ความคิดเห็นที่ 1 นโยบายห้ามเด็กติดศูนย์ต้องแก้ก่อนครับ ถ้าหากจะยกระดับมาตรฐานของสถาบัน และเป็นสิ่งแรก ที่ครูควรจะไปคุยกับผู้บริหาร เท่าที่อ่าน สถานะการณ์ที่ครูกล่าวมา คงไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นสถาบันเกรดดีหรือไม่ เพราะเท่าที่ผมผ่านมา ถึงจะมีตีกันบ้าง แต่นักศึกษาก็เคารพครูและตั้งใจเรียนมากกว่านั้น แก้ไขเมื่อ 01 มี.ค. 52 09:02:53 จากคุณ : เด็กทุ่งครุ - [ 1 มี.ค. 52 09:02:02 ]

ความคิดเห็นที่ 2 จากเจ้าของกระทู้นะคะ ก่อนอื่นต้องขอโทษก่อนสำหรับคำพูดที่ว่า เป็นอาชีวะเกรดดี ขอถอนคำพูดนะคะ ขอระบายต่อ นัดสอบ นัดล่วงหน้าเป็นอาทิตย์ เมื่อถึงวันสอบ สมมุตว่า สอบ 09:00 แต่จะสอบจริงประมาณ 09:30 - 09:45 เผื่อเวลาให้นักเรียนได้ตามเพื่อนมาสอบ บางคน เพื่อนโทรตาม บอกว่า วันนี้อาจารย์สอบ ให้มาสอบ เทวดาเหล่าบอกว่าไงรู้มั้ยคะ กรูรู้แล้ว แต่กรูไม่มีอารมย์จะสอบ แล้วถ้าคุณครูไม่มีอารมย์จะให้สอบบ้าง ได้มั้ยคะ ตอนนี้เทวาดาเหล่านี้ กำลังตามหาตัวครูกันจ้าละหวั่น เพื่อของานทำ ขอสอบ เบื่อ เบื่อ เบื่อ โค ตะ ระ เบื่อ แต่ท่องไว้ ท่องไว้ เมตตา เมตตา ให้อภัย ให้อภัย เพื่อให้เขากลายเป็นเศษอะไรสักอย่างในสังคม ในอนาคต จากคุณ : เจ้าของกระทู้ - [ 1 มี.ค. 52 09:17:53 A:222.123.168.237 X: TicketID:098560 ]

ความคิดเห็นที่ 3 นั่นมันหน้าที่คุณ  ที่ต้องทำให้เด็กมันสนใจเรียน  คุณต้องใช้สมองคิดและริเริ่มปฏิบัติ  จะไปโทษนโยบายห้ามเด็กติด 0 ไม่ได้ เพราะไม่งั้นคุณก็สอนไปวันๆ ใครไม่สนใจก็ให้ 0 ไป  ซึ่งมันไม่ใช่  และก็ถ้าคุณปล่อยเกรด นั่นก็หมายถึงคุณก็ไม่ได้ใช้หัวคิดทำอะไรอีกเช่นกัน หากความเห็นผมไม่ถูกใจใคร จะด่าก็ไม่ว่าอะไร แต่ก็ขอให้ลองคิดมุมนี้ดูบ้าง   เพราะอาชีพอื่นก็เป็นเหมือนกัน  เจ้านายสั่งว่าต้องปิดงานให้ได้ แต่ลูกค้ามันไม่สนใจ ก็ต้องไปกราบตีน พามันไปอาบน้ำ เลี้ยงข้าวกินเหล้ายันเช้า  เพื่อเพียงแค่ให้มันเริ่มคุยกับเราได้ จากคุณ : หมูน่ารักจริงๆ - [ 1 มี.ค. 52 09:21:32 ]

ความคิดเห็นที่ 5 สู้ๆแล้วกันครับครู รักอาชีพครู จากคุณ : สายน้ำตะวันออก - [ 1 มี.ค. 52 09:38:36 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ผมว่าจขกท.มี "อาชีพ" เป็น "ครู" เขาหาเลี้ยงชีพตนเองและเขา ก็มีสำนึกรับผิดชอบ เพราะเขาก็บอกว่า ให้อภัยและอดทน เขาแค่อยากระบาย "แถบนโยบายโรงเรียน ห้ามเด็กติด 0 " ตรงนี้น่าจะเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำคือ หาตัวนโยบายที่เป็นรูปธรรมมา เช่นคำสั่ง บันทึกข้อความ เทปเสียง อะไรก็ตามที่เป็นตัวชี้บอกว่า ผอ. ออกนโยบายห้ามเด็กติดศูนย์ เพราะน่าจะขัดแย้งกับระเบียบกระทรวงศึกษาฯ ปล. "มานั่งเรียน ไม่หือ ไม่อือ" นี่ไม่ใช่ภาษาเหนือเหรอครับ? จากคุณ : rolling_greenmelon@yahoo.com - [ 1 มี.ค. 52 09:48:52 A:192.168.0.17 X:222.123.22.86 ]

ความคิดเห็นที่ 7 มันตกม้าตายตั้งแต่ห้ามเด็กติด 0 แล้ว โรงเรียนต้องแก้ไขระบบใหม่ ครูตัวเล็กๆคนเดียว ทำอะไรไม่ได้หรอก ใครเคยสอนนักศึกษา จะรู้เอง จากคุณ : *Cookies* - [ 1 มี.ค. 52 09:52:07 ]

ความคิดเห็นที่ 8 สงสารครูจัง แต่ผมว่าครูต้องเด็ดขาดกว่านี้นะครับ คนเป็นครู ถ้าเกี่ยวกับเรื่องเรียน ครูต้องพูดคำไหนคำนั้นนะครับ อย่างสอบเก้าโมง ก็คือต้องเริ่มสอบเก้าโมงจริงๆ เข้าสายหมดสิทธิสอบ อะไรประมาณนี้ และพวกที่บอกว่า "ไม่มีอารมณ์สอบ" ตอนนี้หน้าที่ของครูคือ "ไม่มีแก่ใจจะให้คะแนน" ครับ ให้ 0 ไม่ได้ ก็ไม่ได้หมายความว่าครูจะให้เด็กติด ร.(มีมั้ย?) ไม่ได้นะครับ แล้วก็ให้รอไปนั่นแหละ จากคำแนะนำของ เด็กที่มีแม่เป็นครู อยู่บ้านเดียวกับครูเฮี้ยบๆมาเกือบ18ปี(ครูเฮี๊ยบๆที่ว่านั่นตอนนี้ไม่อยู่ซะแล้ว คิดถึงจัง) แก้ไขเมื่อ 01 มี.ค. 52 10:09:06 จากคุณ : เทาทองวอร์ริเออร์ - [ 1 มี.ค. 52 10:04:14 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เรื่องอย่างนี้ "ใครไม่เคยเจอกับตัว  ไม่รู้หรอกครับ" กรณีที่ผมเคยรู้มาหนักใจกว่าอีกครับ ไม่มาเรียน ไม่ทำงานส่ง ทำข้อสอบไม่ได้ อาจารย์จะให้ F ตัวเด็กโทรไปบอกพ่อ พ่อบอกประมาณว่ามันก็สมควรแล้วนิ ตัวเด็กเลยตอบกลับไปว่า  "ก็มันคะแนนหนูนี่  ไม่ใช่คะแนนพ่อ  พ่อไม่รู้หรอก" -จบ- แก้ไขเมื่อ 01 มี.ค. 52 10:14:04 จากคุณ : lets_kick_off - [ 1 มี.ค. 52 10:08:18 ]

ความคิดเห็นที่ 10 นโยบายโรงเรียน คือ "เด็กคือลูกค้าหรือเปล่าครับ" ถ้าใช่ ต้องทำใจครับ จากคุณ : Moonui - [ 1 มี.ค. 52 10:12:43 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เข้ามาเห็นใจคุณครู ส่วนใครที่ว่าเป็นหน้าที่.....ก็ถ้าว่างนัก ลองไปเป็นเองแล้วกัน จะได้รู้ว่า ความจริงของปัญหานี้อยู่ตรงไหน จะให้ไปกราบteen ขอให้พระเดชพระคุณท่านมาเรียน มาส่งรายงาน มาสอบเหรอ...ฝันไปได้เลย.... นโยบายกระทรวงน่ะ ผิดพลาดตั้งแต่ต้นแล้ว ห้ามตก ห้ามซ้ำชั้นอะไรนี่น่ะ จะว่าไปสังคมมันก็ครือๆกันแหละ จากคุณ : เฒ่าน้อย - [ 1 มี.ค. 52 10:24:22 ]

ความคิดเห็นที่ 12 สอนไปเรื่อยๆ ครับ พวกตั้งใจเรียนเราก็ให้เต็มที่ พวกไม่ตั้งใจเราก็ไม่ต้องไปสนใจ ให้ 0 ไม่ได้ เราก็ให้ 1 ขาดสอบก็ให้ ร.ไป หรือให้มาสอบใหม่ หรือทำรายงานมาส่งจึงให้เกรด แล้วพยายามพัฒนาการสอนให้สนุกดึงพวกชั่วๆ ให้อยากเรียน มีอะไรก็พูดตรงๆ กับพวกมัน สอนพวกนักเลงเราต้องนักเลงด้วย ถ้ามัวแต่เครียดกับพวกเอี้ยๆ ก็จะกระทบต่อเด็กดีๆ ด้วย อย่างคุณนัดสอบ 9 โมง แล้วไปรอพวกเด็กเลว 9 โมงครึ่ง 10 โมงนี่ วิธีนี้ทำไม่ถูกครับ เหมือนลงโทษพวกเด็กดี ต่อไปก็จะเลวไปกันหมดมาสอบสายกันทั้งชั้น แก้ไขเมื่อ 01 มี.ค. 52 23:50:08 จากคุณ : mamao - [ 1 มี.ค. 52 10:29:56 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เห็นใจคุณครูครับ    แต่เข้าใจว่าเด็กอาชีวะคงต้องการความท้าทายในชีวิต  ไม่ว่าเส้นทางบางเส้นทางจะลงเหวหรือนรก  เพราะงั้นแนะนำครับ    อย่าพยายามมีรูปแบบการสอนที่ตายตัวครับ  หาแนวทางหลากหลายมาสอนครับ   ขอให้คุณครูพยายามเข้า เพราะอนาคตของประเทศก็ขึ้นอยู่กับครูนี้ละครับ ว่าจะกำหนดทิศทางอนาคตของเค้าไปในทางไหนจะเป็นคนดีได้หรือไม่   เพราะเด็กสมัยนี้ใส่แวนตาดำติดฟิล์มกรองแสง 100% แต่ใส่กลับด้านครับ  เลยดูทางไม่ค่อยชัดเจนเท่าไร  ถ้ายังรักในอาชีพนี้และมีความสุขที่ได้ทำพยายามต่อไปครับ จากคุณ : Loay - [ 1 มี.ค. 52 10:31:41 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 1 มี.ค. 52 10:47:48 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อ่านแล้วทำให้ผมนึกถึงอาชีวะแห่งหนึ่งแถว ๆ ท่าดินแดง ... หลายยยยยยยปีมาแล้ว เคยมีป้ายประกาศขนาดใหญ่หน้าโรงเรียนว่า "ไม่มีเงิน แต่อยากเรียน มาคุยกัน   มีเงิน แต่ไม่อยากเรียน ไม่ต้องมา" ผมอ่านแล้วชอบนะ จากคุณ : เศียรนาคา ... (Eumentis) - [ 1 มี.ค. 52 10:55:15 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ติด 0 ไม่ได้ก็ให้ 1 สุดท้ายมันก็จะถูกระบบ คัดกรองไปเอง ผมเองก็เคยเป็น เห็นเที่ยว ดีกว่าเรียน เรียนให้มันจบๆ ผ่านๆไปตามกฎกติกา สุดท้ายมันก็จะถูกระบบกรองแยกไปเรื่อยๆ แล้วแต่ว่าจะไปหยุดตรงจุดไหนของระบบการศึกษา บางคนก็ ปวช ปวส ถ้าใครเก่งกว่านี้ก็ไปต่อเรื่อยๆ แล้วมันก็จะไปถูกกรองโดย ระบบการทำงานที่ไม่ง้อมันอีกที อย่าไปซีเรียดมาก ถ้าทุกคนเก่งหมด ก็เป็นหัวหน้ากันหมดแล้วจะเอาลูกน้องที่ไหนมาใช้ สังคมมันกำหนดมาอย่างนี้อยู่แล้ว ถ้าเด็กมันไม่ไปตีกันตาย ไปติดคุกกันซะก่อน สุดท้ายมันก็ต้องมาเข้ากระบวนการของสังคม พยายามสอนโดยมองภาพรวม อย่าไปเน้นรายตัว คิดว่านี่คือการคัดกรองโดยธรรมชาติถ้าเราพยายามฝืนธรรมชาติมันจะยิ่งเลวร้าย คุณไปหาวิธีมากำหราบ 1 วิธีพวกนี้ก็จะไปหาวิธีมาแก้ 2 วิธี เหมือนคุณพยายามกั้นทางน้ำ คุณกั้นตรงนี้ มันก็ไหลอ้อมไปทางอื่น ธรรมชาติของพวกนี้คือ ถ้ามันจะทำตัวเด่นได้ มันต้องหาตัวช่วยซึ่งก็คือ จขกท ยิ่งไปดิ่นมากมันยิ่งชอบมันจะได้เด่นในหมู่เพื่อน ว่ามันเก่งมันไม่กลัวแม้แต่ครู แต่ถ้าคุณไปเรื่อยๆ สอนของคุณไป ประคอง นร หมู่มากไปเืรื่อยๆ ให้ได้มากที่สุด ให้เหลือมากที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้ นั่นก็จบหน้าที่ของคุณแล้ว ส่งต่อหน้าที่ให้กระบวนการอื่นในสังคมคัดกรองกันต่อไป เด็กพวกนี้มันจะฟังก็แต่กลุ่ม แต่เพื่อน ที่จะไปช่วยๆ ดึงกันไปเองพยายามสอนแบบฝากๆ ให้แง่คิดของสังคมการทำงาน พยายามต่อไปแล้วกัน ผมเองตอนเรียนตอนที่เก ก็เคยคิดแบบนี้แหละ ผู้ใหญ่พยายามหาทางอุด ผมก็หาทางเจาะ 555 สุดท้ายก็หนีไม่พ้นกระบวนการคัดกรองของสังคม ต้องพาตัวเองวนกลับมาผ่านกระบวนการใหม่... จากคุณ : วิญญานพเนจร_2 - [ 1 มี.ค. 52 10:57:20 A:192.168.0.17 X:202.62.105.155 TicketID:177078 ]

ความคิดเห็นที่ 17 บัวมีสี่เหล่าครับ ก็ต้องปรับตัวตามความเหมาะสมครับ บัวที่จมปลักอยู่ใต้โคลนตมแม้พระพุทธเจ้าก็ช่วยไม่ได้ครับ จากคุณ : ariyanamvong - [ 1 มี.ค. 52 11:05:29 ]

ความคิดเห็นที่ 18 พี่ชายเราก็เจอสถานการณ์เดียวกับจขกท.ค่ะ เขาเป็นอาจารย์พิเศษอยู่วิทยาลัยอาชีวะแห่งหนึ่งในภาคเหนือ พี่เคยมาเล่าให้ฟังว่า พวกนี้เข้ามาในห้องเรียนก็นั่งคุยกัน นั่งแต่งหน้า ยิ่งพวกผู้ชาย เวลามีนักศึกษาหญิงเดินผ่านหน้าห้องมันก็ตะโกนแซวอย่างไร้มารยาท ไม่เห็นหัวอาจารย์ พี่เราเลยบอกว่าพวกคุณจะนั่งหลับผมไม่ว่า แต่อย่ามานั่งคุยกันรบกวนคนอื่น ปรากฏมันนั่งหลับค่อนห้องเพราะมันขี้เกียจ ยิ่งวิชาภาษาอังกฤษมันยากอยู่แล้วพวกไม่อยากเรียนก็ยิ่งไม่ใส่ใจ แรกๆพี่เราก็ท้อใจเพราะเขาอุตส่าห์ตั้งใจเเตรียมเนื้อหาไปสอน แต่พอมาเจอนักศึกษาเป็นแบบนี้เขาก็ท้อ พอหลังๆมาพี่เราก็นิ่ง เขาบอกใครไม่อยากเรียนก็ช่างเขา เพราะเด็กที่อยากจะเรียนก็มีอยู่ ทุกวันนี้พี่เราสนใจแต่เด็กที่อยากเรียน ตั้งใจสอนพวกเขาไป ส่วนคนไม่อยากเรียนก็ไม่สนใจแล้ว มันติด 0 ติด F หรือ W ให้มาตามแก้เอาด้วยตัวเอง จากคุณ : เสียงจากบ้านนา - [ 1 มี.ค. 52 11:12:21 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ผมให้ give คุณ mamao เพราะคำว่า "เด็กนักเลง ต้องนักเลงใส่" นี่หล่ะครับ  โดนใจจริง ๆ เด็กเดี๋ยวนี้มันแย่ลงจริง ๆ ครับ   เจออาจารย์ที่เคยสอนผมตอน ปวช.  ผมเลยถามแกว่าเด็กเดี๋ยวนี้เป็นไงมั่ง แกก็ได้แต่ส่ายหัวครับ - -' แล้วอย่างนี้ประเทศเราจะเดินไปทางไหน  ประเทศที่เด็กทุกวันนี้ไม่รู้สำนึกว่าสมควรที่จะทำอะไรกันอยู่  ประเทศที่พ่อแม่ไม่เคยอบรมสั่งสอนให้ลูกได้ดีอย่างมีคุณธรรม ซึ่งเหตุผลอาจจมาจากตัวพ่อแม่เองก็ทำดีไม่ได้ แล้วอย่างนี้ประเทศเราจะเป็นอย่างไร  หากจะหวังพึ่งภาครัฐฯ ก็เลิกคิดไปได้เลยครับ จากคุณ : siLvan - [ 1 มี.ค. 52 11:12:46 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ู^ ^ ตามนั้นเลยครับ ถ้าหวังว่าจบมาแล้วจะเข้าทำงานในด้านที่ไม่ได้ใช้แรงงาน หรือจะเรียนต่อ ถ้าไม่มีประสบการณ์เขาก็ดูจากเกรด ถ้าได้ 1 มาเป็นกระบุง ไม่มีนายจ้างคนไหนอยากรับหรอก สุดท้ายตัวเด็กจะไปไม่ไหวเอง ถ้าไม่หาทางมาทำธุรกิจเอง ก็กลายเป็นลูกจ้างแรงงานราคาถูกไป สังคมจะคัดกรองต่อจากสถานศึกษาเองครับ ปล. ปกติแล้ว บ ใหญ่ๆ เขาจะให้เกรดสถาบันการศึกษาไว้ด้วย นั่นคือ เด็กจบ 2.8 จากสถาบันดีๆ จะมีภาษีมากกว่าเด็กจบ 3.2 จากสถาบันที่ไร้ชื่อ ถ้าคิดว่าระบบห้ามเด็กติด 0 แล้วจะให้เกรดอะไรก็ได้ เพราะไงมันก็จบ  สุดท้ายผลเสียจะไปตกที่สถาบันเองครับ....... ตาม บริษัทต่างๆก็จะพร้อมใจลดเกรดสถาบันนั้นไปด้วย เหมือนกัน........ผลคือ สถาบันไม่ได้รับความเชื่อถือ และ นักศึกษาที่จบออกมาเข้าทำงานได้ลำบากขึ้น(ยกเว้นพวกที่ฉายแววว่าทำงานได้จริง และ เก่งจริง) จากคุณ : ginosty - [ 1 มี.ค. 52 11:13:59 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ที่ว่ามันเป็นหน้าที่ของครู ก็ใช่อยู่นะคะ แต่หลายๆอย่าง ที่ครูตัวเล็กๆคนนึงเห็น แล้วอยากปรับปรุง อยากทำให้มันดีขึ้น แต่ทำไม่ได้ เพราะเป็นแค่ครูตัวเล็กๆ ระบบไดโนเสาร์อืดอาดใหญ่โต ครูคนเดียวไปเข็นไม่ไหวค่ะ ครูคนเดียว ทำได้ดีที่สุดก็แค่ อภัย เมตตา อดทน อย่างที่ จขกท ทำอยู่นี่แหละค่ะ เห็นใจค่ะ เห็นใจ เสนอตาม คห.17 ค่ะ ช่วยเด็กที่ช่วยได้ และเค้าอยากให้ช่วย คนไหนเกินจะช่วย ก็ปล่อยเขาไปเถอะค่ะ อยากให้กิ๊ฟครูจังค่ะ แก้ไขเมื่อ 01 มี.ค. 52 11:17:45 แก้ไขเมื่อ 01 มี.ค. 52 11:14:49 จากคุณ : abarat cat - [ 1 มี.ค. 52 11:14:38 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ผมนึกอยู่แล้วว่า อาชีวะ ต้องเป็นแบบนี้ ผมถึงสอน มัธยมฯ เราคุม เราเข้มงวดได้ ประเด็น ห้ามติด 0 โรงเรียนมัธยมไม่ถึงขนาดนั้น แต่หนักใจไม่แพ้ เพราะถึงเด็กติด 0 แต่ติดเยอะๆ ไม่แก้ ยังไงก็ขึ้นชั้นใหม่ ไม่ต้องซ้ำชั้น ยังไงจบ มันก็ไม่ต่างกัน เด็กไม่กลัว ผู้ปกครองไม่ร่วมมือ ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองทำงานเอาหน้า เอาแต่ตัวเลขว่า เด็กผ่านหมดๆ ไม่ยอมรับความจริง ไม่ได้ดูว่าผ่านนี่ มันผ่านแบบไหน ผมว่า ประเทศไทยควรย้อนกลับไปสมัยก่อนดีกว่า ใครสอบตกมาก ให้ซ้ำชั้น แล้วก่อตั้ง โรงเรียนดักสันดาน ขึ้น เพื่อไม่ให้น้ำเน่า ทำน้ำดีเสียไปด้วย ผมเจอมากับตัว ห้องไหนคละเด็กดีเด็กแย่ แทนที่เด็กดีจะฉุดขึ้น กลับเป็นเด็กแย่ฉุดลง เสมอ สอนมา 6 ปี ยืนยันนอนยันว่า ไม่เคยผิดพลาดไปจากนี้ จากคุณ : Prof.Sirius - [ 1 มี.ค. 52 11:24:48 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ระบบไดโนเสาร์อืดอาดใหญ่โต ครูคนเดียวไปเข็นไม่ไหวค่ะ อิอิอิ มันยิ่งกว่า ไดโนเสาร์อืดอาด อีกครับ ถ้าครูคนไหนมีปากมีเสียง โวยวายเข้า บางที โดนไดโนเสาร์ ถีบเอาก็มี (ขั้นก็ไม่ได้ เงินเดือนก็ไม่ขึ้น) บางคนทำตัวเรียบร้อย นั่งบนหลังไดโนเสาร์ต่อไป บางคนก็คอยถีบพวกที่กำลังปีนมานั่งหลังไดโนเสาร์อีก -*- จนถึงวันนี้ ผมว่า แทนที่เราจะเสียเวลามาเปลี่ยนระบบ ..... เรามาสร้างระบบใหม่ขึ้นมาเลยดีกว่ารึป่าว จากคุณ : ginosty - [ 1 มี.ค. 52 11:25:09 ]

ความคิดเห็นที่ 24 อยากบอกว่าผมก็จบ ปวช. มาครับ ไม่ใช่แบบนั้นทุกคนหรอกครับ โลกเรามันมีอะไรมากกว่านั้น จากคุณ : yugioh2500 - [ 1 มี.ค. 52 11:31:02 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ระบบห้ามเด็กติด0 จริงๆคือเพื่อให้ครูตาม นร.จนไม่ติด0 แต่เด็กเดี๋ยวนี้รู้มาก เลยคิดว่า ไงๆก็ไม่ติด0 เลยทำตัวแย่ๆ แถมผู้หลักผู้ใหญ่ คงคิดว่าครูมันว่างมากเลยชอบหาเรื่องให้ทำเยอะแยะ ใครปิ๊งอะไรก็เอามาใส่ให้ทำอีก ---- เป็นครูเป็นหมอ ต้องอดทน เพราะคนไม่ได้เป็นเค้าจะชอบปากดีว่า ต้องเสียสละ ต้อง ฯลฯ แต่ตัว(มัน)เองก็ไม่ยอมมาเป็นอยู่ดี จากคุณ : ... (nohaha) - [ 1 มี.ค. 52 11:32:07 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ห้าม 0 ทุกอย่างจะกลายเป็น ไม่มีมาตรฐาน เพราะไม่มีคำว่าแย่ มีแต่ดีหมด แล้วมันจะดีแท้หรือดีลวงกันแน่ ไม่มีคำว่าลำบาก มีแต่สบาย ทุกคนก็จะไม่รู้คำว่าสบายที่แท้จริงเป็นอย่างไร ไม่เห็นคุณค่า อย่างแรก คุณเป็นครู เห็นใจนะครับ เหนื่อย พูดคนเดียว1ชั่วโมง ให้ในห้องหว้ากอนี้ไปพูดเลย คนเดียว ทั้งชั่วโมง มีคนอื่นแทรกเล็กน้อย แต่ต้องวิชาการล้วนๆ...รับรอง เกือบทุกคน ไม่ไหว ผมก็พูดบ่อยๆแต่20-30นาทีก็ล้าแล้ว นอกจากวิชาการ แถมยังพ่วงงานบริหารอีก...24ชั่วโมงหมดไปกับโรงเรียน คุณเป็นแค่ครูน้อย อำนาจก็น้อยตาม ต้องร่วมมือกับครูหลายๆฝ่าย รวมพลังกัน ยื่นผอ. หรือกระทรวงไปเลย ส่วนเรื่องเด็ก ยังรักสนุก แต่บางครั้งก็เกินไป ถ้าครูเห็นว่าเกินไปก็ดุแล้วไล่ออกจากห้องเลยครับ..เด็กจะสำนึก หรือไม่ เด็กเหียก็ออกจากห้องไปจริงๆ เรื่องก็ยาวไปถึงผปค แล้วเด็กก็ซวยเองไม่มีใครช่วยไได้ สุดท้าย ทุกอย่างควรมีบันทึก เป็นเสียง เป็นบันทึกข้อความไรก็แล้วแต่ แต่คุณต้องปกป้องตัวเองด้วย...เด็กสมัยนี้ฟ้องศาลกันบ่อย ฟ้องศาลเพราะจ่ายเงินAdmissionไม่ทัน ฟ้องศาลเพราะอาจารย์ให้F ฟ้องศาลเพราะ ฯลฯ ขอเอาใจช่วยครูครับ ทุกอาชีพต้องมีครูที่ดีถึงจะพัฒนาชาติได้ เพิ่มเติม แต่ก่อน 0 เป็นเรื่องปกติ คิดว่า เด็กโง่เอง แต่ตอนนี้ ที่ว่า 0 ไม่ได้ เพราะหมายถึงครูสอนไม่ได้เรื่อง เด็กจึงโง่ พอไม่มีศูนย์ เด็กโง่กว่าเดิมเยอะ เพราะเรียนๆเล่นๆไงก็ต้อง1 หรือไม่ก็รายงานส่งก็ผ่านเอง แต่จริงๆ ควรมี 0 แล้วค่อยพิจารณา ว่าเป็นที่ใคร ครูหรือเด็ก แก้ไขเมื่อ 01 มี.ค. 52 11:59:53 จากคุณ : mohicann - [ 1 มี.ค. 52 11:54:15 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ความคิดดีๆโผล่มาเพียบเลย อยากให้ จขกท. ลองนำไปใช้เท่าที่จะทำได้ครับ อย่างเรื่องนักเลงใส่ ถึงแม้จะเป็นผู้หญิงก็ยังพอทำได้บ้างครับ คือ พูดอะไรก็พูดตรงๆ มันหยาบคายมาเราก็หยาบคายตอบ ผมเชื่อในระบบคัดกรองทางสังคมนะครับ ถ้าคุณลำบากใจมากๆ ไม่ไหวแล้วจริงๆ วิทยายุทธเรายังไงก็ไม่ถึง นอกจากจะดึกเด็กมาไม่ได้แล้ว โวยวายก็จะโดนพวกอาจารย์อื่นเขม่น ให้เกรดต่ำก็โดนผอ.ไม่ให้ขั้นไม่ขึ้นเงิน ผมอยากให้ลองศึกษาต่อเพื่อจะมาเป็นครูในสายสามัญนี่ล่ะ ยังไงก็เบากว่า ในเรื่องชนกับนักเรียนครับ แต่เรื่องฉะกับอาจารย์ด้วยกันเอง บางที่อาจจะหนักกว่าครับ :P จากคุณ : EeTsu - [ 1 มี.ค. 52 12:00:22 A:118.172.50.125 X: TicketID:206476 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ลาออกครับ อันนี้ผมพูดจริง ๆ นะครับ บางคนอาจมองว่าคุณ จขกท เป็นครูภาษาอะไร มาตั้งกระทู้ด่านักเรียน แต่ผมมองตรงข้ามนะ การที่คุณ จขกท มาตั้งก็เพราะว่าจริง ๆ ยังใส่ใจนักเรียนต่างหาก :) หากคิดว่าไม่ไหวแล้วที่นี่ เกินจะเยียวยา ทำไมไม่ไปหาเด็ก รร ที่ดีกว่า หรือ รร มัธยมฯ สอนละครับ ? คุณจขกท ก็มีความตั้งใจอันดี แต่ผมว่าเราก็ต้องใส่ใจตัวเราเองด้วยนะครับ ถ้าถามผมนะ คุณจขกท ไม่ต้องใส่ใจกับกลุ่มเด็กงี่เง่ามากนักครับ เพราะการใส่ใจพวกเขามาก จะทำให้เด็กดี ๆ ที่ตั้งใจ ต้องเสียโอกาส เพราะว่าคุณจขกท มัวแต่ไปใส่ใจกับเด็กงี่เง่า นี่ชีวิตจริงครับ ไม่ใช่การ์ตูนญี่ปุ่น :D ที่พูดได้นี่ เพราะตอนผมเรียนก็คือเด็กงี่เง่า เข้าเรียนไม่ถึง 30% เลย อาจารย์โทรจิกตัวลากไปสอบ ผมก็ยังไม่ไป :P เดี๋ยววันเวลาผ่านไป มันก็จะฉลาดขึ้น เมื่อมันออกมาเจอโลกแห่งความเป็นจริงแล้วรู้ว่า เออ การมีคนจิกตัวนี่มันดีกว่าการที่สังคมลอยแพเยอะ จากคุณ : cookiecompany - [ 1 มี.ค. 52 12:12:13 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ไม่ต้องสายอาชีพเกรดดีหรอกครับ ผมเรียนมัธยมเกรดดี ผมก็เป็นแบบที่คุณว่ามาซะส่วนใหญ่ ไม่หือไม่อือ ไม่ใส่ใจจะเรียน เล่นเกม สาวติด ผมก็เข้าใจครูที่เขาจ้ำจี้จำไช แต่ผมไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น มีแต่วิชาบ้าๆบอๆ เป็นตั้งแต่ ม.ปลาย เพราะอยากเรียนสายอาชีพ แต่ไม่ได้เรียน จบมาได้แค่ต้องซ่อมสิบกว่าตัว แล้วก็เข้าค่ายพฤติกรรม แค่นั้นเอง จบมาได้ยังไง ยังงงกับตัวเอง จากคุณ : ร้อยละสิบสลึง - [ 1 มี.ค. 52 12:12:20 ]

ความคิดเห็นที่ 30 การสอนควรสอนแบบว่า ความรู้อยู่ที่นี่อยากได้มาหยิบเอาไป ใครไม่เอาก็ไม่ต้องเอง ไม่ต้องสอนแบบว่า อันนี้เป็นความรู้นะ กรุณาเก็บไว้ในสมองด้วย การให้เกรด กับความรู้คนละเรื่องกัน คนที่ไม่รู้อะไรเลยได้เกรด 4 เค้าก็เอาไปใช้ไม่เป็นหรอก แต่คนที่ทำคะแนนได้ไม่ได้ แต่มีความเข้าใจ มีความรู้ เค้าก็เอาติดตัวไปใช้ได้ ผมว่าครูก็ปลงให้ตก คนไม่อยากได้ความรู้ ก็ช่างเค้าเถอะ ให้เกรดตามผลงาน ติด ร. ให้ 1 ตามความเห็นข้างบนทั้งหลายแนะนำไปเถอะครับ จากคุณ : Lpg_Horse - [ 1 มี.ค. 52 12:17:53 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เมื่อก่อนไม่ค่อยรู้หรอกว่าครูจะรู้สึกอย่างไร พอได้ไปสัมผัสกับอาชีพนี้บ้าง(นิดๆหน่อยๆ) ขอบอกเลยว่าเห็นใจครูมากๆค่ะ บางครั้งนะมีความรู้สึกอยากตามไปดูพฤติกรรมถึงบ้านจังเลย อยากดูว่าพ่อเเม่อบรมสั่งสอนลูกยังไง ถึงได้เป็นTrouble makerนัก เอาใจช่วยค่ะ จากคุณ : Hana* - [ 1 มี.ค. 52 12:37:55 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ปัญหาไม่ได้อยู่ตรงที่ เด็ก ติด ศูนย์ ไม่ได้ครับ   ถ้าคิดให้เด็ก ศูนย์ เกรด ไม่ถึงโดนไล่ ออกก็ไปเป็นภาระของสังคมอีก คำถามคือจะทำอย่างไรให้เด็ก นั้นกลับมาตั้งใจเรียน ไม่ติดเกม ติดหญิง เรื่องอย่างนี้ผมว่าผู้ปกครองต้องร่วมมือด้วยนะครับ มันเป็นปัญหาที่ยากมาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะให้เขาเรียนชิวๆ ผ่านๆ ไปนะครับ ถ้าอย่างนั้นจบไปมันก็ไปเป็นภาระของสังคมอีกเพราะไปสมัครงานที่ไหน อยู่ได้ แปปๆ ก็ต้องออก เพราะทำอะไรไม่เป็นเลยแล้ว โรงเรียนเสียชื่อด้วย จากคุณ : Bigkub - [ 1 มี.ค. 52 12:41:01 ]

ความคิดเห็นที่ 34 อย่ามาเปรียบเทียบกับการร้องเพลงเลยครับ คห.31 ตั้งแต่ผมอ่านมันเป็นเรื่องของจิตสำนึกผู้เรียนแท้ๆ ประเด็นก็คือ ต่อให้ไปชกปากมันแล้วลากเข้ามาเรียน มันก็ยังไม่เรียนเลย ต่อให้ครูอันดับ 1 ของประเทศมากราบตีนให้มันฟัง อย่างดีมันก็คงนั่งหลับ นั่นล่ะของจริง กว่าพวกนี้จะปรับตัว ก็โน่นแหละ ชีวิตจริง ที่ตกงาน ไร้เงิน ด้อยค่าในสังคม ขอคาราวะและให้กำลังใจอนาคตผู้ร่วมอาชีพทุกท่าน ที่อยากสร้างคนอย่างเต็มที่ จากคุณ : เกรียน - [ 1 มี.ค. 52 12:45:33 A:118.172.50.125 X: TicketID:206476 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ถ้าครูไม่กลัวเหนื่อย และอยากให้ลูกศิษย์ได้รับความรู้ ก็ลองสู้ต่อไปนะครับ ที่ผมจะแนะนำก็คือ วิธีการสอน แบบเดิมใช้ไม่ได้ บังคับให้มาเรียนแบบเดิม เด็กไม่สนใจเรียน เพราะฉะนั้นต้องหาวิธีใหม่ ก่อนอื่นต้องหาก่อนว่าเพราะอะไรเด็กถึงไม่อยากเรียน แล้วทำยังไงเด็กถึงจะได้ความรู้ โดยอาจจะไม่ต้องเรียนก็ได้ อันนี้จริงๆคุณครูต้องหาวิธีเอง ลองวิธีใหม่ๆ เพราะผมไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ และไม่เคยเป็นครู ทำให้ไม่เข้าใจสถานการณ์ทั้งหมด ตัวอย่างวิธี ก็เช่นคนเรามีนิสัยชอบแข่งขันโดยเฉพาะเด็ก เราก็จัดการให้แบ่งทีมแข่งกันทำกิจกรรม หรือสร้างเกมขึ้นมา อย่างเรียนเรื่องเรขาคณิต เราให้ใบสูตรไป แล้วเอาสิ่งของ ที่มีรูปทรงต่างๆหลายชิ้นให้แต่ละกลุ่มหาปริมาตร พื้นที่ผิว โดยศึกษาจากใบที่ให้ อาจจะให้จำนวนชิ้นเท่ากับจำนวนสมาชิก หรืออย่าให้หนึ่งชิ้นมีคนรับผิดชอบมากไป เดวจะอู้ไม่ช่วยทำ ท้ายชั่วโมงก็มาสรุป แบบนี้ แบบนี้ก็มีข้อดีคือ ใช้ประโยชน์จากนิสัยรักเพื่อน เพื่อนในกลุ่ม คนไหนไม่สนใจทำ ไม่สนใจช่วยเพื่อน เราก็ไม่ต้องลงโทษ เพราะเหมือนว่านักเรียนจะลงโทษกันเองตำหนิกันเองอยู่แล้ว แถมนักเรียนก็ได้สนุกอีก ถ้าเก็บคะแนนจากตรงนี้ ให้คะแนนการสอบน้อยๆ หรือไม่ต้องมีสอบ เชื่อว่านักเรียนสนใจเรียนแน่ๆ เพราะจะให้นักเรียนอ่านหนังสือมาสอบเอง สู้ให้ทำกิจกรรมแบบนี้ อาจจะทำให้ได้ความรู้มากกว่าอีกครับ ลองดูนะครับ หาวิธีดู แก้ไขเมื่อ 01 มี.ค. 52 13:21:27 จากคุณ : Sir.ขงเบ้ง - [ 1 มี.ค. 52 13:18:03 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ที่ผมเคยเจอ เวลาสอนจริง3ส่วน แกสอนเต็มๆแค่1ส่วนโดยเน้นเอาเนื้อหาล้วนๆโดยเริ่มจาก คีย์เวริด--ในวงการ(วิชานี้ต้องรู้จักคำว่าอะไรบ้าง) ความสัมพันธ์-แต่ละคำมีความสัมพันธ์กันอย่างไร นี่คือ1ส่วนในแต่ละหัวข้อ ซึ่งแกเคยบอกว่า "ตอนกรูวัยรุ่น กรุนั่งนิ่งๆได้ไม่เกิน15นาทีหรอก" ที่เหลือแกให้โยนงานไปส่ง แล้วมาพรีเซ้นเรียงตัวตอนท้ายเทอม เกรดไม่มีติด 0 มีแต่ติด I และตามแก้กันเอาเอง ด้วยนโยบาย"ไม่ฆ่า แต่ไม่ปล่อย " และการตามแก้ I วิชาแกยากกว่าเกรด4 เสียอีก เกรดที่ออกมี3ระดับ 4-2-I แต่แกบอกว่าใจจริงแกอยากให้มีแค่ผ่านกับไม่ผ่าน อ้อ แต่ถ้าเป็นวิชาแล็บต้องใช้ skill ส่วนบุคคลมากๆเช่นงานเชื่อม แกเซ็ตตารางเวลารวมถึงคำนวนเวลาที่จะทำให้บรรลุ(เชื่อมเป็น กลึงเป็น)ไว้เสร็จสรรพ และเดินเฝ้าเป็นรายตัว ใครขาดแล็บมีค่าเท่าติด I ความนักเลง เป็นอันดับหนึ่ง เคยมีรุ่นพี่มีเรื่องกับแก รุ่งเช้าพบว่าโดนมัดอยู่กับกำแพงโรงเรียน ในสภาพสลบเหมือด ถามก็ไม่รู้เรื่องบอกเดินๆอยู่วูบไปเลย จับมือใครดมไม่ได้ แกไม่เคยด่า ไม่เคยโวยวาย ไม่ออกอาการ ใครทำอะไรแกก็เฉย สอนไปตามเพลงแก พอตัดเกรดแล้วแทบจะตามกราบตีนแกจ้าละหวั่น แกบอกแกเคยสอนงานในไลน์มาก่อน รบกับพนักงานมาเยอะ แล้วพบว่างานบริษัทมันไม่รุ่งเลยเบนเข็มมาสอนนักเรียนนี่แหละครับ อันนี้เมื่อ10กว่าปีก่อนนะครับ ด้วยจิตคารวะ จากคุณ : นะ - [ 1 มี.ค. 52 13:44:20 A:124.157.220.32 X: TicketID:179472 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ห้ามเด็กติด o นี่ผมไม่เชื่อนะ ยิ่งเอกชน เพียงแต่ว่าติดได้แต่เลื่อนไปปีไหนก็ต้องซ่อม สมัยนี้สงสัยหน่วยกิตนึงก็ไม่น่าจะต่ำกว่าสองพันแล้วสำหรับเอกชน จากคุณ : ขยะสังคม - [ 1 มี.ค. 52 13:59:11 ]

ความคิดเห็นที่ 38 การเรียนนั้นเหมือนการเล่นกล้าม ไม่มีใครเล่นแทนใครได้ ไม่มีใครบังคับให้ใครเล่นได้ คนอยากมีกล้าม ต้องอยากเล่นเองจึงจะมีกล้ามเอง ครูคือ คนสอนเล่นกล้าม ทำเท่าที่ทำได้ อย่าไปเครียดมาก จบมา เกรด 1 เรียงเป็นพรืด ก็เป็นได้แค่เด็กยกของล่ะครับ... จากคุณ : Sial - [ 1 มี.ค. 52 14:18:56 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ส่วนนึงถ้าผมเห็นครูไม่มีอารมณ์สอนผมก็ไม่มีอารมณ์เรียนครับ จากคุณ : PSD13 (PSD13) - [ 1 มี.ค. 52 14:54:01 ]

ความคิดเห็นที่ 40 คุณ หมูน่ารักจริงๆ จขกท . ก็แค่บ่น อ่านที่คุณเขียน คุณก็บ่นลูกค้าเหมือนที่ จขกท เขาบ่น  ใช่หรือไม่ เขาบ่น ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่ได้ใช้สมองคิดเพื่อแก้ปัญหาซ่ะเมื่อไหร่ เท่าที่อ่านดู จขกท. ก็เป็นคนที่มีความรับผิดชอบในวิชาชีพของตนเองไม่น้อยเลย ไม่งั้นคงไม่ต้องมาบ่นแบบนี้หรอก และอีกอย่าง จขกท. ต้องรับมือกับลูกศิษย์ ครั่งล่ะเป็นสิบเป็นร้อย ซึ่งล้วนแล้วยังขาดวุิฒิภาวะ  และจะพาไปกินเหล้า หรือพาไปตีหม้อเพื่อให้รับฟังครูก็ไม่ได้ จากคุณ : Ganja - [ 1 มี.ค. 52 15:15:10 ]

ความคิดเห็นที่ 41 หาว่าจขกท.เขาสอนไม่ดี เด็กเกเรหนีเรียน มันอยู่ที่จิตสำนึกและความรับผิดชอบของเด็ก โดยเฉพาะเด็กอาชีวะที่เรียนอย่างอิสระกว่าเรียนในสายสามัญ ไปเปรียบกับการเรียนร้องเพลงอีก คนละเรื่องเลยคุณ-*- จากคุณ : เสียงจากบ้านนา - [ 1 มี.ค. 52 16:01:41 ]

ความคิดเห็นที่ 42 เห็นใจครูนะครับ แต่ผมว่าทำอย่างนี้มันยังไม่เด็ดขาดพอ ให้โอกาสเขาเท่าที่ให้ได้เถอะครับ อย่าให้มากเกินไป ถึงที่สุดแล้วถ้าเขามองไม่เห็นความสำคัญของการศึกษา และไม่เห็นค่าของความหวังดีของครู ก็ปล่อยให้เขาไหลไปตามกระแสชะตากรรมเถอะ ระบบและสังคมจะทำหน้าที่คัดกรองและมอบหมายหน้าที่และสถานะที่เหมาะสมแก่เขาเอง ที่อ่านมาผมก็เห็นด้วยกับหลายความเห็นครับ ใครทำอย่างไรไว้ก็ได้รับผลแบบนั้นไปล่ะ คนเราถึงแม้เกิดมามีโอกาสน้อยกว่าคนอื่น แต่ถ้ารักดีซะอย่างยังไงก็ยากที่จะตกต่ำครับ จากคุณ : ... - [ 1 มี.ค. 52 16:18:20 A:118.174.215.103 X: TicketID:163756 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ต้องทำให้ เขานับถือเราก่อน เขาจึงจะยอมให้เราสอน คิดว่านะ จากคุณ : อีคิวศูนย์ - [ 1 มี.ค. 52 16:20:14 ]

ความคิดเห็นที่ 44 อ่าน คห. 9 +13 แล้ว จี๊ด แทน อย่าบอกเดเกคนนั้น แล้วถ้าเอ็งเห็นคะแนนสำเร็จ แล้วทำไมไม่ทำตัวให้มันสมกับที่ควรจะได้คะแนนเล่า และไอ้พวกหายใจทิ้งไปวันๆ นี่มันน่าจับส่งไปประเทศคอมมิวนิสต์นักครับ คห.35 วิธีนี้ดีจริง แต่ไม่สอดคล้องกับ เนื้อหาวิชาที่ผู้หลักผู้ใหญ่มันยัดมาให้สอนให้เรียน โดยไม่ได้ดูว่า พื้นฐานเด็กและสังคมมันเป็นไง ก็อย่างที่ผมอธิบายใน http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X7578871/X7578871.html จากคุณ : Prof.Sirius - [ 1 มี.ค. 52 16:40:47 ]

ความคิดเห็นที่ 45 จะสอนให้เร้าใจแค่ไหน พวกไม่เอาถ่านก็ยังไม่เปลี่ยนหรอก ตั้งใจปั้นเด็กที่มีแววดีกว่า คนที่สุดเยียวยา เราเข็นได้แค่ไหนก็แค่นั้น จากคุณ : jaycee - [ 1 มี.ค. 52 18:32:16 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ทำไปตามนั้นครับ ให้ 0 ไม่ได้ก็ให้ 1 นั่นก็คือต่ำที่สุดแล้วใช่ไหมล่ะ มันอาจจะเจ็บปวดใจสักหน่อยในระยะแรก แต่อุดมคติที่เด็กทุกคนตั้งใจเรียน แล้วได้ 4 ทั้งห้อง มันหาไม่ได้หรอกครับ แต่ละคนล้วนมีทางเลือกของตนเอง ชีวิตเป็นเรื่องของการเลือก อยู่แล้วครับ ที่คุณทำได้อย่างมากก็แค่ชี้ทางเลือกที่คิดว่าดีที่สุดให้กับเด็ก แต่เด็กจะเชื่อแล้วเลือก ตามที่คุณสอนหรือไม่ คุณไม่ต้องไปใส่ใจครับ เพราะนั่นเกินขีดความสามารถของคุณไปแล้ว เอาใจไปแขวนตรงนั้นมีแต่ทุกข์กับทุกข์ ต้องปล่อยวางบ้างครับ ต้องเข้าใจธรรมชาติ โลกนี้ไม่มีเรื่องดีเลิศครับ จากคุณ : Generals - [ 1 มี.ค. 52 18:34:03 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ไม่อยากเห็น คนที่ไม่มีจิตวิญญานความเป็นครู และนักเรียนผู้ไม่ใฝ่รู้ อยู่ในวงการเลย แค่ออกความเห็นแต่ละอย่างก็กินใจแล้ว ใครไม่เคยเจอกับตัวไม่รู้หรอก บ้างก็อยากให้ครูเข้มแข็งในจรรยาบันวิชาชีพ แต่ถ้าเจอผู้บริหารผู้กำชะตาชีวิตแข็งกว่า จะแก้ไขอย่างไร? หรือสิ่งดีๆที่แนะมาก็ดีทั้งนั้น ถ้าครูน้อยผู้ตั้งใจทำได้ เขาก็ทำไปแล้ว (เขารู้เห็นสัมผัสตรงมากกว่าใครเสียอีก) ถ้าช่วยได้น่าจะแนะนำว่าแก้ไขอย่างไร  (เราก็จนปัญญาเหมือนกัน สุดท้ายเลือก ทำไม่รู้ไม่เห็น ลาออกไปงานอดิเรกไปตามวัยดีกว่า) ยามเห็นใจครู ก็บอกว่า "ถ้าอึกอัดมาก ก็ออกไปหาอย่างอื่นที่ดีกว่า" ปล่อยให้พวกรับจ้างสอนอยู่ด้วยความสบายใจต่อไปเถอะ ยามเห็นใจอนาคตชาติ ก็บอกว่า ครูดีๆ ต้องสู้ๆ สงสารเด็ก ครูจริงๆยิ่งเหลือน้อยอยู่แล้วอย่าเพิ่งหนีไปหมด ถ้าไปเจอบางแห่ง ที่นโยบายการศึกษาเปิดกว้างมากๆ คือ ต้อนเด็กมาไม่เลือกหน้า บ้างฝากเรียน บ้างก็ฝากถึงจบ ไม่มี 0 ไม่มีติด ต้องให้เด็กเป็นศูนย์การการเรียน ครูมีหน้าที่สอนก็สอนๆไป ถึงเวลาเด็กก็จบตามกำหนด ไม่เห็นมีอะไรยาก ก็เสมือนรับก้อนกรวดมาให้ครูเจียรไนให้เป็นพลอย ก็คงฟลุกได้พลอยน้ำงามได้บ้างละนะ  ใช่ว่าผู้เจียรไนฝีมือไม่ดี   ครั้นจะมีพลอดเม็ดดีหลงมาบ้าง ก็มักจะถูกกรวดทรายกัดเซาะทับถม จนไม่กล้าส่งประกาย  ช่างเจียรนอกจากเหนื่อยหน่ายกับการเจียรกวรดแล้ว ยังต้องมาคอบปกป้องพลอยไม่ให้ถูกกรวดกัดเซาะ ทั้งในและนอกหน้าที่ให้เหนื่อยอีก บางแห่งก็ไม่เคยเหลียวแล แท่นเจียรไน(เครื่องมือ+ระบบขบวนการเรียนการสอน+หลักสูตรเนื้อหา+ความพร้อมทางการศึกษา ฯลฯ) เร่งเอาแต่ปริมาณ นับเข่งส่งออก  พอช่างเจียรฯ จะอ้าปากว่าแท่นมันจะพังอยู่แล้ว เขาก็บากว่าเป็นหน้าที่ของช่างต้องดูแลเอง ตอนนี้งบไปท้ำ PR ปลูกหญ้า ทาสี ก่อสร้างขยายหมดแล้ว ดังนั้น ครูที่ตั้งใจมาก ก็หนักใจ และท้อแท้มาก  คนที่อาศัยตำแหน่งครูมารับจ้างสอนไม่ได้ใส่ใจอะไร ก็ยังมีความสุขดีกับหน้าที่การงาน ก็อาจมีบ้างที่บางแห่ง  สถานที่ดี  ได้พลอยดี  มีควมพร้อมดี  แต่มักจะดีได้ไม่นานเพราะที่ใดดี ย่อมเป็นที่หมายปองของฝูงเหลือบ อาศัยบารมีลูกพี่มาทำบันได  หรือมีคนไม่งามได้เป็นใหญ่เป็นโต แปรเปลี่ยนครูดีๆ(ที่สุดเหนือย) ไปเป็นผู้แสวงสุขส่วนตัวโดยไม่ต้องแบกจรรยา ที่หนัก และนอกเหนือหน้าที่ที่พึงประเมินได้ตามตัวอักษร สุดท้ายนี้ ก็ขอเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่กล้าเรียกคำแทนตัวว่า "ครู" ทุกท่านว่า อย่างน้อย ท่านก็ได้ทำสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำให้ได้กับสังคมอนาคตชาติแล้วครับ จากคุณ : khanasri - [ 1 มี.ค. 52 18:43:32 ]

ความคิดเห็นที่ 48 อย่าไปลดตัวครับ ใครรับก็รับ ใครใฝ่ดีก็ดีไป คนบางคนเปรียบได้กับบัวใต้บาดาลยากที่จะขุดขึ้นได้ครับ ขืนไปยุ่งมากๆ อ. จะไม่ปลอดภัยนะครับ จากคุณ : โจ (ฉันมันตัวเปล่า) - [ 1 มี.ค. 52 18:54:35 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ไม่มีอารมณ์มาสอบ ดี ไม่มีอารมณ์จัดสอบ ไม่มีอารมณ์ให้งาน ไม่มีอารมณ์ให้คะแนน แต่มีอารมณ์ให้ศูนย์ แล้วเผ่น = ='' จากคุณ : ฮ่าๆๆComeback (โฮ่งฮับตังเม) - [ 1 มี.ค. 52 20:45:30 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ขอเลยนะครับ  นักเลงมาต้องนักเลง ตอบ ฟังดูมันก็สะใจดีอ่ะนะ   แต่ พวกนี้ คงไม่เคยเห็นครูโดนตบปากแตก อย่าแนะนำมั่ว ๆ ครับ ขอร้อง จากคุณ : Pixzz - [ 1 มี.ค. 52 20:49:40 ]

ความคิดเห็นที่ 51 มีเมตตาแต่ต้องไม่ทิ้งความเด็ดขาด สำคัญมากๆครับ ยิ่งในสายช่าง(ผมเรียนสายช่างมา 5ปี เรียน ป ตรี ใน ม ที่ทั้งอาจารย์และนศ มาจากสายช่างเป็นส่วนใหญ่) ความเด็ดขาดและความนักเลงของอาจารย์สำคัญมากๆ  ต้องรู้ว่าตรงไหนควรปล่อยตรงไหนควรเข้ม ความสามารถของอาจารย์ก็สำคัญ มีอาจารย์อยู่ท่านหนึ่ง สอนวิชาที่น่าเบื่อมาก แต่เชื่อมัยว่าไม่เคยมีเด็กคนไหนหลับ หรือไม่สนใจเวลาแกสอนเลย เพราะแกมีมุขเยอะ ใครนั้งหลับโดนแซวทั้งคาบแถมตั้งฉายาให้ด้วย และที่สำคัญต้องรู้ว่าจะเอาวัยรุ่นมานั้งนิ่งๆอยู่ทีละ 3-4 ชั่วโมง มันเป็นไปไม่ได้หรอก รวมๆสอนซัก ชั่วโมงเดียว ที่เหลือก็ให้งานทำเป็นอิสระดีกว่า จากคุณ : หวาก - [ 1 มี.ค. 52 20:56:44 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ส่วนเรื่องความเด็ดขาดอย่างที่ว่าครับ 0 ไม่ได้ก็ I หรือ ร. ไปสิ ตามแก้ก็ต้องให้โหดเข้าไว้จะได้เลื่องลือ ไปในรุ่นน้องต่อไป ขาด-สาย ไม่มาสอบก็ตัดคะแนนไปเลย ตอนที่เรียนใครไม่สนใจรบกวนเพื่อนก็ตัดคะแนน ของผมตอนที่เรียน ปวช-ปวส อาจารย์ว่า คุณจะเรียนหรือไม่เรียนไม่ว่า แต่อย่ากวนเพื่อน จะหลับก็หลับไป ส่วนอีกท่านว่า ถ้าใครรู้แล้วไม่เรียนก็ได้ เล่นเกมส์เล่นเน็ตไป แต่ท้ายคาบต้องมีงานส่ง ปลายเทอม ต้องทำข้อสอบให้ได้ ไม่ได้ไม่มีช่วยเหลือใดๆ ตัดคะแนนตามจริง แถมแก้ ร. โหดมากๆ   เรื่องเวลาเรียนก็เหมือนกันครับ ห้ามโดดเด็ดขาด แต่เทอมหนึ่งๆ มีสิทธ์ขอไม่เรียนทั้งชั้นได้2ครั้ง จะไม่มาเรียนต้องโทรมาลาก่อนจะได้ไม่ต้องรอเก้อ อย่าลืมครับ เมตตา เด็ดขาด นักเลง(ไม่ใช้อันธพาล) ต้องมีคบถึงจะเอาเด็กอาชีวะอยู่ครับ เป็นกำลังใจให้ครับ จากคุณ : หวาก - [ 1 มี.ค. 52 21:03:07 ]

ความคิดเห็นที่ 53 the libertines นี่เพลงดีนะคะคุณ จากคุณ : i aM uNiQuE GaLaxY - [ 1 มี.ค. 52 22:26:33 ]

ความคิดเห็นที่ 54 จาก คห.12 สอนพวกนักเลงเราต้องนักเลงด้วย บางทีถ้าจะทำแบบที่บอก ก็ ต้องระวังตัวด้วยนะครับ นักเรียนแต่ละคนไม่รู้จะมาแบบอารมณ์ไหน ทำแบบไหน   เคย เกิดเหตุโรงเรียนเก่าผม โรงเรียนคริสต์มีชื่อ ฝั่งธน นักเรียนโดดเรียนหนีเรียนไม่สนใจตั้งใจเรียนเกเร เจอคุณครูไล่คุณครูด่า จะให้พักการเรียน  พอ ตอนเย็นเลิกเรียน  นักเรียนที่โดนว่า กลับมาโรงเรียนพร้อมกับใส่สนับมือ มา พร้อมจะต่อย อาจารย์ โชคดีมีคนห้ามไว้ค่อนจะต่อยอาจารย์ทัน ไม่งั้น..... = ="  ขอให้จขกท อดทนอดกลั้นครับ ตั้งใจสอนเด็กที่ตั้งใจเรียน ส่วนเด็กพวกที่ไม่ตั้งใจเรียน ก็ ให้เขาคิดเอง ว่า ชีวิตตัวเขาเองจะเลือกทางเดินแบบไหน ก็อยู่ที่การกระทำตัว ของ ตัวเขาเอง สู้สู้ครับ จากคุณ : Buddychans - [ 1 มี.ค. 52 23:31:54 ]

ความคิดเห็นที่ 55 คห.50 กับคห.54 ครับ คำว่านักเรียนนักเลงมาให้ครูนักเลงตอบ ไม่ได้หมายถึงการตอบโต้โดยใช้วิธีอัธพาลต่อยตีกับนักเรียนครับ นิสัยนักเลงนี้ ดีๆ ก็มีครับ อย่างเช่น การรักพวกพ้อง การเปิดอกพูดกันตรงๆ ยกตัวอย่าง หากนักเรียนนั่งคุยกัน ถามเลยพวกมรึงคุยกันเรื่องอะไร พวกกรูคุยด้วย เอาเรื่องนั้น มาถกกันทั้งชั้นเลย แล้วอาจารย์ค่อยตล่อมเข้าบทเรียน จากคุณ : mamao - [ 2 มี.ค. 52 00:38:14 ]

ความคิดเห็นที่ 56 วิธีแก้ จะไปยากอะไร.... ง่ายจะตาย เวลาเรียน จะเรียนหรือไม่ก็ได้ (ตามใจมรึง) แต่ให้ทางโรงเรียนบันทึกผลงาน การมาเรียน การส่งงาน ไว้ให้หมด (เอาไว้เป็นหลักฐาน) แต่เวลาสอบ คุณต้องสอบได้ ถ้าสอบไม่ได้ ก็ไม่ให้ผ่าน (เว้ย..) ต้องให้เรียนซ้ำชั้น มันซะ !! จากคุณ : SuperMox - [ 2 มี.ค. 52 11:02:53 ]

ความคิดเห็นที่ 57 อืมม อ่านแล้วมีความเห็นหลากหลายดีครับ แต่ผมมองอีกด้านครับ จขกท. ผมขอย้อนไปถึงเรื่องการคัดกรองเด็กซักนิดนะครับ ผมเองไม่แน่ใจว่าแต่ละสถาบันเค้ามีการคัดกรองเด็กอย่างไร เพราะผมสังเกตมาหลายปีแล้ว พบว่า ตั้งแต่สมัยที่ผมยังเรียนมัธยมต้น ก่อนที่จะแยกสายแนวโน้มมันเริ่มเห็นตั้งแต่ตอนนั้นแล้วนะครับ เด็กที่มุ่งทางสายสามัญ จะเห็นเลยว่าอยากเอ็นทรานซ์ อยากมีวิถีชีวิตแบบนึง ส่วนเด็กที่ย้ายเข้าสายอาชีวะก็ต้องการจะมีวิถีอีกแบบนึง ซึ่งผมขออนุญาต เจาะจง ในส่วนที่เป็นเด็กที่ถูก(เพราะเด้กส่วนใหญ่ถูกระบบที่มีอยู่เป็นตัวคัดกรองเบื้องต้น) คัดออกมาจากสายสามัญ เด็กส่วนนี้มีจำนวนไม่น้อย หลักๆเลย คือ เกรด ไม่ถึง เรียนอ่อน จึงไม่สามารถต่อ ม. 4 ได้ กับอีกส่วนนึงคือ เด็กที่ต้องการเปลี่ยนไปเรียนสายอาชีวะโดยเจตนา ซึ่งผมแบ่งได้อีก 2 แบบ คือ อยากเรียน(มีความรู้เฉพาะด้านที่ตัวถนัด) กับ อยากเป็น(นักเรียนนักเลง) ท่าดูจากตรงนี้ เด็กที่อยากเรียนจริงๆ มันน้อยอ่ะครับ มันเลย กลายเป็นว่าเด็กที่มาทางสายอาชีวะที่ต้องการเรียนจริงๆ มันมีสัดส่วนเท่าไหร่กันแน่ ตัวผมคิดว่าไม่น่าถึงครึ่ง (จริงๆ คิดเอาเองว่าไม่น่าถึง 1 ใน 3 ด้วยครับ) ทีนี้ ท่าเอาสัดส่วนเด็กตามที่ผมบอกไว้มากระจายเข้าสู่ สถาบันอาชีวะ มันก็ชัดเจนครับ ว่า จขกท หนีไม่พ้นสถานการณ์ที่เผชิญอยู่แน่ๆ มันจึงเป็นที่มาของข้อสังเกตของผมว่า ผมไม่เข้าใจเรื่องระบบการคัดกรองเด็กออกจากสายสามัญแล้วคัดกรองเข้าสู่สายอาชีวะ ตรงนี้รึเปล่าครับที่มันเป็นปัญหา เพราะเด็กที่ไหลออกมาทางนี้มันเห็นชัดอยู่แล้วว่ามีปัญหาแน่ๆ แต่ระบบ มันก็ยังเป็นแบบนี้อยู่ สุดท้าย เห็นใจ จขกท ครับ แต่ก็ขอเอาใจช่วย ผมเป็นคนนึงที่เชื่อมาตลอดว่า ถ้าเด็กที่เลือกที่จะเรียนอาชีวะแบบตั้งใจจริง ไม่ใช่แค่อาศัยชื่อสถาบันเพื่ออวดอ้างศักดิ์ศรีกัน ประเทศเราจะมีคนทำงานที่มีคุณภาพขึ้นอีกเยอะ จากคุณ : rayjita - [ 2 มี.ค. 52 11:24:52 ]

ความคิดเห็นที่ 58 เด็กพวกนั้นมานั่งเรียนในห้อง ถึงแม้จะไม่ตั้งใจเรียน นั่งเฉย นั่งคุย... แต่มองอีกแง่ พวกเค้ามีความรับผิดชอบในการเข้าห้องเรียนแล้ว  ถึงแม้จะไม่ถูกใจใครๆทุกเรื่องก็ตาม...คำถามคือ?.... มีใครแสดงความชื่นชม ยกย่อง เชิดชูพวกเค้าบ้างหรือยัง ... สำหรับพวกเค้าแล้ว มันคือการกระทำที่ยิ่งใหญ่ ใช่ครับ!...เค้าตั้งใจแล้ว แต่พวกผู้ใหญ่อาจคาดหวังพวกเค้ามากกว่านั้น  จึงทำให้พวกเค้ารู้สึกว่า ทำอะไรไปก็ไม่พอ ไม่ถูกใจ เพราะฉะนั้น อย่าทำมันเลย วัยรุ่นเซ็ง (ประมาณนั้น) ...เราต้องค่อยเริ่มๆ แสดงออกให้เค้ารับรู้ว่าเราเห็นความตั้งใจเค้า ให้คำชม ยกย่อง อย่างจริงใจ ให้เค้ารู้สึกมีคุณค่า มีความหมายกับความพยายาม หรือการกระทำอันเล็กๆของพวกเขา... แล้วทุกอย่างน่าจะดีขึ้นไม่มากก็น้อย ... เอาใจช่วยครับ จากคุณ : ผู้ก่อการรัก - [ 2 มี.ค. 52 18:06:07 ]

ความคิดเห็นที่ 59 เห็นใจครับ ผมก็จบ ปวช มา ผมก็คิดแบบนี้แหละครับ ว่าเอ็งจะมาเรียนทำไม มาแล้วเสียงดังไม่ยอมเรียน จากคุณ : cpu4core - [ 2 มี.ค. 52 19:58:16 ]

ความคิดเห็นที่ 60 เป็นกำัลังใจให้คุณครูนะครับ เพราะผมก็เคยเป็นเด็กที่ไม่เรียนในห้องเช่นกัน แต่เป็นโรงเรียนสามัญธรรมดานะครับ จากคุณ : Bassism - [ 3 มี.ค. 52 09:20:55 ]

ความคิดเห็นที่ 61 คุณแม่ผมก็สอนสายอาชีพนะครับ สอนวิชาอาหารครับ นักเรียนส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง คุณแม่บ่นให้ฟังเสมอว่าทุกวันนี้ นักเรียนที่มาเรียนไม่ตั้งใจเรียนเหมือนที่ จขกท. บอกเป๊ะๆ เลยครับ คุณแม่เล่าให้ผมฟังว่าสอนมาก็ตั้ง 20 ปีแล้ว เทียบกับนักเรียนอาชีวะสมัยก่อน แม้จะหัวไม่ดีหรือเกเรบ้าง แต่ก็ให้ความเคารพครูบาอาจารย์ ท่านก็เลยมีกำลังใจจะเคี่ยวเข็น แต่ปัจจุบันนี้ จะเข็นยังไงก็ไม่ขึ้นแล้ว เทคนิควิธีการที่เคยใช้ได้ผล กับนักเรียนอาชีวะที่ว่าหัวไม่ดีสุด หรือ เกเรสุดๆ ใช้การไม่ได้เลย เพราะนักเรียนไม่มีการตอบสนองอะไรเลย คุณแม่สรุปว่าทุกวันนี้เวลาไปสอน..ก็ตั้งใจไปสอน แต่ต้องทำใจว่านักเรียนอาจไม่รับในสิ่งที่จะสอน ในใจก็สงสารนักเรียนแต่ไม่รู้จะช่วยยังไง คุณแม่ก็อายุมากแล้ว เรี่ยวแรงไม่เหมือนสมัยก่อน ให้ไล่ตามนักเรียนอีกก็ไม่ไหว สุดท้ายก็สงสารผู้ปกครองของนักเรียน เพราะบางท่านทำงานลำบากส่งลูกเรียนอยากให้ลูกเรียนจบมามีงานทำ โดยที่ไม่รู้เลยว่าลูกจะเรียนจบมั้ย? หรือจบมาจะทำงานได้มั้ย? ผมก็ได้แต่ช่วยแม่เท่าที่ช่วยได้ล่ะคับ ตรวจรายงาน ตรวจการบ้าน แล้วก็ให้กำลังใจท่าน สู้ๆ สู้ๆ มาเจอกระทู็นี้ก็เลยขอเป็นกำลังใจให้ จกขท. ด้วยละกันครับ แต่ให้ช่วยตรวจรายงานหรือการบ้านขอบายนะคับ จากคุณ : เก่งกว่าผมตายไปหมดแล้ว - [ 3 มี.ค. 52 14:34:17 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ขอบคุณ จขกท ที่มาโพสนี่ก็แสดงว่า  อัดอั้นตันใจพอสมควรกับการสอนเด็ก อาชีวะนี่ ก็คงอยากให้ลูกศิษย์ที่จบไปมีความรู้ ให้สมกับที่เสียเงินเสียเวลามาร่ำเรียน นึกถึงภาพวัยรุ่น สมัยนี้ที่ ไม่คิดจะไปเรียนสายสามัญเพราะไม่ชอบเรียนเป็นทุนเดิม จะไม่เรียนก็ไม่ได้ เพราะพ่อแม่มีตังค์ ก็อยากให้ลูกมีความรู้ติดตัว ไปใช้ในอนาคต ก็เลยต้องส่งมาเรียนอาชีวะ ..(จะมีส่วนหนึ่งที่ใจรักจริง ๆ อันนี้ก็เยอะ) ทุกเช้าเวลาผมไปทำงานจะเจอเด็กในหมู่บ้าน ใส่ชุดเทคนิค กำลังไปเรียน ...ไปมันตัวเปล่านี่แหล่ะ หนังสือกับสมุดนี่ไม่มี ซักเล่ม สงสัยกลัวไม่เท่ .....กลัวไม่เท่..... นี่แหล่ะสำคัญสำหรับคนกลุ่มนี้ ก็เลยจะเห็นพวกเขาเหล่านั้นไปแข่งรถ ไปมีเรื่อง เพื่อที่จะได้เท่ห์ เป็นที่ยอมรับของเพื่อนฝูง ถึงผมจะเรียนสายสามัญมาแต่ตอนเรียนมหาวิยาลัย เพื่อนผมมีแต่จบ ปวส ทั้งนั้น ก็เลยเข้าใจพฤติกรรมพวกเขาค่อนข้างดี แล้วพอจบมา ก็ต้องมีทั้งลูกน้องที่จบ ปวช ปวส ไหนจะ เด็กอาชีวะมาฝึกงานอีก พวกนี้เห็นทีแรกนึกว่าโจร ..ท่าทางเถื่อน ๆ บุหรี่ เหล้านี่ ครบสูตร แต่พออยู่ไปอยู่มา ก็เออมันก็แค่ภาพพจน์ภายนอก ความจริงคนเหล่านี้เป็นคนดีเกินคาด ขอให้เราแสดงให้เขาเห็นว่าเรายอมรับเขา แค่นั้น แล้วเขาก็จะปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมการทำงานได้เอง แต่พูดก็พูดเถอะ ผมว่าปัญหาที่แท้จริงของเรื่องนี้คือ ระบบการศึกษา หลักสูตรที่จะสอนเด็ก จะสอนอะไรกันนักกันหนา อย่าว่าแต่อาชีวะเลย สายสามัญก็เป็น ยกตัวอย่างง่าย ๆ วิชาภาษาอังกฤษ เรียนตั้งแต่ ม.1- ม.6 บางภาคเรียนมี 2 ตัวอีกตะหาก สุดท้ายมาเรียนตอนมหาวิทยาลัยอีก แต่ภาษาอังกฤษก็ห่วยแตกเหมือนเดิม เดือนที่แล้วเปิดรับสมัครช่าง วุฒิ ปวส  ไฟฟ้า กับเครื่องกล ตรงนี้เหลือเชื่อมาก ๆ ปวส ไฟฟ้า กำลัง พอถามถึงกฎของโอห์ม แล้วตอบไม่ได้ .....อันนี้ 8 ใน 10 คนเลย ถามว่า ไฟฟ้า บ้านกับโรงงาน ต่างกันอย่างไร ....ตอบไม่ได้กันอีก inverter คืออะไร ทำหน้าที่อย่างไร  ......ตอบไม่ได้อีก เกรดบางคนก็ 2.7 2.9  ตกลงตอนเรียนเทคนิคช่างไฟฟ้ามา 5 ปีนี่เรียนอะไรกันมาเนี่ย สรุปว่า  คุณ ดอกฟ้า จำปาศักดิ์  อย่าเครียดไปเลย ...คนมันไม่หิว ถึงจะเอาอาหารอร่อยแค่ไหน ไปประเคนให้มันก็ไม่กิน.. แล้วทำยังไงคนมันถึงจะหิว จะได้แย่งกันกินสิ่งที่เราจะมอบให้นี่สิ คุณ ดอกฟ้า จำปาศักดิ์   ต้องคิดหาวิธีดู แล้วเรื่อง การให้ไม่ให้เกรด 0 ไม่ใช่เรื่องสำคัญเลย มันก็แค่ตัวเลข สาระสำคัญคือ ลูกศิษย์จะได้อะไรไปจากเราบ้างหรือเปล่า ส่งท้าย ความจริงแล้วตอนเรียนผมแบ่งออกเป็น 2 ช่วง ช่วงเกรดเฉลี่ย 0.กว่า ๆ ( F เพียบ)... กับช่วง 3.กว่าๆ เออ เป็นไปได้แฮะ  หรือว่ามันได้ F จนบรรลุ สัจธรรม มันเลยตีกลับ ช่วงแรกผมไม่หิว ช่วงที่ 2 ผมเกิดหิวจัดขึ้นมา คุณ ดอกฟ้า จำปาศักดิ์   ต้องหาวิธีที่จะทำให้ลูกศิษย์ที่รักหิวจัดแล้วล่ะครับ ..สู้ ๆนะครับ ประเทศชาติต้องการความช่วยเหลือจาก จขกท จากคุณ : juninho - [ 4 มี.ค. 52 03:37:39 ]