ความคิดเห็นที่ 1 ผมมีเพื่อนคนนึง อดข้าว 2วันกินมื้อนึง กินทีนึงก็ไม่เยอะมาก 3 เดือน จากหนัก125 เหลือหนัก80 พอหนัก80 ก็กินแบบปกติ แต่เน้นผักครับ 5เดือน - ปัจจุบัน หนัก70 สูง160 (อ้วนเตี้ยน่ะแหละครับ) อุปสรรคไม่ยากครับ ฝ่าฟันกับตัวเอง ไม่แนะนำสำหรับคนที่ทำงานทำการ เพราะคุณอาจจะถึงขั้นเข้ารพ.ได้ง่ายๆ อันนี้เด็กปิดเทอมน่ะครับ มีมหาลัยแล้วเลยไม่ห่วงเรื่องผลการเรียน จากคุณ : Shineokung - [ 11 มี.ค. 52 23:53:05 ]

ความคิดเห็นที่ 2 1.ทานอาหารน้อยลง แต่แน่ใจรึเปล่าว่าไม่ได้เพิ่มอาหารเสริมอื่นๆง่ะ หรือไม่ก็ ทานเท่าเดิม แต่ดันเป็นอาหารที่ให้ฟลังงานมากกว่าเดิม (เช่น ปกติ กินสลัดผัก 1 จานเต็มๆ ตอนนี้เปลี่ยนเป็น กินข้าวเหนียว ครึ่งจาน แทน 555+) 2.ออกกำลัง ใช้พลังงานมากขึ้น แต่ไปลดการใช้พลังงานด้านอื่นลงรึเปล่า? 3.ถ้าอยู่ๆ ลดอาหารลง ร่างกายอาจเข้าสู่โหมดประหยัดพลังงาน คือ เผาผลาญน้อยลงทันที เพราะนึกว่าเราหาอาหารได้น้อย ก็เลยพยายามช่วยประหยัด ด้วยการเผาผลาญให้น้อย 4.กินอาหารเช้าให้มากๆ และกินอาหารเย็นให้น้อยๆ รู้สึกจะเห็นแว้บๆ ในรีดเดอร์ส ไดเจสส์ ว่าเป็นการลดน้ำหนักวิธีหนึ่ง ถ้าไปออกกำลังมา แต่มากินมื้อเย็นเยอะๆ ก็ลดยากนะ ยังไม่พอ การกินอาหารเช้าน้อย หรือไม่กินเลย จะทำให้ร่างกายเผาผลาญน้อยลง (สงสัยนึกว่า วันนี้หาอาหารไม่ค่อยได้) เพราะร่างกายขาดอาหารและน้ำมาทั้งคืนแล้ว มื้อเช้าไม่ได้กินอีก ต้องประหยัดพลังงานสุดๆ เรียกว่าการงดอาหารเช้า หรือกินเพียงนิดเดียว เป็นการทำร้ายร่างกายและสมองในระยะยาวก็ได้ (เสริชหาคำว่า"ความสำคัญของอาหารเช้า"ดู มีบทความเยอะมากๆ และมีเรื่องที่เกี่ยวกับการลดน้ำหนักด้วย) 5.การพักผ่อนน้อย ก็ทำให้ระบบเผาผลาญทำงานได้ไม่เต็มที่เหมือนกัน 6.เคี้ยวช้าๆ อย่ากินเร็ว เคี้ยวให้ละเอียดทุกคำที่กิน ขี้เกียจหาอ้างอิงให้ก๊าบ ไปหาเอาเอง 555+ นึกออกแค่นี้ง่ะ จากคุณ : ปฏิจจสมุปบาท (ปฏิจจสมุปบาท) - [ 11 มี.ค. 52 23:56:31 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ที่ว่า ข้าวครึ่งนึงจากปกตินี่ ปกติกินเป็นกาละมังหรือเปล่าอ้ะ แล้วกับที่กินนะเป็นอะไร ถ้าเป็นพวกแกงกะทิ ของทอดมันต่างๆ บางทีลดปริมาณข้าวแต่ไปตักกับเพิ่มแทนนี่ก็แย่เหมือนกันนะ ปกติกินพวกขนมหรือของหวานด้วยหรือเปล่า อย่างพวกลูกอม ขนมคบเคี้ยว ช็อคโกแล็ต ไอ้พวกนี้แหละตัวดี โดยมากอาหารลดน้ำหนักจะ ลดปริมาณอาหารแป้ง แต่แบบข้าวกล้องก็พอกินได้บ้าง แต่พวกเส้นก๋วยเตี๋ยวนี่ก็น่าเพลาๆหน่อย(แป้งล้วน) น้ำตาล(ไอ้นี่แหละตัวร้าย) และไขมัน อาหารประเภทโปรตีนก็ไม่ถึงกับเลิก แค่ลดก็น่าจะพอแล้วก็เน้นเป็นเนื้อ ถ้าเป็นเนื้อปลาก็จะดี(ไขมันต่ำ) แต่ถ้าเป็นพวกเนื้อหมูหรือวัว ก็กินแต่ส่วนที่เป็นเนื้อล้วนๆ ไม่เอามัน ไอ้พวกสามชั้นนะลืมไปได้เลย ไม่ก็หันไปกินถั่วแทน พวกถั่วเหลือง(ผลิตภัณฑ์เต้าฮู้) แต่ถ้าเป็นถั่วดำก็อย่าหักโหมนัก ที่สำคัญอัดพวก ไพเบอร์อย่างผักต่างๆ เน้นไปทางสลัด(ดูน้ำสลัดด้วยเอาแบบไขมันต่ำ) ผลไม้อย่าให้ขาดแต่อย่ากินแบบลูกหวานๆ ไอ้พวกทุเรียน มะม่วง ผ่านไปเลย กินพวกฝรั่ง อาหารที่กินก็เน้นไปทางพวก หุ่ง ต้ม นึ่ง ย่าง วิธีประกอบอาหารที่ไม่ใช่น้ำมัน มากกว่า ทอด ผัด จากคุณ : Xenophage - [ 12 มี.ค. 52 00:01:09 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ผมไม่ทานของหวานอ่ะครับ ไม่ชอบถึงขั้นเกลียดของหวานเลย และก็ไม่กินจุกจิก กินข้าวสามมื้อ ข้าวก็คือ กินข้าวร้านเดิมๆทุกวัน(ตั้งแต่ไม่ลดความอ้วน จนมาลด)อ่ะครับ ก็คือข้าวแกง1จาน สั่งในปริมาณเท่าเดิม(ถ้าคนตักไม่ตักให้เยอะขึ้นนะครับ) กับก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ- -'' แต่นอนน้อยมาก และก็กินเร็วมากๆครับ จากคุณ : WaZK - [ 12 มี.ค. 52 00:30:20 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เหมือนผมตอนลดน้ำหนักตอนแรกเลยครับ เมื่อ 6 เดือนที่แล้วหนัก 73 สูง 170 ครับ แล้วก็มาถึงจุดเปลี่ยนครับ ตั้งใจลดน้ำหนักจริงจังเสียที ทฤษฎีมีเต็มหัว แต่ไม่เคยทำ 1. กฎข้อแรก Every day ครับ การออกกำลังกายควรทำอย่างต่อเนื่อง ในหนึ่งสัปดาห์เราต้องมีธุระให้ทำอยู่แล้วครับ เพราะฉะนั้นห้ามหยุดเพราะว่าเราขี้เกียจเด็ดขาด 2. กินข้าวเย็นให้น้อยที่สุด เท่าที่ทำได้ หรือไม่ต้องกินเลยครับ(อันนี้ได้ผลกันมาหลายคนแล้วครับ) 3. กินข้าวเป็นมื้อไม่ต้องมาก แต่ไปเพิ่มของกินระหว่างวันแทน อันนี้พิเศษ เฉพาะตัวผมเองเลย กระตุ้นให้มีอาหารเข้าร่างกายทั้งวันครับ ร่างกายก็จะเผาผลาญพลังงานทั้งวันไปด้วย 4. วิ่งยังไงให้เผาผลาญไขมัน อย่างที่ทราบกัน ร่างกายจะ burn fat หลังจากเราออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 30 นาที คือ 30 นาทีแรกเป็นคาร์โบไฮเดรต เพราะฉะนั้นเราควรวิ่งมากกว่า 30 นาทีขึ้นไปครับ หรือเดินเร็วก็ได้ถ้าน้ำหนักมาก ที่สำคัญคือรักษาระดับการเต้นของหัวใจให้อยู่ในระดับ ส่วนผมวิ่งสุดชีวิต 1 นาที แล้วเดินเร็ว 2 นาที สลับไป เป็นเวลา 40 นาทีครับ การทำแบบนี้ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจขึ้นลงตลอดเวลา ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรงด้วยครับ 5. แอโรบิคก็เผาผลาญแค่ตอนนั้น แต่อนาโรบิคเผาผลาญต่อหลายชั่วโมง แนะนำให้เล่นเวทไปด้วยครับ ถ้าอยาก burn เยอะๆ แนะนำให้เล่นกล้ามเนื้อมัดใหญ่ เช่น หน้าอก แผ่นหลัง แล้วก็ต้นขา ครับ 6. สร้างแรงบันดาลใจ <== สำคัญมาก อย่ายอมแพ้ครับ เข้าเวบ ยูทิวป์ แล้วพิมคำว่า before after ดูครับ มีหลายคนทำสำเร็จก่อนหน้าเราแล้ว 7. ใจสู้ครับ พิมพ์ไป พิมพ์มา ได้กฎ 7 ข้อที่ผมคิดขึ้นมาเองจากประสบการณ์ครับ ส่วนพวกเคล็ดวิชาเหล่านี้อาศัยอ่านๆมาจากหนังสือ เวบ นิตยสาร นะครับ จำแหล่งอ้างอิงไม่ได้ อ้อ ตอนนี้ ผมน้ำหนัก 63 แล้วครับ แต่น้ำหนักลงมา 64 ตั้งแต่ 4 เดือนแรกแล้วนะครับ ตอนนี้ไม่พะวงเรื่องน้ำหนักแล้วครับ ดูรูปร่างอย่างเดียว ตอนนี้บ่ม 6 packs อย่างเดียว โชคดีครับ จากคุณ : Remember16 On The Seventh Moon - [ 12 มี.ค. 52 01:19:00 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ฝึกแบบ ทหารซิ่ลดฮวบเลย วิ่งเช้ามืด ตีห้าุถึง หกโมงเช้า กี่กิโลเมตรไม่รู้ ออกกำลังกาย อยู่กับที่ พวกวิดพื้น กระโดดตบ ซักสามสิบนาที เย็นก็วิ่ง หนึ่งชั่วโมง กินข้าวปกติ สามมื้อพออิ่ม แต่อย่ามีพวกเนื้อ จะดีที่สุด ตอนเป็นทหาร เนื้อหมู,ไก่ ไม่เคยเห็นเลย เป็นทหารพลัดสอง เืดือน พฤษจิกายน ได้กลับบ้านมาต้นเดือนธันวาคม ชั่งกิโลดู จาก แปดสิบกิโลกรัม เหลือ หกสิบกิโลกรัม เอวสามสิบหกเหลือ สามสิบเิอ็ด ผ่านไปสามเดือน ลดมาอยู่ที่ ห้าสิบสามกิโลกรัม หน้าท้องแบนราบเลย สิ่งสำคัญที่สุดคือการกินเนี่ยแหละ พวกน้ำอัดลมไม่เคยแตะเลย ขนมก็ไม่ได้ กิน กับข้าวก็ไม่มีเนื้อ ไม่มีไขมัน ออกกำลังกายตลอดเวลา ไม่ผอมก็ไม่รู้จะว่าอย่างไงแล้ว จากคุณ : tcod - [ 12 มี.ค. 52 02:03:58 A:212.117.165.80 X: TicketID:190919 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เกร็ดเล็กๆระหว่างลด - ระหว่างลดอาหาร ก็ควรระวังเครื่องวิ่ง(เอาแค่พอประมาณ)เพราะอาจวูบล้มคางกระแทกแตกเป็นแผลได้ - Coke ต้อง Zero เท่านั้น เพราะถ้า Coke Light น้ำตาลยังมี และ Lactasoy สีฟ้าก็มีน้ำตาล T_T ...(เจ็บคางอยู่เลย) จากคุณ : Ingmar - [ 12 มี.ค. 52 04:19:22 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ให้ทำตารางบันทึกอาหารการกินและน้ำหนักในแต่ละช่วงเวลาไปด้วยครับ ค่อยๆ ทำไป ผมเองเริ่มออกกำลังเป็นปีก่อนที่จะเริ่มลดน้ำหนัก พอทุกอย่าง อยู่ตัว แล้วน้ำหนักลดลง 15 kg ภายในเวลา 2 เดือนเท่านั้นครับ จากคุณ : Practical x 2 - [ 12 มี.ค. 52 04:40:12 ]

ความคิดเห็นที่ 9 น้ำหนักไม่ลด อาจจะเป็นไปได้ค่ะ เพราะช่วงนี้ อาจเป็นการเปลี่ยนแปลงไขมันไปเป็นกล้ามเนื้อ ซึ่งกล้ามเนื้อจะหนักกว่าไขมันค่ะ เลยยังทำให้รู้สึกว่าน้ำหนักไม่ลด แต่ให้ลองสังเกตุดูว่า กล้ามเนื้อกระชับขึ้นไหม เนื้อตัวแน่นขึ้นหรือเปล่านะคะ สู้ๆค่ะ จากคุณ : Rinsei - [ 12 มี.ค. 52 07:30:57 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ไขมันเปลี่ยนเป็นกล้ามเนื้อไม่ได้ครับ ไม่ลดคือไม่ลด แปลว่า กินเข้าไปมากกว่าใช้ ไม่มีอะไรซัยซ้อน ถ้ามันหนักกล้ามเนื้ออย่างที่ว่าจริง แสดงว่าคุณออกกำลังผิดแล้วครับ คุณไม่ได้ลดไขมัน แต่ไปเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ซึ่งมันยังไม่ใช่วัตถุประสงค์ตอนนี้ ผมลดได้ 6 กิโลใน 2 เดือน ไขมันหายไปอื้อเลย ชี้วัดได้จากการตรวจเลือด ไตรกรีเซอร์ไรด์ผมหายไปครึ่งนึง คอเรสเตอรอล หายไป จาก 200 เหลือ 160 วิธีคือ 1. จดอาหารที่กินทุกอย่าง คุณมักจะกินโดยไม่ได้คิดว่ากิน พวกของจุบจิบ คำนวณแคลอรี่คร่าว ๆ ทุกอย่างที่กิน 2. ออกกำลังเน้นการวิ่งเป็นหลัก ทำให้ได้อย่างน้อย 40 นาทีต่อครั้งโดยไม่หยุดพัก  น้อยกว่า 20 นาที ถือว่าไม่ได้อะไรเลย (จริง ๆ ผมว่าได้แหละ แต่ไม่เห็นผลเลย) 3. ออกกำลังวันเว้นวันเห็นผลกว่าออกทุกวัน อันนี้ผมลองเอง มันเหมือนกับร่างกายปรับตัวได้ถ้าออกทุกวัน ทำให้การออกกำลังไม่ค่อยเป็นผล 4. อันนี้ความเห็นส่วนตัว คุณไม่จำเป็นต้องสนใจมื้ออาหาร แค่กินเข้าไปให้น้อยกว่าที่ใช้ในแต่ละวันเท่านั้นพอ คุณจะกินมื้อไหนหนักเบาก็ช่างมัน เพราะที่ผมลดได้ ผมไม่กินเช้า เที่ยงน้อยมาก และหนักเย็น 5. ถ้าหิวแบ่งของที่กินเป็นมื้อย่อย ๆ อย่ากินหนัก ๆ ทีเดียว อย่าปล่อยให้หิว ผมไม่รู้ว่าครึ่งนึงจากปกติของคุณคือเท่าไหร่ แต่อยากให้มันมีมาตรฐานการวัดปริมาณอาหารทีดีกว่านี้ เช่น ข้าว 1 ทัพพี เป็นต้น เลี่ยงอาหารไขมันทุกชนิดก่อน ช่วงที่ลด ไม่งั้นมันไม่เห็นผล ระวังอาหารที่มีไขมันแฝงทุกชนิด ของกินทุกอย่างที่ขายตามข้างนอก ตั้งแต่ไส้กรอกเซเว่น ไปยันลูกชิ้นริมถนน จนถึงข้าวแกงทุกอย่าง ถ้าคุณไม่ได้ทำเอง มันมีไขมันอยู่ในนั้นเกินความจำเป็นทุกอย่างครับ ผมรับรองได้เลย ยกตัวอย่าง ก๋วยเตี๋ยวเนี่ย คุณต้องไปดูเค้าทำตั้งแต่แรก ไขมันหมูล้วนชิ้นใหญ่ ๆ เอาลงไปต้มกับซุป ให้ซุปมันอร่อย ยังไม่นับน้ำมันหมูที่ใส่อยู่ในน้ำก๋วยเตี๋ยวอีก ตบด้วย กากหมู และ กระเทียมเจียว จะไปเหลืออะไรครับ ชามนึงรวมไขมันแล้ว 5-6 ร้อยกิโลแคลอรี่ นี่ตีอย่างต่ำ ๆ นะ บางคนกินสลัด แต่ล่อน้ำข้นเลย ทั้งไขมัน ทั้ง ไข่ ทั้งเนย เสร็จทุกราย บางคนฝากท้องกับเซเว่น กิน ฮอดดอก ขนมจีบ ซาลาเปา ในนั้นทั้งหมด ไขมันสูงครับ ลองมาหมดแล้ว กินเข้าไปแทนที่จะลดกลับอ้วนเอา ๆ แก้ไขเมื่อ 12 มี.ค. 52 09:40:32 จากคุณ : [Zero] - [ 12 มี.ค. 52 09:28:51 ]

ความคิดเห็นที่ 11 อ้อ ตะคริวตอนวิ่ง ได้ยืดกล้ามเนื้อก่อนหรือยังครับ หกถึงเจ็ดท่ามาตรฐาน ที่ใช้ยืดกล้ามเนื้อขาส่วนต่าง ๆ ถ้าไม่ยืดก่อน อย่าว่าแต่ตะคริวเลย กล้ามเนื้ออักเสบก็เกิดได้ครับ จากคุณ : [Zero] - [ 12 มี.ค. 52 09:31:06 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เล่นเวทด้วย ดูแค่น้ำหนักไม่ได้นะครับ ต้องดูที่ปริมาณไขมันด้วย กล้ามเนื้อมันหนักกว่าไขมันอยู่แล้ว เปลี่ยนจากไขมันไปเป็นกล้ามเนื้อ นอกจากน้ำหนักจะไม่ลดแล้ว อาจจะเพิ่มอีกต่างหาก ลดน้ำหนักต้องดูองค์ประกอบรวมนะครับ ลดมั่วซั่วก็มีผลลัพท์ที่ไม่ดีเหมือนกัน น้ำหนักลดเร็วๆทำไม่ยาก แต่ผลลัพธ์มันจะไม่ดี กรณีที่มันลดน้ำหนักไม่ลง ต้องไปดูว่าองค์ประกอบร่างกายคุณประกอบด้วยอะไรบ้าง ถ้ามวลกระดูกมาก กล้ามเนื้อมาก เปอร์เซ็นท์ไขมันต่ำ ออกกำลังกายแค่ไหนก็ลดไม่ลงแล้วครับ ถ้าเสริมสร้างกล้ามเนื้อด้วย ก็น้ำหนักขึ้นอีก ถ้าไขมันน้อย มวลกระดูก กับกล้ามเนื้อปกติ แต่มีปริมาณน้ำในร่างกายเยอะ ก็ต้องรีดน้ำเหมือนที่นักมวยเขาทำเวลารีดน้ำหนัก น้ำหนักถึงจะลงได้เยอะ แต่ผลเสียคือ คุณจะมีอาการขาดน้ำ อ่อนแรง สุขภาพก็เสียด้วย อาหารที่คุณทานก็มีผล ถ้ามันให้พลังงานใกล้เคียงกับที่คุณออกกำลังไป มันก็ไม่จำเป็นต้องไปดึงไขมันมาสร้างพลังงาน คงต้องเมนูอาหารที่ทานด้วยนะครับ การขับถ่ายอีก ท้องผูกสัก 3 วัน ถ่ายออกมาได้น้ำหนักก็ลดลงบ้างแล้วครับ เรื่องตะคริวตอนวิ่ง คงตอบไม่ได้ เพราะคุณเล่นเทนนิสก็วิ่งเหมือนกัน แต่พอวิ่งอย่างเดียวทำไมถึงเป็นตะคริว ต้องไปดูกันที่รายละเอียด ว่าก่อนทำกิจกรรมแต่ละอย่างคุณเตรียมตัวอย่างไร เครื่องแต่งกายกับอุปกรณ์ประกอบก็อาจจะมีผลด้วย... จากคุณ : mermanoid - [ 12 มี.ค. 52 10:13:37 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขอโทษนะครับ ถ้าจะบอกว่า อ่านจากที่จขกท.เขียนแล้ว  รู้สึกว่า จขกท.ยังไม่มีความมุ่งมั่นพอที่จะลดน้ำหนักนะครับ.... ไม่พอยังไง??  แนะนำให้ลองไปอ่านบล็อกของสาวๆในห้องสวนลุมฯดูครับ มีหลายท่านเลย ที่น่าสนใจและ แสดงออกอย่างชัดเจนถึงความมุ่งมั่นที่จะลดน้ำหนัก!? ถ้าจขกท. คิดว่ามีความมุ่งมั่นพอแล้ว ผมขอแนะนำตามนี้ครับ 1. squat ก็ลุกนั่งนั่นแหละครับ แค่ลุกนั่งเฉยๆนี่แหละครับ ทำเป็นเซ็ทนะครับ เซ็ทละ 20 ครั้ง จบเซ็ทนึงแล้วก็พักไม่เกินหนึ่งนาที แล้วก็ทำอีก 20 ครั้งครับ 5เซ็ทต่อวัน ไม่ต้องใช้ลูกน้ำหนักช่วยหรอกครับ เอาตัวเปล่าๆนี่แหละ 2. ก้มแล้วเงยครับ ไม่ยาก แค่ยืนย่อขา แล้วก้มตัวลงเอามือไปแตะเท้าตัวเอง แตะเสร็จก็ยืดตัวขึ้น...   แต่ท่านี้ หาอะไรที่มีน้ำหนักมาถือไว้หน่อยจะได้ผลกว่าครับ ไม่ต้องหนักมาก เอาแค่พอถือได้ ข้างละสักห้ากิโล สิบกิโลก็พอครับ เช่นเดียวกับข้อหนึ่งครับ  5เซ็ทต่อวัน  เซ็ทละ 20 ครั้งพอ 3. งดทานอาหารหลังหกโมงเย็นครับ  หลังหกโมงเย็นไป ทานได้แต่น้ำเปล่าอย่างเดียวครับ   แล้วก็งดน้ำหวาน ของหวานทุกประเภทครับ 3ข้อ เท่านี้แหละครับ  ทำทุกวัน  ลองทดลองแค่เดือนเดียวพอ  ถ้าคุณทำตามที่ผมบอกทั้งหมด แล้วน้ำหนักไม่ลดลงเลย ผมยินดีจะไปหาคุณถึงบ้าน แล้วให้คุณเตะแรงๆหนึ่งทีเลยครับ...     สู้ๆนะครับ   ^____^ จากคุณ : ฟาฬ - [ 12 มี.ค. 52 10:15:28 ]

ความคิดเห็นที่ 14 อ๋อ..  อีกนิดนะครับ ท่าบริหาร ข้อ 1  กะข้อ 2 รบกวนทำด้วยความเร็วนิดนึงนะครับ กลั้นใจทำให้จบรวดเดียวไปเลย ไม่ใช่ ค่อยๆลุก ค่อยๆนั่ง ช้าๆไม่เห็นผล ต้องเร็วนิดนึงครับ   ^___^ จากคุณ : ฟาฬ - [ 12 มี.ค. 52 10:16:38 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เปลี่ยนไปกินเจ งดมื้อเย็น ห้ามกินขนม ของหวาน น้ำหวาน ตลอดวัน ง่ายแต่เห็นผลครับ จากคุณ : EeTsu - [ 12 มี.ค. 52 11:53:17 ]

ความคิดเห็นที่ 16 คุณ ฟาฬ ครับ ท่าออกกำลังตามความคิดเห็นที่ 13 ข้อ 1-2 มันไม่ใช่การออกกำลังแบบ aerobic นี่ครับ หรือผมเข้าใจผิด การออกกำลังโดยไม่ได้ให้หัวใจทำงานอย่างต่อเนื่อง 60-80 % นี่ มันได้ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ แต่ไม่ได้ช่วยลดไขมันไม่ใช่เหรอครับ เหมือนกับการยกน้ำหนัก เราไม่ได้ทำเพื่อลดน้ำหนัก แต่ทำเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ให้มากขึ้น เล่นมากเท่าไหร่ ไขมันก็ไม่ได้ลดลงไป นอกจากต้องออกกำลังแบบ aerobic เท่านั้น เช่น เดินต่อเนื่อง วิ่ง ว่ายน้ำ จากคุณ : [Zero] - [ 12 มี.ค. 52 11:56:49 ]

ความคิดเห็นที่ 17 การลดน้ำหนัก เป็นหนึ่งเรื่อง ที่มักจะมีความเข้าใจผิด ทางวิธีการ และกระบวนการเสมอ ๆ แถมยังไม่ยอมกันอีกต่างหาก เช่น อยากลดพุง แต่ให้ซิทอัพ ผมลองทำมาแล้ว วันละเป็นร้อย ไม่เห็นพุงมันจะลด เพราะมันไม่ได้ลดไขมัน มันทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้นเท่านั้น แต่พอวิ่งได้ซํกพัก มันก็ลดไปเอง เพราะเป็นการออกกำลังแบบ aerobic มันเผาผลาญไขมันในร่างกาย แถมมีทฤษฏีต่าง ๆ มากมาย ที่จะให้เลือกเชื่อ กินเจนี่ก็เป็นอีกเรื่องนึง อาหารแจ ส่วนใหญ่ มักจะมีแป้ง น้ำตาล และไขมัน แล้วจะลดได้ยังไงล่ะครับ ผมว่า ไปกินเนื้ออกไก่ซะยังจะดีกว่า ได้โปรตีนแน่ ๆ การลดน้ำหนักต้องลดแป้งและไขมันไม่ใช่เหรอครับ คืออยากบอกว่า ผมลองผิดลองถูกมาเยอะมาก เลยไม่อยากให้ จขกท ต้องมานั่งเสียเวลาโดยใช่เหตุน่ะครับ แก้ไขเมื่อ 12 มี.ค. 52 12:02:30 จากคุณ : [Zero] - [ 12 มี.ค. 52 12:00:52 ]

ความคิดเห็นที่ 18 คุณไม่ได้กินวันนี้แล้วอ้วนพรุ่งนี้ ฉันใด ลดวันนี้พรุ่งนี้ก็ยังไม่ลงหรอกครับ ทำไปเถอะครับ อย่าถอดใจ คิดซะว่าอย่างน้อยก็ได้สุขภาพที่ดีมาแทน ผมเองก็ออกกำลังการเป็นประจำ แต่น้ำหนักคงที่มาก แกว่งๆ +- 2 Kg แต่ก็ไม่คิดอะไรมาก เพราะว่าเล่นเพื่อให้สดชื่น แรกๆ ก็หวังว่าจะลด แต่มันไม่ลดครับ มีเพิ่มบางช่วงให้ตกใจ แต่หลายคนกลับชอบตอนผมน้ำหนักเพิ่มมากกว่า เป็นงั้นไป จากคุณ : Ki@K:) - [ 12 มี.ค. 52 14:34:56 ]

ความคิดเห็นที่ 19 จขกท. สูงแค่ไหนครับ แล้วก็มีกล้ามเนื้อมากไหม การลดความอ้วน โดยออกกำลังนั้นอาจได้กล้ามเนื้อมาแทน ซึ่งกล้ามเนื้อนั้นหนักกว่าไขมัน ทำให้ความอ้วนลดแต่น้ำหนักไม่ลดก็ได้ครับ จากคุณ : Pu'Chew - [ 12 มี.ค. 52 17:58:31 ]

ความคิดเห็นที่ 20 กราฟบันทึกการลดน้ำหนักและการรักษาน้ำหนักของผมครับ วันนี้วันที่ 247 แล้ว จากคุณ : Practical x 2 - [ 12 มี.ค. 52 22:28:16 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ต้องลองครับ คุณ[Zero].....              ^____^         แอโรบิค กะ การควบคุมอาหารก็เป็นวิธีการลดความอ้วนที่ดีครับ!?         แต่ก็จะใช้พลังงานไปแค่ช่วงที่ออกกำลังกายเท่านั้น ถูกมั๊ยครับ...         ร่างกายคนเรา มันมหัศจรรย์ครับ  วิทยาการในปัจจุบันยังไขความลับออกมาไม่หมดเลย เพราะฉะนั้น ก็ไม่แปลกนี่ครับ ถ้าจะมีหลายหลักสูตรเหลือเกินสำหรับลดความอ้วน..        การกินเจ..  ก็ตามที่คุณ[Zero]บอกแหละครับ แทนที่จะลด กลับเพิ่มน้ำหนักซะอีก  ฮา...         ตรงข้าม หากเปลี่ยนมารับประทานแต่เนื้อและผักแทน กลับได้ผลที่ดีกว่าครับ งดแป้งไปเลยก็ดีครับ...        ทีนี้มาว่าเรื่องแอโรบิคกันต่อ อืมมม..  จริงๆผมก็ไม่ค่อยสันทัดด้วยสิ  จำไม่ได้สักเท่าไหร่ว่า ออกกำลังกายอะไรแล้วจะลดไปกี่แคโรลี กินอะไรแล้วจะได้เข้าไปกี่แคโรลี        จำได้คร่าวๆแค่่ว่า วิ่งให้เหนื่อยแทบขาดใจ ก็ใช้พลังงานไปได้แค่เท่ากับการทานกล้วยหอมแค่ผลเดียว  -_-"        แถมยังได้เผาผลาญพลังงานแค่ช่วงที่เราวิ่งอีกด้วย...        อันนี้เป็นแค่ความคิดผมนะครับ  ไม่ต้องเชื่อก็ได้   ^___^        ตามที่ผมบอกไปข้างบน เรื่องการออกกำลังกายสองท่านั้น.. เหมาะอย่างยิ่งสำหรับท่านชายครับ !?        เป็นท่าบริหารกล้ามเนื้อชิ้นใหญ่สุดในร่างกายสองชิ้นเลยมั้ง  กล้ามเนื้อต้นขา และ กล้ามเนื้อหลัง        แล้วยังไง...  กล้ามเนื้อชิ้นใหญ่แล้วเป็นไง??        ก็..  ตามความเชื่อของผมนะครับ  แค่ความเชื่อของผมนะ   กล้ามเนื้อจะมีการเผาผลาญพลังงานตลอดเวลา   ชิ้นเล็กก็เผาผลาญน้อยหน่อย ชิ้นใหญ่ก็เผาผลาญมากหน่อย...  เวลาปกติก็เผาผลาญน้อยหน่อย  แต่เวลาที่กล้ามเนื้อกำลังเติบโต หรือซ่อมแซมตัวเอง ก็จะเผามากหน่อย..       นั่นแหละครับ  ความเชื่อผม!?        แล้วอย่างไง...??        ก็ไม่อย่างไรหรอกครับ  สองท่าที่ว่ามา เป็นท่าบริหารกล้ามเนื้อชิ้นโตในร่างกายเลยทีเดียว  แล้ว ท่าที่ให้บริหาร ทั้งจำนวนครั้งต่อเซ็ท และจำนวนเซ็ทต่อวัน เชื่อว่า กล้ามเนื้อทั้งสองส่วนของผู้บริหาร จะใช้พลังงานขณะออกกำลังอย่างสูงทีเดียว และจะต้องใช้พลังงานต่อเนื่องไปอีกเป็นวันในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอไป       แต่ก็นั่นแหละครับ  แค่ความเชื่อของผมน่ะครับ  ไม่จำเป็นต้องเชื่อก็ได้ครับ    ^____^       ต่างคน ก็ต่างวิธีกันไป เพียงแต่ เคยมีผู้มาปรีกษาผมเรื่องการลดน้ำหนักหลายท่าน ผมก็แนะนำไปตามนี้ ไม่เคยแนะนำเรื่องแอโรบิคเลย เรื่องแอโรบิค หากสนใจในเรื่องความแข็งแรงของระบบไหลเวียนในร่างกาย ก็ปฏิบัติกันไปเองตามแต่ถนัดน่ะครับ..       ก็ได้ผลพอควร ตามที่ผมกล้าไปให้คุณจขกท. เตะถึงบ้านนั่นแหละครับ  ^____^ จากคุณ : ฟาฬ - [ 13 มี.ค. 52 10:09:47 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณมากๆครับ จากคุณ : WaZK - [ 13 มี.ค. 52 11:20:10 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เคยดูรายการทดลองของฝรั่งน่ะค่ะ เค้าทำลองระหว่างออกกำลังกายตอนเช้ากับตอนเย็น พบว่า ออกกำลังกายตอนเช้าน้ำหนักลด แต่ออกตอนเย็นน้ำหนักไม่ลด เค้าสรุปว่าที่ออกตอนเย็นน้ำหนักไม่ลดเพราะ มีการสร้างกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อหนักกว่าไขมันค่ะ จากคุณ : จักรกลข้ามเวลา - [ 14 มี.ค. 52 14:43:04 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ^^^^ ^^ ^ จริงหรอครับ จะได้วิ่งตอนเช้า แต่ติดตรงที่มันง่วงจัง หุหุ ตอนนี้ นน ขึ้นมา 10 กก ชีวิต เฟรชชี่ทำไมมันน้ำหนักขึ้น 555++ มาสู้ด้วยคนค้าบ จากคุณ : darinfc - [ 22 มี.ค. 52 17:45:10 ]