อธิบายเพิ่มจาก คุณ mr.social ^^
Mala Inse เป็นลักษณะของกฎหมายที่เป็นความผิดในตัวมันเอง กล่าวก็คือ เป็นขนบจารีตประเพณีมาตั้งแต่ต้น เช่น ฆ่าคนตาย ทำร้ายร่างกาย ลักทรัพย์ เป็นต้น
Mala Probihita เป็นลักษณะกฎหมายที่เกิดจากการกำหนดให้เป็นความผิดครับ เช่น การเลี่ยงภาษี เป็นต้น
ดังนั้น ในส่วนของ Mala Inse มันก็ คือ เป็นส่วนหนึ่งในขนบธรรมเนียม จารีตประเพณี ของมนุษย์มาก่อนอยู่แล้วล่ะครับ หรือจะเรียกว่ามันเป็นตัวขนบธรรมเนียม จารีตประเพณีมาก่อน ก็ไม่้ผิดนัก เพราะถึงแม้ระบบกฎหมายจะล่ม แต่ Mala Inse ก็ยังอยู่ หากประชาคมนั้นๆ ยังคงความเป็นอารยะอยู่
และจาก คห. ที่ 13 ที่คุณ mr.social เขียนบอกไปจึงไม่กวนครับ แต่กำลังพูดถึงกรอบทางสังคม ซึ่งได้แก่ วัฒนธรรม และภาษาก็เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม อันรวมอยู่กับ ขนบธรรมเนียมจารีตประเพณีด้วย
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น หาเป็นแบบทดลอง ในกรณีที่จะไม่มีการวางกรอบทางวัฒนธรรมเลย โดยกำหนดให้ generation ก่อน เ้ป็น Gen-A และ generation B ตัวทดลอง เป็น Gen-B และวิธีการทดลองก็คงต้องให้ Gen-A ต้องไม่มีชีวิตเหลืออยู่แม้แต่คนเดียว เพราะหากพูดคุยกับ Gen-B จะเป็นมี "การสอนระหว่างรุ่นสู่รุ่น" เกิดขึ้นก็ได้
ดังนั้น อาจจะสันนิษฐานผลการทดลอง ว่า Gen-B จะต้องสั่งสมวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีขึ้นมาเอง เนื่องจากมนุษย์เป็นสัตว์สังคม ดังนั้นการอยู่รวมกันเป็นกลุ่มก้อนเป็นประชาคม และมีการพัฒนาการของระบบสังคมเกิดขึ้น และด้วยประชาคมนี้เองที่จะทำให้เกิดมีการกำหนด "ค่านิยม" ซึ่งเป็นความคิดเห็นร่วมของประชาคมนั้นๆ อันเป็นส่วนหนึ่งของขนบธรรมเนียม จารีตประเพณีในประชาคมนั้นๆ ด้วยครับ
สรุป คือ ค่านิยมในสังคมหนึ่ง อาจจะเป็นการ "นอกกรอบในอีกสังคมหนึ่ง"
และ ค่านิยมในอีกสังคมหนึ่ง อาจจะเป็นการ "นอกหรอบในสังคมข้างต้น" ก็ได้

edit : แก้คำผิด (ผิดเยอะจริงๆ) - -*
แก้ไขเมื่อ 10 มี.ค. 52 11:14:36
แก้ไขเมื่อ 10 มี.ค. 52 11:13:40
แก้ไขเมื่อ 10 มี.ค. 52 11:11:58
แก้ไขเมื่อ 10 มี.ค. 52 11:08:40