PANTIP.COM : X7616327 ฐานทัพใต้มหาสมุทร [เรื่องลึกลับ]

ฐานทัพใต้มหาสมุทร

เพื่อนๆชาวหว้ากอก็คงจะทราบกันดีว่า พื้นที่ 51 (AREA 51) นั้นเป็นฐานทัพทหารของกองทัพสหรัฐฯที่สร้างขึ้นมาโดย CIA เพื่อทำการทดลองเครื่องบินจารกรรม (Stealth Plane) และยิ่งไปกว่านั้นมันยังเป็นสถานที่ใช้ศึกษาและวิจัยยานอวกาศของมนุษย์ต่างดาว ถ้าพื้นที่ 51 เป็นพื้นที่ที่มีระบบรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด และลึกลับที่สุดบนพื้นโลกแล้วละก็ คงจะไม่ผิดนักถ้าพวกเราจะเรียกพื้นที่ใต้มหาสมุทรแอตแลนติก บริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวดาว่า พื้นที่ 51 แห่งแคริบเบียน บ้างเช่นกัน และนี่คือเรื่องที่ผมนําเสนอแก่เพื่อนชาวหว้ากอ-ลึกลับ ในวันนี้ครับ ชนแก้ว

^{The Atlantic Undersea Test and Evaluation Center ศูนย์ทดลองและพัฒนาใต้ทะเลแอตแลนติก}

จากคุณ : Mr.Terran - [ 11 มี.ค. 52 19:25:08 ]

ความคิดเห็นที่ 1

The Atlantic Undersea Test and Evaluation Center ชื่อเล่นก็คือ AUTEC หรือ ออเทค มันถูกสร้างขึ้นบน เกาะแอนดรอส ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะบาฮามาส์ ในทะเลแคริบเบียน เมื่อราว 30 ปีก่อน สิ่งที่ ออเทค ทดลองและพัฒนาก็คือ อาวุธสงคราม

ที่ ออเทค มาตั้งฐานทัพที่นี่ก็เพราะว่าเกาะแอนดรอส อยู่ใกล้กับ "ลิ้นของมหาสมุทร"(The Tongue of the Ocean) หรือที่มีชื่อย่อว่า "โตโต" (TOTO)

จากคุณ : Mr.Terran - [ 11 มี.ค. 52 19:27:22 ]

ความคิดเห็นที่ 2

โตโต เป็นแอ่งน้ำที่มีความลึกมาก ที่แห่งนี้มีขนาดยาวประมาณ 110 ไมล์ทะเล (204 กิโลเมตร) กว้าง 20 ไมล์ทะเล (37 กิโลเมตร) และลึกราว 700-1,100 ฟาทัม (1,280-2,012 กิโลเมตร)

จริงอยู่ที่ ออเทค เป็นศูนย์บัญชาการที่มีขนาดเพียงแค่ 1 ตารางไมล์เท่านั้นเองจากที่เราเห็นบนเกาะแอนดรอส แต่อย่าลืมว่ามันถูกล้อมรอบด้วย "ลิ้นของมหาสมุทร" ที่เรามองไม่เห็นซึ่งมีพื้นที่ทั้งหมดถึง 1,670 ตารางไมล์ และมีข่าวลือกันอย่างหนาหูว่า ออเทค มีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดไม่แพ้ "พื้นที่ 51" ตัวจริงที่อยู่ในรัฐเนวาดา นี่ขนาดตั้งอยู่กลางมหาสมุทร ยังมีการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด ในปี ค.ศ. 1997 มีพรานล่านกเป็ดน้ำหลงเข้าไปใน "เขตหวงห้าม" ระหว่างนั้นเองพวกเขาก็เจอกำแพงต้นไม้ที่หนาแน่นผิดปกติ ทันใดนั้นเองพวกเขาก็ถูก "อัด" ที่ท้องและถูกบังคับให้นอนราบลงกับพื้น

เหล่านายพรานที่โชคร้าย รู้แทบในทันทีว่าเจ้ากำแพงต้นไม้ที่พวกเขาพบนั้นเป็น ต้นไม้ปลอมที่ใช้พรางค่ายทหาร ทหารอีกกลุ่มหนึ่ง "แหวก" กำแพงต้นไม้ออกมา "หิ้ว" พวกเขาเข้าไปในค่าย จากนั้นพวกเขาก็ถูกจับเข้ากรงขัง หลายชั่วโมงต่อมาก็มีทหารมาไขกุญแจห้องขังให้และบอกว่า พวกเขาเชื่อว่า พวกนายพรานไม่มีเจตนาที่จะบุกรุกเข้ามาในเขตหวงห้าม จึงปล่อยตัวพวกเขาไป

มีหลายคนอ้างว่า ได้เห็นวัตถุบินลึกลับบินอยู่บริเวณเกาะแอนดรอสบ่อยครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งที่พบนั้น มันจะโชว์ลีลาการบินที่คุณจะไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน มันสามารถหักเลี้ยวเป็นมุมแคบแบบเฉียบพลัน ได้โดยทันทีทันใดดั่งใจนึก ครั้งหนึ่งขณะที่นักธุรกิจชาวเวียดนามคนหนึ่งกำลังแล่นเรือยอชท์อยู่บริเวณชายฝั่งของเกาะแอนดรอส เขาเหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างซึ่งเขาคิดว่าเป็นปลาวาฬอยู่ห่างจากเขาไปราว 2 ไมล์

แต่เมื่อเขาแล่นเรือเข้าไปใกล้ราวครึ่งไมล์ เขาก็พบว่ามันไม่ใช่ปลาวาฬ แต่กลับเป็น "สิ่งประดิษฐ์" บางอย่างที่มีรูปร่างลักษณะที่ล้ำสมัยมาก ทันใดนั้นเองมันก็ออกตัวไปด้วยความเร็วชนิดที่เรียกว่า "เร็วchipหาย" ไปบนผิวน้ำฝ่าคลื่นลูกใหญ่และหายวับไปต่อหน้าต่อตา

^{The Tongue of the Ocean "โตโต"}
แก้ไขเมื่อ 11 มี.ค. 52 19:33:45

จากคุณ : Mr.Terran - [ 11 มี.ค. 52 19:33:05 ]

ความคิดเห็นที่ 3

อืม...

จากคุณ : บัตรผ่านมีอมยิ้ม(grean mode) - [ 11 มี.ค. 52 19:36:06 A:125.26.215.179 X: TicketID:169206 ]

ความคิดเห็นที่ 4

ดร. ไมเคิล ไพรซิงเกอร์ (Dr. Michael Preisinger) นักประวัติศาสตร์และนักประดาน้ำชาวเยอรมันได้ถูกบริษัทที่เขาทำงานอยู่ส่งตัวมาทำหน้าที่เป็นผู้ฝึกสอนการดำน้ำให้กับลูกค้าที่เมือง นาส์ซอ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของบาฮามาส์ ดร.ไมเคิล และครอบครัวได้เดินทางมาที่บาฮามาส์ในปี ค.ศ. 1995

ลูกค้าของ ดร.ไมเคิล ก็คือ เหล่าบรรดาเจ้าหน้าที่ของสายการบินต่างๆ ของประเทศเยอรมัน พวกเขามาฝึกการดำน้ำแบบสกูบา (Scuba Diving) เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาโปรแกรมท่องเที่ยวของสายการบิน ระหว่างที่ ดร.ไมเคิล พาลูกค้าของเขานั่งเรือไปยังจุดที่จะทำการฝึกสอนลูกค้าหลายคนได้บอกว่า
เข็มทิศของพวกเขามีปัญหา มันชี้มั่วไปหมดจนไม่รู้ว่าทิศไหนเป็นทิศไหน ด้วยความเป็นนักประวัติศาสตร์ ดร.ไมเคิล ก็ได้ทำการจดบันทึกตำแหน่งของเรือตอนที่เข็มทิศมีอาการผิดปกติ โดยหวังว่าวันหนึ่งเขาจะกลับมาหาข้อพิสูจน์เรื่องนี้ให้ได้

จากคุณ : Mr.Terran - [ 11 มี.ค. 52 19:38:57 ]

ความคิดเห็นที่ 5

ดร.ไมเคิล ก็กลับมาที่นั่นจริงๆ เขาพบว่าเข็มทิศของเขาชี้มั่วเหมือนกับที่ลูกค้าเขาบอก ดร.ไมเคิลไม่เข้าใจว่า มันเกิดอะไรขึ้นกับเข็มทิศ และอะไรเป็นสาเหตุให้มันเป็นเช่นนั้น เขาได้แต่เก็บความสงสัยไว้ จนกระทั่งหลายเดือนต่อมาเขาได้นำปัญหานี้ไปปรึกษากับนักฟิสิกส์หลายคนทั่วโลกและก็มีนักฟิสิกส์ท่านหนึ่งได้ให้ข้อสังเกตว่า สิ่งเดียวที่สามารถทำให้เข็มทิศผิดปกติได้คือ "รูหนอน" (Wormhole)

"รูหนอน" นี้ก็เหมือนกับ "หลุมดำ" (Black hole) คือ มันเกิดขึ้นแล้วก็ดับสลายไป แล้วก็เกิดใหม่ แล้วก็ดับไป เวียนว่ายไปไม่มีที่สิ้นสุด เพื่อนๆชาวหว้ากอก็คงจะทราบการทำงานของ "รูหนอน" ดีอยู่แล้ว ก็คือถ้านำกระดาษมาหนึ่งแผ่น ซึ่งสมมุติว่าเป็นพื้นโลก จากนั้นให้เพื่อนๆวาดจุดลงบนปลายกระดาษด้านบนหนึ่งจุด และด้านล่างหนึ่งจุด โดยให้ชื่อว่าจุด A และจุด B เสร็จแล้วให้งอกระดาษเป็นรูปตัวยู (U) ทีนี้สมมุติว่าเราจะเดินทางจากจุด A ไปยังจุด B เราก็ต้องเดินทางไปตามผิวโลก(แผ่นกระดาษ) แต่ถ้าหาก
ระหว่างจุด A และจุด B เกิดปรากฏการณ์ "รูหนอน" เราก็สามารถที่จะเดินทางผ่าน "รูหนอน"จากจุด A มายังจุด B ได้โดยที่ใช้เวลาน้อยกว่ามาก

จากคุณ : Mr.Terran - [ 11 มี.ค. 52 19:46:31 ]

ความคิดเห็นที่ 6

อืม

จากคุณ : ไม่มีอมยิ้ม - ไม่มีบัตรผ่าน - [ 11 มี.ค. 52 19:48:11 A:222.123.224.50 X: ]

ความคิดเห็นที่ 7

ร็อบ พลาเมอร์ (Rob Palmer) นักประดาน้ำระดับโลกชาวอังกฤษ ผู้อำนวยการมูลนิธิหลุมฟ้า (The Blue Holes Foundation) ได้ศึกษาเรื่องถ้ำประหลาดที่เขาพบใต้มหาสมุทร ร็อบเชื่อว่าถ้ำประหลาดเหล่านั้นเป็นทางเชื่อมต่อระหว่างมิติที่พวกมนุษย์ต่างดาวใช้ในการเดินทาง ร็อบกล่าวว่า บริเวณหมู่เกาะบาฮามาส์ นี้เต็มไปด้วยหินปูนขนาดใหญ่ ซึ่งหินปูนนี้เองที่เป็นตัวการในการก่อกำเนิดถ้ำ และจากการที่ไม่มีแม่น้ำไหลผ่านบนเกาะจึงทำให้บรรดาหินปูนก่อตัวกันขึ้นเป็นถ้ำที่มีขนาดใหญ่ และยาวขึ้นเรื่อยๆ จนบางครั้งมันกินเนื้อที่ลงไปในใต้น้ำเป็นระยะทางหลายกิโลเมตร

จากคุณ : Mr.Terran - [ 11 มี.ค. 52 19:48:39 ]

ความคิดเห็นที่ 8

คุณ คห. 6 เป็นมนุษย์ต่างดาวปลอมตัวมาอ่ะเปล่าครับ exclaim

การขาดแคลนน้ำจืดบนหมู่เกาะบาฮามาส์ ทำให้ถ้ำเหล่านี้ก่อตัวมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนบางครั้งมันถึงกับพังครืนลงมาเพราะรากฐานของถ้ำไม่สามารถรับน้ำหนักของมันได้ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่น้ำในมหาสมุทรมีระดับต่ำมากเช่น ในช่วง ยุคน้ำแข็ง (Ice age) บางครั้งการถล่มของถ้ำได้เกิดต่อเนื่องขึ้นมาจนถึงตัวถ้ำที่อยู่บนพื้นเกาะ และในช่วงนี้เอง ที่ทางเข้าถ้ำใต้พิภพได้ก่อตัวขึ้น

เมื่อน้ำในมหาสมุทรมีปริมาณมากขึ้น บรรดาถ้ำเหล่านี้ก็จมอยู่ใต้ท้องมหาสมุทร ปากถ้ำส่วนใหญ่จะจมอยู่ใต้ทะเลสาบบนเกาะหรือไม่ก็จมอยู่ในบริเวณที่เรียกว่า แนวปะการังรอบๆ เกาะ (Barrier Reef) ปากทางเข้าถ้ำใต้พื้นน้ำนี่เองที่ร็อบเรียกมันว่า "หลุมฟ้า"

จากคุณ : Mr.Terran - [ 11 มี.ค. 52 19:51:28 ]

ความคิดเห็นที่ 9

"หลุมฟ้า" มีอยู่เป็นจำนวนมากรอบๆ หมู่เกาะบาฮามาส์ โดยเฉพาะบริเวณที่เป็นลิ้นของมหาสมุทร

"หลุมฟ้า" เหล่านี้ถูกค้นพบเป็นครั้งแรกเมื่อราวปลายทศวรรษที่ 1950 โดย จอร์จ เบนจามิน (George Benjamin) นักประดาน้ำชาวแคนาดา ได้มาดำน้ำสำรวจถ้ำใต้น้ำเหล่านี้ รอบๆ เกาะแอนดรอส ซึ่งทำให้ผู้คนก็เริ่มรู้จักถ้ำประหลาดใต้น้ำ และเรียกมันว่า "หลุมฟ้าของเบนจามิน" (Benjamin's Blue Hole)

ภายในถ้ำยังมีช่องเล็กช่องน้อยนำเข้าไปสู่ถ้ำอื่นๆ ที่ซ่อนอยู่ในถ้ำใหญ่ จอร์จได้ดำน้ำสำรวจถ้ำใต้น้ำเหล่านี้ไปจนกระทั่งที่ระดับความลึก 300 ฟุต และจากภาพยนตร์ที่เขาได้บันทึกเอาไว้ ทำให้ผู้คนเริ่มรู้จักถ้ำใต้น้ำในบาฮามาส์ แต่การสำรวจของจอร์จได้สิ้นสุดลงในช่วงกลางทศวรรษที่ 1970 เนื่องจากเพื่อนที่ร่วมเดินทางสำรวจถ้ำคนหนึ่งเสียชีวิตภายในถ้ำใต้น้ำบริเวณ "ลิ้นของมหาสมุทร"ที่พวกเขากำลังสำรวจอยู่นั่นเอง

จากคุณ : Mr.Terran - [ 11 มี.ค. 52 19:53:52 ]

ความคิดเห็นที่ 10

ในช่วงเวลาเดียวกันนี้เอง ก็มีนักประดาน้ำชาวอเมริกันชื่อ เช็ก เอ็กซ์เลย์ (Sheck Exley) ได้พบถ้ำใต้น้ำที่มีความยาวถึง 8 กิโลเมตร ซึ่งเป็นถ้ำใต้น้ำที่ยาวที่สุดในโลก และอีก 10 ปีต่อมา มันก็ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น "อุทยานแห่งชาติลูคายัน" (Lucayan National Park) ส่วน ร็อบ พลาเมอร์ ได้เริ่มมาสำรวจถ้ำใต้น้ำเมื่อปี ค.ศ. 1981 เขาได้พบถ้ำใต้น้ำอีกจำนวนมาก อีกทั้งเขายังพบสิ่งมีชีวิตหลายชนิดที่บรรดานักวิทยาศาสตร์คิดว่ามันสูญพันธ์ไปแล้วเมื่อ 150 ล้านปีก่อน

จากคุณ : Mr.Terran - [ 11 มี.ค. 52 19:55:34 ]

ความคิดเห็นที่ 11

เขาก็เขียนเป็นอังกฤษว่าเทสเซ้นเตอร์ มันจะเป็นไทยว่าฐานทัพอย่างไรล่ะครับ ถ้ามันลึกมากมีน้ำเยอะเวลาเขาจะทดสอบอุปกรณ์เขาว่ามันรั่วไหม เขาก็จุ่มน้ำเสียที่นี่ อย่างนี้มันน่าเรียนเทสเซ็นเตอร์ไหม สัตหีบก็มีนะพี่ ผมเคยเอาอุปกรณ์ไปจุ่มมาแล้วกับมือ

จากคุณ : 555 - [ 11 มี.ค. 52 19:56:01 A:202.139.223.18 X: TicketID:008482 ]

ความคิดเห็นที่ 12

วันที่ 5 พฤษภาคม ค.ศ. 1997 ร็อบและเพื่อนร่วมทีมอีก 3 คน เดินทางไปสำรวจถ้ำใต้น้ำในทะเลแดงที่ประเทศ อียิปต์

เมื่อเรือแล่นไปถึงจุดที่ร็อบจะดำสำรวจถ้ำใต้น้ำ เขาก็ทิ้งตัวลงจากเรือดำดิ่งไต่ความลึกลงตรงไปยังถ้ำใต้น้ำทันที เพื่อนร่วมทีมของเขาประหลาดใจที่ ร็อบ ทำเช่นนั้น เพราะโดยปรกติแล้ว นักประดาน้ำจะว่ายน้ำจากเรือไปยังตำแหน่งของถ้ำใต้น้ำเรียกว่า "กำแพง" แล้วจึงค่อยดำลงไป

จากคุณ : Mr.Terran - [ 11 มี.ค. 52 19:56:44 ]

ความคิดเห็นที่ 13

คห.11 ไม่ได้บอกว่าออเทคคือฐานทัพ แต่มีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้นบริเวณนั้นทําให้สงสัยว่าอาจจะมีฐานทัพลับอยู่ใต้ออเทคตะหากค้าบ

ทั้งๆ ที่ยังแปลกใจไม่หาย เพื่อนร่วมทีมทั้ง 3 คนก็รีบดำน้ำตาม ร็อบ ลงไป หนึ่งในนั้นตามไปถึงแค่เพียงระดับความลึก 64 เมตรก็กลับ ส่วนอีก 2 คนที่เหลือยังคงดำน้ำตาม ร็อบ ไปจนถึงที่ระดับความลึก 99 เมตรก็ยังไม่สามารถตามร็อบไปได้ทัน ทั้ง 2 คนจึงตัดสินใจกลับสู่ผิวน้ำ ส่วนร็อบก็ยังคงดำดิ่งลึกลงไปเรื่อยๆ

เพื่อนๆ ได้รอคอยการกลับมาของ ร็อบ อยู่บนเรือเป็นเวลาหลายชั่วโมง แต่เขาก็ไม่ได้กลับขึ้นมาอีกเลย อะไรเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตของ ร็อบ นั้นยังเป็นปริศนาอยู่จนถึงปัจจุบัน ไม่มีใครตอบได้ว่าทำไมร็อบจึงตัดสินใจดำน้ำดิ่งตรงจากเรือ แทนที่จะค่อยๆ ว่ายน้ำไปยังจุดที่ต้องการก่อน

จากคุณ : Mr.Terran - [ 11 มี.ค. 52 20:00:28 ]

ความคิดเห็นที่ 14

ดร.ไมเคิล เชื่อว่า ร็อบ พลาเมอร์ ถูก "สั่งเก็บ" โดยเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลสหรัฐฯ เพราะว่าเขาเป็นอันตรายต่อความลับใต้ท้องมหาสมุทรในบาฮามาส์ ที่รัฐบาลพยายามปกปิด เขาอาจโดนสะกดจิตให้ทำในสิ่งที่ต้องคร่าชีวิตเขาเอง หรือไม่ก็มีการปรับแต่งอุปกรณ์ประดาน้ำของเขา เนื่องจาก ดร.ไมเคิล เชื่อว่า "หลุมฟ้า" ที่ ร็อบ ทำการสำรวจนั้นเป็นผลข้างเคียงที่เกิดจากการเกิด-ดับของ "รูหนอน"

มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่จะหาข้อมูลของ "ออเทค" หรือ "พื้นที่ 51 แห่งแคริบเบียน"เนื่องจากมันตั้งอยู่กลางมหาสมุทร แถมทั้งยังกินพื้นที่ลงไปใต้พื้นมหาสมุทรอีกด้วย แต่ก็เป็นที่น่าสังเกตว่า ทำไมฐานทัพสหรัฐฯ จึงมักจะไปตั้งอยู่ในบริเวณที่ลับหูลับตาผู้คนและมักจะมีรายงานการพบเห็นวัตถุบินลึกลับในบริเวณฐานทัพเหล่านั้นเสมอ สําหรับวันนี้ นิทราราตรีสวัสดิ์ ลาไปก่อนครับ ลาไปแล้วครับ แล้วเจอกันใหม่ครับ.Terran

^{ที่มา http://en.wikipedia.org/wiki/Blue_hole
http://www.blueholes.org
http://www.atlantisrising.com/issue18/18bermuda.html
ฐานทัพใต้มหาสมุทร /ศิลป์ อิสเรศ}

จากคุณ : Mr.Terran - [ 11 มี.ค. 52 20:09:07 ]

ความคิดเห็นที่ 15

หืมมม

จากคุณ : Choco-Mix - [ 11 มี.ค. 52 20:35:32 ]

ความคิดเห็นที่ 16

uummmmmm

จากคุณ : absolutely thai - [ 11 มี.ค. 52 20:58:34 ]

ความคิดเห็นที่ 17

มีสะกดจิตด้วยอะ

แต่ให้ใจไปค่ะ
ชอบเรื่องแบบนี้ สนุกดี

จากคุณ : St.Kyo - [ 11 มี.ค. 52 22:09:08 ]

ความคิดเห็นที่ 18

ตะลึง !!!

จากคุณ : นายเดชา - [ 11 มี.ค. 52 22:19:18 ]

ความคิดเห็นที่ 19

มีหลุมนึงนิครับที่มีศพจมอยู่ก้นหลุมถังอ๊อกซิเจนยังลอยเหนือศพหน่อย ๆ ด้วย

จากคุณ : PUMPKINbig - [ 11 มี.ค. 52 22:38:38 ]

ความคิดเห็นที่ 20

มาปักธง

จากคุณ : LR3 - [ 11 มี.ค. 52 22:45:15 ]

ความคิดเห็นที่ 21

มาลงชื่อ

จากคุณ : กระรอกไฟ - [ 11 มี.ค. 52 23:33:00 ]

ความคิดเห็นที่ 22

ขึ้นกระทู้แนะนำแน่นอน

ถ้าไม่ใช่ผมให้หยิกคนข้างล่างเลย

v
v
v
v

จากคุณ : yorch - [ 12 มี.ค. 52 00:02:46 ]

ความคิดเห็นที่ 23

"ออเทค" หรือ "พื้นที่ 51 แห่งแคริบเบียน"
ชอบคำนี้ครับ

จากคุณ : [v] (BONDJUNG_TH) - [ 12 มี.ค. 52 00:08:31 ]

ความคิดเห็นที่ 24

กำ ไม่เกี่ยวเด้อ

จากคุณ : ]v[ (BONDJUNG_TH) - [ 12 มี.ค. 52 00:09:04 ]

ความคิดเห็นที่ 25

ไม่กลัวเจ็บ

จากคุณ : หัวปลาทู - [ 12 มี.ค. 52 00:14:42 ]

ความคิดเห็นที่ 26

จาก #2 ....และลึกราว 700-1,100 ฟาทัม (1,280-2,012 กิโลเมตร)
น่าจะเป็น ... 1,280-2,012 เมตร หรือเปล่าครับ

จากคุณ : AlninlA - [ 12 มี.ค. 52 00:31:02 ]

ความคิดเห็นที่ 27

สนุกดีครับ

#19 หมายถึง Dahab blue Hole หรือเปล่า?

จากคุณ : Ninoou - [ 12 มี.ค. 52 04:52:49 ]

ความคิดเห็นที่ 28

ทำไม ไม่มีคนตั้งชมรมเฉลยเรื่องราวลึกลับลวงโลกแบบนี้บ้าง

จากคุณ : ped cad - [ 12 มี.ค. 52 06:13:27 ]

ความคิดเห็นที่ 29

มีนักฟิสิกส์ท่านหนึ่งได้ให้ข้อสังเกตว่า สิ่งเดียวที่สามารถทำให้เข็มทิศผิดปกติได้คือ "รูหนอน" (Wormhole)

Scientists to whom he has shown the figures do not dismiss the possibility that they are caused by micro-wormholes.
แปลจริงๆ ได้ความว่า นักวิทยาศาสตร์ที่เขาไปแสดงข้อมูลให้ดูไม่ได้ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่ว่า เข็มทิศที่เบี่ยงเบนไปมาเหล่านั้นเกิดจากรูหนอนขนาดจิ๋ว

ถ้าคุณไปถามนักฟิสซ์ทุกคน คงไม่มีคนไหนปฏิเสธว่าถ้าคุณวิ่งชนประตู จะมีความเป็นไปได้ว่า คุณจะทะลุประตูไป (ไม่ว่าความเป็นไปได้นั้นจะน้อยมากแค่ไหนก็ตาม) รวมทั้งยังมีความเป็นไปได้อย่างอื่นอีกมาก

จากคุณ : ped cad - [ 12 มี.ค. 52 06:23:29 ]

ความคิดเห็นที่ 30

Mr. Terrฟn เรียนจบอะไรมาครับ เก่งจัง ขอชมจากใจจริง

จากคุณ : chongcob - [ 12 มี.ค. 52 07:53:21 ]

ความคิดเห็นที่ 31

น่าสนใจ น่าติดตาม

จากคุณ : นู๋ขี้สงสัย - [ 12 มี.ค. 52 08:19:09 ]

ความคิดเห็นที่ 32

นึกถึง blue hole ที่เป็นแหล่งดำน้ำ เลยแหะ

จากคุณ : vn, man - [ 12 มี.ค. 52 08:56:04 ]

ความคิดเห็นที่ 33

โอ้ว... ถ้าอยู่แถวภาคใต้จะไปเยี่ยมซักครั้ง แต่นี่..ไกลชิบ -*-

จากคุณ : อาจจะแก่ - [ 12 มี.ค. 52 08:58:26 ]

ความคิดเห็นที่ 34

สนใจเรื่อง Blue Hole มานานแล้ว

ขอบคุณ จขกท. ครับ

จากคุณ : Magoak - [ 12 มี.ค. 52 09:01:24 ]

ความคิดเห็นที่ 35

มาปูเสื่อดูความเห็นแหล่มๆ

จากคุณ : grovvey - [ 12 มี.ค. 52 10:11:48 ]

ความคิดเห็นที่ 36

1 ฟาทอม = 1.8288 เมตรครับ

ดังนั้น 700 - 1,100 ฟาทอม เท่ากับ 1280.16 - 2011.68 เมตรครับ : )

คิดว่า mr.terran คงพิมพ์ผิด : P

ปล.จขกท ชอบเล่น starcraft รึเปล่าเนี้ยย
แก้ไขเมื่อ 12 มี.ค. 52 10:54:58

จากคุณ : กระดาษไม่มีเยื่อ - [ 12 มี.ค. 52 10:53:31 ]

ความคิดเห็นที่ 37

เยี่ยมเช่นเคย

จากคุณ : beer2nd - [ 12 มี.ค. 52 11:08:52 ]

ความคิดเห็นที่ 38

ว่าแต่ "ลิ้นของมหาสมุทร"(The Tongue of the Ocean) คืออะไรหรือครับ

จากคุณ : beer2nd - [ 12 มี.ค. 52 11:09:41 ]

ความคิดเห็นที่ 39

ลงชื่อๆ

จากคุณ : AMIYAMA - [ 12 มี.ค. 52 11:11:49 ]

ความคิดเห็นที่ 40

สนุกดีค่ะ น่าสนใจ ก็รับ give และ vote ไปเลยค่ะ

จากคุณ : kekodes - [ 12 มี.ค. 52 11:13:37 ]

ความคิดเห็นที่ 41

มานั่งอ่านด้วยคน :)

question

จากคุณ : cookiecompany - [ 12 มี.ค. 52 11:13:47 ]

ความคิดเห็นที่ 42

่อยากไปเที่ยวครับ^^

จากคุณ : semplice - [ 12 มี.ค. 52 11:26:25 ]

ความคิดเห็นที่ 43

หูยยย!! ลึกลับมากๆ น่าสนใจO_o

จากคุณ : เสียงจากบ้านนา - [ 12 มี.ค. 52 11:35:29 ]

ความคิดเห็นที่ 44

น่าติดตามนะเนี่ย ขอบคุณน๊า

จากคุณ : พิราบเขียว (พิราบเขียวแห่งที่ราบสูง) - [ 12 มี.ค. 52 12:00:23 ]

ความคิดเห็นที่ 45

ลงชื่อนั่งอ่าน สวัสดีคุณต่างดาว

จากคุณ : sariell - [ 12 มี.ค. 52 14:16:11 ]

ความคิดเห็นที่ 46

ชอบ ^_^

จากคุณ : HeLL_Is_HeRe - [ 12 มี.ค. 52 14:51:12 ]

ความคิดเห็นที่ 48

ชอบๆแบบนี้ ขออีกๆ อ่านง่ายดี อิอิ สนุก

จากคุณ : Preceda2 - [ 12 มี.ค. 52 16:26:59 ]

ความคิดเห็นที่ 49

เอาอีกๆ

จากคุณ : Pu'Chew - [ 12 มี.ค. 52 16:28:06 ]

ความคิดเห็นที่ 50

โหวต+ให้ give ค่ะ ตัวจริง Mr. Terran ต้องเป็นคนที่ลึกลับมากแน่ๆๆ แบบว่าข้อมูลลึกลับแน่นมากค่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า

จากคุณ : Pretty_Cute_Girl - [ 12 มี.ค. 52 16:39:09 ]

ความคิดเห็นที่ 51

อยู่ที่นี่เอง

http://maps.google.com/maps?ll=24.706194,-77.767977&z=15&t=h&hl=en

จากคุณ : Final Fantasy - [ 12 มี.ค. 52 18:11:20 ]

ความคิดเห็นที่ 52

ชอบ บลูโฮล สวยดี

จากคุณ : HamyLee - [ 12 มี.ค. 52 22:49:09 ]

ความคิดเห็นที่ 53

vote

จากคุณ : ยังมีหวัง - [ 12 มี.ค. 52 23:07:07 ]

ความคิดเห็นที่ 54

man ... เข้ามาดู

จากคุณ : Mr. Fusion - [ 13 มี.ค. 52 00:07:53 ]

ความคิดเห็นที่ 56

^
^
^
เยี่ยม

จากคุณ : หน้าบ่าแดง แฮงบ่ามี - [ 13 มี.ค. 52 11:45:04 ]

ความคิดเห็นที่ 57

ทำไมโดนจับไปซ้อมแล้วปล่อยตัวมาง่ายๆซะงั้นล่ะครับ?

ไม่มีการล้างสมองอะไรทำนองนั้นเหรอครับ?

พอทีมนักวิทยาศาสตร์จะเข้าไปดูหน่อย..

พี่ก็เล่นสะกดจิตให้ฆ่าตัวตายซะเลย..

คึ คึ

ส่วน หลุมฟ้า นั่น..

ก็เคยได้ยินมาบ้างเหมือนกัน

นี่ไงๆ..

จากคุณ : อสัญแดหวา - [ 13 มี.ค. 52 14:05:45 ]

ความคิดเห็นที่ 58

ลองลงไปดู

จากคุณ : อสัญแดหวา - [ 13 มี.ค. 52 14:07:41 ]

ความคิดเห็นที่ 59

นี่ก็ autec ที่ว่า

ดูบ้านๆเนอะ?

จากคุณ : อสัญแดหวา - [ 13 มี.ค. 52 14:11:15 ]

ความคิดเห็นที่ 60

อันนี้ลิ้นทะเล...

แผล็บๆ..

จากคุณ : อสัญแดหวา - [ 13 มี.ค. 52 14:14:04 ]

ความคิดเห็นที่ 61

ส่วนนี่..

ไม่ลึกเท่าไหร่..

แค่ลึกที่สุดในโลก..

..10,915..เมตร..

ย้ำ..เกือบ..11 กิโลเมตร..!!

ร่องลึกมาเรียน่า( Mariana Trench ) แถวๆบ้านเรานี่เอง

ใส่เอเวอเรสต์ลงไปแล้ว..

ยังเหลือตั้งเยอะ..

จากคุณ : อสัญแดหวา - [ 13 มี.ค. 52 14:27:23 ]

ความคิดเห็นที่ 62

มาดูกัน..

จากคุณ : อสัญแดหวา - [ 13 มี.ค. 52 14:31:38 ]

ความคิดเห็นที่ 63

ข้างล่างมีกุ้งฝอยด้วยนะ.. smile
แก้ไขเมื่อ 13 มี.ค. 52 14:36:17

จากคุณ : อสัญแดหวา - [ 13 มี.ค. 52 14:35:40 ]

ความคิดเห็นที่ 64

อันนี้ก้นบึ้งของมัน..

จากคุณ : อสัญแดหวา - [ 13 มี.ค. 52 14:40:18 ]

ความคิดเห็นที่ 65

มีเป็ดน้ำด้วยนะ.. smile

จากคุณ : อสัญแดหวา - [ 13 มี.ค. 52 14:42:43 ]

ความคิดเห็นที่ 66

ถ้าวิดน้ำออก..

แล้วเหาะขึ้นไปบนฟ้า..

มองลงมาจะเป็นแบบนี้.. smile

จากคุณ : อสัญแดหวา - [ 13 มี.ค. 52 14:47:48 ]

ความคิดเห็นที่ 67

โลกนี้น่าอยู่จะตาย..

หากเรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน..

จากคุณ : อสัญแดหวา - [ 13 มี.ค. 52 14:51:23 ]

ความคิดเห็นที่ 68

โอ่..เยี่ยมไปเลยคร้าบ

จากคุณ : tus_sks - [ 13 มี.ค. 52 16:17:01 ]

ความคิดเห็นที่ 69

ในออเทค มีอาวุธอันตรายอยู่คือ

GF Bahamut

และลึกลงไป ที่ชั้นล่างสุด เก็บอาวุธที่อันตรายยิ่งกว่า

GF Eden

หยอกเย้า

จากคุณ : FFVIII (nutxnut) - [ 13 มี.ค. 52 17:25:16 ]

ความคิดเห็นที่ 70

เป็นเรื่องที่เราไม่มีโอกาสได้สัมผัสด้วยตัวเลยจริงๆนะ

จากคุณ : granun - [ 13 มี.ค. 52 20:19:06 ]

ความคิดเห็นที่ 71

ขอบคุณเพื่อนๆทุกท่านที่ให้ความสนใจจนโหวตครับ

คห. 26 คุณ AlninlA และ คห. 36 คุณ กระดาษไม่มีเยื่อ
ขอบคุณครับ ต้องขอโทษที่ผมไม่ตรวจทานก่อน คงจะผิดมาจากต้นตํารับที่ผมลอกข้อมูลเขามา (ศิลป์ อิสเรศ ที่ให้เครดิตไว้น่ะครับ)

คห. 38 คุณ beer2nd
นี่เลยครับ http://en.wikipedia.org/wiki/Tongue_of_the_Ocean

คุณ อสัญแดหวา ... มันเป็นเรื่องลึกลับไงครับ ต้องมีอะไรให้ตื่นเต้นหน่อย
แพลบๆ

จากคุณ : Mr.Terran - [ 13 มี.ค. 52 21:04:41 ]

ความคิดเห็นที่ 72

ดูเรื่องนี้

จากคุณ : system idle - [ 13 มี.ค. 52 22:47:05 ]

ความคิดเห็นที่ 73

ความคิดเห็นที่ 60

ผมมองเป็นเท้าหรือไม่ก็ถุงเท้าอะครับ

จากคุณ : Chordate - [ 14 มี.ค. 52 22:20:06 ]

ความคิดเห็นที่ 74

คห. 69

ถ้าไปดูแล้วกลายเป็น GN-001 Exia หรือ GN-002 Dynames แทนล่ะ

เหอะๆ แต่ไงๆก็ต้องมี เมกกะทรอน จาก Transformer อยู่แล้ว (ก็ตอนจบเค้าไปหย่อนไว้นิ)

จากคุณ : Magoak - [ 15 มี.ค. 52 20:19:22 ]

ความคิดเห็นที่ 75

โห เยื่ยม

จากคุณ : X_zERo - [ 16 มี.ค. 52 16:10:17 ]

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป