้งผู้ป่วยในและนอก ซึ่งป่วยด้วยโรคจิตเวช มาฟื้นฟู ทุกคนเขาก็อิสระกันพอสมควร มีห้องซ้อมดนตรี อ่านหนังสือ ทำกิจกรรมร่วมกัน คนที่ป่วยทางจิตเวชบางคน เขาไม่ได้สูญเสียความสามารถทั้งหมด เหมือนอย่างที่ละครแสดงหรอกนะ เพียงแค่บางครั้งเขาอาจจะควบคุมตัวเองได้ไม่ดีนักเท่านั้นเอง เรายังไปนั่งร้องเพลง ฟังดนตรี เล่นปิงปอง อ่านหนังสือ ระบายสี ฯ อยู่กับกลุ่มผู้ป่วยจิตเภทเลย เขาก็มีความฝันของเขา มีจุดมุ่งหวัง มีการเข้าสังคมเหมือนกัน แต่ผู้ป่วยบางคนยังมีอาการหนักอยู่ ก็ต้องพึ่งยาไประยะเวลาหนึ่งจนมีความพร้อมมากขึ้น แล้วถึงจะได้รับการฟื้นฟูสภาพจิตใจ หลักการทำงานเกี่ยวกับจิตเวชมันมีตั้งแต่  ป้องกัน  บำบัด และ ฟื้นฟู  จะให้ข้ามขั้นเลยก็คงไม่ได้หรอก เพราะสภาพจิตใจบางคนยังไม่พร้อม แนะนำให้อ่านหนังสือเรื่อง การเดินทางออกจากการเป็นบ้า ซึ่งเป็นหนังสือที่ผู้เขียน (ลอรี่) และผู้แปลเป็นภาษาไทย ล้วนแล้วแต่เคยเป็นผู้ป่วยจิตเภท จะได้เข้าใจมุมมองของเขา และมุมที่สังคมมองเขา จากคุณ : ขี้เหงา...เอาแต่ใจ - [ 25 ก.พ. 52 01:01:56 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เอ่อ... เริ่มไม่ถูกเลย จะตอบตรงไหนก่อนดี ลองหาความรู้เกี่ยวกับกระบวนการบำบัดความผิดปกติทางิตและประสาทแบบคร่าว ๆ มาดูก่อนดีกว่าครับ แล้วคณจะรู้ว่าไอ้ที่คุณคิดว่าไม่มีและมันควรจะมีนั้น เขามีอยู่แล้ว และเขาควรจะใช้วิธีใดกันในโอกาสไหน จากคุณ : Capo - [ 25 ก.พ. 52 01:04:21 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ดิชั้นว่ากำลังจะโพสเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจิตตอนนี้ ที่ สวนลุมฯ พอดี พอมาอ่านกระทู้นี้ แล้ว ยังก่อนดีกว่า ขอทำเวลาอยู่กับจิตใจตัวเองสักพัก ดีกว่า จริงค่ะ ก็แค่หยุดเศร้า พูดหน่ะง่าย แต่จะให้ไม่ซึมเศร้าไม่ได้หรอก มันหดหู่ไปหมดแล้วนิ อารมณ์ไหน ก็เบื่อ ซึม พาลจะร้องไห้อยู่เรื่อยจริง ๆ ก็พยายามบังคับตนเองให้ได้อยู่ค่ะ เพราะผ่านพ้นการบำบัดด้วยยาแล้ว ช่วงนี้ก็ยังรักษาโดย่ผ่าน นักจิตวิทยาบำบัดอยู่ค่ะ ก็เลยจำผลข้างเคียงที่เคยได้รับยาได้จนทุกวันนี้จริง ๆ จากคุณ : คนที่ไม่มีใครต้องการ - [ 25 ก.พ. 52 01:04:32 A:192.168.0.17 X:125.26.86.153 TicketID:191399 ]

ความคิดเห็นที่ 9 คำว่าบ้าของคุณคือแบบไหนบ้างคะ ขออธิบายแบบไม่วิชาการนะคะ ผู้ที่เข้ารักษาในโรงพยาบาล มีทั้งผิดปกติน้อยไปจนมาก ขั้นไม่รับรู้ความจริง หรือควบคุมตัวเองไม่ได้ บางคนที่เป็นโรคซึมเศร้า เครียด ฯลฯ ก็อาจจะต้องเข้ารักษาตัว เพื่อความปลอดภัย หรือจะได้รักษาเต็มที่ ผู้ป่วยกลุ่มนี้ จะได้รับการรักษาหลายอย่างควบคู่กันไป ทั้งการเข้ากลุ่ม พูดคุย ดูหนัง เล่นดนตรี ร้องเพลง วาดรูป แบบที่คุณ จขกทฬอยากให้เป็นแหละค่ะ แต่ยาบางตัวจะมีผลข้างเคียงให้ซึม ง่วง บ้าง แต่สำหรับบางราย อาจจะมีบ้างที่ต้องให้ยาระงับประสาท เช่นเวลาที่คนไข้ ควบคุมตัวเองไม่ได้ อาละวาด จะมี2กรณีที่ทำคือ พาไปไว้ห้องแยก (ที่เคยเห็น จะเป็นห้องที่บุนวม มีกล้องติดไว้) เหมือนให้คนไข้เข้าไปสงบสติอารมณ์ และในนั้นก็ปลอดภัยค่ะ แต่ถ้ารายที่ไม่มีสติ พูดไมรู้เรื่อง และมีแนวโน้มว่าจะทำอันตรายตัวเอง หมอจะฉีดยาให้สงบ และมัดไว้ที่เตียง เป็นการแก้ไขอาการที่เกิดขึ้นเดี๋ยวนั้น ส่วนที่ถามว่ามีวิธีการอื่น ที่พอจะช่วยให้คนบ้ารับรู้ปกตินั้น ที่ใกล้เคียงก็คือ การ ช๊อคด้วยไฟฟ้า ค่ะ เป็นการใช้ไฟฟ้าในระดับหนึ่ง ที่จะไปปรับคลื่นในสมอง เพราะเชื่อว่า บางโรคบางอาการ เกิดจากความผิดปกติของคลื่นสมอง เลยใช้ไฟฟ้าไปช่วยค่ะ ก็ได้ผลสำหรับบางคน และบางโรค แต่ไม่ว่าจะกรณีไหน การรักษาระยะยาว ก็เน้นที่การฟื้นฟูจิตใจ แบบที่คุณ จขกท.อยากให้เป็นแหละค่ะ จากคุณ : HaJi_OoO_iJaH - [ 25 ก.พ. 52 01:42:45 ]

ความคิดเห็นที่ 10 สวัสดีครับคุณ atheist ผมรู้จักคุณ atheist ออนไลน์มานานจนคุ้นเคยกับล็อกอินเป็นอันดี ผมรู้สึกเสมอว่า ถ้าคุณกลับเป็นปกติเหมือนตอนก่อนที่จะเกิดอาการขึ้น สังคมคงจะได้คนเก่งอีกคนที่เป็นแรงพลังขับเคลื่อนสังคมเป็นแน่ และทุกครั้งที่อ่าน ผมเองก็มักจะคิดหวังว่า สักวันหนึ่งการแพทย์ จะพัฒนาถึงขั้น "ซ่อม" กระบวนการทางเคมีที่สมองสร้างออกมา มากหรือน้อยเกินความจำเป็นได้ ถ้าร่างกายเป็นกลไกอันหนึ่ง อนาคตมนุษย์เราจะซ่อมมันไม่ได้เชียวหรือ เพราะนอกจากมันจะช่วยคนอีกหลายคนให้ได้ชีวิตปกติกลับคืนมา มันยังช่วยให้มีคนคุณภาพในสังคมเพิ่มขึ้นอีกด้วยครับ จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!! - [ 25 ก.พ. 52 04:15:53 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ถ้าคลั่ง ถึงจะให้ ยาระงับ ครับ เพราะ ซึม ดีกว่าคลั่ง จากคุณ : IRQ5 - [ 25 ก.พ. 52 07:48:09 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ^ ^ #10 หลังมายค์ยังเต็มเหมือนเดิมนะครับ :) จากคุณ : atheist - [ 25 ก.พ. 52 08:09:36 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ถ้าไม่ใช่อาการจำพวก Mania หรือ Aggressive Disorder ซึ่งมีการคลุ้มคลั่ง ก้าวร้าวผิดปรกติ เราก็ไม่ใช้ยาที่ทำให้ซึมครับ อื่นๆ ตามข้างบนบอกครับ จากคุณ : Epinephrine - [ 25 ก.พ. 52 08:28:08 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ทีแรกจะมาแนะนำให้หาหนังเรื่อง  One Flew over the Cuckoo's Nest (1975) ชื่อไทย บ้าก็บ้าวะ นำแสดงโดย เเจ็ค นิโคลสัน เป็นเรื่องเกี่ยวกับ ร พ ประสาทใน สหรัฐ ที่ทำการรักษาผู้ป่วยตามวิทยาศาตร์ปกติด แจ็ก นิโคลสัน เป็นผู้ป่วย แต่ดูเหมือนเกล้งป่วย ไปดำเนินกิจกรรมที่ตัวเขาคิดว่าคนป่วยจะดูดีขึ้นถ้าทำแบบที่เขาคิด เช่น แอบนำคุณโสมาให้ ทำกัน... ไปเหมารถพาไปเที่ยวสวนสนุก ฯลฯ หนังจบแบบเศร้าวะ ตามสไตร Best Picture ของฮอลลีวูด จากคุณ : ซ่อนรอยยิ้ม - [ 25 ก.พ. 52 13:17:41 ]

ความคิดเห็นที่ 15 คนบ้า คือกลุ่มบุคคลที่ไร้ความสามารถของการอยู่ร่วมกับผู้อื่น และขาดจิตสำนึกของความรู้สึกผิดชอบชั่วดี และขาดความรับผิดชอบของความเป็นมนุษย์  แค่เริ่มต้น ก็โชว์มั่วแล้ว  ไร้ประโยชน์ที่จะแสดงความ(ไม่)รู้ต่อ  คุณมั่ว ด้วยอคติ ด้วยอวิชา  แล้ววิจารณ์ต่อ ด้วย ... ด้วยอะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน  พูดในเรื่องที่ตัวเองไม่มีความรู้ แม้แต่น้อยนิด  จะพูดไปทำไม  -------------------------------  ส่วนยากลุ่ม SSRI ที่ผมกินเป็นหลัก ยังมีอาการข้างเคียง ที่ทำให้ผู้ชายหลายๆคนซึมเศร้าหนักกว่าเดิมได้ครับ  ถ้ามีปัญหาเรื่องนี้ คุณ atheist ลองปรึกษากับหมอ ว่าจะลองเปลี่ยนเป็นพวก sertaline ได้ไหม  เพราะ side effect ของมัน ทำให้ผู้ชายหลายๆคนอยากเป็นโรคซึมเศร้า! จะได้ใช้ยา "นอกเหนือข้อบ่งชี้" ได้ จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 25 ก.พ. 52 22:38:19 ]