ความคิดเห็นที่ 1 โลกนี้ไม่มีระบบที่ดีที่สุด มีแต่ระบบที่เลวน้อยที่สุด หรือแย่น้อยที่สุด คนที่บอกว่าไม่ดี ส่วนใหญ่มักจะไม่สามารถบอกวิธีแก้ไขที่ดีกว่านี้ได้สักเท่าไร หรือว่าเราจะหันไปสอบแบบสมัยก่อนปี 2541 ดี ทุกมหาวิทยาลัยสอบพร้อมกันหมด ยกเว้น ม. ราชภัฏ(ซึ่งในตอนนั้นก็สอบหลังเพื่อนอยู่แล้ว) เลือกไปเลย 4 คณะ แล้วไปสอบจัดคะแนนเอา จากคุณ : Ice-man - [ 28 ก.พ. 52 17:07:23 ]

ความคิดเห็นที่ 2 จขกท.เตรียมฯรุ่นอะไรอ่ะ เรารุ่น66 อันนี้ตามความคิดเรานะ อาจจะเป็นเพราะว่าความยาก-ง่ายของการให้เกรดของเเต่ละสถาบันมันต่างกันรึปล่าว อย่างเช่น เด็กคนนี้เรียนวิศวะจุฬาได้ฟิสิกส์ c เเต่สมมติถ้าไปเรียนวิศวะ มหา'ลัยอื่น อาจจะได้ b+ ไม่ก็ aก็ได้ ไม่ก็เด็กเพิ่งเอนท์ติดเลยหลงระเริง ขี้เกียจอ่านหนังสือ ยังปรับตัวไม่ได้ อย่างเราเองเนี่ย จบเตรียมอุดม(เเผนศิลป์)ด้วยเกรด 4.00 เเล้วไปต่ออักษร จุฬา เกรดเทอมเเรกออกมา 3.08 เเบบช็อคไปเลย เป็นเกรดที่น้อยที่สุดในชีวิต เเบบตกต่ำสุดๆ คือเหมือนเรายังปรับตัวไม่ได้ คิดว่าเหมือนม.ปลาย อ่านซักอาทิตย์นึงก็ทันเเล้ว อีกอย่างเเบบเราอ่านหนังสือตอนเอนท์เครียดมาก ตอนนั้นก็คิดว่าชั้นจะไม่เครียดกับการอ่านหนังสืออีกเเล้ว เเต่มันไม่ใช่เลย เทอมต่อไปเลยขยันขึ้น อ่านหนังสือทุกวันเลยได้เกรดดีขึ้น จากคุณ : TU66 - [ 28 ก.พ. 52 17:15:40 A:58.10.195.41 X: TicketID:143314 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ที่เขาว่าเกี่ยวกันเป็นเพราะการใช้ระบบนี้ส่งเสริมให้สถาบันการศึกษาใน ระดับมัธยมปลายหลายแห่งปล่อยเกรดกัน เกรดที่นักเรียนไม่ควรจะได้ ก็ให้ เกรดจึงเฟ้อ นักเรียนก็ไม่กลัวว่าจะได้เกรดน้อยจึงไม่ตั้งใจเรียน และ ส่งผลมาถึงระดับอุดมศึกษาเป็นปัญหาอย่างที่เห็นกันอยู่ตอนนี้ในที่สุด จากคุณ : Practical x 2 - [ 28 ก.พ. 52 17:24:29 ]

ความคิดเห็นที่ 4 TU67 ครับ เกรดเทอมแรกทำเอาช็อคเหมือนกัน คิดว่าอ่านแปปเดียวทัน เทอมต่อมาค่อยดีขึ้นเหมือนกันครับ จากคุณ : ~ OLYMPIC ~ - [ 28 ก.พ. 52 17:30:50 A:58.64.83.215 X: ]

ความคิดเห็นที่ 5 ข่าวไม่จริงทั้งหมดครับ http://www.vcharkarn.com/varticle/38404 จากคุณ : ไม่มีสมาชิกชื่อนี้ - [ 28 ก.พ. 52 17:41:15 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ตกลงเป็นที่เด็ก  หรือเป็นที่ข้อสอบตอนเรียน เด็กช่วง1-2ปีนี้ มาจากระบบEntrance หรือAdmissionคงไม่ถามแล้ว แต่ถามว่า ข้อสอบยากขึ้นหรือไม่(ไม่เอา Anet Onet-ข้อสอบเข้าที่บอกยากขึ้นทุกปีนะครับ) เอาข้อสอบตอนเรียนในมหาวิทยาลัย ต่างกับเมื่อก่อนมากมั้ย แบบคนธรรมดากับเด็กโอทำรึเปล่า แล้วทำไมข้อสอบถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนั้น อาจารย์เปลี่ยนรุ่น?? อาจารย์ ที่ผ่านมาหลายๆรุ่น ว่าอย่างไร รุ่นพี่ที่จบไปหลายๆปี ว่าอย่างไร(เกี่ยวมั้ย) ต้องฟังหลายฝ่ายคุย หลายฝ่ายวิจารณ์ และผลในแต่ละปี ว่ามีปัจจัยไรบ้างที่เปลี่ยนไป ผมจะได้เข้าใจ คคห2 ปีหน้าก็ขึ้นปี4แล้วดิ ปีสุดท้ายแล้ว สู้ๆ (คำนวณจากรุ่น) จากคุณ : mohicann - [ 28 ก.พ. 52 17:43:06 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขอตอบในฐานะอาจารย์ที่สอนมาหลายรุ่นว่า ความสามารถนักศึกษาลดลงครับ ดูจากทักษะต่างๆ ที่แสดงออกมาระหว่างภาคการศึกษา และผลการประเมิน แก้ไขเมื่อ 28 ก.พ. 52 18:02:06 จากคุณ : Practical x 2 - [ 28 ก.พ. 52 17:54:21 ]

ความคิดเห็นที่ 8 มาดูแบบนี้ดีกว่า คะแนนที่ติดวิศวะ ฬ ประมาณ 7000 (ต่ำสุด) เกรด 3000 - ถ้าปล่อยเกรดได้ 3000 เต็ม พื้นฐานวิศวะ ทำซุยๆมั่วๆ ได้ซัก 50 - 500 คะแนน ONET - 40% = 4,000 คะแนน เลขเต็มเหอะ เหมือนเลข ม.สาม ผมให้ 90% ละกัน คิดเป็น 800*9/10 = 720 อังกฤษ ง่ายนะ เอาไปเลย 80 = 800*8/10 = > 640 ไทย ก็ง่ายเอาไปซัก 80 = 800*8/10 = 640 สังคม ยากหน่อย เอา 60 ละกัน = 800*6/10 = 480 วิทย์เดาๆซุยๆ ไปเอา 50 = 400 คะแนน รวม 3000 + 500 + 720 + 640 + 640 + 480 + 400  = 6380 เหลืออีกประมาณ 620 คะแนนจาก... 2000 คะแนนของ anet ทำวิชาละ 35 ติดแล้วครับ -_-'' จากคุณ : atthaphong - [ 28 ก.พ. 52 17:59:19 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เกี่ยวอยู่แล้วครับ เข้าไปได้เพราะไทย สังคม โฟกัสไม่โดนจุด สมัยก่อนพื้นฐานวิศวะ ฟิสิกส์ เลข 3วิชานี้กินไป60%ของคะแนนสอบรวมแล้ว วิชาที่ตรงเป้ากว่า จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน - [ 28 ก.พ. 52 18:01:56 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ผมรุ่น 63 ครับ แต่ตอนนี้ก็ยังเลียบ ๆ เคียง ๆ อย่ในวงการ จากรุ่นผมมารุ่นนี้ ผมกล้าพูดครับว่า เด็กมีความสามารถทางด้านวิชาการลดลงไปครับ ระบบการสอบมีส่วนครับ และที่มีส่วนยิ่งกว่าคือระบบการสอน จากคุณ : Skyman (Analayo) - [ 28 ก.พ. 52 18:23:46 ]

ความคิดเห็นที่ 11 อย่างเช่น เด็กคนนี้เรียนวิศวะจุฬาได้ฟิสิกส์ c เเต่สมมติถ้าไปเรียนวิศวะ มหา'ลัยอื่น อาจจะได้ b+ ไม่ก็ aก็ได้ ....................................................................................................... โห มหาลัยอื่นแมร่งปล่อยเกรดนี่หว่า สู้จุฬาก็ไม่ได้ เก่งจริง ๆ จากคุณ : high_voltage_XL - [ 28 ก.พ. 52 18:25:09 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เก่งอย่างเดียวทำงานไม่เป็น รึป่าว จากคุณ : beer - [ 28 ก.พ. 52 18:32:27 A:125.24.129.110 X: TicketID:206227 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ก็เลยไม่รู้เลยว่าที่เด็กวิทยฯ กับเด็กวิศวะฯ ปี 1 ติด F ในวิชา Physics เยอะนี่ มันเกิดจาก A Net หรือข้อสอบยาก หรือ เด็กเองปัญญาอ่อนกันแน่ สมัยที่ผมเรียนนี่ ติด D นี่ก็ถือว่าห่วยแตกเต็มที่แล้ว แต่ไม่เคย Drop ซักวิชา จากคุณ : ลุงแก่ - [ 28 ก.พ. 52 18:34:37 ]

ความคิดเห็นที่ 14 อาจจะเป็นเพราะว่าความยาก-ง่ายของการให้เกรดของเเต่ละสถาบันมันต่างกันรึปล่าว อย่างเช่น เด็กคนนี้เรียนวิศวะจุฬาได้ฟิสิกส์ c เเต่สมมติถ้าไปเรียนวิศวะ มหา'ลัยอื่น อาจจะได้ b+ ไม่ก็ aก็ได้ ^ ^ ^ ^ ใช้สมองส่วนไหนคิดประโยคเหล่านี้ออกมาครับ?? จากคุณ : Nitrouz - [ 28 ก.พ. 52 18:37:58 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ...ถ้าเรียนจุฬา คาดว่าจะไม่จบแน่-แน่... จากคุณ : ฟิสิกซ์ได้ C ม.ต่างจังหวัดค่ะ (primjang) - [ 28 ก.พ. 52 18:46:53 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เด็กรุ่นผมมันก็เป็นอย่างนี้แหละครับ รุ่นก่อนเก่งกว่าอยู่แล้ว สังเกตจากคำนี้ "เด็กสมัยนี้มันไม่ได้เรื่องเลย สมัยผมดีกว่านี้เยอะ" เป็นคำพูดที่ชอบหลุดออกมาจากผู้ใหญ่ ใช่ครับเด็กสมัยนี้มันไม่ได้เรื่อง สู้สมัยคุณไม่ได้หรอก ตอนนี้หลงประเด็นไปมากละ ผมแค่ต้องการสื่อว่าพวกผมคิดยังไงมากกว่า ไม่ได้อยากทะเลาะกับใคร ถ้าใครไม่พอใจก็ขอโทดด้วย อีกอย่าง คห 12 คุณใช้อะไรตัดสินไม่ทราบ จากคุณ : จขกท - [ 28 ก.พ. 52 18:55:39 A:58.64.83.215 X: ]

ความคิดเห็นที่ 17 ^ แต่ก่อนผมก็คิดเหมือนจขกท. คือตอนตัวเองยังเด็ก ผู้ใหญ่ก็ชอบพูดอย่างนี้แหละ ก็ตั้งใจไว้ว่า โตขึ้นจะต้องลดอคติ เรื่องรุ่นเรื่องสีลงไป ให้มันเหลือน้อย ๆ หน่อย หลังจากจบมา 4-5 ปี ก็ยังไม่คิดอะไรมาก คือยังไม่รู้สึกว่ารุ่นหลังเราจะต่างอะไรจากรุ่นเราซักเท่าไหร่ แต่พอหลัง ๆ มา เกินสิบปี เกินยี่สิบปี เริ่มเห็นว่า มันเปลี่ยนแปลงไปจริง ๆ ตอนนี้ คิดว่าคนจบป.โท สมัยนี้ สูสีกับคนจบป.ตรี สมัยก่อน คนจบป.ตรี สมัยนี้ ดีกว่าจบ มศ.ปลาย หรือ ม.ปลาย สมัยก่อน นิดเดียว (เอาเป็นว่าประเมินจากส่วนใหญ่ก็แล้วกันนะครับ เพราะแต่ละรุ่นก็จะมีคนเก่งพิเศษอยู่แล้ว ซึ่งท็อปของแต่ละรุ่น ผมว่าไม่น่าจะต่างกันเท่าไหร่นัก) อันนี้ วัดที่ความแน่นของความรู้ กับทักษะในการทำงาน นะครับ แล้วก็ต้องออกตัวว่า เป็นมุมมองของผมเพียงคนเดียว ท่านอื่น ๆ อาจจะพบอะไรที่ต่างออกไป (แต่ฟังเสียงรวม ๆ แล้ว ผมคิดว่ามันมีทิศทางเดียวกันนะครับ คือแย่ลง) แต่ก็มีบางอย่าง ที่น่าจะเป็นข้อดีของเด็กสมัยนี้ คือจะกล้าพูด กล้าคิด กล้าทำมากขึ้น (แต่บางทีก็เป็นพูด คิด ทำ แบบผิด ๆ แล้วไม่ฟังใครไป) และทักษะการนำเสนองานมีมากขึ้น แต่สู้งานน้อยลง (เด็กจบใหม่สมัยก่อน เรื่องพวกนี้จะไม่ค่อยเก่ง ต้องเรียนรู้เอาทีหลัง) แล้วก็ได้รู้จัก เครื่องมือ และแนวคิด ที่ทันสมัยกว่า สำหรับข่าวที่ได้ยินมา น่าเป็นห่วงมาก ๆ ครับ แต่ก่อนเคยแต่ได้ยิน C ทะเล แต่สมัยนี้ถ้าเป็นอย่างนี้ สงสัยจะเป็น F+W ทะเล ไปซะแล้ว คิดว่า จบไปก็คงไม่ถึงขั้นใช้อะไรไม่ได้หรอก แต่ก็คงต้องไปเรียนเพิ่มตอนทำงานแล้ว ในสิ่งที่หลักสูตรเขาวางไว้ว่า ควรจะรู้ ตั้งแต่ก่อนจบแล้ว น่ะสิครับ แล้วอย่างนี้ เราจะไปสู้ชาติอื่น เขาได้ยังไงกันเล่าครับ. จากคุณ : ลุงแว่นใจดี - [ 28 ก.พ. 52 19:16:56 ]

ความคิดเห็นที่ 18 จขกท เรารุ่นเดียวกันว่ะ เกรดมหาลัยเทอมแรกไม่ถึง 2 ไม่ค่อยตกใจเท่าไหร่เพราะเตรียมใจไว้ละ ตอนนี้เน้นเก็บประสบการณ์มากกว่าเรียนอะ (อยู่นิเทศ) เพราะเกรดคณะนี้เยอะเท่าไหร่ใช่ว่าจะได้งาน แต่อ่านวันสุดท้ายก่อนสอบไม่ทันเหมือนม.ปลายจริงๆ ปัจจุบันนี้เลยชอบข้อสอบเขียนมากกว่า แถได้ (ได้คะแนนเยอะด้วย) อีกอย่างรุ่นเก่าๆ โง่ๆ ก็มี ผมว่าระบบการสอบมันวัดเกรดนักเรียนไม่ได้ว่ะ ผมว่าระบบการสอนต่างหากที่วัดเกรดนักเรียน บางวิชาอาจารย์สอนได้ห่วยจริงๆ พูดๆ ตามสไลด์ บางคนพูดไม่รู้เรื่องอีกต่างหาก ครูสมัยม.ปลายดีกว่าเยอะ ไม่รู้ว่าพวกนี้ยังเป็นอาจารย์อยู่ได้ยังไง แถมอาจารย์คณะผมคนนึงให้เกรดปาเป้าอีก การสอบวัดอะไรไม่ได้เลย นี่แหละด้านมืดของจุฬาฯ จากคุณ : ERWA - [ 28 ก.พ. 52 19:31:30 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เราว่านะ....มีมหาวิทยาลัยอื่นรับตรงวิศวะ...ดังนั้นสิบเบี้ยใกล้มือ...ดีกว่าไปเสี่ยงเอาข้างหน้า... ดังนั้นจุฬาก็จะได้เด็กอยู่ 2 ประเภทคือเด็กที่เก่งจริงมีความเชื่อมั่นว่าติดแน่นอนและเด็กที่................. ส่วนมหาวิทยาลัยที่รับตรงก็จะได้เด็กเก่งไปก่อน จากคุณ : ซามูไรสายฟ้า - [ 28 ก.พ. 52 19:39:09 ]

ความคิดเห็นที่ 20 คะแนนสูงสุดต่ำสุด เป็นตัวบอกความนิยมครับ ไม่ใช่ index วัดความเก่งกาจ แต่ถ้าความนิยมมาก ก็มีการแข่งขันสูง ทำให้ได้คนเก่งมากว่าเป็นผลที่ตามมา สมัยหนึ่งเหยียบกันจะเป็นจะตายเพื่อจะเลือกโยธา  แต่ปีถัดมากลับไม่มีใครยินดีที่จะเลือกซะงั้น มันมีขึ้นมีลงได้ครับ เป็นเรื่องของความนิยม เลิกหลอกตัวเองเสียที จุฬาฯ ยังแพ้มหาลัยอื่น ๆ ในเรื่องของความสู้งาน และเรื่องสังคม ไม่เป็นงานยังพอเสียเวลาสอนกันได้  แต่สอนคนให้เป็นคน บางทีสอนกันยากครับ แห่กันดรอป หรือ F หมู่ในเทอมแรก ๆ เป็นเรื่องปกติของทุกที่ครับ เพราะอาจเป็นเรื่องของการปรับตัว แต่การที่ปล่อยเกรดกันอยากมากมายทำให้เด็กไม่รู้ระดับที่แท้จริงของตัวเอง ทนงตัวว่ายังเป็นหนึ่งในตองอูอยู่เหมือนสมัยมัธยม... ยังคงชื่นชมกับเกรดลวงตาที่ปรับให้เข้ากับระบบ... พอมาเจอ อ.มหาลัยที่ไม่ได้ปล่อยเกรดตามน้ำ ผลก็เลยเป็นอย่างที่เห็น จากคุณ : Lanoz - [ 28 ก.พ. 52 19:51:21 ]

ความคิดเห็นที่ 21 อย่างที่หลายๆคนว่ากันมาก็ถูก ปรับตัวใหม่ๆไม่ทัน แล้วเด็กสมัยนี้ก็ไม่เหมือนสมัยพวกผู้ใหญ่ อะไรๆมันเปลี่ยนไป (ผู้ใหญ่สมัยนี้ก็ไม่เหมือนผู้ใหญ่สมัยก่อนเหมือนกันแล่ะ) ก็จริงอะค่ะ อยู่ มหาวิทยาลัยใหม่ๆก็คงต้องพลาดกันบ้าง เห็นกระทู้ที่ผ่านมา เค้าบอกว่าดรอปฟิสิกส์ ไม่เห็นแปลก!! เหอๆๆ แต่อีกแง่ก็จริงอะ เอาไทยสังคมมาใน O-NET วิศวะทำไม? ใช้อะไรได้เหอๆๆ? จะบอกว่าไม่กี่ % ก็เหอะ แต่จะเอามาทำไมหว่า? สงสัยอีกอย่าง คณะสังคมสงเคราะห์ เอา A-NET ไม่วิทย์ก็เลขหรือภาษาที่3 (ไม่มีภาษาอังกฤษ) เอาวิทย์กะเลขยากๆไปทำอะไรเหรอ? ทำไมไม่ใช้สังคมเอเน็ต? งง จากคุณ : St.Kyo - [ 28 ก.พ. 52 20:00:51 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ผมอยากรู้ว่า เข้าวิศวะ นี่ผมต้องอ่าน ชีวะ ด้วยหรอเนี่ย แต่มันผ่านมา 2 ปีแล้วชั่งมัน จากคุณ : ปุยฝ้าย-สายไหม - [ 28 ก.พ. 52 20:08:22 ]

ความคิดเห็นที่ 23 " แห่กันดรอป หรือ F หมู่ในเทอมแรก ๆ เป็นเรื่องปกติของทุกที่ครับ เพราะอาจเป็นเรื่องของการปรับตัว แต่การที่ปล่อยเกรดกันอยากมากมายทำให้เด็กไม่รู้ระดับที่แท้จริงของตัวเอง ทนงตัวว่ายังเป็นหนึ่งในตองอูอยู่เหมือนสมัยมัธยม... ยังคงชื่นชมกับเกรดลวงตาที่ปรับให้เข้ากับระบบ... พอมาเจอ อ.มหาลัยที่ไม่ได้ปล่อยเกรดตามน้ำ ผลก็เลยเป็นอย่างที่เห็น " เห็นด้วยอย่างยิ่ง จากคุณ : KinkyVans - [ 28 ก.พ. 52 20:09:53 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ความคิดเห็นที่ 3   ที่เขาว่าเกี่ยวกันเป็นเพราะการใช้ระบบนี้ส่งเสริมให้สถาบันการศึกษาใน ระดับมัธยมปลายหลายแห่งปล่อยเกรดกัน เกรดที่นักเรียนไม่ควรจะได้ ก็ให้ เกรดจึงเฟ้อ นักเรียนก็ไม่กลัวว่าจะได้เกรดน้อยจึงไม่ตั้งใจเรียน และ ส่งผลมาถึงระดับอุดมศึกษาเป็นปัญหาอย่างที่เห็นกันอยู่ตอนนี้ในที่สุด จากคุณ : Practical x 2 -------------------------------------------------------------------------- เห็นด้วย อย่างยิ่ง -โรงเรียนมัธยมบางโรง ห้ามครูให้นักเรียนได้เกรดต่ำกว่า 2 -คะแนนสอบสอบไม่ถึงเกณฑ์  ให้ซ่อมจนกว่าจะผ่าน  นักเรียน(หลายคน) เลยไม่ตั้งใจเรียน รอสอบแก้ตัวอย่างเดียว ซ่อมจนเซ็งหน้ากันไปเลย - ฯลฯ พอไปเรียนมหาวิทยาลัย  ก็เลยปรับตัวไม่ได้ ------------------------------------------------------ แล้วก็กล่าวโทษกันเป็นทอดๆ  ว่าสอนกันมาอย่างไร อาจารย์มหาวิทยาลัย ก็ โทษครูมัธยม ครูม.ปลาย ก็โทษครู ม.ต้น  ครู ม.ต้นก็โทษ ครูประถม ครูก็ว่านักเรียนเ รียนไม่ได้เรื่อง   นักเรียนก็ว่าครูสอนไม่ได้เรื่อง                                                 จากคุณ : ตัวกลมๆผมม้า - [ 28 ก.พ. 52 20:21:37 ]

ความคิดเห็นที่ 25 คณาจารย์ในคณะหลายท่านเห็นพ้องต้องกันว่า เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่าง ชัดเจนต่อนักศึกษารุ่น admission รุ่นแรก (Ad01 - ปี 3 ที่จะขึ้นปี 4 ในปี การศึกษาหน้า) แต่ที่น่าเป็นห่วงที่สุดตอนนี้คือ admission รุ่นสอง (Ad02 - ปี 2 ที่จะขึ้นปี 3 ในปีการศึกษาหน้า) เพราะเรียนอ่อนมากแทบทุกคน แทบจะไม่มีคนเก่งเหลือเลย แม้ว่าตอนที่รับพวกเขาเข้ามา จะรับจำนวนเพิ่ม มากขึ้นกว่าเดิมถึง 2 เท่าครึ่ง แต่รุ่น Ad02 ที่เรียนตามโปรแกรมปกติไม่น่า จะเหลือเกิน 10 คนแล้ว ที่เหลือต้องลุ้นกันต่อว่าจะเป้อหรือโปร สิ่งที่ผมคาดว่าเกิดขึ้นคือ การที่มหาวิทยาลัยขานรับ นโยบาย admission เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างออกเป็นมหาวิทยาลัยนอกระบบ ต้อง เลี้ยงตัวเอง ควานหานักศึกษามาเข้าเรียนให้ได้จำนวนมากที่สุด ทำให้คณะ ต่างๆ ต้องขยายฐานในการรับนักศึกษา หากทุกคณะขยายฐานการรับเป็น สองเท่า ย่อมต้องไปเบียดบังคณะอื่นๆ ในสายเดียวกัน ที่ไม่ได้รับความ นิยมทัดเทียม ดึงต่อกันไปเป็นทอดๆ ผมเคยคุยกับเพื่อนอาจารย์ที่สังกัด มหาวิทยาลัยราชภัฎ บอกว่าจำนวนนักศึกษาหายไปมาก เนื่องจากมหา- วิทยาลัยปิดขยายฐานการรับ ทำให้กลุ่มนักศึกษาเดิมที่เข้า มทร. มาอยู่ ในมหาวิทยาลัยปิดแทน แก้ไขเมื่อ 28 ก.พ. 52 20:37:03 แก้ไขเมื่อ 28 ก.พ. 52 20:36:19 จากคุณ : Practical x 2 - [ 28 ก.พ. 52 20:36:05 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เต็ม 100 Mean 19 ก็ไม่มีอะไรแปลกนี่ รุ่นผมเต็ม 100 Mean แค่ 13.5 เอง จากคุณ : Nexus - [ 28 ก.พ. 52 20:41:51 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เรียนวิศวะ ก็ควรจะเก่งฟิสิกส์เป็นพื้นฐานบ้าง เพราะมันฝึกให้คิดแก้ไข จากคุณ : danni (Danni) - [ 28 ก.พ. 52 20:50:30 ]

ความคิดเห็นที่ 28 แต่คุณภาพเด็กมันก็ตกลงจริงๆน่ะแหละ เพราะให้น้ำหนักความสำคัญไม่ถูกเรื่อง ปล.เป็นเด็กแอดฯรุ่นแรก จากคุณ : Bluedonut - [ 28 ก.พ. 52 20:54:10 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เด็กมันยังเคลียร์ข้อมูลจำพวก  ชีวะ  ภาษาไทย  และสังคม  ออกจากสมองไม่ทัน ทำให้เหลือพื้นที่ประมวลผลสำหรับวิชาวิศวะน้อยลง  ประสิทธิภาพเลยต่ำลง จากคุณ : NaTArT - [ 28 ก.พ. 52 21:17:08 ]

ความคิดเห็นที่ 30 กระทู้คืนสู่เหย้าเรอะเนี่ย 555+ ผมรุ่น.64  เกรดตอนจบจากร.ร. ได้เกรดรวม 2.88 เป็นไงล่ะมีใครเน่าสู้ผมได้บ้าง จากนั้นก็ไปเข้าคณะวิดยา มหาลัยที่อยู่ติดๆกัน เกรดเทอมแรก 3.5 Gen Phy I  กับ Cal ได้ 69กับ75 มั้ง (มีนประมาณ20 - คนละตัวกับวิดวะ) เรียนจบ4ปีได้เกรด3กว่าๆ  เอาตัวรอดมาได้อย่างไม่ลำบากอะไร คือที่ผมจะบอกคือที่ผมทำแบบนี้ได้เพราะไม่ใช่ว่าเก่งไร แต่เพราะผมปรับตัวได้ รวมทั้งร.ร.ผมสอนมาดี  ปัญหาที่จขกท.บอกมานี่ไม่ได้อยู่ที่ระบบอย่างเดียวหรอกครับ อยู่ที่ตัวนักเรียนเองด้วยว่าจะปรับตัวได้รึเปล่า   ปล. ผมว่าปัญหาของระบบการศึกษาไทย มันอยู่ที่มาตรฐานในการเรียนการสอนการปล่อยเกรดของแต่ละร.ร.เลยครับ     อย่างรุ่นผมสอบเป็นรุ่นสุดท้ายมั้งที่มีการใช้ค่าPR ซึ่งเป็นคะแนนได้เปล่าที่เลวร้ายมากๆ   คือ เพื่อนผมที่อยู่คนละร.ร.แต่ได้เกรดเท่าผม ได้ค่าPR มากกว่าผม30คะแนน (จู่ๆก็ได้คะแนนเพิ่ม30) เซ็งจริงๆๆ - -" แก้ไขเมื่อ 28 ก.พ. 52 21:32:42 แก้ไขเมื่อ 28 ก.พ. 52 21:29:37 จากคุณ : pathara - [ 28 ก.พ. 52 21:29:09 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เรื่องของเขาไม่ใช่เรื่องของเรา เพราะเราไม่ได้อยู่ จุฬาฯ จากคุณ : Duk_Dik_Kung - [ 28 ก.พ. 52 21:39:01 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ไม่ได้เกิดกับจุฬาที่เดียวหรอก เกิดกับทุกมหาวิทยาลัยเลย ลองคิดดูว่า อาจารย์คนเดิม สอนเหมือนเดิม ออกข้อสอบเหมือนเดิม เวลาเรียนเท่าเดิม เด็กรุ่น Ent ระบบเก่า ติด F 5-10% แต่รุ่นหลังๆตั้งแต่เปลี่ยนระบบสอบเข้า ติด F กัน 20-30% มันหมายความว่ายังไง ถ้าไม่ได้เกิดจากระบบคัดเลือกเด็กเข้ามาเรียนที่ห่วยแตก ที่ทำให้ได้เด็กที่อ่อนลงมากอย่างเห็นได้ชัดขนาดนี้ จากคุณ : maxijojo123 - [ 28 ก.พ. 52 21:44:57 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ผมเป็นเด็กวิดวะที่ตอนมัธยม ชอบ ชีวะ กับ ฟิสิกส์ แต่ไม่ชอบคณิตศาสตร์ กับ เคมี ตอนที่จะเลือกคณะเข้า ก็หาข้อมูลเอาคณะที่เป็นศาสตร์ ชีวะ กะ ฟิสิกส์ เป็นหลัก เจออยู่อย่างเดียวคือ ประสาทวิทยา (Neurology) ถ้าจะเรียนในไทยก็ ต้องเข้าจิตวิทยา ซึ่งในไทยส่วนใหญ่ก็สอนเชิงสังคมศาสตร์เป็นหลัก ไม่ก็เรียนแพทย์ แล้วไปต่อเฉพาะทาง ซึ่งโดยเหตุผลส่วนตัว... ผมไม่อยากเป็นหมอ ก็เลยเลือกวิศวะ!!! (โคดจะมีเหตุผลในการเลือกเลย 555+) พิมพ์เสร็จแล้ว เพิ่งคิดได้ว่า ...เกี่ยวอะไรกับกระทู้ฟระ -  -" อ้อ จะบอกว่าจากการเรียนคณะนี้มา 2 ปี อยากจะบอกว่า... ไอ้ความรู้ฟิสิกส์ ที่คุณๆทั้งหลายใข้สอบเข้ามาในคณะนี้ มันไม่ได้ตัดสินความเป็นความตายในการเป็นนิสิต/นักศึกษา วิศวะ ของคุณ เช่นเดียวกับ เคมี ชีวะ ไทย สังคม ONET ไทยสังคม มันไม่ได้ยากเลย  ไทยก็ภาษาที่ต้องใช้อยู่ทุกวัน  แค่ใส่สุนทรียภาพลงไปกะมันหน่อย สังคมก็รู้ไว้เหอะ  ทันโลก เผื่อเจอสาวๆคณะอื่นจะได้พอมีอะไรในหัวไปคุยกะเค้าบ้าง ไม่ใช้ว่าเป้นเด็กวิศวะแล้วเจอหน้าใครจะไปดีวายบายดีเอ็กซ์ใส่เค้าอย่างเดียว ชีวะเนี่ย เห็นบ่นๆกันจังว่าท่องเยอะๆๆ ชีวะส่วนที่ท่องเยอะผมก็เห็นมีแค่ส่วนอนุกรมวิธาน ซึ่งตอนผมสอบมันก็ออกอยู่สามสี่ข้อ ที่เหลือก็ไม่ได้ยากเลย  รู้ไว้บ้างเหอะครับ เป็นวิศวกรก็ใช่ว่าจะไม่ต้องไปแตะวิชาอื่นเลย โลกเดี๋ยวนี้มันต้องบูรณาการ ถ้าข้อสอบมันยากเว่อระดับหมอเรียนกันก็ว่าไปอย่าง สรุปว่า admission เรื่องปล่อยเกรด ปล่อยจริง ต้องหาทางแก้ (แต่คิดอีกที ถ้าทุกโรงเรียนปล่อยเกรดเหมือนกันหมด สุดท้ายการปล่อยเกรดก็จะไม่มีผลในการคัดนักเรียนเข้าศึกษาหนินะ ฮ่าๆ) แต่ผมว่าการเอาคะแนนไทย สังคม อะไรมาคิดด้วยก็ไม่ได้เป็นเรื่องคอขาดบาดตายอะไร แต่วิทย์ ANET ยัง weight คะแนนแปลกๆอยู่ ส่วนเรื่องเกรด ฟิสิกส์ เราได้ C มาทั้งสองตัวอะ ก็เข้าเรียน(แต่ส่วนใหญ่เข้าไปหลับ) อ่าน text หน่อย โจทย์ก็ไม่ได้ทำมากมาย ดูแนวข้อสอบเก่าซะหน่อย ก็พอทำได้ เท่าที่รู้มา ยอมรับว่าที่นี่ตัดเกรดโหดกว่าที่อื่นนิดนึง ข้อสอบยากกว่าที่อื่นนิดหน่อย แต่เชื่อว่า ไม่ยากถึงขั้นตั้งใจแล้วจะ F นะ จากคุณ : Learning by surfing - [ 28 ก.พ. 52 22:12:45 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ผมคนนึงที่สอบ Entrance  Thai Soc Eng Math Phy Chem Bio อย่างละ100คะแนน GPA5%+ PR5% วิชาวิทย์400คะแนน ไทยสังคมอังกฤษ300 สอบ2ครั้ง เลือกดีสุด บอกคะแนนก่อนแล้วเลือกคณะ4อันดับ เห็นด้วยมากที่สุดเทียบกับระบบต่างๆ แต่ถ้า GPA PR มีน้ำหนักเยอะไปก็มีผลเสียคือ เรื่องGPA มีผลให้ร.ร.ปล่อยเกรด.. PR ในกรุงเทพ.คนสมองกลางๆ ได้ PRต่ำกว่าคนต่างจังหวัดเยอะมากกก ต่อมาAdmission น้ำหนักดังกล่าวมากขึ้น แต่วิชาสอบเข้า..ถ่วงน้ำหนักกลับเปลี่ยนไป ถ้าบอกว่ามีแต่คนห่วยเข้าไป แล้วคนเก่งหล่ะ การเรียนในม.ปลายผมไม่เชื่อว่าจะทำให้เด็กโง่ขึ้นกว่าอดีต เพราะAdmissionในอนาคตที่ตัวเองต้องสอบ ระบบที่ตัวเองยังไม่สอบ ไม่มีทางให้เด็กโง่ก่อนสอบได้..โรงเรียนไม่ผิด(แต่อาจผิดเรื่องปล่อยเกรด ให้คะแนนส่วนเกรดมากขึ้น แข่งกันได้ดุขึ้น)....คนเก่งคนห่วย น่าจะอยู่ในอัตราส่วนเท่าเดิมเหมือน10ปีที่แล้ว...ไม่แน่เด็กเก่งท่องจำอาจมากกว่าเดิมด้วย เพราะเรียนพิเศษกัน24ชม. แต่ระบบการคัดเด็ก ทำให้ไม่ใช่การกรองที่มีประสิทธิภาพ ผิดที่ผิดคน กึ่งrandom เก่งAได้ไปคณะB เก่งBได้ไปคณะA คนนึง   Phy70 Chem70 Bio70 thai 30 Soc30 แต่อีกคน Phy45 Chem45 Bio45 Thai56 Soc56 Entrance คนแรกได้วิทย์ คนสองได้อักษร...เรียนจบทั้งคู่ แต่Admissionทำให้ระบบการกรอง รวนเร คนสองได้คะแนนมากกว่า อยากเลือกวิทย์..แล้วติด คนแรกได้คะแนนต่ำกว่า พอดูจากสถิติการเลือกคณะ...จำใจไปอักษร Fทั้งคู่ครับ งานนี้ ...แน่นอนเด็กไม่ผิดถ้าเด็กเลือกได้... แต่คนที่คิดการคัดเด็ก ผิดเต็มๆ ไม่รู้เรื่องยังจะมาเป็นหัวหน้า โดนคนอื่นโต้ไปก็ไม่เคยเชื่อสุดท้ายก็เกิดปัญหากับความรู้สึก กับอนาคตเด็ก มันก็สายเกินไป ส่วนมหาวิทยาลัยก็เป็นแพะรับบาป รับเด็กมา ต้องให้เด็กไม่มีหัวด้านนั้น ต่ำกว่ามาตรฐานด้านนั้น ต้องกู้เด็กจนผ่านมาตรฐานไปได้...บางคนกู้ไม่ขึ้นก็ต้องF เห็นใจอาจารย์มหาวิทยาลัยที่สุดเลย เิกิดมาไม่เคยพบเคยเจอ ................... ขอโทษด้วยครับ แก้ไขตาม คคห58ครับ แก้ไขเมื่อ 01 มี.ค. 52 23:30:08 แก้ไขเมื่อ 28 ก.พ. 52 22:18:50 จากคุณ : mohicann - [ 28 ก.พ. 52 22:15:30 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ขอเสนอว่าใครที่รู้ข้อสอบก็ถอดลอกอินแล้วเอามาลงในที่นี้ซักข้อสองข้อก็ได้นะครับ จะได้รู้ว่้ายากจริงรึเปล่า จากคุณ : Zkizzik - [ 28 ก.พ. 52 22:24:01 ]

ความคิดเห็นที่ 36 จุฬาฯ ยังแพ้มหาลัยอื่น ๆ ในเรื่องของความสู้งาน และเรื่องสังคม ไม่เป็นงานยังพอเสียเวลาสอนกันได้  แต่สอนคนให้เป็นคน บางทีสอนกันยากครับ ^ ^ You'd better widely open your mind, then you would see some truth beneath it. เมื่อคุณเปิดใจให้กว้าง ไม่มีอคติกับสถาบันแล้ว คุณจะเห็นความจริงอะไรอีกเยอะ How people work or participate in society upon the background they have, not the school they got the degree from. การที่คนจะทำงานยังไง มีปฏิสัมพันธ์กับคนในสังคมยังไง มันขึ้นอยู่กับพื้นฐานที่เค้าได้รับการปลูกฝังมากมากกว่าสถาบันที่เค้าได้เรียนมา It doens't mean if you graduated from the high-rank school, you would be idiot or self-center when working with people. มันไม่ได้หมายความว่าการที่คุณจบจากสถาบันดัง แล้วเวลาทำงานกับคนคุณจะต้องงี่เง่าหรือมีปัญหา (มันขึ้นกับตัวคนจริงๆ) To me, I worked with a lady who got very high GPA from one school. ส่วนตัวแล้ว เราเคยทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมงานคนนึงที่จบเกรดสูงมากจากสถาบันนึง She even didn't know the principle of the thing she was about to work with. ในการทำงาน เธอไม่รู้ในสิ่งที่เธอต้องลงมือทำมัน And she also ignored about the information she needed to know. เวลาสอนงานเธอ เธอก็ไม่ได้สนใจจะเรียนรู้งานซักเท่าไหร่ Or maybe she knew everything, but simply pretended did not know it so she didn't have to take any responsibility. หรือเธออาจจะรู้ทั้งหมดนั่นแหละ แต่แกล้งโง่เพราะไม่อยากจะต้องรับผิดชอบงานอะไร How it sound like? ถ้าคุณเจอแบบนี้จะรู้สึกยังไง * ตรงนี้ขอเล่าเพิ่มนะคะ ตอนเราทำงานบริษัทนั้นน่ะ หัวหน้าใหญ่ เค้าจบสถาบันเดียวกับเราเช่นกัน อยู่มาวันนึงเค้าเรียกเราไปคุยแล้วบอกว่า.. การที่คุณได้เงินเดือนมากกว่าเพื่อนคุณเนี่ย เพราะคุณจบสถาบันเดียวกับผม !!! (เราได้เงินเดือนมากกว่าเพื่อนเรา 3000 บาท และเงินเดือนตอนนั้นเราก็คือ 15000) ฟังแล้วรู้สึกยังไง.. คิดว่าเรื่องสีมันแรงใช่มั๊ย แต่ความจริงที่ซ่อนอยู่ก็คือ.. เราทำงานมากกว่าเพื่อนอีกคน (ที่กล่าวถึงในเบื้องต้น) เยอะมาก ทำงานไม่มีวันหยุด แถมเราเคลมโอทีไม่ได้ เบิกค่าแท๊กซี่ไม่ได้ ฯลฯ (ทำงานตั้งแต่ 8.00 น. บางวันกล่าวจะถึงบ้านก็เกือบเที่ยงคืน - บ่อยมาก) ความรับผิดชอบมากกว่ามากมาย ทั้งๆ ที่ทำงานตำแหน่งเดียวกัน ขนาดถึงขั้นป่วยเข้าโรงพยาบาล ยังมีคนโทรไปตามงานถึง รพ. เลย คำแรกที่หัวหน้าถามก็คือ "งานเสร็จทันส่งวันนี้มั๊ย"  และอื่นๆ อีกมากมาย ส่วนตัวแล้ว เราไม่ใช่คนบ้าสี ใครทำดีเราก็ชื่นชมยกย่อง ใครทำเอี้ยเราก็ด่าได้เหมือนกัน หัวหน้าเก่าเราหลายคนสีเดียวกัน ทำเรื่องเอี้ยสารพัด เราก็รังเกียจที่จะเสวนาด้วย เพื่อนร่วมงานบางคน แม้ไม่ได้จบสถาบันเดียวกัน เราก็เคารพนับถือความจริงใจ ความดีของเค้าเช่นกัน คนเราร้อยพ่อพันแม่ แค่มาเรียนสถาบันเดียวกันไม่กี่ปี มันไปเปลี่ยนสัuดานเค้าไม่ได้หรอก เราก็ไม่เคยโอ้อวด ยกหางตัวเอง เหยียบย่ำใคร ประมาณว่าชั้นเก่งกว่า ชั้นเด่นกว่า ชั้นหรูกว่า เพราะเพียงแค่สถาบันที่เราจบมา บางทีคนในสังคมก็มีอคติกับคนที่จบจากบางสถาบันไปล่วงหน้าก่อนแล้ว ทั้งๆ ตัวเองแทบไม่เคยร่วมงาน หรือ รู้จักคนพวกนั้นๆจริง ด้วยซ้ำ หลายครั้งที่เราร่วมงานกับคนหมู่มาก เราไม่ได้บอกเค้าว่าเราจบจากไหน พอเค้ามารู้เอาทีหลัง เค้าพูดกับเราว่า "จบจากจุฬาฯ จริงหรือเปล่า ทำตัวไม่สมกับการเป็นเด็กจุฬาฯ เลย" เราก็มึนๆ แล้วถามกลับไปว่า "ไอ้ทำตัวสมเป็นเด็กจุฬาฯ มันเป็นยังไงเหรอพี่" เค้าก็ตอบเราว่า "ใครๆ เค้าก็บอกกัน ว่าเด็กจุฬาฯ หยิ่ง ไม่สู้งาน ไม่ทำงานหนัก เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ ฯลฯ" ณ ตอนนั้นเราเลยถึงบางอ้อ.. ว่าที่แท้ "ใครๆ เค้า" เนี่ยมีอิทธิพลกับคนในสังคมมาก แถมยังคอยทำหน้าที่ตัดสินด้วยว่าใครควรจะทำตัวยังไง มันทำให้เรารู้สึกว่าสังคมกำลังขับเคลื่อนไปแบบในหนังสือ "คำพิพากษา" ที่เราเคยอ่าน แล้วอีกเช่นกัน.. คนหลายๆ คนก็ทำตัวไหลไปตามกระแสสังคม ตัดสินคนตั้งแต่ยังไม่เจอหน้า ไม่รู้จัก ไม่ได้สัมผัสด้วยตัวเองจริง ได้แค่เชื่อตาม "เค้า" โดยไม่ได้ดูถึงพื้นฐานความเป็น "ตัวตน" ของปัจเจกบุคคล สังคมมันเลยโกลาหลวุ่นวายขนาดนี้ ปล. ถ้าเราย้อนเวลาไปได้ เราคงคุยกับหัวหน้าว่าเราขอลดเงินเดือนเท่าเพื่อนร่วมงานเรา และก็ขอทำงานน้อยเหมือนเค้าด้วย แก้ไขเมื่อ 01 มี.ค. 52 22:16:43 จากคุณ : Living Extreme - [ 28 ก.พ. 52 22:25:40 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 28 ก.พ. 52 22:31:35 ]

ความคิดเห็นที่ 38 "คุณควรที่ดีขึ้นอย่างกว้างขวางเปิดใจของคุณแล้วคุณจะพบความจริงมันใต้. วิธีคนงานหรือมีส่วนร่วมในสังคมบนพื้นหลังพวกเขาได้ไม่ใช่โรงเรียนที่พวกเขาได้องศาจาก. ซึ่งไม่ได้หมายความว่าถ้าคุณจบการศึกษาจากโรงเรียนอันดับสูงคุณก็จะเป็นคนที่โง่เง่ามากหรือตนเองศูนย์เมื่อทำงานร่วมกับคน. ให้ฉันฉันทำงานกับสุภาพสตรีผู้ได้สูงมากเกรดเฉลี่ยจากโรงเรียน. แม้เธอไม่รู้หลักการของสิ่งเธอเกี่ยวกับการทำงานกับ. และนางได้ยังไม่เกี่ยวกับข้อมูลที่เธอต้องการทราบ. หรือบางทีเธอรู้ทุกสิ่งทุกอย่างแต่เพียงอ้างไม่รู้มันดังนั้นเธอไม่ได้ที่จะดำเนินการใดๆที่รับผิดชอบ. วิธีการเสียงเป็นอย่างไร" By Translate Google จากคุณ : Unknow ... - [ 28 ก.พ. 52 22:48:04 A:125.26.127.20 X: TicketID:191819 ]

ความคิดเห็นที่ 39 อย่างเช่น เด็กคนนี้เรียนวิศวะจุฬาได้ฟิสิกส์ c เเต่สมมติถ้าไปเรียนวิศวะ มหา'ลัยอื่น อาจจะได้ b+ ไม่ก็ aก็ได้ - - - - - มาลองสอบฟิสิกส์ที่มอเราหน่อยมั้ย คิดนานมั้ยประโยคนี้ จากคุณ : Bluedonut - [ 28 ก.พ. 52 22:53:57 ]

ความคิดเห็นที่ 40 Ad01 รายงานตัวครับ ออกตัวไว้ก่อนว่า เรียนวิศวะ แต่ไม่ได้อยู่จุฬา จบมาจากโรงเรียน ตจว เกรดเฉลี่ย 2.90 คณิตเฉลี่ย 2.25 วิทย์เฉลี่ย 2.52 คะแนนรวม ขาด 7 คะแนนจาก 10,000 จะได้ วิศวะ จุฬา ตอนที่ทาง สทศ มีเปิดให้เด็กมาดูข้อสอบของตัวเองที่ตรวจไปแล้วได้ ผมก็เข้าไปดูครับ เผื่อมีการตรวจผิดหรืออะไรยังไงบ้าง(ที่จริงอยากรู้่คะแนนวิทย์ ANETแยก เคมี ฟิสิกส์ ชีวะ แค่นั้นแหละ) ผลออกมาก็ ตามที่คาดไว้เลยครับ ฟิสิกส์ 87 เคมี 70.5 ชีวะ 37 หมายความว่า....ถ้าไม่เอาชีวะมาคิด คะแนนผมจะพุ่งขึ้นไปอีกโข แต่ผมเรียนที่นี่ถึงจะไม่ใช่มหาวิทยาลัย(ที่เค้าว่า)อันดับหนึ่ง ผมก็ปกติสุขดีนะ ^^ ปล.ถึงจะได้เคยเกรดไม่ถึง 3 แต่ตอนนี้ผมก็เฉลี่ยเกือบ 3.5 อยุ่นา จากคุณ : นายสีซอ - [ 28 ก.พ. 52 23:09:31 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เราก็รุ่น 6X ค่ะ 555 ส่วนตัวไม่เคยสอบเอนท์วิชาฟิสิกส์นะคะ เพราะเข้าคณะสายศิลป์ แค่ม.ปลาย ก็สอบกลางภาควิชาฟิสิกส์ไม่เคยเกินครึ่งอยู่แล้วค่ะ... ตกตลอด เลยไม่รู้ว่าข้อสอบเข้ามหาลัยมันยากแค่ไหน จากคุณ : Pretty_Cute_Girl - [ 28 ก.พ. 52 23:28:04 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ยังมีคนอยู่ดูถูกคนในนี้อยู่เลย เข้าใจครับว่าสี pink ในสถานที่ทำงานมันแรง   ที่แท่นน้ำมัน ที่บริษัทดัง ๆ สีนี้ทั้งนั้น แต่คนดี และเก่งจริง ๆ เค้าไม่ดูถูกคนนะครับ..  ขอบคุณครับ จากคุณ : siLvan - [ 28 ก.พ. 52 23:44:41 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ในความเห็นของรุ่นพี่ มาก ๆๆ บอกก่อนเลยว่า ถ้าตก ฟิสิกส์1 แล้วละก็ เรื่องใหญ่ แน่นอน วิชาอื่นยากกว่านี้มาก แล้วก็อยากบ่นเรื่องสีซะหน่อย ถ้าใครคิดว่าสำคัญ ก็คงจะลำบาก เพราะปัจจุบันเรื่องสี ไม่ค่อยมีความสำคัญเท่าไหร่นักนะ ขอบอกว่าน้อยลงเยอะมาก อ้อ แล้วก็ ถ้าแปลก็สรุปความหน่อยก็ได้นะ อ่านไทย แปลไทย ไม่ค่อยรู้เรื่อง ภาษาเราอ่อนนะ ขอโทษนะ จากคุณ : แสงสีน้ำเงิน (แสงสีน้ำเงิน) - [ 28 ก.พ. 52 23:55:52 ]

ความคิดเห็นที่ 44 พออ่าน คห 2 แล้วรู้สึกตัวเองต่ำต้อยยังไงก็ไม่รู้ครับ เหมือนกับว่า คนเก่งๆมีที่จุฬาที่เดียว ไอ้เรามันก็ได้แค่เรียนมหาลัยเล็กๆแถวชานเมืองเทียบกับใจกลางเมืองกรุงไม่ได้หรอก จากคุณ : mhaque - [ 1 มี.ค. 52 00:01:34 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ถ้าไม่ได้ขึ้นกับระบบจริงๆ ทำไมไอ้ระบบนี้มันถึงได้อนุญาตให้สายศิลป์มาเรียนสถาปัตย์ได้หละครับ รุ่นน้องผมกำลังจะตายเพราะวิชาเลขเนี่ย  การเข้ามาได้โดยไทย สังคม มันไม่ช่วยอะไรเลย ในคะณะนี้เลย   ปล.เหมือนวิศวะ คือ ดรอปเลขไปครึ่งภาคแล้ว จากคุณ : EleMent M@stER - [ 1 มี.ค. 52 00:37:59 ]

ความคิดเห็นที่ 46 มารู้สึกเป็นเพื่อน คห 44 ค่ะ จากคุณ : ขี้เหงา...เอาแต่ใจ - [ 1 มี.ค. 52 01:13:52 ]

ความคิดเห็นที่ 47 เราแอดมิชรุ่นแรก ที่สถาบันเราคณะวิศวะรับเยอะมากกกก (เพื่อนบ่นว่าห้องเรียนแทบไม่พออะ) ติดเอฟไปค่อนคณะ ปีถัดมาหายไปครึ่ง (รึว่าเพราะรับมาเยอะหว่า) ในขณะที่คณะที่เราเรียนอยู่(ไม่ใช่วิศวะ) รุ่นแรกก็รับแอดกลางเยอะ(กว่าสอบตรง) รู้สึกว่า ความสามารถเทียบกับรุ่นน้องไม่ค่อยได้ ผลงานไม่ค่อยมี มีแต่รุ่นพี่ที่สร้างชื่อเสียง รุ่นน้องก็ยังมี แต่รุ่นเราไม่มีเลยจริงๆนะ (ไม่รู้คิดไปเองเปล่า แต่รู้สึกว่ารุ่นน้องเก่งอะ - -") เพราะอะไร? ..หลังจากแอดรุ่นแรกผ่านไป คณะเราปรับเปลี่ยนการรับเข้า กลายเป็นรับสอบตรงที่ทางคณะออกข้อสอบเอง(ยากและเกี่ยวกับที่เรียนโดยตรง)และโควต้าเด็กเทพทั้งหลายแหล่มากกว่าแอดกลาง โควต้าเทพๆทั้งหลายประมาน 25 คน สอบตรง 50 คน แอดกลาง 25 คน คิดว่าเกี่ยวกันมั้ยอะ ปล.เราเข้ามาด้วย ไทยสังคมกับอังกฤษเลยอะ ยอมรับ เพราะAnet เลขได้ 13 วิทย์ได้ 20 แต่เราเรียนมายังไม่ติดเอฟนะ และหวังว่าจะไม่ติด ^^' จริงๆแล้วมันก็ขึ้นอยู่กับทั้งสองอย่างอะแหละ บางคนเพราะระบบจริงๆ แต่บางคนก็ทำตัวเอง เห็นเด็กวิศวะไม่ค่อยจะเข้าเรียนกัน ฮ่าๆ จากคุณ : guest - [ 1 มี.ค. 52 01:33:28 A:192.168.0.17 X:58.64.79.64 TicketID:010598 ]

ความคิดเห็นที่ 48 เพิ่งเห็นคห.40 เรื่องชีวะ หัวอกเดียวกันเลยอะ แล้วเราไม่ได้เรียนชีวะมาด้วยซ้ำ จะทำข้อสอบยังไงล่ะนี่ (ตั้งใจมาแต่ต้นแล้วว่า จะเรียนทางวิศวะหรือไอทีหรืออะไรที่ไม่ต้องใช้ชีวะ) พอประกาศเปลี่ยนระบบ สอบวิทย์3ตัวรวมกัน เซ็งเลย แต่ก็ยังดีที่ยังติดคณะที่อยากเข้า เมื่องั้นนะ ..... จากคุณ : guest - [ 1 มี.ค. 52 01:47:01 A:58.64.79.64 X: TicketID:010598 ]

ความคิดเห็นที่ 49 "มันอยู่ที่ตัวคุณทำตัวยังไงตอนสอบแค่นั้นเอง ไม่ได้เกี่ยวกับระบบอะไรมากมายหรอก" ระบบ ไม่เกี่ยวกับ คุณภาพของนักเรียน ไม่เกี่ยวกับคะแนนสอบของนักเรียน ผมว่าไม่จริงนะครับ แต่ ไม่รู้สิ คุณอาจจะเก่งกว่านักจิตวิทยาทั่วโลกก็ได้มั้ง .... จากคุณ : คุณชินโซ - [ 1 มี.ค. 52 02:13:04 ]

ความคิดเห็นที่ 50 เรียนมหาลัยเทอมแรกที่ ผมได้ 2.00 ตั้งใจ ยังทำไม่ได้เลยให้เลขสวยแบบนี้ แก้ไขเมื่อ 01 มี.ค. 52 14:25:17 จากคุณ : Sial - [ 1 มี.ค. 52 02:33:48 ]

ความคิดเห็นที่ 51 พวกได้ F เข้าเรียนกันบ้างหรือป่าว ปี1 กิจกรรมเยอะชอบโดดเรียนกัน เคยมีรุ่นน้องวิศวะอยู่คนหนึ่งก็รีทายไปอย่างน่าเสียดาย น้องเค้าทำกิจกรรมได้ดีมากๆ เลยโดดเรียนมากไปหน่อย (แทบไม่ได้เข้าเรียนเลย) ผมว่าจริงนะ มันอยู่ที่ตัวเองมากกว่าว่าทำตัวอย่างไร ปีหนึ่งผมก็เคยเรียนนะฟิสิกส์ แต่เป็น MED PHY (อาจจะไม่ยากเท่า GEN PHY เพราะ GEN CHEM ก็แทบตาย ) ไม่เคยโดดเลย ตั้งใจเรียนตลอดในห้องเรียน แต่ไม่เคยอ่านหนังสือหรือทบทวนบทเรียนเลย ก่อนสอบ mid-termก็ไม่ได้สนใจ มาอ่านสมุดจดของตัวเองเอาตอน 4 ทุ่มก่อนสอบตอนเช้า อ่านไปรอบเดียว ยังกลัวได้ F อยู่เลยนะกลัวมากๆ แต่ตอนสอบพอทำได้ และ ผลสอบออกมาได้อันดับหนึ่งของคณะ (คณะอื่นได้สูงกว่า) งงเลย แต่ LAB PHY ตอนเรียนไม่สนใจ ทำ LAB ไปอย่างผ่านไปที ด้วยเพื่อนในกลุ่มไม่ค่อยเอาไหนด้วยแหละ ทั้งโดดบ้าง ทั้งให้เราทำงานอยู่คนเดียว เลยเซ็งๆ สรุปได้ D มา ยังดีที่ไม่ F เพราะ Lab มันต้องศึกษาเองไม่มีคนมาสอนตลอดเวลา ถ้าไม่ตั้งใจก็ไม่ได้อะไรเลยทำส่งๆไป ความรู้ไม่ได้เลย แล้วจะไปสอบได้ยังไง สรุปว่าต้องไปดูครับว่าคนที่ได้ F นั้นเป็นเด็กที่ตั้งใจเรียนแล้วไม่รู้เรื่องจริงๆ หรือว่าพวกเกเรไม่สนใจเรียน แค่ไปดูว่าเข้าเรียนจริงๆหรือป่าวก็พอแล้ว ส่วนใหญ่ฝากเพื่อนเช็กชื่อให้ ผมโคตรลำบากใจเลยเวลาเพื่อนฝากเซ็นชื่อให้ พวกเพื่อนๆชอบมองว่าผมเห็นแก่ตัวถ้าไม่เช็กชื่อให้ จากคุณ : ูู^^ - [ 1 มี.ค. 52 04:17:24 A:192.168.0.17 X:58.8.46.136 TicketID:175329 ]

ความคิดเห็นที่ 52 คุณภาพเด็กตกลงอย่างเห็นได้ชัด นี่ไม่ได้เทียบกับรุ่นตัวเอง แต่เทียบกับรุ่นที่ตามๆ กันมา 4-8 ปีที่ผ่านมานี่แหละครับ มองจากมุมมองอาจารย์ที่มองลูกศิษย์ตัวเองครับ คุณภาพลดลงจริงๆ เคยเจอประเภท ให้ทำโปรเจค (คล้ายๆ ที่รุ่นก่อนๆ เค้าก็ทำกันมาสำเร็จ) แต่รุ่นหลังๆ ทำไม่สำเร็จกันยกห้องเลยก็มี จากคุณ : ชาเขียว - [ 1 มี.ค. 52 05:37:33 ]

ความคิดเห็นที่ 53 รู้สึกเหมือน 44 ค่ะ ทำไมต้องดูถูกเด็กมหาลัยอื่นด้วย จากคุณ : RAMU - [ 1 มี.ค. 52 08:43:57 A:125.24.87.35 X: TicketID:163112 ]

ความคิดเห็นที่ 54 เห็นด้วยที่คุณภาพเด็กลดลงอย่างเห็นได้ชัด  แต่สาเหตุเพราะอะไรไม่สามารถบอกได้อย่างชัดเจน  เท่าที่ผมได้มีโอกาสสัมผัสมา  จากการทั้งสอนพิเศษ  ติวให้รุ่นน้อง  และเป็น  TA  พบว่าเด้กเรียนไม่ค่อยรู้เรื่องเลย  พื้นฐานไม่ดีมากมาย  ถามเกรด ม.ปลาย  ก็ได้เยอะกันมากมาย  จนผมตกใจ  สาเหตุอาจมาจาก 1. สิ่งที่จะเบี่ยงเบนความสนใจมีเยอะมาก  ทั้งอินเตอร์เนท สถานที่ต่าง ๆ หาง่ายขึ้น  เด็กไม่สนใจเรียนเลย  ไม่อ่านหนังสือ  ทักษะการอ่านแย่มาก  ผมคิดว่าทักษะการอ่านสำคัญมากในการเรียนรู้สิ่งต่างๆ รอบตัว 2.ปัญหาเรื่องคุณภาพครู  เป็นที่รู้กันว่าอาชีพครูเงินเดือน  และสวัสดิการน้อยมาก  แล้วใครอยากจะมาเป็นครูล่ะครับ  ถ้าครูไม่เก่ง  ลูกศิษย์ก้ไม่สามารถเรียนรู้ได้อย่างมีคุณภาพ  ผมเคยถามเด้ก  ปรากฎว่าครูสอนผิดมามากมาย  ทั้งที่เป้นเรื่องพื้นฐาน  ถ้าพื้นฐานผิด  ไม่เข้าใจ  ไม่รู้เรื่อง  การเรื่อนรู้เรื่องอื่น  ๆ ก็คงแย่ไปด้วย   3. หลักสูตรครับ  เนื้อหามันเยอะมาก  อย่าลืมว่าเด็กเรียนหลายวิชาน่ะครับ  เน้อหามากมายมหาศาล  เด็กเรียนไปก้จำเอาอย่างเดียวไม่มีการหยุดคิดวิเคราะห์  สังเคราะห์ข้อมูลที่มีอยู่ แก้ไขเมื่อ 01 มี.ค. 52 09:03:34 จากคุณ : pitichon (pitichon) - [ 1 มี.ค. 52 09:01:29 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ผมจบวิศวะจุฬาฯ แต่ไม่คิดว่าถ้าไปเรียนวิชาเดียวกันที่มหาวิทยาลัยอื่นแล้วจะได้เกรดดีกว่าเดิม ผมเจอเพื่อนอยู่ เกษตร ลาดกระบัง เก่งๆก็เยอะ คือเค้าเก่งในสายที่เค้าเรียนอยู่ สอบเอ็นคะแนนไม่ถึงที่นี่แต่เค้าก็มีความสามารถในด้านที่เค้าเรียน ฉะนั้นอย่าไปแบ่งแยกสีกันเลยครับ ส่วนเรื่องเด็กอ่อนลงผมก็ว่ามีส่วนมากๆ พื้นฐานจากมัธยมต้องแน่นพอสมควรถึงจะเรียนไหว ฟิสิกส์ม.ปลายเรียนมาท่องแต่สูตรๆๆ รู้ว่าแทนค่ายังไงก็ทำข้อสอบได้ ขึ้นมาปี 1 ต้องมานั่งพิสูจน์สูตร อินทิเกรต ทำกันไม่เป็นเลย เพื่อนผมสอบเอ็นมาได้คะแนนฟิสิกส์มากกว่าผมแต่พอเรียนปี 1 กลับได้เกรดไม่ดีทำโจทย์ไม่ค่อยได้ เพราะเก่งเรื่องท่องสูตร ตัดช้อยนี่แหละ จากคุณ : pofong - [ 1 มี.ค. 52 12:29:47 ]

ความคิดเห็นที่ 56 สำหรับผมนะครับ การดรอปคือ การแสดงถึงอาการ ป๊อด ครับ ไม่ได้หมายความว่าโง่ แต่ความสามารถในการเผชิญหน้าและรับมือกับปัญหาอาจจะต่ำ จากคุณ : นะ - [ 1 มี.ค. 52 13:58:35 A:124.157.220.32 X: TicketID:179472 ]

ความคิดเห็นที่ 57 เรื่องระบบไม่ทราบได้ แต่ ที่ว่า "เพราะเนื้อหาที่เรียนไม่เกี่ยวกันเลยด้วยซ้ำ ในปีสองปีสาม" ขอให้คิดดีๆครับ กลัวน้องๆ จะเชื่อตามไปทันที จนตอนนี้ ผมทำ ดร อยู่ พื้นฐานที่สำคัญที่ใช้ในตอนเริ่มวางแผน ดูความเปนไปได้ มันก็มาจากตอนเรียนพื้นฐาน เคมี ฟิสิกส์ และชีวะ นะครับ จากคุณ : GreenEyes - [ 1 มี.ค. 52 15:14:35 ]

ความคิดเห็นที่ 58 คุณ mohicann พูดได้ตรงจุดและถูกใจมากเลย ในคคห. ๓๔ แต่ขอแก้คำผิดนิดนึงนะ "Entrance คนแรกได้วิทย์ คนสองได้อักษร...เรียนจบทั้งคู่ แต่Admission ทำให้ระบบการกรอง รวนเร คนสองได้คะแนนมากกว่า อยากเลือกวิทย์..แล้วติด คนสองได้คะแนนต่ำกว่า พอดูจากสถิติการเลือกคณะ...จำใจไปอักษร Fทั้งคู่ครับ งานนี้" บรรทัดสุดท้าย (ในที่ผมคัดลอกมาข้างบนนี้) ต้องเป็น คน "แรก" ได้คะแนนต่ำกว่า.... สิครับ จากคุณ : star_seeker - [ 1 มี.ค. 52 20:24:23 ]

ความคิดเห็นที่ 59 เหมือนคห. 44 อีกคน T T กระทู้นี้คนตอบหลายคนเรียนจุฬาฯ เนอะ กระทู้คืนสู่เหย้า เอิ๊กๆๆ จากคุณ : อิฐมอญ - [ 1 มี.ค. 52 22:32:57 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ผมเก่งกว่าสีชมพู แค่นี้แหละครับอ่านเรื่องเกรดแล้วอารมย์เสีย ส่วนตัวคิดว่ามันแย่มาตั้งแต่ระบบการเรียนมัธยมและค่านิยมในการเรียนพิเศษแล้วละครับจากที่เห็นและได้สอนมาบวกกับฟังเด็กเล่าถึงการสอนและการให้การบ้านบางอย่างดูไม่รู้เลยว่ามันมีประโยชอะไรกับชีวิตบ้าง (ไร้สาระมากๆ) จากคุณ : petoh - [ 1 มี.ค. 52 22:39:11 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ที่แรกว่าจะ เขียน แต่ไม่เอาล่ะ เยอะเกิน เรียนมามีความรู้เยอะ  แต่ทำงานเป็นจริงๆ สักกี่คน จบออกมา คิดว่าตัวเองเก่ง พอเอาจริง ๆ ต้องศึกษา อีกหลายปี จากคุณ : kobonline - [ 2 มี.ค. 52 02:44:29 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ไม่ชอบการดูถูกสถาบันหรือการยกว่าตัวเองเหนือกว่าที่อื่นๆอะไรทั้งสิ้น แต่ก็ไม่ชอบเหมือนกันที่เวลาคนเห็นสีชมพูแล้วชอบคิดไปก่อนเลยว่าทำงานไม่ได้เรื่อง ไม่สู้งาน หยิ่งแน่ๆ ฯลฯ จากคุณ : pervpanda - [ 2 มี.ค. 52 03:19:39 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ตัวอย่าง คห.2 นี่แหล่ะ คือเด็กจุฬาและเด็กเก่งที่เป็นด้านลบของจุฬาเหมือนที่ทุกคนมีอคติติดอยู่ในหัว (คิดนานมั้ยประโยคนี้) เด็กจุฬาดี ๆ ก็มี ไม่เคยตั้งอคติ พี่ ๆ น้อง ๆ จุฬาหลายคนน่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก แต่อีกหลายคนก็ตาม stereotype ที่มีอยู่ในหัว - "- (ซึ่งเด็กมหาวิทยาลัยอื่นจะไม่ค่อยมีแบบนี้) เด็กเก่งจริงหรือโง่ลง อาจารย์เค้าดูออกครับหนู ๆ ถ้าคุณได้มาเป็นอาจารย์ !!!! จากคุณ : Heian - [ 2 มี.ค. 52 09:01:51 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ขออนุญาตนอกเรื่องนะคะ "อีกอย่างข้อสอบคณะนี้มันยากอยู่แล้ว ผมกล้าพูดเลยว่ายากที่สุดอะ ในทุกคณะ กล้าท้าพิสูจน์เลยด้วย" เอาอะไรมาวัดคะคุณน้อง แต่ละคณะมันเรียนมันสอนไม่เหมือนกัน วิชาแต่ละวิชาในแต่ละคณะมีความยากคนละรูปแบบกัน เอามาเปรียบเทียบมั่วๆไม่ได้นะคะ (พี่ตีความตามตัวอักษรนะ ถ้าเข้าใจผิดก็ขออภัย) "เด็กคนนี้เรียนวิศวะจุฬาได้ฟิสิกส์ c เเต่สมมติถ้าไปเรียนวิศวะ มหา'ลัยอื่น อาจจะได้ b+ ไม่ก็ aก็ได้ " อ่านแล้วเครียดดดดดดดดด รีบปรับความคิดด่วนๆ...ในฐานะที่เราเป็นรุ่นพี่นะ ถึงแม้จะคนละคณะกับน้องก็ตาม เราจบออกมาไปทำงานร่วมกับเพื่อนๆสถาบันอื่น บอกได้เลยว่าตอนทำงานเนี่ยแต่ละทึ่มีจุดแข็งจุดอ่อนที่เสริมกัน ไม่มีใครด้อยกว่าใคร แล้วความเก่งกาจมันฉายแววในตัวบุคคลมากกว่า ไม่จำเป็นว่าจบจากสถาบันนี้ต้องเก่งเหมือนๆกัน TU63 ฬ 46 ค่ะ<<<< ก็จบเตรียมฯ รุ่น 63 นิติศาสตร์จุฬา 46 ไง ที่เตรียมฯก็ใช้ตัวย่อ TU เหมือนกันหนิ แก้ไขเมื่อ 03 มี.ค. 52 08:38:10 จากคุณ : TC (Helianthus annuus) - [ 2 มี.ค. 52 12:33:23 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ^ ^ ^ ได้ไงอ่ะ TU63 ฬ 46 -->เตรียม63จุฬา46??? รุ่นคณะมั้ย จากคุณ : mohicann - [ 2 มี.ค. 52 21:28:04 ]

ความคิดเห็นที่ 66 จบมาทำงานไม่เป็น รึเปล่า? จากคุณ : shineo - [ 3 มี.ค. 52 02:06:49 A:61.90.5.71 X: TicketID:200840 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ไม่มีอะไร แค่จะบอกว่า GEN PHY I กับ II เรา W 555555555 ยากอ่ะ ยากมาก แต่เราก็ไม่ชอบมาตั้งกะม.ปลายแล้วนะ T T ปล. วิดยา จากคุณ : lic0ricez* - [ 3 มี.ค. 52 02:26:32 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ใช่อ่ะ ของแบบนี้พูดไปก็มีแต่ลบ เราต้องเข้าใจว่าปริญญาทุกมหาวิทยาลัย มีศักดิ์และสิทธิ์เท่าเทียมกันทุกประการ เรียนก็คงจะง่ายยากเท่ากันด้วยมั้ง ถึงจะไม่เป๊ะ แต่คงเท่า ๆ กันแหละ จะเรียนผ่าสมองหรือ fashion design มันก็ยากเท่ากันนะ ให้ดร.จาก Caltech มาออกแบบเสื้อผ้าสตรี ชาตินี้คงขายไม่ได้สักตัว จากคุณ : ตูรู้ (Toulouse) - [ 3 มี.ค. 52 12:15:45 A:202.142.199.114 X: TicketID:137537 ]

ความคิดเห็นที่ 69 Mean : Gen Phy I ตอน Midterm  มัน 30 กว่าๆ นะครับ ไม่ใช่ 19  ซึ่งก็พอๆ กับปีที่แล้ว แต่ที่ F เยอะ รู้สึกจะเป็นเพราะข้อสอบ Final ที่ออกข้อสอบแบบ Proof มากเป็นพิเศษ ____________________________________________ ส่วนเรื่องระบบมันก็ส่วน แต่ที่สำคัญคือ ทำตัวสบายๆ ไม่อ่านหนังสือ คิดว่าอ่านเหมือน ม.ปลายได้ ซึ่งผลที่ได้ก็พังกับพัง ส่วนเรื่องข้อสอบอ่านหนังสือมาทำได้อยุ่แล้ว มีข้อตัดเกรดข้อ 2 ข้อ ที่เหลืือก็วัด concept หมด แก้ไขเมื่อ 03 มี.ค. 52 17:38:44 แก้ไขเมื่อ 03 มี.ค. 52 17:35:09 จากคุณ : St_run` - [ 3 มี.ค. 52 17:32:32 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ยืนยันอีกเสียงว่านักศึกษาสายวิทย์ (สายอื่นไม่ทราบครับ) สมัยนี้พื้นฐานอ่อนลงจริงๆ ครับ ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะ Admission จริงๆ คาดว่าเป็นเพราะเจ้าของกระทู้เป็นนักศึกษาอยู่ มุมมองเลยมองแค่รอบๆ ตัว รวมกับรุ่นพี่และรุ่นตัวเองแค่ไม่กี่คน ถ้าคุณมองในมุมมองของอาจารย์ผู้สอนที่สอนมาเป็น 10 รุ่นคุณจะเข้าใจครับว่า อาจารย์เขามีความลำบากใจขนาดไหนที่ต้องลดความยากของข้อสอบลงเพื่อให้ตัดเกรดได้มาตรฐานเดียวกับรุ่นก่อนๆ ซึ่งปัญหานี้หนักขึ้นมากตั้งแต่มีระบบ Admission นี่หละครับ จากคุณ : Riddle (Jitrapee) - [ 4 มี.ค. 52 18:26:09 ]

ความคิดเห็นที่ 71 แง่งงงงงงงง อ่านแล้วเหมือนโดนขู่เลยอ่ะ ผมรุ่นนี้เลยอ่ะ...เพิ่งสอบไปเอง=_= ตอนสอบรู้สึกห่อเหี่ยวกับเลขสุดๆอ่ะ สังคมโอเน็ตยากเกิ๊น... ยังไงผมถือคติไปตายเอาดาบหน้าครับ...ติดก่อนเรื่องอื่นเอาไว้ทีหลัง แหะๆๆๆๆ จากคุณ : NorsDavincy - [ 10 มี.ค. 52 16:19:19 ]