ความคิดเห็นที่ 1 เอ่อ เข้าไปอ่านลิ้งค์แล้ว เฮ้อ จะมาดีเบตกันต่อที่นี่จริงๆหรอคะ งั้นขอเข้ามาเจิมเป็นคนแรกก่อน ความจริงคงไม่มีใครรู้แน่ว่าพระเจ้า หรือทฤษฎีวิวัฒนาการถูก เพราะคงไม่มีใครเกิดทันสักคน แต่ว่ากันตามหลักฐาน คงต้องเชื่อทฤษฎีวิวัฒนาการมากกว่าล่ะค่ะ ใครได้ดูข่าว ตอนนี้ลิงที่ลพบุรีรู้จักเก็บเส้นผมมนุษย์ที่ร่วง มาเป็นเครื่องมือขัดฟันแล้วนะคะ ...  :) จากคุณ : RebmemeR - [ 13 มี.ค. 52 03:23:35 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ขอบคุณครับ จากคุณ : 1234 - [ 13 มี.ค. 52 03:23:48 A:125.26.141.68 X: TicketID:184742 ]

ความคิดเห็นที่ 3 สนุกดีแฮะ จากคุณ : Naruse_X - [ 13 มี.ค. 52 04:50:50 ]

ความคิดเห็นที่ 4 และแล้วหมอภากรเค้าก็ยังเค้าใจอยู่ว่าวิวัฒนาการ คือ ความ"บังเอิญ" mutation คือ ความบังเอิญ แต่ Natural selection, sexual selection และ group selection นั่น แหละที่เป็นตัวกำหนดทิศทาง อะไรที่มันดู perfect ก็ด้วยเครื่องมือสามชิ้นของธรรมชาติครับ จริงๆ ร่างกายมนุษย์ไม่ perfect นะ ไม่งั้น ผมคงไม่โดนตัดไส้ติ่งออก แล้วยังอยู่ได้ถึงตอนนี้ จากคุณ : Geneticist - [ 13 มี.ค. 52 07:20:29 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้าอ่านนิตยสารสารคดี ฉบับที่ 288 กุมภาพันธ์ 2552 ประกอบด้วยก็จะดีมาก จากคุณ : silverspider - [ 13 มี.ค. 52 08:15:32 ]

ความคิดเห็นที่ 6 #1 ไม่ได้มาดีเบตต่อหรอกครับ เพราะในงานมันก็เหมือนไม่ได้ดีเบตอยู่แล้ว กลายเป็นเรื่องบอกเหตุผลตามความเข้าใจว่าทำไมถึงไม่เชื่อมากกว่า จากคุณ : silverspider - [ 13 มี.ค. 52 08:27:17 ]

ความคิดเห็นที่ 7 คำถามของคุณหมอ จากคุณ : silverspider - [ 13 มี.ค. 52 08:36:17 ]

ความคิดเห็นที่ 8 .. จากคุณ : silverspider - [ 13 มี.ค. 52 08:36:44 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ฟังแล้วเครียดไหมครับ จากคุณ : Cryptomnesia - [ 13 มี.ค. 52 08:58:19 ]

ความคิดเห็นที่ 10 กรูเบื่อเรื่องแบบนี้จังว่ะ ... จากคุณ : เศียรนาคา ... (Eumentis) - [ 13 มี.ค. 52 09:04:03 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ดี ครับ ผมอยากรู้ มุมมองใหม่ ที่เกิดจากทั้ง 2 ท่าน จากคุณ : ZGMF-X10A - [ 13 มี.ค. 52 09:31:24 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เอ่อ น่าสนใจน่ะ ผมว่าน่าฟังดีน่ะครับ แต่ผมไม่เชื่อมันทั้งสองทางนั่นแหล่ะ ผมว่า มนุษย์ ไม่ได้วิวัฒนาการมาจากลิงทั้งหมด 100 % มันต้องมีกระบวนการอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับลิงช่วงรอยต่อ ยุคที่ยังไม่มีหลักฐานของการมี พวกเรา ผมว่าพวกเรา mutate จากสิ่งที่เคยเปน(ลิง) แต่กระบวนการ mutate ไม่ได้มีสาเหตุจากปัจจัยภายในโลก ผมว่าพวกต่างดาวน่าจะมีส่วนสำคัญในการมีอยู่ของพวกเรา ส่วนเรื่องพระเจ้าสร้างโลก อะไรนั่นมันก็เปนแค่ความเชื่อที่พิสูจน์ไม่ได้ ผมเลิกฟังเรื่องพวกนี้ไปนานล่ะ จากคุณ : Santa_Baby - [ 13 มี.ค. 52 09:57:45 ]

ความคิดเห็นที่ 13 อยากฝากคำถามด้วยเหมือนกันนะครับว่าพวกลูกยาง (เมล็ดของยาง) หรือพวกเมล็ดที่มีพู่พยุงให้เมล็ดลอยไปตามลมไกล ๆ มันรู้ได้อย่างไรว่าถ้าวิวัฒนาการตามนั้นแล้วเมล็ดของมันจะลอยไปได้ไกล หรอในกรณีเมล็ดในผลมะฮอกกานีที่มีปีกที่มีรูปทรงตามหลักอากาศพลศาสตร์ (ลักษณะเหมือนใบพัดเครื่องบิน) ทำไมพืชจึงรู้หลักการนี้ จากคุณ : satitp - [ 13 มี.ค. 52 10:00:27 ]

ความคิดเห็นที่ 14 คห.13 ครับ พืชมันไม่ได้รู้หรอกครับ วิวัฒนาการ จริงๆแล้วก็คือการที่ยีนผ่าเหล่าทำให้สิ่งมีชีวิตมีรูปร่างผิดแปลกไป ซึ่งถ้าการผิดแปลกดังกล่าวทำให้อยู่รอดในธรรมชาติได้ดีกว่าเดิม สิ่งมีชีวิตตัวนั้นก็จะออกลูกออกหลานไปได้ต่อ ทำให้ลักษณะที่ผิดแปลกนั้นเพิ่มจำนวนมากขึ้นกลายเป็นเจเนเรชั่นใหม่ครับ เนื่องจากการผ่าเหล่าของยีนเป็นเรื่องบังเอิญ วิวัฒนาการจึงใช้เวลายาวนานมากๆครับ จากคุณ : Pu'Chew - [ 13 มี.ค. 52 10:23:06 ]

ความคิดเห็นที่ 15 พิสูจน์ให้ได้ก่อนว่าพระเจ้ามีจริง จากนั้นจึงพิสูจน์คำพูดของพระเจ้าได้ จากคุณ : คุณโฮม - [ 13 มี.ค. 52 10:38:27 ]

ความคิดเห็นที่ 16 อ่า ... คนที่เชื่อทฤษฎีวิวัฒนาการ ยังพูดไม่เหมือนกันเลยครับ ช่วยอธิบายหน่อยครับ จากคุณ : ksk - [ 13 มี.ค. 52 18:11:47 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ^ ก็ความหมายคล้ายๆกันมิใช่รึครับ ส่วนตัวผมก็เชื่อทฤษฎีวิวัฒนาการนั้นแหละ เพราะว่ามีหลักฐานมากกว่าทฤษฎีเหนือธรรมชาติ (พระเจ้า) แต่ยังไงคนไม่ได้วิวัฒนาการมาจากลิงแน่นอน ไม่งั้นทำไมลิงไม่กลายเป็นคนไปหมดแล้วล่ะ = =a จากคุณ : Sir.ขงเบ้ง - [ 13 มี.ค. 52 19:09:42 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ผมลืมไปแล้วนะเนี่ย จากคุณ : Ronachai (amscmu) - [ 13 มี.ค. 52 20:25:17 ]

ความคิดเห็นที่ 19 mutation (ที่ผมบอก) คือ การผ่าเหล่า (ที่คุณ Pu'Chew กล่าวถึง) เป็นความบังเอิญครับ บังเอิญ ณ ท่ีนี้หมายถึง สุ่ม ควบคุมทิศทางไม่ได้ พยากรณ์การเปลี่ยนแปลงไม่ได้ คือ Random นั่นเอง แต่กระบวนการที่ก่อให้เกิดวิวัฒนาการถ้าไม่นับ Genetic drift ไม่ Random นะครับ เพราะ ธรรมชาติคัดเลือก random mutation ด้วยวิธีเดียวกับที่เราปรับปรุงสายพันธุ์สัตว์ หรือ พืช คือ คัดเอาลักษณะใดลักษณะหนึ่งไว้ มนุษย์เลือกลักษณะของพืชและสัตว์ ที่ตัวเองชอบหรือ ให้ประโยชน์กับมนุษย์สูงสุด ธรรมชาติแม่้ไม่มีจิตใจ ไม่มีความชอบ ไม่มีวัตถุประสงค์หรือจุดมุ่งหมาย ก็ทำการคัดเลือกได้ ด้วยการเลือกลักษณะที่ทำให้อยู่รอดนานพอจะสืบเผ่าพันธุ์ ในสภาวะแวดล้อมนั้นๆ ดังนั้น การคัด เลือกโดยธรรมชาติไม่่ Random ครับ ยิ่งถ้าเรารู้สภาวะแวดล้อมในเวลานั้นๆ อย่าง ละเอียดเราสามารถพยากรณ์ได้ว่า ลักษณะต่างๆ จะเปลี่ยนแปลงในทางใด ลองยกตัวอย่างเปรียบเทียบนะครับว่า วิวัฒนาการ คือล็อคของกระเป๋าเจมส์บอนด์ที่มีสี่หลัก สำหรับคนที่เข้าใจวิวัฒนาการผิดอย่างคุณหมอภากร ล็อคนั้นจะไม่เปิดจนกว่าจะได้เลขสี่หลัก นั้นเป๊ะๆ กรณี่ที่แย่สุด คือ เริ่มที่ 0000 รหัสเปิดคือ 9999 ถ้าคุณหมุนทีละหลัก ต้องเลื่อนเป็น หมื่นครั้งกว่าจะเปิดได้ แต่วิวัฒนาการเหมือนล็อคที่ทำงานผิดปกติ คือ เมื่อคุณหมุนเจอเลขที่ถูกต้องในหลักใดหลักหนึ่ง เลขของหลักนั้นจะถูกเลือก คือ ล็อคไว้ไม่ให้ขยับได้อีก ต่อให้เริ่มที่ 0000 ถูกที่ 9999 คุณจะต้อง หมุนทีละหลักแค่อย่างมาก 36 ครั้งก็เปิดล็อคได้ครับ จากคุณ : Geneticist - [ 13 มี.ค. 52 22:14:06 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ตกลงเขาก็ต้องการมาบอกว่าไม่เชื่อเพราะอะไร นึกว่าหาหลักฐานมายันกันว่าใครถูกใครผิด จากคุณ : Lamelez - [ 13 มี.ค. 52 23:13:42 ]

ความคิดเห็นที่ 21 คุณหมอเน้นคำว่า "ธรรมชาติ" อีกแฮะ จากคุณ : silverspider - [ 13 มี.ค. 52 23:26:48 ]

ความคิดเห็นที่ 22 . จากคุณ : silverspider - [ 13 มี.ค. 52 23:27:26 ]

ความคิดเห็นที่ 23 mutation (ที่ผมบอก) คือ การผ่าเหล่า (ที่คุณ Pu'Chew กล่าวถึง) เป็นความบังเอิญครับ แปลว่า Engine ของระบบมันคือ "การบังเอิญ" ใช่ไหมครับ งั้นอย่างน้อย หมอก็พูดถูกอยู่บ้าง ไม่ได้ผิดจนถือว่าใช้การไม่ได้ สำหรับคนที่เข้าใจวิวัฒนาการผิดอย่างคุณหมอภากร ล็อคนั้นจะไม่เปิดจนกว่าจะได้เลขสี่หลัก นั้นเป๊ะๆ กรณี่ที่แย่สุด คือ เริ่มที่ 0000 รหัสเปิดคือ 9999 ถ้าคุณหมุนทีละหลัก ต้องเลื่อนเป็น หมื่นครั้งกว่าจะเปิดได้ แต่วิวัฒนาการเหมือนล็อคที่ทำงานผิดปกติ คือ เมื่อคุณหมุนเจอเลขที่ถูกต้องในหลักใดหลักหนึ่ง เลขของหลักนั้นจะถูกเลือก คือ ล็อคไว้ไม่ให้ขยับได้อีก ต่อให้เริ่มที่ 0000 ถูกที่ 9999 คุณจะต้อง หมุนทีละหลักแค่อย่างมาก 36 ครั้งก็เปิดล็อคได้ครับ ผมคิดว่าเป็นการเลือกใช้ตัวอย่างที่ไม่ถูกต้องนัก แต่คงต้องออกตัวว่า ความรู้ทางชีววิทยาของผมคงหาอะไรมาคัดค้านคุณ Geneticist ไม่ได้ง่ายนัก ลองอธิบายด้วยหลักการ "ล็อคกระเป๋าเจมส์บอนด์" กับกรณี - ยีราฟ คอยาวไปทำไม ในเมื่อต้นไม้เตี้ยๆก็มี หรือในเมื่อตอนเด็กๆยีราฟก็ต้องหากินกับไม้เตี้ยๆ - การกลายพันธุ์ มักจะต้องใช้เวลาหลายชั่วอายุ (อาจไม่ใช่หลายพันปี แต่สมมุติว่าสัก 10 ชั่วอายุ อย่างกรณีนกอะไรสักอย่างของกาลาปากอส) แต่ปัจจัยภายนอกที่คิดว่าส่งผลให้เกิดการกลายพันธุ์ มักจะเกิดขึ้นในระยะเวลารวดเร็วเมื่อเทียบกับอายุขัยของสัตว์ (เช่นการเปลี่ยนไปของสภาพแวดล้อม แหล่งอาหาร อุณหภูมิ) น่าส่งผลได้ในเรื่องของการสูญพันธุ์ มากกว่าการกลายพันธุ์ ตัวอย่างเช่น หมีขั้วโลกที่กำลังจะไม่มีน้ำแข็งให้ยืน(แม้คนส่วนหนึ่งจะบอกว่าปรากฏการณ์ "โลกร้อน "ไม่จริงก็เหอะ) หรือนก เก้ง กวาง ฯลฯ ที่อาจสูญพันธุ์เพียงเพราะเขื่อน ขอคำชี้แนะด้วยครับ อ้อ...  เรื่องที่ผมพยายามพูดเสมอ เพื่อแก้ไขความเข้าใจผิดต่อผู้เชื่อในพระเจ้า ผู้เชื่อในพระเจ้าไม่ได้งมงายอย่างที่ถูกกล่าวหาอยู่บ่อยๆนะครับ เราก็ศึกษาวิทยาศาสตร์เหมือนกันครับ (ส่วนระดับชาวบ้านที่ไม่มีโอกาสศึกษาวิชาการสมัยใหม่ ผมคิดว่า มีอยู่ในทุกศาสนาแหละครับ) แต่เราก็คิดว่า เรามีสิทธิที่จะ "ยอมรับ" หรือ "ไม่ยอมรับ" ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ในบางเรื่อง ด้วยความเสมอภาคกับที่ทุกคนในโลกนี้จะ "ยอมรับ" หรือ "ไม่ยอมรับ" เรื่องของพระเจ้า ครับ จากคุณ : ksk - [ 13 มี.ค. 52 23:50:06 ]

ความคิดเห็นที่ 24 Mutation คือ resource ไม่ใช่ Engine ของวิวัฒนาการ Engine คือ Natural selection, sexual selection, group selection และ genetic drift. มีแค่อัน genetic drift ที่ random 1) ลองอธิบายด้วยหลักการ "ล็อคกระเป๋าเจมส์บอนด์" กับกรณี - ยีราฟ คอยาวไปทำไม ในเมื่อต้นไม้เตี้ยๆก็มี หรือในเมื่อตอนเด็กๆยีราฟก็ต้องหากินกับไม้เตี้ยๆ ตอบ กรณีนี้ถ้ามองแบบคุณหมอ ภากร คือ ยีราฟต้องเกิดผ่าเหล่าให้เกิดยีนคอยาวขึ้นทันที แล้วลักษณะนั้นถูกคัดไว้ แต่ถ้ามองในมุมที่ถูกต้อง ลักษณะคอยาวของยีราฟ และต้นไม้สูงถูกควบคุมด้วยหลายยีน ต้นไม้ตอนแรกก็ไม่สูงนัก แต่พอยีราฟมากินใบไม้ ทำให้ต้นไม้ต้นเตี้ยๆ ตาย ต้นไม้ที่สูงกว่ามีโอกาสรอดออกดอกออกผล ยีราฟที่คอสั้นกินใบของต้นสูงไม่ได้ก็ตาย พวกคอยาวก็รอดมีลูกมีหลาน ต้นไม้ที่สูงโดนยีราฟที่คอยาวขึ้นกินอีกก็ตาย ไม่ได้ออกลูกผล แต่ต้นไม้ที่สูงกว่าอีกนิดหนึ่งรอด วนเป็นวัฎจักรไปเรื่อยๆ ไม่ได้เกิดแบบทันทีทันใด ยีนที่ทำให้คอสัั้น หรือคอยาว ต้นไม้เตี้ยหรือสูงมีอยู่่ในประชากรอยู่แล้วครับ ไม่จำเป็นต้องเกิด mutation ทันทีเพืิ่อการนี้ แต่ยีนคอสั้น หรือต้นไม้เตี้ยทำให้ยีราฟ หรือต้นไม้ที่มียีนชุดนี้หมดโอกาสมีลูกหลาน ยีนชุดนี้จะค่อยๆ ถูกจำกัดจากประชากร (เหมือนล็อคของกระเป๋าถูกปลดทีละหลักๆ ) จนเหลือแค่ยีนคอยาว ต้นไม้สูง คุณ ksk จำไว้นะครับว่าประชากร ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตแต่ละตัวที่วิวัฒนาการ (ยีราฟตอนเด็กๆ กินนมแม่สิครับ ไม่ได้ออกมาแล้วกินใบไม้เลยนะ) 2) การกลายพันธุ์เกิดตลอดเวลาในตัวคุณครับ วิวัฒนาการต่างหากที่ใช้เวลานานเพราะเกี่ยวเนื่องกับประชากร ไม่ใช่บุคคล คุณ ksk ก็มีโอกาสถ้าอยู่นานพอที่จะกลายพันธุ์ นั่นคือการเป็นมะเร็ง ไม่ได้แช่งแต่เป็นเรื่องจริง mutation เกิดจากความผิดพลาดในการสร้างสาย DNA ใหม่เวลาเซลล์แบ่งตัว เกิดจากความผิดพลาดในการซ่อม DNA ที่โดนทำลาย เช่น เวลาคุณไปโดน UV และยังมีสาเหตุอื่นๆ อีก แต่ส่วนใหญ่ไม่โดนส่งต่อ เพราะ เกิดที่เซลล์ร่างกาย ไม่ใช่เซลล์สืบพันธุ์ แต่มันก็เกิดอยู่นะครับ โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีลูกอายุมากๆ มีโอกาสเสี่ยง เพราะไข่ของคุณมีอายุเท่าคุณบวกเก้าเดือน (รอวันตกไข่ตั้งแต่คุณยังอยู่ในท้องแม่เลย) เลยมีโอกาสเกิดความเสียหายใน DNA มากขึ้นเรื่อยๆ เรื่องการสูญพันธุ์เป็นเรื่องปกติของวิวัฒนาการครับ สิ่งมีชีวิตที่เคยเกิดมาเกิน 90% สูญพันธุ์ฺไปแล้ว แต่ก็ยังมีผู้รอดเสมอจริงไหมครับ ลองถามแมลงสาบดู จากคุณ : Geneticist - [ 14 มี.ค. 52 00:57:41 ]

ความคิดเห็นที่ 25 Mutation คือ resource ไม่ใช่ Engine ของวิวัฒนาการ ขอบคุณสำหรับคำอธิบายครับ ผมกลับมองว่า Mutation คือ Engine ส่วน Natural selection, sexual selection, group selection คือปัจจัยภายนอก ไม่ทราบการมองอย่างนี้ ทำให้เรื่องราวเปลี่ยนไปไหมครับ เรื่องยีราฟคอยาว ผมไม่คิดว่าคุณหมอภากรจะมองไปอย่างที่คุณ Geneticist ว่านะครับ ท่านก็คงศึกษาเรื่องเหล่านี้มาไม่น้อยจนเกินไป ขนาดที่ไม่รู้ว่า มันไม่ได้เกิดใน Generation เดียว แต่เหตุผลที่นักนิยมวิวัฒนาการอธิบายเรื่อง ทำไมยีราฟต้องคอยาว ยังไม่เป็นเหตุผลที่ "สมเหตุสมผล" ซึ่งผมหวังว่าอาจหาเหตุผลอธิบายได้สักวันหนึ่ง หรืออาจไม่สามารถเลยตลอดไปก็ไม่รู้ แต่หากแม้ว่าวิวัฒนาการนั้นเป็นจริงหรือไม่เป็นจริง แม้อธิบายได้หรือไม่ได้ ก็ไม่ได้ทำให้ความจริงเปลี่ยนไปใช่ไหมครับ ซึ่งก็ทำนองเดียวกับเรื่องของพระเจ้า ที่ผู้เชื่ออาจไม่สามารถอธิบายได้อย่าง "แจ่มแจ้งแดงแจ๋" ณ ปัจจุบัน แต่เราก็หวังว่า ณ วันใดวันหนึ่ง เราอาจสามารถ หรือแม้แต่ เราอาจไม่สามารถเลย ก็เป็นได้ แต่ทั้งนี้ถ้าหากว่าพระเจ้าเป็นจริงหรือไม่เป็นจริง การที่เราอธิบายพระองค์ได้ หรือไม่ได้ ก็ไม่ได้ทำให้ความจริงเปลี่ยนไป ครับ เรื่องหมีขาว มันจะวิวัฒน์เพื่อให้อยู่ต่อไปได้แม้ไม่มีน้ำแข็ง จะเป็นไปได้หรือไม่ ทันการณ์หรือไม่ครับ จากคุณ : ksk - [ 14 มี.ค. 52 09:28:19 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เรื่องยีราฟคอยาวนั่นมันไม่ได้มีแต่เรื่อง feeding competition อย่างเดียวนี่ยังมีเรื่อง sexual selection อีกนี่ ส่วนเรื่องหมีขาวนั้นบางประชากรอาศัยอยู่บนแผ่นดินนี่ครับ ก็น่าจะรู้ผลนะครับว่าประชากรกลุ่มใดจะถูก selection ไว้หากไม่มีแผ่นน้ำแข็ง แก้ไขเมื่อ 14 มี.ค. 52 18:52:49 จากคุณ : silverspider - [ 14 มี.ค. 52 10:50:34 ]

ความคิดเห็นที่ 27 1) นิยามของวิวัฒนาการ ยกมาจากกระทู้เก่า In biology, evolution is change in the inherited traits of a population of organisms from one generation to the next. These changes are caused by a combination of three main processes: variation, reproduction, and selection. (จาก Wikipedia) ขอแปลของ Wikipedia แล้วกัน เพราะน่าจะเข้าใจง่ายกว่า (ข้อความในวงเล็บคือส่วนขยายเพิ่มเต็มให้คุณเข้าใจ) วิวัฒนาการ คือการเปลี่ยนแปลงของลักษณะที่ถ่ายทอดได้ในกลุ่มประชากรของสิ่งมีชีวิต (ในแง่ของความถี่ของลักษณะนั้นๆ ที่ถูกพบในประชากร หรือลักษณะใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นมา) จากรุ่นหนึ่งสู่อีกรุ่นหนึ่ง การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นด้วยสามสาเหตุรวมๆ กันคือ ความหลากหลาย(ทางพันธุกรรม) การสืบเผ่าพันธุ์ และการคัดเลือก (ตามธรรมชาติ ด้วยมนุษย์ หรือสุ่ม [genetic drift]) ดังนั้น selection ต่างๆ มีความสำคัญมากกว่า หรือเท่ากับ mutation นะครับ จึงเป็นส่วนประกอบสำคัญของวิวัฒนาการที่ตัดออกด้วยการบอกว่าเป็นปัจจัยภายนอกไม่ได้ 2) ผมเดาความคิดของหมอภากร จากภาพสไลด์ข้่างบน รวมกับที่พูดในดีเบต เลยคิดว่าคุณหมอมองว่าทุกสิ่งต้องถูก"สร้าง" ให้ perfect เหมือนตอนนี้และตลอดไป เลยดูว่าความเป็นไปได้ของวิวัฒนาการต่ำมาก 3) คุณ ksk ช่วยยกตัวอย่างคำอธิบายที่สมเหตุสมผลว่าทำไมยีราฟถึงคอยาวให้ผมรู้ด้วย เราจะได้มาวิเคราะห์กัน 4) เรื่องหมีโพล่าร์ คงวิวัฒนาการไม่ทันแล้วครับ เนื่องจากประชากรมีขนาดเล็ก รอบของการสืบพันธุ์นานเกินไป จากคุณ : Geneticist - [ 14 มี.ค. 52 10:58:26 ]

ความคิดเห็นที่ 28 น่าจะมีใครในห้องนี้เอา บทความที่มาจากการ ดีเบต ในหัวข้อนี้ มาให้อ่านบ้าง อยากฟังเหตุผล ของ ของทั้งสองท่าน   หรือถ้าหากใครมีไฟล์วีดีโอ  ก็ ช่วยอัพโหลด  แล้วเอาลิ้งค์มาลงก็ยังดี ( ถือว่าแบ่งปันความรู้นะครับ ) ขอบคุณล่วงหน้าเลย เลยครับ สำหรับผู้มีน้ำใจทุกท่าน แก้ไขเมื่อ 14 มี.ค. 52 11:51:10 จากคุณ : Lamelez - [ 14 มี.ค. 52 11:50:32 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เรื่องการกินอาหารของลูกยีราฟก็ไม่เห็นน่าจะมีปัญหาอะไรนะครับ ลูกยีราฟโตเร็วมาก แม้ช่วงแรกจะกินนมแม่ และสักพักก็จะเริ่มกินใบไม้ของพืชอาหาร (มีประมาณ 10-20 ชนิด) ซึ่งมีทั้งไม้พุ่มไม้ยืนต้น และในแต่ละชนิดก็มีความสูงหรืออายุที่แตกต่างกันอยู่แล้ว จากคุณ : Due_n - [ 14 มี.ค. 52 12:15:16 ]

ความคิดเห็นที่ 30 แปลก ถ้าไม่เชื่อเรื่องวิวัฒนาการ แล้วจะอธิบายยังไงกับฟอสซิล สัตว์ ยุคต่างๆที่เป็นคนละพันธ์กัน ถ้าบอกว่าพระเจ้าทยอยสร้าง แล้วสร้างจากอะไร ถ้าพระเจ้าทยอยสร้าก็ใช้การวิวัฒนาการนี่แหล่ะสร้าง จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน - [ 14 มี.ค. 52 12:38:01 ]

ความคิดเห็นที่ 31 แก้ไขเมื่อ 14 มี.ค. 52 13:42:49 แก้ไขเมื่อ 14 มี.ค. 52 13:40:50 แก้ไขเมื่อ 14 มี.ค. 52 13:29:41 จากคุณ : Lamelez - [ 14 มี.ค. 52 12:41:32 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ผมเห็นด้วยกับคุณ Due_n นะครับว่า ลูกยีราฟสามารถกินไม้พุ่มเตี้ยๆได้ แสดงว่า ปัจจัยในเรื่องการแย่งอาหารทำให้คอยาว ไม่น่าจะมีน้ำหนักมากนัก เพราะหากเริ่มต้นยีราฟเป็นสัตว์ชนิดหนึ่งที่ยังไม่เรียกว่ายีราฟและคอสั้นเหมือนกวางทั่วไป มันก็มีอาหารการกินได้ โดยไม่เห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องมีคอยาว และการที่มีตัวใดตัวหนึ่งคอยาวขึ้นมา อาจไม่ได้รับผลดีจาก Sexual Selection ก็ได้ ยีราฟตัวเมียอาจเห็นว่า เป็นตัวประหลาด ไม่ได้แข็งแรงกว่า หรือหล่อเหลากว่าตัวอื่นๆ Sexual Selection ก็ไม่น่าจะมีน้ำหนักเพียงพอในกรณีนี้ ซึ่งผมก็ไม่ได้มีผลวิจัยอะไรมารองรับหรอกนะครับ แล้วก็ไม่ได้เป็นยีราฟตัวเมียด้วย แต่ก็ยังไม่เคยเห็นมีข้อมูลใดที่สนับสนุนว่า จ่าฝูงที่ครอบครองยีราฟตัวเมียได้มากๆเป็นตัวที่คอยาวกว่าตัวอื่นๆ คุณ ksk ช่วยยกตัวอย่างคำอธิบายที่สมเหตุสมผลว่าทำไมยีราฟถึงคอยาวให้ผมรู้ด้วย เราจะได้มาวิเคราะห์กัน ผมคงบอกได้เพียงว่า ผมเชื่อว่าสัตว์ต่างๆถูกสร้างไว้ และถูกออกแบบให้มีความสามารถในการปรับตัวเพื่อเอาตัวรอดได้ระดับหนึ่ง แต่หากเกินจากนั้นก็ไม่สามารถรักษาชีวิตรอดได้ ถ้ามองยีราฟว่ามีพันธุ์คอยาวธรรมดา พันธุ์คอยาวปานกลาง พันธุ์คอยาวพิเศษ แต่ก็เป็นยีราฟอยู่แล้ว (เหมือนไก่พันธุ์ไข่ ที่ออกไข่มากกว่าไก่ปกติ แต่ก็ยังเป็นไก่) แล้วมีการแข่งขันกันระหว่างสายพันธุ์ อย่างนั้นอาจจะพอเป็นไปได้มากกว่า แต่ก็เกิดคำถามว่า มันคอยาวอยู่ตั้งแต่แรกอย่างนั้น ก็น่าเกิดจากการสร้างมากกว่า สมมุติฐานของผมนั้น ผมสังเกตจากปัญหาสัตว์สูญพันธุ์ในปัจจุบันนี่แหละครับ มันไม่มีเวลาและโอกาสที่จะปรับตัววิวัฒน์กันเป็นหลายสิบ Generation ทำให้ผมยังไม่สามารถยอมรับเรื่องการ "ค่อยๆกลายพันธุ์ไปทีละน้อย จนเปลี่ยนเป็นอีกชนิดหนึ่ง" ได้ อนึ่ง ผมอยากเรียนให้ทราบอีกครั้งว่า ผู้เชื่อในพระเจ้า ไม่ได้ปฏิเสธเรื่องของการวิวัฒนาการเสียทั้งหมด โดยสิ้นเชิงนะครับ เรารับรู้ และยอมรับได้ในหลายๆส่วน ที่ดูเหมือนจะสอดคล้องกับแนวคิดที่ว่า "สิ่งมีชีวิตถูกออกแบบไว้ให้สามารถปรับตัวเพื่อเอาตัวรอดได้ในระดับหนึ่ง" เช่นกรณีเชื่อโรคดื้อยา หรือลิงเรียนรู้ที่จะเอาหัวมันไปล้างน้ำทะเล ลิงเอาไม้เขี่ยแมลงในรูฯลฯ แต่เมื่อใดที่มันเลยจากกรอบนี้ ไปถึงเรื่องของการเปลี่ยนจากชนิดหนึ่งไปเป็นอีกชนิดหนึ่ง อันนั้นคงต้องมาพิจารณากันใหม่ว่า มันเป็นเพียงระบบการจัดกลุ่มประเภทสัตว์ตามระบบที่ถูกคิดขึ้นภายหลังหรือไม่ เพราะบางที พวกเราในที่นี้ วันนี้ยังเป็นคนเหมือนกันอยู่ครับ อีก 500 ปีข้างหน้า คนสมัยนั้นอาจมองกลับมาแล้วบอกว่า พวกเราที่คุยกันในวันนี้บางคน เป็นคนที่ไม่ใช่คนแล้ว (ตามการจัดกลุ่มด้วยนิยามใหม่) ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้พวกเราในวันนี้ไม่ใช่คนเหมือนกันหรือครับ แก้ไขเมื่อ 14 มี.ค. 52 14:16:36 จากคุณ : ksk - [ 14 มี.ค. 52 14:09:17 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ถึงจะยังไงหลักฐานมากมายในตอนนี้ก็บ่งชี้ว่า การวิวัฒนาการนั้นเป็นเรื่องจริง ส่วนทางฝ่ายที่เชื่อในพระเจ้าผมก็ยังนึกไม่ออกว่าจะเอาหลักฐานอะไรจากไหนมาคัดค้าน ** มนุษย์ไม่ได้มาจากลิงนะครับ เรามีบรรพบุรุตร่วมกัน หรือต่อให้มนุษย์เป็นลิงพันธุ์หนึ่ง ผมก็ไม่เห็นว่ามันจะเสียหายตรงไหน ส่วนตัวผมเองนับถือพุทธ ผมไม่เชื่อในพระเจ้า เชื่อว่าทุกสิ่งเป็นไปโดยธรรมะคือธรรมชาติ ทุกสิ่งล้วนอยู่ในกฎแห่งกรรมคือการกระทำ ไม่ว่าจะเป็นโดยสิ่งมีชีวิตหรือสิ่งไม่มีชีวิตก็ตาม ถ้าหากมีพระเจ้าจริงก็ต้องหนีไม่พ้นกฎแห่งกรรมเช่นกัน จากคุณ : หวาก - [ 14 มี.ค. 52 14:30:35 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ผมเห็นด้วยกับคุณ Due_n นะครับว่า ลูกยีราฟสามารถกินไม้พุ่มเตี้ยๆได้ แสดงว่า ปัจจัยในเรื่องการแย่งอาหารทำให้คอยาว ไม่น่าจะมีน้ำหนักมากนัก เพราะหากเริ่มต้นยีราฟเป็นสัตว์ชนิดหนึ่งที่ยังไม่เรียกว่ายีราฟและคอสั้นเหมือนกวางทั่วไป มันก็มีอาหารการกินได้ โดยไม่เห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องมีคอยาว มันเป็นการด่วนสรุปเกินไปครับ ที่ผมเขียนไปนั้นผมมุ่งเน้นการกินอาหารของลูกยีราฟเท่านั้น ซึ่งเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ในการเจริญของยีราฟ การที่คอยาวขึ้น มีผล(ทางบวกหรือทางลบ)ต่อ sexual selection หรือไม่นั้น ก็ลองพิจารณาดีๆ โดยมองหลายๆ ด้านรวมถึงด้านความสมบูณร์ของอาหาร ปริมาณที่ได้รับ โอกาสที่จะไปแย่งกับสัตว์ชนิดอื่น จำนวนชนิดและจำนวนตัวของสัตว์ชนิดต่างๆ ที่คอสั้นหรือสูงพอๆ กันดูเอาครับ แก้ไขเมื่อ 14 มี.ค. 52 15:03:30 แก้ไขเมื่อ 14 มี.ค. 52 15:02:17 จากคุณ : Due_n - [ 14 มี.ค. 52 14:58:12 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณครับ ผมหมายถึงที่คุณ Due_n บอกไว้ข้างบนว่ามีไม้พุ่ม 10-20 ชนิด ที่สามารถรองรับการเติบโตของลูกยีราฟได้ ทำให้ผมยิ่งมองเห็นว่า ถ้าหากยีราฟตัวเต็มวัย คอไม่ได้ยาวอย่างปัจจุบัน มันก็น่าจะยังอยู่รอดได้ โดยไม่มีเหตุที่ทำให้ ตัวที่บังเอิญสูงกว่าชาวบ้าน 2 นิ้ว จะมีอาหารมากกว่า และแข็งแรงกว่าจนโอกาสในการสืบพันธุ์มากกว่า แล้วไม่ทราบว่า มีสัตว์ชนิดอื่นหรือไม่ครับ ที่วิวัฒน์ควบคู่ไปกับยีราฟ ด้วยเหตุผลเดียวกัน จนคอยาว แต่ไม่ใช่ยีราฟ หากว่ายีนคอยาวคอสั้นมีอยู่ก่อนแล้วในประชากรอยู่แล้วดังที่คุณ Geneticist กล่าวไว้ใน คคห 24 จากคุณ : ksk - [ 14 มี.ค. 52 15:12:00 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เบื่อจะรบกับอัศวิน templar แล้วครับ เอาคำนี้ไป search นะ "Single Nucleotide Polymorphisms" จากคุณ : transfinity - [ 14 มี.ค. 52 16:08:53 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ใครบอกล่ะครับว่าธรรมชาติไม่ลองผิดลองถูก ยุคแคมเบรี่ยนนี่ชัดเจนเลย สัตว์ประหลาดเพียบ จากคุณ : devil amature2 (devil amature2) - [ 14 มี.ค. 52 17:23:25 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ผมเห็นด้วยกับคุณ Due_n นะครับว่า ลูกยีราฟสามารถกินไม้พุ่มเตี้ยๆได้ แสดงว่า ปัจจัยในเรื่องการแย่งอาหารทำให้คอยาว ไม่น่าจะมีน้ำหนักมากนัก เพราะหากเริ่มต้นยีราฟเป็นสัตว์ชนิดหนึ่งที่ยังไม่เรียกว่ายีราฟและคอสั้นเหมือนกวางทั่วไป มันก็มีอาหารการกินได้ โดยไม่เห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องมีคอยาว เรื่องนี้ไปถูกสภาพนิเวศประกอบด้วยนะครับ การวิวัฒนาการ (หรือที่พวกคุณเรียกว่าการปรับตัว) มันมีแนวทางของมันครับ ไม่ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมอย่างไร สุดท้ายก็ต้อง selection อยู่ดี จะว่าไปมัน selection ตั้งแต่กระบวนการสร้างเซลล์สืบพันธุ์ก็ว่าได้ ถึงอยู่นิเวศเดียวกัน ประชากรเดียวกันมันยังเกิด sympatric speciation ได้เลยครับ ถ้าไม่อยากให้เกิด speciation คงต้องทำให้สภาพแวดล้อมคงที่และไม่เกิดการแข่งขันก่อนครับ รวมทั้งการแพร่กระจายไปยังพื้นที่ใหม่ด้วย เอาแค่ปัจจัยภายนอกก่อนถ้าทำได้ค่อยมาปัจจับภายในต่อ ควบคุมการผ่าเหล่าให้ได้ละกัน ถ้าจะยกเรื่องปลาซีลาแคท์ล่ะก็อย่าลืมนะว่าซีลาแคนท์มันใช้เรียกปลาในอันดับ Coelacanthidae ครับ หรือจะเอาเรื่องแมงดาทะเลนั่นก็ระดับอับดับอีก และการที่มีตัวใดตัวหนึ่งคอยาวขึ้นมา อาจไม่ได้รับผลดีจาก Sexual Selection ก็ได้ ยีราฟตัวเมียอาจเห็นว่า เป็นตัวประหลาด ไม่ได้แข็งแรงกว่า หรือหล่อเหลากว่าตัวอื่นๆ Sexual Selection ก็ไม่น่าจะมีน้ำหนักเพียงพอในกรณีนี้ ซึ่งผมก็ไม่ได้มีผลวิจัยอะไรมารองรับหรอกนะครับ แล้วก็ไม่ได้เป็นยีราฟตัวเมียด้วย แต่ก็ยังไม่เคยเห็นมีข้อมูลใดที่สนับสนุนว่า จ่าฝูงที่ครอบครองยีราฟตัวเมียได้มากๆเป็นตัวที่คอยาวกว่าตัวอื่น เรื่องพฤติกรรมสัตว์ไม่ควรใช้มุมมองแบบมนุษย์นิยมไปตัดสินนะครับ มนุษย์ไม่ใช่ยีราฟตัวเมียนะครับถึงจะนึกตัดสินใจเอาเองว่าแบบนี้ดีหรือไม่ดี ยิ่งถ้าไม่มีผลงานวิจัยรองรับอีก เรื่อง Sexual Selection ของยีราฟนี่มันก็ใช้มาไม่นานนักเมื่อเทียบกับเรื่อง competition ที่เรียนพื้นฐานกันมา (ไม่รู้ปัจจุบันยังใช้อยู่เหมือนเดิมรึเปล่า) ก็ยกเรื่อง feeding competition มาอธิบายเพียงอย่างเดียว ผมคงบอกได้เพียงว่า ผมเชื่อว่าสัตว์ต่างๆถูกสร้างไว้ และถูกออกแบบให้มีความสามารถในการปรับตัวเพื่อเอาตัวรอดได้ระดับหนึ่ง แต่หากเกินจากนั้นก็ไม่สามารถรักษาชีวิตรอดได้ ถ้ามองยีราฟว่ามีพันธุ์คอยาวธรรมดา พันธุ์คอยาวปานกลาง พันธุ์คอยาวพิเศษ แต่ก็เป็นยีราฟอยู่แล้ว (เหมือนไก่พันธุ์ไข่ ที่ออกไข่มากกว่าไก่ปกติ แต่ก็ยังเป็นไก่) แล้วมีการแข่งขันกันระหว่างสายพันธุ์ อย่างนั้นอาจจะพอเป็นไปได้มากกว่า แต่ก็เกิดคำถามว่า มันคอยาวอยู่ตั้งแต่แรกอย่างนั้น ก็น่าเกิดจากการสร้างมากกว่า แล้วคุณคิดว่าพระเจ้าออกแบบให้ยีราฟคอยาวเพื่ออะไรครับในเมื่อคุณไม่คิดว่าเพื่ออาหารหรือการคัดเลือกทางเพศ สมมุติฐานของผมนั้น ผมสังเกตจากปัญหาสัตว์สูญพันธุ์ในปัจจุบันนี่แหละครับ มันไม่มีเวลาและโอกาสที่จะปรับตัววิวัฒน์กันเป็นหลายสิบ Generation ทำให้ผมยังไม่สามารถยอมรับเรื่องการ "ค่อยๆกลายพันธุ์ไปทีละน้อย จนเปลี่ยนเป็นอีกชนิดหนึ่ง" ได้ แล้วคุณไม่ยกเรื่องการเกิดชนิดใหม่บ้างหรือครับ ผมว่าคุณน่าทำความเข้าใจเรื่องนิยามของคำว่า "ชนิด" ก่อนนะครับ อนึ่ง ผมอยากเรียนให้ทราบอีกครั้งว่า ผู้เชื่อในพระเจ้า ไม่ได้ปฏิเสธเรื่องของการวิวัฒนาการเสียทั้งหมด โดยสิ้นเชิงนะครับ เรารับรู้ และยอมรับได้ในหลายๆส่วน ที่ดูเหมือนจะสอดคล้องกับแนวคิดที่ว่า "สิ่งมีชีวิตถูกออกแบบไว้ให้สามารถปรับตัวเพื่อเอาตัวรอดได้ในระดับหนึ่ง" เช่นกรณีเชื่อโรคดื้อยา หรือลิงเรียนรู้ที่จะเอาหัวมันไปล้างน้ำทะเล ลิงเอาไม้เขี่ยแมลงในรูฯลฯ พวก Theistic evolutionism ก็ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรกับทฤษฎีวิวัฒนาการนี่ครับ หรือ creationism ก็ยังมีพวก evolutionary creationism อีก ถ้าจะยกเรื่องผู้เชื่อในพระเจ้านั้นควรระบุให้ชัดเจนดีกว่าครับ สมมติคุณ ksk ไปยกเอาไอนสไตน์ที่พูดถึงพระเจ้า แล้วคุณจะยอมรับพระเจ้าที่ไอนสไตน์เชื่อรึเปล่าครับ แต่เมื่อใดที่มันเลยจากกรอบนี้ ไปถึงเรื่องของการเปลี่ยนจากชนิดหนึ่งไปเป็นอีกชนิดหนึ่ง อันนั้นคงต้องมาพิจารณากันใหม่ว่า มันเป็นเพียงระบบการจัดกลุ่มประเภทสัตว์ตามระบบที่ถูกคิดขึ้นภายหลังหรือไม่ เพราะบางที พวกเราในที่นี้ วันนี้ยังเป็นคนเหมือนกันอยู่ครับ อีก 500 ปีข้างหน้า คนสมัยนั้นอาจมองกลับมาแล้วบอกว่า พวกเราที่คุยกันในวันนี้บางคน เป็นคนที่ไม่ใช่คนแล้ว (ตามการจัดกลุ่มด้วยนิยามใหม่) ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้พวกเราในวันนี้ไม่ใช่คนเหมือนกันหรือครับ สัตว์ในสกุล Homo ถือว่าเป็นมนุษย์นะครับ คงต้องถามพวกคุณแล้วว่าสัตว์ชนิดอื่นนอกจาก H. sapiens นั้นถือว่าเป็นมนุษย์หรือไม่ แก้ไขเมื่อ 14 มี.ค. 52 19:23:41 จากคุณ : silverspider - [ 14 มี.ค. 52 19:22:39 ]

ความคิดเห็นที่ 39 มีเป็นคลิปวิดิโอมั้ยอ่ะเฮีย จากคุณ : ดาบจันทร์เสี้ยว - [ 14 มี.ค. 52 20:14:05 A:124.122.161.7 X: TicketID:207007 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เอาจาก# 33 จากคุณ : หวาก คุณ : หวาก กล่าวว่า หากมีพระเจ้าจริงก็ต้องหนีไม่พ้นกฎแห่งกรรมเช่นกัน ผมขอตอบว่า พระเจ้าสร้างสรรพสิ่ง  อยู่เหนือทุกสรรพสิงที่พระองค์สร้าง  ไม่ได้อยู่ใต้กฎใดครับ เข้าใจซะใหม่ด้วย แก้ไขเมื่อ 14 มี.ค. 52 21:35:12 จากคุณ : Lamelez - [ 14 มี.ค. 52 21:33:23 ]

ความคิดเห็นที่ 41 แล้วคุณคิดว่าพระเจ้าออกแบบให้ยีราฟคอยาวเพื่ออะไรครับในเมื่อคุณไม่คิดว่าเพื่ออาหารหรือการคัดเลือกทางเพศ ถ้าบอกว่า เพื่อความสวยงาม จะรับได้ไหมครับ แล้วคุณไม่ยกเรื่องการเกิดชนิดใหม่บ้างหรือครับ ผมว่าคุณน่าทำความเข้าใจเรื่องนิยามของคำว่า "ชนิด" ก่อนนะครับ เรื่องนี้เราเคยคุยกันแล้วครับ ผมเคยบอกไปแล้วว่า การแบ่งหมวดหมู่ทางชีววิทยาเป็นสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่เกิน 500 ปีมานี้เอง เรื่องชนิดของสัตว์ในพระคัมภีร์ จะตรงกับลำดับชั้นไหนในหมวดหมู่ทางชีววิทยาปัจจุบัน ผมก็ไม่มีคำตอบเหมือนกัน แต่จะไปคัดค้านเรื่องการจัดหมวดหมู่นั้นเหมาะสมหรือไม่ ผมตักน้ำใส่กระโหลก ชะโงกดูเงาแล้ว ปล่อยให้คนที่เขามีความรู้ไปคุยกันดีกว่า Theistic evolutionism ก็ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรกับทฤษฎีวิวัฒนาการนี่ครับ หรือ creationism ก็ยังมีพวก evolutionary creationism อีก ถ้าจะยกเรื่องผู้เชื่อในพระเจ้านั้นควรระบุให้ชัดเจนดีกว่าครับ สมมติคุณ ksk ไปยกเอาไอนสไตน์ที่พูดถึงพระเจ้า แล้วคุณจะยอมรับพระเจ้าที่ไอนสไตน์เชื่อรึเปล่าครับ ผมถึงบอกไงครับว่า ผู้เชื่อในพระเจ้าไม่ได้ปฏิเสธทฤษฎีวิวัฒนาการโดยสิ้นเชิง ส่วนกลุ่มไหนจะยอมรับได้มากน้อยขนาดไหน ก็แล้วแต่ความคิดเห็นของแต่ละกลุ่มครับ สัตว์ในสกุล Homo ถือว่าเป็นมนุษย์นะครับ คงต้องถามพวกคุณแล้วว่าสัตว์ชนิดอื่นนอกจาก H. sapiens นั้นถือว่าเป็นมนุษย์หรือไม่ อย่างที่บอกไว้แหละครับ วันนี้อาจเรียก H.Sapiens ว่ามนุษย์ วันหน้าใครจะรู้ แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 52 00:53:21 จากคุณ : ksk - [ 15 มี.ค. 52 00:52:05 ]

ความคิดเห็นที่ 42 #41 อันนี้อ่อนยิ่งกว่าเรื่อง feeding competition หรือ Sexual Selection อีกนะครับ คุณแน่ใจแล้วหรือครับว่าพระเจ้าไม่ได้สร้างให้คอยาวเพื่อ feeding competition หรือ Sexual Selection ส่วนเรื่องการจัดหมวดหมู่นั้นมันมีมาตั้งแต่สมัยอริสโตเติลแล้วนี่ครับ นับอายุเอาเองนะครับ สำหรับการจัดหมวดหมู่ปัจจุบัน ผมก็ยังไม่เห็นอีกฝ่ายจัดใหม่สักที มีแต่จะใช้ที่อ้างอิงทฤษฎีวิวัฒนาการ และเรื่อง H. sapiens วันข้างหน้าก็ยังเป็นมนุษย์อยู่ครับเพราะอยู่ในสกุล Homo ผมจึงถามไงครับว่าสัตว์ชนิดอื่นนอกจาก H. sapiens นั้นถือว่าเป็นมนุษย์หรือไม่ เพราะเอาแค่ H. neanderthalensis ก็เริ่มอึกอักแล้วไม่ใช่หรือครับ จากคุณ : silverspider - [ 15 มี.ค. 52 02:22:37 ]

ความคิดเห็นที่ 43 #39 อยากได้อยู่เหมือนกัน แต่ดูแล้วมันก็ไม่มีอะไรมากอยู่ดี ฟังแต่เสียงก็พอรู้เรื่องแล้ว จากคุณ : silverspider - [ 15 มี.ค. 52 02:23:41 ]

ความคิดเห็นที่ 44 #33 #40 จ๊าก ล้ำเส้น แบบนี้2ฝ่ายถึงคุยกันไม่ค่อยรู้เรื่อง 5555 ละทิ้ง ก่อนมาคุยกันดีมั้ย จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน - [ 15 มี.ค. 52 06:03:33 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ู^ ^ ผมล้ำเส้นเหรอครับ ถ้าเป็นอย่างงั้นก็ขออภัยด้วยแล้วกัน แต่ว่าที่ผมพูดไปมันก็เป็นความเชื่อของผมอ่ะครับ ที่เค้าพูดก็เป้นความเชื่อของเค้า ถ้าวันหนึ่งเกิดการยอมรับกันว่าพระเจ้าสร้างสิ่งมีชีวิตจริง วันนั้นก็จะเป็นวันที่มีคำถามใหม่ขึ้นมา ว่า ใครหล่ะเป็นผู้สร้างพระเจ้า ถ้าบอกว่าพระเจ้าคงสถิตอยู่ด้วยตัวเองไม่ได้มีใครสร้าง โดยตรรกะเดียวกันก็บอกได้ว่า สิ่งมีชีวิตก็เกิดขึ้นเองได้ด้วยสิครับ จากคุณ : หวาก - [ 15 มี.ค. 52 12:18:39 ]

ความคิดเห็นที่ 46 #45 ถ้าบอกว่าพระเจ้าคงสถิตอยู่ด้วยตัวเองไม่ได้มีใครสร้าง โดยตรรกะเดียวกันก็บอกได้ว่า สิ่งมีชีวิตก็เกิดขึ้นเองได้ด้วยสิครับ ู^ ^ สิ่งมีชีวิตเกิด แก่ เจ็บ ตาย ผมเรียกทั้งหมดว่า "สิ่งถูกสร้าง" ครับ เพราะมันไม่จีรัง อย่างนี้เปรียบเทียบแล้วคนละตรรกะกันครับ เพราะการสถิตย์ด้วยตนเอง คือ ไม่เกิด ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตาย และสำคัญคือไม่พึ่งพาสิ่งใดครับ #43 ผมโหลดฟังแล้วครับ ฟังแล้วให้คะแนนฝั่ง evolutionist มากกว่าด้วยครับ จากคุณ : ดาบจันทร์เสี้ยว - [ 15 มี.ค. 52 13:02:55 A:124.121.211.154 X: TicketID:207007 ]

ความคิดเห็นที่ 47 จาก Q&A หมอภากรประกาศจะให้รางวัลกับคนที่พบว่าไบเบิลผิดตรงจุดไหนได้ ผมอยากได้ตังค์ 100,000 นึงจากหมอภากรจัง หลังจากได้ดูสารคดีชุดนี้ ไบเบิลไม่ได้ถูกต้องสมบูรณ์แบบครับ จากคุณ : Geneticist - [ 15 มี.ค. 52 13:19:11 ]

ความคิดเห็นที่ 48 #47 จะเอาเรื่องกระต่ายเป็นสัตว์เคี้ยวเอื้อง ค้างคาวเป็นนก แมลงมีสี่ขา ฯลฯ ด้วยไหมครับ หรือจะใช้อัลกุรอ่านจับผิดดี แต่ถ้าอ้างว่าคนบันทึก บันทึกตามความเข้าใจของคนสมัยนั้นก็จบครับ ยังไงมันก็ถูกอยู่ดี จากคุณ : silverspider - [ 15 มี.ค. 52 14:49:23 ]

ความคิดเห็นที่ 49 #45เค้าไม่ฟังหรอกครับ เอาเรื่องทางวิทย์มาคุยเค้ายังไม่ฟังเล้ย จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน - [ 15 มี.ค. 52 15:32:38 ]

ความคิดเห็นที่ 50 จะเอาเรื่องกระต่ายเป็นสัตว์เคี้ยวเอื้อง ค้างคาวเป็นนก แมลงมีสี่ขา ดูเหมือน จะเคยถกเรื่องนั้นแล้วนี่ครับคุณ silverspider ซึ่งผมก็ได้อธิบายให้ฟังแล้วว่า เป็นความเข้าใจผิดของคุณ silverspider เองที่ไปตีความอย่างนั้น คุณหวากครับ จะบอกว่าต้องใช้ตรรกะเดียวกันกับทุกเรื่อง คงไม่ถูกต้องเสียทีเดียวครับ คำถามที่ว่าใครสร้างผู้สร้างนั้นก็ไม่ได้เป็นคำถามใหม่ เป็นคำถามที่ตอบแล้วตอบอีก แต่ก็ดูเหมือนว่าไม่ยอมรับฟังกันเลยครับ จากคุณ : ksk - [ 15 มี.ค. 52 17:02:11 ]

ความคิดเห็นที่ 51 คุณ : ดาบจันทร์เสี้ยว (ความคิดเห็นที่ 46) แนบลิ้งมาให้หน่อยสิอยากฟังบ้าง จากคุณ : Lamelez - [ 15 มี.ค. 52 18:16:53 ]

ความคิดเห็นที่ 52 #46 และ #50เรื่องตรรกะก็จริงอย่างที่คุณดาบจันทร์เสี้ยวและคุณksk ว่าครับ ส่วนเรื่องใครสร้างผู้สร้างนั้นไม่ใช่ผมไม่ยอมรับฟังครับแต่ เอ่อ........ ผมอยู่สายวิศวะมาคุยเรื่องชีวะกับศาสนาทำไมนิ อ่านอย่างเดียวดีกว่า จากคุณ : หวาก - [ 15 มี.ค. 52 18:18:48 ]

ความคิดเห็นที่ 53 #50 ผมเข้าใจผิดที่ตีความไปอย่างนั้น? ผมไม่ได้ตีความเลยครับ กระทู้เก่ายังมีอยู่นะครับ http://topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2007/04/X5304430/X5304430.html คัมภีร์จากพระเจ้าเป็นสากลไม่ใช่หรือครับ หวังว่าคัมภีร์ส่วนนั้นคงไม่ใช่มนุษย์เขียนตามความเข้าใจของมนุษย์สมัยนั้นเองนะครับ ถ้าหากพระเจ้าต้องการให้บอกคนสมัยนั้นเข้าใจง่าย ๆ ถึงได้บอกไปแบบนั้น คัมภีร์มันก็ใช้ได้เฉพาะสมัยนั้น แล้วคนสมัยนี้จะเอาเรื่องราวตามความเข้าใจสมัยนั้นมาอ้างอิงทำไมล่ะครับ แค่รู้ว่าส่วนนั้นต้องการสอนอะไรเป็นพอไม่ใช่หรือครับ อย่างเรื่องปฐมกาลที่มีปัญหามากับทฤษฎีวิวัฒนาการ ก็เห็นมีหมายเหตุ (ของคาทอลิค) ว่า "มีจุดมุ่งหมายของการเล่าเรื่องนี้คือสอนว่าพระเจ้าทรงสร้างทุกสิ่งอย่างมีระเบียบ ภายในกรอบเวลาทำงานหนึ่งสัปดาห์ โดยมีวันสับบาโตเป็นวันหยุดพัก สิ่งสร้างทั้งหลายอุบัติขึ้นตามพระบัญชาของพระเจ้าตามลำดับจากต่ำไปสูง มนุษย์ซึ่งเป็นภาพลักษณ์ของพระเจ้าและเป็นราชาของสิ่งสร้างมาเป็นอันดับสุดท้าย พระคัมภีร์เล่าเรื่องโดยใช้วิทยาการโบราณของยุค จึงไม่ถูกต้องที่จะหาความสอดคล้องกันระหว่างเรื่องเล่าสั้น ๆ นี้กับข้อมูลทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่" ผมถึงบอกไงว่าถ้าบันทึกตามความเข้าใจของคนสมัยนั้นก็จบครับ ยังไงมันก็ถูกอยู่ดี หากมนุษย์มีบรรพบุรุษร่วมกันกับลิงในปัจจุบัน น้ำท่วมโลกแค่บางส่วน พระเจ้าสร้างสิ่งมีชีวิตของกระบวนการวิวัฒนาการ ฯลฯ มันผิดมากหรือครับที่ไม่ได้เชื่อตามตัวอักษรตามพระคัมภีร์เก่า ทั้ง ๆ ที่จุดมุ่งหมายยังไม่เปลี่ยนแปลง หรือต้องเป็นไปตามตัวอักษรที่เขียนขึ้นเพื่อให้คนสมัยนั้นเข้าใจครับ จากคุณ : silverspider - [ 15 มี.ค. 52 18:45:44 ]

ความคิดเห็นที่ 54 link ที่เฮียสไปดี้โพสต์ไว้ที่หัวกระทู้ไงครับ เป็น mp3 ฟังอย่างเดียว จากคุณ : ดาบจันทร์เสี้ยว - [ 15 มี.ค. 52 18:54:28 A:124.120.225.84 X: TicketID:207007 ]

ความคิดเห็นที่ 55 แจ่มเลย  คุณ : ดาบจันทร์เสี้ยว ผมเดาว่าคุณต้นสังกัดเดียวกับผม   แตไม่แน่ใจว่าอยู่กลุ่มเดียวกันหรือเปล่า แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 52 22:15:46 จากคุณ : Lamelez - [ 15 มี.ค. 52 20:08:49 ]

ความคิดเห็นที่ 56 คัมภีร์จากพระเจ้าเป็นสากลไม่ใช่หรือครับ หวังว่าคัมภีร์ส่วนนั้นคงไม่ใช่มนุษย์เขียนตามความเข้าใจของมนุษย์สมัยนั้นเองนะครับ ถ้าหากพระเจ้าต้องการให้บอกคนสมัยนั้นเข้าใจง่าย ๆ ถึงได้บอกไปแบบนั้น คัมภีร์มันก็ใช้ได้เฉพาะสมัยนั้น อันนี้ก็เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของคุณ silverspider นะครับ ใครๆก็คิดเห็นไปในแนวไหนๆก็ได้ครับ แต่ในความเป็นจริงแล้วปัจจุบันพระคัมภีร์ยังใช้การได้ตามบทบาทของพระคัมภีร์ครับ คือให้รู้ความจริงเท่าที่สมควรรู้ หรือจำเป็นต้องรู้ และใช้เป็นแนวทางในการบริหารจัดการชีวิตและสังคม (จะเอาไปเปิดหาเลขเพื่อแทงหวย หรือเอาไปหาวิธีซ่อมเตาไมโครเวฟ หรืออธิบายเรื่องลึกๆทางชีววิทยา คงคาดหวังผิด) จากคุณ : ksk - [ 16 มี.ค. 52 10:15:32 ]

ความคิดเห็นที่ 57 #56 แล้วตกลงต้องยึดตามตัวอักษรที่ปรากฎอยุ่ในคัมภีร์เก่าอย่างเคร่งครัดหรือว่ายึดตามจุดมุ่งหมายที่ต้องการสอนกันล่ะครับ เพราะเห็นแต่ละคนเชื่อไม่เหมือนกันอีก จากคุณ : silverspider - [ 16 มี.ค. 52 13:37:09 ]

ความคิดเห็นที่ 58 แล้วถ้าพระเจ้าคือสิ่งมีชีวิตต่างดาวที่ทรงความรู้และอายุยืนยาว โลกคือการทดลองหนึ่งของเค้า คำตอบของอะไรๆหลายอย่างและความศรัทธาที่มีจะเปลี่ยนไปมั้ยครับ จากคุณ : หวาก - [ 16 มี.ค. 52 13:49:56 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ถ้าพระเจ้ามาจากต่างดาว ถ้าไม่มีดาวดวงนั้น ก็ไม่มีพระเจ้า แสดงว่าพระเจ้าพึ่งพาอาศัยดาว คือ พระเจ้าอ่อนแอ ไม่ใช่คุณลักษณะของพระเจ้า สรุป... พระเจ้าจากต่างดาว จะเรียกว่าพระเจ้าไม่ได้ จากคุณ : ดาบจันทร์เสี้ยว - [ 16 มี.ค. 52 13:59:40 A:119.63.85.82 X: TicketID:207007 ]

ความคิดเห็นที่ 60 #56 แล้วตกลงต้องยึดตามตัวอักษรที่ปรากฎอยุ่ในคัมภีร์เก่าอย่างเคร่งครัดหรือว่ายึดตามจุดมุ่งหมายที่ต้องการสอนกันล่ะครับ เพราะเห็นแต่ละคนเชื่อไม่เหมือนกันอีก ใช่แล้วครับ มีความเห็นแตกต่างกันอยู่แน่นอนครับ จึงได้เกิดเป็นกลุ่มย่อยๆมากมาย สำหรับผม ผมเชื่อตามตัวอักษรครับ แต่ไม่ได้ตีความอย่างเดียวกับคุณ silverspider จากคุณ : ksk - [ 16 มี.ค. 52 15:03:25 ]

ความคิดเห็นที่ 61 #60 ในเมื่อคุณเชื่อตามตัวอักษร งั้นขอถามต่อว่าเชื่อแบบ YEC หรือ OEC ครับ และทำไมถึงคิดว่าที่คุณเชื่อนั้นเป็นความเชื่อที่ถูกต้อง จากคุณ : silverspider - [ 16 มี.ค. 52 18:47:13 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ^ ^ สวัสดีครับ คุณ silverspider   :)   คำว่า"วัน"ในภาษาเดิมที่ใช้เขียนพระคัมภีร์ มีหลายความหมายครับ จะตีความตาม Young Earth หรือ Old Earth  ก็เป็นการแปลความตามตัวอักษรทั้งนั้นครับ จากคุณ : PureTruth - [ 16 มี.ค. 52 19:53:30 ]

ความคิดเห็นที่ 63 #62 แล้วความหมายไหนถูกต้องล่ะครับ ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวนี่ จากคุณ : silverspider - [ 17 มี.ค. 52 02:47:50 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ส่วนตัวผมยอมรับทั้ง Young Earth และ Old Earth ครับ ในที่สุดเมื่อปรากฏว่า เป็นอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็ไม่ได้ทำให้ความจริงของพระเจ้าเปลี่ยนไป จากคุณ : ksk - [ 17 มี.ค. 52 10:02:33 ]

ความคิดเห็นที่ 65 การบันทึกในปฐมกาลเกี่ยวกับการทรงสร้างของพระเจ้านั้น ไม่ใช่เป็นการบันทึกสดๆไปพร้อมๆกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เรารู้แน่ชัดว่า โมเสส เป็นผู้ที่บันทึกเรื่องนี้ และเป็นเรื่องที่ได้รับการเปิดเผยจากพระเจ้า (แน่นอนว่า ถ้าเริ่มด้วยการไม่ยอมรับว่าพระเจ้ามีอยู่จริง มันก็จบตั้งแต่เริ่มแล้ว) ถ้ายอมรับว่าพระเจ้ามีอยู่จริง ก็ค่อยว่ากันต่อได้ จากคุณ : ksk - [ 17 มี.ค. 52 10:06:41 ]

ความคิดเห็นที่ 66 #64, 65 ทฤษฎีวิวัฒนาการมันก็ไม่ได้ทำให้ความจริงของพระเจ้าเปลี่ยนไปนี่ครับ ตกลงที่ต่อต้านกันนี่เพียงเพราะมันไปขัดข้อความที่ระบุในพระคัมภีร์ใช่ไหมครับ จากคุณ : silverspider - [ 17 มี.ค. 52 10:34:34 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ^ ^ "ทฤษฎีวิวัฒนาการมันก็ไม่ได้ทำให้ความจริงของพระเจ้าเปลี่ยนไปนี่ครับ" Ans. ถูกต้องครับ "ตกลงที่ต่อต้านกันนี่เพียงเพราะมันไปขัดข้อความที่ระบุในพระคัมภีร์ใช่ไหมครับ" Ans. ไม่ใช่ครับ ที่ต่อต้านเป็นเพราะว่า หลายๆ คนรวมทั้งนักวิทยาศาสตร์อีกบางคน กล่าวเกินจริงเกี่ยวกับทฤษฎีวิวัฒนาการ ทำให้ดูเหมือนว่าวิทยาศาสตร์ไปสรุปว่าไม่มีพระเจ้า  แถมในบางครั้งคนเหล่านี้ก็พูดอ้างเกี่ยวกับทฤษฎีวิวัฒนาการโดยที่ไม่ตรงกับหลักฐานข้อเท็จจริงด้วยซ้ำไปครับ จากคุณ : PureTruth - [ 17 มี.ค. 52 13:06:49 ]

ความคิดเห็นที่ 68 คุณ silverspider อาจเรียกว่าไม่กระทบก็ได้ครับ เพราะถ้าพระเจ้าเป็นจริง ใครจะโจมตีอย่างไร ความจริงก็ยังเป็นความจริง ไม่เปลี่ยนแปลง แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นก็คือ คนที่ยังไม่รู้จักพระเจ้า จำนวนไม่น้อยในสังคม (อาจหมายถึงคุณ silverspider เองด้วย) ซึ่งอยู่ในสภาพที่ต้องการคำตอบของชีวิต ซึ่งพระเจ้าเท่านั้นที่ให้ได้ แต่ทฤษฎีวิวัฒนาการให้เขาไม่ได้ กลับพลาดโอกาสเนื่องจากความเข้าใจผิดที่เกิดขึ้น จากการใช้ทฤษฎีวิวัฒนาการเป็นเครื่องมือโจมตีเรื่องของพระเจ้า หากจะมองไปว่า ผู้เชื่อต่อสู้เพื่อความอยู่รอดของสถาบันศาสนา ผมคิดว่าไม่ใช่ครับ หากพระเจ้ามีจริง ต่อให้ทั้งโลกไม่มีใครเชื่อในพระองค์ ก็ทำให้ไม่มีพระเจ้าไม่ได้ หากพระเจ้าไม่มีจริง ต่อให้ทั้งโลกพร้อมใจกันเชื่อ ก็ทำให้มีพระเจ้าจริงๆไม่ได้ จากคุณ : ksk - [ 17 มี.ค. 52 13:28:30 ]

ความคิดเห็นที่ 69 อยากเห็นพระเจ้าเป็นตัวๆ อ่า จากคุณ : ผมหล่อมาก - [ 17 มี.ค. 52 18:02:50 A:114.128.249.223 X: TicketID:203774 ]

ความคิดเห็นที่ 70 #68 ผมโจมตีข้อความไว้ในคัมภีร์เท่านั้นแหละครับ ทฤษฎีวิวัฒนาการขัดกับข้อความที่ระบุไว้ในคัมภีร์แต่มันไม่ได้ขัดกับจุดมุ่งหมายที่คัมภีร์ต้องการสอนอะไร จากคุณ : silverspider - [ 17 มี.ค. 52 18:27:10 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ^ ^ ทฤษฎีวิวัฒนาการขัดกับข้อความที่ระบุไว้ในคัมภีร์อย่างไรครับ ? จากคุณ : PureTruth - [ 17 มี.ค. 52 19:57:50 ]

ความคิดเห็นที่ 72 #71 นกเกิดก่อนสัตว์เลื้อยคลานหรือครับ พืชมีเมล็ดเกิดก่อนสัตว์ทุกชนิดเลยรึครับ สัตว์เลี้ยงเกิดก่อนมนุษย์หรือครับ จากคุณ : silverspider - [ 17 มี.ค. 52 20:31:05 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ^ ^ "สัตว์เลี้ยง" ???  ผมว่าพระคัมภีร์ไม่ได้เขียนอย่างนั้นนะครับ   เลิกใส่ความพระคัมภีร์ได้แล้วล่ะครับ จากคุณ : PureTruth - [ 17 มี.ค. 52 22:08:48 ]

ความคิดเห็นที่ 74 #73 ไม่ทราบสิครับ ไปเคลียร์กับคนแปลเอาเองนะครับ ผมไม่ได้ใส่ความอย่ามากล่าวหาลอย ๆ หรือว่าจะเปลี่ยนจากสัตว์เลี้ยงเป็นสัตว์ใช้งานดีครับ http://www.thaicatholicbible.com/genesis/genesis_1.htm จากคุณ : silverspider - [ 17 มี.ค. 52 22:47:05 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ^ ^ โอเคครับ เข้าใจแล้วครับว่าคุณไม่ได้กล่าวหาลอยๆ   อันนั้นเป็นฉบับของคาทอลิก ส่วนพระคัมภีร์ฉบับโปรเตสแตนท์ใช้คำว่า สัตว์ใช้งาน หมายถึงพวกม้า วัว ควาย ฯลฯ  ครับ แก้ไขเมื่อ 18 มี.ค. 52 00:12:08 จากคุณ : PureTruth - [ 18 มี.ค. 52 00:10:41 ]

ความคิดเห็นที่ 76 คุณ silverspider เขาชอบจับผิดพวกคำแบบนี้แหละครับคุณ PureTruth คำอธิบายเป็นอย่างนี้นะครับ ในขณะที่บันทึกเรื่องราวนั้น เป็นยุคสมัยของโมเสส ซึ่งมนุษย์มีภาษาแล้ว มีวัฒนธรรมแล้ว มีการเรียกสิ่งต่างๆเป็นหมวดหมู่แล้ว ดังนั้นสัตว์ใช้งาน หรือสัตว์เลี้ยงซึ่งเรียกกันในสมัยของโมเสส ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกครับ เมื่อพูดถึงสัตว์พวกนั้น อาจเป็นจำพวก วัว ม้า ลา หรือสัตว์อื่นๆที่ใกล้เคียง ซึ่งในสมัยโมเสส ถูกนำมาฝึกเพื่อใช้งานแล้ว ก็อาจเรียกรวมๆไปว่า "สัตว์เลี้ยง" หรือ "สัตว์ใช้งาน" แต่ไม่ได้หมายความไปในทิศทางที่คุณ silverspider กำลังชักนำไปให้เข้าใจผิดว่า "จะเป็นสัตว์เลี้ยงได้ไง ในเมื่อคนที่เลี้ยงสัตว์พวกนั้น หรือใช้งานสัตว์พวกนั้น ยังไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเลย" เรื่องอื่นๆก่อนหน้านี้ ก็เป็นไปทำนองนี้ครับ คุณ silverspider ค่อนข้างจะมีทักษะดีในการจับผิดเรื่องภาษา แต่ก็เป็นเรื่องที่อธิบายได้ครับ จากคุณ : ksk - [ 18 มี.ค. 52 10:39:31 ]

ความคิดเห็นที่ 77 #76 ถ้าเรื่องความหมายทางธรรมผมก็ไม่ยุ่งนี่ หรือพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ ผมก็ไม่ได้ยุ่งอีก ผมจะจับผิดเรื่องภาษาก็เฉพาะคนที่ยึดข้อความตามตัวอักษรเท่านั้นแหละ ถ้าหากพระเจ้าสร้างสิ่งมีชีวิตไม่ได้เป็นตามที่ระบุข้อความในปฐมกาล ความหมายทางธรรมเรื่องพระเจ้าสร้างจะเปลี่ยนไปไหมครับ จากคุณ : silverspider - [ 18 มี.ค. 52 14:24:28 ]

ความคิดเห็นที่ 78 บางเรื่องก็มีส่วนเกี่ยวพันครับ เช่นมนุษย์ พระคัมภีร์ไม่ได้ระบุว่าเป็นสัตว์ชนิดหนึ่ง แต่เป็นการสร้างด้วยวัตถุประสงค์เฉพาะ ส่วนเรื่องนกมีอยู่ก่อนสัตว์เลื้อยคลานนั้น แม้ปัจจุบันหลักฐานฟอสซิลยังไม่ปรากฏตามนั้น แต่ยังรอได้ไม่ใช่เหรอครับ ยังมีฟอสซิลให้ขุดอีกเยอะเลย จากคุณ : ksk - [ 18 มี.ค. 52 15:32:47 ]